The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สู้แค่ตาย โดย หลวงตามหาบัว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-08 21:00:42

สู้แค่ตาย โดย หลวงตามหาบัว

สู้แค่ตาย โดย หลวงตามหาบัว

Keywords: สู้แค่ตาย,หลวงตามหาบัว

สู้แคต่ าย
หลวงตามหาบวั ญาณสมั ปันโน
เทศนโ์ ปรดคณุ เพาพงา วรรธนะกลุ ณ วดั ป่ าบา้ นตาด

(๑๔ มกราคม ๒๕๑๙)
ความหนกั ท่ีสดุ ก็คอื “ใจ” ความเบาท่ีสดุ กค็ ือ “ใจ” ความ
หยาบท่ีสดุ ก็คอื “ใจ”ความละเอียดหรอื อศั จรรยอ์ ย่างย่ิงก็คือ
“ใจ” อยทู่ ่ีใจนีท้ งั้ นนั้ !
โลกจะมีความสงบรม่ เยน็ หรอื เกิดความเดือดรอ้ นวนุ่ วาย
มากนอ้ ย ก็ขนึ้ อย่กู บั ใจ เพราะใจเป็นผคู้ รองรา่ งและครองโลก
ใจจงึ ควรไดร้ บั การอบรมศกึ ษาไปตามเหตตุ ามผลซง่ึ เป็น
แนวทางท่ีชอบ เพ่ือจะไดผ้ นู้ าํ ท่ีดี แสดงออกเป็นกิจการงานท่ี
ชอบธรรม
การแสดงออกทกุ อาการ เม่ือใจไดร้ บั การอบรมโดยเหตผุ ล
อนั เป็นแนวทางท่ีดที ่ีเรยี กวา่ “ธรรม” แลว้ กิจการงานตลอด
ความประพฤตยิ อ่ มเป็นไปดว้ ยความราบร่นื ดงี าม ไมแ่ สลงตา
แทงใจระหวา่ งเพ่ือนมนษุ ยด์ ว้ ยกนั ไมว่ า่ สว่ นย่อยสว่ นใหญ่

1

ขนึ้ อย่กู บั ใจเป็นสาํ คญั ใจนีจ้ ะวา่ หนกั ก็หนกั จนเจา้ ของยกไมข่ นึ้
ถา้ ยกขนึ้ สคู่ วามดงี ามไดด้ งั ทา่ นผดู้ ที งั้ หลาย ก็ควรจะผา่ นพน้
ความทกุ ขค์ วามไมด่ ีทงั้ หลายไปไดแ้ ลว้ น่ีใครก็นอนจมอย่ใู น
กองทกุ ขแ์ ละความสกปรกโสมมเรอ่ื ยมา ทาํ ไมจงึ ไมย่ กใจของ
ตนขนึ้ ใหพ้ น้ ไปเสีย ทงั้ ท่ีรูอ้ ยดู่ ว้ ยกนั วา่ ทกุ ขอ์ นั เกิดจากเหตชุ ่วั
นนั้ เป็นของไมด่ ี ก็เพราะมนั ยกไมข่ นึ้ น่นั เอง ใจมนั ชอบอยใู่ น
ทกุ ขโ์ ดยไม่รูส้ กึ ตวั

สง่ิ ท่ีเราไมร่ ูน้ ่นั แหละคือส่งิ ท่ีเป็นนายเรา พดู แลว้ ก็ไม่พน้
จาก “กิเลส” อนั เป็นตวั กอ่ เหตสุ าํ คญั ความไมร่ ูก้ ็ตอ้ งทาํ ไปแบบ
สมุ่ เดา ทาํ แลว้ ก็เกิดผลขนึ้ มาเป็นความเดอื ดรอ้ นแกต่ นและผอู้ ่นื
ตอ่ เน่ืองกนั ไปไมม่ ีท่ีสิน้ สดุ มนั ติดอย่ทู ่วี า่ “ยกของหนกั คอื ใจไม่
ไหว!” ถา้ ยกไหว ก็ยกใหพ้ น้ จากส่งิ กดถ่วงทงั้ หลายท่ีต่าํ ชา้ เลว
ทรามไปนานแลว้ ไมต่ อ้ งมาวกวนบน่ ทกุ ขบ์ น่ ยากกนั ดงั ท่ีโลก
เป็นอย่เู วลานีเ้ ลย ทงั้ นีก้ ็เพราะยกไมไ่ หวไปไม่รอด จอดไม่ถกู
ตามกฎจราจรของธรรมน่นั เอง มนั ถงึ เกิดขนึ้ มาอยใู่ นสภาพท่ี
เกะกะคละเคลา้ กบั ความทกุ ขย์ าก ทางปากกดั ทางมือฉีก ทาง

2

ใจบน่ เพอ้ ราํ พงึ อยภู่ ายใน ท่ีเรยี กวา่ “กรรมของเรา กรรมของเขา
ตา่ งคนตา่ งมีและรุมลอ้ มอยทู่ ่ีใจ”

ไปกอ่ กาํ เนิดท่ีไหนก็ตอ้ งเสวยสขุ ทกุ ขม์ ากนอ้ ยท่ีจิตพกไป
ดว้ ย สว่ นกศุ ลกรรมนนั้ ตา่ งกนั สง่ เสรมิ จิตใหเ้ บาและมีความสขุ

คาํ วา่ “ธรรม” เป็นความละเอียดสขุ มุ คมั ภีรภาพมาก เม่ือ
จิตกบั ธรรมมีความเก่ียวขอ้ งกนั ใจแมเ้ คยหนกั ย่งิ กวา่ ภเู ขา ก็
กลายเป็นจติ เบาและเบาบางจากกิเลสกองทกุ ขโ์ ดยลาํ ดบั จะ
ทาํ อะไรท่ีเป็นกศุ ลก็งา่ ย ช่ือความดีความชอบแลว้ ทาํ งา่ ย!

