The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พิจารณากายให้จิตสงบ โดย หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-16 19:11:16

พิจารณากายให้จิตสงบ โดย หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ

พิจารณากายให้จิตสงบ โดย หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ

Keywords: พิจารณากายให้จิตสงบ,หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ

พจิ ารณากายใหจ้ ติ สงบ
หลวงป่สู วุ จั น์ สวุ โจ

เตรยี มตวั เหมือนกบั เราเคยปฏิบตั มิ าเป็นประจาํ ทกุ วนั ๆ
วนั นีใ้ หเ้ ราทบทวนท่ีเราไดป้ ฏบิ ตั ิท่ีผ่านมาคราวใดครงั้ ใดหรอื วนั
ไหนจิตใจของเราไดร้ บั ความสงบ มีสติดี มปี ัญญาดี รูส้ กึ วา่ มี
ความสขุ เราพยายามทบทวนท่ีเราปฏิบตั นิ นั้ ถา้ เราคงระลกึ ได้
ถา้ เราคงจาํ ได้ แลว้ ก็เราพยายามตงั้ ใจ ทาํ เหมือนกะเราเคยได้
ความสงบและไดค้ วามสขุ มาแลว้ เราน่งั อย่างนนั้ เราวาง
ตวั อยา่ งนนั้ ตงั้ สติระลกึ อย่างนนั้ เราปลอ่ ยวางอารมณอ์ ยา่ งนนั้
เรากาํ หนดตรงนนั้ เราทาํ ความรูส้ กึ ในจติ ใจของเราอย่างนนั้ ถา้
ยงั ระลกึ ไมไ่ ดก้ ็พยายามทบทวนไม่ตอ้ งรบี รอ้ น

ขอ้ สาํ คญั เม่ือเรามีความรูต้ วั แลว้ ช่ือวา่ เราก็ไม่ไดส้ ง่ จิตไป
ขา้ งนอก อยา่ งนอ้ ยแตร่ ูต้ วั ของเราหมายถงึ กายของเรา รูก้ าย
ของเราท่ีเราน่งั อย่ใู นบดั นี้ อชุ ุกายงั ก็ดกู ายของเราก็ตรง น่งั ให้
ตรง เอาขาขวาทบั ขาซา้ ย มอื ขวาวางบนมือซา้ ย ดกู ายเรยี บรอ้ ย
และน่งั ตรงเรยี บรอ้ ยแลว้ ดพู ระพทุ ธรูปปางสมาธิเป็นตวั อย่าง ดู

1

พระองคน์ ่งั ตงั้ ตวั ตรงทีเดียวไม่เอยี งซา้ ยเอยี งขวาไปขา้ งหนา้ ขา้ ง
หลงั เพราะการตงั้ ตวั ตรงนนั้ มีประโยชนส์ าํ หรบั เม่ือจติ ของเรา
ปลอ่ ยวางสญั ญาอารมณข์ า้ งนอก เม่ือจติ ละเอียดลงไปแลว้
แมแ้ ตก่ ายของเราเราก็ไมไ่ ดย้ ดึ เราก็ไมไ่ ดร้ กั ษา ไมไ่ ดพ้ วั พนั
เก่ียวกบั กายเลย เพราะฉะนนั้ ถา้ เราตงั้ ตรงแลว้ ถงึ จิตใจของเรา
ไม่เก่ียวพนั กบั กาย หรอื เราปลอ่ ยวางกาย แตม่ นั ก็ตงั้ ตรง มนั
ทรงตวั อยไู่ ดเ้ หมือนกบั ภาชนะท่มี นั ตงั้ ตรง มนั กท็ รงตวั ของมนั
อยไู่ ดต้ ามปกตธิ รรมดา ถา้ เรากม้ นกั เวลาจติ ของเรารวมสงบ
ปลอ่ ยวางอารมณห์ รอื สญั ญาความสาํ นกึ ในกายของเราแลว้
กายของเรากก็ ม้ ลงๆบา้ ง เทขา้ งหลงั เอียงไปขา้ งหลงั มนั ก็จะลม้
หงายหลงั ทนี ีก้ ารกาํ หนดจิตของเราก็สาํ คญั ถา้ เราเพง่ ไปขา้ ง
หลงั มากเวลานานไปๆ มนั กจ็ ะไปขา้ งหลงั ตามท่ีเราเพง่ ถา้ เรา
เพง่ กม้ ลงต่าํ ๆ เวลาจิตลงก็คอยต่าํ ลงๆๆ ถา้ เราเพง่ ไปเสมอ
กลางๆ จิตของเราก็อย่กู ลางๆ เพราะเราจะตงั้ กาํ หนดรูต้ วั
ตรงไหนก็ได้

