The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธรรมเทศนา ปริวัฏฏ์ทั้ง ๓ เทศน์วันที่ ๑๓ กค ๔๖ โดย หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-01-26 21:21:54

ธรรมเทศนา ปริวัฏฏ์ทั้ง ๓ โดย หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร

ธรรมเทศนา ปริวัฏฏ์ทั้ง ๓ เทศน์วันที่ ๑๓ กค ๔๖ โดย หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร

Keywords: ปริวัตรทั้ง ๓,ปริวัฏฏ์ทั้ง ๓

ธรรมเทศนา (ปริวตั รทงั้ ๓)
หลวงพอ่ ประสทิ ธิ์ ปญุ ญมากโร

วนั ท่ี ๑๓ ก.ค. ๒๕๔๖
วนั นีเ้ ราไดธ้ รรมะ ไดส้ วดมนต์ ไดเ้ จรญิ เมตตาภาวนา และ
ตอนนีข้ า้ งบนฝนก็ตกกห็ ลน่ ลงมาใสเ่ ราน่ะ เราก็ถือวา่ เป็นฤกษ์
เป็นฤกษช์ ่มุ เยน็ และก็เป็นธรรมะ เป็นธรรมะท่ีจะนอ้ มเขา้ ไป
สอนใจของเรา เราจะภาวนาฟัง คือกาํ หนดจิต ทาํ ความสงบฟัง
ฟังเสยี งฝน มนั ก็เป็นเสยี งท่ีไมม่ ีอารมณ์ ไม่มีเร่อื งในเสยี งของ
ธรรมน่นั น่ะ แตว่ า่ มนั จะมีเสยี งดงั คอื เสียงท่ีมนั สะทอ้ น อยา่ ง
มนั ตกใสข่ องแขง็ ตกใสห่ ลงั คาน่ี เพราะวา่ ของแข็งมนั ก็สะทอ้ น
มนั ก็ดงั แตว่ า่ เสียงน่นั มนั ไมม่ ีสญั ญา ไมม่ เี รอ่ื งราวเก่ียวกบั ทาํ
ใหเ้ ราเกิดอารมณก์ าํ หนดั ยนิ ดแี ลว้ ก็เป็นเสียงท่ีไมเ่ ป็นพษิ เป็น
ภยั
ฉะนนั้ การท่ีพวกเราไดม้ าทาํ บญุ เขา้ พรรษา ไดม้ าฝึกอบรม
ภาวนาเป็นกิจทางพระพทุ ธศาสนาของเรา หรอื วา่ เป็นกจิ ท่ีควร
ทาํ ในพระพทุ ธศาสนา คอื การภาวนาน่นั มนั เป็นการนกึ กาํ หนด

1

และก็บรกิ รรม คือบรกิ รรมก็คือบรกิ าร บรกิ ารใหจ้ ิตของเราน่ะ
คือวา่ กาํ หนดจติ ของเราใหม้ นั สงบอยกู่ บั คาํ บรกิ รรม คาํ ภาวนา
อย่างเนีย้ ธรรมดาจิตของเราน่ีมนั มีอารมณเ์ ป็นเคร่อื งนาํ มา
เป็นเคร่อื งอยู่ เป็นอาหารของจิตของคนเรานะ่ มนั ก็เป็นธรรมท่ี
นาํ ชวี ติ เรามาเกิดนะ่ แลว้ ทนี ที้ ่านใหเ้ ปลย่ี นอารมณ์ เปล่ียนจาก
อารมณค์ วามคดิ ในเร่อื งโลกเร่อื งอารมณท์ ่ไี ม่ใชเ่ ป็นธรรม ไม่
เป็นบญุ ไม่เป็นกศุ ลนะ่ ทา่ นใหเ้ รามาเปล่ียนมานกึ มาฝึกใหจ้ ติ
ของเราน่นั ไดเ้ อาอารมณท์ ่ีเป็นกศุ ลเป็นอารมณท์ ่ีดีเป็นอารมณท์ ่ี
รม่ เยน็ สงบอยา่ งนี้ ก็เหมือนกบั ท่ีเราไดส้ มั ผสั อย่เู วลานี้

อยา่ งท่ีวา่ ก่อนท่ีเราบชู าเทยี นแลว้ ก็เวยี นเทียนรอบศาลา
พระประตมิ ากรเราน่ะ ตอนนนั้ เป็นการเรม่ิ ทาํ บญุ เรม่ิ บชู า ฝนก็
ยงั ไมต่ กมา อากาศก็รอ้ น อากาศก็รอ้ นกระทบตวั ของเราทกุ คน
น่นั แหละ มนั จะอา้ วๆรอ้ นๆเหนียวๆตวั เรา ก็มนั ก็เตือนเราหละที
นี้ คืออากาศน่มี นั เตอื นกอ่ น อย่างคนท่ีเกิดมาในโลกนานน่ี
อย่างคนโบราณ พดู ถงึ คนสมยั กอ่ นเคา้ จะมีรา่ งกายเป็นเครอ่ื ง
ปฏบิ ตั ิ เป็นเครอ่ื งวดั เป็นเครอ่ื งสมั ผสั ธาตทุ ่ีมีในโลกน่ีแหละ

2

อย่างท่ีวา่ ถา้ อากาศมนั เปล่ยี นคอื อากาศมนั แปรปรวน ฝนจะตก
อยา่ งนี้ บางคนก็จะมีโลกบางอยา่ งประจาํ ตวั บางคนก็จะมี
อาการเตอื นในรา่ งกายหละทีนี้ มนั จะรอ้ น มนั จะอา้ ว มนั จะมี
อาการท่ีไมป่ กติ เขาก็รูแ้ ลว้ วา่ รา่ งกายก็เป็นกรมอตุ ฯุ บอกวา่ ฝน
จะตก บางคนก็จะมีอาการเพลีย บางคนกจ็ ะมีโรคผวิ หนงั เป็น
ผ่ืนคนั เป็นผวิ รอ้ น อนั นนั้ มนั เป็นเครอ่ื งบอกน่นั นะ่ เป็นเครอ่ื ง
บอกซง่ึ ธาตทุ ่มี ีอยกู่ บั โลกกบั ตวั เราน่นั นะ่ มนั จะบอก แตถ่ า้ คน
ไม่สงั เกตทีนี้ ไมส่ งั เกตรา่ งกายน่ี ไมก่ าํ หนดรา่ งกายของเราน่ี มนั
ก็ไมร่ ู้ มนั ไมร่ ู้ มนั รูแ้ ตว่ า่ ไม่ดี ไมส่ บายแคน่ นั้ แหละ และไมร่ ูว้ า่
เหตทุ ่ีมนั เป็นเพราะอะไร ไมเ่ หมือนคนโบราณ คนสมยั กอ่ นมีจติ
รบั รู้ มีจติ สงั เกตสง่ิ ตา่ งๆท่มี นั มีการแปรปรวนเปล่ยี นแปลงหรอื
วา่ ผลกระทบตา่ งน่กี ็มีจิตรบั รู้ มีรา่ งกายเป็นเครอ่ื งสมั ผสั แลว้ ก็มี
จติ สงั เกตวา่ อะไรท่ีมนั เกิดขนึ้ แลว้ มนั เปล่ยี นไป แลว้ มนั ดบั ไป
อย่างนี้ รู้ ความรูอ้ นั นีก้ ็เลยเป็นธรรมทีนี้ มนั เป็นธรรมท่ีใหเ้ ราทาํ
ปฏบิ ตั ทิ าํ จติ ทาํ รา่ งกายของเราน่นั น่ะ ใหร้ ูจ้ กั ทาํ

