The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โดย หลวงตามหาบัว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-08 20:59:14

ธรรมจักร โดย หลวงตามหาบัว

ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โดย หลวงตามหาบัว

Keywords: ธรรมจักร,หลวงตามหาบัว,ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร

ธรรมจกั ร (ธัมมจักกัปปวตั ตนสูตร)
หลวงตามหาบวั ญาณสมั ปันโน

เทศนอ์ บรมพระ ณ วดั ป่ าบา้ นตาด (๒๒ กนั ยายน ๒๕๒๖)
ธรรมจกั ร

คาํ วา่ ธรรมมีอยู่ คาํ วา่ ธรรมประเสรฐิ สดุ ในโลก ไมม่ ีอะไร
เสมอไมม่ ีอะไรเทียบได้ คือ ศาสดาองคเ์ อก ไดแ้ ก่ พระพทุ ธเจา้
แตล่ ะพระองค์ ทา่ นทรงแสดงมาจากคาํ ท่ีวา่ “ธรรมมีอย”ู่ คอื มี
อยใู่ นพระทยั ทา่ น ธรรมประเสรฐิ คอื ประเสรฐิ ในพระทยั ท่าน
ท่านทรงรูท้ รงเหน็ ทรงสมั ผสั สมั พนั ธ์ ทรงเป็นอนั หนง่ึ อนั เดียวกนั
ระหวา่ งจติ กบั ธรรม ไมไ่ ดแ้ ยกไดแ้ ยะไปท่ีไหน ๆ เลย น่ีคอื ทา่ นผู้
มีพระเมตตาสงสารและรอื้ ขนสตั วโ์ ลกจาํ นวนมากมายแตล่ ะ
พระองค์ ๆ ทรงนาํ มาส่งั สอนโลก ไมใ่ ช่คนมีกิเลสหนาปัญญา
หยาบ หรอื ปัญญาทบึ ถกู กิเลสครอบงาํ หวั ใจ แลว้ นาํ โอวาทของ
กิเลสออกมาหลอกลวงโลก แตเ่ ป็นศาสดาองคเ์ อกไม่มีกิเลสแม้
นิดหนง่ึ เขา้ เคลอื บแฝงในพระทยั นนั้ เลย พระทยั ทงั้ ดวงเป็นธรรม

1

ทงั้ แทง่ วา่ ธรรมมีอย่เู ทา่ นนั้ ก็กระเทือนพระทยั ธรรมประเสรฐิ
เลิศโลกคือเหนือกวา่ โลกก็กระเทือนในพระทยั

การแสดงออกดว้ ยพระเมตตา พระเมตตานนั้ ก็เตม็ อย่ใู น
พระทยั ไมม่ ีคาํ วา่ ดน้ ๆ เดา ๆ ไม่มีคาํ วา่ เป็นเงา ๆ ดาํ ๆ ดา่ ง ๆ
แตเ่ ป็นเนือ้ เป็นหนงั เป็นองคแ์ หง่ ธรรมแทเ้ ต็มอยใู่ นพระทยั ส่งั
สอนโลกดว้ ยพระเมตตาจรงิ ๆ และสอนดว้ ยความถกู ตอ้ ง
แมน่ ยาํ ตามธรรมชาติท่ีมีอยนู่ นั้ คือตามธรรมท่ีมีอยลู่ กึ ตืน้ หยาบ
ละเอียดหนาบาง ในขณะเดยี วกนั ส่ิงใดท่ีเป็นภยั ตอ่ ความสวา่ งก็
คือความมืด สงิ่ ท่ีเป็นภยั ตอ่ ธรรมก็คือกิเลส ซง่ึ ถือสถานท่ีคือจิต
ดวงเดยี วเป็นท่ีอยเู่ ป็นท่ีอาศยั เชน่ เดียวกนั หมด และคาํ วา่ ธรรม
มีอยแู่ ตท่ ่ียงั ไม่ไดต้ รสั รูก้ ็ไม่ไดท้ รงแสดงวา่ อย่างไรเลย เพราะไม่
มีไมร่ ูไ้ ม่เหน็ กิเลสก็ไม่สามารถจะแจงออกมาไดว้ า่ เป็นประเภท
ใด ๆ ตอ่ ประเภทใดบา้ ง ทงั้ ๆ ท่ีเป็นขา้ ศกึ อย่เู ต็มหวั ใจ เตม็
พระทยั ของพระพทุ ธเจา้ แตล่ ะพระองค์

แตเ่ ม่ือไดท้ รงรอื้ ฟื้นหรอื ไดท้ รงขดุ คน้ อรรถธรรมโดยหลกั
ธรรมชาติ โดยหลกั สพั พญั �ทู ่ีทรงขวนขวายเอง ทรงรูเ้ องเหน็

2

เองไดป้ ระจกั ษพ์ ระทยั แลว้ จงึ ไดน้ าํ ทงั้ เหตทุ งั้ ผลของธรรม นาํ
ทงั้ เหตทุ งั้ ผลของกิเลสซง่ึ เป็นตวั ภยั ประกาศแกส่ ตั วโ์ ลกซง่ึ มี
จรติ นิสยั หรอื พืน้ เพตา่ ง ๆ กนั ใหเ้ ป็นท่ีเขา้ ใจโดยลาํ ดบั ลาํ ดา
เฉพาะอย่างย่งิ ทา่ นผทู้ ่ีเหน็ โทษเห็นภยั เตม็ หวั ใจอย่แู ลว้ แตไ่ ม่
สามารถท่ีจะเสาะแสวงหาทางออกได้ เม่ือไดฟ้ ังกระแสเสยี งแหง่
ธรรมจากพระพทุ ธเจา้ เพียงเทา่ นนั้ ก็เป็นเหตใุ หก้ ระเทือนจิตใจ
ทงั้ ฝ่ายโทษทงั้ ฝ่ายคณุ แลว้ พยายามขวนขวายหรอื
ตะเกียกตะกายสดุ ความสามารถตงั้ แตข่ ณะเรม่ิ แรกนนั้ เลย

ในศาสดาองคป์ ัจจบุ นั ของเรานีก้ ็คือพระเบญจวคั คยี ์ (ปัญจ
วคั คยี )์ ทงั้ หา้ พอทรงแสดง เทวฺ เม ภกิ ขฺ เว อนฺตา ปพพฺ ชเิ ตน
น เสวติ พพฺ า เทา่ นนั้ ก็ไดท้ ราบวา่ นีค้ ือทางเคร่อื งหลอกลวง
สตั วโ์ ลก ยงั ไมใ่ ชท่ างแหง่ ธรรม แมจ้ ะปฏญิ าณตนหรอื เขา้ ใจวา่
ตนดาํ เนินวา่ ถกู ทางก็ตาม แตย่ งั เป็นทางของกิเลสไมใ่ ชท่ างของ
ธรรม การทาํ ตนใหล้ าํ บากเปลา่ ๆ โดยเจตนาท่ีม่งุ อรรถมงุ่ ธรรม
แตท่ าํ ไมถ่ กู ตอ้ ง มนั เป็นแผนการของกิเลสไปเสยี นีห้ นง่ึ การ
ประกอบตนใหห้ มกมนุ่ อยกู่ บั กิเลสราคะตณั หาทงั้ มวล ซง่ึ เป็นรงั

3

ของกิเลสลว้ น ๆ นนั้ ก็คือดาํ เนินหรอื ถกู กเิ ลสฉดุ ลากไปโดยไม่
ตอ้ งสงสยั หนง่ึ ส่งิ ท่ีจะทวนกระแสแหง่ ทางทงั้ สองเง่ือนนกี้ ็คอื
มชฺฌิมา ปฏปิ ทา ตถาคเตน อภสิ มฺพทุ ธฺ า จกขฺ ุกรณี ญาณ
กรณี อุปสมาย อภ�ิ ญฺ าย สมโฺ พธาย นิพพฺ านาย สวํ ตตฺ ติ
เสยยฺ ถที ํ สมมฺ าทฏิ ฺ ฐิ สมฺมาสงกฺ ปโฺ ป ไปเลย ในสว่ นท่ีเป็น
ขา้ ศกึ ก็ทรงแสดงใหท้ ราบในเบือ้ งตน้ แลว้ วา่ เสยยฺ ถที ํ กามตณฺ
หา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา อนั นีเ้ ป็นเร่อื งของกิเลส

