The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภาวนาทำไมใจถึงไม่สงบ โดย หลวงพ่อพุธ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-11 20:16:29

ภาวนาทำไมใจถึงไม่สงบ โดย หลวงพ่อพุธ

ภาวนาทำไมใจถึงไม่สงบ โดย หลวงพ่อพุธ

Keywords: ภาวนาทำไมใจถึงไม่สงบ,หลวงพ่อพุธ

ภาวนาทาํ ไมใจถงึ ไมส่ งบ
หลวงพอ่ พธุ ฐานิโย

ท่านผเู้ จรญิ ทงั้ หลาย การแสดงธรรมวนั นคี้ ิดวา่ จะไม่พดู
อะไรใหม้ าก เพราะการแสดงธรรมก็คือการนาํ เร่อื งของธรรมะมา
เลา่ สกู่ นั ฟัง ตามความรูแ้ ละความสามารถของผทู้ ่ีจะพดู ไดม้ าก
นอ้ ยเพียงใดแคไ่ หน และไดผ้ ่านการปฏบิ ตั มิ ีความรูส้ กึ เขา้ ใจใน
หลกั การปฏบิ ตั ิเพียงใดแคไ่ หนตามชนั้ ภมู ขิ องตวั เอง ดงั นนั้ การ
เรยี นปรยิ ตั ิหรอื การฟังเทศนน์ ่ี เขา้ ใจวา่ ทา่ นทงั้ หลายก็ฟังกนั มา
มาก และการปฏบิ ตั ติ ามธรรมะท่ีเราฟังและเรยี นรูแ้ ลว้ นนั้ ก็
เขา้ ใจวา่ จะมากพอๆกนั

ดงั นนั้ ณ โอกาสนีจ้ งึ ใครท่ ่ีจะขอเชญิ ชวนบรรดาท่านผมู้ ี
เกียรติทงั้ หลายจงกาํ หนดจติ ตงั้ ใจวา่ ฉนั จะตงั้ ใจสมาธิใหด้ วงจติ
ของฉนั เป็นสมาธิ สตภิ วงั ค์ เพ่ือใหเ้ กิดปัญญารูแ้ จง้ เหน็ จรงิ ใน
สภาวะธรรมตามความเป็นจรงิ แลว้ ก็รวมเอาความรูส้ กึ ทงั้ หมด
ไปรวมอย่ทู ่ีดวงจติ นกึ ถงึ พระบรมครูคือพระพทุ ธ พระธรรม
พระสงฆ์ โดยภาษาบาลวี า่ พุทโธ ธัมโม สังโฆ แลว้ ก็นกึ รวม

1

ลงท่ีจิตของเราวา่ พระพทุ ธเจา้ ก็อยทู่ ่ีจิต พระธรรมก็อยทู่ ่จี ติ
พระสงฆก์ ็อยทู่ ่ีจติ จิตตวั รูน้ กึ คาํ วา่ พทุ โธ น่นั ก็คือพทุ ธะ รวม
ความแลว้ วา่ ใครก็ตามท่ีมีความรูส้ กึ ผิดชอบ หรอื อยใู่ นจติ ของ
ตวั เอง ผนู้ นั้ ไดช้ ่ือวา่ มีพทุ ธะคอื ผรู้ ูอ้ ย่ใู นจิตของเรา

แตโ่ ดยธรรมชาตขิ องพทุ ธะท่ียงั มีสงิ่ มืด มนั ยงั ปิดบงั อยคู่ อื
กิเลส ตวั ผรู้ ูข้ องแตล่ ะบคุ คลจงึ ยงั ไม่เหน็ ชดั เพราะฉะนนั้ เพ่ือให้
ตวั ผรู้ ูข้ องแตล่ ะท่านเดน่ ชดั ขนึ้ จงึ มีอบุ ายวธิ ีท่ีสมเดจ็ พระ
สมั มาสมั พทุ ธเจา้ สอนใหภ้ าวนาคอื การทาํ สมาธิ การทาํ สมาธิก็
คืออบุ ายท่พี ยายามท่ีจะทราบความคิดท่ีมนั แผ่ซา่ นอย่ทู ่วั ทกุ ทิศ
ใหไ้ ปรวมจดุ อย่กู บั สงิ่ สง่ิ หนง่ึ ในเบอื้ งตน้ กอ่ น โดยท่ีสดุ แม้
ความคิดถงึ คาํ พดู เพียงคาํ สองคาํ คือพทุ โธเป็นตน้ หรอื เพง่ จด
จอ้ งอย่ใู นจดุ ใดจดุ หน่งึ ตามแบบแหง่ การเพง่ กสณิ อบุ าย
ดงั กลา่ วนีเ้ ป็นอบุ ายท่ที ราบความรูส้ กึ ของจติ ท่ีมนั แผไ่ ปท่วั ทกุ
ทิศตา่ งๆ ในอารมณต์ า่ งๆใหพ้ รากจากสิง่ นนั้ ๆใหม้ ารวมอย่ใู น
จดุ เดียว คอื พทุ โธหรอื จดุ ท่ีเพง่ นนั้ และไมเ่ ฉพาะแตพ่ ทุ โธหรอื จดุ
ท่ีเพง่ แมค้ าํ อ่ืนเช่นยบุ หนอพองหนอ หรอื เกิดดบั อะไรก็แลว้ แต่

2

ลว้ นแตเ่ ป็นอบุ ายทาํ จติ ใหด้ าํ เนินเขา้ ไปสคู่ วามสงบ คอื ใหเ้ พง่
อยใู่ นจดุ นนั้ หรอื รูส้ กึ เฉพาะในคาํ พดู คาํ นนั้ เทา่ นนั้

อนั นีค้ ืออบุ ายในเบือ้ งตน้ ถงึ แมว้ า่ หลายๆท่านอาจจะผา่ น
การบาํ เพ็ญภาวนามา มีภมู จิ ติ ภมู ใิ จสงู ย่ิงขนึ้ ไปกวา่ ระดบั ขนั้
ดงั ท่ีกลา่ วมาแลว้ ก็ตาม ท่นี าํ มากลา่ วอีกก็เผ่ือเป็นการเตือน
เตอื นจติ เตือนใจ เตือนความรูส้ กึ ของนกั ปฏบิ ตั ทิ งั้ หลายใหม้ ี
ความรูส้ กึ ความม่นั คงตอ่ การปฏบิ ตั นิ นั้ ๆ บรกิ รรมภาวนาก็ดี
หรอื การพิจารณาธรรมอนั ใดอนั หน่งึ ก็ดี แมว้ า่ เราจะทาํ ผา่ น
มาแลว้ เราจะถือวา่ เราผ่านขนั้ นนั้ มาแลว้ ไม่ได้ พระพทุ ธเจา้ ทา่ น
สอนใหท้ าํ ซาํ้ ๆซากๆอยใู่ นระดบั นนั้ หรอื ขนั้ นนั้ ๆ ซง่ึ เรม่ิ จากจดุ
เบอื้ งตน้ จนกระท่งั ถงึ จดุ เบอื้ งปลายคอื ขนั้ ภมู ิจิตละเอยี ดท่ีสดุ
ตงั้ แตเ่ บือ้ งตน้ และเบอื้ งกลาง แลว้ ก็เบอื้ งสงู สดุ นนั้ เราจะไป
ปลอ่ ยทงิ้ ไมไ่ ด้ วถิ ีจิตท่ีเคยเดนิ ๆๆมา ในลกั ษณะอยา่ งไร เรามี
ความรูค้ วามเหน็ อยา่ งไร เราจะตอ้ งทบทวนสงิ่ ท่ีเราเคยผา่ นนนั้
บอ่ ยๆ เพ่ือใหม้ ีความชาํ นชิ าํ นาญ เพ่ือปอ้ งกนั ไม่ใหเ้ ราหลงผดิ
เขา้ ใจผดิ

