The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรื่อง ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-01-29 21:35:38

เรื่อง ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

เรื่อง ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

Keywords: ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร,หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ธัมมจกั กปั ปวัตตนสูตร
หลวงป่เู ทสก์ เทสรงั สี

วนั นีเ้ ป็นวนั เขา้ พรรษา บรรจบครบรอบมาอกี วาระหนง่ึ ซง่ึ
ภิกษุสามเณรท่ีอย่จู าํ พรรษา นีก้ ็ พรุง่ นีจ้ ะไดอ้ ธิษฐาน
เขา้ พรรษาพรุง่ นีแ้ หละ และพรอ้ มกนั นนั้ ก็เป็นวนั อาสาฬห คอื
วนั พระพทุ ธเจา้ เทศนา ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร ใหภ้ กิ ษุทงั้ ๕
องค์ คอื ปัญจวคั คียท์ งั้ ๕ องค์ ฟังเป็นธรรมเทศนากณั ฑแ์ รก
เหตนุ นั้ พวกเราจงึ พากนั ทาํ อาสาฬหบชู าระลกึ ถึงวนั นนั้ แหละ

พระพทุ ธเจา้ ทา่ นตรสั รูเ้ ดือน ๖ เพญ็ คือเดอื น ๖ เพญ็ น่นั
ทา่ นตรสั รู้ พอมาเขา้ พรรษานี้ เดือน ๘ เพญ็ ก็พอดีไดส้ องเดอื น
พอดี มาถงึ วนั นนั้ พระองคจ์ งึ เทศนาใหป้ ัญจวคั คยี ฟ์ ัง แทท้ ่ีจรงิ
ปัญจวคั คียน์ นั้ ก็เคยเป็นลกู ศิษยข์ องพระองคม์ ากอ่ น เม่ือ
พระองคท์ าํ ทกุ รกิรยิ าอยู่ ปฏบิ ตั ิอปุ ัฏฐากพระสิทธตั ถะราชกมุ าร
เม่ือยงั ไมเ่ ป็นพระพทุ ธเจา้ เม่ือพระองคท์ าํ ทกุ รกิรยิ าไมใ่ ช่
หนทางเสียแลว้ จงึ ไดป้ ลีกตวั ออกไป ทาํ ความเพียรผเู้ ดยี ว
พวกปัญจวคั คียท์ งั้ หลาย เหน็ พระองคล์ ดละความเพียร คอื ทาํ

1

ไม่ถกู หนทาง เชน่ พระองคอ์ ดขา้ วจนกระท่งั ซูบผอม พระองค์
เห็นวา่ ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นหนทางตรสั รู้ พระองคก์ ลบั คนื มา
ฉนั พวกปัญจวคั คียน์ นั้ เหน็ วา่ มกั มาก จงึ หลบหลกี หนีไป
พระองคจ์ งึ ไดป้ ระกอบความเพียรแตผ่ เู้ ดยี ว

ไดส้ าํ เรจ็ มรรคผลนิพพานแลว้ จงึ มาคิดถงึ เร่อื งผทู้ ่ีจะได้
สาํ เรจ็ ผทู้ ่จี ะมาฟังเทศนา ใครหนอจะไดร้ ูม้ รรคผลกบั เราหนอ
ใครจะมาเหน็ แจง้ แทงตลอดอยา่ งเราน่ีไดห้ นอ ธรรมะน่เี ป็นของ
ลกึ ละเอยี ดเหลอื เกิน พจิ ารณาไปๆ นกึ ถงึ อาฬารดาบส อทุ ก
ดาบส ก็ตายเสยี แลว้ ยงั เหลือแตป่ ัญจวคั คยี เ์ น่ียแหละพอจะมหี ู
ตาสวา่ งพอสมควร พระองคจ์ งึ ไดเ้ สดจ็ ป่าอสิ ิปตนมฤคทายวนั
พอเหน็ พระองคก์ ลบั คนื มาอกี ปัญจวคั คีย์ ฤาษีทงั้ หา้ โนน่
มาแลว้ คนมกั โลภมากๆมาแลว้ มาก็อยา่ เถอะ พวกเราอยา่ ไป
รบั ตอ้ นเลย เพียงแตป่ อู าสนะแลว้ ก็แลว้ กนั

