The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตายแล้วเกิด โดย หลวงพ่อพุธ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-10 22:32:13

ตายแล้วเกิด โดย หลวงพ่อพุธ

ตายแล้วเกิด โดย หลวงพ่อพุธ

Keywords: ตายแล้วเกิด,หลวงพ่อพุธ

ตายแล้วเกดิ
หลวงพอ่ พธุ ฐานิโย
ณ โอกาสนีจ้ ะไดบ้ รรยายธรรมะอนั เป็นคาํ สอนของพระ
สมเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ เพ่ือเป็นแนวทางปฏิบตั ิ เรามาฟัง
ธรรมเพ่ือใหม้ ีความรู้ เพ่ือจะไดน้ าํ ไปฏบิ ตั ิ ดงั นนั้ ถา้ เราฟังธรรม
ไปดว้ ย น่งั ปฏบิ ตั ไิ ปดว้ ยจะดีมยั้ ถา้ ดกี ็เชญิ ทา่ นกาํ หนดจิต ทาํ
สมาธิในทา่ ท่ที ่านเหน็ วา่ สบาย น่งั ขดั สมาธิขาขวาทบั ขาซา้ ย มือ
ขวาวางทบั มือซา้ ย ตงั้ กายใหต้ รง ดาํ รงสติใหม้ ่นั กาํ หนดจติ ใหม้ ี
อารมณส์ ิ่งรู้ สติมีส่งิ ระลกึ
ทา่ นผใู้ ดจะกาํ หนดอารมณอ์ ะไรได้ ไม่ขดั ขอ้ งตามท่ีตวั
ชาํ นาญและคลอ่ งตวั เคยภาวนาพทุ โธก็พทุ โธไป กาํ หนดลม
หายใจออกเขา้ ก็กาํ หนดไป สมั มาอรหงั ยบุ หนอพองหนอก็
กาํ หนดไป หรอื อารมณอ์ ่ืนๆท่ีทา่ นถนดั ใจก็วา่ กนั ไปไมข่ ดั ขอ้ ง
เพราะธรรมชาติของจิตถา้ มอี ารมณส์ ่งิ รูแ้ ลว้ เรามีสตคิ วบคมุ รูอ้ ยู่
ใหจ้ ิตมีสงิ่ รู้ ไดช้ ่ือวา่ เป็นการปฏิบตั สิ มาธิ และไม่จาํ เป็นจะตอ้ ง
ไปบงั คบั จิตใหห้ ยดุ น่ิง เพียงแตห่ าอารมณม์ าปอ้ นใหจ้ ติ ของเรา

1

นกึ บรกิ รรมภาวนา หรอื พจิ ารณาอย่เู ทา่ นนั้ แตห่ ากทา่ นผใู้ ด จิต
ของตนสามารถหาอารมณม์ าปอ้ นใหต้ วั เองได้ คือมีความคิด
ปรุงแตง่ ขนึ้ มาเอง ใหก้ าํ หนดทาํ สตริ ูอ้ ยทู่ ่ีความคดิ ทกุ ขณะจิต
ทกุ ลมหายใจ ไม่ตอ้ งไปฝืนกฏธรรมชาติ

ธรรมชาติของจติ ย่อมมีความคดิ เพราะความคดิ เป็นอาหาร
ของจิต ธรรมชาตขิ องจติ ยอ่ มบรหิ ารตนเอง ความคดิ เป็นการ
บรหิ ารจติ ผปู้ ฏิบตั ธิ รรมจะเอาดกี บั ความคิดกบั การบรหิ ารจิต
กบั การท่ีจิตบรโิ ภคอาหารตอ้ งปฏบิ ตั ติ นใหม้ ีสติสมั ปะชญั ญะท่ีรู้
พรอ้ มอย่ทู กุ ขณะจิตท่ีมีความคิดหรอื จติ วา่ ง น่ีเคลด็ ลบั สาํ คญั
ของการปฏิบตั ิธรรมอยกู่ นั ท่ีตรงนี้

และทา่ นทงั้ หลายไม่จาํ เป็นจะตอ้ งไปกงั วลในการท่ีจะละ
กิเลสท่ีมีอย่ใู นจิตของตนเอง โลภ โกรธ หลง ไมม่ ีใครในโลกนี้
สามารถท่ีจะขจดั หรอื ละไดโ้ ดยเจตนาอย่างไมม่ ีเหตผุ ล หรอื
อยา่ งไมม่ พี ลงั ผลกั ดนั สมเด็จพระผมู้ ีพระภาคเจา้ ละกิเลสโลภ
โกรธ หลงนนั้ เป็นเพยี งโวหารการพดู เทา่ นนั้ แตแ่ ทท้ ่ีจรงิ ศีล
สมาธิ ปัญญา น่นั ตวั สาํ คญั ท่ีเราฝึกฝนอบรมใหม้ ีพลงั พรอ้ ม

2

ศลี ก็ใหเ้ ป็นอธศิ ลี สมาธิก็ใหเ้ ป็นอธจิ ติ ปัญญาก็เป็นอธิ
ปัญญา

ศลี เป็นอธิศีลนนั้ เป็นอยา่ งไร ในขนั้ ตน้ เราตงั้ เจตนางดเวน้
จากโทษนนั้ ๆตามท่นี กั ปราชญม์ ีพระพทุ ธเจา้ บญั ญตั ิไวว้ า่ ทาํ ลง
ไปแลว้ มนั เป็นบาป เชน่ การฆา่ การลกั การขโมย จีป้ ลน้
ประพฤตกิ าเมสมุ จิ ฉาจาร มสุ าวาท สรุ าเป็นตน้ เราตงั้ เจตนางด
เวน้ งดเวน้ ปฏบิ ตั ิจนกระท่งั คลอ่ งตวั จนชาํ นิชาํ นาญ จนรูส้ กึ วา่
กาย วาจา และใจ จติ ของเรามีความเป็นปกติ กายก็เป็นปกติคอื
ไม่ฆา่ ไมเ่ บยี ดเบยี น ไมข่ ่มเหง ไม่รงั แก วาจากเ็ ป็นวจีสจุ รติ
สว่ นจิตกม็ ีแนวโนม้ ท่ีดาํ รงอย่ใู นความเป็นปกติซง่ึ เป็นพลงั แห่ง
ศลี ซง่ึ จะเป็นไปเองโดยอตั โนมตั ิ เราจะตงั้ ใจมีศีล ศลี ก็มี ไม่
ตงั้ ใจมีศีล ศลี ก็มี แตเ่ จตนาก็มีศลี ไม่เจตนาก็มีศีล เพราะใจเป็น
ตวั ปกติแลว้ กาย วาจาก็กลายเป็นตวั ปกติ เป็นเองทกุ อยา่ ง

เม่ือศลี มีความเป็นปกติ จิตสมาธิเพราะอาศยั ความเป็น
ปกติ กาย วาจา ก็เป็นศีล เป็นตวั ปกติ กส็ นบั สนนุ ใหจ้ ติ เป็น
ปกตขิ นึ้ มาดว้ ย ในเม่ือจติ เป็นปกติ ตวั ปกตนิ ่นั แหละคือศลี สเี ล