3

อยา่ งท่ีวา่ เร่อื งทาํ ไรท่ าํ นาก็เหมือนกนั ก็ใหร้ ูจ้ กั ทาํ คอื ทาํ
การปฏิบตั ิจติ ปฏิบตั กิ ายน่นั แหละ คอื ธุระท่ีเราตอ้ งทาํ เป็นหลกั
อย่างนี้ เราก็ตอ้ งมีจติ ทาํ จิตสงั เกตคอื สงั เกตทกุ อยา่ ง สงิ่ ท่ีมนั มี
มนั แสดงอยกู่ บั ตวั เรา กบั สง่ิ ภายนอกใกลต้ วั เราอย่างนี้ เราจะได้
ทาํ จะไดค้ วามรู้ ตวั อย่างฝนตกหรอื วา่ อากาศมนั เปล่ยี นแปลง
อยา่ งนี้ มนั กจ็ ะเป็นเครอ่ื งสะทอ้ นมาถงึ รา่ งกายของเรา หรอื บาง
ทีน่กี ็จะเป็นการเตอื นการสอนธรรมใหจ้ ติ เราไดก้ าํ หนด ไดน้ อ้ ม
นกึ ไดน้ อ้ มนกึ ไปเป็นธรรม เป็นธรรมน่นั คอื เอาไปทาํ เป็นการ
สอนใจ คือสอนใจใหเ้ ราไดค้ วามรู้ คือไดส้ ติปัญญาขนึ้ มาทางใจ
เรา ใหเ้ ราไดไ้ ปสอนใจ สอนอารมณท์ ่ีมนั เป็นกิเลสอย่ใู นใจ คือ
อารมณท์ ่ีมนั มีอยใู่ นใจของเราน่นั มนั ไมใ่ ชม่ ีแตส่ ิ่งท่ีเป็นของรู้
ของดี แตส่ งิ่ ท่มี นั ไม่ดที นี ีก้ ็คอื กิเลส ก็คอื ความไมร่ ูน้ ่นั แหละคือ
กิเลส ไม่ใชอ่ ่ืนทีนี้

เหตนุ นั้ เราตอ้ งมาทาํ ความดที าํ บญุ น่ีกท็ าํ ความรู้ มาภาวนา
น่ีก็มาบาํ เพ็ญความรูใ้ หเ้ กิดขนึ้ แตค่ วามรูม้ นั มีอยแู่ ตม่ นั มีนอ้ ย
มนั ไม่พอท่ีจะไปรูไ้ ปถึงจิตหละทีนี้ มนั มีขนั้ มีส่งิ ปกปอ้ งปิดบงั จติ

4

อกี ทีหนง่ึ มนั รูแ้ ตว่ า่ มนั รูไ้ ปไม่ถงึ ทีนี้ เหมือนแสงไฟอยา่ งนี้ แสง
ไฟมนั ดวงนอ้ ย มนั สอ่ งไปไม่ไดไ้ กล ไปไมถ่ งึ ท่ีท่ีเราตอ้ งการ มนั
ไม่ใชไ่ ม่มีหละทีนี้ แลว้ เราจะทาํ อยา่ งไรใหก้ ระแสหรอื ให้ พลงั ท่ี
เราจะส่งั สม อย่างท่ีวา่ เทียนน่ีเราทาํ อยา่ งไรมนั จะทาํ ใหเ้ ลม่
ใหญ่ได้ เราใชม้ นั ใหญ่ ดวงมนั จะไดก้ วา้ งไกล น่นั คือการท่ีเรา
จะตอ้ งทาํ จะตอ้ งบาํ เพญ็ กศุ ลเขา้ ไปชว่ ย ไปช่วยกิจของเราน่ี
ทา่ นบอกวา่ มนั ไมพ่ อ แตม่ นั ไม่ใชไ่ ม่รูแ้ ตม่ นั รูไ้ ม่พอ ความไมพ่ อ
เราก็จะตอ้ งรอ จะตอ้ งหลง หรอื มนั เหน็ ไม่ชดั มนั กห็ ลง คอื เรา
มาฝึกมาปฏบิ ตั อิ ยา่ งนี้ ความดี บญุ กศุ ล ความรู้ สตปิ ัญญา
อย่างนี้ มนั เป็นทรพั ยภ์ ายใน มนั เป็นเครอ่ื งท่ีจะนาํ ความสวา่ ง
ความผอ่ งใสเขา้ ไปใหใ้ จเรา หรอื วา่ ธรรมท่เี ราไดอ้ ยไู่ ดก้ ระทบ

อย่างนา้ํ อยา่ งนี้ ถา้ นา้ํ น่ีมนั ก็เป็นธรรมธาตอุ นั หน่งึ หรอื วา่
ย่งิ นา้ํ ฝนน่กี ็ถือวา่ เป็นนา้ํ ท่ีสะอาดท่ีไปกรองจากอากาศและก็มี
อากาศเยน็ อากาศบรสิ ทุ ธิ์ปรบั ใหเ้ ป็นกอ้ นลงมา แลว้ ทนี โี้ ดนลม
ไลร่ บกวน มนั ก็ตกลงมานะ่ ตกลงมาเป็นฝนนะ่ ฉะนนั้ มนั เป็นนา้ํ
ท่ีไม่ใชน่ า้ํ ธรรมดาอย่กู บั พืน้ ดินทีนี้ มนั เป็นนา้ํ ท่ีไปปฏิบตั ิอยบู่ น

5

อากาศ ก็นา้ํ ดนิ เน่ยี แหละมนั ระเหยขนึ้ ไป มนั ลอยขนึ้ ไป เพราะ
มนั อยใู่ นดนิ มนั อยไู่ ม่ได้ ถกู ความอบอา้ ว ถกู แสงพระอาทิตย์
แผดเผามนั ก็ตอ้ งลอยขนึ้ ไป ถา้ ลอยขนึ้ ไปมนั ก็อยขู่ า้ งบนไม่ได้
อีกหละทีนี้ เพราะมนั ไมม่ ีท่ีรองรบั มนั ก็เป็นธรรมของมนั คอื มนั
ทาํ กิจทาํ กรรมทาํ ธรุ ะท่ีมนั ทาํ อยนู่ ่นั นะ่ อยา่ งท่ีเราไดย้ นิ ไดเ้ หน็
มนั ตกอยา่ งนี้ ท่ีมนั นานๆมนั ก็ตกคอ่ ยตกแรงตกนอ้ ยตกมาก มนั
จะเป็นอยา่ งนี้ มนั ก็อยทู่ ่กี ารปฏบิ ตั ิหละทีนี้ การปฏบิ ตั ขิ อง
สว่ นประกอบท่ีจะทาํ ใหม้ ีแรง คอื การท่ีขบั ไล่ การท่ีไปปรบั ใหม้ นั
รวมกนั เป็นกลมุ่ เป็นกอ้ นอยา่ งนนั้ มนั ก็จะเป็นธรรมอนั หน่งึ แลว้
ตวั ธาตนุ า้ํ ก็เป็นธรรมอนั หนง่ึ คอื เป็นธรรมท่ี…ธาตทุ ่ีละเอยี ดเละ
เหลว แลว้ ก็มีธาตเุ ยน็ อยใู่ นนา้ํ อยา่ งนีแ้ หละ แลว้ ก็สะอาดเป็น
ธรรมชาติ นอกจากเราจะเอาสเี อาสง่ิ สกปรกหรอื มนั ไมแ่ ชไ่ ป
ดองอยทู่ ่ีไหน มนั ก็จะเปล่ยี นเป็นสเี ป็นกลนิ่ ไป แตถ่ า้ เป็นธาตุ
ของนา้ํ ไมม่ เี จือปนก็สะอาดบรสิ ทุ ธิ์

เหตนุ นั้ จิตใจของคนเราน่ีมนั ไมม่ ีรูป มนั ไมม่ ีเครอ่ื งท่ีเราจะ
เอามาดเู หมือนรา่ งกายทนี ี้ ท่านก็มีแตส่ อนเปรยี บเทียบใหเ้ รา

