The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by supawich22, 2022-02-28 10:32:09

ลิลิตตะเลงพ่าย กลุ่มที่6

สมุดโน้ตไม่มีชื่อ (57)

นาย จิรพงศ์ ไชยสุวรรณ์ ม.5/2 เลขที่2
นาย ศุภวิชญ์ แสนเมือง ม.5/2 เลขที่13
นาย ชวิศ วาสันต์ ม5/2 เลขที่16
นาย วรัญชิต ลืมกตัญญู ม5/2 เลขที่19
นาย พงศพัง พันธ์วิไล ม5/2 เลขที่22

๖๔(๓๑๐) ๏ สองโจมสองจู่จ้วง บำรู พรรณาโวหาร กระลอก=มีประกาย
rt เชิดด้ำ ภา ศ
ไวว่อง นักนา
สองขัตติยสองขอชู
เข่นเขี้ยวในสนาม
- พบ

กระลึงกระลอกดู
~-
ควาญขับคชแข่งค้ำ
้บน=-E T

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า กษัตริย์ของพระองค์ ทรงต่อสู้รบกันอย่างแข็งขัน เต็มกำลังสามารถ ทรงรุกรับกัน
อย่างว่องไว ควาญก็ขับช้างเข้าชนกัน

๖๕(๓๑๑) ๏ งามสองสุริยราชล้ำ เลอพิศ นาพ่อ พรรณา
TT

พ่างพัชรินทรไพจิตร ศึกสร้าง รบราพณ์=ทศกัณฐ์
Tn t n n t รบราพณ์ แลฤๅ
ฤๅรามเริ่มรณฤทธิ์
TETI

ทุกเทศทุกทิศอ้าง อื่นไท้ไป่เทียม
TTNTT

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า สองกษัตริย์สู้กันราวกับพระอินทร์และพญาอสูรเวปจิตติ (ไพจิตราสูร) ทำสงครามกัน หรือ
เป็นดังพระรามทำสงครามกับทศกัณฐ์ ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดในประเทศไหนๆ ในทั่วทิศเสมอเหมือนได้เลย

๖๖(๓๑๒) ๏ ขุนเสียมสามรรถต้าน ขุนตะเลง พรรณา
ขุนต่อขุนไป่เยง ยอหัตย์=ยกมือ


หย่อนห้าว
- -

ยอหัตถ์เทิดลบองเลบง อังกุศ ไกวแฮ
Tn t

งามเร่งงามโทท้าว ท่านสู้ศึกสาร
บTr โ

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า สมเด็จพระนเรศวรต้านทานพระมหาอุปราชาไว้ได้ ทั้งสองพระองค์ไม่ได้ทรง
ยำเกรงกลัวกันเลย สมเด็จพระนเรศวรใช้พระหัตถ์ยกพระแสงของ้าวกวัดไกว กวัดเหวี่ยงไปมา เพื่อสู้กับข้าศึก

คำอำ

๖๗(๓๑๓) ๏ คชยานขัตติเยศเบื้อง ออกถวัลย์
พรรณ7

โถมปะทะไป่ทัน เหยียบยั้ง รามัญ=มอญ
=-
ลงล่าง แลนา
สารทรงราชรามัญ NIT
คู้ค้ำคางเขิน
เสยส่ายท้ายทันต์ทั้ง
T t Tr t Tr t

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า ช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวรได้โถมเข้าปะทะโดยไม่ทัน ได้ตั้งหลักให้มั่น ช้างทรงของพระ
มหาอุปราชาได้ล่าง จึงดันงาแหละคางของช้างสมเด็จพระนเรศวรจนเงยหน้า

๖๘(๓๑๔) ๏ ดำเนินหนุนถนัดได้ เชิงชิด พรรณนา
หน่อนเรนทรทิศ ตกด้าว TT
ราฤทธิ์=ผู้สืบสกุล

