The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กรรมฐานเบื้องต้น สมเด็จพระญาณสังวร สกลมหาปริณายก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-05 14:30:06

กรรมฐานเบื้องต้น สมเด็จพระญาณสังวร สกลมหาปริณายก

กรรมฐานเบื้องต้น สมเด็จพระญาณสังวร สกลมหาปริณายก

Keywords: กรรมฐานเบื้องต้น,สมเด็จพระญาณสังวร สกลมหาปริณายก

กรรมฐานเบอื้ งต้น
สมเด็จพระญาณสงั วร สกลมหาปรณิ ายก
บดั นี้ จกั แสดงธรรมะเป็นเครอ่ื งอบรมในการปฏบิ ตั อิ บรมจิต
ในเบือ้ งตน้ ก็ขอใหท้ กุ ๆ ทา่ นตงั้ ใจนอบนอ้ มนมสั การ พระผมู้ ี
พระภาคอรหนั ตสมั มาสมั พทุ ธเจา้ พระองคน์ นั้ ตงั้ ใจถงึ พระองค์
พรอ้ มทงั้ พระธรรมและพระสงฆเ์ ป็นสรณะ ตงั้ ใจสาํ รวมกาย
วาจาใจใหเ้ ป็นศีล ทาํ สมาธิในการฟัง เพ่ือใหไ้ ดป้ ัญญาในธรรม
เทศกาลฤดนู ี้ เป็นเทศกาลท่กี ลุ บตุ รชาวไทยไดพ้ ากนั ออก
บวช เพ่ือจาํ พรรษาตลอด ๓ เดือนเป็นจาํ นวนมาก นาํ ใหม้ ารดา
บิดาญาติมติ รไดพ้ ากนั เขา้ วดั เพ่ือเย่ยี มบตุ รหลานญาติของตน
เพ่ือนมิตรของตนท่ีบวชอยจู่ าํ พรรษา จงึ ไดม้ ีโอกาสคนุ้ เคยกบั วดั
กบั พระศาสนา และเม่ือไดท้ าํ ทาน สมาทานศลี เจรญิ ภาวนา ก็
เป็นอนั ไดก้ ระทาํ บญุ อนั เป็นเครอ่ื งชาํ ระจติ ใจของตนใหบ้ รสิ ทุ ธิ์
ย่งิ ๆ ขนึ้ ไปอีก
เพราะฉะนนั้ จงึ เป็นฤดเู ทศกาลแหง่ การเขา้ วดั บาํ เพ็ญกศุ ล
กนั ทงั้ กลุ บตุ รผเู้ ขา้ มาบวชเอง ทงั้ มารดาบิดาญาติมติ รสหาย

1

และนอกจากนีป้ ระชาชนผปู้ ฏบิ ตั ิอย่เู ป็นประจาํ แลว้ ก็ย่อมจะมี
ความสนใจในการปฏบิ ตั ิธรรมในฤดเู ขา้ พรรษานีย้ ง่ิ กวา่ ปรกติ
โดยมากอกี ดว้ ย จงึ เป็นฤดเู ทศกาลแห่งการปฏิบตั ิธรรม แห่งบญุ
กศุ ลท่ีพงึ อนโุ มทนาสาธุการ

และผทู้ ่ีเขา้ มาบวชใหม่เป็น นวกภกิ ษุ ท่ีเรยี กวา่ ภิกษุใหม่
เม่ือเขา้ มาบวชก็ยอ่ มจะรูส้ กึ วา่ ตอ้ งพบกบั ความวา่ ง อนั
หมายความวา่ วา่ งจากการงานท่ีประกอบกระทาํ และจะตอ้ ง
อยภู่ ายในวดั ในระเบียบวนิ ยั ไม่มีโอกาส หรอื ไมอ่ าจท่ีจะไปโนน่
ไปน่ีไดต้ ามปรารถนาตอ้ งการ จงึ ทาํ ใหร้ ูส้ กึ วา่ วา่ ง ผดิ กวา่ ปรกติ
ธรรมดาเม่ืออย่เู ป็นฆราวาสคฤหสั ถ์ และเม่ืออยวู่ า่ งๆ ก็มกั จะ
เกิดความราํ คาญ กระวนกระวายใจ

และอนั ท่ีจรงิ นนั้ หากพจิ ารณาดแู ลว้ ก็จะเหน็ วา่ ประการแรก
การเขา้ มาครองเพศเป็นบรรพชิตคือผบู้ วช หรอื แมก้ ารท่ีเป็น
ฆราวาสคฤหสั ถเ์ ขา้ มาปฏบิ ตั ิธรรมในวดั ช่วั ระยะเวลาก็ตาม ก็
ช่ือวา่ ตอ้ งมาดาํ รงชีวติ อยอู่ กี แบบหนง่ึ ตา่ งจากชีวติ นอกวดั หรอื
ตา่ งจากชีวติ ของความเป็นคฤหสั ถฆ์ ราวาส และเม่ือเป็นคฤหสั ถ์