6

เหน็ อยา่ งใหเ้ ทียบใหเ้ หน็ เป็นนา้ํ อยา่ งนี้ อยา่ งท่ีเราพดู กนั วา่ คน
มีนา้ํ ใจ คนมนี า้ํ ใจ คนเป่ียมดว้ ยเมตตา มนั กห็ มายถงึ นา้ํ เน่ีย
แหละคอื นา้ํ ท่ีสะอาดท่ีไปหลอ่ เลีย้ งหวั ใจ ท่ีถกู กล่นั กรองไปจาก
ไต ปาก อวยั วะตา่ งๆแลว้ หละ ทีนีม้ นั ก็ไปเก็บเป็นนา้ํ ดี นา้ํ
บรสิ ทุ ธิ์ นา้ํ สะอาด วา่ เป็นการรกั ษารา่ งกายของคนเราหละทีนี้
มนั เป็นอย่างนีเ้ ร่อื งของนา้ํ ของธาตทุ ่ีมนั มาเป็นธรรม มาเป็นคณุ
ทีนี้ เหตนุ นั้ ถา้ นา้ํ ในรา่ งกายในท่ีไหนกล่นั กรองหรอื ปรบั ใหเ้ ป็น
นา้ํ สะอาดไดด้ ีใหม้ นั เยน็ สนทิ อยา่ งนี้ เด๋ียวฝนมนั ก็ออกมาทีนี้
มนั ก็จะเยน็ จะช่มุ ช่ืน ไม่แหง้ แลง้ อย่างท่ีเขาวา่ มีนา้ํ ใจ ไมแ่ ลง้
นา้ํ ใจ และก็มจี ิตเมตตา มีความสงบรม่ เยน็ ไมแ่ หง้ แลง้

มนั ก็มาจากการปฏบิ ตั ิทงั้ นนั้ หละทนี ี้ คือรา่ งกายเน่ียแหละ
เป็นตวั ปฏิบตั ิ ปฏิบตั ิใหร้ า่ งกายก็เป็นตวั กรรมน่ะทีนี้ แตเ่ ราแตง่
เอาไมไ่ ด้ มนั เป็นธรรมเป็นสว่ นกศุ ล เป็นการปรุงแตง่ มาใหเ้ รา
เราเป็นแตเ่ พียงเป็นผแู้ กไ้ ขท่มี นั ไม่ดี ไม่เป็น ตดิ ขดั อะไรอย่างนี้
น่ีเราก็แกไ้ ขคอื ชว่ ย คือชว่ ยสว่ นท่ีเราจะดดั แปลงไปหละทีนี้
อยา่ งเราปฏิบตั นิ ่ีก็เหมือนกนั เราแกไ้ ขดดั แปลงทาํ จากรูปท่ี

7

ไดม้ าเดิมน่นั แหละ ใหม้ นั กลายไป ใหม้ นั เปล่ียนเป็นของท่ีดที ่ี
ควรอยา่ งนี้ อยา่ งท่ีเราเอารูปคนนะ่ เอารูปคนเอามาแปลงเป็น
พระ เอามาบวชนงุ่ เหลอื งห่มเหลือง โกนผมโกนควิ้ แลว้ ก็
ฝึกสอน ฝึกสอนใหอ้ ยใู่ นหลกั ศลี หลกั ธรรม หลกั ธดุ งค์ ขอ้ วตั ร
ปฏบิ ตั ิ มนั ก็เอามาจากคนจากรา่ งกายเน่ียแหละ จากชาวบา้ น
ธรรมดา เอามาฝึกมาดดั มาแตง่ แตง่ ใหม้ นั เป็น น่ีแหละแลว้
สว่ นท่ีแตง่ ก็คอื กศุ ลท่ีจะแตง่ ให้ เราไมม่ ีวธิ ีอ่นื หละจะแตง่ ได้ คือ
กศุ ลเป็นผแู้ ตง่ ทา่ นจงึ ใหช้ ่ือกศุ ลวา่ กสุ ลา...กสุ ลา ธัมมา กศุ ล
คอื กายท่ีจติ ท่ีมีความฉลาด คือเป็นชา่ ง เรยี กวา่ จิตของเจา้ ของ
รา่ งนนั้ เป็นช่าง เป็นชา่ งท่จี ะมาดดั แปลงมาแตง่ รูปบา้ นของ
ตวั เองรา่ งกายตวั เองนะ่ ใหม้ นั เป็น อยา่ งท่ีเราท่ีวา่ เอาคนมาบวช
เป็นพระ ลกู หลานเรามาบวชใหเ้ หน็ กบั ตาน่ี ก็ไมก่ ่ีวนั ก็เป็นเป็น
ฆราวาสเป็นโยมอยา่ งนี้ มาบวช วนั สองวนั ก็เหน็ เป็นพระขนึ้ มา
มนั ก็เปลย่ี นทกุ อยา่ งหละทนี ี้ เป็นสีผา้ สีผมปลงออกอะไรตา่ งๆน่ี
แตส่ ่ิงท่ีเราตอ้ งทาํ ก็คือปฏบิ ตั ิ ก็คอื บาํ เพญ็ กศุ ลคอื เจรญิ กศุ ล ถา้

8

เราไปอยแู่ คน่ นั้ มนั ก็ไมเ่ ป็นหละทีนี้ มนั กป็ ลอมอย่นู ่นั นะ่ เพราะ
เราไม่เป็นกศุ ล ไม่ทาํ กศุ ลไปสรา้ งไปดดั ไปแปลงหละทนี ี้

เหตนุ นั้ การท่ีเราหรอื พระสงฆท์ ่ีเขา้ มาบวชในพทุ ธศาสนาน่ี
มนั ไมไ่ ดม้ ีจดุ อ่นื ไมไ่ ดม้ ีจดุ มงุ่ หมายอ่นื นอกจากมาปฏบิ ตั ิมา
ดดั มาฝึกอบรมตวั เองอยา่ งนนั้ น่ะ ถา้ เราคดิ ไปเร่อื งอ่นื เราคิดวา่
บวชหาความสขุ สบาย ไม่ตอ้ งมีสิง่ บงั คบั ภายนอกอย่างนี้ คอื เรา
วา่ ไม่ไดล้ าํ บากเร่อื งชีวิตเร่อื งปัจจยั ใชส้ อย มนั ก็ไมถ่ กู
จดุ ม่งุ หมายของพระพทุ ธเจา้ หละทนี ี้ คือจดุ ม่งุ หมายของ
พระพทุ ธเจา้ จรงิ ๆน่ี ท่านบวชเพ่ือมาปฏบิ ตั มิ าดดั มาแตง่ กาย
แตง่ จติ อะไรน่ี ใหเ้ ป็นของบรสิ ทุ ธิ์ เป็นของสะอาดปราศจากเชือ้
โรค ส่ิงสกปรกมวั หมอง มนั เป็นอย่างนนั้ มนั ไม่ใชท่ ่ีจะเป็นไป
อยา่ งท่ีเราเหน็ เราคดิ ไป มนั ไมเ่ ป็นอยา่ งนนั้ เหตนุ นั้ ใจท่านต่นื
เม่ือบวชเขา้ มาแลว้ ก็ต่นื ทนี ี้ ไม่ไดห้ ลบั ไมไ่ ดป้ ระมาท ไม่ไดเ้ อา
วนั เวลาเอารา่ งกายไปเสียหายในทางอ่นื คือจติ มงุ่ ม่นั ท่ีจะเจรญิ
กศุ ลใหต้ น สรา้ งตนฝึกหดั ดดั แปลงขดั เกลารา่ งกายจิตใจของตน
อยา่ งเดยี ว

