The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิจัยในชั้นเรียน-นางสาววราภรณ์-กันทะเลิศ-รหัสนิสิต-601031529

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Mint Waraporn, 2023-04-18 06:41:58

วิจัยในชั้นเรียน-นางสาววราภรณ์-กันทะเลิศ

วิจัยในชั้นเรียน-นางสาววราภรณ์-กันทะเลิศ-รหัสนิสิต-601031529

การพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานทางศิลปะ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการ วาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง วาราภรณ์ กันทะเลิศ สาขาวิชาศิลปศึกษา รหัสนิสิต 601031529 รายงานการวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีการศึกษา 2564


ก ชื่อวิจัย การพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานทางศิลปะ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคม อาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง ทำวิจัย นางสาววาราภรณ์ กันทะเลิศ อาจารย์ที่ปรึกษาวิจัย อาจารย์ ดร.ธนิยา เยาดำ ปริญญาและสาขาวิชา การศึกษาบัณฑิต (กศ.บ.) สาขาวิชาศิลปศึกษา ปีการศึกษา 2564 บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาและพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคม อาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาด การวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน เป็นการวิจัยละพัฒนาโดยมีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5/6 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง จำนวน 29 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบ ฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาดภาพระบายสีตัว การ์ตูน สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง เรื่องการใช้จินตนาการใน การสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน 1. แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง การสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาดภาพระบายสีตัว การ์ตูน สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด (80/80) สูงกว่าเกณฑ์ คือ 67.50/84.50 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนหลัง เรื่อง การสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาดภาพ ระบายสีตัวการ์ตูน โดยผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย (̅) เท่ากับ 13.41 และผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ย (̅) เท่ากับ 16.90 และค่า T-test เท่ากับ 22.62 คำสำคัญ : แบบฝึกเสริมทักษะ, การสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน


ข Title The development of artistic performance skills of Cartoons and ASEAN Society Creation by using a skill-enhancing exercise that focuses on using imagination in creating works by using techniques of drawing, drawing and coloring cartoon characters, mathayom 5 students Wichienmatu School. Student’s name Waraporn Kanthalerd Advisory Committee Thaniya Yao - DUM Education Bechelor of Education, program in Art Education Academic Year 2021 Abstract This research aims to 1) to study and develop an achievement of the students about Cartoons and ASEAN Society Creation by using a skill-enhancing exercise that focuses on using imagination in creating works by using techniques of drawing, drawing and coloring cartoon in learning from the students in matyom5 through skill enhancement assignments 2) to compare before and after students, learning achievement in Cartoons and ASEAN Society Creation by using a skill-enhancing exercise that focuses on using imagination in creating works by using techniques of drawing, drawing and coloring cartoon. It is a research and development with the sample used in the research were 29 students from matyom 5/6 at Wichienmatu School. Tools used in the research are 1) Skill enhancements exercises in creating works by using techniques of drawing, drawing and coloring cartoon for students in matyom5 2) Achievement of the students before and after learning in creating works by using techniques of drawing, drawing and coloring cartoon. 1. The result of this research found that the skill enhancement exercises on creating works by using techniques of drawing, drawing and coloring cartoon for the students in matyom5 was established performance on the specified criteria (80/80) and higher than the criterion is 67.05/84.50


ค 2. Furthermore, Academic achievements of learning before and after on using imagination in creating works by using techniques of drawing, drawing and coloring cartoon had the mean achievments before study (̅) was 13.41 and the result after study had the mean (̅) was 16.90 and the T-test was 22.62. Keywords : skill enhancement exercises, Creativity by using techniques of drawing, drawing and coloring cartoon characters.


ง กิตติกรรมประกาศ รายงานการวิจัยเชิงปฏิบัติในชั้นเรียนฉบับนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความอนุเคราะห์อย่าง ยิ่ง จาก อาจารย์ ดร.ธนิยา เยาดำ อาจารย์ที่ปรึกษาที่กรุณาให้คำปรึกษา ให้ความรู้และคำแนะนำข้อคิดเห็นที่ เป็นประโยชน์ ตลอดจนแก้ไขปรับปรุงงานวิจัยฉบับนี้จบสำเร็จลุล่วงด้วยดี ผู้วิจัยขอขอบพระคุณอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ ขอขอบพระคุณคณะผู้บริหาร คณะครูกลุ่มสามาระการเรียนรู้ศิลปะ โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง ที่กรุณาให้โอกาส กู้วิจัยในการเก็บข้อมูลเพื่อการวิจัย ตลอดจนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 โรงเรียนวิเชียร มาตุ จังหวัดตรัง ทุกคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายและให้ความร่วมมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ เป็นอย่างดี ขอขอบพระคุณมารดา ผู้ซึ่งค่อยเคี่ยวเข็ญ ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต ให้การสนับสนุน ทุนทรัพย์ ให้ความช่วยเหลือ เป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่แก่ผู้วิจัยตลอดมา ขอบคุณเพื่อน ๆ วิชาเอกศิลปศึกษาที่คอยให้กำลังใจ ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผู้วิจัยด้วยดีตลอดมา คุณค่าและประโยชน์ที่เกิดจากงานวิจัยในชั้นเรียนฉบับนี้ วิจัย ขอมอบเพื่อระลึกแด่บิดา มารดา และผู้ มีพระคุณทุกท่านที่มีส่วยให้ผู้วิจัยได้ประสบความสำเร็จ และสุดท้ายนี้ผู้วิจัยขอขอบพระคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุก ๆ ท่านทู้วิจัยมิได้กล่าวนามมา ณ ที่นี้ด้วย วราภรณ์ กันทะเลิศ


จ สารบัญ บทที่ หน้า บทคัดย่อ................................................................................................................................ ก Abstract................................................................................................................................ ข กิตติกรรมประกาศ.................................................................................................................. ง สารบัญ................................................................................................................................... จ 1 บทนำ ความเป็นมาของงานวิจัย............................................................................................... ......... 1 วัตถุประสงค์ของการวิจัย............................................................................................. ........... 3 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง........................................................................................... .......... 3 ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา................................................................................................ ......... 3 นิยามศัพท์เฉพาะ........................................................................................................... ........ 3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการศึกษา.............................................................................. 4 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเรียนทัศนศิลป์.............................................................................. 6 ชุดกิจกรรมการสอน...................................................................................................... ......... 10 3 วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง.................................................................................................... 12 ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา................................................................................................ ......... 12 ระเบียบวิธีวิจัย.............................................................................................................. ......... 12 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย................................................................................................ ......... 13 วิธีการดำเนินการ........................................................................................................... ......... 13 หลักการและแนวความคิดในการจัดกิจกรรม.......................................................................... 15 การประเมินผลและเก็บข้อมูล....................................................................................... .......... 15 การวิเคราะห์ข้อมูล........................................................................................................ ......... 15 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล............................................................................................... 15


ฉ สารบัญ(ต่อ) บทที่ หน้า 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล สัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล....................................................................................... 16 5 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลการวิจัย............................................................................................................. ........... 18 อภิปรายผล................................................................................................................... ........... 19 ข้อเสนอแนะ................................................................................................................. ........... 20 บรรณานุกรม 22 ภาคผนวก ประวัตย่อผู้วิจัย


ช สารบัญตาราง บทที่ หน้า 1 แบบประเมินเกณฑ์การให้คะแนน (Scoring Rubric) ทักษะการคิดสร้างสรรค์......................... 14 2 แสดงผลการทดลองหาประสิทธิภาพทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์ สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยใช้เทคนิคการวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน................................................................ 17 3 แสดงผลเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ (ด้านความทักษะ) ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5............................................................................................................................................. 17 4 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ด้านทักษะ คะแนนจากชิ้นงานก่อนเรียนและหลังเรียน การพัฒนาล สัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่ มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาดภาพระบายสีตัว การ์ตูน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง.................................................... 46


บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาของงานวิจัย หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะได้ระบุ คุณภาพผู้เรียนเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไว้ว่า “รู้และเข้าใจเกี่ยวกับทัศนธาตุและหลักการออกแบบในการ สื่อความหมาย สามารถใช้ศัพท์ทางทัศนศิลป์ อธิบายจุดระสงค์และเนื้อหาของงานทัศนศิลป์ มีทักษะและ เทคนิคในการใช้วัสดุ อุปกรณ์ และกระบวนการที่สูงขึ้นในการสร้างงานทัศนศิลป์ วิเคราะห์เนื้อหา และแนวคิด เทคนิควิธีการการแสดงออกของศิลปินทั้งไทยและสากล ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในการออกแบบ สร้างสรรค์งานที่เหมาะสมกับโอกาส สถานที่ รวมทั้งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพสังคมด้วยภาพล้อเลียน หรือการ์ตูน ตลอดจนประเมินและวิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ด้วยหลักทฤษฎีวิจารณ์ศิลปะ” และมาตรฐาน การเรียนรู้ที่ 1.1 ข้อที่ 11 ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ศ 1.1 ม.5/11) ได้ระบุให้ ผู้เรียน ”วาดภาพระบายสีเป็นภาพล้อเลียนหรือภาพการ์ตูนเพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพสังคมใน ปัจจุบัน” (กระทรวงศึกษาธิการ. 2552) “ภาพล้อ ภาพตลก บางทีก็เขียนเป็นภาพบุคคล บางทีเขียนเป็นภาพ แสดงเหตุการณ์ที่ผู้เขียนตั้งใจล้อเลียน จะให้ดูรู้สึกขบขัน บางทีก็เขียนติดต่อกันเป็นเรื่องยืดยาว” (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. 2525) กิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (ทัศนศิลป์) เป็นวิชาที่ประกอบไปด้วยภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ที่ช่วยพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ มีความคิดริเริ่ม มีจินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงาน ศิลปะ เห็นคุณค่า ชื่นชมในความงามของศิลปะ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของมนุษย์ กิจกรรมทางศิลปะช่วย พัฒนาผู้เรียนทั้งทางด้าน ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สติปัญญา และสังคม ตลอดจนการนำไปสู่การพัฒนาเพื่อให้ สอดคล้องต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความกล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตนเอง กล้าตัดสินใจด้วยตนเอง และสามารถนำไปบูรณาการกับการประกอบอาชีพได้ในอนาคต ในการทำวิจัยในครั้งนี้ผู้วิจัยได้ปฏิบัติการเรียนการสอนวิชาศิลปะ ในฐานะผู้สอนระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ยังขาดทักษะความรู้ความเข้าใจในเรื่องของ การวาดภาพการ์ตูน โดยสังเกตจากการที่นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานสีน้ำสร้างสรรค์ โดยเมื่อนักเรียนวาด การ์ตูนออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร นักเรียนก็จะไม่มีความกล้าที่จะลงสี การที่นักเรียนขาดทักษะการวาดภาพตัว การ์ตูนหรือการสื่อความรู้สึกทางสีหน้าของตัวการ์ตูน ทำให้ผลงานที่ออกมาไม่ค่อยมีความถูกต้อง ซึ่งปัญหานี้ ถือว่าเป็นปัญหาด้านทักษะขั้นพื้นฐานของนักเรียนในการวาดภาพการ์ตูน ถ้ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ก็ จะทำให้นักเรียนไม่สามารถพัฒนาทักษะอื่นๆ ได้เพราะจากปัญหาพฤติกรรมนี้มีผลทำให้นักเรียนได้คะแนน น้อย ทำให้ส่งผลกระทบถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน และยังส่งผลให้นักเรียนมีทักศนคติในทางลบ ต่อการเรียนวิชาศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ เป็นกระบวนการคิดของสมองซึ่งมีความสามารถในการคิดได้ใช้จินตนาการ สร้างสรรค์ได้อย่างหลากหลายและแปลกใหม่จากเดิม โดยสามารถนำทฤษฎีไปประยุกต์เข้ากับงาน