2

โดยความจรงิ นะ่ ความท่ีมีสว่ นรูม้ ากท่ีสดุ ก็คอื ในเฉพาะ
หนา้ ศีรษะของเรา ตาก็เป็นอยทู่ างศรี ษะ หกู ท็ างศรี ษะ จมกู ก็
อยทู่ างศรี ษะ ลนิ้ ก็อย่ขู า้ งบนทงั้ นนั้ น่ีเป็นท่ีใหเ้ กิดความรูห้ ลาย
อยา่ ง สว่ นกายน่นั นะ่ รูท้ ่วั ไป ตงั้ แตศ่ รี ษะจนถงึ พืน้ เทา้ เรยี กวา่
กายะวญิ ญา น่ีรบั สมั ผสั อยทู่ ่วั ไป สว่ นการรบั รู้ รูก้ ็อยทู่ ่ีตาก็อยู่
เบือ้ งบน ไดย้ นิ เสียงก็อยทู่ ่ีหู อย่เู บอี้ งบน ไดก้ ล่นิ ก็อยทู่ ่ีจมกู ก็
รูอ้ ย่เู บือ้ งบน ไดล้ นิ้ ลิน้ ไดร้ สก็อย่เู บอื้ งบน ประชมุ อย่ตู รงนี้
มากกวา่ ท่ีอ่ืน แมเ้ ราจะสาํ รวมตรงนีก้ ็ได้ ตงั้ กายใหต้ รงแลว้ ก็
สาํ รวม หจู ะไดย้ นิ อะไรเวลาท่ีเราภาวนาก็ผา่ นไปๆใหม้ สี ติ ตา
เราก็หลบั ตาแลว้ หไู ดย้ นิ อะไรก็ไม่สนใจ ไหนจมกู ไดก้ ลนิ่ อะไร ก็
ไมส่ นใจ เราก็พยายามสาํ รวมตงั้ แตภ่ ายนอก

เม่ือตรกึ ตรองดใู หเ้ หน็ ชดั กายนจี้ ะสกั แตว่ า่ กายท่ีเราน่งั อย่นู ่ี
เม่ือเราแยกแลว้ จะวา่ เป็นสตั วก์ ็ไมใ่ ช่ จะวา่ เป็นอะไรก็ไมเ่ ชิง จะ
วา่ เป็นบคุ คลก็เพียงแตส่ มมตุ ิ จะวา่ กายก็เป็นแตเ่ พียงสมมติ
เม่ือเราผา่ ดู หรอื เราแยกดู เพง่ ดไู ปในหนงั ไปอกี มนั ก็ไมม่ ีอะไรท่ี
เป็นสาระแกน่ สารและม่นั คง เราดดู ว้ ยใจดๆี เน่ียแหละ ก็เพราะ

3

ใจมนั ชอบนกึ ใหม้ นั อย่เู ฉยๆมนั ก็อย่ไู ม่ได้ เราก็หลอกใหม้ นั เท่ยี ว
ดซู กั เลก็ นอ้ ยกอ่ น หากใจสงบยาก เราสอ่ งดซู ะก่อน เท่ยี วชม
กายนคร นครเน่ีย…รา่ งกายทงั้ หมดเน่ียทา่ นวา่ เป็นอทุ ยานของ
พระอารยะ สวนดอกไมข้ องทา่ นเน่ยี สดบั เท่ียวชมใหเ้ พลดิ เพลนิ
ไดอ้ ย่างจใุ จ ทา่ นอย่ใู นสวนดอกไมอ้ นั นีแ้ หละ คือกาย ทาํ ไมถงึ
ทา่ นวา่ เป็นสวนดอกไม้ ถา้ เราพจิ ารณากายในกาย รูต้ ามความ
จรงิ ยง่ิ เหน็ ชดั เท่าไร จิตยง่ิ เบิกบาน จติ ย่งิ ผ่องใส เหน็ กายนีไ้ ม่
สะอาดเทา่ ไหร่ จิตย่งิ สงบ ยง่ิ ดี ไมม่ วั หมอง

แตอ่ นั นีถ้ า้ หากวา่ เราไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิ หรอื วา่ เรายงั อาจไมเ่ ขา้ ใจ
หรอื วา่ ยงั ไมแ่ น่ใจวา่ จะเป็นอย่างนนั้ จรงิ หรอื ไม่ ถา้ เราอยากจะ
ทราบชดั ก็พยายามท่ีจะเอามาพจิ ารณา เพราะสติของเราก็มีอยู่
แลว้ เราสามารถจะระลกึ ไดอ้ ยู่ จติ ของเราก็มีอยู่ กายของเราก็มี
อยู่ ความรูข้ องเราก็มีอยู่ เพียงแตเ่ รามาประกอบตามหลกั ท่ที ่าน
กลา่ วไวค้ ือมาปฏิบตั ิ ทา่ นใหส้ อ่ งดเู ราก็สอ่ งดู นอกจากหนงั หมุ้
หอ่ ไวแ้ ลว้ เราก็ดหู นงั ท่วั ไป มนั หอ่ ถา้ ไม่มีหนงั ห่อมนั จะเป็น
อย่างเรารา่ งกายของคนเรา เราหยิบยกพจิ ารณานกึ นา่ ดมู ๊ยั มี

4

ความสขุ ม๊ยั มีประโยชนม์ ๊ยั ใครตอ้ งการบา้ ง มาเอาหนงั ออก
เม่ือไมม่ ีหนงั ทาํ ไมจะตอ้ งพจิ ารณาอยา่ งนนั้ ทาํ ไปจะตอ้ งการรู้
อย่างนนั้ พระพทุ ธเจา้ ทาํ ไมใหเ้ ราไมด่ เู ป็นสตั วเ์ ป็นบคุ คล คอื
เป็นของดีของประเสรฐิ ...