2

ฆราวาสนนั้ กป็ ฏบิ ตั อิ ยา่ งคฤหสั ถฆ์ ราวาส แตเ่ ม่ือมาเขา้ วดั มา
ปฏิบตั ิธรรมก็ดี หรอื เขา้ มาบวชเรยี นก็ดี ก็ตอ้ งมาปฏบิ ตั ิตาม
สิกขาวนิ ยั ระเบียบแบบแผนของวดั เป็นคนละรูปแบบของการ
ดาํ รงชีวิต

และเม่ือความดาํ รงชีวติ ในวดั ตา่ งจากความดาํ รงชีวิตใน
บา้ น จงึ ทาํ ใหร้ ูส้ กึ ผิดแปลก และเม่ือตอ้ งมาปฏิบตั ใิ นสกิ ขาวนิ ัย
ในกิจของผบู้ วช หรอื ในกิจของผปู้ ฏบิ ตั ิธรรม ซง่ึ พระพทุ ธเจา้ ได้
ตรสั สอนหลกั ของการปฏิบตั ิไวอ้ ยา่ งครบถว้ น ถา้ หากวา่ ตงั้ ใจ
ปฏบิ ตั ิในสกิ ขาวนิ ยั ในธรรมะท่ีไดท้ รงสอน ตลอดจนถงึ กิจวตั ร
ตา่ งๆ ของวดั แลว้ ก็จะรูส้ กึ วา่ ไม่วา่ ง เพราะวา่ ก็จะตอ้ งทาํ งาน
หรอื ทาํ การงานตามกิจท่ีผบู้ วช หรอื ผปู้ ฏิบตั ธิ รรมพงึ ทาํ

เช่นเดียวกบั เม่ืออยใู่ นบา้ น หรอื อย่คู รองเรอื น ก็ตอ้ งปฏบิ ตั ิ
ในกิจท่ีผคู้ รองเรอื นพงึ ปฏบิ ตั กิ ระทาํ ฉะนนั้ หากไดต้ งั้ ใจปฏิบตั ิ
กระทาํ แลว้ ก็จะไมว่ า่ ง อนั หมายความวา่ ไมว่ า่ งจากการงานท่พี งึ
ทาํ

3

อีกอย่างหน่งึ ความท่ีรูส้ กึ วา่ วา่ งไมม่ ีอะไรทาํ จงึ ทาํ ให้
ราํ คาญนนั้ ความรูส้ กึ ดงั กลา่ วนนั้ ก็คอื หมายความวา่ ไมม่ ีกิจท่ี
จะพงึ ทาํ อย่างคฤหสั ถฆ์ ราวาส หรอื อยา่ งเม่ืออย่นู อกวดั ไมใ่ ช่
หมายความวา่ ในวดั นีไ้ ม่มีกิจอะไรท่ีจะพงึ ทาํ ไม่มีการงานท่ีจะ
พงึ ทาํ ในวดั กม็ ีการงานท่ีจะพงึ ทาํ ดงั กลา่ วแลว้ เหมือนกนั และท่ี
เรยี กวา่ วา่ งนนั้ อนั ท่ีจรงิ เม่ือพจิ ารณาดแู ลว้ ก็จะพบวา่ ทางกาย
ตา่ งหากท่ีรูส้ กึ วา่ วา่ ง หมายความวา่ วา่ งจากกิจของฆราวาสของ
คฤหสั ถ์ หรอื วา่ งจากกิจการงานนอกวดั วา่ งจากกิจการงานใน
บา้ น

เพราะฉะนนั้ ใจท่ีรูส้ กึ วา่ วา่ งนนั้ อนั ท่ีจรงิ ใจไม่วา่ ง คอื ใจยงั มี
อาลยั ยงั มหี มกมนุ่ อย่ใู นการงานของคฤหสั ถฆ์ ราวาส หรอื อย่ใู น
เร่อื งของคฤหสั ถฆ์ ราวาส ถา้ จติ ใจวา่ งดว้ ยแลว้ ก็ย่อมเป็นการดี
เพราะวา่ ความท่ีจติ ใจวา่ งจากความกงั วลหว่ งใย จากอาลยั
ทงั้ หลายนนั้ เป็น สญุ ญตา คอื ความวา่ งท่ีประสงคใ์ นทางปฏิบตั ิ
ธรรม แตเ่ พราะจติ ใจไม่วา่ ง จติ ใจยงั เต็มไปดว้ ยกงั วลหว่ งใย
ดว้ ยอารมณข์ องฆราวาสหรอื ของบา้ น เรอ่ื งนนั้ บา้ งเรอ่ื งนีบ้ า้ ง

