The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธัมมจักกัปวัตนสูตร โดย หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-03 19:24:40

ธัมมจักกัปวัตนสูตร โดย หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป

ธัมมจักกัปวัตนสูตร โดย หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป

Keywords: ธัมมจักกัปวัตนสูตร,หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป

หวั ใจของบทสวดธัมมจกั กัปวัตตนสูตร
หลวงป่เู ปล่ียน ปัญญาปทีโป

ณ วนั นีอ้ าตมาภาพจะไดแ้ สดงธรรมีกถาอนั เป็นธรรมคาํ ส่งั
สอนพระศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้ พอเป็นเคร่อื งประดบั
สตปิ ัญญาพทุ ธบรษิ ัท อบุ าสก อบุ าสกิ า ศรทั ธาทงั้ หลาย และ
บรรพชติ ไดม้ าน่งั อยู่ ณ สถานท่นี ี้

การแสดงธรรมในวนั นีน้ นั้ ถือวา่ เป็นการอนั หน่งึ ท่ีพระบรม
ศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ท่ีไดแ้ สดงปฐมเทศนาเน่ืองในวนั นีเ้ ป็น
วนั อาสาฬหปรู ณมี ดิถี ๑๕ ค่าํ พระจนั ทรเ์ ต็มดวงท่ีพระศาสดา
ทรงอนญุ าตใหพ้ ระภกิ ษุสงฆ์ สามเณรเขา้ จาํ พรรษาตามกาล
ตามเวลาท่ีพทุ ธานญุ าต เหตฉุ ะนนั้ ในเบือ้ งตน้ พวกเราเหลา่ ทา่ น
ทงั้ หลาย ทงั้ คฤหสั ถห์ รอื บรรพชติ ไดท้ าํ การบชู า คือได้
สกั การะบชู า ไดเ้ วยี นเทียนประทกั ษิณ ๓ รอบ เพ่ือจะไดร้ ะลกึ
ถึงพระรตั นตรยั คือพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ เม่ือเสรจ็ แลว้ ก็
มาไหวพ้ ระและทาํ วดั สวดมนตเ์ สรจ็ แลว้ มาบดั นีก้ ็อยากฟังพระ

1

ธรรมเทศนาอบรมสมาธิภาวนา ทาํ จติ ใจของตนใหส้ งบระงบั
เป็นสมาธิ

อนั นีก้ ารแสดงธรรมวนั นีเ้ น่ืองถงึ การพระพทุ ธเจา้ ของเรา
แสดงปฐมเทศนานนั้ พวกเราเหลา่ ทา่ นทงั้ หลายใหพ้ ากนั ตงั้ จติ
ตงั้ ใจวา่ เราจะฟังธรรมตามกาลตามสมยั เช่นวนั นีเ้ ป็นวนั คลา้ ย
พระพทุ ธเจา้ ของเราแสดงในท่ีตน้ เม่ือตรสั รูใ้ หม่ๆไดแ้ สดงธัมม
จักกัปปวตั ตนสูตร คือการเนือ้ หาของธรรมะในธมั มจกั กปั ปวตั
ตนสตู รนนั้ พระบรมศาสดาไดช้ ีจ้ าํ นงจงเฉพาะแสดงซง่ึ อริยสัจ
๔ คือทุกข์ สมุทยั นิโรธ มรรค เป็นหวั ใจของการธรรมจกั รนี้
เหตฉุ ะนนั้ ไดแ้ สดงใหป้ ัญจวคั คยี ์ ๕ องค์ ท่ีเป็นฤาษีอยู่ ให้
ฟังธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู รนี้ เพ่ืออบรมบม่ นิสยั ใหไ้ ดป้ ัญญารูซ้ ง่ึ
ธรรมะท่ีพระพทุ ธเจา้ ไดร้ ูเ้ หน็ แจง้ ชดั เจนมาแลว้ นนั้ พระพทุ ธเจา้
ของเราเลยแสดงธรรมในวนั นี้ คือวา่ เป็นวนั อาสาฬหปรู ณมี
แสดงถงึ ความทกุ ขแ์ ละแสดงถึงเหตใุ หท้ กุ ขเ์ กิด และแสดงวิธีดบั
ทกุ ขน์ นั้ และแสดงปฏปิ ทาการดาํ เนินไปสกู่ ารดบั ทกุ ขค์ อื มรรค

2

เหตฉุ ะนนั้ การแสดงธรรมในวนั นีน้ นั้ ก็กลา่ วถงึ วา่ การท่ีเรา
จะรูท้ กุ ขน์ นั้ ในแสดงในธรรมจกั รในองคม์ รรคนี้ คอื สัมมาทฐิ ิ
ปัญญาอนั เหน็ ชอบ แสดงถงึ ปัญญาท่จี ะรูจ้ รงิ รูช้ อบในสมทุ ยั
นิโรธ มรรคนี้ คอื รูช้ อบอยา่ งไร มารูซ้ งึ้ อะไรวา่ เป็นทกุ ข์ กม็ ารูซ้ งึ้
รา่ งกายของเราเหลา่ ทา่ นทงั้ หลาย ท่นี ่งั อยนู่ ีน้ นั้ เกิดขนึ้ มาแลว้
มนั เป็นทกุ ข์ ตงั้ แตช่ าตเิ กิดตงั้ อย่ใู นครรภก์ ็ดี เกิดอยใู่ นครรภ์
นอนอย่ใู นครรภก์ ็มีความทกุ ขอ์ ยู่ เม่ือเกิดขนึ้ มาแลว้ นีอ้ อกจาก
ครรภม์ าก็มาถกู รอ้ นถกู หนาว ถกู ลมถกู แดดอย่างนี้ มามโี รคภยั
ไขเ้ จบ็ เบยี ดเบยี นย่าํ ยีวที า จนมาถงึ หน่มุ ถึงสาวก็ดี มาถึงเฒา่
ถึงแกก่ ็ดี ย่อมมีโรคภยั ไขเ้ จ็บ ผ่านมาไม่รูจ้ กั ก่ีรอ้ ยหอ้ ยครงั้ แลว้
มนั แสดงถงึ ความทกุ ข์

เหตฉุ ะนนั้ ปัญญาท่ีจะรูช้ อบ รูจ้ กั วา่ รา่ งกายนีแ้ หละเป็นทกุ ข์
มีตาก็ยอ่ มมีโรคตา มีหกู ็ยอ่ มมีโรคหู มีจมกู ก็ย่อมมโี รคจมกู มี
หวั ใจก็ย่อมมีโรคหวั ใจออ่ น หวั ใจวาย หวั ใจโตอยา่ งนี้ มีไตก็
ย่อมมีโรคไต มีโรคน่ิวในไตอย่างนนั้ อยา่ งนี้ โรคตบั ก็ย่อมมีโรค
ตบั มีโรคตบั แข็ง ตบั บวม ตบั โตอยา่ งนี้ มีปอดก็ย่อมมีโรคปอด

3

เป็นวณั โรค ปอดแข็ง ปอดบวม มีลาํ ไสก้ ็ยอ่ มเป็นโรคลาํ ไส้ มี
กระเพาะอาหารก็เป็นโรคกระเพาะอาหาร มีอะไรอยใู่ นรา่ งกายก็
ย่อมมีโรคภยั ไขเ้ จบ็ แตล่ ะสง่ิ ละอยา่ ง แตจ่ ะมีมากมีนอ้ ย บาง
บคุ คลก็มีโรคมาก บางบคุ คลก็มีโรคนอ้ ยเป็นธรรมดาของ
รา่ งกาย เม่ือเกิดขนึ้ มาแลว้ ยอ่ มแสดงซง่ึ ความทกุ ขอ์ ยทู่ งั้
กลางวนั และกลางคืน

