ธรรมเทศนาเรื่องเสียงโลกกับเสียงธรรม
หลวงพอ่ ประสิทธิ์ ปญุ ญมากโร
เทศนว์ นั ท่ี ๑๒ กนั ยายน ๒๕๕๔
ตงั้ สติใหด้ เี พราะวา่ มนั มีเสียงโลก เสียงโลกท่ีเราไดย้ นิ อยนู่ ่ี
เสยี งโลกนา้ํ มนั ขนึ้ ไปขา้ งบนอากาศ มนั ลอยไปแลว้ มนั ตกลงมา
ใสแ่ ผ่นดนิ น่ีกเ็ ลยเป็นเสยี งโลก ทาํ ใหม้ ีเสยี ง เหตนุ นั้ คนเราท่ีเขา้
มาปฏิบตั ธิ รรม มาฝึกภาวนาหาความสงบคือทาํ ความสงบให้
จติ ของเราแตล่ ะคนก็ตอ้ งหาท่ีหลีกจากเสยี งโลก อยา่ งพวกโยม
พากนั มาอบรมมาปฏบิ ตั ธิ รรมในวดั น่กี ็เหน็ เสียงโลกเตม็ บา้ น
เต็มเมืองท่ีเราอยกู่ นั แลว้ ก็เป็นเสยี งโลก คือเสียงธรรมแทๆ้ มนั
สงบ มนั ไมไ่ ดร้ บกวนสง่ิ ภายนอก มนั เขา้ ไปสงบอย่ใู นจติ ใน
สมาธิน่ี เหตนุ นั้ เราตอ้ งรูจ้ กั การปฏบิ ตั ิเพ่ือใหค้ วามสงบเกิดขนึ้
ในจิตของเรา ถา้ โลกมนั เป็นเจา้ ของอยู่ เป็นเจา้ ของรบกวนมนั ก็
ไมส่ งบ มนั ดงั คือเราตอ้ งการใหส้ งบ เราก็ตอ้ งมาทาํ สตมิ าทาํ
ความสงบ มีสตินอ้ มเขา้ มาภายในมารบั รูเ้ ฉพาะจติ เฉพาะ
ความสงบ ส่ิงท่ีไมส่ งบมนั อยรู่ อบนอกมนั อย่ใู นวงโลก วงโลกท่ี
1
เราไดอ้ ยไู่ ดย้ ินน่ี มนั ก็เลยตอ้ งหาท่ีหลีกท่ีหลบ มนั มีมมุ สงบมนั มี
ท่ีไมม่ ีส่ิงกระทบ มนั ก็เป็นความสงบ เราก็อาศยั ไปใชส้ ถานท่ี
อย่างท่ีเราปฏบิ ตั ิกนั อยเู่ ป็นสว่ นตวั เป็นท่ีเฉพาะองค์ เราก็ได้
ความสงบเพราะไมม่ ีการกระทบเสยี งก่อกวน มนั เป็นแตเ่ สียง
ของเราชีวิตเดยี วท่ีรูจ้ กั เสยี งท่ีมีในตวั เรานะ่ มนั ก็ไมเ่ ป็น
อนั ตรายแก่ความสงบ
เหตนุ นั้ เราอยใู่ นโลกท่ีไม่สงบแตจ่ ิตดงั้ เดมิ จิตท่ีตอ้ งการ
ความสขุ ความสงบก็มีอย่ใู นทกุ คนคอื หาความสงบเป็นเคร่อื งอยู่
หาท่ีสงบเป็นท่ีพกั ผอ่ น ฉะนนั้ ความสขุ ท่ีเกิดจากความสงบเป็น
ความสขุ ท่วี า่ ไมอ่ าศยั ส่ิงภายนอก ไมอ่ าศยั วตั ถุ ไมอ่ าศยั อามสิ
เคร่อื งบาํ รุงบาํ เรอ เป็นความสขุ ลว้ นๆเฉพาะจิต ไม่ไดม้ า
เก่ียวขอ้ งภายนอกหละทนี ี้ ไม่เหมือนอย่างท่ีเรามีความสขุ อยกู่ บั
การไดข้ อง การไดก้ ินไดด้ ่ืมรสอาหาร ไดใ้ ชบ้ รโิ ภคของสิ่งๆตา่ งๆ
มนั ไมเ่ หมือนอย่างนนั้ มนั เป็นความสขุ ท่ีปราศจากส่ิงของหรอื
อามิส สง่ิ ปรุงแตง่ ภายนอก มนั เป็นความสขุ เกิดจากจติ สงบดงั ท่ี
เคยเทศนค์ ราวกอ่ นวา่ ความสขุ อ่นื ย่งิ กวา่ ความสงบไมม่ ี ทา่ น
2
เป็นภาษาบาลีวา่ นัตถิ สันติ ปรมังสุขัง ความสขุ อ่ืนย่งิ กวา่