4

เป็นความวา้ วนุ่ ทางจติ ใจ เม่ือเป็นด่งั นีแ้ ลว้ จงึ ทาํ ใหร้ ูส้ กึ วา่ วา่ ง ก็
คอื วา่ งจากกจิ ของฆราวาสดงั กลา่ วแลว้ นนั้ เอง ความจรงิ นนั้ ไม่
วา่ งจากกิจการของวดั หรอื ของพระศาสนา จงึ จะตอ้ งรูจ้ กั วา่
งานในวดั หรอื งานในพทุ ธศาสนานนั้ คืออะไร จะไดใ้ ชเ้ วลาท่ีเขา้
วดั แมเ้ ป็นฆราวาสเอง หรอื เวลาท่ีเขา้ มาบวชเรยี นนี้ ทาํ งานทาง
พระศาสนาใหไ้ ดเ้ ต็มท่ี

อนั งานทางพระศาสนาหรอื งานในวดั นนั้ พระอปุ ัชฌายก์ ไ็ ด้
บอกไวใ้ นทา้ ยอนสุ าสนแ์ ลว้ วา่ พระพทุ ธเจา้ ไดท้ รงแสดงสิกขา
ทงั้ ๓ อนั ไดแ้ ก่ สลี สกิ ขา สิกขาคอื ศีล จติ ตสิกขา สกิ ขาคือ
จิตหรอื สมาธิ ปัญญาสกิ ขา สกิ ขาคอื ปัญญา ไวโ้ ดยปรยิ ายถึง
ทางเป็นอนั มาก อนั เป็นขอ้ ท่ีพงึ สกิ ขา คอื พงึ ศกึ ษา อนั หมายถงึ
พงึ เรยี นดว้ ย พงึ ปฏบิ ตั ดิ ว้ ย ไปดว้ ยกนั ในศลี ในจติ หรอื สมาธิ
และในปัญญานี้ เป็นกรณียะคอื เป็นกิจท่พี งึ กระทาํ เร่อื ยไป
จนกวา่ จะสนิ้ กิเลสและกองทกุ ข์ ท่ีเรยี กวา่ บรรลนุ ิพพาน คอื
ธรรมะท่ีออกจาก วานะ กิเลสตณั หาเป็นเคร่อื งรอ้ ยรดั จิตใจ เม่ือ
ยงั ไมส่ ิน้ กิเลส ยงั ไมด่ บั ทกุ ขไ์ ด้ ก็จะตอ้ งสกิ ขาคือศกึ ษา ในศีล

5

ในสมาธิ ในปัญญา ทงั้ ๓ นีเ้ ร่อื ยไป ใหย้ ง่ิ ๆ ขนึ้ ไป เพราะฉะนนั้
จงึ ไดก้ าํ ชบั วา่ พงึ ตงั้ ใจศกึ ษาเลา่ เรยี นปฏิบตั ิ ในอธิศลี สิกขาคอื
ศลี ย่งิ อธจิ ติ สกิ ขาจิตยง่ิ คอื สมาธิย่งิ อธปิ ัญญาสกิ ขาคอื
ปัญญาย่งิ ด่งั นี้ อนั สกิ ขานีเ้ องเป็นการงานท่ีผปู้ ฏบิ ตั ธิ รรม ทงั้
พระและทงั้ คฤหสั ถจ์ ะพงึ กระทาํ

อีกอยา่ งหนง่ึ จะเรยี กวา่ กรรมฐานก็ได้ กรรมฐานนนั้ บดั นีม้ า
ใชเ้ ป็นภาษาทางธรรมะอย่างเดียว แตเ่ ดิมนนั้ พบในพระบาลที ่ี
เลา่ เร่อื งตา่ งๆ ในครงั้ พทุ ธกาล วา่ ใชห้ มายถงึ การงานท่ีพงึ
กระทาํ ท่เี ป็นการงานของชาวบา้ น เชน่ วา่ การทาํ นาเรยี กวา่
กสิกรรมกนั ในเมืองไทย แตใ่ นครงั้ พทุ ธกาลนนั้ เรยี กวา่ กสิ
กรรมฐาน กรรมฐานคอื การทาํ นา การคา้ ขายเรยี กกนั ใน
เมืองไทยวา่ พานิชยกรรม แตใ่ นครงั้ พทุ ธกาลนนั้ เรยี กกนั วา่
พานิชยกรรมฐาน ครนั้ เม่ือพระพทุ ธศาสนาบงั เกิดขนึ้
พระพทุ ธเจา้ ก็นาํ เอาคาํ วา่ การงานนี้ จากทางโลกนนั้ เองมาใช้
เป็นภาษาในทางธรรม

