The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กินของเก่า โดย หลวงปู่แบน ธนากโร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-17 21:03:57

กินของเก่า โดย หลวงปู่แบน ธนากโร

กินของเก่า โดย หลวงปู่แบน ธนากโร

Keywords: กินของเก่า,หลวงปู่แบน ธนากโร

กนิ ของเกา่
หลวงป่แู บน ธนากโร
เหลียวดนู า้ํ ฝนตกไหลมา บางทีก็คดิ เอ้ อยากเก็บเอาไว้
ไหลทิง้ ไปเสยี ดาย แลว้ ก็มาคดิ ถงึ นา้ํ ฝนเป็นนา้ํ สะอาด เป็นนา้ํ
ด่ืม นา้ํ ฝนเป็นนา้ํ สะอาด ตกมาจากอากาศ ตกมาจากฟา้ นา้ํ ฝน
ท่ีมนั อย่บู นฟา้ มนั มาจากไหน ทา่ นพดู กนั วา่ อาศยั แดดเผานา้ํ
แลว้ ก็กลายเป็นไอนา้ํ ขนึ้ ไป ลอยขนึ้ ไปบนอากาศ อาศยั ความ
รอ้ นเผาเป็นไอนา้ํ กลายเป็นเมฆเป็นหมอก ไอนา้ํ ลอยอยบู่ น
อากาศรวมกนั เขา้ มากๆ ถกู ลมพดั เขา้ มาแตกกระจายเป็นเมด็
ฝนออกมา เป็นเม็ดฝนตกลงมา
แมแ้ ตฝ่ น แมแ้ ตน่ า้ํ เคา้ ก็เป็นวฏั จกั ร หมนุ ลงเป็นเมด็ ฝน
แลว้ ก็มาเป็นนา้ํ แลว้ กว็ นขนึ้ ไปเป็นไอนา้ํ แลว้ ก็หมนุ ลงมาเป็น
เมด็ ฝน เราก็ไดก้ ินไดด้ ่มื ไดอ้ าบ แลว้ ก็หมนุ ไปเป็นไอนา้ํ เป็นเมฆ
เป็นหมู่ แลว้ ก็กลบั มาเป็นนา้ํ ฝนอีก นา้ํ ท่ีเราด่ืม ไมร่ ูว้ า่ เราด่มื ก่ี
ครงั้ ก็ของมนั หมนุ อยอู่ ยา่ งนี้ นา้ํ ท่ีเราด่ืมไม่รูว้ า่ ด่มื วนั ละก่ีครงั้

1

นา้ํ ท่ีเราด่ืมไมร่ ูว้ า่ เป็นนา้ํ ท่ีเราเคยบรโิ ภคเคยใชส้ อยแลว้ ก็
กลายเป็นไอนา้ํ กลายเป็นเมฆเป็นหมอก กลายเป็นฝน

มนั ก็เหมือนกบั ลมหายใจของเราอยา่ งเนยี้ หายใจเขา้ ไป
แลว้ ก็หายใจออก ลมหายใจออกไป ก็ออกไปเป็นอากาศขา้ ง
นอก แลว้ ก็หายใจเขา้ มาอกี ก็เอาอากาศขา้ งนอกนนั้ นะ่ ออกมา
หายใจเขา้ มา แลว้ ก็หายใจออกไปอีก ก็เอาลมหายใจนนั้ น่ะ
ออกไปเป็นลม เป็นอากาศขา้ งนอก แลว้ กห็ ายใจ เอาลม เอา
อากาศขา้ งนอกออกมา น่กี ็เป็นวฏั จกั ร

อาหารท่ีเราบรโิ ภคนนั้ แลว้ ก็ขบั ถา่ ยออกไป ขบั ถา่ ยทางตา
ขบั ถา่ ยทางหู ขบั ถ่ายทางจมกู ขบั ถา่ ยทางชอ่ งวา่ งทงั้ หลาย มี
ชอ่ งวา่ ง มีรูร่วั ตรงไหน ขบั ถา่ ยทงั้ นนั้ ขบั ถา่ ยก็คืออาหารท่ีเรา
บรโิ ภคเขา้ ไปน่ีแหละ ขบั ออกไป ถา่ ยออกไป ระบายออกไป ลง
ไปในแผน่ ดิน ไม่มีท่ีอ่นื จะไปท่ีอ่นื ไม่ลงแผน่ ดินไม่มี แลว้ อาหาร
ท่ีเราบรโิ ภคก็เกิดจากแผน่ ดนิ นนั้ เขา้ มาบรโิ ภคเขา้ ไปอีก แลว้ ก็
ขบั ถ่ายออกไปเป็นแผน่ ดนิ แลว้ ก็เอาอาหารท่ีในแผน่ ดนิ นนั้ นะ่

2

บรโิ ภคเขา้ ไปอกี เรยี กวา่ บรโิ ภคของเก่า กินของเกา่ แลว้ ก็หลง
วา่ เป็นของใหมเ่ รอ่ื ยไป หลงวา่ เป็นของใหม่เรอ่ื ยไป

ดิน นา้ํ ลม ไฟท่ีมีอยใู่ นโลกอนั นี้ เราเคยมาเป็นเจา้ ของ ดนิ
นา้ํ ลม ไฟ หาประมาณมไิ ด้ เกิดมาภพไหนชาตไิ หน ก็เอาดนิ
เอานา้ํ เอาลม เอาไฟน่ีหละ มาเป็นตวั เป็นตน เป็นรูปเป็นรา่ ง
เป็นท่ีอยอู่ าศยั ของจิต ตายไปมาเกิดใหม่ ก็เอาดิน เอานา้ํ เอา
ลม เอาไฟ ท่มี ีอยนู่ ่ีหละ เอามาเป็นตวั เป็นตน เป็นเรอื นรา่ งของ
จิตใจ เกิดก่ีครงั้ ๆก็เอาดนิ นา้ํ ลม ไฟท่ีเราตายแลว้ น่นั น่ะ เอามา
เกิดใหม่ เอาดนิ นา้ํ ลม ไฟ ท่ีเราทงิ้ แลว้ นะ่ เอามาเป็นตวั เป็นตน
ใหม่ เราก็เป็นของใหม่ ทงั้ ๆท่ีไม่รูม้ นั ทงิ้ เป็นของเกา่ ทงิ้ ไปก่ีครงั้ ก่ี
หน หาประมาณไม่ไดแ้ ลว้ เราก็วา่ เป็นของเกิดใหม่ เป็นของใหม่
ไมร่ ูว้ า่ มนั แกม่ นั เฒา่ มนั เนา่ มาก่ีครงั้ แลว้ หาประมาณไมไ่ ด้ ก็
เอาแตข่ องเกา่ นีม้ าเป็นตวั เป็นตน มีแตข่ องเกา่ ท่ีมีอยใู่ นโลกมา
เป็นตวั เป็นตน ตายก็ทงิ้ ของเก่า ทิง้ ของเกา่ ท่ีเป็นตวั เป็นตนทงิ้
ไป เวลาเกิดใหม่ก็เอาของท่ีทงิ้ แลว้ มาเป็นตวั เป็นตนเป็น
ของใหม่ ความจรงิ มนั ก็เป็นของเก่าเท่านนั้ ไมม่ ีอะไรเป็น

3

ของใหม่ ฝนตกมาจากฟา้ ก็เป็นของเกา่ เป็นของท่ีมีอย่แู ตเ่ ก่า
ทงั้ นนั้ จงึ หาอะไรท่ีจะเป็นตวั เป็นตนคงท่ีไมม่ ี จงึ วา่ วฏั จกั ร

