The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หัดตาย โดย หลวงตามหาบัว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-09 20:31:40

หัดตาย โดย หลวงตามหาบัว

หัดตาย โดย หลวงตามหาบัว

Keywords: หัดตาย,หลวงตามหาบัว

หดั ตาย
หลวงตามหาบวั ญาณสมั ปันโน
เทศนโ์ ปรดคณุ เพาพงา วรรธนะกลุ ณ วดั ป่ าบา้ นตาด

(๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๘)
การปฏบิ ตั ถิ ึงคราวเดด็ มนั ตอ้ งเดด็ ถึงคราวเฉียบขาดตอ้ ง
เฉียบขาด มนั เป็นไปตามจงั หวะหรอื ตามเหตกุ ารณท์ ่เี ก่ียวขอ้ ง
กบั จิตน่ีเองแหละ ถงึ คราวจะอนโุ ลมก็ตอ้ งอนโุ ลม ถึงคราวจะ
ผ่อนสนั้ ผ่อนยาวไปตามเหตตุ ามกาลตามธาตตุ ามขนั ธก์ ็มี ถงึ
คราวหมนุ ตวิ้ ไปตามอรรถตามธรรมโดยถ่ายเดียวกม็ ี
เวลาจาํ เป็น ใจซง่ึ ควรจะเดด็ เด่ยี วตอ้ งเดด็ เด่ียวจนเหน็ ดาํ
เห็นแดงกนั อะไรๆ จะสลายไปท่ีไหนก็ไปเถอะ แตจ่ ิตกบั ธรรมจะ
สลายจากกนั ไม่ได้ การปฏิบตั ิเป็นอย่างนนั้ เราจะเอาแบบเดียว
มาใชน้ นั้ ไมไ่ ด้ เพราะธรรมไม่ใชแ่ บบเดยี ว กิเลสไม่ใชป่ ระเภท
เดียวแบบเดยี ว ประเภทท่ีควรจะลงกนั อยา่ งหนกั ก็มี ประเภทท่ี
ควรจะผอ่ นผนั สนั้ ยาวไปตามบา้ งก็มีตามกาลตามสมยั หรอื
เก่ียวกบั เร่อื งธาตเุ รอ่ื งขนั ธก์ าํ ลงั วงั ชาของตวั ก็มี ถงึ คราวจะ

1

ทมุ่ เทหมดไมม่ ีอะไรเหลือเลยก็มี เม่ือถงึ คราวเชน่ นนั้ อะไรจะ
เหลอื อยไู่ ม่ได้ มนั หากบอกในจิตเอง รูอ้ ยกู่ บั จิตเอง “เอา้ ? ท่มุ
ลงไปใหห้ มด กาํ ลงั วงั ชามีเท่าไรท่มุ ลงไปใหห้ มดอยา่ สงวนไว้
กระท่งั จิตตวั คงทนไม่แปรไมแ่ ตกสลายเหมอื นส่งิ อ่นื ๆ ก็ไม่สงวน
หวงแหนไวใ้ นขณะนนั้ ”

“เอา้ ! จติ จะดบั ไปดว้ ยการพจิ ารณาในสง่ิ ทงั้ หลายท่ีเหน็ วา่
ดบั ไป ๆ ก็ใหร้ ูว้ า่ จติ นีม้ นั ดบั ไป จะไม่มีอะไรเหลือเป็น “ความรู”้
อย่ใู นรา่ งกายเรานี้ ก็ใหร้ ูด้ ว้ ยการปฏบิ ตั ธิ รรมนีเ้ ทา่ นนั้ ไมม่ ีส่งิ
อ่นื ใดมาเป็นแบบฉบบั ”

ถงึ คราวท่ีจิตมนั จะลา้ ง ลา้ งโลกออกจากใจน่ีนะ โลกคอื
กิเลสน่นั แล จะรงั้ รองอมืองอเทา้ อยไู่ มไ่ ด้ ตอ้ งสจู้ นหวั ใจขาดดนิ้
ไมม่ ีคาํ วา่ “ถอย” สมมตุ ทิ งั้ ปวงท่ีมนั แทรกอยภู่ ายในจติ ใจรวม
เป็นกองสงู เทา่ ภเู ขานีก้ ็ตาม ตอ้ งสจู้ นตายหรอื ชนะแลว้ หลดุ พน้
อย่างเดยี ว! เพราะเป็น “สงครามลา้ งโลก” ถึงคราวท่ีจะลา้ งให้
หมด ตอ้ งสตู้ ายขนาดนนั้ ลา้ งจนจติ ไมม่ ีอะไรเหลอื อย่เู ลย

2

“เอา้ ใหม้ นั หมดไปดว้ ยกนั เสยี กิเลสมนั ก็ดบั ไป ๆ จิตท่ีรูน้ ี้
จะดบั ไดด้ ว้ ยเพราะถกู ทาํ ลายดว้ ยสตปิ ัญญาก็ใหม้ นั รูม้ นั เหน็ ซิ
ไม่ตอ้ งเสยี ดาย ! เพราะเราหาความจรงิ ใจจะดบั ลงไปดว้ ยก็ใหร้ ู้
วา่ เป็นความจรงิ อนั หนง่ึ ” ถา้ กิเลสดบั ไปใจก็ดบั ไปดว้ ย ไม่มี
ความรูใ้ ดๆ เหลืออยู่ เหลือแตร่ า่ งกายเป็นหวั ตอเพราะไม่มีใจ
ครอง ก็ใหม้ นั รูก้ นั ในขณะปฏิบตั ินีแ้ ลดีกวา่ กาลอ่นื ใด”

“ท่ีพระพทุ ธเจา้ ตรสั รูแ้ ลว้ ธรรมชาตทิ ่ีบรสิ ทุ ธิ์ทาํ ไมยงั
เหลอื อยใู่ นโลก สาวกอรหตั อรหนั ตท์ า่ นบาํ เพ็ญไดบ้ รรลธุ รรม
อะไรๆ ขนึ้ ช่ือวา่ กิเลสดบั สญู ไปหมดภายในจติ ใจ แตท่ าํ ไมใจท่ี
บรสิ ทุ ธิ์จงึ ไม่ดบั แลว้ เหตใุ ดพวกเราถงึ จะมาดบั ทงั้ จติ ดว้ ยจนหา
ความบรสิ ทุ ธิ์ไม่เจอเลย! ถา้ มนั จะแหวกแนวจากหลกั ธรรมของ
พระพทุ ธเจา้ จรงิ ๆ ก็ใหม้ นั รูใ้ หม้ นั เหน็ แตถ่ า้ จะไมแ่ หวก ลงถงึ
กิเลสดบั หมดจรงิ ๆ แลว้ จะไมแ่ หวกแนว ย่งิ จะเห็นของจรงิ อนั
วเิ ศษไดอ้ ยา่ งชดั เจน” อะไรจะหนกั ย่งิ กวา่ การสรู้ บกบั กิเลส และ
อะไรจะทกุ ขย์ ่งิ กวา่ กิเลสทบั จิต เป็นไม่มีในโลกนี!้