3

นะ สุคตงิ ยนั ติ ถา้ จติ เป็นปกติ สขุ มยั้ ดใู หด้ สี ิ สีเล นะ นิพพุ
ตงิ ยันติ ถา้ จติ เป็นปกตแิ ลว้ มีสขุ มยั้ ดบั ทกุ ขไ์ ดห้ รอื ไม่ เพราะ
กายวาจาและใจของเราเป็นปกติ เรามีศีล ความหวาดระแวงภยั
ตา่ งๆก็ดบั ไป ความกลวั ตายก็ดบั ไป กลวั คนอ่ืนจะมา
ประทษุ รา้ ยทาํ รา้ ยตวั เองก็ดบั ไป เรยี กวา่ มนั ดบั สง่ิ ท่ีหวาดกลวั

ในตอนตน้ ๆมนั ดบั สงิ่ ท่ีหวาดกลวั กอ่ น แตเ่ ม่ือจติ หรอื สมาธิ
กลายเป็นอธิจติ จติ มีความม่นั คง ม่นั คงตอ่ การท่ีจะประพฤติ
ปฏบิ ตั ิดาํ เนินไปสคู่ วามเกิดสตปิ ัญญารูแ้ จง้ เห็นจรงิ ซง่ึ จะ
เป็นไปเองโดยอตั โนมตั ิ สมาธิท่ีเป็นไปเองโดยอตั โนมตั ิ สงั เกต
ไดห้ รอื ยงั วา่ สมาธิอตั โนมตั ิ มนั เป็นอยา่ งไร ในเม่ือจติ เป็นสงิ่ ท่ี
เป็นปกติ สตสิ มั ปะชญั ญะก็รูพ้ รอ้ มอยทู่ ่ีจติ สมาธิเป็นกิรยิ าของ
จติ เม่ือจติ เป็นปกตแิ ลว้ จติ สงบ ความสงบเพ่ิมพลงั งานขนึ้ เป็น
ความม่นั คง ความม่นั คงท่ีไมร่ ูจ้ กั เส่อื มถอยสามารถท่ีจะทาํ จติ
ของเราใหม้ ีความเป็นสมาธิอย่ตู ลอดเวลา

เราจะน่งั สมาธิมนั ก็เกิด ไมน่ ่งั …สมาธิมนั ก็เกิด บางทีเดนิ
ผิวปากไปเฉยๆ สมาธิมนั ก็เกิด บางทีหไู ดย้ ินเสียงอะไร ไดย้ นิ

4

เสยี งชาวบา้ นเคา้ ดา่ กนั อยขู่ า้ งถนนโนน่ หมู นั ไดย้ นิ จติ มนั รบั
เอามาพจิ ารณาถงึ ความดแี ละความช่วั แลว้ มนั จะปลงตกลงไป
วา่ สตั วท์ งั้ หลายยงั ขดั ขอ้ งหมองใจกนั ยงั ทะเลาวิวาทกนั เพราะ
กฏของกรรม แลว้ จิตมนั จะรูแ้ จง้ เหน็ จรงิ ลงไป มนั จะเกิดความ
สงบเป็นสมาธิ ทงั้ ท่ีเราไม่ไดต้ งั้ ใจ ธรรมชาติของจติ ท่ีเราฝึก
สมาธิจนคลอ่ งตวั จนชาํ นิชาํ นาญแลว้ จงสงั เกตใหด้ ี เคา้ จะเป็น
สมาธิไดต้ ลอดเวลา ยืน เดนิ น่งั นอน กิน ด่มื ทาํ พดู และคดิ มี
สมาธิอย่ตู ลอดเวลา เพราะตวั สติสมั ปะชญั ญะตวั นีป้ รากฏ
เดน่ ชดั อย่ทู กุ ขณะจิต จติ มีการเตรยี มพรอ้ มอยตู่ ลอด

ดงั นนั้ สมาธิจงึ สามารถบงั เกิดขนึ้ ไดท้ กุ ขณะจติ ทกุ ลม
หายใจ เม่ือจติ มีความม่นั คงคอื สมาธิ และมีสตริ ูพ้ รอ้ มอย่ทู ่ีจติ
ทกุ ขณะจติ อะไรเกิดขนึ้ ก็รู้ อะไรดบั ไปก็รู้ อะไรเกิดขนึ้ มาเป็นสงิ่
ท่ีเป็นบญุ เป็นกศุ ลก็รู้ สงิ่ ใดท่ีจะเป็นเหตแุ ห่งความสขุ สง่ิ ใดจะ
เป็นเหตแุ หง่ ความทกุ ข์ จิตก็รูเ้ พราะมีสติ สติตวั ท่ีมีพลงั งานแก่
กลา้ เชน่ นนั้ เองจะสามารถกาํ หนดรูท้ กุ สง่ิ ทกุ อยา่ งภายในจิตของ
เราเน่ีย ใหร้ ูแ้ จง้ ชดั เจนลงไปวา่ ส่ิงนีเ้ ป็นบาปอกศุ ล สิ่งนีเ้ ป็นบญุ

5

เป็นกศุ ล สง่ิ นคี้ วรประพฤติ สง่ิ นีค้ วรปฏิบตั ิ สิ่งนีค้ วรปลอ่ ย ส่ิงนี้
ควรวาง สิง่ นีค้ วรละเวน้ ซง่ึ เคา้ จะมีปัญญาพิจารณารอบรูข้ อง
เคา้ ไปเอง น่นั ก็คือตวั ปัญญาท่ีเกิดจากสมาธิ

ถา้ เรามีสตสิ มั ปะชญั ญะกาํ หนดจดจอ้ งรูอ้ ยทู่ ่ีจติ ของเรา
แลว้ ก็มีสติควบคมุ อยู่ เรากจ็ ะคอ่ ยรูจ้ กั ความจรงิ รูค้ วามจรงิ ของ
กายและใจของเรา รูค้ วามจรงิ ของสถานการณแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
เวลานีถ้ า้ น่งั อยู่ กายของทา่ นก็ปรากฏในความรูส้ กึ จิตของท่าน
ก็รูอ้ ยทู่ ่ีกาย มองเหน็ กายรยึ งั ในเม่ือเรามองเหน็ วา่ กายของเรา
ยงั มีปรากฏอย่ใู นความรูส้ กึ เราเหน็ อะไรบา้ ง

ความเหนด็ เหน่ือยในการน่งั ความสบายในการน่งั ความ
ทกุ ขท์ ่ีเกิดเพราะการน่งั ทรมานนาน อนั นนั้ เรยี กวา่ เวทนา เวทนา
เกิดท่ีไหน เกิดท่ีกาย เวทนาทกุ ขก์ ็เกิดท่ีกาย เวทนาสขุ ก็เกิดท่ี
กาย เวทนาท่ีเป็นกลางๆ อพยฺ ากตา เวทนาก็เกิดท่ีกาย รวม
ความแลว้ วา่ ความทกุ ขท์ งั้ หลายเกิดท่กี าย ความสขุ ทงั้ มวลเกิด
ท่ีกาย ความอยากไดอ้ ยากดี อยากมีอยากเป็น ความทะเยอะ

