ปฏจิ จสมุปบาท
หลวงป่เู ทสก์ เทสรงั สี
ตอ่ นีไ้ ปจะแสดงถงึ เร่อื งกายของเกา่ เหมือนกนั แตห่ าก
พิจารณาลงไปอีก เพราะกายคอื ตวั คนเราน่ีแหละเป็นท่ีตงั้ ของ
ธรรมทงั้ หลาย รวมอยใู่ นแหง่ เดยี วน่ีหมด เบือ้ งตน้ ก็คือรูปธรรม
นามธรรม ก็เรยี กวา่ ธรรมอยแู่ ลว้ จะอธิบายในเบือ้ งตน้ ท่ีเรยี กวา่
ธาต๔ุ ก็คือตวั ของเราน่ีแหละ ไมไ่ ดเ้ ก่ียวเน่ืองถงึ เรอ่ื งจติ เป็น
ธาตลุ ว้ นๆ เป็นของเดิมแทๆ้ ทีเดยี ว ธาตุ ๔ ตอ่ มามาแสดงใน
เร่อื งขนั ธ์ ๕ เอาจิตเขา้ ไปผสมเขา้ อกี แลว้ ก็สรุปลง ไมใ่ หท้ งิ้ นาม
อกี คอื รูปกบั นาม ตอ่ มาก็มาแสดงถงึ เร่อื งอายตนะ คือรูปกบั
นามอกี อาจแสดงเรอ่ื งอายตนะภายนอกภายใน อย่างละ ๖
เป็น ๑๒ อนั นตี้ อ่ มาก็แสดงเรอ่ื งธาต๑ุ ๘ อายตนะภายนอก
ภายในอยา่ งละ ๖ เม่ือภายนอกกบั ภายในผสมกนั เขา้ กระทบ
กนั เขา้ เกิดความรูส้ กึ ขนึ้ เรยี กวา่ วญิ ญาณธาตุ ตกลง ๓ ๖ เป็น
๑๘ ท่ีอธิบายมาแลว้ น่ีหว้ ขอ้ จดจาํ ไวเ้ พียงย่นยอ่
1
อนั นีแ้ หละท่ีจะแสดงตอ่ ไป ก็ไม่ใชอ่ ่นื ไกล ตวั รูปกบั นามเน่ีย
แหละ ใหเ้ กิดเป็นสจั ธรรม คอื อรยิ สจั ธรรมทงั้ ๔ ก็ไมใ่ ชอ่ ่นื ไกล ก็
ไดแ้ ก่รูปกบั นามนี้ เพราะรูปกบั นามนีแ้ หละกระทบกนั เขา้ จงึ เป็น
เหตใุ หเ้ กิดกิเลส เช่นตาเหน็ รูป เกิดความรูส้ กึ ขนึ้ เรยี กวา่
วิญญาณ แลว้ พอเกิดความรูส้ กึ ขนึ้ ก็เกิดเวทนาคือสขุ บา้ ง ทกุ ข์
บา้ ง เรยี กวา่ สขุ เวทนา ทกุ ขเวทนา หรอื เฉยๆ เรยี กวา่ อเุ บกขา
เวทนา ทงั้ หมดนีแ้ หละถา้ เราพิจารณาดแู ลว้ นะ ถา้ จบั ตน้ ตอเอา
ขอ้ ขา้ งตน้ ได้ อธิบายมาตงั้ แตธ่ าตมุ า ขนั ธ์ อายตนะ อนิ ทรยี ์
ธาตุ เวทนา เท่าท่ีอธิบายมาน่ี ยงั ไม่ไดพ้ ดู ถึงเร่อื งกิเลสนะคราว
นี้ เร่อื งนีย้ งั ไมม่ ีกิเลส สมมตุ ิวา่ เราไปเหน็ ตวั ของคนเรา เพียงแต่
สกั วา่ ธาตุ กิเลสมนั จะเกิดตรงไหนลองคดิ ดสู ิ ยงั ไมม่ ีกิเลส
อนั นีเ้ ราพดู ถงึ เร่อื งขนั ธ์ คือรูปอยา่ งท่ีวา่ คือธาตุ ๔ ก็ยงั ไมม่ ี
กิเลส เม่ือเรามาเหน็ ตวั ของคนเราแตล่ ะคนๆ หรอื เหน็ วา่ ตวั ของ
เราน่ีแหละเป็นเพยี งสกั วา่ ธาตุ ๔ กิเลสยงั ไมค่ อ่ ยมี เวทนา
สญั ญา สงั ขาร วิญญาณ เวทนาคือความเสวยสขุ ทกุ ข์ ไม่ไดจ้ บั
ถงึ กิเลสหรอก ยงั ไม่ทนั มีตวั กิเลสขนึ้ มา สขุ ก็สกั วา่ แตส่ ขุ ทกุ ขก์ ็
2
สกั วา่ แตว่ า่ ทกุ ข์ อเุ บกขาก็สกั วา่ อเุ บกขา สญั ญาคอื ความจาํ
มนั ก็ไม่มี ไมใ่ ชก่ ิเลส จาํ ส่งิ ตา่ งๆได้ มนั กส็ กั วา่ แตจ่ าํ สงั ขารคอื
ความปรุงความแตง่ ก็เรอ่ื งหนา้ ท่ีของคนมาปรุงมาแตง่ มนั ก็
ไม่ใช่กิเลสอีก เป็นช่ือของจติ ท่ีมนั ปรุงมนั แตง่ ไม่ไดพ้ ดู ถงึ เรอ่ื ง
กิเลส วญิ ญาณคือความรูส้ กึ ก็ยงั ไม่ไดพ้ ดู ถงึ เร่อื งกิเลสอีก
เหมือนกนั
พดู ถึงเร่อื งอินทรยี ค์ ือวา่ ตากระทบกบั รูป รูปก็สกั แตว่ า่ รูป
ตาก็สกั แตว่ า่ ตา มนั สาํ หรบั ท่ีกระทบกนั เทา่ นนั้ เกิดความรูส้ กึ
ขนึ้ ก็สกั วา่ แตร่ ูส้ กึ แลว้ ก็แลว้ ไป อนั นีย้ งั ไม่ไดจ้ ดั วา่ เป็นตวั กิเลส
อนั นพี้ อเกิดความรูส้ กึ ขนึ้ แลว้ มนั เกิดเวทนาแลว้ คราวนี้ มีสขุ มี
ทกุ ขบ์ า้ งหรอื เฉยๆบา้ ง ก็ยงั ไม่ไดจ้ ดั เป็นกิเลสโดยเฉพาะ ลองคิด
ดซู คิ ราวนี้ เร่อื งท่ีอธิบายบรรยายมาทงั้ หมด แยกแยะออกเป็น
สดั เป็นสว่ น ใหร้ ูห้ นา้ ท่ีของแตล่ ะอายตนะ หรอื แตล่ ะเร่อื งของ
มนั ยงั ไม่ไดจ้ ดั เขา้ งบกิเลส เร่อื งท่ีอธิบายน่ียงั ไมไ่ ดจ้ ดั เขา้ งบ
กิเลส
3
ตรงท่ีมนั จะเกดิ กิเลสน่ะมนั มนั เกิดเวทนาน่ี ตรงท่ีวา่ ตะกี๊
คอื ความสขุ ก็ดี ความทกุ ขก์ ด็ ี หรอื ไมส่ ขุ ไมท่ กุ ขก์ ็ดี ถา้ สขุ แลว้
เกิดความพอใจ ความชอบอกชอบใจ แลว้ ก็อยากไดเ้ รยี กวา่
ตณั หา คือความทะเยอทะยาน อยากไดก้ ็เรยี กวา่ ตณั หา น่นั
แหละตณั หาตวั นีต้ วั กิเลส ภาษาท่ีเราพดู กนั กลา่ วกนั งา่ ยๆ พดู
กนั งา่ ยๆตามภาษาสามญั ท่วั ๆไปจะเรยี กวา่ ตณั หา คือวา่ พดู กนั
ภาษางา่ ยๆกนั หละ คือมนั หาแลว้ มนั ตนั คอื ไม่มีหนทางไป ตนั