สิ่งเหลา่ นีเ้ ราก็ควรท่ีจะมีความจาํ เป็นท่ีจะตอ้ งศกึ ษา ถา้
หากวา่ เราไมศ่ กึ ษาแลว้ เราจะหลงแตข่ องเกา่ กนั เกิดมาใหม่ก็
คิดวา่ เป็นของใหม่ เป็นเด็กนอ้ ยนา่ รกั เป็นหนมุ่ เป็นสาวขนึ้ มา
สดใสงดงาม มองวา่ เป็นของสวยของงามขนึ้ มา มนั ก็ของทงิ้ แลว้
ไม่รูก้ ่ีภพก่ีชาติมา อาหารท่ีบรโิ ภคๆ มนั ก็เอาดินมาบรโิ ภค
เพราะอาหารทงั้ หมดท่ีบรโิ ภค ไมม่ ีดนิ อาหารไมม่ ี ก็กินดนิ กนั
ไม่มีดนิ อาหารไม่มี กินดนิ กนั กห็ ลงวา่ เป็นอาหารอยา่ งนนั้
อาหารอยา่ งนนั้ เอรด็ อรอ่ ย สมมตุ กิ นั วา่ อย่างนนั้ อรอ่ ยอยา่ งนนั้
อรอ่ ยซือ้ กนั มาเป็นรอ้ ยเป็นพนั มนั ก็ของเกา่ ทงั้ นนั้ ไม่รูว้ า่ มนั
ตายมาแลว้ ซาํ้ ๆซากจาํ นวนเท่าไหร่ เคา้ วา่ เป็นของใหมส่ ดๆ
รอ้ นๆ ยงั รอ้ นอยู่ ยงั รอ้ นอยู่

วธิ ีการทงั้ หลายเน่ียมนั มอมเมาเราใหล้ มุ่ หลงทงั้ นนั้ วธิ ีการ
ทงั้ หลายโลกเขาสรา้ งเขาคดิ ขนึ้ มาเป็นวิธีการท่ีจะมอมเมาให้
เราๆสตั วโ์ ลกน่ีลมุ่ หลงมวั เมา แลว้ ก็พากนั พอใจ แลว้ ก็มาติดมา

4

ขอ้ งอย่กู บั ส่งิ ของเกา่ เหลา่ นี้ มาพอใจ มายนิ ดี มาตดิ มาขอ้ ง อยู่
กบั ของเกา่ ท่ีทงิ้ แลว้ ไมร่ ูก้ ่ีครงั้ ก่ีหนนี้ แลว้ ยงั จะตอ้ งเสวยของเก่า
เสวยของทงิ้ เสวยของตายกนั อกี ตอ่ ไป แลว้ ก็ยงั จะยนิ ดีของท่ี
ทงิ้ ๆแลว้ ไม่รูก้ ่ีครงั้ ไม่รูน้ านนบั จาํ นวนครงั้ ไมไ่ ด้ หาประมาณ
ไม่ได้ ก็ยงั เสวยกนั ตอ่ ไปดว้ ยความช่นื อกช่ืนใจ

เอามาคิด เอามาพจิ ารณา แลว้ ก็เป็น เร่อื งท่ีนา่ คดิ น่า
พิจารณา ไม่มีอะไรเป็นของเรา จะวา่ สรรี ะรา่ งกาย ผม ขน เลบ็
ฟัน หนงั นกี้ ็เป็นของเกา่ เกิดมาจากอาหารท่ีเป็นของเกา่ เกิด
จากอาหารท่ีเป็นของตาย ของทงิ้ แลว้ หาประมาณมไิ ด้ ลงไปใน
แผน่ ดิน คนื สภาพความเป็นแผ่นดินเหมือนเดมิ แลว้ เอาแผน่ ดนิ
นนั้ หละเอามาสมมตุ ิกนั ในเม่ือเป็นรูปเป็นรา่ งอย่างนนั้ น่ีก็เอา
มาเป็นสมมตุ กิ นั เป็นอยา่ งนนั้ ๆ แลว้ ก็กิน เอามาเป็นอาหารก็กิน
มนั เขา้ ไป กินลงไปแลว้ ก็มาเป็นตวั เป็นตนเป็นคนสตั ว์

พระพทุ ธเจา้ ทา่ นจงึ สอนใหพ้ ิจารณาอาหาร ใหเ้ ห็นเป็นดิน
ไป ใหเ้ ป็นนา้ํ ไป เหน็ เป็นลมไป ใหเ้ หน็ เป็นไฟไป เพราะมนั ดนิ มี
จรงิ มนั มาจากดิน เราไม่เอามาเป็นอาหาร มนั ก็เป็นดนิ ทงิ้ ทบั

5

ถมแผ่นดิน ทงั้ ใบไมแ้ หง้ ๆ นานๆเขา้ มนั กเ็ ป็นดนิ ได้ เพราะถา้
ธรรมชาติมนั เกิดจากแผน่ ดนิ ในท่ีสดุ มนั กแ็ ปรสภาพ มนั ก็จะ
แปรไปยงั ไงกช็ ่าง มนั ก็ตอ้ งแปรเป็นแผน่ ดนิ เหมือนเดิม เพราะ
มนั เป็นธาตดุ นิ สมมตุ วิ า่ น่ีเป็นตน้ ไมก้ ็ชา่ ง ตน้ ใหญ่ขนาดไหน
นานๆเราทงิ้ เนา่ มนั ก็เป็นแผน่ ดินขนึ้ มา เราจะสงั เกตเราเอากอง
ขยะอะไรไปกองๆไว้ เวลากองขยะมนั เนา่ ตรงนนั้ กลายเป็น
แผ่นดนิ เนนิ สงู ขนึ้ มา ผมของเราทกุ เสน้ ขนของเราทกุ เสน้ น่ี
อวยั วะทกุ สว่ นตอ้ งทบั ถมเรอ่ื ยเต็มแผ่นดนิ ไปทงั้ นนั้ แลว้ เราก็
เอาของท่ีเกิดในแผ่นดิน เอามาเป็นอาหารเอรด็ อรอ่ ยอีก ไมร่ ูว้ า่
กินของเกา่ ท่ีเราทงิ้ กนิ ของเกา่ ท่ีเราเคยเป็นตวั เป็นตนเป็นคน
เป็นสตั วแ์ ลว้ ก็เน่าเป่ือยทงิ้ ลงไป กินของเกา่ กนิ ของตาย ตาย
แลว้ ตายเลา่ ตายแลว้ ตายเลา่ ทบั ถมกนั มา แลว้ เอาของเกา่ น่นั
มารบั ประทานเอรด็ อรอ่ ยกนั อกี

พระพทุ ธเจา้ ทา่ นทรงรูท้ รงเหน็ แลว้ สลดสงั เวชมากๆ เราๆน่ี
มนั ก็เหมือนวา่ คนตาบอด อะไรอรอ่ ยหมด อะไรอรอ่ ยหมด อ่มิ
แลว้ แนน่ ทอ้ งมนั กย็ งั วา่ อรอ่ ยๆอีก เตม็ ทอ้ งแลว้ มนั ก็ยงั วา่

6

อรอ่ ยๆอกี พระพทุ ธเจา้ ทา่ นจงึ ทรงสอนใหบ้ รโิ ภคอาหารใหพ้ อดี
โภชเน มตตฺ ��ฺ ุตา บรโิ ภคอาหารใหพ้ อดี คอื ใหพ้ อดี ไม่
บรโิ ภคดว้ ยความอยาก ไม่บรโิ ภคดว้ ยความไมอ่ ยาก อยากกก็ ิน
ไม่อยากกก็ ิน เพราะรา่ งกายอนั นีม้ นั เหมือนกบั เคร่อื งจกั ร
เคร่อื งกล จาํ เป็นจะตอ้ งอาศยั เหมือนกบั เครอ่ื งยนตม์ นั ก็ตอ้ งมี
นา้ํ มนั ไม่มนี า้ํ มนั มนั ก็เคล่ือนไหวไม่ได้ คอื สว่ นใดสว่ นหน่งึ ถา้ หา
กวา่ มนั บกพรอ่ งมนั ก็เคล่อื นไหวไมไ่ ด้ สรรี ะรา่ งกายของเราขาด
ส่ิงใดสิ่งหน่งึ โดยเฉพาะอย่างย่งิ ท่ีวา่ เป็นดนิ เป็นนา้ํ เป็นลม
เป็นไฟ มนั ก็เ้ หมือนกบั เคร่อื งยนตต์ าย เครอ่ื งยนตต์ ายมนั คอ่ ย
ยงั ช่วั มนั กองอยวู่ นั สองวนั เดือนสองเดอื น เอามาซอ่ มใหม่ก็ได้
เครอ่ื งยนตค์ อื สรรี ะรา่ งกายนีถ้ า้ หากวา่ ตายประเด๋ยี วประดา๋ วนี้
แปรสภาพทนั ที จงึ มีความจาํ เป็นจะตอ้ งดแู ลอยา่ งดีท่ีสดุ