ความสงบไมม่ ี เพราะความสงบน่ีใหค้ วามสขุ ใหค้ วามไมก่ ระวน
กระวาย เพราะความสงบทงั้ กายทงั้ จติ ถา้ เราพรอ้ มทงั้ กายทงั้
จติ ก็เรยี กวา่ ความสขุ ไม่มีอาการเก่ียวกบั อามสิ เก่ียวกบั วตั ถสุ ิ่ง
ตา่ งๆของใชข้ องวตั ถภุ ายนอก เหตนุ นั้ เราไดค้ วามสขุ ทางโลก
ดงั ท่ีวา่ เป็นความสขุ ท่ีอาศยั ปัจจยั อาศยั เคร่อื งใช้ อาศยั ความได้
ส่ิงตา่ งๆมาเป็นสมบตั ิท่ีเราตอ้ งการ
ถา้ เรามาเอาความสงบสขุ ทางธรรม เราไมต่ อ้ งดิน้ รน
ขวนขวายทีนีเ้ ราปฏบิ ตั ิ เรามาฝึกจติ ฝึกภาวนา ฝึกทาํ ความสงบ
ใหจ้ ิตของเรา พยายามท่ีจะแกไ้ ขจติ ของเราท่ีมนั ติดกบั ความ
สงบภายนอก อยา่ งติดวตั ถตุ ิดอามสิ ติดปัจจยั ภายนอกอย่างนี้
เราก็จะไดไ้ ม่มาเก่ียวขอ้ ง จติ มนั ก็เขา้ ไปภายใน นอ้ มจิตเขา้ ไป
อย่ใู นความสงบ เขา้ ไปรูค้ วามเงียบ ความสงบของจติ มนั ไมม่ ี
เสียงกระเทือนเหมือนโลกหละทีนี้ มนั ก็สงบน่ิง อยา่ งท่เี ราทกุ คน
มีชีวิต เวลามนั สงบ เวลามนั พกั ผอ่ น เราก็จะไดร้ ูส้ กึ วา่ เกิด
ความสขุ ในการใหค้ วามสขุ ทางจติ ทางกาย คือไมม่ ีสิง่ ก่อกวน
3
ถา้ มีสงิ่ กอ่ กวนมีสงิ่ กระทบมนั ทาํ ใหก้ ารพกั ผอ่ นหรอื สตขิ องเรา
มนั สะดงุ้ มนั ก็ไมม่ ีความสขุ มนั มีอารมณภ์ ายนอกเขา้ ไปกระทบ
เก่ียวขอ้ ง หรอื มีอารมณป์ รุงแตง่ ไมย่ อมสงบ ไม่ยอมอย่กู บั สมาธิ
ภาวนา มนั มีอาการความสะดงุ้ ความกลวั ตา่ งๆอย่างนี้ ฉะนนั้
มนั ก็ไมม่ ีความสขุ เพราะวา่ มนั มีเสยี งโลก มนั มีสงิ่ กระทบ มนั มี
อารมณร์ บกวนซง่ึ มนั เป็นขา้ ศกึ แก่ความสงบ คอื มนั รบ รบอยใู่ น
จติ ในอารมณข์ องเรา มนั สกู้ นั สกู้ นั กบั ความสงบ ความสงบกบั
ความไม่สงบมนั เป็นคตู่ อ่ สู้ มนั เป็นศตั รู มนั เป็นขา้ ศกึ ท่านวา่
อยา่ งนี้ ทางธรรมท่านก็เรยี กวา่ เป็น นิวรณธรรม คอื มนั เป็นตวั
มาเรยี กรอ้ ง มากอ่ กวน มาวงิ วอน จงึ วา่ นิวรณ์
อยา่ งพวกนวิ รณข์ อ้ หนง่ึ ก็คอื กามะฉันทะ ความท่ีรกั ใคร่
ความพอใจในกามคณุ ในความรกั ความหลงของกายเรา
เรยี กวา่ กามะฉนั ทะ คือความรกั ใครค่ วามหลงใหลในรา่ งกาย
ของเราเอง แลว้ ก็สง่ จิตหลงไปหารา่ งกายของคนอ่ืน เหมือน
อย่างเป็นผชู้ าย เพศผชู้ ายอยา่ งนีก้ ็หลงกายของเรา ไม่รู้ หลง
เม่ือเราสง่ ออกไปขา้ งนอกอ่นื เราก็สง่ ไปทางเพศท่ีตรงกนั ขา้ ม
4
อยา่ งนี้ อยา่ งผชู้ ายก็หลงผหู้ ญิง ผหู้ ญิงกห็ ลงตวั ของเราเองแลว้