9

แตถ่ า้ เราเป็นฆราวาสน่ีเราไม่มีเวลาพอ เพราะเราตอ้ งไป
ประกอบอาชพี ทาํ มาหากิน แลว้ ก็ย่ิงเป็นพวกชาวนาน่ี ก็งานไม่
มีวา่ ง แลว้ เป็นงานลาํ บากตรากตราํ มาก ตอ้ งใชแ้ รงมาก ตอ้ งสู้
แดดสฝู้ น เวลาเราจะไปปฏบิ ตั ิมนั กห็ มดไป เหตนุ นั้ เวลาท่ีไดม้ า
บวชเน่ยี มนั เป็นเวลาเตม็ ทงั้ หมดท่ีใหเ้ ราสรา้ งกศุ ลปฏบิ ตั ติ นได้
อย่างเดยี ว คือไม่ไดม้ ีฝ่ายบาปฝ่ายช่วั เลย คอื สรา้ งแตค่ วามดี
ตลอด นบั วนั เวลาเรยี งลาํ ดบั หละทีนี้ ถา้ เราไม่ทาํ อยา่ งนนั้ มนั
ไม่ไดห้ ละ ความท่ีไม่รูไ้ ม่เป็นชา่ ง ไมร่ ูจ้ กั กิจการงานท่ีเราตอ้ งทาํ
อะไรเน่ีย ไม่ได้ เราก็อย่อู ยา่ งนนั้ ทนี ี้ นิสยั จติ ใจเราเคยเป็น
อย่างไร อยา่ งเคยเป็นฆราวาสนีก้ ็ไมเ่ ปล่ียน ก็จะเป็นอยา่ งเดิม
หละทนี ี้ จะมีความโลภความโกรธความหลง จะมีนิสยั จติ ใจท่ีไม่
เรยี บรอ้ ยไมส่ าํ รวมก็เป็นไปตามทนี ี้ เพราะวา่ อาํ นาจของบาป
ของอกศุ ลของกิเลสน่ะแหละมนั ดดั แปลงไป ทางกิรยิ ามารยาท
ของรา่ งกาย คาํ พดู อะไรตา่ งๆมนั ก็แสดงหมดหละ หวั เราะบา้ ง
เลน่ บา้ ง อะไรบา้ ง อนั นนั้ มนั ก็ไมใ่ ชธ่ รรมหรอกนะ่ กิเลสมนั
บงั คบั หรอื วา่ มนั ทาํ ใหเ้ ราหลง ทาํ ใหเ้ ราเพลิน เราตอ้ งรูจ้ กั ตรงนี้

10

รูจ้ กั วา่ การปฏิบตั คิ ือวา่ เป็นการฝึกชา่ ง ฝึกกายฝึกจติ น่นั แหละ
ไมว่ า่ จะชาวบา้ นหรอื พระก็เหมือนกนั

เหตนุ นั้ อยา่ งในธรรมจกั รน่ีท่เี รากลา่ วคาํ บชู าธปู เทียนไป
ก่อน ซง่ึ เป็นคาํ ท่ที ่านเขียนมาเพ่ือความเคารพบชู าคณุ พระพทุ ธ
พระธรรม พระสงฆ์ คณุ พระรตั นตรยั ในพระพทุ ธศาสนาน่นั แต่
สว่ นพระสตู รท่ีธรรมจกั รท่ีเราสวด อนั นนั้ เป็นเร่อื งธรรมะ เราเหน็
ตวั หนงั สอื เราอา่ นออกเราทอ่ งไดส้ วดได้ แตค่ วามหมายท่ีจะไป
สอนใจเราอีกทีนะ่ ทนี ี้ ตอ้ งเอากลบั มา ตอ้ งเอากลบั ตอ้ งเอามา
แปล เหตนุ นั้ ธรรมคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ ทงั้ หมดน่ี มนั เป็นเรอ่ื ง
ปรบั มนั เป็นเรอ่ื งแก้ ไมใ่ ชเ่ ป็นเรอ่ื งท่ีจะหลงไปไกล ไมใ่ ช่เป็น
เรอ่ื งท่ีจะใหเ้ ราผกู พนั หรอื ทาํ ใหเ้ รายงุ่ ยากอะไรน่ะ เป็นเรอ่ื งแก้
ทงั้ หมด จงึ เอากลบั มา เหตนุ นั้ ในธรรมจกั รก็มีความหมายเป็น
ธรรมะทงั้ หมดท่ีคดั ออกมาแลว้ เป็นสง่ิ เคร่อื งแก้ แกก้ รรมแก้
กิเลสทงั้ หมดนะ่ ฉะนนั้ เราไม่ไดเ้ รยี นบาลี ไม่ไดแ้ ปลบาลีไว
ยกรณ์ เราไม่รูค้ าํ แปลหมดแตเ่ ราก็ไดต้ วั อรรถตวั บาลีสวดท่อง

11

จาํ เป็นกศุ ล เป็นมงคลก็คือการท่ที า่ นสอนใหเ้ ราเป็นชา่ ง คอื ทาํ
กศุ ลใหเ้ กิด บาํ เพ็ญกศุ ลใหแ้ กก่ ลา้

อย่างในท่ีวา่ จติ ในปริวัตร ๑๒ ในอรยิ สจั น่นั มีอยา่ งละ ๓
ละ ๓ คอื ทกุ ขสัจ สมุทยั สัจ นิโรธสัจ มัคคสัจ ทา่ นเรยี ก
ปรวิ ตั รมี ๑๒ คอื ๑๒ น่ีทา่ นแบง่ ออกเป็นอยา่ ง ๓... ๓ × ๔ ๑๒
ปรวิ ตั รคอื การท่ีเราจะตอ้ งทาํ ใหเ้ ป็นวตั ร เป็นกิจวตั ร ตอ้ งปฏิบตั ิ
เป็นนิจ จะตอ้ งเอาจติ จดจ่อ ไมใ่ ชว่ า่ ปลอ่ ยละเหลงิ หละทีนี้ ใน
ธรรมนนั้ ถึงจะเป็นไปใจถึงจะหมนุ เป็นจกั ร ธรรมจกั รคอื จกั รคือ
ธรรมท่ีจะหมนุ ออกไปจากกิเลสทนี ี้ และหมนุ ไปตามธรรม ตาม
กศุ ลธรรม ไม่ไดไ้ ปทางฝ่ายบาปฝ่ายอกศุ ลฝ่ายไมร่ ูอ้ ะ้ เรยี กวา่
ไปในฝ่ายกศุ ล

ในปรวิ ตั รท่ี ๓ น่นั ท่านก็บอกวา่ กิจอนั หนง่ึ เรยี กวา่ กิจจ
ญาณ กิจจญาณน่ีก็คอื กิจกค็ ือรา่ งกายก็คอื กิจของเราน่นั หนะ
ใหม้ ีความรูย้ านพาหนะเป็นเคร่อื งนาํ ไป มีรถอย่างนที้ ีนี้ ใหม้ ี
กิจจญาณ กิจจญาณคืออะไร กิจจญาณคอื มรรคขอ้ ปฏิบตั ิหละ
ทีนี้ อย่างท่ีวา่ เราปฏบิ ตั ิศลี อย่างศลี ของโยม ศีลของพระเน่ีย

12

เป็นกิจจญาณท่ีเราเรม่ิ นอกนนั้ ก็เป็นพวกสมาธิอยา่ งนีก้ ็เป็นกิจ
เป็นกศุ ลทงั้ หมดหละน่ี แลว้ ก็พวกปัญญาก็เป็นเครอ่ื ง เป็นพลงั
ของญาณของจิตท่ีทาํ ใหเ้ ราหมนุ ใหเ้ รารูไ้ ปในกายในจติ ของเรา
ตดิ ตามกนั ตลอดนะ่ ท่ีเรามสี ตมิ ีชีวติ อย่นู ะ่ น่ีก็เรยี กวา่ กจิ จ
ญาณ

