The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นาฏศิลปืสร้างสรรค์ ม.1-3 โรงเรียนบ้านเข็กน้อย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

นาฏศิลปืสร้างสรรค์ ม.1-3 โรงเรียนบ้านเข็กน้อย

นาฏศิลปืสร้างสรรค์ ม.1-3 โรงเรียนบ้านเข็กน้อย

กลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ สาระการเรีรีรียรีนรู้รู้รู้ศิรู้ศิศิลศิปะ สาระนาฏศิศิศิลศิป์ป์ป์ป์ สำสำสำสำนันันักนังานเขตพื้พื้ พื้ น พื้ นที่ที่ ที่ ก ที่ การศึศึศึกศึษามัมัมัธมัยมศึศึศึกศึษาเพชรบูบูบูรบูณ์ณ์ณ์กณ์ลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ 2 งานศิศิศิลศิปหัหัตหัหัถกรรมนันักนันัเรีรียรีรีน ครั้รั้งรั้รั้รั้ที่ที่ ที่ที่ 70 ปีปีกปีปีารศึศึศึกศึษา 2565 นาฏศิศิศิลศิป์ ป์ไทยสร้ร้ ร้ าร้ างสรรค์ค์ค์ค์ ระดั ดับชั้ชั้นชั้ชั้ชั้มัมัธมัมัยมศึศึศึกศึษาปีปีที่ปีที่ปี ที่ที่ 1-3 ฮอยฮูฮูฮู ป ฮู ปฟ้ฟ้ ฟ้ อ ฟ้ อน โรงเรีรีรียรีนบ้บ้บ้าบ้นเข็ข็ข็กข็น้น้น้อน้ย น้น้ น้ อ น้ อมศรัรั รั ท รั ทธาถวยบูบูบู ช บู ชาผาสาทผึ้ผึ้ ผึ้งผึ้ ปีที่ปี ที่สร้าร้งสรรค์ผลงาน ปีกปีารศึกษา 2565 เอกสารเเนะนำ รายละเอียดของการเเสดง นาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์


การแสดงนาฏศิศิศิศิลป์ป์ป์ป์ไทยสร้ร้ ร้ร้ างสรรค์ค์ ค์ค์ ระดัดั ดั บดั บชั้ชั้ชั้ นชั้ นมัมั มั ธ มั ธยมศึศึศึ กศึ กษาปีปีปีที่ปีที่ ที่ที่1-3 โรงเรีรี รีรียนบ้บ้ บ้บ้ านเข็ข็ ข็ข็กน้น้ น้น้ อย อำอำอำอำเภอเขาค้ค้ ค้ค้ อ จัจั จัจังหวัวั วัวั ดเพชรบูบูบูบู รณ์ณ์ ณ์ณ์ สำสำสำสำนันันันักง า น เ ขตพื้พื้ พื้พื้นที่ที่ ที่ที่กา รคึคึคึคึกษ ามัมัมัมัธ ยมศึศึศึศึกษ า เพช ร บูบูบูบูร ณ์ณ์ณ์ณ์เ ขต ฮอยฮูฮูฮูฮู ปฟ้ฟ้ ฟ้ฟ้อน น้น้ น้น้ อมศรัรั รัรัทธาถวยบูบูบูบู ชาผาสาทผึ้ผึ้ ผึ้ผึ้ง


คณะกรรมการผู้สผู้ ร้าร้งสรรค์ นางสาวขนิษนิฐา พงษ์เกษตรกรรม ผู้อำผู้ อำนวยการโรงเรียรีนบ้าบ้นเข็กข็น้อน้ย นางยุวธิดธิา รินริลา รองผู้อำผู้ อำนวยการโรงเรียรีนบ้าบ้นเข็กข็น้อน้ย นางวรรณกร โสภา รองผู้อำผู้ อำนวยการโรงเรียรีนบ้าบ้นเข็กข็น้อน้ย นายนิรุนิทรุธิ์ มีไมีทย รองผู้อำผู้ อำนวยการโรงเรียรีนบ้าบ้นเข็กข็น้อน้ย นายพรเทพ พิมพิทอง ประธานกรรมการผู้ฝึผู้ ฝึกซ้อซ้ม นางสาวกาญจนา กลิ่นบัวบัขาว ผู้ฝึผู้ ฝึกซ้อซ้ม นางนพรัตรัน์ สมใจ ผู้ฝึผู้ ฝึกซ้อซ้ม นางสาวกัญญารัตรัน ทองทวี ผู้ฝึผู้ ฝึกซ้อซ้ม นางสาววรรณวิสวิา สุริสุวริงษ์ เลขานุกนุารและกรรมการผู้ฝึผู้ ฝึกซ้อซ้ม เอกสารประกอบการแข่งข่ขันขังานศิลปหัตหัถกรรมนักนัเรียรีน ครั้งรั้ที่ 70 ปีกปีารศึกษา 2565 กลุ่มลุ่สาระการเรียรีนรู้ศิรู้ศิลปะ นาฏศิลปั การแข่งข่ขันขันาฎศิลป์ไป์ทยสร้าร้งสรรค์ ระดับดัชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่ 1-3 ชุ ด ก า ร แ ส ด ง ฮ อ ย ฮู ปฟ้อ น ฮ อ ย ฮู ปฟ้อ น น้ อ ม ศ รั ท ธ า ถ ว ย บู ช า ผ า ส า ท ผึ้ ง หน่วน่ยงานสนับนัสนุนนุโรงเรียรีนบ้าบ้นเข็กข็น้อน้ย ลิขสิทสิธิ์เธิ์พลงการแสดง นายพรเทพ พิมพิทอง ผู้จัผู้ ดจัทำ ข้อข้มูล นายพรเทพ พิมพิทอง นายฤทธิพธิร สอดโสม ครูโรงเรียรีนเอราวัณวัวิทวิยาคม วิทวิยากรพิเพิศษ นายพสธร คำ ค้อ นิสิตสิคณธเเพทย์ศย์าสตร์ มหาวิทวิยาลัยนเรศวร วิทวิยากรพิเพิศษ


คำ นำ เอกสารฉบับบันี้จัดจัทำ ขึ้นขึ้เพื่อพื่ ใช้ปช้ระกอบการแข่งข่ขันขังานศิลปหัตหัถกรรมนักเรียรีน ครั้งรั้ที่ 70ปีกปีารศึกษา 2565 กลุ่มลุ่สาระการเรียรีนรู้ศิรู้ ศิลปะนาฏศิลป์ การแข่งข่ขันขันาฎศิลป์ไป์ทย สร้าร้งสรรค์ระดับชั้นชั้มัธมัยมปีที่ 1-3 เพื่อพื่สร้าร้งความเข้าข้ใจเกี่ยวกับกรอบแนวคิดในการ สร้าร้งสรรค์ ชุดฮอยฮูปฟ้อฟ้น ถวยสมมาบูชาผาสาทผึ้งผึ้ คณะผู้สผู้ ร้าร้งสรรค์ได้เรียรีบเรียรีงเนื้อหาเกี่ยวกับแนวคิดในการสร้าร้งสรรค์ผลงาน ประกอบไปด้วด้ยแนวคิดและที่มา การกำ หนดลักษณะของการแสดง การแต่งกายประกอบ การแสดงการกำ หนดดนตรี ประกอบการแสดงและกระบวนการออกแบบท่ารำ ประกอบ การแสดง คณะผู้จัผู้ ดจัทำ หวังวัเป็นอย่าย่งยิ่งยิ่ว่าว่เอกสารฉบับบันี้จัดจัทำ ขึ้นขึ้เพื่อพื่ ใช้ปช้ระกอบการ แข่งข่ขันขังานศิลปหัตหัถกรรมนักเรียรีน ครั้งรั้ที่ 70 ปีการศึกษา 2565 กลุ่มลุ่สาระการเรียรีนรู้ ศิลปะ นาฏศิลป์ การแข่งข่ขันขันาฏศิลป์ไป์ทยสร้าร้งสรรค์ระดับชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ 1-3 จะเป็น แนวทางข้อข้มูลเบื้อบื้งต้นเพื่อพื่สร้าร้งความเข้าข้ใจเกี่ยวกับกรอบแนวคิดในการสร้าร้งสรรค์ ชุดฮอยฮูปฟ้อฟ้น น้อมศรัทรัธาถวยบูชาผาสาทผึ้งผึ้และสุดสุท้ายนี้ คณะผู้สผู้ ร้าร้งสรรค์ผลงาน ขอขอบคุณคุผู้บผู้ ริหริารและคณะครูที่มีส่มีวส่นเกี่ยวข้อข้งทุกทุท่านที่ได้ให้กห้ารสนับสนุนส่งส่เสริมริ ใน การสร้าร้งสรรค์ผลงานในครั้งรั้นี้สำ เร็จร็ลุล่ลุล่วงไปด้วยดี โรงเรีรีรียรีนบ้บ้บ้าบ้นเข็ข็ข็กข็น้น้น้อน้ย ก