เร่อื งการทาํ ตนใหล้ าํ บากเปลา่ ๆ ก็บอกแลว้ ไม่เกิด
ประโยชนอ์ ะไร ประกอบขนึ้ ดว้ ยทกุ ขต์ า่ งหาก น่กี ็ไดแ้ สดงไวแ้ ลว้
มาอนั ดบั ๒ เป็นเร่อื งของสมทุ ยั อยา่ งชดั เจนก็บอกไวว้ า่
กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา น่ีคอื ธรรมชาตทิ ่ีจะส่งั สมกอง
ทกุ ข์ หรอื พอกพนู ทกุ ขใ์ หท้ บั ถมจิตใจของสตั วโ์ ลกไม่มีประมาณ
กาลสถานท่ีเลย ก็ทรงแสดงใหท้ ราบ จากนนั้ ก็ทรงแสดง มชฌฺ ิ
มา คือความเหมาะสมในการกา้ วเดินออกจากสง่ิ ท่ีเป็นขา้ ศกึ
หรอื เป็นเครอ่ื งมือท่ีทนั สมยั เหมาะสมกบั การปราบสิ่งท่ีเป็น
ขา้ ศกึ ทกุ ประเภทออกไดโ้ ดยสิน้ เชิงไม่สงสยั

4

ไดแ้ ก่ สมมฺ าทฏิ ฺ ฐิ สมมฺ าสงกฺ ปโฺ ป น่ีกห็ มายถงึ ความฉลาด
ท่ีทรงดาํ รดิ ว้ ยความฉลาดแหลมคมโดยธรรม ไม่ใชเ่ ป็นความ
ฉลาดดงั ท่ีโลก ๆ ทงั้ หลายใชก้ นั สมมฺ าทฏิ ฺฐิ สมฺมาสงฺกปโฺ ป นี้
เป็นความฉลาดทางดา้ นธรรมะลว้ น ๆ ท่ีจะสามารถแกก้ ิเลสให้
หมดไปจากใจไดโ้ ดยสนิ้ เชงิ อบุ ายท่ีออกมาจากความฉลาดนนั้
คอื อะไรอกี ท่จี ะแสดงออกในการตอ่ สใู้ นการดาํ เนนิ ก็คอื สมฺ
มาวาจา กลา่ วชอบดว้ ยปัญญา แน่ะ สมมฺ ากมมฺ นฺโต กระทาํ
ชอบดว้ ยปัญญาดว้ ยความฉลาด สมมฺ าอาชโี ว เลยี้ งรา่ งกาย
และจติ ใจดว้ ยความชอบธรรมดว้ ยปัญญา สมฺมาวายาโม เพียร
ชอบดว้ ยอบุ ายแหง่ ปัญญา สมมฺ าสติ สมมฺ าสมาธิ ระลกึ ดว้ ย
อบุ ายของปัญญาพาใหร้ ะลกึ แลว้ มีความเหนยี วแนน่ ม่นั คง
ทางดา้ นจิตใจดว้ ยอาํ นาจของปัญญาเป็นผนู้ าํ ทาง

ธรรมเหลา่ นีแ้ ล คือธรรมเครอ่ื งถอดถอนกิเลสทกุ ประเภทซง่ึ
เป็นขา้ ศกึ ของธรรม เป็นขา้ ศกึ ของใจซง่ึ เป็นคลงั แหง่ กิเลส ให้
หมดสนิ้ ไปโดยไม่ตอ้ งสงสยั จะประกอบดว้ ยดงั ท่ีกลา่ วมา
เบอื้ งตน้ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นทรงไว้ จกขฺ ุกรณี ญาณจกั ษุก็เกิด

5

คอื คาํ วา่ จกั ษุก็หมายถงึ จกั ษุญาณภายในใจลว้ น ๆ ไมไ่ ดน้ าํ ตา
เนือ้ ไปใชเ้ ลยแมแ้ ตน่ ิดหนง่ึ ญาณกรณี ซง่ึ เป็นความละเอียด
แหลมคมของญาณ คือวา่ จกั ษุก็หมายถงึ วา่ เห็นอย่างชดั เจน
ดว้ ยพระจติ ท่ีบรสิ ทุ ธิ์ ไมม่ ีสง่ิ ใดมาปิดบงั หมุ้ ห่อเหมือนอย่างแต่
ก่อน ญาณกรณี ทรงหย่งั ทราบตามหลกั ความจรงิ ไม่ลบลา้ ง
ความจรงิ ท่ีมีอยู่ มีอย่อู ยา่ งไรทรงรูท้ รงเหน็ อย่างนนั้ เหน็ ก็คอื
จกั ขญุ าณ รูก้ ค็ อื ญาณความหย่งั ทราบ จงึ ทงั้ ทรงรูท้ รงเหน็ ในสิ่ง
ท่ีมีอยทู่ งั้ หลาย และวธิ ีการบาํ เพญ็ วิธีการหลีกเล่ยี ง จะ
หลีกเล่ยี งอยา่ งไร วิธีการละการถอดการถอนถอดถอนอยา่ งไร
ทรงส่งั สอนไวโ้ ดยถกู ตอ้ งแมน่ ยาํ สมบรู ณเ์ ต็มท่ี

อุปสมาย น่ีเป็นไปเพ่ือความสงบ ท่านบอกไวว้ า่ จะเป็นไป
เพ่ือจกั ษุญาณ เป็นไปเพ่ือจกั ษุ เป็นไปเพ่ือทาํ ญาณใหแ้ จง้ ใหร้ ู้
ชดั เห็นชดั เป็นไปเพ่ือความสงบรม่ เยน็ เป็นไปเพ่ือความรูใ้ นแง่
ตา่ ง ๆ อภ�ิ ญฺ าย เป็นไปเพ่ือความรูแ้ จง้ แทงทะลุ สมฺโพธาย
เป็นไปเพ่ือนิพพาน ธรรมคอื สมมฺ าทฏิ ฺ ฐิ สมมฺ าสงกฺ ปโฺ ป เป็น
ตน้ จนถงึ สมมฺ าสมาธิ น่ีเป็นเครอ่ื งมือท่จี ะยงั ผบู้ าํ เพ็ญให้

6

เป็นไปเพ่ือความเหน็ แจง้ เพ่ือความหย่งั ทราบ ดว้ ยความรูแ้ จง้
เห็นจรงิ เพ่ือความสงบราบคาบ เพ่ือความรูใ้ นสงิ่ ทงั้ หลายท่ี
เรยี กวา่ ทพิ โสต ทิพยจกั ษุ เหลา่ นีเ้ ป็นตน้ เป็นไปเพ่ือความรูแ้ จง้
แทงทะลใุ นกิเลสประเภทตา่ ง ๆ ไม่มีสง่ิ ใดเหลอื หลอ เป็นไปเพ่ือ
นิพพาน มมี ัชฌมิ าปฏปิ ทานีแ้ ลท่ีเป็นเครอ่ื งมือ น่ีทรงสอน
ออกมาจากพระทยั ท่ีทรงบรรจทุ งั้ เหตทุ งั้ ผลไวโ้ ดยสมบรู ณอ์ ยู่
แลว้ จงึ ไมม่ ีอะไรขาดตกบกพรอ่ ง อะไรท่ีเป็นภยั กท็ รงแสดงให้
ฟังแลว้ สงิ่ ท่ีจะเป็นคณุ จนกระท่งั ถงึ มหาคณุ ก็แสดงไวโ้ ดย
ถกู ตอ้ ง รวมความลงแลว้ วา่ นีค้ อื ศาสดาองคเ์ อกเป็นผทู้ รงส่งั
สอนไว้

ความรูท้ งั้ หมดออกมาจากความเป็นศาสดาองคเ์ อก
ออกมาจากความเป็นสพั พญั �ู ไมไ่ ดร้ บั รูไ้ ม่ไดศ้ กึ ษาเลา่ เรยี น
ไม่มีผหู้ นง่ึ ผใู้ ดมาใหอ้ บุ าย อบุ ายท่จี ะแกก้ ิเลสทงั้ มวลดว้ ยธรรม
นีเ้ ป็นอบุ ายของธรรมลว้ น ๆ เกิดจากสพั พญั �ู คอื รูเ้ องเป็นเอง
ขวนขวายเอง ละไดเ้ อง รูแ้ จง้ แทงทะลเุ อง ทรงนาํ มาส่งั สอนสตั ว์
โลกดว้ ยความรูค้ วามเหน็ ความเป็นจรงิ ของพระองคแ์ ตล่ ะ