สพเฺ พ สตตฺ า อาหารฏฺ ฐิตกิ า สตั วท์ งั้ หลายทรงเป็นตวั เป็น
ตนมีชีวิตขนึ้ มาได้ ไมต่ ายเพราะอาหาร อยไู่ ดเ้ พราะอาหาร
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นจงึ ทรงตรสั สอนเรอ่ื งอาหารเอาไว้ ใหบ้ รโิ ภค
พอดี แลว้ ใหแ้ สวงหามาไดด้ ว้ ยความบรสิ ทุ ธิ์ดว้ ย แสวงหาดว้ ย

7

ความบรสิ ทุ ธิด์ ว้ ย แลว้ ก็บรโิ ภคสิง่ ท่ีแสวงหามาดว้ ยความ
บรสิ ทุ ธิ์ดว้ ย พอดีๆ เป็นมชั ฌิมา กอ่ นบรโิ ภคกอ่ น ทา่ นสอนให้
พจิ ารณาเสยี ก่อน พจิ ารณาใหเ้ หน็ วา่ มาจากดนิ แลว้ จะตอ้ งคนื สู่
แผ่นดนิ ของท่เี อามาเป็นอาหารอนั นี้ ทิง้ ไวม้ นั เป็นยงั ไง ทงิ้ ไว้
เป็นวนั เป็นยงั ไง ทงิ้ ไวว้ นั เป็นยงั ไง ทงิ้ ไวส้ องวนั เป็นยงั ไง ทงิ้ ไว้
สามวนั เป็นยงั ไง กลายเป็นของทงิ้ เราไมก่ ินเขา้ ไปก็เป็นของทงิ้
ไมม่ ีใครเอามาเป็นอาหาร อนั นกี้ ็เป็นของทิง้ จะผลไม้ จะวา่ ผกั
หรอื วา่ ขา้ วนง่ึ ขา้ วหงุ หรอื อะไรก็ช่าง ไมเ่ อามาเป็นอาหารก็เป็น
ของทงิ้ กินเขา้ ไปในปากก็เหมือนกบั ทิง้ ลงไปในปาก ทงิ้ เขา้ ไป
เอาของทงิ้ ทิง้ เขา้ ไปในปากเพ่ือเป็นประโยชน์ มตู รคถู น่ีเอาไปใส่
ป๋ ยุ มนั ก็ยงั เป็นประโยชน์ ของปฏกิ ลู เอามาเยียวยาของปฏิกลู นี้
ก็ทาํ ใหข้ องปฏิกลู นีท้ รงตวั อย่ไู ดเ้ หมือนกนั

การบรโิ ภคอาหารจงึ มีความจาํ เป็น แตบ่ รโิ ภคใหม้ ีความ
พอดี เคร่อื งจกั รเครอ่ื งกล ถา้ หากวา่ ขาดนา้ํ มนั เครอ่ื งจกั รนนั้ จะ
ใชจ้ ะมีคณุ ภาพดี ซอื้ มาราคาแพง ถา้ ไม่มีนา้ํ มนั เอาไปใช้
ประโยชนไ์ ม่ได้ สรรี ะรา่ งกายของเราทกุ สว่ นยงั ดีอยู่ แตข่ าด

8

อาหาร เอาไปใชป้ ระโยชนไ์ มไ่ ด้ จงึ มีความจาํ เป็นตอ้ งบรโิ ภค
อาหารกนั ดนิ ก็เป็นอาหาร นา้ํ กเ็ ป็นอาหาร ลมก็เป็นอาหาร ไฟก็
เป็นอาหาร ทงั้ อาหารทงั้ ส่ปี ระการนีข้ าดไมไ่ ด้ อาหารทงั้ ส่ี
ประการนีล้ ว้ นแลว้ แตเ่ ป็นของทงิ้ สตั วโ์ ลกทิง้ มาแลว้ ทงั้ นนั้ ไม่ใช่
ทิง้ เฉพาะเรา สตั วโ์ ลกในโลกธาตุ เกิดมาตายแตล่ ะยคุ แตล่ ะ
สมยั น่หี าประมาณไม่ได้ เป็นตวั เป็นตนก็คือเอาดิน เอานา้ํ เอา
ลม เอาไฟ แลว้ ก็ดิน นา้ํ ลม ไฟ ก็เป็นของทงิ้ ในโลก เราก็ทงิ้ คน
อ่นื ก็ทงิ้ สตั วท์ ่วั โลกธาตมุ าเกิดน่ีทงิ้ กนั ของทงิ้ ไวท้ งั้ นนั้

ในเม่ือเราพิจารณาแลว้ ไม่เป็นสิ่งท่ีนา่ ใครน่ า่ ปรารถนา อนั
ใดๆไม่นา่ จะอย่าใหเ้ กิดความอยากอะไรมาก น่ี การพจิ ารณา
ความจรงิ จงึ เป็นธรรมจงึ จะแกค้ วามอยากท่ีมีอยู่ ความอยากคอื
ตวั กิเลสท่ีมีอยใู่ นจติ ในใจของพวกเรา ธรรมคือส่ิงท่ีเรามอี ย่นู ี้
ธรรมะๆ ก็คอื สิ่งท่ีเรามีอยนู่ ี้ ปฏกิ ลู ก็สง่ิ ท่ีเรามีอยู่ นา้ํ ลายนา้ํ มกู
เราจะปฏเิ สธวา่ ไม่เป็นของปฏิกลู ไมไ่ ด้ นา้ํ เหง่ือ นา้ํ ตา นา้ํ เลือด
นา้ํ เหลือง เราจะปฏเิ สธวา่ ไม่ปฏิกลู ไมไ่ ด้ เป็นของท่ีปฏกิ ลู มนั
นา่ เกลียด ขีต้ า น่ีมนั มาจากไหน ขหี้ มู าจากไหน ขีม้ กู มาจากไหน

9

นา้ํ ลายมาจากไหน ขฟี้ ันมาจากไหน ของอยา่ งนีม้ นั เป็นยงั ไง เรา
จะปฏเิ สธไม่ไดว้ า่ ของเหลา่ นีไ้ มป่ ฏกิ ลู หรอก มนั เป็นเรา เป็นของ
เรา ถา้ หากวา่ เป็นของเรา ไมป่ ฏิกลู แลว้ ทาํ ไมเราจะตอ้ งอาบนา้ํ
วนั ละครงั้ สองครงั้ ลา้ งกนั อยเู่ สมอ ลา้ งมาตงั้ แตเ่ กิดเด๋ยี วนี้ ไม่
ตอ้ งพรุง่ นีบ้ างทีอีกซกั ไมน่ านก็ตอ้ งลา้ งกนั ใหม่ เราปฏเิ สธไม่ได้
วา่ ไม่ปฏกิ ลู เราปฏิเสธไมไ่ ด้

พระพทุ ธเจา้ ทา่ นทรงรูท้ รงเหน็ ตามความเป็นจรงิ แลว้ เอา
ความจรงิ ท่ที รงรูท้ รงเห็นนนั้ น่ะมาตรสั วา่ มนั เป็นของปฏกิ ลู อยา่
ไปหลง อยา่ ไปลมุ่ หลงมวั เมาของปฏกิ ลู กองปฏิกลู เรยี กวา่ กอง
มตู ร กองคถู กไ็ มผ่ ดิ น่ี ขีห้ า ขีห้ ู ขีม้ กู ขีอ้ จุ จาระ ขีป้ ัสสารวะนี้ ขี้
เหง่ือ ขีไ้ คลอนั นี้ มนั อย่ตู รงไหน มนั ก็กองอยใู่ นสรรี ะรา่ งกายท่ี
เราวา่ เป็นของเรา ของเรา หรอื วา่ เป็นเขา เป็นเขาน่ีหละ ในเม่ือ
เรามาพจิ ารณาดๆี แลว้ น่ี ไอเ้ ราน่ีไปโมเมเอาของปฏิกลู ของตาย
แลว้ ซาํ้ ๆซากๆ เอามาเป็นเรา ถงึ วา่ จะโมเมซกั ขนาดไหนก็ช่าง
เถอะ มนั ก็ไม่เป็นเราอยา่ งท่ีเราไปยดึ ไปถือ จงึ วา่ การพจิ ารณา
ส่ิงท่ีเรามีอย่จู งึ มีความจาํ เป็นตอ้ งพิจารณาใหแ้ จ่มแจง้