6

ฉะนนั้ สิกขา ๓ คอื ศลี สมาธิปัญญานี้ จงึ อาจเรยี กวา่ เป็น
กรรมฐาน ๓ ก็ได้ คอื เป็นการงานท่จี ะตอ้ งปฏิบตั ิ อนั ไดแ้ กศ่ ีล
กรรมฐาน สมาธิกรรมฐาน ปัญญากรรมฐาน การงานคือการ
ปฏิบตั ใิ นศลี การงานคอื การปฏิบตั ใิ นสมาธิ การงานคอื การ
ปฏบิ ตั ิปัญญา

ฉะนนั้ เม่ือตงั้ ใจปฏบิ ตั ใิ นการงานของพระพทุ ธเจา้ คอื
กรรมฐานดงั กลา่ วนีแ้ ลว้ ก็จะเหน็ วา่ ไมว่ า่ ง เพราะวา่ เป็นขอ้ ท่ีจะ
พงึ ปฏบิ ตั ิอย่ใู นการงานทงั้ ๓ นีต้ ลอดเวลา ๒๔ ช่วั โมง ศลี ก็ตอ้ ง
มีอย่ปู ระจาํ ตวั ๒๔ ช่วั โมง สมาธิและปัญญาก็พงึ ปฏบิ ตั ใิ หม้ ีอยู่
ประจาํ ตวั ๒๔ ช่วั โมงเชน่ เดยี วกนั ถา้ วา่ งจากไตรสิกขาหรอื วา่
ไตรกรรมฐานนีเ้ ม่ือไร ก็ช่ือวา่ จิตใจก็จะออกไปสนู่ อกวดั นอก
พระธรรมวนิ ยั ของพระพทุ ธเจา้ เขา้ ไปสกู่ ระแสโลก แตเ่ ม่อื ทงั้
กายและจติ ใจนีเ้ ขา้ มาอย่ใู นกรรมฐานทงั้ ๓ นี้ หรอื ในไตรสกิ ขา
ทงั้ ๓ นีแ้ ลว้ ก็จะช่ือวา่ เป็นผทู้ ่ีอย่ใู นพระศาสนา เป็นภกิ ขใุ น
พระพทุ ธศาสนา เป็นสามเณรในพระพทุ ธศาสนา ตลอดจนถงึ
เป็นอบุ าสกอบุ าสิกาในพระพทุ ธศาสนาเชน่ เดียวกนั

7

ฉะนนั้ จงึ จาํ เป็นท่ีจะตอ้ งตงั้ ใจสงั วรปฏิบตั ิในศลี ก็คอื
ปฏิบตั ิในวนิ ยั ตามท่พี ระพทุ ธเจา้ ไดท้ รงบญั ญตั ิเอาไว้ วนิ ยั นีเ้ อง
ท่ีมีเป็นขอ้ ๆ ทรงบญั ญตั ิไว้ ๕ ขอ้ เม่ือปฏบิ ตั ใิ นวินยั ๕ ขอ้ ก็
เรยี กวา่ มีศีลหา้ ๘ ขอ้ ก็เรยี กวา่ มีศีลแปด ๑๐ ขอ้ ก็เรยี กวา่ มีศีล
สิบ ๒๒๗ ขอ้ ก็เรยี กวา่ มีศีลสองรอ้ ยย่ีสบิ เจ็ด เพราะฉะนนั้ ท่ีเป็น
ขอ้ ๆ นีจ้ งึ เป็นวนิ ยั ท่ีพระพทุ ธองคท์ รงบญั ญตั ไิ วข้ อ้ หน่งึ ๆ และก็
ช่ือวา่ เป็นศลี เท่านนั้ ขอ้ ตามวนิ ยั นนั้ เอง

แตอ่ นั ท่ีจรงิ นนั้ ศีลมีลกั ษณะเป็นอนั เดียว คือมีความเป็น
ปรกติ หมายความวา่ มีความท่ีกายวาจาใจสงบเป็นปรกติ ไม่
วนุ่ วายไปดว้ ยความประพฤติทางกายทางวาจาทางใจ กอ่ ภยั ก่อ
เวรตา่ งๆ เบียดเบยี นตนเองและผอู้ ่นื ใหเ้ ดอื ดรอ้ น คอื วา่ เวน้ จาก
ขอ้ ท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงบญั ญตั ิไวใ้ นพระวนิ ยั หา้ มไวไ้ ม่ใหก้ ระทาํ
และปฏบิ ตั อิ ย่ตู ามพระวินยั ท่ีทรงบญั ญตั ิไวว้ า่ ใหก้ ระทาํ นนั้ เอง
เม่ือปฏบิ ตั อิ ย่ดู ่งั นีก้ ็จะทาํ ใหเ้ กิดความปรกติกาย ปรกตวิ าจา
ปรกตใิ จ จะทาํ ใหเ้ ป็นผทู้ ่มี ีศลี บรสิ ทุ ธิ์ เป็นศลี ท่ีเป็นปาติโมกข
สงั วรศีล ความสาํ รวมในพระปาติโมกข์ คอื ในพระวนิ ยั บญั ญตั ทิ ่ี

