เปรียบสัตว์เป็นคำด่า_ปิยวรา

บ สAั ตn i m ว์ เ ป็ น

เ ป รี ย al



"คำด่า"

Animal A

คำนำ

หนังสือ e-book เปรียบสัตว์เป็น"คำด่า" จัดทำขึ้นเพื่อ
ประกอบการเรียนในรายวิชา ว20282 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
โดยหนังสือได้มุ่งเน้นการให้ความรู้และเหตุผลเรื่องคำด่าที่
พบเจอในชีวิตประจำวัน เพื่อให้กระจ่างในการใช้คำด่าและ
ที่มาของคำด่า เพื่อส่งเสริมหลักการใช้คำพู ดที่ถูกต้องและ
สุภาพ ด้วยการใช้เทคโนโลยีการจัดทำเป็นหนังสือ e-book
ในการสื่อสาร เพื่อให้ผู้อ่านเข้าถึงได้อย่างง่าย

ทางผู้จัดทำหวังอย่างยิ่งว่าหนังสือ e-book เล่มนี้จะ
เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านและเป็นไปตามหลักการและบรรลุ
จุดมุ่งหมายของผู้จัดทำ หากมีข้อผิดพลาดประการใดทาง
ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ปิยวรา วงศโต
ผู้เรียบเรียง

น

"เหี้ย"
คำนี้ได้ยินบ่อยมาก ในชีวิตประจำ
วันและอาจเป็นคำติดปากของใคร
หลายๆคน ทั้งในลักษณะของการด่า
บ่น หรือสบถ ใช้ในสถานการณ์หรือ
เหตุการณ์ที่เกิดสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น ใช้ด่าใน
สิ่งที่ไม่ดี

ทำไมต้องด่าว่า"เหี้ย"

สันนิษฐานกันว่าคนไทย ไม่ชอบ เหี้ย มาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากพฤติกรรมที่ชอบลัก
ขโมยและกินของเน่าเหม็นจึงถูกมองสัตว์ “อัปมงคล” เมื่อรวมกับรูปร่างลักษณะที่ค่อน
ข้างไม่เข้าตา หรือ น่ารังเกียจในสายตาคนส่วนใหญ่ จึงกลายมาเป็นคำด่ายอดนิยมจาก
อดีตถึงปัจจุบัน

คุณแลนดอน คุณตุ๊ดตู่ เป็น"เหี้ย"อะไร
คุณเห่าช้าง คุณตัวเงินตัวทอง
เชื่อว่า คำถามนี้ใครหลายๆคนคงจะโดน
ถามมาแล้ว ในความจริงเหี้ยไม่ได้มีเพียง
แค่สายพันธุ์เดียว เหี้ยมีสายพันธุ์
มากกว่า 70 สายพันธุ์ แต่ที่พบบ่อยอยู่
ในไทยมี 6 สายพันธุ์

คุณตะกวด คุณมังกรดำ

"ควาย"

ควายคือชื่อสัตว์
เคี้ยวเอื้องชนิด
หนึ่ง แต่ในภาษา

พู ดในปัจจุบัน
อาจจะมีความหมาย

ว่า คนเซ่อ คนไม่
ฉลาดหรือคนมีตัว
ใหญ่หรือมีกำลังแต่

ไม่ฉลาดและเป็น
สัญลักษณ์

ของ"ความโง่"

ทำไม"โง่"แล้วต้องเหมือน"ควาย"

สำวนโง่เหมือนควาย น่าจะเพราะควาย
ยอมที่จะทำตามโดยไม่มีปากมีเสียง ยอม

ละทิ้งความคิดความต้องการของตนมา
ทำตามคำสั่งโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งจริง ๆ
แล้วควายไม่ได้โง่ แล้วยังฉลาดมากอีก
ด้วย เพียงแต่มันกตัญญู ซื่อสัตย์ และ
มอบความไว้วางใจให้มนุษย์มากเกินไป

ซึ่งคนกลับมองว่ามัน"โง่"

"แรด"

คำนี้มักได้ยินใช้ด่าว่าผู้หญิงซะส่วน
ใหญ่ โดยฉะเพาะผู้หญิงทำตัวไม่

เหมาะสม ไม่เป็นกุลสตรี หรืออาจจะ
เป็นการตำหนิติเตียนผู้หญิงในเรื่อง
ต่างๆ เช่น ลักษณะการแต่งตัว แต่

ยุคสมัย LGBT ยุคเปิดกว้างทาง
เพศและความหลากหลายทางเพศ
คำว่าแรดจึงไม่ได้จำกัดจำเพาะที่จะใช้

กับผู้หญิงเท่านั้น เพศใดที่มี
พฤติกรรมแย่งคนรัก ก็สามารถถูก

บัญญัติว่า “แรด” ได้เช่นกัน

ทำไมต้องเปรียบ

พฤติกรรม"คน"กับ "แรด"

