รายงาน วิชา วิทยาการคำ นวณ ตามมาตรฐานการเรียนรู้เเละตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3(ฉบับปรับปรุง 2560) นายวัชรพงษ์ ผูกพันธ์ Student
การประมวลผลข้อมูลแบ่งตามอุปกรณ์ที่ใช้ 1. การประมวลผลข้อมูลด้วยมือ2. การประมวลผลข้อมูล ด้วยเครื่องจักรกลการประมวลผลข้อมูล 3. การประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ 1. ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล 2. ซอฟต์แวร์ที่ใช้สำ หรับประมวลผลข้อมูล 3. ซอฟต์แวร์ที่ใช้ สำ หรับสร้างและนำ เสนอข้อมูล 3. การใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการข้อมูล และสารสนเทศ การรวบรวมข้อมูปฐมภูมิ การรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมด้วยตนเอง ทำให้ได้ข้อมูลตรงตามความต้องการมากที่สุด เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมข้อมูลไว้เเล้วผู้อื่น การนำ ช้อมูลทุติยภูมิมาใช้จะต้องตรวจสอบคุณภาพ ของข้อมูลก่อน การรวบรวบข้อมูล
การนำ เข้าข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ Input เป็นขั้นตอนการรับข้อมูลเข้าสู่ คอมพิวเตอร์โดยผ่านทางหน่วยรับข้อมูล เช่น การรับเสียงจากไม Process เป็นขั้นตอนการนำ เข้ามา จัดการโดยผ่าน กระบวนการต่างๆเช่นการคำ นวณ การเรียงข้อมูล การเเยกประเภทข้อมูล เป็นการเเสดงโดยผ่านทางหน่วยเเสดงผล เช่นการเเสดงผลทางจอภาพ Output
การสืบค้นข้อมูลเพื่อหาเเหล่งข้อมูล ความน่น่ น่ า น่ าเชื่ชื่ ชื่ อ ชื่ อถืถื ถื อ ถื อของข้ข้ ข้ อ ข้ อมูมู มู ล มู ล การสืบค้นแหล่งข้อมูล คือ กระบวนการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ โดยใช้เครื่อง มือต่าง ๆ การสืบค้นหาเพื่อแหล่งข้อมูลสามารถทำ ได้ ดังนี้ 1. การสืบค้นข้อมูล ด้วยมือ เป็นการสืบค้นข้อมูลด้วยเอกสาร หนังสือ ตำ รา โดยสามารถ สืบค้นจาก สถานที่หรือหน่วยงานที่จัดเตรียมข้อมูลต่าง ๆ 2. การสืบค้นข้อมูลด้วย คอมพิวเตอร์ เป็นการสืบค้นข้อมูลผ่านเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ เช่น การสืบค้นข้อมูลจากระบบฐานข้อมูล ข้อมูลออนไลน์ ข้อมูลบน อินเทอร์เน็ต ข้อมูลจากโปรแกรมค้นหา (Search Engine) การนำ ข้อมูลสารสนเทศไปใช้ประโยชน์จำ เป็นจะต้องมีการประเมินความน่า เชื่อถือของ ข้อมูล เพื่อคัดแยกหรือเลือกเฉพาะข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ มีความถูก ต้อง และตรงตามความ ต้องการ โดยหลักการประเมินความน่าเชื่อถือ มีดังนี้ 1. ประเมินความตรงตามความต้องการของข้อมูล 2. ประเมินความน่าเชื่อถือและ ความทันสมัยของข้อมูล 3. ประเมินระดับเนื้อหาของข้อมูล การประเมินความน่าเชื่อถือ การรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศ เป็นลักษณะสมรรถนะที่ครอบคลุมทักษะแห่งศตวรรษ ที่ 21 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศผ่านสื่อและ เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเป็นสิ่ง ทีจําเป็นในการดำ เนินงานต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับผลสำ เร็จ องค์ประกอบของการรู้เท่าทันสื่อ มีดังนี้ 1. ความสามารถในการเข้าถึงสื่อ 2. ความ เข้าใจในการประเมินค่าสารสนเทศและเนื้อหาในสื่อ 3. การสร้าง การใช้ประโยชน์ และการเฝ้าระวังสารสนเทศและเนื้อหาในสื่อ 4. การสะท้อนคิด การรู้เท่าทันสื่อ
ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต สามารถค้นคว้าเเละ เข้าถึงข้อมูลโดยผ่านเว็บไซต์ต่างได้ สามารถเเลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เช่นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหว ของข่าวสารจากทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว สามารถติดประกาศข้อความต่างๆ ที่ต้องการประกศให้ผู้อื่นทราบได้ ซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ ที่ให้บริการเพื่อควาสะดวกเเละรวดเร็ว สามารถติดต่อสื่อสาร กับบุคคลอื่นทั่วโลกได้
โทษของอินเตอร์เน็ต มีข้อมูลที่มีผลเสีย เผยเเพร่อยู่ปริมาณมาก ไม่มีระบบจัดการข้อมูลที่ดี ทำ ให้การค้นหาทำ ให้ ยากลำ บาก ถ้าเล่นอินเตอร์มากเกินไปอาจทำ ให้เสียการเรียนได้ ข้อมูลบางอย่างไม่จริงควร ตรวจสอบก่อนว่ามีความ น่าเชื่อถือหรือไม่ มีข้อมูลที่เป็นอันตราย เผยเเพร่อยู่ปริมาณมาก อินเตอร์เน็ตเป็นระบบ อิสระทำ ให้การควบคุม กระทำ ได้ยาก
กฏหมาย การใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศ คอมพิวเตอร์ การใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ไม่ใช้งาน Wi-Fi สาธารณะ ตั้งรหัสผ่านให้มี ความปลอดภัย ออกจากระบบทุกครั้ง เลือกเว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย https:// เท่านั้น สํารวจราคา ก่อนสั่งชื้อ และตรวจสอบทะเบียนร้านค้าก่อนสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ เคารพความเป็นส่วนตัว คำ นึงถึงความ ถูกต้องแม่นยำ ของข้อมูล ความเป็นเจ้าของ และการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต หน่วยที่3 เทคโนโลยีสารสนเทศ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำ ความผิดเกี่ยว กับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ประกอบด้วยมาตราต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 30 มาตรา โดยถูกแบ่ง ออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนทั่วไป ส่วนความผิดเกี่ยว กับคอมพิวเตอร์ และส่วนของพนักงาน เจ้าหน้าที่ และมีพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ที่มี การปรับปรุงข้อกฎหมายใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 บางประการ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โทษความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำ ข้อมูลที่มีลักษณะลามกอนาจารที่ ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้เข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ โทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่ เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ เข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่มี มาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยมิชอบ โทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับ ไม่เกิน10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ เผยแพร่วิธีการเข้าถึงระบบ คอมพิวเตอร์ ของผู้อื่นที่มีมาตรการ ป้องกันไว้โดย เฉพาะ และน่าจะ ทำ ให้เกิดความเสีย หายแก่ผู้อื่น เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่มี มาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ นำ ข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอัน เป็น เท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ใดใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อ ดักรับไว้ซึ่งข้อมูลของผู้อื่นที่อยู่ระหว่าง การส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูล นั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อสาธารณะ โทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ โทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่ เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ โทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ โทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มีดมีดมีดมีดมีด มีดมีดมีด มีดมีดมีดมีดมีดมีดมี้ดมี๊ด