“ใหเ้ จา้ ไปเฮด็ แบบหลวงปมู่ น่ั เบง่ิ ทะแหม้ หลวงปมู่ น่ั ลกู ศษิ ย์
มีแต่ลึกๆ เด้ เพิน่ จงึ รบั ไว้ ใหเ้ จ้าไปเฮ็ดอยา่ งนน้ั เบ่ิงดู เจ้าสบิ ไ่ ด้
ถามเอานะ่ ใหเ้ ขาหมดเขายงิ่ วา่ ดแี หลว่ เจา้ สทิ อ้ งแหง้ ละ่ ลกู ศษิ ย์
ตนื้ ๆ เจา้ สไิ ปเฮด็ ลกึ จง่ั ซน่ั มนั จะไดห้ รอื ” เพน่ิ อาจารยส์ มวา่ ใหเ้ รา
วา่ งนั้ เถอะ
“มนั บร่ จู้ กั ความ มนั บร่ จู้ กั ความอนั ใด๋ เฮากถ็ ามเอาต้ี ถา้ เฮา
อยากได้ มนั สเิ ปน็ หยงั อนั ลกู ศษิ ยห์ ลวงปมู่ น่ั นนั้ หมเู่ ฮาไปอยกู่ บั
เพิ่นนะ่ มนั มีแตค่ นฉลาดๆ ท้ังหมด” วา่ ซน่ั
“บฉ่ ลาดกบ็ ไ่ ด้ เพราะมหี ลวงปมู่ หาเคาะหวั เราอยู่ มนั กเ็ ฮด็
อยา่ งนนั้ ไดแ้ หลว่ ลกู ศษิ ยล์ กึ กเ็ ฮด็ ลกึ ไดแ้ หลว่ ลกู ศษิ ยต์ น้ื ๆ ใหเ้ จา้
ไปเฮด็ จั่งซน่ั เบง่ิ ดู เจ้าสิได้แดกอหิ ยัง” วา่ ซ่นั
“อยากไดห้ ยงั เจา้ กเ็ อาซน่ั ตวั้ ” เอาละ่ เดท้ นี ี้ เพน่ิ อาจารยส์ มวา่
“ลกู ศษิ ยล์ กึ เฮาจง่ั เฮด็ อยา่ งนนั้ ไดเ้ ด”้ วา่ ซนั่ “ลกู ศษิ ยบ์ ร่ จู้ กั
ความ มันเอาไปกินหมดน่นั แหลว่ ” เพิน่ พดู อย่างนี้
“เพราะว่าหลวงปู่มัน่ เพิ่นคดั เลือกเอาพอแฮงแลว้ จึงเอา
จ�ำพรรษากบั เพ่นิ เพ่ินบไ่ ดเ้ อาขหี้ มรู าข้หี มาแหง้ เหมือนพวกเฮา
เฮาสไิ ปใชแ้ บบลกึ ๆ อยา่ งนนั้ ฮว่ ย มนั กจ็ ะวา่ มอี กี บ่ ออ่ มนกไกน่ า
แลว้ เจา้ กจ็ ะทอ้ งแหง้ ตายนนั่ แหละ เจา้ เอาฟนื ทง้ิ ใสไ่ ฟ ทงิ้ ใสเ่ ทา่ ใด
มนั ไหม้หมดน่นั แหละ” วา่ ซนั่ เพน่ิ อาจารยส์ มพดู
50 | พ ร ะ จี ้ พ ร ะ ป ล ้ น
หลวงปเู่ ทสกก์ ไ็ ปอกี แบบหนงึ่ ปฏปิ ทา “เขาเอามาถวายแลว้
ผมอยากไดห้ ยงั ผมกเ็ อา เพราะผมเปน็ เถระเด้ ผมบแ่ มน่ คนผบี า้
พอสขิ ดั ให้ผู้อน่ื หาใหเ้ ด้”
หลวงป่เู ทสกท์ า่ นไปแถวนน่ั “ผมบแ่ มน่ คนขดั สิพอใหผ้ ู้อ่ืน
เอาใหเ้ ด้ ผมเหน็ วา่ อันใดมนั เปน็ ธรรม ผมก็เอาโลด มันบเ่ ป็น
ปาราชิก สงั ฆาทเิ สส” วา่ ซ่ัน
“เพราะผมเป็นผู้ใหญห่ มเู่ ด”้ หลวงปเู่ ทสกท์ ่านวา่ อยา่ งนี้
สว่ นหลวงปมู่ หาบวั ถา้ บก่ ำ� ชบั อหิ ลี ทา่ นกะบค่ อ่ ยอยากเอาเด้
หลวงปมู่ หานะ่
หลวงปู่จามก็เหมือนกัน หลวงปู่จามนี่เป็นคนสันโดษใน
ผา้ จีวร หลวงปจู่ ามบ่ขาดอหิ ลี บย่ อมเปลี่ยนถา่ ยเดเ้ พิน่ พ่อแม่นี้
บแ่ ม่นของคอ่ ยเด้ ผ้าจวี รเหมอื นกนั ผา้ สังฆาเหมอื นกนั มีดโกน
เหมือนกัน เพราะหลวงปจู่ ามเปน็ พระสันโดษอยู่ผหู้ นงึ่ เด้
เงนิ ส่วนตวั ผูเ้ ฒา่ บ่เกบ็ เด้ ผเู้ ฒา่ เอามาสรา้ งหมด
“ไผกก็ ลวั แตบ่ ไ่ ดข้ อเงนิ คา่ รถ” วา่ ซนั่ “ผดั โงไปโงมากม็ าไดใ้ ช้
เพราะเฮานล่ี ะ่ ” ผเู้ ฒา่ วา่ เครอ่ื งมอื ของผเู้ ฒา่ ผเู้ ฒา่ ซอ้ื มาไวห้ มด
หลวงปู่จามนะ่ มคี รบหมดล่ะ
ห ล ว ง ปู ่ ห ล ้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 51
ทนี ดี้ า้ นการภาวนา พดู ถงึ แตเ่ รอื่ งโลก พดู แตเ่ รอื่ งภายนอก
ใครเคยภาวนาอนั ใดก๋ ใ็ หก้ ระหนำ่� ลงไปพนี่ อ้ งเอย๋ บไ่ ดเ้ สยี หายดอก
บไ่ ดค้ ณุ นอ้ ย ก็ได้คุณมาก
การพจิ ารณาความตายอยา่ งนตี้ ดิ ตอ่ กนั อยกู่ เ็ กดิ สลดสงั เวช
เหมือนกันนั่นล่ะ การพิจารณาลมหายใจเข้าออกอย่างน้ีก็เกิด
สลดสงั เวชไดเ้ หมือนกันนั่นละ่
การภาวนาพทุ โธตดิ ตอ่ กนั อยกู่ ไ็ ดก้ ำ� ลงั เหมอื นกนั กรรมฐาน
อนั ใดไดก้ ำ� ลงั หมด บไ่ ดห้ นอ่ ยกต็ อ้ งไดม้ าก ขอ้ สำ� คญั ตอ้ งบรกิ รรม
ใหม้ นั พอ บรกิ รรมใหม้ นั พอจนลนิ้ บก่ ระดกุ นนู่ ละ่ บรกิ รรมแปลวา่
กำ� กบั อย่วู ่าอย่างนั้นเถอะ
ฌานัง แปลวา่ เพง่ อยู่
สีลัง แปลว่า ตัดสินอย่ใู นการเพ่ง
สมาธงิ แปลว่า ต้งั มัน่ ในการเพง่
ปัญญา แปลวา่ รอบรใู้ นทเ่ี ฮาเพง่ อยู่
ยน่ มาเปน็ เรอื่ งเดยี วกนั เดน้ ี่ พดู เปน็ เรอื่ งเดยี วกนั อทิ ธบิ าท
การใหส้ ำ� เรจ็ ตามความประสงคม์ ี ๔ อยา่ ง ฉนั ทะ วริ ยิ ะ จติ ตะ วมิ งั สา
เอาลงเป็นอันเดียวกัน ฉันทะ พอใจรักใคร่ในกรรมฐานท่ีต้ังไว้
วิริยะ ใหเ้ พียรหม่นั ประกอบในกรรมฐานท่ีตงั้ ไว้ จิตตะ ให้เอาใจ
ฝักใฝใ่ นกรรมฐานทตี่ นตง้ั ไว้นั้น วิมงั สา ใหพ้ ิจารณาตริตรองใน
กรรมฐานท่ตี นต้ังไว้นั้น
52 | พ ร ะ จ้ ี พ ร ะ ป ล ้ น
เรอ่ื งเกา่ นน่ั ละ่ เปา้ อนั เกา่ นนั่ ละ่ พดู ถงึ ธรรมะนี่ จะพดู ไปมาก
ถงึ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธก์ ต็ าม กพ็ ดู เรอื่ งเกา่ นนั่ แหละ แตห่ ลาย
อบุ ายเฉยๆ ก็พดู เรอ่ื งกองรูปกองนามน่นั ล่ะ
นามงั แปลว่า ชื่อมัน
รปู งั แปลวา่ รูป
รูปนมี้ นั ก็ประกอบด้วยดนิ น้ำ� ไฟ ลม ประชุมกันเปน็ กาย
เรยี กวา่ รปู เทา่ นนั้ ละ่ ถา้ มนั บห่ ลงดนิ มนั กบ็ ห่ ลงนำ้� ถา้ มนั บห่ ลงนำ�้
มนั กบ็ ห่ ลงไฟ มนั กบ็ ห่ ลงลมเหมอื นกนั นน่ั ละ่ เพราะดนิ นำ�้ ไฟ ลม
มันประชุมกันเป็นกายเรียกว่ารูป ถ้ามันแตกออกไป มันก็แตก
ออกไปเปน็ ดนิ มนั แตกออกไปมนั กไ็ ปเปน็ นำ�้ มนั แตกออกไปกไ็ ป
เปน็ ไฟ แตกออกไปมนั กไ็ ปเปน็ ลม มนั ไปอยมู่ หาภตู ธาตุ เรยี กวา่
มหาภตู ธาตุ ธาตใุ หญ่ ธาตเุ ดมิ ของมัน
เฮากินข้าวก็เรียกว่าดินหนุนดิน เฮากินน�้ำก็เรียกว่าบ�ำรุง
ธาตนุ ำ้� เฮาตอ้ งการความอบอนุ่ กเ็ รยี กวา่ บำ� รงุ ธาตไุ ฟ เฮาตอ้ งการ
หายใจเขา้ ออกกเ็ รียกวา่ บ�ำรงุ ธาตลุ ม ถา้ เฮาโลภเฮาโกรธเฮาหลง
กเ็ รยี กวา่ บำ� รงุ กเิ ลส เรยี กวา่ เลยี้ งกเิ ลส เลยี้ งงเู หา่ ไวค้ อยกดั ตวั เอง
ถา้ เฮาผลกั ดนั หำ้� หนั่ มนั กเ็ รยี กวา่ เฮาสติ อ่ สกู้ บั มนั วา่ อยา่ งนน้ั เถอะ
อบุ ายใดจะหำ้� หั่นกบั มนั ได้ ความโลภเราสเิ อาหยังมาต่อสกู้ บั มนั
โลภมนั กินความกวา้ ง เรียกว่าราคะก็ใช่ โทสะมันโทสะโดยตรง
อยู่แล้ว โทสะกับโมโหก็มีความหมายอันเดียวกัน กับโกรโธก็มี
ห ล ว ง ปู่ ห ล ้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 53
ความหมายอันเดียวกัน มีรสชาติอันเดียวกัน กับโกรธังก็มี
ความหมายอนั เดยี วกนั โกธํ ฆตวฺ า สขุ ํ เสต.ิ ฆา่ ความโกรธไดแ้ ลว้
อยู่เป็นสุข ก็เป็นสุขใจนั่นละ่
ความหลงทนี จ้ี ะเอาหยงั มาตอ่ สกู้ บั มนั กส็ มั มาทฏิ ฐิ ความ
เหน็ ชอบตอ่ ส้กู บั ความหลง เหน็ วา่ มีบาปมบี ญุ มสี วรรคน์ ิพพาน
ต่อสู้กบั ความหลงในชัน้ ตน้
สว่ นราคะนน้ั หากวา่ พอเหลยี วเหน็ บนั้ ทา้ ยใหญๆ่ หนอ่ ย แลว้
จติ ไปแลน่ เขา้ ฮดู ากเขาโลด อยา่ งนอ้ี ยา่ ไปทง้ิ รา่ งกระดกู ใหค้ าบอยู่
บม่ กี ลางวนั กลางคนื ถา้ มคี นมาใสบ่ าตรแลว้ เหน็ แขนเหย่ี วๆ หนอ่ ยละ่
ก็บอ่ ยากเบิ่ง ถ้าแขนกลมๆ สวยๆ ซะล่ะ ปากแดงๆ ซะละ่ อยาก
บงั สกุ ลุ บาตรพรอ้ มเลย อนั นน้ั ละ่ ใหพ้ จิ ารณารา่ งกระดกู ใหม้ นั บอ่ ยๆ
ถา้ ไมอ่ ยา่ งน้ันสู้มันบไ่ ด้ ของอันใดมันเปือ่ ยมันเนา่ เช่น
สมมตุ ิเอาตัวตดื ของมนั นั่นมาคล้องคอ
สมมตุ วิ า่ เลยี แตดมนั พูน้ สมมุตวิ ่าเลยี ฮหู ีมันพู้น
มันสิเลยี ได้หรือ มันสกิ ลืนกินไดห้ รือ
ใหม้ นั เยี่ยวใส่ถ้วยป่น ใหม้ นั มาเยีย่ วใส่บาตรเบง่ิ ดสู ิ
เราจะกนิ ได้หรอื สมมตุ ปิ านนนั้ ละ่ มนั จงึ จะได้
มันจึงจะตอ่ สู้กับมนั ได้
เอ้อ ถ้าไมอ่ ยา่ งน้ันแล้วสู้มนั บ่ได้
54 | พ ร ะ จ ี้ พ ร ะ ป ล ้ น
ถ้าเฮ็ดแบบสุภาพๆ อยู่
เฮ็ดแบบเหยาะๆ แหยะๆ อยบู่ ่ไดก้ าร
นสิ ัยเฮาหยาบ
เฮากต็ อ้ งเอาหยาบๆ แบบน้ีใสม่ ัน
ถ้าอย่างน้ันก็ให้พิจารณาร่างกาย ลอกหนังออกมาเบ่ิงดู
มีหยังแหน่ จติ จะรวมบร่ วมช่างมนั บเ่ ป็นหยงั
อนั นพ้ี อนง่ั เขา้ แลว้ กอ็ ยากเปน็ อยา่ งพระโมคคลั ลานะ อยากเหาะ