7

พระองค์ ๆ บรรดาพระพทุ ธเจา้ ทงั้ หลายทรงส่งั สอนอยา่ งนี้
จนกระท่งั ไดร้ ูแ้ จง้ แทงทะลไุ ปหมดไมม่ ีส่งิ ใดเหลอื การสอนจงึ ไม่
มีแงส่ งสยั แมแ้ ตแ่ งเ่ ดยี วหรอื แง่หนง่ึ แงใ่ ดเลย สอนเตม็ เมด็ เต็ม
หนว่ ย สอนเตม็ อรรถเต็มธรรม ผฟู้ ังซง่ึ มงุ่ ตอ่ ความจรงิ ตาม
หลกั ธรรมซง่ึ เป็นธรรมชาตทิ ่ีจรงิ ลว้ น ๆ แลว้ จงึ ไดฟ้ ังอย่างถงึ ใจ

ดงั เบญจวคั คยี ท์ งั้ หา้ พอแสดง เทวฺ เม ภกิ ขฺ เว ขนึ้ แลว้ ก็
แสดงมชั ฌมิ าปฏปิ ทา ท่านเหลา่ นีก้ ็ไดร้ ูแ้ จง้ เหน็ จรงิ คอื รูแ้ จง้
แทงทะลใุ นสติปัญญาท่ีกลา่ วมาทงั้ หมดนี้ จดุ ท่ีทาํ งานท่านก็
รวมลงวา่ อริยสัจ ๔ ทกุ ขฺ ํ อริยสจจฺ ํ สมุทยั อริยสจจฺ ํ นิโรธ
อริยสจจฺ ํ มคฺค อริยสจจฺ ํ รวมลงท่ีกายท่ีจิตนีท้ งั้ นนั้ แนะ่ น่ีละ
ท่านแสดงเรอ่ื งอรยิ สจั ๔ แสดงสถานท่ที าํ งานลงท่กี ายท่จี ิต ขนึ้
ท่ีกายทา่ นก็วา่ ชาตปิ ิ ทกุ ขฺ า ชราปิ ทกุ ขฺ า ถงึ เรอ่ื งความทกุ ข์
เร่อื งรา่ งกายนเี้ ป็นทกุ ข์ เป็นทกุ ขเ์ พราะอะไร

ก็บอกชาติก็เป็นทกุ ข์ ความเกิดขนึ้ มา ตงั้ แตอ่ ยใู่ นครรภก์ ็
เรม่ิ แรกตงั้ กองทกุ ขข์ นึ้ มาพรอ้ ม ๆ ในครรภน์ นั้ ตงั้ เป็นรูปรา่ ง
ใหญ่โตขนาดไหนกองทกุ ขก์ ็เรม่ิ เทา่ กนั ๆ มาโดยลาํ ดบั

8

จนกระท่งั ขณะตกคลอดก็เรยี กวา่ กองทกุ ข์ ถึงขนั้ สลบไสลทน
ไมไ่ ด้ ตายมีเยอะ น่ีคือความทกุ ขใ์ นการเกิด

ชราปิ ทกุ ขฺ า เวลาเฒา่ แก่ชราแลว้ เป็นยงั ไง กาํ ลงั วงั ชา
ลดหย่อนลงไปหมดจนถงึ กบั วา่ ชว่ ยตวั เองไมไ่ ด้ นอนอยเู่ หมือน
ทอ่ นไมท้ ่อนฟืน เป็นแตว่ า่ ลมหายใจครองตวั อย่เู ทา่ นนั้
ความรูส้ กึ ก็มีแตไ่ มม่ ีกาํ ลงั ท่จี ะชว่ ยพยงุ ตนเอง ทกุ ขแ์ คไ่ หน
มนษุ ยเ์ ราสตั วเ์ รา เพราะชว่ ยตวั เองไม่ได้ แตค่ วามทกุ ขม์ นั
เหยียบย่าํ ทาํ ลายขนึ้ เป็นลาํ ดบั ลาํ ดา ไมไ่ ดล้ ดนอ้ ยลงเหมอื นกบั
กาํ ลงั วงั ชาท่ีจะชว่ ยตวั เองนนั้ เลย

มรณมปฺ ิ ทุกขฺ ํ ในขณะท่ีจะตาย ทกุ ขบ์ บี คนั้ เสียจนกระท่งั
สลบไสล ถา้ สตไิ ม่มีเพราะไม่ไดม้ ีการอบรมก็ควา้ โนน้ ควา้ นี้ ไมม่ ี
อะไรเป็นเนือ้ เป็นหนงั เป็นตวั ของตวั ควา้ ลมควา้ แลง้ ควา้ ดว้ ย
ความสาํ คญั เป็นไปดว้ ยอาํ นาจของกิเลสทงั้ มวล ทกุ ขก์ บ็ บี
บงั คบั เขา้ ไป จนทงิ้ เนือ้ ทงิ้ ตวั ตกเตียงไปก็มมี ากผนู้ อนอยบู่ น
เตยี ง เพราะอะไร เพราะความทกุ ขบ์ บี บงั คบั ใหต้ กกระเด็นไป
โนน้ ตกกระเดน็ ไปนี้ อยดู่ ว้ ยความสงบไม่ได้ น่ีคอื กองทกุ ข์ ทา่ น

9

บอกอยา่ งชดั เจนอย่างนี้ ทกุ ขห์ รอื ไมท่ กุ ขเ์ ราวาดภาพดทู ่ีกลา่ ว
มานี้

ปรารถนาอะไร ๆ ไมส่ มหวงั ก็เป็นทกุ ข์ ความปรารถนา
สว่ นมากท่านหมายถงึ เร่อื งปรารถนาของโลกทงั้ หลายอนั เป็น
เรอ่ื งของกิเลส ตงั้ ความปรารถนามากนอ้ ยเพียงใด ก็ช่ือวา่ ส่งั สม
ความทกุ ขข์ นึ้ มากนอ้ ยเพียงนนั้ โดยลาํ ดบั ลาํ ดา ถา้ ไดม้ าแทนท่ี
ความสขุ จะอยกู่ บั ความไดม้ ามนั ก็ไม่อย่เู สีย ความปรารถนานนั้
มนั ก็ไปของมนั อกี เหมือนกบั ไฟไดเ้ ชือ้ เพราะฉะนนั้ ผทู้ ่มี ีความ
ปรารถนามาก ผทู้ ่ีความโลภมาก จงึ หาความสขุ ไมเ่ จอเลย
นอกจากเพ่ิมความทกุ ขเ์ ขา้ โดยลาํ ดบั ลาํ ดาเพราะความโลภของ
ตน

ความสขุ หาไดอ้ ย่ใู นความไมพ่ อดีไม่ เพราะคาํ วา่ กิเลสแลว้
หรอื คาํ วา่ ความโลภความปรารถนาแลว้ จะไมม่ ีความพอดี จะ
เพ่มิ ตวั ขนึ้ โดยลาํ ดบั ๆ จนกระท่งั ถงึ ผปู้ รารถนาตายทงิ้ เปลา่ ๆ
ดว้ ยอาํ นาจแหง่ การแบกกองทกุ ขท์ นไมไ่ หว ก็ไมป่ รากฏวา่ ใคร
ไดร้ บั ความสขุ เพราะความสมหวงั นนั้ เลย เพราะกเิ ลสไม่ใหใ้ คร

10

สมหวงั นอกจากธรรมเทา่ นนั้ จงึ ใหโ้ ลกมีความสมหวงั ได้ น่ีกเ็ ป็น
ความทกุ ข์ ทา่ นวา่ ปรารถนาไม่สมหวงั ก็เป็นทกุ ข์ โสกปริเทว
ทุกขฺ โทมนสสฺ ุปายาสา เหลา่ นีม้ ีตงั้ แตเ่ รอ่ื งกองทกุ ขแ์ สดงตวั
เตม็ ธาตเุ ต็มขนั ธเ์ ต็มจิตใจทงั้ นนั้ เป็นไฟทงั้ กอง เอาความสขุ มา
จากไหน

