The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pimchanut22, 2021-08-14 04:34:53

อารยธรรมจีน

อารยธรรมจีน

อารยธรรมจีน
อารยธรรมลุ่มแมน่ าํ ฮวงโห

นางสาว พมิ พช์ นฏั อนุธนาปาลี ม.6/6 เลขที 9

01 อารยธรรมจีนสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์

สารบญั 02 อารยธรรมจีนสมยั ประวตั ิศาสตร์

สมัยราชวงศต์ า่ ง ๆ
ยคุ สาธารณรฐั และยุคคอมมวิ นิสต์

03 ศิลปะวฒั นธรรมของจนี

สมัยก่อน
ประวตั ิศาสตร์

พบโครงกระดกู มนษุ ย์โบราณ
วฒั นธรรมแรก คือ วฒั นธรรมหยางเซ่า อย่ทู างตอนเหนือของจนี
มกี ารเพาะปลูก ทําเครอื งมอื จับปลา เครอื งปนดนิ เผาแบบลายเขยี นสี

กระดูกศรี ษะมนษุ ย์ปกกิง เครอื งปนดนิ เผาลายเขยี นสี
พบทีถําโจวโขว่ เตยี น ใกล้กรุงปกกงิ วัฒนธรรมหยางเซา่

ภาชนะสามขาและภาชนะสํารดิ วัฒนธรรมหลงซาน

ในยคุ โลหะ-สํารดิ มีวฒั นธรรมหลงซาน อยู่เปนชมุ ชนใหญ่ มีถนน มีการ
จัดระเบยี บการปกครอง การทาํ เครอื งปนดนิ เผาแบบรมดาํ นําหยกมาเปน
เครอื งมือเครอื งใช้

สมัย
ประวตั ิศาสตร์

ราชวงศ์ชาง

มีการประดิษฐ์ตัวอักษรแบบรูปภาพบนกระดกู สัตวแ์ ละบนกระดองเต่า
มีการทาํ เครอื งใช้ตา่ งๆ ด้วยสาํ รดิ
นบั ถือเทพเจ้าแหง่ การเพาะปลูก เรยี กวา่ ชางตี ทาํ ปฏิทินบอกฤดกู าล
ต่างๆ ซึงมีความสาํ คญั ต่อการเพาะปลูก

ตัวอักษรบนกระดองเต่า ภาชนะสาํ รดิ ในสมยั
ราชวงศช์ าง

ราชวงศ์โจว

เล่าจือ ผ้ใู ห้กาํ เนิดลัทธเิ ตา๋ ขงจือ ผู้ให้กาํ เนดิ ลัทธิขงจือ

เปนราชวงศท์ ีปกครองจีนนานทสี ดุ ในประวตั ศิ าสตรร์ าชวงศ์ของจีน
มคี วามเชอื วา่ กษัตรยิ ค์ ือโอรสแหง่ สวรรค์
มคี วามรุง่ เรอื งทางปรชั ญา เกดิ ลทั ธิขงจอื ลทั ธิเต๋า
มีการประดิษฐ์เขม็ ทศิ การประดษิ ฐต์ ะเกียบเพอื ใชห้ ยิบอาหารซึงไดก้ ลายเปน
สญั ลักษณ์อยา่ งหนงึ ของจีน

ราชวงศ์ฉนิ

ปฐมจกั รพรรดิ คือ จินซีฮอ่ งเต้
สามารถรวมจีนใหเ้ ปนปกแผ่น และมอี าํ นาจเด็ดขาดในการปกครองมณฑลตา่ งๆ
โปรดใหส้ รา้ งถนน ขุดคลอง เพือเชือมโยงราชธานีกบั มณฑลตา่ งๆ
ทรงใหส้ รา้ งกําแพงเมอื งจีน โดยต่อเติมและเชือมโยงจากกาํ แพงทมี ีอยเู่ ดมิ
สญั ลกั ษณ์ของความยิงใหญอ่ ีกอยา่ งหนงึ คอื พระราชวงั ขนาดใหญ่ และสสุ านทีมี
ทรพั ย์สินและรูปปนขนาดเท่าตวั จรงิ ของนักรบและม้า