ไปโลด อย่างนั้นบ่ไดก้ ารดอกน่ัน อยากแสดงฤทธิ์แสดงเดชโลด
พอนง่ั เขา้ อยากใหเ้ ขาอศั จรรยโ์ ลด อยากเหาะไปโลด อยากดำ� ดนิ
ไปโลด บไ่ ดก้ นิ ดอกอยา่ งน้ัน ไมน่ านก็นอนลงเบ้ิมเท่านน้ั ละ่
ใหส้ งั เกตเบิ่งเจา้ ของใหม้ ันถูก
ราคะกับโทสะอันใด๋มนั ขึ้นง่ายกวา่ กัน
หากโทสะมนั ขึน้ งา่ ยหลาย
ให้เมตตาตนซะกอ่ น
มผี ดู้ า่ ผวู้ า่ เฮา เฮากบ็ ช่ อบ มผี เู้ บยี ดเบยี น เฮากบ็ ช่ อบ มผี ทู้ ำ� รา้ ย
ร่างกาย เฮาก็บ่ชอบ มีผู้เบียดเบียนเฮาทางตรงทางอ้อม เฮาก็
บ่ชอบ ในสกลกายร่างกายของเฮา ถา้ มีผูท้ บุ ผตู้ ผี ูว้ า่ เฮากบ็ ่ชอบ
สัตว์ทั้งหลายก็เหมือนกัน แล้วเฮาค่อยแผ่เมตตาไปท่ัวท้ังไตร
โลกธาตุ ถา้ บท่ ำ� อยา่ งนน้ั มนั กเ็ หมอื นการพายเรอื โตล้ ม โตน้ ำ้� ไหล
ห ล ว ง ป่ ู ห ล ้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 55
มนั บล่ ง มนั บรกิ รรมซอื ๆ มนั ตอ้ งใหเ้ หน็ โทษในโทสะอหิ ลี เหน็ โทษ
ในการเวรการภัยอหิ ลี มนั จึงจะภาวนาเมตตาลง
เรื่องราคะก็เหมือนกัน ให้มันเห็นโทษในการของสกปรก
ของสกปรกแทๆ้ มนั ถอื ว่าเปน็ ของสวยของงาม ถา้ มันอยากเสพ
อยากสมอยา่ งน้ี กใ็ หแ้ ยกธาตอุ อก มนั กม็ ธี าตดุ นิ ธาตนุ ำ�้ ธาตไุ ฟ
ธาตลุ ม ถา้ มนั วา่ อยากเสพอยากสม กใ็ หม้ นั ไปเจาะรขู ต้ี มเสพลอง
ดูสิ ก็ธาตุดินเหมือนกันต้ัว ถ้าว่ามันอยากเสพอยากสมอย่างนี้
กเ็ อาตกั นำ้� ใสข่ นั มา เดา้ นำ้� เบง่ิ แลว้ บอ้ เออ้ ถา้ มนั อยากเสพอยากสม
อย่างน้ี ก่อไฟขึ้นเบ่ิงดู เสียกควยใส่แล้วกระเด้าไฟเบ่ิงแล้วบ้อ
กธ็ าตไุ ฟเหมอื นกันแลว้ ถ้ามันอยากเสพอยากสมอหิ ลี ลมพัดมา
แรงๆ เสยี กควยหนั ไปทางลม แลว้ เดา้ ลมเบง่ิ แลว้ บอ้ กม็ แี ตธ่ าตดุ นิ
น�ำ้ ไฟ ลม ประชุมกนั เป็นกาย เรยี กว่า รปู
พดู อยา่ งน้แี หละ เอาหยาบๆ ใส่มนั
ถ้าไมอ่ ยา่ งน้นั แล้วเอาไมอ่ ยเู่ ด้
ถา้ บ่เอาหยาบๆ ใส่
มันมักหยาบกต็ อ้ งเอาหยาบใส่
มอี ยคู่ นหนงึ่ ไปบณิ ฑบาต พอเหน็ ผสู้ าวมาแลว้ นำ้� อสจุ อิ อก
กดุ ๆๆ ออกมา วา่ ซนั่ โอย้ มนั กเ็ กนิ ไปดอก เราวา่ นะ เขาวา่ ผา้ เปยี กหมด
วา่ ซน่ั พระมาลยั นัน่ ตั้ว สกึ ไปแลว้ เดีย๋ วนี้ อบุ ายทรมานเจ้าของ
ใหผ้ ใู้ ดบอกกบ็ ถ่ กู ดอก มนั ตอ้ งรจู้ กั ในไผในมนั มนั จงึ เปน็ สนั ทฏิ ฐโิ กเด้
56 | พ ร ะ จ้ี พ ร ะ ป ล้ น
เร่ืองราคะนแ่ี หละมันสำ� คญั
มนั อยากทำ� ให้ผดิ พรหมจรรย์ มันทำ� ให้เป็นปาราชิกงา่ ย
ถา้ ไม่อย่างนนั้ ก็กระโหลกหัวผีทเ่ี ขาขดุ ไดต้ รงไหน
อยา่ เพ่ิงเอาไปทงิ้ เหน็ อยใู่ นกฏุ ทิ ่านสมพงษก์ ม็ ี
ใหเ้ อามาแขวนคอเดนิ จงกรม สอ่ งเบงิ่ ใหม้ นั เหน็ อยจู่ ง่ั ซนั่ ละ่
เอามนั มาคว่�ำใส่หนา้ แลว้ ดมมนั ถ้ามันมักหลาย
เฮาต้องหาอุบายหยาบๆ ใสจ่ ั่งซั่น
เรอื่ งความหลงทนี ี้ มจิ ฉาทฏิ ฐมิ นั มอี ยู่๔ อยา่ งใหญๆ่ ของบส่ วย
เฮาถือว่าเปน็ ของสวย ๑ คอื สกลรา่ งกาย มันเป็นของเปื่อยเนา่
ของบม่ น่ั บเ่ ทยี่ ง เฮาถอื วา่ เปน็ ของมน่ั ของเทยี่ ง ๑ คอื สกลกาย ของบ่
เปน็ ตวั เปน็ ตน เฮาถอื วา่ เปน็ ตวั เปน็ ตน ๑ คอื สกลกาย ของทเ่ี ปน็ ทกุ ข์
เฮาถอื วา่ เปน็ สขุ ๑ คอื สกลกาย กม็ แี ตด่ นิ นำ�้ ไฟ ลม แยกออกไปแลว้
เรา เขา สตั ว์ บคุ คล มนั บ่มเี ด้ แยกออกไปแล้ว เหมือนกฏุ ิวิหาร
ม้างออกๆ ชือ่ กฏุ ิวิหารก็บ่มี
วันคืนล่วงไปๆ มันบ่ได้ล่วงไปเฉยๆ ความแก่ ความเจ็บ
ความตาย มันเอาไปกินด้วย วันคืนมันกินความแก่ ความเจ็บ
ความตายอยนู่ น่ั นะ่ มันบ่อ่ิมสักครั้ง มาหลายภพหลายชาติแล้ว
พูดอย่างนแ้ี หละ มาเปน็ ขข้ี า้ แก่ ขี้ข้าเจบ็ ขข้ี า้ ตายอยู่นลี่ ะ่
ทบ่ี วชมาอยู่น้ี ไม่ไดว้ ่าจะบวชให้ใครเด้เดี๋ยวนี้
บวชใชห้ นเี้ จา้ ของเด้ หมู่เฮานะ่ ปฏิบตั ิใช้หน้ีเจา้ ของเดน้ ่ี
ใชห้ นโ้ี ลภ ใชห้ นโ้ี กรธ ใชห้ นห้ี ลง ว่าอยา่ งนี้
ห ล ว ง ปู ่ ห ล ้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 57
ถ้าพูดแลว้ ตีตนตายกอ่ นไข้
“โอย้ ปฏิบตั กิ ป็ ฏบิ ัตไิ ปเถอะ พระอรหันตบ์ ่มีดอกทุกวนั นี้
โอ้ย มนั บ่พน้ ดอก” ก็อยา่ งว่า
“เฮด็ นา เฮด็ ทอได๋กเ็ ฮด็ ไปเถอะ บ่เป็นเศรษฐดี อก”
“เอ้า บ่ไดเ้ ปน็ เศรษฐกี ย็ ังดกี ว่าที่จะไปลกั เพิ่นกนิ ขอเพ่นิ
กินนัน่ บอ้ ”
“หรือจะเอาแตล่ กั กับขอเขากินอยา่ งนั้น
อันน้ถี ้าบไ่ ดเ้ ป็นพระอรหนั ตใ์ นชาตนิ ี้
ก็จะบเ่ อาพระอนาคามีหรือ บเ่ อาบอ้
บ่ได้พระอนาคามี พระสกทาคามบี ่เอาบ้อ
ไม่ได้เปน็ พระอรหนั ตก์ ด็ ี พระโสดาบันบ่เอาบ้อ
ถา้ บ่ได้เป็นพระโสดาบนั
ตายแลว้ ไปเกิดเปน็ มนษุ ย์กบั เขาบเ่ อาบอ้
หรือตายไปแล้วไปพรหมโลกดว้ ยอานิสงส์ฌานบเ่ อาบ้อ
หรอื จะเอาแต่หม้อนรกอยา่ งเดยี วบอ้ ”
น่มี นั ก็มคี �ำถามเจ้าของอยเู่ หมอื นกนั นั่นล่ะ
“เอ้า ปฏบิ ัติไปละ่ บม่ ดี อกพระอรหนั ต์ทกุ วนั น”้ี
58 | พ ร ะ จี ้ พ ร ะ ป ล ้ น
“เฮาอยากเปน็ พระอรหันต์ อยากเห็นพระอรหนั ต์
กใ็ ห้เฮาเป็นพระอรหนั ต์ซะกอ่ น
ถา้ เฮาอยากเหน็ พระโสดาบัน
ก็ใหเ้ ฮาเป็นพระโสดาบนั ซะกอ่ น
ถา้ เฮาอยากเหน็ พระสกทาคามี
ก็ให้เฮาเป็นพระสกทาคามซี ะก่อน
หากเฮาอยากเห็นพระอนาคามี
กใ็ ห้เฮาเปน็ พระอนาคามซี ะกอ่ น”
ทนี ีเ้ ฮาไปผูกเวรเข่นแช่งผใู้ ดบ๋ ้อ ว่าซน่ั เฮาฆ่าสัตว์ตัดชวี ติ
หรอื ไม่ นเ่ี ปน็ เครอ่ื งทดสอบ อบายมขุ ทกุ ประเภทมนั เปน็ เครอื่ งเวน้
ของพระโสดาบนั เฮายงั ยนิ ดหี รอื ไม่ นก่ี เ็ ครอื่ งทดสอบเหมอื นกนั เด้
ถ้าเฮายังยินดีอยู่ก็บ่แม่นพระโสดาบัน การฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์
ประพฤติผิดในกาม เฮายังยินดีอยู่หรือไม่ ถ้าสมมุติว่าเฮาสึก
ออกไปอย่างน้ี เฮาจะเฮ็ดได้บ่ หรอื ถา้ ไมส่ กึ สมมตุ วิ า่ จะฆา่ สตั ว์
ได้หรือเปล่า ให้คิดอย่างนน้ั ถา้ หากเฮายงั ฆา่ ได้อยู่ มนั ก็ยังไม่ใช่
พระโสดาบัน ถ้าแมงขน้ี ากเขา้ หอู ย่างน้ี เราจะสามารถตบใหม้ ัน
ตายหรอื ไม่ หากสามารถตบมนั ตายอยู่ มนั กย็ งั ไมใ่ ชพ่ ระโสดาบนั
ค้าขายเครื่องประหาร ถ้าขายสัตว์ตัวเป็นหรือสัตว์เพ่ือเป็น
อาหาร คา้ ขายนำ�้ เมา คา้ ขายยาพิษ สิง่ เหลา่ น้เี ป็นเครื่องเวน้ ของ
พระโสดาบนั หมด การคบมติ รชวั่ นก้ี เ็ ปน็ ภมู ขิ องพระโสดาบนั หมด
เวน้ หมด
ห ล ว ง ปู ่ ห ล้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 59
บคุ คลทีส่ ำ� คัญตัววา่ เป็นพระโสดาบนั
แต่ยังเอาพระมาเสกอยู่ ปลกุ พระ ผัน่ วา่
โอ้ย ไปปลุกเพน่ิ เฮด็ หยัง เพิ่นเข้าสูพ่ ระนพิ พานแล้ว
ปลุกเจา้ ของนั่นละ่ เป็นหยงั ไปปลุกพระจ่ังซี่
เสกเปา่ ปดู้ ๆ จั่งซี่
ถา้ ยังยนิ ดีในเลขในผาว่าน่ันเป็นทางจะรำ�่ รวย
มนั สิฮงั่ มนั สมิ มี ันสิดมี ันสิไดอ้ ยู่
มนั บแ่ ม่นพระโสดาบัน มันเปน็ โสดันดากเขา
เอ้า โสดนั โสเดา โสดาก
สว่ นพระโสดาบนั เหน็ โทษโตง้ ๆ เลย บไ่ ดถ้ อื วา่ อบายมขุ ทกุ
ประเภทน้ีสิเป็นทางน�ำมาแห่งทรัพย์ การคบมิตรช่ัวก็บ่เป็นทาง
นำ� มาแห่งทรัพย์ มติ รปฏริ ปู คนเทยี มมิตร มติ รแทม้ ี ๔ จำ� พวก
พระโสดาบันรูจ้ กั หมด คิหิปฏบิ ตั ิท้งั เลม่ นนั่ เป็นภมู ิพระโสดาบนั
อญั ญสัตถเุ ทส บ่ยอมถอื ศาสดาอืน่ เลย คนบางคนผกี ็ถอื หมอดู
กถ็ อื เทวบุตรเทวดาก็ถือ แต่สำ� คญั ตวั ว่าเปน็ พระโสดาบนั มแี ต่
โสดนั ดากเขานนั่ แหละ มนั ไมใ่ ชด่ อก อญั ญสตั ถเุ ทส บถ่ อื ศาสดา
อน่ื
ฉ จาภฐิ านานิ อภพโฺ พ กาตุงฺ
อทิ มปฺ ิ สงฺเฆ รตนํ ปณตี ํ
เอเตนสจเฺ จน สวุ ตฺถิ โหตุ.
