The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

3.การหารูปแบบ และการคิดเชิงนามธรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Artid Kridsana, 2019-12-12 22:58:39

3.การหารูปแบบ และการคิดเชิงนามธรรม

3.การหารูปแบบ และการคิดเชิงนามธรรม

การหารปู แบบ และการคิดเชิง
นามธรรม

(abstraction)

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยี

เกม “การด์ ดอกไม”้

พืชใบเลีย้ งเด่ียว พืชใบเลีย้ งคู่

เส้นใบ เส้นใบ
เรยี งแบบ แบบ
ขนาน ร่างแห

. กลีบดอก . กลีบดอก
มีจานวน มีจานวน
3X (4-5)X

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ให้นักเรียนพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรปู เป็น
“พืชใบเลี้ยงเด่ียว” หรือ “พืชใบเลี้ยงค่”ู

ดอกกลว้ ยไม้

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ให้นักเรียนพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรปู เป็น
“พืชใบเลี้ยงเดี่ยว” หรือ “พืชใบเลี้ยงค่”ู

ดอกหนา้ แมว

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ให้นักเรียนพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรปู เป็น
“พืชใบเลี้ยงเด่ียว” หรือ “พืชใบเลี้ยงค่”ู

ดอกจาปี

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ให้นักเรียนพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรปู เป็น
“พืชใบเลี้ยงเดี่ยว” หรือ “พืชใบเลีย้ งค่”ู

ดอกปทมุ มา

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ให้นักเรียนพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรปู เป็น
“พืชใบเลีย้ งเด่ียว” หรือ “พืชใบเลีย้ งค่”ู

ดอกฟอรเ์ก็ตมนี ็อต

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ให้นักเรียนพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรปู เป็น
“พืชใบเลี้ยงเดี่ยว” หรือ “พืชใบเลี้ยงค่”ู

ขา้ ว

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ให้นักเรียนพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรปู เป็น
“พืชใบเลี้ยงเด่ียว” หรือ “พืชใบเลี้ยงค่”ู

ทานตะวนั

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ให้นักเรียนพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรปู เป็น
“พืชใบเลีย้ งเด่ียว” หรือ “พืชใบเลีย้ งค่”ู

ธรรมรกั ษา

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ให้นักเรียนพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรปู เป็น
“พืชใบเลี้ยงเด่ียว” หรือ “พืชใบเลี้ยงค่”ู

ขา้ วโพด

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ให้นักเรียนพิจารณารปู ว่าพืชดอกในรปู เป็น
“พืชใบเลีย้ งเดี่ยว” หรือ “พืชใบเลี้ยงค่”ู

บวั

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

การหารปู แบบ (pattern recognition)

การหารูปแบบเป็ นทักษะการหาความสัมพนั ธ์ท่ีเก่ียวข้อง และ
ลักษณะทัว่ ไปของส่ิ งต่ าง ๆ จากนั้นอาจใช้ ทักษะการแยก
ส่วนประกอบทาให้ได้องคป์ ระกอบภายในอื่นๆ แล้ว จึงใช้ทกั ษะการหา
รปู แบบเพือ่ สร้างความเขา้ ใจระหว่างองคป์ ระกอบเหล่านัน้

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

การหารปู แบบ (pattern recognition)

เมื่อเราย่อยปัญหาออกเป็นส่วนเล็กๆ ขั้นตอนต่อไปคือการหารูปแบบหรือ
ลักษณะที่เหมือนกันของปัญหาเล็กๆ ท่ีถูกย่อยออกมา เช่น การวาดรูปแมว
แมวท้ังหลายย่อมมีลักษณะบางอย่างที่เหมือนกัน พวกมันมีตา หาง ขน และ
ชอบกินปลา และร้องเหมียวๆ ลกั ษณะท่ีมีร่วมกนั นี้ เราเรียกว่ารูปแบบ เม่ือเรา
สามารถอธิบายแมวตัวหนึ่งได้ เราจะอธิบายลักษณะของแมวตัวอื่นๆ ได้ ตาม
รูปแบบทีเ่ หมอื นกนั นน่ั เอง

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

การหารปู แบบ (pattern recognition)

การหารูปแบบอีกประเภทหน่ึงเป็ นการหารูปแบบท่ีเหมือนและ
แตกต่างกนั ระหว่างสิ่งของต่างๆ ที่สนใจหลายชิ้นการพิจารณารปู แบบ
นี้จะช่วยระบุองค์ประกอบสาคัญร่วมกนั ของสิ่งเหล่านัน้ ได้ ซ่ึงเป็ น
พืน้ ฐานในการสร้างความเขา้ ใจเชิงนามประธรรมต่อไป