ราชวงศ์ฮัน

เปนสมัยทจี นี มีความเจรญิ รุง่ เรอื ง
เรมิ มกี ารสอบจอหงวน
พระพทุ ธศาสนาจากอนิ เดยี เรมิ เผยแผ่สจู่ ีน มีผล
ต่อความเจรญิ รุง่ เรอื งของอารยธรรมจีนมาก
มกี ารสาํ รวจเส้นทางสายไหมเพอื ใชต้ ดิ ต่อกับ
อนิ เดีย และยุโรป

ซือหมา่ เชียน ได้ปรบั ปรุงปฏิทนิ จนั ทรคติ และเขียนหนังสือ สอื จี
มกี ารประดิษฐก์ ระดาษ และเครอื งมอื วดั แผ่นดนิ ไหว
เมือสินสุดสมัยราชวงศ์ฮัน จนี เกดิ การแตกแยกภายใน หรอื สมัยสามก๊ก
แต่ในชว่ งเวลาดงั กลา่ ว พระพทุ ธศาสนามีความเจรญิ รุง่ เรอื งมาก

เครอื งมอื วัดแผ่นดนิ ไหว

ราชวงศ์ถงั

จีนกลบั มาเปนปกแผน่ อกี ครงั และนบั เปนยุคทองของจีน
มีเขตแดนกวา้ งใหญ่ อารยธรรมรุง่ เรอื งสงู สุด โดยเฉพาะ
ด้านบทกวี และจิตรกรรม
มีการเผยแผ่ศาสนามากมาย และพระถังซาํ จัง เดนิ ทางไป
ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาทอี ินเดีย ทาํ ให้เกดิ การแปลพระ
ไตรปฎกเปนภาษาจนี จํานวนมาก

ราชวงศ์ซ้อง

จนี ถูกชนเผา่ ทางเหนอื รุกรานจนตอ้ งยา้ ย
เมอื งหลวงลงมาทางใต้
มีการประดษิ ฐ์ดนิ ปน เพือใชใ้ นการทาํ ดอกไม้ไฟ
งานศลิ ปะทโี ดดเด่น ไดแ้ ก่ ภาพวาด และเครอื งกระเบอื ง

เครอื งกระเบอื งในสมยั
ราชวงศ์ซ้อง

ราชวงศ์หยวน

อาํ นาจและชอื เสยี งของจีนขยายออกไปอย่างกวา้ งขวาง
มอี าณาเขตไปจนถึงยุโรป
ชาวยโุ รปเดนิ ทางเข้าส่รู าชสาํ นกั จนี ทสี าํ คัญ คือ มารโ์ ค
โปโล ได้เขยี นบันทกึ เหตกุ ารณ์เกียวกับจีนในยุคนันไว้

กบุ ไลขา่ น

ราชวงศ์หมิง

ระยะแรกเมืองหลวงอย่ทู เี มืองหนานจงิ ต่อมาย้ายไปอย่ทู เี ปยจ์ งิ (ปกกงิ ในปจจบุ นั )
มกี ารส่งกองเรอื ขนาดใหญอ่ อกสาํ รวจทางทะเลไปจนถงึ แอฟรกิ าตะวนั ออก
เครอื งเคลือบสนี ําเงนิ -ขาว ลายคราม
สถาปตยกรรม สรา้ งพระราชวงั กรุงปกกิง หรอื “นครต้องห้าม”
มีการแตง่ วรรณกรรมสาํ คญั เชน่ สามกก๊ ไซอวิ

ราชวงศ์ชงิ

ในระยะแรกขยายอาํ นาจออกไปได้กวา้ งใหญ่ แต่ต่อมา
เสอื มอาํ นาจเพราะจกั รพรรดไิ ม่มีความสามารถ และ
เกิดการฉ้อราษฎรบ์ งั หลวงกนั มาก
มีการทําสงครามฝนระหวา่ งจนี กับอังกฤษ ซงึ จีนเปน
ฝายแพ้
การเขา้ มาของจักรวรรดินิยมตะวนั ตก เปนสาเหตหุ นึงที
ทําให้การปกครองแบบจกั รพรรดิสนิ สดุ ลง