6

ทยานดิน้ รน มนั เกิดขนึ้ ไดเ้ พราะเรามีกาย ความแกค่ วามเจ็บ
และการตายเกิดมีขนึ้ ไดเ้ พราะเรามกี าย

ถา้ หากวา่ กายของเราไม่มี เราไมม่ ีสิ่งตาย ท่ีตายๆท่ีเราพา
กนั กลวั กนั นกั หนาน่นั นะ่ มนั เป็นความสนิ้ สดุ แหง่ อายขุ ยั ซง่ึ แต่
ละบคุ คลไดม้ าจากผลของบญุ กรรม ใครจะมีอายสุ นั้ อายยุ ืน
แลว้ แตก่ รรมของตนเองท่ที าํ มาไว้ เพราะจติ ดวงนีอ้ าศยั อย่ใู น
กายนี้ จนมนั ตดิ ติดแน่นถอนตวั ไม่ออก ในเม่ือมนั ติดแนน่
เช่นนนั้ ในเม่ือรูว้ า่ กายมนั จะแตกสลาย มนั ก็เกิดกลวั ตาย แตแ่ ท้
ท่ีจรงิ ผทู้ ่ีกลวั น่ีมนั ไมไ่ ดต้ ายหรอก ผทู้ ่ีไมร่ ูส้ กึ กลวั ตา่ งหากท่ีมนั
ตาย

กายของเราเปรยี บเหมือนบา้ นท่ีอยอู่ าศยั บา้ นเคา้ ไมร่ ูส้ กึ สขุ
ไมร่ ูส้ กึ ทกุ ข์ ไม่รูส้ กึ เดือดรอ้ นอะไรทงั้ สนิ้ ใครสรา้ งขนึ้ แลว้ จะเอา
สีแดงๆดาํ ๆไปแตม้ ไปเขียนวาดรูปอะไรตา่ งๆ รูปพระพทุ ธรป รูป
เทวดา รูปโป๊ อะไรตา่ งๆ เขียนใสใ่ หฝ้ าผนงั บา้ นมนั ก็ไมต่ อ่ วา่ ใคร
เพราะมนั ไม่รูเ้ ร่อื งอะไร แตเ่ ราผทู้ ่ีเป็นเจา้ ของบา้ นน่ีไปยดึ วา่
บา้ นนีเ้ ป็นของเรา ถา้ เกิดมีอะไรผพุ งั สลายตวั ไป เราก็เกิดเสียใจ

7

เสียดาย เพราะเรายดึ วา่ เป็นเจา้ ของ ขอ้ อปุ มาอปุ ไมยอนั นีก้ ็
เหมือนกนั ใจท่ีจิตของเรามายดึ กายนีว้ า่ เป็นบา้ นของตวั เอง ยดึ
จนกระท่งั วา่ เป็นตวั ของตวั เอง ในเม่ือยดึ เขา้ ถึงสว่ นลกึ ของจติ
ของใจ มนั ถอนไม่ขนึ้ เพราะบา้ นหลงั นีค้ อื กาย มนั ทาํ ทา่ จะ
สลายตวั ไป ไอเ้ จา้ จิตก็กลวั เกิดความดนิ้ รน ว่งิ หาทางปอ้ งกนั ท่ี
จะไม่ใหต้ าย แตแ่ ลว้ กฏของธรรมชาตมิ นั ก็ตา้ นทานไมอ่ ยู่ ลงผล
สดุ ทา้ ยเม่ือตายจรงิ ๆ ไอต้ วั ผทู้ ่ีมนั กลวั น่ีมนั ไม่ตายเลย

อาตมาเคยตายเลน่ ๆอยหู่ ลายทีแลว้ ในขณะท่ีตายลงไปนนั้
ไมเ่ หน็ มีอะไรท่ีจะน่ากลวั แตม่ นั กลวั ก่อนท่ีจะตาย เชน่ อย่างเรา
น่งั สมาธิภาวนา พอจติ สงบลงไป ลมหายใจละเอยี ดๆลงไป
หายใจแผว่ ๆๆ รา่ งกายทาํ ทา่ จะหายไป ลมหายใจทาํ ทา่ จะ
หายไป น่นั เรากาํ ลงั จะถงึ จดุ แหง่ ความตายแลว้ ถา้ หากวา่ เรา
ไม่ตกใจเสียกอ่ น พอลมหายใจหายขาดไป รา่ งกายหายไปใน
ความรูส้ กึ จิตไดป้ รากฏตวั เดน่ ลอยเดน่ เฉพาะตวั ไมม่ ีรูปมีรา่ ง
มีความสวา่ งไสวลอยเดน่ อยใู่ นทา่ มกลางความเวงิ้ วา้ ง เราก็จะรู้
ทนั ทีวา่ น่ีคอื เราตายแลว้ สว่ นรา่ งกายก็ถกู ทอดทงิ้ บางทกี ็เกิด

8

นิมิตมองเหน็ วา่ รา่ งกายเนา่ เป่ือยผพุ งั สลายตวั ไปจนไมม่ อี ะไร
เหลือ น่นั แหละคือการตาย

ใครน่งั สมาธิทาํ จติ ใหส้ งบจนกระท่งั ตวั หาย หรอื ไม่ถงึ ขนาด
นนั้ เพียงแตว่ า่ ทาํ จิตใหม้ วี ติ ก วิจาร ปีติ สขุ เอกคั คตา ทาํ ฌาณ
ท่ี ๑ ใหบ้ งั เกิดขนึ้ อย่างมีพละกาํ ลงั อย่างม่นั คง จิตดาํ รงอยใู่ น
ฌาณจนเหนยี วแนน่ ในขณะนนั้ จติ ปราโมทยบ์ นั เทงิ อยกู่ บั
อารมณจ์ ติ คอื ตวั วติ กและวิจาร บนั เทงิ อยกู่ บั ปีติและความสขุ ซง่ึ
เกิดจากสมาธิ เกิดจากความสงบ แลว้ เป็นหน่งึ อย่ทู ่ีอารมณจ์ ิต
ในปัจจบุ นั ลืมแลว้ ซง่ึ ความเป็นมนษุ ย์ ไปจตุ ิอยใู่ นภพของพรหม
ถา้ จติ เจรญิ อยใู่ นฌาณท่ี ๑ น่นั อย่ใู นภมู ขิ องรูปพรหม จติ อย่ใู น
ฌาณท่ี ๑ น่นั มนั ตายไปแลว้ จากมนษุ ย์ แตไ่ ปเกิดเป็นพรหม น่ี
ถา้ ใครทาํ จติ ใหบ้ รรลถุ งึ ฌาณท่ี ๑ ได้ คนนนั้ เคยตายมาแลว้
แลว้ เราจะตอ้ งตายไปตามลาํ ดบั ๆ ตายจนกระท่งั วา่ วิตก วิจาร
ปีติ สขุ มนั หายไปหมด ยงั เหลอื แตจ่ ิตดวงเดยี ว มีแตเ่ อกคั คตา
รา่ งกายหายสญู สาบสญู ไปหมด อนั นีค้ อื การตาย ผทู้ ่ีเคยทาํ
สมาธิจติ สงบมาแลว้ อยา่ งท่กี ลา่ วนี้ ไดช้ ่ือวา่ เป็นผตู้ ายเลน่ ๆ