3

บางทา่ นอาจจะสามารถทาํ ภมู จิ ติ ภมู ใิ จใหม้ ีความรูใ้ น
ธรรมะขนั้ ละเอยี ด เราอาจจะมีความรู้ เราอาจจะมีความเหน็ แต่
ถา้ เรายงั ไม่รูแ้ จง้ เหน็ จรงิ กนั จรงิ ๆ เราอาจจะไปยดึ เอาแตเ่ พียง
ความรูแ้ ละความเหน็ เทา่ นนั้ ท่ีเราไดเ้ ราถึงวา่ เป็นส่ิงท่ีเราสาํ เรจ็
แลว้ แตเ่ รายงั ขาดการนกึ ถงึ อกี สงิ่ หนง่ึ คือความเป็ น ความ
บรรลธุ รรมของผปู้ ฏิบตั ิตอ้ งประกอบพรอ้ มดว้ ยลกั ษณะสาม
อยา่ ง คอื หน่งึ ความรู้ท่ีเกิดขนึ้ ภายในจิต สองความเหน็ คือเห็น
ดว้ ยกบั ความรูน้ นั้ สามสภาพจิตท่ีเป็ น หมายถงึ การปลอ่ ยวาง
ประกอบดว้ ยสภาพสามอยา่ งนีจ้ งึ จะไดช้ ่ือวา่ เรามีทงั้ รู้ ทงั้ เหน็
ทงั้ เป็น ทนี ีส้ งิ่ ท่ีเรารูเ้ ราเหน็ เราเป็น แมจ้ ะเป็นสง่ิ เกา่ สง่ิ เดิมท่ีเรา
พิจารณาซา้ํ ๆซากๆอยนู่ นั้ มนั ก็เป็นอบุ ายท่ีจะทาํ ใหส้ ภาพจติ
ของเราเปล่ียนแปลงขนึ้ ตามลาํ ดบั ขนั้ แหง่ ความสามารถ
เพราะฉะนนั้ ในหลกั ท่ีครูบาอาจารยท์ า่ นเคยกลา่ วแนะนาํ ส่งั
สอน หรอื หลกั ในพระสตู รตา่ งๆซง่ึ ทา่ นทงั้ หลายอาจจะไดเ้ รยี น
มาแลว้ เชน่ อยา่ งในหลกั ของโพชฌงค์ มปี รากฏวา่ ภาวติ า
พาหลุ กี ตา อบรมใหม้ ากๆ กระทาํ ใหม้ ากๆ ทาํ ใหช้ าํ นิชาํ นาญ

4

น่ีคอื หลกั การของทา่ น สาํ หรบั วนั นีอ้ าตมาจะกลา่ วถึง
หลกั การปฏบิ ตั ิเพียงแคข่ นั้ อนสุติ อนสุ ตคิ อื การระลกึ ในขนั้ นีจ้ ะ
ยกเอาตวั อยา่ งแห่งการระลกึ ถึงพระพทุ ธเจา้ คอื พุทธานุสตมิ า
พดู พอเป็นตวั อยา่ ง การนกึ ถึงคณุ ของพระพทุ ธเจา้ เรยี กวา่
พุทธานุสติ ซง่ึ เป็นอนสุ ตขิ อ้ ๑ ในอนสุ ติ ๑๐ ทีนีเ้ รามานกึ ถงึ
คณุ ของพระพทุ ธเจา้ ดว้ ยคาํ วา่ พทุ โธเป็นตน้ ไดช้ ่ือวา่ พทุ ธานุ
สติ ทีนถี้ า้ เรานกึ คาํ วา่ พทุ โธๆซา้ํ ๆอย่อู ย่างนนั้ กลายเป็นการ
ภาวนา หรอื การอบรมจติ เพ่อื จะใหจ้ ิตของเรามาติดอยกู่ บั คาํ พดู
คอื คาํ วา่ พทุ โธเพียงคาํ เดียว อนั นีเ้ ป็นอบุ ายในเบือ้ งตน้

ทีนีข้ อใหท้ ่านลองสงั เกตดวู า่ เม่ือท่านนกึ ถึงคาํ วา่ พทุ
โธๆๆๆๆติดๆกนั โดยไม่ปลอ่ ยใหม้ ีชอ่ งวา่ ง จติ ของทา่ นสามารถ
ท่ีจะคิดถึงสง่ิ อ่นื ไดม้ ยั้ ในเม่อื ทา่ นนกึ พทุ โธติดๆกนั ใหถ้ ่ียบิ
เขา้ ใจวา่ คงไมม่ ีโอกาสท่ีจะสง่ กระแสไปในทางอ่ืนได้ เวน้ เสียแต่
วา่ ท่านจะเผลอไปซกั พกั หนง่ึ แลว้ จติ ของทา่ นอาจจะลมื คาํ วา่
พทุ โธแลว้ สง่ กระแสไปในทางอ่ืน เม่ือทา่ นรูส้ กึ ตวั แลว้ ก็เอามานกึ
ไวท้ ่ีพทุ โธตามเดิม เม่ือจติ ของทา่ นเผลอไปนกึ ถงึ ส่งิ อ่นื เม่ือไหร่

5

ทา่ นก็เอามานกึ ไวท้ ่พี ทุ โธ พทุ โธๆ ตามเดมิ และพทุ โธน่ี ทา่ น
สามารถท่ีจะนกึ ได้ ไม่เฉพาะแตท่ ่ีท่านมาน่งั หลบั ตาอยใู่ นขณะนี้
เทา่ นนั้ แมท้ า่ นจะยืน เดิน น่งั นอน กิน ด่มื ทาํ พดู คิด อะไรอยู่
ทา่ นนกึ ได้

บางท่านอาจจะยดึ วา่ เดนิ นกึ พทุ โธกลวั จะเป็นบาป นอนนกึ
พทุ โธกลวั จะเป็นบาป อย่าไปเขา้ ไปใจผิด เราสามารถท่จี ะนกึ
พทุ โธได้ ทกุ กาลทกุ เวลาทกุ สถานท่ี ไมว่ า่ เราจะอย่ทู ่ีไหนๆ เรา
นกึ ไดท้ งั้ นนั้ เรยี กวา่ นกึ ไดต้ ลอดเวลาก็แลว้ กนั ถา้ ทา่ นตงั้ ใจท่ีจะ
นกึ นกึ พทุ โธๆๆๆเอาไวอ้ ยา่ งนนั้ ในเม่ือนกึ พทุ โธอยตู่ ลอดเวลา
จติ มนั ไม่สงบเป็นสมาธิ ไมน่ ่งิ ไม่สวา่ งอยา่ งท่ีแบบแผน
ตาํ รบั ตาํ ราทา่ นกลา่ วไว้ มนั จะไดป้ ระโยชนอ์ ะไร มนั ไดป้ ระโยชน์
ท่ีวา่ ทา่ นสามารถท่ีจะเอาพทุ โธ สะกดั กนั้ ความคดิ เอาไว้ ไม่ให้
ปลอ่ ยความรูส้ กึ นกึ คิดไปสรา้ งบาปสรา้ งกรรมอยา่ งอ่นื หรอื ให้
ความคิดท่ีเราเรยี กวา่ ความคิดช่วั ความคิดไมด่ ีนนั้ มนั นอ้ ยลง
แมจ้ ะโดยความตงั้ ใจก็ตาม น่ีเราเอาผลกนั เพียงแคน่ กี้ ่อน

6

ทีนถี้ า้ หากวา่ เรามาภาวนาแตพ่ ทุ โธๆๆอยา่ งเดยี วเทา่ นนั้ เรา
สามารถท่ีจะทาํ จติ ใหด้ าํ เนินไปสขู่ นั้ วปิ ัสสนากรรมฐานได้
หรอื ไม่ อนั นีเ้ ป็นปัญหาท่นี กั ปฏบิ ตั ิทงั้ หลายมีความสงสยั กนั
มากเหลือกนั อาตมาขอบอกอย่างตรงไปตรงมาวา่ บรกิ รรม
ภาวนาทกุ อยา่ ง จติ จะสงบลงไดเ้ พียงแคข่ นั้ อุปจาระสมาธิ
เท่านนั้ เชน่ คาํ บรกิ รรมภาวนาวา่ พทุ โธๆ หรอื ยบุ หนอพองหนอก็
ตาม เม่ือท่านนกึ ซา้ํ ๆซากๆอย่อู ย่างนนั้ เม่ือจติ สงบลงไปจรงิ ๆ
คือมนั มีอาการวบู วาบแลว้ กส็ งบลงไปสวา่ งขนึ้ คาํ บรกิ รรม
ภาวนาท่ที ่านนกึ อยนู่ นั้ มนั จะหายไปทนั ที ในเม่ือคาํ วา่ ยบุ หนอ
พองหนอก็ดี พทุ โธก็ดีหายไปในขณะท่ีทา่ นมีอาการรูส้ กึ เคลมิ้ ๆ
ลงไปคลา้ ยกบั จะนอนหลบั ในตอนนีจ้ ิตมนั ยงั ไมถ่ ึงขนั้ อปั ปนา
สมาธิ เป็นแตเ่ พียงเรม่ิ จะเป็นอปุ จาระสมาธิเท่านนั้