2 ประติมากรรมได้หรือหลักการได้อย่างรอบคอบและมีความถูกต้อง จนนำไปสู่การคิดค้นและสร้างสิ่งประดิษฐ์ ที่แปลกใหม่หรือรูปแบบความคิดใหม่ นอกจากลักษณะการคิดสร้างสรรค์ดังกล่าวนี้แล้ว ยังมีสามารถมอง ความคิดสร้างสรรค์ในหลายด้าน ซึ่งอาจจะมองในแง่กระบวนการคิดมากกว่าเนื้อหา โดยที่สามารถใช้ลักษณะ การคิดสร้างสรรค์ในมิติที่กว้างขึ้น เช่น การมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน การเรียน หรือกิจกรรมที่ต้อง อาศัยความคิดสร้างสรรค์ที่กล่าวนั้นต่างก็อยู่บนพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์ โดยที่บุคคลสามารถเชื่อมโยง นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี ซึ่งหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนด มาตรฐานตัวชี้วัดด้านความคิดสร้างสรรค์ไว้หลายประการ ประกอบไปด้วย 3 ประการ คือ 1. สิ่งใหม่ (new, original) เป็นการคิดที่แหวกวงล้อมความคิดที่มีอยู่เดิม ที่ไม่เคยมีใครคิดได้มา ก่อนไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร แม้กระทั่งความคิดเดิม ๆ ของตนเอง 2. ใช้การได้ (workable) เป็นความคิดที่เกิดจากการสร้างสรรค์ที่ลึกซึ้ง และสูงเกินกว่าการใช้ เพียง"จินตนาการเพ้อฝัน" คือ สามารถนำมาพัฒนาให้เป็นจริง และใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม และสามารถ ตอบสนองวัตถุประสงค์ ของการคิดได้เป็นอย่างดี 3. มีความเหมาะสม เป็นความคิดที่สะท้อนความมีเหตุมีผล ที่เหมาะสม และมีคุณค่า ภายใต้ มาตรฐานที่ยอมรับกันโดยการที่คนเราจะมีความคิดสร้างสรรค์ ได้ตามลักษณะที่กล่าวมานั้น ขึ้นอยู่กับ ศักยภาพการทำงานและการพัฒนาของสมอง ซึ่งสมองของคนเรามี 2 ซีก มีการทำงานที่แตกต่างกัน สมองซีก ข้าย ทำหน้าที่ในส่วนของการตัดสินใจ การใช้เหตุผล สมองซีกขวา ทำหน้าที่ในส่วนของการสร้างสรรค์ แม้ สมองจะทำงานต่างกัน ตามทฤษฎีการเรียนรู้ของไทเลอร์ (Tylor) ซึ่งประกอบด้วย 1) ความต่อเนื่อง (continuity) หมายถึง ในวิชาทักษะ ต้องเปิดโอกาสให้มีการฝึกทักษะในกิจกรรมและประสบการณ์บ่อย ๆ และต่อเนื่องกัน 2) การจัด ช่วงลำดับ (sequence) หมายถึง การจัดสิ่งที่มีความง่ายไปสู่สิ่งที่มีความยาก ดังนั้น การจัด กิจกรรมและ ประสบการณ์ จึงควรให้มีการเรียงลำดับก่อนหลัง เพื่อให้ได้เรียนเนื้อหาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และ 3) บูรณาการ (integration) หมายถึง การจัดประสบการณ์จึงควรเป็นในลักษณะที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เพิ่มพูนความ คิดเห็น และได้แสดงพฤติกรรมที่สอดคล้องกับ เนื้อหา ที่เรียนเป็นการเพิ่มความสามารถทั้งหมดของนักเรียนที่ จะได้ใช้ ประสบการณ์ได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ กัน ประสบการณ์การเรียนรู้จึงเป็นแบบแผน จากที่กล่าวมา ผู้วิจัยจึงมีความสนใจศึกษาและพัฒนาสร้างแบบฝึกเสริมทักษะมาใช้ในการเรียนวิชา ทัศนศิลป์ เพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานศิลปะความรู้ความเข้าใจ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคม อาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาด การ์ตูนของนักเรียนให้ดีมากขึ้น โดยนักเรียนสร้างสรรค์ผลงานการวาดภาพการ์ตูนและภาพล้อเลียน โดยใช้ แบบฝึกเสริมทักษะ การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้ จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูนมีความเหมาะสมสำหรับ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง


3 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานศิลปะ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบ ฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังเรียนโดย ใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้ จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัด ตรัง จังหวัดสงขลา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 6 ห้อง จำนวน 232 คน 1.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนมัธยมศึกษา ชาย – หญิง อายุระหว่าง 16-18 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของโรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัด ตรัง จำนวน 29 คน โดยจัดเป็น 1 กลุ่มทดลองได้จากการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive) ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา 1. ตัวแปรต้น คือ การจัดการเรียนรู้ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริม ทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน 2. ตัวแปรตาม คือ ทักษะการวาดภาพระบายสีการ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึก เสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน นิยามศัพท์เฉพาะ 1. การ์ตูน หมายถึง เป็นงานภาพล้อ ภาพตลก บางทีก็เขียนเป็นภาพบุคคล บางครั้งเขียนเป็นภาพ แสดงเหตุการณ์ที่ผู้เขียนตั้งใจล้อเลียน จะให้ดูรู้สึกขบขัน บางทีก็เขียนติดต่อกันเป็นเรื่องยืดยาว 2. แบบฝึกทักษะ หมายถึง แบบฝึกเสริมทักษะที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นโดยมีเนื้อหา เรื่องการ์ตูนและภาพ ล้อเลียนกับการสร้างสรรค์สังคม โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงาน จิตรกรรมด้วยการใช้สีน้ำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ประกอบด้วยบทเรียนเนื้อหาเรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์ สังคมอาเซียน จำนวน 5 เรื่อง แผนการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนการสอน เช่น ใบความรู้ ตัวอย่างผลงาน ศิลปะ เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนเข้าใจบทเรียนได้ดีและบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้


4 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความรู้ความสามารถในการเรียนรู้ของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับ การสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดย ใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน จากการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ซึ่งวัดจากแบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน ที่ผู้วิจัยเป็นผู้สร้างขึ้น ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการศึกษา 1. ได้ฝึกทักษะการปฏิบัติทางศิลปะ การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ที่มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน สามารถนำไปใช้ กิจกรรมการเรียนรู้ที่มีคุณถาพ เกิดการเรียนรู้รวดเร็ว คงทน เกิดความสะดวก ประหยัดเวลาและงบประมาณ 2. ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่จัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึก ทักษะ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการใน การสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูนสูงขึ้น 3. นักเรียนมีความสนใจในการเรียนวิชาศิลปะสูงขึ้น และมีเจตคติที่ดีต่อวิชาศิลปะ 4. เป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอนและบุคคลที่เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา ได้คิดสร้างสรรค์ และพัฒนาแบบฝึกทักษะเรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการ ใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน หรือเทคนิคต่าง ๆ ใน ระดับชั้นอื่น ๆ อันส่งผลให้เกิดการพัฒนาทางวิชาการต่อไป


บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริม ทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน และ ความพึงพอใจในการเรียนรู้ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ โรงเรียนวิเชียรมาตุ ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจัยที่ เกี่ยวข้องโดยนำเสนอผลการศึกษาตามลำดับดังนี้ 1. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเรียนทัศนศิลป์ 1.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะเป็นกลุ่มสาระที่ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มี จินตนาการ ทางศิลปะ ชื่นชมความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์ กิจกรรมทางศิลปะช่วย พัฒนาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม ตลอดจน การนำไปสู่การพัฒนาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความเชื่อมั่นในตนเอง อันเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพได้และมุ่งพัฒนา ให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะวิธีการทางศิลปะ เกิดความซาบซึ้งในคุณค่าของศิลปะ เปิดโอกาสให้ ผู้เรียนแสดงออกอย่างอิสระในศิลปะแขนงต่างๆ ประกอบไปด้วย 3 สาระ ได้แก่ 1. ทัศนศิลป์, 2. ดนตรี, 3. นาฏศิลป์แต่ในงานวิจัยนี้จะเน้นไปที่สาระที่ 1 มีใจความดังนี้ สาระที่ 1 ทัศนศิลป์ มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิด สร้างสรรค์วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มาตรฐาน ศ 1.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างาน ทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล ความหมายของทัศนศิลป์ทัศนศิลป์ เป็นศัพท์บัญญัติที่นำมาใช้กันในวงการศิลปะของประเทศไทยมา จากภาษาอังกฤษว่า Visual art โดยต้องการจะแยกลักษณะการรับรู้ทางศิลปะ 1.2 สื่อการเรียนรู้และการจัดการเรียนการสอน 1.2.1 การสอนศิลปะในระดับมัธยมศึกษา การเรียนรู้ทางการศึกษาในศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่ง จำเป็นจะต้องพึงตระหนักถึงเป้าหมายของผู้เรียนด้วย เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการนำไปใช้ในการดำรงชีวิต การให้การศึกษาทางด้านศิลปะก็เช่นกัน นอกจากจะให้ผู้เรียนสร้างสรรค์งานอย่างมีคุณภาพแล้ว ยังคำนึงถึงคุณภาพที่เกิดขึ้นในตัวบุคคลทางด้านบุคลิกภาพด้วยและยังมีผลน าไปสู่การใช้ชีวิตอย่างมี ประสิทธิภาพ