เพราะพฤติกรรมของแรดใน
ฤดูผสมพันธุ์นั้น แรดตัวเมีย
จะต้องต่อสู้กันเพื่อแย่งแรด
ตัวผู้เพื่อสืบพันธุ์ แรดตัว
เมียที่ชนะการต่อสู้ก็จะได้
แรดตัวผู้ตัวนั้นไป แต่ถ้า
ตัวผู้บ่ายเบี่ยงไม่สนใจที่จะ
ร่วมกิจกรรมด้วย แรดตัวผู้
ตัวนั้นจะถึงเวลาชะตาขาด
เพราะแรดตัวเมียจะขวิดแรด
ตัวผู้ที่ไม่ยอมร่วมกิจกรรม
ด้วย จนกว่าจะตาย

"แมงกระพรุน"

คำว่า"แมงกระพรุน"ฟังดู
แล้วมันก็อาจจะดูน่ารักตะมุ
ตะมิ แต่จริงๆแล้วมีความ
หมายแฝงที่ค่อนข้างเจ็บ
แสบเลยทีเดียว คำนี้เป็น
มุกทางชีวะที่เปรียบว่า
แมงกระพรุนเป็นสัตว์ไม่มี
สมอง ไม่มีหัวใจ ดูใสใส
แต่จริงๆแล้วพิษแรงมาก
จึงจะถูกนำมาพู ดกันใน
ความหมายของคำว่า โง่
หรือ แรดนั่นเอง

เรื่องควรรู้

ปฐมพยาบาลเบื้ องต้นเมื่ อโดนพิษแมงกะพรุน

• นำผู้บาดเจ็บขึ้นจากน้ำไปยังบริเวณที่ปลอดภัย
ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ เพื่อลดการยิงพิษจาก
แมงกะพรุน ห้ามขัดถูบริเวณที่ถูกแมงกะพรุน
• ล้างบริเวณที่ถูกพิษด้วยน้ำส้มสายชูบ้าน ความ
เข้มข้น 2-10 % นานอย่างน้อย 30 วินาที หาก
ไม่มีให้ใช้น้ำทะเล
• ใช้ถุงมือหนา หรือแหนบคีบหนวดที่ยังติดอยู่
ห้ามใช้มือหยิบจากนั้นให้ใช้วัสดุขอบเรียบ เช่น
เปลือกหอย บัตร ขูดเอาเมือกที่เหลืออยู่ออก
• นำส่งโรงพยาบาล

"ปลาทอง"

คำว่า"ปลาทอง" มักจะถูกใช้เปรียบกับ
คนที่มีอาการความจำสั้นอย่างคำว่า
สมองปลาทอง ด้วยความเชื่อที่บอกว่า
ปลาทองนั้นมีความทรงจำสุดแสนจะสั้น
จำอะไรได้ไม่เกิน 3 วินาที จำไม่ได้
แม้แต่ว่าตัวเองกินอาหารหรือยัง เลย
ต้องกินไปเรื่อยๆ

ความเชื่อ? เป็นเรื่องจริงหรอ

และแน่นอนว่าความเชื่อเหล่านั้นเป็นเรื่อง "ไม่จริง"

ปลาทองเป็นจำเลยสังคมเรื่อง
ความจำสั้นมาเนิ่นนาน

แต่ข้อเท็จจริงนั้น ปลาทองไม่ได้
ความจำสั้นแถมยังฉลาดกว่าที่เราคิด

คำแก้ต่างนี้เกิดขึ้นจากการทดลอง
ง่ายๆ ของเด็กชายอายุ 15 ปีจากรัฐ

Adelaide ประเทศออสเตรเลีย
โดยก่อนเขาจะให้อาหารปลาทองเขาจะใส่

ตัวต่อเลโก้สีแดงเข้าไปก่อนหนึ่งตัว
แล้วค่อยโรยอาหารไว้รอบๆ ในช่วงแรก
ปลาทองเกิดอาการหวาดกลัว แต่หลัง

ทำการทดลองประมาณ 2-3 สัปดาห์
ปลาทองก็จำได้ว่าถ้าตัวต่อสีแดงถูก
หย่อนลงมา แปลว่ามันกำลังจะได้กิน

หลังจากที่ปลาทองจำเลโก้สีแดงได้
สักพัก เขาก็หยุดการทดลอง 1 สัปดาห์

หลังจากเวลาผ่านไปเขากลับมาหย่อน
เลโก้ลงตู้อีกครั้ง และปลาทองจำได้!
การที่มันว่ายตรงไปทันทีหลังเห็นเลโก้

เป็นข้อพิ สูจน์ว่ามันมีความทรงจำ
มากกว่า 1 สัปดาห์อย่างแน่นอน

"ปลวก"

เป็นคำด่าแนวประชด
เปรียบเทียบคนหน้าตาไม่ดีว่า

หน้าเหมือนปลวก เช่น
หน้าปลวก และมักมีพฤติกรรมที่

ไม่หยุดนิ่ง ชอบแย่งซีนคนอื่น
ไปทั่ว หรืออาจจะเปรียบเทียบ
นิสัยที่ชอบกัดจิกคนอื่นไปทั่ว