10

ถา้ ธรรมะท่ีเราตอ้ งการรู้ ธรรมะท่ีเราตอ้ งการเขา้ ถงึ น่ี มนั จะ
เกิดขนึ้ ใหเ้ รารูเ้ ราเหน็ ไมใ่ ช่เกิดขนึ้ มนั จะเดน่ ชดั ใหเ้ รารูเ้ ราเหน็
ทาํ ไมจงึ วา่ เป็นของไม่เกิดขนึ้ เพราะสง่ิ เหลา่ นีม้ ีอยแู่ ลว้ แตส่ งิ่
เหลา่ นีไ้ มเ่ ดน่ ชดั เพราะตาของเรายงั ฝา้ ยงั มวั จกั ขุง อุทะปาทิ
น่ีดวงตาเกิดขนึ้ แลว้ คือดวงตาก็คอื ความสวา่ งไสวของใจ
สามารถแจง้ รูแ้ จง้ ความจรงิ ท่ีมีอย่ใู นเราไดช้ ดั อาศยั การ
ฝึกอบรมดว้ ยขอ้ ปฏบิ ตั ิ มีความเคารพในขอ้ ปฏบิ ตั ิ

ในเม่ือเราม่คี วามเคารพในขอ้ ปฏิบตั ิแลว้ ศีลก็เกิดขนึ้ ท่ีใจ
ถา้ หากวา่ เราไมม่ ีความเคารพในขอ้ ปฏบิ ตั ิน่ี ศลี เกิดขนึ้ ท่ใี จยาก
สมาธิเกิดขนึ้ ท่ใี จก็ยาก ปัญญาเกิดขนึ้ ท่ีใจไมไ่ ด้ จงึ วา่ ความ
เคารพในขอ้ ปฏิบตั จิ งึ มีความจาํ เป็นอย่างย่ิง การน่งั สมาธิกน็ ่งั
ดว้ ยความเคารพ การเดนิ จงกรมก็เดนิ ดว้ ยความเคารพ การเดิน
ไปไหนก็เดินดว้ ยความเคารพ การทาํ กิจอะไร ก็ทาํ ดว้ ยความ
เคารพ

คาํ วา่ เคารพน่หี มายถงึ การทาํ เราใหม้ ีสติในการกระทาํ ใน
การเคล่อื นไหวอย่เู สมอ กอ่ นท่ีจะน่งั สมาธิ ทา่ นใหท้ าํ ความ

11

เคารพในใจนอบนอ้ ม คณุ พระธรรมพระพทุ ธเจา้ พระธรรม
พระสงฆ์ คณุ พระศาสนา น่ี ดว้ ยการพนมมือซะก่อน นกึ ถึง
พระคณุ นนั้ ๆ แลว้ ก็ตงั้ ใจใหแ้ นว่ แน่ มีสติใหแ้ นว่ แน่ แลว้ ก็ไมใ่ ห้
สตนิ นั้ คลาดเคล่ือนไปทางอ่นื ไมใ่ หส้ ตนิ นั้ เคล่ือนไหว หรอื วา่
ขาดไป ขาดวรรคขาดตอน ใหต้ ดิ ตอ่ อย่ใู นกิรยิ าของการทาํ ความ
เคารพนอบนอ้ มนนั้ ใจก็เรม่ิ สาํ รวมเขา้ ใจก็เรม่ิ รวมเขา้ มา
รวมเขา้ มา รวมเขา้ มา อาศยั ใจของเรามีสติไมข่ าด จงึ วา่ การทาํ
ความเคารพในขอ้ ปฏบิ ตั ิในการปฏิบตั ิธรรม จงึ มีความจาํ เป็น
อย่างย่ิง ถา้ หากวา่ ไมม่ ีการทาํ ความเคารพดว้ ยความจรงิ ใจ ไม่
เป็นพธิ ี การทาํ ความเคารพเป็นพธิ ี กบั การทาํ ความเคารพดว้ ย
จติ ดว้ ยใจ ภายในใจมนั ตา่ งกนั ทาํ ของจรงิ ไมใ่ ช่ทาํ เป็นของ
หลอก ถา้ หากโลกๆอนั นนั้ ทาํ ความเคารพนอบนอ้ ม สวสั ดีครบั
ผม สวสั ดีครบั ท่าน แตใ่ จมนั ไม่ยอมสวสั ดี อนั นนั้ โลก

นอบนอ้ มมนั ตอ้ งมาจากจติ จากใจ ใจท่ีมีความนอบนอ้ มนนั้
ใจเป็นธรรม อย่างอาจารยใ์ หญ่ม่นั ทา่ นเทศนาไว้ นโม ตอ้ ง
ตงั้ ขนึ้ ก่อน นโมตสั สะน่ี นโมตอ้ งตงั้ ขนึ้ ก่อน คือตงั้ ใจใหม้ ีความ

12

นอบนอ้ ม มีสติอย่กู บั ใจท่ีมคี วามนอบนอ้ มนนั้ อย่เู สมอ เป็น
พืน้ ฐานของกรรมฐาน เป็นพืน้ ฐานของคณุ ธรรมท่ีจะเกิด ท่ีจะมี
กา้ วหนา้ ขนึ้ ไป เราจะน่งั สมาธิหรอื เราจะเดนิ จงกรมก็ชา่ ง ตอ้ ง
ทาํ ความเคารพในการกระทาํ ในขอ้ ปฏิบตั ิ

ในอิรยิ าบถของการปฏบิ ตั ทิ งั้ นนั้ เดนิ จงกรมท่านใหน้ ิยมไป
สดุ ทางเดนิ จงกรมแลว้ ก็ยืนสาํ รวมใจ ประนมมือขนึ้ ระลกึ ถงึ คณุ
พระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆ์ ทาํ ความนอบนอ้ มในใจ แลว้ ก็
ยกมือขนึ้ ทาํ ความนอบนอ้ มในกิรยิ าของการทาํ ความนอบนอ้ ม
มีสตทิ าํ ความนอบนอ้ มในขณะนนั้ แลว้ เอามือลง แลว้ มสี ติใน
การเดินจงกรมตอ่ ไป เดนิ จงกรมทา่ นใหเ้ อามือทงั้ สองเอาไว้
ขา้ งหนา้ ฝ่ามือขวาทบั มือซา้ ยเอามาจบั ไว้ เอาวางไวต้ รงไหน
พอดี พอดีกบั การท่ีเรามีความสาํ รวมในการเดินจงกรมนนั้ ทาํ
ดว้ ยความเคารพ ผลของการปฏบิ ตั ิ จะปรากฏผลใหเ้ ราไดร้ ูไ้ ด้
เห็น

ถา้ หากวา่ ทาํ ไม่มีความเคารพ ธรรมท่ีจะเกิดขนึ้ ใหเ้ ราไดร้ ู้
ไดเ้ ห็น ไดเ้ จอ ไมไ่ ด้ สว่ นประกอบของการปฏิบตั ธิ รรมท่ีตอ้ งครบ

13

ถา้ หากวา่ สว่ นประกอบไมค่ รบน่ี มนั ก็เหมือนอาหารท่เี ราปรุง
นนั้ นะ่ มนั รบั ประทานไมไ่ ดเ้ รอ่ื ง ลกั ษณะการเดินจงกรมน่ี บางที
ก็แกวง่ แขนเดนิ ไปเดนิ มา เดนิ ไปเดนิ มา ไมไ่ ดเ้ รอ่ื ง ถา้ หากวา่
สว่ นประกอบไมพ่ อก็ไดแ้ ตเ่ ดินเทา่ นนั้ หละ แตธ่ รรมท่ีตอ้ งการ
ใหเ้ กิดใหเ้ ป็น ไม่มีโอกาสท่ีจะเกิดเป็นใหเ้ ราไดร้ ูไ้ ดเ้ ห็น ไดส้ มั ผสั
ดว้ ยจิตดว้ ยใจ ไม่มีโอกาส จงึ วา่ ความเคารพจงึ มีความสาํ คญั
ทาํ ความเคารพทกุ สถานท่ี ทกุ กาลทกุ เวลา

