51
7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
8. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
9. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำ
1. ครใู หน้ กั เรียนพิจารณาสถานการณ์ในหนงั สือเรียน หน้า 273 แม่บรจิ าคหนังสือ 2 กอง กองละ 24
เล่ม แม่ บริจาคหนังสอื ทงั้ หมดกี่เล่ม เขียนประโยคสัญลกั ษณ์ได้ 2 × 24 = ครใู ช้แผ่นตารางสบิ แผน่
ตารางหน่วย ช่วยอธบิ ายขน้ั ตอนการคณู โดยใช้ความหมายการคณู มาชว่ ยอธิบายวา่ 2 × 24 หมายถงึ จัดแผน่
ตารางสบิ และตารางหน่วยเป็น 2 กลุม่ กลุ่มละ 24 จะได้ แผ่นตารางสิบ กลุ่มละ 2 แผน่ และแผ่นตารางหน่วย
กลุ่มละ 4 แผน่ จะได้ แผน่ ตารางสบิ ท้ังหมด 4 แผ่น เท่ากับ 4 สิบ และแผ่นตารางหนว่ ยทงั้ หมด 8 แผน่
เทา่ กบั 8 หนว่ ย รวมเปน็ 48 ดงั นั้น 2 × 24 = 48 ซ่ึงในการหาผลคณู โดยใชแ้ ผ่นตารางสิบ และแผ่นตาราง
หน่วย ครูอาจชใี้ ห้นักเรียนเห็นว่า การจดั แผ่นตารางสิบ เป็น 2 กลุม่ กลมุ่ ละ 2 แผน่ นั้นคือ 2 × 20 และการ
จัดแผน่ ตารางหนว่ ยเปน็ 2 กลุ่ม กลุม่ ละ 4 แผน่ นน้ั คือ 2 × 4 ดงั นนั้ 2 × 24 = 48 มาจาก 2 × 20 = 40 กับ
2×4=8
ข้ันสอน
2. ให้นักเรยี นเชือ่ มโยงไปสู่การคณู โดยการต้งั คณู ทตี่ ้องคณู ในหลักหน่วยและหลกั สิบ จากนัน้ ครู
แนะนำข้นั ตอนการตัง้ คูณ ดังน้ี
ขั้นที่ 1 คณู ในหลักหนว่ ย 2 คูณ 4 หนว่ ย ได้ 8 หน่วย เขยี น 8 ในหลกั หน่วย
ขัน้ ที่ 2 คูณในหลักสบิ 2 คูณ 2 สิบ ได้ 4 สิบ เขียน 4 ในหลกั สิบ
เขยี นการต้ังคูณไดต้ ามหนังสอื เรยี นหนา้ 273
หลักสบิ หลักหน่วย
2 4 ×
2
48
ดังน้นั แมบ่ ริจาคหนังสือทง้ั หมด 48 เลม่
3. ครูยกตัวอยา่ งการหาผลคูณของจำนวนหน่งึ หลักกบั จำนวนสองหลักโดยการตัง้ คณู เช่น 13 × 3 =
ครูใช้การถาม-ตอบ เพื่อใหน้ กั เรยี นหาผลคณู ตามขน้ั ตอนการตงั้ คณู ตามหนงั สือเรยี น หนา้ 274 โดยให้คูณใน
หลักหนว่ ยกอ่ น แล้วจึงคณู ในหลักสิบ ดังน้ี
52
ขั้นท่ี 1 คูณในหลกั หน่วย 3 คูณ 3 หน่วยได้ 9 หนว่ ย เขียน 9 ในหลักหน่วย
ข้ันที่ 2 คณู ในหลักสิบ 3 คูณ 1 สิบ ได้ 3 สบิ เขยี น 3 ในหลกั สิบ
เขยี นการต้งั คูณไดต้ ามหนังสอื เรยี นหนา้ 274
หลักสบิ หลักหน่วย
1 3 ×
3
39
ดงั นน้ั 13 × 3 = 39
4. ครูยกตวั อยา่ ง การหาผลคูณโดยการตั้งคูณของ 4 × 80 = ครูเน้นยำ้ ว่า ในการตงั้ คณู จะเขียน
จำนวนใดขึ้นก่อนก็ได้ เช่น 4 × 80 = เพอื่ ความสะดวกจะเขียน 80 ขน้ึ ก่อน ตามหนังสือเรยี นหน้า 274
ขั้นที่ 1 คูณในหลกั หนว่ ย
ขน้ั ท่ี 2 คูณในหลักสบิ
หลักสบิ หลักหนว่ ย
8 0 ×
4
32 0
ดงั น้นั 4 × 80 = 320
ขั้นสรุป
5. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยใหน้ ักเรยี นแสดงวิธีหาผลคณู โดยการตง้ั คณู ตามหนังสอื เรียน
หน้า 276 และใช้ขอ้ สรปุ ว่า ใหค้ ูณในหลกั หน่วยกอ่ นแล้วจึงคูณในหลักสิบ
6. จากนน้ั ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้ ถ้ามนี ักเรียนเขยี น
แสดงวธิ ีหาผลคณู โดยการตัง้ คูณไม่ถูกต้องครูควรให้นกั เรียนมาฝึกเพิ่มเติมกับครูเปน็ รายบุคคล
ส่งิ ทีไ่ ด้เรียนรู้ • การหาผลคูณของจำนวนหน่ึงหลกั กบั จำนวนสองหลักโดยการตงั้ คณู
ต้องคูณในหลกั หน่วยก่อน แล้วคณู ในหลักสิบ
7. จากนัน้ ให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด 5.9 หน้า 176 – 177
10. สอ่ื การเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
2.แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
3.แผน่ ตารางสิบ แผน่ ตารางหน่วย
4.แบบฝกึ เสรมิ ทักษะเลม่ ท่ี 3
53
11. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล
1.1 ตรวจแบบฝึกหัด
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม
1.3 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
2. เครอื่ งมือ
2.1 แบบฝกึ หัด
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น
54
แผนการจัดการเรยี นรู้
กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เร่ือง การคูณ เวลา 22 ชวั่ โมง
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 12 เรอ่ื ง การคณู จำนวนหน่ึงหลักกับจำนวนสองหลกั โดยการตัง้ คณู เวลา 1
ชวั่ โมง
ผสู้ อน นางสาวปาณิสรา คำมลู วันที่ ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลทีเ่ กดิ ขึ้นจากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตวั ชีว้ ัด
ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคูณของจำนวน 1 หลักกับ
จำนวนไม่เกิน 2 หลกั
3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การหาผลคูณของจำนวน 1 หลกั กับจำนวน 2 หลักโดยการตัง้ คูณ ตอ้ งคูณในหลักหนว่ ยกอ่ น แล้วคณู ใน
หลกั สบิ ถ้าผลคูณในหลกั ใดครบสิบ หรอื มากกว่าสิบ ใหท้ ดจำนวนทคี่ รบสิบไปหลกั ถัดไปทางซ้าย
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายการหาผลคณู จำนวนหนงึ่ หลักกบั จำนวนสองหลกั โดยการตั้งคูณได้ (K)
2) หาผลคูณจำนวนหนึ่งหลกั กบั จำนวนสองหลัก โดยการตัง้ คูณได้ (P)
3) รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ีทไ่ี ด้รบั มอบหมาย (A)
5. สาระการเรียนรู้
การหาผลคูณ
6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์
การแกป้ ัญหา
✓ การส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
✓ การเชอ่ื มโยง
✓ การใหเ้ หตผุ ล
การคดิ สรา้ งสรรค์
55
7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
8. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุง่ มัน่ ในการทำงาน
9. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นำ
1. ครูทบทวนการหาผลคูณโดยการต้ังคณู ท่ไี ม่มีทดโดยใชแ้ บบฝกึ หดั จากชวั่ โมงที่แลว้ มาเฉลยใน
หอ้ งเรยี น
2. จากน้นั ครูสนทนากับนักเรยี นเก่ียวกบั สถานการณ์ในหนังสือเรยี นหน้า 277 ตน้ กลา้ ซอื้ ไกส่ ะเต๊ะ 3
ถงุ
ถุงละ 15 ไม้ ต้นกลา้ ซอ้ื ไกส่ ะเตะ๊ ทงั้ หมดก่ีไม้ ครูถามนักเรยี นว่า จากสถานการณ์เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ได้
อย่างไรนักเรยี นตอบว่า เขยี นประโยคสัญลักษณ์ได้ 3 × 15 =
ขน้ั สอน
3. ครถู ามนักเรียนว่า จะหาผลคูณโดยการตัง้ คูณไดอ้ ย่างไร ครูอธิบายการหาผลคูณโดยการตง้ั คูณท่ีมี
ทด
ดังน้ี ขัน้ ท่ี 1 คูณในหลกั หนว่ ย 3 คูณ 5 หน่วยได้ 15 หน่วยหรือ 1 สิบกับ 5 หน่วย เขียน 5 ในหลักหน่วย
และทด 1 สบิ ไปหลักสบิ
ข้ันท่ี 2 คูณในหลกั สบิ 3 คูณ 1 สิบ ได้ 3 สบิ รวมกับทที่ ดมาอีก 1 สิบ เป็น 4 สบิ เขยี น 4 ในหลักสิบ
เขียนแสดงการคูณไดด้ ังนี้
หลักสบิ หลักหนว่ ย
11
5 ×
3
45
ดังน้ัน ตน้ กลา้ ซ้ือไก่สะเต๊ะทง้ั หมด 45 ไม้
4. ครูยกตัวอย่างการหาผลคูณโดยการต้งั คูณตามหนังสือเรยี นหนา้ 278 8 × 47 = ซง่ึ ใน
ตวั อย่างนผี้ ลคณู จะเป็นจำนวนสามหลกั ครอู ธบิ ายข้ันตอนการต้ังคูณ ดังน้ี
ขน้ั ที่ 1 คณู ในหลกั หน่วย 8 คูณ 7 หนว่ ยได้ 56 หนว่ ย หรอื 5 สิบกับ 6หน่วย เขียน 6 ในหลักหน่วย และ
ทด 5 สิบ ไปหลักสิบ
56
ขัน้ ที่ 2 คูณในหลักสบิ 8 คูณ 4 สบิ ได้ 32 สบิ รวมกับทที่ ดมาอีก 5 สิบ เป็น 37 สบิ หรอื 3 รอ้ ย กับ 7
สิบ เขียน 7 ในหลักสิบ และ 3 ในหลกั รอ้ ย
เขยี นแสดงการคณู ไดด้ ังน้ี
หลกั ร้อย หลกั 4ส5ิบ หลกั หนว่ ย
7 ×
8
37 6
ดงั นั้น 8 × 47 = 376
5. จากนน้ั ครูช่วยกันแสดงวธิ ีหาผลคูณของ 39 × 6 = และ 9 × 27 = ในกรอบท้ายหนา้
278 ครูและนักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง
6. ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกันแสดงวธิ ีหาผลคูณของจำนวนหน่ึงหลกั กับจำนวนสองหลักโดยการตั้งคณู ท่ีมี
ทด ตามหนงั สอื เรียน หนา้ 279 โดยครูยกตวั อยา่ ง 3 × 27 = ดังน้ี
วธิ ที ำ 2 7 ×
3
81
ตอบ ๘๑
7. จากนั้นครสู มุ่ นกั เรียนออกมาเขียนแสดงวิธีหาผลคูณของ 34 × 7 = ครแู ละนกั เรยี นร่วมกัน
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง แลว้ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั หาผลคณู ข้อท่ี 1 − 8 โดยการตั้งคูณลงในสมดุ
ขน้ั สรปุ
8. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยใหน้ ักเรยี นแสดงวธิ หี าผลคูณโดยการตงั้ คณู ตามหนงั สือเรยี น
หนา้ 280 และใช้ข้อสรุปว่า ใหค้ ณู ในหลกั หนว่ ยกอ่ นแลว้ จงึ คณู ในหลักสบิ หากผลคณู ในหลักหนว่ ยครบสบิ
หรือมากกว่าสิบให้ทดจำนวนทค่ี รบสบิ ไปหลกั สบิ หากผลคูณในหลักสิบครบสิบหรือมากกว่าสิบใหท้ ดจำนวนที่
ครบสิบไปหลกั ร้อย
9. จากนั้นครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ สงิ่ ท่ไี ด้เรยี นรู้ ถ้ามนี ักเรียนเขียน
แสดงวิธี
หาผลคูณโดยการต้งั คูณไมถ่ ูกตอ้ ง ครูควรใหน้ ักเรียนมาฝึกเพิ่มเติมกับครเู ป็นรายบคุ คล• การหาผลคูณของ