แลว้ นอกนนั้ กย็ งั มสี ัจจะญาณอีก สจั จะญาณคอื จะตอ้ งมี
สจั จค์ วามจรงิ เม่ือทาํ กิจทกุ สิง่ จะตอ้ งเป็นไปดว้ ยความสจั จ์
จะตอ้ งประกอบดว้ ยความสจั จท์ ่ีตงั้ ลงท่ีใจวา่ เราจะทาํ อะไร เรา
จะเดนิ จงกรม เราจะท่องสวดมนต์ เราจะทอ่ งใหไ้ ดเ้ ท่านี้ นนั้
เรยี กวา่ เป็นสง่ิ ท่ีเราจะตอ้ งมีสจั จญาณ ก็ชาวบา้ นจะทาํ กจิ การ
งานอาชพี ก็เหมือนกนั ถา้ ไมม่ ีหลกั อยา่ งนี้ ไมเ่ จรญิ ทาํ ไปก็ทาํ ได้
แตม่ นั ไม่เจรญิ ไมย่ ่งั ยืน เพราะมนั ขาดหลกั ธรรม หลกั ธรรมท่ีวา่
กิจจญาณอยา่ งนี้ ท่ีทาํ ไปอยแู่ ตไ่ มร่ ูว้ า่ เร่อื งท่ีเราทาํ หรอื เราจะ
ทาํ เพ่ืออะไรอยา่ งนี้ ขนาดไหนเราไม่รู้ เราจะทาํ อยา่ งเดยี ว มนั ไม่
มีหลกั ธรรม หลกั ธรรมจกั ร ไม่มีปรวิ ตั รเขา้ ไปเป็นเครอ่ื งแบบ
เคร่อื งแปลนไม่ไดห้ ละทนี ี้ กไ็ มไ่ ด้ ไมว่ า่ จะเป็นงานทางโลกหรอื

13

งานทางศาสนาเหมือนกนั อย่างเราคิดอยากทาํ เราก็ทาํ เราขี้
เกียจเราเบ่ือเรามีอะไรติดขดั เราก็ทงิ้ บางทีเราคดิ มาใหมเ่ ราก็
ทาํ ไป อนั นีข้ าดทีนี้ มนั ไม่ไปตามธรรมจกั รของพระพทุ ธเจา้ แลว้
หละทนี ี้ มนั ไมห่ มนุ ทนี ี้ มนั ตดิ ขดั แลว้ แลว้ มนั ก็หมนุ ไปทางผดิ
ทางบาปทางฝ่ายอกศุ ลนะ่ มนั ไมห่ มนุ ไปทางกศุ ล จงึ วา่ สจั จ
ญาณ สิง่ ตา่ งๆท่ีคนทาํ กิจการทาํ ความดี สรา้ งสรรคช์ ีวติ ทกุ
อยา่ ง ทาํ จติ ใจใหเ้ ป็นความสงบรม่ เยน็ ไดก้ ็อาศยั สจั จญาณ มี
สจั จะวา่ จะทาํ สงิ่ ใด ทาํ เทา่ ไร กาํ หนดเวลาจะใหไ้ ดใ้ หถ้ งึ ใหเ้ สรจ็
มนั ตอ้ งมีพรอ้ มหมดทนี ี้ ถา้ ไมม่ ีอยา่ งนที้ าํ ไปได้ แตม่ นั ไม่เป็น
ผลดี ถงึ ออกรูปรา่ งมามนั ก็ไม่เป็นดี เพราะมนั ขาดกศุ ล ขาดชา่ ง
ขาดธรรมตวั นี้

เหตนุ นั้ เราสอน…ตวั เรานีก้ ็ไม่ใชว่ เิ ศษ แตเ่ ราสอนเสมอๆวา่
คนท่ีไมร่ ูไ้ ม่เป็นก็มีมากก็อยากจะฝึกจะสอนใหเ้ ป็นแตเ่ ราก็สอน
การทาํ วธิ ีทาํ ใหเ้ ป็นดว้ ยวา่ จะทาํ ในส่ิงท่ีมนั ถกู มนั ดเี น่ีย เรา
เมตตาสงสารท่ีสดุ เราอยากจะชว่ ยจะสอน เราก็บอกตรงวา่ เน่ีย
เราจะทาํ อะไรเราก็ถือหลกั จติ เอาหลกั จิตเป็นเคร่อื งกาํ หนด

14

ไม่ใช่วา่ เราคดิ จะทาํ ก็ทาํ ไปดว้ ยวา่ วตั ถมุ นั มี ไม่มีมาตรฐาน ไม่มี
การวางแปลนวางแบบอย่างนี้ ไม่มีตวั อยา่ งมาก่อนน่ี เราจะตอ้ ง
มีพรอ้ ม การปฏิบตั ิน่ี อย่างพระพทุ ธเจา้ พระอรยิ เจา้ เป็น
ตวั อย่างท่ีเป็นมาทางพระพทุ ธศาสนาเราน่นั น่ะ ตอ้ งถือเอา ตอ้ ง
ดู เหตนุ นั้ เราตอ้ งเอาตามแบบท่าน อยา่ งเราจะทาํ อะไรก็
เหมือนกนั หละทีนี้ เราคิดอารมณห์ รอื จติ ท่ีลงฤกษล์ งแรก ตอ้ ง
คิดวา่ จะทาํ ใหด้ ี จะทาํ อะไรทกุ อยา่ งท่ีจะเป็นกิจการงานน่ีจะคิด
วา่ ตอ้ งทาํ ใหด้ ี มนั จะดีไดข้ นาดไหน ถา้ มนั ไม่ดเี ราก็แกไ้ ข แลว้
เราก็เปล่ยี นท่ีเปล่ยี นทศิ เปลย่ี นทางใหม้ นั เป็นดไี ด้ คือมนั แกไ้ ข
ได้ มนั ทาํ ใหด้ ไี ด้ มนั ไม่เหลอื วิสยั จะทาํ อะไรก็เหมือนกนั เหตนุ นั้
ครูบาอาจารยพ์ ระกรรมฐานพระธุดงค์ ทา่ นไมห่ นีแบบอะไร
เพราะท่านเหน็ วา่ ผทู้ ่ที า่ นเป็นแบบน่นั ทา่ นไมใ่ ช่คนธรรมดาแลว้
ทา่ นทาํ ไวน้ ่ะ เราไปสงั เกตดู ดทู กุ อย่างในตวั ทา่ นในท่ีอย่ใู นอะไร
ดใู นกิรยิ ามารยาทท่ีมีในรา่ งกายน่นั ตอ้ งดวู า่ เป็นเพราะอะไร ก็
จิตฝึกจิตเป็นหละทนี ี้ เพราะวา่ มกี ิจจญาณ และก็มีสจั จญาณ
ดว้ ย

15

แลว้ ปรวิ ตั รท่ี ๓ ก็คือ กตญาณ จะตอ้ งรูจ้ กั กาํ หนดตวั
กาํ หนดรา่ งกายเราดว้ ยวา่ เราจะใหไ้ ดป้ ระมาณหรอื ใหพ้ อดกี บั
แรงกบั กาํ ลงั ท่ีเรามีอยู่ หรอื วา่ เรามีตาเป็นผทู้ ่ีพาใหด้ งู านดคู วาม
ดีความถกู ตอ้ งของจติ ท่ีเราทาํ ขนึ้ น่นั นะ่ คอื วา่ เป็นผทู้ ่ีตรวจงาน
ตรวจผลงานนะ่ คอื ตา เหตนุ นั้ จงึ วา่ กตญาณคือวดั ดว้ ยตาวา่ มนั
ถกู มนั เป็นมยั้ ตาเรามี ตาเราไม่บอด เราดไู ด้ คนเราก็มี
เหมือนกนั หมดอะ้ ทีนี้ ไม่มีวา่ ใครบกพรอ่ ง จะมีบา้ งก…็ คอื
สติปัญญาซง่ึ เป็นกระแสตาในท่ีจะมาดู ถา้ คนตาดี มีชา่ งในจติ
เคา้ ก็ไม่ตอ้ งไปถามหละทีนี้ ตาเคา้ ทะลไุ ปเหน็ แลว้

เหตนุ นั้ ปรวิ ตั รทงั้ ๓ เน่ียแหละมนั เป็นส่ิงประกอบใน
ธรรมจกั ร พระพทุ ธเจา้ ท่านก็เทศนอ์ บรมนิสยั ของปัญจวคั คียท์ งั้
๔ องคท์ ่ีไมไ่ ดบ้ รรลธุ รรม สว่ นพระอญั ญาโกณฑญั ญะนนั้ ทา่ นมี
บารมีพอ บารมีถงึ ทา่ นรูไ้ ดท้ นี ี้ รูไ้ ดก้ ็คืออะไร คอื เรอ่ื งท่ีเราไดเ้ ห็น
ไดย้ ินอยเู่ น่ยี แหละ คือมนั เกิดมนั ดบั ใหเ้ หน็ น่ี ก็เหมือนอยา่ งฝน
น่ี มนั เกิดตกมาเวลามนั จะหยดุ มนั ก็ดบั น่งิ น่นั ทา่ นรู้ แตไ่ ม่ไดร้ ู้
ตามสญั ญาท่ฟี ังจากเสยี งภายนอก รูจ้ กั รูท้ างใจทา่ น ไมใ่ ชร่ ู้