ขณะท่ีทาํ ความเคารพอยนู่ ่นั น่ะเป็นขอ้ ปฏิบตั ิ จติ ท่ีทาํ ความ
เคารพอยนู่ ่นั นะ่ เป็นธรรมะแลว้ เป็นศนู ยข์ องธรรม เป็นฐานท่ีตงั้
เป็นพนื้ แผน่ ดนิ ท่พี ืชทงั้ หลายมีโอกาสท่ีจะงอกงามขนึ้ ถา้ หากวา่
ไมท่ าํ ความเคารพแลว้ เหมือนกบั วา่ ปลกู พืชบนอากาศ ไม่มีท่ีดนิ
ท่ีจะรองรบั ปลกู เทา่ ไหรก่ ็ตายเท่านนั้ ในท่ีสดุ ก็หมดศรทั ธาใน
การท่ีจะปลกู ตอ่ ไป เพราะผลมนั ไมใ่ หผ้ ลใหซ้ กั ที จงึ ใหเ้ ขา้ ใจ
และพยายามทาํ ความเคารพใหย้ ง่ิ นบั ตงั้ แตก่ ารกราบการไหว้
กราบไหวด้ ว้ ยความเคารพ ถึงไมม่ ีครูบาอาจารย์ ไมม่ ี
พระพทุ ธรูป การกราบการไหวข้ องเราทาํ ความเคารพในจิตในใจ

14

ใจของเรานนั้ เป็นธรรม หรอื ใจของเราเป็นบญุ เป็นกศุ ลในขณะ
กราบนนั้ ทนั ที

บญุ ไม่ตอ้ งไปหา เอาสตางคไ์ ปซอื้ ทาํ ง่ายๆ เพียงแตว่ า่ ยก
มือพนมขนึ้ แลว้ ก็ระลกึ ถงึ คณุ พระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆ์
ทาํ ความนอบนอ้ มในจิตในใจก็ไดเ้ ป็นบญุ เป็นกศุ ล มีสตสิ าํ รวม
ใจ ไมใ่ หข้ าดสติอนั นี้ ย่ิงเป็นบญุ เป็นกศุ ลยง่ิ ขนึ้ ไป คาํ วา่ ศลี ๆ ก็
คือการทาํ ความสาํ รวม คาํ วา่ การสมาธิๆ ก็คือความสาํ รวมน่นั
แหละ แตม่ ีความแนบแนน่ ๆ มีความแน่วแน่ขนึ้ มา กก็ ลายเป็น
ตงั้ ม่นั กลายเป็นสมาธิขนึ้ มา ใจท่ีสาํ รวมประกอบดว้ ยความ
เคารพน่นั หละ เป็นฐานท่ีตงั้ ของสมาธิ

ถา้ หากวา่ ไม่มคี วามเคารพในจิตในใจ เดนิ จงกรมก็แกวง่ ไป
แกวง่ อะไรตอ่ มิอะไร ไม่ไดเ้ ร่อื ง เหน็ อยนู่ ะ ท่ีพดู น่ีไม่ใช่ไมเ่ หน็
การเดนิ จงกรมกนั แลว้ ผลออกมาเป็นยงั ไง ย่งิ เดนิ ไปก็ยง่ิ หา่ ง
คาํ วา่ มรรคผลท่ีปรารถนาย่งิ หา่ งย่งิ ไกล คาํ วา่ ยง่ิ หา่ งย่งิ ไกล มนั
เป็นความรูส้ กึ ของเรา ถา้ มนั ไมเ่ หน็ น่ี มนั รูส้ กึ วา่ จะไมไ่ หวแลว้
จะสไู้ มไ่ หวแลว้ หมดศรทั ธาวา่ สไู้ ม่ไหว จะไปไม่ไหวแลว้ ก็

15

เพราะความไมพ่ รอ้ ม ความไมส่ มประกอบ ไม่สมดลุ ยใ์ นขอ้
ปฏบิ ตั ขิ องเรา ผลก็ออกมาในลกั ษณะวา่ ไปไม่ไหวแลว้ น่นั
เพราะวา่ หา่ งไกลจากมรรคผลอนั นนั้ ก็ไมพ่ ดู เพราะวา่ มรรคผลก็
อยเู่ รา ธรรมชาตมิ รรคผลอย่กู บั เราอยตู่ ลอดเวลา อย่ทู ่ีเราไมเ่ หน็
เท่านนั้

ทาํ ไมจงึ วา่ เราไมเ่ หน็ วา่ เราไมด่ ู ไปแตส่ ่งิ เราชอบใจ ไปดแู ต่
ส่ิงท่ีเราไมช่ อบใจ สิ่งท่ีชอบใจอยทู่ ่ีไหนก็ไม่รู้ บางทีเคา้ ตายไป
แลว้ เราก็ยงั คดิ ถึง สงิ่ ท่ีไมช่ อบใจน่ีอยทู่ ่ีไหนก็ไมร่ ู้ บางทีเคา้ ตาย
ไปแลว้ เราก็ยงั คิดถงึ สงิ่ ท่ีเราไมช่ อบใจนนั้ ใจของเราไปอย่อู ย่าง
นนั้ เสยี ไมส่ นใจท่ีจะดมู รรคดผู ล ดเู ขา้ มาในกายในจิต ในอรรถ
ในธรรม ท่ีเราทรงไวส้ มบรู ณบ์ รบิ รู ณ์ ในสรรี ะรา่ งกายของเราอนั
นี้ เราไมด่ กู นั น่ี น่งั สมาธิไม่ใชว่ า่ จะดนู ะ ตงั้ ใจจะดแู พลบเดยี ว
หละมนั ไปหละ ไปดสู ิง่ ท่ีชอบใจนนู้ ส่ิงท่ีไม่ชอบใจนนู้ ไอส้ งิ่ ท่ีมี
อย่นู ีม้ นั ไม่ยอมดู น่ีจงึ วา่ กิเลสมนั พยายามปิดหปู ิดตา ปิด
จนกระท่งั คลา้ ยๆกบั วา่ ส่ิงท่ีจะเป็นประโยชนแ์ ก่เราน่ี มนั ไม่ให้

16

สนใจ มนั ไม่ใหม้ อง มองแตส่ ง่ิ ท่ีจะเป็นประโยชนแ์ กเ่ ขา และสิง่
นนั้ เป็นฟื นเป็นไฟแกเ่ ราทงั้ นนั้ มนั ใหไ้ ปมองอย่างนนั้

จงึ วา่ การปฏบิ ตั ิธรรม จงึ วา่ คาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ จงึ มี
ความจาํ เป็นแก่โลกอยา่ งย่งิ ทกุ ๆสมยั ถา้ หากวา่ ใครยคุ ใดสมยั
ใดไม่เห็นคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ และเอามาปฏบิ ตั ิ ยคุ นนั้ สมยั
นนั้ คนมนั อนั ตรายทงั้ นนั้ หาความรม่ เยน็ ผาสกุ ไมไ่ ด้ มีแตฟ่ ื นแต่
ไฟ กิเลสมนั จะเมตตายงั ไง ตรงไหนท่ีจะเดือดรอ้ น ตรงไหนท่ีจะ
วนุ่ วาย น่ี มนั จงู ไปตรงนนั้

เม่ือกี๊ก็สวดกนั อยู่ รูปํ อนตตฺ า ปัญจวคั คยี ฟ์ ังอนตั ตลกั ขณ
สตู ร ไดส้ าํ เรจ็ เป็นพระอรหนั ต์ พระพทุ ธเจา้ เทศนาอะไร รูป
เวทนา สญั ญา สงั ขาร วญิ ญาณ เป็นอนตั ตา เป็นของไม่เท่ียง
เท่ียงหรอื ไมเ่ ท่ียงๆ ในท่ีสดุ หาของเท่ียงไมไ่ ดท้ งั้ กายทงั้ จติ ใน
ท่ีสดุ หาของเป็นตวั เป็นตน เป็นเราไมไ่ ดท้ งั้ กายและใจ มนั ก็
ปลอ่ ยไปตามธรรมชาตเิ คา้ น่นั เหน็ เป็นยงั ไงก็ปลอ่ ยวางไป
ตามนนั้ ใจมนั ก็ถอนมา เดน่ ขนึ้ มา เป็นพทุ โธ เป็นธมั โม
เป็นสงั โฆ มนั ปลอ่ ยวางไป