3

ความโกรธเป็นกิเลสประเภทหน่งึ ความโลภ ความหลง ก็
เป็นกิเลส แตล่ ะประเภทลว้ นทบั ถมจติ ใจเป็นฟืนเป็นไฟเผาใจ
เราเร่อื ยๆ มาไม่มีเวลาสรา่ งซา ไมม่ ีอะไรจะทกุ ข์ ย่ิงกวา่ นี้ การ
แกค้ วามโกรธดว้ ยอบุ ายตา่ งๆ แกค้ วามโลภ ความหลง ดว้ ย
อบุ ายตา่ งๆ ก็ตอ้ งไดท้ าํ หนกั มือ ยอ่ มเป็นทกุ ขล์ าํ บากเพราะการ
กระทาํ เหมือนกนั กิเลสทบั ถมเราใหเ้ ป็นทกุ ขแ์ ตไ่ มเ่ กิดประโยชน์
อะไร เวลาเราสกู้ บั กิเลสยอ่ มเป็นทกุ ข์ แตไ่ ดร้ บั ผลประโยชนต์ าม
กาํ ลงั ของความเพียร คอื กิเลสสลายตวั ลงไปเป็นลาํ ดบั จนกิเลส
ไม่มีเหลือเลย น่นั คือผลซง่ึ เกิดจากการทาํ ดว้ ยความเป็นทกุ ข์
การสกู้ บั กิเลสดว้ ยความเป็นทกุ ข์ หรอื เราเป็นทกุ ขเ์ พราะการสู้
กบั กิเลส ผลปรากฏขนึ้ มาเป็นความสขุ อยา่ งไม่คาดไมฝ่ ัน ตอ้ ง
เทียบเคียงเหตผุ ลอยา่ งนนั้ เพ่ือหาทางรอดพน้ จากบว่ งแห่งมาร
ตวั มีเลห่ เ์ หล่ยี มรอ้ ยสนั พนั คม และทาํ สตั วใ์ หล้ ม่ จมอยใู่ ตฝ้ ่าเทา้
ของมนั อยา่ งเกล่อื นกลน่ ลน้ โลกเร่อื ยมา ยากจะมีผเู้ ลด็ ลอดไป
ได้

4

ปกตจิ ติ ใจเสาะแสวงหาเหตกุ ่อกวนตนอยเู่ สมอไม่วา่ จติ ของ
ใคร เร่อื งของกิเลสเคยเป็นอย่างนนั้ เรอ่ื ยมา ไม่เคยเปลย่ี นแปลง
แผนการมาทางดีตอ่ มนษุ ยแ์ ละสตั วท์ ่วั โลกเลย

เร่อื งของสติปัญญาก็ตอ้ งตามสอดสอ่ ง อนั ไหนท่ีเห็นวา่ เป็น
ภยั ตอ้ งไดร้ ะงบั และตอ้ งฝืนกนั ถา้ ไมฝ่ ืนไม่เรยี กวา่ “ตอ่ สเู้ พ่ือ
ปอ้ งกนั ตวั ” หรอื เอาตวั รอดเพ่ือแกค้ วามทกุ ขท์ ่ีกิเลสเป็นตน้ เหตุ
สรา้ งขนึ้ นนั้ ออกจากใจ แมล้ าํ บากก็ตอ้ งสู้ ขืนคดิ ไปมากพดู บน่
ไปมากก็ย่งิ ปลอ่ ยไฟใหเ้ ผาเรามากขนึ้ ในดวงใจ หาความสขุ
ไม่ไดเ้ ลย

อบุ ายวธิ ีแกเ้ จา้ ของแกอ้ ยา่ งนี้ ปกตขิ องจิตถา้ เราเสรมิ เทา่ ไร
คลอ้ ยไปตามเท่าไร มนั ยง่ิ จะปรุงแตเ่ รอ่ื งท่ีจะเกิดความ
เดอื ดรอ้ นวนุ่ วายแกต่ นเร่อื ยๆ น่งั อย่กู ็เป็นทกุ ข์ นอนอยกู่ เ็ ป็น
ทกุ ข์ อยทู่ ่ีไหนก็มีแตก่ องทกุ ขห์ าความสขุ ไม่ได้ จิตเป็นไฟทงั้ กอง
จากความคิดปรุงตา่ งๆ เพราะฉะนนั้ การแกจ้ งึ แกล้ งท่ีจิตนี้

การระงบั การแกก้ ิเลสตา่ งๆ ดว้ ยอบุ ายปัญญา ถงึ จะหนกั
บา้ งเบาบา้ งทกุ ขบ์ า้ งลาํ บากบา้ งยงั พอสู้ เพ่ือจิตไดพ้ น้ จากภยั

5

คือความทกุ ขค์ วามเดอื ดรอ้ นจากกิเลสกอ่ ไฟเผาดว้ ยความคิด
ปรุงและความสาํ คญั ม่นั หมายตา่ งๆ เราตอ้ งยอมรบั ความทกุ ขท์ ่ี
จะเกิดขนึ้ จากการตอ่ สนู้ นั้ ๆ จะช่ือวา่ “เป็นผรู้ กั ตน” ไมป่ ลอ่ ย
อะไรใหเ้ ขา้ มาเผาลน ราวกบั ใจไม่มีเจา้ ของรบั ผิดชอบ ท่ีปลอ่ ย
ใจใหเ้ รา่ รอ้ นหากาํ หนดกฎเกณฑไ์ ม่ไดว้ นั ยงั ค่าํ คนื ยงั รุง่ แลว้ แต่
จะเป็นอยา่ งไรตามบญุ ตามกรรมนนั้ มนั กเ็ จอแตเ่ รอ่ื ง “ตามบญุ
ตามกรรม” เรอ่ื งยถากรรมไปเรอ่ื ย ๆ หาสาระภายในใจเลยไมม่ ี
สดุ ทา้ ยก็หาความหมายในตวั ไม่มี!