พอพระองคไ์ ปถงึ ท่ีไหนได้ พากนั กลุ ีกจุ อพากนั ตอ้ นรบั ทกุ
คน เม่ือพระองคไ์ ปถงึ ท่ีประทบั แลว้ จงึ เทศนาใหฟ้ ัง ทีแรกก็ดอื้
ดา้ นไมย่ อมฟัง ในผลท่ีสดุ พระองคก์ ็บอก เราตรสั รูแ้ ลว้ เราเป็น

2

พระพทุ ธเจา้ แลว้ อนั คาํ นีเ้ ธอเคยไดย้ นิ มยั้ เธอทงั้ ๕ เคยได้
ยินมยั้ เราเคยพดู มยั้ แตก่ ่อน จงึ คอ่ ยสะดดุ ใจ จงึ คอ่ ยนอ้ มใจฟัง
พระองคเ์ จา้ จงึ เทศนาถงึ เรอ่ื ง ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร น่ีแหละ
เรอ่ื งเป็นมาอย่างนี้ วนั นีแ้ หละ คลา้ ยกบั วนั นีแ้ หละ ท่ีวนั
พระองคจ์ ะเทศนา

เหตนุ นั้ เราจงึ ระลกึ ถงึ พระธรรมเทศนากณั ฑแ์ รกท่พี ระองค์
เจา้ ตรสั รู้ การระลกึ ถึงนีถ้ งึ หากเราไม่ไปเหน็ อยา่ งเคา้ ไปอินเดยี
เคา้ ไปเหน็ ท่พี ระองคเ์ จา้ ตรสั รู้ ครนั้ ผหู้ ากระลกึ คิดถงึ
พระพทุ ธเจา้ แลว้ คาํ วา่ ระลกึ คิดถงึ น่นั นะ่ ก็ปรากฏเหมือนกบั
พระพทุ ธเจา้ ยงั เทศนาปรากฏอย่ใู นท่ีนนั้ เสยี งแวว้ ๆปรากฏอยู่
ในหู เกิดปลืม้ ปีติ เกิดอ่ิมอกอ่ิมใจ ปราโมทยข์ นึ้ มา ไดป้ สาธะ
ศรทั ธาเล่ือมใสเป็นบญุ อนั ยง่ิ ใหญ่ เราไม่ไดไ้ ป ผทู้ ่ีไม่ไดไ้ ป ก็
ระลกึ ถึงวนั นนั้ แหละ ระลกึ ถงึ อย่างนนั้ แหละ อย่างวนั นีแ้ หละ
คลา้ ยกบั วนั พระพทุ ธเจา้ ตรสั เทศนาธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร
กณั ฑแ์ รกหละ เราเกิดความพอใจ ปลืม้ ปีตขิ นึ้ มนั ก็เป็นบญุ กศุ ล
เหมือนกนั มนั ไม่ตอ้ งเสยี เงนิ เสยี ทองมาก

3

คราวนีจ้ ะเทศนาธมั มจกั รใหฟ้ ัง เอายน่ ย่อ ธรรมเทศนาท่ี
พระองคจ์ ะเทศนานนั้ ใจความก็ไม่มีอะไรหรอก อริยสัจ ๔ เน่ีย
แหละ คือทุกข์ สมุทยั นิโรธ มรรค มีส่อี ย่างเนีย้ พระองคก์ ็
เทศนาทงั้ หมด แตว่ า่ พระองคเ์ ทศนาน่นั เทศนาโดยอาการ ๔
เรยี กวา่ ปริวตั ร ๓ คืออาการ ๔ นนั้ คอื ทกุ ขห์ นง่ึ สมทุ ยั นิโรธ
มรรค อนั นี้ ๔ แตล่ ะอนั ๆ แตล่ ะอย่างๆนนั้ มีปรวิ ตั ร ๓ คอื
หมายความถงึ วา่ ทกุ ขเ์ ป็นหนง่ึ แลว้ เป็นของควรกาํ หนด น่ีเป็น
สอง เราไดก้ าํ หนดแลว้ น่ีเป็นสาม