การท่ีปัญญาจะรูช้ อบอย่างนี้ จะเหน็ ชอบอยา่ งนีน้ นั้ มนั ก็
ยากก็ลาํ บาก พวกเราเหลา่ ทา่ นทงั้ หลายสว่ นมากมนั ไมร่ ูท้ กุ ข์
ไม่รูว้ า่ รา่ งกายนีเ้ ป็นทกุ ขเ์ วลามีโรคภยั ไขเ้ จบ็ จงึ บน่ วา่ ทกุ ขๆ์
สว่ นเวลามีรา่ งกาย ไม่มีโรคภยั ไขเ้ จบ็ เกิดขนึ้ แลว้ กว็ า่ มนั มี
ความสขุ ความสบาย ก็มาหลงอยเู่ ป็นธรรมดา มนั จงึ ไมร่ ูท้ กุ ข์
เหตฉุ ะนนั้ ปัญญาจะรูช้ อบยอ่ มรูจ้ กั ทกุ ขน์ ่ีเกิดขนึ้ ในสรรพางค์
รา่ งกายของบคุ คล ตงั้ แตช่ าติมาเลย เกิดมาแลว้ ย่อมมีทกุ ข์ มี
ความชราถงึ ความแก่ ความแกข่ องบคุ คลนีจ้ ะลกุ ก็โอย จะน่งั ลง
ก็โอย เดนิ ไปท่ีไหนก็ลาํ บาก ตงั้ แตห่ นมุ่ แตแ่ นน่ ก็เดินสามศอก
ออกสามวา วง่ิ ไปท่ีไหนก็สะดวกสบาย ถือของหนกั ๆก็ได้ ทาํ

4

กิจการงานก็แขง็ แรง สว่ นมาถึงเฒา่ ถงึ แกแ่ ลว้ อนั นีแ้ หละ ใชไ้ ม้
เทา้ ไปก็มี ถือของอะไรก็วา่ หนกั เดนิ ไปแตเ่ ปลา่ ก็ทกุ ขก์ ล็ าํ บาก
น่งั ลงก็โอย ยนื ขนึ้ กโ็ อย นอนลงก็โอยอยา่ งนี้ แสดงตงั้ แตค่ วาม
ทกุ ข์ บางทีก็มคี วามรอ้ น บางทีก็มีความหนาว บางทีก็มีความ
หิวความกระหาย แสดงตงั้ แตค่ วามทกุ ขอ์ ยทู่ งั้ กลางวนั กลางคืน
เหตฉุ ะนนั้ เม่ือปัญญาเหน็ ชอบจะรูท้ กุ ขอ์ ยา่ งนี้

ถา้ เม่ือไหรป่ ัญญาไมเ่ หน็ ชอบ ไมเ่ หน็ จรงิ ย่อมไมร่ ูท้ กุ ข์ เหตุ
ฉะนนั้ บคุ คลไมร่ ูท้ กุ ขย์ ่อมไม่อยากหนีจากทกุ ข์ แลว้ เม่อื คนมารู้
วา่ รา่ งกายนีแ้ หละเป็นบอ่ เกิดแหง่ ทกุ ข์ เป็นบอ่ เกิดแหง่ โรคภยั ไข้
เจ็บแลว้ ก็จะเขา้ ใจถงึ ทกุ ขน์ ีอ้ ย่างแนน่ อน เม่ือบคุ คลเห็นความ
ทกุ ขว์ า่ มีความเดือดรอ้ นอย่เู หมือนไฟไหมต้ นเองอยทู่ งั้ วนั ทงั้ คืน
มีความทกุ ข์ ยอ่ มเบ่อื หนา่ ยในทกุ ข์ จงึ อยากหาวธิ ีดบั ทกุ ข์ เหตุ
ฉะนนั้ แหละพระบรมศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้ จงึ แสดงชแี้ จงให้
เรารูจ้ กั ชาตเิ กดิ ก็เป็นทกุ ข์ ชราก็เป็นทกุ ข์ มรณะคอื ความตายก็
เป็นทกุ ข์ โสกะปรเิ ทวะคือความโศกเศรา้ โศกาอาดรู หมน่ หมอง
รอ้ งห่มรอ้ งไห้ นา้ํ ตาเป็นฟองนองเนตรอนั นี้ การประสบในสิง่ ท่ี

5

ไมร่ กั ไม่ชอบใจก็เป็นทกุ ข์ การพลดั พรากจากของรกั ของชอบใจ
ก็ยอ่ มเป็นทกุ ข์ เหตฉุ ะนนั้ ของเหลา่ นีจ้ งึ จดึ วา่ มนั เป็นทกุ ขเ์ ป็น
ธรรมดาเม่ือเราเกิดมา

ใหม้ ีสติ ตงั้ สตปิ ัญญารูช้ อบใหเ้ รยี นรูด้ ใู หเ้ ขา้ ใจซง่ึ ทกุ ขน์ เี้ สยี
เม่ือไหรป่ ัญญาของเรารูซ้ ง่ึ ทกุ ข์ เราอยากหนีทกุ ขเ์ ราจะทาํ
อย่างไร ก็คนควรซงึ้ รา่ งกายนีว้ า่ เป็นบอ่ เกิดแห่งความทกุ ข์ บอ่
เกิดแห่งความทกุ ขน์ ีเ้ กิดมาจากท่ีไหน รา่ งกายเกิดมาอยา่ งไร
เกิดมาจากเหตอุ ะไรแลว้ เราก็คน้ ควา้ เขา้ ไปหากระแสซง่ึ ตณั หา
ตามกระแสของบิดามารดา วา่ บดิ ามารดาของเราก่อใหเ้ กิด ให้
เราเกิดขนึ้ มาได้ สรา้ งใหเ้ ราเกิดขนึ้ มาได้ เม่ือเรามาเกิดขนึ้ มาเรา
มาอาศยั ซง่ึ อะไร เราจงึ เกิดขนึ้ มา คน้ ควา้ เขา้ ไปตามกระแสของ
ตณั หา เรยี กวา่ สมทุ ยั ท่ีเป็นบอ่ เกิดใหก้ องทกุ ข์ ท่ีทาํ ใหท้ กุ ขเ์ กิดนี้
คือสมทุ ยั คอื ตณั หา คือความอยาก

บดั นีเ้ ราอยาก เรายนิ ดอี ย่อู ย่างไร เราสรา้ งอะไร เราหลง
อะไร อวชิ ชา ตณั หา อปุ าทาน กรรมนาํ ใหส้ ตั วเ์ กิดเวยี นวา่ ยตาย
เกิดอยไู่ มร่ ูจ้ กั จบจกั สิน้ เราก็มาพนิ ิจพจิ ารณาอย่างนี้ ดว้ ย

6

สตปิ ัญญาของเรา เราจงึ จะรู้ รูว้ า่ ตณั หานีแ้ หละเป็นบอ่ เกิดแห่ง
กองทกุ ข์ ทาํ ใหท้ กุ ขเ์ กิด เป็นเหตใุ หท้ กุ ขเ์ กิดก็เพราะตณั หาอยา่ ง
นี้ เหตฉุ ะนนั้ อวิชชาคอื เราหลงอยู่ เราวา่ คอื เป็นมนษุ ยห์ รอื เกิด
เป็นเทวดาก็ดี มีความสขุ ความสบาย โลกนีว้ จิ ิตรพิสดารอยา่ ง
นนั้ อยา่ งนี้ นา่ ดู นา่ แชม่ ช่นื รน่ื รมยอ์ ยสู่ ะดวกสบาย อนั นีแ้ หละน่ี
เรามาพจิ ารณาอยอู่ ย่างนี้ เรารูจ้ กั วา่ โอ๋ ความท่ีเราหลงอยอู่ ยา่ ง
นีแ้ หละ เรามาเกิดน่ีอยา่ งหนง่ึ เราอยาก เรายดึ ม่นั จงึ วา่ อวิชชา
ตณั หาเราอยากมาเกิดอกี มาเกิดเป็นมนษุ ยน์ ่ีแหละ
สะดวกสบาย เพลดิ เพลนิ ร่นื เรงิ โลกท่ีวจิ ิตรพิสดาร สนกุ สนาน
จรงิ ๆ เราก็อยากมาเกิด เรายดึ ม่นั ถือม่นั เอาวา่ มาเกิดเป็น
มนษุ ยน์ ่ีแหละดี สขุ สบาย