6 วิชาทัศนศิลป์ คือศิลปะที่รับรู้หรือสัมผัสด้วยประสาทตา โดยทั่วไปจะหมายถึง งานประเภทจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ภาพพิมพ์ แต่ในหลักสูตรมัธยมตอนต้นและมัธยมตอนปลายจะรวมไปด้วยการ วาดภาพ การปั้น การแกะสลัก การประดิษฐ์ การออกแบบ เป็นต้น การสร้างสรรค์งานศิลปะนอกจากจะเป็นการเรียนรู้ที่จะพัฒนาไปสู่ความเหมาะสมและสังคมอารย ธรรม ยังรวมถึงเป็นการเรียนการสอนยังจะต้องเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจถึงจิตวิทยาและมนุษย์วิทยาไปพร้อมกัน การแสดงออกกและการชื่นชมศิลปะเด็ก ย่อมสัมพันธ์กับความแตกต่างเฉพาะตัวบุคคลในการรับรู้ การ สร้างสรรค์ และ การเจริญเติบโต ทัศนศิลป์สำหรับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช ซึ่ง 2551 ถือ ปฏิบัติกันอยู่ในขณะนี้ได้กำหนดคุณภาพผู้เรียนของวิชา ทัศนศิลป์ ไว้ดังนี้ เมื่อนักเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนสามารถรู้และเข้าใจเรื่องทัศนธาตุและหลักการ ออกแบบ 3 มิติ เพื่อสื่อความหมาย และเทคนิคที่หลากหลายในการ สร้างงานทัศนศิลป์เรื่องราวต่าง ๆ ได้ อย่างมีคุณภาพ วิเคราะห์รูปแบบเนื้อหาและประเมินคุณค่างานทัศนศิลป์ของตนเองและผู้อื่น สามารถเลือก งาน ทัศนศิลป์โดยใช้เกณฑ์ที่กำหนดขึ้นอย่างเหมาะสม สามารถออกแบบรูปภาพ สัญลักษณ์ กราฟิก ในการ นำเสนอ ข้อมูลและมีความรู้ ทักษะที่จำเป็นด้านอาชีพที่เกี่ยวข้องกันกับงานทัศนศิลป์และยังมีความรู้และ ความเข้าใจการ เปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของงานทัศนศิลป์ของชาติและท้องถิ่น แต่ละยุคสมัย เห็นคุณค่า งานทัศนศิลป์ที่ สะท้อนวัฒนธรรมและสามารถเปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ ที่มาจากยุคสมัยและวัฒนธรรม ต่างๆ จะเห็นได้ว่าการออกแบบหลักสูตรยังมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เห็นคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีรากเหงา ทางวัฒนธรรมที่สืบทอดจากบรรพบุรุษและเรียนรู้ถึงความเป็นมาในแต่ละยุคด้วยเช่นกัน 1.2.2 ด้านความพร้อมของผู้เรียน ความพร้อมของผู้เรียนเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างสำเร็จ จำเป็นต้องคำนึงถึงหลักต่อไปนี้ วุฒิภาวะ ความพร้อมของผู้เรียนเป็นเงื่อนไขสำคัญทางการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายวิชา ทัศนศิลป์ เพราะจำเป็นจะต้องจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับวัยหรือแต่ละกลุ่ม จำเป็นจะต้องพิจารณา ถึง ความพร้อมตามวุฒิภาวะของผู้เรียนเพื่อจะได้ฝึกปฏิบัติตามความเหมาะสม และพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อย ไป ประสบการณ์ในการแสดงออกทางศิลปะ ประสบการณ์ถือว่าเป็นการช่วยให้การแสดงออกเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประสบการณ์สามารถพิจารณ์ได้ ด้าน 3 1. ประสบการณ์ที่ได้ฝึกปฏิบัติ เป็นการเรียนรู้โดยการสร้างงานฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ประสบการณ์ที่ฝังแน่นที่เกิดขึ้นโดยตัวผู้สร้างสรรค์ปฏิบัติเอง 2. ประสบการณ์จากการศึกษาผลงานศิลปะ การศึกษาผลงานศิลปะผ่านทางการอ่าน การฟัง หรือการชื่นชมผลงานภาพศิลปะ โดยผ่านการสังเกตอย่างคิดวิเคราะห์ จะเป็นประสบการณ์ที่มีค่าต่อ การเรียนรู้


7 3. ประสบการณ์จากสภาพแวดล้อม เป็นประสบการณ์ที่มาจากสภาพแวดล้อม ทั้งที่เป็น ธรรมชาติ หรือที่มนุษย์สร้างขึ้น และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้รู้ได้เห็นนำมาสร้างผลงานทั้งในแง่รูปแบบ ความคิด หรือวัสดุอุปกรณ์ ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ อุปกรณ์เป็นสิ่งที่สำคัญ หากขาดสิ่งใดสิ่ง หนึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหา ในการปฏิบัติงาน 1.2.3 การจัดกิจกรรมทัศนศิลป์ ลักษณะกิจกรรม การจัดกิจกรรมศิลปะให้แก่ผู้เรียนผู้สอนต้อง เข้าใจ ถึงวุฒิภาวะของผู้เรียนก่อน เพื่อกำหนดความยากง่ายของกิจกรรมให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละด้าน จากนั้นควรที่ จะพิจารณาถึงเป้าหมายที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ของหลักสูตร ทั้งจุดประสงค์ในทางผลงานศิลปะ การสร้าง เสริมบุคลิกภาพ และพฤติกรรมทางสังคม เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของหลักสูตร สื่อการสอน การเรียนรู้จำเป็นต้องมีสื่อการเรียนรู้เพื่อเป็นแรงจูงใจในการเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อความ เข้าใจ และการเรียนการสอนแบบมีประสิทธิภาพ สื่อการสอนที่ดีจะเป็นตัวสำคัญที่ทำให้ผู้เรียนมีความ กระตือรือร้นในการเรียน อุปกรณ์การสอนวิชาทัศนศิลป์อุปกรณ์ เป็นสิ่งที่ช่วยการสอนหรือนำมาเป็นสื่อการสอน โดยนำ อุปกรณ์ต่าง ๆ มาช่วยในการเรียนการสอน อุปกรณ์ในการสอนในที่นี้ได้แก่ เครื่องฉายภาพ คอมพิวเตอร์ แผ่นใส เป็นต้น 1.2.4 วิธีการเรียนรู้ในงานทัศนศิลป์ วิธีการที่ใช้เป็นสื่อการสอน หมายถึง การสาธิต การทดลอง กิจกรรม กระบวนการต่างๆ ที่ผู้สอนจัด ขึ้น เพื่อเป็นการสาธิตในการเรียนการสอน ในบางกรณีวิธีการอาจจะช่วยสร้าง ความรู้ความเข้าใจต่อเรื่องใด เรื่องหนึ่งได้ดีกว่าสื่อการสอนที่เป็นวัตถุ สำหรับวิธีการที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนวิชาทัศนศิลป์ แบ่งออกได้3 แบบ คือ 1. การสาธิต เป็นการเรียนการสอนวิชาทัศนศิลป์มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และให้ ผู้เรียน คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น การสอนวิชาทัศนศิลป์ด้วยการสาธิตการปฏิบัติงาน ผู้สอนที่ทำการสาธิตก็ จะเปรียบเสมือนต้นแบบ ซึ่งผู้เรียนที่เป็นผู้สังเกตการสาธิตก็จะเลียนแบบ ผลงานของผู้สอน ฉะนั้น การสาธิต บางครั้งก็ควรที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ 2. การทดลอง เป็นการค้นคว้าในลักษณะที่เป็นสื่อการสอนอย่างหนึ่งของวิชาทัศนศิลป์ ผู้เรียน อาจจะ ทำการค้นคว้ากลวิธีต่างๆ ขึ้นมาเองโดยการฝึกปฏิบัติกิจกรรม เช่น ทดลองกลวิธีในการ เขียนภาพด้วยสีน้ำ เป็นต้น 3. กิจกรรม การเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรม เพื่อมุ่งเน้นถึงความหลากหลายทั้งรูปแบบ เนื้อหา และ กลวิธี การปฏิบัติ และการแก้ปัญหา เน้นถึงกิจกรรมที่ส่งเสริมการแสดงออก จินตนาการ และ ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้ผู้เรียนได้รับผลอย่างกว้างขวาง


8 การจัดการเรียนรู้สาระทัศนศิลป์ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตหรือวัฒนธรรมของชุมชนนั้นผู้สอนจำเป็น จะต้อง มีความรอบรู้เรื่องราวต่างๆของชุมชน และมองเห็นความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆ ที่เอื้อหรือเป็น อุปสรรคต่อการ จัดการเรียนการสอน สามารถวิเคราะห์และนำผลไปใช้ในการวางแผน ซึ่งผู้จะต้องศึกษา และ ทำความเข้าใจในเรื่อง ต่างๆ ดังนี้ 1. การศึกษาแนวคิดและทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความเข้าใจและการสร้างจิตสำนึกในเรื่องของ วัฒนธรรม 2. การศึกษาบริบทของชุมชนที่ส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้สาระทัศนศิลป์ เป็นการศึกษาเพื่อประเมิน ศักยภาพของชุมชนในด้านต่างๆ เช่น วีถีชีวิต วัฒนธรรม ความเชื่อ ค่านิยม ภูมิปัญญา ภาวะผู้นำ เป็นต้น 3. การศึกษาคุณค่าทัศนศิลป์ในวิถีชีวิตของชุมชน และวิธีการถ่ายทอดความรู้ของช่างพื้นบ้าน เพื่อให้ ผู้ได้นำมาเป็นกระบวนการปรับใช้ในการสอน 4. การศึกษาภูมิปัญญาการอนุรักษ์เพื่อให้ชุมชนเกิดความภาคภูมิใจ และรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ เช่น การ อนุรักษ์โบราณวัตถุสถานของชุมชนโดยผ่านทางพิธีกรรม ความเชื่อ สื่อ เหตุการณ์ เป็นต้น 5. การศึกษาแหล่งความรู้ในชุมชนเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งการเรียนรู้และ เป็น การเลือกแหล่งการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ 6. การศึกษาจิตวิทยาพัฒนาการ แบบการเรียนรู้ และความสนใจเกี่ยวกับงานด้านทัศนศิลป์ของ ผู้เรียนเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมทัศนศิลป์ให้แก่ผู้เรียน 1.3 จิตวิทยาสำหรับการเรียนศิลปะ การเรียนรู้ (Learning) เป็นกระบวนการ (Process) เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่เป็นการสร้างมโนทัศน์ แก่ของความรู้ที่มีอยู่เดิมจะเห็นได้ว่าทางจิตวิทยามุ่งนิยามถึงกระบวนการที่ เปลี่ยนใหม่โดยการถ่ายโยงมโน ทัศน์พฤติกรรม ที่เป็นหัวใจสำคัญ ทางจิตวิทยาจึงมีวิธีประที่จะประเมินหรือวัดผล การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในตัว ของบุคคล นั้นแล้วหรือไม่ การเกิดขึ้นในที่นี้เป็นการเกิดขึ้นในระดับที่ต่างไปจากเดิมที่มีมาก่อน ในทฤษฎี การศึกษา สไตน์เนอร์กระจายคำว่า การศึกษา(Education) เป็นกระบวนการของการ เรียนการสอน ซึ่ง หมายถึงระบบของการเรียนรู้ ประกอบไปด้วยหมวดย่อย 4 หมวด คือ 1. ผู้สอน คือ บุคคลที่พยายามแนะนำบุคคลอื่นให้เกิดการเรียนรู้ 2. ผู้เรียน คือ บุคคลที่พยายามเรียนรู้ภายใต้การแนะนำของบุคคลอื่น 3. เนื้อหาวิชาเรียน คือ สิ่งที่โครงสร้างของจิตใจ จะต้องเกิดการสำนึก 4. สิ่งแวดล้อมในการเรียน คือ สิ่งแวดล้อมอื่นๆ สไตน์เนอร์ให้ความหมายถึงระบบของการเรียนรู้ว่าเป็นระบบที่พัฒนาจิตใจ ซึ่งโดยสรุปแล้วจะเห็นได้ ว่า จะก่อให้เกิดความสำนึกในด้านใดด้านหนึ่ง หรือมากกว่า หนึ่งด้านหรือทุกๆ ด้านระหว่างที่การรู้คิด ความ จดจ่อ มุมานะ หรือความรู้สึก ซึ่งอาจจะเป็นความสำนึก ของโครงสร้างจิตในลักษณะแห่งคุณค่าก็ได้ ไม่เห็น คุณค่าก็ได้หรือ เป็นกลางไม่มากไม่น้อยก็ได้ แต่ถ้าในกรณีที่ความสำนึก จิตใจนั้นเห็นคุณค่าก็อาจจะเป็นได้ ใน แง่เห็นคุณประโยชน์หรือเห็นคุณงามความดีแง่ใดแง่หนึ่ง หรือทั้งสองแง่ก็ได้