ทกุ ขน์ ่ีเขากาํ หนดอย่างไร ทกุ คนมีอย่ใู นตวั ตนทกุ คนแลว้ จงึ
วา่ ควรกาํ หนด ถา้ ไมก่ าํ หนดก็อย่างพวกเราๆทงั้ หลายน่ีแหละ
ทกุ ขซ์ กั เท่าไรๆก็ไม่เหน็ ไม่เคยเหน็ ทกุ ขใ์ นตวั เหน็ ทกุ ขแ์ ตค่ นอ่ืน
ถงึ อาจทกุ ขใ์ นตวั ก็เจ็บหนกั พกั ใหญ่กระท่งั นอนเส่อื อยกู่ บั เส่อื
กบั หมอนโน่นน่ะ เราคอ่ ยจะเห็นทกุ ข์ แตพ่ อหายจากนนั้ ไปแลว้
ก็เลยละเลยมนั ซะ ไมเ่ หน็ เป็นทกุ ข์ แตพ่ ระองคเ์ จา้ พจิ ารณาจงึ
วา่ ควร ทา่ นวา่ งนั้ คาํ วา่ ควร น่ี ไมใ่ ชบ่ งั คบั มนั เป็นการราํ พงึ
เป็นคาํ ราํ พงึ คาํ วา่ ควร นะ่ ควรกาํ หนดดว้ ยแท้ คือวา่ จะให้

4

บงั คบั ใหก้ าํ หนดก็ไม่ได้ จะใชบ้ งั คบั ก็ไม่ได้ ตอ้ งใชค้ าํ วา่ ควร คอื
เห็นดว้ ยตนเอง จงึ เรยี กวา่ ควรกาํ หนด ทกุ ขเ์ ป็นของควรกาํ หนด

ทกุ ขค์ ืออะไร ตงั้ แตเ่ กิดมา ทกุ คนเกิดอยใู่ นทอ้ งครรภ์
มารดา ก็ทกุ ขอ์ ยแู่ ลว้ แตว่ า่ ไม่รูจ้ กั วา่ ทกุ ข์ ก็ลองคดิ ดสู ิ เดก็ นอน
อยใู่ นทอ้ งมารดา มนั นอนไดท้ ่าเดยี วก่ีเดอื นมาแลว้ เจ็ดแปด
เดือนมาแลว้ จะไม่ทกุ ขไ์ ดย้ งั ไง๊ ถา้ หากพวกเราลองดู ไปนอนอยู่
นีล้ องดู มนั จะนอนไดห้ รอื นนั้ จงึ วา่ มนั เป็นทกุ ข์ คลอดออกมาก็
เป็นทกุ ข์ เติบโตมาก็เป็นทกุ ข์ จนทกุ วนั นีก้ เ็ ป็นทกุ ข์ เราน่งั อย่กู ็
เป็นทกุ ข์ นอนอยกู่ ็เป็นทกุ ข์ ยืนก็เป็นทกุ ข์ เดนิ ก็เป็นทกุ ข์ จงึ วา่
เป็นของควรกาํ หนดโดยแท้ แตเ่ ราไมค่ ิด ไมค่ าํ นงึ ถงึ จงึ คอ่ ย
ประมาทมวั เมา ทกุ ขค์ ือของกาํ หนดอยา่ งนี้ แตว่ า่ เราละเลยเสยี
จงึ ประมาท

พระพทุ ธเจา้ วา่ พระองคไ์ ดท้ าํ มาแลว้ เรยี กวา่ ทกุ ข์ พระองค์
ก็ควรกาํ หนด มนั เป็นอนั หนง่ึ พระองคไ์ ดก้ าํ หนดแลว้ คราวนี้
กาํ หนดแลว้ เรยี บรอ้ ยแลว้ คอื วา่ กาํ หนดแลว้ ทกุ สง่ิ ทกุ อย่างมนั
เป็นทกุ ขอ์ ยา่ งนนั้ ชดั เจนแจม่ แจง้ ทกุ เม่ือ เห็นแจง้ เหน็ จรงิ ดว้ ย