เพราะฉะนนั้ บรกิ รรมภาวนาน่ีเป็นแตเ่ พียงส่ือยงั จิตให้
ดาํ เนินเขา้ ไปสคู่ วามสงบ เพียงขนั้ รูส้ กึ เคลมิ้ ๆเหมือนจะนอน
หลบั แลว้ คาํ ภาวนานนั้ ก็หายไป ใครจะบรกิ รรมภาวนาอะไรก็
ตาม สว่ นมากจะมีลกั ษณะเป็นอย่างนีท้ งั้ นนั้

7

ทีนีม้ ีปัญหาวา่ เม่ือคาํ บรกิ รรมภาวนานนั้ หายไปแลว้ ตอ่ ไป
นนั้ ทา่ นควรจะทาํ อยา่ งไร อนั นที้ ่านพงึ สงั เกตจิตของท่านใหด้ ี
ถา้ หากวา่ จิตทา่ นลงไปน่ิงวา่ งสวา่ งอยเู่ ฉยๆ หรอื ไมส่ วา่ งก็ตาม
ในตอนนถี้ า้ หากทา่ นสามารถนอ้ มจิตไปสลู่ มหายใจได้ ก็รบี นอ้ ม
จติ ไปสลู่ มหายใจทนั ที คือกาํ หนดรูล้ มเขา้ ลมออก ดลู มหายใจ
เขา้ หายใจออก เฉยอยู่ เพียงแตร่ ูว้ า่ มีลมหายใจเทา่ นนั้

อย่าไปนกึ วา่ น่ีลมหายใจเขา้ สนั้ น่ีลมหายใจออกสนั้ น่ีลม
หายใจเขา้ ยาว น่ีลมหายใจออกยาว เป็นแตเ่ พียงทาํ ความรูอ้ ยู่
ในที เม่ือลมหายใจเก่ียวขอ้ งกบั รา่ งกาย จติ ก็ยงั รูอ้ ยทู่ ่ีกาย รูอ้ ยู่
ท่ีลมหายใจ แมเ้ ราจะไม่ปรุงแตง่ ความคิดขนึ้ มาวา่ ลมหายใจสนั้
ยาว จติ ก็ยอ่ มรูอ้ ยใู่ นทีอยแู่ ลว้ ไม่จาํ เป็นจะตอ้ งไปสรา้ งความคิด
ขนึ้ มาอยา่ งนนั้

ทีนีถ้ า้ หากสมมตุ วิ า่ เม่ือจิตน่งิ ลงไปสคู่ วามวา่ ง ถา้ จิตมนั
ทรงอย่ใู นความสวา่ งแลว้ รูส้ กึ มีปีติ ก็ใหก้ าํ หนดรูอ้ ยทู่ ่ีจติ อยา่ ง
เดียวเทา่ นนั้ เวน้ เสยี แตว่ า่ จติ มนั อาจจะถอนหรอื สง่ กระแสไป
ในทางอ่นื ถา้ ทา่ นไมร่ บี บรกิ รรมภาวนาอกี ก็กาํ หนดจติ นอ้ มไปสู่

8

ลมหายใจ เอาลมหายใจเป็นเครอ่ื งรูข้ องจิต เป็นเคร่อื งระลกึ ของ
สติ หรอื ในช่วงนีบ้ างท่านอาจจะนอ้ มจติ ไปเพง่ พจิ ารณาอาการ
๓๒ คอื ผม ขน เล็บ ฟัน หนังเป็นตน้ เพง่ ไปในแง่แหง่ อสุภะ
กรรมฐาน คอื ผม ขน เลบ็ ฟัน หนงั เป็นของปฏกิ ลู โสโครก ไม่
สวย ไมง่ าม พจิ ารณากลบั ไปกลบั มาอย่อู ย่างนนั้

ในเม่ือทา่ นมายดึ เอาลมหายใจหรอื อาการ ๓๒ ซง่ึ เรยี กวา่
กายคตาสติ มาเป็นเครอ่ื งรูข้ องจิต มาเป็นเครอ่ื งระลกึ ของสติ
กรรมฐานทงั้ สองอยา่ งนีจ้ ะเป็นอบุ ายนาํ จติ ของท่านใหด้ าํ เนนิ
เขา้ ไปสอู่ ปั ปนาสมาธิ หรอื ถึงขนั้ สมถกรรมฐาน

แตบ่ างทา่ นอาจจะมีลกั ษณะเป็นอยา่ งนี้ ในเม่ือบรกิ รรม
ภาวนาพทุ โธๆๆเป็นตน้ เม่ือมีอาการเคลิม้ ๆลงไปแลว้ จิตก็เรม่ิ
สงบวบู ๆๆลงไปแลว้ ก็ไปน่ิงสวา่ ง เรยี กวา่ จติ ว่ิงเขา้ ไปสอู่ ปั ปนา
สมาธิเรว็ จนเกินไป ถงึ ขนาดท่ีเราไมส่ ามารถท่ีจะกาํ หนดรูป้ ีติ
และความสขุ ได้ จิตว่ิงเขา้ ไปสอู่ ปั ปนาสมาธิเรว็ เกนิ ไป มนั ก็ไป
น่ิงวา่ งอยเู่ ฉยๆ อนั นีต้ อ้ งพยายามทาํ บอ่ ยๆ จนกวา่ เราจะ

9

สามารถกาํ หนดเรม่ิ ตน้ ตงั้ แต่ วิตก วิจาร ปี ติ สุข เอกคั คตา
ฝึกหดั จติ ใหด้ าํ เนินตามวถิ ีองคฌ์ าณทงั้ ๕ จนชาํ นิชาํ นาญ

แมว้ า่ เราจะสามารถท่ีจะทาํ จิตใหน้ ่ิงเป็นสมาธิถงึ ขนึ้ สมถะ
หรอื เรยี กวา่ อปั ปนาสมาธิไดบ้ อ่ ยๆเขา้ ความจรงิ ความเขา้ ใจ
ท่ีวา่ สมถกรรมฐานหรอื อปั ปนาสมาธิไมส่ ามารถท่ีจะทาํ ผู้
บรกิ รรมภาวนาใหม้ ีภมู ิจิตดาํ เนินไปสภู่ มู ิวปิ ัสสนากรรมฐานได้
อนั นีเ้ ป็นความเขา้ ใจท่ถี กู ตอ้ ง ขอใหน้ กั ปฏบิ ตั ทิ งั้ หลายจงึ ทาํ
ความเขา้ ใจอย่างนี้ เราจะบรกิ รรมภาวนาก็ดี หรอื จะพจิ ารณา
อะไรก็ดี ในเม่อื จิตไปสงบน่ิงวา่ งอยเู่ ฉยๆ แมจ้ ติ จะสงบละเอยี ด
ถึงขนาดท่วี า่ กายหายไปหมด ยงั เหลือแตส่ ภาพจติ ท่ีสงบน่ิงวา่ ง
สวา่ งอยอู่ ยา่ งเดียวเท่านนั้ จติ ท่ีเป็นอยา่ งนีส้ ว่ นมากยอ่ มจะไม่
เกิดความรู้ ยอ่ มจะไม่เกิดสติปัญญาขนึ้ มา ในขณะท่ีจติ มีสภาพ
เป็นอยา่ งนนั้ อนั นีก้ เ็ ป็นความเหน็ ท่ีถกู ตอ้ งอกี ทีนีใ้ นเม่ือเป็น
เชน่ นนั้ เพียงแคก่ ารบรกิ รรมภาวนา จิตจะสามารถดาํ เนินไปสู่
ภมู ิวปิ ัสสนากรรมฐานไดอ้ ยา่ งไร

10

เอาหละ สมมตุ วิ า่ เราเพยี งแตบ่ รกิ รรมภาวนาใหจ้ ติ สงบน่ิง
ใหจ้ ติ สงบน่ิงทกุ ๆครงั้ จิตสงบน่ิงเป็นอปั ปนาสมาธิน่ี บางท่านก็
วา่ จิตอยใู่ นฌาณขนึ้ ท่ี ๔ บางทา่ นก็เรยี กวา่ อปั ปนาสมาธิเฉยๆ
บางทา่ นก็เรยี กวา่ อปั ปนาจติ อปั ปนาสมาธิ อปั ปนาฌาณ อปั ป
นาจิต โดยธรรมชาตแิ ลว้ จิตไมเ่ กิดความรูใ้ นขณะนนั้ เพราะจิต
ไรส้ มรรถภาพในการท่ีจะคิดโดยประการทงั้ ปวง อนั นีข้ อใหท้ า่ น
ผปู้ ฏิบตั พิ งึ สงั เกตใหด้ ใี นตอนนี้