การแกต้ วั เองนนั้ เพ่ือหาสารคณุ เพ่ือหาความจรงิ เพ่ือพบ
ความมงุ่ หมายอนั สาํ คญั ภายในใจ เพราะเราทงั้ คนมี
ความหมายเตม็ ตวั จะปลอ่ ยใหส้ ง่ิ ท่ีจะมาทาํ ลายความหมายมา
ทาํ ลายสารคณุ ภายในจิตใจ โดยไมม่ ีการตา้ นทานไม่มีการแก้
ไม่มีการตอ่ สกู้ นั เลยนนั้ ไมส่ มควรอยา่ งย่ิง ถา้ เราแพว้ นั นีว้ นั หลงั
เราก็แพอ้ กี เพราะเราไม่สศู้ ตั รูนนั้ ถา้ เราไม่สแู้ ลว้ เขาไม่ถอยเป็น
อนั ขาด เพราะไดท้ ่าไดท้ ีแลว้ ย่งิ จะเหยียบย่าํ ทาํ ลายหนกั มือเขา้
ไปโดยลาํ ดบั

6

ถา้ เรามีทางตอ่ สมู้ ีทางแกก้ นั บา้ ง สง่ิ นนั้ ก็เบาลง อะไรท่ี
เกิดขนึ้ คิดขนึ้ เห็นวา่ เป็นของไมด่ ีรบี แกม้ นั ไม่นอนใจ สง่ิ นนั้ ก็ไม่
มีทางกาํ เรบิ ตอ่ ไป เพราะมีสงิ่ ระงบั มีสงิ่ ดบั กนั อย่เู สมอ

ภยั ของจิตใจก็คอื กิเลสนนั้ แล ความโลภ ความโกรธ ความ
หลง ความรกั ความชงั นนั้ เป็นภยั เราใหร้ ูม้ นั เราแกม้ นั แมจ้ ะยงั
พน้ ไปไม่ไดก้ ็ตาม การมีสง่ิ แกก้ นั นนั้ ก็พอสกู้ นั ไปได้ ถา้ มแี ตพ่ ษิ
อย่างเดยี วไมม่ ียาแกเ้ ลยนนั้ มนั ก็แย่ การส่งั สมแตพ่ ิษภยั ขนึ้
ภายในจติ อบุ ายแกไ้ ขไม่มีเลยมนั แย่จรงิ ๆ แมจ้ ะบน่ ตาํ หนิตน
มากนอ้ ยก็ไมเ่ กิดประโยชน์ มนั ตอ้ งแก!้

เราเป็นคนทงั้ คน จิตทงั้ ดวงมีสาระเต็มดวง จะปลอ่ ยให้
กิเลสเหยียบย่าํ ทาํ ลายโดยไม่มีการแกไ้ ขการตอ่ สกู้ นั เลยนนั้ ไม่
สมควรกบั เราซง่ึ เป็นเจา้ ของจติ ใจ ตอ้ งคดิ อย่างนีเ้ สมอ และเรง่
เคร่อื งเขา้ เผชญิ หนา้ ทา้ ทายกบั กิเลสทกุ ประเภทวา่ “มาเถิด
กิเลสตวั ใดท่ียงั ไมเ่ คยตาย จะไดท้ ราบความตายเสยี ในวนั นี้
เด๋ยี วนี้ เรากาํ ลงั รอเขียนใบตายใหอ้ ย่แู ลว้ เวลานี้ กิเลสตวั ใดไม่
เคยมีใบตายตดิ มือ ใหโ้ ผลต่ วั ออกมารบั มอื กบั เรา” น่ี วธิ ีปลกุ ใจ

7

ใหม้ ีความอาจหาญชาญชยั เพราะใจไม่ผดิ อะไรกบั ชา้ งมา้ ตวั
พาเขา้ สสู่ งครามในครงั้ กอ่ นๆ โนน้ พอไดร้ บั การปลกุ ใจจาก
เจา้ ของผฉู้ ลาดเทา่ นนั้ ชา้ ง มา้ จะเกิดความฮกึ เหมิ ผาดโผนโลด
เตน้ ขนึ้ ทนั ที แลว้ พาเจา้ ของว่งิ เขา้ สแู่ นวรบไมก่ ลวั ตาย

แตก่ ารฝึกจิตน่ีสาํ คญั มาก เพราะจติ เราไมเ่ คยฝึก เคยแต่
ปลอ่ ยไปตามยถากรรมตงั้ แตไ่ หนแตไ่ รมา หรอื ตงั้ แตว่ นั เกิด จะ
มาหกั หา้ มเอาใหไ้ ดอ้ ยา่ งใจในวนั หนง่ึ ขณะเดยี วนนั้ มนั เป็นไป
ไมไ่ ด้ การเรม่ิ ฝึกก็คือเรม่ิ หกั หา้ มจติ ใจ ไดบ้ า้ งเสยี บา้ ง เพราะถือ
วา่ เป็นขนั้ เรม่ิ แรก ท่ีเรายงั ไมส่ ามารถอนโุ ลมปลอ่ ยไปกอ่ นก็มี
เม่ือมนั หนกั เขา้ จรงิ ๆ เราก็ตอ้ งอนโุ ลมไปกอ่ น แตห่ าทางแกไ้ ข
หกั หา้ มมนั อยเู่ สมอภายในใจเพราะกาํ ลงั เรายงั ไมพ่ อ ถา้ ไม่
ปลอ่ ยบา้ งจะไปสเู้ ขาไดอ้ ยา่ งไร ก็ตอ้ งยอมปลอ่ ยไปกอ่ น โดยทาํ
ความเขา้ ใจไว้ แลว้ คอ่ ยขยบั ความเพียรเขา้ ไปเรอ่ื ยๆ เรง่ ไป
เรอ่ื ยๆ ดว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ

เอา้ ทกุ ขบ์ า้ งทนเอาบา้ งจะเป็นไรไป เพราะเราเคยทน ทาํ ไม
โลกนีเ้ กิดขนึ้ มาใครก็ไมเ่ คยคิดทนเรอ่ื งทกุ ข์ แตม่ นั จาํ เป็น เขา