แลว้ มนั กเ็ ลยหา คอื มนั ปิดซะก่อนแลว้ ก็คอ่ ยงม หมายความวา่
เราปิดแลว้ ก็งม คือเราปิดประตบู า้ นเรอื นมนั มืดนะ่ ไมม่ ีทางออก
เราก็งม อนั นนั้ เรยี กวา่ ตนั แลว้ ก็หา หรอื อกี อยา่ งหน่งึ จะเรยี กวา่
หาแลว้ ก็ตนั กลบั คาํ ก็ได้ หาไปเท่าไหรม่ ีแตป่ ิด เรยี กวา่ หาตนั ไม่
มีทางออก ปิดหมดทกุ ดา้ นทกุ ทาง หาไปเถิด จะหาอะไรก็หาไป
เถิด อย่างท่ีเราหาในโลกเน่ีย ใครๆก็หาไปเถอะ หาแลว้ ก็ปิด
ตนเองทงั้ นนั้ ออกไมไ่ ดซ้ กั คนเดยี ว
พระพทุ ธองคท์ า่ นพจิ ารณาเหน็ อย่างนี้ วา่ การอยใู่ นโลก
เรอ่ื งตนั หา กบั หาตนั นนั้ พระพทุ ธองคย์ อมสละไดท้ กุ ส่ิงทกุ
4
อย่าง เม่ือสละแลว้ เปิดหนทาง ไมห่ า ไมต่ นั แลว้ คราวนี้ เปิด
หนทางออกได้ เหตนุ นั้ วา่ กิเลสมนั เกิดตรงนี้ เกิดท่ีตรงตณั หา
เกิดออกจากเวทนานี้ พอเวทนาสขุ มนั ก็ชอบใจ แลว้ ก็อยากได้
สขุ นนั้ ตอ่ ๆไป ทกุ ขไ์ ม่พอใจ ก็เลยไม่อยากเหลยี วแลในเรอ่ื งทกุ ข์
นนั้ เกิดโทมนสั คบั แคน้ เฉยๆก็โงซ่ มึ อนั นีก้ ็คดิ นกึ รูส้ กึ โงซ่ มึ น่ี
กิเลสมาเกิดตรงนี้
ตอ่ นีไ้ ปพดู เรอ่ื งกิเลสไดเ้ ยอะแยะ ตณั หาแลว้ ก็เกิดอปุ าทาน
ความยดึ ม่นั ถือม่นั ยดึ ม่นั ถือม่นั หละก็มืดตอื้ หละคราวนี้ ยดึ ใน
สิ่งใดก็มืดในสงิ่ นนั้ ทา่ นยงั พดู อธิบายถงึ ตอ่ ไปถงึ เรอ่ื งความไม่รู้
คือตวั อวิชชา ไปโนน้ มนั ยืดยาวไป สง่ิ ท่ีไมร่ ู้ คือไมร่ ูต้ ามเป็นจรงิ
เรยี กวา่ อวิชชา รูเ้ หมือนกนั แตไ่ มใ่ ชร่ ูข้ องจรงิ อยา่ งเราสามญั รู้
กนั ท่วั ๆไปอย่างเนยี้ รูส้ ขุ รูท้ กุ ขเ์ หมือนกนั รูด้ รี ูช้ ่วั เหมือนกนั รู้
หยาบรูล้ ะเอียด รูส้ วา่ งรูม้ ืดเหมือนกนั รูห้ วิ กระหาย อยากโนน่
อยากน่ี มีเหมือนกนั รูเ้ หมือนกนั รูแ้ บบนนี้ ่นั รูอ้ ยใู่ นวงของความ
ปิด ปกปิด เขา้ หาหลกั ท่วี า่ หาตนั แลว้ ตนั หา ไมม่ ีทางเปิด รู้
5
วนเวยี นไดเ้ ทา่ นี้ จงึ วา่ ตวั ท่ีไมร่ ูต้ วั เนีย้ ไม่รูต้ ามเป็นจรงิ เน่ีย มนั
เป็นเหตุ เป็นปัจจยั สืบเน่ืองกนั ไปยืดยาว
ถา้ รูจ้ รงิ คอื รูล้ ะ เรยี กวา่ รูแ้ ลว้ เปิด เปิดหนทาง รูแ้ ลว้ ไมไ่ ด้
ปิด มนั เลยสวา่ ง เหน็ แจง้ ตามเป็นจรงิ เม่ือเห็นแจง้ ตามเป็นจรงิ
สง่ิ นนั้ มนั กห็ มด หมดสงสยั อยา่ งเราเหน็ สงิ่ ใดก็ตามเถอะ ถา้
เหน็ จรงิ เหน็ แจง้ ตามเป็นจรงิ แลว้ หมดสงสยั ในเร่อื งนนั้ ไมอ่ ยาก
รูอ้ ีก ถา้ เหน็ ยงั ไม่ทนั แจง้ แลว้ ไมท่ นั จรงิ เหน็ พอมวั ๆ แลว้ ก็อยาก
รูแ้ ลว้ ใหร้ ูแ้ ลว้ รูร้ อดไปซกั ที จะเหน็ อะไรก็ตามเถอะ ถา้ ยงั ไม่ทนั
หายสงสยั เรยี กวา่ ยงั ไมท่ นั รูแ้ จง้ เหน็ จรงิ พดู กนั หยาบๆคายๆ
อยา่ งนี้ เอา้ สมมตุ วิ า่ คนเหน็ กนั นะ เห็นคนสวยๆ ผหู้ ญิงเหน็
ผชู้ าย ผชู้ ายเหน็ ผหู้ ญิงสวยๆนะ่ ก็รูจ้ กั วา่ เคา้ สวยเหมือนกนั ก็
รูจ้ กั วา่ ผหู้ ญิงเหมือนกนั ก็รูจ้ กั วา่ ผชู้ ายเหมอื นกนั แตอ่ ยากดไู ม่
รูจ้ กั จบจกั สนิ้ อนั นีไ้ ม่ไดช้ ่ือวา่ รูแ้ จง้ เหน็ จรงิ เรยี กวา่ รูว้ วั รูก้ วาง
อยากรูแ้ ตอ่ ยากดอู ยเู่ สมอ ดไู ม่รูจ้ กั อ่มิ ดไู มร่ ูจ้ กั พอ รูอ้ ยา่ งนี้
เรยี กวา่ รูใ้ นจาํ พวกอวชิ ชา
6
ถา้ รูต้ ามแบบพระพทุ ธเจา้ ทา่ นสอน รูแ้ จง้ เห็นจรงิ รูล้ ะรูท้ งิ้
เหน็ คนเราหละ สวย ผชู้ ายเห็นผหู้ ญิงก็วา่ สวย ผหู้ ญิงเหน็ ผชู้ าย
ก็วา่ อนั นีส้ วยจรงิ ๆ ไมไ่ ดเ้ หน็ แตเ่ พียงวา่ สวยนะ ยงั เพง่ พิจารณา
ถงึ ความเกิดความดบั ของคนๆนนั้ เหน็ วา่ มนั เกิดมามนั จะตอ้ ง
ดบั มนั เกิดมาจากอะไร ดงั อธิบายมาแลว้ ในเบอื้ งตน้ ธาตุ ๔ ตวั
ของคนเรา เพียงแตว่ า่ ธาตุ ๔ ถา้ เวลาธาตนุ นั้ น่ะ ธาตดุ นิ ดนิ
แดง ดนิ ดาํ ดนิ ขาว ดินเหลอื ง มีหมด ท่ีมาเป็นคน มาประดษิ ฐ์
เป็นคน คือธาตมุ นั ประชมุ ในคน จะตอ้ งมคี นสวย คนไมส่ วย คน
ดาํ คนขาว คนเหลอื งมีเหมือนกนั กบั กอ้ นขีด้ ิน…เหมือนกบั กอ้ น
ขีด้ นิ อยา่ งท่ีวา่ มาแลว้ พิจารณาใหเ้ ห็นอยา่ งนี้ ลองคดิ ดู หายมยั้
จะหายสงสยั มยั้ ถา้ เหน็ อยา่ งนีจ้ ะหายมยั้ เหน็ แตธ่ าตดุ ิน นา้ํ ไฟ