จำนวนหน่ึงหลักกับจำนวนสองหลักโดยการตั้งคูณ ต้องคณู ในหลกั หนว่ ยกอ่ นแลว้ คูณในหลกั สิบ ถ้าผลคณู ใน
หลกั ใดครบสิบหรอื มากกว่าสิบ ใหท้ ดจำนวนท่คี รบสิบไปหลักถดั ไปทางซา้ ย
10. จากน้ันให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด 5.10 หน้า 178 – 180
10. สื่อการเรยี นรู้
1. หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
2.แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
3. แผน่ ตารางสิบ แผ่นตารางหน่วย
4.แบบฝึกเสรมิ ทักษะเล่มที่ 3
57
11. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล
1.1 ตรวจแบบฝึกหัด
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม
1.3 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
2. เครอื่ งมือ
2.1 แบบฝกึ หัด
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
58
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เร่อื ง การคูณ เวลา 22 ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 13 เรื่อง การพฒั นาความรู้สกึ เชิงจำนวนเกีย่ วกับการคณู เวลา 1 ชั่วโมง
ผูส้ อน นางสาวปาณสิ รา คำมลู วันที่ ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลทีเ่ กดิ ขนึ้ จากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตัวช้ีวดั
ค 1.1 ป.2/5 หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการคูณของจำนวน 1 หลกั กับ
จำนวนไมเ่ กิน 2 หลกั
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
ความรู้สึกเชิงจำนวนเกี่ยวกับการคูณเป็นการบอกว่าผลคูณของจำนวนสองจำนวนใดมีค่า มากกว่ากัน
นอ้ ยกว่ากัน หรือเท่ากัน โดยไมต่ ้องหาผลคณู ของสองจำนวนนัน้
4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) บอกว่าผลคณู ของจำนวนสองจำนวนใดมคี ่า มากกว่ากัน น้อยกวา่ กนั หรือเท่ากัน โดยไม่ต้องคำนวณ
ได้ (K)
2) พัฒนาความรสู้ กึ เชิงจำนวนเก่ยี วกับการคูณได้ (P)
3) รบั ผิดชอบต่อหน้าที่ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย (A)
5. สาระการเรียนรู้
การหาผลคณู
6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์
การแกป้ ัญหา
✓ การส่ือสารและการสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
✓ การเชื่อมโยง
✓ การใหเ้ หตุผล
การคดิ สร้างสรรค์
59
7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
8. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
9. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำ
1. ครูทบทวนการหาผลคณู ของจำนวนหนึ่งหลกั กับจำนวนหนงึ่ หลกั โดยสุ่มนักเรยี นหาผลคูณของ
5 × 8 5 × 9 และ 5 × 10 ครูเขียน 5 × 8 = 40 5 × 9 = 45 และ 5 × 10 = 50 บนกระดาน แล้วให้
นกั เรียนสงั เกตผลคูณทีไ่ ดว้ า่ เพ่ิมขึ้นหรือลดลง (40 45 และ 50 เป็นจำนวนที่เพมิ่ ขนึ้ )
ขัน้ สอน
2. ครใู หน้ กั เรยี น สงั เกตจำนวนท่มี าคูณกับ 5 วา่ เพ่ิมขนึ้ หรือลดลง (8 9 และ 10 เป็นจำนวนท่ี
เพิม่ ข้ึน) ครใู ช้คำถามว่า ถา้ หา 5 × 12 จะได้ผลคูณมากกว่าหรือนอ้ ยกวา่ 5 × 10 นกั เรียนตอบว่า มากกวา่
เพราะ 12 มากกวา่ 10
3. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปว่า จำนวนสองจำนวนเมอ่ื นำแตล่ ะจำนวนมาคณู กับ 5 จำนวนใด
มากกว่าผลคูณของจำนวนน้ันกบั 5 จะมากกว่า จากนน้ั ครใู หน้ ักเรยี นหาผลคูณของจำนวนในลักษณะเดยี วกัน
นี้ เชน่ 4 × 6 และ 4 × 13 ครถู ามวา่ 4 × 6 กบั 4 × 13 ผลคูณของจำนวนใดมากกว่า นักเรยี นตอบวา่ 4 ×
13 ครถู ามว่า รู้ไดอ้ ย่างไร นักเรียนตอบวา่ เพราะ 13 มากกวา่ 6 ดงั นัน้ 4 × 13 มากกว่า 4 × 6
4. ครตู ดิ บตั รโจทย์การคูณ 7 × 6 และ 7 × 9 และถามว่า 7 × 6 กบั 7 × 9 ผลคูณใดมากกวา่ ครู
และนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายและสรปุ วา่ ผลคณู ของ 7 × 9 มากกวา่ 7 × 6 เพราะ 9 มากกว่า 6
5. ครตู ดิ บัตรโจทย์การคูณ 12 × 5 และ 8 × 12 และถามวา่ 12 × 5 กับ 8 × 12 ผลคูณใดนอ้ ยกวา่
ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายและสรุปคำตอบว่า ผลคูณของ 12 × 5 นอ้ ยกว่า 8 × 12 เพราะ 5 น้อยกวา่ 8
ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันเรียงลำดบั ผลคณู จากมากไปน้อยในกรอบท้ายหน้า 281 โดยให้สงั เกตวา่ จำนวนสอง
จำนวนทนี่ ำมาคูณกันนั้นมจี ำนวนใดท่ีเหมือนกนั แลว้ ใหพ้ จิ ารณาจำนวน อีกจำนวนหนง่ึ ว่า นอ้ ยกวา่ กนั หรอื
มากกว่ากัน โดยไมจ่ ำเป็นต้องหาผลคณู ของสองจำนวนนนั้
6. ครูใหน้ ักเรียนหาผลคณู ของ 1 × 3 และ 2 × 4 แลว้ ถามนักเรยี นว่า ผลคณู ใด มากกว่า นกั เรียน
ตอบวา่ 2 × 4 = 8 มผี ลคณู มากกวา่ 1 × 3 = 3 ครใู ห้นักเรียนหาผลคณู ของ 2 × 3 และ 4 × 5 แลว้ ถาม
นกั เรียนวา่ ผลคูณใดมากกว่า นกั เรียนตอบวา่ 4 × 5 = 20 มผี ลคูณมากกวา่ 2 × 3 = 6 จากน้นั ครูถาม
นกั เรียนว่า 2 × 5 และ 4 × 6 ผลคูณใด มากกว่า โดยไม่ต้องหาผลคณู นกั เรยี นอาจจะยังตอบไม่ได้ ครูให้
นักเรียนสังเกตวา่ 4 มากกว่า 2 และ 6 มากกวา่ 5 ดังนน้ั 4 × 6 มากกวา่ 2 ×
60
7. ครูติดบตั รโจทย์การคูณ 11 × 3 และ 12 × 5 ผลคูณใดมากกว่า โดยไม่ต้องหาผลคณู นักเรยี นอาจ
ยังตอบไมไ่ ด้ ครอู าจใหน้ กั เรียนหาผลคณู ก่อน ตามหนังสือเรียนหน้า 282 จากน้นั ใหน้ ักเรยี นสงั เกต ดงั นี้ 11 ×
3 กบั 12 × 5 ผลคณู ใดมากกวา่ สงั เกต 11 กับ 12 จำนวนใดมากกวา่ (12 มากกว่า 11) 3 กับ 5 จำนวนใด
มากกวา่ (5 มากกวา่ 3) ดังน้ัน 12 × 5 มีผลคูณมากกว่า 11 × 3
8. จากนัน้ ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปขอ้ สังเกตท่ีได้ คือ 12 มากกวา่ 11 และ 5 มากกว่า 3 จึงไดว้ า่
12 × 5 มีผลคณู มากกว่า 11 × 3
9. ครูติดบัตรโจทยก์ ารคูณ 78 × 9 กบั 56 × 7 และถามวา่ ผลคูณใดนอ้ ยกว่า เพราะเหตใุ ด โดยไม่
ต้องหาผลคณู ครใู ห้นักเรยี นสังเกตจำนวนสองจำนวนท่ีนำมาคณู กันแลว้ ใช้ข้อสรปุ ที่ได้ จากข้างต้นเพื่อหา
คำตอบว่าผลคูณของสองจำนวนใดนอ้ ยกวา่ ดังนี้ 56 น้อยกวา่ 78 และ 7 น้อยกว่า 9 ดังนั้น 56 × 7 มีผลคณู
น้อยกว่า 78 × 9 ครูใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตอบคำถาม ในกรอบท้ายหนา้ 282 ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง
10. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันเติมเคร่ืองหมาย > < หรือ = ใน โดยครูอาจใช้คำถามนำเพื่อให้นักเรียนนำ
ข้อสรุปขา้ งต้นมาใช้ในการเปรียบเทียบผลคณู เช่น 6 × 53 กบั 7 × 53 จำนวนทีเ่ หมอื นกนั คือ 53 จำนวนที่
นำมาคณู กับ 53 คือ 6 กับ 7 ครถู ามว่า จำนวนใดน้อยกว่า นักเรียนตอบว่า 6 น้อยกวา่ 7 ครูถามต่อไปว่า 6 ×
53 กบั 7 × 53 ผลคณู ใดน้อยกว่า นกั เรยี นควรตอบไดว้ า่ 6 × 53 มผี ลคณู น้อยกว่า 7 × 53 ขอ้ อื่น ๆ ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั ทำ สำหรบั ข้อท่ีให้เติมตวั เลขแสดงจำนวนน้ันอาจมีคำตอบหลายคำตอบ ครูควรให้นกั เรียน
เลอื กคำตอบมาเตมิ เพียงจำนวนเดียว ซง่ึ คำตอบของนักเรียนแตล่ ะคนอาจไมเ่ หมือนกัน หากมีนักเรยี นคนใด
ตอบไม่ถูกตอ้ ง ครูอาจอธิบายเพมิ่ เติม เชน่ 19 × 3 < 19 × ครถู ามว่า เตมิ ตัวเลขแสดงจำนวนใดในช่องวา่ ง
ครใู หน้ กั เรยี นหาตัวเลขแสดงจำนวน
ท่เี ติมในช่องวา่ ง โดยใชค้ ำถาม เชน่
• จำนวนทีเ่ ตมิ ในช่องวา่ งมากกว่าหรือนอ้ ยกว่า 3 (มากกวา่ 3)
• จำนวนท่ีเติมในชอ่ งว่างเป็นจำนวนใดไดบา้ ง (คำตอบมมี ากกวา่ 1 คำตอบ เช่น 4 5 6 หรือ 7)
สำหรับคำถามข้อ 1 − 4 ในกรอบท้ายหน้า 283 บางข้อจะมีคำตอบหลายคำตอบ ครูควรให้นักเรยี นตอบมาให้
ครบทกุ คำตอบจากนน้ั ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยและตรวจสอบความถูกต้อง ถา้ มีนักเรียนตอบคำถามไม่
ถกู ต้อง
11. ครอู าจถามเพิม่ เตมิ วา่ จำนวนนบั สองจำนวนท่ีคูณกนั ได้ 8มีจำนวนใดบ้าง (1 × 8 และ 4 × 2)
ครูใหย้ กตวั อย่าง จำนวนนับสองจำนวนใดบ้างท่ีคูณกันไดม้ ากกวา่ 8 เชน่ 2 × 9 5 × 3
ขัน้ สรปุ
12. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยให้นักเรยี นเติมเคร่อื งหมาย > < และ = ลงในชอ่ งว่างเปน็
รายบุคคล จากน้ันครูและนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ สิ่งที่ไดเ้ รียนรู้
ส่ิงท่ีได้เรียนรู้ • เราสามารถบอกไดว้ ่าผลคณู ของจำนวนสองจำนวนใดมีค่ามากกวา่ กนั น้อยกว่ากัน
หรอื เทา่ กนั โดยไม่ต้องหาผลคณู ของสองจำนวนนนั้
13. จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหดั 5.11 หนา้ 181 – 182
61
10. สอื่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
2. แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