9 ทฤษฎีการเรียนรู้ของบลูม (Bloom, 1956) ซึ่งมีชื่อทฤษฎีว่า ระบบของวัตถุประสงค์ทางการศึกษา ทฤษฎีประเภทนี้มีมากมาย หลายทฤษฎี ซึ่งหลายทฤษฎีมีบางส่วนทฤษฎีของบลูมเป็นรากฐาน เช่น ทฤษฎี ความสามารถในการเรียนรู้ของ กานเย่ บลูม ได้ให้ทฤษฎีทางการศึกษาที่เน้นการเปลี่ยนแปลง 3 ด้าน คือ พุทธิพิสัย จิตพิสัย ทักษะพิสัย 1. พุทธิพิสัย คือ แดนแห่งความรู้ความเข้าใจ เป็นด้านที่เน้นความจำ การจดจำและสามารถนึกย้อน นำเอา สิ่งที่เรียนกลับมาใหม่ เพื่อที่จะใช้ได้อีกในภายหลับ หมายรวมไปถึงเชาว์ปัญญาในการแก้ปัญหา ซึ่ง เกี่ยวเนื่องกับ การที่บุคคลที่สามารถพิจารณาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วเปลี่ยนแปลงรับวิธีการ วัสดุที่ใช้อยู่เกิดเสีย ใหม่เพื่อแก้ปัญหานั้นๆ จุดมุ่งหมายในด้านนี้มีหลายระดับหลายขั้นตอนตั้งแต่ความสามารถจดจำสิ่งที่เรียนไป แล้ว ไปจนถึงระดับที่ สูงขึ้นเช่นการสร้างสรรค์ หรือการนำความคิดที่ได้จากการเรียนรู้ไปแล้วมาผสมผสานให้ เกิดความคิดใหม่ขึ้น ศิลปะส่งเสริมประสิทธิภาพทางด้านการรับรู้การทำงานศิลปะต้องอาศัยสื่อแรงจูงใจมาสู่การ สร้างสรรค์ขึ้นทั้งศิลปะของผู้เรียนและของศิลปินก็ต้องเกี่ยวข้องกับการดูทั้งสองด้านคือ การดูสิ่งแวดล้อมและ การดูศิลปะในช่วง การเรียนรู้รับรู้สิ่งแวดล้อม รูปทรงต่างๆ จะมีสภาพเป็นนามธรรม เมื่อสร้างสรรค์ศิลปะ กระตุ้นคุณภาพของรูปร่าง รูปทรง มวล ปริมาตร รวมทั้งพื้นผิวของสิ่งต่างๆ ตามวิถีทางของศิลปะ เมื่อการ สร้างสรรค์ศิลปะเกี่ยวกับ สิ่งแวดล้อมในฐานะที่สิ่งแวดล้อมและพื้นผิวของสิ่งนั้นสัมพันธ์กับการสร้างสรรค์งาน ศิลปะ ประสิทธิภาพในการรับรู้เช่นนี้ย่อมเป็นวิถีทางที่ดีที่สุดทางหนึ่งในการที่ผู้เรียนจะเรียนรู้ เพราะความรู้ ทั้งหลายย่อยมาจากสิ่งแวดล้อม นั้นเอง ศิลปะส่งเสริมประสิทธิภาพทางด้านการคิดสำหรับศิลปะของนักเรียนแล้ว กิจกรรมต่างๆจะช่วย เพิ่มพูน ประสิทธิภาพทางด้านการคิดได้ ในขณะที่นักเรียนสร้างสรรค์ศิลปะนั้น จะช่วยให้จัดระบบความคิด อย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องในอันที่จะควบคุมการแสดงออกให้เป็นไปอย่างที่คิดคำนึง ผู้เรียนส่วนใหญ่เมื่อเขียน ภาพสิ่งใดสิ่ง หนึ่ง มักจะสร้างสรรค์สัญลักษณ์โดยแปลความรูปทรงออกมาหลากหลายชนิด ภาพเขียนหรืองาน ศิลปะของผู้เรียนจึง เปลี่ยนไปตามแง่มุมความคิดต่างๆ นั้น จากการรับรู้และการคิดพื้นฐานเช่นนี้ การปูพื้นฐานย่อมเป็นสิ่งสำคัญเป็นเสมือนการเพิ่มพลังและ ทักษะที่จะแยกแยะสิ่งต่างๆได้ชัดเจน เป็นพื้นฐานสำหรับการเรียนรู้ขั้นต่างๆ ศิลปะส่งเสริมประสิทธิภาพทางด้านความรู้สึกเรื่องของอารมณ์ด้านความรู้สึก การที่ผู้เรียนเติบโต ขึ้นมานั้น ก็ควรที่จะต้องรับรู้และทำความเข้าใจกับอารมณ์ความรู้สึกของบุคคลที่อยู่รอบตัว เทย์เลอร์ กล่าวว่า การศึกษาทางการจัดระบบความเป็นจริงด้านกายภาพเท่านั้น สติปัญญาไม่ใช่สิ่งที่จะแบ่งแยกความสามารถ ตัวกิจกรรมเป็นตัวเริ่มขึ้นในประสาทสัมผัส ประกอบกับประสบการณ์ตรงความ เป็นจริง เหตุการณ์ ความคิด และยังรวมถึงอารมณ์ความรู้สึกอีกด้วยโดยรวมแล้ว ศิลปะก็คือการสนับสนุนให้ผู้เรียนได้แสดออกซึ่งอารมณ์ ความรู้สึก และให้ผู้เรียนได้เผชิญกับอารมณ์ความรู้สึกในแง่ของผลงานศิลปะ และ เกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ด้วย สีสัน รูปทรง น้ำหนัก บริเวณที่ว่าง พื้นผิว ปริมาตร ริ้วรอยของสีที่มาจากพู่กัน เป็นต้น


10 1.4 สุนทรียภาพทางศิลปะ สุนทรียภาพหมายถึง ความรู้สึกในการรับรู้ถึงคุณค่าของสิ่งที่เห็นว่างาม ดูเป็นระเบียบไปถึงการได้ยิน ได้ฟังเสียงและถ้อยคำที่ไพเราะต่าง ๆ ผลงานทัศนศิลป์มีจุดมุ่งหมายสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้เกิดความงาม ผลงานจึง ก่อให้เกิดสุนทรียภาพด้วยการสัมผัสได้จากการมองเห็น มนุษย์แต่ละคนจะรับรู้ความงามและคุณค่า ของศิลปะ แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ รสนิยม การรับรู้ การจดจำ สติปัญญา ความรู้สึกนึกคิด เป็น ต้น การฝึกฝน พัฒนาตนเองให้มีสุนทรียภาพ มีความรู้สึกรับรู้คุณค่าความงามได้นั้น ต้องขยันหมั่นฝึกฝน สังเกต เรียนรู้ จดจำ คิดวิเคราะห์ บ่มเพาะประสบการณ์ไปทีละเล็กที่ละน้อยหลักเกณฑ์ง่ายๆ ในการฝึกฝน ให้มีสุนทรียภาพในการศึกษา เรียนรู้ศิลปะ ได้แก่ 1. พิจารณาที่จุดเด่นของศิลปะนั้นๆ ก่อนเป็นอันดับแรกว่าสามารถสื่อได้ตรงตามความหมายของเรื่อง ที่ต้องการสื่อหรือไม่ 2. พิจารณาดูองค์ประกอบโดยรวมในภาพตามหลักการจัดภาพองค์ประกอบศิลป์ 3. พิจารณาลงรายละเอียดของทัศนธาตุ สังเกต เส้น สีแสงเงา และรูปร่างรูปทรง 4. พิจารณาการจัดวางเนื้อหาเรื่องราวโดยดูความสำเร็จของผลงานศิลปะนั้นๆ คุณค่าความงามในงานทัศนศิลป์เปรียบเป็นความนิยมชมชอบ ค่านิยม คตินิยม เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใน จิตใจ เป็นความรู้สึก เป็นความพึงพอใจ ความงามและคุณค่าในงานทัศนศิลป์นั้นๆ จึงขึ้นอยู่กับทัศนศิลป์ของ แต่ละคน เช่น พื้นฐานทางสภาพสังคมสิ่งแวดล้อมที่หล่อหลอมมา และวัฒนธรรมแห่งยุคสมัยนั้นๆ เป็นปัจจัย คุณค่าความ งามในงานทัศนศิลป์อาจมองได้2 ลักษณะ ดังนี้ 1. ความงามมีคุณค่าในรูปทรงที่ปรากฏ ให้ความรู้สึกกับสายตา 2. ความงามมีคุณค่าในเนื้อหาที่นำเสนอ เนื้อหาเป็นเรื่องขยายความให้รับรู้ศิลปะโดยส่งผ่านรูปทรง ให้ปรากฏเป็นภาพหรือผลงานนั้นๆ 2. ชุดกิจกรรมการสอน 2.1 ความหมายของชุดกิจกรรม ชุดกิจกรรม เป็นสิ่งที่มีความสำคัญทางการศึกษาอย่างหนึ่งที่มีชื่อเรียกต่างๆกันไม่ว่าจะเป็น ชุดการ สอน ชุดการเรียน หรือ ชุดการเรียนสำเร็จรูป เป็นสื่อการสอนที่สามารถช่วยแก้ปัญหาความแตกต่างระหว่าง ผู้เรียนหรือ ระหว่างบุคคล และส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เต็มความสามารถ 2.2 หลักในการสร้างชุดกิจกรรม 1. ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Differences) นักจิตวิทยาได้นำทฤษฎีความแตกต่าง ระหว่างบุคคลมาใช้ เพราะถือว่าการสอนนั้นไม่สามารถปั้นผู้เรียนให้เป็นพิมพ์เดียวกัน ได้ในช่วงเวลาที่เท่ากัน เพราะผู้เรียนแต่ละคนจะเรียนรู้ตามวิถีทางของตนเอง และใช้เวลาในแต่ละเรื่องแตกต่างกัน ไป ซึ่งเป็นความ แตกต่างด้านสติปัญญา(Intelligence) ความสามารถ (Ability) ความต้องการ(Need) ความสนใจ (Interest ) ร่างกาย (Physical) อารมณ์(Emotion) และสังคม (Social) ด้วยเหตุผลของความแตกต่างดังกล่าวผู้สร้างชุด การสอนจึงได้พยายามหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุด เพื่อทำให้ผู้เรียนบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วาง ไว้ใน