ลม เหน็ เป็นดนิ เป็นนา้ํ เป็นไฟ เป็นลม หายมยั้ อย่างนีจ้ ะหาย
สงสยั มยั้ เราชดั อย่างนี้ คงจะไมอ่ ยากดอู กี ทกุ คนเช่ือแนว่ า่ คง
ไมอ่ ยากดตู อ่ ไปอกี ชดั แลว้ คราวนี้ กอ้ นขีด้ ินกอ้ นหนง่ึ
หรอื จะพิจารณาซงึ้ เขา้ ไปกวา่ นนั้ อีก คนเราเกิดมาเพ่ืออะไร
เกิดมาเพ่ือหากิน กินเพ่ืออยู่ อย่เู พ่ือกินอยา่ งเคา้ พดู กนั ท่วั ๆไป
7
เป็นจรงิ อยา่ งวา่ ถา้ ไม่กนิ กอ็ ยไู่ ม่ได้ อยกู่ ็จะอยเู่ พ่ือกิน กินแลว้
เป็นอะไร ก็ตกลงมาบาํ รุงกอ้ นดนิ กอ้ นดนิ กอ้ นเนีย้ ไมใ่ ชบ่ าํ รุง
เฉยๆ ดินท่ีเคา้ พอกใหม้ นั โตขนึ้ ๆ มนั ก็ไม่เหมน็ เหมือนกบั ดิน
กอ้ นนเี้ ลย ดนิ กอ้ นนพี้ อกเขา้ เท่าไหร่ ยง่ิ เหม็นเขา้ เทา่ นนั้ แหละ
ไมใ่ ช่มนั หอม ไมใ่ ชม่ นั ปกตธิ รรมดา โอ้ เขา้ มากย่งิ เหมน็ มาก น่ี
ดนิ กอ้ นนีม้ นั ผดิ เขา พอเราไปเหน็ ความเหม็นความสกปรกคือ
อสภุ ะปฏกิ ลู อย่างท่ีพระทา่ นสวด
อะยงั โข เม กาโย กายของเรานีแ้ ล
อุทธัง ปาทะตะลา เบอื้ งบนจากพืน้ เทา้ ขนึ้ มา
อะโธ เกสะมตั ถะกา เบือ้ งต่าํ แตป่ ลายผมลงไป
ตะจะปะริยนั โต มีหนงั หมุ้ อย่เู ป็นท่ีสดุ รอบ
ปโุ รนานัปปะการัสสะ อะสุจโิ น เต็มไปดว้ ยของไม่สะอาด
มีประการตา่ งๆ
ไลไ่ ปสิคราวนีเ้ กสา โลมา นขา ทนั ตา ตโจ ไลไ่ ปตรงนี้ ลว้ น
แตเ่ ป็นของปฏกิ ลู โสโครก เราดใู กลๆ้ ก็รูก้ นั ทกุ วนั นะ่ เราไมไ่ ด้
อาบนา้ํ ชาํ ระเนือ้ ชาํ ระตวั ซกั วนั หนง่ึ เทา่ นนั้ หละ อยา่ ไปพดู แต่
8
คนอ่นื เลย ตวั เราเองยงั รูส้ กึ วา่ เหมน็ สาปจะตายอยแู่ ลว้ เน่ียกอ้ น
ดินกอ้ นเนีย้ มนั แปลกเพ่ือน ถา้ หากเรามาพจิ ารณาใหเ้ หน็ กอ้ น
ดินกอ้ นนีม้ นั เป็นอยา่ งนีซ้ ะแลว้ ใครอยากไปดตู อ่ ไป ดชู ดั แลว้ วา่
มนั เป็นของอยา่ งนนั้ แลว้ มนั ก็หมดเรอ่ื งหายสงสยั น่ีความรูข้ อง
พระพทุ ธเจา้ รูอ้ ย่างเนีย้ รูเ้ หน็ จรงิ เหน็ แจง้ เหน็ ชดั มนั ผดิ จาก
ความรูข้ องโลกๆท่ีพากนั รู้ จงึ วา่ การรูอ้ ยา่ งนีแ้ หละเป็นวชิ ชา
ท่ีอธิบายจาํ แนกแจกจา่ ยมาตงั้ แตต่ น้ ก็เพ่อื อยากใหร้ ูอ้ ยา่ งนี้
เอง ใหเ้ ขา้ ถงึ หลกั วชิ ชาน่ีเอง แตน่ ีจ้ ะอธิบายถงึ เรอ่ื งอวชิ ชา เม่ือ
ไม่รูเ้ ห็นตามเป็นจรงิ แลว้ มนั ไม่หมดสงสยั ไม่หมดสงสยั ก็เป็น
เหตยุ ืดยาวแลว้ คราวนี้ ตามหลกั ท่ีพระพทุ ธเจา้ ท่านตรสั เทศนา
ไวน้ ะวา่
อวชิ ชาปัจจะยา สังขารา อวิชชานีพ้ ดู ถงึ เร่อื งจิต
โดยเฉพาะ สงั ขาราก็พดู ถงึ เร่อื งจติ โดยเฉพาะ อวชิ ชาปัจจะยา
สงั ขารา เม่ือไมร่ ูต้ ามเป็นจรงิ แลว้ ก็เป็นเหตใุ หเ้ กิดสงั ขาร
สังขาระปัจจะยา วญิ ญานัง เม่ือสงั ขารมีแลว้ ก็เป็นเหตใุ ห้
เกิดวญิ ญาณ วิญญาณมีแลว้ ก็เกิดนามรูป ก็เขา้ มาแลว้ ขนั ธ์ ๕
9
ของเกา่ น่นั หละ รูปกบั นามของเก่า แลว้ ก็เกิดอายตนะ คอื ตา หู
จมกู ลนิ้ กาย อายตนะก็ทาํ ใหเ้ กิดผัสสะ แลว้ เกิดเวทนา
ตณั หา อุปาทาน ไปยืดยาว
น่ีพดู ถงึ เร่อื งจติ อวชิ ชา เป็นเหตใุ หเ้ กิดสงั ขาร ในเร่อื งคมั ภีร์
ในทางพทุ ธศาสนาท่านวา่ ทา่ นไมไ่ ดพ้ ดู ถงึ เรอ่ื งอวชิ ชาตรงนี้
คนเราท่ีจะมาเกิด ทา่ นพดู ถงึ จติ ปฏสิ นธิ จิตขณะหนง่ึ ท่ีจะมา
เกิดในครงั้ แรก จิตท่ีมนั กา้ วจากนีจ้ ะไปสกู่ า้ วอ่ืน เหมือนกบั กา้ ว
ของเราน่ีแหละ อยา่ งวา่ เรามีคลองเลก็ ๆ กวา้ งประมาณซกั ศอก
หนง่ึ เราเหยียบอยรู่ มิ ฝ่ังทางเนีย้ รมิ คลองทางนีแ้ หละ เรากา้ ว
ไปสรู่ มิ คลองทางนนั้ เรยี กวา่ สนธขิ ณะ จิตขณะนนั้ เรยี กวา่ สนธิ
ขณะ คือมนั ไม่ตอ่ กนั นะ่ ขณะจิตจะไมต่ อ่ กบั อีกฝ่ังนงึ เรยี กวา่
สนธิขณะ
สนธิขณะนนั้ เรามาพจิ ารณาดเู ฉพาะในตวั ของเรานีก้ ็แลว้
กนั อย่างวา่ เวลานีแ้ หละ เราทาํ ความสงบเฉยอย่างนหี้ ละ มีจิต
ขณะหนง่ึ ซง่ึ มนั จะกา้ วไปสอู่ กี อารมณห์ นง่ึ เชน่ ไดย้ นิ เสยี งอะไร
วบู วาบขนึ้ มา ไดย้ นิ เสยี งอะไรแวบแวว่ ๆเขา้ มา เราอยากไปฟัง
10
เสียงอนั นนั้ ขณะท่ีมนั ออกจากความสงบน่ี จะไปฟังเสยี งไอท้ ่ี
มนั แวบ้ ขนึ้ มาในหนู ่ะ อนั นนั้ เรยี กวา่ สนธิขณะ ขณะเนีย้ ขณะให้