แตใ่ นระหวา่ งท่ีจติ จมอยกู่ บั ความหนกั หนว่ งถว่ งใจนนั้ มนั
ยกอะไรท่ีเป็นความดีงามไมข่ นึ้ ออ่ นไปหมด ราวกบั ไม่มีกระดกู
ติดตอ่ กนั ในรา่ งกาย สยู้ อมจมอยอู่ ย่างนนั้ ไมไ่ ด้ เพราะธรรมชาติ
ท่ีจะใหจ้ มนนั้ มนั มนี า้ํ หนกั มากกวา่ เทยี บเหมือน “แม่เหลก็ ” ท่ี
ดงึ ดดู เหลก็ เศษเหลก็ เลก็ ๆ นอ้ ยๆ ก็ว่ิงเขา้ หา “แมเ่ หลก็ ”
ทงั้ หมด เพราะแม่เหลก็ มีกาํ ลงั มาก สามารถดงึ ดดู เศษเหลก็ ได้
ตามกาํ ลงั ของมนั

3

กิเลสตณั หาอาสวะก็มีอาํ นาจดงึ ดดู จิตใจ ใหห้ ลงกลมายา
และรกั ชอบมนั ไมม่ ีวนั จืดจาง เชน่ ความโลภ โกรธ หลง ราคะ
ตณั หา เป็นตน้ ทงั้ ท่ีรูแ้ ก่ใจวา่ ไมด่ ี แตก่ ็ไมม่ ีใครพอใจ “ละ” มนั
นอกจากพอใจสง่ เสรมิ พอใจคลอ้ ยตามมนั โดยไมม่ ีการฝ่าฝืน
ตา้ นทานดว้ ยความพอใจ เหมือนเวลาพอใจหลงและตดิ มนั
สง่ เสรมิ มนั ฉะนนั้ จงึ ยากท่จี ะมีผผู้ ่านพน้ ฝีมือของมนั ไปได้
เพราะตา่ งเคลมิ้ หลบั ใหม้ นั กลอ่ มจนหมดเพลง ความไมเ่ บ่อื
ความลมุ่ หลง ไม่มีสติระลกึ รูต้ วั บา้ ง ก็คอื กเิ ลสกลอ่ มสตั วโ์ ลกน่นั
แล

ทา่ นท่ีอยากเปล่ียนฟังเพลงคอื “ธรรม” ก็จงพยายามยบั ยงั้
ช่งั ตวงตวั เอง หมนุ ใจเขา้ หาธรรมดว้ ยความพยายาม ยากก็
พยายามลากเข็น พยายามตอ่ สู้ พยายามบกึ บนึ อย่าย่ืนมือให้
กิเลสฉดุ ลาก เด๋ยี วจะไมม่ หี นงั ติดเนือ้ จะเป่ือยผพุ งั ไปเพราะมนั
เสยี หมด

4

กิเลสมนั เคยดดั สนั ดานสตั วโ์ ลกมานาน ถา้ จะเขด็ ก็ควรเขด็
ไดแ้ ลว้ ไม่มีอะไรจะวิเศษวิโสไปกวา่ เท่าท่ีรูอ้ ยเู่ ห็นอยใู่ นวงของ
กิเลสครอบงาํ นี้

ความพากเพียรในธรรมมีเทา่ ไรจงทมุ่ ลงไป อยา่ กลวั กิเลส
เจ็บ อยา่ กลวั กิเลสรอ้ งไห้ ใหก้ ลวั เราจมอย่ใู นกองทกุ ขเ์ พราะ
กิเลสทาํ เหตจุ ะประเสรฐิ กวา่ กิเลสไม่ใชข่ องประเสรฐิ ธรรม
ตา่ งหากประเสรฐิ เหนือโลก สติ ปัญญา ศรทั ธา ความเพยี ร ใน
ธรรมทงั้ หลาย ไมใ่ ช่เนือ้ ไม่ใชป่ ลาพอจะสงวนไวเ้ พ่ือตม้ แกงกนิ
จงนาํ ออกมาใชเ้ พ่ือประโยชน์ เพ่ือประโยชนม์ หาศาลแกต่ นใน
อตั ภาพนี้ อย่ารอใหเ้ ขานิมนตพ์ ระมาจดั การ “กสุ ลา มาติกา” ให้
ทงั้ ท่ีเรากาํ ลงั โง่อยู่ การนนั้ จะไม่เป็นประโยชนย์ ่งิ กวา่ เราสรา้ ง
“กุสลา ธมฺมา” คอื ความฉลาดขนึ้ มาเองภายในใจขณะท่ียงั มี
ชีวิตอย่เู วลานี้

จงทราบวา่ “กสุ ลา ธมมฺ า” นนั้ ทา่ นสอนคนเป็นใหฉ้ ลาด
ไมไ่ ดส้ อนใหค้ นโง่ เราเป็นชาวพทุ ธและเป็นนกั ปฏบิ ตั ิ จง
พิจารณาไตรต่ รองความหมายของธรรมใหถ้ กู ตอ้ ง อยา่ คอย