ก็สง่ ไปหลงคนตรงขา้ มอกี คือผชู้ ายอยา่ งนี้ ก็เรยี กวา่ เป็นกามะ
ฉนั ทะ
นอกนนั้ ก็ พยาบาท ก็เป็นนิวรณต์ วั หนง่ึ ทนี ี้ มนั ทาํ ใหเ้ รา
ลาํ บาก ลาํ บากกบั เรอ่ื งความรกั ความใครค่ วามพอใจในรา่ งกาย
ในความหลงกายอะไรตา่ งๆ ท่านก็วา่ พยาบาท
ถนี มทิ ธะ จิตท่ีเราอย่ใู นท่ีความรกั ความใครค่ วามหลง
รา่ งกาย น่ีเป็นเคร่อื งครอบจติ ใจเรา ทา่ นบอกวา่ ถีนมทิ ธะ ถ่นิ ๆ
นนั้ มนั เป็นท่มี ดื มนั เป็นอารมณม์ ืด มนั เป็นความมืดของกิเลส
ของจติ มนั ปิดบงั มนั ไม่ใหเ้ ราเหน็ เป็นความดาํ ของจิตคนเรา
และสตั ว์ ทา่ นวา่ ถีนมทิ ธะ
นอกนนั้ ก็ อุทธัจจะ กุกกุจจะ พอจติ มนั ไม่มีความสงบ ไม่
มีความรม่ เยน็ ไมม่ ีความรูค้ วามสวา่ ง ทีนมี้ นั ก็เป็นท่ีมืด แลว้ ก็
เป็นท่ีฟงุ้ ซา่ นราํ คาญหงดุ หงดิ อดึ อดั เหมือนเราอยใู่ นท่ีไม่ปลอด
โปรง่ อยใู่ นท่บี งั คบั ทา่ นวา่ อทุ ธจั จะ กกุ กจุ จะ
5
นอกนนั้ นิวรณต์ วั สดุ ทา้ ยก็เรยี กวา่ วิจกิ จิ ฉา เราเป็นมาจาก
ขอ้ ตน้ คอื ขอ้ กามะฉนั ทะ ความหลงกายของเรา ความรกั กาย
ของเรา จงึ วา่ กามะฉนั ทะ ทาํ ใหเ้ กิดวจิ ิกิจฉาในท่ีสดุ คือหลง
ความรกั ความใครค่ วามสวยความงาม แลว้ ก็เพลินก็ตดิ ก็มี
ความถกู ใจในอารมณ์ ทา่ นจงึ บอกวา่ มนั เป็นพวกอารมณข์ อง
โลกกิเลส เป็นนิวรณเ์ ป็นตวั ท่ีมาไหวม้ าวอนมาหลอกลวง เป็น
มารยา เรยี กวา่ เป็นมารยาของจติ ท่ีมนั แฝงมากบั จติ กบั กิเลส
มนั เป็นเชือ้ ท่ีอย่ดู ว้ ยกนั มา ทา่ นจงึ วา่ มารยา มารยาก็คือเป็น
พวกมารของจติ ของสมาธิ มนั เกิดมาดว้ ยกนั มนั แฝงหลบซอ่ น
อยดู่ ว้ ยกนั ก็เป็นเร่อื งของตวั เราทกุ คนหละทีนี้ มนั อยดู่ ว้ ยกนั
เกิดมาดว้ ยกนั อาศยั เจรญิ อยดู่ ว้ ยกนั แลว้ ก็ตดิ พนั ไปดว้ ยกนั
อยา่ งนนั้ ก็เอาความหลงเป็นเครอ่ื งผกู มดั กนั ไป
ฉะนนั้ ทา่ นจงึ ใหม้ าหาความสงบ มาตงั้ สติ มาเจรญิ ภาวนา
ใหเ้ กิดความรู้ ใหเ้ กิดสติปัญญาขนึ้ จากการปฏบิ ตั ิ ไมใ่ ช่เรามา
คดิ นกึ เอาธรรมดา เราตอ้ งมาฝึกมาปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตวั ของเรา ดว้ ย
ใชร้ า่ งกายของเราทาํ เอา ถา้ เรามาเอาตามตวั หนงั สือ ตาม
6
ความรูท้ างพระธรรมคาํ ส่งั สอนของพระพทุ ธเจา้ เราก็ได้
แนวทางในเบอื้ งตน้ แตม่ นั ก็ไมใ่ ชเ่ ป็นความรูข้ องเรา มนั เป็น
แนวทางเบือ้ งตน้ มนั เป็นสญั ญาความจาํ ท่ีจะนาํ เราเขา้ ไปเป็น