11 ชุดการสอนนั้นๆ ซึ่งวิธีที่เหมาะสมที่สุดคือ การจัดการสอนรายบุคคล หรือจัดการสอนตามเอกัตภาพ หรือ การศึกษาด้วยตนเอง ซึ่งล้วนเป็นวิธีการสอนที่ให้ผู้เรียนมีอิสระในการเรียนตามความแตกต่างของแต่ละคน 2. การนำสื่อประสมมาใช้ (Multi-Media Approach) เป็นการนำสื่อการเรียนการสอนที่หลากหลาย ประเภทมาใช้อย่างมีระบบ ซึ่งเป็นความพยายามเพื่อเปลี่ยนแปลงจากการสอนแบบเดิมที่ยึดครูเป็นแหล่งให้ ความรู้หลักมาเป็นการจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียนเรียนโดยใช้แหล่งความรู้จากสื่อต่างๆ 3. ทฤษฎีการเรียนรู้ (Learning Theory) เปิดโอกาสให้ผู้เรียน เรียนโดยการเข้าร่วมกิจกรรมการ (เรียนรู้ด้วยตนเอง) 4. การใช้วิธีวิเคราะห์ระบบ (Systems Analysis) โดยการจัดเนื้อหาวิชาให้สอดคล้องกับ สภาพแวดล้อมและช่วงวัยของผู้เรียน ทุกสิ่งที่จัดไว้ในชุดการสอนจะสร้างขึ้นอย่างมีระบบ มีการตรวจทุก ขั้นตอน จนมีประสิทธิภาพ ทุกอย่างจะต้องสัมพันธ์กันอย่างสอดคล้อง มีการพัฒนาปรับปนเกณฑ์มาตรฐานที่ เชื่อถือได้ สรุปได้ว่า หลักการในการสร้างชุดการสอน ควรคำนึงถึงหลักจิตวิทยา หลักการเกี่ยวกับสื่อประสม การวิเคราะห์ระบบ การเลือกใช้โสตทัศนูปกรณ์ที่เหมาะสม และการใช้กระบวนกลุ่มเพื่อพัฒนาทักษะทาง สังคม ให้กับผู้เรียน


บทที่ 3 วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริม ทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง วิจัยได้ทำการวิจัยเป็นกลุ่มทดลองได้จากการสุ่มแบบ เจาะจง โดยมีการจัดการดำเนินการค้นคว้าตามลำดับ ดังนี้ 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของโรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง 1.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนมัธยมศึกษา ชาย–หญิง อายุระหว่าง 16-17 ปี ที่ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของโรงเรียนวิเชียรมาตุ จำนวน 29 คน โดยจัดเป็น 1 กลุ่มทดลองได้จากการสุ่มแบบเจาะจง 2. ตัวแปรที่ศึกษา 2.1 ตัวแปรต้น คือ การจัดการเรียนรู้ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึก เสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน 2.2 ตัวแปรตาม คือ ทักษะการวาดภาพระบายสีการ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึก เสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน 3. ระเบียบวิธีวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพัฒนา (research and development) ผู้วิจัยจึงได้กำหนดแบบ แผนการวิจัยแบบสังเกตจากชิ้นงานก่อนการเรียนรู้ จากนั้นนักเรียนได้ศึกษาขั้นตอนการวาดภาพการ์ตูน แล้ว จึงสร้างสรรค์ผลงานเป็นเรื่องราวตามจินตนาการ ตามแบบแผนดังนี้ ชิ้นงานก่อนการเรียนรู้ ทดลอง ชิ้นงานหลังการเรียนรู้ E1 X E2 E1 หมายถึง แทนการสร้างสรรค์ชิ้นงานก่อนเรียน X หมายถึง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้ จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน E2 หมายถึง แทนการสร้างสรรค์ชิ้นงานหลังการเรียนรู้


13 4. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 4.1 แผนการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน เป็นคู่มือในการจัด ประสบการณ์ ประกอบด้วย - คำชี้แจงในการใช้ - วัตถุประสงค์ - แนวความคิดสำคัญในการฝึกจินตนาการ 4.2 แบบฝึก ประกอบด้วย 3 กิจกรรมคือ กิจกรรมที่ 1 ฝึกวาดภาพการ์ตูนตามจินตนาการ กิจกรรมที่ 2 ฝึกวาดภาพการ์ตูนตามขั้นตอนการวาดภาพ แบบพื้นฐานตามลำดับง่ายๆ กิจกรรมที่ 3 ฝึกสร้างสรรค์ตัวการ์ตูนเป็นเรื่องราวในจินตนาการตามขั้นตอนการวาดภาพการ์ตูน พร้อมลงสีด้วยเทคนิคตามความถนัดของนักเรียน 4.3 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน โดยการเรียนรู้เรื่อง การ์ตูนกับการ สร้างสรรค์สังคมอาเซียน 5. วิธีการดำเนินการ ในการทำวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษาค้นคว้าเทคนิควิธีการสอน โดยทำแบบฝึกเทคนิคการวาดตัวการ์ตูน เพื่อให้นักเรียนมีการพัฒนาการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะด้วยจินตนาการของตนเอง ตามขั้นตอนต่อไปนี้ ขั้นที่ 1 ให้นักเรียนร่างภาพตัวการ์ตูนล้อเลียนตามจินตนาการของตัวเอง ขั้นที่ 2 ครูวาดภาพให้นักเรียนดูตามขั้นตอนการวาดภาพการ์ตูน ขั้นที่ 3 ให้นักเรียนวาดภาพโดยทำตามขั้นตอนที่ครูวาดให้ดู ขั้นที่ 4 ฝึกวาดภาพต่อเติมตามแบบฝึกเทคนิคการวาดตัวการ์ตูน ขั้นที่ 5 เปลี่ยนรูปแบบฝึกหัดและให้ทำซ้ำหลายๆครั้ง จนกว่านักเรียนสามารถวาดภาพด้วยเทคนิค หลายๆเทคนิคได้ และสามารถนำมาวาดภาพเป็นเรื่องราวตามจินตนาการได้


14 ตารางที่ 1 การประเมินผลงานของนักเรียน 1. แบบประเมินเกณฑ์การให้คะแนน (Scoring Rubric) ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ดังนี้ รายการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน 4 3 2 1 คุณภาพผลงาน ผลงานเสร็จ สมบูรณ์ สื่อความหมายตรง ตามภาระงาน เป็นแบบอย่างแก่ ผู้อื่นได้ ผลงานเสร็จ สมบูรณ์ สื่อความหมายตรง ตามภาระงาน ผลงานเสร็จ สมบูรณ์ ผลงาน ไม่เสร็จ การจัด องค์ประกอบศิลป์ มีการนำ องค์ประกอบของ การออกแบบ มา ใช้เหมาะสม กลมกลืน หลักการ จัดภาพมีครบทั้ง 3 ข้อได้แก่ 1. เอกภาพ 2. ความสมดุล 3. จุดสนใจ มีการนำ องค์ประกอบของ การออกแบบ มา ใช้เหมาะสม กลมกลืน หลักการ จัดภาพขาดไป 2 ข้อได้แก่ 1. เอกภาพ 2. ความสมดุล 3. จุดสนใจ มีการนำ องค์ประกอบของ การออกแบบ มา ใช้เหมาะสม กลมกลืน หลักการ จัดภาพขาดไป 1 ข้อได้แก่ 1. เอกภาพ 2. ความสมดุล 3. จุดสนใจ มีการนำ องค์ประกอบของ การออกแบบ มา ใช้เหมาะสม กลมกลืน ความคิด สร้างสรรค์ ผลงานแปลกใหม่ เกิดจากความคิด ของกลุ่มตนเอง สามารถเป็นแบบ อย่างแก่ผู้อื่นได้ ผลงาน แปลกใหม่ เกิดจากความคิด ของตนเอง ผลงานลอกเลียน แบบ จากความคิด ผู้อื่นบางส่วน ผลงานลอกเลียน แบบผู้อื่นทั้งหมด คุณลักษณะ มีวินัย ตั้งใจ ความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ตรงต่อเวลา มีวินัย ตั้งใจ ความเป็นระเบียบ เรียบร้อย มีวินัย ตั้งใจ มีวินัย การบูรณาการ สร้างสรรค์สังคม อาเซียน สอดคล้องกับเนื้อ เรื่อง มีลำดับเนื้อ เรื่องชัดเจน เรื่องมี ความน่าสนใจ และ มีจันตนาการ สอดคล้องกับเนื้อ เรื่อง มีลำดับเนื้อ เรื่องชัดเจน เรื่องมี ความน่าสนใจ สอดคล้องกับเนื้อ เรื่อง มีลำดับเนื้อ เรื่องชัดเจน สอดคล้องกับเนื้อ เรื่อง


15 เกณฑ์การประเมิน คะแนน 17 - 20 อยู่ในระดับดีมาก คะแนน 14 - 17 อยู่ในระดับดี คะแนน 11 - 14 อยู่ในระดับปานกลาง ต่ำกว่า 10 อยู่ในระดับปรับปรุง 6. หลักการและแนวความคิดในการจัดกิจกรรม 6.1 กิจกรรมแต่ละกิจกรรมใช้เทคนิคการสอนแบบเป็นขั้นตอนจากง่ายไปยาก 6.2 ใช้เทคนิคการสอนแบบการฝึกหัด คือฝึกบ่อยๆ จะทำให้เกิดทักษะ 6.3 ใช้กระบวนการในการปฏิบัติกิจกรรม 4 ขั้นตอน คือ 6.3.1 ขั้นสังเกต รับรู้ 6.3.2 ขั้นทำตามแบบและขั้นตอน 6.3.3 ขั้นทำเองโดยไม่มีแบบ 6.3.4 ขั้นฝึกให้ชำนาญ 7. การประเมินผลและเก็บข้อมูล 7.1 สังเกตความสามารถในการสร้างผลงานก่อนการวิจัย บันทึกผลการประเมินในแบบบันทึกผลการ ประเมิน 7.2 ปฏิบัติกิจกรรม เก็บข้อมูล ในการสร้างสรรค์ผลงานของนักเรียนแต่ละคน ประเมินผลงาน สรุปผลการประเมิน บันทึกลงในแบบบันทึกผลการประเมินผลงาน 8. การวิเคราะห์ข้อมูล 8.1 เปรียบเทียบระดับความสามารถในการวาดภาพการ์ตูนตามขั้นตอนเป็นระยะๆ ระหว่างฝึก 8.2 เปรียบเทียบความก้าวหน้าและระดับความสามารถในการสร้างสรรค์จินตนาการภาพของตนเอง ก่อนและหลังการวิจัย 9. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยนำผลการทดสอบมาดำเนินการวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป และได้นำเสนอผลการ วิเคราะห์ข้อมูล ตามลำดับต่อไปนี้ 9.1 วิเคราะห์หาค่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง โดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงมาตรฐาน ของ คะแนนที่ได้รับจากการประเมินชิ้นงานแต่ละชิ้นมาวัดลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้