60 | พ ร ะ จี ้ พ ร ะ ป ล ้ น
อันนี้ก็เป็นรัตนะอันปราณีตในพระสงฆ์ ฉ จาภิฐานานิ
โทษอยา่ งหนัก ๖ อยา่ ง มาตฆุ าต ฆา่ มารดา ปิตฆุ าต ฆ่าบิดา
อรหนั ตฆาต ฆา่ พระอรหนั ต์ โลหติ ปุ บาท ทำ� รา้ ยพระพทุ ธเจา้ ใหย้ งั
พระโลหติ หอ้ ข้นึ ไป สังฆเภท ยังสงฆ์ให้แตกกัน อญั ญสัตถเุ ทส
ไมถ่ อื ศาสดาอน่ื ภมู ขิ องพระโสดาบนั นะ่ แตค่ นนนั่ บร่ จู้ กั พระโสดาบนั
เดล้ ่ะ คนหากบ่รูจ้ ักเด้
เรอื่ งทหี่ ลวงปจู่ ามเพน่ิ พดู เฮากพ็ จิ ารณาอยู่ ๕ ปี ๖ ปี นแี่ หละ
เฮายังบ่ถนดั ใจ
“พระโสดาบันในพระศาสดาใดก็ต้องเข้าสู่พระนิพพานใน
พระศาสดานน้ั ” เพนิ่ ว่าอย่างน้ี
เช่น เป็นพระโสดาบันในศาสนาพระโคดมน่ี ก็ตอ้ งส�ำเร็จ
พระอรหนั ตใ์ นศาสนาของพระโคดม จะไปสำ� เรจ็ ในพระศาสนาของ
พระศรอี รยิ เมตไตรยเปน็ ไมม่ ี เพน่ิ พดู อยา่ งนัน้ หลวงปูจ่ ามเพน่ิ
ว่าเดน้ ่ี เฮาฟงั มา แต่เฮายังบ่สนทิ ใจ เฮามีท่ีพิจารณาอยู่
แมพ่ ระพทุ ธเจา้ ของเรานะ่ ตง้ั แตช่ าติทเ่ี ปน็ กาเผือกนูน้ น่ะ
ปรารถนาเปน็ แมข่ องพระพทุ ธเจา้ ๕ พระองค์ ตลอดถงึ พระเวสสนั ดร
เปน็ แมพ่ ระพุทธเจ้าไปแล้ว ๔ พระองค์ กกสุ นั โธ ก็คนนีเ้ ป็นแม่
โกนาคมโน ก็คนนเ้ี ปน็ แม่ กัสสโป ก็คนนเ้ี ป็นแม่ โคตโม มาถงึ
ศาสนาของพระพทุ ธเจา้ ของเรา ทา่ นไปเทศนท์ ตี่ าวตงิ สา แมบ่ รรลุ
ห ล ว ง ปู ่ ห ล้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 61
พระโสดาบันแล้ว พระโสดาบันชนิดน้ีสิเป็นพระโสดาบันเอกพีชี
เราว่า จะได้เกิดอกี ชาตหิ น่ึง แม่พระพทุ ธเจ้านจ้ี ะไดม้ าเกิดพรอ้ ม
พระพทุ ธเจา้ ในเมอื งเกตมุ ดนี คร เมอื งพาราณสจี ะไดเ้ ปลย่ี นชอ่ื เปน็
เมอื งเกตมุ ดนี คร ไดส้ ำ� เรจ็ พระโสดาบนั เอกพชี แี ลว้ มพี ชื อนั เดยี ว
จะได้เกิดอีกชาติหน่ึง เพราะนับตั้งแต่พระพุทธเจ้าของเฮามานี้
มนั บท่ นั เป็น ๒ เดอื น ๓ เดือน ในช้ันดาวดงึ ส์เด้ เด๋ยี วน้ี ๒๕๒๗
ยงั บท่ นั เปน็ ๒ เดือน ๓ เดอื น ในชน้ั ดาวดึงส์เด้ หรอื ในชัน้ ดุสิต
ดว้ ย
นี่แหละเป็นเหตุให้เฮาพิจารณาอยู่ หลวงปู่จามเพ่ินยืนยัน
อย่างนี้ เฮายงั มีเรือ่ งยนื ยนั อกี อนั หนงึ่ ทีน้ี พระพทุ ธเจ้าอยูใ่ นปา่
มหาวนั พรอ้ มพระภกิ ษอุ รหนั ต์ ๕๐๐ ในพระพทุ ธเจา้ พระองคห์ นงึ่ ๆ
จกั มคี ราวหนงึ่ เรยี กวา่ มหาสมยั สตู ร พระสตู รนน้ั เปน็ สตู รมหาสมยั
ทสหิ จ โลกธาตูหิ เทวตา เทวดา ๑๐ โลกธาตุลงมาไหว้
พระอรหันต์ ๕๐๐ องคน์ ั่น
“ใครอยากจะเห็นเทวดาให้เข้าสมาธิเน้อ ใครอยากเห็น
พวกนนั้ ” ว่าซ่นั เขาจะมาทั้งไตรโลกธาตนุ ้ี ๑๐ โลกธาตุ
ทสหิ จ โลกธาตูหิ เทวตา เย ภยุ ฺเยน สนนฺ ปิ ตติ า โหนตฺ ิ
ภควนตฺ ํ ทสสฺ นาย ภกิ ขฺ ุ สงฆฺ ญจฺ . เทวดาอยากมาเหน็ พระพทุ ธเจา้
ในพระพทุ ธเจา้ องคห์ นง่ึ ๆ ตอ้ งมคี รง้ั หนง่ึ มหาสมยั สตู รน้ี ในพระพทุ ธเจา้
แตล่ ะพระองค์ๆ
62 | พ ร ะ จ้ ี พ ร ะ ป ล ้ น
เอว เมว สทุ ฺธาวาเสสุ เทเวสุ อนตฺ รหิตา ภควโต ปรุ โต
ปาตรุ หสํ ุ. อตฺถโข ตา เทวตา ภควนตฺ ํ อภิวาเทตฺวา เอกมนตฺ ํ
อฏฺ ํ ส.ุ เอกมนตฺ ํ ฐติ า โข เอกา เทวตา ภควโต สนตฺ เิ ก อมิ ํ คาถํ
อภาส.ิ
ทา้ วสุทธาวาส ลงมาแต่ชนั้ อวหิ า อตปั ปา สทุ สั สา สุทัสสี
อกนฏิ ฐา มาถามปญั หา มากราบเรยี นปญั หากบั พระพทุ ธเจา้ เฮาอยู่
ในบางคราวพระพุทธเจ้าของเฮาก็หายแวบไปคราวหนึ่งขึ้นไป
สทุ ธาวาส ความเปน็ จริงพระองคเ์ จ้ารูอ้ ย่แู ลว้
“ทา่ นมาอยนู่ ี่นานขนาดไหน”
“ตงั้ แตค่ รง้ั พระเจา้ วปิ สั สี แตค่ รงั้ พระเจา้ กสั สปะ เพราะละ
กามารมณไ์ ด้แล้ว โทสารมณ์ได้แลว้ กไ็ ด้มาอยู่ในที่น”ี่
เรากม็ ที ่ีจะแซงอีกเรือ่ งหน่ึง เฮาบล่ งสนิท ถ้าอย่างนนั้ พวก
นักเรียนชั้นประถมที่ ๑ ก็อย่าให้ไปเรียนมัธยมกับครูคนอื่นตี้
ใหม้ นั เรยี นกบั ครคู นนนั้ คนเดยี วใหม้ นั จบเลยทเี ดยี วต้ี เราวา่ อยา่ งนี้
พวกเรยี นประถม ชนั้ ปีท่ี ๑ ปที ี่ ๒ ปที ่ี ๓ ปีที่ ๔ ปที ี่ ๕ ปที ี่ ๖
อย่าไปเรียนปริญญาตี้ ให้ไปเรียนกับครูคนนั้นให้มันจบหมด
ทเี ดียวเลยตี้ เฮาวา่ อย่างนี้
ในบาลีท่ีเพ่ินอ้างมีอยู่ พวกสุทธาวาสแต่ปางใดนู้น ยังมา
สังสรรค์กับพระโคดมของเฮาอยู่ ต้ังแต่ครั้งพระพุทธเจ้ากัสสโป
ห ล ว ง ป ู่ ห ล ้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 63
ก็มี กกสุ นั โธกม็ ี วิปสั สกี ็มี วปิ สฺสี จ อนปู โม. เป็นชน้ั สุทธาวาส
อยู่น้นู แล้ว วนั หนึง่ คนื หนง่ึ ในสทุ ธาวาสนั้น มนั กเ็ ปน็ ตงั้ ล้านๆ ปี
ในโลกมนุษย์ของเฮาน้ี มันจึงจะเป็นวันหนึ่งคืนหนึ่งในชั้น
สุทธาวาส
“ล็อกของไผของมันต้องกวาดไปให้หมด” หลวงปู่จามพูด
อย่างนี้
“พระพุทธเจ้าเพิ่นท�ำงานเกี่ยวเน่ืองกันอยู่น่ันเด้” เราพูด
อย่างนี้
เชน่ บางคนกใ็ หท้ านตงั้ แตค่ รงั้ พระเจา้ ทปี งั กรนนู้ แลว้ กเ็ ชน่
พระสารีบุตร พระโมคคัลลาน์ ก็ปรารถนาเป็นสาวกเบ้ืองซ้าย
เบอ้ื งขวาตงั้ แตส่ มยั พระเจา้ อโนมทสั สนี นู้ นนั่ ทา่ นทำ� งานรว่ มกนั
อยู่อย่างนั้น จนได้มาส�ำเร็จมรรคผลนิพพานในศาสนาของพระ
โคตมะเฮานี่
หลวงปจู่ ามเพน่ิ วา่ “บแ่ มน่ หนงั สอื เฮด็ ผดิ ” เพน่ิ วา่ “พระโสดาบนั
ล็อคของไผผู้ได้ก็ต้องไปตามพระพุทธเจ้าพระองค์น้ันท้ังหมด”
วา่ ซั่น เพน่ิ วา่ อย่างน้หี ลวงปจู่ าม
แตเ่ ฮากม็ หี ลกั ฐานอา้ งอยู่ เฮากย็ งั บท่ นั ลงสนทิ ยงั ยนื ยนั อยู่
เหมอื นเดมิ หลวงปจู่ ามนะ่ แมข่ องพระพทุ ธเจา้ มเี ปน็ เครอ่ื งอา้ งอยู่
พวกท่ขี ึน้ ไปเกิดทสี่ ทุ ธาวาสน่ะ
64 | พ ร ะ จ ้ี พ ร ะ ป ล้ น
เอว เมว สทุ ฺธาวาเสสุ เทเวสุ อนตฺ รหิตา ภควโต ปรุ โต
ปาตุหํสุ.
มากราบทลู พระพทุ ธเจา้ ๔ บาทคาถาน้นั
อถโข ตา เทวตา ภควนฺตํ อภวิ าเทตฺวา เอกมนตฺ ํ อฏฺ สํ ุ.