ทีนีใ้ หเ้ ราคอยสงั เกตดู แมว้ า่ จติ ในอปั ปนาสมาธิจะไมม่ ี
ความรูเ้ กิดขนึ้ ในขณะนนั้ แตโ่ ดยธรรมชาตขิ องจิตท่ีสงบแลว้
ย่อมมีโอกาสท่ีจะถอนจากความสงบ คือถอนจากสมาธิ ในเม่ือ
ถอนจากสมาธิในขนั้ นี้ กา้ วถอยขนึ้ มาสภู่ มู ิแหง่ อปุ จาระสมาธิ
จติ อยใู่ นภมู อิ ปุ จาระสมาธิน่ี จติ ย่อมมีความคิด ในเม่ือจติ เกิดมี
ความคดิ ขนึ้ มาในขนั้ นี้ ผภู้ าวนายอ่ มจะสามารถนอ้ มจติ ได้ พอ
จติ ถอนจากอปั ปนาสมาธิ มคี วามคดิ เกิดขนึ้ ก็กาํ หนดรูต้ าม
ความคิดนนั้ เราคิดอะไรขนึ้ ก็กาํ หนดรู้ คิดอะไรขนึ้ มาก็กาํ หนดรู้
อย่าปลอ่ ยโอกาส จติ มนั จะคดิ เร่อื งดีก็ตาม คดิ เร่อื งช่วั ก็ตาม เรา

11

ตอ้ งกาํ หนดทาํ สติรูต้ ามความคิดนนั้ ไปเร่อื ยๆ อย่าไปละโอกาส
ตามรูค้ วามคดิ ของเราไปเร่อื ย จนกวา่ จิตของเราจะรู้ สติของเรา
จะรูท้ นั ความคิดท่ีมนั คิดขนึ้ เพราะความคิดนนั้ เป็นสภาวะธรรม
เป็นเคร่อื งรูข้ องจติ เป็นเคร่อื งระลกึ ของสติ ความคิดเป็น
ธรรมารมณก์ ็ย่อมเป็นอารมณข์ องจติ เป็นเครอ่ื งรูข้ องจิต เป็น
เคร่อื งระลกึ ของสติ ในเม่ือจติ มีเคร่อื งรู้ สติมีเครอ่ื งระลกึ แมจ้ ะ
เป็นนามธรรมก็ตาม ก็สามารถท่ีจะทาํ ใหส้ ตกิ ลายเป็นมหาสติ
ขนึ้ มาได้

ในเม่ือสตติ วั นีต้ ามทนั ความคิดจนกระท่งั สามารถรูเ้ ทา่ ทนั
ความคิด รูส้ กึ วา่ คิดสกั แตว่ า่ คิด รูส้ กั แตว่ า่ รู้ จิตเราก็ปลอ่ ยวาง
ไป รูแ้ ลว้ ก็ปลอ่ ยวางไป เม่ือจติ ตามรูต้ ามเห็นความคิดไปอย่างนี้
จิตเอาความรูค้ วามคดิ เป็นเครอ่ื งรู้ สตเิ อาความรูค้ วามคดิ เป็น
เครอ่ื งระลกึ ในเม่ือจติ กบั สตนิ ่ีตามทนั กนั เขา้ สตกิ ลายเป็นมหา
สติ สติกลายเป็นสตพิ ละ กส็ ามารถท่ีจะยงั จติ ใหส้ งบลงไปอกี
กลายเป็นสมาธิ แลว้ กก็ ลายเป็นสมาธพิ ละ ในเม่ือจติ สงบลงไป
แลว้ พละ ๕ คอื ศรัทธา วริ ิยะ สติ สมาธิ ปัญญา อาจจะไป

12

รวมพรอ้ มอย่ใู นจดุ ใดจดุ หนง่ึ ซง่ึ มีประสทิ ธิภาพท่ีจะทาํ ใหจ้ ิต
ของเราสงบน่ิงเดน่ เป็นสมาธิขนึ้ มาอกี ครงั้ หนง่ึ หรอื บางทีอาจจะ
มีภมู ิความรูห้ รอื ภมู ปิ ัญญาเกิดขนึ้ มา

ยกตวั อยา่ งเชน่ อย่างบางท่านท่ีภาวนาพทุ โธๆๆแลว้ ใน
ขนั้ ตน้ เขาสามารถทาํ จิตใหส้ งบน่งิ ลงเป็นอปั ปนาสมาธิ เม่ือจติ
ถอนจากอปั ปนาสมาธิแลว้ ก็ไมม่ ีความรูอ้ ะไร เพราะจิตมนั ถอน
ออกจากสมาธิมาเลย ในเม่ือทาํ หลายครงั้ หลายหนเขา้ จติ ก็สงบ
เป็นอปั ปนาสมาธิบอ่ ยเขา้ ๆ ในเม่ือจิตสงบบอ่ ยๆเขา้ จติ ก็มี
กาํ ลงั มีสติ แลว้ ก็มีสมั ปะชญั ญะดีขนึ้ เม่ือสมาธิถอนออกมา
จากอปั ปนาสมาธิ จติ ถอนออกมาจากอปั ปนาสมาธิ พอเกิดมี
ความรูส้ กึ มีความคิดขนึ้ มาเทา่ นนั้ จติ สามารถเกิดภมู ิความรู้
เกิดปัญญารูอ้ ะไรแปลกๆขนึ้ มา ความรูพ้ ร่งั พรูออกมาจนท่ีไม่
สามารถจะกาํ หนดตามความรูไ้ ดก้ ็มี ทีนีใ้ นเม่ือภมู คิ วามรูม้ นั
เกิดขนึ้ มาอย่างนี้ ถา้ สตกิ บั จติ มนั ตามทนั กนั ตามทนั ความรูท้ ่ี
เกิดขนึ้ มาภายในจิต มนั ก็กลายเป็นภมู วิ ปิ ัสสนา ภมู ิปัญญาท่ี
เกิดขนึ้ ในจิต

13

การอธิบายนี้ การใชค้ าํ พดู อาจจะไมต่ รงตามความเป็นจรงิ
อาจจะกระทอ่ นกระแทน่ หรอื บางทีก็อาจจะสบั สน จงึ ขอฝากไว้
สาํ หรบั ทา่ นผฟู้ ังไดพ้ ิจารณาเพ่มิ เตมิ อีกครงั้ หนง่ึ จงึ อยากใครท่ ่ี
จะขอใหบ้ รรดาทา่ นทงั้ หลายท่ียงั สงสยั อยวู่ า่ บรกิ รรมภาวนาน่ี
จิตเป็นไดเ้ พียงแคส่ มถกรรมฐานเทา่ นนั้ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงการ
ภาวนาพทุ โธน่ี มีผกู้ ลา่ วนกั หนาวา่ ภาวนาพทุ โธอยา่ งดี จิตก็ได้
เพียงแคข่ นั้ สมถกรรมฐาน จงึ ใครท่ ่ีจะขอรอ้ งใหบ้ รรดาทา่ นนกั
ปฏบิ ตั ทิ งั้ หลายไดช้ ่วยพิสจู นข์ อ้ เท็จจรงิ ใหม้ นั รูแ้ จง้ เหน็ จรงิ
ประจกั ษว์ า่ บรกิ รรมภาวนาเน่ีย จติ มนั จะเป็นเพียงแคข่ นั้ สมถกร
รมฐานเทา่ นนั้ หรอื

แตอ่ าตมาขอใหน้ ยั เอาไวว้ า่ นกั บรกิ รรมภาวนาทงั้ หลาย ถา้
หากเราจะพากนั โงห่ มดทกุ คน บรกิ รรมภาวนาแลว้ จติ มนั ก็เป็น
เพียงแคส่ มถกรรมฐานเท่านนั้ ถา้ ในหลกั วชิ าการทา่ นก็วา่
อนสุ ติ ๑๐ มนั ก็เป็นอารมณข์ องสมถกรรมฐาน ในเม่ือเรามา
บรกิ รรมภาวนาอยา่ งใดอยา่ งหน่งึ คือคาํ วา่ พทุ โธๆเป็นตน้ มนั ก็
เป็นการปฏบิ ตั ิตามอารมณข์ องสมถกรรมฐาน ไมใ่ ช่อารมณข์ อง