ความจรงิ เแลว้ พระพทุ ธเจา้ เพ่ือไม่ใหเ้ ราหลง คาํ วา่ หลงคอื
ไมร่ ูจ้ รงิ น่นั เอง คอื รูห้ ลอก ถา้ เราหลงถกู หลอกแลว้ เรากย็ ดึ ม่นั
ถือม่นั สาํ คญั หมาย เราจะทกุ ขเ์ ม่ือสงิ่ เหลา่ นีม้ นั เปล่ียนแปลง
เราจะทกุ ขเ์ ม่ือสิ่งเหลา่ นีม้ นั ไม่เป็นไปตามท่ีเราตงั้ ใจไว้ ส่งิ ใดท่ี
ไม่สมหวงั สง่ิ นนั้ แหละทาํ ใหเ้ ราทกุ ข์ ทกุ ขห์ นกั ท่ีเราทกุ ขท์ กุ วนั
เพราะมนั ไม่สมหวงั ในสง่ิ ท่เี หลา่ นีแ้ หละ ไม่มีอะไรสมหวงั ซกั
อย่างเพราะมนั เปล่ยี นแปลงอย่ตู ลอดเวลาตงั้ แตเ่ ราเกิดมา ได้
แลว้ ก็หมดไป มีแลว้ ก็หาไม่ ทยอยกนั ไปตามลาํ ดบั ๆ ไมว่ า่ เขาไม่
วา่ เราไมว่ า่ ใครๆ น่ีถา้ หากวา่ เราดตู ามความเป็นจรงิ น่ี
พระพทุ ธเจา้ ตอ้ งการใหเ้ รารูจ้ รงิ เหน็ จรงิ เรยี กวา่ ธรรม ซง่ึ เป็นสิ่ง
ท่ีม่นั คง เพราะความจรงิ ขอ้ นี้ มนั ถงึ แมว้ า่ เราจะไม่ดู มนั ก็เป็น
จรงิ ของมนั อยู่ มนั ก็เป็นไปตามกฏเกณฑธ์ รรมดา

5

เพราะฉะนนั้ ถา้ เรารูอ้ ยา่ งนีจ้ ะเป็นประโยชนอ์ ยา่ งไร ถา้ เรา
ไม่รูค้ วามจรงิ จะมีโทษอยา่ งไร อนั น่ีสาํ คญั มาก เรยี กวา่ เราเหน็
คณุ เห็นโทษ เรารูค้ ณุ รูโ้ ทษเรยี กวา่ เรามีปัญญา เราสรา้ งปัญญา
ขนึ้ ในใจ เม่ือเราเหน็ โทษ เราก็ตอ้ งเหน็ คณุ เป็นคกู่ นั หรอื เราเห็น
คณุ เราก็ตอ้ งเหน็ โทษเป็นคกู่ นั เรยี กแบบนี้ มีตาสองตา มีหสู อง
หู เห็นสงิ่ ท่ีดกี บั ส่งิ ท่ีช่วั เป็นควบคกู่ นั ไป ไดย้ นิ เสยี งท่ีดเี สยี งท่ีไม่
ดีควบคกู่ นั ไป ถา้ เราไมห่ ลงในสงั ขารดี สงั ขารไมด่ ี ๒ อยา่ งแลว้
เรยี กวา่ เป็นผรู้ อบรูใ้ นกองสงั ขาร เรยี กวา่ ปัญญา น่ี เพราะฉะนนั้
ไมม่ ีอ่ืนไกลท่ีใหเ้ รารอบรูก้ องสงั ขารนอกจากเราพิจารณาเห็น
คณุ เหน็ โทษ

ทีนีโ้ ดยปกตแิ ลว้ เราทงั้ หลาย เรายดึ ม่นั ถือม่นั ตามโลก
สมมตุ นิ ิยมวา่ กายนีเ้ ป็นของเรา วา่ เป็นตวั ตนของเราจรงิ ๆ ตาม
หนงั ก็ตกแตง่ ใหส้ วยใหง้ าม ใหน้ า่ รกั นา่ เพลดิ เพลนิ เจรญิ ใจเสยี
อกี ถา้ เราเห็นแตน่ ่ารกั นา่ เพลิดเพลนิ อยา่ งเดียว เวลามนั ทรุด
ขนึ้ มามนั ไม่นา่ รกั เลย เวลามนั เปล่ียนแปลงเจบ็ ป่วยขนึ้ มามนั ไม่
น่ารกั ตลอดไป เวลามีปัญหาอะไรตา่ งๆ เวลาใจไม่ดีขนึ้ มา ทกุ ข์

6

อยา่ งไมม่ ีอะไรดีเลยนะ เม่ือสงิ่ เหลา่ นมี้ นั เปล่ียนแปลงเชน่ นีแ้ ลว้
พระะพทุ ธเจา้ จงึ สอนถา้ เห็นดีเราก็เอามาพจิ ารณาเหน็ สิง่ ท่ีไม่ดี
บา้ ง เหน็ เหลา่ นีม้ ีคณุ ก็มีโทษบา้ ง เหน็ สง่ิ ใดมีโทษเราก็อย่า
มองเหน็ แตโ่ ทษอย่างเดียว ตอ้ งมองเห็นคณุ ในสิง่ นนั้ บา้ ง สง่ิ ท่ี
คนเกลยี ดท่ีสดุ สง่ิ นนั้ นะ่ จะเป็นสงิ่ ท่ีเรารกั ท่ีสดุ เม่ือเรารูจ้ กั ส่ิงท่ี
เรารกั ท่ีสดุ ถา้ เราหลงนะสง่ิ นนั้ นะจะเป็นส่ิงท่ีเราเกลยี ดท่ีสดุ จะ
เป็นสิ่งท่ีทาํ ใหเ้ ราทกุ ขม์ ากท่ีสดุ ถา้ เราหลง ถา้ เราไม่รูค้ วามจรงิ