เม่ือยดึ ม่นั ถือม่นั แลว้ กย็ อ่ มสรา้ งกรรม บางบคุ คลสรา้ งกรรม
สรา้ งกรรมดีกย็ ่อมมาเกิดเป็นคนบรสิ ทุ ธิ์บรบิ รู ณ์ บางบคุ คล
สรา้ งกรรมไมด่ ี เม่ือมาเกิดมาเป็นมนษุ ยก์ ็แขง้ ขาด ขาขาด หู
หนวก ตาบอด เป็นบา้ ใบเ้ สียจรติ ผดิ มนษุ ยอ์ ยา่ งนี้ บางบคุ คล
นนั้ สรา้ งกรรมท่ีเป็นบาปหยาบชา้ มาก ก็ไปตกนรกอเวจี หรอื มา

7

เกิดเป็นสตั วเ์ ดรจั ฉาน เหลา่ นีเ้ ม่ือมาเกิดเป็นสตั วเ์ ดรจั ฉานก็
ตาม มาเกิดเป็นมนษุ ยก์ ็ตาม ก็ยอ่ มมีความทกุ ขเ์ หมือนกนั

อนั นีแ้ หละ เม่อื เราสรา้ งกรรมแตล่ ะกรรมตา่ งๆนี้ อาศยั ซง่ึ วา่
จิตของเราก็ยดึ ม่นั ถือม่นั ในกรรมนนั้ เราอยากสรา้ งกรรมใหม้ า
เกิดเป็นมนษุ ย์ เกิดเป็นเทวดาก็ดี เกิดเป็นสตั วเ์ ดรจั ฉานก็ดี บาง
คนทาํ มากบาปมากอยา่ งนี้ ไปเกิดนรกอเวจีอย่างนีก้ ็ดี เหตุ
ฉะนนั้ ทา่ นวา่ เกิดมาแลว้ ก็ยอ่ มมีความทกุ ขเ์ ป็นธรรมดา อนั นี้
แหละเรามายดึ ม่นั ถือม่นั เรามาหลงอยู่ เม่ือเราหลงแลว้ ยอ่ มมี
ตณั หา มีตณั หาความอยากอยแู่ ลว้ ยอ่ มมีอปุ าทานยดึ ม่นั ถือม่นั
แลว้ ก็สรา้ งกรรมดงั ท่ีกลา่ วมานีแ้ หละ ทงั้ กรรมดีและกรรมช่วั นี้
ย่อมตกแตง่ ใหเ้ ราเกิด เวยี นวา่ ยตายเกิดวนเวียนอยตู่ ลอด อนั นี้
แหละ กระแสของตณั หานีแ้ หละคอื ความยนิ ดีความพอใจ วา่
ความยดึ ม่นั ถือม่นั อย่างนีแ้ หละ ทาํ ใหเ้ ราเวียนวา่ ยตายเกิดอยู่
ไม่รูจ้ กั จบจกั สนิ้ เป็นธรรมดา

น่ีแหละเม่ือส่งิ เหลา่ นีเ้ ป็นเหตเุ กิดอย่างนี้ เม่ือเรามาตรกึ
ตรอง มาพินิจพิจารณาเรยี นใหร้ ูด้ ใู หเ้ ขา้ ใจวา่ การท่ีเวยี นวา่ ย

8

ตายเกิดอย่ไู มร่ ูจ้ กั จบจกั สนิ้ นี้ เรามาเกิด มาทกุ ขอ์ ยเู่ ด๋ยี วนีก้ ็
อาศยั เพราะเหตนุ ีค้ ือสมทุ ยั คอื ตณั หานีแ้ หละ ทาํ ใหท้ กุ ขเ์ กิด
เป็นเหตใุ หท้ กุ ขเ์ กิดอยู่ เหตฉุ ะนนั้ เม่ือปัญญามารูซ้ ง่ึ ทกุ ขแ์ ลว้ ก็
มารูซ้ ง่ึ สมทุ ยั ทาํ ใหเ้ กิดทกุ ข์ เราจะเบ่อื หนา่ ยมยั้ หรอื เราจะพอใจ
ท่ีจะมาเกิดอกี หลายๆภพหลายๆชาติตอ่ ไปอยา่ งนี้ เรามาพนิ ิจ
พิจารณาอยา่ งนีใ้ หเ้ ขา้ ใจ แลว้ เม่ือไหรเ่ รามีความปรารถนาอยู่
เราอยากมาเกิดกนั อยู่ ถือวา่ บคุ คลนนั้ ยงั ไม่รูท้ กุ ข์ ยงั ไม่เขา้ ใจใน
รา่ งกายนีเ้ ป็นทกุ ขเ์ ป็นบอ่ เกิดแห่งความทกุ ข์ แมเ้ ราจะมาเกิดใน
ชาตใิ ดภพใดก็ดี มาเกิดรอ้ ยชาติพนั ชาตกิ ็ดี หม่ืนชาตแิ สนชาติ
ลา้ นชาติก็ดี กย็ อ่ มมาเอาแขง้ เอาขา เอาหเู อาตา เอารา่ งกาย
ของเรานีเ้ กิดมาอกี ก็ย่อมมีโรคภยั ไขเ้ จบ็ เบยี ดเบยี นย่าํ ยาํ วที า
อย่อู ีกเป็นธรรมดา แลว้ กจ็ ะบน่ วา่ ทกุ ขๆ์ อยอู่ ยา่ งนี้ นีแ้ หละมนั
เป็นธรรมดาท่ีเรายงั ไมร่ ู้

เหตฉุ ะนนั้ พระบรมศาสดาพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทา่ นมา
ลว่ งรู้ รูต้ น้ เหตุ ตน้ เหตทุ ่ีทาํ ใหท้ กุ ขเ์ กิด ทาํ ใหร้ า่ งกายเกิด
หมนุ เวยี นเปลย่ี นไปอยไู่ มร่ ูจ้ กั จบจกั สนิ้ อยา่ งนีแ้ หละ เรยี กวา่

9

ปัญญาเหน็ ชอบ ปัญญารูช้ อบ รูว้ ธิ ี รูว้ ิธีวา่ รา่ งกายเกิดมาเพราะ
เหตอุ ย่างนี้ เราก็จะดบั คอื ความไมย่ นิ ดี ความไม่ยนิ ดวี า่ รา่ งกาย
นีม้ ีความทกุ ข์ ย่อมมีความเบ่อื หนา่ ยคลายความกาํ หนดั ไม่
อยากมาเกิดอกี ถา้ บคุ คลใดรูท้ กุ ขจ์ รงิ ๆ บคุ คลนนั้ ยอ่ มไม่อยาก
มาเกิดอกี เพราะมาเกิดอีกมนั ก็จะทกุ ขอ์ ีก เหตฉุ ะนนั้ หละ เรา
มาพนิ ิจพจิ ารณาไปตามท่ีพระบรมศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้
ท่านไดแ้ สดงใหป้ ัญจวคั คยี ฟ์ ัง

ปัญจวคั คียฟ์ ังก็มาพินิจพจิ ารณา พระอญั ญาโกณฑญั ญะ
มาตรกึ มาตรอง โอ๋ มนั เป็นอย่างนีเ้ ป็นธรรมดา อนั นีแ้ หละ มา
พนิ ิจพิจารณาของอนั ใดเกิดขนึ้ ของนนั้ ก็ยอ่ มดบั มาพิจารณา
อยา่ งนี้ ก็ยอ่ มไดร้ บั กระแสธรรม คือเป็นพระโสดา อนั นีเ้ รยี กวา่
พระอญั ญาโกณฑญั ญะไดร้ บั กอ่ น ไดร้ บั กระแสธรรมกอ่ นกวา่
ทกุ องคท์ ่ีอยดู่ ว้ ย ๕ องคน์ นั้ เหตฉุ ะนนั้ พวกเราเหลา่ ท่าน
ทงั้ หลายนีค้ งเหมือนกนั มาพนิ ิจพจิ ารณาตรอง ตรกึ ตรอง
ไตรต่ รองใหม้ ีปัญญาเกิดขนึ้ วา่ เราน่งั อยนู่ ีแ้ หละ หรอื เราเดินไป
เดินมาท่ีไหน หรอื วนั ตอ่ ไป หรอื เราตงั้ แตเ่ กิดมา มนั ทกุ ขม์ ยั้ หรอื