ไปเกิด นิดเดยี วแตเ่ ป็นเหตใุ หไ้ ปเกิดได้ แตก่ ารท่ีจะไปเกิดเป็น
มนษุ ย์ เป็นสตั วเ์ ดรจั ฉาน เป็นอะไรตา่ งๆ ไม่มีตนมีตวั ขณะจิต
อนั นนั้ แหละท่ีไปเกิด ครงั้ แรกแทๆ้ ทีเดยี ว
คราวนีเ้ ม่ือไปเกิดในครรภ์ ไปเกิดในครรภน์ นั้ มนั มีหลาย
อยา่ ง จะเกิดเป็นสตั วบ์ างพวกเกิดในไข่ เชน่ ในไขไ่ ก่ บางพวกก็
เกิดเป็นตวั คอื เช่นววั เชน่ ควาย หรอื สนุ ขั สกุ รอย่างนีเ้ ป็นตน้ หรอื
เป็นคนอยา่ งนี้ เรยี กวา่ เกิดในครรภ์ เกิดในไข่ เกิดในครรภ์ บาง
พวกนนั้ เกิดผดุ ขนึ้ มาเลย ขนึ้ เป็นตนเป็นตวั ขนึ้ มาเลย ท่าน
กลา่ วถงึ พวกเทพทงั้ หลาย เช่นตายอย่างเนีย้ ไม่ตอ้ งมีพอ่ มีแม่
หละ ไปเกิดเป็นผี ภตู ผีปีศาจ ไปตกนรก หรอื ไปเป็นเทวบตุ ร
เทวดา น่นั แหละท่านเรยี กวา่ อุปปาตกิ ะ บางพวกก็เกิดในท่ี
สกปรกโสครกดว้ ยประการตา่ งๆ เรยี กวา่ สังเสทชะ จติ ตรงนี้
แหละ จติ ท่ีมนั กา้ วมาเน่ยี เป็นตวั แรกท่ีจะไปเกิด ก็กา้ วเทา่ นนั้
แหละ ถา้ หากผมู้ ีปัญญารูเ้ ทา่ เขา้ ใจ มปี ัญญาเฉียบแหลมฉลาด
11
ตดั ไม่ใหจ้ ิตตวั นนั้ กา้ วกา่ ยไป คอื เรารกั ษาจติ อย่ทู กุ วนั เนยี้ พา
กนั ทาํ ความสงบ ไม่ใหม้ นั คบื ไป อย่ดู ว้ ยความสงบทาํ ความรูเ้ ทา่
อยู่ เหน็ โทษในเรอ่ื งท่ีเราจะกา้ วไปน่นั แลว้ ก็เห็นโทษในการท่ีเรา
อยู่ เหน็ โทษทงั้ หนา้ ทงั้ หลงั ปลอ่ ยวางตรงนี้ อนั นีเ้ รยี กวา่ ตดั
กระแสจติ ไมใ่ หม้ นั กา้ วไปเกดิ อนั นีข้ ณะจติ ท่ีไปเกิด
คราวนีถ้ า้ มนั ไปเกิดหละคราวนี้ ถา้ ไปเกิด มนั ตอ้ งไปเกิดใน
ธาตุ ๔ อย่างไปเกิดในครรภท์ ่ีวา่ น่ี มนั ตอ้ งมีธาตุ ๔ อย่ใู นท่ีนนั้
อธิบายครงั้ แรกน่นั ท่านอธิบายวา่ เกิดจาก กลละ สัมภวธาตุ
ทงั้ ฝ่ายบดิ ามารดาผสมกนั เรยี กวา่ กลละ ของเหลวๆละเอยี ด
ท่ีสดุ ปฏสิ นธิจิตตวั นนั้ นะ่ ท่ีมนั ไปเกาะท่นี ่นั ไมม่ ีปรากฏเลย
ตอ่ จากนนั้ มาพอดีมีปฏิสนธิวญิ ญาณไปยดึ อยตู่ รงนนั้ แลว้ อัพ
พทุ ะ คือมนั แปลสภาพท่ีเป็นของเหลวๆนา้ํ ของท่ีละเอียดอย่าง
นนั้ มาเป็นเหมือนกบั นา้ํ ลา้ งเลือด แลว้ ก็ตอ่ แปรอยา่ งมาเป็น
ฆนะ มาเป็นกอ้ นเลือด มาเป็น เปสิ คือมาเป็นป่มุ มาเป็น
ปัญจสาขา หา้ แยก อนั นวี้ า่ ถงึ เรอ่ื งปฏิสนธิจติ ท่ีมาเกิด มนั มา
เอาธาตุ ๔ มาเป็นตนเป็นตวั มาปั้นเป็นกอ้ นเป็นป่มุ ขนึ้ มา เกิด
12
จากอวชิ ชา คอื ความไม่รู้ จติ ในขณะใดถา้ หากวา่ เรารกั ษา
คมุ้ ครองไมอ่ ยู่ ยงั เหน็ ดเี หน็ ชอบอารมณต์ า่ งๆแลว้ เคา้ เรยี กวา่
อวิชชาเกิดขนึ้ เม่ือเกิดขนึ้ น่หี ละมนั ตอ้ งเป็นไปอย่างนนั้ หละ
ตามตาํ ราท่ีเคา้ พาในสมยั เด๋ียวนนี้ ะ่ เคา้ พากนั จบั ดจู ติ มี
หลายอย่าง มสี มยั หน่งึ ครงั้ หนง่ึ เคา้ คิดอยากจะจบั จติ น่ีเป็นตวั
ยงั ไง เวลาจะตายเคา้ เอาแกว้ มาครอบหวั ครอบศรี ษะไว้ แลว้
คนตายน่ะเคา้ บอกวา่ มนั มีสเี หลอื งๆลอยไป เคา้ เลยถือวา่ จิต
ของคนน่ะคอื เป็นตวั เหลืองๆ น่ีพวกฝร่งั มนั อาจจะเป็นแก๊สหรอื
อะไรอนั หนง่ึ ซง่ึ เวลาคนดบั แลว้ ธาตแุ ตกแลว้ เรยี กวา่ ไมส่ มบรู ณ์
เชน่ วา่ ธาตไุ ฟมนั ดบั มนั เยน็ แลว้ มนั ธาตไุ ฟท่ีมนั ดบั มนั อาจจะ
ลอยออกไป มนั ยงั เหลอื แตค่ วามเยน็ ยงั เหลอื แตธ่ าตนุ า้ํ เพราะ
ฝร่งั เคา้ อยากเห็นตวั จติ เคา้ เลยคิดเอาแกว้ มาครอบไว้ ไปเหน็
อยา่ งนนั้ เคา้ ถือวา่ เป็นจติ ซะ นานๆเขา้ ก็เลย ความเช่ือนนั้ ก็เลย
หายไป เคา้ หาวิธีท่ีจะจบั จิต
ถา้ หากจิตมนั อยใู่ นแกว้ แลว้ เราไมต่ อ้ งไปเกิด ใครจะไปเกิด
ท่ีไหนก็เอาแตแ่ กว้ ไปแลว้ ก็ไปเกิดเขา้ ตรงนนั้ เอาไปซกุ เขา้ ใน
13
ทอ้ งเป็ดทอ้ งไก่ทอ้ งววั ทอ้ งควายหรอื ทอ้ งคน เอาไปซกุ ไปในทอ้ ง
คนมีคนรวยแลว้ ก็หมดเร่อื งกนั ไป ถา้ น่าจบั จติ อยา่ งนนั้ ก็ลอง
คดิ ดสู ิ ถา้ เราน่งั อยา่ งเนยี้ แหละ หากวา่ เราจะเอาแกว้ มาครอบ
หมดทกุ คนน่ีหละ เราจะออกไปไดม้ ยั้ จะออกไปดกู รุงเทพไป
เท่ียวเมืองนคร เมืองจนั ทจ์ ะไดม้ ยั้ ถา้ บอกวา่ มีอะไรครอบอยู่ อนั
นนั้ เป็นนกั วทิ ยาศาสตร์ เคา้ คน้ ควา้ ในทางพทุ ธศาสนาทา่ นวา่