หลกั ปฏบิ ตั ิ เป็นขอ้ ปฏิบตั เิ พ่ือแก้ เพ่ือแกส้ ญั ญาท่ีเรานาํ เขา้ ไป
เป็นตวั อยา่ ง หรอื เป็นคาํ สอน มนั เป็นสญั ญาอยู่ ถา้ เรามา
กล่นั กรองมาภาวนามาปฏบิ ตั ิธรรมใหม้ นั ไดผ้ า่ นความสงบ ให้
มนั ไดค้ วามรูค้ วามเขา้ ใจในเรอ่ื งของหลกั ของกิเลสของนิวรณ์
ของตวั รา่ งกายของเราอยา่ งนีใ้ หเ้ ขา้ ใจ พอเราเขา้ ใจแลว้ ก็จะเกิด
ความรูม้ าจากสว่ นความสงบสว่ นภายใน เกิดมาจากปัญญา เรา
ก็ไดแ้ กไ้ ขมาจากพวกสญั ญาท่ีเรานาํ ไปเป็นแนวทางก่อน เป็น
ขอ้ คิด
แตเ่ ราไปพจิ ารณาเกิดความรูค้ วามเหน็ ชดั เจนแจ่มแจง้ ขนึ้
เราเกิดปัญญาขนึ้ ก็เปล่ียนแปลงจากความจาํ สญั ญาท่ีเรานาํ ไป
แตเ่ รามาแกไ้ ข เอามาปฏบิ ตั ิ แกเ้ รอ่ื งรูป เร่อื งนวิ รณต์ า่ งๆ ท่ีมนั มี
ประจาํ ทาํ ใหเ้ ราเกิดขนึ้ มาในโลก ก็มาจากพวกนิวรณพ์ วกกรรม
ตา่ งๆท่ีเราไมไ่ ดแ้ ก้ เราไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิใหร้ ูจ้ กั ถา้ เรารูจ้ กั ทางแก้ รูจ้ กั
7
เจรญิ ปัญญามาใหเ้ กิดความรู้ ทาํ สตใิ หม้ ีกาํ ลงั แกก่ ลา้ ทาํ สตใิ ห้
ม่นั คง ทาํ สติใหเ้ จรญิ กา้ วหนา้ เรยี กวา่ เราทาํ เพ่ือไมใ่ หพ้ วกมาร
พวกกิเลสพวกนิวรณต์ า่ งๆท่มี นั เป็นตวั มาร ท่ีมนั จรอย่ใู นจิตของ
เรา ท่มี นั เท่ียวมาหลอกเรา
ดงั นนั้ กิเลสมนั ก็เป็นผี เป็นผีหลอก คอื มาหลอกคนท่ีกลวั
คนท่ีกลวั ใหต้ กใจ ใหส้ ะดงุ้ เหมือนอย่างท่ีจิตใจของเราไม่มี
กาํ ลงั เขม้ แขง็ พอมนั หลอกเอาเราก็สะดงุ้ เราก็พะวง เราก็เพอ้
จากท่ีจิตของเราไมเ่ ขม้ แข็งไม่แนน่ หนา เหมือนเราถกู เราต่นื
เสียงเตือนเร่อื งตา่ งๆ ถกู หลอกอย่างนี้ เราก็สะดงุ้ กิเลสมนั
หลอกจติ ใหก้ ลวั ใหส้ ะดงุ้ มนั มาเหน่ียววอน มนั มาแสดงเป็น
เรอ่ื งสอนจิตใหเ้ รารู้ เคา้ ก็มีหนา้ ท่ี อยา่ งมารยาอยา่ งกิเลสอย่าง
นี้ ช่ือก็ช่ือวา่ มาร เป็นมารยา การตกแตง่ การแกก้ ารวธิ ีทาํ วธิ ี
ปรุง วิธีคดิ ตา่ งๆน่ี ทาํ แปลกปลอก ทาํ ใหห้ ลงใหล ทาํ ใหต้ ดิ ใจจงึ
วา่ มารยา ผทู้ ่มี ีมารยาของกเิ ลส ดงั นนั้ มารจงึ เป็นคศู่ าสนามา
ตงั้ แตพ่ ระพทุ ธเจา้ ของเรา การท่ีเราสรา้ งอะไรใครๆก็พบปะแลว้
ก็พดู กนั อยตู่ ลอดวา่ เออ้ ทาํ ดีก็ยงั มีมาร คอื วา่ มนั ไม่ไดเ้ ลอื กใคร
8
ทีนี้ ใครจะทาํ อยา่ งไรเขาก็ตอ้ งมีมารเขา้ ไปขวาง ทาํ ดกี ย็ งั มีมาร
เพราะวา่ มนั เป็นของมีประจาํ โลกมาแตก่ าลไหนๆแลว้ ถา้ เรา