5

เสวยผลบญุ และความฉลาดในเวลาเขา้ โลงดว้ ย “กสุ ลา มาตกิ า
บงั สกุ ลุ ” น่นั คอื งานท่ีเขาทาํ ใหใ้ นเวลาผตู้ ายหมดหวงั จากการ
บาํ เพ็ญดว้ ยตนเองแลว้ เขาก็ทาํ สง่ เดชใหอ้ ย่างนนั้ เอง ตามนิสยั
คนท่ีรกั และเคยมีบญุ คณุ ตอ่ กนั มนั ไมแ่ นเ่ หมือนเราทาํ เอง คอื
สรา้ งกศุ ลเอาเองขณะท่ีมีชวี ติ อยู่

ถา้ แนใ่ จในกศุ ลของตวั ท่ีสรา้ งขนึ้ มาวา่ เตม็ ภมู ิภายในใจแลว้
ก็ไมจ่ าํ เป็นตอ้ งไปรบกวนพระท่านมา “กสุ ลา มาติกา” ให้
ลาํ บากในเวลาตายหรอื เวลาเขา้ โลงแลว้ เพราะเราสมบรู ณแ์ ลว้
กสุ ลา หรอื ไม่เราก็พอตวั แลว้ การตายทงั้ “อ่มิ ” ไมใ่ ช่ตายทงั้
‘หวิ ” นีด้ มี าก คาํ วา่ “ตายทงั้ อ่ิม” นนั้ คือความเพยี รพอในกศุ ล
ธรรมทงั้ มวลภายในใจ ดงั พระ-อรหนั ตท์ า่ นตาย ไม่เห็นใครกลา้
ไปอาจเออื้ มไปกสุ ลาใหท้ ่านถา้ ไมอ่ ยากขายตวั การตายของ
ท่านก็ไมเ่ ห็นลาํ บากราํ คาญ ทา่ นมกั ตายคนเดยี ว อยา่ งสบาย
หายวนุ่ แมลงหว่แี มลงวนั ก็ไม่ตอมเหมือนพวกเราชาวยงุ่ ชาววนุ่
ตายแตล่ ะรายราวกบั เกิดขา้ ศกึ กลางเมือง

6

เร่อื งของทา่ นผสู้ นิ้ กิเลสความกงั วลและกวนใจกบั เรอ่ื งของ
พวกเรา ตา่ งกนั มากราวกบั เกิดอยคู่ นละโลก ทงั้ ท่ีทา่ นก็เป็น
มนษุ ยเ์ หมือนพวกเรา ฉะนนั้ เราผเู้ ป็นศษิ ยม์ ีครูส่งั สอน ควร
พยายามดดั จติ ใจของตนใหเ้ ดินตามรอ่ งรอยแห่งธรรม

แมไ้ ม่ไดอ้ ย่างท่าน กพ็ อเป็นเคร่อื งหมายแห่ง “ลกู ศษิ ย”์ ท่ีมี
ครูสอนบา้ ง สง่ิ ท่ีควรตดั ก็ตดั สงิ่ ท่ีควรละก็ละบา้ งตามโอกาส ไม่
ควรปลอ่ ยตวั ใหต้ ดิ จมอย่กู บั เร่อื งตา่ งๆ สงิ่ ตา่ ง ๆ จนไมค่ ดิ
หาทางออกจากทกุ ขเ์ พ่ือตวั เอง ก็ดวู า่ โง่เสยี จนเลยขอบเขต
เหตผุ ล

ตามธรรมดาท่วั ๆ ไป ใครมีอะไรมากนอ้ ยใครก็รกั สงวน โลก
เป็นกนั มาอย่างนนั้ ไมป่ ฏิเสธ แตธ่ รรมเคร่อื งปอ้ งกนั ตวั รกั ษาตวั
ก็ควรใหม้ ีเป็นคเู่ คียงกนั ไป จะไมเ่ สียเปรยี บโลกคอื กิเลสของตวั
จนเกินไป

คดิ ดู ! พระพทุ ธเจา้ ผเู้ ป็นศาสดา ก็ทรงเสยี สละและเสยี สละ
จนหว่นั ไหวทงั้ แผ่นดนิ ถ่ินท่ีทรงปกครอง การเสียสละขนาดนนั้
เป็นส่งิ เลก็ นอ้ ยไดห้ รอื ตอ้ งเป็นเรอ่ื งใหญ่โตมาก จนไมม่ ใี คร

7

สามารถทาํ ไดอ้ ย่างพระองค์ เวลาเสด็จออกไปทรงผนวชแลว้ มี
ใครบา้ งท่ีมีความสามารถอาจหาญทางความเพยี ร ความอด
ความทนในทกุ ส่งิ บรรดาปัจจยั ทงั้ ส่เี หมือนอยา่ งพระพทุ ธเจา้
การลดฐานะจากความเป็นกษัตรยิ ล์ งเป็นนกั บวชอนั เป็นเพศ
แหง่ คนขอทาน ตอ้ งเป็นเร่อื งใหญ่โตมาก ฉะนนั้ ศาสนธรรมจงึ
เกิดขนึ้ ในท่ามกลางแห่งความลาํ บากทรมานของพระพทุ ธเจา้
ไม่ใชเ่ กิดขนึ้ เพราะความขีเ้ กียจออ่ นแอแบบสกุ เอาเผากิน แต่
เกิดขนึ้ จากความรอดตายของพระสทิ ธตั ถราชกมุ ารองค์
อาชาไนย