9

หรอื หดั ตายไวก้ ่อนท่ีจะตายจรงิ อนั นีข้ อฝากนกั ปฏิบตั ิธรรม
ทงั้ หลายไวพ้ ิจารณา

ทีนีม้ ีปัญหาหน่งึ ในเม่ือเราตายไปแลว้ เราน่งั สมาธิอยู่ ๓๐
นาที ถา้ จติ สงบอยใู่ นดงั ท่ีกลา่ ว เราก็ตายไปแลว้ ๓๐ นาที ทีนี้
ถา้ ตายไปแลว้ จิตมนั น่ิงๆอยู่ มนั ก็ไดแ้ ตส่ วา่ ง รูอ้ ยแู่ ตเ่ ฉพาะท่ี
แตถ่ า้ หากวา่ มนั ตายไปแลว้ อา้ ว สมมตุ ใิ หไ้ ดใ้ ชค้ วามตาย ก็วา่
ตายซะ จิตเขา้ สสู่ มาธิน่ีคอื ความตาย เพราะมนั ปลอ่ ยวาง
ความรูส้ กึ วา่ มีกาย พอจิตสงบมาลงสสู่ มาธิ มนั เป็นอาการแหง่
ความปีติ หรอื ความเคล่ือน ความปีติหรอื ความเคล่ือนนนั้ คือ
ความตาย วา่ กนั โดยตรงเป็นอยา่ งนี้ เวลานีเ้ ราเป็นมนษุ ย์ ถา้ เรา
ตายแลว้ จิตวญิ ญาณของเราจตุ จิ ากรา่ งมนษุ ย์ เม่ือจากรา่ ง
มนษุ ยจ์ ะไปเกดิ เป็นรา่ งอะไรแลว้ แตบ่ ญุ แตก่ รรม ถา้ กรรมเป็น
บาป ไปเกิดเป็นผี กรรมเป็นบญุ ไปเกิดเป็นเทวดา ถา้ จติ ของผู้
นนั้ ทรงสมาธิ ทรงฌาณเอาไว้ ตายในขณะท่ีอยใู่ นฌาณก็ไปเกิด
เป็นพระพรหม ซง่ึ แลว้ แตบ่ ญุ กรรมจะหนนุ สง่ ใหเ้ ป็นไป

10

ทีนีถ้ า้ เราอย่ใู นสมาธิไดน้ านๆ จิตของเราสง่ กระแสออกไป
เท่ียวขา้ งนอก บางทีมนั ก็จะไดเ้ ท่ียวกบั ไปคยุ กบั ผี ไปเท่ียวคยุ
กบั เทวดา ไปเท่ียวคยุ กบั เปรต บางทีดนั ทรุ งั ลงไปถงึ นรกและไป
น่งั คยุ อย่กู บั ยมบาล บางทีเผลอ จิตของเราสงบแลว้ ลงไปเท่ียว
นรก พอไปถึงแลว้ ยมบาลก็รบี เปิดบญั ชีทนั ที พอเปิดบญั ชีแลว้ ก็
ถามวา่ คณุ ช่ืออะไร ฉนั ช่ือนาย ก ออ้ นาย ก ยงั ไมส่ นิ้ อายุ
กลบั ไปกอ่ น วนั นนั้ เดอื นนนั้ ปีนนั้ จงึ คอ่ ยมา ทีนีถ้ า้ หากวา่ ใคร
ไปจบั นาย ก มา ยมบาลจะส่งั ใหเ้ อาไปสง่ คืน

ยกตวั อยา่ งเชน่ ครงั้ หนง่ึ อาตมานอนเฝา้ ภกิ ษุไขอ้ ยใู่ ตต้ น้ ไม้
มีญาตขิ องคนไขค้ นหนง่ึ ซง่ึ มานอนเฝา้ เป็นเพ่ือนกนั เกิดนอน
หลบั แลว้ ละเมอไป สง่ เสยี งรอ้ ง ทีนีใ้ ครๆเคา้ ก็เท่ียวกนั ปลกุ ใหแ้ ก
ต่นื พอแกต่นื มาแลว้ แกก็เลา่ ใหฟ้ ัง แกบอกวา่ มีคนรา่ งอว้ นๆ
ดาํ ๆ ถืออาวธุ มาจบั แกลากไปโน่น ไปทางทศิ ตะวนั ตก ทนี ีพ้ อ
ไปถึงท่ีแห่งหนง่ึ เหมือนๆกบั ศาล คนท่ีประจาํ อย่นู ่นั เหมือนกบั
ตลุ าการ พอไปถงึ เคา้ เปิดดบู ญั ชี เคา้ บอกวา่ อา้ ว เอาคนมาผดิ
แลว้ อนั นีม้ นั ไม่ใช่ พระคาํ แตเ่ ป็นนายคาํ พระอาพาธท่อี าตมา

11

นอนเฝา้ อยนู่ ่นั ช่ือพระคาํ แตค่ นท่ีถกู จบั ไปเป็นนายคาํ เคา้ บอก
วา่ เอานายคาํ น่ีไปสง่ ก่อน พรุง่ นีบ้ า่ ยส่ีโมงจงึ คอ่ ยไปเอาพระคาํ
มา ถา้ ไม่รู้ ไปถามมหาพธุ นอนเฝา้ อยรู่ ม่ ไมน้ ่นั เคา้ วา่ อย่างนนั้
เคา้ เลา่ ใหฟ้ ัง ทีนีก้ ็มาคอยดวู า่ วนั หลงั วนั พรุง่ พอวนั รุง่ ขนึ้ เพราะ
บา่ ยส่โี มงป๊ับ พระคาํ ใจขาดทนั ที ถกู ยมบาลมาเอาไปแลว้

ทีนีเ้ ร่อื งท่ีเราน่งั สมาธิภาวนา ถา้ จิตของเราสามารถไปสง่
กระแสไปในท่ตี า่ งๆได้ บางทีก็ไปถงึ นรก บางทีก็ไปถงึ สวรรค์
แลว้ ก็ไปรูเ้ ร่อื งนรก เรอ่ื งสวรรคม์ า มาเลา่ ใหห้ มฟู่ ัง ถา้ ยง่ิ คนท่ี
สลบไปเป็นเวลานานๆน่นั ยง่ิ ไปเท่ียวอยา่ งสนกุ สนานไดเ้ ร่อื งได้
ราว พอฟื้นขนึ้ มาแลว้ ก็มาเลา่ ใหเ้ พ่ือนฝงู ฟัง เป็นหลกั ฐานพยาน
วา่ นรกมีมยั้ สวรรคม์ ีมยั้ คนท่ีไปรูไ้ ปเห็นมาแลว้ เคา้ กว็ า่ สวรรคม์ ี
นรกมี แตผ่ ฟู้ ังจะเช่ือหรอื เปลา่ ก็ไม่ทราบ แตค่ นท่ีเคา้ ไปเห็นรู้
แลว้ เคา้ ก็วา่ เช่อื