เรื่อง คำ นำ ก สารบัญ ข วัตถุประสงค์ 1 แผนการดำ เนินงาน 1 กรอบแนวคิดพื้นฐานและแรงบันดาลใจของการแสดง 2-8 กระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน 9 แนวคิดการกำ หนดรูปแบบและลักษณะของการแสดง 10-13 แนวคิดในการออกแบบเครื่องแต่งกายของนักแสดง 14-19 แนวคิดการออกแบบดนตรีประกอบการแสดง 20-21 แนวคิดกระบวนการออกแบบประดิษฐ์ท่ารำ 22-27 กรอบแนวคิดในการออกแบบอุปกรณ์ประกอบการแสดง 28-29 สรุปผลงานการดำ เนินงาน 30 บรรณานุกรม 31 ภาคผนวก 32 สารบัญ ข


แผนการดำ เนินงาน 1.คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำ มาเป็นแรงบันดาบใจในการแสดง 2. ศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูล ที่เกี่ยวข้อง 3. คิดกรอบแนวคิดในการแสดงด้านต่างๆ 4. ออกแบบท่ารำ และฝึกซ้อมการแสดง 5. เผยแพร่ผลงานสื่อ 6. จัดทำ รูปเล่ม และนำ เสนอการแสดง การแสดงนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ ชุด ชุด ฮอยฮูปฟ้อน น้อมศรัทธาถวยบูชาผาสาทผึ้ง ผู้สร้างสรรค์ได้ดำ เนินตามขั้นตอนดังนี้ 1.ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องในหัวข้อต่อไปนี้ 1.1 จิตรกรรมฝาผนังวัดศรีมงคล อำ เภอหล่มเก่า 1.2 ประเพณีบุญออกพรรษาของพุทธศาสนานิกชนไทยและในแถบจังหวัดเพชรบูรณ์ 1.3 ประวัติและความสำ คัญของการประดิษฐ์ต้นผึ้งเพื่อถวายในวันออกพรรษา 1.4 ฮูปแต้มหรือจิตรกรรมฝาหนังศิลปะอีสาน 2.การกำ หนดการแสดงแสดงนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ ชุด “บุญออกพรรษา ถวยองค์พระสัมมา บูชา ปราสาทผึ้ง 2.1 กรอบแนวคิดพื้นฐานและแรงบันดาลใจของการแสดง 2.2 แนวคิดการกำ หนดรูปแบบลักษณะของการแสดง 2.3 กรอบแนวคิดในการออกแบบเครื่องกายของนักแสดง 2.4 แนวคิดการออกแบบดนตรีประกอบการแสดง 2.5 แนวคิดกระบวนการออกแบบท่ารำ และการสร้างสรรค์ผลงาน วัตถุประสงค์ 1.เพื่อให้นักเรียนนักตระหนึกถึงความสำ คัญของประเพณีและวันสำ คัญทางศาสนา 2. เพื่อเป็นการเผยแพร่ศิลปะการแสดงนาฏศิลป์ไทย ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่จากเรื่องราว ในพุทธศาสนา 3. เพื่อเป็นการต่อยอดและเสริมสร้างทักษะทางนาฏศิลป์ให้กับผู้เรียน หน้าที่ 1


ฮูปแต้ม เป็นความงามที่ซ่อนอยู่ในสิมอีสาน หรือก็คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังของโบสถ์ในภาษาภาคกลาง แต่ เนื่องจากผู้ที่สร้างสรรค์งานฮูปแต้มส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน หรือพระภิกษุในวัด จึงทำ ให้ผลงานมีความต่างกับงาน จิตรกรรมโดยฝีมือช่างหลวงในภาคกลาง ซึ่งมีความ ประณีตวิจิตรบรรจงตามกำ ลังทุนทรัพย์ที่รัฐอุปถัมภ์ให้ ผู้เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบอีสาน อาจเป็นผู้ที่ไม่มี ความรู้ทางจิตรกรรมมาก่อน จึงทำ ให้ความสวยงามของ ภาพค่อนข้างธรรมดา แต่มีสิ่งที่สำ คัญกว่าคือการสะท้อน ให้เห็นถึงภูมิปัญญา วิถีชีวิต และเรื่องราวในการดำ เนิน ชีวิตของผู้คนในภาคอีสานออกมาเป็นชีวิตจิตใจ คำ ว่า ฮูปแต้ม ถ้าออกเสียงในภาษากลางก็คือ รูปแต้ม หมายถึงภาพที่มาจากการแต้มสี ผู้ที่วาดภาพจิตรกรรม ฝาผนังในภาคกลางเรียกว่า ช่างวาด หรือ จิตรกร แต่ใน อีสานเรียกผู้เขียนฮูปแต้มว่า ช่างแต้ม เป็นการใช้ภาษาสื่อ ความหมายที่ตรงไปตรงมา ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดนาทราย ภาพจิตรกรรมฝาผนังในวัดนาทรายหรือวัดศรีมงคล อำ เภอหล่มเก่า ปรากฎภาพขบวนแห่ปราสาทผึ้งและการแต่ง กายแบบชาวไทหล่มที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายสะท้อน ถึงวิถีชีวิตและประเพณีของชาวไทหล่มซึ่งเป็นประเพณีที่เกิด จากความศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อพระพุทธศาสนาและความ เชื่อเกี่ยวกับสิ่งเหนือธรรมชาติชาวไทหล่มจึงให้ความสำ คัญ งานประเพณีแห่ปราสาทผึ้งเป็นอย่างมากเพราะมีความเชื่อ ว่าการทำ บุญด้วยปราสาทผึ้ง ถือเป็นบุญกุศลสูงส่ง มีคติอยู่ 2อย่างคือถวายเป็นพุทธบูชา เพื่ออานิสงส์กับตนเองเมื่อตาย ไปจะได้มีที่อยู่อาศัย อีกนัยหนึ่งคือ ทำ บุญอุทิศให้คนที่ล่วงลับ ไปแล้ว ซึ่งประเพณีแห่ปราสาทผึ้งจะจัดขึ้นทุกปีตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือ วันออกพรรษา หน้าที่ 2


วัด วั ศรีม รี งคล วัดวันาทราย อำ เภอหล่มเก่า จังจัหวัดวัเพชรบูรณ์ วัดวัเก่าแก่ที่มีปมีระวัติวั ติยาวนานคู่เคู่มือมืงเพชรบูรณ์ มาช้าช้นาน สร้าร้งขึ้นขึ้ ในปี พ.ศ. 2358 หรือรืสมัยมัอยุธยา ตอนปลาย เดิมดิทีวัดวัแห่งห่นี้ในี้ ช้ชื่ช้ ชื่อชื่วัดวัทรายงามตาม ลักษณะลานวัดวัที่เป็นป็ลานทรายสีแสีดงสะอาดสวยงาม ภายในวัดวัมีพมีระพุทธรูปรูประธานนามว่าว่ "พระพุทธ มงคล" เป็นป็พระปูนปั้น ศิลปะล้านช้าช้ง เดิมดิเป็นป็ พระทองสัมสัฤทธิ์คู่ธิ์ คู่กัคู่กับพระยืนยื 2 องค์ แต่ถูกถูทหาร ญี่ปุ่ญี่ปุ่นปุ่ขโมยไปเมื่อมื่สงครามโลกครั้งรั้ที่ 2 และโบราณ สถานที่สำ คัญ คือ โบสถ์เก่า (สิมสิ ) เป็นป็สถาปัตยกรรม ในพุทธศาสนาที่มีคมีวามสำ คัญและเป็นป็ศาสนสถาน ที่ใช้ ในประกอบพิธีพิกธีรรมทางศาสนามาตั้งตั้แต่สมัยมั โบราณ มีอมีายุประมาณ 200 ปี โดยสิมสิที่สร้าร้งขึ้นขึ้เป็นป็ศิลปะ ล้านช้าช้ง ที่มีเมีอกลักษณ์โณ์ดดเด่นด่ของทันทวย เนื่อนื่งจาก ชาวบ้าบ้นยุคนั้นนั้มีเมีชื้อชื้สายหลวงพระบาง นอกจากนี้ยั นี้ งยั โดดเด่นด่ด้วด้ยภาพจิตจิรกรรมฝาผนังนัซึ่งซึ่เป็นป็ภาพเขียขีน สีฝุ่สี ฝุ่นผสมกาวหนังนัและเขียขีนบนพื้นพื้ ปูนเกี่ยวกับประวัติวั ติ พระพุทธเจ้าจ้สิบสิชาติ แสดงเรื่อรื่งราวของพระพุทธเจ้าจ้ ในชาติต่าง ๆ ก่อนที่จะเป็นป็องค์พระสัมสัมาสัมสัพุทธเจ้าจ้ ภาพนรก-สวรรค์ ที่แฝงปรัชรัญาคำ สอนให้บุห้บุคคล ละเว้นว้ความชั่วชั่ทำ แต่ความดี และภาพที่สะท้อนให้เห้ห็นห็ ชีวิชีตวิของสังสัคมท้องถิ่นในอดีตดี ได้อด้ย่าย่งแจ่มจ่ชัดชัที่ตั้งตั้ : อำ เภอหล่มเก่า จังจัหวัดวัเพชรบูรณ์ การเดินดิทาง : ใช้ ทางหลวงสายหล่มเก่า-วังวับาล ระยะทางจากอำ เภอ หล่มเก่าประมาณ 3 กิโลเมตร และจากทางแยกเข้าข้ หมู่บ้มู่าบ้นนาทรายหมู่ที่มู่ ที่ 2 เป็นป็ระยะทางอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ฮอยฮูปฟ้อน น้อมศรัทธาถวยบูชาผาสาทผึ้ง หน้าที่ 3