ใครจงึ ไมค่ วรดดุ า่ ลกู ๆ หลานๆ ดว้ ยการประมาทพระ
ศาสนาวา่ “ไอน้ ่ีมนั เกียจครา้ นนกั เอาไปบวชเสีย” เพราะ
พระพทุ ธเจา้ ไมใ่ ช่ช่างทาํ สว้ ม ธรรมของทา่ นไม่ใชส่ ว้ มพอจะเป็น
เครอ่ื งรบั ถ่ายมตู รคถู เชน่ นนั้ ศาสนาไมใ่ ชห่ อ้ งนา้ํ หอ้ งสว้ มหลมุ
มตู รหลมุ คถู

ผทู้ ่ีประกอบความเพียร ความเสียสละ ความอดความทน
จนถงึ เป็นถงึ ตาย จะมีใครเกนิ พระพทุ ธเจา้ ไปไดเ้ ลา่ น่ีแหละ

8

ตน้ เหตทุ ่ีจะไดธ้ รรมอนั ประเสรฐิ เลิศโลกเกิดขนึ้ และนาํ มา
ประกาศสอนโลกท่วั ไป ทา่ นไดม้ าดว้ ยวธิ ีนนั้ ดว้ ยอาการนนั้
ฉะนนั้ การท่ีจะรอื้ ถอนตนใหพ้ น้ จากทกุ ข์ จงึ ตอ้ งอาศยั ความ
พากเพียรอยา่ งเต็มกาํ ลงั ความสามารถขาดดิน้ ไม่ยอมลดละ ไม่
ยอมถอยหลงั ถา้ ถอยก็ตอ้ งจมอีก ไม่ถอยก็ไมจ่ ม คอ่ ยคบื คลาน
ขนึ้ มาดว้ ยความเพียรโดยสม่าํ เสมอ ก็ย่อมจะผา่ นพน้ ไปได้

รา่ งกายเรานีไ้ ม่มีประโยชนอ์ ะไร ถา้ ไม่พาทาํ ประโยชนเ์ สยี
แตเ่ วลานี้ ตายแลว้ มีแตเ่ ร่อื งยงุ่ กนั “โอโ้ ห ยงุ่ มหาย่งุ น่นั ซิมนั ดู
ไม่ได้ ไอเ้ ร่อื งตายนถี้ ือกนั วา่ เป็นเรอ่ื งใหญ่โตมาก ย่งุ กนั ไปหมด
คนเป็นน่นั แหละตวั ยงุ่ หาอะไรมาย่งุ กนั ไปหมด เห็นแตพ่ ระตาย
ก็ยงั ยงุ่ มาก ซง่ึ ไม่นา่ จะเป็นอยา่ งนนั้ เลยก็ยงั เป็นได้ ทา่ นตาย
แลว้ เก็บหมกั เก็บดองเอาไวไ้ ม่ทราบวา่ ก่ีเรอ่ื งก่ีราย จะทาํ ปลารา้
หรอื นา้ํ ปลาก็ไมไ่ ด้ แตใ่ จชอบอย่างนนั้ หล่งั ไหลมาย่งุ ดว้ ยกนั
โดยไมม่ ีเหตมุ ีผลอะไรท่ีไมค่ วรเป็นเลย มนั ก็ยงั เป็น เพราะใจ
มนษุ ยน์ ิยมชอบอยา่ งนนั้

9

เวลายงั มีชวี ิตอยู่ จะสนใจประพฤติปฏบิ ตั ิคณุ งามความดใี ห้
เกิดจากสกลกายนกี้ ็ไม่คอ่ ยสนใจ เวลาตายแลว้ จะใหร้ า่ งกายนี้
เป็นประโยชน์ มนั จะเป็นประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งไรกนั ถา้ ไมพ่ าทาํ เสยี
ตงั้ แตบ่ ดั นี้ ทาํ ใหพ้ อ ! ตายแลว้ ก็ทงิ้ ไปน่นั เอง จะเป็นประโยชน์
อะไรอีก ถา้ เป็นประโยชนอ์ ยจู่ ะตายไปทาํ ไม มนั ไมเ่ ป็น
ประโยชน์ เพราะหมดกาํ ลงั ความสามารถสืบตอ่ แลว้ มนั ถงึ ตาย
ตายแลว้ ทงิ้ ลงไป อนั ใดท่ีเป็นสาระสาํ คญั ซง่ึ ไดจ้ ากการกระทาํ
ของรา่ งกายนี้ ก็ถือเอาเป็นประโยชนต์ อ่ ไป ช่ือวา่ เป็นผไู้ ม่
ประมาท

เวลานีช้ ีวติ รา่ งกายของเรากาํ ลงั เป็นประโยชน์ ทาํ กิจการ
ทางโลกก็เป็นประโยชน์ ทางธรรมก็เป็นประโยชน์ ฉะนนั้ งานทงั้
สองประเภทนีท้ ่ีเรายงั มีความสามารถทาํ ไดอ้ ยู่ เราก็ตอ้ งทาํ ไม่
อย่เู ปลา่

งานทางโลกกต็ อ้ งทาํ เพราะสงั ขารรา่ งกายมีความจาํ เป็น
ตอ่ สงิ่ เยียวยารกั ษา อยเู่ ฉยๆ ไมไ่ ด้ ตอ้ งมีเครอ่ื งน่งุ เครอ่ื งห่ม
ปกปิดสกลกาย มีท่ีอยอู่ าศยั มีปัจจยั เคร่อื งสนบั สนนุ อาหาร

10

การบรโิ ภคตลอดหยกู ยา ไมก่ าํ หนดกฎเกณฑว์ า่ มีมากมีนอ้ ย
เรอ่ื งมนษุ ยเ์ ป็นอยา่ งนนั้