8

ทนไดเ้ รากท็ นได้ แตเ่ วลาเราจะทนบา้ งเก่ียวกบั การฝึกจติ ท่ีไดร้ บั
ความทกุ ขต์ า่ งๆ นนั้ ทาํ ไมจะทนไม่ได้ ส่งิ ท่ีควรทนและพอจะทน
ไดเ้ ราก็ตอ้ งทน โลกนีไ้ มใ่ ชโ่ ลกสขุ ลว้ นๆ มนั มีทกุ ขเ์ จือปนอยู่
ดว้ ยกนั ทกุ คนและไมว่ า่ งานใด มนั มีทกุ ขเ์ จือปนอยดู่ ว้ ยกนั
ทงั้ นนั้ ขนึ้ ช่ือวา่ การทาํ งานแลว้ งานทางโลกก็ตอ้ งมที กุ ขเ์ พราะ
การทาํ งาน งานทางธรรมก็ตอ้ งมีทกุ ขเ์ พราะการทาํ งาน ใหอ้ ยู่
เฉยๆ จะไมใ่ หม้ ีทกุ ข์ ทงั้ ๆท่ีเราตอ้ งทาํ งานอยมู่ นั เป็นไปไม่ได้
ตอ้ งมีทกุ ข์ เราก็ยอมรบั เพราะการทาํ งาน แตท่ กุ ขเ์ พราะการ
ทาํ งานทางดา้ นกศุ ลนีม้ นั เกดิ ผล ไมใ่ ชเ่ ป็นทกุ ขเ์ ฉยๆ โรคเกิดขนึ้
ภายในกายเรา เป็นความทกุ ขค์ วามลาํ บากและไม่เกิดผลดีอะไร
เรายงั ตอ้ งอดทนตอ่ มนั ถา้ เราไมพ่ จิ ารณาใหเ้ กิดผลดี ถา้ เรา
พิจารณาใหเ้ กิดผลดว้ ยอบุ ายวิธีตา่ งๆ ของสตปิ ัญญา ทกุ ขก์ ็เป็น
เครอ่ื งหนนุ ปัญญาใหแ้ หลมคมได้ และเกิดผลเป็นความสงบ
เป็นความรูเ้ ทา่ ทนั กนั ปลอ่ ยความกงั วลได้ เพราะทราบความ
จรงิ ดว้ ยการพจิ ารณา น่ีก็เป็นผลดี จะทาํ ใหเ้ กิดผลดผี ลช่วั มนั
เกิดไดท้ งั้ นนั้

9

ท่ีวา่ จะทาํ อะไรลงไปก็กลวั จะลาํ บาก กลวั จะทกุ ข์ หาแต่
เร่อื งยงุ่ เหยงิ วนุ่ วายใสต่ วั นี้ มนั เคยมเี คยเป็นมาแลว้ ขออย่าให้
มนั มารบกวนเรามากมายนกั เลย ไมว่ า่ อะไรถา้ เป็นของดแี ลว้
มกั จะมีอะไรมาตา้ นทานมาขดั ขวางไม่อยากจะใหท้ าํ น่คี ือ
อบุ ายของกิเลสท่ีเคยอยเู่ หนือหวั ใจเรามานาน จงทราบไวเ้ สีย
บา้ งวา่ นีค้ ือเรอ่ื งของฝ่ายต่าํ มาเหยียบย่าํ ทาํ ลายเรา และอยู่
เหนือจติ ใจเราตอ่ ไปไม่ยอมลง ควรจะผลกั มนั ออกไปก็ใหผ้ ลกั
ไปบา้ ง ควรจะตอ่ สดู้ ว้ ยวธิ ีใดก็ตอ่ สบู้ า้ ง หรอื จะตอ่ สจู้ นเวทีพงั
กิเลสพงั ก็จะเป็นไรไป ขอแตอ่ ยา่ ใหเ้ ราพงั ก็แลว้ กนั คาํ วา่ “เรา
พงั ” นีไ้ มอ่ ยากไดย้ นิ เลย

เอา้ แพบ้ า้ งชนะบา้ งไม่เป็นไร! ยงั มีการตอ่ สู้ แสดงวา่ ยงั ไม่
ตายใจกบั เขาทีเดยี ว ตอ้ งฝืนกนั บา้ งอย่างนี้ ฝืนไปฝืนมาความ
ฝืนก็คอ่ ยมี “วนั เคยชนิ ” ขนึ้ มา อบุ ายท่ีจะสนบั สนนุ การฝืนก็มี
ขนึ้ มา ตอ่ ไปกท็ นั กนั ไปเอง อยา่ ลมื คาํ วา่ “พุทธฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ”
ท่ีเคยแสดงแลว้ วา่ พระองคเ์ ป็นนกั รบ นกั ปราบขา้ ศกึ องคเ์ อก จง

10

ยดึ ทา่ นเป็นขวญั ใจเวลาเขา้ สแู่ นวรบหรอื เวลาปกติ ไม่มอี ะไร
ขวาง นอกจากเป็นสิรมิ งคลอย่างเดยี ว

พระพทุ ธเจา้ ไม่เป็นผลู้ า้ งมือคอยเปิบ ทา่ นถงึ ขนั้ สลบไสล
นนั้ นะ! คนไมท่ กุ ขม์ ากจะสลบไสลหรอื ทา่ นมีความลาํ บากลาํ
บนแคไ่ หน การทาํ งานเป็นอยา่ งนนั้ เป็นคติตวั อยา่ งไดท้ กุ พระ
อาการท่ีแสดงออกมา เราในฐานะพทุ ธบรษิ ัทไมไ่ ดเ้ หมือน
พระพทุ ธเจา้ ทกุ กระเบียดนิว้ ก็ตาม ไดแ้ บบศิษยม์ ีครูก็ยงั ดี ถือ
ทา่ นเป็นคตติ วั อย่างทงั้ การบาํ เพ็ญทงั้ การยดึ ถือ ฝากเป็นฝาก
ตายในองค์ “พทุ ธะ” หรอื พระพทุ ธเจา้ ผบู้ รสิ ทุ ธิ์ ไมใ่ ชเ่ อากิเลส
เป็นครูทา่ เดียว จะทาํ ความเพียรเม่ือไรท่าใด ถกู แตท่ า่ กิเลสดดั
เอา ๆ ฟังเสยี งแพว้ า่ “ยอมแลว้ ๆ” กระเทือนไปท่วั จกั รวาล เสยี ง
ชา้ งสารก็ไม่ดงั เทา่ เสยี งนกั รบยอมแพก้ ิเลส น่ีมนั นา่ โมโหจะตาย
ไป!

คนเราถา้ เหน็ กิเลสเป็นภยั บา้ งแลว้ ผนู้ นั้ ยงั มีทางจะแกไ้ ข
และผ่านพน้ ไปได้ ถา้ เหน็ กิเลสกบั เราเป็นอนั เดยี วกนั หรอื เหน็ วา่
ไมเ่ ป็นเรอ่ื งของกิเลส แตเ่ ป็นเรอ่ื งของเราหมด ก็หาทางแกก้ นั

11

ไมไ่ ด้ เพราะจะกระเทือนคาํ วา่ “เรา” ดีไมด่ ีถกู กลอ่ มใหห้ ลบั สนิท
ไมม่ ีวนั รูส้ กึ ตวั ไดเ้ ลย แบบนีค้ ือแบบ “จม”