14

วิปัสสนา เพราะฉะนนั้ เรามาช่วยกนั พิสจู นด์ วู า่ บรกิ รรมทกุ
อยา่ งเทา่ ท่ีมีในตาํ รบั ตาํ ราน่นั ในเม่ือเราทาํ อยา่ งจรงิ จงั ลงไป
แลว้ จติ ของเราจะเป็นเพยี งแคส่ มถกรรมฐานเท่านนั้ หรอื จะไม่มี
โอกาสท่ีจะเขา้ สภู่ มู วิ ปิ ัสสนากรรมฐานไดเ้ องหรอื อยา่ งไร

อาตมาอยากจะขอใหท้ า่ นผมู้ ีเกียรติทงั้ หลายไดช้ ่วยกนั
พิจารณาแกป้ ัญหาในตอนนี้ ถา้ หากหลายๆทา่ นชว่ ยกนั พสิ จู น์
ชว่ ยกนั พจิ ารณา ชว่ ยกนั คน้ ควา้ หาหลกั ความเป็นจรงิ โดย
ธรรมชาติ โดยสลดั ความยดึ ถือในตาํ รบั ตาํ ราออกไปเสยี เอาแต่
ความจรงิ ซง่ึ มนั เกิดภายในจติ ของผภู้ าวนานนั้ มาเทียบเคยี งกนั
มาเปรยี บเทียบกนั มาวดั กนั ดู วา่ มนั จะสามารถเป็นวิปัสสนาไป
ไดห้ รอื ไม่ เผ่ือเราจะไดห้ ายขอ้ สงสยั หายแคลงใจ หายขดั แยง้
ซง่ึ กนั และกนั

อาตมาขอใหค้ ตไิ วใ้ หพ้ จิ ารณาอย่างหน่งึ วา่ บรรดานกั
ปฏบิ ตั ทิ งั้ หลายท่ีเรายงั มีความเหน็ ขดั แยง้ กนั อยู่ เพราะวา่ หนง่ึ
ตา่ งฝ่ายตา่ งไม่รู้ ไม่เหน็ ไม่เป็น กเ็ ป็นเหตใุ หข้ ดั แยง้ กนั สอง
ฝ่ายหนง่ึ รูเ้ หน็ เป็น อีกฝ่ายหนง่ึ ไม่รู้ ไม่เห็น ไมเ่ ป็นจรงิ ก็เป็นเหตุ

15

ใหข้ ดั แยง้ กนั แตถ่ า้ หากวา่ ตา่ งฝ่ายตา่ งรู้ ตา่ งเห็น ตา่ งเป็น
ดว้ ยกนั ทงั้ สองฝ่าย โดยเอาความเป็นจรงิ ท่ีเกิดภายในจติ อยา่ ง
จรงิ จงั มาเปรยี บเทียบกนั เราจะไมเ่ กิดขดั แยง้ กนั ในเร่อื งการ
ปฏิบตั ิ หรอื ความรูค้ วามเหน็ ในภมู ปิ ฏบิ ตั ิเลย เชน่ พระอรหตั
อรหนั ตท์ งั้ หลายไมเ่ คยเถียงกนั เพราะเร่อื งการปฏบิ ตั ิ ใน
ประวตั ิศาสตรข์ องพระพทุ ธศาสนาไมม่ ี มีแตป่ ถุ ชุ นเทา่ นนั้ เคา้
เถียงกนั แตพ่ ระอรหตั อรหนั ตไ์ ม่เถียงกนั อนั นีข้ อฝากบรรดา
ทา่ นทงั้ หลายไวพ้ จิ ารณา เอาหละการกลา่ วธรรมะก็เป็นคติ
เตือนใจ ก็เหน็ วา่ สมควรแกก่ าละเวลา

(ตอบปัญหาหลงั เทศน)์
น่ีขอตอบปัญหาขอ้ แรก ท่ีมีคาํ ถามวา่ นิพพานัง ปรมงั สุ
ขัง หมายความวา่ อยา่ งไร ตา่ งกบั นิพพานัง ปรมงั สุญญัง
อยา่ งไร น่ีเป็นปัญหาท่ีนกึ ขนึ้ มาแลว้ ก็ถาม นพิ พาน ปรมงั สขุ งั
เป็นภาษาบาลีเม่ือตอบออกมาก็คือวา่ พระนิพพานเป็นสขุ อย่าง
ย่ิง นิพพานงั ปรมงั สญุ ญงั แปลวา่ พระนพิ พานเป็นความวา่ ง

16

อย่างย่ิง หรอื สญู อยา่ งยง่ิ ความหมายของคาํ พดู ก็ตา่ งกนั อยู่
แลว้ อนั หนง่ึ หมายถงึ ความสขุ อนั หนง่ึ หมายถงึ ความสญู คอื
สญู เปลา่ ไม่มีอะไร ทีนีป้ ัญหาท่ีน่าจะสงสยั ก็อยตู่ รงท่ีวา่ นิ
พพานงั ปรมงั สญุ ญงั เราเขา้ ใจวา่ พระนิพพานนีส้ ญู เพราะวา่
นิพพานะก็แปลวา่ ดบั พงึ ทาํ ความเขา้ ใจวา่ คาํ วา่ ดบั น่ี เป็นการ
อาการดบั ของกิเลส กิเลส ตณั หา มานะ ทฐิ ิ อวชิ ชาดบั หมด แต่
ส่ิงท่ียงั เหลอื อย่กู ารดบั นนั้ อาตมาไดข้ อกราบทา่ นผฟู้ ังทงั้ หลาย
ใหไ้ วช้ ว่ ยพจิ ารณาในการเทศนค์ ราวกอ่ น วา่ สิง่ ท่ีเหนือการดบั
น่นั พระพทุ ธเจา้ ไม่ไดบ้ อกเราไวว้ า่ สงิ่ นนั้ คอื อะไร อาตมาก็เลย
ขอฝากทา่ นผฟู้ ังไวใ้ หช้ ว่ ยกนั พิจารณา ทนี ีค้ าํ ถามท่ีวา่ นิพพานงั
ปรมงั สขุ งั พระนิพพานสขุ อย่างย่ิง กบั นิพพานนงั ปรมงั
สญุ ญงั พระนพิ พานเป็นความวา่ งอยา่ งย่งิ อนั นีค้ าํ แปลมนั ก็มี
ความหมายสอ่ ความตา่ งกนั อยแู่ ลว้ อนั หนง่ึ หมายถงึ ความสขุ
อนั หนง่ึ หมายถงึ ความสญู สญู เปลา่ คอื มนั สญู จากกิเลส ตณั หา
มานะ ทิฐิน่นั เอง ความสญู จากกิเลส ตณั หา มานะ ทิฐิก็
หมายถงึ วา่ ความดบั ดบั กิเลส ทีนีเ้ ม่ือกิเลสดบั แลว้ สิ่งท่ีอยู่

17

เหนือการดบั กิเลสนนั้ คืออะไร อนั นีข้ อฝากไวใ้ หน้ กั ธรรมะ
ทงั้ หลายช่วยพิจารณา

ขอใหอ้ ธิบายเรอ่ื งของฌาณตา่ งๆโดยละเอียด เร่อื งของ
ฌาณนีจ้ ะขอพดู เฉพาะ ฌาณ ท่ี ๑ ท่ี ๒ ท่ี ๓ และท่ี ๔ ซง่ึ เป็น
ฌาณท่ีภมู ิจิตของนกั ปฏิบตั จิ ะตอ้ งผา่ น และจะตอ้ งศกึ ษาใหร้ ู้
ใหม้ ีความเขา้ ใจบา้ งพอสมควร ฌาณอนั เป็นปฐมบาทแหง่
วิปัสสนามีอยู่ ๔ ขนั้ เรยี กวา่ ปฐมฌาณ ทุตยิ ฌาณ ตตยิ
ฌาณ จตุตฌาณ แปลออกมาเป็นภาษาไทยวา่ ฌาณท่ี ๑ ท่ี ๒
ท่ี ๓ และท่ี๔