17

ถา้ หากวา่ ไม่เหน็ ชดั จะปลอ่ ยวาง มนั ไม่ปลอ่ ยวางหรอก มนั
เห็นซะก่อน มนั จงึ เบ่อื ถา้ หากวา่ ยงั ไม่เหน็ น่ี มนั ไมเ่ บ่อื หรอก
อยากจะใหเ้ ช่ือม่นั ลงไป มรรคผลมีอย่ใู นเรา ขดุ คยุ้ ทกุ ซอกทกุ
มมุ ในส่ิงท่ีเราวา่ เป็นเรา เป็นเราน่ีหละ ถา้ หากวา่ ขดุ คน้ ขดุ คยุ้
แจ่มแจง้ ความจรงิ ของสิ่งท่ีคาํ วา่ เป็นเราๆน่ี แจม่ แจง้ ขนึ้ มาขณะ
ใด ปลอ่ ยวางลงไปในขณะนนั้ คาํ วา่ มรรคผลอนั นนั้ ปรากฏให้
เราไดร้ ูไ้ ดเ้ หน็ ปรากฏขนึ้ ท่ีใจของเรา จงึ ใหพ้ ากนั ขดุ คน้ ขดุ คยุ้
ขดุ คน้ วิตกวจิ าร วจิ ารวจิ ยั ทกุ แงท่ กุ มมุ ทกุ ชิน้ ทกุ สว่ น เช่ือม่นั
วา่ อยใู่ นนีจ้ รงิ ๆ

อยา่ ไปฟังความของตวั กิเลสมนั มีแตท่ ่ีจะสรา้ งความลงั เล
สงสยั ให้ เด๋ยี วมนั ก็บอกวา่ อย่างนนั้ ดี อยา่ งนนั้ ดี เด๋ียวกบ็ อกวา่
อย่างนนั้ เป็นทางตรง ไปก็ไป ไปก็ไป ไปตามท่ีมนั บอกก็ปลาย
เป็นทางตนั อนั นีไ้ มม่ ีตนั ม่นั คงแนว่ แนอ่ ย่ใู นจติ จนในจดุ นี้
ในทางเสน้ นีไ้ มม่ ีตนั ทางเสน้ นีไ้ ม่ใชท่ างตนั เป็นทางทะลปุ รุโปรง่
ถึงท่ีสดุ จดุ หมายปลายทางไดอ้ ยา่ งราบรน่ื ทีเดยี ว ถา้ หากวา่ ไม่

18

ไปทางนีน้ ่นั นะ่ มนั บอกวา่ เป็นทางตรง เป็นทางตรงซะขนาดไหน
ก็ชา่ ง ก็คอื ทางตนั ไปแลว้ มนั ตนั ไมม่ ีทางไปหรอก

จงึ ใหต้ งั้ ธรรมท่ีมีอยใู่ นเรานีเ้ ป็นเปา้ หมาย น่งั อย่กู ็อนั นีเ้ ป็น
เปา้ เดนิ อยกู่ ็ใจก็อยกู่ บั เปา้ อย่ใู นอริ ยิ าบถใด นอนอยกู่ ็เอาใจอยู่
กบั เปา้ เกสา โลมา นขา ทนั ตา ตโจ มนั ไม่เห็นไมย่ อม อฐั ิ
กระดกู ทงั้ หลาย อฐั ิ เย่ือในกระดกู น่ี ไมเ่ หน็ ไมย่ อม ก็มนั อยตู่ รง
นีจ้ รงิ ๆ มนั อยตู่ รงนีจ้ รงิ ๆน่ี มนั ยดึ จรงิ ๆน่ี มนั วา่ เป็นเราจรงิ ๆน่ี
เป็นคนจรงิ ๆน่ี เป็นหญิงเป็นชาย เราพอใจเราไม่พอใจ อนั นี้
จรงิ ๆน่ี เรารกั ชงั อนั นีจ้ รงิ ๆน่ี แลว้ เราจะไปฟังความกเิ ลส มนั ดงึ
ไปใหห้ นั หลงั ใสข่ องจรงิ อนั นีม้ นั เป็นเร่อื งท่ีไมถ่ กู ตอ้ ง

พระพทุ ธเจา้ ทา่ นเทศนาของจรงิ มีอยใู่ นนี้ พระอริยสจั
ธรรมทงั้ ๔ ชาติ ความเกิดน่ี ตงั้ แตศ่ รี ษะลงไปหาเทา้ น่ีชาติ
ความเกิดทงั้ นนั้ แลว้ จะวา่ เราไมใ่ ชธ่ รรมไดย้ งั ไง ชราความแก่
อนั นีม้ นั แก่อยทู่ กุ วนั แก่ทกุ วนั แกท่ กุ วนั แก่ทกุ วนั แกท่ กุ วนั วนั
ไหนไมแ่ กไ่ มม่ ี แลว้ เราจะวา่ เราไม่เป็นอรยิ สจั ไดอ้ ย่างไร เพราะ
นนั้ มนั คอื ความตาย มนั ตายทกุ วนั อย่เู น่ีย แลว้ จะวา่ ไม่เป็น

19

อรยิ สจั ไดย้ งั ไง จงึ วา่ จะนอ้ มไปเป็นอรยิ สจั หรอื จะนอ้ มลงไป
เป็นมหาสตปิ ัฏฐาน นอ้ มไปในไหนก็ช่างเถอะ มนั ก็คอื ตวั ของเรา
ทงั้ นนั้ ตวั ของเราก็คือกายและใจ รูปธรรมนามธรรมมีอยทู่ งั้ นนั้
อนั นีห้ ละเป็นทางตรง

คาํ วา่ ทางตรงอนั นีม้ ีแตท่ ่จี ะทะลปุ รุโปรง่ ไม่ใช่ทางตรงอยา่ ง
ท่ีกิเลสมนั โกหก หรอื คนมีกิเลสเอามาอปุ โลกนก์ นั ขนึ้ มาหลอก
กนั ตาํ ตาวา่ มนั ตรง มนั ตรง มนั ตรง มนั หลอกไปตาย ทางตรงอนั
นีเ้ ป็นทางท่ีไมต่ าย พระพทุ ธเจา้ ไปทางนีจ้ รงิ ๆ คาํ สอนของ
พระพทุ ธเจา้ ก็ท่ีสอนทงั้ หมดไมพ่ น้ จากอนั นี้ ทกุ ครงั้ ท่ี
พระพทุ ธเจา้ ประกาศธรรมเทศนา คนไดส้ าํ เรจ็ มรรคผลนิพพาน
พระพทุ ธเจา้ ประกาศอรยิ สจั ธรรม อรยิ สจั ธรรมคืออะไร ชาติ
ความเกิด ชราความแก่ มรณะความตาย ทกุ ขสัจ กามตณั หา
ภวตัณา วภิ วตัณหา สมุทยั สัจ

กามตณั หา ภวตณั หา วภิ วตณั หาเป็นเร่อื งของใจ มนั
เคล่อื นไหวทงั้ หมด มนั เคล่ือนไหวทงั้ หมด มนั เคล่ือนไหวไปสาม
อยา่ งนี้ ความเคล่ือนไหวอนั นนั้ เป็นกิรยิ า ความเคล่ือนไหวเป็น

20

การเกิด มนั เกดิ เทา่ ไรมนั ดบั เทา่ นนั้ ๆ จะเคล่อื นไหว จะเกิดไป
ในทางกาม จะเกิดในทางท่ีชอบใจไม่ชอบใจอะไรก็ช่าง มนั เกิด
ตรงไหนมนั ดบั ตรงนนั้ น่ี มนั ซาํ้ ๆซากๆอยา่ งนีแ้ หละ

ทา่ นจงึ วา่ นิพพทิ า ความเบอ่ื มนั ไมแ่ ลว้ เป็น แลว้ มนั อยทู่ ่ี
ไหนหละเด๋ยี วนี้ มนั อย่ใู นหนงั สือเหรอ มนั อย่ใู นคมั ภีรเ์ หรอ
กามตณั หามนั อย่ใู นคมั ภีรม์ ยั้ กามตณั หามนั เกิด ภวตณั หามนั
เกิด วิภวตณั หามนั เกิด มนั เกิดตรงไหน จลี้ งไปตรงนนั้ จีล้ งไปใน
นนั้ นะ่ สตจิ ีล้ งไป จีล้ งไปอยอู่ ยา่ งนนั้ แลว้ มนั กระดกิ ไดเ้ หรอ จี้
ลงไปมนั ก็ดบั ทนั ที จีล้ งไปมนั ก็ดบั ทนั ที จลี้ งไปมนั ก็ดบั ทนั ที จงึ
วา่ สตธิ รรม เขา้ ใจมยั้ หละ ศลี ก็สติ สมาธิกส็ ติ ปัญญาก็สติ ไมม่ ี
สตแิ ลว้ คาํ วา่ ศีลไม่มี สมาธิปัญญาไมต่ อ้ งพดู ถึง สติมนั ก็เป็น
สติปัญญาของโจรผรู้ า้ ยไป จะมีสติมากมายขนาดไหนเพียงไรก็
ช่างเถอะ มนั ชอบตายเพราะความฉลาดของเจา้ ของ เราๆก็
เหมือนกนั