ประเพณีเ ณี เห่ต้ ห่ น ต้ ผึ้ง ผึ้ ของไทหล่ม ล่ วัดวัท่าท่กกแก ตำ บลตาลเดี่ยวอำ เภอหล่มล่สักสั ประเพณีแณีห่ต้ห่นต้ ปราสาทผึ้งผึ้วัดวัท่าท่กกแก เป็นป็ ประเพณีดั้ณีงดั้เดิมดิของคนหล่มล่ที่สืที่บสืเชื้อชื้สายมาจากวัฒวันธรรม ล้าล้นช้าช้ง สมัยมัก่อก่นมีกมีารทำ กันกัอย่าย่งแพร่หร่ลายแถวพื้นพื้ที่ที่ที่ ที่ คนหล่มล่อยู่อยู่าศัยศัวิธีวิกธีารคือคืชาวบ้าบ้นจะนำ เอาแม่พิม่มพิพ์ ซึ่งซึ่ อาจจะเป็นป็มะละกอดิบดิหรือรืฟักฟัทองดิบดิแกะสลักลัเป็นป็ดอก จุ่มจุ่ ลงไปในขี้ผึ้ขี้ ผึ้งผึ้ที่ต้ที่มต้ ให้ร้ห้อร้นจนเหลว จากนั้นนั้ก็นำก็นำมาจุ่มจุ่ลงในน้ำ เย็นย็ โดยทันทัที ขี้ผึ้ขี้ ผึ้งผึ้ก็จก็ะจับจัตัวตัแข็งข็และหลุดลุออกมาเป็นป็ดอก ตามลวดลายของแม่พิม่มพิพ์ เรียรีกว่าว่ดอกผึ้งผึ้จากนั้นนั้ก็จก็ะนำ ดอกผึ้งผึ้ดังดักล่าล่วมาประดับดักับกัหยวกกล้วล้ยที่มีที่ ไมีม้ไม้ผ่เผ่ ป็นป็ โครง ดัดดัแต่งต่เป็นป็ทรงรูปรูปราสาท ขนาดใหญ่เญ่ล็กล็ตามความ ต้อต้งการ แล้วล้ร่วร่มกันกัแห่เห่อาไปถวายให้พห้ระในวัดวัการแห่ต้ห่นต้ ผึ้งผึ้จะทำ กันกั ในช่วช่งออกพรรษา หรือรืทำ พร้อร้มกับกัการทอด กฐินฐิเลย ผู้เผู้ฒ่าฒ่ผู้แผู้ ก่เก่ล่าล่ ให้ฟัห้งฟัว่าว่สมัยมัก่อก่นจะมีกมีารแห่ต้ห่นต้ผึ้งผึ้ ลงเรือรืไปตามแม่น้ำม่ น้ำป่าป่สักสัและอยากถวายวัดวั ไปก็นำก็นำขึ้นขึ้ท่าท่น้ำ ไปถวายได้ตด้ามที่ญที่าติโติยมต้อต้งการ ภูมิภูปัมิญปัญาที่แที่ ฝงอยู่ใยู่น ประเพณีนี้ณีคืนี้อคืกระบวนการนำ เอาขี้ผึ้ขี้ ผึ้งผึ้ไปถวายพระ เพื่อพื่พระ จะได้นำด้นำเอาขี้ผึ้ขี้ ผึ้งผึ้นั้นนั้ ไปหล่อล่เป็นป็เทียทีนเพื่อพื่ทำ พุทธบูชบูาอีกอีที หนึ่งนึ่ โดยพระจะไม่ต้ม่อต้งออกมาหาขี้ผึ้ขี้ ผึ้งผึ้เอง ซึ่งซึ่อาจจะทำ ให้เห้กิดกิ การผิดผิศีลศีนอกจากนั้นนั้ยังยัมีคมีวามเชื่อชื่ถึงถึการถวายต้นต้ผึ้งผึ้ เพื่อพื่เป็นป็การทำ บุญบุถึงถึบรรพบุรุบุษรุ ญาติพี่ติน้พี่อน้งและเพื่อพื่ เป็นป็การแก้บก้นอีกอีด้วด้ย และนอกจากจะมีกมีารถวายต้นต้ ปราสาทผึ้งผึ้แล้วล้ยังยัมี การลอยประทีปที ไหลเรือรืไฟ เพื่อพื่เป็นป็กรขอขมาพระ แม่คม่งคา ซึ่งซึ่เป็นป็ ประเพณีที่ณีทำ ที่ ทำควบคู่กัคู่บกั ประเพณี แห่ต้ห่นต้ ปราสาทผึ้งผึ้มาอย่าย่งยาวนานเช่นช่เดียดีวกันกั ผู้สื่ผู้ สื่อสื่ข่าข่วรายงานว่าว่ระหว่าว่งแห่ต้ห่นต้ ปราสาทผึ้งผึ้รอบ อุโบสถนั้นนั้ผู้เผู้ข้าข้ร่วร่มขบวนได้ร้ด้อร้งรำ อย่าย่ง สนุกนุสนาน หน้าที่ 4


พุทธประวัติวั ติวันวั ปวารณาออกพรรษา วันวัออกพรรษา ตรงกับวันวัขึ้นขึ้ 15 ค่ำ เดือดืน 11 เป็นป็วันวั ที่พระภิกษุพ้นพ้ข้อข้กำ หนดทางวินัวิยนัที่จะอยู่จำยู่จำพรรษา นับนั ตั้งตั้แต่วันวัเข้าข้พรรษาเป็นป็ต้นมา และสามารถจาริกริ ไปค้าง แรมที่อื่นได้ ซึ่งซึ่จะมีปมีระเพณีที่ณี ที่ เกี่ยวข้อข้ง คือ การตักบาตร เทโวโรหนะ คือวันวัถัดจากวันวัออกพรรษา 1 วันวัซึ่งซึ่ พุทธศาสนิกนิชนมักมัจะตักบาตรในวันวันี้ ด้วด้ยนิยนิมว่าว่เป็นป็วันวั คล้ายวันวัที่พระพุทธเจ้าจ้เสด็จด็ลงมาจากสวรรค์ชั้นชั้ดาวดึงดึส์ หลังจากเสด็จด็ ไปโปรดพุทธมารดาอยู่ 3 เดือดืน และถัดจาก ออกพรรษา 1 เดือดืน ถือเป็นป็เทศกาลกฐินฐิที่จะทำ บุญ ถวายผ้าผ้กฐินฐิตามวัดวัต่าง ๆ เมื่อมื่เทศกาลเข้าข้พรรษาได้ผ่ด้าผ่น พ้นพ้ ไปถึง 3 เดือดืน ก็จะเป็นป็ช่วช่งเวลาของ "วันวัออกพรรษา" ซึ่งซึ่ถือเป็นป็การสิ้นสิ้สุดสุระยะการจำ พรรษา หรือรืออกจากการ อยู่ปยู่ระจำ ที่วัดวั ในช่วช่งฤดูฝดูนตลอด 3 เดือดืนของพระภิกษุ สงฆ์ โดย วันวัออกพรรษา ตรงกับวันวัขึ้นขึ้ 15 ค่ำ เดือดืน 11 ของทุกทุปี ซึ่งซึ่เรียรีกอีกอย่าย่งว่าว่ "วันวัมหาปวารนา" คำ ว่าว่ "ป วารนา" นั้นนั้แปลว่าว่อนุญนุาตหรือรืยอมให้ ความสำ คัญของวันวัออกพรรษา วันวัออกพรรษา เป็นวันวัสำ คัญของพุทธศาสนา ด้วยเหตุผตุลดังนี้ 1. หลังจากวันวัออกพรรษาพระสงฆ์ไฆ์ด้รับรัพระบรมพุทธานุญาตให้ จาริกริ ไปค้างแรมที่อื่นได้ 2. เมื่อมื่ออกพรรษาแล้วพระสงฆ์จฆ์ะได้นำ ความรู้จรู้ากหลักธรรมและ ประสบการณ์ที่ได้รับรัระหว่าว่งพรรษาไปเผยแผ่แผ่ก่ประชาชน 3. ในวันวัออกพรรษาพระสงฆ์ไฆ์ด้ทำ ปวารณา เปิดโอกาสให้เห้พื่อพื่น พระภิกษุว่าว่กล่าวตักเตือนเรื่อรื่งความประพฤติของตนเพื่อพื่ ให้เห้กิด ความบริสุริทสุธิ์ ความเคารพนับถือและความสามัคมัคีกัน 4. พุทธศาสนิกชนได้นำ แบบอย่าย่งไปทำ ปวารณาเปิดโอกาสให้ผู้ห้ ผู้ อื่นว่าว่กล่าว ตักเตือนตนเองเพื่อพื่ประโยชน์ต่อการพัฒพันาตนและ สร้าร้งสรรค์สังสัคมต่อไป หน้าที่ 5