แตถ่ า้ เรารูค้ วามจรงิ แลว้ สงิ่ ท่ีเกิดประโยชนท์ ่ีสดุ คือจิตไม่ยดึ
ม่นั ถือม่นั จิตอย◌่ ู ในระหวา่ งกลางคือเฉยๆไดไ้ ม่หว่นั ไหว ท่าน
เรยี กวา่ เม่ือโลกธรรมถกู ตอ้ งแลว้ จิตของบคุ คลไม่หว่นั ไหวในสิง่
นนั้ ๆแลว้ เป็นผไู้ มเ่ ศรา้ โศก เป็นผไู้ ม่เศรา้ ใจหรอื เสยี ใจใน
ภายหลงั เป็นผไู้ มท่ กุ ขใ์ จ เป็นผเู้ กษมจากความยนิ ดี ปลอดโปรง่
จากความยนิ ดหี รอื ความพอใจ โลกธรรมมากระทบน่นั ท่านวาง
ไว้ มีลาภก็อยา่ ยินดจี นเกินไป เพราะลาภนนั้ มนั เป็นของไม่เท่ียง
มนั เป็นประเภทอย◌่ ู ในภาวะแห่งสงั ขารทงั้ หลายไมเ่ ท่ียง
เรยี กวา่ รูป ถา้ วตั ถกุ ็ รูปัง อนจิ จงั เป็นของไม่เท่ียง มีลาภแลว้ ก็

7

จะเส่ือมลาภเวลาไม่เท่ียง เตม็ เต็งมาแลว้ มนั ก็จะเส่ือม ใครจะมี
ตลอดไป เป็นไปไมไ่ ด้ ก็มีเทา่ ท่ีชีวติ ระยะหน่งึ เทา่ นนั้ แหละ ก็เม่ือ
รา่ งกายน่ีครา่ํ ครา่ ทรุดโทรมไปตามเหตกุ ารณแ์ ลว้ ความสขุ ท่ี
เคยมีอยู่ สง่ิ ท่ีเคยมีอย่◌ู แตก่ อ่ นเคยอาศยั สะดวกสบายทกุ
อยา่ ง เม่ือครา่ํ ครา่ ทรุดโทรมไปแลว้ ชว่ ยไม่ได้ อาศยั ไมไ่ ด้ พง่ึ
ไมไ่ ด้ เพราะฉะนนั้ คอื เส่ือมแลว้ ลาภ เคยมียศถาบรรดาศกั ดทิ์ ่ี
เขายกย่องตบแตง่ ให้ แตเ่ ม่ือกาํ ลงั วงั ชาใชก้ ารใชง้ านดเี คา้ ก็ให้
ยศ เวลาครา่ํ ครา่ ๖๐ ปีขนึ้ ไปแลว้ เคา้ ก็ไมใ่ หแ้ ลว้ มนั เสอ่ื มแลว้
ยศ หรอื ประพฤตไิ มด่ ี เคา้ ไมช่ อบ เคา้ ก็ถอดออก เคา้ เอาออกน่นั
สิ่งท่ีเคา้ ใหอ้ ยา่ งหนง่ึ มนั ไมแ่ นน่ อน ทา่ นวา่ น่ีเรยี กวา่ โลกธรรม มี
ลาภแลว้ ก็มีเส่อื มลาภ มียศแลว้ ก็เส่ือมยศ มีสรรเสรญิ ก็มีนินทา
เวลาเคา้ สรรเสรญิ หากเราดีก็ยงั สาํ คญั ความดนี นั้ ยดึ ม่นั ถือม่นั
ดีอกดใี จ ติดใจในสรรเสรญิ เม่ือคนหนง่ึ ไมช่ อบเกิดนนิ ทาขนึ้ มา
ก็ทกุ ขข์ นึ้ มาอกี เคยมีความสขุ สขุ เม่ืออาศยั วตั ถุ อาศยั อามสิ
อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ เคยไดเ้ คยมีเคยสมประสงคข์ นึ้ มา เพราะ
โรคภยั ไขเ้ จบ็ หรอื ป่วยไขย้ งั ไมเ่ กิดขนึ้ เรยี กวา่ มีความสขุ และ

8

ยนิ ดหี ลงใหลในความสขุ เหลา่ นนั้ หมกม่นุ ฝังตวั ในสง่ิ นนั้ สาํ คญั
ม่นั คงมากนกั

เวลาความสขุ นนั้ มนั เปล่ยี นแปลงไป ความทกุ ขก์ ็ย่อม
เกิดขนึ้ มีสลบั ซบั ซอ้ นเป็นคกู่ นั อย่อู ยา่ งนี้ เคา้ เรยี กวา่ โลกธรรม
มีลาภเส่อื มลาภ มียศเส่ือมยศ มีสรรเสรญิ มีนินทา มีสขุ มีทกุ ข์
อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ เกิดขนึ้ ในทางท่ีเป็นอฏิ ฐารมณ์ คืออารมณท์ ่ี
มีสิ่งชอบท่ีตอ้ งการ เชน่ วา่ มีลาภ มียศ สรรเสรญิ สขุ เกิดขนึ้
แลว้ ก็ยงั หมกมนุ่ หลงใหล ใหร้ ูเ้ ทา่ จติ ไม่หว่นั ไหว ในส่งิ เหลา่ นนั้
หรอื เวลาเส่อื มลาภเส่ือมยศนินทาทกุ ข์ ตอ้ งไม่หว่นั ไหว มีสติ มี
ปัญญา รูเ้ ทา่ วางเฉยๆได้ น่เี รยี กวา่ เม่ือโลกธรรมมาถกู ตอ้ งแลว้
ไม่หว่นั ไหว ผุฏฐัสสะ โลกะธัมเมหิ จติ ตงั ยัสสะนะ กมั ปะ
ติ