น่ีทา่ นพดู ถงึ เร่อื งทกุ ขสจั มนั เป็นทกุ ขอ์ ยา่ งนี้ ใหท้ ราบเร่อื ง
ของมนั แลว้ อะไรท่ีเป็นสาเหตใุ หเ้ กิดความทกุ ข์ เฉพาะอย่างย่ิง
เวลาเจ็บไขไ้ ดป้ ่วยปวดหวั ตวั รอ้ น หรอื เวลาน่งั ภาวนานาน ๆ เรา
เป็นนกั ปฏบิ ตั เิ อากนั ในวงปัจจบุ นั นี้ อนั นนั้ พรรณนาไปเพ่ือให้
ทราบสาเหตุ เพ่ือจะไดป้ ระมวลเขา้ มาสหู่ ลกั ปัจจบุ นั ซง่ึ มีอย่กู บั
ตวั เราทกุ รูปทกุ นามนี้ แลว้ พจิ ารณาในวงปัจจบุ นั นีว้ า่ อะไรมนั
เป็นทกุ ข์

ทุกขฺ ํ อริยสจจฺ ํ ทา่ นบอกวา่ ทกุ ขเ์ ป็นของจรงิ น่ถี งึ ขนั้ จะเอา
กนั จรงิ ๆ ขนั้ อนโุ ลมเป็นอยา่ งหน่งึ ขนั้ ปฏิโลมเป็นอยา่ งหน่งึ ขนั้
อนโุ ลมหมายถงึ ชาตปิ ิ ทกุ ขฺ า ชราปิ ทกุ ขฺ า เร่อื ย น่ีขนั้ ปฏโิ ลม
ยอ้ นเขา้ มาวา่ ใครเป็นทกุ ข์ ตวั ทกุ ขจ์ รงิ ๆ เขาไดบ้ อกวา่ เขาเป็น

11

ทกุ ขไ์ หม เราผไู้ ปทราบเขาวา่ เป็นทกุ ขน์ นั้ ตา่ งหากเป็นผจู้ ะไดร้ บั
ความทกุ ข์ เพราะความงมงาย เพราะความลมุ่ หลงของตวั เองไป
ยดึ ไฟทงั้ กองเขา้ มาเผาลนตนเอง น่ีคอื ความหลงของจิต

แยกดทู งั้ กาย กายก็เป็นความจรงิ อนั หนง่ึ เทา่ นนั้ แตล่ ะสดั
ละสว่ นมนั มีอยขู่ องมนั ตงั้ แตว่ นั เกิดมา ทกุ ขเ์ กิดขนึ้ มาเป็นกาล
เป็นเวลา มนั กด็ บั ไปของมนั ตามหลกั ความจรงิ ทงั้ ท่ีเกิดขนึ้
ตงั้ อยแู่ ละดบั ไปของมนั กายก็เป็นเชน่ นนั้ พจิ ารณาแยกแยะให้
เหน็ ตามหลกั ความจรงิ โดยทางปฏิโลม คอื หมายความวา่ ยอ้ น
หาความจรงิ ไม่อนโุ ลมตาม

การพิจารณาคน้ ควา้ อยา่ งนีค้ อื อะไร ถา้ ไม่ใชส่ ติ ถา้ ไม่ใช่
ปัญญา ศรทั ธา ความเพียร ความอตุ สา่ หพ์ ยายาม จะเอาอะไร
มาใชค้ นเรา น่ีละสจั ธรรมทาํ งานอย่ใู นวงเดยี วกนั พอทกุ ข์
เกิดขนึ้ คน้ หาเหตขุ องทกุ ขว์ า่ มนั เกิดขนึ้ เพราะเหตผุ ลกลไกอะไร
น่ีคอื เรอ่ื งของปัญญา สมทุ ยั ไดแ้ ก่ความปรารถนาอยากใหห้ าย
อยากใหท้ กุ ขท์ งั้ หลายสลายตวั ไป อยากอย่สู บาย เหลา่ นีเ้ ป็น
เร่อื งของสมทุ ยั แตเ่ รอ่ื งของมรรคไม่ตอ้ งการ หายหรอื ไม่หายก็

12

ตาม ตอ้ งการทราบความจรงิ นีเ้ ทา่ นนั้ เม่ือทราบความจรงิ ไป
มากนอ้ ยเพียงไร เร่อื งของทกุ ขจ์ ะเป็นของจรงิ ขนึ้ มาเองตาม
ความรูข้ องตนท่ีพิจารณารอบตวั สมทุ ยั จะสงบตวั ลงไปเองโดย
ลาํ ดบั ลาํ ดา เพราะมรรคมีกาํ ลงั พินิจพิจารณารอบตวั ไมท่ าํ ลาย
ตวั เองเพราะมรรคมีกาํ ลงั มาก

สดุ ทา้ ยทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งก็เป็นของจรงิ ขนึ้ มาใหเ้ หน็ ประจกั ษ์
ใจ ทกุ ขฺ ํ อริยสจจฺ ํ ก็จรงิ เตม็ สว่ น ประจกั ษก์ บั ใจโดยไมต่ อ้ งไป
ถามใคร ออ๋ คาํ วา่ ทกุ ขเ์ ป็นของจรงิ จรงิ อยา่ งนีเ้ อง สมทุ ยั เป็น
ของจรงิ ก็จรงิ อยา่ งนีเ้ อง นิโรธเป็นของจรงิ ก็เหมือนกนั ดบั ทกุ ข์
ไปโดยลาํ ดบั ลาํ ดาตามหนา้ ท่ีของตน มรรคเป็นของจรงิ ก็รูร้ อบ
ขอบชิดดว้ ยปัญญา ดตู ามสภาพความจรงิ ของตนท่ีมีความ
ฉลาดรอบตวั ตา่ งอนั ตา่ งจรงิ เป็นขนั้ ๆ ขนึ้ ไป จนกระท่งั ถึงจรงิ
สดุ ยอด เม่ือถงึ จรงิ สดุ ยอดแลว้ ทงั้ ส่ีนกี้ ็ผา่ นไป เหลือแตค่ วาม
บรสิ ทุ ธิ์ลว้ น ๆ ท่พี น้ จากสจั ธรรมทงั้ ส่นี ีแ้ ลว้

น่ีละในธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู รท่านแสดงไว้ น่ีคือศาสดาองค์
เอกแสดงไวเ้ ป็นปฐมเทศนา เป็นปฐมฤกษแ์ กบ่ รรดาสาวก

13

ทงั้ หลาย ผทู้ ่ีสนองพระโอษฐข์ องพระองคไ์ ดเ้ ต็มภมู ิก็เบญจ
วคั คียท์ งั้ หา้ เป็นสาวกอรหนั ตข์ นึ้ มาทงั้ หา้ องค์ ออกจากธรรม
ของจรงิ ของพระพทุ ธเจา้ น่ีคาํ วา่ ธรรมมีอยู่ สาวกทงั้ หลาย
เหลา่ นนั้ หายสงสยั เตม็ หวั ใจแลว้ ไม่มีอะไรเหลือ ธรรมมีอยู่
อยา่ งไร ธรรมประเสรฐิ ไม่ไปถามใคร พระพทุ ธเจา้ เป็นศาสดา
องคเ์ อกเพราะอะไรไมต่ อ้ งถาม เพราะธรรมชาตนิ นั้ ก็เอกอย่แู ลว้
ตา่ งอนั ตา่ งเอก ตา่ งองคต์ า่ งเอก เป็นสภาพเดยี วกนั หาท่ีคา้ นกนั
ไมไ่ ด้

น่ีเหน็ แลว้ เหน็ พระพทุ ธเจา้ เตม็ องค์ คอื เหน็ ความบรสิ ทุ ธิ์
ของตนเอง น่ีท่ีน่ีธรรมมีอย่ไู มม่ ีปัญหาสาํ หรบั ท่านเหลา่ นี้ เพราะ
จติ เป็นคคู่ วรกบั ธรรมมีอย่ทู งั้ หลายนนั้ ไดส้ มั ผสั สมั พนั ธก์ นั โดย
ลาํ ดบั ลาํ ดา จนกระท่งั เตม็ ภมู แิ ห่งจติ เตม็ ภมู ิแห่งธรรม ในความ
วา่ มีอย่แู ละในความวา่ ประเสรฐิ แห่งธรรมแห่งจติ มีสมบรู ณ์
เต็มท่ีในหวั ใจแลว้ หายสงสยั น่ที า่ นเหลา่ นแี้ ลทา่ นผรู้ บั ทราบ
ท่านผยู้ นื ยนั ในธรรมมีอยแู่ ละในธรรมประเสรฐิ สามญั เรา
ธรรมดาไม่สามารถ จะจติ ก่ีดวงก็ตาม เชน่ เดยี วกบั หมอ้ ท่ีถกู