ประวัติวั ติและความเป็นป็มาของการประดิษดิฐ์ต้ฐ์ ต้นผึ้งผึ้เพื่อพื่ถวายในวันวัออกพรรษา การถวายต้นผึ้งผึ้เป็นป็พุทธบูชามีที่มี ที่ มาจากพุทธประวัติวั ติตอนที่ 154 "เรื่อรื่งลิงถวายรวง ผึ้งผึ้” ขณะที่พระพุทธเจ้าจ้ประทับ ณ ป่าป่ ปาเลไลยก์ กล่าวถึง เมื่อมื่ครั้งรั้ที่พระพุทธเจ้าจ้เสด็จด็จำ พรรษาในป่าป่ต้นสาละใหญ่โญ่ดยลำ พังพัมีช้มีาช้งป่าป่นามว่าว่ "ปาลิไลยก์” เป็นป็บริวริารจัดจัอาหารถวาย ประจำ เมื่อมื่ลิงเห็นห็เข้าข้ก็นำ รวงผึ้งผึ้ ไปถวายบ้าบ้ง แต่พระพุทธเจ้าจ้ไม่ทม่รงรับรัเพราะว่าว่ ในรวงผึ้งผึ้ นั้นนั้ยังยัมีตัมี ตัวผึ้งผึ้อ่อนอยู่ หลังจากนั้นนั้เจ้าจ้ลิงจึงจึกลับไปดึงดึตัวผึ้งผึ้อ่อนออกจากรวงผึ้งผึ้แล้วนำ ไป ถวายอีกครั้งรั้ครั้งรั้นี้พ นี้ ระพุทธเจ้าจ้ทรงรับรั ในเวลาต่อมาเจ้าจ้ลิงที่ถวายรวงผึ้งผึ้ได้ตด้กต้นไม้ตม้าย แต่กุศกุลผลบุญที่ทำ ไว้ใว้นการถวายรวงผึ้งผึ้ที่ไม่มีม่ตัมี ตัวผึ้งผึ้อ่อนแก่พระพุทธเจ้าจ้ ได้ได้ปเกิดเป็นป็เทพ บุตรบนสรวงสวรรค์ หน้าที่ 6


วัฒวันธรรมประเพณีถิ่ณี ถิ่นอีสานเนิ่นนิ่นานมา มีต้มี ต้นผึ้งผึ้ และหอผึ้งผึ้เป็นเครื่อรื่ง สักสัการบูชาพระพุทธเจ้าจ้ที่สำ คัญยิ่งยิ่ ไม่เม่พียพีงในวันวัวิสวิาขบูชาอย่าย่งที่ด่าด่นซ้าซ้ยเท่านั้นนั้แต่ยังยัทำ กันเสมอในงานบุญประเพณีต่าง ๆ ที่เรียรีก "ฮีตสิบสิสอง คองสิบสิสี่”สี่ รวมทั้งทั้การทำ บุญให้ผู้ห้เผู้สียสีชีวิชีตวิก็มีต้มี ต้นผึ้งผึ้เป็น เครื่อรื่งบูชาและเชื่อชื่ว่าว่ผู้ตผู้ ายจะมีที่มี ที่ อยู่บยู่น สรวงสวรรค์ ทาง ภาคกลางเรียรีกต้นผึ้งผึ้และหอผึ้งผึ้เช่นช่นี้ว่ นี้ าว่ "ปราสาทผึ้งผึ้” ใน เวลา ต่อมาต้นผึ้งผึ้และหอผึ้งผึ้ตามรูปรูแบบดั้งดั้เดิมดิถูกถู สร้าร้งสรรค์ให้มีห้คมีวามอลังการสมกับ คำ เรียรีกที่ว่าว่ "ปราสาทผึ้งผึ้” นอกจากนี้พุ นี้พุทธศาสนิกนิชนในจังจัหวัดวัเพชรบูรณ์ก็ณ์ ก็ได้ มีกมีารทำ ต้นผึ้งผึ้เพื่อพื่ถวายเป็นป็พุทธบูชาในวันวัออกพรรษา ด้วด้ยกัน เช่นช่ชาวบ้าบ้นจะทำ เทียนไปต้มและใช้พิช้มพิพ์ทำพ์ ทำเป็นป็ รูปดอกไม้เม้รียรีกว่าว่ดอกผึ้งผึ้หรือรืดอกเผิ้งผิ้จากนั้นนั้นำ มา ตกแต่งบนต้นกล้วยหรือรืปราสาทที่ทำ จากต้นกล้วยหรือรื วัสวัดุที่ดุที่ คล้ายปราสาท และนำ ไปถวายพระสงฆ์ใฆ์นวันวัเพ็ญพ็ 15 ค่ำ เดือดืน 11ของทุกทุปี จึงจึเป็นป็แนวคิดหลักและแรงบันบัดาลใจในการ สร้าร้งสรรค์ผลงาน นาฏศิลป์ไป์ทยสร้าร้งสรรค์ชุด ชุด “ฮอยฮูปฟ้อฟ้น ถวยสมมาบูชาผาสาทผึ้งผึ้” ให้สื่อสื่ถึง จินจิตนาการภาพจิตจิรกรรมฝาผนังนัมีชีมีวิชีตวิฮูปหรือรืรูปที่ ฟ้อฟ้นรำ เพื่อพื่ถวายต้นผึ้งในวันวัออกพรรษาเพื่อพื่สืบสืสาน ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งผึ้ซึ่งซึ่เป็นป็ ประเพณีที่มีมมีาแต่ โบราณของชาวไทหล่ม โดยผ่าผ่นการนำ เสนอในรูป แบบการฟ้อฟ้นประกอบเพลงร่าร่ยรำ ตามทำ นองซึ่งซึ่จะ ช่วช่ยให้จรรโลงใจและธำ รงพุทธศาสนาเเละเผยเเพร่ ศิลปวัฒวันธรรมของชาวไทหล่มต่อไป หน้าที่ 7


ฮ อ ย ฮู ป ฟ้ อ น น้น้น้น้อ ม ศ รัรัรัรัท ธ า ถ ว ย บูบู บู บู ช า ผ า ส า ท ผึ้ผึ้ ผึ้ผึ้ง ” หน้าที่ 8


คณะผู้สผู้ ร้าร้งสรรค์ได้กำ หนดรูปแบบของการแสดง ฮอยฮูปฟ้อฟ้น ถวยสมมาบูชาผาสาทผึ้งผึ้ ให้อห้ยู่ใยู่น รูปแบบศิลปะฟ้อฟ้นรำ แบบอีสาน แสดงถึงความเลื่อมใสศรัทรัธาในพระพุทธศาสนาดังปรากฏในภาพ จิตจิรกรรมฝาผนังวัดวันาทราย ที่ป็นวิถีวิ ถีชีวิชีตวิเเบบอีสานการแห่ต้ห่ ต้นผึ้งผึ้ในวันวัออกพรรษาการประดิษฐ์ต้ฐ์ ต้นผึ้งผึ้ไป ถวายพระสงฆ์แฆ์ละในตอนกลางคืนก็จะมีกมีารจุดประทีป จุดเทียน บูชาองค์พระสัมสัมาพระพุทธเจ้าจ้ตามบ้าบ้น เรือรืน ซึ่งซึ่เป็นสัญสัลักษณ์และสัญสัญาณบอกว่าว่ถึงวันวัออกพรรษาเป็นที่เรียรีบร้อร้ยแล้ว การร่าร่ยรำ ตามทำ นอง ของเพลงที่ใช้ใช้นการแสดงที่ช่วช่งลำ เดินพุทธประวัติวั ติและรำ ตามทำ นองสรภัญญะ ซึ่งซึ่สรภัญญะเป็นศิลป วัฒวันธรรมด้านการขับขัร้อร้งของชาวพื้นพื้เมือมืงที่มีวัมีฒวันธรรมเเบบชาวอีสานช้าช้นช้าช้งเพื่อพื่ ให้เห้กิดความสุนสุทรีย์รี ย์ ในการแสดงซึ่งซึ่สามารถแบ่งบ่การแสดงออกเป็น 4 ช่วช่งดังนี้ กระบวนการ สร้า ร้ งสรรค์ผลงาน ฮอยฮูปฟ้อ ฟ้ น น้น้น้น้อ ม ศ รัรัรัรัท ธ า ถ ว ย บูบูบูบูช า ผ า ส า ท ผึ้ผึ้ผึ้ผึ้ง ” หน้าที่ 9