เขา้ ใจอย่างนนั้ แลว้ เราก็ไมบ่ น่ ไมท่ รุ นทรุ ายหละทีนี้ วา่ มนั ก็มีทาํ
ยงั ไงไมใ่ หม้ นั มี มนั ก็มี
ถึงเราปฏิบตั กิ เ็ หมือนกนั แหละ สิง่ ท่ีไม่ดีเราไมอ่ ยากใหม้ นั
เป็น แตม่ นั ก็เป็นไปได้ มนั ไปบงั คบั ไปแยกมนั ออกไมไ่ ด้ เราก็ถือ
วา่ มนั เป็นหลกั ของกิเลสของธรรมะ มนั อยดู่ ว้ ยกนั มนั แกก้ นั อยู่
อย่างนี้ จะไปวา่ ใหใ้ ครก็ไมถ่ กู หละทีนี้ เราตอ้ งวา่ ใหจ้ ิตท่ีเราหลง
วา่ ไป ผหู้ ลงตอ้ งเอาผรู้ ูไ้ ปบอกไปสอนเอาวา่ เร่อื งทาํ อะไรมนั ก็มี
สงิ่ ขดั ขอ้ งมีมารมีสิง่ มาขวางกนั้ แตก่ ็เพ่ือใหเ้ ราแกส้ งิ่ ท่ีมนั มีการ
ตดิ ขดั มีการไม่สะดวก มีการลาํ บากตา่ งๆน่ี มนั ก็เป็นการสรา้ ง
การปฏบิ ตั เิ พ่ือแก้ แกส้ ่ิงท่ีมนั ขดั ขอ้ งสงิ่ ท่มี นั ไม่ดี อยา่ งความท่ี
เราไมเ่ ขม้ แขง็ เราออ่ นแรง เราเหน่ือยลา้ เราเกิดความระอาใจ
เกิดความขีเ้ กียจ เราก็ตอ้ งแกใ้ หห้ มด เราไมแ่ กม้ นั ก็ไปไมไ่ ด้
ทา่ นจงึ บอกวา่ อย่างทาํ ดมี นั ก็มีมาร มีพวกนิวรณ์ มีพวกสิ่ง
ตา่ งๆ เอากลบั มาสอนหละทนี ี้ มาสอนจติ ใหร้ ูจ้ กั แกไ้ ข ใหร้ ูจ้ กั
9
หาทางหลบหลีกไป ใหไ้ ดค้ วามสงบ ไม่ใหพ้ วกมารพวกกิเลส
เป็นเจา้ ของ เราเป็นผแู้ กไ้ ขผปู้ ฏิบตั อิ ยู่ เราก็มีความเพยี ร
พยายามมีความขยนั อดทน มีกาํ ลงั ใจท่ีจะแกไ้ ขเรอ่ื งท่ีมาย่งุ
เก่ียวกบั ความสงบท่ีเราปฏบตั ิอย่ไู มใ่ หม้ นั ข่นุ มวั ไม่ใหม้ นั
กระทบกระเทือนภายในจิตของเราผปู้ ฏิบตั ิ อนั นีเ้ รยี กวา่ มารท่ีมี
อยกู่ บั โลกประจาํ มนั อย่กู บั ศาสนาเป็นคเู่ ป็นธรรมะท่ีจะทาํ ให้
ชาวพทุ ธของเราไดร้ ูจ้ กั ทาํ ความดี ไดร้ ูจ้ กั หาวธิ ีแก้ รูจ้ กั เจรญิ
ความดใี หม้ าก ถา้ เรารูว้ า่ เรายงั สไู้ มไ่ ด้ เรายงั มีความเหน่ือย
ละอายใจ เราก็ใชก้ ารแกไ้ ข เราก็เพียรพยายาม เราเพ่มิ ความดี
ขนึ้ ทกุ ที ตงั้ แตเ่ ลก็ ไปถึงมาก ไปถึงโตจนสมบรู ณแ์ บบน่นั เราก็
อาศยั การปฏบิ ตั ิท่ีเรามาดู เรามาดเู รอ่ื งธรรมะกบั พวกมารกบั
พวกกิเลสทงั้ หลายท่มี นั ทาํ งานอยใู่ นโลก แลว้ เราก็มาอาศยั
เก่ียวขอ้ งอยแู่ ลว้ ก็มาดนิ้ รนว่งิ วนอยเู่ หมือนกนั เรยี กวา่ เราว่ิง
หา…หารู้ หาหลกั หาท่พี ่งึ นะ่
อยา่ งชาวบา้ นอย่างนี้ อยา่ งฆราวาสน่ีกท็ าํ อย่เู หมือนกนั
หมดหละทนี ี้ ตอ้ งทาํ มาหากินเอง ตอ้ งพ่งึ ตวั เอง ไม่เหมอื น
10
พระสงฆท์ ่ีมาบวช พระสงฆท์ ่ีมาบวชท่านสละไวใ้ หท้ างบา้ น