เชน่ อยา่ งบางครงั้ บางที อาตมาไปอย่ปู ่า อย่ดู ง โดนผีมนั
หลอก โดนผีมนั ตบหนา้ บางทีมีใครเคา้ มาถามวา่ ผีมีมยั้ หลวง
พอ่ อาตมาก็บอกวา่ เออ ถา้ ใครไม่เหน็ ผี จะวา่ ผีไมม่ กี ็สมควรอยู่

12

แตอ่ ย่าไปกลวั ผี แตค่ นท่ีเช่ือวา่ ผีไม่มี แลว้ ยงั กลวั ผีอยู่ อนั นนั้
หลอกตวั เอง อาตมาเคยโดนผีมนั หลอก โดนผีมนั ตบหนา้ แลว้ ก็
ขอยืนยนั ไดว้ า่ ผีมนั มี เพราะเราเหน็ แลว้ เหน็ ดว้ ยตา สมั ผสั ได้
ดว้ ยใบหนา้ มีหลกั ฐานยนื ยนั เพราะเราไดส้ มั ผสั มาแลว้ ก็ยืนยนั
ไดว้ า่ ผีมี ทกุ วนั นีใ้ ครมาถามก็ตอบวา่ ผีมี เพราะเราเหน็ มนั อยู่
แลว้

ทีนถี้ า้ ใครมองเห็นผี รูว้ า่ ผมี ี เหน็ ผีแลว้ ก็จะกลวั ก็สมควรอยู่
หรอก แตค่ นท่ีกลา่ ววา่ ผีไมม่ ี แตเ่ สรจ็ แลว้ ก็อดท่ีจะกลวั ไมไ่ ด้ มนั
จะกลายเป็นการหลอกตวั เอง เพราะฉะนนั้ ในทาํ นองเดยี วกนั
การทาํ สมาธิภาวนาน่ี ในเม่ือจิตมนั สงบลงไปแลว้ มนั ก็
เหมือนกบั ตายแลว้ ครงั้ หนง่ึ ถา้ จิตอยใู่ นระดบั อปุ จาระสมาธิ
หรอื อยใู่ นระดบั ฌาณท่ี ๑ ถา้ หากวา่ จติ ไมเ่ ขา้ อยู่ ไม่รูอ้ ยใู่ นจติ
สง่ กระแสออกไปนอก พอไปเกิดนิมิตตา่ งๆขนึ้ มาแลว้ จิตของเรา
จะทงิ้ ฐานเดิม ไปยดึ ฐานใหม่ หมายความวา่ ทงิ้ รา่ งกายเดิม
แลว้ ไปเกิดเป็นรา่ งกายใหมข่ นึ้ มา รา่ งกายใหมน่ นั้ จะเดนิ ไปในท่ี
ทกุ หนทกุ แหง่ บางทีก็ไปพบเทวดา บางทกี ็ไปพบผี บางทีก็พบ

13

พระอนิ ทร์ พระพรหม ยม ยกั ษ์ แลว้ แตน่ มิ ติ ภาพมนั จะปรุงให้
เป็นไป

ในเม่ือเป็นเชน่ นนั้ ความรูส้ กึ จะรูส้ กึ วา่ เราน่ี เดินไปเท่ยี ว ไป
ดนู รก ไปดสู วรรค์ ไดไ้ ปคยุ กบั เทวดา คยุ กบั ยมบาล นอกจากจะ
รูก้ าํ หนดวนั ตายของตวั เองแลว้ ยงั พกเอากาํ หนดวนั ตายของ
เพ่ือนฝงู มาดว้ ย อตุ สา่ หม์ าเลา่ ใหห้ ม่ฟู ัง น่มี นั เป็นไปไดอ้ ยา่ งนี้
เพราะฉะนนั้ เรอ่ื งพนั เอกพิเศษเสนาะ ท่ีตายไปสองครงั้ สองครา
แลว้ นาํ เรอ่ื งมาเลา่ ใหห้ มฟู่ ัง ก็เช่นเดยี วกนั กบั ผเู้ ขา้ สมาธิภาวนา
แลว้ จติ สง่ กระแสออกไปนอก ไปรูเ้ ห็นในท่ีตา่ งๆ ก็จดจาํ ไว้ แลว้
ก็มาเลา่ ใหห้ มฟู่ ังได้ ท่ีเรามองเหน็ ไดช้ ดั ๆในปัจจบุ นั น่ี ความ
เป็นไปของหลวงป่ฤู าษีลงิ ดาํ นาํ คนไปฝึกมโนมยทิ ธิ ดนู รก ดู
สวรรค์ ก็มีลกั ษณะความเป็นไปแบบเดยี วกนั กบั เร่อื งของพนั เอก
พเิ ศษเสนาะ ผทู้ ่ีน่งั ดนู รก ดสู วรรค์ มโนมยทิ ธิน่ี ไปดนู รกได้ ไปดู
สวรรคไ์ ด้ ไปติดตอ่ กบั วญิ ญาณในโลกอ่นื ได้ ป่ยู า่ ตายายของ
ใครตายลงไปแลว้ ไปอย่สู ขุ ทกุ ขอ์ ยา่ งไร ไปติดตอ่ เชิญมาคยุ กนั
ได้ น่ีคอื สง่ิ ท่ีเป็นไปได้ คนตายโดยบงั เอญิ สลบไปแลว้ กฟ็ ื้น

14

ในขณะท่ีสลบไปอย่นู ่นั ก็ไปเท่ียวในท่ีตา่ งๆ เหมือนกบั ท่เี รา
เดินๆไปเท่ียวเมืองโนน่ เมืองน่ีอย่างนนั้ แหละ

ทีนีค้ นท่ีอย่ใู นสมาธิ น่งั สมาธิพอจติ สงบเคลิม้ ๆลงไป สวา่ ง
ขนึ้ มา กระแสจิตสง่ ออกไปขา้ งนอก ก็ไปเท่ยี วดโู นน่ ดนู ่ี
เหมือนกบั คนตาย สรุปแลว้ ไปเท่ียวในท่ีตา่ งๆเหมือนกนั อนั นี้
มนั เรยี กวา่ เป็นสภาพจิตท่ีถอดรา่ งออกไปจากรา่ งกายเดิม บาง
ทา่ นบอกวา่ มนั เกิดเป็นกายทพิ ยข์ นึ้ มา ทิง้ กายเดิมแลว้ เกิดเป็น
กายทพิ ย์ กายทิพยส์ ามารถไปเท่ียวในท่ีตา่ งๆได้ จะไปเท่ียวนรก
ก็ได้ ไปเท่ียวสวรรคก์ ็ได้ ไปเท่ียวท่ีไหนๆ องั กฤษ อเมรกิ า
ตา่ งประเทศ ออสเตรเลยี ไปไหนไดท้ งั้ นนั้ ใน