นงั่ ในทสี่ มควรแกต่ นแลว้ ถามปญั หากบั พระองคเ์ จา้ มากราบ
ทลู ถามปัญหา ลงมากราบไหว้พระองคเ์ จ้า มหิ น�ำซ้�ำพระองคเ์ จ้า
ก็ยังขึ้นไปสุทธาวาสไปถามพระอนาคามี พวกที่อยู่ช้ันอวิหาก็มี
พวกชนั้ อตปั ปากม็ ี พวกชนั้ สทุ สั สา สทุ สั สี กม็ ี พวกชน้ั อยอู่ กนฏิ ฐกา
ก็มี พระอนาคามี มี ๕ จำ� พวกเด้ พวกทีไ่ ปเกิดในพรหมโลกน่ะ
ในพรหมโลกวนั หนงึ่ คนื หนง่ึ ถา้ เปน็ ในมนษุ ยโ์ ลกเฮาน้ี มนั กต็ งั้ เปน็
ลา้ นๆๆ นนู่ มนั จึงจะเทา่ วนั หนง่ึ คนื หน่ึงในพรหมโลกน่ะ ในชน้ั
พรหมโลกของพระอนาคามีน่ะ เฮาก็เลยว่าพระพุทธเจ้าท�ำงาน
ร่วมกนั หมด บ่ไดแ้ ยกก๊กแยกพวกกนั
อยา่ งแมพ่ ระพทุ ธเจา้ นเ้ี ปน็ พระโสดาบนั แลว้ เดย๋ี วน้ี คงสำ� เรจ็
เปน็ พระโสดาบันเอกพชี ี จะได้เกิดอีกชาตเิ ดยี ว จะไดเ้ กิดพรอ้ ม
พระศรอี ริยเมตไตรย เปน็ แม่พระศรีอริยเมตไตรย แลว้ จงึ เขา้ สู่
พระนิพพานพร้อมพระศรีอริยเมตไตรย ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว
มาลัยสูตรท�ำไมบ่เอาไปสุมไฟท้ิง เฮาว่าอย่างน้ี เอาไว้เฮ็ดหยัง
เทศน์ ๔ ผูกนู่นน่ะ เทศนโ์ จทกก์ นั บนธรรมาสน์ด้วย
ห ล ว ง ปู ่ ห ล้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 65
“ถ้าว่าพระไตรปิฎกบ่ถกู ท�ำไมบ่เอาไฟไปสุมท้ิง
เอาไว้เฮด็ หยงั เฮาวา่ อย่างนี้
มหาสมยั สูตรหมู่น้ัน เอาไวท้ �ำไม
บ่เอาไฟไปสมุ ทงิ้ ซะละ่ ” เฮาวา่
การปฏบิ ตั มิ อี านสิ งสอ์ ยหู่ ลายประการ ๑. บไ่ ดพ้ ระอรหนั ต์
ในปจั จบุ นั กจ็ กั ไดใ้ นเวลาจะตาย ใกลจ้ ะตายพจิ ารณาเหน็ กองทกุ ข์
หนกั แลว้ มนั เลยถอนอปุ าทาน มนั เลยเบอื่ ชาตอิ ดตี อนาคต ปจั จบุ นั
แล้วหากบ่ได้อย่างน้ันก็จักได้นิสัยพระปัจเจก จักปรารถนาเป็น
พระปจั เจก หากบไ่ ด้พระปจั เจก ได้พบพระพทุ ธเจ้าองค์หน้ามา
แสดงธรรมบาทคาถาเดียว ก็ส�ำเร็จเป็นพระอรหันต์เหมือนพระ
พาหิยะทาฬุจริ ยิ ะ เพราะอานสิ งสท์ ่ีปฏิบัติมาดีแลว้
พระพทุ ธเจา้ เทศน์ “เปน็ แตส่ กั วา่ รู้ เป็นแตส่ กั ว่าเหน็ ”
“พอแลว้ ครับ” ไปโลด
เพราะมอี านสิ งสฌ์ านเตม็ มาพอแรงแลว้ ตง้ั แตส่ มยั พระเจา้
กสั สปะนนู่ นะ่ กสสฺ โป สริ สิ มปฺ นโฺ น การปฏบิ ตั บิ ม่ เี สยี หาย วา่ ซนั่
บไ่ ดพ้ ระอรหนั ตใ์ นปจั จบุ นั ชาตติ อนมชี วี ติ เปน็ อยู่ กจ็ กั ไดใ้ น
เวลาใกล้จะตาย พระสทุ โธทนะไดพ้ ระอรหันต์ในเวลาใกลจ้ ะตาย
เด้อ พระสทุ โธทนะน่ะ พอสำ� เรจ็ พระอรหันต์กเ็ ลยส้ินลมปราณ
คากันโลด
66 | พ ร ะ จี ้ พ ร ะ ป ล ้ น
พระราหลุ อธษิ ฐาน “ขอใหค้ ณุ ปรู่ ะงบั เวทนาสกั ระยะซะกอ่ น
เถอะ พอได้รบั ธรรมเทศนาของพระองคเ์ จา้ ”
พระองค์เจ้าอธิษฐาน “ขอทุกขเวทนาของโยมพ่อระงับลง
สักระยะพอไดเ้ ข้าใจความหมายอย่าใหท้ ุรนทุราย”
กำ� ลงั ประชวรอยเู่ ด้ พอปลงปญั ญาลงในกองทกุ ข์ ในอนจิ จงั
ทุกขัง อนตั ตา เหน็ ชัดแลว้ ก็วญิ ญาณปฏสิ นธบิ ่ได้ไปขอ้ งอยู่ทใี่ ด๋
สน้ิ ลมหายใจพร้อมกนั ไปเลย ก็เลยเขา้ สูพ่ ระนพิ พาน
โยมทอี่ ยเู่ มอื งสาเกตสองเฒา่ นะ่ เด้ หนา้ เหยี่ วๆ บเ่ ปน็ นา่ เลอื่ มใส
คนชาวนา พอเหน็ พระองคเ์ จา้ ไปเมอื งสาเกตกบั พระอานนท์ กไ็ ป
กอดแขง้ กอดขาพระองคเ์ จ้า
“โอย้ ลูกเอย้ แมไ่ ดย้ นิ ต้งั แต่ พอ่ ไดย้ นิ ตง้ั แตน่ ูน่ อย่เู มือง
กบลิ พัสด์ุ เมืองพาราณสี เมอื งราชคฤห์ ทำ� ไมบ่มาหาพอ่ หาแม่
สักทีหนอ พ่อแม่คอยอยลู่ ูกเอ๋ย”
“โอ้ย มนั เปน็ อย่างนน้ั ๆ ดอกคุณโยมเอย๋ มนั ยากอยา่ งนั้น
อย่างน”ี้
พระอานนทเ์ กดิ สงสยั แตบ่ ม่ เี วลาจะถาม เพราะมนั ยงั บท่ นั
ถึงกาล พบเห็นหน้ากันครั้งแรกก็เข้ามากอดแข้งกอดขาโลด
พระองคก์ ย็ อมใหก้ อด พระองคก์ เ็ ลยเทศนโ์ ปรดเอาอยตู่ รงนนั้ เลย
ห ล ว ง ป่ ู ห ล้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 67
กเ็ ลยสำ� เรจ็ พระอรหนั ต์ อายุ ๘๐ แลว้ ทกุ คนๆ บถ่ งึ ๗ วนั กพ็ ากนั
เข้าส่อู นุปาทเิ สสนิพพานหมด
วันหลังมามีโอกาสแลว้ พระอานนท์เลยกราบทูลถาม
“โยมเฒา่ สองคนนนั่ เปน็ หยงั พอเหน็ พระองคเ์ จา้ จงึ เขา้ มา
กอดแข้งกอดขาโลดแท้ เป็นเหตใุ ห้ขะน้อยสงสยั ”
“โอ้ เธออยากรูจ้ ักหรอื ”
“อยากร้จู ัก”
“สองเฒา่ นน่ั เคยเปน็ พอ่ เปน็ แมเ่ รามา ๕๐๐ ชาตติ ดิ ๆ กนั กม็ ี
เคยเปน็ อาวเ์ ปน็ อาเปน็ ปา้ เปน็ ลงุ เปน็ พสี่ าว เปน็ นอ้ งสาว เปน็ พชี่ าย
เปน็ น้องชายมาจนนบั อเนกชาติสงั สาราบ่ได้ อานนทเ์ อ๋ย ความ
คนุ้ เชอื่ งอนั นนั้ กเ็ ลยตดิ มา เพราะธรรมดาสาวกละวาสนาและนสิ ยั
บไ่ ดเ้ ด้ นสิ ยั นน่ั ตดิ มา พอเหน็ กนั กเ็ ลยคนุ้ เชอื่ งโลด คนนบี้ เ่ คยเปน็ แม่
ผนู้ บี่ เ่ คยเปน็ อา้ ย ผนู้ บี่ เ่ คยเปน็ พช่ี าย ผนู้ บี่ เ่ คยเปน็ นอ้ งเขยนอ้ งสาว
ผู้น่ีบ่เคยได้เป็นมิตร ผู้น่ีบ่เคยได้เป็นสหาย ในไตรโลกธาตุน้ี
เธอลองไปหาเบงิ่ ดู้ บม่ ชี าตหิ นง่ึ กช็ าตหิ นงึ่ ละทต่ี อ้ งเกยี่ วขอ้ งกนั ”
พระองคว์ า่ “บช่ าตหิ นง่ึ กต็ อ้ งชาตหิ นง่ึ ละ่ ทต่ี อ้ งเคยรว่ มกนั
การท่องเท่ียวในวัฏสังสารมันมีหลายจนถึงขนาดเพียงน้ันละ
อานนทเ์ อย้ ”
68 | พ ร ะ จ้ี พ ร ะ ป ล ้ น
ในอติ ิวตุ ตกะ
“กระดูกของพวกท่านทั้งหลายถ้าเก็บไว้เท่าหัวแม่มือใน
ชาตหิ นงึ่ ๆ เกบ็ ไวเ้ ทา่ หวั แมม่ อื ชาตเิ ปน็ สตั วเ์ ดรจั ฉานบต่ อ้ งนบั
ชาติอ่ืนๆ ก็บ่ต้องนับ เอาแต่ชาติเป็นมนุษย์ ช่ัวกัปหนึ่งนี้
จะใหญก่ วา่ ภเู ขาสเิ นรรุ าช หากบใ่ หอ้ นั ตรธารหายไป นำ�้ ตาของ
พวกทา่ นทง้ั หลายนบั แตช่ าตเิ ปน็ มนษุ ย์ นานๆ จงึ ไดไ้ หลออกมา
ชวั่ กปั หนงึ่ นี่ จะมากกวา่ มหาสมทุ รทะเล ๔ มหาสมทุ รนนู่ ถา้ บใ่ ห้
อนั ตรธารหายไป การทอ่ งเทยี่ วในวฏั สงสารมนั มากถงึ ขนาดนนั้
นั่นล่ะอานนท์เอ๋ย เธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ให้เป็นเรื่องของเธอ
เราตถาคตพูดตามเป็นจรงิ ”
พระอานนทก์ เ็ ลยเขา้ ใจ เพราะพระอานนทเ์ ปน็ พระโสดาบนั
แล้ว
ในปฐมปณั ณา
“ทำ� บญุ อนั ใดๆ๋ ตอ้ งอทุ ศิ ใหไ้ ตรโลกธาตทุ ง้ั หมด” พระองคเ์ จา้
สอนอย่างนนั้
“บุญของเรามนั เล็กๆ น้อยๆ ไปท�ำทา่ เปน็ ผ้มู ักใหญ่ใฝ่สูง
ไปโอนใหท้ งั้ โตรโลกธาตอุ ยา่ งน้ี มนั กห็ มดเทา่ นน้ั นะส”ิ วา่ ซน่ั
ห ล ว ง ปู่ ห ล้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 69
“มนั จะเอามาแตไ่ หนพระองคเ์ จา้ เพราะบญุ ของเรามนี อ้ ยๆ เอง
ท�ำท่ามักใหญ่ใฝ่สูงไปโอนหมด ไปโอนอุทิศให้ไตรโลกธาตุหมด
แล้วเราจะเหลืออะไร”
“อยา่ งนน้ั แหละมนั ยง่ิ ไดม้ าก ปตั ตทิ านมยั บญุ สำ� เรจ็ ดว้ ยการ
ใหส้ ว่ นบญุ นน่ั ไง เรยี กวา่ หวา่ นพชื เอาผลอยเู่ สมอๆ ยง่ิ ไดบ้ ญุ หลาย
อานนท์เอย๋ ” พระองคเ์ จ้าวา่
การแผ่เมตตาทางโลกุตระน่ะแผ่จ่ังได๋ แผ่เมตตาในโลกีย์
สแิ ผ่จ่ังได๋
การแผเ่ มตตาในโลกตุ ระก็ “โยนิ ๔ ทกุ ถว้ นหนา้ ขอใหจ้ งถงึ
คุณพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ทกุ เม่อื เถิด”
“โยนิ ๔ ทุกท่ัวหน้า
จงเปน็ สขุ ในพุทธ ธรรม สงฆ์ อยูท่ กุ เมือ่
บ่มีประมาณเถดิ ”
สตั วผ์ เู้ กดิ ในครรภ์ ในไข่ ในเถา้ ในไคล แลว้ กเ็ กดิ ผดุ ขนึ้ เขาจะ
ไดร้ บั หรอื บไ่ ดร้ บั กเ็ ปน็ เรอื่ งของเขา แตเ่ รอ่ื งของเรานนั้ เราตอ้ งให้