5

ตนเอง ถึงแมจ้ ะมีทกุ ขเ์ กิดขนึ้ มา พระองคเ์ จา้ ก็อยดู่ ว้ ยความ
พิจารณา อยใู่ นปัญญาวปิ ัสสนาของพระองค์ ใครๆก็ทกุ ขท์ กุ คน
ไม่มีใครจะเหลือหลอ ทกุ ขอ์ นั นีข้ องโลกทนั เป็นอยอู่ ยา่ งนนั้
พระองคจ์ งึ วา่ เกิดขนึ้ มาแลว้ มีแตท่ กุ ขเ์ ทา่ นนั้ เกิดขนึ้ มาแลว้ จน
ดบั ไป ทกุ ขน์ นั้ ดบั ไป ทกุ ขอ์ ่ืนเกิดขนึ้ มาอกี แลว้ ทกุ ขน์ นั้ กด็ บั ไป
มนั ดบั ไปดว้ ยการอนั ใด คอื น่งั มนั ทกุ ข์ แลว้ คราวนีก้ ็เปล่ยี น
อิรยิ าบถ ก็คอ่ ยเบาบางไปนิดหนอ่ ย อนั ทกุ ขน์ ่งั มนั หายดบั ไป
พอยืน ทกุ ขน์ นั้ กลบั ขนึ้ มาอกี จะไม่ใชท่ กุ ขน์ ่งั ทกุ ขย์ ืน พอยืน
แลว้ มนั เหน่ือยก็เดนิ ไปอกี กา้ วไปอีก ทกุ ขย์ ืนนนั้ หายไป แลว้ ก็
ทกุ ขเ์ ดนิ นนั้ กลบั มาอีก อย่างนีแ้ หละ เวียนไปเวยี นมาทงั้
อริ ยิ าบถทงั้ ๔ อย่ตู ลอดเวลา น่ีพระองคไ์ ดก้ าํ หนดแลว้ ทกุ ขเ์ ป็น
ของกาํ หนด เราไดก้ าํ หนดแลว้ น่ีจงึ เรยี กวา่ อาการสาม

สมุทยั แลว้ คราวนี้ สมทุ ยั นนั้ คือเหตใุ หเ้ กิดทกุ ข์ อะไรก็ตาม
เถอะ มนั มีเหตุ มนั กเ็ ลยเป็นทกุ ข์ มีเหตมุ ีผลทงั้ นนั้ ทกุ สงิ่ ทกุ
อยา่ งมีเหตมุ ีผลทงั้ นนั้ ในโลกนีม้ ีเหตมุ ีผลดว้ ยกนั ทงั้ นนั้
พระองคจ์ ะตามสบื สวนหาเหตขุ องทกุ ข์ คอื ตวั สมทุ ยั อยา่ งเรา

6

ตอ้ งการอยากไดอ้ ยากดี อยากมีอยากเป็น เราก็ขวนขวายหา
ขวนขวายหานนั้ ก็ตอ้ งเดอื ดรอ้ นเป็นทกุ ข์ ไดบ้ า้ งไม่ไดบ้ า้ ง ถกู ใจ
บา้ งไม่ถกู ใจบา้ ง เศรา้ โศกเสยี ใจ เดอื ดรอ้ นวนุ่ วาย อนั นนั้
เรยี กวา่ มนั ประสบ เรยี กวา่ เหตใุ หเ้ กิดทกุ ขค์ ือความอยาก
พระองคเ์ รยี กวา่ ตณั หา ๓ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตณั หา
ไมน่ อกเหนือจากสามประการนี้ คนเกิดขนึ้ มา เกิดมาอยใู่ นกาม
เกิดดว้ ยกาม ติดกาม นอนอยใู่ นกาม น่งั อย่ใู นกาม คือรูป เสียง
กลนิ่ รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ไม่หนีจากหนีทงั้ นนั้ ผใู้ ดเกิดมา
ตอ้ งวนุ่ อย่กู บั ของอนั นีแ้ หละ เดอื ดรอ้ นอย่กู บั ของพวกนีแ้ หละ
เรยี กวา่ ตณั หา คือวา่ มนั ขอ้ ง มนั ติด ไปไมห่ ลดุ ไปไมพ่ น้ เรยี กวา่
ตณั หา ๓ กามตณั หา

ภวตณั หา ความอยากเป็น อยากมี อยากอะไรตา่ งๆ ความ
อยากนนั้ เรยี กวา่ ภวตณั หา วภิ วตณั หา ความไมอ่ ยากเป็นก็
เดอื ดรอ้ นเป็นทกุ ขอ์ ยเู่ หมือนกนั ไม่ใช่อยากเป็นคอ่ ยเดอื ดรอ้ น
ความไมอ่ ยากเป็นอยากมีมนั ก็เดอื ดรอ้ นอกี เหมือนกนั ไม่พน้
จากนี้ ทา่ นเรยี กวา่ สมทุ ยั เป็นของควรละควรทิง้ เราไดท้ งิ้ แลว้