16

ตามสญั ญา ทา่ นไดร้ ู้ รบั รองไดร้ ู้ ตามพระองคไ์ ดถ้ ึงพระองค์ แต่
สว่ นท่ีพระองคน์ ีท้ ่านกม็ ีสตปิ ัญญามากแตย่ งั ตอ้ งมาทาํ กิจ
จะตอ้ งมารอเวลาอยู่ อยา่ งท่ีวา่ จะตอ้ งมาบาํ เพ็ญพวกกิจจญาณ
สจั จญาณ กตญาณอยา่ งนี้ คือญาณทงั้ ๓ น่ีมนั เป็นตวั ท่จี ะเป็น
พลงั เขา้ ไปเสรมิ สรา้ งสตปิ ัญญาหละทีนี้ คอื การทาํ ของรา่ งกายก็
จะตอ้ งเอามาทาํ กศุ ล เอามาบาํ เพญ็ มาภาวนามารกั ษาศลี ให้
เต็มท่ีหละทีนีเ้ พ่ือจะใหม้ นั เกิดผลขนึ้ มาทางจิต แลว้ ก็สจั จญาณ
ก็เหมือนกนั คอื มนั ไม่มีความสจั ความจรงิ กบั ตวั เองเน่ีย บางที
มนั กห็ ลอกตวั เองบา้ ง บางทีมนั กว็ า่ เล่อื นน่นั เคล่ือนน่ี เรยี กวา่
กิเลสคอื มนั เลท (late) เราตอ้ งเขา้ ใจคือมนั เลทเร่อื งความจรงิ น่นั
แหละ มนั ไมเ่ อา เราจะรูเ้ ลยวา่ ถา้ ไมเ่ อาไหนเราก็รู้ ไม่ตอ้ งไป
ถามหละ ตวั เราก็รูม้ นั ไมเ่ อาไหน สิ่งมนั ไม่เอาเพราะอะไร มนั
กลวั ทกุ ข์ ไปเหน็ ความลาํ บากเทา่ นนั้ แหละก็ทงิ้ ทิง้ หละทีนีม้ นั ก็
ไม่ได้ เพราะธรรมของพระพทุ ธเจา้ คอื ทกุ ข์ ผทู้ ่ีไดธ้ รรมคอื ไดท้ กุ ข์
มนั ไมใ่ ชเ่ หมือนวา่ โยมเคา้ คดิ วา่ เคา้ ปรารถนาความสขุ ไม่อยาก
กระทบอะไร แตธ่ รรมของพระพทุ ธเจา้ ไมเ่ ป็นอย่างนนั้ คือทกุ ข์

17

ท่านไดท้ กุ ข์ แตถ่ า้ คนยงั กิเลสยงั พาใหห้ ลงไปก็ มนั ก็ไมร่ ูห้ ละ
มนั กว็ า่ จะเอาความสขุ แหละ มนั ไมไ่ ด้

อย่างนนั้ ถา้ เราเขา้ ใจถกู อยา่ งนี้ เราก็จะไดเ้ ห็นกศุ ล เหน็
ธรรม เหน็ สง่ิ ท่ีมีในตวั เราทกุ คนน่นั แหละ แตว่ า่ มนั ไม่รบั ทีนี้ ใจ
มนั ไม่รบั ...ไมร่ บั เอาธรรม มนั ทงิ้ พอมนั ทงิ้ มนั ก็เลทเราไปเรอ่ื ย
วนั นีเ้ ดือนนีป้ ีหนา้ ชาตหิ นา้ มนั ก็เอาอีกอยา่ งเก่าเพราะมนั ไดใ้ จ
มนั เคยแลว้ เราก็ฝึกไม่ได้ ขบั ไมไ่ ดเ้ หมือนชา้ งมา้ ท่ีฝึกไมไ่ ด้ จะ
เอาไปอะไร ท่ีสดุ ก็คือเขาเอาไปฆา่ กินเนือ้ คอื ไม่มีคณุ คา่ ทงั้
รา่ งกายและชีวิต เหตนุ นั้ เราตอ้ งรูว้ า่ ธรรมพระพทุ ธเจา้ น่กี ็เป็น
เรอ่ื งของเราท่ีมีการทาํ กนั อยู่ แตเ่ ราจะตอ้ งมาเพ่ิมมาเรง่ มารูจ้ กั
แกไ้ ข ก็คอื เรอ่ื งของใจน่นั แหละ แลว้ เราก็ตอ้ งดตู อ้ งตรวจผลของ
เราดว้ ย อย่างพระสงฆส์ ามเณรก็เหมือนกนั ไม่ใช่วา่ เออ อย่าง
ท่ีวา่ เราเอาคนมาแตง่ เป็นพระเป็นเณรหละทีนี้ แลว้ ส่งิ ท่ีเราจะ
แตง่ ใจเราอีกอะ้ เราจะตอ้ ง...เราจะตอ้ งปรารถนาจะตอ้ งมีความ
มงุ่ หมายตรงนนั้ สง่ิ ใดท่ีเราเขา้ มาใหม่เราไม่เป็นไม่รูอ้ ะไร อยา่ ง
นีแ้ หละทีนี้ เหมือนเราเกิดใหม่ เกิดแคไ่ มก่ ่ีวนั ก่ีเดือน แตส่ มยั นี้

18

เคา้ ก็มกั จะเอาความสขุ กอ่ น คือไมต่ อ้ งทาํ คอื เอาความสขุ ท่ีวา่
ไมต่ อ้ งทาํ หละทีนี้ ก็สบายเลย มนั ไมไ่ ดท้ ีนี้ พอเกิดมาก็เกิดมา
ทาํ มาสรา้ งเทา่ นนั้ แหละ ทาํ ก็ทาํ ใหเ้ ราเกิดอย่แู ลว้ ถา้ งนั้ เราก็
ตอ้ งทาํ เพ่ือทาํ นนั้ จะไดส้ มบรู ณ์ ทาํ นนั้ จะไดม้ ีผลมาก มีอานิสงส์
มาก เราจะใหม้ นั เกิดเองเป็นเองไปน่งั คดิ นอนคอยไม่ไดท้ ีนี้ มนั
เป็นเพราะทาํ

เหตนุ นั้ จงึ วา่ เร่อื งชา่ งเรอ่ื งกศุ ลเรอ่ื งชา่ งไตรลกั ษณช์ า่ งจติ
ของเราทกุ คนน่ะ เป็นบารมี เป็นพวกปฏวิ ตั ิพวกปฏบิ ตั ิหละทีนีท้ ่ี
จะทาํ ใหเ้ ป็น แตว่ า่ เป็นมาเป็นนอ้ ยน่ีมนั กอ็ ยทู่ ่ีพลงั หละทีนี้ อยทู่ ่ี
แรงบญุ อย่ทู ่ีความเป็นช่าง อย่ทู ่ีธรรมจกั ร อย่างเคร่อื งจกั รมนั
จะแรงน่ีก็เพราะวา่ เคร่อื งมนั ตงึ มนั สมบรู ณ์ ถา้ เคร่อื งมนั
หละหลวมมนั เส่ือมโทรมมนั ก็ไม่มีแรงเหมอื นกนั เราก็จะรูจ้ กั
เหมือนกนั จะตอ้ งมาอยใู่ นความตงึ ความแข็งแรง ความเครง่ น่ี
อยา่ งพระน่ีก็ถือเครง่ ปฏบิ ตั ิเครง่ อย่างท่ีเขาวา่ มนั ถงึ จะมีกาํ ลงั
ทีนี้ มีความแข็งแรงขนึ้ ถา้ มนั หย่อนยานมนั ก็เอาหละทนี ี้ มนั ไม่
มีแรงหละนี้ มนั ไมห่ มนุ ไม่ไปแลว้ กิเลสมนั มดั เอาไวห้ ละทีนี้ มนั