10

มนั มีความสขุ สบายอยตู่ ลอด มนั ไม่มีความทกุ ขเ์ ลยรา่ งกายอนั
นี้ เป็นอยา่ งพระบรมศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้ พดู มยั้ มีความ
ทกุ ขอ์ ยา่ งนนั้ มยั้ ถา้ บคุ คลใดมารูท้ กุ ข์ บคุ คลนนั้ จงึ อยากจะหนี
ทกุ ข์ อนั นีห้ ละเรามาเขา้ ใจ มาพจิ ารณาใหเ้ ขา้ ใจ

พระบรมศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้ จงึ ชีแ้ จงแสดงใหฟ้ ังใน
วนั นี้ คลา้ ยๆวา่ วนั อาสาฬหปรู ณมี ดิถี ๑๕ ค่าํ ก็แสดงทุกข์
สมุทยั นิโรธ มรรค คอื ธรรมจกั ร ถา้ บคุ คลใดมีความเบ่อื หนา่ ย
คลายความกาํ หนดั สิน้ อาลยั อาวรณก์ บั รา่ งกายอนั นี้ ไมพ่ อใจ
ในรา่ งกาย ไมอ่ ยากได้ ไม่อยากมาเกิดอีก อยา่ งนีม้ าเรยี นรู้ มาดู
เขา้ ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งนี้ ถือวา่ รา่ งกายนีเ้ ป็นของไมเ่ ท่ยี ง ของเป็น
ทกุ ข์ ของย่อมเป็นอนตั ตา ไม่ใช่ตวั ตนของบคุ คลผใู้ ด เม่ือมา
เขา้ ใจอยา่ งนี้ ก็ย่อมมีความเบ่อื หนา่ ยคลายความกาํ หนดั สิน้
ราคะ จงึ จะดบั หนทางท่ีไมม่ ีทกุ ขจ์ ะเกิดขนึ้ มาอกี กเ็ ป็นนิโรธ
ความดบั ทกุ ข์ เหตฉุ ะนนั้ นิโรธความดบั ทกุ ขน์ ีจ้ ะรูแ้ จง้ แทงตลอด
ก็ตอ้ งเรยี นรา่ งกายนีเ้ รยี นรู้ ดใู หเ้ ขา้ ใจวา่ รา่ งกายนีเ้ กิดมา

11

อยา่ งไร แปรปรวนไปอย่างไร แตกดบั หกั พงั ไปอย่างไร ตาม
สภาพเดมิ ของเขา

เหตฉุ ะนนั้ จกั ขจุ งึ ไดเ้ กิดขนึ้ จกั ขไุ ดเ้ กิดขนึ้ แลว้ ปัญญาได้
เกิดขนึ้ แลว้ วชิ ชาไดเ้ กิดขนึ้ แลว้ แสงสวา่ งไดเ้ กิดขนึ้ แลว้ แกเ่ ราท่ี
พระบรมศาสดาวา่ อยา่ งนี้ ใหเ้ รามาเรยี นรู้ มารูจ้ กั ปะริญเญยนั
ตเิ ม ภกิ ขเว ดกู ่อนภิกษุทงั้ หลาย พวกเธอใหเ้ รยี นรูท้ กุ ข์ ปะริญ
ญาตันตเิ ม เรารูท้ กุ ขแ์ ลว้ น่นั พระพทุ ธเจา้ ทา่ นรูก้ ่อน ปะหาตพั
พนั ตเิ ม ใหเ้ สยี สละใหป้ ลอ่ ยวางซง่ึ ตณั หาท่ีมีความอยาก ความ
ยดึ ม่นั น่นั อยู่ ปะหนี ันตเิ ม อนั เราเสยี สละไดแ้ ลว้ เหตฉุ ะนนั้ เม่ือ
เสยี สละตณั หาคือความอยาก ความเพลดิ เพลนิ ความมวั เมา
ลมุ่ หลงอยใู่ นโลกอนั นี้ ในสมมตุ ทิ ่ีรา่ งกายอนั นี้ เราจงึ จะสนิ้
ตณั หาได้ อนั นีแ้ หละ

สัจฉิกาตัพพนั ตเิ ม ทาํ ใหแ้ จง้ ทาํ ใหช้ ดั เจน ทาํ ใหร้ ูแ้ จง้ แทง
ตลอดซง่ึ รา่ งกายอนั นีแ้ หละ รูปธรรม นามธรรมอนั นี้ น่ีแหละจงึ
จะเป็นหนทางท่ีดบั ทกุ ขไ์ ด้ การปฏิปทาคอื มรรค มรรคมีองค์ ๘
ประการนนั้ ปัญญาเหน็ ชอบ รูช้ อบอยา่ งนีแ้ หละ รูท้ กุ ข์ สมทุ ยั

12

นิโรธ มรรค รูส้ ิง่ ท่ีทาํ ใหท้ กุ ขเ์ กิด แลว้ รูว้ ิธีดบั ทกุ ขน์ นั้ ดว้ ยวิธี
อย่างไร พระพทุ ธเจา้ ทา่ นรูแ้ จง้ แทงตลอดอย่างนี้ เหตฉุ ะนนั้ พวก
เราเหลา่ ทา่ นทงั้ หลายท่ีมาน่งั อยู่ พวกเราทกุ คนก็ยอ่ มหลงอย่จู งึ
ไดม้ าเกิดเชน่ นี้ แตต่ วั ผเู้ ทศนน์ ีก้ ็หลงเหมือนกนั จงึ ไดม้ าเกิดกบั
โลกเขา ถา้ ไมห่ ลงแลว้ คงจะไมม่ าเกิดอีก อย่ใู นโลกนีก้ บั เขา ให้
มีความทกุ ขค์ วามเดอื ดรอ้ น ใหม้ ีเจบ็ มีป่วย มีโรคภยั ไขเ้ จ็บอย่าง
นี้ ใหม้ ีเกิดมีตายอยา่ งนี้ ถา้ รู้ อนั นีไ้ ม่รูจ้ งึ มาเกิดกบั คนอ่ืน มา
เกิดกบั เขา มาทกุ ขก์ บั เขาอยา่ งนีเ้ อง เหตฉุ ะนนั้ พวกเราเหลา่
ท่านทงั้ หลายใหม้ ากาํ หนดรูใ้ หเ้ ขา้ ใจอยา่ งนีแ้ หละ เรยี กวา่ การ
ปฏบิ ตั ิอยู่ เรยี กวา่ การปฏิปทาการปฏิบตั ิ

สว่ น สัมมาสงั กปั โปนนั้ เราออกมาอยา่ งนี้ จะใหเ้ ป็น
สมั มาสงั กปั โปนนั้ อยา่ งไร ในองคม์ รรคนี้ คอื เนกขมั มะสงั กปั โป
เหมือนเราออกจากบา้ นของเรา เรามาถือศีลก็ดี มาเอาศีลก็ดี
มาน่งั เจรญิ เมตตาเสยี สละจากบา้ นจากชอ่ ง ออกมาบวชก็ดี
เป็นชีก็ดี เป็นผา้ ขาวก็ดี เป็นสามเณร เป็นภิกษุก็ดี เรยี กวา่
เนกขมั มะ เนกขมั มะการออก ออกจากบา้ นจากช่อง ออกจาก

13

ญาติพ่ีนอ้ งวงศต์ ระกลู ออกมาเจรญิ ภาวนา มาทาํ คณุ งาม
ความดี มารกั ษาศีล อยา่ งนกี้ ็อาศยั ท่วี า่ เป็นเนกขมั มะอยา่ งหน่งึ
อพยาปาทะสังกปั โป การท่ีทาํ จติ ใจของตนเองไมม่ ีความโกรธ
ไม่พยาบาทบคุ คลใดเอาไว้ ไมม่ ีโทสะท่ีจะคิดอยา่ งนนั้ อยา่ งนี้
อยากไปทบุ ไปตีคนนนั้ คนนี้ อยากไปฆา่ คนนนั้ คนนีอ้ ยา่ งนี้
อยากไปโกรธคนนนั้ คนนีอ้ ยา่ งนี้ เวน้ จากการท่ีคดิ อยา่ งนนั้
อย่างวา่ อพยาปาทะสงั กปั โป คือวา่ เราไมพ่ ยาบาทใคร
อวิหงิ สาสังกปั โป นนั้ กลา่ วถงึ วา่ อย่ใู นองคม์ รรคคือไม่คิดจะ
เบยี ดเบียนใคร ไม่คดิ ใคร่ เกิดขนึ้ มาในดวงจติ ดวงใจ ไมค่ ดิ
อยากเบยี ดเบยี นคนนนั้ คนนี้ เบยี ดเบยี นสตั วท์ งั้ หลาย แมเ้ ป็น
สตั วต์ วั เลก็ ตวั ใหญ่ มีแขง้ มีขาก็ดี ไม่มีก็ดีอยา่ งนี้ เป็นมนษุ ย์
ดว้ ยกนั ก็ดี ไมค่ ดิ อยากไปเบยี ดเบยี นใคร เรยี กวา่ เป็นคนท่ี
เสยี สละจากการเบยี ดเบียนคนอ่ืน เรยี กวา่ สมั มาสงั กปั โปใน
สามอยา่ งนี้ เนกขมั มะสงั กปั โป อพยาปาทะสงั กปั โป
อวิหงิ สาสงั กปั โป ก็อยใู่ นมรรค