จิตไม่มีตวั มนั เป็นสภาพอนั หนง่ึ ซง่ึ มีความรูส้ กึ ไมใ่ ชม่ นั อย่ทู ่บี น
ศีรษะ และมนั ไมใ่ ชม่ นั อยทู่ ่ีสมอง พวกฝร่งั เคา้ ถือวา่ อยทู่ ่ีสมอง
เคา้ ถึงมาครอบ แตม่ นั มีความรูส้ กึ ในท่วั ไป ท่วั ทกุ แห่งทกุ หนไป
ตวั ความรูส้ กึ อนั นนั้ หละ ตวั จติ คอื ความรูส้ กึ ประสาทท่ีมนั
ใหเ้ กิดความรูส้ กึ อนั นนั้ อนั นนั้ เพียงแตว่ า่ สาํ นกั งานของมนั
ตา่ งหาก เชน่ ท่ีสมอง เคา้ เรยี กวา่ ประสาทไปรวมไวใ้ นท่ีน่นั
เรยี กวา่ สมอง ประสาทใหเ้ กดิ ความคดิ ความอา่ นอะไรตา่ งๆ ไม่
มีท่ีสิน้ ท่ีสดุ ไมจ่ บเหมือนกนั เรยี นไมจ่ บ แตท่ างพระพทุ ธศาสนา
ท่านบอกวา่ อวชิ ชาคอื ความไมร่ ู้ ไมร่ ูต้ ามเป็นจรงิ จงึ เป็นเหตใุ ห้
14
เกิด แก่ เจบ็ ตายอยใู่ หร้ ูแ้ ลว้ รูร้ อดไปซะทีดงั ท่ีไดอ้ ธิบายมานี้ อนั
นีอ้ วิชชาตวั นแี้ หละ มนั เป็นเหตใุ หเ้ กิดสงั ขารตอ่ ไป
สงั ขารท่นี ีน้ ะ่ หมายความถงึ วา่ อวิชชา เม่ือไม่มีความรูแ้ ลว้
เม่ือไมร่ ูแ้ จง้ เหน็ จรงิ ดงั ไดอ้ ธิบายใหฟ้ ังมาแลว้ มนั จะตอ้ งมาเกิด
คือจะตอ้ งปฏิสนธิ ตวั ปฏสิ นธิเรยี กวา่ สงั ขาร คือรูปสังขาร คอื
มาก่อในตนในตวั ก็เรยี กวา่ รูปสงั ขาร ท่านหมายเอาสงั ขารตวั นนั้
สังขาระปัจจะยา วญิ ญานัง เม่ือเกิดสงั ขารแลว้ ก็ตวั วญิ ญาณ
ตวั เกา่ น่นั แหละ พดู ซาํ้ อีก วญิ ญาณตวั นนั้ หละ มนั มีความรูส้ กึ
แลว้ คราวนี้ เม่ือตวั จติ เขา้ ตวั อวชิ ชาเท่านนั้ นะ่ อวิชชาคือตวั จิต
ตวั วญิ ญาณตวั นีห้ ละท่ีมนั ไมม่ ีปัญญาเฉลยี วฉลาดเฉียบแหลม
ก็เลยเรยี กวา่ เพียงแตว่ า่ วญิ ญาณ แลว้ คราวนีต้ วั อวชิ ชานนั้ ก็คอื
วิญญาณตวั นีแ้ หละ มนั ไม่รูเ้ ทา่ เขา้ ใจตามเป็นจรงิ ปัญญาไม่
เกิด มนั เรยี กเอาตวั วิญญาณเน่ียเป็นตวั อวชิ ชา
ถา้ หากวา่ เกิดความฉลาดเฉียบแหลมขนึ้ แลว้ ตวั วญิ ญาณ
และตวั อวิชชานี้ ตวั อวิชชานกี้ ลบั เป็นวชิ ชา เหตนุ นั้ วิญญาณ
ตวั เนีย้ หละยงั ไม่ทนั รูแ้ จง้ พอมีสงั ขารเขา้ มาครอง สงั ขารคือ
15
กอ้ นอนั นนั้ หละ ทา่ นเรยี กวา่ สังขาระปัจจะยา วญิ ญานัง
วิญญาณะปัจจะยา นามะรูปัง มนั ก็ถกู แลว้ น่ี ของเก่าน่ี มนั มี
ทงั้ รูปทงั้ นามในตวั มนั เม่ือวญิ ญาณขนั ธก์ ม็ ีรูปและนามน่นั
วญิ ญาณะปัจจะยา นามะรูปัง เป็นนามรูป เป็นนามเป็นรูปขนึ้
มาแลว้ เป็นนามเป็นรูปแลว้ ก็เป็นอายตนะแลว้ คราวนี้ เม่ือเป็น
ปัญจสาขา หา้ แห่งครบมลู บรบิ รู ณเ์ ป็นตนเป็นตวั หมดทกุ ส่ิงทกุ
อยา่ ง มนั ก็มีอายตนะเทา่ นนั้ เอง มีอะไรจะได้ ก็มีผสั สะ เคา้ มีตา
แลว้ ก็เหน็ มีหู แลว้ ก็มีเสียงกระทบของเขา ก็เกิดผสั สะแลว้ ก็เกิด
เวทนาคือความสขุ ความทกุ ข์ แลว้ ก็เกิดอปุ าทาน เกิดตณั หาเกิด
ตณั หาทะเยอทะยานดงั อธิบายมาเบือ้ งตน้ แลว้ ก็เกิดเวทนา
สะฬายะตนะปัจจะยา ผัสโส ผัสสะปัจจะยา เวทะนา เว
ทะนาปัจจะยา ตัณหา ก็ไดอ้ ธิบายมาแลว้ ตัณหาปัจจะยา อุ
ปาทานัง เกิดอปุ าทานคอื ความยดึ ม่นั ถือม่นั เม่ือเกิดอปุ าทาน
แลว้ เป็นภพ ถา้ จะพดู กนั แลว้ มนั เป็นภพ มนั จะปฏสิ นธิอยา่ งท่ี
อธิบายไดว้ า่ เป็นภพขนึ้ มาแลว้ แตน่ นั้ ทา่ นจดั เป็นภพภายใน
เป็นภพตอนนีท้ า่ นหมายถงึ ภพมนั ตอนท่ีเกิดเป็นตวั เป็นตนเวลา
16
จะออกคลอดหมายถงึ วา่ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปรเิ ทวะ ทกุ ข์
โทมนสั อปุ ยาส (เสยี งไม่ชดั ) มีแตท่ กุ ขไ์ ปลว้ นๆนะ่ คราวนี้ ทกุ ข์
หลายเรอ่ื งหลายอยา่ ง
น่ีวา่ ถงึ เร่อื งอวชิ ชา มีหลกั อยอู่ กี วา่ ทา่ นแสดงวา่ กัมมงั
เขตตัง วญิ ญานัง พชี ัง ตณั หา สเิ นหงั อธิบายเขา้ หลกั นนั้ อีก
อวชิ ชาเปรยี บเหมือนกบั นา กรรมเปรยี บเหมือนกบั วา่ พชื ผลไมท้ ่ี
เราจะไปปลกู ในนา ตณั หาเปรยี บเหมือนกบั ยาง คอื นา้ํ มนั เม็ดๆ
บนผลนนั้ เชน่ เราปลกู ถ่วั ดนิ ปลกู ถ่วั ลิสงนะ่ ในเมด็ ถ่วั ลสิ งนนั้
ท่านอปุ มาเปรยี บเหมือนกบั กรรม กรรมคือสิ่งท่ีเรากระทาํ ทาํ ดี
ทาํ ช่วั เรยี กวา่ กรรมทงั้ นนั้ เมด็ ถ่วั ลสิ งนีม้ าทาํ แหง้ เรยี กวา่ มนั ยงั