หมดแลว้ ท่านก็เอาแตต่ วั ออกมาอย่ปู ฏบิ ตั ิ อาศยั บญุ เกิดจาก
ปฏบิ ตั เิ ป็นเครอ่ื งหลอ่ เลยี้ ง ไม่ตอ้ งไปทาํ ไปปลกู ไปสรา้ งไปตาก
แดดตากฝน ผลบญุ ก็เกิดขนึ้ เพราะวา่ ท่านไดเ้ สียสละไป ก็เกิด
เป็นผลบญุ ขนึ้ เรยี กวา่ ทาํ นาบญุ ไมไ่ ดท้ าํ นาบาป นาขา้ ว นา
หวา่ น นาดาํ อย่างทางโลกทีนี้ ก็มีกินมีใชเ้ พราะวา่ ไดท้ าํ นาบญุ
สว่ นท่ีเป็นผล เกิดจากการปลกู ทาํ ไวถ้ งึ จะมีชีวติ ถือศลึ ปฏิบตั ิ
ธรรมอยู่ ไม่ไดเ้ อารา่ งกายทาํ แตก่ ็เอาจติ ใจทาํ เป็นนาบญุ บญุ ก็
เจรญิ ก็มีอย่ตู ลอด ก็มี ไปอย่ทู ่ีไหนก็มีคนเกิดดลใจ เกิดอยากได้
บญุ ก็อยากถวายใหเ้ ป็นบญุ อนั นีเ้ ป็นสง่ิ หนง่ึ ท่ีเราไดอ้ าศยั
อย่างชาวบา้ นน่ีเราไม่ไดเ้ สียสละมาบวชทีนี้ เราตอ้ งเอาแรงเอา
สติปัญญาของเราทาํ เองคิดเอง ปลกู ดแู ลทกุ อยา่ ง ก็ตอ้ งเป็น
ของตวั เองหมด จงึ ตอ้ งอยนู่ ่ิงๆไมไ่ ด้ มนั จะตอ้ งวง่ิ จะตอ้ งหา
จะตอ้ งอดทนการหาอยหู่ ากนิ เลีย้ งปากเลยี้ งทอ้ ง แตแ่ ลว้ ก็เลยี้ ง
ชีวิตไวใ้ หม้ ีอยใู่ นโลกเหมือนกนั หละทนี ี้ แตว่ า่ เป็นทางลาํ บาก
แตกตา่ งกนั เพราะการทาํ บญุ มนั ก็ลาํ บากแตม่ นั ก็ไมไ่ ดล้ าํ บาก
11
ตรากตราํ เหมือนเราทาํ กบั งานทางโลก มนั ก็ผอ่ นคลายก็เบาบาง
ลง อยา่ งเรารกั ษาศีลอยา่ งนี้ เราก็ไม่ไดล้ าํ บาก ไม่ตอ้ งแบกไม่
ตอ้ งใชแ้ รงหอบหวิ้ อะไร เรามีแตต่ วั เปลา่ ๆอยา่ งนี้ เราก็มารกั ษา
มาจาํ ศลี อยา่ งวนั พระ มนั ก็ไม่เหน็ ความลาํ บาก น่ีวา่ ความ
แตกตา่ งกนั
ฉะนนั้ เรารูจ้ กั วา่ หนทางท่ีเราเดนิ ท่ีเราปฏบิ ตั มิ นั เป็นทาง
ลาํ บากทางไมล่ าํ บาก เราก็มที างศาสนาใหเ้ ราดู ใหเ้ รามีศรทั ธา
มีความเช่ือในการถือการปฏบิ ตั ิถือทางสมาทานท่ีเจรญิ ใน
ศาสนาน่ี อยา่ งท่ีวา่ เรามาจาํ ศลี มาภาวนา มาทาํ ความเพียร มา
ทาํ การหมนุ เวยี นศรทั ธาของเราใหม้ นั เขา้ แน่นในพทุ ธศาสนา ให้
มีความเช่ือม่นั คง ก็อาศยั เราเลอื ก เราหาท่หี าทาง หาทางเดนิ ท่ี
ดี หาทางท่ีจะไปสคู่ วามสขุ ในชีวิตของเราแตล่ ะคนทงั้ ปัจจบุ นั
และอนาคต ฉะนนั้ เร่อื งการท่ีเราเป็นชาวพทุ ธ เราก็มารูเ้ รอ่ื งการ
ท่ีมาปฏบิ ตั ิตอ่ ตวั เราเอง แลว้ ก็รูจ้ กั การท่ีจะมาแกก้ ิเลส แกค้ วาม
ไมด่ ี แกส้ ่งิ ท่ีไมส่ งบภายนอกออกจากจิตของเราใหไ้ ดร้ บั ความ
สงบ ไมใ่ หม้ ีเสยี งรบกวน ไมม่ ีเสียงกระทบ อย่างเสยี งโลกอย่าง
12