14

คว่าํ ปากลงไวน้ ่นั แล ไม่สามารถจะรูจ้ ะเหน็ ถา้ อยากจะรูจ้ ะเหน็
ธรรมใหห้ งายปากหมอ้ ขนึ้ มาเพ่ือรบั ธรรมทงั้ หลาย หงายความ
เพียรขนึ้ มา

ศรทั ธาความเช่ือตามหลกั ความจรงิ ของพระพทุ ธเจา้ นี้ เป็น
ความเช่ือท่ีไมข่ าดทนุ สญู ดอก เป็นความเช่อื ท่ีไมเ่ สียเวล่าํ เวลา
เป็นความเช่ือท่ีถกู ตอ้ งตามหลกั ธรรม และเป็นความเช่อื ท่ีจะ
หย่งั ความอตุ สา่ หพ์ ยายามทกุ ดา้ นทกุ ทาง ท่ีจะใหโ้ หมตวั เขา้
เป็นอนั หนง่ึ อนั เดยี วกนั เพ่ือชาํ ระส่ิงท่ีเป็นขา้ ศกึ เพ่ือปราบปราม
สิง่ ท่ีเป็นขา้ ศกึ อนั เป็นตวั จอมปลอมทงั้ หลายออกไปจากใจโดย
ลาํ ดบั ลาํ ดา จนกระท่งั ไมม่ ีอะไรเหลือภายในใจ เป็นความเช่ือท่ี
เกิดขนึ้ กบั ตวั เอง เช่ือพระพทุ ธเจา้ เช่ืออยา่ งนี้ ศรทั ธาเป็นมาเอง
วิรยิ ะเพียรเอง เพราะเก่ียวโยงกนั คนเราเม่ือมีศรทั ธาถึงใจทาํ ไม
ความเพียรจะไมถ่ งึ ใจ สตกิ ต็ อ้ งถึงใจ สมาธิถงึ ใจ ปัญญาถึงใจ
ธรรมถึงใจ กิเลสกระจายออกไปโดยลาํ ดบั ลาํ ดาจนไมม่ อี ะไร
เหลอื

15

น่ีแหละธรรม ความเพียรโดยหลกั ธรรมชาติ ความเพียร
ประจกั ษใ์ จเป็นอย่างไร ไมต่ อ้ งบงั คบั บญั ชาหากหมนุ ตวั ไปเอง
สติก็เหมือนกนั ความรูอ้ ยทู่ ่ไี หนสตจิ ะกลมกลืนกนั ไป ปัญญาจะ
กลมกลนื กนั ไป สมาธิม่นั คงทงั้ เหตคุ ือการบาํ เพญ็ ไม่
เหลาะแหละ ม่นั คงทงั้ ผลคอื สิง่ ท่ีปรากฏขนึ้ เป็นความรม่ เย็นเป็น
สขุ หนาแนน่ ม่นั คงภายในจติ ใจ ปัญญามคี วามรอบตวั รอบทกุ
อาการของจิตท่ีแสดงออกมา รอบทกุ อาการของอวยั วะท่ีแสดง
ตวั ออกไป รอบทงั้ ภายนอกท่ีเขา้ มาสมั ผสั สมั พนั ธ์ จงึ เรยี กวา่
ปัญญารอบตวั น่ีเป็นธรรมท่ีเกิดขนึ้ ปรากฏขนึ้ ในใจของผู้
บาํ เพ็ญเองไมต่ อ้ งถามผใู้ ด ๆ ทงั้ หมด จะเป็นสิ่งท่ีประจกั ษ์
ยอมรบั ตวั เองภายในนนั้ น่ีช่ือวา่ ธรรมแทข้ นึ้ ภายในจิต

เรายงั ไมส่ ามารถมองเหน็ ธรรมแทร้ ูธ้ รรมแท้ ตอ้ งอาศยั
ตาํ รบั ตาํ รากางเสยี กอ่ น เหมอื นเป็นแบบแปลนแผนผงั แลว้
พยายามตะเกียกตะกายไปตามนนั้ หนกั บา้ งเบาบา้ งตอ่ สกู้ นั ไป
ทนกนั ไป จนถงึ ขนั้ รูป้ ระจกั ษต์ วั เองแลว้ ไมต่ อ้ งมีอะไรมา
สนบั สนนุ ก็เป็นไปไดเ้ อง น่ีแหละการปฏบิ ตั ธิ รรม

16

คาํ วา่ ธรรมมีอยู่ มีอยอู่ ย่างนีแ้ หละ ธรรมทงั้ หลายนนั้ ไม่ใช่
ดนิ ไมใ่ ชน่ า้ํ ไมใ่ ช่ลม ไม่ใช่ไฟ ไม่ใช่ดินฟา้ อากาศ ไม่ใช่อวกาศ
ไม่ใชว่ ตั ถสุ ิง่ ใดทงั้ สนิ้ เพราะฉะนนั้ ตา หู จมกู ลนิ้ กาย ซง่ึ เป็น
วิสยั ของสง่ิ เหลา่ นี้ จงึ สามารถรบั ไดเ้ พียงสิง่ เหลา่ นีเ้ ทา่ นนั้ แตไ่ ม่
สามารถรบั ธรรมได้ เพราะธรรมไมใ่ ช่สงิ่ เหลา่ นี้ ไมใ่ ช่สงิ่ ท่ีตา หู
จมกู ลนิ้ กาย ของเราสมั ผสั สมั พนั ธไ์ ดน้ ีเ้ ป็นธรรม แตจ่ ะ
สามารถสมั ผสั สมั พนั ธไ์ ดด้ ว้ ยใจท่ีประกอบดว้ ยองคธ์ รรมท่ี
ถกู ตอ้ งดงั ท่ีกลา่ วมาเหลา่ นี้ เชน่ ศรทั ธา วริ ยิ ะ สติ สมาธิ
ปัญญา

น่ีแหละเป็นทางท่ีไหลมาแหง่ ธรรม เป็นเครอ่ื งมือท่ีจะสมั ผสั
สมั พนั ธธ์ รรมไดท้ กุ ประเภท ตงั้ แตค่ วามสงบเยน็ ใจขนึ้ มาโดย
ลาํ ดบั ความสงบก็ไม่ตอ้ งไปถามท่ีไหน จะปรากฏขนึ้ ท่ีใจของผู้
บาํ เพ็ญนนั้ แล น่ีจงึ วา่ ธรรมแท้ ๆ เกิดขนึ้ จากภาคปฏบิ ตั ิ ปรยิ ตั ิ
ศกึ ษาเลา่ เรยี นมาตงั้ แตว่ นั บวช เกสา โลมา นขา ทนั ตา ตโจ
นีไ้ ดเ้ รยี นแลว้ ปรยิ ตั ิอปุ ัชฌายะมอบใหท้ กุ รูปทกุ นามท่ีบวช
ตงั้ แตเ่ ณรขนึ้ ไป แลว้ นาํ น่ีเขา้ ไปคล่ีคลายขยายดเู ป็นภาคปฏิบตั ิ

17

เป็นยงั ไง เกสา โลมา นขา ทนั ตา ตโจ อนั เป็นเสน้ ๆ นีห้ รอื เป็น
คน ทงั้ ผมทงั้ ขนเสน้ ๆ นีห้ รอื เป็นคน นีห้ รอื เป็นของสวยของงาม
อนั เป็นเสน้ ๆ นีห้ รอื เสน้ หญา้ มนั ก็เหมือนกนั ไม่เหน็ สวยเห็นงาม
ทาํ ไมผมอนั นมี้ นั งามมนั สวยนกั อะไรพาใหส้ วยอะไรพาใหง้ าม
อะไรมาหลอก คน้ หาความจรงิ ใหเ้ จอ เม่ือคน้ หาความจรงิ ส่งิ
ท่ีมาหลอกแลว้ มนั ก็จรงิ มนั ก็เจอเทา่ นนั้ เอง