ฌาณท่ี ๑ มีวติ ก นกึ ถึงอารมณ์ มีวิจาร จติ กบั อารมณแ์ นบ
สนิทกนั จนเกดิ ความซมึ ซาบ เกิดปีตแิ ลว้ ก็มีความสขุ ในเม่ือจิต
ของผดู้ าํ เนินฌาณมีปีตแิ ละความสขุ เป็นเครอ่ื งหลอ่ เลยี้ งจิต จิต
ก็ไมก่ ระวนกระวาย เขา้ ไปสคู่ วามสงบ แลว้ ก็มีวติ ก วจิ าร ปีติ
สขุ เอกคั คตาอย่พู รอ้ ม น่ีเป็นฌาณขนั้ ท่ี ๑

ฌาณขนั้ ท่ี ๒ ปลอ่ ยวติ ก วิจาร ยงั เหลือแตป่ ีติ สขุ
เอกคั คตา

18

ฌาณขนั้ ท่ี ๓ ปลอ่ ยปีติ คอื วางปีติ คือยงั เหลอื แตส่ ขุ กบั
เอกคั คตา

ฌาณขนั้ ท่ี ๔ สขุ หายไป ยงั เหลือแตเ่ อกคั คตาคอื ความเป็น
หนง่ึ กบั อเุ บกขาคอื ความวางเฉยของจติ

ท่ีนีจ้ ติ ของทา่ นผอู้ ยใู่ นฌาณขนั้ ท่ี๔เน่ีย เป็นคาํ ตอบของ
ปัญหาขอ้ หน่งึ ท่ีวา่ จติ อปั ปนาสมาธิคอื อะไร เป็นอยา่ งไร จติ ของ
ผทู้ ่ีอย่ใู นฌาณขนั้ ท่ี ๔ น่ีคอื จติ ของผอู้ ยใู่ นอปั ปนาสมาธินนั้ เอง
ลกั ษณะของจติ อยใู่ นอปั ปนาสมาธิกบั ฌาณขนั้ ท่ี ๔ ผภู้ าวนาจะ
ปรากฏวา่ มีความรูส้ กึ ในจิต มีแตจ่ ิตดวงเดยี วน่งิ สวา่ งไสวอยู่
กายไมป่ รากฏวา่ มีอยใู่ นความรูส้ กึ อนั นีจ้ ิตอยใู่ นฌาณขนั้ ท่ี ๔

ปัญหาท่ีวา่ นิมติ กบั ความรูแ้ จง้ เหน็ จรงิ ตา่ งกนั อยา่ งไร นิมิต
แปลวา่ เคร่อื งหมาย ถา้ ผบู้ รกิ รรมภาวนาพทุ โธ จิตติดกบั พทุ โธอ
ยกู่ นั อย่างเหนียวแนน่ เรยี กวา่ จิตเอาพทุ โธเป็นนิมิต เรยี กวา่
บรกิ รรมนิมิต ทีนนี้ ิมติ ตามความเขา้ ใจของผถู้ ามน่ี เขา้ ใจวา่ คง
จะหมายถงึ นมิ ติ ท่ีเราบรกิ รรมภาวนาหรอื ภาวนาอนั ใดก็ตาม ใน
เม่ือจติ มีลกั ษณะมีเคลมิ้ ๆลงไปแลว้ กระแสจิตสง่ ออกไปขา้ ง

19

นอก แลว้ ก็มีภาพตา่ งๆเกิดขนึ้ ในความรูส้ กึ จะเป็นภาพคนภาพ
สตั วห์ รอื อะไรก็แลว้ แต่ อนั นเี้ รยี กวา่ นิมติ ทีนีส้ ว่ นความรูแ้ จง้ นนั้
ความรูแ้ จง้ เหน็ จรงิ อย่าเขา้ ใจวา่ จติ สงบลงแลว้ มีแสงสวา่ งเป็น
ความรูแ้ จง้ เหน็ จรงิ ขอใหก้ าํ หนดเอาอยา่ งนีด้ กี วา่ งา่ ยดี สมมตุ ิ
วา่ ทา่ นมีความสงสยั อยวู่ า่ สมาธิคืออะไร และสมาธิมีลกั ษณะ
เป็นอยา่ งไร ในเม่ือท่านสามารถทาํ จิตใหส้ งบน่งิ ลงเป็นสมาธิได้
แลว้ ทา่ นก็รูส้ กึ วา่ จิตของท่านสงบน่ิงเป็นสมาธิ แตอ่ งคป์ ระกอบ
ของความท่ีจติ เป็นสมาธิอยา่ งแทจ้ รงิ นนั้ จติ จะตอ้ งน่ิง และมี
ความสวา่ งเป็นเคร่อื งหมาย ทนี ีเ้ ม่ือจติ ของทา่ นสงบน่ิงลงไป
แลว้ ทา่ นก็เหน็ จรงิ วา่ สมาธิคืออะไร และจติ เป็นสมาธิคอื อะไร
อนั นีเ้ รยี กวา่ ความรูแ้ จง้ เหน็ จรงิ รูว้ า่ จิตเป็นสมาธิ แลว้ กร็ ูว้ า่
สมาธิเป็นอยา่ งนี้ เรยี กวา่ ความรูแ้ จง้ เหน็ จรงิ กาํ หนดเอางา่ ยๆ
อย่างนีด้ กี วา่

ขอ้ แตกตา่ งระหวา่ งสมถะกยั วิปัสสนา อนั แรกก็องคภ์ าวนา
เป็นพทุ โธ พองหนอยบุ หนอท่ีเขา้ ใจวา่ เป็นหนทาง เกลา้ ตกถา
จารยส์ ่งั สอนมา ทาํ ไมจงึ ไม่นาํ พทุ ธพจนน์ นั้ มาเป็นองคภ์ าวนา

20

บา้ ง เชน่ นตั ถิ สนั ติ ปรมงั สขุ งั , นิพพานงั ปรมงั สญุ ญงั เป็นตน้
อนั นีม้ ีความสงสยั เรอ่ื งสมถะกบั วิปัสสนา อนั ไดแ้ ก่องคภ์ าวนา
เช่น พทุ โธ ยบุ หนอพองหนอเป็นตน้ พทุ โธก็ดี ยบุ หนอพองหนอ
ก็ดี ทงั้ สองอยา่ งนีเ้ ป็นอารมณข์ องสมถกรรมฐานตามหลกั สตู ร
ทีนีผ้ มู้ าภาวนาพทุ โธๆก็ดี ยบุ หนอพองหนอก็ดี เป็นการปรบั ปรุง
จติ ในขนั้ สมถะ การนกึ อย่ใู นส่งิ ๆเดยี วเพ่ือใหจ้ ิตสงบน่ิงลงเป็น
สมาธิ เป็นปฏปิ ทาหรอื ขอ้ ปฏบิ ตั ิ เป็นความตงั้ ใจท่ีจะใหจ้ ิตสงบ
น่ิงเป็นสมาธิ เม่ือจติ สงบน่ิงลงเป็นสมาธิ ตงั้ แตอ่ ปุ จาระ
จนกระท่งั ถึงอปั ปนาสมาธิ ในขนั้ นีเ้ รยี กวา่ จิตเดนิ อย่ใู นขนั้ สมถะ
ทีนีค้ วามท่ีจิตสงบน่ิงลงเป็นสมาธิ อนั นีเ้ รยี กวา่ สมถะ จติ รูว้ า่
สมาธิเป็นอยา่ งไร หรอื รูว้ า่ น่ีเป็นสมาธิ เป็นความเหน็ แจง้ หาย
สงสยั รูแ้ จง้ เหน็ จรงิ หายสงสยั ในเร่อื งสมาธิ อนั นีเ้ รยี กวา่
วปิ ัสสนา เขา้ ใจเอาอยา่ งนีง้ า่ ยดี

อกี ปัญหานี้ การกาํ หนดจติ จาํ เป็นตอ้ งกาํ หนดใหอ้ ย่ใู นสว่ น
ใดสว่ นหนง่ึ ของกายหรอื ไม่ การกาํ หนดจติ เรามีความจาํ เป็น
จะตอ้ งกาํ หนดใหอ้ ยใู่ นสว่ นใดสว่ นหนง่ึ ของรา่ งกาย เชน่ อย่าง