ผ่อู ี จักรพรรดิจนี องคส์ ุดทา้ ย

จนี ยคุ สาธารณรฐั และยคุ คอมมวิ นสิ ต์

ปลายยคุ ราชวงศ์ชิง ดร.ซุนยตั เซน็ จัดตังสมาคมสันนิบาตเพอื ลม้ ลา้ ง
ราชวงศ์ชิง โดยประกาศลทั ธไิ ตรราษฎร์ ประกอบด้วย 1.หลกั เอกราช
2.หลักแหง่ อํานาจอธิปไตยของประชาชน 3.หลักความยุติธรรมในการ
ครองชีพ สว่ นนโยบายปฏวิ ัติ คือ โค่นลม้ ราชวงศแ์ มนจู และจดั ตงั
รฐั บาลประชาชน จัดตงั รฐั บาลตามระบอบสาธารณรฐั จดั สรรทดี นิ ให้
แกป่ ระชาชน และก่อตงั พรรคชาตนิ ิยม หรอื พรรคก๊กมินตงั ขึนในทีสุด
ตอ่ มา ซนุ ยัตเซ็นได้รว่ มมือกับ ยวน ซไี ข ทาํ การปฏิวัติล้มราชวงศช์ ิงได้
สําเรจ็ เปลียนการปกครองเขา้ ส่รู ะบอบสาธารณรฐั (จักรพรรดปิ ูยี เปน
กษัตรยิ อ์ งค์สดุ ท้ายของจนี ) มีการแย่งชงิ อาํ นาจของผ้นู าํ ทางทหาร
เรยี กว่า ยุคขนุ ศึก
ซุนยัตเซ็นได้เสนอให้ ยวน ซีไข เปนประธานาธิบดขี องสาธารณรฐั จีน

อนสุ าวรยี ว์ รี ชนปฏิวตั ิของจนี

เหมา เจอ๋ ตงุ ยวน ซีไข คดิ สถาปนาตนเองเปนจกั รพรรดิและรอื ฟนระบบศักดนิ า
ดร.ซุนยัตเซน็ ตังพรรคก๊กมินตัง
เมือ ยวน ซไี ข เสยี ชีวติ ลง ดร.ซนุ ยตั เซน็ เปนประธานาธบิ ดี แต่เปนได้ไมน่ านก็เสียชวี ิต
หลังจาก ดร. ซนุ ยัตเซน็ เสียชีวติ เจียงไคเช็ค ขนึ เปนผู้นาํ พรรคก๊กมนิ ตงั และผูน้ ําจนี
แต่รฐั บาลเจยี งไคเช็ค ประสบปญหาฉอ้ ราษฎรบ์ งั หลวง กดขีราษฎร
จีนเกิดการปฏวิ ตั ิอีกครงั โดยพรรคคอมมวิ นสิ ตจ์ นี ภายใตก้ ารนาํ ของ เหมา เจอ๋ ตงุ
รฐั บาลเจยี งไคเชค็ ตอ่ สูก้ ับพรรคคอมมิวนิสต์แต่แพ้
เหมา เจอ๋ ตุง สถาปนา “สาธารณรฐั ประชาชนจีน” ปกครองดว้ ยระบอบคอมมวิ นิสต์ มี
การจัดระเบยี บสงั คมใหม่ เรยี กวา่ การปฏวิ ัติทางวัฒนธรรม เพอื ต่อต้านจารตี ศักดินา
แบง่ ชนชัน
หลังจาก เหมา เจ๋อตงุ เสียชีวติ เตงิ เสียวผงิ ขึนเปนผู้นาํ จนี แทน ประกาศพัฒนา
ประเทศด้วย นโยบายสีทันสมัย คอื ด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การทหาร
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โดยอนญุ าตให้ต่างชาติเข้ามาลงทนุ ภายในประเทศ รวม
ทังผอ่ นปรนวถิ กี ารดําเนินชวี ิตของประชาชนให้คลายความเข้มงวดลง

ศลิ ปวฒั นธรรม
ของจนี

จิตรกรรม

มวี วิ ฒั นาการมาจากการเขียนตวั อกั ษรจนี จารกึ บน
กระดกู เสียงทายเพราะตัวอักษรจนี มลี ักษณะเหมอื น
รูปภาพ
งานจิตรกรรมจีนรุง่ เรอื งมากในสมยั ราชวงศฮ์ นั มีการ
เขยี นภาพและแกะสลักบนแผน่ หนิ ทีนิยมมากคอื การ
เขียนภาพบนผ้าไหม ภาพวาดเปนเรอื งเลา่ ในตาํ ราขงจอื
พระพุทธศาสนาและภาพธรรมชาติ
สมัยราชวงศ์ถงั มีการพัฒนาการใชพ้ ่กู นั สแี ละกระดาษ
ภาพส่วนใหญ่ไดร้ บั อทิ ธิพลจากพทุ ธศาสนาและลัทธเิ ต๋า
สมยั ราชวงศ์ซ้อง จติ รกรรมจดั วา่ เด่นมาก ภาพวาดมกั
เปนภาพมนุษยก์ ับธรรมชาติ ทิวทศั น์ ดอกไม้