ถา้ สงิ่ ท่ีเป็นขา้ ศกึ ตอ่ เรา สงิ่ ท่ใี หค้ วามทกุ ขค์ วามลาํ บากแก่
เรานนั้ เราเหน็ วา่ เป็นกิเลส เรากบั กิเลสก็ถือวา่ เป็นขา้ ศกึ กนั และ
ตอ้ งตอ่ สกู้ นั ถา้ มีการตอ่ สกู้ นั ก็แสดงวา่ เป็นคนละคน ไมใ่ ชเ่ ป็น
อนั เดียวกนั เสยี จนหมดเนือ้ หมดตวั ยงั พอมีสติบา้ ง ความเป็นผู้
มีสติบา้ งนีแ้ หละ เป็นเหตใุ หต้ อ่ สคู้ วามคดิ ในแง่ตา่ งๆ ท่ีเหน็ วา่
ไมเ่ ป็นประโยชนห์ รอื เป็นโทษแกเ่ รา พยายามฝ่าฝืนและแกไ้ ข
ดว้ ยปัญญาจนเรอ่ื งนนั้ ผา่ นไป และพยายามแกไ้ ขใหผ้ ่านไปดว้ ย
อบุ ายสติปัญญาเรอ่ื ยๆ ตอ่ ไปใจก็ราบร่นื ไมฝ่ ืนมากเหมอื นขนั้
เรม่ิ แรกฝึก แมท้ กุ ขก์ ็ยอมรบั การทาํ งานตอ้ งทกุ ข์ ทกุ ขเ์ พราะผล
อนั ดไี มเ่ ป็นไร ขณะท่ีเราสู้ สไู้ ดข้ นาดไหนกส็ กู้ นั ไป ทาํ กนั ไป ฝ่า
ฝืนกนั ไปดว้ ยความเหน็ ทกุ ข์ น่ีเป็นทางเดินของนกั ปราชญท์ ่าน
เคยตะเกียกตะกายมาแลว้ ก่อนท่ที า่ นจะหลดุ พน้ ลว้ นแต่
ตะเกียกตะกายมาดว้ ยกนั ทงั้ นนั้ จะมาลา้ งมือเปิบเอาเฉพาะเรา

12

คนเดยี วซง่ึ เป็นลกู ศิษยข์ องตถาคต แตก่ ลบั แหวกแนวยง่ิ กวา่ ครู
มีอย่างหรอื !

ครูมีความทกุ ข์ ลกู ศษิ ยก์ ็ตอ้ งมีความทกุ ขบ์ า้ ง เพราะเดิน
ตามครู รอ่ งรอยท่านเดนิ อย่างนนั้ เราจะหนีจากรอ่ งรอยทา่ นไป
ไหน ก็ตอ้ งยอมรบั ทกุ ขซ์ ง่ึ เกิดจากการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของตนโดย
ชอบธรรม ทกุ ขเ์ พราะการบาํ เพญ็ ไม่สาํ คญั เทา่ ใดนกั แตท่ กุ ข์
เวลาจะตายน่ซี ิใครจะชว่ ยเราได้ ! ทกุ ขเ์ วลาทาํ งาน ถา้ มนั ทกุ ข์
มากๆ เรายงั พกั ผ่อนการงานได้ ทกุ ขก์ ็ระงบั ไป ถา้ จะสไู้ ม่ไหว
เพราะความทกุ ขน์ ีห้ นกั มากเกินไป เราผ่อนงานลงบา้ งความ
ทกุ ขก์ ็ผอ่ นลง เราหยดุ งานความทกุ ขก์ ็ดบั ไป เช่น เราน่งั ภาวนา
นานมนั เป็นทกุ ขม์ าก เราหยดุ เสยี ก่อนพกั นีท้ กุ ขก์ ็ดบั ไป ก็พอ
ระงบั กนั ไปได้

แตท่ กุ ขเ์ วลาจะตายนนั้ นะ่ มนั ระงบั ไม่ได!้ นอนอยมู่ นั ก็ทกุ ข์
ทกุ ขห์ มดทงั้ ตวั ในขณะนอน ลกุ ขนึ้ น่งั มนั จะหายไหม ก็ไม่หาย
เดินจะหายไหม ก็ไมห่ าย อาการใดก็ไม่หายทงั้ นนั้ อิรยิ าบถทงั้ ส่ี
เอามาตอ่ สู้ หรอื เอามาใชก้ บั ความทกุ ขใ์ นขณะท่ีจะตายนนั้ ไม่

13

ไดผ้ ลทงั้ นนั้ เราเอาอนั นีม้ าเทียบบา้ งซิ เวลาน่งั นานยืนนานเดิน
นาน หรอื ตอ่ สกู้ บั เวทนาขณะท่ีมนั เจ็บมากปวดมากขนึ้ ตอนท่ี
เราน่งั ภาวนานาน ทกุ ขเวทนาท่ีเกิดขนึ้ ในขณะท่ีเราพจิ ารณานี้
จะเกิดขนึ้ มากนอ้ ย ถา้ สไู้ มไ่ หวเราถอยได้ น่ีอนั หนง่ึ เป็นขอ้
ลดหยอ่ นผ่อนผนั ไปตามความจาํ เป็น แตอ่ ยา่ ถือเป็นความ
จาํ เป็นจนกเิ ลสไดใ้ จ ถึงกบั น่งั ภาวนาไมไ่ ด้ เดินจงกรมไม่ได้ ให้
ทาน รกั ษาศลี ไม่ได้ ตอ้ งมีทา่ ตอ่ สอู้ ยเู่ สมอ

ในขณะท่ีเราจะตาย ทกุ ขเวทนามนั เผาเราหมดทงั้ ตวั เพราะ
ถอยไม่ได้ ถอยไปอริ ยิ าบถใดก็เป็นไฟไปดว้ ยกนั ทกุ ขอ์ นั ไหนจะ
มีนา้ํ หนกั มากกวา่ กนั เอาสองขอ้ นีม้ าเทยี บกนั ดู กอ่ นตายเรายงั
ตอ้ งทนทกุ ขอ์ ยู่ ขนาดท่ีสไู้ มไ่ หวยงั ตอ้ งทนจนกระท่งั ตาย การ
ภาวนานานบา้ งนีย้ งั พอสไู้ หวน่ี พอถอยได้ ทาํ ไมเราจะทาํ ไม่ได้
คิดดเู รามาเทียบกนั ดู ความขยนั ความบกึ บนึ ความมีแกใ่ จ
ความอาจหาญยอ่ มเกิดขนึ้ ไดด้ ว้ ยอบุ ายปัญญาแง่หนง่ึ เวลาจติ
มนั ถอยมนั ทอ้ ตอ้ งเอาอบุ ายปัญญานีม้ าใช้ เพ่ือเป็นกาํ ลงั ใจ

14

หนนุ ขนึ้ มาใหเ้ กิดความกลา้ หาญไมส่ ะทกสะทา้ น ตอ่ สกู้ นั ไดช้ ยั
ชนะไปโดยลาํ ดบั ๆ ในขณะนนั้ ก็มีดว้ ย

อบุ ายปัญญา คดิ ดใู หด้ ี ใหท้ นั กลมายาของกิเลส เวลาจะ
ตายมนั เป็นอยา่ งนนั้ ดว้ ยกนั ทกุ คนไมม่ ีใครมีขอ้ ยกเวน้ !