1 ช่วช่งที่ 1 การรำ ตามจังจัหวะทำ นองดนตรีสรีร้าร้งสรรค์ เปรียรีบนักนัเเสดงเป็นป็ดอกบัวบั 7 ดอก มารอรับรัพระพุทธเจ้าจ้ในวันวัเทโวโรหนะ หรือรืวันวัพระเจ้าจ้เปิดปิ โลก ใช้กช้ระบวนท่ารำ สื่อสื่ถึงความ นอบน้อน้มเเละศรัทรัธาต่อพระพุทธศาสนา การใช้ผ้ช้าผ้ฝ้ายสีขสีาวในการกราบไหว้เว้เละโรยกลีบ ดอกไม้สัม้กสัการะต่อพระสัตสัมโคดม การเเสดงช่ว ช่ งที่ HOOPFON นบน้อน้มค้อมสักสัการ์ บัดนี้ ข้าขอนพนอบน้อม องค์ท่านพระ สัมมา คุณพระธรรมเหนือเกศา พร่ำ สังโฆ พร้อม จิตใจน้อบนำ ธรรมบ่ได้ขาด บัดนี้มา ฮอดแล้ว ถวยแก้วหน่วยสาม ฝูงข้าขอก ราบก้ม องค์ท่านสัมมา ตรัสธรรมในโลกา ให้หมู่คนหายฮ้อน นาที 00.00-1.5ึึ7 หน้าที่ 10


2 ช่วช่งที่ 2 เป็นป็การฟ้อฟ้นตามทำ นองลำ พื้นพื้เล่าเรื่อรื่งราวภาพ พุทธประวัติวั ติความเป็นป็มาของการบูชาต้นผึ้งผึ้แด่พด่ระพุทธเจ้าจ้ จากนิทนิานชาดก ภาพพุทธประวัติวั ติลิงถวายรวงผึ้งผึ้ในป่าป่เลย์ ไลย์เย์ป็นป็ที่มาของการบูชาต้นผึ้งผึ้เเด่พด่ระสัตสัมโคดม การเเสดงช่ว ช่ งที่ HOOFON ลำ พื้นพื้ ปูมเเต่เค้า เล่าฮอยผาสาทผึ้งผึ้ บัดนี้ ข้าขอนพนอบน้อม องค์ท่านพระ สัมมา คุณพระธรรมเหนือเกศา พร่ำ สังโฆ พร้อม จิตใจน้อบนำ ธรรมบ่ได้ขาด บัดนี้มา ฮอดแล้ว ถวยแก้วหน่วยสาม ฝูงข้าขอก ราบก้ม องค์ท่านสัมมา ตรัสธรรมในโลกา ให้หมู่คนหายฮ้อน นาที 1.58- 4.55 หน้าที่ 11


3 ช่วช่งที่ 3 เป็นป็การฟ้อฟ้นตามทำ นองสรภัญญะ ในวันวัออกพรรษา อุบาสกอุบาสิกสิาจะมีกมีารสวดสรภัญญะซึ่งซึ่เป็นป็การขับขัร้อร้งตาม วัฒวันธรรมของอีสานมีเมีนื้อนื้หาเกี่ยวกับวันวัออกพรรษา เพื่อพื่สื่อสื่ ถึงการเชิญชิชวนให้มห้าทำ บุญและเห็นห็ความสำ คัญของประเพณี และวันวัสำ คัญของพุทธศาสนา การเเสดงช่ว ช่ งที่ HOOPFON สืบสืฮีตคองเค้า เเต่เก่าเดิมดิดา ถึงวันออกพรรษา ถึงวันออกพรรษา พฤศจิกาสิบห้าค่ำ ถึงวันสังฆกรรม ถึงวัน สังฆกรรม มหาล้ำ ของหมู่สงฆ์ เป็นวันพุทธ องค์ เป็นวันพุทธองค์ เสด็งลงโปรดสัตตา ด้วยธรรมิกถา ด้วยธรรมิกถาเพื่อสัตตา แสงสว่าง เพื่อสัตตาแสงสว่าง นาที 4.56-7.55 หน้าที่ 12


4 ช่วช่งที่ 4 เป็นป็การแสดงเกี่ยวกับการประดิษดิฐ์ต้ฐ์ ต้นผึ้งผึ้และการ บูชาต้นผึ้งผึ้ไปถวายพระสงฆ์แฆ์ละบรรยากาศช่วช่งสุดสุท้ายเป็นป็ บรรยากาศตอนกลางคืนพระจันจัทร์เร์ต็มดวง ผู้คผู้ นออกมาจุด ประทีปและจุดเทียนตามอาคารบ้าบ้นเรือรืนเป็นป็สัญสัลักษณ์ขณ์อง ประเพณีอณีอกพรรษาดังดัภาพที่ปรากฏในจิตจิรกรรม ฝาผนังนัวัดวันาทราย การเเสดงช่ว ช่ งที่ HOOPFON โฮมตุ้มตุ้ศรัทรัธา ถวยบูชาผาสาทผึ้งผึ้ นาที 7.56- 9.43 หน้าที่ 13


LOOK BOOK HOOPFON หน้าที่ 14


COSTUME การแต่งกายเป็นชุดการแต่งกายแบบศิลปะฮูปแต้ม ใบหน้าน้ไทย ใส่เส่สื้อสื้ผ้าผ้เเละเครื่อรื่งเเต่ งกายเเบบภาพในจิตจิรกกรรมฝาผนังนั โดยผู้สผู้ ร้าร้งสรรค์นำ รูปรูแบบของการแต่งกายของชาวไท หล่มมาเป็นหลักในการออกแบบโดยสื่อสื่นักนัแสดงหมายถึง ฮูปหรือรืรูปรูในจิตจิรกรรมฝาผนังนัที่มีชีมีวิชีตวิ ออกมาร่าร่ยรำ ในกระท่าต่างๆราวกับหลุดลุออกมาจากผนังนัวัดวันาทราย การแต่งกายนั้นจะสื่อให้เห็นแนวคิดในการประดิษฐ์ท่ารำ ในการ แสดงเพื่อสื่อให้ถึงความสวยงามและเอกลักษณ์ของการร่ายรำ แบบอีสานนิยมใส่เสื้อแขนกระบอกสีขาวและผ้าถุงลวดลาย สวยงาม การแสดงชุดนี้ออกแบบการแต่งกายโดยยึดเอาสีเเละ รูปแบบของฮูปแต้มในศิลปะอีสานรูปแบบต่างๆ มาเชื่อมโยงกับ เรื่องราวที่ปรากฏในจิตรกรรมฝาผนัง ใส่เสื้อแขนกระบอกขาว หรือเสื้อสีครามและนุ่งผ้าซิ่นแบบอีสาน ซึ่งชาวไทหล่มมักมีผ้าทอ สำ หรับโอกาสพิเศษ เช่น ใช้ในงานบุญประเพณีต่างๆ งานฟ้อน รำ ผ้าที่ทอจึงมักมีลวดลายที่สวยงามวิจิตรสวยงาม ตามวัฒนธรรมเเละศิลปะการเขียนฮูปในเเบบความเป็นล้านช้าง แนวคิคิคิดคิ ในการออกแบบเครื่รื่รื่รื่อรื่รื่งแต่ต่ต่งต่กาย หน้าที่ 15


การออกแบบการเเต่งกายใน look ที่ 1 ฮอยฮูปเเต้ม ได้รัด้บรัเเรงบันบัดาลใจมากจาก การเขียขีนภาพจิตจิรกรรมฝาผนังนัในรูปรูแบบล้านช้าช้ง ปรากฏในสิมสิตามวัดวัพบใน ภาคอีสานเขียขีนเรื่อรื่งราววิถีวิ ถีชีวิชีตวิอีสานเเละเรื่อรื่งราวพุทธประวัติวั ติรวมทั้งทั้วรรรณ กรรมท้องถิ่น โดยคณะผู้สผู้ ร้าร้งสรรค์ได้นำด้นำสีที่สี ที่ปรากฏในคันทวยวัดวันาทรายซึ่งซึ่เป็นป็ สีตสีามเเบบศิลปะล้านช้าช้งมาสร้าร้งสรรค์เป็นป็เครื่อรื่งเเต่งกายใน look ที่ 1 109 ฮอยฮูปแต้ม Look 1 เสื้สื้สื้สื้อสื้สื้เเขนกระบอกคอจีจีนจีจีสีสีสัสัสีสีนสัสัต่ต่ต่าต่งๆ ผ้ผ้าผ้ผ้สไบสีสีตสีสีามฮูฮูฮูฮูปแต้ต้ต้มต้ ซิ่ซิ่นซิ่ซิ่หมี่มี่คั่คั่ มี่มี่ คั่นคั่คั่คั่น้น้อน้น้ยหรืรือรืรืซฺ่ซฺ่ซฺ่ซฺ่นซฺ่ซฺ่หัหัวหัหัเเดงตีตีตีนตี ก่ก่ก่าก่นนุ่นุ่งนุ่นุ่ เเบบสั้สั้นสั้สั้สั้สั้ ทรงผมทรงมหาดไทย ต่ต่ต่าต่งหูหูหูหู กำ ไล สร้อร้ย เข็ข็มข็ข็ขัขัดขัขั ดอกไม้ม้ทัทัม้ม้ ทัดทัหูหูหูหู หน้าที่ 16