มียาง อนั นีเ้ มด็ ถ่วั ลสิ งท่ีมนั ยงั ไมแ่ หง้ ยงั เป็นยาง คราวนีจ้ ะเอา
ไปปลกู ในนา ปลกู อยา่ งนีเ้ กดิ ไดห้ มด ถา้ ฝนฟา้ ฝนตกมา มนั ชมุ่
เย็นแลว้ ก็งอกขนึ้ มาเลย จงึ วา่ กรรมเป็นเหมือนกบั พืชผล ตณั หา
เปรยี บเหมือนกบั ยาง อวชิ ชาเปรยี บเหมือนกบั ท่ีดนิ ท่ีเราจะลง
ปลกู
17
อวชิ ชาท่ีอธิบายมานีน้ ะ่ จงึ ไดช้ ่ือวา่ เป็นภมู ขิ องตน้ ภพชาติ
ทงั้ ปวงหมดท่จี ะใหเ้ กิดขนึ้ มา กรรมทงั้ ปวงหมดท่ีเราทาํ ดีทาํ ช่วั
นนั้ ก็ทงั้ หมดนะ่ อนั นีห้ ละท่ีเรยี กวา่ จะเกิดอวชิ ชา หมายความวา่
ทาํ ดใี หม้ นั ถงึ ท่ีสดุ ก็ยงั ตอ้ งอยากไดด้ อี ยู่ อยากไดส้ ขุ อยากได้
ทกุ ขอ์ ยู่ เม่ืออยากไดส้ ขุ ตอ้ งอยากไดท้ กุ ข์ มนั เป็นธรรมดา คือ
ธรรมทงั้ สองอย่างนีเ้ ป็นของคกู่ นั มีสขั ก็ตอ้ งมีทกั ข์ มีดีก็ตอ้ งมีช่วั
ถา้ ทาํ แลว้ สองอยา่ งนีอ้ ย่ตู ราบใดนนั้ ยงั ไมพ่ น้ ทกุ ข์ เหตนุ นั้ การ
ทาํ ดที าํ ช่วั ยงั เรยี กวา่ เป็นตวั พืชผล ยงั เป็นเม็ดอยู่ เม่ือมีเม็ดก็
ตอ้ งมียางในนนั้
เหตนุ นั้ ตวั วิชชาตวั นีแ้ หละจงึ พยายามท่ีจะทาํ ลายดว้ ยวธิ ี
ตา่ งๆดงั อธิบายมาในธาตสุ ่ี ดนิ นา้ํ ไฟ ลม หรอื ตลอดถงึ วา่ ขนั ธ์
๕ อายตนะ ก็เพ่ือทาํ ลายอวชิ ชาตวั นี้ เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจอวิชชาตวั นี้
พืชผลน่นั กรรมท่ีเราทาํ น่นั นะ่ มนั มีครบหมดในนนั้ พอมีพืชมี
ผลนะ่ เชน่ วา่ เมด็ ถ่วั ดิน เราเหน็ เม็ดถ่วั ดนิ เราจะเขา้ ใจวา่ ไม่มี
ดอกก็ไมไ่ ด้ ไมม่ ีเถามนั ก็ไมไ่ ด้ ไมม่ ีใบมียอดก็ไม่ได้ ในเมด็ ถ่วั ดนิ
นี้ อนั นนั้ ลาํ บากอยู่ ถา้ เทียบกบั เม็ดขนนุ แลว้ ก็แลว้ กนั เมด็ ขนนุ
18
เม็ดมะมว่ งน่นั เราจะเขา้ ใจวา่ ไมม่ ีตน้ มีลาํ ไมไ่ ด้ ไมม่ ีดอก มีผล
ไม่ได้ ถา้ เราเขา้ ใจวา่ เมด็ ขนนุ ตน้ นนั้ น่ะ เราไปเหน็ เขา้ แลว้ วา่ ไม่
มีตน้ มีดอก ไมม่ ีก่ิงมงี า ไม่มผี ล ยงั เรยี กวา่ เป็นอวชิ ชาอยู่ ถา้
หากวา่ เราเขา้ ใจวา่ เม็ดขนนุ เม็ดนีแ้ หละ มีทงั้ ตน้ มที งั้ ลาํ มีทงั้ ใบ
ทงั้ ดอก ทงั้ ผลครบหมดอยใู่ นท่ีนี้ ดว้ ยเหตทุ ่ีเรามาแยกแยะออก
โดยอาการตา่ งๆ อย่างท่ีอธิบายมาน่ี เป็นธาตุ ๔ ดนิ นา้ํ ไฟ ลม
โดยเป็นตน้ น่ะ อนั นีเ้ รยี กวา่ เรามาแยกแยะออกใหเ้ หน็ ตน้ ลาํ
และดอกผลในตน้ นนั้ ถา้ หากเราเหน็ วา่ ไมม่ ีแลว้ เอาเถอะ เผลอ
ไม่ไดห้ รอก ไปตกลงในพืน้ ดนิ หรอื ไปถกู ชมุ่ เขา้ เม่ือไหรแ่ ลว้
เด๋ยี วมนั ก็แตก เป็นรากออกมาใหป้ รากฏ พอรากปรากฏเท่านนั้
แหละ น่ีหละตน้ เหตทุ ่ีจะใหเ้ กิดสงั ขาร วิญญาณ อปุ าทานตา่ งๆ
เกิดมาจากนี้ แยกออกมาเป็นรากเสยี ก่อน ตอ่ นนั้ ก็กลายมาเป็น
ใบ แลว้ ก็เป็นลาํ เป็นตน้ เป็นลาํ ตอ่ มาก็เป็นก่ิงเป็นงาขนึ้ มา
ตลอดมาถึงเป็นลกู เป็นผล ดกมากกวา่ เกา่ เมด็ เดียวนะไดห้ ลาย
ผลกวา่ เก่า มากกวา่ เกา่ มีเรอ่ื งทาํ ลายวิชชาก็คอื วา่ มาแยกแยะ
เพราะฉะนนั้ แหละตวั วิชชาตวั นี้ ถา้ หากมารูเ้ ท่าเขา้ ใจแลว้ มนั
19
เป็นเร่อื งกระเทาะ หรอื เป็นเร่อื งทาํ ลายเมด็ ขนนุ เมด็ นนั้ ไม่ใหม้ นั
เกิดตอ่ ไปอีก ทีนีอ้ ธิบายซา้ํ ๆซากๆ วกเวยี นไปมาหลายเร่อื ง
หลายอยา่ งเพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจเรอ่ื งเหลา่ นเี้ อง ไมใ่ ช่เร่อื งอ่นื เรอ่ื งไกล
ทีนีต้ วั อวชิ ชาถา้ หากมาเขา้ ใจอย่างนีแ้ ลว้ ปัญญาเกิดขนึ้
แลว้ มนั เป็นสจั ธรรม ความเกิดตงั้ แตอ่ วชิ ชาเป็นปัจจยั ใหเ้ กิด
สงั ขาร เกิดวญิ ญาณ เกิดนามรูป มนั เป็นเรอ่ื งตวั สมทุ ยั มนั เป็น
บอ่ เหตใุ หเ้ กิด น่ีเป็นเหตใุ หเ้ กิดทกุ ข์ โนน่ นะ่ ตวั สมทุ ยั เกิดแลว้ ก็
ตอ่ ไปตงั้ แต่ ภพ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปรเิ ทวะ ทกุ ข์ ตวั ทกุ ขม์ า
อยตู่ รงนี้ จากนีไ้ ปภพชาตนิ ่ยี งั เป็นตวั สมทุ ยั พอไปถงึ ภพ ชาติ
ชรา มรณะ โสกะ ปรเิ ทวะ ทกุ ขะ โทมนสั เป็นตวั ทกุ ขโ์ ดยแท้ ถา้
หากไมเ่ หน็ ชดั คอื แยกแยะออก ดงั อธิบายมาเบือ้ งตน้ แลว้