เหมอื นอยา่ งฝน เขาจะรองเอาหรอื บร่ องเอากเ็ ปน็ เรอื่ งของคนอนื่
ฝนมนั ถงึ คราตกมนั กต็ กโลด เหมอื นอยา่ งแดดนนั่ ละ่ ไผจะผงิ หรอื
บ่ผิง แดดกส็ ่องของแดดอย่อู ยา่ งน้ันล่ะ เหมอื นอย่างรม่ เงานลี้ ะ่
ไผจะเข้าร่มหรือบ่เข้าก็ตาม มันมีหน้าท่ีก็ต้องร่ม มันมีหน้าที่ก็
70 | พ ร ะ จี้ พ ร ะ ป ล ้ น
ตอ้ งแดด เหมอื นอยา่ งดนิ นนั่ ละ่ ไผตอ้ งการเหยยี บหรอื บต่ อ้ งการ
เหยยี บก็ตาม แตม่ ีดนิ อยู่อย่างนนั้
อนั น้ีก็เหมอื นกัน เราอทุ ิศสว่ นบญุ ใหเ้ ขา เขาจะไดร้ ับหรอื
บ่ได้รับก็เป็นเรื่องของเขา เร่ืองของเราอุทิศให้ก็เป็นเร่ืองของเรา
การแผเ่ มตตาถงึ โลกตุ ระเปน็ อปั ปมญั ญา “โยนิ ๔ ทกุ ทว่ั หนา้ จงเปน็
สขุ ในพุทธ ธรรม สงฆ์ อยู่ทกุ เมอื่ เถิด”
ความสุขในพุทธ ธรรม สงฆ์ หมายถงึ สุขอยา่ งไร
สขุ ในพระโสดาบัน สุขในพระสกทาคามี
สขุ ในพระอนาคามี สขุ ในพระอรหนั ต์
มันเป็นสุขก้าวหนา้ เด้ บ่แม่นสขุ ถอยหลงั เด้
ถา้ สขุ ถอยหลงั กค็ อื สขุ เพราะไดก้ นิ หลายขก้ี องใหญ่ สขุ เพราะ
นอนหลบั หลายฝันหลาย สขุ ดว้ ยอามิสภายนอก อยา่ งน้ีเป็นการ
แผเ่ มตตาในโลกีย์
แผเ่ มตตาในโลกตุ ระมอี านสิ งสห์ ลาย ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งสามารถ
พิจารณาลงถงึ อนตั ตาไดท้ ัง้ หมด บไ่ ดข้ ดั ขอ้ ง เมตตาเปน็ อนัตตา
บม่ เี วร เปน็ อนตั ตาจติ ทบี่ ม่ เี วร เปน็ อนตั ตาจติ ทบ่ี ม่ ภี ยั เปน็ อนตั ตา-
ธรรมที่บ่มีเวร เป็นอนัตตาธรรมท่ีบ่มีภัย น่ันลงได้เหมือนกัน
อสภุ กรรมฐานกล็ งถงึ อนตั ตาไดเ้ หมอื นกนั อนตั ตาเปอ่ื ย อนตั ตา
เนา่
ห ล ว ง ป ู่ ห ล้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 71
อสุภ อสุภฯํ นสิ สฺ ตฺโต นชิ ฺชโี ว สญุ โฺ ญฯ สพโฺ พ ปนายํ
ปิณฺฑปาโต อชคิ จุ ฺฉนีโย อิมํ ปูตกิ ายํ ปตวฺ า อตวิ ิย ชิคจุ ฉฺ นีโย
ชายติ ฯ
มันเป็นของบูดของเน่า ก็แปลลงถึงอนัตตาได้เหมือนกัน
นนั่ ล่ะ อนตั ตาบดู อนัตตาเน่า
พทุ ธคณุ ภาวนาลงถงึ อนตั ตาไดบ้ ่ ธรรมคณุ สงั ฆคณุ ภาวนา
ลงถงึ อนัตตาไดบ้ ่ อนตั ตาคุณอนั ทเ่ี ป็นบ่เกดิ บ่ดับ อนตั ตาคุณอัน
เหนือกวา่ คณุ ในโลกทัง้ หลาย บแ่ มน่ แต่นามคุณ คณุ นามกแ็ มน่
หรอื นามคณุ กแ็ ลว้ แตจ่ ะวา่ ทเ่ี ปน็ ของบเ่ กดิ บด่ บั คณุ พระพทุ ธเจา้
บเ่ กดิ บด่ บั ทมี่ นั เกดิ มนั ดบั กเ็ ปน็ ผบู้ รกิ รรมพทุ โธๆ อยนู่ นั่ ละ่ เพราะ
มันเป็นเจตสิก
คุณของพระพุทธเจ้าน่ะ ไผว่ามันเกิดมันดับไปไหน เป็น
โลกุตรคณุ คณุ พระธรรม คุณพระสงฆ์ คณุ พอ่ คุณแม่ ก็โอนรวม
ใส่กันแล้ว คุณของท่านผู้มีพระคุณก็โอนรวมใส่กันหมดแล้ว
คุณครูบาอาจารย์ สรรพคุณทั้งปวงในโลกีย์เป็นเมืองข้ึนของ
พทุ ธคุณ ธรรมคุณ สังฆคณุ ท้งั หมด แล้วก็พทุ ธคุณ ธรรมคณุ
สังฆคุณ เปน็ เมืองข้นึ ของพระนิพพานทัง้ หมด ยอดของพระคณุ
ไปรวมกนั อยนู่ นู้ รวมกนั อยนู่ น่ั เปน็ คณุ อนั บเ่ กดิ บด่ บั นนั่ เปน็ การ
พจิ ารณาจนถึงโลกุตรคณุ
72 | พ ร ะ จี้ พ ร ะ ป ล ้ น
กายพจิ ารณาถึงอนตั ตาได้หรือไม่ สติก�ำหนดพจิ ารณาเปน็
อารมณ์วา่ กายนี้ก็สกั วา่ กาย ไม่ใชส่ ัตวบ์ ุคคลตวั ตนเราเขา เรยี ก
กายานุปัสสนา
สติกำ� หนดพจิ ารณาเวทนา คอื สุข ทุกข์ และไม่สขุ ไมท่ ุกข์
เปน็ อารมณว์ า่ เวทนานก้ี ส็ กั วา่ เวทนา ไมใ่ ชส่ ตั วบ์ คุ คลตวั ตนเราเขา
เรยี ก เวทนานุปสั สนา
สตกิ ำ� หนดพจิ ารณาใจทเ่ี ศรา้ หมองหรอื ผอ่ งแผว้ เปน็ อารมณว์ า่
ใจนก้ี ส็ กั วา่ ใจ ไมใ่ ชส่ ตั วบ์ คุ คลตวั ตนเราเขา เรยี ก จติ ตานปุ สั สนา
สตกิ ำ� หนดพจิ ารณาธรรมทเี่ ปน็ กศุ ลหรอื อกศุ ลทบ่ี งั เกดิ กบั ใจ
เปน็ อารมณ์วา่ ธรรมก็สักว่าธรรม ไม่ใช่สัตว์บคุ คลตวั ตนเราเขา
เรียก ธรรมานปุ ัสสนา
อนั นก้ี เ็ รยี กวา่ กาย เวทนา จติ ธรรม พจิ ารณาลงถงึ อนตั ตา
ไดเ้ หมือนกนั จะว่าอย่างไรอกี
ในพระพทุ ธศาสนา
อนัตตานัน่ ละ่
เป็นธรรมอนั ลึกล้ำ� กวา่ หมู่
ทจ่ี ะมาถอนอปุ าทานได้
ห ล ว ง ป ู่ ห ล้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 73
ท่านบางคนยืนยัน
“วา่ บ่มีทอ่ี ยู่ ไปอยู่ท่ีจติ เด่นดวงนัน้ ” ว่าซนั่
“บม่ ที อ่ี ยู่ ไปอยใู่ นอเุ บกขานน้ั บม่ ที อี่ ยู่ ไปอยกู่ บั ผรู้ นู้ น้ั มแี ต่
ผรู้ ้เู ดน่ ดวงอยโู่ อ้นโตน้ ” วา่ ซ่ัน
อเุ บกขากเ็ ป็นอเุ บกขวางไดเ้ หมือนกนั นน่ั แหละ
ถา้ มผี ไู้ ปยดึ มนั่ ถอื มน่ั เอาเปน็ สตั วเ์ ปน็ บคุ คลเปน็ เราเปน็ เขา
ผู้ร้ถู า้ มผี ูไ้ ปยดึ ม่ันถือม่นั เอาเป็นเราเปน็ เขา
เปน็ สัตว์เปน็ บคุ คล
มันก็เป็นภพเป็นชาติไดห้ มือนกนั อีกน่นั แหละ
อเุ บกขาสขุ ทกุ ข์ กต็ าม สขุ ทกุ ข์ โสมนสั โทมนสั อเุ บกขา ถา้ มี
ผยู้ ดึ ถอื เอาไปเป็นเจ้าของ มนั ก็เปน็ ภพเปน็ ชาตอิ นั ละเอียดหมด
นั่นล่ะ พูดอย่างนเ้ี ลย เปน็ วญิ ญาณปฏสิ นธิหมดล่ะ เปน็ เหตเุ ป็น
กรรมเปน็ วบิ ากท้ังหมดน่นั ล่ะ เหตุก็ผลของเหตนุ นั่ เด้ กรรมก็ผล
ของกรรมนน่ั เด้ วบิ ากนน่ั เด้ เหตุ พชื กรรม ผลของเหตุ ผลของพชื
ผลของกรรม กส็ งเคราะหเ์ ขา้ ได้ สว่ นจะไปทางผดิ หรอื ทางถกู กเ็ ปน็
อกี เรือ่ งหน่งึ ต่างหาก
พระอรหนั ตอ์ ยฟู่ ากผดิ ฟากถูกโน้น ฟากไดฟ้ ากเสีย
เพราะว่าส�ำคญั ว่าบไ่ ดอ้ ะไร แล้วจะสำ� คญั วา่ เสียอะไร
เพราะบ่ส�ำคญั วา่ สญู หรอื บส่ ญู วา่ ซ่นั
74 | พ ร ะ จ้ี พ ร ะ ป ล้ น
แล้วจะไปบญั ญัติว่า
พระอรหันต์สญู หรอื บ่สูญอย่างไรน่นั
เพราะว่าอดตี กส็ ่งคืนให้อดตี
อนาคตก็สง่ คืนให้อนาคต
ปจั จบุ ันก็ส่งคืนให้ปัจจุบนั เสียแลว้
เพราะบ่ไปสอดแทรกยึดถือเอาวา่ เปน็ เจา้ ของ
วญิ ญาณปฏิสนธิของเพิน่ ก็บม่ ีท่ตี ้งั อยู่
แล้วภพจะมีอยไู่ หน จะวา่ ชาติมอี ยูท่ ่ไี หนอกี
ภโว ภว ปจจฺ โย จิตเข้าภวังค์
จิตเข้าภวงั ค์ กค็ อื จิตเข้าไปหาภพนน่ั ละ่ ภโว ภวะ มนั เปน็
ปจั จยั อยู่ ถา้ ตดิ อยใู่ นภวงั คก์ เ็ ปน็ ภพเหมอื นกนั นนั่ ละ่ ใหว้ า่ อยา่ งน้ี
เพราะมนั บ่ใช่สมาธิหวั ตอ
ภาวนามา ๑๐ ปี ๒๐ปี กม็ แี ตม่ าพดู เรอ่ื งสมาธหิ วั ตอ เทวบตุ ร
เทวดา พระอนิ ทร์ พระพรหม เลื่อมยบั ๆ ยิบๆ อย่างนัน้ อย่างน้ี
ตะวนั มนั กเ็ ลอ่ื มอยคู่ อื หยงั นี่ มนั เลอ่ื มอยอู่ ยา่ งนน้ั บเ่ หน็ วา่ มนั ละ
กเิ ลสได้ ดาวหมนู่ นั้ กเ็ ลอ่ื มอยแู่ วบๆ อยู่ แกว้ แหวนมนั กย็ ง่ิ เลอื่ มตว๊ั
บเ่ ห็นมันมาละกิเลสให้เรา
“แจ้งสวา่ งมาก” เพนิ่ ว่า
“ผู้ขา้ ภาวนาไปแลว้ เห็น” เพน่ิ เอามาพูดอวด
ห ล ว ง ป่ ู ห ล้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 75
“พระอาทิตยม์ ันแจ้งสวา่ งไปถงึ ไหน
บ่เห็นว่ามันมาชำ� ระกเิ ลสใหเ้ รา” วา่ อยา่ งนเ้ี ลย
“พูดให้มอี ภนิ หิ ารแหน่แหม”้ เพนิ่ ว่า
“ดำ� ดนิ บนิ บนบไ่ ด้ อยา่ สมิ าพดู แหม้ ผขู้ า้ บเ่ ชอื่ ดอก” เพนิ่ วา่
ถา้ เชอ่ื อยา่ งนน้ั ก็ ปลาหลด สรณงั คจั ฉามิ จะเปน็ ไรไป มนั ยง่ิ
ดำ� ดนิ เกง่ ปลาไหล สรณงั คจั ฉามิ หมนู่ น่ั นก สรณงั คจั ฉามิ พวกนน้ั
มนั กย็ ง่ิ บนิ เกง่ แมงอะไรทมี่ นั ไตน่ ำ้� ได้ แมงอทิ หู รอื ทเี่ ขาเรยี ก กา่ ง
จา่ งๆ แลน่ ไป แมงอทิ ู สรณงั คจั ฉาม ิ ทำ� ไมถงึ บว่ า่ อยา่ งนนั้ เทวบตุ ร