เสด็จวราฤทธิ์ รำร่อน ขอแฮ
TE

ฟอนฟาดแสงของ้าว อยู่เพี้ยงจักรผัน
Tt

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า พระมหาอุปราชาทรงเห็นเป็นโอกาสเหมาะ จึงเงื้อพระแสงของ้าวขึ้นจ้วงฟันอย่างแรงและ
รวดเร็วราวกับจักรหมุนทีเดียว

ตส ร นา

๖๙(๓๑๕) ๏ เบื้องนั้นนฤนาถผู้ สยามินทร์

เบี่ยงพระมาลาผิน ห่อนพ้อง พระหัตถ์=มือ ส้อม

ศัสตราวุธอรินทร์ ฤๅถูก องค์เอย
ปัดด้วยขอทรง
คน U )

เพราะพระหัตถ์หากป้อง

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า ขณะนั้นสมเด็จพระนเรศวรทรงเบี่ยงพระมาลา(หมวก)หลบได้ทัน พร้อมกันนั้นก็ใช้
พระแสงของ้าวปัดป้องออกเสีย ทำให้อาวุธของพระมหาอุปราชาไม่ถูกพระวรกาย

๗๐(๓๑๖) ๏ บัดมงคลพ่าห์ไท้ ทวารัติ

พรรณา

แTว้งเหtวี่ยงเบี่ยงเศียร สะบัด ตกใต้
"

อุกคลุกพลุกเงยงัด คอคช เศิกแฮ คช=ช้าง
= ษ
ทT่วงทE้อทีถEอย
Ei
เบนบ่ายหงายแหงนให้

Tr I
อาย

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า ในทันใดนั้นเอง ช้างทรงของสมเด็จพระนเรศวรได้แว้งเบี่ยงเศียร (เบี่ยงหัว) เบนสะบัด

จนได้ล่างแล้วใช้งางัดคอช้างของพระมหาอุปราชาให้เงยขึ้นบ้าง

๗๑(๓๑๗) ๏ พtลอvยพtล้ำเnพลียtกถ้tาท่tาน ในรณ พรรณา

บัดราชฟาดแสงพล- พ่ายฟ้อน พ่าย=เเพ้
-เผด→็จคู่ เข็ญแฮ ฟ้อน=ศัตรู
0 0พระเดชพระแสดงดล

ถนัดพระอังสาข้อน ขาดด้าวโดยขวา

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า ทำให้ช้างทรงของพระมหาอุปราชาเพลี่ยงพล้ำเสียท่าในการรบ ในทันใดนั้น สมเด็จ
พระนเรศวรจึงทรงเงื้อพระแสงของ้าวที่ชื่อพระแสงพลพ่ายฟาดฟันพระมหา อุปราชาจนถูกพระอังสา (ไหล่) ขาด
สะพายแล่ง

๗๒(๓๑๘) ๏ อุรTารIาTนร้Tาวแยก ยลสยบ พรรณ ๅ

เอนพระองค์ลงทบ ท่าวดิ้น วาตม์=วิญญาณความ
เป็นอยู่ของคน
เหนือค=อคชซอกนซบ .

สังเวช

วายชิวาตม์สุ-ดสิ้น สู่ฟ้าเTสวยNสวร้รค์

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า พระอุระ (อก) ของพระมหาอุปราชาถูกพระแสงของ้าวฟันจนเป็นรอยแผลแยก เอนพระ
วรกายซบบนคอช้าง เป็นที่น่าสังเวชใจยิ่งนัก สิ้นพระชนม์ทันที

ปิ

๗๓(๓๕๗) ๏ พระตรีโลกนาถแผ้ว เผด็จมาร
เฉกพระราชสมภาร พี่น้อง พรรณา
เสด็จไร้พิริยะราญ
อรินาศ ลงนา ยิ่ง=ที่สุด

เสนอพระยศยิ่งยินก้อง เกียรติท้าวทุกภาย
☐ TT

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นที่พึ่งแห่งโลกทั้งสาม (มนุษย์ เทวดา พรหม) ทรง