เม่ือถอดรา่ งออกไปแลว้ ญาตโิ ยมผฟู้ ังเคยเหน็ ผีเดนิ มาหรอื
เปลา่ ขอ้ สงั เกตรา่ งกายคนกบั รา่ งกายผีน่ีมนั ตา่ งกนั แตร่ ูปทรง
มนั เหมือนกนั แตค่ วามหนาความบางมนั คนละอย่าง รา่ งกาย
ของคนมนั เป็นรา่ งกายทบึ ถา้ มนั บงั ดวงไฟแลว้ มองไมท่ ะลุ ถา้
บงั ดวงไฟแลว้ จะมองไมเ่ ห็นดวงไฟ เหน็ แตก่ ายดาํ มืดอยู่ แตถ่ า้

15

รา่ งกายผีมนั ไปบงั ดวงไฟ เราจะมองทะลเุ ห็นดวงไฟ น่ีขอ้ สงั เกต
มนั เป็นอยา่ งนี้

บางทีไปภาวนาอย่ใู นป่าในดง อา้ ว เหน็ เพ่ือนฝงู เดนิ มา ก็
จะเขา้ ใจวา่ ผีป่ผู ีภเู ขามาหลอกมาหลอนอะไรทาํ นองนนั้ ถา้
มองดรู า่ งทบึ ดาํ ๆแลว้ ก็ไม่ใชร่ า่ งผี แตม่ องทะลแุ ลว้ เป็นรา่ งผี น่ี
ขอ้ สงั เกตมนั เป็นอย่างนี้ อาตมาเคยเหน็ มาแลว้ นาํ มาเลา่ สทู่ า่ น
ทงั้ หลายฟัง

เอาหละ การบรรยายธรรมกร็ ูส้ กึ วา่ จะออกนอกลนู่ อกทาง
เพราะกลอนมนั พาไป แตจ่ ะดว้ ยประการใดก็ตาม สง่ิ ท่กี ลา่ วมา
นีม้ นั เป็นเรอ่ื งเก่ียวพนั กบั การทาํ สมาธิทงั้ นนั้ จดุ ประสงคข์ อง
การทาํ สมาธิการภาวนานี้ เพ่ือใหจ้ ิตของเรารูเ้ ห็นเป็นไปเชน่ นนั้
หรอื หรอื วา่ เราตอ้ งการอะไร ส่งิ ท่ีรูเ้ หน็ เป็นไปดงั ท่ีกลา่ วมาแลว้
เป็นแตเ่ พียงผลพลอยไดซ้ ง่ึ เกิดจากภาวนา ผทู้ ่ีทาํ สมาธิภาวนา
สิ่งเหลา่ นีจ้ ะเป็นทางผา่ นของจิต แมเ้ ราทาํ สมาธิลงไปแลว้ เม่ือ
จติ สงบสวา่ งลงไป ส่งิ เหลา่ นีไ้ มอ่ ยากจะรู้ มนั ก็รู้ เพราะมนั เป็น

16

เรอ่ื งของธรรมดา ไมอ่ ยากจะเหน็ มนั ก็เหน็ เพราะมนั เป็นเรอ่ื ง
ของธรรมดา

แตผ่ ทู้ ่ีภาวนาทาํ สมาธิไปจนกระท่งั จิตคลอ่ งตวั แลว้ สมาธิมี
พลงั สติแกก่ ลา้ ภาวนาแลว้ ทีหลงั นิมิตจะไมค่ อ่ ยเกิด แตจ่ ติ ของ
เราจะสงบเขา้ ไปรูอ้ ย่ทู ่ีจิตเพยี งอยา่ งเดยี ว ถา้ ในขณะใดท่ีกายยงั
ปรากฏอยู่ จติ สงบเป็นสมาธิแลว้ มนั จะไปท่องเท่ียวอยใู่ นกาย
กาํ หนดรูอ้ ย่ใู นกาย แลว้ มีความรูเ้ ตรยี มพรอ้ มอยทู่ ่ีจิต ทกุ สง่ิ ทกุ
อยา่ งท่ีเกิดขนึ้ กบั กาย ทกุ ขเวทนา สขุ เวทนา อเุ บกขาเวทนาท่ี
เกิดขนึ้ จติ สามารถกาํ หนดรูไ้ ดโ้ ดยอตั โนมตั ิ ทกุ ขเ์ กิดท่ีกาย สขุ
เกิดท่ีกาย ไมส่ ขุ ไม่ทกุ ขเ์ กิดท่ีกาย กายเป็นแดนเกิด ถา้ กายไมม่ ี
สขุ ทกุ ขไ์ มม่ ี

ทีนีส้ ขุ อนั บงั เกิดแตส่ มาธิ ปีตแิ ละความสขุ เกิดจากการ
บาํ เพญ็ สมาธิ ก็เกิดท่กี ายเหมือนกนั ลองสงั เกตดถู า้ เราภาวนา
แลว้ ปีตมิ นั บงั เกิดขนึ้ ตวั โยก ขนหวั ลกุ หวั พอง มีจิตใจลงิ โลด มี
กายเบาใจเบา กายสงบใจสงบ เหมือนกบั จะลอยขนึ้ สอู่ ากาศ
อาการเชน่ นนั้ ปรากฏอยใู่ นขณะท่ีเรารูส้ กึ วา่ มีกาย แตถ่ า้ กายดบั

17

หายไปจากความรูส้ กึ แลว้ อาการเหลา่ นนั้ ก็หาย วิตก วิจาร ปีติ
สขุ ก็หายไปหมด ยงั เหลอื แตจ่ ติ เป็นหน่งึ ซ่ีงเรยี กวา่ เอกคั คตา
จิตเป็นหนง่ึ หนง่ึ อยทู่ ่ีจิต ไมม่ ีสอง ท่ีวา่ ไมม่ ีสองเพราะกายไม่มี
จิตสงบเป็นอปั ปนาสมาธิขนั้ ละเอยี ดแลว้ กายไมม่ ี มีแตจ่ ติ สงบ
สวา่ งไสวเหมือนดวงไฟท่ีลอยอยู่ หรอื เหมือนดวงอาทติ ย์ ดวง
จนั ทรท์ ่ีลอยอยเู่ หนือโลกอยา่ งนนั้ รา่ งกายตนตวั ไมม่ ีแลว้ ทีนีใ้ น
ขณะนีเ้ รยี กวา่ จิตอย่ใู นอปั ปนาสมาธิ เป็นอัปปนาจติ และก็
เป็นสมถกรรมฐาน ถา้ จะวา่ โดยฌาณ ก็อัปปนาฌาณ วา่ โดย
จิตก็ อปั ปนาจติ วา่ โดยสมาธิก็ อปั ปนาสมาธิ เป็นความสงบ
ของจิตอนั เป็นเบือ้ งตน้ เรยี กวา่ สมาธิเบอื้ งตน้

ทีนีส้ มาธิเบอื้ งตน้ เน่ียแหละ ผภู้ าวนามาฝึกฝนบอ่ ยๆ ทาํ ให้
คลอ่ งทาํ ใหช้ าํ นิชาํ นาญ แลว้ สมาธิท่ีมนั อยใู่ นวงแคบๆ สงบรูอ้ ยู่
ท่ีจติ น่ี มนั จะคอ่ ยขยายวงกวา้ งออกไป จติ สงบแบบนีเ้ ป็นจิต
สมถะ เป็นสมาธิขนั้ สมถกรรมฐาน ซง่ึ นกั ภาวนาในสมยั ปัจจบุ นั
นี้ เคา้ กลวั กนั นกั กลวั กนั หนา กลวั วา่ จติ จะไปตดิ สมถะ ทา่ นผฟู้ ัง
ทงั้ หลาย นกั ภาวนาทงั้ หลายเคยกลวั มยั้ วา่ จติ จะไปติดอย่ทู ่ี