เทวดา อนิ ทร์ พรหม พระยม พระกาฬ จตโุ ลกบาลทง้ั ๔ มนั บอ่ ยู่
ใตอ้ �ำนาจของอนจิ จังหรอื พจิ ารณาดูสิ อาฬารดาบส อุทกดาบส
ตายคาบริกรรม
“เป็นผมู้ สี ญั ญาก็ไมใ่ ช่ เปน็ ผไู้ มม่ ีสญั ญาก็ไมใ่ ช่
เปน็ ผูม้ ีสัญญากไ็ มใ่ ช่ เป็นผู้ไมม่ ีสญั ญากไ็ มใ่ ช่
ไมใ่ ชก่ ็ไม่ใช่
เปน็ ผไู้ มม่ ีสญั ญากไ็ มใ่ ช่ เป็นผไู้ มม่ สี ญั ญาก็ไมใ่ ช”่
ตายคาบรกิ รรมคาอนั นน้ั ไปเกดิ ในอรปู พรหมอายุ ๘๔,๐๐๐
กปั ถงึ ปานนน้ั ยงั อยใู่ ตอ้ ำ� นาจอนจิ จงั ไดก้ ลบั มาเกดิ เปน็ เปรต เปน็ ผี
เปน็ หมู เปน็ หมา เปน็ เปด็ เปน็ ไก่ เปน็ คนหหู นวกตาบอดอยนู่ นั่ เด้
พูดอย่างนีเ้ ลย
76 | พ ร ะ จ ี้ พ ร ะ ป ล้ น
บุรุษคนหนึ่งไปยืมข้าวเขาบ่ทันได้มาใช้คืนเขา บ่ทันได้ใช้
คืนเขา ข้าวหมนื่ หนงึ่ ขา้ ว ๑๒ กโิ ล กเ็ ลยพาหมู่เฮด็ ถนนหนทาง
เป็นหัวหน้าหัวตาเฮ็ดศาลงศาลา พอถึงเวลาตายมาก็ระลึกถึง
กรรมดนี ัน้ เวลานั้นต�ำแหนง่ พระอินทร์กว็ า่ งอยพู่ อดี กเ็ ลยได้ไป
อุบัติเป็นพระอินทร์ พอหมดอานิสงส์แล้วหมดอายุแล้ว ก็ได้ลง
มาเกดิ เปน็ ควายไถนาให้เขา เพราะวา่ บไ่ ด้ใชห้ น้ีข้าวเขาคืน นน่ั
พวกโลกิยะเด้น้ี มันบ่เหมือนพระโสดาบันเด้ โสดาบันจึงเป็น
โลกุตระ
ทีนม้ี ปี ัญหาสอดเขา้ มาว่า
“สวรรค์ช้นั ดาวดงึ ส์นเี่ ปน็ ชนั้ โลกียห์ รือโลกุตระ”
มนั ก็มีปนกนั อยู่ทงั้ โลกีย์กบั โลกุตระน่นั แหละ เหมือนกัน
กับโลกมนุษย์เฮาน่ีล่ะ ปนกันอยู่ท้ังคนขี้โหดสามานย์ก็ปานนั้น
ทัง้ พระโสดาบนั กป็ น พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์
มอี ยูใ่ นโลกอยา่ งนลี้ ่ะ ใหเ้ ขา้ ใจอย่างน้ี มันก็ปนกนั อยนู่ นั่ ละ่ โลก
อนั นี้ บม่ อี ะไรไปปนแตช่ นั้ อวหิ า อตปั ปา สทุ สั สา สทุ สั สี อกนฏิ ฐา
เพราะเป็นที่อยู่ของพระอนาคามีจ�ำพวกเดียว นอกน้ันช้ันอื่นๆ
มันปนกันอยู่เหมือนในมนุษย์โลกเราน่ีล่ะ ผู้เข้าตะรางเข้าอยู่
เต็มภูมิกม็ ีเด้ ผภู้ าวนาก็ภาวนาอยเู่ ต็มภูมกิ ็มเี ด้ ผถู้ งึ โสดาบนั ก็
โสดาบันอยู่เต็มภูมิเด้ซั่น ผู้กินเหล้าก็กินเหล้าอยู่เต็มภูมิเด้ซ่ัน
ผเู้ ลน่ เลขกเ็ ล่นเลขอยู่เต็มภูมินัน่ เด้ ผู้เขาเวน้ เขากเ็ ว้นอยู่เตม็ ภมู ิ
ห ล ว ง ป ู่ ห ล ้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 77
ในโลกหน่วยเดียวกันน้ี ผู้เพน่ิ พน้ ไปแลว้ กพ็ น้ อยู่เต็มภูมิ เหมอื น
หลวงปมู่ นั่ หลวงปขู่ าว นน่ั ไมร่ จู้ ะพดู อยา่ งไรไปอกี ละเวย้ พดู กนั
ความสงสัยของหมูข่ องเพ่อื นเดล้ ่ะ
ถ้าพูดว่ามรรคผลนิพพานบ่มีอย่างนี้ แล้วมีแต่สิจอบเสียก
ควยออ่ นมาเลียใส่มือนั่นน่ะ รู้จกั ไหม
“มรรคผลนิพพานหมดแลว้ ”
ก็หมดนะสิคนแบนนี้ แตท่ า่ นคนอน่ื ไม่หมดดอก
“มรรคผลนิพพานหมดแล้ว บ่มีไผได้ดอก” เพนิ่ ผั่นว่า
บเ่ ห็นอาจารยส์ งิ ห์ทองหรือ ท่านเปน็ คนขี้ด้อื
มีอาจารยอ์ งคห์ น่งึ ว่า “ไผปฏิบัติก็ปฏบิ ัตไิ ปเถอะ มรรคผล
นิพพานบม่ ดี อก หมดแล้ว” อาจารย์คนนี้เป็นคนขาหักเด้
“ตัวขาหักกเ็ หมาว่าคนอ่ืนขาหักเหมอื นตวั ” วา่ ซั่น อาจารย์
สิงหท์ องท่านพูดขึ้นอยขู่ า้ งลา่ ง พูดแล้วกเ็ ดินเขา้ โบสถ์ คนขี้ดื้อเด้
อาจารยส์ งิ ห์ทอง เดินเขา้ โบสถ์นูน้
“ตัวตาบอดก็เหมาวา่ คนอ่นื จะตาบอดเหมอื นตัว
ตวั โง่ก็เหมาว่าคนอ่นื จะโงเ่ หมือนตวั
ตัวขาหักกเ็ หมาวา่ คนอ่นื จะขาหกั เหมือนตวั
78 | พ ร ะ จี้ พ ร ะ ป ล ้ น
ในโลกน้กี ็มเี ศรษฐี ๗-๘ คนนูน้
ตวั หากกินบ่พอปากขาดบ้านบ่พอเรอื น
ก็เลยเหมาว่าคนอ่ืนจะอดจนเหมอื นตัว
ผูเ้ ขารวยเขาก็รวยอยู่
พดู บ่มเี ย่ียงอย่าง
พระครูบาอาจารยใ์ หญช่ ัน้ น้ี” วา่ ซ่ัน
วา่ แลว้ กจ็ ม่ ไปนนู้ คนขด้ี อ้ื เดเ้ พน่ิ อาจารยส์ งิ หท์ อง จม่ เขา้ ใน
โบสถน์ ูน้
ทนี ีเ้ พิ่นอาจารยก์ งแกว้ เพิ่นเลา่ ให้เราฟัง
“โอย้ ผมละ่ ตกใจอยู่ ผมไดย้ นิ ทา่ นสงิ หท์ องวา่ ” อาจารยก์ งแกว้
“โอ กลา้ พูดปานน้นั เด้ออาจารย์สงิ ห์ทอง บ่แมน่ ของงา่ ยๆ เด”้
คนมาเกิดในโลกน้ี ผู้ทเ่ี ขาสรา้ งบารมเี ต็มตื้นมาแล้วก็มอี ยู่
ผทู้ เี่ พง่ิ จะมาสรา้ งกม็ อี ยู่ คนมาเกดิ ในศาสนาแตล่ ะยคุ ๆ นะ่ คนมา
จากทเี่ ดยี วกนั หมดหรอื สรา้ งบารมมี าเสมอกนั หมดอยา่ งนนั้ หรอื
ผู้ที่เขาบางแล้วก็มี ผู้ทเี่ ขาจะพ้นไปแลว้ ก็มี
ธรรมค�ำสอนของพระพุทธเจ้าบาทคาถาเดียว บางคนก็ลง
หม้อนรกนู้น บางคนส�ำเร็จเป็นพระโสดาบัน บางคนส�ำเร็จ
สกทาคามี บางคนสำ� เร็จพระอนาคามี บางคนส�ำเรจ็ พระอรหันต์
ท�ำไมถึงเป็นอย่างน้ี ก็เพราะภูมิสมบัติของท่านเหล่านั้นสร้างมา
ห ล ว ง ปู่ ห ล ้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 79
ตา่ งกัน ผกู ขาดแตศ่ าสนาของพระโคดมนี้ เพงิ่ จะได้มาเกิดเปน็
มนษุ ยด์ ว้ ยกนั หมดอยา่ งนนั้ หรอื ผทู้ เ่ี ขาเปน็ มาหลายชาตหิ ลายภพ
แลว้ กม็ ี ผทู้ เ่ี พง่ิ จะมาเกดิ เปน็ มนษุ ยก์ ม็ ี ในศาสนาของพระพทุ ธเจา้
องค์ใด๋ๆ กเ็ หมือนกนั น่นั แหละ
ดอกบวั ๔ เหล่า มอี ยูแ่ ต่ในครั้งพุทธกาลหรอื ครงั้ นก้ี ็มี
ดอกบานกบ็ านเต็มภมู ิ
ดอกตูมกต็ ูมเตม็ ภูมิ
ออกอยู่ใต้น�้ำก็ใตน้ ้ำ� เต็มภมู ิ
ดอกเสมอน้�ำก็เสมอน้ำ� เต็มภูมิ
ดอกบวั แตล่ ะกอหมายถงึ โลกๆ หนงึ่ ดอกบวั แตล่ ะดอกหมาย
ความถึงคนแต่ละรายของบุคคล เราจะไปเป็นกระต่ายขาเดียว
ยืนยันวา่ บม่ พี ระอรหนั ต์อย่อู ย่างน้นั หรือ ว่าบ่มพี ระโสดาบนั บม่ ี
พระสกทาคามีอยา่ งนนั้ หรือ
“พระพุทธเจ้าล่วงไปแล้วนานเท่านั่น เกลือบ่เค็มดอก”
ไปจิบเกลอื ดผู ้ใู ดท๋ ่วี า่ อย่างน้นั
มคี นมาถามเราเหมอื นกนั นั่นล่ะ นางไพจติ รนะ่
“ใครเป็นพระโสดาบัน ใครเป็นพระสกทาคามี ใครเป็น
พระอนาคามี หลวงปู่ ใครเป็นพระอรหนั ต”์
80 | พ ร ะ จ ้ี พ ร ะ ป ล ้ น
“กใ็ ครจบิ เกลอื ผนู้ นั้ กร็ จู้ กั รสเคม็ ลกู ๆ ไมต่ อ้ งมาถามดอก”
“โอย้ หลวงป่เู ขกแล้ว” วา่ ซัน่ เราว่า “หลวงปู่เขกแลว้ ๆ”
“ใครจิบเกลือคนน้ันก็จะรู้จักว่าเกลือเค็ม น้อยหรือมาก
ขน้ึ อยู่กบั การจบิ เผด็ เคม็ หวานจัดกเ็ หมอื นกนั อนั เดยี วกนั ”
เราวา่ อยา่ งนี้ พระธรรมบ่ได้ลำ� เอยี งเข้ากบั ไผเด้
ทุกส่งิ ทุกอยา่ งมนั เปน็ โลกทพิ ย์หมดล่ะ ลืมตาข้ึนมันกเ็ ปน็
โลกทพิ ยใ์ นดา้ นเหน็ ฮงุ หลบั ตาเขา้ มามนั กเ็ ปน็ โลกทพิ ยใ์ นทางมดื
เหตุกบั ผลอยู่ห่างกันพอกา้ วอะไร
เหตจุ ับผลกจ็ บั เหตุวางผลก็วาง
เหตกุ �ำผลกก็ �ำ เหตุวางผลก็วาง
เหตพุ ดู ผลกพ็ ูด เหตุสงสยั ผลก็สงสัย
จะว่าอย่างไรอกี เหตุกบั ผลอยู่ห่างกันพอก้าวอะไร
เหตนุ ั้นพระปณิ โฑทวารชะ เพ่นิ จึงวา่
“ไผสงสยั ในมรรคผลนิพพาน จงถามเราเถิด”
เพนิ่ รอ้ งประกาศไปทว่ั วดั ทวั่ วา เพราะนสิ ยั เพนิ่ เปน็ อยา่ งนนั้
หากวา่ เหตกุ บั ผลมนั บม่ ี มรรคผลนพิ พานกบ็ ม่ แี หลว่ เหตกุ แ็ ปลวา่
กริ ยิ าทล่ี งทำ� ผลกแ็ ปลวา่ ผลของกริ ยิ าทเี่ หตทุ ำ� เหตกุ บั ผลมอี ยทู่ กุ
ขณะจิตอยา่ งน้แี ล้ว มรรคผลนพิ พานกม็ ีอยูท่ กุ ขณะจิต มรรคก็
ห ล ว ง ปู ่ ห ล้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 81
แปลวา่ ขอ้ ปฏบิ ตั ิ ผลกแ็ ปลวา่ ผลของการปฏบิ ตั ิ เหตกุ แ็ ปลวา่ ตวั เหตุ
ตามเดมิ ผลกแ็ ปลวา่ ผลของเหตุ พชื กด็ ี เหตกุ ด็ ี มรรคกด็ ี กริ ยิ ากด็ ี