ผุฏฐัสสะโลกะธัม เม่ือโลกธรรมมากระทบถกู ตอ้ งในจติ
แลว้ เรานนั้ ไมห่ ว่นั ไหว อโศกงั เป็นผไู้ มเ่ ศรา้ โศก ไมม่ วั หมอง ไม่
มีความมวั หมองหรอื สง่ิ หลา่ นีจ้ ะทาํ จติ ใหม้ วั หมอง เหมือนกบั ธุลี
ท่ีปลิวมาทาํ ใหม้ วั หมองไม่ได้ แคห่ ม่นั ย่อมเกษมจากความเศรา้

9

ใจ มีจิตผอ่ งแผว้ หมดจด เพราะเหตนุ นั้ เราทงั้ หลายมาศกึ ษาให้
มีสตริ ูเ้ ทา่ สงิ่ ท่ีเปล่ียนแปลงเป็นธรรมดา มอี ยทู่ ่วั ไป เพ่ือเราจะ
ไมไ่ ดย้ ดึ ม่นั ถือม่นั สาํ คญั ใหจ้ ติ ของเรามคี วามเห็นชอบตาม
หลกั ธรรมคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ เรยี กวา่ มีปัญญาเหน็ สงั ขาร
ในสว่ นดสี ว่ นไมด่ ีมีคณุ คา่ เทา่ กนั เป็นของจรงิ อย่างประเสรฐิ

เม่ือเวลาทกุ ขเ์ กิดขนึ้ ก็อยา่ เดอื ดรอ้ น อย่าเขา้ ใจวา่ ทกุ ขไ์ มม่ ี
ประโยชน์ ทกุ ขม์ นั มีประโยชนม์ ากทีเดยี ว ขอ้ สาํ คญั ใหจ้ ติ ของ
เราฉลาดอยา่ งเดียวเทา่ นนั้ แหละ จะเอาทกุ ขน์ นั้ มาเป็นบรรทดั
ฐาน เป็นครู เป็นอาจารยใ์ นทางท่ีไมด่ ที าํ ใหเ้ ราจาํ เรารูค้ วามจรงิ
เพราะเราจะไดค้ วามฉลาด ก็คอื ทกุ ขเ์ น่ียแหละมาสอน เราได้
เขา้ ประพฤติปฏบิ ตั ฝิ ึกหดั อบรม ทาํ ศลี สมาธิปัญญา ก็เพราะ
ทกุ ขท์ ่มี ากอ่ กวนจิตใจน่ีเอง เราจงึ ตอ้ งการความสงบ
เพราะฉะนนั้ ทกุ ขเ์ ป็นเหตใุ หเ้ กิดความสขุ ก็ไดถ้ า้ เรามีสตดิ ี
ปัญญาดี เพราะฉะนนั้ เวลาทกุ ขเ์ กิดขนึ้ ผนู้ กั ปฏบิ ตั ิโดยเฉพาะ
อยา่ งย่ิงนกั ภาวนาทงั้ หลาย เวลาทกุ ขเ์ จ็บป่วยเกิดขนึ้ ในรา่ งกาย
นนั้ สว่ นหมอก็รกั ษาไป สว่ นนกั ปฏิบตั ินนั้ ไมห่ วงั เอาแตใ่ หห้ าย

10

ในทางยาโดยสว่ นเดยี ว ผฉู้ ลาดจะตอ้ งรกั ษาใจอยา่ ใหใ้ จมนั ไป
หลงสงั ขารท่ีมนั เปล่ียนแปลงจากความสขุ มาเป็นทกุ ขข์ นึ้ มา
เพราะสงิ่ เหลา่ นนั้ กบั ใจไมใ่ ชอ่ นั เดยี วกนั ถา้ เราสามารถรกั ษาใจ
นนั้ ใหป้ กติ สอนใจทาํ ไมใจของเราไมป่ กติ ใจมนั ไมไ่ ดเ้ ป็นอะไร
สว่ นไขม้ นั สว่ นรา่ งกาย สว่ นเจ็บมนั ก็สว่ นเวทนาขนั ธ์ มนั เป็นคน
ละขนั ธ์ ใจก็เป็นวิญญาณขนั ธ์ มนั เป็นคนละกอง เราจะออกจาก
เวทนา จะรกั ษาเฉพาะ อสิ ระเฉพาะใจไมเ่ ก่ียวขอ้ งกบั สง่ิ นีไ้ มไ่ ด้
เลย