3. บัตรโจทยก์ ารคณู
11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล
1.1 ตรวจแบบฝึกหดั
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม
1.3 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
2. เครือ่ งมือ
2.1 แบบฝึกหัด
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์
3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ
ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ ่าน
62
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง การคณู เวลา 22 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 14 เร่ือง การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์การคณู เวลา 1
ช่วั โมง
ผสู้ อน นางสาวปาณสิ รา คำมูล วนั ท่ี ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลทเ่ี กิดขนึ้ จากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตัวชว้ี ดั
ค 1.1 ป.2/5 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการคูณของจำนวน 1 หลกั กบั
จำนวนไมเ่ กิน 2 หลัก
3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณ อาจใชส้ ูตรคณู
4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายวธิ กี ารหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์การคูณได้ (K)
2) หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณก์ ารคูณได้ (P)
3) รบั ผิดชอบต่อหน้าที่ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย (A)
5. สาระการเรียนรู้
- การหาผลคณู
- ความสมั พันธ์ของการคูณและการหาร
6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์
การแก้ปัญหา
✓ การสอื่ สารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
✓ การเชอ่ื มโยง
✓ การให้เหตุผล
การคิดสร้างสรรค์
63
7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
8. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
9. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำ
1. ครูสนทนากับนักเรยี นเกย่ี วกับการหาคา่ ของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์การคูณ
เชน่ 2 × = 6 ครูถามนกั เรยี นว่า 2 คูณจำนวนใดได้ 6 ครูให้นกั เรียนทอ่ งสูตรคูณ แม่ 2
พรอ้ มกนั นักเรียนควรตอบได้วา่ 2 × 3 = 6 ดังนั้น จำนวนทีค่ ูณกับ 2 ได้ 6 คือ 3
2. จากนน้ั ครูติดบตั รโจทย์การคูณ 6 × = 24 แล้วถามนักเรยี นวา่ 6 คูณกับจำนวนใดได้ 24 ครู
ให้นักเรียนท่องสูตรคูณแม่ 6 พร้อมกนั นกั เรยี นควรตอบได้วา่ 6 × 4 = 24 ดงั น้ัน จำนวนท่คี ณู กบั 6 ได้ 24
คือ 4 ตามหนังสือเรยี นหนา้ 285
ขนั้ สอน
3. ครูติดบตั รโจทย์การคูณ × 8 = 56ครถู ามนกั เรียนวา่ จำนวนใดคณู กบั 8 ได้ 56 ครใู หน้ กั เรียน
ท่องสูตรคูณแม่ 8 พรอ้ มกัน นกั เรียนควรตอบได้วา่ 8 × 7 = 56 ดังนนั้ จำนวนที่คูณกับ 8 ได้ 56 คือ 7 ครใู ห้
นักเรยี นสังเกตว่า การหาคา่ ของตัวไมท่ ราบหาไดจ้ ากการท่องสูตรคูณให้ได้ผลคูณเทา่ กับท่โี จทยก์ ำหนด
จากนั้นครูใหน้ ักเรียนช่วยกันเตมิ ตัวเลขแสดงจำนวนในกรอบทา้ ยหนา้ 285 โดยการทอ่ งสูตรคณู ครูและ
นกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
4. ครตู ดิ บตั รโจทยก์ ารคูณ 3 × = 36 ครถู ามนักเรยี นว่า 3 คณู จำนวนใดได้ 36 นักเรยี นทอ่ งสตู ร
คูณแม่ 3 ถงึ 3 คูณ 9 ได้ 27 พบวา่ ผลคูณเพิ่มขนึ้ ทีละ 3
ดังนัน้ 3 คูณ 10 ได้จาก 27 บวก 3 เทา่ กบั 30
3 คณู 11 ได้จาก 30 บวก 3 เท่ากับ 33
3 คณู 12 ไดจ้ าก 33 บวก 3 เทา่ กับ 36
นักเรยี นควรตอบได้ว่า จำนวนทีค่ ณู กบั 3 ได้ 36 คือ 12
5. ครูตดิ บัตรโจทยก์ ารคูณ × 5 = 70 แลว้ ถามนกั เรียนวา่ จำนวนใดคูณ 5 ได้ 70 ครูให้นกั เรียน
ท่องสูตรคูณแม่ 5 จนถงึ 5 คูณ 9 ได้ 45 พบวา่ ผลคณู เพิม่ ขนึ้ ทลี ะ 5
ดงั นน้ั 5 คูณ 10 ได้จาก 45 บวก 5 เทา่ กับ 50
5 คณู 11 ไดจ้ าก 50 บวก 5 เท่ากับ 55
5 คูณ 12 ได้จาก 55 บวก 5 เทา่ กับ 60
5 คณู 13 ได้จาก 60 บวก 5 เทา่ กับ 65
64
5 คูณ 14 ได้จาก 65 บวก 5 เท่ากับ 70
นักเรยี นควรตอบได้วา่ จำนวนทค่ี ูณกบั 5 ได้ 70 คือ 14
6. ครแู บง่ กลุ่มนักเรยี นออกเป็น 3 กลมุ่ และให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมาจบั สลากท่คี รเู ตรยี มไวม้ โี จทย์
ขอ้ 1 2 และ 3 ท่ีอยู่ในกรอบท้ายหน้า 286 กลุ่มละ 1 ข้อ จากนน้ั ใหน้ ักเรียนออกไปนำเสนอวิธีการหาคำตอบ
ของแตล่ ะกลุ่ม โดยครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ขัน้ สรุป
7. ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ ถ้ามีนกั เรยี นคนใดเติมตัวเลข
แสดงจำนวนไม่ถูกต้อง ครูอาจทบทวนสูตรคูณแม่ 2 ถึงแม่ 9 แล้วใหต้ รวจสอบความเข้าใจอกี ครั้ง แตถ่ ้ายงั ทำ
ไม่ไดใ้ ห้มาฝึกเปน็ รายบุคคลกับครู
สงิ่ ทีไ่ ด้เรียนรู้ • การหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณอาจใช้สูตรคูณ
10. สอ่ื การเรียนรู้
1. หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
2. แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
3. บัตรโจทย์การคณู
4. ตารางสูตรคณู แม่ 2 ถึง แม่ 9
11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
1. วธิ ีการวดั และประเมินผล
1.1 ตรวจแบบฝึกหดั
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม
1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่
2. เครื่องมือ
2.1 แบบฝึกหัด
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
2.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น
3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
ผา่ นต้งั แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ ่าน
65
แผนการจดั การเรียนรู้
กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เร่อื ง การคูณ เวลา 22 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 15 เรอื่ ง การหาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณก์ ารคณู เวลา 1
ชัว่ โมง
ผู้สอน ………………………………………… วันที่ ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลทเี่ กดิ ขึ้นจากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตัวชวี้ ดั
ค 1.1 ป.2/5 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการคณู ของจำนวน 1 หลักกับ
จำนวนไม่เกนิ 2 หลัก
3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ อาจใชส้ ตู รคณู
4. จุดประสงค์การเรียนรู้
1) อธบิ ายวิธกี ารหาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์การคูณได้ (K)
2) หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์การคูณได้ (P)
3) รับผิดชอบต่อหนา้ ที่ทไ่ี ด้รับมอบหมาย (A)
5. สาระการเรียนรู้
- การหาผลคณู
- ความสมั พนั ธ์ของการคูณและการหาร
6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์
การแกป้ ัญหา
✓ การสอื่ สารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
✓ การเช่อื มโยง
✓ การให้เหตผุ ล
การคิดสรา้ งสรรค์
66
7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
8. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
9. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1. ครูทบทวนเกีย่ วกับการคูณจำนวนหน่งึ หลกั กบั 10 20 … 90 โดยการยกตัวอย่าง เชน่
ครเู ขยี น 2 × 3 = (6) และ 2 × 30 = (60)
5 × 9 = (45) และ 5 × 90 = (450)
ขน้ั สอน
2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกันหาผลคณู และสังเกตคำตอบทไ่ี ด้ครูยกตวั อย่างเพิ่มเติม 1 - 2 ตัวอยา่ ง
จากนน้ั ครู
และนกั เรียนร่วมกันสรปุ ว่า จำนวนหนงึ่ หลกั คูณกับ10 20 … 90 หาผลคูณไดโ้ ดยนำจำนวนหนงึ่ หลักนัน้ คณู กบั
1 2 … 9 ตามลำดับ แลว้ เตมิ 0 ตอ่ ท้าย
3. ครูติดบตั รโจทยก์ ารคูณ 7 × = 140 ครถู ามนักเรยี นว่า 7 คณู จำนวนใดได้ 140 นักเรียน
อาจจะยงั หาคำตอบไมไ่ ด้ ครูอาจใช้คำถามนำ เช่น 7 คูณจำนวนใดได้ 14 (2) 7 คูณจำนวนใดได้ 140 (20)
ดังนน้ั จำนวนทคี่ ณู กบั 7 ได้ 140 คือ 20
4. ครตู ิดบัตรโจทยก์ ารคูณ × 4 = 320 และถามนกั เรียนว่า จำนวนใดคณู 4 ได้ 320
หาจำนวนน้นั ได้อยา่ งไร นกั เรียนควรตอบไดว้ า่ หาจำนวนท่ีคณู กบั 4 แลว้ ได้ 32 แลว้ เติม 0 ตอ่ ทา้ ย
จำนวนนน้ั ถา้ มีนกั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจ ครูอาจอธิบายดงั น้จี าก 8 คูณ 4 ได้ 32 จะได้วา่ 80 คณู 4 ได้ 320
ดังนัน้ จำนวนที่คณู กับ 4 แล้วได้ 320 คือ 80
5. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั เตมิ ตัวเลขแสดงจำนวนในกรอบทา้ ยหน้า 287ครแู ละนกั เรียนรว่ มกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง
ขนั้ สรุป
6. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรยี นแต่ละคนเตมิ ตัวเลขแสดงจำนวนในชอ่ งวา่ ตาม
หนงั สือเรียนหน้า 288
7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ สิ่งทไ่ี ดเ้ รียนรู้ ถ้ามนี ักเรยี นคนใดเติมตัวเลข
แสดงจำนวนไมถ่ ูกต้อง ครูอาจทบทวนสูตรคูณแม่ 2 ถงึ แม่ 9 และให้นักเรียนฝึกการหาผลคูณของจำนวนหนึง่
หลกั กับ 10 20 30 40 50 60 70 80 90 ให้คลอ่ ง แลว้ ให้ตรวจสอบความเขา้ ใจอีกคร้ัง
67
สิง่ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ • การหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณอาจใช้สตู รคูณ
8. จากนน้ั ใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหัด 5.12 หนา้ 183 – 184
10. ส่ือการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
2.แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
3.บตั รโจทย์การคูณ
4.ตารางสตู รคณู แม่ 2 ถึง แม่ 9
11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. วิธีการวดั และประเมินผล
1.1 ตรวจแบบฝึกหดั
1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรม
1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่
2. เครอื่ งมือ
2.1 แบบฝึกหดั
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
2.3 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 ร้อยละ 70 ผ่านเกณฑ์
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
ผา่ นตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ
ผา่ นตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น
68
แผนการจดั การเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 เรื่อง การคณู เวลา 22 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 16 เรอื่ ง โจทย์ปัญหาการคณู เวลา 1 ชั่วโมง
ผสู้ อน นางสาวปาณิสรา คำมูล วันที่ ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลทีเ่ กิดข้ึนจากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตัวชี้วดั
ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคณู ของจำนวน 1 หลักกับ
จำนวนไม่เกนิ 2 หลัก
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำไดโ้ ดยอา่ นทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบ
ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายวิธกี ารหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการคูณได้ (K)
2) แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการคณู ได้ (P)
3) รับผดิ ชอบต่อหน้าท่ีทีไ่ ด้รบั มอบหมาย (A)
5. สาระการเรยี นรู้
การแกโ้ จทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์ปัญหา พรอ้ มท้งั หาคำตอบ
6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์
การแก้ปัญหา
✓ การส่อื สารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
✓ การเช่ือมโยง
✓ การให้เหตผุ ล
การคดิ สร้างสรรค์
69
7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
8. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
9. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนำ
1. ครสู นทนากับนกั เรยี นเก่ียวกบั โจทยป์ ัญหาการคูณที่กำหนดตามหนงั สอื เรียนหน้า 289 ครูใช้
คำถามกระตุน้ ให้นกั เรยี น วิเคราะหโ์ จทย์ปัญหา เช่น โจทยถ์ ามอะไร โจทยบ์ อกอะไร นักเรยี นควรตอบได้ว่า
❖ โจทยถ์ าม คือ ยายลีซื้อกล้วยปง้ิ ทัง้ หมดก่ีผล
❖ โจทยบ์ อก คือ ยายลซี อ้ื กล้วยปงิ้ 4 ไม้ แต่ละไม้มกี ลว้ ย 5 ผล
ขั้นสอน
2. ครูถามนกั เรยี นต่อไปวา่ หาคำตอบได้อย่างไร นกั เรียนอาจหาคำตอบได้ดว้ ยการบวกทลี ะ 5
เช่น 5 + 5 + 5 + 5 = 20 ผล ดังน้นั ยายลซี อื้ กล้วยป้ิงท้ังหมด 20 ผล หรอื นกั เรยี นอาจหาคำตอบดว้ ยการ
คูณ ซึ่งพิจารณาจากกลว้ ยปิง้ 4 ไม้ แตล่ ะไม้มกี ล้วย 5 ผล จะได้ 4 × 5 = 20 ผล ดังน้ัน ยายลีซ้อื กล้วยปง้ิ
ท้ังหมด 20 ผล
3. ครูใช้บตั รภาพประกอบการอธิบายว่า กลว้ ยป้งิ 4 ไม้ ไม้ละ 5 ผล แลว้ ให้นักเรยี นนับจำนวนกลว้ ย
ปง้ิ ทง้ั หมด หรือบวกทลี ะ 5 หรอื ให้เขียนเป็นประโยคสัญลักษณก์ ารคณู ได้ 4 × 5= และใชส้ ูตรคณู แม่ 4
หรือแม่ 5 หาผลคูณ เมือ่ นักเรียนได้คำตอบแลว้ ครคู วรเน้นย้ำเร่อื งการตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ
คำตอบ เชน่
4 × 5 = 20 อาจตรวจสอบด้วยการนบั ทีละ 5 ไป 4 ครั้ง จะได้ 20 ดังนั้น 20 เปน็ คำตอบท่ถี กู ต้อง
4. ครยู กตวั อย่างโจทยป์ ัญหาถดั ไป ให้นักเรยี นวิเคราะหโ์ จทยว์ า่ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร และ
หาคำตอบได้อย่างไร ครูอาจใชข้ วดมาเรยี งเป็นแถว 3 แถว แถวละ 6 ขวด ครถู ามนักเรยี นว่า การจัดขวดเปน็
แถว 3 แถว แถวละ 6 ขวด ไดท้ ั้งหมดก่ีขวด เขยี นเป็นประโยคสัญลกั ษณ์การคูณได้อยา่ งไร นักเรยี นควรตอบ
ได้ว่า 3 × 6 =
5. ครูถามวา่ หาคำตอบอยา่ งไรนักเรยี นอาจตอบว่าใช้การบวกเพมิ่ ทีละเทา่ ๆ กนั (6 + 6 + 6) หรอื ใช้
สตู รคูณแม่ 3 หรือแม่ 6 เมือ่ นกั เรยี นได้คำตอบ 18 ขวด ครคู วรใหน้ กั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความ
สมเหตุสมผลของคำตอบตามหนงั สอื เรียนหน้า 289
70
ขั้นสรปุ
6. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรุปสิ่งท่ีไดเ้ รียนรู้ ถ้ามีนกั เรยี นคนใดเขียน
ประโยคสัญลักษณ์และหาคำตอบไมถ่ ูกต้อง ครอู าจใหน้ กั เรยี นฝึกการหาผลคณู ของจำนวนหนงึ่ หลกั กบั จำนวน
สองหลกั ใหค้ ล่อง หรือถ้านักเรยี นเขียนประโยคสัญลักษณ์การคณู ผดิ ครูอาจทบทวนเร่ืองความหมายของการ
คณู ท่ีจดั สิ่งของเปน็ กลุ่มกลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน หรือจัดส่ิงของเป็นแถว แถวละเทา่ ๆ กันแลว้ ใหต้ รวจสอบความ
เขา้ ใจอีกคร้ัง แตถ่ ้ายงั ทำไมไ่ ด้ให้มาฝกึ เปน็ รายบุคคลกบั ครู
สง่ิ ท่ีได้เรียนรู้ • การแก้โจทย์ปญั หาทำไดโ้ ดยอา่ นทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคำตอบ
และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ
10. ส่อื การเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
2.แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
3.บัตรภาพ
4.บตั รโจทยป์ ัญหา
5.ส่อื ของจริง เชน่ ขวด
6.แบบฝกึ เสริมทักษะเล่มท่ี 4
11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล
1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม
1.3 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
2. เคร่ืองมือ
2.1 แบบฝกึ หัด
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
2.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุม่
3. เกณฑก์ ารประเมิน
3.1 รอ้ ยละ 70 ผา่ นเกณฑ์
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
ผา่ นตัง้ แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน
3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่
ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
71
แผนการจัดการเรยี นรู้
กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรอ่ื ง การคูณ เวลา 22 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 เรือ่ ง โจทยป์ ัญหาการคูณ เวลา 1 ช่ัวโมง
ผสู้ อน นางสาวปาณสิ รา คำมูล วันที่ ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลท่ีเกดิ ขึ้นจากการดำเนินการสมบัติของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตวั ชว้ี ดั
ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคูณของจำนวน 1 หลักกบั
จำนวนไม่เกิน 2 หลัก
3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การแก้โจทย์ปญั หาทำได้โดยอา่ นทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบ
ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ
4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธิบายวิธีการหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการคณู ได้ (K)
2) แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการคณู ได้ (P)
3) รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย (A)
5. สาระการเรียนรู้
การแก้โจทย์ปัญหาและการสรา้ งโจทย์ปญั หา พร้อมทง้ั หาคำตอบ
6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์
การแก้ปัญหา
✓ การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
✓ การเชื่อมโยง
✓ การให้เหตผุ ล
72
การคิดสร้างสรรค์
7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
8. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
9. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำ
1. ครตู ิดบัตรโจทยป์ ญั หาตามหนงั สอื เรียนหนา้ 290 ใหน้ ักเรียนร่วมกันวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาวา่ โจทย์
ถามอะไร โจทยบ์ อกอะไร และจะหาคำตอบได้อยา่ งไร โดยใชก้ ารถาม−ตอบเชน่ การนำตู้มาวางเรียงต่อกนั
ความยาวทัง้ หมดจะเพ่ิมขึ้นหรอื ลดลง (เพิ่มขึ้น) หาคำตอบดว้ ยวิธใี ด(นำความยาวมาบวกกัน)
ขั้นสอน
2. ครูถามเพมิ่ เตมิ วา่ ถา้ ความยาวตู้แต่ละตู้เทา่ กันท้ัง 3 ตู้อาจหาคำตอบดว้ ยวิธีใดได้อกี (หาคำตอบ
ด้วยการคณู ) ครูใหน้ ักเรยี นเขียนประโยคสัญลักษณ์การคณู แล้วหาคำตอบ ตามหนังสือเรียนหน้า 290
3. ครูอาจแนะนำการตรวจสอบความสมเหตุสมผลวา่ ถา้ ตแู้ ต่ละตู้ยาว 50 เซนตเิ มตร เรียงตอ่ กัน 3 ตู้
ความยาวท้งั หมด 3 × 50 = 150 เซนตเิ มตร แต่ความยาวตใู้ นโจทย์ 45 เซนตเิ มตรซงึ่ มีคา่ นอ้ ยกวา่ 50
คำตอบที่ได้ควรนอ้ ยกวา่ 150 เซนติเมตร ซง่ึ คำตอบทไ่ี ด้คือ 135 เซนติเมตรเปน็ คำตอบท่ีสมเหตุสมผล
4. ครยู กตัวอยา่ งโจทยป์ ัญหาในหนังสือเรียนหนา้ 291 แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั วิเคราะห์โจทย์ปัญหา
และหาคำตอบ จากน้นั ครแู บ่งกลมุ่ นกั เรยี นเป็น 5 กลุ่ม แล้วใหแ้ ต่ละกลุ่มชว่ ยกันเขียนประโยคสัญลักษณ์และ
หาคำตอบกล่มุ ละ 1 ขอ้ เม่อื เสรจ็ แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอวธิ หี าคำตอบหน้าช้นั เรยี น
5. จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ
คำตอบ ครคู วรเน้นยำ้ นักเรยี นทกุ คร้งั วา่ เม่ือแกโ้ จทยป์ ัญหาจนไดค้ ำ ตอบแล้วต้องอย่าลืมตรวจสอบความ
สมเหตสุ มผลของคำตอบทุกครั้ง
ขนั้ สรปุ
6. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยให้นกั เรียนแตล่ ะคนเขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคำตอบ
ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 292
7. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ สิ่งที่ได้เรียนรู้ ถ้ามีนักเรยี นคนใดเขียน
ประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบไมถ่ ูกต้อง ครอู าจใหน้ ักเรยี นฝึกการหาผลคณู ของจำนวนหนง่ึ หลักกบั จำนวน
สองหลกั ให้คล่อง หรอื ถา้ นักเรยี นเขียนประโยคสัญลกั ษณ์การคณู ผดิ ครูอาจทบทวนเร่ืองความหมายของการ
คณู ท่จี ัดสงิ่ ของเปน็ กลุม่ กลุ่มละเท่า ๆ กัน หรือจัดสง่ิ ของเป็นแถว แถวละเทา่ ๆ กันแล้วใหต้ รวจสอบความ
เข้าใจอีกครัง้ แต่ถา้ ยงั ทำไม่ได้ใหม้ าฝึกเปน็ รายบุคคลกับครู
73
สงิ่ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ • การแกโ้ จทย์ปญั หาทำไดโ้ ดยอ่านทำความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ
และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ
8. จากนั้นใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัด 5.13 หน้า 185 − 186
10. ส่ือการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
2.แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
3.บัตรภาพ
4.บัตรโจทยป์ ญั หา
5.สือ่ ของจริง เชน่ ขวด
6.แบบฝึกเสรมิ ทักษะเลม่ ที่ 4
11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล
1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรม
1.3 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่
2. เครื่องมือ
2.1 แบบฝกึ หัด
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
2.3 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน
3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
ผา่ นตงั้ แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ ่าน
74
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรือ่ ง การคูณ เวลา 22 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 18 เรอ่ื ง โจทยป์ ัญหาการคูณ เวลา 1 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวปาณิสรา คำมลู วนั ที่ ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลทเ่ี กดิ ขึ้นจากการดำเนินการสมบัติของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตัวช้ีวัด
ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวน 1 หลกั กบั
จำนวนไมเ่ กิน 2 หลกั
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การแก้โจทย์ปญั หาทำไดโ้ ดยอา่ นทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบ
ความสมเหตุสมผลของคำตอบ
4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธิบายวิธีการหาคำตอบของโจทย์ปญั หาการคณู ได้ (K)
2) แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการคูณได้ (P)
3) รับผิดชอบต่อหน้าที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย (A)
5. สาระการเรยี นรู้
การแก้โจทย์ปญั หาและการสร้างโจทย์ปญั หา พร้อมทงั้ หาคำตอบ
6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์
✓ การแก้ปัญหา
✓ การสอ่ื สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
✓ การเชอ่ื มโยง
✓ การใหเ้ หตผุ ล
การคดิ สรา้ งสรรค์
75
7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
8. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน
9. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นำ
1. โจทย์ปัญหาการคณู ในช่วั โมงนี้เปน็ โจทยป์ ัญหาการคณู ในลักษณะการหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ครู
ยกตวั อย่างโจทย์ปัญหาการคูณตามหนงั สือเรียนหนา้ 293 โดยตดิ บัตรโจทยป์ ัญหาบนกระดานแลว้ ให้นกั เรียน
ชว่ ยกนั วเิ คราะห์วา่ โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร และนกั เรยี นจะหาคำตอบไดอ้ ย่างไร
ขนั้ สอน
2. ครใู ช้คำถามกระตุน้ ให้นักเรยี นคดิ วา่ ซาลาเปา 3 ลกู ราคาลกู ละเทา่ กนั จ่ายเงินไป 15 บาท
หมายความว่า 3 คณู จำนวนใด ไดผ้ ลคณู เท่ากบั 15 เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์ 3 × = 15 ซง่ึ นกั เรยี น
อาจใช้วิธีการท่องสูตรคูณแม่ 3 จะได้ว่า 3 × 5 = 15 ดังน้ัน ซาลาเปาราคาลูกละ 5 บาท
3. หลงั จากทีน่ ักเรียนได้คำตอบแล้ว ครคู วรให้นักเรียนตรวจสอบคำตอบโดยการนำคำตอบท่ีไดค้ ูณกับ
3 แลว้ ไดผ้ ลคณู เท่ากบั 15 หรือไม่ ถา้ ได้เท่ากับ 15 แสดงว่าเปน็ คำตอบทีถ่ ูกตอ้ ง เมื่อนักเรยี นไดแ้ นวคดิ ในการ
วเิ คราะห์และหาคำตอบโจทย์ปญั หาการคูณท่ีมลี ักษณะเป็นโจทยก์ ารหาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าแลว้
4. ครยู กตัวอย่างโจทย์ปญั หาการคูณจากตัวอยา่ งโจทย์ปัญหาในหน้าถัดไป
5. ครยู กตวั อย่างโจทยป์ ญั หาการคณู ทีม่ ตี ัวไม่ทราบคา่ ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 294แลว้ ใหน้ ักเรียน
ช่วยกันวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหาว่า โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร และจะหาคำตอบได้อย่างไร
6. ครใู ชค้ ำถามกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนคดิ วา่ ครูจัดโตะ๊ 5 แถว แถวละเทา่ ๆ กัน ตอ้ งจดั โต๊ะแถวละกต่ี วั
ถ้าจัดโตะ๊ ท้งั หมด 100 ตัวหมายความวา่ 5 คูณจำนวนใดได้ผลคณู เท่ากบั 100 เขยี นเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์
5 × = 100 ซ่งึ นักเรียนอาจใช้การคณู กบั จำนวน 10 20 30 … จะไดว้ า่ 5 × 20 = 100 ดังนั้น จดั โตะ๊ แถว
ละ 20 ตวั
7. ครูใหน้ กั เรียนตรวจสอบคำตอบโดยนำคำตอบที่ได้ไปคูณกับ 5 ถา้ ได้ผลคณู เท่ากับ 100 แสดงวา่
เป็นคำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง
76
ขั้นสรุป
8. ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ ส่ิงท่ีได้เรยี นรู้ถ้ามีนักเรียนคนใดเขยี น
ประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบไม่ถูกต้อง ครูอาจให้นกั เรยี นฝึกการหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยค
สญั ลักษณ์การคณู ให้คล่อง หรือถ้านักเรยี นเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์การคูณผดิ ครูอาจทบทวนเร่ืองความหมาย
ของการคูณทเ่ี นน้ จำนวนสมาชิกในแตล่ ะกลมุ่ และจำนวนกลุ่มหรอื จำนวนสมาชกิ ในแต่ละแถวและจำนวนแถว
แล้วให้ตรวจสอบความเขา้ ใจอีกคร้ังแต่ถ้ายงั ทำไม่ไดใ้ ห้มาฝึกเปน็ รายบคุ คลกับครู
10. ส่อื การเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
3. บตั รโจทยป์ ัญหา
4. แบบฝกึ เสริมทักษะเลม่ ท่ี 4
11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล
1.1 ตรวจแบบฝึกหดั
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม
1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ
2. เคร่ืองมือ
2.1 แบบฝกึ หัด
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม
2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 รอ้ ยละ 70 ผา่ นเกณฑ์
3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น
3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ ่าน
77
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 เรอื่ ง การคูณ เวลา 22 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 19 เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาการคูณ เวลา 1 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวปาณสิ รา คำมูล วนั ที่ ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลทเ่ี กิดขึน้ จากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตัวช้ีวัด
ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณของจำนวน 1 หลกั กบั
จำนวนไมเ่ กิน 2 หลัก
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การแก้โจทย์ปญั หาทำไดโ้ ดยอา่ นทำความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบ
ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ
4. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธิบายวธิ ีการหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการคณู ได้ (K)
2) แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการคูณได้ (P)
3) รับผิดชอบต่อหนา้ ที่ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย (A)
5. สาระการเรียนรู้
การแก้โจทยป์ ญั หาและการสรา้ งโจทย์ปญั หา พรอ้ มทัง้ หาคำตอบ
6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์
✓ การแก้ปัญหา
✓ การสอ่ื สารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์
✓ การเชอ่ื มโยง
✓ การใหเ้ หตผุ ล
การคดิ สร้างสรรค์
78
7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
8. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน
9. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นำ
1. ครูยกตวั อย่างโจทยป์ ัญหาการคณู ทา้ ยหนา้ 294 เพื่อให้นักเรยี นไดฝ้ ึกการวเิ คราะห์และหาคำตอบ
ของโจทย์ปัญหาในลกั ษณะ หาตัวไม่ทราบค่าท่เี ปน็ จำนวนสมาชกิ ในกลุ่ม
ขน้ั สอน
2. จะไดป้ ระโยคสัญลกั ษณค์ ือ 4 × = 48 ในการหาคำตอบนนี้ ักเรียนอาจใชส้ ตู รคูณแม่ 4 ดงั น้นั
4 × 9 = 36 และ 4 × 10 = 40 4 × 11 = 44 4 × 12 = 48 เมื่อได้คำตอบแลว้ ครูใหน้ กั เรยี นตรวจสอบ
ความถูกต้องของคำตอบ
3. จากน้ันครยู กตัวอย่างโจทยป์ ัญหาการคูณท่มี ตี ัวไมท่ ราบคา่ เปน็ จำนวนกลมุ่ เช่น ครจู ดั ดอกบวั 12
ดอก
เป็นกำ กำละ 6 ดอก ครูจดั ดอกบัวได้ก่กี ำ หมายความวา่ จำนวนใดคูณกับ 6 ไดผ้ ลคูณเท่ากับ 12 เขียนเปน็
ประโยคสญั ลักษณ์ × 6 = 12 นักเรยี นอาจหาคำตอบโดยใช้สูตรคณู แม่ 6 จะได้ 6 × 2 = 12 ดงั น้นั ครู
จัดดอกบัวได้ 2 กำ ครูใหน้ ักเรยี นตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบทำนองเดียวกบั ข้างตน้
4. เมื่อนกั เรยี นเข้าใจและสามารถวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาการคูณในลักษณะการหาค่าของตัวไม่ทราบค่า
ไดแ้ ล้ว ครูแบง่ นักเรยี นเปน็ 4 กลุ่มใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกนั วเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หาการคณู ในหนังสือเรยี น
หน้า 295 กลุม่ ละ 1 ข้อ โดยใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันเขยี นประโยคสัญลักษณ์และหาคำตอบ
5. ครเู นน้ ยำ้ ใหน้ ักเรยี นตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบ ครูอาจแนะนำนักเรยี นกลุ่มที่แกโ้ จทย์
ปญั หาขอ้ 1 และ 2 ซึ่งมตี ัวไม่ทราบค่าเปน็ จำนวนแถวและจำนวนกลุ่มตามลำดับ ประโยคสัญลกั ษณ์ท่เี ขยี นได้
ดังนี้ × 4 = 24 และ × 6 = 48
6. จากนั้นครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ออกมานำเสนอประโยคสัญลกั ษณ์และวธิ ีหาคำตอบของแตล่ ะข้อ
ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง
ขัน้ สรปุ
7. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยนักเรียนแตล่ ะคนเขยี นประโยคสญั ลักษณ์และหาคำตอบ
ตามหนังสอื เรียนหนา้ 296
79
8. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปส่ิงท่ไี ดเ้ รียนรู้ถ้ามนี ักเรียนคนใดเขยี นประโยค
สัญลักษณแ์ ละหาคำตอบไม่ถูกต้อง ครอู าจให้นักเรียนฝกึ การหาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณก์ าร
คณู ให้คล่อง หรอื ถา้ นกั เรียนเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณผิดครูอาจทบทวนเรื่องความหมายของการคณู ที่
เนน้ จำนวนสมาชกิ ในแต่ละกล่มุ และจำนวนกลุ่มหรือจำนวนสมาชิกในแต่ละแถวและจำนวนแถว แลว้ ให้
ตรวจสอบความเขา้ ใจอีกคร้งั แต่ถา้ ยงั ทำไม่ได้ให้มาฝกึ เป็นรายบคุ คลกับครู
สงิ่ ท่ีได้เรียนรู้ • การแกโ้ จทย์ปัญหาทำไดโ้ ดยอ่านทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ
และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ
9. จากนน้ั ใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัด 5.1หน้า 187 - 188
10. สื่อการเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
3. บตั รโจทย์ปัญหา
4.แบบฝึกเสรมิ ทักษะเล่มที่ 4
11. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1. วิธกี ารวัดและประเมินผล
1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม
1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
2. เครอื่ งมือ
2.1 แบบฝกึ หัด
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 ร้อยละ 70 ผา่ นเกณฑ์
3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม
ผา่ นตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น
ผา่ น 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ ่าน
3.3 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ า่ น
80
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 เร่อื ง การคณู เวลา 22 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 เร่ือง การสร้างโจทย์ปญั หาการคูณจากภาพ เวลา 1 ช่ัวโมง
ผ้สู อน นางสาวปาณสิ รา คำมลู วนั ที่ ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลที่เกดิ ขึ้นจากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตัวชีว้ ัด
ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการคูณของจำนวน 1 หลักกบั
จำนวนไมเ่ กนิ 2 หลัก
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การสร้างโจทยป์ ัญหาต้องมีทั้งส่วนที่โจทย์บอกและส่วนท่ีโจทยถ์ าม นอกจากน้ีโจทยป์ ญั หาท่สี รา้ งต้องมี
ความเปน็ ไปได้
4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) เข้าใจการสรา้ งโจทย์ปญั หาการคูณจากภาพได้ (K)
2) สร้างโจทยป์ ญั หาการคูณจากภาพได้ (P)
3) รบั ผิดชอบต่อหน้าที่ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย (A)
5. สาระการเรียนรู้
การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหา พรอ้ มท้งั หาคำตอบ
6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์
✓ การแก้ปัญหา
✓ การส่ือสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
✓ การเชือ่ มโยง
✓ การใหเ้ หตุผล
✓ การคิดสรา้ งสรรค์
81
7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
9. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำ
1. การสรา้ งโจทย์ปญั หาการคูณจากภาพควรเรม่ิ จากการให้นกั เรียนพจิ ารณาภาพ โดยใช้คำถามนำ
เชน่ จากภาพในหนงั สือเรียนหนา้ 297 นักเรียนเหน็ อะไรบ้าง (มีสม้ 3 จาน แต่ละจานมีสม้ 2 ผล) มีส้มทง้ั หมด
กผ่ี ล ( 6 ผล)
2. ถ้าจะสร้างโจทยป์ ญั หาการคณู ส่วนทโี่ จทย์ถามคืออะไร (มสี ้มท้งั หมดกี่ผล) สว่ นท่ีโจทย์บอกคือ
อะไร (มีส้ม 3 จาน จานละ 2 ผล) ดังนั้น เขยี นเป็นโจทยป์ ญั หาการคูณจากภาพนี้ไดว้ า่ มสี ม้ 3 จาน จานละ 2
ผล มีสม้ ท้งั หมดกผ่ี ล หรอื มสี ม้ จานละ 2 ผล อยู่ 3 จาน มีส้มทง้ั หมด ก่ผี ล เขยี นเป็นประโยคสญั ลักษณ์ไดว้ ่า
3 × 2 = ครูเน้นย้ำวา่ โจทยป์ ัญหาทีส่ ร้างต้องมีความเปน็ ไปได้
ขน้ั สอน
3. ครตู ิดบัตรภาพตามหนังสือเรียนหนา้ 298 จากภาพในหนังสอื เรียนนักเรยี นเห็นอะไรบ้าง (ปลกู
กะหล่ำปลี 3 แถว แต่ละแถวมีกะหลำ่ ปลี 10 ตน้ ) ปลูกกะหล่ำปลีท้ังหมดก่ีตน้ (30 ตน้ ) ถา้ จะสรา้ งโจทย์
ปญั หาการคูณ ส่วนท่โี จทย์ถามคืออะไร (ปลกู กะหล่ำปลีทั้งหมดก่ีตน้ ) ส่วนทโ่ี จทยบ์ อกคืออะไร (ปลูก