ดตู ามความจรงิ แลว้ มนั มีอะไรสวยงาม ผม ขน เล็บ ฟัน
หนัง ดเู ขา้ ไปทงั้ ภายนอกภายในตลบทบทวนหลายครงั้ หลาย
หน บงั คบั บญั ชาดตู ามความจรงิ อยา่ ใหจ้ ติ เถลไถลออกไปสู่
ความจอมปลอมซง่ึ กิเลสปักเสียบเอาไวร้ อบดา้ น อนั นีง้ ่ายนกั
เรว็ นกั นะ เพราะกิเลสเคยคลอ่ งตวั บนหวั ใจเรามานาน ธรรมยงั
คลอ่ งไม่ได้ พอจะเรม่ิ ทาํ นีถ้ กู มนั ปัดมือตกไปหมด ๆ ปัดมือหกั
มือขาด แขนหกั แขนขาด หวั กดุ หวั ดว้ นไป มนั ตงั้ ไมอ่ ยนู่ ะ่ ซิ จะ
ตงั้ ความเพียรก็ถกู มนั ปัดเสยี ตงั้ ท่าใดกถ็ กู มนั ปัดเอาลม้ ไปเสีย
ๆ ลม้ ก็ลม้ ลงหมอนน่นั แหละ ความขีเ้ กียจขีค้ รา้ นมนั ก็จมอยใู่ น

18

หวั ใจนีเ้ สียกา้ วไมอ่ อก เพราะกาํ ลงั ของกิเลส กาํ ลงั ของสง่ิ
จอมปลอมมีมาก มนั เป็นอตั โนมตั ขิ องมนั คลอ่ งตวั ท่ีสดุ

เพราะฉะนนั้ จงึ ตอ้ งไดพ้ ยายามตอ่ สกู้ บั มนั อย่างหนกั ดว้ ย
ความพากเพียร ความอตุ สา่ หพ์ ยายาม เพราะเลง็ ประจกั ษใ์ จ
แลว้ วา่ ธรรมเป็นของประเสรฐิ ตา่ งหาก กิเลสไมไ่ ดป้ ระเสรฐิ
ธรรมตา่ งหากประเสรฐิ กิเลสเป็นตวั หลอกลวง เป็นตวั
จอมปลอมรอ้ ยเปอรเ์ ซ็นต์ ๆ ธรรมเป็นธรรมท่ีแทท้ ่ีจรงิ รอ้ ย
เปอรเ์ ซ็นต์ ๆ สวนทางกนั ไป เราเช่ือเช่ือพระพทุ ธเจา้ หรอื เช่ือ
กิเลส เราตอ้ งถามตวั ของเราเองดว้ ยสติปัญญาของเราเอง จงึ ช่ือ
วา่ เป็นผซู้ กั ตวั เองกบั กเิ ลส อยกู่ บั ตวั เองแกต้ วั เองดว้ ยอาํ นาจ
ของธรรม กิเลสเป็นเคร่อื งผกู เครอ่ื งมดั เราแกด้ ว้ ยอรรถดว้ ย
ธรรม เราจะเช่ือใคร พทุ ฺธํ ธมมฺ ํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ เราเปลง่ วาจา
มาตงั้ แตไ่ หนแตไ่ ร เฉพาะอยา่ งยง่ิ ขณะท่ีบวชมาจนกระท่งั
ป่ านนี้

พระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆน์ ีห้ รอื องคห์ ลอกลวงโลกมี
ไหม เราถือพระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆ์ ถืออยา่ งไร

19

พระพทุ ธเจา้ จรงิ อย่างไรในภาคปฏปิ ทาก็ดี ทงั้ ผลเป็นท่ีไดร้ บั
เป็นท่ีพอพระทยั อย่แู ลว้ ธรรมะท่ีวา่ ธมฺมํ สรณํ คจฉฺ ามิ นกี้ ็
เหมือนกนั อยใู่ นพระทยั ของพระพทุ ธเจา้ เตม็ ดวงอยแู่ ลว้ สงฆฺ ํ
สรณํ คจฉฺ ามิ พระสงฆส์ าวกลว้ นแลว้ ตงั้ แตเ่ ป็นผทู้ รงธรรมอนั
บรสิ ทุ ธิ์นที้ งั้ นนั้ ทา่ นเหลา่ นไี้ มใ่ ช่ผหู้ ลอกลวง ไม่ใชผ่ ตู้ ม้ ตนุ๋ สตั ว์
โลกทงั้ หลายใหล้ ม่ จมไป มีกิเลสเท่านนั้ เป็นธรรมชาตทิ ่ี
หลอกลวงสตั วโ์ ลกทงั้ หลายใหล้ ม่ จมไป ไม่วา่ สตั วไ์ มว่ า่ บคุ คล
หญิงชาย ชาตชิ นั้ วรรณะใดก็ตาม ถกู ตม้ ถกู ตนุ๋ จากกิเลสนีท้ งั้ นนั้
ทาํ ไมเราก็เป็นคนหนง่ึ ซง่ึ ถกู ตม้ ถกู ตนุ๋ จากมนั มานานแสนนาน
แลว้ จงึ ยอมเช่ือมนั อย่ตู ลอดเวลา ไมโ่ ผลห่ นา้ ขนึ้ มาดว้ ย
สติปัญญามองดหู นา้ มนั บา้ ง ใหแ้ ตม่ นั มองดหู นา้ สบั หนา้ ผาก
เราอย่เู ร่อื ย ๆ มีอยา่ งเหรอ เราเป็นนกั ปฏบิ ตั ติ อ้ งพิจารณาอยา่ ง
นนั้ ตอ้ งใชส้ ตปิ ัญญาพลิกแพลงเปลย่ี นแปลงไปมาใหเ้ ป็นหลาย
สนั หลายคม สมกบั กิเลสมีหลายสนั หลายคม ไม่อยา่ งนนั้ ไมท่ นั
กนั นกั ปฏิบตั ิ พลิกขนึ้ มาใชใ้ หท้ นั

20

น่ีเราพดู ถงึ เรอ่ื งปรยิ ตั ิ พอไดเ้ รยี นแลว้ แยกมาเป็น
ภาคปฏบิ ตั ิ ไมเ่ พียงแต่ ตโจ เท่านนั้ แหละ เม่ือเขา้ ไปถงึ นีแ้ ลว้
อวยั วะนอ้ ยใหญ่ในสกลกายนีม้ นั จะตลอดท่วั ถงึ ไปหมด เป็น
สภาพเหมือนกนั ถา้ วา่ อนิจจฺ ํ ทุกขฺ ํ อนตตฺ า เต็มหมดท่วั ตวั นี้
ถา้ วา่ อสุภะอสุภงั ตรงไหนมนั สะอาดพอท่ีจะไวว้ างใจไดม้ ีไหม
มนั ไม่มี เตม็ หมดตวั แตก่ ิเลสมนั บอกวา่ ดวี า่ สวยวา่ งาม มนั เอา
ลม ๆ แลง้ ๆ มาหลอกเรากเ็ ช่ือมนั มนั ไมม่ ีความจรงิ อะไรเลย
เรายงั เช่ือมนั จนกระท่งั ป่านนี้ เอาธรรมพระพทุ ธเจา้ จบั เขา้ ไปซิ
จบั เขา้ ไป จบั เขา้ ไปตรงไหนไมห่ ยดุ ไมถ่ อยแลว้ ก็พงั ๆ เม่อื ความ
จอมปลอมนนั้ พงั แลว้ อยสู่ บาย เพราะมีแตค่ วามจรงิ ลว้ น ๆ อยู่
ดว้ ยกนั สบายไปหมด แมท้ กุ ขจ์ ะมีอยใู่ นธาตใุ นขนั ธเ์ จ็บไขไ้ ด้
ป่วยก็ตาม มนั ก็เป็นความจรงิ อนั หนง่ึ ของมนั เพราะใจของเรา
เป็นความจรงิ แลว้ ไมเ่ ป็นทกุ ขต์ อ่ กนั ไม่กระทบกระเทือนกนั
ไม่ไดห้ ว่นั ไหวตอ่ กนั เลย น่ีการพิจารณาใหพ้ ิจารณาอยา่ งนี้

น่ีเป็นสนามรบ น่ีเป็นสถานท่ีทาํ งานของนกั ปฏบิ ตั เิ พ่ือความ
หลดุ พน้ ไมห่ ลดุ พน้ ท่ีตรงไหน หลดุ พน้ ท่ีถกู ผกู ถกู มดั น่นั แหละ

21

สงิ่ เหลา่ นีแ้ หละเป็นเคร่อื งผกู มดั จติ ใจของเราอย่เู วลานี้ ใหไ้ ด้
กระเสอื กกระสนกระวนกระวาย ดิน้ อยอู่ ยา่ งนนั้ ภายในจติ ใจใคร
ๆ ก็รู้ เพราะมสี ่ิงพาใหด้ ิน้ ไมต่ อ้ งถามกนั ก็รู้ ใหธ้ รรมจ่อเขา้ ไปซิ
ตรงไหน ความสงบจะปรากฏขนึ้ มา ๆ เร่อื ย ๆ จนกระท่งั กิเลส
พงั ลงไปหมดเพราะอาํ นาจแห่งธรรมปราบปรามมนั แลว้ ไมม่ ี
อะไรดดี ไม่มีอะไรดนิ้ มีก็แตเ่ ร่อื งขนั ธล์ ว้ น ๆ เท่านนั้ แหละ