8

พระพทุ ธเจา้ ทรงบญั ญตั ิไว้ เป็นขอ้ หลกั ขอ้ ประธาน ไดแ้ ก่ท่ี
เรยี กวา่ ศลี ๒๒๗

และทาํ ใหม้ ีความประพฤตทิ ่ีบรสิ ทุ ธิ์ ทาํ ใหเ้ ป็นผทู้ ่ีมีอาชีพท่ี
บรสิ ทุ ธิ์ ความท่ีมีความประพฤตบิ รสิ ทุ ธิน์ นั้ ก็ดว้ ยมีอนิ ทรยี สงั วร
ความสาํ รวมอนิ ทรยี ์ คอื มีสตสิ าํ รวมใจอยเู่ สมอในเวลาท่ีเห็น
อะไรทางตา ไดย้ ินอะไรทางหู ไดท้ ราบอะไรทางจมกู ทางลนิ้ ทาง
กาย และไดร้ ูเ้ รอ่ื งไดค้ ดิ อะไรทางใจ ก็มีสตคิ อยสาํ รวมระวงั
สะกดั กนั้ ไว้ ไม่ใหอ้ ารมณค์ อื เรอ่ื งเหลา่ นนั้ ก่อใหเ้ กิดความยนิ ดี
บา้ ง ความยินรา้ ยบา้ ง ความหลงงมงายตดิ อย่บู า้ ง เป็นตวั อา
สวะกิเลสไหลเขา้ มาท่วมจิตใจ คอยระมดั ระวงั อย่เู สมอด่งั นีเ้ ป็น
อนิ ทรยี สงั วร ก็จะทาํ ใหม้ ีความประพฤติตา่ งๆ ดี และจะทาํ ใหม้ ี
อาชีพท่ีบรสิ ทุ ธิ์

และก็จะตอ้ งมีการหม่นั พจิ ารณาในปัจจยั ๔ ท่ีบรโิ ภค อนั
ไดแ้ ก่อาหาร ผา้ นงุ่ ห่ม ท่ีอยอู่ าศยั หยกู ยาแกไ้ ข้

พิจารณาในขณะท่ีรบั วา่ สกั แตว่ า่ เป็นธาตุดนิ ธาตุนาํ้
ธาตุไฟ ธาตลุ ม ไมใ่ ชส่ ตั วบ์ คุ คลตวั ตนเราเขา ปัจจยั เหลา่

9

นนั้ เองก็เป็นธาตุ และผทู้ ่ีบรโิ ภคปัจจยั เองก็เป็นธาตุ คอื รา่ งกาย
อนั นีก้ ็ประกอบขนึ้ ดว้ ยธาตดุ นิ นา้ํ ไฟลม แถมอากาศ กเ็ ป็น ๕

และพิจารณาวา่ เป็นสง่ิ ท่ีปฏกิ ลู ไม่สะอาด ปัจจยั เหลา่ นนั้
เม่ือยงั ไม่มาถงึ รา่ งกายนี้ ก็ยงั ไมป่ รากฏวา่ เป็นส่ิงปฏกิ ลู ไม่
สะอาด แตเ่ ม่อื มาถงึ รา่ งกายนี้ ซง่ึ เป็นรา่ งกายท่ีปฏกิ ลู ไมส่ ะอาด
ก็จะกลบั เป็นสง่ิ ท่ีปฏิกลู ไมส่ ะอาด ดงั เชน่ ผา้ น่งุ หม่ เม่ือมาใชน้ งุ่
หม่ เขา้ แลว้ ก็จะสกปรก ก่อนจะนงุ่ หม่ เชน่ ผา้ ใหมก่ ็ยงั เป็นผา้
สะอาด เม่ือมานงุ่ หม่ เขา้ แลว้ ก็เป็นผา้ ท่ีสกปรก จะตอ้ งมีการ
ชาํ ระซกั ลา้ งกนั อยเู่ สมอๆ ก็เป็นความไมส่ ะอาดท่ีเกิดจาก
รา่ งกายอนั นีเ้ อง