21

การกาํ หนดรูล้ มหายใจพรอ้ มกบั พทุ เขา้ โธออก ลมหายใจก็เป็น
สว่ นหนง่ึ ของรา่ งกาย ทีนีก้ ารกาํ หนดจิตเก่ียวกบั การบรกิ รรม
ภาวนาเน่ยี ถา้ หากสมมตุ วิ า่ เรากาํ หนดภาวนาคาํ ใดคาํ หนง่ึ โดย
ไม่กาํ หนดหมายท่ีใดท่ีหน่งึ ภายในกายเชน่ ลมหายใจเป็นตน้
เม่ือจิตสงบลงไปแลว้ พอจติ มีความเคลิม้ ๆสงบสวา่ งลงไป
เพราะเราไม่มีท่ีกาํ หนดหมายภายในกาย เม่ือจิตสงบลงไปแลว้
กระแสจิตมกั จะสง่ ออกไปขา้ งนอก แลว้ กไ็ ปเห็นนิมติ ตา่ งๆ เชน่
ภาพคนสตั วห์ รอื เทวดา บางทีอาจจะหลงไปเท่ียวนรกสวรรคอ์ ยู่
ก็ได้ ทีนถี้ า้ หากเรากาํ หนดสว่ นใดสว่ นหนง่ึ ภายในรา่ งกาย เชน่
จะกาํ หนดรูล้ งท่ีลมหายใจ ในท่ีนีข้ อแนะนาํ ใหก้ าํ หนดลงท่ีลม
หายใจ เป็นสว่ นท่ีสาํ คญั ยง่ิ เพราะลมหายใจน่ีเป็นกรรมฐานท่ี
ไปแทรกอยทู่ กุ กรรมฐาน ถา้ จติ ดวงใดภาวนาแลว้ กาํ หนดรูล้ งท่ี
ลมหายใจ เม่ือจิตสงบลงไปแลว้ จิตปลอ่ ยคาํ ภาวนา แลว้ จติ จะ
ยดึ เอาลมหายใจเป็นส่ือนาํ จติ เขา้ ไปสคู่ วามสงบละเอยี ด
ย่ิงขนึ้ ไป เม่ือจติ สงบย่ิงลงไปแลว้ ในขณะท่กี ายยงั ปรากฏอยู่
จติ จะว่ิงเขา้ ไปรูภ้ ายในกายไดด้ ี ในบางครงั้ จิตอาจจะไปสงบน่งิ

22

อย่ใู นสว่ นกลางของกาย แลว้ ก็สง่ กระแสสอ่ งทะลอุ อกมาขา้ ง
นอก ทาํ ใหผ้ ภู้ าวนานนั้ เหน็ สว่ นตา่ งๆของรา่ งกายไดง้ า่ ยขนึ้ ใน
แง่ของอสภุ กรรมฐาน

จะทราบไดอ้ ยา่ งไรวา่ ทาํ สมถะถงึ ขนั้ อปั ปนาแลว้ อนั นีไ้ ด้
ตอบแลว้ วา่ สมาธิขนั้ อปั ปนาเรยี กวา่ สมถะ วธิ ีสงั เกตก็คือวา่ เม่ือ
จิตสงบน่ิงลงไปแลว้ นิวรณ์ ๕ หายไปหมด กามฉันทะ
พยาบาท ถนี มิทธะ อุทธัจจะ กุกกุจจะ วจิ กิ ิจฉา ความลงั เล
หายไปหมด ยงั เหลือแตจ่ ิตน่งิ สวา่ งอยอู่ ย่างเดยี ว อนั นีเ้ รยี กวา่
จติ ถงึ อปั ปนาสมาธิแลว้ หรอื เรยี กวา่ ขนั้ สมถะ

เม่ือพบวา่ มีสงิ่ ท่ีไมถ่ กู ตอ้ งแลว้ ไมส่ มั มนาจะแกไ้ ข อนั นี้
เป็นอนั วา่ เม่ือเห็นปัญหาขอ้ นี้ เป็นปัญหาเก่ียวกบั เร่อื งมตติ อ่
ความเห็นท่ีเก่ียวกบั การปฏิบตั ิท่ีไม่ถกู ตอ้ งตรงกนั คอื
หมายความวา่ ในเม่ือมีสง่ิ ท่ีไม่ถกู ตอ้ งแลว้ ไม่สมั มนา จะแกไ้ ข
อย่างไร ปัญหาขอ้ นี้ มีความประสงคอ์ ยากใหส้ มั มนา หมายถงึ
การประชมุ ศกึ ษาหารอื แลว้ ทาํ ความเห็นใหถ้ กู ตอ้ งตรงกนั อนั นี้
เอาไวเ้ ป็นภาระหนา้ ท่ีของทา่ นผหู้ ลกั ผใู้ หญ่ ถา้ หากวา่ พวกเรา

23

จะสมั มนากนั เองก็สมั มนาได้ คอื สมั มนาท่ีตวั ของเราเอง ใครจะ
มีความเหน็ ถกู ตอ้ งหรอื ผิดแผกแตกตา่ งอย่างไรก็ตาม เราไม่ไป
คดิ ท่ีจะแกไ้ ขเรอ่ื งภายนอก เราพยายามท่จี ะแกไ้ ขปัญหาภายใน
ใจของเรา คอื การปฏบิ ตั ธิ รรมนนั้ เราพิสจู นไ์ ดต้ รงท่ีวา่ ธรรมอนั
ใดซง่ึ เกิดขนึ้ กบั จติ ใจของเราแลว้ ทาํ ใหจ้ ติ ใจมีความสงบสวา่ ง
เยือกเยน็ ทาํ ใหเ้ ราหมดทฐิ ิ มานะ หมดกิเลส หมดความถือตน
ถือตวั สามารถท่ีจะปรบั ปรุงตวั ใหอ้ ยไู่ ดส้ บายในสงั คม ไอ้
ความเห็นและผลของการปฏิบตั นิ นั้ เป็นการถกู ตอ้ ง

ปัญหาขอ้ นีเ้ ก่ียวกบั เร่อื งอดีตกาล หมายถงึ
บุพเพนิวาสานุสตญิ าณ ถามวา่ ความเหน็ อนั นีเ้ ป็นความเหน็ ท่ี
ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ อนั นีข้ อ้ ใหค้ ตเิ ตอื นเอาไวว้ า่ เรอ่ื งบพุ เพนิวาสนานุ
สตญิ าณนี้ ไดโ้ ปรดกรุณาระมดั ระวงั และกอ็ ยา่ เพง่ิ ไปเช่ือ
สว่ นมากบพุ เพนวิ าสนานสุ ติญาณนีบ้ างทีมนั โกหกหรอื มนั เก๊ก็
ได้ ซง่ึ บางครงั้ ทา่ นผทู้ ่ีเคยไปวดั ป่าสาละวนั เคยยกตวั อยา่ ง เลา่
ตวั อย่างใหฟ้ ังบอ่ ยๆ เพราะฉะนนั้ ความเหน็ และความรูใ้ นเรอ่ื ง
อดตี ชาตนิ ่ี เอาไวร้ ูๆ้ แลว้ พจิ ารณาใหม้ นั ถ่ีถว้ น ความรูอ้ นั ใดท่ีเรา

24

ยงั มีความสงสยั ขอ้ งใจอยู่ พงึ สนั นิษฐานเถดิ วา่ ความรูอ้ นั นนั้ ยงั
ไม่แน่ และยงั ไม่จรงิ เทา่ ท่ีควร ความรูแ้ จง้ เห็นจรงิ จะตอ้ งทาํ ให้
ผรู้ ูห้ ายสงสยั

ปัญหาขอ้ นี้ การฝึกน่งั สมาธิโดยการเอาขาขวาทบั ขาซา้ ย
มือขวาทบั มือซา้ ย น่งั อยปู่ ระมาณ ๑๐ นาที เกิดอาการชาท่ีเทา้
ทงั้ สองขา้ ง ควรจะปฏบิ ตั อิ ย่างไร อนั นีถ้ า้ ทนไม่ไหวก็เปล่ยี น
อริ ยิ าบถได้ การทาํ สมาธินีเ้ ป็นกิรยิ าของใจ การน่งั ยนื เดนิ นอน
อนั นนั้ เป็นทา่ แสดงประกอบ เป็นการเปลย่ี นอริ ยิ าบถหรอื เป็น
การบรหิ ารรา่ งกาย เปรยี บเหมือนนกั ศกึ ษา นกั เรยี น หรอื
ขา้ ราชการท่ีทา่ นมกี ารเลน่ กีฬาเป็นการออกกาํ ลงั กาย ทนี ีก้ ีฬา
ของผปู้ ฏบิ ตั ินนั้ ก็มีการเดินจงกรม การยนื การน่งั สมาธิ การ
นอน การเปล่ยี นอริ ยิ าบถ ถา้ หากน่งั อย่ซู กั ๑๐นาที มนั ปวดแขง้
ปวดขาเหน็บกินจนทนไมไ่ หว ก็พลกิ ไดเ้ ปล่ยี นได้ เพราะการทาํ
สมาธิเป็นกิรยิ าของใจ ใหถ้ ือเอาเร่อื งของใจเป็นใหญ่ ใจกาํ หนด
บรกิ รรมภาวนาหรอื พจิ ารณาธรรมอยู่ แมเ้ ราจะอยใู่ นท่าไหนก็
ทาํ ไดท้ งั้ นนั้