19

ก็เลท ถา้ มนั เลทเราไปนานๆน่ีย่งิ หลายเดอื นหลายปีไป เวลาท่ี
มนั เสยี ไปมากมนั ไม่ผลอะไรกบั จิตใจเราเลย เพราะวา่ มนั ไม่ได้
น่นั คอื กิเลสมนั …เราไม่มีสว่ นได้ เรามีแตเ่ สีย ถา้ กศุ ลหรอื วา่
ธรรมเน่ีย เราเป็นสว่ นได้ ถงึ เวลานอ้ ยเราก็ไดม้ าก อยา่ งท่ี
คนทาํ งาน คนท่ีมีชา่ งมกี าํ ลงั ก็จะไดม้ ากกวา่ กนั คนทาํ นาก็จะ
ไดผ้ ลมากกวา่ กนั เพราะวา่ กาํ ลงั หรอื ความเพียร ความอตุ สาหะ
มาก ทกุ อยา่ งเลือกสรรสงิ่ ท่ดี ีมาผกู มาสรา้ งมาทาํ นะ่ มนั จะไดม้ ี
ผลมากทีนี้ ตา่ งกนั ตรงนี้

เหตนุ นั้ เราเป็นผทู้ ่ีปฏิบตั ิ คือปฏบิ ตั ิตามหลกั ตามมรรคตาม
ทางของพระพทุ ธเจา้ นะ่ ท่ีวา่ ธรรมจกั รน่ะ ไมใ่ ชว่ า่ เราจะมาคิด
มาคน้ เองได้ เพราะพระพทุ ธเจา้ ทา่ นตดั เสน้ ทาง ทา่ นรกั ษา
เสน้ ทางไวใ้ หพ้ ทุ ธบรษิ ัทอยา่ งพระภกิ ษุ ภกิ ษุณี อบุ าสก
อบุ าสิกาเน่ียนะ่ ไดด้ เู สน้ ทางดรู อยกา้ ววา่ ทา่ นกา้ วไปอยา่ งไรท่ี
ทา่ นไปน่ี เหตนุ นั้ การไปของจติ การไปของญาณ เราไมร่ ู้
เพราะวา่ ความลกึ ลบั ความละเอยี ดหละทนี ี้ คนเราท่ียงั โง่เขลา
ยงั ตามืดก็ไม่เหน็ หละทีนี้ เพราะวา่ มนั ไมใ่ ชเ่ ป็นเสน้ ทางอย่าง

20

ถนนน่ี มนั เป็นทางจิต ทางความรูท้ า่ น ทา่ นวางไวค้ วามรูต้ รงนี้
ถา้ เรายกจติ ของเราขนึ้ ไปสเู่ สน้ ทางหละทนี ีม้ นั ถึงจะรู้ ทา่ นจงึ
เปรยี บวา่ เรายงั ออ่ น บารมีเรายงั ต่าํ ยงั ชา้ เราก็ตอ้ งสาํ นกึ ตวั ได้
แตต่ อ้ งสงสารตวั เอง สงิ่ ท่ีควรจะทาํ น่ะ ควรจะแกไ้ ขควรจะเพ่ิม
อะไรใหม้ นั มีขนึ้ มาอย่างนีน้ ะ่ อยา่ งท่ีวา่ พวกโยมทาํ บญุ ก็รูว้ า่ สงิ่
ท่ีเราบกพรอ่ งอะไร เรายงั ขาดปัจจยั สิง่ เครอ่ื งไทยทานอะไร เราก็
ทาํ ลงไปใหม้ นั มีขนึ้ อยา่ งท่ีวา่ ปฏบิ ตั กิ ็เหมอื นกนั เราก็รูว้ า่ ขอ้ สงิ่
ไหนท่ีมนั หย่อนมนั ออ่ น เราก็เพ่ิมเขา้ ไป เราก็จะไดม้ ีพลงั กศุ ล
และจิตของเราก็จะไดเ้ ป็นชา่ งขนึ้ มีความฉลาดแหลมคมรอบรู้
รอบรูใ้ นการท่ีจะสรา้ งเครอ่ื งอย่ขู องตวั เอง หรอื การรกั ษาสถานท่ี
ของตวั เอง อยา่ งรกั ษารา่ งกายอยา่ งนี้ ท่ีเรามาถือศีลรบั ศีลเราก็
รกั ษารา่ งกายเราอย่างเดยี วน่นั แหละ ไม่ไดไ้ ปเพ่ืออย่างอ่ืน
อย่างศลี พระก็เหมือนกนั คอื รกั ษารา่ งกาย ใหม้ นั ปราศจากโลก
ปราศจากบาปกรรมเวร ความพกิ ลพกิ ารตา่ งๆท่ีมนั จะเป็นผลมา
จากความผิดศีลหรอื เป็นบาปน่นั ก็มารกั ษาตวั รา่ งกายของเรา
ตวั บา้ นของเรา รกั ษาใหม้ นั ปลอดจากบาปจากสง่ิ ไม่ดโี รคภยั ไข้

21

เจ็บหละทีนี้ นอกนนั้ ความรูต้ า่ งๆ เราก็มารกั ษาจิตของเราหละที
นี้ ไม่ใหโ้ ลก อารมณ์ คอื กิเลสตา่ งๆท่ีมนั จะมาฟักเชือ้ จะมาเรอื้ รงั
ในจติ จะตอ้ งมีฝึกปัญญาปกติรกั ษาหละทีนี้ เราถงึ จะไมม่ ีโรคมี
ภยั มาเกิดมากวนเราทนี ี้ ถา้ เราไม่รกั ษา โลกคือกิเลสน่ีมนั ก็
ลงโทษ มนั กก็ วนเราหละทีนี้ มนั ก็เหน็ อยทู่ นี ี้ มนั ไม่ดี

เหตนุ นั้ การฝึกการทาํ ทกุ อยา่ งน่ี มนั เป็นหลกั ธรรมหลกั ท่ี
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นไดส้ อนในหลกั ธรรมจกั รทงั้ หมดหละทีนี้ สอน
ไว้ ไมใ่ ช่เฉพาะปัญจวคั คยี ์ พทุ ธบรษิ ัททงั้ ๔ ก็เรยี กวา่ จะตอ้ ง
ถือเอาหลกั ทงั้ หมดหละทีนี้ ใหถ้ กู มรรคถกู ทางหละทีนี้ ถา้ เรา
ปฏบิ ตั ทิ างนนั้ เราก็เป็นผทู้ ่ีมบี ารมี มีสติปัญญา มีความดีท่ีมา
แกไ้ ขรา่ งกายจิตใจเราหละทีนี้ ก็วา่ เปล่ียนไปจากท่ีวา่ สง่ิ ท่ีเราไม่
เคยมีเคยเป็น ไมเ่ คยรูเ้ คยเหน็ สง่ิ ท่ีเราทาํ ไมไ่ ดไ้ มเ่ ป็นมนั ก็มีขนึ้
ถา้ อยา่ งนนั้ มนั ไมเ่ ป็น ถา้ เราไมแ่ กไ้ ขมนั นะ่ ไมฝ่ ึกมนั อย่างท่ีวา่
มนั มีอยกู่ บั ท่กี บั ตวั เรา มนั ก็ไม่เป็นเพราะเราไม่ไดด้ ดู ว้ ยตาดว้ ย
ปัญญาของเราน่ะ อยา่ งท่ีวา่ มนั ไมม่ ีพวกกตญาณอยา่ งนี้ คือไม่
มีการดกู ารกาํ หนด ถงึ มนั ตดิ ตวั อยใู่ กลต้ วั เราก็ไมเ่ หน็ เพราะวา่