16 9.1.1 สถิติพื้นฐาน ค่าคะแนนเฉลี่ย (mean) โดยคำนวณจากสูตร (สุวิมล ติรกานันท์, 2551: 201) ̅= ∑ เมื่อ ̅ แทน ค่าเฉลี่ย ∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดในกลุ่ม แทน จำนวนคะแนนในกลุ่ม ค่าเฉลี่ยความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใช้สูตร (สุวิมล ติรกานันท์, 2551: 203) คือ .. = √ ∑ 2 − (∑ ) 2 ( − 1) เมื่อ .. แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ∑ แทน ผลรวมของคะแนนแต่ละด้านยกกำลังสอง ∑ 2 แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดยกกำลังสอง แทน จำนวนนักเรียนในกลุ่ม


บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยเรื่อง การพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานทางศิลปะ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาด ภาพระบายสีตัวการ์ตูน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษา และพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานทางศิลปะของนักเรียน 2) เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานก่อน เรียนและหลังเรียนในเรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน 3) เพื่อความพึงพอใจทางการเรียนรู้ด้วย แบบฝึกพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานทางศิลปะ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน สัญลักษณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1 แทน ประสิทธิภาพของกระบวนการ 2 แทน ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ ̅ แทน ค่าเฉลี่ย แทน จำนวนนักเรียน .. แทน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ∑ แทน ผลรวมของความแตกต่างของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนทุกคน ∑ 2 แทน ผลรวมของความแตกต่างของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนทุกคน ยก กำลังสอง T แทน การทดสอบความแตกต่างของคะแนนก่อนเรียนหลังเรียน * แทน มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานทางศิลปะ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาด ภาพระบายสีตัวการ์ตูน ผู้วิจัยได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นลำดับดังนี้ ตอนที่ 1 ประสิทธิภาพทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาด ภาพระบายสีตัวการ์ตูน ตอนที่ 2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง โดยเรียนรู้เรื่อง เรื่อง การ์ตูนกับการ สร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้ เทคนิคการวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน


ตอนที่ 1 ประสิทธิภาพทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้ เทคนิค การวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ในการหาประสิทธิภาพทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดย ใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดการวาดภาพ ระบายสีตัวการ์ตูน ผู้วิจัยได้ดำเนินการโดยการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ ในการวาดภาพระบายสีตัว การ์ตูนได้ผลดังนี้ ตารางที่ 2 แสดงผลการทดลองหาประสิทธิภาพทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์ สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการ วาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน คะแนน จำนวนนักเรียน คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย ค่าร้อยละของ คะแนนเฉลี่ย คะแนนก่อนเรียน 29 20 13.41 67.05 คะแนนหลังเรียน 29 20 16.90 84.50 จากตารางที่ 2 พบว่าการทดลองหาประสิทธิภาพทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการ สร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้ เทคนิคการวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน มีผลการประเมินประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ระหว่าง เรียน (E1) เท่ากับร้อยละ 67.05 และผลการประเมินประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้หลังเรียน (E2) เท่ากับร้อยละ 84.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 80/80 ตอนที่ 2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง โดยเรียนรู้เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์ สังคมอาเซียน โดยใช้เทคนิค การวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ตารางที่ 3 แสดงผลเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ (ด้านความทักษะ) ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 รายการ ค่าเฉลี่ย (̅) ส่วนเบี่ยงเบียนมาตรฐาน (.. ) t-test sig ก่อนเรียน 13.41 2.41 *22.62 0.00 หลังเรียน 16.90 2.19 *มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากตาราง 3 แสดงให้เห็นคะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนของนักเรียนมีค่าเฉลี่ย (̅) 13.41 คะแนน ผลสัมฤทธิ์หลังเรียน มีค่าเฉลี่ย(̅) 16.90 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (.. ) ก่อนเรียนเท่ากับ 2.41 หลังเรียนเท่ากับ 2.19 ส่วนค่าสถิติt มีค่าเท่ากับ 22.62 ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลัง เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05


บทที่ 5 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยเรื่องการ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้เทคนิค การวาดการวาดภาพระบายสีตัว การ์ตูน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง ผู้วิจัยได้สรุปผลการวิจัยอภิปรายผลและได้ให้ ข้อเสนอแนะต่าง ๆ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. ศึกษาและพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคม อาเซียน โดยใช้เทคนิค การวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคม อาเซียน โดยใช้เทคนิค การวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา 2.1 ตัวแปรต้น คือ การจัดการเรียนรู้ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึก เสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน 2.2 ตัวแปรตาม คือ ทักษะการวาดภาพระบายสีการ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึก เสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ขอบเขตของการวิจัย 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัด ตรัง จังหวัดสงขลา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 6 ห้อง จำนวน 232 คน 1.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนมัธยมศึกษา ชาย – หญิง อายุระหว่าง 16-18 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของโรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัด ตรัง จำนวน 29 คน โดยจัดเป็น 1 กลุ่มทดลองได้จากการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive) 2. ระยะเวลาในการทกลอง ผู้วิจัยดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ใช้เวลาใน การทดลองสัปดาห์ละ 1 คาบ คาบละ 50 นาที เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ 6 คาบเรียน


18 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. แผนการจัดการเรียนการสอน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน เป็นคู่มือในการจัด ประสบการณ์ ประกอบด้วย - คำชี้แจงในการใช้ - วัตถุประสงค์ - แนวความคิดสำคัญในการฝึกจินตนาการ 2. แบบฝึก ประกอบด้วย 3 กิจกรรมคือ กิจกรรมที่ 1 ฝึกวาดภาพการ์ตูนตามจินตนาการ กิจกรรมที่ 2 ฝึกวาดภาพการ์ตูนตามขั้นตอนการวาดภาพ แบบพื้นฐานตามลำดับง่ายๆ กิจกรรมที่ 3 ฝึกสร้างสรรค์ตัวการ์ตูนเป็นเรื่องราวในจินตนาการตามขั้นตอนการวาดภาพการ์ตูน พร้อมลงสีด้วยเทคนิคตามความถนัดของนักเรียน 3. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน โดยการเรียนรู้เรื่อง การ์ตูนกับการ สร้างสรรค์สังคมอาเซียน การวิเคราะห์ข้อมูล 1. วิเคราะห์หาประสิทธิภาพทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้เทคนิค การวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลัง โดยเรียนรู้ เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์ สังคมอาเซียน โดยใช้เทคนิค การวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน โดยนำข้อมูลที่ได้ไปคำนวณหามัชณิม เลขคณิต(̅) และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(.. ) ของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม สรุปผลการวิจัย การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้เทคนิค การ วาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง สรุปผลการวิจัยดังนี้ 1. พบว่าการทดลองหาประสิทธิภาพทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคม อาเซียน โดยใช้เทคนิค การวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูนมีผลการประเมินประสิทธิภาพของการจัดการ เรียนรู้ระหว่างเรียน(E1) เท่ากับร้อยละ 67.05 และผลการประเมินประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้หลัง เรียน(E2) เท่ากับร้อยละ 84.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน โดยเรียนรู้เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน โดยใช้เทคนิค การวาดการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน คะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนของนักเรียนมีค่าเฉลี่ย (̅)เท่ากับ 13.41 คะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียน มีค่าเฉลี่ย(̅)เท่ากับ 16.90 และค่า t-test เท่ากับ 22.62 ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่ง เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้


19 อภิปรายผล วิจัยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดย ใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสี ตัวการ์ตูน สามารถนำไปสู่ผลการอภิปรายได้ดังนี้ 1. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดย ใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสี ตัวการ์ตูน สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัยธมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างคุณภาพและความเหมาะสมกับการเรียนรู้ศิลปะ ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากการวิจัยพบว่าแบบฝึกเสริมทักษะที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ กำหนดไว๎พบว่ามีผลการประเมินประสิทธิภาพของการจัดการเรียนระหว่างเรียน (E1) เท่ากับ ร้อยละ 67.05 และผลการประเมินประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้หลังเรียน (E2) เท่ากับร้อยละ 84.50 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ที่ตั้งไว้คือ 80/80 โดยนักเรียนได้ศึกษาและปฏิบัติตามจุดประสงค์แบบฝึกทักษะตามขั้นตอนเป็นไปตามแบบ แผน กระบวนการที่วางไว้ส่งผลให้นักเรียนมีพัฒนาการทางทักษะความรู้ความเข้าใจและ การนำไปประยุกต์ใช้ ในการสร้างสรรค์ผลงาน มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในวิชาศิลปะพื้นฐาน สอดคล้องกับงานวิจัยของ สุนันทา สุนทรประเสริฐ (2544, หน้า 2) กล่าวว่า “แบบฝึกหรือแบบฝึกหัด คือ สื่อการเรียนการสอนชนิดหนึ่ง ที่ใช้ฝึก ทักษะให้กับผู้เรียน” หลังจากเรียนจบเนื้อหาในช่วงหนึ่ง ๆ เพื่อฝึกฝนให้เกิดความรู้ความเข้าใจ รวมทั้งเกิด ความชำนาญในเรื่องนั้น ๆ อย่างกว้างขวางมากขึ้น และสอดคล้องกับแนวคิดของ ศศิธร ธัญลักษณานันท์ (2542 : 375) กล่าวว่า “แบบฝึกเสริมทักษะที่ใช้ฝึกความเข้าใจ ฝึกทักษะต่าง ๆ และทดสอบความสามารถ ของผู้เรียนตามบทเรียนที่ครูสอนว่า ผู้เรียนเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้มากน้อยเพียงใด” ทั้งนี้ผู้วิจัยได้สร้างแบบฝึกเสริมทักษะให้เอื้อต่อการพัฒนาความสามารถของนักเรียนให้มากที่สุด โดย ในแบบฝึกเสริมทักษะมีขั้นตอนที่ชัดเจนเข้าใจง่าย ภาษาที่ใช้เหมาะสมกับวัยของนักเรียน สื่อความหมายได้ดีมี การจัดลำดับกิจกรรมและขั้นตอนการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม มีรูปแบบที่ น่าสนใจ สอดคล้องกับหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดข้อความมีความชัดเจนเข้าใจง่าย สามารถเร้า ความสนใจของผู้เรียน ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และช่วยให้เข้าใจบทเรียนได้ดี ขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของ สุนิสา เกื้อหนุน (2556: บทคัดย่อ) ได้ทำการศึกษา การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน วิชาสังคมศึกษา ( ส22106) เรื่อง ภูมิศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5 โดยใช้แบบฝึก เสริมทักษะทางการเรียน พบว่า แบบฝึกเสริมทักษะทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา (ส22106) เรื่อง ภูมิศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงขึ้นร้อยละ 87.14 2. จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าหลังเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึก เสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัยธมศึกษาปีที่ 5 พบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนของนักเรียนมีคําเฉลี่ย (̅) 13.41 คะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียน มีคําเฉลี่ย (̅) 16.90 และมีส่วนคําเบี่ยงเบนมาตรฐาน (.. ) ก่อน เรียนเท่ากับ 2.41 หลังเรียนเท่ากับ 2.19 ส่วนคําสถิติ t-test มีคําเท่ากับ 22.62 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหลังเรียน นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอยํางมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลัง เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอาจสืบเนื่องมาจากเนื้อหาภายใน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียน


20 โดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ในการวาดภาพตัวการ์ตูนพร้อมระบายสีตามประเทศอาเซียนที่สนใจของ นักเรียนที่ต้องการเรียนรู้เนื้อหาการวาดภาพการ์ตูน โดยการใช้แบบฝึกเสริมทักษะ ในการวาดภาพระบายสีตัว การ์ตูน เป็นการให้ความรู้ผ่านโครงสร้างทั้งทางด้านทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติตามหน่วยกิจกรรมการเรียนรู้ อย่างมีประสิทธิภาพชัดเจนและเหมาะสม โดยมีรายละเอียดที่เข้าใจง่ายและช่วยส่งเสริมความเข้าใจของ นักเรียนต่อการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ได้เป็นอย่างดี โดยคะแนนผลงานหลังการใช้แบบฝึกเสริมทักษะในการ วาดภาพตัวการ์ตูน สูงกว่าก่อนการใช้อย่างเห็นได้ชัด เป็นสื่อช่วยพัฒนานักเรียน ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นสื่อการเรียนรู๎ที่ดีทั้งในและนอกห้องเรียน ดังนั้นแบบฝึกเสริมทักษะในการวาดภาพตัวการ์ตูนจึงมี ความสำคัญต่อนักเรียนและมีประโยชน์ต่อวิชาศิลปะ สอดคล้องกับงานวิจัยของศิริพงศ์ พะยอมแย้ม (2545: บทคัดย่อ) ทำการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะในการประดิษฐ์ตัวอักษร ด้วยชุดฝึกทักษะด้วย ตนเองโดยนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พบว่านักศึกษาที่มีทักษะในการประดิษฐ์ ตัวอักษรหลังจากการใช้แบบฝึกสูงกว่าก่อนการใช้แบบฝึกกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จะเห็นได้ว่า ชุดฝึกทักษะในการประดิษฐ์อักษรด้วยตนเอง เป็นพื้นฐานที่ใช้ถ่ายโยงการเรียนรู้ระหว่างครูผู้สอนกับตัวผู้เรียน ทั้งยังมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ปลูกฝังชีวิตที่ดีเพื่อการดำรงชีวิตที่มีคุณภาพช่วยการเรียนของ นักเรียนที่อ่อน เสริมความรู้ของนักเรียนที่เก่งดังนั้น การนำรูปแบบและสร้างแนวทางการสอนที่ดีมาใช้ย่อมส่ง ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้สูงขึ้นตามไปด้วย จากการให้นักเรียนได้ลงมือทำงานปฏิบัติและตรวจให้คะแนน โดยผู้เชี่ยวชาญทั้ง 2 ท่าน นักเรียนที่ สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างสมบูรณ์คะแนนจะสูงมากกว่านักเรียนที่สร้างสรรค์ผลงานที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งมีตัวแปร หลายประการที่มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ได้แก่ พื้นฐานทางความคิดหรือพุทธิพิสัย เช่น ส่วนปัญญาที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ความฉลาด ความถนัด และลักษณะพื้นฐานด้านจิตพิสัย เช่น ความสนใจ ความมานะตั้งใจ และความขยันรวมทั้งเจตคติต่อรายวิชา คุณภาพการเรียนการสอน เช่น การเสริมแรงจากครู การได้รับค้าแนะนำและการมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน (Bloom, 1982: 166-175, อ้างถึงใน วิวัตร์พงษ์ สุภา, 2544:14-15) นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่มีผลสัมฤทธิ์ต่อการเรียน เช่น ปัจจัยทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม แรงจูงใจ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสติปัญญา ได้แก่ เชาว์ ปัญญา ความถนัด ความรู้ ข้อเสนอแนะ จากผลการวิจัยที่เสนอไปแล้วนั้น ผู้วิจัยขอนำเสนอแนวคิดและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับผล การวิจัยครั้ง นี้เป็น 2 ประการ คือข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการวิจัยไปใช้และข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป โดยมี รายละเอียดดังนี้ ข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการวิจัยไปใช้ 1. จากการวิจัยพบว่า นักเรียนตั้งใจที่จะศึกษาความรู๎จากการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูนเป็นอย่างมาก โดยนักเรียนให้ความสนใจในเนื้อหามากขึ้น ดังนั้น จึงควรมีขั้นตอนรูปภาพผลงานตัวอย่าง ประกอบคำบรรยายให้มีความชัดเจนตรงกับเนื้อหาที่ต้องการ นำเสนอและมีความหลากหลาย


21 2. การส่งเสริมให้นักเรียนมีเจตคติที่ดี มั่นใจ สามารถนำตนเองได้อาจด้วยการจัดการเรียนการสอน ของผู้สอนเอง หรือการสร้างรูปแบบที่เร้าความสนใจ เพื่อให้นักเรียนเข้าใจว่าวิชาศิลปะไม่ได้เป็นวิชาที่ยากเกิน ความสามารถของนักเรียน หรือวิชาศิลปะไม่ได้มุ่งที่ความสวยงามของผลงานดังเช่นที่ปลูกฝังกันมาตั้งแต่อดีต เพียงอย่างเดียว จะต้องทำให้เข้าใจ ซาบซึ้งถึงคุณคําของศิลปะอันจะก่อให้เกิดลักษณะนิสัยที่จะส่งผลต่อการ นำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสมและมีความสุข 3. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึก เสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน ควรมีการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ที่สามารถตอบสนองการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับสภาพความ เป็นจริง และความแตกต่างระหว่างบุคคลจึงควรพัฒนาสู่การสร้างสรรค์สาระวิชาอื่น ๆ ที่ต้องอาศัยการปฏิบัติ หรือสร้างสรรค์เป็นผลงาน ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะเพื่อทำการวิจัยในครั้งต่อไปสำหรับผู้ที่สนใจในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการ สร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูนดังนี้ 1. ควรมีการวิจัยและพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ์ตูนกับการสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดย ใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสี ตัวการ์ตูนอย่างต่อเนื่องโดยมีการเผยแพร่สู่ในสื่อสารสนเทศในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ทางการศึกษากับ ผู้สนใจ 2. ควรมีการศึกษาเกี่ยวกับบทเรียนมัลติมีเดียของการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การ์ตูนกับ การสร้างสรรค์สังคมอาเซียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะที่มุ่งเน้นการใช้จินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานโดย ใช้เทคนิคการวาดภาพระบายสีตัวการ์ตูน 3. ควรมีการวิจัยเกี่ยวกับเนื้อหาอื่น ๆ ของงานทัศนศิลป์ประเภทต่าง ๆ เช่น การวิจัยในเรื่องการ พัฒนาชุดแบบฝึกเสริมทักษะเบื้องต้นในงานออกแบบประยุกต์ศิลป์ต่าง ๆ อย่างหลากหลายรูปแบบ


22 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด. กุศยา แสงเดช. (2542). แบบฝึก คู่มือพัฒนาสื่อการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : บริษัทสำนักพิมพ์แม็ค จำกัด. กำจร สุนพงษ์ศรี. (2555). สุนทรียศาสตร์:หลักปรัชญาศิลปะ ทฤษฎีทัศนศิลป์ ศิลปะวิจารณ์. กรุงเทพฯ : สำนัดพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ชุติมา เวทกร. (2551). การจัดการเรียนรู้สาระทัศนศิลป์พื้นฐานวัฒนธรรมชุมชน. กรุงเทพฯ : วี.พริ้นท์. พรรณี ชูทัย. (2522). จิตวิทยาการเรียนการสอน (psychology of learning and teaching). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ภาควิชาการศึกษา มหาลัยเกษตรศาสตร์. ราชบัณฑิตสถาน. (2546). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : บริษัทนามมีบุ๊คส์บลิเคชั่นส์ จำกัด. อ้อยมิพย์ ชาติมาลากร. (2532). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ผลการเรียนรู้ เรื่องการจำแนกคำในภาษาไทย ออกเป็น 7 ชนิด โดยใช้บทเพลงทำนองไทยสากล เกมประกอบการสอน. Tylor, แนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้ (Learning Ecology). [Online] เข้าถึงเมื่อ 17 ตุลาคม 2556. เข้าถึงได้จาก http://teacher80std.blodspot.com/2012/06/101-learning-ecology.html


ภาคผนวก


แผนการจัดการเรียนรู้ที่2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ รายวิชา ทัศนศิลป์ 32102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 หน่วยการเรียนที่ 2 เรื่อง การวาดการ์ตูนสร้างสรรค์เพื่อชีวิตและสังคม เวลา 3 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัด ศ 1.1 ม.5/11 วาดภาพระบายสีเป็นภาพล้อเลียน หรือภาพการ์ตูนเพื่อแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ สภาพสังคมในปัจจุบัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความเป็นความหมาย ขอบข่ายของการวาดภาพการ์ตูนสร้างสรรค์เพื่อชีวิตและสังคม (K) 2. อธิบายการวาดภาพการ์ตูนล้อเลียนเพื่อสร้างสรรค์สังคม (P) 3. วาดภาพการ์ตูนล้อเลียนสร้างสรรค์สังคม (A) 3. สาระสำคัญ การวาดภาพการ์ตูนพัฒนามาจากภาพร่างบนกระดาษของศิลปินในสมัยโบราณ ซึ่งในปัจจุบัน หมายถึง ภาพล้อ ภาพตลก เพื่อสร้างอารมณ์ขัน และล้อเลียนบุคคลและเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม ซึ่งนอกจาก สร้างความสนุกสนานแล้ว ยังช่วยชี้นำให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อชีวิต และสังคมส่วนรวมอีกด้วย 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (เขียนให้สอดคล้องกับแผนนี้) ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


5. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (K) อธิบายความเป็นความหมาย ขอบข่ายของการวาดภาพการ์ตูนสร้างสรรค์เพื่อชีวิตและสังคม ทักษะที่สำคัญ (P) อธิบายการวาดภาพการ์ตูนล้อเลียนเพื่อสร้างสรรค์สังคม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) วาดภาพการ์ตูนล้อเลียนสร้างสรรค์สังคม 6. จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ทักษะศตวรรษที่ 21 (ใช้เฉพาะแกนหลัก 4Cs) การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการสื่อสารสนเทศ และรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ความยืดหยุ่นและการปรับตัว การริเริ่มสร้างสรรค์และการเป็นตัวของตัวเอง ทักษะสังคม และสังคมข้ามวัฒนธรรม การเป็นผู้สร้างหรือผู้ผลิต และความรับผิดชอบเชื่อถือได้ ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ คุณลักษณะสำหรับศตวรรษที่ 21 คุณลักษณะด้านการทำงาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นำ คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชี้นำตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง คุณลักษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ เคารพผู้อื่น ความซื่อสัตย์ สำนึกพลเมือง 7. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) (เขียนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์) - งานชิ้นที่ 2 เรื่องศิลปินไทยและสากลแปรงร่างเป็นตัวการ์ตูน 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้กระบวนการ/ ใช้คำถาม/ ยกตัวอย่าง วิเคราะห์/ นำเสนอ/ ปฏิบัติ/ อภิปราย/ สืบค้นจากหนังสือเรียนหรือแหล่งเรียนรู้อินเตอร์เน็ต/ สรุปความ และบูรณาการหลักคิดของหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข)