7

สมทุ ยั เป็นของละได้ ทกุ ขล์ ะไมไ่ ด้ ถึงพระองคเ์ จา้ จะพจิ ารณา
เหน็ ทกุ ขก์ ็ละไม่ได้ เหมือนกบั เราทงั้ หลายน่ีแหละมนั ก็มอี ย่อู ยา่ ง
นนั้ ติดตวั อยอู่ ยา่ งนนั้ ถา้ หากวา่ มีรูปกายนีต้ ราบใด มนั ก็ตอ้ งมี
ตดิ อยตู่ ราบนนั้ พระองคเ์ จา้ ไม่เป็นทกุ ขเ์ พราะเหตทุ ่ีเหน็ เป็นทกุ ข์
ท่ีพระองคไ์ ดก้ าํ หนด(ทกุ ข)์ แลว้ ทา่ นบอกวา่ ไดก้ าํ หนดแลว้
สมทุ ยั เป็นของควรละ เราไดล้ ะแลว้ สมทุ ยั เป็นของควรละหนง่ึ
เราไดล้ ะแลว้ หนง่ึ สมทุ ยั หน่งึ เป็นของควรละ เราไดล้ ะแลว้ เป็น
สามเหมือนกนั อยา่ งความอยาก ลองดู ลองคดิ ดกู ็แลว้ กนั เรา
อยากไดโ้ นน่ อยากอนั นี้ สละไป เราไมเ่ อาแลว้ ทงิ้ เลย ปลอ่ ยวาง
เลย สละไดจ้ รงิ ๆ น่นั นะ่ สมทุ ยั เป็นของควรละ เราละแลว้

นิโรธเป็นของควรทาํ ใหแ้ จง้ เราทาํ ใหแ้ จง้ แลว้ คาํ วา่ นิโรธ
นนั้ คอื ความดบั ทกุ ข์ เม่ือเราเห็นตวั สมทุ ยั เราละสมทุ ยั มนั ก็
เป็นอนั วา่ นิโรธเป็นของควรทาํ ใหแ้ จง้ เราทาํ ใหแ้ จง้ แลว้ เม่ือละ
สมทุ ยั มนั กเ็ ป็นนิโรธน่นั เอง

มรรคเป็นของควรเจรญิ เราไดเ้ จรญิ แลว้ มรรคนนั้ คอื
สัมมาทฐิ ิเป็นตวั แรก สมั มาทฐิ ิตวั เดยี วเทา่ นนั้ แหละ เป็นมรรค

8

๘ เลย ถา้ ความเหน็ ชอบแลว้ น่นั ก็เป็นวา่ ถกู ทงั้ ๘ อยา่ ง ท่านจงึ
วา่ มรรคทงั้ ๘ มนั รวมอนั เดยี วกนั รวมออกเป็นหนง่ึ ถา้ จิตรวม
ลงไปเป็นหนง่ึ แลว้ มรรค ๘ ตวั เดียวน่นั แหละท่ีจะทาํ จติ ใหเ้ ป็น
หนง่ึ เพราะสมั มาทฐิ ิคอื ความเหน็ ชอบ สมั มาทิฐิ สมั มาสงั กปั โป
สมั มาวาจา สมั มากมั มนั โต รวมกนั หมด สมั มาดว้ ยกนั ทงั้ นนั้
อะไรๆหมดรวมในท่ีเดยี ว ทา่ นเรยี กวา่ ปรวิ ตั ร ๓ อาการ ๑๒ คอื
มี ๔ แลว้ ก็แตล่ ะอนั ๆน่นั มีปรวิ ตั ร ๓ จงึ รวมเป็น ๑๒