ถา้ เราระลกึ อย่างนี้ เรากาํ หนดจิตรกั ษาไว้ ตงั้ ใจรกั ษา พอ
จติ มีสตเิ กิดความรูต้ วั มนั ไมห่ ลงอปุ าทานยดึ ถือเท่านนั้ ปลอ่ ย
วางไดเ้ ทา่ นนั้ ความสขุ เกิดขนึ้ ทกุ ขด์ บั ไป เพราะจิตมีปีติ ปีติ
น่ีเองมนั ตดั ขาดจากทกุ ข์ ความสขุ เกิดขนึ้ ในใจ จติ มีความวเิ วก
มนั สงบแลว้ จากอารมณ์ คือเวทนาอนั หยาบ แตย่ งั เหลอื เวทนา
ละเอยี ดคอื สขุ แตก่ ็ยงั ดีกวา่ เวทนาอนั หยาบคอื ทกุ ขน์ นั้ เพราะ
มนั ไมท่ รมาน น่นั ทกุ ขม์ นั ก็มีประโยชนอ์ ยา่ งนีถ้ า้ เรารูจ้ กั ทาํ ให้
เราฉลาด ทาํ ใหเ้ ราหาทางออกจากทกุ ขไ์ ด้ ถา้ ไม่มที กุ ขก์ ไ็ ม่มี

11

อรยิ สจั ก็ไม่มีธรรมเป็นเคร่อื งตรสั รูข้ องพระพทุ ธเจา้
พระพทุ ธเจา้ พระองคท์ กุ ๆพระองคก์ ็อาศยั ทกุ ขน์ ่ีเป็นเหตเุ ตอื น
ไม่ใหป้ ระมาท

ตวั อย่างเช่นกอ่ นท่ีพระองคจ์ ะออกหาวเิ วกจะปลงบรรพชา
ถือเพศเป็นบรรพชติ พระองคไ์ ปเท่ียวอทุ ยาน พระองคก์ ็ไปพบ
เทวทตู คนเกดิ มาแลว้ ก็มีความแกค่ ร่าํ ครา่ ทรุดโทรม พอเห็นแลว้
พระองคก์ ็นอ้ มความแกท่ ่ที ตู ท่ีเหน็ นนั้ แหละ ปรากฏน่นั มาถงึ ตวั
พระองค์ พระองคก์ ็ระลกึ รูไ้ ดว้ า่ คนๆนี้ เม่ือกอ่ นน่ีเขาก็เป็นเดก็
หน่มุ แนน่ กระฉบั กระเฉงเหมือนกบั คนท่วั ๆไป เหมือนกบั เรา
ทงั้ หลายเน่ยี แหละ เม่ืออยนู่ านผา่ นวยั มาตลอดมา รา่ งกายนีม้ นั
ก็ทรุดโทรมครา่ํ ครา่ ไปตามลาํ ดบั แมต้ วั ของเราก็จะเป็นอย่างนี้
พอพิจารณาตวั เองจะตอ้ งแก่อยา่ งนี้ เม่ือแก่แลว้ ก็จะตอ้ งมี
ลกั ษณะทกุ อยา่ งอย่างนีแ้ หละ สงิ่ ท่ีเราไมป่ รารถนา เราไม่
ตอ้ งการมนั ก็เกิดขนึ้ ความท่ีเราสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ ยนิ ดกี ็
หมดไป ใครพบเหน็ ก็นา่ เวทนา พอไปอกี ไปเหน็ คนเจ็บ เจ็บเป็น
โรคภยั เจบ็ ผอมแหง้ ซบู ซดี ครวญครางเพราะความเจ็บปวด

12

พระองคก์ ็สลดสงั เวชใจ น่ีหนอคนเจบ็ เกิดมาก็มีเทา่ นีแ้ หละ มี
โรคภยั เบยี ดเบยี น มนั ก็เจบ็ อย่างนีแ้ หละ โรคนีเ้ กิดขนึ้ เวลาไหน
กบั ใครๆก็ได้ ไม่ใชม่ ีแตเ่ ขา เราก็อาจเป็นไดส้ กั วนั หนง่ึ เพราะ
รา่ งกายนีเ้ ป็นท่ีตงั้ ของโรค มสี งิ่ ไหนสว่ นใดก็มีโรคทกุ แหง่
เกิดขนึ้ ไดท้ กุ แห่ง มีตาก็โรคตา มหี กู ็โรคหู มีจมกู ก็โรคจมกู มีลนิ้
ก็โรคในลิน้ มฟี ันก็โรคในฟัน มีตรงไหนก็โรคออกจากจิตอยทู่ กุ ๆ
แหง่ เราพจิ ารณาเหน็ อย่างนี้

พระองคก์ ็นอ้ มมาตวั พระองค์ ตวั พระองคก์ ็คงหลกี ไม่พน้ ก็
ทกุ ขเ์ ชน่ เดยี วกนั อยสู่ ภาพอนั เดยี วกนั เหมือนกบั คนๆนนั้ ไปอกี
ไปเห็นคนตาย พระองคพ์ จิ ารณานอ้ มถงึ พระองคอ์ กี น่ี คนตายก็
ไม่มีลมหายใจ เราก็ลมหายใจจะอย่ไู ดน้ านสกั แคไ่ หน อยไู่ ปๆ
มนั ก็จะหมดเช่นเดยี วกนั ก็เป่ือยเนา่ ผพุ งั ไป พระองคร์ ะลกึ ไม่
สบายในใจ แตด่ ว้ ยปัญญาปรชี าของพระองค์ ระลกึ ไดว้ า่ ธรรม
ทงั้ หลายย่อมเป็นคู่ เม่ือมืดแลว้ ย่อมมีเครอ่ื งแกค้ อื ความสวา่ ง
เม่ือมีรอ้ นแลว้ ก็ตอ้ งมีเยน็ เป็นเครอ่ื งแก้ สขุ นนั้ เม่ือมีทกุ ขแ์ ลว้ มนั
ก็ตอ้ งมีความสขุ เป็นเครอ่ื งแก้ แตเ่ วลานที้ างพษิ ยาสาํ หรบั แกส้ งิ่