อริ ยิ าบถทงั้ ส่ี จะเอาไปใชป้ ระโยชนใ์ นการผอ่ นคลาย
ทกุ ขเวทนาซง่ึ แสดงขนึ้ ในเวลาจะตายนนั้ ไมไ่ ดผ้ ลเลย มีแตจ่ ะ
“แตก” ทา่ เดยี ว มีแตท่ กุ ขท์ า่ เดียว กระท่งั แตกไป ขณะท่ีเราจะสู้
กบั ทกุ ขเ์ พ่ือการทาํ ความดี ทาํ ไมจะสกู้ นั ไมไ่ ด้ ก็มนั ยงั ไม่แตกน่ี
มนั ทกุ ขข์ นึ้ มาจรงิ ๆ เราถอยได้ น่ีก็ยงั พอฟัดพอเหว่ยี งกนั ไปดว้ ย
อบุ ายปัญญา เวลาจะเอาจรงิ “เอา้ ขณะท่ีมนั จะตาย อะไรจะ
ตายก็ตายไปเถอะ เรอ่ื งสตปิ ัญญาถงึ ขนั้ แหลมคมเตม็ ท่ีแลว้
ภายในใจ จะรกั ษาดวงใจนีไ้ ดอ้ ย่างสมบรู ณ์ ไมม่ ีทกุ ขเวทนาตวั
ใดท่ีจะเขา้ มาเหยียบย่าํ ทาํ ลายจติ ใจนีใ้ หเ้ สยี ไปได้ น่ีเรยี กวา่
“แนใ่ จเต็มท่ี !”

ทกุ ขเ์ กิดขนึ้ ทกุ ขน์ นั้ ก็ดบั ไป ไม่มีอะไรดบั นอกจากทกุ ขท์ ่ี
เกิดขนึ้ แลว้ ดบั ไปเท่านนั้ มีทกุ ขเวทนาท่ีเกดิ ขนึ้ ภายในกาย มี

15

กายท่ีเป็นตวั เกิดนีเ้ ทา่ นนั้ เป็นทกุ ข์ เป็นผจู้ ะดบั จะสลาย ไมม่ ีอนั
ใดดบั อนั ใดสลาย นอกจากสิ่งนี้ สิ่งท่ีผสมกนั นีส้ ลายเทา่ นนั้

สว่ นจิตไมม่ ีอะไรผสม นอกจากกิเลสเทา่ นนั้ ท่ีมาผสมจติ
กิเลสเป็นสง่ิ ท่ดี บั ไปได้ แตจ่ ิตลว้ นๆ ดบั ไมไ่ ด้ ไม่มีดบั จิตจะดบั
ไปไหน อะไรจะสลายก็สลายไปจะเสียดายมนั ทาํ ไม ความ
เสยี ดายเป็นความเย่ือใย เป็นเรอ่ื งกดถว่ งจิตใจ ความเสยี ดาย
นนั้ คอื ความฝืนคติธรรมดาแหง่ หลกั ธรรมท่ีทา่ นสอนไว้ และเป็น
ขา้ ศกึ และผอู้ าลยั เสียดายอกี ดว้ ย

เอา้ ทกุ ขเ์ กิดขนึ้ มากนอ้ ยก็เป็นเรอ่ื งของทกุ ข์ ทกุ ขจ์ ะดบั ไป
ก็เป็นเร่อื งของทกุ ข์ เราเป็นผรู้ ู้ รูท้ งั้ ท่ีทกุ ขเ์ กิดขนึ้ ทงั้ ทกุ ขต์ งั้ อยู่
ทงั้ ทกุ ขด์ บั ไป ธรรมชาตนิ ีเ้ ป็น “ผรู้ ู”้ ไมใ่ ช่ผเู้ กิดผดู้ บั จะกลวั
ความเกิดความดบั กลวั ความลม่ ความจมในจิตอยา่ งไรกนั มนั
จะลม่ จมไปไหน พิจารณาอย่างนีเ้ พ่ือจะฟื้นฟจู ติ ใจขนึ้ มาจาก
ตมจากโคลน เพ่ือใหใ้ จไดเ้ หน็ ชดั รูช้ ดั ตามความจรงิ จติ ใจจะลม่
จมไปไหนถงึ กลวั นกั หนาในขณะจะตาย มนั หลอกกนั เฉยๆ น่ี!

16

ตามความเขา้ ใจของท่านของเรา ถา้ พดู ถงึ วา่ หลอกกนั นะ แตไ่ ม่
มีใครจะมีเจตนาหลอกใครแหละ ตายๆๆน่ีนะ่

โลกเขาสมมตุ กิ นั มาอยา่ งนนั้ นบั กปั กลั ป์ ไมไ่ ดแ้ ลว้ เม่ือ
พิจารณาเขา้ ถงึ ความจรงิ แลว้ “โอ๋ น่ีมนั หลอกกนั ” ความจรงิ ไม่มี
อะไรตาย! ธาตุสี่ ดนิ นา้ํ ลม ไฟ สลายลงไปแลว้ ก็ไปอยตู่ าม
ธาตเุ ดิมของเขา จติ ท่กี ลวั ตายนีย้ ่งิ เดน่ มนั ไมไ่ ดต้ ายน่ี เหน็ ชดั ๆ
อยา่ งนี้ อะไรเป็นสาเหตใุ หจ้ ติ ตายไมม่ ี เหน็ ชดั ๆ อย่วู า่ ไมม่ ี ใจย่งิ
เดน่ ผทู้ ่ีรูท้ ่ีพจิ ารณาสง่ิ ทงั้ หลายนนั้ ยง่ิ เดน่

เราไมห่ วงอะไร จะไปก็ไปเม่อื ถงึ คราวแลว้ ผทู้ ่ีรูก้ ็รูต้ ามเหตุ
ตามผล ไมถ่ อยในเร่อื งรู้ ผทู้ ่สี ลายก็สลายไป ไมอ่ าลยั ไมเ่ สยี ดาย
ไม่หวง หวงทาํ ไม? มนั หนกั ยดึ ไวท้ าํ ไม? สงิ่ เหลา่ นีเ้ ป็นของหนกั
มาก

การรูต้ ามเป็นจรงิ ปลอ่ ยวางตามสภาพของมนั น่นั แลคอื
ความจรงิ ไม่กงั วล ถึงอย่ไู ปอีกมนั ก็จะตายอยา่ งนี้ อยเู่ พ่ือตาย!
อยเู่ พ่ือแตก! เวลานี้ พิจารณาใหเ้ หน็ ความแตกดบั เสยี กอ่ น

17

ตงั้ แตย่ งั ไมแ่ ตก น่ีเป็นสง่ิ ท่ีเหมาะสมอยา่ งย่งิ สาํ หรบั ผมู้ ีปัญญา
น่ีขนั้ สาํ คญั !