อยา่ ไปอวดฉลาดมากนกั ไมต่ อ้ งไปฉลาดอะไรหรอก รูแ้ ต่
เพียงสิ่งท่ีเรามีก็พอแลว้ เรามีอะไรอยเู่ ด๋ียวนี้ ลมหายใจเรามีอยู่

21

ดใู หม้ นั ชดั กายเรามีอยู่ ดใู หม้ นั ชดั ดนิ นา้ํ ลม ไฟ เรามีอยู่ ดใู ห้
มนั ชดั ใหม้ นั เห็นเป็นดิน นา้ํ เป็นลม เป็นไฟไปจรงิ ๆ
พระพทุ ธเจา้ เหน็ มาแลว้ รูม้ าแลว้ เป็นดิน เป็นนา้ํ เป็นลม เป็นไฟ
เราไดย้ นิ อยา่ งนนั้ เราเช่ืออยา่ งนนั้ แตม่ นั ความเช่ือของเราน่ีมนั
เหมือนกบั ใบไมถ้ กู ลมน่ี พลกิ ไปพลิกมา พลกิ ไปพลิกมา ความ
เช่ือมนั ตอ้ งแนน่ หนาม่นั คง จรงิ อยา่ งนีจ้ รงิ ๆ แลว้ มนั จะพลิกไป
พลิกมา เป็นหนา้ มือหลงั มือไม่ได้ เหมือนกบั ใบไม้ พลิกไปพลกิ
มาไมไ่ ด้ มนั จะพลิกไปยงั ไง มนั จรงิ อยา่ งนีน้ ่ี

นกั สถู้ า้ หากวา่ ไมม่ ีความเขม้ แข็งจรงิ จงั ในการท่ีสหู้ ละ ไม่มี
ทางหรอก มีแตต่ ายลกู เดยี ว นกั สมู้ นั ตอ้ งเด็ดเด่ยี วกลา้ หาญ
และรวดเรว็ วอ่ งไวจรงิ ๆ ปลอดภยั ภยั อนั ตรายไมม่ ี จงึ อยากให้
พากนั ต่นื ตวั อยา่ ไปแหวกแนว อยา่ ไปปลกี จากเสน้ ทางท่ี
พระพทุ ธเจา้ พระสาวกเจา้ ทา่ นเดนิ กนั ไป อยา่ ไปปลีกออกจาก
เสน้ ทาง กิเลสมนั พยายามท่จี ะดงึ ออกอยเู่ สมอ ดงึ เรอ่ื งอนั นนั้ ๆ
ดงึ อะไรตอ่ มิอะไร ใหเ้ ราขาดสติ ขาดสตนิ ่นั นะ่ หลดุ จากเสน้ ทาง
ทีเดยี ว พน้ เสน้ ทางแลว้

22

เห็นผม เคา้ วา่ ผมเป็นคนเป็นเรา เป็นคนเป็นสตั วอ์ ยา่ งนี้ ใจ
มนั จะปลอ่ ยวางไปทนั ที เหน็ ขนเหน็ เลบ็ อะไรก็ช่าง เหน็ ชดั ตาม
ความเป็นจรงิ จะปลอ่ ยวางทนั ที ปลอ่ ยวางความยดึ ถือวา่ เป็น
ของเรา ความยดึ ถือวา่ เป็นของเราจะขาดไปทนั ที ในขณะท่ีเรา
เห็นคาํ วา่ ผม ขน เลบ็ ฟัน หนัง ในอาการ ๓๒ ในสรรี ะ
รา่ งกายทงั้ หมดนี้ ดนิ นา้ํ ลม ไฟน่ี เราเหน็ ชดั สว่ นใดสว่ นหนง่ึ
ปลอ่ ยวางไดท้ งิ้ อยา่ งสนิทใจ ทงั้ หมดแลว้ ไปเลย ไมต่ อ้ งไปละอนั
นีแ้ ลว้ ไปพจิ ารณาอนั นนั้ เพ่ือใหล้ ะอีก ไมม่ ี เพราะมนั ของเกิด
ของตายอนั เดยี วกนั อนั ดนิ นา้ํ ลม ไฟ กองเดียวกนั นนั้ เอง มนั
ของเกิดของตาย จะสมมตุ ิวา่ เป็นดนิ เป็นนา้ํ เป็นลม เป็นไฟ ก็
ของเกิด ของตาย

เห็นชดั สว่ นใดสว่ นหนง่ึ เหน็ ชดั ธาตใุ ดธาตหุ นง่ึ ธาตอุ ่ืนๆก็
ชดั ไปดว้ ย เหมือนกะตน้ ไมอ้ ยา่ งเนีย้ มนั มีเปลือก มนั กย็ งั มี
อากาศอย่ใู นนนั้ ก็ยงั มนี า้ํ อยใู่ นนนั้ ยงั มที กุ อยา่ งโคน่ ลงไปแลว้ น่ี
ไมจ่ าํ เป็นวา่ เออ เราตดั ดินแลว้ จะตอ้ งไปตดั อากาศ จะตอ้ งไป
ตดั นา้ํ ก่งิ กา้ นสาขามนั ลงไปหมดเลย น่ีก็เหมือนกนั เหน็ สว่ นใด

23

สว่ นหนง่ึ นะ่ สว่ นดนิ นา้ํ ลม ไฟ ก็วางไวใ้ นขนั ธ์ เหมือนกบั โคน่
ตน้ ไมอ้ ยา่ งนี้ โคน่ ตน้ ไมไ้ ปแลว้ ไม่ตอ้ งไปโคน่ ใบมนั โคน่ ก่ิงมนั
มนั ความจรงิ ไมเ่ ป็นอยา่ งนนั้ ใหห้ มดความลบู คลาํ ลงั เลสงสยั

คาํ วา่ สีลพตๆ (สีลพตปรามาส) ลบู คลาํ อยา่ ใหม้ นั มี จะ
ไปลบู คลาํ ทาํ ไม จบั มนั ตวั มนั เดๆ่ อยู่ ไปลบู คลาํ มนั ไดป้ ระโยชน์
อะไร ตวั ก็ตวั จติ ตวั ก็ตวั สติ จบั กนั อย่อู ย่างนี้ อยากไปลบู คลาํ
ตรงโนน้ อยากไปลบู คลาํ ตรงนี้ จะไปลบู คลาํ ตอ่ มอิ ะไร ไมต่ อ้ ง
ไปกลวั ท่ีจะไมม่ ีความฉลาด มีสติปัญญา ไม่รูก้ วา้ งขวาง ไม่ตอ้ ง
ไปกลวั ขออยา่ งเดยี ว ใหม้ นั ชดั ลงไปในกายในจติ ของเราน่ี หา
ประมาณไมไ่ ด้ พระพทุ ธเจา้ ตรสั รูข้ ณะเดยี ว รูแ้ จง้ โลก รูไ้ ดย้ งั ไง
ถา้ หากวา่ ไปเท่ียวตามรู้ ขณะเดียวจะไปรูแ้ จง้ โลกไดเ้ หรอ จงึ
อยา่ พากนั ลบู คลาํ ลงั เลสงสยั ธรรมท่ีเรามอี ย่ใู นทงั้ กายทงั้ ใจอนั
นีเ้ ป็นศนู ยท์ ่ีตงั้ ของมรรคผลนิพพานอยา่ งสมบรู ณท์ ีเดียว ทาํ ให้
แจง้ ในท่ีนีข้ ณะใด มรรคผลนิพพานก็แจง้ ขนึ้ มาในขณะนนั้ อยา่
พากนั ลงั เลสงสยั อยา่ พากนั ลบู คลาํ

24

ชีวิตอนั นีไ้ มน่ านดอก ไมห่ ายใจแลว้ ก็ตาย ใชส้ ่ิงท่ีไมไ่ ดน้ อน
แลว้ ไมห่ ายใจก็ตายอนั นีแ้ หละ เอามาเป็นประโยชน์ อยา่ ไปฟัง
กิเลสมนั มนั ชกั ชวน มนั ดงึ แขง้ ดงึ ขา ไปทางโนน้ เถอะ ปทางโนน้
เถอะ กลบั ไปบา้ นเถอะ อยา่ ไปบา้ นะ เหน็ ใครบา้ ง อยกู่ บั บา้ นน่ะ
มนั ไดม้ รรคไดผ้ ลตรงไหน พระพทุ ธเจา้ สมบรู ณท์ กุ อยา่ ง ส่งิ นนั้ ๆ
ไมส่ ามารถท่ีจะโขกพระพทุ ธเจา้ ได้