กรรมกด็ ี สงเคราะหเ์ ขา้ กนั ได้ ผลของเหตุ ผลของพชื ผลของกรรม
ผลของกริ ิยาก็สงเคราะหเ์ ข้าได้ สว่ นจะไปทางผิดหรอื ทางถูกน้ัน
มันแลว้ แต่ผลแตก่ รรมเปน็ ประมาณ ผลบ่ตอ้ งประสงคก์ ไ็ ดร้ บั
อยา่ งเราหลบั ตาลงอยา่ งนี้ แตบ่ อ่ ยากไดค้ วามมดื มนั กย็ งั มดื
อยนู่ น่ั เด้ เราลมื ตาอยอู่ ยา่ งน้ี “เราอยา่ มองเหน็ เดอ้ ผขู้ า้ จะลมื ตา”
ว่าซ่นั เราจะห้ามไดบ้ อ้ ว่าอยา่ งน้เี ลย
ผมนี้บ่ไดส้ งสัย
หมทู่ ่ีสงสยั ก็จงหาบไปพระนิพพานดว้ ยซะ
เราบ่สงสัย วา่ แตท่ ำ� เหตุใหม้ นั พอเท่าน่ัน
บวชเขา้ มาแลว้ บห่ วงั พน้ ทกุ ข์ในวฏั สงสาร
แลว้ จะบวชมาหาสะแตกอิหยังหมู่เฮา
บวชมาลวงโลก มนั สลิ งหม้อนรกนนู้
หากจะตายก็ให้ตายคาภาวนาน่ัน ยอมให้มันตายแต่ร่าง
กระดูกนั่น แต่จิตใจบ่ยอมให้มันตาย ธรรมะบ่ยอมให้มันตาย
บไ่ ดช้ น้ั หนง่ึ กใ็ หม้ นั ไดช้ น้ั หนง่ึ บไ่ ดช้ นั้ โลกตุ ระกใ็ หม้ นั ไดช้ นั้ โลกยี ์
ได้ไปเกิดเป็นมนุษย์กับเพิ่นจะบ่ดีอยู่หรือ ได้ไปสวรรค์เป็น
บางครั้งบางคราวจะบ่ดีอยู่หรือ ดีกว่าไปลงท่วนอยู่หม้อนรกนู้น
ว่าอย่างนเี้ ลย
82 | พ ร ะ จี้ พ ร ะ ป ล ้ น
บวชเขา้ มาแลว้ หาความสุขบเ่ ห็น
แลว้ จะออกไปหาความสุขในโลกมันจะเหน็ อะไร
เขาปลอ่ ยให้บวชเขา้ มาแล้วยงั หาความสขุ บเ่ ห็น
ยงั บ่เห็นธรรมอยู่
แลว้ ออกไปทางโลกท�ำอย่างใดมันจึงจะเหน็
ไปเหน็ กไ็ ปเห็นแตง่ า่ มขาของเขาน่นั แหลว่
เออ้ ตำ� หนแิ ตแ่ มงวนั เขยี ว ตวั เรานก้ี เ็ ปน็ แมงวนั เขยี วหวั ดำ�
สึกออกไปกไ็ ปเป่าแคน ฟงั เสียงแคน “ลุ่มทุย่ ๆ” ไปตอมของเน่า
ของเหมน็ เขามา เปน็ แมงภแู่ มงผงึ้ เวลากลางคนื “ทกุ ขจ์ รงิ ๆ” เสยี ง
กลองเพน่ิ ฟอ้ นคกึ ยกึ ๆ ใสพ่ รอ้ ม เราบเ่ คยฟอ้ นสกั ครงั้ ดอก ฟอ้ นบ่
เป็นดอกเรา อย่าไปเสียเปรยี บกเิ ลสพวกเรา
“เลือดทกุ หยดบชู าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ระลึกได้กด็ ีไม่ระลกึ ไดก้ ็ดี
ขอเปน็ ขา้ เปน็ ทาสพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ อยทู่ กุ เมอ่ื
ขอให้ขี้รดเย่ยี วรด
เหยยี บย่ำ� ถ่มน้ำ� ลายคายน้ำ� มกู
ใส่สกลกาย วาจา ใจ ทุกหนทุกแห่งทกุ วิถีทาง
บ่มีประมาณ
เพือ่ พน้ ทุกข์ในวัฏสงสารโดยดว่ น
ในปจั จุบนั ชาตนิ ”้ี
ห ล ว ง ปู่ ห ล ้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 83
ปจั จบุ นั ชาตจิ ะหมายเอาไกลปานได๋ กป็ จั จบุ นั จติ ปจั จบุ นั ธรรม
นแี่ หละเรยี กวา่ ปจั จบุ นั ชาติ ใหห้ ลดุ พน้ เปน็ พระโสดาบนั สกทาคามี
อนาคามี อรหนั ต์ ในปจั จบุ นั จติ ปจั จบุ นั ธรรมนน่ั ละ่ บแ่ มน่ จติ อดตี
บแ่ มน่ จติ อนาคต จะส้นิ ความสงสัยตอนใดๆ๋ กจ็ ติ ปัจจุบนั ธรรม
ปัจจุบันบ่แม่นจิตอดีต บ่แม่นจิตอนาคต ดังน้ันพระพุทธเจ้าจึง
ตรสั วา่ ปจฺจุปปฺ นนฺ ญฺจ โย ธมฺมํ ผู้ใดเหน็ ธรรมในปัจจบุ ัน ผู้น้ัน
ไม่งอ่ นแง่นคลอนแคลนในพระพทุ ธศาสนา น่ัน
๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธ์
กย็ ่นลงมาในปัจจบุ ันจติ ปัจจบุ ันธรรม
ลมหายใจเข้าออกขณะหนง่ึ
ครบ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธห์ มด
มที ั้งความเกิดข้นึ มที ้ังความแปรปรวน
มที ง้ั ความแตกสลาย
มีทง้ั คณุ พระพทุ ธ มที ัง้ คุณพระธรรม มที ง้ั คุณพระสงฆ์
มีทง้ั ความเปอ่ื ยความเนา่
มีทงั้ ดนิ น้ำ� ไฟ ลม มีครบหมด
ลมหายใจออกครง้ั หนงึ่ กเ็ หมอื นกนั ขณะจติ ทนี่ กึ ขนึ้ ครง้ั หนง่ึ
กเ็ หมอื นมใี น ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขนั ธห์ มด บแ่ มน่ วา่ มอื้ นมี้ อ้ื อน่ื
จงึ จะมี เรานับดินหนึ่ง ดนิ จงึ มี ว่าซั่น บแ่ มน่ วา่ มันมีกอ่ นทเี่ รานับ
แลว้ บ้อ ไฟอยา่ งนี้ บแ่ ม่นไฟมนั มีอยู่ก่อนนับแลว้ บอ้ ลม บแ่ ม่น
84 | พ ร ะ จี้ พ ร ะ ป ล ้ น
ลมมนั มีอยกู่ อ่ นทเ่ี ราจะนบั แลว้ บ้อ น�ำ้ บแ่ มน่ น�ำ้ มันมกี อ่ นเรานับ
แลว้ บอ้ เมอ่ื เปน็ ดงั น้นั ส่งิ ทง้ั ปวงมันกม็ ีอยูใ่ นปจั จบุ ันหมด ไปหา
แบกแต่คัมภรี น์ น่ั คัมภีร์น่อี ยู่ คมั ภีรป์ จั จบุ นั
มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺ า มโนมยา
ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่
มธี รรมเปน็ ใหญ่อยเู่ หมอื นกัน
มีปัญญาเป็นใหญ่เหมือนกัน
สทั ธนิ ทรยี ์ วริ ยิ นิ ทรยี ์ สตนิ ทรยี ์ สมาธนิ ทรยี ์ ปญั ญนิ ทรยี ์
ปญั ญาเป็นใหญใ่ นธรรมทัง้ หลายหมด
ฟงั ออกไหมทา่ นมหา ไมไ่ ดพ้ ดู ภาษากลาง ตอ้ งหดั ภาษาภาค
อสี านบา้ ง ถา้ จะพดู แตภ่ าษากรงุ เทพฯ เรากต็ ระหนภี่ าษา ตอ้ งพดู
ภาษาภาคอสี านให้คุณฟงั ด้วย ท่านนๆ้ี อยู่นานแลว้ ฟงั ออกแล้ว
หลายพรรษาแลว้ ฟังออกแล้ว
พหวู จนะยน่ ลงเปน็ เอกวจนะ สัพพนามยน่ ลงเปน็ เอกนาม
จิตจะมีตั้งลา้ นๆ ดวงกต็ าม กย็ น่ ลงในเอกจติ เอกธรรมในปัจจุบนั
จะมี ๘๙ ดวงกต็ าม ๑๒๑ ดวงก็ตาม กย็ น่ ลงในเอกจิตเอกธรรม
ธรรมจะมนี านาธรรมกต็ าม สพั พธรรมกต็ าม ทง้ั ฝา่ ยโลกยี ท์ งั้ ฝา่ ย
โลกตุ ระกต็ าม กย็ น่ ลงเปน็ เอกจติ เอกธรรมทง้ั หมด ถา้ ไมอ่ ยา่ งนนั้
แล้วก็จะมัวแต่มาท่องพระโตรปิฎกอยู่ แล้วไผจะได้มรรคผล
นพิ พานสักที พระไตรปฎิ กมนั มีมากคอื สิตายนี่
ห ล ว ง ปู่ ห ล้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 85
ไตร แปลว่า สาม ปฎิ ก แปลวา่ ทีร่ วบรวม รวบรวมกาย
รวบรวมวาจา รวบรวมใจ
ถา้ จะว่าเป็น ติกะ กว็ ่า กาย วาจา ใจ
จะว่าเปน็ เทวฺ หรอื ทุกกนิบาต ก็ว่า กายกบั ใจ
ถ้าว่าเป็น ตกิ นบิ าตร ก็วา่ กาย วาจา ใจ
ถา้ วา่ เป็น จตุกนิบาต ก็วา่ อริยสัจ ๔ หรอื ธาตุ ๔ เปน็ ต้น
ถ้าว่าเป็น ปัญจกนิบาต ก็ รูป เวทนา สัญญา สังขาร
วญิ ญาณ
ถ้าวา่ เปน็ ฉกนบิ าต ก็ ตา หู จมูก ล้นิ กาย ใจ
ถ้าวา่ เปน็ สัตตกนบิ าต ก็ปฐวีธาตคุ ือธาตดุ นิ อาโปธาตคุ ือ
ธาตนุ �ำ้ เตโชธาตคุ อื ธาตุไฟ วาโยธาตคุ ือธาตุลม อากาสธาตคุ อื
ชอ่ งว่างทมี่ ีอยใู่ นกาย วิญญาณธาตคุ ือความรอู้ ะไรได้
หรอื สตั ตาวาส ๗ ท่เี ปน็ ที่เกิดท่ีอยขู่ องสัตว์ท้งั หลาย
หรอื อปรหิ านยิ ธรรม ๗ อยา่ ง ธรรมไมเ่ ปน็ ทตี่ ง้ั แหง่ ความ
เส่อื ม เปน็ ไปเพือ่ ความเจรญิ ฝา่ ยเดียว เรียกว่าอปรหิ านิยธรรม
มี ๗ อยา่ ง
86 | พ ร ะ จี้ พ ร ะ ป ล้ น
๑. หมนั่ ประชมุ กันเนอื งนิตย์
๒. เม่ือประชมุ ก็พร้อมเพรียงกนั ประชุม เมอื่ เลิกประชุมก็
พรอ้ มเพรยี งกนั เลกิ และพรอ้ มเพรยี งกนั ทำ� กจิ ของสงฆท์ จี่ ะตอ้ งทำ�
๓. ไม่บัญญัติส่ิงที่พระพุทธเจ้าไม่บัญญัติ ไม่ถอนสิ่งที่
พระองค์ทรงบัญญัติไว้แล้ว สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบทตามที่
พระองคท์ รงบัญญัตไิ ว้
๔. ภกิ ษใุ ดเปน็ ผใู้ หญเ่ ปน็ ประธานในสงฆ์ เคารพนบั ถอื ภกิ ษุ
เหล่าน้นั เช่ือฟังถ้อยคำ� ของท่าน
๕. ไมล่ ุอ�ำนาจแกค่ วามอยากท่เี กิดขน้ึ
๖. ยนิ ดีในเสนาสนะป่า
๗. ตง้ั ใจอย่วู า่ เพอ่ื นภกิ ษสุ ามเณรซงึ่ เป็นผมู้ ศี ีล ซง่ึ ยงั ไมม่ า
สอู่ าวาส ขอให้มา ที่มาแล้วขอให้อยู่เปน็ สขุ
ธรรม ๗ อยา่ งนต้ี งั้ อยใู่ นผใู้ ด ผนู้ น้ั ไมม่ คี วามเสอื่ มเลย มแี ต่
ความเจริญฝา่ ยเดียว