13

เหลา่ นีเ้ รายงั ไมม่ ี เราควรแสวงหา เพราะฉะนนั้ เราไมค่ วรนอนใจ
เม่ือมีทกุ ขเ์ ราตอ้ งหาทางออกจากทกุ ขใ์ หไ้ ด้ พอกลบั ไปถงึ
พระราชวงั ถงึ พระนคร พระองคก์ ็เตรยี มตวั พอดกึ มาก็เตรยี ม
อมาตย์ ฉนั นะอมาตยเ์ ตรยี มมา้ ออก ทงั้ กลางคืนไมข่ นึ้ มาน่นั
แหละ น่นั

สว่ นทกุ ขถ์ า้ หากวา่ เราทงั้ หลายไม่รงั เกียจ ตงั้ จิตไวเ้ ป็นธรรม
หยบิ ยกมาพนิ ิจพิจารณาแลว้ ก็สามารถสรา้ งประโยชนใ์ หจ้ ติ ใจ
ของเราไดม้ ีกาํ ลงั ไดม้ ีความสะอาดบรสิ ทุ ธิ์ ไดม้ ีปัญญาพน้ จาก
ทกุ ขไ์ ปได้ เพราะฉะนนั้ พระองคจ์ งึ ทรงแสดงความสขุ และความ
ทกุ ขน์ ะ่ มีคณุ คา่ เสมอกนั ยกระดบั ไวเ้ สมอกนั เรยี กวา่ อรยิ สจั
อรยิ สจั คือเหตผุ ลในฝ่ายสขุ และฝ่ายทกุ ข์ ๒ อย่างเทา่ นนั้ เอง
เหมือนกบั ทกุ ขก์ บั สมทุ ยั ๒ อยา่ งอาศยั ซง่ึ กนั และกนั เป็นเรอ่ื ง
ความทกุ ข์ เม่อื จติ ใจฉลาดขนึ้ ศกึ ษารูจ้ ากความจรงิ แลว้ นิโรธ
กบั มรรคเป็นเร่อื งของความสขุ เป็นเร่อื งของความดี เพราะฉะนนั้
มนั มีอย่เู ทา่ นนั้ เร่อื งอรยิ สจั ก็เรอ่ื งสขุ กบั ทกุ ขท์ ่ีมีอย่ใู นตวั ของเรา
เพราะฉะนนั้ เม่ืออรยิ สจั ของจรงิ ท่ีมีอยพู่ รอ้ มกบั ตวั ของเรา แต่

14

เรายงั อา่ นไม่ออกเพราะเราไมไ่ ดศ้ กึ ษา เพราะฉะนนั้ เม่ือเราได้
ศกึ ษาเราจะตอ้ งอา่ นออก เราจะตอ้ งรูแ้ นน่ อน เราจะตอ้ งรูค้ วาม
จรงิ

ถา้ สิ่งเหลา่ นีเ้ ป็นสง่ิ ท่ีเหนือวสิ ยั แลว้ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้
ไมท่ รงวางไวใ้ หอ้ นชุ นรุน่ หลงั ไดศ้ กึ ษาและปฏิบตั ิ เพราะเป็นส่งิ ท่ี
เหนือวสิ ยั แตพ่ ระองคท์ รงพจิ ารณารูด้ ว้ ยญาณปรชี าของ
พระองคแ์ ลว้ วา่ ธรรมะท่ีพระองคท์ รงตรสั รูท้ ่ีแสดงไวเ้ หลา่ นีไ้ ม่
เป็นส่งิ ท่ีเหนือวิสยั ท่ีมนษุ ยใ์ นสมยั ปัจจบุ นั น่ีจะรูไ้ ม่ไดเ้ หน็ ไม่ได้
มีสตปิ ัญญาพอจะรูไ้ ดเ้ ห็นไดแ้ ละมนษุ ยก์ ็ไมใ่ ช่จะมีความสขุ จน
เหลอื เกนิ จนมองทกุ ขไ์ มเ่ หน็ หรอื มีแตท่ กุ ขเ์ หลือเกินจนมอง
ความสขุ ไมเ่ หน็ แตม่ นษุ ยใ์ นปัจจบุ นั นีม้ ีชวี ิตเป็นอยใู่ นระหวา่ ง
กลางๆ พอสามารถท่ีจะมองเหน็ ทกุ ขเ์ ห็นสขุ ทงั้ ๒ อยา่ ง สรา้ ง
สติสรา้ งปัญญาใหเ้ กิดขนึ้ ในตนของตนได้ แลว้ ก็เราทงั้ หลาย
พระองคท์ รงรบั รองวา่ ทกุ คนถา้ ตงั้ ใจปฏิบตั ิจรงิ แลว้ ยอ่ มอา่ น
ออกซง่ึ อรยิ สจั ธรรมทงั้ ๔ มีอย่แู ลว้ ในตวั เรา