22

มนั บงั อยู่ มนั บงั ความคิดความรูเ้ รานิดเดยี วมนั ไมเ่ หน็ แลว้ เหตุ
นนั้ เราตอ้ งมีกศุ ลกรรม มีธรรมเครอ่ื งชว่ ยสรา้ งบารมี สรา้ งความ
ดจี ากการบาํ เพญ็ ภาวนาของเราหละทีนีใ้ หม้ นั เป็นขนึ้ มาได้ แลว้
การทาํ นาของเรามนั ก็เป็นหนา้ ท่ีหรอื วา่ เป็นสถานท่ีท่ีเราจะตอ้ ง
ทาํ ใหไ้ ดม้ ีขา้ วมีของท่ีเราตอ้ งการ ซง่ึ เป็นกจิ ท่ีเราควรทาํ ถา้ เรา
ไมท่ าํ เราไม่มี ก็เหมือนคนไมม่ ีขา้ วกนิ อยา่ งนี้ รา่ งกายชวี ติ มนั ก็
จะไม่มีกาํ ลงั ไมม่ ีส่งิ ท่ีมาหลอ่ เลีย้ งหละทีนี้ เหตนุ นั้ การท่ีเราทาํ ก็
มนั เป็นกศุ ลฝ่ายรา่ งกาย มนั เป็นกศุ ลสว่ นท่ีไปเป็นภายในเป็น
สติปัญญาท่ีจะไปเป็นเคร่อื งหลอ่ เลีย้ งใจเราทนี ี้ ทีง้ สองอย่างนี้
เรยี กวา่ เป็นนา เป็นนาใจนากายของเรา เป็นนาถะ เป็นท่ีพง่ึ ของ
เราทกุ คน จะตอ้ งมีการทาํ มีการปฏบิ ตั กิ นั จะตอ้ งมีสมบตั ิมี
มรดกหละทีนี้ เราถึงจะเป็นคนมีพออยพู่ อกิน ถา้ พดู ถงึ ตาม
ภาษาเราก็ไมย่ ากไมจ่ นหละทีนี้ เหตนุ นั้ ถา้ เราปฏิบตั ิเราก็ไมย่ าก
ไม่จน เพราะมีศลี มีความดี แคม่ ีศีลไมม่ ีทรพั ย์ มนั ก็ดีกวา่ ทรพั ย์
อกี อะ้ ทา่ นวา่ เพราะมีศลิ ปะ ไมม่ ีเงินลงทนุ แตศ่ ลิ ปะเคา้ อย่าง
เดยี วเคา้ ก็แลกเป็นเงนิ เป็นทรพั ยไ์ ดห้ ละทีนี้ คนก็ตอ้ งใหเ้ ขาตอ้ ง

23

จา้ งเขาอะไรอยา่ งนีแ้ หละ เหตนุ นั้ จงึ มีคา่ กวา่ เงนิ อกี อะ้ ศิลปะ
ศีลธรรม มีคา่ กวา่ เงนิ ท่ีเราแลกเปล่ียนกนั

น่ีเรยี กวา่ เราฝึกฝน เราเขา้ ฤดฝู น เราสละออกมาจากบา้ น
จากสถานท่ที ่ีเรามีกิจยงุ่ ยากลาํ บากอย่างน่ีแหละ บางทีเราก็
ตอ้ งทาํ บาปมากกวา่ อยา่ งนี้ อยา่ งท่พี ระมาบวชกเ็ ทา่ กบั วา่ การ
มาบวชก็เป็นอบุ ายการออกจากบา้ น คอื เป็นการท่ีเปล่ยี นเพศ
เปล่ยี นอบุ ายออกจากบา้ น คือออกจากท่เี ป็นบาปน่นั เอง เม่ือ
เรามาถงึ ท่ีเป็นบญุ ท่ีสรา้ งบารมีสรา้ งสตปิ ัญญาใหเ้ ป็นชา่ งขนึ้ มา
มนั เป็นสถานท่ีเป็นโอกาสและเป็นเวลาท่ีไดเ้ ตม็ เราจะตอ้ งเรม่ิ
ตอ้ งสาํ นกึ มาเตอื นมาสอนเรา ถา้ เราไมน่ กึ อย่างนนั้ นะ่ เราก็
เพลินก็หลง คลา้ ยๆวา่ มนั ไมม่ ีส่ิงกระตนุ้ แลว้ ทีนี้ ถา้ วา่ เป็นพระท่ี
ไมป่ ฏิบตั ิท่วั ไป ท่ีเราเหน็ ท่เี ราตาํ หนิกนั ก็จะเป็นอยา่ งนนั้ น่ะทีนี้
เคา้ ก็วา่ เอะ๊ ทาํ ไมเป็นพระ ทาํ ไมไปทาํ ไมด่ ี ทาํ ไมตอ้ งมีเรอ่ื งผดิ
กฏหมายบา้ นเมือง แนะ่ มนั ไม่สาํ นกึ ตวั แลว้ ส่งิ อ่ืนท่ีไมด่ กี ็
เหมือนกนั ถา้ เราปฏบิ ตั ไิ ม่ดี จิตเราไมด่ ีอะไรไม่ดกี ็เหมือนกนั คือ
ความผดิ ของเราน่ีเองอะ้ ไมใ่ ชใ่ ครไปทาํ ใหเ้ รา เราตอ้ งหาคน้ ดทู ่ี

24

มนั ผดิ จดุ ท่ีมนั ผดิ ในจติ เราใหไ้ ด้ ถา้ เราไม่คน้ ไมห่ าไม่รูจ้ กั แก้
ตรงความผดิ แลว้ มนั ก็ไม่ดที ีนี้ มนั ก็ยงั จะตอ้ งบงั คบั จติ ใจของ
เราใหม้ นั เป็นความไม่ดไี ปตามอยู่

น่ีเรยี กวา่ ธรรมท่ีมนั มี มีอยกู่ บั โลกกบั ตวั อยา่ งฟา้ ฝนท่ีมนั ทาํ
อย่กู บั กาลเวลา แลว้ ความเป็นของฝนมนั ก็เป็นของดที ีนี้ เป็น
ของเย็นของบรสิ ทุ ธิ์ ของสะอาด ปราศจากพวกสง่ิ สกปรกหละที
นี้ ถงึ จติ ใจคนถา้ มาฝึกฝนมาซกั ฟอกมาปฏบิ ตั ิ ปรบั ใหม้ นั
สะอาดใหม้ นั เย็น มนั ก็เป็นไปหละทีนี้ แตถ่ า้ ไมป่ รบั ไม่ทาํ ไมน่ ่นั ก็
ไมเ่ ป็นหละทนี ี้ มนั ก็เป็นนา้ํ เน่านา้ํ สกปรกคือตามหนองตาม
พืน้ ดนิ อยา่ งนี้ น่ีเรยี กวา่ เป็นคาํ เตือนใจเม่อื เราไดเ้ ตรยี ม
เขา้ พรรษาหนา้ ฝน เรานอ้ มนาํ ไปเป็นธรรมะปฏบิ ตั ไิ ปพิจารณา
เพ่ือเป็นนาบญุ นาธรรมของเราทกุ คนก็ตงั้ ใจปฏบิ ตั ิกนั อย่ตู ลอด
ก็จะเป็นผมู้ ีความสงบรม่ เย็นอดุ มสมบรู ณอ์ ย่ใู นพระพทุ ธศาสนา
สติปัญญาความรูต้ า่ งๆก็จะเกิดมาในจิตของเราทกุ คน ก็จะเป็น
ผมู้ ีความสวา่ งไสวมีความเฉลยี วฉลาดแหลมคมไปขา้ งหนา้ ก็

25

จะเป็นผไู้ ดเ้ หน็ หนทางพน้ ทกุ ขต์ ามพระพทุ ธเจา้ อยา่ งนี้ น่ีเป็น
ธรรมเตอื นใจ ขอยตุ ิไวเ้ พียงเท่านี้

ท่ีมา: https://youtu.be/q1cwQvHJq8I

26


Click to View FlipBook Version