การแต่งกายเป็นป็ชุดการแต่งกายแบบศิลปะฮูปแต้ม ในจิตจิรกรรมฝาผนังนั วัดวันาทราย อำ เภอหล่มเก่า ผู้สผู้ ร้าร้งสรรค์นำ มาเป็นป็เเรงบันบัดาลใจในการรังรัสรรค์ เครื่อรื่งเเต่งกาย ในภาพจินจิตนาการที่ฮูปเเต้มสามารถออกมามีชีมีวิชีตวิออกมาร่าร่ยรำ ในกระท่าต่างๆราวกับหลุดลุออกมาจากผนังนัวัดวันาทราย ภาพจิตจิรกรรมฝาผนังนัในวัดวันาทรายหรือรืวัดวัศรีมรีงคลอำ เภอหล่มเก่า ปราก ฎภาพขบวนแห่ปห่ราสาทผึ้งผึ้และการแต่งกายแบบชาวไทหล่มที่มีมมีาตั้งตั้แต่สมัยมั อยุธยาตอนปลายสะท้อนถึงวิถีวิ ถีชีวิชีตวิและประเพณีขณีองชาวไทหล่มซึ่งซึ่เป็นป็ ประเพณีที่ณี ที่ เกิดจากความศรัทรัธาของชาวบ้าบ้นที่มีต่มี ต่อพระพุทธศาสนา 109 ฮูปฟ้อ ฟ้ น ออนซอน วัด วั นาทราย Look 2 เสื้สื้สื้สื้อสื้สื้เเขนกระบอกสีสีขสีสีาว ผ้ผ้าผ้ผ้เเพรไส้ส้ปส้ส้ลาไหล ซิ่ซิ่นซิ่ซิ่หมี่มี่คั่คั่ มี่มี่ คั่นคั่คั่คั่น้น้อน้น้ยหรืรือรืรืซฺ่ซฺ่ซฺ่ซฺ่นซฺ่ซฺ่หัหัวหัหัเเดงตีตีตีนตี ก่าน ทรงผมทรงมหาดไทย ต่ต่ต่าต่งหูหูหูหู กำ ไล สร้อร้ย เข็ข็มข็ข็ขัขัดขัขั ดอกไม้ม้ทัทัม้ม้ ทัดทัหูหูหูหู หน้าที่ 17


1 เป็ .เ นป็ สื้ เ สื้อสื้ สื้ แ สื้อสื้ ข ผ้ น าผ้ ก ฝ้ ร ฝ้าย ะบ แ อ ข ก นยาวสีขสีาวคอจีนจีผ่าผ่หน้าน้อก L ยาวต O ลอดทั้งทั้ตั O ตัว K02 2.ผ้าซิ่น ผ้าซิ่นหัวเเเดงตีนก่านแบบไทหล่ม 3. สไบผ้าเเพรไส้ปลาไหล 6. สร้อยคอ ลักษณะของสร้อยคอเป็นสร้อยเงิน ลักษณะคล้ายลูกปะคำ ใช้สำ หรับคล้องคอให้สวยงาม 8. ดอกรวงผึ้ง ดอกรวงผึ้งสีเหลืองใช้ทัดหู นักแสดงทัดด้านซ้ายตามจารีตของนาฏศิลป์ ไทย 7. เข้มขัดเป็นเข็มขัดเงินแบบโบราณอีสานหรือ สามารถใช้แบบอื่นที่สวยงามตามความเหมาะสมได้ หน้าที่ 18


การแต่งกายของนักนัแสดงชายประกอบด้วด้ย 1.เสื้อสื้เขนกระบอกสีกสีรมแขนยาว 2.ผ้าผ้พันพัเอว 3.ผ้าผ้โสร่งร่ 4.สักสัลวดลายที่ขาทั้งทั้สองข้าข้ง การแต่งกายของนักนัแสดงชายจะแต่งกายตามแบบศิลปะฮูปแต้มดังดั ปรากฏในจิตจิรกรรมฝาผนังนัสิมสิอีสาน หน้าที่ 19


หน้าที่ 4 กรอบแนวคิดในการออกแบบเพลงประกอบการแสดงชุด ฮอยฮูปฟ้อฟ้น น้อมศรัทธา ถวยบูชาผาสาทผึ้ง หน้าที่ 20


เนื้อนื้เพลง ฮอยฮูปฟ้อฟ้น น้อน้มศรัทรัธาถวยบูชาผาสาทผึ้งผึ้ ผู้แผู้ ต่ง เพชร น้ำ หมาก ขับขัร้อร้ง หทัยรัตรัน์ บุญจุล คำ ร้อร้ง เพชร น้ำ หมาก ดนตรี วิทวิวัสวัแสนเริงริ บันบัทึกเสียสีง Ejueji Studio บัดบั นี้ข้าข้ขอนพนอบน้อม องค์ท่านพระสัมสัมา คุณคุพระธรรมเหนือนื เกศา พร่ำ สังสัโฆพร้อร้ม จิตจิ ใจน้อบนำ ธรรมบ่ไบ่ด้ขด้าด บัดบันี้มนี้าฮอดแล้ว ถวย แก้วหน่วยสาม ฝูงข้าข้ขอกราบก้ม องค์ท่านสัมสัมา ตรัสรัธรรมในโลกา ให้ หมู่คมู่นหายฮ้อน ลำ พื้นพื้เอาเด้อด้เนียดเนียดต้อง เนียดต้อง ข้าข้วก่องลมตี ลมเมื่อมื่สี วอนๆ โบกไหว ปลิวว่อว่น ปลาลงต้อน ลมหนาวมาผ่าผ่ออกพรรษา ส่อส่ง แจ้งจ้เดือดืนจ้าจ้ส่อส่งสี ในมื้อมื้นี้สิบสิห้าห้ค่ำ พ ย คนกะรอทำ บุญฮ่วมสังสัโฆเจ้าจ้ สามเดือดืนเข้าข้พรรษาคือว่าว่วันวั ปวารณา บัดบันี้มนี้าฮอดเเล้วแซวเอิ้นใส่กัส่ กัน บางเฮ็ดชั้นชั้ต้นดอกผึ้งผึ้มาถวายอุทิศหาคนตายแต่เดิมดิสอนไว้ ในตอนต้น พระสังสัโฆท่านกล่าว ถึงเรื่อรื่งราวแต่ครั้งรั้องค์เหนาหน่อน่พุทโธ ครั้งรั้นึ่งได้ ประทับอยู่เยู่รไร อยู่ใยู่นดงดอนนา ป่าป่เลไลย์กย์ว้าว้ง มียัมีงยัเชื้อชื้กุญกุชรสัตสัว์ใว์หญ่ ภัตตาหารส่งส่ ให้ยห้ามเช้าช้ยกมา วานรได้หด้ลิงก่อนทำ ตามมันมัจึงจึนำ เอามา มธุปฏลถวยถวยเจ้าจ้ โคดมเหง้าบ่ยบ่อมเอาคือว่าว่ภูมภูรินริลูกลูน้อยในนั่นนั่ ซอนบังบัลิงจึงจึได้เด้ก็บออกจนหมด พระองค์ยอมือมืรับรัมันมัซื่นซื่ ใจเหลือล้น เอาโต้นเตน เอาโต้นเต่น ตีนไต่ต่าวตาล ตื่นไปตำ ตามตูมตูหล่นลงทางใต้ มันมัจึงจึได้มด้รณาตายจาก หากว่าว่บุญส่วส่นนั้นนั้ นำ ยู่ส่ยู่งส่ ไป บุญจึงจึได้นำด้นำส่งส่ เมือมืงสวรรค์ ตอนสำ คัญประวัติวั ติมา ให้หห้มู่เมู่ฮา ทำ นี้ (สรภัญญ์)ญ์ถึงวันวัออกพรรษา ถึงวันวัออกพรรษา พฤศจิกจิาสิบสิห้าห้ค่ำ ถึงวันวัสังสัฆกรรม ถึงวันวัสังสัฆกรรม มหาล้ำ ของหมู่สมู่งฆ์ เป็นป็วันวัพุทธองค์ เป็นป็วันวัพุทธองค์ เสด็งด็ลงโปรดสัตสัตา ด้วด้ยธรรมิกมิถา ด้วด้ยธรรมิกมิถาเพื่อพื่ สัตสัตา แสงสว่าว่ง เพื่อพื่สัตสัตาแสงสว่าว่ง หนทางอันมืดมืมน ให้ผู้ห้คผู้ นได้ร่ด้วร่มกันเป็นป็วันวัอัศจรรย์ วันวัสำ คัญ ศาสนา พระองค์เปิดปิ โลกา มนุษามาทำ บุญ เพิ่มพิ่พูนบุญเอาไว้สีว้ลสีะมัยมั รักรัษาศีลให้รู้ห้ทรู้าง สลัดมารความตระหนี่ หมู่เมู่ฮาจงทำ ดี เพื่อพื่สุขีสุใขีนโลกา มาลาดอกไม้หม้อม ข้าข้น้อมมาบูชาธรรม และนำ การฟ้อฟ้นรำ บูชาธรรม ศาสนา พวกข้าข้ให้ไห้ด้บุด้บุญความวายวุ่นวุ่อย่าย่ ได้มีด้ มีทุกทุคนให้อห้ยู่ดียู่ ดีจงสุขสุขีทุขีกทุ เมื่อมื่เทอญ เพลงประกอบการแสดงชุด ฮอยฮูปฟ้อฟ้น น้อมศรัทธาถวยบูชาผาสาทผึ้ง สงวนลิขสิทธิ์ ครูพรเทพ พิมทอง หน้าที่ 21