ภาพวาดพระถงั ซําจงั

ส่วนใหญ่เปนเครอื งปนดินเผามอี ายเุ กา่ แก่ตังแตก่ ่อนประวตั ิศาสตร์ ประตมิ ากรรม
ทาํ จากดินสแี ดง มีลวดลาย แดง ดาํ และขาวเปนลวดลายเรขาคณติ
สมยั ราชวงศ์ชาง มีการแกะสลักงาชา้ ง หนิ อ่อน และหยกตามความ การแกะสลกั งาช้าง
เชือและความนยิ มของชาวจนี ทีเชอื วา่ หยก ทําให้เกิดความเปนสริ ิ
มงคล ความสุขสงบ ความรอบรู้ ความกลา้ หาญ ภาชนะสํารดิ เปน
หม้อสามขา
สมัยราชวงศ์ถัง มีการพฒั นาเครอื งเคลือบดนิ เผาเปนเคลอื บ 3 สีคอื
เหลือง นาํ เงนิ เขยี ว สว่ นสีเขยี วไข่กามีชอื เสยี งมากในสมัยราชวงศ์
ซ้อง สว่ นพระพุทธรูปนิยมสรา้ งในสมยั ราชวงศถ์ งั ทงั งานหลอ่ สาํ รดิ
และแกะสลกั จากหนิ ซงึ มสี ัดสว่ นงดงาม เปนการผสมผสานระหวา่ ง
ศลิ ปะอินเดียและจนี ทีมีลักษณะเปนมนุษย์มากกวา่ เทพเจ้า นอกจาก
นีมกี ารปนรูปพระโพธิสตั วก์ วนอมิ
สมัยราชวงศ์เหม็ง เครอื งเคลอื บได้พัฒนาจนกลายเปนสนิ คา้ ออก
คอื เครอื งลายครามและลายสีแดง ถึงราชวงศช์ งิ เครอื งเคลอื บจะ
นยิ มสสี นั สดใส เช่น เขยี ว แดง ชมพู

สถาปตยกรรม พระราชวงั ปกกงิ

กําแพงเมอื งจนี ถูกสรา้ งในสมยั ราชวงศ์จนิ เพือปองกนั
การรุกรานของมองโกล
เมอื งปกกงิ ถูกสรา้ งในสมัยราชวงศห์ งวน โดยกบุ ไลขา่ น
ซึงไดร้ บั การยกย่องด้านการวางผงั เมือง ส่วนพระราชวงั
ปกกิงถกู สรา้ งในสมัยราชวงศ์เหมง็
พระราชวงั ฤดรู อ้ นถกู สรา้ งในสมัยราชวงศ์เช็ง โดย
พระนางซสู ไี ทเฮา ซึงเปนสถาปตยกรรมทีผสมผสาน
ระหวา่ งยโุ รปและจีนโบราณ

วรรณกรรม

สามกก๊ สันนิษฐานวา่ เขยี นในครสิ ต์ศตวรรษที 14 เปนเรอื งราวของความแตกแยกในจนี
ตังแต่ปลายสมัยราชวงศจินจนถึงราชวงศฮ์ นั
ซ้องกัง เปนเรอื งประทว้ งสงั คม เรอื งราวความทุกข์ของผู้คนในมอื ชนชันผูป้ กครอง
สะท้อนความทุกขข์ องชาวจีนภายใตก้ ารปกครองของพวกมองโกล
ไซอวิ เปนเรอื งราวการเดินทางไปนําพระสตู รจากสวรรค์ทางตะวนั ตกมายงั ประเทศจนี
จินผิงเหมย หรอื ดอกบัวทอง แตง่ ขนึ ในราวครสิ ตศ์ ตวรรษที 16-17 เปนนิยายเกียวกับ
สังคมและชีวติ ครอบครวั เปนเรอื งของชีวติ ทรี าํ รวย มอี าํ นาจขนึ มาด้วยเล่หเ์ หลยี ม แต่
ด้วยการทาํ ชัวและผิดศีลธรรมในทีสุดต้องไดร้ บั กรรม


Click to View FlipBook Version