สตั วเ์ ขาไมม่ ีอะไรมากเหมือนมนษุ ย์ ผา้ นงุ่ ผา้ ห่มเขาก็ไมม่ ี ท่ี
นอนหมอนมงุ้ เขาก็ไมม่ ี หยกู ยาแกโ้ รคเขาก็ไมม่ ี เขายงั มคี วาม
สืบตอ่ เป็นสตั วม์ าได้

แตม่ นษุ ยเ์ ราน่ซี ิ ถา้ พดู ตามความจรงิ ก็วา่ ออ่ นแอมากกวา่
สตั ว์ ไปท่ีไหนพะรุงพะรงั ดว้ ยเครอ่ื งนงุ่ ห่ม ดว้ ยเครอ่ื งอย่เู คร่อื ง
กิน เตรยี มกนั ไปเตม็ ท่ีเตม็ ทางกลวั แตจ่ ะอดตาย หยกู ยาปลา
แปง้ อะไรพากนั หอบหิว้ ใหย้ งุ่ ไปหมด แมจ้ ะไปวดั เพ่ือภาวนาตดั
กงั วล ยงั ไม่สนใจคดิ วา่ ความพะรุงพะรงั นะ่ คือความกงั วลเป็น
หว่ งรา่ งกายกลวั จะอดตาย ย่ิงกวา่ จะหว่ งใจ

การกลา่ วทงั้ นมี้ ไิ ดเ้ จตนาตาํ หนิมนษุ ยโ์ ดยถ่ายเดียว แตเ่ ป็น
อบุ ายเตอื นมนษุ ยใ์ หม้ ีความเขม้ แข็ง และรูจ้ กั ผอ่ นหนกั ผ่อนเบา
ไมเ่ ป็นคลงั แหง่ ความกงั วลบนหวั ใจโดยถา่ ยเดยี ว แทนท่จี ะเป็น
คลงั แหง่ ธรรม

11

ตามธรรมดาแลว้ มนษุ ยม์ ีความฉลาดเหนือสตั ว์ ความ
ตา้ นทานของมนษุ ยก์ ็ไมเ่ หมือนสตั ว์ มนั ผดิ กนั มนษุ ยเ์ ราเกิดมา
ในทา่ มกลางแหง่ ความชว่ ยเหลือจากผอู้ ่นื ฉะนนั้ ความเป็นอยู่
ตา่ งๆ จงึ ตา่ งจากสตั วเ์ ป็นธรรมดา แตน่ กั ปฏิบตั ิธรรมควรคิด
เร่อื งนีไ้ วเ้ สมอเพ่ือกนั ความลมื ตวั และออ่ นแอ เวลาไมส่ บายมี
เจ็บไขเ้ ป็นตน้ จิตใจจะไมเ่ ขม้ แขง็ เพ่ือคน้ หาความจรงิ ตามหลกั
สจั ธรรม

ครงั้ พทุ ธกาลพระบางองคท์ า่ นไดส้ าํ เรจ็ อรหนั ต์ เพราะ
ทกุ ขเวทนาเวลาเจ็บไขก้ ็มี ทงั้ นีเ้ พราะจติ ใจเขม้ แขง็ เพราะฉะนนั้
การกลา่ วนจี้ งึ กลา่ วเพ่ือจิตใจ โดยเฉพาะใจสาํ คญั มาก เพ่ือใจ
ไม่สะดงุ้ กลวั ไมร่ ะส่าํ ระสาย ขาดสตปิ ัญญาเคร่อื งพจิ ารณาใน
เวลาเจ็บป่วย ดงั พระกรรมฐานทา่ นเท่ียวตามป่าตามเขา
ตวั อย่างมีทา่ นอาจารยม์ ่นั เป็นตน้ หยกู ยาก็ไมไ่ ดต้ ดิ เนือ้ ตดิ ตวั
ไปเลย เวลาเจบ็ ไข้

“เอา้ โรคนีเ้ วลาจะเป็นขนึ้ มา เป็นมาจากท่ไี หน ก็เกิดขนึ้
ภายในรา่ งกายนี้ เชน่ เจบ็ ไข้ ปวดหวั เป็นตน้ เวลาเกิดมนั ก็

12

เกิดขนึ้ ท่นี ่ี เวลาหายมนั จะหาหยกู ยาจากท่ีไหน มนั เกิดท่ีน่ีมนั ก็
ดบั ท่ีน่ี ถา้ รา่ งกายหรอื จิตใจไมม่ ีความสามารถตา้ นทานกนั มนั ก็
ตายท่ีน่ี เกิดกบั ตายเป็นของคกู่ นั โรคภยั ไขเ้ จบ็ ท่ีเกิดขนึ้ กบั ดบั
ไป มนั ก็เป็นของคกู่ นั มนั จะเกิดจะดบั ท่ีไหนถา้ ไม่เกิดดบั ท่ีน่ี”
ท่านวา่

“พวกสตั วส์ าราสงิ มีอยเู่ ต็มในป่าในเขานี้ เขาไมไ่ ดม้ ีหยกู มี
ยา เขาก็มธี าตขุ นั ธเ์ ชน่ เดยี วกนั เขาอาจมีเจบ็ ไขไ้ ดป้ ่วยได้
เช่นเดยี วกบั มนษุ ยเ์ รา แตท่ าํ ไมเขาจงึ ไม่สญู พนั ธุ์ ทาํ ไมเราจงึ
กลวั ตายนกั ออ่ นแอนกั !“ น่ีทา่ นพลกิ ใจของทา่ น