ถา้ วา่ เปน็ ๘ อัฏฐกะ คอื หมวด ๘ โลกธรรม ๘ ธรรมที่
ครอบงำ� สตั วโ์ ลกอยู่ และสตั วโ์ ลกยอ่ มเปน็ ไปตามธรรมนน้ั เรยี กวา่
โลกธรรม
ห ล ว ง ปู่ ห ล ้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 87
โลกธรรมน้ันมี ๘ อยา่ ง คือ มลี าภ ๑ ไมม่ ีลาภ ๑ มยี ศ ๑
ไม่มียศ ๑ นนิ ทา ๑ สรรเสริญ ๑ สขุ ๑ ทกุ ข์ ๑
ในโลกธรรม ๘ ประการนี้ อย่างใดอย่างหน่ึงเกิดขึ้น
ควรพจิ ารณาวา่ สงิ่ นเ้ี กดิ ขน้ึ แลว้ แกเ่ รา กแ็ ตว่ า่ มนั ไมเ่ ทย่ี ง เปน็ ทกุ ข์
แปรปรวนเปน็ ธรรมดา ควรรตู้ ามทเ่ี ปน็ จรงิ อยา่ ใหม้ นั ครอบงำ� ได้
คอื อย่ายินดีในสว่ นท่ปี รารถนา อย่ายินร้ายในสว่ นท่ีไม่ปรารถนา
ว่าเปน็ ๘ ก็ว่าได้อีกหลายอย่างอยู่
สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปโป สัมมาวาจา สัมมากัมมันโต
สัมมาอาชโี ว สมั มาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
ย่นเปน็ ๓ กไ็ ดแ้ ก่ ศลี สมาธิ ปญั ญา
ถา้ วา่ เปน็ ๙ มละคอื มลทนิ ๙ อยา่ ง โกรธ ๑ ลบหลบู่ ญุ คณุ
ทา่ น ๑ รษิ ยา ๑ ตระหน่ี ๑ มายา ๑ มกั อวด ๑ พดู ปด ๑ มคี วาม
ปรารถนาลามก ๑ เห็นผดิ ๑
ว่าเปน็ ๙ ก็โลกตุ รธรรม ๙ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑
แนะ่ กค็ วามเก่า
ถา้ วา่ เป็น ๑๐ กก็ ุศลกรรมบถ ๑๐ อกุศลกรรมบถ ๑๐
ถา้ ว่าเป็น ๑๑ ก็ เอกาทส
88 | พ ร ะ จี ้ พ ร ะ ป ล้ น
ถา้ ว่าเปน็ ๑๒ ก็ เทวฺ ทส ตา หู จมกู ลน้ิ กาย ใจ รูป เสยี ง
กลิน่ รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ รวมกนั เขา้ เป็น ๑๒
แลว้ สง่ิ เหล่าน้มี นั เปน็ ยงั ไง
มันก็อยใู่ ต้อำ� นาจของ อนิจจงั ทุกขงั อนัตตา
ถา้ เราพิจารณาอนจิ จังแล้ว
กเ็ รยี กวา่ เราพจิ ารณากรรมฐาน
ทุกๆ กรรมฐานในพระพทุ ธศาสนา
เพราะทัง้ หมดมารวมกันอยูใ่ นสถานใี หญน่ ี้
มหาปัญญาก็อยู่ตรงน้ี
ถ้าเราเหน็ อนจิ จังชดั กเ็ หน็ ทกุ ขงั ชดั กเ็ ห็นอนัตตาชัด
แลว้ อวชิ ชาความโง่
ตัณหาความทะเยอทะยานอยากในวัฏสงสาร
มนั จะมาจากประตูใด๋
มนั ก็จะบด่ บั ไปบอ้ ซน่ั
ลองให้มันเหน็ ชัดจริงๆ ทะแหม้
เห็นทุกขอ์ ย่างเดียวทั้งอดตี ท้งั อนาคตทง้ั ปจั จบุ นั
มนั ก็สามารถดบั ไปเหมอื นกัน
อวชิ ชา ตัณหา อปุ าทาน
ภพ ชาติ ชรา มรณะ โสกปริเทวะ อุปายาสา
บต่ ้องไล่ไปหลายเท่าใด๋ดอก
จม่ เทา่ ใด๋มันย่ิงจม่ ยาก ท่องไปเทา่ ใด๋มนั ยงิ่ ท่องยาก
ห ล ว ง ป ู่ ห ล้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 89
เหมอื นอยา่ งปญั หาของนกั ธรรมชน้ั เอกแตก่ อ่ น สมยั ๒๔๘๘ นะ่
ถามนกั เรียน
“ผู้ภาวนาพทุ โธๆ จะเปน็ สมถะหรอื วิปสั สนา”
ถา้ จะตอบใหถ้ กู ในสนามหลวงกต็ ้องตอบวา่
“เปน็ สมถะ เพราะเปน็ บรกิ รรมภาวนา ภาวนาในบรกิ รรม”
ทกุ วันนถี้ ้าจะใหเ้ ราตอบ เราบต่ อบแล้วอย่างนนั้
“ผูภ้ าวนาพทุ โธๆ น้ัน จะวา่ เปน็ สมถะก็ไม่ถกู
จะว่าเป็นวิปัสสสนากไ็ มถ่ กู
เพราะมนั ขนึ้ อยกู่ บั ญาณสมั ปยตุ ของผูภ้ าวนา
ยกอุทาหรณ์ เช่น เขาภาวนาพุทโธๆ อยู่
แล้วเหน็ ความแตกสลายไปของสงั ขาร
ในขณะที่เขาบรกิ รรมอย่นู ้นั
จะไปบญั ญตั ิเขาว่าเปน็ สมถะ มันก็ไมถ่ ูก
มันตอ้ งเปน็ วิปสั สนา
เพราะเขามญี าณสมั ปยตุ ในขณะท่เี ขาบรกิ รรม”
เราตอบอย่างนี้โลด เพราะพวกนักเรยี นบไ่ ดภ้ าวนา ก็ตอบ
ตามปรยิ ัตเิ ฉยๆ บย่ อมง่ายๆ เดเ้ ราน่ะ
90 | พ ร ะ จี้ พ ร ะ ป ล ้ น
ยกอุทาหรณ์อีก
“ถา้ อยา่ งนนั้ ผนู้ ง่ั ลบู ผา้ ไปลบู ผา้ มาแลว้ บรกิ รรม รโช หรณํ
รชํ หรต.ิ มันก็นา่ จะเป็นบรกิ รรมภาวนา แต่ทำ� ไมถงึ แตกฉานใน
ปฏิสมั ภทิ า ๔”
เราก็จะพูดไปอย่างน้ี เอ้า จะว่ายังไงทีน้ีพวกมหาน่ะ น่ัน
ผดิ กนั ไหมกบั พวกภาวนา ผดิ หรือบผ่ ิด
“รโช หรณํ รชํ หรต.ิ ก็น่าจะเปน็ สมถะ
เพราะบริกรรมไปบริกรรมมา
แตท่ �ำไมถึงแตกฉานปฏสิ มั ภิทา ๔
นนั่ กเ็ พราะญาณสมั ปยุตของเขาต่างกนั ”
ว่าอย่างนแี้ ล้วเรา ก็อย่ใู นมรรคเทา่ นนั้ ต้วั
ว่าไปหลายโกหกหลาย หากว่าเขาโกหก ตัวก็อยา่ ไปเช่อื สิ
ตัวมสี ทิ ธอิ์ ยู่ เปน็ บ้าบอ้
ธรรมะปฏสิ ัมภิทา ท่านแตกฉานในธรรม
“นโม” ของพระโสดาบนั เปน็ นโมทเี่ หน็ ฮงุ่ หนทาง บส่ งสยั
นโมพระโสดาบันบ่ผูกเวรกับไผ นโมแปลวา่ นอบน้อมเด้
ห ล ว ง ป่ ู ห ล ้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 91
“นโม” ของพระสกทาคามี ละเอียดไปกว่าพระโสดาบัน
แยบคายกว่ากนั เพราะมีญาณสัมปยุตตา่ งกัน
“นโม” ของพระอนาคามี นโมอนั นนั้ นบนอ้ มไป เพราะพน้
จากกามารมณ์ โทสารมณ์ก็บม่ ีแล้วเด้
“นโม” ของพระอรหันต์ เพิ่นเรียนนโมจบ
ธรรมบทเดียวกันแต่ต่างกันเด้นั่น นอบน้อมจนบ่มีกิเลส
ก็แสดงวา่ เรียนนโมจบแลว้ ซ่นั ต๊ัวนัน่
พทุ ธงั สรณัง คัจฉามิ กเ็ หมอื นกนั
ไตรสรณคมน์ คมจนบ่โลภ บโ่ กรธ บ่หลง
“นโม” ของคนทกุ วนั นี้ นโมเลข นโมผา นโมตาบอด บแ่ มน่
นโมตาดี นโมตาดีนับต้ังแต่พระโสดาบันไป เห็นฮุ่งหนทางข้าม
พระนพิ พานเด้ เหน็ ฝัง่ พระนิพพานเด้
นโมใหไ้ ดเ้ มียผฮู้ ้ใู ห้ได้ชู้ผดู้ ี ใหไ้ ดร้ ำ�่ ๆ รวยๆ ให้ไดข้ ายของ
มากๆ อนั น้ันเป็นนโมโลกยิ ะ
สว่ นนโมโลกตุ ระน้ัน นับนโมของพระโสดาบนั ขน้ึ ไป
ถา้ พดู แลว้ มันข้ึนหน้าเด้เพิ่น ปานนกจิบโดด หหึ ึ มันถนัด
อย่างนเี้ ว้ย
92 | พ ร ะ จ ้ี พ ร ะ ป ล้ น
ธรรมบทเดียวกนั พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
พุทธงั ของพระอรหนั ต์ เรยี นจบแล้วเด้
อยา่ งไรจึงเรยี กว่าเรยี นจบนะ่
พุทธะ ๔ จำ� พวก
สมั มาสัมพุทธะ คอื พระพทุ ธเจ้า ๑
ปัจเจกพุทธะ คอื พระปจั เจก ๑
สาวโกพทุ ธะ แปลวา่ ผชู้ ายเปน็ พระอรหนั ต์ เปน็ สาวก ๑
สาวิกาพุทธะ แปลวา่ พระอรหันต์ผู้หญงิ ๑
เรยี กว่า พทุ ธะ ๔ จำ� พวก
พวกนน้ั เรยี นพทุ ธะจบแลว้ เพราะถงึ พทุ โธในสาวกแลว้ เด้
เปน็ สาวกพุทโธแล้วเด้ เพราะจบพระอรหนั ตแ์ ลว้
น่ัน เอาละทีนี้ ไปได้ละ ภาวนาเข้าให้มันแตกฉาน ถ้าบ่
แตกฉาน มนั กบ็ ่ส้นิ ความสงสัยในเจา้ ของเด้ พี่น้องเอย๋ มนั ผูก
ปญั หาใสเ่ จา้ ของเด้ อยา่ ใหม้ นั ผกู ปญั หาใสเ่ จา้ ของได้ มนั ผกู ปญั หา
ใสเ่ จา้ ของแลว้ เฮด็ ใหเ้ จา้ ของเกดิ ความสงสยั ขน้ึ ทนี ก้ี ท็ งิ้ ผา้ พาดปา่
หนามแท่งแล้วก็ไปเข้าง่ามขาเขาล่ะ ไปนั่งเฝ้าหม้อปลาร้าเขาน่ะ
เฝา้ รเู ย่ียวเขา หวงรเู ยย่ี วเขาซนั่ ตวั๊ ท้งิ ผ้าพาดป่าหนามแท่งแลว้
กต็ ้องไปเฝา้ รูเย่ียวเขาละ่
ห ล ว ง ป่ ู ห ล้ า เ ข ม ป ั ต โ ต | 93
94 | พ ร ะ จี้ พ ร ะ ป ล ้ น
ห ล ว ง ปู่ ห ล ้ า เ ข ม ปั ต โ ต | 95
พระจ้ี พระปล้น
หลวงปู่หลา้ เขมปตั โต
วดั บรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) จังหวดั มุกดาหาร
ISBN : 978-616-8220-04-7
พมิ พค์ ร้ังท่ี ๒ : พฤศจิกายน ๒๕๖๔
จำ� นวน : ๕๐๐ เลม่
จัดพิมพ์โดย : คณะศิษยานุศิษย์
พิมพท์ ่ี : บริษัท ศลิ ป์สยามบรรจภุ ัณฑ์และการพมิ พ์ จำ� กัด
Tel. ๐-๒๔๔๔-๓๓๕๑-๒ Fax. ๐-๒๔๔๔-๐๐๗๘
E-mail: [email protected]
พิมพ์แจกเปน็ ธรรมทาน
ห้ามจ�ำหนา่ ย
หลวงป่หู ลา้ เขมปตั โต.
พระจ้ี พระปล้น.-- กรงุ เทพฯ : ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ,์ 2564.
96 หน้า.
1. ธรรมเทศนา. I. ชื่อเรอ่ื ง.
294.308
ISBN 978-616-8220-04-7