แนวคิดในการออกแบบ กระบวนท่ารำ ประกอบ การเเสดง ผู้สผู้ ร้าร้งสรรค์ผลงานได้ศึด้ ศึกษาเรื่อรื่งราวเนื้อนื้หาของดนตรีแรีละเนื้อนื้หา ของเพลงจากนั้นนั้นำ สู่กสู่ ารคิดและประดิษดิฐ์ท่ฐ์ ท่ารำ ให้สห้อดคล้องกับ ทำ นองเพลงในแต่ละจังจัหวะเริ่มริ่จากการเกริ่นริ่ท่ารำ จะช้าช้และอ่อนช้อช้ย เข้าข้กับจังจัหวะมีกมีารเล่าเรื่อรื่งผ่าผ่นกระบวนท่ารำ เนื้อนื้หาของเพลงเป็นป็ ช่วช่งๆ ใช้ท่ช้ ท่ารำ มาตรฐานมาประยุกต์และสร้าร้งสรรค์ให้สห้วยงามเหมาะ สมกับความหมายของเพลงและทำ นองของเพลงใช้กช้ารจัดจัตำ แหน่งน่ เป็นลูกลูเล่นของการแสดงให้สห้วยงามมากยิ่งยิ่ขึ้นขึ้การคิดประดิษดิฐ์ท่ฐ์ ท่ารำ ตามคำ ร้อร้งและเนื้อนื้หาของเพลงโดยใช้จัช้งจัหวะทำ นองอีสาน ทั้งทั้ลำ เดินดิ และทำ นองสรภัญญะเล่าเรื่อรื่งของการแสดง ทั้งทั้นี้ยันี้งยัมีกมีารใช้ท่ช้ ท่ารำ มาตรฐาน เช่นช่ท่าพรมสี่หสี่น้าน้ท่าสอดสร้อร้ยมาลาแปลงมาผสมผสาน ท่ารำ แม่บม่ทอีสาน การก้มต่ำ รำ วาดและมีท่มี ท่ารำ ต่างๆ ที่สามารถสื่อสื่ เนื้อนื้หาของเพลงได้ผู้ด้แผู้ สดงต้องใช่คช่วามอ่อนช้อช้ยในการร่าร่ยรำ ให้เห้ข้าข้ กับจังจัหวะซึ่งซึ่มีทั้มี ทั้งทั้ช้าช้และเร็วร็สลับกันไปมา ทั้งทั้ยังยัต้องใช้ท่ช้ ท่าทางและ ตำ แหน่งน่ ประกอบการแสดงให้สื่ห้ สื่อสื่ความหมายมากขึ้นขึ้ หน้าที่ 22


กระบวนท่ารำ ฟ้อฟ้นก้มต่ำ รำ วาด ฟ้อฟ้นประกอบอุปกรณ์กณ์ารเเสดงได้เด้เก่ พานใส่ผ้ส่าผ้ขาว มีกมีระบวนท่ารำ ที่ฟ้อฟ้นไป ตามจังจัหวะดนตรีสรีร้าร้งสรรค์ ท่าเบญจางคประดิษดิฐ์ การจัดจัตำ แหน่งน่ นักนัเเสดงเพื่อพื่ความสวยงามประกอบ ดนตรี แนวคิดในการออกแบบกระบวนท่ารำ ประกอบการเเสดง ช่วช่งการเเสดงที่ 1 หน้าที่ 23


ท่าไหว้ แสดงความศรัทรัธาต่อพระพุทธเจ้าจ้หรือรืสิ่งสิ่ศักดิ์สิดิ์ทสิธ์ต่ธ์ ต่างๆ เนื้อนื้ร้อร้ง บัดบันี้ ข้าข้ขอนบนอบน้อน้ม องค์ท่านพระสัมสัมา ข้าข้ขอกราบก้ม องค์พระสัมสัมา ท่าลมพัดพัพร้าร้ว แสดงถึงลักษณะการพัดพัของสายลม ที่มีกมีารเคลื่อนไหวแบบอิสระของ ธรรมชาติ เนื้อร้อร้ง ข้าข้วก่องลมตี ลมเมื่อมื่สีวสีอนๆ โบกไหว ปลิวว่อว่นปลาลงต้อน ลมหนาวมาผ่าผ่ พรรษาส่อส่งเเจ้งจ้เดือนจ้าจ้ส่อส่งสี แนวคิดในการออกแบบกระบวนท่ารำ ประกอบการเเสดง ช่วช่งการเเสดงที่ 2 ท่านอบน้อม แสดงถึงความ นอบน้อมของพุทธสากนิกชนต่อ พระพุทธศาสนา เนื้อร้อร้ง บัดบันี้ ข้าข้ขอนพนอบน้อม องค์ท่านพระสัมสัมา หน้าที่ 24


ท่าพรหมสี่ห สี่ น้าน้แสดงออกถึงความยิ่งยิ่ใหญ่ไญ่พศาล เจริญริรุ่งรุ่เรือรืงของพระธรรม คำ สอนแห่งห่พระพุทธศาสนาที่พุทธศาสนิกนิชนยึดยึถือและน้อน้มนำ มาปฏิบัติบั ติเป็นป็ที่ตั้้ง เนื้อนื้ร้อร้ง คุณคุพระธรรมเหนือนืเกศา พร่ำ สังสัโฆพร้อร้ม ท่าเลียนเเบบรูปร่าร่งสัตสัว์ เช่นช่ช้าช้ง เป็นป็กรับรัวนท่ารำ ที่เลียนเเบบลักษณะของ ช้าช้ง เนื้อนื้ร้อร้ง กุญกุชรสัตสัว์ใว์หญ่ ภัตตาหารส่งส่ ให้ยห้ามเช้าช้ยกมา ท่าล่อแก้ว เนื้อนื้ร้อร้ง บัดบันี้ม นี้ าฮฮดเเล้ว ถวยเเก้วหน่วน่ยสาม หน้าที่ 25


แนวคิดในการออกแบบกระบวนท่ารำ ประกอบการเเสดง ช่วช่งการเเสดงที่ 3 ท่าทางประกอบวิถีวิ ถีชีวิชีตวิการะประดิษดิฐ์ต้ฐ์ ต้นผึ้งผึ้ ใช้กช้ระบวนท่ารำ อิสระ พุทธศาสนิกนิชนมาประดิษดิฐ์ต้ฐ์ ต้นผึ้งผึ้ไปถวายพระ ดนตรี : เสียสีงกลองคำ ร้อร้ง ถึงวันวัออกพรรษา พฤศจิกจิา 15 ค่ำ ท่าสอดสร้อร้ยมาลาแปลง คำ ร้อร้ง หนทางอันมืดมืมน ให้ผู้ห้คผู้ นได้ร่ด้วร่มกันเป็นป็วันวัอัศจรรย์ วันวัสำ คัญศาสนา พระองค์ เปิดปิ โลกา มนุษนุามาทำ บุญ เพิ่มพิ่พูนบุญเอาไว้สีว้ลสีะมัยมัรักรัษาศีล หน้าที่ 26


ท่ายูงฟ้อฟ้นหาง คำ ร้อร้ง หมู่เมู่ฮาจงทำ ดี เพื่อพื่สุขีสุใขีนโลกา มาลาดอกไม้หม้อม ข้าข้น้อน้มมาบูชาธรรม และนำ การฟ้อฟ้นรำ บูชาธรรมศาสนา แนวคิดในการออกแบบกระบวนท่ารำ ประกอบการเเสดง ช่วช่งการเเสดงที่ 4 กระบวนท่ารำ ขบวนแห่ปห่ราสาทผึ้งผึ้นักนัเเสดงถืออุปกรณ์ปณ์ระกอบการเเสดง ตั้งตั้เเถวเป็นป็ ขบวนเเห่ต้ห่ ต้นผึ้งผึ้ฟ้อฟ้นรำ ตามทำ นอง ลายดนตรีสรีร้าร้งสรรค์ หน้าที่ 27