และพจิ ารณาขณะท่ีบรโิ ภคใชส้ อย ดงั บทท่ีสวดกนั ในบท
ปฏิสงั ขาโยเป็นตน้ แลว้ ถา้ หากวา่ ในวนั นนั้ ไม่ไดพ้ ิจารณาใน
ขณะท่ีบรโิ ภค ก็ใหพ้ ิจารณาภายหลงั ในวนั นนั้ ดงั บทท่ีสวดกนั
วา่ อทั ธมยา เป็นตน้ ด่งั นี้ หม่นั มีสตติ รวจตราดคู วามประพฤติ
ของตนใหศ้ ีลดงั กลา่ วนีบ้ รสิ ทุ ธิ์ ทงั้ ท่ีเป็นสว่ นปาตโิ มกขสงั วรศีล
ทงั้ ท่ีเป็นสว่ นอนิ ทรยี สงั วร ทงั้ ท่ีเป็นสว่ นอาชีวปารสิ ทุ ธิ และทงั้ ท่ี

10

เป็นสว่ นการพจิ ารณาปัจจยั ทงั้ ๔ ในขณะท่ีบรโิ ภค ใหม้ ีสติอยู่
เสมอตลอดเวลา เม่ือเป็นด่งั นีแ้ ลว้ ก็ช่ือวา่ ไดท้ าํ การงานในขอ้ ศลี
กรรมฐาน หรอื สีลสิกขา

แตว่ า่ ในการปฏิบตั ใิ นศีลนี้ ก็ตอ้ งเน่ืองถงึ จิตใจอีกเหมือนกนั
จะตอ้ งใหเ้ ป็นศลี ถงึ จติ ใจ คอื จติ ใจจะตอ้ งมีความปรกตสิ งบ ศลี
จงึ จะเป็นไปได้ จงึ ตอ้ งมกี ารปฏบิ ตั ิทาํ จิตใจ อนั เรยี กวา่ จติ ตสิก
ขา หรอื เรยี กวา่ สมถกรรมฐาน ท่ีแปลวา่ กรรมฐานอนั ทาํ ใจให้
สงบ ก็หมายถงึ สมาธิคอื จติ ตงั้ ม่นั อยใู่ นอารมณท์ ่ีดที ่ีชอบ อนั
เป็นท่ีตงั้ ของกศุ ลธรรมทงั้ หลาย อนั เรยี กวา่ กรรมฐานนนั้ เอง

เชน่ การท่ีตงั้ ใจฟังธรรม ดงั ท่ีกาํ ลงั แสดงธรรมอย่นู ี้ ก็เป็น
สมาธิอยา่ งหนง่ึ หรอื เป็นสมถกรรมฐานอยา่ งหนง่ึ การท่ีอา่ น
หนงั สอื ธรรมะก็เป็นกรรมฐานเชน่ เดียวกนั และแมก้ ารท่ีมีสติ
รูอ้ ยใู่ นอริ ิยาบททงั้ ๔ รูอ้ ยใู่ นอารมณท์ งั้ หลาย

ท่ีเม่ือเขา้ มาประสบทางทวารทงั้ ๖ คือตาหจู มกู ลนิ้ กายใจ
ดงั กลา่ วขอ้ ในอนิ ทรียสังวรนนั้ ก็เป็นกรรมฐาน เป็นกรรมฐานท่ี
จะตอ้ งใหม้ ีสตคิ อยคมุ จติ ใจ ใหจ้ ิตใจรูอ้ ย่ใู นรา่ งกาย ในเวทนา

11

ในจิต ในธรรม อนั เป็นสตปิ ัฏฐานทงั้ ๔ อย่เู สมอ จิตก็จะไม่
วอ่ กแวก่ ออกไปขา้ งนอก แตจ่ ติ จะรวมอยใู่ นวดั หรอื ในขอบเขต
ในกายอนั นี้

ตลอดจนถึงกรรมฐานขอ้ อ่ืนๆ ท่ีควรจะตอ้ งหดั ปฏบิ ตั ิ ด่งั ท่ี
ไดส้ อนไวต้ งั้ แตเ่ ป็นนาค ใหพ้ จิ ารณากรรมฐาน ๕ ขอ้ ซง่ึ มีหนงั
เป็นท่ีสดุ เกสา โลมา นขา ทนั ตา ตะโจ ผม ขน เลบ็ ฟัน หนงั วา่
เป็นสิ่งท่ีปฏิกลู ไม่สะอาด และไม่งดงาม เพ่ือปอ้ งกนั ใจไมใ่ ห้
บงั เกิดราคะคอื ความตดิ ใจยนิ ดีอย่ใู นผมขนเลบ็ ฟันหนงั คือสว่ น
รูปกายของตนเองดว้ ย ของผอู้ ่ืนดว้ ย ท่ีสมั ผสั ทางตาอยเู่ สมอ
และสมั ผสั ทางใจ คอื ท่ีนกึ อย่เู สมอเป็นตน้