ผพู้ ิจารณาเชน่ นีจ้ ะเป็นผไู้ มห่ ว่นั ไหว เหน็ ชดั ตามเป็นจรงิ ท่ี
ช่ือวา่ “เวทนา”นนั้ มนั เป็นอะไร มนั ก็เวทนาน่นั แล มนั เป็นเรา
เม่ือไร มนั เกิดขนึ้ มนั ดบั ไป เราทาํ ไมจะเกิดขนึ้ ดบั ไปอย่วู นั ยงั ค่าํ
คนื ยงั รุง่ เช่นนนั้ ถา้ เวทนาเป็นเรา ถา้ เวทนาเป็นเราแลว้ เอาท่ี
ไหนเป็นท่ีแน่ใจวา่ “เป็นเรา” หรอื สาระอะไรวา่ เป็นเราได้
ทกุ ขเวทนาเกิดขนึ้ ก็วา่ เราเกดิ ขนึ้ ทกุ ขเวทนาดบั ไปก็วา่ เราดบั ไป
มีแตเ่ ราเกิดเราดบั อยวู่ นั ยงั ค่าํ คืนยงั รุง่ หาความแนน่ อนท่ีไหนได!้
ถา้ เราจะไปเอาเรากบั ทกุ ขเวทนามาบวกกนั มนั ไม่ไดเ้ รอ่ื ง
เหลวไหลทงั้ นนั้ เพราะฉะนนั้ เพ่ือความจรงิ เพ่ือความไม่
เหลวไหลตอ้ งใหท้ ราบ ทกุ ขม์ นั เกิดขนึ้ มากนอ้ ย ตอ้ งใหท้ ราบวา่
ทกุ ขเ์ กิดขนึ้ คอื เรอ่ื งของทกุ ข์ มนั ตงั้ อยกู่ ็คอื เร่อื งของทกุ ข์ มนั ดบั
ไปก็คือเร่อื งของทกุ ข์ เราผรู้ ูท้ งั้ ทกุ ขท์ ่เี กิดขนึ้ ตงั้ อยู่ และดบั ไป
เป็นเร่อื งของเรา เป็นเรอ่ื งของความรูน้ ่ี!

18

“สัญญา” จาํ ไดแ้ ลว้ มนั ดบั เราเหน็ ไหม มนั เกิดมนั ดบั อยู่
อยา่ งนนั้ เป็น “เรา”ไดอ้ ย่างไร เอาความแนน่ อนกบั มนั ไดท้ ่ีไหน
ทา่ นจงึ วา่ “ส�ฺญา อนิจฺจา ส�ฺญา อนตตฺ า”

“สังขาร” ปรุงดปี รุงช่วั ปรุงเท่าไรมนั ก็ดบั ไปพรอ้ มกนั ทงั้ นนั้
ถา้ เราจะเอา“เรา” เขา้ ไปสสู่ งั ขาร มนั เกิดดบั วนั ยงั ค่าํ หา
ความสขุ ไม่ไดเ้ ลย

“วญิ ญาณ” มนั กระทบทางตา หู จมกู ลนิ้ กาย ใจ กระทบ
เม่ือไรมนั รู้ ๆ รูแ้ ลว้ ดบั ไปพรอ้ มๆ กนั ทงั้ ขณะท่ีเกิดท่ีดบั มนั ขนึ้ ใน
ขณะเดยี วกนั เราจะเกิดดบั ๆ เกิดดบั อย่อู ยา่ งนนั้ หาความ
แนน่ อนเท่ียงตรงไดอ้ ยา่ งไร

เพราะฉะนนั้ สงิ่ เหลา่ นีจ้ งึ เป็นอาการอนั หน่งึ ๆ เทา่ นนั้ ผทู้ ่ีรู้
สิ่งทงั้ หลายเหลา่ นีแ้ ลคือใจ ความรูเ้ ป็นสง่ิ ท่ีแนน่ อน เป็นส่งิ ท่ี
ตายตวั ขอใหร้ ูส้ ิง่ ภายนอกอนั จอมปลอมทงั้ หลายนี้ วา่ เป็น
สภาพอนั หนง่ึ ๆ เทา่ นนั้ จติ นจี้ ะตงั้ ตวั ไดอ้ ยา่ งตรงแนว่ ไม่
หว่นั ไหว จะเกดิ ขนึ้ ก็ไมห่ ว่นั ไหว จะไมเ่ กิดขนึ้ ก็ไมห่ ว่นั ไหว จะ
ดบั ไปก็ไม่มีอะไรหว่นั ไหว เพราะจิตรูเ้ ร่อื งทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งบรรดา

19

อาการท่ีอาศยั กนั อยู่ และรูท้ งั้ ตวั จรงิ คือธรรมชาตขิ องจิตแทว้ า่
เป็นตวั ของตวั แท้ ดว้ ยความบรสิ ทุ ธิ์ใจ ดว้ ยปัญญาซกั ฟอก
ดว้ ยดแี ลว้ ผนู้ ีเ้ ป็นผแู้ นน่ อน น่ีแหละท่านผแู้ นน่ อน คือทา่ นผรู้ ู้
ธรรมชาตทิ ่ีแนน่ อน และรูถ้ ึงสง่ิ ท่ีเก่ียวขอ้ งทงั้ หลายตามความ
เป็นจรงิ ปลอ่ ยวาง สลดั ปัดทงิ้ ออกตามสว่ นของมนั สว่ นไหนท่ี
จรงิ ใหอ้ ย่ตู ามธรรมชาติแหง่ ความจรงิ ของตน เชน่ จติ เป็นตน้

น่ีหลกั ความจรงิ หรอื หลกั วชิ าท่ีเรยี นมาเพ่ือปอ้ งกนั ตวั เพ่ือ
รกั ษาตวั เพ่ือความพน้ ภยั เปลอื้ งทกุ ขท์ งั้ หลายออกจากตวั น่ีคือ
หลกั วชิ าแท้ เรยี นธรรมเรยี นอย่างนีเ้ รยี นเรอ่ื งของตวั เอง เรยี น
เรอ่ื ง “ความรู”้ ความคดิ ตา่ งๆ เรยี นเรอ่ื งกาย เรอ่ื งเวทนา
สญั ญา สงั ขาร วญิ ญาณ อนั เป็น “อาการ ๕ อยา่ ง” นี้ ซง่ึ เป็นสง่ิ
ท่ีเก่ียวเน่ืองกบั ใจ ถึงกบั เหมาวา่ น่ีเป็นตนเป็นของตน ใหร้ ูต้ าม
ความเป็นจรงิ ของมนั ทกุ อาการ แลว้ ปลอ่ ยวางไวต้ ามสภาพแหง่
อาการของมนั

น่ี เรยี กวา่ “เรยี น” เรยี กวา่ “ปฏิบตั ิ” เรยี กวา่ “รู”้ รูก้ ็ละก็
ถอน!