ท่ีวา่ มนั ก็จะสงบอย่ใู นจิต และส่ิงอ่ืนๆท่ีมนั เป็นสงิ่ มากระทบใน
รูปในรา่ งกายของเรา เรามีสติรบั รู้ เราไมไ่ ปถือเอามาเป็น
อารมณ์ เรามากาํ หนดรูอ้ ย่ทู ่ีจติ ท่ีความสงบ ท่ีเรามีสมาธิ
ภาวนาเป็นเครอ่ื งระลกึ เป็นเคร่อื งบรกิ รรม เรานอ้ มสตนิ อ้ มจติ
เขา้ ไปมาดใู หจ้ ติ อยใู่ นความสงบได้ คือไมไ่ ปเกิดความราํ คาญ
กบั เสยี งโลก เสยี งถงึ โลกภายนอก
แตถ่ า้ มนั มีเสยี ง มนั มีสง่ิ ปิดบงั จรงิ ๆก็กนั ไมค่ อ่ ยอย่ตู อ้ ง
อาศยั หลบ อยา่ งเสยี งเน่ีย แตอ่ ยา่ งรูป อยา่ งนีม้ นั ก็กนั งา่ ย
เพราะมนั มที ่ปี ิดเปิด อยา่ งเปลอื กตาน่ี หนงั ตาน่ี หมู นั ไมม่ ีท่ีปิด
เปิด เป็นโลง่ มนั ถงึ หลบยาก ถา้ ไปเป็นแบบธรรมชาติแบบหู
หนวกหตู งึ มนั ก็ไมด่ ี ไม่ถกู อกี หละทีนี้ มนั ก็เกิดความราํ คาญเกิด
ทกุ ข์ ฉะนนั้ เรอ่ื งสงิ่ กระทบภายในกบั ภายนอกมนั ก็มีในตวั ของ
เราทกุ คนแตเ่ ราก็รบั รู้ รบั กนั ไว้ กระทบแลว้ ไม่ใหม้ นั เป็นรอยชา้ํ
มนั เป็นรอยตาํ หนิ ไม่ใหเ้ ป็นเคร่อื งหมาย คอื ไม่ใหต้ ดิ ไม่ใหห้ ลง
อยา่ งตากระทบรูปอย่างนี้ หกู ระทบเสียง จมกู กระทบกลน่ิ ลนิ้
13
กระทบรส กายถกู ตอ้ งสมั ผสั อะไร ส่งิ ตา่ งๆก็ใหร้ ูจ้ กั ทีนี้ ใหร้ ูจ้ กั
กนั รูจ้ กั แกเ้ พราะมนั มากระทบแลว้ มนั ก็หายไป
อนั นีเ้ ร่อื งท่ีเราจะรกั ษาจติ ใหอ้ ยใู่ นธรรมในความสงบได้
ไม่ใหม้ าร ไมใ่ หน้ วิ รณ์ ไม่ใหก้ ิเลสของโลกตา่ งๆมารบกวน มา
เป็นขา้ ศกึ มาเป็นมาร เราก็เป็นผรู้ ูแ้ ลว้ ก็รูเ้ ร่อื งมนั รูจ้ กั ท่ีเกิดท่ีมา
ท่ีแกข้ องมนั อยา่ งนี้ เราก็วา่ เป็นผรู้ ู้ ถา้ เราไมร่ ูเ้ ราเป็นผหู้ ลง เราก็
เกิดความตดิ ขดั เกิดความทกุ ขเ์ กิดความไมส่ งบใจเกิดนิวรณ์
ตา่ งๆ คอื ไมม่ ปี ัญญาจะไปแกใ้ หม้ นั สงบไดเ้ พราะวา่ เราไมไ่ ดฝ้ ึก
เราไมไ่ ดร้ ูจ้ กั ท่ีเกิดท่ีมาของมนั แลว้ เรารูจ้ กั มนั ก็สงบเขา้ หา
ความรูข้ องเราได้ ทา่ นจงึ วา่ เป็นผรู้ ู้ ไมห่ ลง คอื เห็นแลว้ ก็รู้ อย่าง
เห็นรูปก็รูว้ า่ เป็นรูป แตถ่ า้ กิเลสก็จะวา่ ตอ่ ไปวา่ รูปสวย รูปไม่
สวย มนั กว็ า่ ไปอีกหลายเรอ่ื งหละทนี ี้ แตว่ า่ ถา้ ความรูธ้ รรมดาก็รู้
วา่ เป็นรูป รูปอะไร ก็คือรูป ท่วั โลกก็คือรูป โลกก็คือรูปโลก เสยี ง
ก็เหมือนกนั กม็ ีเสียงเดยี วเทา่ นนั้ คอื เสียงท่มี นั ดงั ใหก้ ระเทือน
จะเป็นเสยี งอะไรก็ตามก็คอื เสียงแตล่ ะอยา่ งๆ ก็รูว้ า่ ไมม่ หี ลาย