เม่ือเป็นด่งั นีแ้ ลว้ จิตก็จะมีความสงบ ไมต่ กไปในอาํ นาจของ
ราคะคอื ความติดใจยนิ ดี และเม่ือไดค้ วามสงบด่งั นีแ้ ลว้ เป็นมลู
ท่ีเรยี กวา่ มลู กรรมฐาน กรรมฐานท่ีเป็นมลู ก็ตงั้ ใจปฏบิ ตั ิใน
กรรมฐานขอ้ อ่นื ตอ่ ไป เชน่ วา่ กาํ หนดลมหายใจเขา้ ออก หายใจ
เขา้ พทุ หายใจออกโธ หรอื หายใจเขา้ ธมั หายใจออกโม หายใจ
เขา้ สงั หายใจออกโฆ พทุ โธ ธมั โม สงั โฆ หรอื บทใดบทหนง่ึ ก็ได้

12

เพ่ือใหใ้ จรวมอยู่ หดั ทาํ อยทู่ กุ วนั วนั ละนอ้ ยเวลาบา้ ง มากเวลา
บา้ ง

และในตอนแรกนนั้ จติ จะไมย่ อมตงั้ อยู่ เพราะวา่ เม่ือมา
ตงั้ อย่ใู นกรรมฐานด่งั นีแ้ ลว้ จิตไมไ่ ดค้ วามสขุ แตห่ ากวา่ ถา้ ไม่ตงั้
จติ ไวใ้ นกรรมฐานจิตมีความสขุ ก็ปลอ่ ยใหเ้ ท่ยี วไปคดิ ถงึ เรอ่ื ง
โนน้ บา้ ง คดิ ไปถึงเรอ่ื งนีบ้ า้ ง อนั เป็นปรกติของสามญั ชน ฉะนนั้
จงึ ตอ้ งมขี ันตคิ อื ความอดทน พรอ้ มทงั้ มีสติคือความระลกึ ได้
สมั ปชญั ญะคอื ความรูต้ วั กาํ กบั ใจอยเู่ สมอ เม่ือตงั้ ใจวา่ จะทาํ
สกั ๑๐ นาที ก็ตอ้ งปฏิบตั ิใหไ้ ดถ้ งึ ๑๐ นาที โดยท่ีรวมจิตเขา้ มา
ตงั้ ไวใ้ นกรรมฐานขอ้ ท่ีตงั้ ใจจะกระทาํ

เชน่ กาํ หนดลมหายใจเขา้ ออกดงั กลา่ ว หรอื วา่ จะกาํ หนดดู
พระพทุ ธรูป หรอื วา่ จะกาํ หนดดแู สงเทียน อย่างใดอยา่ งหนง่ึ ท่ี
เป็นกสณิ ด่งั นีก้ ็ได้ หรอื จะกาํ หนดดใู นกาย ในเวทนา ในจิต ใน
ธรรม ตามหลกั แห่งสตปิ ัฏฐานทงั้ ๔ ท่ีพระพทุ ธเจา้ ไดต้ รสั เอาไว้
ขอ้ ใดขอ้ หน่งึ ตามท่ีถนดั หรอื ตามท่ีทราบ และก็ตอ้ งมีความ
อดทน รกั ษาสจั จะคอื ความจรงิ ใจของตนไว้ วา่ เม่ือจะทาํ

13

กรรมฐานสกั ๕ นาที ๑๐ นาที ๒๐ นาที ๓๐ นาที ก็ตอ้ งทาํ ใหไ้ ด้
ตามกาํ หนด เม่ือเป็นด่งั นีแ้ ลว้ ใจก็จะคอ่ ยมีความคนุ้ ขนึ้ และเม่ือ
ไดป้ ีตคิ ือความอ่ิมใจดดู ด่ืมใจในกรรมฐาน ไดส้ ขุ คอื ความสบาย
กายสบายใจขนึ้ แลว้ ใจก็จะอยู่ ใจจะอยู่ แลว้ ก็จะไดเ้ อกคั คตา
ซง่ึ เป็นตวั สมาธิ คือความท่ีจติ มีอารมณเ์ ป็นอนั เดียวไม่ไปไหน
คืออยตู่ วั ตงั้ อย่ใู นสง่ิ ท่ีกาํ หนดนี้ เป็นไปเอง