ปรวิ ตั ร ๓ อาการ ๑๒ นีร้ วมเป็นธรรมในขณะเดียว ธรรมใน
จิตในขณะเดียวทา่ นวา่ อยา่ งนนั้ ไมต่ อ้ งทาํ มนั ทกุ ขแ์ ลว้ สมทุ ยั
นิโรธ มรรค ไม่ตอ้ งไปทาํ มนั รวมเหน็ ในขณะเดยี วเลย ยากอยู่
กบั คนท่เี ราไมไ่ ดพ้ จิ ารณา พดู ยากท่ีจะเขา้ ใจ ถา้ พดู กนั งา่ ยๆวา่
อย่างวา่ เราเหน็ ทกุ ข์ เม่ือเหน็ ทกุ ขแ์ ลว้ ไอค้ วามเห็นทกุ ขน์ นั้ น่ะ
เป็นสมั มาทิฐิแลว้ น่ะ เหน็ ทกุ ขน์ ่นั น่ะ เรยี กวา่ ละสมทุ ยั แลว้ มนั
เป็นนิโรธ ละสมทุ ยั มาเป็นนโิ รธ คาํ ท่ีเหน็ ชอบตวั เดยี วน่นั น่ะ เลย
เป็นอนั เดยี วกนั หมด จงึ วา่ ทาํ จิตในขณะเดยี วกนั

9

น่ีหละท่ที ่านเทศนาถงึ เร่อื งอรยิ สจั ธรรมทงั้ ๔ ในปัญจวคั คยี ์
นนั้ มีเนือ้ ความรวบรวมลงเพียงแคน่ ี้ เพราะฉะนนั้ วนั นีเ้ รามาได้
ฟัง ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู รโดยย่อๆ ใหน้ อ้ มเขา้ มาพิจารณาใน
ตวั ของเรานี้ อย่าไดส้ ง่ ออกไปหาคนอ่ืน สงิ่ อ่ืนภายนอกจากตวั
ของเรา ทกุ ขก์ อ็ ยใู่ นตวั ของเรานี้ สมทุ ยั ก็อยใู่ นตวั ของเรานี้ นิโรธ
ก็อย่ใู นตวั ของเรานี้ มรรคก็อย่ใู นตวั ของเรานี้ อย่ใู นนีห้ ละหมด
เรอ่ื ง

พระพทุ ธศาสนาสอนใหเ้ ขา้ มาในท่ีนี้ ไมไ่ ดส้ อนออกไปนอก
สอนออกไปกวา้ งขวางไปนอกนนั้ ไมใ่ ชพ่ ระพทุ ธศาสนา มนั เป็น
โลก ครนั้ สอนธรรม สอนพทุ ธศาสนาตอ้ งสอนเขา้ มาท่นี ่ีทงั้ หมด
อนั เม่ือเราเหน็ ทกุ ข์ สมทุ ยั นโิ รธ มรรค ชดั เจนแจ่มแจง้ แลว้ เรา
เป็นผถู้ งึ ซง่ึ ธรรมะคาํ สอนพระพทุ ธเจา้ แลว้ พระอญั ญาโกณ
ฑัญญะ พระองคท์ รงแสดงวา่ รูแ้ ลว้ อญั ญาโกณฑญั ญะ รูแ้ ลว้
เห็นธรรมแลว้ เหน็ คืออะไร ธัมมจกั ขุง คอื วา่ ดวงตาเหน็ ธรรม
คือวา่ เหน็ ภายนอกภายใน ภายนอกนนั้ เหน็ ดว้ ยตาอยา่ งท่ีเลา่
ใหฟั ังน่ีแหละ ตวั ของเราเป็นกอ้ นทกุ ข์ เรยี กวา่ เหน็ ดว้ ยตา ถา้

10

เหน็ ดว้ ยตาแลว้ ก็ทงั้ ภายในใจก็เหน็ ชดั ดว้ ยใจ น่นั เรยี กวา่ เหน็
ภายนอกภายใน พระอญั ญาโกณฑญั ญะ ธัมมะจักจุง อุทะ
ปาทิ เกิดขนึ้ แลว้ ความรูอ้ นั นนั้ เหน็ ชดั ขนึ้ มาดว้ ยตนเองแลว้

แลว้ ก็ ปัญญาอุทะปาทิ คราวนี้ ปัญญารูร้ อบรูท้ ่วั หมดทกุ
ส่งิ ทกุ อย่าง วชิ ชาอุทะปาทิ รูแ้ จง้ เหน็ จรงิ ทกุ ประการ อนั
เดยี วกนั น่นั แหละ ธมั มะจกั ขงุ ก็อนั เดียวกนั น่นั แหละ ปัญญาก็
อนั เดียวกนั วชิ ชาก็อนั เดียวกนั อาโลโก ไมม่ ีเครอ่ื งปกปิดใน
โลกอนั นี้ จะปกปิดอะไรอกี ตวั ของเราก็เป็นอยา่ งนนั้ ตวั คนอ่นื ก็
เป็นอยา่ งนนั้ ใครๆทงั้ หมดกเ็ ป็นอยา่ งนนั้ มนั จะปกปิดท่ีไหน มนั
ก็เหน็ หมดนะ่ สิ จะวา่ อาโลโก อุทะปาทิ แตว่ า่ ไม่มีโลก คอื วา่
มนั เป็นธรรมทงั้ หมด เหน็ แจง้ ประจกั ษด์ ว้ ยกนั ทงั้ หมด