18

สมถะ เรากาํ ลงั เรม่ิ จะปฏิบตั ิ กาํ ลงั เรม่ิ ภาวนาเพ่ือใหจ้ ติ มีสมาธิ
แตเ่ สรจ็ แลว้ เราไปกลวั ไปกลวั วา่ จติ มนั จะไปติดสมถะ แลว้
เม่ือไหรจ่ ติ มนั จะสงบเป็นสมาธิไดซ้ กั ที มนั จะมเิ ป็นในทาํ นอง
ท่ีวา่ เราทาํ มาคา้ ขายอยากจะเป็นเศรษฐี พอลงมือทาํ งานแลว้
กลวั กลวั วา่ เราจะเป็นเศรษฐี เลยหยดุ ทาํ งาน เม่ือไหรเ่ ราจะได้
เป็นเศรษฐีกนั ซกั ที

เพราะฉะนนั้ นกั ปฏิบตั ิไม่ตอ้ งกลวั สมาธิเป็นส่งิ ท่ีนกั ปฏบิ ตั ิ
ทงั้ หลายตอ้ งการ สมาธิเป็นสงิ่ ท่ีเป็นคณุ ธรรมท่ีเป็นพนื้ ฐานให้
เกิดสติปัญญา เป็นคณุ ธรรมท่ีเป็นพนื้ ฐานใหเ้ กิดพลงั ทางสติ
สมั ปะชญั ญะ ทาํ ใหจ้ ติ ม่นั คง เป็นท่ีรวมของจิต โดยปกติแลว้ จิต
ของเรามนั แสส่ า่ ยอย่รู อบทศิ เม่ือสามารถทาํ จติ ใหส้ งบ มา
รวมอย่ใู นสมาธิเป็นจดุ หนง่ึ แมเ้ พียงหา้ นาที สบิ นาที เป็นช่วั โมง
ไดย้ ่งิ ดี จะไมด่ ีหรอื เพราะฉะนนั้ อย่าไปกลวั ถา้ จิตสงบไดแ้ ลว้
ปัญญามนั จะเกิดขนึ้ มาเอง

แมว้ า่ ปัญญาจะไมเ่ กิดในขณะท่ีจิตสงบน่ิงก็อยา่ ไปตกใจ
เม่ือเราออกจากความน่ิงมาแลว้ สมาธิ สติ ปัญญาของเรามนั จะ

19

มาอย่กู บั ยนื เดนิ น่งั นอน รบั ทาน ด่มื พดู คดิ ทกุ ขณะจติ ทกุ
ลมหายใจ มนั จะไดป้ ระโยชนใ์ นตอนนี้ ตอนท่ีเขา้ ไปน่ิงอย่เู ฉยๆ
ก็เปรยี บกนั กบั การนอนหลบั การนอนหลบั ท่านไดอ้ ะไรดีขนึ้
ธรรมชาตขิ องรา่ งกายมนั ก็ไดพ้ กั ผ่อน เม่ือนอนหลบั แลว้ รา่ งกาย
ก็ไดพ้ กั ผ่อน ในเม่ือรา่ งกายไดพ้ กั ผอ่ นอยา่ งพอสมควรหรอื เต็มท่ี
ตามท่ีตอ้ งการ ก็ทาํ ใหเ้ กิดกาํ ลงั กาย ในเม่ือเกิดกาํ ลงั กาย
รา่ งกายสมบรู ณ์ สขุ ภาพจติ มนั ก็ดีขนึ้

เพราะฉะนนั้ การท่ีจติ เขา้ ไปสงบอยใู่ นสมาธิขนั้ อปั ปนา
แมว้ า่ ยงั จะไมเ่ กิดปัญญาความรูใ้ ดๆก็ตาม รา่ งกายของเราก็ได้
พกั ผอ่ น จติ ของเราก็ไดพ้ กั ผ่อน ไดพ้ กั ผอ่ นแลว้ มนั กท็ าํ ใหเ้ กิด
พลงั งาน ในเม่ือเกิดพลงั งานแลว้ กายก็แข็งแรง จิตก็เขม้ แขง็
ในขณะท่ีเราทาํ งานทาํ การ ความแนว่ แนข่ องจติ ของสตมิ นั จะมี
ความม่นั คงย่งิ ขนึ้ แมว้ า่ ในขณะท่ีจิตน่งิ รูอ้ ยทู่ ่ีจิตนนั้ มนั จะไม่เกิด
ความรูอ้ ะไรก็ตาม อยา่ ไปตกใจ ขอใหม้ นั น่ิง รูอ้ ย่ใู นจดุ ๆเดยี วซง่ึ
เรยี กวา่ สมถะหรอื อปั ปนาสมาธิ เป็นช่วั โมงๆ เป็นปีก็ปลอ่ ยให้

20

มนั เป็นไปเถอะ แตว่ า่ เม่ือลืมตาออกมาแลว้ จะมองเหน็
ประโยชนข์ องมนั ไดท้ นั ที

อกี อย่างหนง่ึ มีผกู้ ลา่ ววา่ สมาธิขนั้ สมถกรรมฐานไมเ่ กิด
ความรู้ ความรูม้ นั ไมเ่ กิดขนึ้ จรงิ ! ความรูม้ นั ไม่เกิดขนึ้ แตถ่ า้ มนั
มีส่ิงรูห้ ละ เชน่ อย่างเวลาทา่ นเพง่ อสภุ กรรมฐาน พอจติ มองเหน็
กระดกู โครงกระดกู อา้ ว ถา้ ใครเคยทาํ กรรมฐาน มองเหน็ นิมติ
เห็นโครงกระดกู ในขณะท่ีทา่ นมองเหน็ โครงกระดกู น่นั จติ ของ
ทา่ นวา่ น่ีคอื โครงกระดกู หรอื เปลา่ อาตมาเขา้ ใจวา่ มนั ไม่เรยี ก
มนั แตเ่ พียงเหน็ อย่รู ูอ้ ยเู่ ทา่ นนั้

ทีนีส้ มาธิขนั้ สมถะหรอื วา่ อปั ปนาสมาธิน่มี นั ยงั มีเหนือ
สมถะยงั มีเหนือสมถะขนึ้ ไปอีก สมถะท่ีเหนือสมถะทา่ นเรยี กวา่
โคตรภญู าณ หรอื โคตรภฌู าณ มนั เกิดกบั ภมู ิจติ ของผทู้ ่ี
พิจารณาทกุ สงิ่ ทกุ อย่าง จนแตกฉานคลอ่ งตวั ชาํ นิชาํ นาญแลว้
ทาํ ใหจ้ ติ สงบเป็นสมาธิขนั้ อปั ปนาไปสจู่ ดุ วา่ ง ไม่มีอะไร ทีนีเ้ ม่ือ
จิตไปยบั ยงั้ อย่ใู นจดุ วา่ งไมม่ ีอะไร พอสมควร ปัญญามนั ผดุ โผล่
ขนึ้ มา ปัญญาอนั นีม้ นั จะเป็นปัญญาขั้นโลกุตตระ จติ มนั จะไป