14

เหตฉุ ะนนั้ สัมมาวาจานนั้ อยา่ งไรอย่ใู นองคม์ รรค คือวา่ เรา
เวน้ จากการพดู คาํ โกหกพกลม หรอื พดู สอ่ เสยี ด พดู อยา่ งนี้ พดู
สอ่ เสยี ดนนั้ อย่างหน่งึ การผรุสวาท การท่ีเราไมพ่ ดู คาํ หยาบ ดา่
ชาติดา่ ตระกลู นนั้ ไม่คิดขนึ้ มาในจิตในใจ เราอยากไปพดู อยา่ ง
นนั้ อยา่ งนี้ อนั นีพ้ ดู จาปราศรยั ใหเ้ ป็นสาระแก่นสารอยา่ งนี้ นี้
แหละก็เป็นสมั มาวาจา

สัมมากมั มนั โตนนั้ อยา่ งไร ไม่คดิ อยากฆา่ สตั วต์ ดั ชีวติ
ทงั้ หลาย ทงั้ มนษุ ยก์ ็ดี ทงั้ สตั วเ์ ดรจั ฉานกด็ ี ไมค่ ิดฆา่ สตั ว์
ทงั้ หลายอย่างนี้ ไม่คดิ อยากจะลกั ทรพั ยข์ องบคุ คลผใู้ ด ไมค่ ิด
อยากประพฤติลว่ งสามีภรรยาของบคุ คลใดอย่ใู นภายในดวงจติ
ดวงใจ ใจของบคุ คลนนั้ ก็เป็นสมั มากมั มนั โต การงานท่ีชอบอยู่
ภายใจกายของตนเอง

สัมมาอาชโี ว เลยี้ งชีวิตโดยชอบนีอ้ ย่างไร คือวา่ เราเลีย้ ง
ชีวิตของตนเองใหช้ อบธรรม คือไมก่ ลา่ วอาํ พรางก็ดี กลา่ วเลียบ
เคียงนนั้ ก็ดี ไหนอะไรส่ิงใดไปหาอะไรไดม้ า ไดม้ าความบรสิ ทุ ธิ์
หรอื มีเงนิ มีทองมาซอื้ เอาสิ่งของมาบรสิ ทุ ธิบ์ รบิ รู ณ์ หรอื ไป

15

รบั ประทานอะไรก็ดี หาอนั ใดไดก้ ็ดี ขอใหเ้ ป็นสมั มาอาชีโว ไมไ่ ด้
ลกั ไม่ไดเ้ ป็นโจรเป็นขโมย ลกั เอาสิง่ เอาของของบคุ คลใด หาได้
ดว้ ยความบรสิ ทุ ธิ์ จงึ วา่ เลีย้ งชีพโดยชอบธรรม เพราะเลยี้ งชีพไม่
เบยี ดเบยี นคน อ่นื นีก้ ็เป็นสมั มาอาชีโว เลยี้ งชีพชอบ

สัมมาวายาโมนนั้ ความเพยี รชอบนนั้ อยา่ งไร คือวา่ ความ
เพียรชอบหนง่ึ เราเพียรระวงั ไมใ่ หบ้ าปเกิดขนึ้ ในดวงจิตดวงใจ
ของตวั เองนีอ้ ย่างหนง่ึ เพยี รละบาปท่เี กิดขนึ้ แลว้ คือเคยทาํ มา
กอ่ น เคยคิดมากอ่ นแลว้ ภายในดวงจติ ดวงใจของตนเอง คดิ จะ
ฆา่ สตั วต์ ดั ชีวติ ก็ดี คดิ จะลกั ทรพั ยก์ ็ดี คดิ จะลว่ งกามก็ดีอยา่ งนี้
การท่ีเราคิดเป็นบาป คิดตดั รอนคนอ่นื อยา่ งนี้ คิดจะฆา่ ฟันรนั
แทงคนอ่นื อยา่ งนี้ เราเคยคดิ ท่ีไมด่ อี ย่างนนั้ เราละ เราปลอ่ ย
เราวางได้ เราไม่คิดอย่างนนั้ เวน้ เสยี จากการคดิ อยา่ งนนั้ น่ีอยา่ ง
หนง่ึ บดั นีเ้ ราก็ยงั กศุ ลใหเ้ กิดขนึ้ คือวา่ เรายงั ไมไ่ ดท้ าํ ความดอี นั
ใด สิ่งใดท่ีจะเป็นคณุ งามความดี เราก็พยายามทาํ ซง่ึ คณุ งาม
ความดี หรอื เราไม่เคยมีศีล เราก็พยายามรกั ษาศลี ใหไ้ ด้ เราไมม่ ี
การเจรญิ เมตตาภาวนา จิตใจไม่สงบระงบั ก็พยายาม นีเ้ รยี กวา่

16

ยงั กศุ ลใหเ้ กิดขนึ้ เม่ือเราเจรญิ เมตตาภาวนาจติ ใจใหส้ งบเป็น
สมาธิอยา่ งนี้ หรอื ไดข้ นั้ สงู ๆไปกวา่ นนั้ เราก็ใหพ้ ยายามใหม้ นั
ตงั้ อย่หู รอื พะยงุ ยง่ิ ๆขนึ้ ไป เจรญิ ย่งิ ๆขนึ้ ไปในกศุ ล น่ีเรยี กวา่ เป็น
ความเพียรท่ีอย่ใู นองคม์ รรค

เหตนุ นั้ สัมมาสตอิ ยา่ งนี้ สมั มาสตอิ ยา่ งนมี้ นั อยา่ งไร การวา่
สมั มาสติ ตงั้ สตพิ จิ ารณาอยใู่ นกายของตนเอง กายของตนเอง
ใหต้ งั้ อยใู่ นกาย พิจารณาใหท้ ่วั สรรพางคร์ า่ งกายอยา่ งนี้ นี้
เรยี กวา่ สมั มาสติ มีอกี อย่างหนง่ึ ตงั้ อย่ใู นการเวทนามีความสขุ
หรอื มีความทกุ ข์ ท่ีจติ เสวยอยู่ หรอื ไมท่ กุ ขไ์ มส่ ขุ นนั้ ก็ตงั้ สติอยู่
ในเวทนาท่ีเกดิ ขนึ้ อยภู่ ายในกายของตนเองก็ดี หรอื พิจารณาอยู่
ในจิตของตนเองน่ีก็ดี เรยี กวา่ สมั มาสตอิ ีกอย่างหนง่ึ การท่ีเราตงั้
จิตพิจารณาจติ ในจิตตนเองอยู่ จิตของเราคดิ อย่างไร คดิ บญุ
หรอื คิดบาป คดิ ดหี รอื คิดช่วั คิดไดห้ รอื คิดไมไ่ ด้ คิดความสขุ หรอื
คิดความทกุ ขอ์ ย่างนี้ เรามาตงั้ สติพจิ ารณาอยู่ เรยี กวา่ สมั มาสติ
อนั นีพ้ จิ ารณาธรรมในธรรมนนั้ พิจารณายกธรรมขนึ้ มาขอ้ ใดขอ้
หนง่ึ ในสว่ นใดสว่ นหนง่ึ ทงั้ สงั ขารภายในและภายนอก นาํ ยกขนึ้