อย่างนางมาคนั ทยิ า สวยงามมาก จนกระท่งั มองไมเ่ หน็ วา่
ใครจะคคู่ วร พอ่ นางท่ีสวยงามมากน่นั นะ่ ไปเหน็ พระพทุ ธเจา้
โอ๋ เหมาะสมจรงิ ๆ สมกนั จรงิ ๆ เจอแลว้ ลกู เขยเรา พระพทุ ธเจา้
ท่านมอง ก็พดู ตรงๆน่ะหละ จะเอาเป็นลกู เขย หมายความวา่
อยา่ งนนั้ ลกู สาวของเราน่ียอดเย่ียม ไมม่ ีใครท่ีจะคคู่ วร
พระพทุ ธเจา้ ทา่ น ทา่ นวา่ ยงั ไง ทา่ นใชค้ าํ พดู เปรยี บ เหมือนกบั
มตู รคถู น่นั แหละ เอาตนี ไปถกู ยงั สะอิดสะเอยี น เอาตนี ไปแตะก็
ยงั ไมอ่ ยากจะแตะเพราะมนั สกปรก น่ีพระพทุ ธเจา้ ทา่ นเทศนา
ทรงตรสั มาคนั ทยิ าพราหมณ์ รูแ้ จง้ ทีเดยี วนะ่ โอ้ เป็นของปฏกิ ลู
จรงิ ๆ เป็นของสกปรกจรงิ ๆ มาคนั ทยิ าพราหมณป์ ลอ่ ยวาง

25

สกั กายทิฐิในขณะนนั้ ในขณะนนั้ ทาํ ไมจงึ ปลอ่ ยวางได้ เพราะจะ
ไปยดึ ยงั ไง ยดึ ของปฏกิ ลู น่นั น่ะ ยดึ มานานแลว้ พระพทุ ธเจา้ ชี้
ไปแพลบเดียวน่นั นะ่ เหน็ จรงิ ใจก็ถอนออกจากความยดึ ถือ มา
คนั ทิยาพราหมณน์ ่นั ฟังเทศนง์ า่ ยๆ ฟังเทศนส์ นั้ ๆ แต่
พระพทุ ธเจา้ เนน้ เทศนจ์ ดุ ท่ีมนั จะถกู จรติ นิสยั ของคนท่ยี ดึ ถืออนั
นีว้ า่ เป็นของสวยของงามน่นั นะ่ เอาของปฏิกลู ฟาดหวั มนั มนั
ไดผ้ ล

สว่ นลกู สาวน่ีโกรธมากๆทีเดยี ว น่นั พระพทุ ธเจา้ ไม่สน สน
แตส่ ิ่งท่ีเป็นประโยชนเ์ ทา่ นนั้ อนั นนั้ เป็นกรรมของสตั ว์
พระพทุ ธเจา้ ตรสั อนั นีเ้ ป็นความจรงิ น่ี ใครจะไปเป็นประโยชนก์ บั
เรอ่ื งของเขาได้ ใครจะเสยี หายก็เร่อื งของเขาตา่ งหาก ไม่ใชเ่ ร่อื ง
ของพระพทุ ธเจา้ พระพทุ ธเจา้ ตรสั พระสทั ธรรมน่ี เอาความจรงิ
ไปตรสั เสยี หายตรงไหน ไม่ใช่พระพทุ ธเจา้ ทาํ ใหน้ างมาคนั ทยิ า
เสยี หาย นางมาคนั ทยิ าเสยี หายเพราะการกระทาํ ของเจา้ ของ
ตา่ งหาก เพราะความคดิ ของเจา้ ของตา่ งหาก ความพยาบาท
ของเจา้ ของตา่ งหาก

26

ออกทางตาก็เป็นขี้ ออกทางหกู ็เป็นขี้ ออกทางทวารหนกั ก็
เป็นขี้ ออกทางทวารเบาก็สารพดั ลา้ งกนั อยไู่ มห่ ยดุ ไมห่ ยอ่ น
ออกตามาสรรี ะรา่ งกาย ขีเ้ หง่ือขีไ้ คล กล่นิ ก็ไมใ่ ช่ของเลน่ ของ
จรงิ มนั เปิดเผยขนาดนีก้ ็ยงั จะหลบั หหู ลบั ตา สง่ิ เหลา่ นีไ้ ม่ได้
ปิดบงั ใจของเราใหอ้ ยกู่ บั ของจรงิ อนั นี้ ใจของเราใหอ้ ยกู่ บั ของ
จรงิ อย่างนี้ ใจของเราไมอ่ ยกู่ บั มรรคกบั ผล ไปอย่กู บั เร่อื งกิเลส
ใจของเราอย่กู บั มรรคกบั ผลน่ี มนั ก็ตอ้ งเจอมรรคผล ไปอยกู่ บั
กิเลสก็เจอกบั กิเลสเทา่ นนั้ นะ่ ยํ เว เสวติ ตาทโิ ส คบบคุ คลใด
เป็นบคุ คลเชน่ นนั้ คบธรรม ใจก็เป็นธรรม คบกิเลส ใจก็เป็น
กิเลส

จงึ พากนั ตงั้ อกตงั้ ใจ จรงิ จงั ม่งุ ม่นั แนว่ แนล่ งไป ในเสน้ ทางท่ี
พระพทุ ธเจา้ พระสาวกเดินไปแลว้ เอกายโน อยํ มคฺโค
หนทางอนั เอกคือกายและจติ ใหอ้ ยทู่ ่ีนี้ ใหอ้ ย่ทู ่ีนี้ ใหอ้ ยทู่ ่ีนี้ ให้
อยทู่ ่ีนี้ ไมใ่ หไ้ ปไหน ความคดิ มนั คิดออกนอกลนู่ อกทาง กาํ หนด
จติ เพง่ ลงไปจดุ ท่ีมนั คดิ มนั ปรุงมนั แตง่ นนั้ ไม่ใหม้ นั ขยบั ตวั น่ี ใน
เม่ือมนั ไมข่ ยบั แลว้ มนั ดบั ไปหมด เพราะทกุ สิง่ ทกุ อยา่ งมนั มีการ

27

เป็นกิรยิ าซะกอ่ น มีการเคลอ่ื นไหวซะกอ่ น มนั จงึ เป็นตวั เป็นตน
ท่านจงึ วา่ เป็นสงั ขาร อวิชชา วญิ ญาณ สงั ขารา เป็นสงั ขารซะ
กอ่ นจงึ เป็นรูปเป็นรา่ ง เป็นอายตนะขนึ้ มา เป็นตวั เป็นตนขนึ้ มา
เป็นลกั ษณะขนึ้ มา

สติธรรม สมาธิธรรม ปัญญาธรรม รวมกนั น่ีอย่ใู นจิตของเรา
เพง่ ลงไปในจติ นนั้ ประกอบดว้ ยสตปิ ัญญา สอ่ งมนั ดู ปัญญา
สอ่ งมนั ดู ไมใ่ หม้ นั ขยบั เราไมข่ ยบั แลว้ อะไรจะขยบั อยา่ งเนีย้
จติ ของเราไมข่ ยบั แลว้ อะไรจะขยบั ท่มี นั ขยบั อยไู่ มอ่ ย่เู พราะจิต
ของเราไมม่ ีธรรม ไมม่ ีสติอยา่ งเนีย้ ขยบั ไปอย่างไม่มีสติเน่ีย มนั
ก็เรอ่ื งของกิเลสทงั้ นนั้ ไมต่ อ้ งไปกลวั ไมม่ ีปัญญา ไม่ตอ้ ง
ปรารถนาเอาปัญญา แกก้ ิเลสของเจา้ ของไดก้ ็ใหพ้ อใจแลว้ มีแต่
ปัญญาๆนะ่ กิเลสของเจา้ ของหละ เผาเจา้ ของอยู่ ปัญญามหา
โจร อะ้ เลกิ กนั

ท่ีมา: https://youtu.be/-6vE7eFUkBE

28


Click to View FlipBook Version