“เราตอ้ งพิจารณาใหร้ ู้ “สจั ธรรม” เป็นธรรมโอสถเครอ่ื งแก้
กนั ไม่ใหจ้ ติ ใจลมุ่ หลงสา่ ยแสไ่ ปกบั สงิ่ เหลา่ นนั้ อนั จะกอ่ ความ
ทกุ ขใ์ หก้ บั ตนมากขนึ้ ”

ทา่ นกพ็ จิ ารณาจนกระท่งั ทราบเรอ่ื งเหตเุ รอ่ื งผล ทกุ สิง่ ทกุ
อยา่ งภายในรา่ งกายเวทนาจิตโดยตลอด โรคภยั ไขเ้ จบ็ หายไป
เลยก็มีดงั ท่ีเขยี นไวใ้ นประวตั ิของทา่ นอาจารยม์ ่นั

13

แมโ้ รคมนั จะไมห่ ายก็ตาม เรอ่ื งจิตใจนนั้ จะตอ้ งมีความ
เขม้ แข็ง มีความเฉลยี วฉลาดตอ่ วธิ ีการปฏบิ ตั ติ อ่ ตนเอง ซง่ึ
เก่ียวกบั โรคภยั ไขเ้ จ็บเป็นพเิ ศษ ผิดกบั คนธรรมดาอย่มู าก น่ีก็
เคยไปปฏิบตั ิมาอยา่ งนนั้ เชน่ เดียวกนั เวลาเจ็บไขไ้ ดป้ ่วยมากๆ
หา้ มใครเขา้ ไปเก่ียวขอ้ งเลย ถา้ สมมตุ วิ า่ อย่กู บั หมเู่ พ่ือนอยา่ งนี้
ก็ปิดประตแู ละบอกทนั ที และหา้ มเดด็ ขาดเลยวา่ “ใครอย่ามา
แตะตอ้ งหรอื เปิดประตเู ป็นอนั ขาด ถา้ ประตนู ีไ้ มเ่ ปิดหา้ มไม่ให้
ใครเขา้ มาเก่ียวขอ้ ง วนั นีจ้ ะตอ้ งพจิ ารณาขดุ คน้ กนั อยา่ งเต็มภมู ิ
เตม็ ฐานทีเดยี ว เพราะวา่ น่ีเป็นทกุ ขเวทนาซง่ึ เกิดขนึ้ จากการเจบ็
ไข”้

ทกุ ขเวทนาท่ีเราเคยพบเพราะน่งั ภาวนามาตงั้ หลายช่วั โมง
เรายงั สไู้ ด้ พิจารณาแทงทะลปุ รุโปรง่ ไปได้ ไดเ้ หตไุ ดผ้ ล ไดอ้ รรถ
ไดธ้ รรม ไดค้ วามเฉลยี วฉลาด ไดค้ วามศกั ดิส์ ทิ ธิ์ท่ีสาํ คญั ขนึ้ มา
ภายในใจแตล่ ะครงั้ ๆ ไมเ่ คยพลาดไปเลย แตเ่ วลาเจบ็ ไขไ้ ดป้ ่วย
นีเ้ ราจะปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร ถา้ ไมป่ ฏิบตั อิ ยา่ งนนั้ เราจะปฏิบตั ทิ าง

14

ไหน ไม่มที างหลกี เรน้ ได้ เพราะรา่ งกายนีเ้ ป็นท่ีเกิดแหง่ โรคตา่ งๆ
ไมม่ ีประมาณ

สตปิ ัญญาเป็นเครอ่ื งพจิ ารณาความจรงิ ซง่ึ เกิดขนึ้ นนั้ โรค
แตล่ ะชนิดท่ีเกิดขนึ้ ก็ทาํ ใหเ้ กิดทกุ ขเวทนา ทกุ ขเวทนานนั้ เป็นสจั
ธรรม เราไม่พจิ ารณาสจั ธรรมท่ีเกิดขนึ้ กบั เราเวลานีเ้ ราจะ
พิจารณาอะไร เรากลวั สจั ธรรมก็เทา่ กบั เรากลวั กิเลส เราสกู้ ิเลส
ไม่ไดก้ ็เทา่ กบั เรา “แพก้ ิเลส” โดยตรง ถา้ เราพิจารณาสจั ธรรม
เขา้ ใจแจ่มแจง้ จรงิ แลว้ ก็ช่ือวา่ เรามีความเฉลยี วฉลาดเอาตวั
รอดได้ เอา้ คน้ ลงไปทีเดยี ว!

ทกุ ขเ์ กิดขนึ้ มาจากไหน เป็นขนึ้ ท่ีตรงไหน คน้ ลงไป
สตปิ ัญญาหมนุ ติว้ ไปตามอาการของเวทนาท่ีแสดงตวั อยใู่ น
รา่ งกายสว่ นตา่ งๆ กระท่งั ทกุ ขเวทนาท่ีเกดิ ขนึ้ อย่างเตม็ ท่ีใน
ขณะนนั้ ไดห้ ายไป ขยายตวั ออกไป ๆ เพราะสตปิ ัญญาไลต่ อ้ น
เขา้ สคู่ วามจรงิ ไปโดยลาํ ดบั เม่ือเจอความจรงิ ท่ีตรงไหน
ทกุ ขเวทนากก็ ระจายออก ๆ เหน็ อยา่ งชดั เจนภายในใจ
จนกระท่งั รา่ งกายทกุ สว่ นท่ีเป็นกองทกุ ขซ์ ง่ึ เกิดจากการเจบ็ ไข้