20

ถา้ รูจ้ รงิ แลว้ ตอ้ งละตอ้ งถอน เม่ือละถอนแลว้ ความหนกั ซง่ึ
เคยกดถว่ งจิตใจท่ีเน่ืองมาจาก “อปุ ทาน” ก็หมดไป ๆ เรยี กวา่
“จิตพน้ จากโทษ” คือความจองจาํ จากความสาํ คญั ม่นั หมายท่ี
เป็นเหตใุ หจ้ องจาํ พน้ อย่างนีแ้ ลท่ีวา่ “จิตหลดุ พน้ ” ไม่ไดเ้ หาะ
เหนิ เดนิ ฟา้ ขนึ้ ไปท่ีไหน พน้ ตรงท่ีมนั ขอ้ งน่นั แหละ ท่ีมนั ถกู จอง
จาํ น่นั แหละ ไมไ่ ดพ้ น้ ท่ีไหน รูท้ ่ีมนั หลงน่ีแหละ สวา่ งท่ีมนั มืด
น่นั เอง น่ีจติ สวา่ ง คือสวา่ งท่ีตรงมืดๆ มืดมนอนธการ มดื อยู่
ภายในตวั เอง

ทีนีเ้ วลาพิจารณาปฏบิ ตั ไิ ป สตปิ ัญญาเกิดขนึ้ ๆ สอ่ งแสง
สวา่ งใหเ้ หน็ ความจรงิ ในสง่ิ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ตน ทราบวา่ เป็นเพียง
สง่ิ ท่ีเก่ียวขอ้ ง สลดั ออกไดโ้ ดยลาํ ดบั ๆ เม่ือความสวา่ งรอบตวั ก็
ปลอ่ ยไดห้ มด

“ธมโฺ ม ปทโี ป” จะหมายถงึ อะไร ถา้ ไมห่ มายถงึ “จิต” ดวง
ท่ีสวา่ งรอบตวั ไมม่ ีอะไรเจือปนเลยจะหมายถงึ อะไร! น่ีเรยี กวา่
“ธรรมแท”้ ธรรมแทท้ ่ีเป็นสมบตั ิของเราหมายถงึ ธรรมนี้ ท่ีเป็น

21

สมบตั ิของเราแท้ ท่เี ป็นสมบตั ขิ องพระพทุ ธเจา้ กท็ ่ีประทานไว้
เป็นตาํ รบั ตาํ รา!

เราเรยี นเทา่ ไรก็มีแตค่ วามจาํ ไม่ใช่เป็นตวั ของตวั แท้ เอา
ความจาํ นนั้ เขา้ มาปฏบิ ตั ใิ หเ้ ป็นความจรงิ จนปรากฏขนึ้ เป็น
“ธมฺโม ปทีโป” เฉพาะภายในใจเรานีเ้ ป็นสมบตั ขิ องเราแท้ นีแ้ ล
คือ “ธรรมสมบตั ”ิ ของผปู้ ฏิบตั ิ

พระพทุ ธเจา้ มีพระประสงคอ์ ยา่ งนที้ ่ีประทานศาสนาไว้ ใหร้ ู้
จรงิ เหน็ จรงิ ตามนี“้ สนทฺ ิฏฺฐิโก” ไม่ทรงผกู ขาด ผปู้ ฏบิ ตั จิ ะพงึ รูเ้ อง
เห็นเอง “ปจจฺ ตตฺ ํ เวทติ พโฺ พ วิ��ฺ หู ”ิ ทา่ นผรู้ ูท้ งั้ หลายจะพงึ รู้
เฉพาะตน คือหมายถงึ รูอ้ ยา่ งนี”้ น่ีเป็นผลของการปฏบิ ตั ิธรรม
เม่ือไดผ้ ลเต็มท่ีแลว้ อย่ไู หนก็อยเู่ ถอะ แสนสบาย หมดกงั วล
โลกจะมีมากมีนอ้ ยเพียงใดมีความวนุ่ วายขนาดไหน ผนู้ ีไ้ ม่วนุ่
เพราะผนู้ ีไ้ ม่เป็นโลก ผนู้ ีไ้ มห่ ลง

เรอ่ื งโลกมนั กวา้ งขวางมาก ไกลจากตวั ของเราออกไป
เฉพาะอยา่ งยง่ิ ท่ีเก่ียวขอ้ งอย่ทู งั้ วนั ทงั้ คืน ก็คือ “ขนั ธห์ า้ ” กบั

22

“จติ ” น่ีแหละ มนั เก่ียวขอ้ งกนั จนจะแยกกนั ไมอ่ อก แตน่ เี้ รายงั
สามารถแยกออกได้ ทาํ ไมเราจะไปหลงวา่ เป็น “โลก” ดว้ ยกนั

น่ีแหละการปฏิบตั ิ ผลเป็นอย่างนี้ เป็นอยา่ งนีแ้ นน่ อนไม่เป็น
อ่นื ขอใหผ้ ลติ ขนึ้ มาพิจารณาขนึ้ มา ปัญญาหงุ ตม้ กินไม่ได้ ใชไ้ ด้
แตแ่ กก้ ิเลส ใชแ้ กค้ วามงมงายของเจา้ ของเทา่ นนั้ ใหพ้ จิ ารณา
เรยี นตรงนีแ้ หละเรยี นธรรม อยา่ ไปเรยี นท่อี ่นื ใหม้ ากมายกา่ ย
กอง เพราะพษิ อย่ตู รงนี้ โทษภยั ก็อยตู่ รงนี้ แกต้ รงนีแ้ ลว้ คณุ คา่
อนั สาํ คญั ก็เกดิ อย่ทู ่ีน่ีเอง!

เอาละ การแสดงธรรมขอยตุ ิ
(ถอดเสียงธรรมโดย www.luangta.com)
ท่ีมา: https://youtu.be/dX4AB1tK2Wc

23


Click to View FlipBook Version