เหมือนปลวกนั่นเอง

ในความจริงแล้ว

ปลวกเป็นสัตว์ที่"ขยัน" Eปลวก หมายถึง คนหน้าตาเหมือนปลวก
แล้วยังทำตัวเป็นปลวกคอยสร้างโน้นสร้าง
การสร้างรังอยู่ตลอดซึ่งเป็นพฤติกรรม
ของปลวกที่ถือได้ว่าเป็นสัตว์ที่ขยันมากๆ นี้ไม่หยุด หมายถึงพวกอยุ่ไม่นิ่ง ชอบ
ถามว่าขยันขนาดไหน?ก็ขนาดที่ว่าสร้าง สร้างซีนให้ตัวเองตลอด เหมือนปลวกที่
รังอันใหญ่โตจนคนบางกลุ่มต้องพากัน ชอบสร้างรังตลอดเวลา และอาจจะรวมไป
ไปกราบไหว้ แต่กลับโดนมาเปรียบเทียบ ถึงพวกชอบกัดคนอื่น ไม่ว่าอะไรกัดไปทั่ว
กันคนที่ขยันสร้างเรื่องอยู่ตลอดเวลา
เหมือนปลวกที่กัดข้าวของไปทั่ว
Eปลวก เป็นภาษาพื้นบ้าน มีไว้ใช้เรียก
บุคคลจำพวกปากพาเสีย นิยมเล็มแทะให้ผู้
อื่นเสียหายด้วยเนื้อความที่ไม่มีส่วนจริง

ดีแต่สร้างเรื่องมาเหน็บแนมคนอื่น

"คำด่า"ที่ถูกลดทอน

ให้เป็น"คำทั่วไป"

ทุกวันนี้ เราจะเห็นได้ว่าคำหยาบที่เคยสร้างความ
เจ็บแสบ ได้กลายเป็นคำทั่วไปในชีวิตประจำวัน อาจ

จะด้วยเราลดทอนพลังของคำเหล่านั้นด้วยการนำ
ไปใช้ในบริบทอื่นๆ นอกจากการด่าหรือทำร้ายจิตใจ

“อีสัตว์ อีดอก อีเหี้ย”
เรามักจะเจอในกลุ่มเพื่อน เพราะบางครั้งเราก็ใช้

คำหยาบเพื่อเข้าสังคม ทำลายกำแพง
ความสัมพันธ์ และลดความอึดอัดกับคนรอบตัว

เพราะคงจะมีแต่คนที่สนิทใจด้วยจริงๆ
ที่เรากล้าพู ดแบบนั้น ทำให้สมัยนี้คำหยาบที่เคยใช้
ด่ากัน กลายเป็นแค่สรรพนามเรียกแทนคนคนหนึ่ง

ที่แสดงถึงความสนิทสนมและไว้เนื้อเชื่อใจไม่ได้
หมายถึงพฤติกรรมก้าวร้าวเพี ยงอย่างเดียว

ในบางครั้งเรายังใช้เป็น คำสร้อย คำอุทาน หรือคำ
ขยายความเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เช่นเวลาเจออะไร
น่ารักๆ การพู ดว่า “น่ารักสัสๆ” อาจจะทำให้สิ่งนั้นดู
น่ารักกว่า “น่ารักมากๆ” หรือเวลาเจออะไรตลกๆ
การพู ดว่า “อีดอกกกก ตลก” ก็อาจจะแสดงให้เห็นว่า
เรารู้สึกตลกกับสิ่งนั้น มากกว่าการพู ดว่า
“ตลกจัง ตลกมากๆ”

แม้จะเต็มไปด้วยคำหยาบ แต่ในประโยคดังกล่าว
กลับไม่มีใครถูกด่าหรือถูกทำร้ายจิตใจ จะมีก็แต่

การเพิ่ มระดับให้กับคำคุณศัพท์นั้นๆ
อย่างไรก็ตาม เลเวลการใช้คำหยาบก็คงขึ้นอยู่
กับระดับความสนิทของแต่ละคน ใช่ว่าจะนำไป
พู ดกับใครก็ได้ แต่การนำมาใช้กับเรื่องทั่วไปเช่น
นี้ ก็เหมือนกับเรากำลังสร้างวัคซีนให้กับตัวเอง
เพื่ อช่วยให้จิตใจต้านทานกับคำหยาบได้มากขึ้น
จึงเกิดเป็นคำถามต่อมาว่า แล้วคำแบบไหนล่ะ

ที่จะทำให้เราหน้าสั่นไปทั้งวัน?

ผู้เรียบเรียง

ชื่อ : เด็กหญิงปิยวรา วงศโต
ชื่อเล่น : มิ้นท์
อายุ : 14 ปี
วันเกิด : 15/05/50
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 11
เลขประจำตัวนักเรียน 25472
โรงเรียนห้วยยอด จังหวัดตรัง

ME