เม่ือเป็นด่งั นีแ้ ลว้ ก็ช่ือวา่ ไดท้ าํ การงานในดา้ นจติ ตสิกขา
หรอื สมถกรรมฐาน แลว้ กห็ ดั พจิ ารณาอบรมทางปัญญาตอ่ ไป
ตามท่พี ระพทุ ธเจา้ ทรงส่งั สอน ตงั้ ตน้ แตก่ ารตงั้ ใจอา่ นหนงั สือ
ธรรมะ ใหม้ ีความเขา้ ใจในขอ้ ธรรมะ และการตงั้ ใจกาํ หนดใช้
ธรรมะท่ีฟังท่ีอา่ นนีเ้ ขา้ มาดทู ่ตี วั เอง ใหร้ ูจ้ กั ตวั เองวา่ ตวั เรานนั้ มี
ศลี อยา่ งไร และมีสมาธิอยา่ งไร และมีปัญญาคือความรูต้ าม
พระพทุ ธเจา้ ทรงส่งั สอนอยา่ งไร รูจ้ กั กรรมท่ีเป็นบญุ เป็นบาป ดี
หรอื ช่วั อยา่ งไร รูจ้ กั นามรูปอยา่ งไร รูจ้ กั ขนั ธ์ ๕ ท่ีแบง่ เป็น รูป
เวทนา สญั ญา สงั ขาร วญิ ญาณ อย่างไร กาํ หนดดใู หร้ ูจ้ กั

14

ตามท่ีไดอ้ า่ นหนงั สอื หรอื ตามท่ีไดฟ้ ังคาํ ส่งั สอน ดเู ขา้ มาท่ี
ตวั เอง ใหร้ ูจ้ กั ท่ีตวั เอง

การท่ีดเู ขา้ มาท่ีตวั เองใหร้ ูจ้ กั ท่ีตวั เองนี้ เป็นการเรยี นท่ี
เรยี กวา่ ปรยิ ตั ิเช่ือมกบั การปฏบิ ตั ิ เพียงแตอ่ า่ นหนงั สือ หรอื การ
ฟัง ดงั เชน่ ท่กี าํ ลงั ฟังอยนู่ ี้ เรยี กวา่ เป็นการเรยี นปรยิ ตั ิท่ีเป็น
ภายนอก จะตอ้ งนอ้ มเอาปรยิ ตั ิท่ีเป็นภายนอกนี้ เขา้ มาใหเ้ ป็น
ปรยิ ตั ิท่ีเป็นภายใน คอื ดใู หร้ ูจ้ กั ส่ิงท่ีเรยี นภายนอกนนั้ ท่ตี วั เอง
ใหร้ ูจ้ กั นามรูปท่ีตวั เอง ใหร้ ูจ้ กั รูป ใหร้ ูจ้ กั เวทนา ใหร้ ูจ้ กั สญั ญา
ใหร้ ูจ้ กั สงั ขาร ใหร้ ูจ้ กั วิญญาณ ท่ีตวั เอง วา่ น่ีคือรูป น่ีคือนาม น่ี
คอื รูป น่ีคอื เวทนา น่ีคอื สญั ญา น่ีคอื สงั ขาร น่ีคอื วิญญาณ ให้
รูจ้ กั ท่ีตวั เอง

เม่ือเป็นด่งั นีแ้ ลว้ ปรยิ ตั กิ บั ปฏบิ ตั กิ ็คกู่ นั ขนึ้ มาเป็นปฏิบตั ิ
และก็จะมองเห็นตามท่พี ระพทุ ธเจา้ ทรงส่งั สอนวา่ นามรูปก็ดี
ขนั ธ์ ๕ ก็ดี ทงั้ หมดท่ีรวมเรยี กวา่ สงั ขารคือสง่ิ ผสมปรุงแตง่ นนั้
เป็นอนิจจะ คอื ไมเ่ ท่ียง มีความเกิดดบั เป็นธรรมดา ทุกขะ เป็น
ทกุ ขค์ อื ตอ้ งทนอย่ไู ม่ได้ ตอ้ งแปรปรวนเปล่ียนแปลงไป และเป็น

15

อนัตตา มิใช่เป็นอตั ตาตวั ตน ไมค่ วรจะยดึ ถือวา่ เป็นตวั เราเป็น
ของเรา

หดั ปฏบิ ตั ิด่งั นี้ ดว้ ยใชป้ ัญญาพจิ ารณาดธู รรมะ ตามท่ี
พระพทุ ธเจา้ ทรงส่งั สอนด่งั นี้ ก็เป็นการปฏบิ ตั ิในปัญญา หรอื ใน
วปิ ัสสนากรรมฐาน กรรมฐานท่ีเป็นอบุ ายใหร้ ูแ้ จง้ เหน็ จรงิ
เป็นอนั วา่ เหลา่ นีเ้ ป็นสิกขาคอื ขอ้ ท่ีพงึ ศกึ ษา หรอื เป็นกรรมฐาน
คอื เป็นการงานท่ีจะตอ้ งทาํ รวมเขา้ ก็คือศลี สมาธปิ ัญญา
นนั้ เอง

ตอ่ ไปนีก้ ็ขอใหต้ งั้ ใจฟังสวดและตงั้ ใจทาํ ความสงบสืบตอ่ ไป
(ถอดเสยี งธรรมโดย คณุ อณิศร โพธิทองคาํ )
ท่ีมา: https://youtu.be/kX9aM9X4dLM

16


Click to View FlipBook Version