นักเรียนจะเหน็ เมาสท์ ี่มีรปู ลกั ษณ์ภายนอกที่แตกต่างกนั แต่สงั เกต
ว่ารปู แบบการทางานนัน้ เหมอื นกนั

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

กิจกรรมท่ี 1.5 เหมือนหรอื ต่าง

พิจารณาสิ่งของแล้วระบุ
รปู แบบที่เหมอื นหรอื

แตกต่างกนั

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

กิจกรรมท่ี 1.5 เหมือนหรือต่าง

1.สงิ่ ของทมี่ รี ปู แบบทเี่ หมอื นกนั ...........................................
เหตผุ ล..........................................................

2.สงิ่ ของทมี่ รี ปู แบบทเี่ หมอื นกนั ...........................................
เหตผุ ล..........................................................

3.สงิ่ ของทมี่ รี ปู แบบทเี่ หมอื นกนั ...........................................
เหตผุ ล..........................................................

4.สงิ่ ของทมี่ รี ปู แบบทเี่ หมอื นกนั ...........................................
เหตผุ ล..........................................................

5.สงิ่ ของทมี่ รี ปู แบบทเี่ หมอื นกนั ...........................................
เหตผุ ล..........................................................

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

กิจกรรมที่ 1.5.1 ปัญหาท่ีมีรปู แบบเหมือนกนั

นักเรยี นตอ้ งการทงิ้ ขยะจานวน 30 ถงุ ใหอ้ ธบิ ายวธิ กี ารแกป้ ัญหาการนาขยะไปทงิ้ และ
ระบวุ า่ ในวธิ กี ารแกป้ ัญหานั้น มปี ัญหายอ่ ยทมี่ รี ปู แบบเหมอื นหรอื แตกต่างกนั อยา่ งไร

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

กิจกรรมที่ 1.5.1 ปัญหาที่มีรปู แบบเหมอื นกนั

วธิ กี ารกปัญหา .................................................................
..............................................................................................................................
..............................................................................................

ในปัญหายอ่ ยมรี ปู แบบเหมอื นหรอื แตกตา่ งกนั อย่างไร............
..............................................................................................................................
..............................................................................................

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

การคิดเชิงนามธรรม (Abstraction)

การคิดเชิงนามธรรม คือ กระบวนการคดั แยกคุณลกั ษณะที่
สาคญั ออกจากรายละเอียดในปัญหาหรืองานที่กาลงั พิจารณา
เพ่ือให้ได้องค์ประกอบที่จาเป็ นเพียงพอ และกระชบั ที่สุดในการ
พิจารณาภายใต้สถานการณ์ที่สนใจ

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

แผ นภ าพ มี ข้ อมูล เพี ยง พอ ใน ก าร ใช้ วิ เ คร า ะห์ กา รท าง า น
ของวงจรไฟฟ้า และตัดรายละเอียดท่ีไม่จาเป็ นในการพิจารณาออก
ทงั้ หมด เรียกแผนภาพต่าง ๆ ที่เป็ นผลลพั ธข์ องการคิดเชิงนามธรรม
ว่า แบบจาลอง (model)

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

การทาความเข้าใจกบั กิจกรรมต่าง ๆจาเป็ นต้องจินตนาการแบบจาลอง
เหล่านี้ไว้ในใจด้วยเช่นกนั ตวั อย่างเช่น ในการเล่นเกม Pacman หรือเกมAngry
Bird

ในเกมทงั้ สอง ผ้เู ล่นต้องเข้าใจว่าการเลือกสงั่ งานตวั ละครใดจะให้ผลลพั ธ์
แบบใดบา้ ง แมว้ า่ ผเู้ ล่นจะไมไ่ ด้คาดการณ์ผลลพั ธไ์ ด้ตรงทกุ ครงั้ ผลลพั ธจ์ ริงที่ได้
จากการเล่นเกม มกั จะแตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้ไม่มาก เน่ืองจากแบบจาลอง
ของเหตการณ์ในเกม

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

ผเู้ รียน ทาใบกิจกรรมที่ 1.7
ในหนังสือเรียน

เร่อื ง “สรา้ งแบบจาลอง”

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ

กิจกรรมท่ี 3.2 สร้างแบบจาลอง

ประตไู ปไหนกไ็ ด้

การตดั ปะใน
ระบบ

คอมพิวเตอร์

สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละ


Click to View FlipBook Version