เรยี กวา่ เกิดวิชชาขนึ้ มา มนั กไ็ ม่ตอ่ คอื วา่ สงั ขารวิญญาณ นาม
รูป สฬายตนะไมม่ ี หมดไป มนั เป็นนิโรธ มนั เป็นเรอ่ื งดบั ฉะนนั้
การดบั เม่ือดบั นนั้ มนั ก็ไมม่ อี ะไร มีความดบั ก็มีความรู้ คอื คกู่ นั
ถา้ รูแ้ ลว้ มนั ก็ดบั ถา้ ไม่รูแ้ ลว้ มนั ก็เป็นตวั สมทุ ยั มนั เป็นคกู่ นั
อย่างนี้ ไม่ตอ้ งพดู อะไรกนั มากมาย เคา้ เรยี กอรยิ สจั ธรรมทงั้ ๔
20
คือ ทกุ ข์ สมทุ ยั นโิ รธ มรรค คราวนีถ้ า้ หากไปรูแ้ ลว้ ไปรูค้ ือ
ปัญญา สมาธิในมรรค แลว้ ก็ดบั เรยี กวา่ มรรคกบั นิโรธเป็นคู่
ทกุ ขเ์ ม่ือไม่รูก้ ็เป็นอวิชชา อวชิ ชาก็เลยเป็นสมทุ ยั
เพราะฉะนนั้ ถงึ วา่ การอธิบายธรรมะนนั้ เป็นของละเอียด
ลกึ ซงึ้ กวา้ งขวางมาก ถา้ หากเราไมต่ งั้ ใจคดิ ตรกึ ตรองจรงิ ๆ หรอื
วา่ จบั เนือ้ ความอนั นีไ้ ม่ได้ อาจจะเป็นเรอ่ื งยงุ่ ถึงยงั ไงๆก็ขอให้
ตงั้ จิตใหม้ นั อยใู่ นเรอ่ื งของความสงบ อบรมไมใ่ หจ้ ิตงอ่ นแงน่
วอกแวกไปมา สง่ หนา้ สง่ หลงั เราตงั้ ใจไวอ้ ยา่ งนีแ้ ลว้ ท่ีอธิบาย
ไปทงั้ หมดก็ไมผ่ ิดจากหลกั นี้ โดยเฉพาะสรุปรวมใจความแลว้ ก็
คือวา่ ถา้ หากเหน็ อนั ใดเป็นเครอ่ื งละ ไมส่ ะสมอนั นนั้ เป็นหนทาง
ท่ีถกู ตอ้ ง บางคนนนั้ เรยี นรูม้ าก แตป่ ฏบิ ตั ิไมไ่ ด้ หรอื วา่ ไมร่ ูแ้ ตว่ า่
ปฏิบตั ิได้ มนั ก็มีเหมือนกนั
ทา่ นอปุ มาเปรยี บไวห้ ลายอยา่ ง อยา่ ไปพากนั เสยี ใจ หรอื ไม่
รู้ จาํ ไมไ่ ดก้ ็อยา่ ไปเสียใจ ทา่ นอปุ มาไวอ้ ยา่ งนี้ ทา่ นเปรยี บ
เหมือนหนหู รอก ไม่ไดเ้ ปรยี บเหมือนคนหรอก เอาหนมู าเปรยี บ
หนบู างจาํ พวกนนั้ ขดุ รูแตไ่ มอ่ ยู่ บางพวกน่นั อย่แู ตไ่ มข่ ดุ บาง
21
พวกนนั้ ไม่ขดุ ดว้ ย ไม่อยดู่ ว้ ย บางพวกนนั้ ทงั้ ขดุ ทงั้ อยู่ ทา่ น
อปุ มาเปรยี บอยา่ งนี้ หนทู ่ีขดุ รูแลว้ ไม่อย่นู นั้ อปุ มาเหมือนกบั
เรยี นแลว้ ไม่ปฏบิ ตั ิ รูแ้ ลว้ ไมท่ าํ อนั นีเ้ รยี กวา่ ขดุ แลว้ ไมอ่ ยู่
พวกนงึ นนั้ ไมข่ ดุ แตอ่ ยู่ ไปอยหู่ ารูของเขา ท่านอปุ มาเปรยี บ
เหมือนผไู้ ม่ไดเ้ รยี นศกึ ษา จดจาํ ตาํ รบั ตาํ ราไมไ่ ด้ แตป่ ฏิบตั ิถกู
อนั นีท้ า่ นเปรยี บเหมือนหนทู ่ไี มไ่ ดข้ ดุ รูแตอ่ ยู่ หาอยทู่ ่ีรูมนั มีอยู่
แลว้ บางพวกน่ีไมข่ ดุ ไมอ่ ย่เู ลย เหมือนกบั คนขีเ้ กียจ ไม่ศกึ ษา
เลา่ เรยี น ไม่สนใจ ไม่ฟังคาํ สอนพระพทุ ธเจา้ แลว้ ปฏิบตั กิ ็ไม่เอา
หลบั หหู ลบั ตาทกุ เม่ืออย่างนนั้ อนั นที้ งั้ ไมข่ ดุ ทงั้ ไมอ่ ยู่ หนอู กี
จาํ พวกหนง่ึ ทงั้ ขดุ ดว้ ยทงั้ อยดู่ ว้ ย คอื เรยี นดว้ ยปฏิบตั ดิ ว้ ย เขา้ ใจ
ดว้ ย
เหตนุ นั้ เราจะเป็นหนจู าํ พวกใด เราไมข่ ดุ ไมอ่ ยู่ หรอื วา่ จะขดุ
แลว้ อยู่ หรอื วา่ ไม่ขดุ แตจ่ ะอยู่ หรอื วา่ ขดุ แลว้ ไมต่ อ้ งอยู่ เราจะ
เป็นหนจู าํ พวกใด จะเอาอยา่ งหนจู าํ พวกใดก็เอาสิ เร่อื งท่ีเรา
เป็นอยนู่ ่ี ทกุ คนมนั ตอ้ งเป็นหนจู าํ พวกหนง่ึ หละไมจ่ าํ พวกใดก็
22
จาํ พวกหนง่ึ หละ แตว่ า่ จาํ พวกไหนมนั จะดีกวา่ กนั ใหพ้ าก็เลือก
เอา
ธรรมะท่ีแสดงมาทงั้ หมดนนั้ นะ่ ถา้ หากเราฟังแลว้ เขา้ ใจแลว้
ปฏบิ ตั ิจาํ ได้ แลว้ ปฏิบตั ติ าม นนั้ นะ่ ดีท่ีสดุ เป็นพวกหนพู วกท่ีส่ี
ดมี าก ถา้ หากวา่ เราขดุ ไม่เป็น แตเ่ ราหาท่ีอย่คู อื หดั อบรมจติ ใจ
ของเรา เท่าท่ีเราสามารถทาํ ได้ ทา่ นอบรมส่งั สอนเราก็รกั ษา
จิตใจของเราใหอ้ ยดู่ ว้ ยความสงบ อบรมสมาธิภาวนาใหไ้ ด้
ตลอดเวลา ใหม้ นั คลอ่ งแคลว่ ชาํ นิชาํ นาญ อยา่ ใหม้ นั เส่ือม ได้
มากไดน้ อ้ ยอย่าใหม้ นั เส่อื ม อนั นีถ้ ึงแมว้ า่ เราจะไม่ขดุ แตเ่ ราหา
ท่ีอย่ใู ด ก็ยงั ดี ดกี วา่ ท่ีไมข่ ดุ ไมอ่ ย่เู สยี เลย บางพวกน่ะขดุ แลว้ ไม่
อยู่ อนั นนั้ ก็ไมค่ อ่ ยดี เรยี นรูม้ าก โงเ่ ลย แตต่ นเองกท็ าํ ไม่ถกู ทาํ
ไม่ไดซ้ กั ที อนั นนั้ ไม่ดี ไมด่ เี หมือนกนั
เพราะฉะนนั้ แหละ ธรรมะท่ีแสดงมาดงั นี้ เป็นการแสดง
สลบั ซบั ซอ้ นวกไปเวียนมาหลายอยา่ งหลายเรอ่ื ง หากเราพากนั
ไดเ้ ขา้ อกเขา้ ใจแลว้ จะไดค้ วามรูก้ วา้ งขวางขนึ้ พิจารณาตาม