ชั่วโมงที่1 ขั้นนำ ผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียนและทบทวนความรู้เดิมจากคาบที่ เรื่อง การวาดการ์ตูนสร้างสรรค์เพื่อชีวิต และสังคม ขั้นสอน 1. ผู้สอนแชร์ PowerPoint อธิบายทบทวนเนื้อหาเรื่อง การวาดการ์ตูนสร้างสรรค์เพื่อชีวิตและสังคม ความเป็นมาของคำว่า “การ์ตูน” หมายถึง ภาพวาดต่าง ๆ ที่วาดขึ้นโดยไม่เน้นให้เหมือนกับความเป็นจริง ทั้งหมด โดยจะตัดทอนรายละเอียดออกมา เป็นการเขียนขึ้นด้วยลายรูปเส้นแบบง่ายๆ 2. ผู้สอนอธิบายถึงลักษณะภาพวาดของการ์ตูนทั้ง 2 ลักษณะ 1) ลักษณะแบบธรรมชาติ เป็นแบบที่อิงลักษณะความเป็นธรรมชาติของสรรพสิ่งต่างๆ 2) ลักษณะแบบที่สร้างขึ้นตามจินตนาการเหนือรูปแบบที่พบเห็นในธรรมชาติทั่วไป 3. ผู้สอนอธิบายขอบข่ายของการวาดภาพการ์ตูนมีทั้งหมด 6 ประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไรและ เป็นลักษณะการ์ตูนรูปแบบไหนบ้างแต่ละเภท 1) การ์ตูนล้อบุคคล (Caricature) เป็นการ์ตูนวาดการ์ตูนล้อเลียนบุคคลจากจุดเด่นที่เป็น เอกลักษณ์บนใบหน้าของคน ๆ นั้น 2) การ์ตูนการเมือง (Political หรือ Editorial) เป็นการ์ตูนที่วาดขึ้นเพื่อเสียดสีประชดชัน นักการเมือง หรือเหตุการณ์ทางการเมือง ในลักษณะวิพากษ์วิจารณ์ 3) การ์ตูนขำขัน (Humorous /Gag Cartoon) เป็นการ์ตูนที่เขียนขึ้นเพื่อเน้นความตลก ขบขันเป็นหลัก เช่น การ์ตูนขายหัวเราะ เป็นต้น


4) การ์ตูนเรื่องยาว (Comics or Serial Cartoon) เป็นการ์ตูนที่เขียนขึ้นเพื่อนำเสนอเนื้อหา เรื่องราว เช่น การ์ตูนเล่มของฝรั่ง และญี่ปุ่น เป็นต้น 5) การ์ตูนประกอบเรื่อง (Illustrated Cartoon) เป็นการ์ตูนที่เขียนขึ้นเพื่อประกอบเนื้อหา ของข้อเขียนต่าง ๆ เช่น ประกอบสื่อการศึกษา ประกอบสื่อโฆษณา เป็นต้น 6) การ์ตูนมีชีวิต (Animated Cartoon) เป็นภาพยนตร์การ์ตูน เช่น สุดสาคร ก้านกล้วย และ วอลดิสนีย์ เป็นต้น


4. ผู้สอนให้ผู้เรียนเตรียมอุปกรณ์ทำงานมาทำในคาบหน้าดังนี้ รูปภาพตัวเองที่ผู้เรียนแต่งตัวเรียน แบบเป็นศิลปินที่ผู้เรียนชื่นชอบ มาทำเป็นงานชิ้นที่ 2 เรื่องศิลปินแปรงร่างเป็นตัวการ์ตูน โดยทำออกมาเป็น รูปแบบป๊อปอัป 3 มิติ ขั้นสรุป ผู้สอบและผู้เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นกับเนื้อหาที่เรียน และทบทวนกลับไปทบทวนเนื้อหาที่ เรียน ชั่วโมงที่2 ขั้นนำ ผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียนและทบทวนเนื้อหาจากคาบเรียนที่แล้ว และตรวจเช็คอุปกรณ์ในการทำงาน งานชิ้นที่ 2 เรื่องศิลปินแปรงร่างเป็นตัวการ์ตูน ขั้นสอน ผู้สอนให้ผู้เรียนเริ่มลงมือปฏิบัติทำงาน หากผู้เรียนคนใดยังทำไม่เสร็จให้นำมาทำต่อในคาบถัดไป ขั้นสรุป ผู้สอนให้ผู้เรียนกลับไปทบทวนเนื้อหาที่เรียน และให้ผู้เรียนนำงานมาทำต่อในคาบหน้า ชั่วโมงที่3 ขั้นนำ ผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียนและตรวจเช็คจำนวนผู้เรียนที่ยังทำงานไม่เสร็จงาน ขั้นสอน 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนเริ่มลงมือปฏิบัติทำงานต่อในเสร็จภายในคาบ 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนใน Google foom เรื่องการ์ตูนและภาพล้อเลียนกับการ สร้างสรรค์สังคม ขั้นสรุป ผู้สอนให้ผู้เรียนรวมกันสรุปทบทวนความรู้เรื่องการวาดภาพการ์ตูนล้อเลียนจากที่เรียนมาทั้งหมด 9. สื่อการสอน 1. หนังสือเรียนวิชาทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2. โปรแกรม PowerPoint เรื่องการ์ตูนและภาพล้อเลียนกับการสร้างสรรค์สังคม 3. แบบทดสอบหลังเรียน Google foom เรื่องการ์ตูนและภาพล้อเลียนกับการสร้างสรรค์สังคม


10. แหล่งเรียนรู้ 1. Google 2. ห้องสมุด 11. การวัดและประเมินผล 11.1 การประเมินตามจุดประสงค์/ตัวชี้วัด จุดประสงค์ วิธีวัดการวัด และประเมินผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน เกณฑ์การ ผ่าน 1 อธิบายความเป็นมความ หมาย ขอบข่ายของการวาด ภาพการ์ตูนสร้างสรรค์เพื่อ ชีวิตและสังคม(K) - สังเกตพฤติกรรม นักเรียนในการตอบ คำถามและร่วมแสดง ความคิดเห็น ตอบคำถามในชั้น เรียน ได้คะแนนไม่ต่ำ กว่า ร้อยละ 60 - ผ่านตั้งแต่ 2 รายการถือว่า ผ่าน 2. อธิบายการวาดภาพ การ์ตูนล้อเลียนเพื่อ สร้างสรรค์สังคม(P) - สังเกตพฤติกรรม นักเรียนในการทำ กิจกรรม ประเมินการ วิเคราะห์รูปแบบ เส้นสร้างสรรค์ ในงานทัศนศิลป์ - การประเมิน พฤติกรรมจาก การทำกิจกรรม - คะแนน ระดับพอใช้ถือ ว่าผ่านเกณฑ์ 3.วาดภาพการ์ตูนล้อเลียน สร้างสรรค์สังคม (A) - การสรุปผลอภิปราย สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน


11.2 การประเมินสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และทักษะศตวรรษที่ 21 สมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทักษะศตวรรษที่ 21 ประเด็นการประเมิน วิธีวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน ๑. ความสามารถในการตอบ คำถามและร่วมกันแสดง ความคิด - สังเกตพฤติกรรมนักเรียนใน การตอบคำถามและร่วมแสดง ความคิดเห็น แบบสังเกตพฤติกรรม ในการทำกิจกรรมใน ชั้นเรียน ได้คะแนนไม่ต่ำ กว่า ร้อยละ ๖๐ ๒. อธิบายการวาดภาพ การ์ตูนล้อเลียนเพื่อ สร้างสรรค์สังคม - สังเกตพฤติกรรมนักเรียนใน การทำกิจกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม ในการทำกิจกรรมใน ชั้นเรียน ได้คะแนนไม่ต่ำ กว่า ร้อยละ ๖๐ ๓. ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน - การสรุปผลอภิปราย แบบสังเกตพฤติกรรม ในการทำกิจกรรมใน ชั้นเรียน ได้คะแนนไม่ต่ำ กว่า ร้อยละ ๖๐ 12. ข้อเสนอแนะ (ผู้ใช้แผนเขียนเสนอแนะ) ............................................................................................................................. ................................................ ........................................................................................................................................ .................................... ลงชื่อ......................................................................ครูผู้สอน (...............................................) ตำแหน่ง................................................... ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้/หัวหน้ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. .. ลงชื่อ...............................................หัวหน้ากลุ่มสาระฯ (.......................................................) …………./……………./…………


ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ..................................................................แล้วมีความคิดเห็น ดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจรรมได้นำกระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................ ลงชื่อ.............................................รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารวิชาการ (นางอัมพร สงวนศักดิ์) …………./……………./………… ความคิดเห็น ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.............................................ผู้อำนวยการโรงเรียน (นางยุภา พรเศรษฐ์) …………./……………./…………


13. บันทึกหลังสอน 1. ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนระดับชั้น ....................................................................... จำนวน.........................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้โดยรวม...............คน คิดเป็นร้อยละ..................... ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้โดยรวม..................คน คิดเป็นร้อยละ............................. ได้แก่ 1. ………………………………………………………………………………………….. 2. …………………………………………………………………………………………. นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ/นักเรียนเด็กพิเศษ ได้แก่ 1. ....................................................... 2. ....................................................... 3. ....................................................... 4. ....................................................... 5. ....................................................... นักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินจุดประสงค์ด้านความรู้ (K) จำนวน............................คน ได้แก่ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................................................................. นักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินจุดประสงค์ด้านทักษะ (P) จำนวน.............................คน ได้แก่ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ นักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินจุดประสงค์ด้านเจตคติ (A) จำนวน............................คน ได้แก่ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ 2. ปัญหา/อุปสรรค ........................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................. ............................................................ 3. แนวทางแก้ไข/ข้อเสนอแนะ (จากปัญหาอุปสรรค) ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................................ครูผู้สอน (...............................................) ตำแหน่ง................................................... …………./……………./………


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✔ ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 0 1. มีวินัย 1.1 เข้าเรียนตรงเวลา 1.2 แต่งกายเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ 2. วิเคราะห์ 2.1 แสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ 2.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 2.3 สรุปความรู้ได้อย่างมีเหตุผล 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 3.1 มีความตั้งใจ และพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 3.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ ลงชื่อ......................................................................ผู้ประเมิน (.....................................................................) .......... /................................/...................... เกณฑ์การให้คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมที่ไม่ได้ปฏิบัติ ให้ 0 คะแนน


Click to View FlipBook Version