รูปก็มีอยตู่ ามสภาพของมนั ก็รูอ้ ยแู่ ลว้ วา่ รูปนีค้ อื ธาตุ ๔
แนะ่ ดิน นา้ํ เป็นสาํ คญั ท่ีเดน่ เพราะเป็นธาตทุ ่ีหยาบ กอ้ น
รา่ งกายของเรานีม้ นั กก็ อ้ นดนิ เหนียวน่นั เอง ฉาบทาดว้ ยนา้ํ ชืน้ ๆ
แฉะ ๆ อยใู่ นตวั ของเรา ไมผ่ ดิ อะไรกบั ขีต้ มขีโ้ คลนท่ีเปียกแฉะ
และขน้ ๆ อะไรเลยแหละ ความรอ้ นเราก็เหน็ อย่แู ลว้ ไฟต่นื มนั
อะไร ไฟในรา่ งกายนกี้ ็เป็นอนั เดียวกนั ลมก็ลมหายใจ หายใจ
เขา้ หายใจออกต่นื อะไรลม ลมนนั้ หรอื เป็นคน ลมท่วั โลกท่วั
ดนิ แดนไม่เหน็ เป็นคน ทาํ ไมลมในจมกู เป็นคนได้ ถา้ ไมถ่ กู หลอก
เอาเสยี อยา่ งเป่ือย น่นั ถามตวั เองบา้ งซิ กิเลสอย่กู บั ตวั เองตอ้ ง
ถามตวั เอง สติปัญญาซง่ึ เป็นเรอ่ื งของอรรถของธรรมอยกู่ บั

22

ตวั เองคน้ ขนึ้ มาใช้ คน้ ขนึ้ มา ขดุ คน้ มนั ทาํ ลายมนั สง่ิ จอมปลอม
ทงั้ หลายเหลา่ นี้

ดใู หเ้ หน็ ชดั ธาตุ ๔ ดนิ นา้ํ ลม ไฟ มีเทา่ นนั้ มีความวิเศษ
วิโสอะไรดินนา้ํ ลมไฟ เหยียบย่าํ ไปมาก็มแี ตด่ ินแตน่ า้ํ แตล่ มแต่
ไฟทงั้ นนั้ อย่ใู นตวั ของเรานีก้ ็ตงั้ แตว่ นั เกิดมาจนกระท่งั เด๋ยี วนี้
มนั ใหค้ วามวิเศษวโิ สอะไรตอ่ เราบา้ งอนั ดนิ นา้ํ ลมไฟ ทาํ ไมจงึ ไป
เสกสรรปั้นยอมนั เอานกั หนา เสกสรรเทา่ ไรย่งิ พนั เขา้ ไป ๆ
เหมือนลงิ ทอดแหน่ี เอา้ คลค่ี ลายออกซดิ ว้ ยสติปัญญามีเท่าไร
ธรรมของพระพทุ ธเจา้ เป็นธรรมะท่ีเปิดเผย เป็นธรรมะท่ีเป็น
ความจรงิ องอาจกลา้ หาญมาก นาํ เอามาใชแ้ กก้ ิเลสใหห้ มอบ
ราบไปหมดไมใ่ หม้ นั เหลือ สง่ิ จอมปลอมทงั้ หลายหมดไปแลว้ ยงั
เหลอื แตค่ วามจรงิ ลว้ น ๆ อยแู่ สนสบาย ไมม่ ีอะไรมากวนใจ
แหละ ท่ีเรยี กวา่ ขนั ธล์ ว้ น ๆ คืออยา่ งนีแ้ หละ มีแตข่ นั ธ์ รูปขนั ธก์ ็
เป็นขนั ธล์ ว้ น ๆ เสยี ไม่มีกิเลสตวั ใดเขา้ ไปแทรก ถงึ จะมีกาํ ลงั
วงั ชาก็เป็นกาํ ลงั วงั ชาของธาตขุ องขนั ธ์ ไมใ่ ช่เป็นกาํ ลงั วงั ชาของ
อาํ นาจกิเลสราคะตณั หาอะไร

23

เวทนา ความสุข ความทกุ ข์ เฉย ๆ ท่ีเป็นอยใู่ นรา่ งกาย
นีก้ ็เหน็ กนั อยา่ งชดั ๆ อยนู่ ี้ มนั ก็มีแตเ่ กิด ๆ ดบั ๆ ก็รูก้ นั อย่จู น
จาํ เจ ทาํ ไมพจิ ารณาไม่เหน็ ชดั ตามสิง่ ท่ีมีอย่อู ยา่ งจาํ เจเปิดเผย
อยตู่ ลอดเวลา มนั นา่ จะรูจ้ ะเหน็ กนั ดว้ ยปัญญาถา้ นาํ มาใช้
สญั ญาก็ฟังซิ จาํ ไดเ้ ทา่ ไร เรยี นจบพระไตรปิฎกก็จาํ ทงั้ นนั้ แหละ
กิเลสตวั หนง่ึ กไ็ มถ่ ลอกเพราะเป็นสญั ญา จะเอาอะไรมาแก้
กิเลส ถา้ เป็นปัญญาแลว้ พงั เลยกเิ ลสไมม่ ีเหลือ ตอ้ งจาํ เอามาให้
เป็นปัญญาซิ ถา้ เป็นปัญญาแลว้ ก็ทาํ ลายกิเลสได้ สงั ขารก็ปรุง
อย่อู ยา่ งนนั้ ยบิ ๆ แยบ็ ๆ

เม่ือเป็นขนั ธล์ ว้ น ๆ แลว้ มนั มีเท่านนั้ แหละ มนั ไม่กาํ เรบิ เสบิ
สานไปมากกวา่ นี้ อะไรเกิดขนึ้ ก็ตามสภาพของตน ๆ ไม่มีอะไร
มาหนนุ มาฉดุ มาลากไปใหเ้ ป็นอย่างอ่นื กายก็สกั แตว่ า่ กายอยู่
อยา่ งนนั้ เวทนา ความสขุ ความทกุ ข์ ท่ีเป็นอย่ใู นขนั ธก์ ็เป็นอยู่
ตามธรรมชาตขิ องมนั รูต้ ามความจรงิ ไม่ต่นื ไมเ่ ตน้ ไมห่ ลงใหล
ตา่ งอนั ตา่ งจรงิ สญั ญาก็จาํ ไดจ้ าํ ไป ลมื ไดล้ ืมไป ก็รูก้ นั อย่แู ลว้
ความจาํ กบั ความหลงลมื เป็นคเู่ คียงกนั ก็รูก้ นั อย่แู ลว้ สงั ขาร

24

ความคิดความปรุง ก็ปรุงไปอยา่ งนนั้ ไมม่ ีตวั ใดท่ีเขา้ มาถือ
บงั เหียน อวชิ ชฺ าปจฺจยา ไมม่ ี ตวั อวิชชานนั้ แหละตวั ถือบงั เหยี น
ของขนั ธท์ งั้ หา้ นี้ ถกู พงั ทลายลงไปหมดแลว้ ก็เป็นขนั ธล์ ว้ น ๆ จะ
มีอะไรเหลืออยู่ รบั ทราบกนั ไป พอถึงกาลอวสานของมนั พอ
หมดแลว้ ก็สลายตวั ของมนั ลงไป ใครจะไปใหช้ ่ือใหน้ ามมนั ท่ีน่ี ก็
มีแตจ่ ิตดวงเดยี วไปใหช้ ่ือใหน้ าม ไปหลงมนั