17

มาพนิ ิจพิจารณาไตรต่ รองอย่นู ่นั เรยี กวา่ พจิ ารณาธรรมในธรรม
ทงั้ ความเกิดขนึ้ และความเสอ่ื มไปของธรรม ใหท้ งั้ ความเกิดขนึ้
แลว้ ความเส่ือมอนั นีข้ องธรรมนี้ เรามาพจิ ารณาอยนู่ ่ีเรยี กวา่
สมั มาสติ

สัมมาสมาธนิ นั้ เรามาพนิ จิ พจิ ารณาแลว้ เราอบรมจิตใจ
ของตนเองใหเ้ ป็นสมาธิ ในตงั้ แตข่ นั้ ตน้ ตงั้ แตข่ ณิกสมาธิก็ดี จิต
สงบสขุ ช่วั ครูช่ ่วั คราวก็เฉียดๆ ตอ่ ถงึ ไปแลว้ จิตของเราสงบซกั
๒๐ นาที ๓๐ นาที ม่นั คงกวา่ เดมิ นนั้ ลงไปเรยี กวา่ อปุ จาระสมาธิ
อปุ จาระสมาธิก็เปรยี บเทยี บเหมือนกบั ศลิ าทบั หญา้ เม่ือสงบไป
ช่วั ครูน่ านพอสมควร บดั นีเ้ ม่ือเราเอาศลิ าออก หญา้ ย่อมงอก
เกิดขนึ้ อนั นีเ้ ราถอนออก ถา้ เราไมเ่ จรญิ บอ่ ยๆมนั กย็ ่อมไม่สงบ
อยา่ งนนั้

สมั มาสมาธินนั้ กลา่ วถงึ วา่ เป็นอปั ปนาสมาธิอยา่ งนี้ จิตของ
เราสงบแนว่ แน่ ยืนหยดั ม่นั คงไม่ร่วั ไหลไปตามสญั ญาอารมณ์
ภายนอก ตงั้ อย่ใู นอารมณเ์ ดยี วเป็นเอกคั ตารมณอ์ ย่างนี้ เรยี ก
วา่ อปั ปนาสมาธิ เหตฉุ ะนนั้ จิตของเราตงั้ อยใู่ นอปั ปนา อปั ปนา

18

สมาธินีต้ งั้ ม่นั อยู่ เราจงึ จะไดต้ รกึ ตรองซง่ึ วปิ ัสสนากรรมฐาน
ตอ่ ไป มนั เรยี นปัญญาใหแ้ จง้ ชดั อย่างนี้ น่ีแหละจติ ของเรามา
ตงั้ อยใู่ นอปั ปนาสมาธิ การท่ีวา่ ไม่รูท้ งั้ ความสขุ และความทกุ ข์
มนั ปลอ่ ยวางเป็นอเุ บกขาและเอกคั ตาอย่ตู งั้ ม่นั อยอู่ ย่างนี้
เรยี กวา่ เป็นอปั ปนาสมาธิในองคม์ รรค

เหตฉุ ะนนั้ พวกเราเหลา่ ท่านทงั้ หลายเรามาพจิ ารณาดแู ลว้
วา่ พระบรมศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้ นีแ้ สดงถงึ มรรค ๘ ทกุ ข์
สมทุ ยั นิโรธ มรรค อนั นี้ นนั้ เรามาพนิ ิจพิจารณาใหร้ ูด้ ว้ ยปัญญา
ดว้ ยสมั มาทฐิ ิปัญญาเหน็ ชอบ เหน็ ชอบใหร้ ูว้ า่ ทกุ ขจ์ รงิ ท่ีมี
เกิดขนึ้ ในรา่ งกายนี้ จะทกุ ขจ์ รงิ สง่ิ ท่ที าํ ใหท้ กุ ขเ์ กิดนนั้ คอื ความ
อยาก คอื ตณั หามีความอยากไม่รูจ้ กั จบจกั สนิ้ นนั้ อยากเท่าไหร่
ก็ไมร่ ูจ้ กั จบจกั พอ อยากมากก็ยอ่ มทกุ ขม์ าก อยากนอ้ ยก็ยอ่ ม
ทกุ ขน์ อ้ ย เรามาพิจารณาดเู รา บคุ คลใดท่ีมีความอยากมาก
โลภมากไปเป็นโจรเป็นขโมยอย่างนี้ หรอื วา่ มีความคดิ อยู่ มี
ความอยากมากอยู่ แมจ้ ะอยากอะไรก็ตาม ถา้ อยากมากเกินไป

19

ไมไ่ ดต้ งั้ สติพจิ ารณาอย่ยู ่อมมีความทกุ ขม์ าก ดนิ้ รนมากเทา่ ไรก็
ย่ิงทกุ ขม์ าก เหตฉุ ะนนั้ คนมีความอยากนอ้ ยก็ยอ่ มมีทกุ ขน์ อ้ ย

แตค่ วามอยากในทางท่ีดเี ราก็เอาใหต้ งั้ สติไว้ พอควรไดก้ ็จงึ
เอา ไมค่ วรไดก้ ็ไมเ่ อา อยา่ งนีเ้ หมือนเราจะทาํ บญุ ทาํ ทานการ
กศุ ลหรอื เราจะน่งั เจรญิ เมตตาภาวนาก็ดี เราตอ้ งการความสขุ
อย่างนี้ ความอยากชนิดนี้ ถงึ แมเ้ รากาํ ลงั อยากอยู่ เราก็มงุ่ หวงั
หาความสขุ แตอ่ ยา่ ไปดิน้ รนเกินไป ใหค้ อ่ ยทาํ คอ่ ยไป ใหค้ อ่ ย
เจรญิ เมตตาภาวนา ใหค้ อ่ ยทาํ ไปอยา่ งนี้ ถา้ บคุ คลใดทาํ มาก
เกินไปหรอื ทรมานมากเกินไปย่อมมีความทกุ ขม์ าก หรอื อยาก
มากเกินไปก็ยอ่ มย่งิ ไมส่ งบระงบั เป็นสมาธิ อย่างนีแ้ หละมนั จะมี
ความทกุ ข์

สว่ นบคุ คลบางคนอยากไมถ่ กู หนทางอยา่ งนี้ อยากมาก
เกินไป โลภมากเกินไปก็ยอ่ มมีความทกุ ขม์ าก เหตฉุ ะนนั้ ก
เหมือนกบั บคุ คลท่ีวา่ มีสรา้ งอะไรไวต้ า่ งๆ สรา้ งโรงงานไวห้ ลายๆ
สถานท่ี หลายจงั หวดั อยา่ งนี้ จติ ของเราก็ไปคดิ กบั โรงงานน่นั
คดิ กบั โรงงานนี้ คดิ กบั การคา้ ขายในสง่ิ นนั้ สง่ิ นี้ จิตก็ออกไปท่ีน่นั

20

บา้ งออกไปท่ีน่ีบา้ ง จิตก็ยอ่ มเบา ยอ่ มไมเ่ ป็นสมาธิ จติ ก็วนุ่ วาย
ไปตามสญั ญาอารมณอ์ ยา่ งนนั้ ก็ยอ่ มมีทกุ ขม์ าก

เหตฉุ ะนนั้ น่ะความอยากน่ีหละเป็นกระแสของตณั หา เป็น
ความอยากท่ีไม่รูจ้ กั จบจกั สนิ้ น่นั แหละ เราไมร่ ูจ้ กั พอ ไม่รูจ้ กั
พอเหมาะพอสมอยา่ งนีแ้ หละ มนั ทาํ ใหม้ คี วามทกุ ขเ์ กิด อนั นี้
แหละเราเหลา่ ท่านทงั้ หลายใหม้ าตรกึ ตรองดตู นเองวา่ เม่อื
ตนเองมีความอยากมามากเกินไป จะอยากอะไรก็ดี ถึงแมจ้ ะ
อยากทางฝ่ายดหี รอื อยากเบยี ดเบียนคนอ่นื อยากฆา่ คนอ่ืน
โกรธคนอ่นื น่นั ก็ดี ก็ยอ่ มมีทกุ ขแ์ คไ่ หน มที กุ ขม์ ากอยา่ งไร หรอื มี
ความอยากทางราคะของท่พี อใจ ของท่ีชอบใจ แมอ้ ยากมากอยู่
ภายในจิตใจกย็ อ่ มมีทกุ ขม์ าก อนั นีห้ ละเรามาพจิ ารณาวา่
กระแสของตณั หาน่ีแหละเป็นเหตใุ หท้ กุ ขเ์ กิด