15

นนั้ หายไปหมดเลย เหลือแตค่ วามรูล้ ว้ นๆ ท่ีสวา่ งไสวครอบ
รา่ งกายในขณะนนั้ แมแ้ ตร่ า่ งกายท่ีเคยปรากฏอยใู่ นขณะนนั้
พรอ้ มกบั ทกุ ขท์ ่ีกลมกลนื เป็นอนั เดียวกนั นนั้ เหมือนกบั จะ
แยกกนั ไมอ่ อก ก็กลบั กลายหายไป ทงั้ รา่ งกายก็หายไป
ทกุ ขเวทนาท่ีเกิดขนึ้ ภายในรา่ งกายก็หายไป คอื รา่ งกายหายไป
ในความรูส้ กึ เหลือแตค่ วามรูซ้ ง่ึ เป็นสง่ิ ท่ีอศั จรรยล์ ว้ นๆ ทรงตวั
อยู่ โดยไมม่ ีกาํ หนดกฎเกณฑว์ า่ อย่สู งู อยตู่ ่าํ อย่ใู นดินฟา้ อากาศ
ท่ีไหน หายเงียบ ไมม่ ีรา่ งเป็นท่ีสงิ สถิตอย่ใู นความรูส้ กึ เวลานนั้
น่นั ! เหน็ ความอศั จรรยข์ นึ้ มาแลว้ ! พอถอนออกมาเทา่ นนั้ “โรค
หายไปเลย!”

น่ีเรยี กวา่ “สตปิ ัญญาพิจารณาสจั ธรรม” เม่ือรูส้ จั ธรรมแลว้
จะไม่ถอนทกุ ขไ์ ม่ถอนกิเลสอาสวะจะถอนอะไร เพราะสจั ธรรมก็
เป็นความจรงิ แตล่ ะอยา่ ง ๆ คอื ทกุ ขก์ ็เป็นความจรงิ สมทุ ยั ก็เป็น
ความจรงิ สตปิ ัญญาท่ีเรยี กวา่ “มรรค” ก็เป็นความจรงิ ตา่ งอนั
ตา่ งจรงิ เม่ือเขา้ ถึงกนั แลว้ ตา่ งก็เป็นความจรงิ ลว้ นๆ จติ จะ

16

ปลอมมาจากท่ีไหนอกี เม่ือไดใ้ ชส้ ติปัญญาเป็นเครอ่ื งซกั ฟอก
แลว้

เพราะฉะนนั้ จติ จงึ แน่วแน่อย่ตู ามความจรงิ ของตน คาํ วา่
“ยา” หายไปหมด เร่อื งความคิดถงึ หยกู ถงึ “ยา” คิดไมไ่ ด้ ไมม่ ี
เวลาไปคิด คดิ ไปไหน เม่ือคิดไปแลว้ มนั ก็ไม่ไดผ้ ล จงึ ไมค่ ิดให้
เสยี เวลา

คดิ ท่ีตรงนี้ ตรงท่ีควรจะคิดนี้ เวทนามากนอ้ ยเกิดท่ีตรงนี้
การเจ็บไขไ้ ดป้ ่วยเกิดขนึ้ ท่ีรา่ งกายนี้ พิจารณาท่ีตรงนี้
สตปิ ัญญาก็มีอย่ทู ่ีน่ี คน้ กนั ลงท่ีน่ี หมนุ ตวิ้ ๆ ลงไปท่ีน่ี พอไดท้ ่ี
แลว้ ทกุ ขเวทนาก็หายหมด! น่ีเรยี กวา่ “ไมเ่ สยี ผลเสียประโยชน”์
เรยี กวา่ “รบขา้ ศกึ ไดช้ ยั ชนะ!”

หากจะตายในเวลานนั้ จติ ก็ไมย่ อ่ ทอ้ จติ ก็สามารถรบั รองตวั
ได้ หรอื ชว่ ยตวั เองได้ ไม่ใหท้ กุ ขเวทนาทงั้ หลายเขา้ มาครอบงาํ
จติ ไดเ้ ลย เพราะอาํ นาจของสติปัญญารอบตวั หากวา่ จะตายลง
ในขณะนนั้ กต็ ายไปอยา่ ง “สุคโต” ทาํ ใหเ้ บาทงั้ กายทงั้ ใจอยา่ ง

17

นีเ้ อง ใจนีท้ าํ ใหฉ้ ลาดก็ไดท้ าํ ใหโ้ ง่ก็ได้ แลว้ แตผ่ นู้ นั้ จะปฏิบตั ิตวั
อยา่ งไร

ถา้ จะให้ “จมอย”ู่ ตงั้ กปั ตงั้ กลั ป์ ก็จมได้ ไม่มีวนั อ่มิ พอใน
ความจม จมอย่ใู น “วฏั สงสาร” น่นั เอง มีความ เกิด แก่ เจ็บ
ตาย นนั้ มนั อ่มิ พอท่ีไหนกนั ถา้ อ่ิมพอกนั ได้ สตั วโ์ ลกก็ไม่ควรจะ
มาเกิดตายกนั ไมห่ ยดุ อยา่ งนี้

ท่านจงึ สอนวา่ “นตถฺ ิ ตณฺหาสมา นท”ี แม่นา้ํ เสมอดว้ ย
ตณั หาไม่มี” กต็ ณั หานีแ้ ลพาใหส้ ตั วเ์ กิดตายไม่มีเวลาอ่มิ พอ
เพราะตวั เหตคุ ือตณั หาไม่เคยมีความอม่ิ พอ ความเกิดตายอนั
เป็นเคร่อื งผลกั ดนั จากตณั หา จะหยดุ ตวั และอ่ิมตวั ไดอ้ ยา่ งไร
เลา่

ฉะนนั้ การจะใหค้ วามอ่ิมพอของความทกุ ขแ์ ละการเกิดตาย
เป็นไปเอง โดยไม่กาํ จดั ตน้ เหตคุ อื “ตณั หาอวิชชา” ใหส้ นิ้ ไปจาก
ใจ จงึ เป็นความหวงั ท่ีลอยลม ไมม่ ีความหมายใดๆ ทงั้ สนิ้ อยา่
พากนั หาญคดิ !