เราพากนั ฟังเทศนฟ์ ังธรรม มีอะไรบา้ งก็เหน็ เหน็ กบั ท่านพอ
ลางๆบา้ งมยั้ ชดั เจนในใจของเราบา้ งมยั้ ใหส้ อ่ งเขา้ มาภายใน
อนั เม่ือวา่ เห็นในใจของตน รูแ้ จงั ในใจของตน อยา่ งท่ีอธิบายมา
นี้ แลว้ จงพากนั รกั ษาความสงบ อบรมสมาธิอนั นนั้ ใหแ้ น่นหนา
แลว้ จงใชป้ ัญญาอนั นนั้ หละ ไม่ใช่ปัญญาอนั อ่ืนหรอก ปัญญาท่ี

11

เกิดน่นั แหละ เกิดจากอนั นนั้ หละ อยา่ ไปเหน็ อ่นื เลย เหน็ เทว
บตุ ร เทวดา อนิ ทร์ พรหม เหน็ สวรรค์ เหน็ นิพพาน อยา่ ไปเหน็
มนั เลย้ ของท่ีเหน็ ไม่ใช่ตวั ของเรา มาเหน็ ตวั ของเราน่ี อยา่ งท่ี
อธิบายใหฟ้ ังน่ีชดั เจน ใหร้ กั ษาอนั นนั้ ไว้ เน่ียท่ีแสดงมาก็สมควร
ดว้ ยกาลเวลา ดว้ ยประการะฉะนี้

(เทศนาตอ่ หลงั จบเทศน)์
หายาก ท่ีจะไดม้ าอยา่ งนี้ มาพรอ้ มเพรยี ง มาฟังเทศนฟ์ ัง
ธรรม น่หี ายาก ไหนๆก็เลยทาํ ความดแี ลว้ ก็จงทาํ ดีตอ่ ไป
อตุ สาหะวิรยิ ะพากเพียร เอาใหถ้ ึงท่ีสดุ ตามความสามารถของ
เรา จงน่งั ภาวนานนั้ อกี ตอ่ ไป ใครจะภาวนาอะไรก็เอาเถอะ ไม่
วา่ หรอก บรกิ รรมเบือ้ งตน้ จะเอาสมั มาอรหงั หรอื วา่ จะเอาอา
นาปานสติ จะเอายบุ หนอ พองหนอก็ตามใจ เอาตามชอบใจ คอื
วา่ หดั เบอื้ งตน้ ใหม้ นั ชาํ นิชาํ นาญ ทางไหนก็เอาทางนนั้ แหละ
เม่ือจิตมนั รวมเป็นสมาธิแลว้ มนั วางเองหรอก คาํ บรกิ รรม
คาํ บรกิ รรมเป็นเพยี งเครอ่ื งลอ่ เคร่อื งปลอ่ ย เคร่อื งลอ่ ใหจ้ ิต
เขา้ มาอยใู่ นบรกิ รรมเท่านนั้ แหละ ถา้ หากไปยดึ เอาคาํ บรกิ รรม

12

นนั้ ถา่ ยเดียว ไมร่ ูเ้ ร่อื งของจติ จติ ไปอย่นู ่นั กเ็ ลยไปเขา้ ใจวา่ มนั
เป็นจิตน่นั นะ่ ไปนกึ แตบ่ รกิ รรมอนั นนั้ อยู่ ไม่แลว้ ซกั ที จิตมนั ก็
เลยไม่รวมเป็นสมาธิ