15

ทกุ ขก์ บั สมทุ ยั ก็มีอย่แู ตเ่ รายงั อา่ นไมไ่ ดเ้ พราะเราไม่ไดเ้ รยี น
ไมไ่ ดศ้ กึ ษา มนั ภาษามีอย่แู ลว้ ผทู้ ่ีไมไ่ ดเ้ รยี นก็เลยอา่ นไมไ่ ดแ้ ละ
ก็พดู ไมไ่ ดเ้ พราะพดู ไมร่ ูเ้ รอ่ื ง ถา้ เราเรยี นไปๆแลว้ มนั ก็เป็นภาษา
ดว้ ยกนั อา่ นรูเ้ ร่อื งกนั พดู รูเ้ ร่อื งกนั เพราะฉะนนั้ เราทงั้ หลาย
อยา่ เพ่งิ ทอ้ ถอย ขอใหเ้ ราทงั้ หลายตงั้ ใจ วนั หน่งึ ขา้ งหนา้ เรา
ทงั้ หลายก็จะไดส้ ตไิ ดป้ ัญญา สามารถท่ีอา่ นออก อรยิ สจั ธรรม
เป็นของสิ่งท่ีประเสรฐิ มีแลว้ อย่ใู นตวั ของเราอย่างแนน่ อน ขอให้
เราทงั้ หลายตงั้ ใจเราจะมวี นั หนง่ึ เราจะตอ้ งพน้ ทกุ ขต์ าม
พระองค์ ขอใหม้ ีความเพียรและพยายามและความอตุ สาหะ
ตงั้ ใจเป็นทนุ ในจติ ในใจไวเ้ ป็นเดิมพนั ไว้ จงอย่าเพ่งิ มีความ
ทอ้ ถอย ทาํ ไปสรา้ งไปอบรมไป วนั หนง่ึ ขา้ งหนา้ ก็จะเป็นของเรา

เพราะฉะนนั้ เราทงั้ หลายเม่ือความจรงิ มีอยอู่ ยา่ งนีแ้ ลว้ จะ
พดู ถึงทกุ ข์ เราสอ่ งไปตรงไหน มนั ก็เหน็ อยทู่ กุ แหง่ ตลอดท่วั
สรรพางคร์ า่ งกายของเรากล็ ว้ นแตค่ วามเจบ็ ปวด มีโรคเป็นท่ีตงั้
เท่านนั้ ไม่ใชเ่ ป็นส่งิ ท่ีหลอกลวงปราศจากความจรงิ ท่ีเรารูไ้ มไ่ ด้
เห็นไมไ่ ดด้ ว้ ยตนเอง เราไมต่ อ้ งเช่ือกรรมใครเพราะมนั มจี รงิ

16

อย่างนี้ ทนี ีถ้ า้ เรามารูจ้ รงิ แลว้ มาปลอ่ ยวางส่ิงท่ีทกุ ข์ ทาํ จติ ใจให้
สงบ มนั ก็จะไดร้ บั ความสขุ จรงิ อีกแหละ เพราะจะเหน็ ของจรงิ
ในสว่ นของความสขุ ถา้ เรามาปลอ่ ยวางสง่ิ เหลา่ นีแ้ ลว้ ไมย่ ดึ
เราไม่ใกลท้ กุ ขเ์ หมือนกบั เราเห็นวา่ ไฟมนั ลกุ อยตู่ รงนี้ เราไมไ่ ป
เราก็ไมร่ อ้ นน่ี ถา้ รูว้ า่ ไฟอนั นีเ้ ป็นไฟเราก็ปลอ่ ยวาง ถา้ เราจะใช้
ไฟเราก็ใชด้ ว้ ยความระมดั ระวงั มนั ก็มีคณุ เราจะใชร้ า่ งกายใช้
ดว้ ยสติดว้ ยปัญญา มนั ก็มีประโยชน์ น่นั ไม่ใชว่ า่ ไฟกม็ แี ตโ่ ทษ
อย่างเดยี ว รา่ งกายน่ีไม่ใชว่ า่ มีแตท่ กุ ขอ์ ยา่ งเดยี ว มนั ก็มี
ประโยชนถ์ า้ เราใชเ้ ป็น พระพทุ ธเจา้ ก็อาศยั ขนั ธ์ อาศยั รา่ งกายนี้
แหละไดต้ รสั รูธ้ รรม ปฏบิ ตั ิธรรม พระองคก์ ็สอนบคุ คลผมู้ ี
รา่ งกายมีขนั ธอ์ นั นีแ้ หละ ประพฤติปฏบิ ตั ิธรรมตอ่ ไป ถา้ หากผู้
ไมม่ ีรา่ งกายสามารถปฏิบตั ใิ หพ้ น้ ทกุ ข์ พระองคเ์ ท่ยี วไปวาง
ศาสนาไวใ้ นชนั้ อรูปพรหม ชนั้ เทวดาในชนั้ อ่ืนไปแลว้ แตพ่ วกนนั้
ไม่สมบรู ณเ์ หมือนกบั มนษุ ยเ์ รา พระองคก์ ็ไดอ้ ตั ภาพอนั นี้
เพราะเหตนุ นั้ เราไดอ้ ตั ภาพอนั ประเสรฐิ อคั คงั ฐานงั มนสุ เสสุ
ไดเ้ กิดเป็นมนษุ ยม์ ีจิตใจอนั สงู ซะมากท่ีจะอบรมได้ เราไมค่ วร

17

ทอ้ ถอย ขอใหเ้ ราทงั้ หลายตงั้ ใจประพฤติปฏิบตั ดิ งั บรรยายมา
สมควรแก่กาลเวลา ยตุ ิแตเ่ พยี งเท่านี้

ท่ีมา: https://youtu.be/BgYt-bQI2mw

18


Click to View FlipBook Version