25

ปัญหาอกี ขอ้ หน่งึ อนั นีป้ ัญหาขอ้ นีเ้ ก่ียวกบั การท่ีจะไป
พกั ผอ่ นบาํ เพญ็ ภาวนา โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ท่วี ดั ป่าสาละวนั ขอ
ปวารณาตอ่ ท่ีประชมุ นีว้ า่ เผ่อื วา่ ทา่ นผใู้ ดมีความประสงคท์ ่ีจะ
ไปพกั ผอ่ นบาํ เพ็ญภาวนาเพ่ือจะไปดปู ่าธรรมชาติซง่ึ ยงั เหลืออยู่
แหง่ เดยี วในบรเิ วณนครราชสีมา จะไปพกั ภาวนาอยทู่ ่ีน่นั จะไป
พกั ภาวนาอยทู่ ่ีน่นั จะไปก่ีวนั ก่ีคืนเป็นเดอื นก็ได้ จะบอก
ลว่ งหนา้ หรอื จะไมบ่ อกลว่ งหนา้ ก็ไมเ่ ป็นไร เรามีท่พี กั พอจะให้
พ่งึ พาอาศยั ได้

สรุปยบุ หนอพองหนอ ความจรงิ การกาํ หนดยบุ หนอพอง
หนอเป็นการกาํ หนดรูอ้ าการของลม ในเม่ือหายใจเขา้ ไป สดู ลม
เขา้ ไปทาํ ใหท้ อ้ งมนั พอง เวลาปลอ่ ยลมออกทาํ ใหท้ อ้ งมนั ยบุ ก็
เป็นการเขา้ ออกของลม ทีนีใ้ นเม่ือจติ สงบลงไปบา้ งแลว้ จติ ก็ไป
รูอ้ ย่ทู ่ีลมหายใจ การทาํ อยา่ งนี้ ไม่เป็นความวา้ วนุ่ หรอื วา่ เป็น
ความยงุ่ เหยงิ ในการปฏิบตั ิ ในธรรมชาติแลว้ นกั บรกิ รรมภาวนา
น่ี ถา้ เม่ือจติ สงบลงไปแลว้ ถา้ จติ ดวงใดว่งิ เขา้ หาลมหายใจเขา้
ออก เขา้ ออก เป็นดวงจติ ท่ีคอ่ นขา้ งจะเดินทางท่ีถกู ตอ้ ง เพราะ

26

การท่ีจติ รูล้ มหายใจนนั้ คือการเจรญิ กายคตาสติ เพราะลมเป็น
สว่ นหนง่ึ ท่ีประกอบกาย

ทอ่ นท่ีสองของปัญหานี้ เม่ือทาํ จติ ใหร้ วมลงมาแลว้ มาตาม
รูค้ วามคดิ การทาํ เชน่ นีเ้ ป็นการถกู ตอ้ ง ถา้ หากเม่ือเราทาํ จิตให้
สงบลงไป พอท่ีจะคมุ อยใู่ หจ้ ติ ใหร้ ูอ้ ย่เู ร่อื งเดยี ว ไมฟ่ ้งุ ซา่ นไปสู่
เร่อื งอ่ืนได้ เม่ือความคดิ เกิดขนึ้ มา เราตามรูค้ วามคดิ นนั้ หรอื
ตามรูค้ วามรูท้ ่ีมนั เกิดขนึ้ ในจติ นนั้ เรอ่ื ยไป อนั นีเ้ ป็นการใชไ้ ด้ ซง่ึ
มนั อาจจะเป็นจงั หวะในขณะท่ีเราไมส่ ามารถท่ีจะควบคมุ จติ ให้
น่ิงอย่ใู นอารมณเ์ ดยี วได้ เม่อื จิตมนั ตอ้ งการคิด ปลอ่ ยใหม้ นั คดิ
ไป แตเ่ ราทาํ สติตามรูค้ วามคิดนนั้ ในเม่ือตามรูค้ วามคดิ ไปแลว้
ถา้ จิตมนั จะหยดุ น่ิงเขา้ สคู่ วามสงบ ปลอ่ ยใหม้ นั สงบ อยา่ ไปฝืน
มนั ในเม่ือถอนจากความสงบแลว้ มนั อยากมีความรูเ้ ดดิ ขนึ้
เรอ่ื ยไป ก็ปลอ่ ยใหม้ นั เป็นไป อยา่ ไปฝืนมนั หนา้ ท่ีของเรามีแต่
ทาํ สตติ ามรูเ้ ทา่ นนั้ อาการของจติ ท่ีมนั ตอ้ งการความสงบ เราไป
ฝืนมนั มนั จะไม่คอ่ ยดี ตอ้ งปลอ่ ยใหม้ นั สงบ มนั จะสงบเวลาไหน
ก็ปลอ่ ยใหม้ นั สงบ มนั จะเกิดความรูข้ นึ้ มาเม่ือไร ก็ปลอ่ ยใหม้ นั มี

27

ความรูไ้ ป อยา่ ไปฝืนมนั เม่อื เราอบรมมามนั เกิดภมู ิความรู้
ขนึ้ มาโดยธรรมชาติแลว้ จิตมนั กาํ ลงั จะปฏิวตั ิไปสภู่ มู ิจิตภมู ิ
ธรรม ถา้ เราไปฝืนมนั แลว้ มนั จะเกิดโทษ ถา้ มนั จะตอ้ งการสงบ
เราฝืนไมใ่ หม้ นั สงบ มนั จะเกิดโรคปวดศีรษะ ทีนีถ้ า้ มนั อยากจะรู้
เราฝืนไม่ใหม้ นั รู้ จะเกิดโรคฟงุ้ ซา่ น เด๋ยี วจะคมุ ไม่อยู่

ปัญหาตอ่ ไป การบรกิ รรมภาวนาโดยท่วั ๆไป พดู ถงึ คาํ
บรกิ รรมภาวนาโดยท่วั ไปไมว่ า่ คาํ ไหนทงั้ นนั้ เป็นแตเ่ พียงเคร่อื ง
ลอ่ ใหจ้ ติ เขา้ ไปยดึ อยใู่ นคาํ ๆนนั้ ดงั ท่ีไดอ้ ธิบายใหฟ้ ังแลว้ ในตอน
เทศน์ จะเป็นคาํ พดู คาํ ไหนก็ได้ ทีนีเ้ ราจะมาพทุ โธๆๆ แลว้ มา
เปล่ียนเป็นยบุ หนอพองหนอก็แลว้ แตจ่ งั หวะ หรอื เราอาจจะหา
คาํ อ่ืนท่ีเรานกึ วา่ ดีกวา่ นีม้ าวา่ ก็ได้ ขอใหเ้ ป็นคาํ บรกิ รรมภาวนาก็
แลว้ กนั ไม่เป็นการท่ีหรอื ท่านจะตาํ หนวิ า่ เปล่ยี นบอ่ ยๆนกั มนั
ทาํ ใหเ้ ปล่ยี นความรูส้ กึ อยเู่ ร่อื ย จติ มนั จะไมส่ งบ ถา้ ทา่ นสงสยั
วา่ มนั จะเป็นอย่างนนั้ กเ็ อามนั ซกั อย่างเดยี ว จะเป็นคาํ ไหนก็ได้
ทาํ อยา่ งจรงิ จงั โดยปราศจากความสงสยั นกึ วา่ คาํ บรกิ รรมน่ี

28

แหละจะชว่ ยใหจ้ ติ ของเราสงบ แลว้ ก็วา่ กนั ไป จะเอาพทุ โธๆก็ได้
ยบุ หนอพองหนอก็ไดท้ งั้ นนั้

ท่ีมา: https://youtu.be/2ITrCTXxQ_w

29


Click to View FlipBook Version