กะหล่ำปลี 3 แถว แตล่ ะแถวมีกะหล่ำปลี 10 ตน้ ) ดังนนั้ เขยี นเปน็ โจทยป์ ัญหาการคณู จากภาพนี้ไดว้ ่า ปลกู
กะหลำ่ ปลี 3 แถว แต่ละแถวมกี ะหล่ำปลี 10 ตน้ ปลูกกะหลำ่ ปลีทงั้ หมดกต่ี ้นหรือปลูกกะหลำ่ ปลีแถวละ 10
ตน้ ปลูก 3 แถว ปลูกกะหล่ำปลีทัง้ หมดกี่ตน้ เขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณ์ได้ว่า 3 × 10 = ครูเน้นย้ำว่า
โจทยป์ ญั หาทส่ี ร้างต้องมคี วามเปน็ ไปได้
4. จากนัน้ ครตู ดิ บตั รภาพปลูกผักกาดตามหนงั สือเรยี นท้ายหน้า 298 แล้วใหน้ กั เรยี นช่วยกนั สรา้ ง
โจทยป์ ัญหาการคูณ และช่วยกันพจิ ารณาความเป็นไปไดข้ องโจทยป์ ญั หาทีส่ ร้างข้ึน
5. ครแู บ่งนกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม 3 กลุ่มแลว้ ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกันสรา้ งโจทย์ปัญหา การคณู
จากภาพพรอ้ มท้ังเขียนประโยคสัญลกั ษณ์กล่มุ ละ 2 ขอ้ ตามหนังสือเรยี นหนา้ 299 เมอื่ สร้างโจทยป์ ัญหาการ
คูณเสร็จแลว้ ให้นักเรียน แตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอโจทย์ปัญหาท่สี ร้างได้ นักเรยี นแต่ละกล่มุ อาจสรา้ งโจทย์
ปัญหาการคูณได้แตกต่างกัน ครูและนกั เรียนช่วยกันพจิ ารณาความถูกต้องและความเป็นไปได้ของโจทยป์ ัญหา
ท่ีสรา้ ง
82
ขั้นสรุป
6. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรยี นแต่ละคนสรา้ งโจทย์ปญั หาการคูณและเขียน
ประโยคสญั ลักษณ์จากภาพตามหนังสือเรยี นหนา้ 300 ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและ
ความเป็นไปได้
7. หลงั จากนน้ั ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรู้ ถ้ามนี ักเรยี นคนใดสร้างโจทยป์ ัญหาการคูณ
และเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์จากภาพไม่ถูกต้อง ครูอาจให้นักเรยี นฝึกพจิ ารณาโจทยป์ ญั หาการคูณว่า
ประกอบด้วยสว่ นทโ่ี จทยบ์ อกและสว่ นท่โี จทยถ์ ามใหค้ ลอ่ ง แลว้ ให้ตรวจสอบความเขา้ ใจอกี ครั้งแต่ถ้ายงั ทำ
ไม่ไดใ้ ห้มาฝกึ เป็นรายบคุ คลกับครู
สง่ิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ • การสรา้ งโจทย์ปญั หาตอ้ งมีท้งั ส่วนที่โจทยบ์ อกและส่วนที่โจทยถ์ าม นอกจากนโี้ จทย์
ปัญหาทส่ี รา้ งต้องมคี วามเปน็ ไปได้
8. จากน้ันใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั 5.15 หน้า 189 – 190
10. สื่อการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
3. บัตรภาพ
11. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. วิธีการวดั และประเมินผล
1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั
1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม
1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
2. เครอ่ื งมือ
2.1 แบบฝึกหัด
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม
2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุม่
3. เกณฑ์การประเมิน
3.1 ร้อยละ 70 ผา่ นเกณฑ์
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม
ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถอื วา่ ไมผ่ า่ น
3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่
ผา่ นต้ังแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
83
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 เร่อื ง การคณู เวลา 22 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 21 เรือ่ ง การสร้างโจทย์ปญั หาการคูณจากประโยคสญั ลักษณ์ เวลา 1 ช่ัวโมง
ผูส้ อน นางสาวปาณิสรา คำมูล วันท่ี ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลที่เกิดขน้ึ จากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตัวชี้วัด
ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจำนวน 1 หลักกับ
จำนวนไม่เกิน 2 หลัก
3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การสร้างโจทยป์ ญั หาตอ้ งมที ้ังสว่ นทโี่ จทยบ์ อกและส่วนทีโ่ จทยถ์ าม นอกจากนี้โจทย์ปญั หาทส่ี รา้ งตอ้ งมี
ความเปน็ ไปได้
4. จุดประสงค์การเรียนรู้
1) เขา้ ใจการสรา้ งโจทย์ปญั หาการคูณจากประโยคสัญลกั ษณ์ได้ (K)
2) สรา้ งโจทยป์ ัญหาการคณู จากประโยคสญั ลักษณ์ได้ (P)
3) รับผิดชอบตอ่ หน้าที่ที่ได้รบั มอบหมาย (A)
5. สาระการเรยี นรู้
การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทยป์ ัญหา พรอ้ มทัง้ หาคำตอบ
6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์
✓ การแก้ปัญหา
✓ การส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
✓ การเชอ่ื มโยง
✓ การให้เหตุผล
✓ การคดิ สรา้ งสรรค์
84
7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
8. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
9. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ นำ
1. ครตู ิดบตั รภาพและบตั รประโยคสญั ลกั ษณ์ 3 × 2 = แล้วใช้คำถามนำเพอ่ื ให้นักเรียนสรา้ ง
โจทย์ปญั หาการคูณจากประโยคสญั ลักษณ์ท่กี ำหนดโดยนำขอ้ มูลจากภาพมาเปน็ แนวทางในการสรา้ งโจทย์
ปัญหา
การคณู เชน่ จากประโยคสัญลักษณ์ 3 × 2 = ครอู าจให้นกั เรยี นบอกความหมายของการคณู วา่ 3 × 2 =
คือ มี 3 กลุ่ม แต่ละกล่มุ มสี มาชกิ 2 หรือ มี 3 แถวแตล่ ะแถวมสี มาชิก 2
2. ให้นกั เรียนใชข้ อ้ มลู จากภาพท่กี ำหนดให้ สร้างเปน็ โจทย์ปญั หาการคูณไดว้ ่า เรือจกั รยานน้ำ 3 ลำ
แต่ละลำมคี นนงั่ 2 คน มีคนน่ังเรอื จักรยานน้ำทงั้ หมดกีค่ น หรอื นักเรยี นอาจสรา้ งโจทย์ปัญหาการคูณแบบอ่นื
ได้วา่ มีคนยืนรอซอื้ ตวั๋ ลงเรือ 3 แถว แถวละ 2 คน มีคนยนื รอซอื้ ตั๋วลงเรือทัง้ หมดก่ีคน แลว้ ใหน้ กั เรียนระบุ
ส่วนทีโ่ จทย์บอก และส่วนท่โี จทยถ์ าม จากนั้นครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความเป็นไปได้ของโจทยป์ ัญหา
ทีส่ รา้ งข้นึ
ขน้ั สอน
3. หลังจากทีน่ กั เรยี นเข้าใจและสามารถสร้างโจทยป์ ัญหาจากประโยคสญั ลักษณโ์ ดยมภี าพประกอบได้
ครูจึงกำหนดประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั สรา้ งโจทย์ปัญหา ดงั นี้ กำหนดประโยคสัญลักษณ์
5 × 2 = แลว้ ใหน้ กั เรยี นสร้างโจทย์ปญั หาการคูณ โดยระบุส่วนทโี่ จทย์บอกและสว่ นที่โจทยถ์ าม ครูควร
เนน้ ย้ำและตรวจสอบว่าโจทย์ปัญหาทีน่ กั เรยี นแต่ละคนช่วยกนั สรา้ งขน้ึ มีความเปน็ ไปไดห้ รอื ไม่
4. จากนน้ั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั หาคำตอบของโจทยป์ ัญหานัน้ โจทย์ปัญหาท่นี ักเรยี นสรา้ งอาจมีความ
แตกต่างกัน ครูและนกั เรยี นช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง
5. จากนน้ั ครกู ำหนดประโยคสญั ลักษณ์ 4 × 6 = แลว้ จดั กจิ กรรม ทำนองเดียวกับขา้ งต้น
6. ครแู บง่ นักเรียนเปน็ กลมุ่ แล้วให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ สรา้ งโจทยป์ ญั หาการคูณจากประโยคสัญลกั ษณ์
ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 303 โดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ไดฝ้ ึกการสรา้ งโจทยป์ ญั หาการคูณจากประโยคสญั ลักษณ์
ท้งั 2 ข้อ เมื่อแตล่ ะกลมุ่ สร้างโจทย์ปญั หาเสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอเกี่ยวกับโจทย์ปัญหาท่สี ร้าง
ระบสุ ่วนที่โจทย์บอก สว่ นทีโ่ จทย์ถาม และหาคำตอบโดยครูและนักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและ
ความเปน็ ไปได้ของโจทยป์ ัญหาท่ีสรา้ ง
85
ขน้ั สรปุ
7. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรียนแต่ละคนสร้างโจทย์ปญั หาการคณู จากประโยค
สัญลกั ษณ์ ตามหนังสือเรยี นหนา้ 304
8. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและความเป็นไปได้ของโจทย์ปัญหาท่สี ร้างหลังจาก
น้นั ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรู้ ถ้ามนี กั เรียนคนใดสร้างโจทยป์ ญั หาการคณู จากประโยค
สัญลกั ษณ์ไม่ถูกต้องครูอาจให้นกั เรยี นฝึกบอกความหมายการคณู ตามประโยคสัญลกั ษณ์และบอก
ส่วนประกอบของโจทยป์ ัญหาวา่ ประกอบด้วยสว่ นท่ีโจทยบ์ อกและสว่ นทีโ่ จทย์ถามให้คล่อง แลว้ ให้ตรวจสอบ
ความเขา้ ใจอีกคร้ัง แต่ถ้ายังทำไม่ไดใ้ ห้มาฝึกเปน็ รายบุคคลกับครู
ส่งิ ท่ีไดเ้ รียนรู้ • การสร้างโจทย์ปัญหาตอ้ งมที ้ังส่วนทีโ่ จทย์บอกและส่วนท่โี จทย์ถาม นอกจากนี้โจทย์
ปัญหาท่ีสรา้ งต้องมีความเปน็ ไปได้
9. จากน้นั ให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัด 5.16 หนา้ 191 − 192
10. สอื่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
2.แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท.