น่ีเรามาพนิ ิจพจิ ารณาใหเ้ ขา้ ใจ ใหต้ งั้ สติ ใหร้ ูจ้ กั
พอประมาณในของสิ่งเหลา่ นี้ มนั จงึ จะไมม่ ีความทกุ ข์ ถา้ เรามา
เรยี นรูม้ าดใู หเ้ ขา้ ใจอยา่ งนีแ้ ลว้ จงึ จะรูจ้ กั ถา้ รูจ้ กั แลว้ เรารูจ้ กั
ทกุ ขแ์ ลว้ เรากย็ ่อมเบ่อื หนา่ ยคลายความกาํ หนดั ยอ่ มตดั กระแส

21

ของตณั หา ท่มี นั มีจะทาํ ใหท้ กุ ขเ์ กิดอยา่ งนี้ นีแ้ หละพระบรม
ศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้ แสดงใหป้ ัญจวคั คยี ท์ งั้ ๕ นนั้ ฟัง วา่
รา่ งกายอนั นีแ้ หละเป็นของท่ไี มเ่ ท่ียง รา่ งกายอนั นีแ้ หละเป็นของ
ท่ีมีทกุ ข์ รา่ งกายอนั นีแ้ หละเป็นของเป็นอนตั ตา ถา้ หากวา่
รวบรวมปัญญา ปัญญาอญั ญาโกณฑญั ญะมาพนิ ิจพจิ ารณา
มาวา่ โอ๋ รา่ งกายอนั นีต้ งั้ แตเ่ กิดมาแลว้ ยอ่ มมีทกุ ข์ ทงั้ เป็นของท่ี
ไม่เท่ียง ถา้ ของนีไ้ มเ่ ท่ียงแลว้ เกิดมาตงั้ แตเ่ ลก็ ๆนอ้ ยๆโนน่ มนั ก็
ไม่เลก็ อยอู่ ย่างเดิม มนั ก็ใหญ่ขนึ้ มาเรอ่ื ยๆ อย่างนีม้ าเป็นหนมุ่
เป็นสาวมาถงึ ท่ามกลางคน มาถงึ เฒา่ ถึงแก่ มาถงึ หวั ขาวหวั
หงอกๆ ฟันหลดุ ฟันกรอ่ น หนงั เห่ียวหนงั แหง้ หนงั ยน่ แกม้ ตอบ
อย่างนี้ น่ีแหละมนั แสดงถึงความชราดว้ ย ความไมเ่ ท่ียงก็ยอ่ มมี
ชรา มนั เป็นธรรมดา บดั นีค้ วามเป็นทกุ ขใ์ นรา่ งกายเกิดขนึ้ มา
ยอ่ มเป็นโรคภยั ไขเ้ จบ็ เบยี ดเบียน ย่าํ ยีวที ามาตงั้ แตต่ น้ ทงั้ หวิ ทงั้
กระหาย ทงั้ มคี วามรอ้ นและความหนาว แสดงถงึ แตค่ วามทกุ ข์
ทงั้ กลางวนั กลางคนื

22

เหตฉุ ะนนั้ เม่ือรา่ งกายของบคุ คลมีความทกุ ขอ์ ย่อู ยา่ งนี้ เรา
ก็มาพนิ ิจพจิ ารณาใหเ้ ขา้ ใจน่ีแหละ น่ีเรยี กวา่ มนั เป็นทกุ ข์ มนั
เป็นอนตั ตานนั้ คอื มนั บอกไมไ่ ด้ ใชไ้ ม่ฟัง ไม่สมปรารถนา สม
ความหวงั ของเราของทา่ นทงั้ หลาย ท่ีสตั วท์ งั้ หลายท่ีเกิดมาใน
โลกนที้ ่ีเราปรารถนาอยู่ เราตอ้ งการวา่ อยากใหม้ นั ตงั้ อยสู่ มใจ
หวงั แลว้ ย่อมไมม่ ีความสมใจหวงั น่นั เอง คอื รา่ งกายตงั้ แตเ่ ลก็ ๆ
อยู่ ก็ย่อมไม่เลก็ บอกใหเ้ ลก็ อย่อู ยา่ งเดมิ มนั ก็ยอ่ มไมเ่ ลก็ มาถงึ
เป็นหนมุ่ เป็นสาวก็ดี อยากใหเ้ ป็นหนมุ่ เป็นสาวอยู่ มนั ก็ไม่อยู่
เป็นหนมุ่ เป็นสาวมนั ก็เดนิ ขนึ้ ไปเรอ่ื ยๆ

มาถงึ เฒา่ ถึงแกถ่ งึ หวั ขาวหวั หงอกอยา่ งนี้ ผมของเราดาํ ๆ
วา่ เป็นของเรา เราไมอ่ ยากใหม้ นั ขาว มนั ก็ขืนขาว ดือ้ ดงั ไม่ฟัง
เรา ถา้ เป็นของเรามนั ยอ่ มไมข่ าวอยา่ งนนั้ น่ีแหละมนั ลกั ษณะ
แสดงใหเ้ ราเขา้ ใจ ฟันของเราก็ดี ถา้ เราถือวา่ เป็นของเรา บอก
ไมใ่ หม้ นั หลน่ มนั ก็ยอ่ มไม่หลน่ อนั นีม้ นั ดอื้ ดงึ ขืนรว่ งหลน่ ไปได้
หนงั ของเรากด็ ี ใหม้ นั ตงึ อยอู่ ย่างเดมิ ไมเ่ ห่ียว ไม่แหง้ มนั ก็ขืน
ดอื้ ดงึ เห่ียวแหง้ ไปได้ อยา่ งนแี้ หละ ตาก็ดี มนั ฝา้ ฟางอยา่ งนี้ แต่

23

กอ่ นมนั ดี บดั นีม้ นั ฝา้ ฟาง เราอยากใหม้ นั ดีเหมือนอยา่ งเดมิ มนั
ก็ไม่ดอี ย่อู ยา่ งเดิมสมความหวงั ความปรารถนาของบคุ คล

การท่ีเป็นโรคภยั ไขเ้ จ็บปวดก็ดี ปวดสรรพางคร์ า่ งกายกด็ ี
อย่างนี้ แลว้ ไม่เจบ็ ปวดสรรพางคร์ า่ งกายของเราอย่างนี้ ถา้ เรา
กินยาไม่หาย ฉีดยาไม่หาย น่ีมนั ก็ปวดอยู่ ถา้ เป็นกายของเรา
มนั กย็ ่อมไมเ่ จบ็ ไม่ปวด เราก็บอกไดใ้ ชฟ้ ังวา่ รา่ งกายของเรานะ
อยา่ เจบ็ อยา่ ปวดนะ มนั ก็ย่อมไม่เจบ็ ไม่ปวดอย่างนี้ น่ีแหละถา้
เป็นของเรา อนั นีม้ นั ไม่เป็นอย่างนนั้ ถา้ กนิ ยาหรอื ฉีดยาไม่ถกู
แลว้ มนั ก็ย่อมเจ็บปวด ป่วยไขไ้ ปเรอ่ื ยๆ อยา่ งบอกไมใ่ หเ้ จบ็ มนั
ก็ขืนดอื้ ดงึ เจบ็

เอาแลว้ บดั นีบ้ อกไม่ใหต้ าย มนั ก็ดือ้ ดงึ ตาย ถา้ เป็นรา่ งกาย
ของเราแลว้ เราบอกไมใ่ หต้ าย มนั ย่อมไมต่ าย อนั นีม้ นั ขนื ดอื้ ดงึ
ตายไปได้ เหตฉุ ะนนั้ หละเราก็เหน็ อย่คู นตายทงั้ ญาตพิ ่ีนอ้ งพอ่
แมก่ ็ดี อย่างนปี้ ่ยู ่าตายายของเราก็ดี เคา้ ลว่ งลบั ดบั ไปแสดงให้
เราเหน็ ทกุ คนก็ไมอ่ ยากใหล้ ว่ งลบั ดบั ไปจากซง่ึ กนั และกนั แต่