ไมม่ ีมากมายอะไร มนั มีอยา่ งเดยี วทนี ี้ ใหเ้ ราเขา้ ใจ เรารู้ เราก็ไม่
14
ไปวนุ่ วายกบั สง่ิ ท่ีมากระทบเรา จะเป็นรูปกร็ ูปเดยี ว ก็ดคู นๆ
เดยี วก็ก่ีลา้ นในโลกก็คนๆเดยี ว จะเป็นเสียงก็เหมือนกนั จะก่ี
ลา้ นเสยี งเท่าไหรก่ ็เสียงเดียว ก็มีหมด ดงั นนั้ มนั จะมากมายก็
คนเรานบั ไปขยายไป ก็เลยเพ่มิ มากขนึ้ แตถ่ า้ เรารวมลงมาให้
เป็นหนง่ึ เป็นความสงบอนั เดยี วซะแลว้ มนั ก็ไมม่ ีหละทีนี้ มนั ก็มี
เฉพาะเรอ่ื ง เฉพาะอนั เดียว ก็รู้ ก็ไม่ตอ้ งไปไลน่ บั ไลน่ กึ มาก ก็ดู
อย่ทู ่ีเดียวดอู นั เดยี ว มนั ก็รูแ้ ลว้ วา่ มนั เหมือนอนั เดียวกนั ความ
แตกตา่ งกนั สสี นั วรรณะอะไรก็เราก็ดๆู แลว้ ก็อนั เดยี วกนั
ดงั นนั้ การท่ีสอนจิตของเราใหร้ ูเ้ ร่อื ง รูโ้ ลก รูส้ ่งิ หลอกลวง
ของโลก รูม้ ารโลก รูก้ ิเลสโลกตา่ งๆ แลว้ เราก็แกไ้ ข เราก็
ดดั แปลงใหเ้ ป็นความรูแ้ กใ่ จเรา เรากเ็ ป็นผรู้ ูท้ ีนี้ เป็นพทุ ธศาสนา
เป็นพทุ ธบรษิ ทั ขนึ้ มา มีความศรทั ธาเช่ือม่นั ในคาํ สอนของ
พระพทุ ธเจา้ คือทา่ นสอนใหเ้ ป็นพทุ ธะ ใหเ้ ป็นผรู้ ู้ ใ◌ห้ เ้ ป็นผทู้ าํ
กิจให…้ ปฏิญาณจิตใหเ้ ขา้ ถงึ คณุ พระพทุ ธ คณุ พระธรรม คณุ
พระสงฆ์ คือเป็นผรู้ ูเ้ พ่ือแกค้ วามหลงท่ีเราหลงอย่ใู นโลกท่ีไมร่ ูจ้ กั
ทางแก้ อยา่ งวา่ เราไดท้ าํ ความรูม้ าสจู่ ิต ทาํ จิตเราใหเ้ ขา้ ถงึ ภมู ผิ รู้ ู้
15
ปฏิญาณตนเขา้ เป็นพทุ ธบรษิ ัท เป็นผหู้ นีจากความหลง เราจะมี
ความรูเ้ ป็นผรู้ ูต้ ่นื เป็นผรู้ ูส้ งบ เป็นผรู้ ูเ้ บกิ บานเพราะวา่ อย่ทู ่ีเรา
ปฏิบตั ิเขา้ มาหาจิตเราใหไ้ ด้ แลว้ กิเลสมนั จะหอบเขา้ มา เราก็
แหวกก็กนั มนั ไว้ เพราะวา่ กิเลสน่ีมนั เป็นของท่ีอยกู่ บั …ฝังใจ อยู่
ในสว่ นท่ีลกึ ลบั ของอารมณ์ เหมือนกบั จอกกบั แหน พอวา่ ย
ออกไปหนอ่ ยเดยี ว พอเราหยดุ มนั ก็หมุ้ เขา้ มาปิดอกี มนั บอกวา่
เราตอ้ งขยนั เราขยนั แหวกออก วา่ ยออก กนั ไวไ้ ม่ใหม้ นั หมุ้ เขา้
มา
น่ีแหละเร่อื งศาสนาเป็นเร่อื งคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้
ศาสนาของทา่ นผรู้ ู้ เราเป็นชาวพทุ ธเป็นพทุ ธบรษิ ัทก็ใหป้ ฏบิ ตั ิ
ตามแนวของพระพทุ ธองค์ ก็จะไดเ้ กิดสติปัญญาเป็นผรู้ ูเ้ รอ่ื ง
ศาสนาขนึ้ มา ก็จะเป็นผมู้ ่นั คงในศาสนา การใหอ้ บุ ายธรรมะมา
ก็พอสมควรแกก่ าลเวลา ก็ขอยตุ ิไวแ้ ตเ่ พียงเทา่ นี้
ท่ีมา: https://youtu.be/IZOeHQWGYPQ
16