3.บัตรภาพ
4.บัตรประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ
11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
1. วิธีการวัดและประเมินผล
1.1 ตรวจแบบฝึกหดั
1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม
1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
2. เคร่อื งมือ
2.1 แบบฝกึ หัด
2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม
2.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 ร้อยละ 70 ผา่ นเกณฑ์
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม
ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น
ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไมผ่ ่าน
3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่
ผา่ นตง้ั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผ่าน
ผา่ น 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น
86
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 เรอ่ื ง การคณู เวลา 22 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 22 เร่อื ง รว่ มคิดรว่ มทำ เวลา 1 ชั่วโมง
ผูส้ อน นางสาวปาณสิ รา คำมลู วันที่ ……………………………………………
1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณิต
มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลที่เกดิ ขึน้ จากการดำเนนิ การสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้
2. ตวั ชีว้ ัด
ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวน 1 หลักกบั
จำนวนไมเ่ กนิ 2 หลกั
3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การคณู จำนวน 1 หลักกับจำนวน 1 หลักหาผลคูณโดยใช้สตู รคูณแม่ 2 แม่ 3 แม่ 4 แม่ 5 แม่ 6 แม่ 7
แม่ 8 หรอื แม่ 9
4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธบิ ายการหาผลคูณของจำนวนหน่งึ หลกั กับจำนวนหน่งึ หลักได้ (K)
2) หาผลคูณของจำนวนหนึ่งหลักกบั จำนวนหนึ่งหลักได้ ได้ (P)
3) รับผดิ ชอบต่อหนา้ ทที่ ่ีได้รับมอบหมาย (A)
5. สาระการเรยี นรู้
การหาผลคณู
6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์
✓ การแกป้ ัญหา
✓ การสอ่ื สารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
✓ การเช่ือมโยง
✓ การให้เหตุผล
การคดิ สร้างสรรค์
87
7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
8. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน
9. กิจกรรมการเรยี นรู้
กิจกรรม เกมบงิ โก
การเตรียมอุปกรณ์
1. ครูเตรยี มกระดานบิงโกขนาด 3 × 3 ทีเ่ ขยี นคำตอบของบัตรโจทยก์ ารคูณ และคำตอบของบัตร
โจทย์ปญั หาการคูณในชอ่ งแต่ละช่องจนครบทกุ ชอ่ ง โดยแตล่ ะกระดานอาจเขียนคำตอบแต่ละชอ่ งไม่
เหมอื นกนั จำนวนกระดานบิงโกเทา่ กับจำนวนคู่ของนักเรยี นในห้อง
2. ครูเตรียมบตั รโจทย์การคูณและบตั รโจทยป์ ญั หาการคณู ชดุ ละ 10 บัตรจำนวนชุดจะเท่ากบั
จำนวนคูข่ องนักเรยี นในห้อง โดยท่ีแต่ละบัตรมคี ำตอบในกระดานบิงโกและจะมอี ยู่ 1 บตั รที่ไม่ได้เขียนคำตอบ
ไวใ้ นกระดานบงิ โก
3. ครเู ตรียมเบีย้ 2 สี สีละ 9 อัน เทา่ กับจำนวนกลุม่ ของนักเรียนในห้อง
วิธีจัดกจิ กรรม
1. ครูใหน้ กั เรียนจับคู่เล่นเกมบิงโก แล้วแจกอปุ กรณค์ ูล่ ะ 1 ชดุ
2. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนเลือกเบยี้ โดยคเู่ ดยี วกนั ให้เลือกเบย้ี คนละสี และให้คว่ำบตั รโจทยก์ ารคูณ
และบัตรโจทย์ปัญหาการคณู ไว้
3. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะคนสลับกนั หงายบตั รท่ีคว่ำไว้ หาคำตอบ แล้ววางเบีย้ ของตนเองลงในกระดาน
บงิ โกให้ตรงกับช่องที่เปน็ คำตอบของบตั รที่หยิบได้ ผ้เู ลน่ ที่วางเบ้ียได้ครบ 3 ช่อง เรียงกันก่อนเป็นผู้ชนะ
4. ครูอาจให้นักเรยี นสลับคู่กันเล่นเพ่ือเป็นการฝึกทักษะการคูณและการแกโ้ จทยป์ ัญหาการคณู มาก
ขนึ้ ครูอาจแนะนำวา่ ในระหว่างท่ีเล่นเกมถ้านกั เรยี นคนใดหาคำตอบผดิ หรือหาคำตอบไมไ่ ด้อาจให้เพ่อื นชว่ ย
หาคำตอบหรือใหแ้ นะนำวิธกี ารหาคำตอบได้ ไม่ถือว่าผดิ กตกิ า
5. จากน้นั ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกทา้ ทายในหนงั สอื แบบฝกึ หัดหนา้ 193 − 196
88
10. ส่ือการเรยี นรู้
1. หนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
2.แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท.
3.กระดานบงิ โกขนาด 3 × 3
4.บตั รโจทย์ 9 − 10 บัตร
5.เบี้ย 2 สี สีละ 9 อนั
11. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
1. วธิ ีการวัดและประเมนิ ผล
1.1 ตรวจแบบฝึกหัด
1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรม
1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ
2. เครอ่ื งมือ
2.1 แบบฝกึ หดั
2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุม่
3. เกณฑ์การประเมนิ
3.1 รอ้ ยละ 70 ผ่านเกณฑ์
3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน
ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ า่ น
3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
ผา่ นต้ังแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น
ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน
89
แบบทดสอบหลังเรยี น
เร่ือง การคูณ
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
จากโจทย์ ขอ้ 1 - 3 ควรเติมจำนวนใดลงใน 6. แตงโมหน่ึงลูกหนกั 5 กิโลกรัม แตงโม 13 ลกู
1. 9 x 9 = มีนำ้ หนักกี่กโิ ลกรัม (แตงโมแต่ละลูกมีน้ำหนัก
เทา่ กัน)
ก. 80
ข. 81 ก. 75 กโิ ลกรมั
ค. 82 ข. 65 กิโลกรัม
2. 3 x 10 = ค. 55 กโิ ลกรัม
ก. 50 7. แมว 16 ตัว มขี ารวมกันทงั้ หมดกขี่ า
ข. 40 ก. 66 ขา
ค. 30 ข. 65 ขา
3. 5 x 9 = 9 x ค. 64 ขา
ก. 5 8. ปหู นึ่งตัวมี 6 ขา ปู 19 ตัว มีขารวมกันกี่ขา
ข. 4 ก. 114 ขา
ค. 3 ข. 113 ขา
4. 4 x 6 = 24 ตรงกบั ข้อใด ค. 112 ขา
ก. 4 + 4 + 4 + 4 = 24 9. มังคดุ หนง่ึ เข่งมนี ้ำหนัก 51 กิโลกรมั มงั คดุ 9
ข. 6 + 6 + 6 + 6 = 24 เขง่ มีนำ้ หนกั รวมกนั กี่กิโลกรัม (มงั คุดแต่ละเข่งมี
ค. 6 + 6 + 6 + 6 + 6 = 24 น้ำหนัก เทา่ กัน)
5. 9 + 9 + 9 + 9 + 9 + 9 + 9 = ตรง ก. 469 กโิ ลกรัม
กับข้อใด ข. 459 กโิ ลกรัม
ก. 7 x 9 = ค. 449 กิโลกรัม
ข. 957 10. นุชขายเสอ้ื ได้ 7 ตวั ราคาตัวละ 69 บาท นุช
ค. 975 ขายเสอื้ ได้เงนิ ทั้งหมดก่บี าท
ก. 483 บาท
ข. 484 บาท
ค. 485 บาท
90
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
เร่ืองการวดั น้ำหนกั เปน็ กรัม
คำชีแ้ จง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓
ลงในชอ่ งทีต่ รงกับระดบั คะแนน
ลำดับ ช่อื – สกุล การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี การตรงตอ่ รวม
ที่ ของนักเรียน ความ ฟงั คนอ่นื ตามทีไ่ ด้รบั นำ้ ใจ เวลา 15
คดิ เห็น มอบหมาย
คะแนน
321321321321321
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ
91
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
เรื่องการวดั น้ำหนักเปน็ กรมั
คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในช่องที่
ตรงกับระดับคะแนน
การมี
การแสดง การทำงาน ส่วนร่วมใน
ความ ตามทีไ่ ด้รับ
ลำดับ ชื่อ – สกลุ คดิ เหน็ การยอมรับ มอบหมาย ความมี การ รวม
ท่ี ของนักเรียน ฟังคนอื่น นำ้ ใจ ปรบั ปรุง 15
ผลงาน คะแนน
กลุ่ม
321321321321321
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../...............
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
12 - 15 ดี
8 - 11 พอใช้
ต่ำกวา่ 8 ปรับปรงุ
92
แบบฝึกทกั ษะการคณู ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2
เล่มท่ี .............. เรอ่ื ง ...........................................................
เลขท่ี ชื่อ - สกลุ ชดุ ท่ี ........
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 รวม
93