พอจติ ดวงนีร้ อบตวั แลว้ มนั ยงั อย่มู นั ก็รูก้ นั อย่อู ยา่ งนนั้ จะไป
ต่นื กนั อะไร น่ีภาคปฏบิ ตั ิ ใหเ้ หน็ วา่ ธรรมมีอย่จู ะเปิดเผยขนึ้ ท่ีใจ
เวลานีก้ ิเลสปกปิดไวไ้ ม่ใหเ้ ห็นธรรม ธรรมประเสรฐิ ก็กิเลสแทรก
เขา้ ไป แลว้ เหยียบหวั ใจเราเสียวา่ กิเลสประเสรฐิ ความโลภ
เกิดขนึ้ ก็ประเสรฐิ ความหลงเกิดขนึ้ ประเสรฐิ ราคะตณั หา
เกิดขนึ้ ประเสรฐิ มีแตป่ ระเสรฐิ ไปหมดเร่อื งของกิเลส แตห่ าตวั
ประเสรฐิ อนั แทจ้ รงิ ท่ีจะมาหนนุ ใจใหไ้ ดร้ บั ความสขุ ไม่มีเลย มี
แตฟ่ ื นแตไ่ ฟวิเศษอะไร ประเสรฐิ อะไร ดมู นั บา้ งซิ

มนั ประกาศกงั วานอยใู่ นหวั ใจ หลอกอย่ตู ลอดเวลา ทาํ ไม
ไม่เอาธรรมเขา้ จบั กนั บา้ งวา่ ความโลภเคยใหค้ นเป็นสขุ ท่ีไหน

25

โลภมากเท่าไรย่ิงเป็นทกุ ขม์ าก เป็นฟืนเป็นไฟไปหมดน่นั แหละ
หมนุ ตวั เป็นเกลยี วย่งิ กวา่ กงั หนั คนโลภมากเป็นอยา่ งนนั้ อยไู่ ม่
เป็นสขุ ดนิ้ รนกระวนกระวาย ความโลภมนั เหยียบย่าํ ทาํ ลาย
หวั ใจ ไดม้ าเทา่ ไรแทนท่ีความโลภจะสงบไปใจจะไดร้ บั ความสขุ
ย่งิ เพ่ิมฟืนเพ่มิ ไฟขนึ้ ไปมีความสขุ ท่ีตรงไหนน่นั เอาใหม้ นั เห็น
จรงิ ๆ อยา่ งนนั้ ซนิ กั ปฏิบตั ิ ธรรมเป็นของจรงิ ใหเ้ หน็ ทงั้ ของจรงิ
ทงั้ ของปลอมซิ วา่ ความโลภมนั เป็นของวเิ ศษเป็นความสขุ ได้
อยา่ งไร อนั นีเ้ ป็นเรอ่ื งของกิเลส สาํ หรบั ธรรมทา่ นไม่วา่ อยา่ งนนั้
ท่านปราบเอาเลย ทา่ นลบลา้ งไปเลย มนั สขุ ท่ีตรงไหน คนโลภ
นนั้ ละคอื คนจะตาย น่นั พดู งา่ ย ๆ วา่ งนั้ โลภมากเทา่ ไรมนั จะ
ตายสด ๆ รอ้ น ๆ

ความโกรธก็เหมือนกนั เกิดขนึ้ มาก ๆ นีต้ วั แดงเป็นพรกิ เผา
ไปเลย นนั้ หรอื คนเป็นสขุ ตวั แดงเป็นพรกิ เผานนั้ เหรอ ผไู้ ม่โลภ
อยสู่ งบสบายไม่มีอะไรกวนใจตา่ งหากเป็นผมู้ ีความสขุ เป็นผู้
ทรงความสขุ ผไู้ มโ่ กรธอยดู่ ว้ ยความสะดวกสบายดว้ ยจติ ท่ี
บรสิ ทุ ธิ์ตา่ งหากเป็นผมู้ ีความสขุ ทรงไวซ้ ง่ึ ความสขุ ไมห่ ลงงม

26

งายไมห่ ลงอะไรทงั้ นนั้ ตวั หลงตวั เหลง็ นีอ้ อกไปหมดไมม่ ีอะไร
เหลือ ปราบมนั ออกหมด ยงั เหลอื แตค่ วามสขุ ท่ีบรสิ ทุ ธิ์ลว้ น ๆ
นนั้ คือผปู้ ระเสรฐิ นนั้ คือผเู้ ป็นบรมสขุ ตา่ งหาก

ราคะตณั หาเป็นเคร่อื งเขย่ากอ่ กวนใหด้ นิ้ รนกวดั แกวง่
เหมือนสนุ ขั เดอื น ๙ เดอื น ๑๐ ดนิ้ รนกระวนกระวาย น่นั ละตวั
มนั ดนิ้ ท่ีสดุ ตวั นี้ เม่ือฆา่ สาเหตตุ วั มนั ดิน้ เสียแลว้ อะไรจะมาดิน้
คนดิน้ ตายมีความสขุ ไหม คนไม่ดิน้ ตา่ งหากมีความสขุ นตี้ ณั หา
ราคะพาดนิ้ ลม้ ดนิ้ ตายอยทู่ งั้ วนั ทงั้ คนื ยืนเดินน่งั นอน ทกุ เพศทกุ
วยั มนั มีความสขุ เหรอมนั พาดนิ้ อยนู่ ่นั ความไม่ดนิ้ ตา่ งหาก
ความสลดั ปัดทิง้ สง่ิ ท่พี าใหด้ นิ้ ทงั้ หลายนีอ้ อกเสยี จากใจ ใจไม่
ดีดใจไมด่ ิน้ ใจอยดู่ ว้ ยความสงบรม่ เยน็ ตา่ งหากเป็นใจท่ีทรง
ความสขุ ไว้ เป็นผหู้ าความสขุ ได้ น่ีละปรารถนาสง่ิ นีเ้ จอเพราะ
เป็นความจรงิ ถา้ เป็นความจอมปลอมปรารถนาเทา่ ไรก็ไม่เจอ
ทา่ นจงึ วา่ เป็นทกุ ข์ ๆ เร่อื ย ยมฺปิ จฉฺ ํ น ลภติ ตมฺปิ ทกุ ขฺ ํ ทกุ ขฺ ํ
เร่อื ย ไม่มีคาํ วา่ สขุ ํ สขุ ํ

27

ถา้ ดาํ เนินตามทางมรรคท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงส่งั สอนแลว้ ปรมํ
สุขํ ปรมํ สุขํ ไมต่ อ้ งถาม น่ลี ะธรรมจะเปิดเผยขนึ้ ท่ีใจ ความ
วิเศษจะเปิดเผยขนึ้ ท่ีใจ จะไม่เปิดท่ีตรงไหน ใจเทา่ นนั้ จะเป็นผู้
สมั ผสั สมั พนั ธธ์ รรม ขอใหป้ ราบกิเลสใหพ้ งั ทลายไปเถอะ ความ
ปิดบงั มนั จะหายไปพรอ้ มกบั ตวั กิเลสซง่ึ เป็นตวั ปิดบงั นนั้ แล
ความเปิดเผยแหง่ ธรรมทกุ ขนั้ ทกุ ภมู ิจะขนึ้ ในทนั ทที นั ใด สวา่ ง
จา้ ไปหมดเลย

ปฏิบตั เิ อาใหจ้ รงิ ใหจ้ งั นกั ปฏบิ ตั ิ อยา่ ไปเสยี ดายเร่อื งของ
กิเลส มนั มีแตเ่ รอ่ื งของกิเลสทงั้ นนั้ รอบอยใู่ นหวั ใจของเรา เวน้
แตไ่ ม่พดู เทา่ นนั้ นะ มนั เตม็ อย่ทู ่ีจติ ใจ เอาธรรมเปิดขนึ้ มาซิ ให้
ไดเ้ ห็นความวเิ ศษศกั ดิส์ ิทธิ์ ความทกุ ขค์ วามลาํ บากทงั้ หลายจะ
กลายเป็นป๋ ยุ ขนึ้ มาสนบั สนนุ จิตใจใหม้ ีความรม่ เยน็ เป็นสขุ
สมาธิไม่เคยปรากฏก็จะปรากฏท่ีใจ ปัญญาไม่เคยปรากฏก็จะ
ปรากฏ วมิ ตุ ตหิ ลดุ พน้ ไมเ่ คยปรากฏจะสงา่ งามขนึ้ ท่ีใจนี้ ปรมํ
สขุ ํ ปรมํ สขุ ํ ไปถามหาท่ีไหน รูอ้ ย่ใู นใจแลว้ ถามท่ีไหน ใหพ้ ากนั
ตงั้ อกตงั้ ใจ

28

เอาละเทศนเ์ ทา่ นี้ เหน่ือยมากวนั นี้
(ถอดเสียงธรรมโดย www.luangta.com)
ท่ีมา: https://youtu.be/PR4cRBC0xr4

29


Click to View FlipBook Version