หลกั นี้ ถา้ หากยงั ไมท่ นั รู้ ไมท่ นั เขา้ ใจถงึ อย่างนนั้ ก็ทาํ อย่างหนู
23
พวกท่ีสอง คอื วา่ เราไมไ่ ดข้ ดุ รูอยู่ แตว่ า่ เราไปอย่รู ูของเพ่นิ ก็ยงั
นบั วา่ เป็นประโยชนอ์ นั ดยี ่ิงอยู่ ฉะนนั้ ทกุ ๆคนย่อมพากนั สนใจ
โดยมาอธิบายมาน่ี พากนั ตงั้ อกตงั้ ใจปฏบิ ตั ิ โดยอาศยั อปมาท
ธรรม คือความไม่ประมาทก็สามารถจะเหน็ ผลปรากฏในตวั ของ
ตน ดงั อธิบายมา
ท่ีมา: https://youtu.be/fqx4lhSxoV4
24
บทสวด ปฏิจจสมปุ บาท
(นาํ ) หนั ทะ มะยงั ปะฏจิ จะสะมปุ ปาทะธมั มะปาฐัง ภะณามะ
เส ฯ
(รบั ) อิธะ ภกิ ขะเว อะรยิ ะสาวะโก
ปะฏิจจะสะมปุ ปาทญั เญวะ สาธกุ งั โยนิโส มะนะสิกะโรติ
- ภิกษุทงั้ หลาย อรยิ สาวกในธรรมวนิ ยั นี้ ยอ่ มกระทาํ ไวใ้ นใจ
โดยแยบคายเป็นอย่างดี ซง่ึ ปฏจิ จสมปุ บาทน่นั เทียว ดงั นีว้ า่
อิมสั ม๎ งิ สะติ อทิ งั โหติ
- เม่ือส่งิ นีม้ ี สงิ่ นีย้ ่อมมี
อิมสั สปุ ปาทา อิทงั อปุ ปัชชะติ
- เพราะความเกิดขนึ้ แหง่ สง่ิ นี้ สง่ิ นีจ้ งึ เกิดขนึ้
25
อมิ สั ม๎ ิง อะสะติ อทิ งั นะ โหติ
- เม่ือส่งิ นีไ้ มม่ ี ส่งิ นีย้ อ่ มไมม่ ี
อมิ สั สะ นิโรธา อทิ งั นิรุชฌะติ
- เพราะความดบั ไปแห่งสง่ิ นี้ ส่งิ นีจ้ งึ ดบั ไป
ยะททิ งั
- ไดแ้ กส่ ิ่งเหลา่ นี้ คอื
อะวชิ ชาปัจจะยา สงั ขารา
- เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจยั จงึ มีสงั ขารทงั้ หลาย
สงั ขาระปัจจะยา วิญญาณงั
- เพราะมีสงั ขารเป็นปัจจยั จงึ มีวญิ ญาณ
26
วญิ ญาณะปัจจะยา นามะรูปัง
- เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจยั จงึ มีนามรูป
นามะรูปะปัจจะยา สะฬายะตะนงั
- เพราะมีนามรูปเป็นปัจจยั จงึ มีสฬายตนะ
สะฬายะตะนะปัจจะยา ผสั โส
- เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจยั จงึ มีผสั สะ
ผสั สะปัจจะยา เวทะนา
- เพราะมีผสั สะเป็นปัจจยั จงึ มีเวทนา
เวทะนาปัจจะยา ตณั หา
- เพราะมีเวทนาเป็นปัจจยั จงึ มีตณั หา
27
ตณั หาปัจจะยา อปุ าทานงั
- เพราะมีตณั หาเป็นปัจจยั จงึ มีอปุ าทาน
อปุ าทานะปัจจะยา ภะโว
- เพราะมีอปุ าทานเป็นปัจจยั จงึ มีภพ
ภะวะปัจจะยา ชาติ
- เพราะมีภพเป็นปัจจยั จงึ มชี าติ
ชาติปัจจะยา ชะรามะระณงั
โสกะปะรเิ ทวะทกุ ขะโทมะนสั สปุ ายาสา สมั ภะวนั ติ
- เพราะมีชาตเิ ป็นปัจจยั ชรา มรณะ โสกะปรเิ ทวะทกุ ขโทมนสั
อปุ ายาสะทงั้ หลาย จงึ เกิดขนึ้ ครบถว้ น
เอวะเมตสั สะ เกวะลสั สะ ทกุ ขกั ขนั ธสั สะสะมทุ ะโย โหติ
28
- ความเกิดขนึ้ พรอ้ มแห่งกองทกุ ขท์ งั้ สนิ้ นี้ ยอ่ มมีดว้ ยอาการ
อยา่ งนี้
อะวิชชายะเตว๎ วะ อะเสสะวริ าคะนิโรธา สงั ขาระนโิ รโธ
- เพราะความจางคลายดบั ไปโดยไม่เหลอื
แห่งอวชิ ชานนั้ น่นั เทียว จงึ มีความดบั แหง่ สงั ขาร
สงั ขาระนิโรธา วิญญาณะนิโรโธ
- เพราะมีความดบั แหง่ สงั ขาร จงึ มีความดบั แห่งวญิ ญาณ
วิญญาณะนโิ รธา นามะรูปะนิโรโธ
- เพราะมีความดบั แหง่ วญิ ญาณ จงึ มีความดบั แหง่ นามรูป
นามะรูปะนิโรธา สะฬายะตะนะนิโรโธ
- เพราะมีความดบั แห่งนามรูป จงึ มีความดบั แห่งสฬายตนะ
29
สะฬายะตะนะนิโรธา ผสั สะนิโรโธ
- เพราะมีความดบั แหง่ สฬายตนะ จงึ มีความดบั แหง่ ผสั สะ
ผสั สะนิโรธา เวทะนานิโรโธ
- เพราะมีความดบั แห่งผสั สะ จงึ มีความดบั แห่งเวทนา
เวทะนานิโรธา ตณั หานิโรโธ
- เพราะมีความดบั แห่งเวทนา จงึ มีความดบั แหง่ ตณั หา
ตณั หานโิ รธา อปุ าทานะนิโรโธ
- เพราะมีความดบั แหง่ ตณั หา จงึ มีความดบั แหง่ อปุ าทาน
อปุ าทานะนิโรธา ภะวะนิโรโธ
- เพราะมีความดบั แห่งอปุ าทาน จงึ มีความดบั แห่งภพ
30
ภะวะนโิ รธา ชาตินิโรโธ
- เพราะมีความดบั แห่งภพ จงึ มีความดบั แห่งชาติ
ชาตนิ ิโรธา ชะรามะระณงั
โสกะปะรเิ ทวะทกุ ขะโทมะนสั สปุ ายาสา นริ ุชฌนั ติ
- เพราะมีความดบั แห่งชาติน่นั แล ชรา มรณะ
โสกะปรเิ ทวะทกุ ขะโทมนสั อปุ ายาสะทงั้ หลาย จงึ ดบั สนิ้
เอวะเม ตสั สะ เกวะลสั สะ ทกุ ขกั ขนั ธสั สะ นิโรโธ โหตตี ิ
- ความดบั ลงแห่งกองทกุ ขท์ งั้ สนิ้ นี้ ย่อมมีดว้ ยอาการอย่างนี้
ดงั นี้
31