18

การเกิดนนั้ เกิดเท่าไรตายเทา่ นนั้ ตายเทา่ ไรเกิดเท่านนั้ หรอื
มากย่งิ ขนึ้ ไป เพราะสงิ่ ท่ีจะทาํ ใหเ้ กิดคือกิเลสอวิชชาพอตวั
เม่ือไร มนั ไมเ่ คยมีความพอตวั เลย“นตถฺ ิ ตณฺหาสมา นที” แมน่ า้ํ
ทะเลหลวงมหาสมทุ ร ก็สคู้ วามอยากท่จี ิตท่ีเตม็ ไปดว้ ย “ตณั หา”
นีไ้ ม่ได้ ความอยากก็คือกิเลสน่ีเอง มนั มีความพอตวั ท่ีไหน จงทาํ
ความเขา้ ใจอยา่ งถงึ ใจวา่ ถา้ จะปลอ่ ยใหส้ ่ิงเหลา่ นพี้ อตวั ไปเอง
ก่ีกปั ก่ีกลั ป์ ก็ไม่มีหวงั ไม่มีฝ่ังไม่มีแดนเลย เพราะฉะนนั้ จงึ ควร
พยายามแก้ พยายามคล่คี ลาย พยายามบกึ บนึ พยายามตอ่ สู้
สลดั ปัดกิเลสเคร่อื งพวั พนั ทงั้ หลายออก เพ่ือเขา้ หาฝ่ังหาแดน
พน้ ทกุ ขไ์ ปไดโ้ ดยลาํ ดบั ดว้ ยศรทั ธา ความเพียร มีสติปัญญา
เป็นสาํ คญั !

จงคน้ คิด พจิ ารณาลงท่ีน่ี!
พระพทุ ธเจา้ สาวกทงั้ หลายทา่ นพน้ ทกุ ข์ ท่านไมไ่ ดพ้ น้ จาก
ท่ีไหน ทา่ นพน้ ท่ีกองทกุ ขน์ ีแ้ ล แตถ่ า้ ไม่พจิ ารณากองทกุ ขก์ ็ไม่
พน้ ตอ้ งถือเอาทกุ ขเ์ ป็นหินลบั สติปัญญาใหม้ ีความแกลว้ กลา้
สามารถรูเ้ ท่าทนั กนั กบั สจั ธรรมทงั้ ส่ี ทกุ ขท์ งั้ หลายจะไมเ่ ป็นภยั

19

ตอ่ จิตใจอกี ตอ่ ไป ทกุ ขจ์ ะปรากฏตวั “สกั แตว่ า่ ทกุ ข”์ แมจ้ ะไม่
ดบั ไปก็ตาม เพราะอาํ นาจแห่งสตปิ ัญญาพิจารณารูร้ อบท่วั ถงึ
แลว้ ทกุ ขเวทนาจะตงั้ อยตู่ ามความจรงิ ของตน ไม่สามารถเขา้
มากระเทือนจติ ใจไดเ้ ลย เพราะปัญญารอบตวั อย่แู ลว้ จติ ก็จะ
ตงั้ อยตู่ ามความจรงิ ของตวั ตา่ งอนั ตา่ งจรงิ ไม่มีอะไร
กระทบกระเทือนกนั เม่ือความจรงิ เขา้ ถงึ กนั แลว้ ไม่เกิดเรอ่ื งตอ่
กนั

อนั เร่อื งความจรงิ กบั ความปลอมท่ีมนั วนุ่ กนั อยนู่ ี้ ก็เพราะ
ความจอมปลอมขนึ้ แซงหนา้ ไปเรอ่ื ยๆ มนั จงึ ทาํ ใหจ้ ติ จมอยู่
เร่อื ยๆ เราเคยบน่ กนั มากเหลอื เกิน คอื บน่ อยากจะพบความสขุ
ความเจรญิ แลว้ ความสขุ ความเจรญิ นนั้ อย่ทู ่ีไหน ? เวลานีผ้ ู้
ตอ้ งการความสขุ ความเจรญิ จมอย่กู บั อะไร ? ถึงหาความสขุ
ความเจรญิ ไมไ่ ดไ้ ม่เจอ ทงั้ ๆ ท่ีเราปรารถนาความสขุ ความเจรญิ
ดว้ ยกนั ทงั้ โลก ถา้ ไมแ่ กส้ าเหตใุ นจดุ นีแ้ ลว้ ก็ไม่มีทางพบ
ความสขุ ความเจรญิ ไดอ้ ยา่ งพงึ ใจเลย การปลอ่ ยใหจ้ ติ พอตวั
แลว้ พน้ ทกุ ขไ์ ปเอง และการปลอ่ ยใหก้ ิเลสพอตวั แลว้ สลดั ปัดทงิ้

20

คน ปลอ่ ยคนใหเ้ ป็นอสิ ระ เหมือนเขาปลอ่ ยนกั โทษออกจาก
เรอื นจาํ น่ีไมม่ หี วงั

(ถอดเสียงธรรมโดย www.luangta.com)
ท่ีมา: https://youtu.be/5w5HIeZo--Q

21


Click to View FlipBook Version