21

ลอยเดน่ อย่เู หนือโลก แลว้ มองเหน็ โลกทกุ สว่ น เหมือนดวง
อาทิตยท์ ่ีสอ่ งแสงลงมายงั โลกใหเ้ กิดความสวา่ งไสว และกระทบ
ตน้ ไมภ้ เู ขาเหลา่ กาสตั วบ์ คุ คลอะไรตา่ งๆท่วั ไปหมด ขอ้
อปุ มาอปุ ไมยอนั นีฉ้ นั ใด ในเม่ือจิตของผทู้ ่ผี ่านสมถะสมาธิขนึ้ ไป
อย่เู หนือสมถะอย่ขู นั้ หนง่ึ ซง่ึ เรยี กวา่ โคตรภฌู าณ หรอื โคตรภู
ญาณ จิตดวงนีส้ ามารถท่ีจะสง่ กระแสมามองดโู ลกไดท้ ่วั ถว้ น
แลว้ แตพ่ ลงั จติ

ถา้ เป็นพลงั จติ ของพระพทุ ธเจา้ น่ี เขา้ ใจวา่ รศั มีแห่งความ
สวา่ งไสวแห่งจติ ของพระองคท์ า่ น จะแผค่ ลมุ โลกโดยไมม่ ีสว่ น
มืดปิดบงั แตว่ สิ ยั ของอรยิ ะซง่ึ เป็นลกู ศิษยข์ องพระพทุ ธเจา้ น่ี
บางทีก็มองเหน็ บางสว่ นบางซกี เทา่ นนั้ ไมแ่ ผ่คลมุ ไปถึงท่วั โลก
เหมือนอย่างพระพทุ ธเจา้ เพราะฉะนนั้ ภมู แิ หง่ พระสาวกจงึ แคบ
กวา่ พระพทุ ธเจา้ สาํ หรบั พระพทุ ธเจา้ น่ีรูร้ อบโลก โลกะวทิ รู ูแ้ จง้
ซง่ึ โลก เม่ือจิตของพระองคไ์ ปลอยเดน่ อยเู่ หนือโลก สามารถ
มองเหน็ ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งในโลก แผ่นดินตน้ ไมภ้ เู ขาเหลา่ กาก็

22

มองเหน็ หมด สตั วท์ กุ ชนิด มองเหน็ มนษุ ยก์ ็เหน็ ผีก็เหน็ เปรตก็
เหน็ เทวดาก็เห็น เหน็ หมด

ในเม่ือเห็นความจตุ ิของสตั วท์ งั้ หลายเป็นไปตา่ งๆกนั
พระองคก์ ็สามารถมองรูเ้ หตทุ ่ีจะใหส้ ตั วท์ งั้ หลายเกิดเป็นเช่นนนั้
เพราะอะไร เพราะกฏของกรรม ในเม่ือพระพทุ ธองคร์ ูแ้ จง้ ในกฏ
ของกรรมแลว้ จงึ มาสอนวา่ กัมมสั สะกา กัมมะทายาทา กัม
มะโยนิ กัมมะพันธุ กมั มะปะฏสิ ะระณา สตั วท์ งั้ หลายมีกรรม
เป็นของๆตน มีกรรมเป็นผใู้ หผ้ ล มกี รรมเป็นแดนเกิด มีกรรม
เป็นผตู้ ดิ ตาม มีกรรมเป็นท่ีพ่งึ อาศยั ยงั กมั มัง กะริสสันติ กลั
ยาณัง ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภาวสิ สันติ สตั วท์ าํ กรรม
อนั ใดไว้ ดีก็ตาม ช่วั ก็ตาม จะตอ้ งไดร้ บั ผลของกรรมนนั้ แน่นอน
น่ีเป็นพระดาํ รสั ของพระพทุ ธเจา้

ท่านเช่ือหรอื เปลา่ วา่ พระพทุ ธเจา้ สอนถกู ตอ้ ง ทาํ กรรมดี
ไดร้ บั ผลดี ทาํ กรรมช่วั ไดร้ บั ผลช่วั ดงั นนั้ พระพทุ ธศาสนานี้
พระพทุ ธเจา้ สอนใหล้ ะความช่วั แลว้ ประพฤติความดี ทาํ จติ ให้
บรสิ ทุ ธิ์สะอาด เราจะละความช่วั กนั ท่ีตรงไหน ศลี ๕ ท่ีได้

23

สมาทานมาแลว้ นนั้ ละลงไป ไม่ตอ้ งกงั วลสิ่งอ่ืน ศีล ๕ ขอ้
เท่านนั้ เหลอื กนิ ขอใหม้ นั เดด็ ขาดลงไป ทีนีท้ าํ ความดี พยายาม
ปลกู ฝังจิตใจใหซ้ งึ้ ใหม้ ่นั คงในการละความช่วั ดงั ท่ีกลา่ ว ในเม่ือ
ละความช่วั ดงั ท่ีกลา่ ว จติ มีความม่นั คงตอ่ การละความช่วั จติ
ของเรามีแนวโนม้ ในการชาํ ระตวั เองใหบ้ รสิ ทุ ธิ์สะอาด มคี วาม
ซ่อื สตั ยต์ รงไปตรงมาตอ่ หนา้ ท่ีของตวั เอง เช่นอบุ าสกอบุ าสกิ า
ทาํ หนา้ ท่ีของตนตรงไปตรงมาไมบ่ ิดพรวิ้ เป็นพระภกิ ษุสงฆท์ าํ
หนา้ ท่ีของตนอย่างตรงไปตรงมาไมบ่ ดิ พรวิ้ แลว้ ก็ไดช้ ่ือวา่ เป็น
ผทู้ าํ จิตทาํ ใจใหซ้ ่ือสตั ยส์ จุ รติ ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ คอื ความ
สะอาดแหง่ จติ จงึ ไดใ้ นคาํ วา่ ชาํ ระจิตของตนเองใหส้ ะอาด

สพพฺ ปาปสสฺ อกรณํ กุสลสฺสปสมปฺ ทา สจติ ตฺ ปริ
โยทปนํ เอตํ พุทธฺ าน สาสนํ การไมท่ าํ บาปทงั้ ปวง การยงั
กศุ ลใหถ้ ึงพรอ้ ม การชาํ ระจติ ใหบ้ รสิ ทุ ธิ์ นีเ้ ป็นคาํ สอนของ
พระพทุ ธเจา้ ทงั้ หลายดว้ ยประการะฉะนี้ ไดบ้ รรยายมาพอเป็น
เวลาอนั สมควรแลว้ จงึ ขอยตุ กิ ารบรรยายธรรมลงเพยี งแคน่ ี้

ท่ีมา: https://youtu.be/PpNDVBJFueI

24


Click to View FlipBook Version