ฮอยฮูปฟ้อน น้อมศรัทธาถวยบูชาผาสาทผึ้ง หน้าที่ 28


หน้าที่ 29


สรุปผลการดำ เนินงานโครงงานนาฏศิลป์ไป์ทยสร้างสรรค์ ชุด ฮอยฮูปฟ้อฟ้น น้อมศรัทธา ถวยบูชาผาสาทผึ้ง จากการศึกษาและดำ เนินงานโครงงานนาฏศิลป์ไทยสร้างสรรค์ เรื่อง ฮอยฮูปฟ้อน น้อมศรัทธา ถวยบูชาผาสาทผึ้งนี้ทำ ให้มีความเข้าใจและความสำ คัญของนาฏศิลป์ไทยที่สามารถนำ มาต่อยอดและ พัฒนาให้ดีขึ้น โดยใช้ความรู้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำ งานจนผลงานสำ เร็จลุล่วงไปด้วยดี การ ดำ เนินงานโครงงานบรรลุประสงค์และเกิดประโยชน์กับผู้ที่จะศึกษาค้นคว้าต่อไป สรุปผลการดำ เนินงาน ได้ดังนี้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในการสร้างสรรค์ผลงานด้านนาฏศิลป์ นักเรียนรู้จักต่อยอดและสืบสานและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย นักเรียนมีความรู้ในเนื้อหาเรื่องราวของเรื่องที่ทำ คือเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติเละวันสำ คัญของ ศาสนาพุทธอีกทั้งยังเข้าใจในประเพณีเเละเเหล่งโบราณสถานที่สำ คัญ นักเรียนมีความสามัคคีในการทำ งานร่วมกับผู้อื่น รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกันมีวุฒิภาวะการ ทำ งานเป็นทีม นักเรียนรู้จักการเป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นักเรียนได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายและเข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีและหน้าที่ของ พุทธศาสนิกชนที่ดี ประโยชน์คน์าดว่าว่จะได้รัด้บรั 1. 1. นักนัเรียรีนได้เด้รียรีนรู็กรู็ารทำ งานเป็นป็ทีม 2. แสดงให้เห้ห็นห็ถึงพัฒพันาการ การสร้าร้งสรรค์ผลงานทางด้าด้นนาฏยศิลป์พื้ป์ พื้นพื้เมือมืง ด้าด้นการประดิษดิฐ์ กระบวนท่ารำ และ รูปรูแบบการแปรแถวที่ประดิษดิฐ์ขึ้ฐ์ขึ้นขึ้มาใหม่ 3. ได้เด้รียรีนรู้กรู้ระบวนการดำ เนินนิงานที่ผู้สผู้ ร้าร้งสรรค์ได้ศึด้ ศึกษามา สามารถนำ มาประยุกต์ใช้ใช้นชีวิชีตวิ ประจำ วันวัและถ่ายทอดไป ยังยัผู้ที่ผู้ ที่สนใจรวมสู่คสู่ นรุ่นรุ่หลังได้ 4. ก่อให้เห้กิดกระบวนการสร้าร้งสรรค์ผลงานทางด้าด้นนาฏยศิลป์พื้ป์ พื้นพื้เมือมืง แต่ยังยัคงเอกลักษณ์ขณ์องนาฏยศิลป์พื้ป์ พื้นพื้เมือมืงให้ คงไว้ดัว้งดัเดิมดิ 5. เป็นป็ผู้อผู้ นุรันุกรัษ์ ผู้ศึผู้ ศึกษากระบวนการประดิษดิฐ์ท่ฐ์ ท่ารำ ทางด้าด้นนาฏยศิลป์พื้ป์ พื้นพื้เมือมืง ในรูปรูแบบการรำ แบบอีสาน อีกทั้งทั้ยังยั ได้ฝึด้ ฝึกฝนกระบวนท่า ฝึกจัดจัระเบียบีบร่าร่งกาย และได้อด้นุรันุกรัษ์และสืบสืสานท่าฟ้อฟ้นที่ปรากฏอยู่ใยู่นอดีตดี หน้าที่ 30


บรรณานุกรม ครูเหม เวชกร . สมุดภาพพระพุทธประวัติ ฉบับอนุรักษ์ภาพเขียนทางพระพุทธศาสนา. [ออนไลน์].2565. สืบค้นวันที่ 3 กันยายน 2565.จาก http://www.84000.org/tipitaka/picture/f66.htmlfbclid=IwAR1eDh8d _252TcCpcjPv9NH5-aYGb5IwTY5KtiHHyVHxoGMs5oD614CtjFQ ชาวเพชรบูรณ์ ร่วมอนุรักษ์ประเพณี แห่ปราสาทผึ้ง ลอยประทีป ขอขมาพระแม่คงคา. [ออนไลน์].2565. สืบค้นวันที่ 3 กันยายน 2565.จาก https://www.komchadluek.net/news/447069 วัดศรีมงคล (วัดนาทราย). [ออนไลน์].2565. สืบค้นวันที่ 3 กันยายน 2565.จาก https://thai.tourismthailand.org/Attraction ทิดหมู มักหม่วน . ฮูปแต้ม (ภาพเขียน).[ออนไลน์].2565. สืบค้นวันที่ 3 กันยายน 2565.จาก https://www.isangate.com/new/32-art-culture/knowledge/529-isan-drawing.html? fbclid=IwAR2YLUQkQyEJ8dzCFRDMes49AqmL2q_8PhSL2NXIox1S3qKZYNVnSHgI Ew หน้าที่ 31


ภาคผนวก หน้าที่ 32


ชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่1 1. ด.ญ.ปภาดา โรจน์แน์สงสิทสิธิ์กุธิ์ลกุ 2. ด.ญ.ชลดา แซ่ซ้ซ่งซ้ 3. ด.ญ.จารุภรุา แซ่เซ่ถา 4. ด.ญ.อรพินพิอีนินนิทร์ 5. ด.ญ.ศุภนุชนุแซ่เซ่ฮอ 6. ด.ญ.เพชรลดา แซ่ลีซ่ ลี 7. ด.ญ.ตวิษวิา แซ่ลีซ่ ลี 8. ด.ญ.อนัญนัพร แซ่ย่ซ่าย่ง ชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่ 2 1. ด.ญ.นวลจันจัทร์ แซ่เซ่ล่า 2. ด.ญ.อัญธิกธิา แซ่เซ่ถา 3. ด.ญ.อรณี แซ่วื่ซ่ วื่อวื่ 4. ด.ญ.กัญญาณัฐณั โรจน์แน์สงสิทสิธิ์กุธิ์ลกุ 5. ด.ญ.พัชพัรี แซ่ลีซ่ ลี 6. ด.ญ.แพรวดี เเซ่ท่ซ่ ท่อ 7. ด.ช.พรเทพ แซ่เซ่ฮ้อ 8. ด.ช.เอกรินริทร์ ศักดิ์เดิ์จริญริชัยชั รายชื่อชื่นักนัเรียรีนที่เข้าข้ร่วร่มแข่งข่ขันขัศิลปหัตถกรรมนักนัเรียรีนครั้งรั้ที่ 70 ปีกปีารศึกษา 2565 กลุ่มลุ่สาระการเรียรีนรู้ศิรู้ศิลปะสาระนาฏศิลป์ การแข่งข่ขันขันาฏศิลป์ไป์ทยสร้าร้งสรรค์ ระดับดัชั้นชั้มัธมัยมศึกษาปีที่ปี ที่1-3 การแสดงชุด ชุด ฮอยฮูปฟ้อฟ้น น้อน้มศรัทรัธา ถวยบูชาผาสาทผึ้งผึ้ หน้าที่ 19 สงวนลิขสิทธิ์ ครูพรเทพ พิมทอง


การฝึกซ้อซ้มการเเสดง จะอยู่ในช่วงเวลา 15.45-18.00 น ณ หอประชุมโรงเรียรีน บ้านเข็กน้อย 6


บรรยากาศการฝึกซ้อม ถ่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ถ่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ถ่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ถ่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ถ่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ถ่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ถ่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ถ่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ถ่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ถ่ายเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565


บัดนี้ ข้าขอนพนอบน้อม องค์ท่านพระสัมมา คุณ พระธรรมเหนือเกศา พร่ำ สังโฆพร้อม จิตใจน้อบ นำ ธรรมบ่ได้ขาด บัดนี้มาฮอดแล้ว ถวยแก้วหน่วย สาม ฝูงข้าขอกราบก้ม องค์ท่านสัมมา ตรัสธรรม ในโลกา ให้หมู่คนหายฮ้อน


โ ร ง เ รีรีรีรีย น บ้บ้บ้บ้า น เ ข็ข็ข็ข็ก น้น้น้น้อ ย สำสำสำสำนันันักนังานเขตพื้พื้ พื้ น พื้ นที่ที่ ที่ ก ที่ การศึศึศึกศึษามัมัมัธมัยมศึศึศึกศึษาเขต 40 ระดั ดับชั้ชั้นชั้ชั้ชั้มัมัธมัมัยมศึศึศึกศึษาปีปีที่ปีที่ปี ที่ที่ 1-3 ฮอยฮูฮูฮู ป ฮู ปฟ้ฟ้ ฟ้ อ ฟ้ อน น้น้ น้ อ น้ อมศรัรั รั ท รั ทธาถวยบูบูบู ช บู ชาผาสาทผึ้ผึ้ ผึ้งผึ้


Click to View FlipBook Version