24

ของเหลา่ นีม้ นั ตงั้ อย่อู ย่างนนั้ เป็นธรรมดา เหตฉุ ะนนั้ ใหเ้ รามา
พินิจพิจารณาอย่างนีแ้ หละ

อญั ญาโกณฑญั ญะรูจ้ กั อยา่ งนีแ้ ลว้ จิตใจก็ตกกระแสธรรม
วา่ ยํ ก�ิ จฺ ิ สมุทยธมมฺ ํ สพพฺ นตํ นิโรธธมมฺ นฺติ โถ! สง่ิ ใดสง่ิ
หนง่ึ เกิดขนึ้ แลว้ ส่ิงนนั้ ยอ่ มมคี วามดบั ไปเป็นธรรมดา จติ ก็ตก
กระแสธรรมไดเ้ ป็นพระโสดาอยา่ งนี้ เหตฉุ ะนนั้ พวกเราเหลา่
ทา่ นทงั้ หลาย ทงั้ คฤหสั ถแ์ ละบรรพชติ ไดม้ าพนิ ิจพิจารณาให้
ปลงปัญญาตรกึ ตรองใครค่ รวญใหร้ ูแ้ จง้ แทงตลอด ตามสติ
กาํ ลงั ของตนเองออกไปใครค่ รวญดวู า่ มนั จะเป็นอยา่ งนนั้ มยั้
รา่ งกายของเรานีใ้ หม้ าพินิจพจิ ารณาอยา่ งนี้ อนั นีแ้ สดงถงึ โทษ
ของรา่ งกาย แตร่ า่ งกายนมี้ นั ก็เป็นคณุ ของท่ีมีคณุ ก็ย่อมมีโทษ
ของท่ีมีโทษก็ยอ่ มมีคณุ เหมือนกนั บดั นีจ้ ะแสดงถึงคณุ ของ
รา่ งกาย

เม่ือเราไดร้ า่ งกายเกิดขนึ้ มาแลว้ รา่ งกายมีคณุ อย่างไร คอื
วา่ รา่ งกายนเี้ รามีแลว้ เราจะเอาไปทาํ บญุ ทาํ ทานการกศุ ลเชน่ มา
เวียนเทียนก็ดี มาไหวพ้ ระก็ดี มาสวดมนตน์ ่นั ก็ดี ทาํ วตั รน่งั สวด

25

มนตน์ ่ีก็ดี น่งั ฟังเทศนฟ์ ังธรรม รกั ษาศลี เจรญิ เมตตาภาวนาก็ดี
ก็อาศยั ซง่ึ กายน่ีแหละ เราจะเอาท่ีไหนมาทาํ เราจะรกั ษาศีลก็
อาศยั กาย เราจะเจรญิ เมตตาภาวนาใหร้ ูแ้ จง้ แทงตลอด ก็อาศยั
ซง่ึ กายน่นั แหละ น่ีเรยี กวา่ กายมีคณุ เป็นบญุ เป็นกศุ ล เป็นของท่ี
มีคณุ อยา่ งนี้ เรามาเรยี นรู้ มาดใู หเ้ ขา้ ใจซง่ึ รา่ งกาย รูปธรรม
นามธรรมน่ีแหละ รูแ้ จง้ แทงตลอดแลว้ ปัญญาของเราก็เกิดขนึ้
อย่างนี้ ก็ถือวา่ กายนีเ้ ป็นของท่ีมีคณุ ทีหลงั แตใ่ นเบือ้ งตน้ ให้
แสดงถึงวา่ รา่ งกายนีเ้ ป็นของท่ีมโี ทษ บดั นเี้ ม่ือปัญญาของเรารู้
รา่ งกายใหเ้ ขา้ ใจแลว้ เรยี กวา่ กายนีเ้ ป็นของท่ีมีคณุ ถา้ ไมม่ ี
รา่ งกายอนั นี้ เราจะไปรูท้ ่ีไหน ไปรูร้ ูปธรรม นามธรรมไดท้ ่ีไหน รู้
ขนั ธห์ า้ ไดท้ ่ีไหน ก็เพราะมีรา่ งกายน่ีแหละเราจงึ จะพน้ ทกุ ขไ์ ด้
เหตฉุ ะนนั้ จงึ ถือวา่ รา่ งกายนีเ้ ป็นของท่ีมีบญุ มีคณุ ตอ่ บคุ คลท่ีมา
พนิ ิจพจิ ารณากา้ วลว่ งทกุ ขไ์ ปอยทู่ ่ีสขุ เกษมสนั ต์

เหตฉุ ะนนั้ พวกเราเหลา่ ทา่ นทงั้ หลาย เม่ือบคุ คลใดมาเรยี นรู้
มาดใู หเ้ ขา้ ใจตามพระบรมศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้ แลว้ ก็อย่า
ไปอวดตนเองวา่ เป็นผเู้ รยี นรู้ รูแ้ จง้ แทงตลอดในธรรมคาํ สอน

26

ของพระพทุ ธเจา้ แตใ่ หม้ าเรยี นรู้ มาดใู หเ้ ขา้ ใจเทา่ นนั้ เม่อื
บคุ คลใดมาเขา้ ใจแลว้ บคุ คลนนั้ ยอ่ มมีความเบ่ือหนา่ ยคลาย
ความกาํ หนดั สิน้ ความกาํ หนดั ไมป่ รารถนาอยากมาเกดิ อกี อยู่
ในโลกนี้ วา่ มาเกิดอีกยอ่ มมีความทกุ ขอ์ ยา่ งนีแ้ หละ เหมือนพวก
เราเหลา่ ทา่ นทงั้ หลายท่ีน่งั อย่นู ีน้ ่ีแหละ ก็ยอ่ มมีความทกุ ข์
เหมือนกนั

เหตฉุ ะนนั้ การแสดงธรรมมาแตต่ น้ จนอวสานนี้ สงิ่ ใดท่ีควร
นาํ เอาไปประพฤตปิ ฏบิ ตั หิ ดั กายวาจาจิตของตนเองแลว้ ก็ให้
นาํ เอาไปประพฤติปฏบิ ตั กิ าย วาจา จิตของตนเองไปตาม
ทาํ นองคลองธรรมคาํ สอน สว่ นสงิ่ ใดแลว้ ควรเสียสละปลอ่ ยวาง
เหมือนตณั หา อนั นนั้ ควรเสยี สละ ควรปลอ่ ย ควรวางเสยี อยา่ ง
นีก้ ็ใหค้ วรปลอ่ ย ควรวางไปตามสติกาํ ลงั ของตนเอง ใหม้ าตงั้ อยู่
ในสงิ่ ท่ีเราควรประพฤติปฏิบตั ิใหเ้ ขา้ ใจนนั้ เม่ือเขา้ ใจธรรมคาํ
สอนของพระพทุ ธเจา้ แลว้ อย่างนี้ เม่ือบคุ คลนนั้ มารูแ้ จง้ แทง
ตลอดตามสตกิ าํ ลงั ของตนเอง บคุ คลนนั้ จะไปอย่ทู ่ีใดก็ดี จะไป
ยืนอยทู่ ่ีใดก็ดี เดนิ ไปท่ีไหนก็ดี น่งั อย่ทู ่ีใดก็ดี นอนอย่ทู ่ีใดก็ดี

27

ยอ่ มมีความรูอ้ ย่แู ละตงั้ อยู่ ยอ่ มเป็นผมู้ ีความสขุ อยู่ เพราะมา
เรยี นรูม้ าดใู หเ้ ขา้ ใจน่นั เอง

การเทศนามาแตต่ น้ จนอวสานแสดงเร่อื งธมั มจกั กปั วตั ตน
สตู รโดยย่อๆ พอใหเ้ อาไปพนิ ิจพิจารณากเ็ ห็นพอสมควรแก่เวลา
ก็ขอยตุ ธิ รรมเพียงเทา่ นี้ เอวงั ก็มีดว้ ยประการะฉะนี้

ท่ีมา: https://youtu.be/OH_3tV8ITmA

28


Click to View FlipBook Version