ปราบพญามารได้สำเร็จ ก็เป็นเฉกเช่นกับที่สมเด็จพระนเรศวรและสมเด็จพระเอกาทศรถทรงปราบข้าศึกได้

ราบคาบ ทำให้พระเกียรติฟุ้งเฟื่องเลื่องลือไกล

๗๔(๓๕๘) ๏ ผิวหลายพยุหยุทธ์ร้า โรมรอน พรรณนา
ชนะอมิตรมวลมอญ มั่วมล้าง อมิตร=ศัตรู
เจริญฤทธิ์ พระนา
-

พระเดชบ่ดาลขจร

ไปทั่วธเรศออกอ้าง เอิกฟ้าดินไหว
tt

ถอดคำประพันธ์ได้ว่า แม้นจะถูกข้าศึกศัตรูมากมายมารุกรานอย่างไร พระองค์ก็ ทรงเอาชนะได้
หมด พระองค์ทรงมีพระบรมเดชานุภาพแผ่ขจรกระฉ่อนไป

(สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงปลื้มปิติ จึงพระราชทานอภัยโทษแก่แม่ทัพนายกอง และให้ ยกทัพไปตี
เมืองตะนาวศรี ทะวาย และมะริดเป็นการแก้ตัว)

คุณค่าด้านวรรณศิลป์

บทที่64ใช้พรรณนาโวหารในการอธิบายมีคำซ้ำคำว่าสอง มีการเล่นเสียงสละคำว่ากระลึงกับกระลอก และมีคำสัมผัส
พยัญชนะคำว่าควาญขับคชแข่งค้ำ เข่นเขี้ยว

บทที่65มีการใช้พรรณนาโวหารในการอธิบายไม่มีคำสัมผัสสระในการอธิบาย แล้วก็มีการเล่นเสียงพยัญชนะ ราช
ล้ำ พ่างพัชไพ ฤารามเริ่มฤทธิ์ ทุกเทศทุกทิศ

บทที่67มีอธิบายโดยใช้พรรณนาโวหารไม่มีคำซ้ำ ไม่มีการเล่นเสียงสละ มีการเล่นเสียงพยัญชนะคำว่า ลงล่างแล
เสยส่าย ท้ายทันต์ คุ้ค้ำคางเขินมีคำอำภาสคำว่าปะทะ

บทที่68มีการอธิบายโดยใช้พรรณนาโวหารไม่มีคำซ้ำ ไม่มีการเล่นเสียงสละ มีการเล่นเสียงพยัญชนะคำว่า เชิงชิด
รำร่อน ฟอนฟาด

บทที่69มีการอธิบายโดยใช้พรรณนาโวหารไม่มีคำซ้ำ ไม่มีการเล่นเสียงสละ ไม่มีการเล่นเสียง
พยัญชนะ มีคำอำภาสคำว่าพระหัตถ์

บทที่71มีการอธิบายพรรณนาโวหารมีคำซ้ำคือคำว่าพระ มีการเล่นเสียงสละคือคำว่าเผด็จเข็ญ มีการเล่น
เสียงพยัญชนะพลอยพล้ำเพลีย ถ้าท่าน มีคำอัมภาสคือคำว่าพระอังพระแสดง

บทที่72มีการอธิบายพรรณนาโวหารไม่มีคำซ้ำ ไม่มีการเล่นเสียงสละ มีการเล่นเสียงพยัญชนะ
คือคำว่ารานร้าว คอคช ซอนซบ สุดสิ้น เสวยสวรรค์

บทที่73มีการอธิบายโดยใช้พรรณนาโวหารไม่มีการเล่นเสียงสละ มีการเล่นเสียงพยัญชนะ
คือคำว่ายศยิ่งยิน ท้าวทุก

บทที่74มีการอธิบายโดยใช้พรรณนาโวหารไม่มีการเล่นเสียงสระ มีการเล่นเสียงพยัญชนะคือ
คำว่ามวลมอญ ออกอ้าง มีคอำภาสคือคำว่าพระเดชา พระนา


Click to View FlipBook Version