บางคนนะเขา้ ใจวา่ เม่ือจิตรวมเป็นสมาธิแนว่ แนเ่ ตม็ ท่ีแลว้
มนั วางคาํ บรกิ รรมแลว้ เลยหาวา่ เส่ือมจากสมาธิ สมาธิถอนแลว้
มนั ไม่ใช่ ความเป็นจรงิ จิตมนั รวมแลว้ มนั วางหมดทกุ สงิ่ ทกุ
อย่าง แตค่ าํ บรกิ รรมก็วางทอดธรุ ะกนั ไป อนั นนั้ มนั เขา้ ถึงจติ แลว้
ใหก้ าํ หนดเอาจติ นนั้ จงึ จะถกู

มนั มีสามอยา่ ง อยา่ งนงึ นนั้ เม่ือรวมมาอยใู่ นคาํ บรกิ รรม ไป
ยดึ เอาคาํ บรกิ รรมนนั้ บางคนเจ็บหวั ปวดสมอง อนั นนั้ ก็เลยมนั
ไปยดึ เอาน่นั ไปยดึ อนั เดียว บางทีไปยดึ เอาคาํ บรกิ รรมเอาไวท้ ่ี
หวั ใจน่นั น่ะ กาํ หนดเอาท่ีหวั ใจหรอื ท่ีปลายจมกู อยทู่ ่ีนนั้ นะ่ ไป
กาํ หนดไวท้ ่ีนนั้ แหง่ เดียว เม่ือจติ มนั รวมไปแลว้ เจ็บหวั ใจก็มี
เจ็บปลายจมกู ก็มี น่นั นะ่ ไปยดึ เอาอนั นนั้ อยา่ งนงึ นนั้ มนั รวมลง
ไปแลว้ มนั วางทอดธุระ ปลอ่ ยวางหมดทกุ ส่งิ ทกุ อยา่ ง มนั วา่ ง
มนั สบาย ใหเ้ อาความวา่ งอนั นนั้ เป็นเคร่อื งอยู่ ใหพ้ จิ ารณา

13

ความวา่ งนนั้ เป็นเคร่อื งอยู่ ใหอ้ ย่ตู ลอดเวลา อยา่ ไปอยากรู้
อยากเหน็ อยา่ ไปอยากเหน็ โนน่ เหน็ น่ีอะไรตา่ งๆ เลยจิตถอนอกี
หละ ใหเ้ อาความวา่ งนนั้ อยซู่ ะกอ่ น อยนู่ านๆ ไม่ใชอ่ ย่วู นั สองวนั
นะ อย่ตู งั้ เป็นปี พอเขา้ ปีสองปีใหเ้ ขา้ อย่ตู รงนนั้ เสยี ก่อน

เม่ือพจิ ารณาความวา่ งใหเ้ ขา้ ถึงจติ เดมิ ของเก่าจติ เดมิ
ความวา่ งอนั นนั้ ไมม่ ีอะไรหรอก อาตมาเคยพดู ถงึ เร่อื งจติ กบั ใจ
มนั คนละอย่างกนั จิตอนั หนง่ึ ใจอนั หน่งึ แตท่ า่ นก็พดู วา่
เหมือนกนั น่นั แหละ จิตอนั ใดใจอนั นนั้ ใจอนั ใดจติ อนั นนั้ แต่
ทาํ ไมจงึ เรยี กจิตเรยี กใจ ทาํ ไมจงึ ไมเ่ รยี กอนั เดียวกนั มนั คงมี
แตกตา่ งกนั อยู่ อาตมาจะอธิบายใหฟ้ ังถงึ เร่อื งความแตกตา่ ง
ของจิตของใจ

ใจเป็นผวู้ างเฉยอยู่ ท่ีเรยี กวา่ จติ ตัง ปภสั สรัง อาคันตุเก
หกิ ิเลเสหิ จติ เป็นของเล่อื มใสปภสั สรอยตู่ ลอดเวลา บางคนวา่
จิตเป็นของเลอ่ื มใสปภสั สรอยตู่ ลอดเวลา ทาํ ไมถงึ ตอ้ งชาํ ระ มนั
ยงั ไม่ทนั ผอ่ งใสเต็มท่ี มนั ผอ่ งใสดว้ ยเพียงจติ เทา่ นนั้ ไมใ่ ช่
ปัญญา ปัญญามนั อีกตา่ งหาก ทาํ ใจใหผ้ อ่ งใสตอ้ งใชป้ ัญญา

14

ดว้ ยสิ เหมือนกบั เพชรนิลจนิ ดาท่ีเขาเอามาได้ เป็นของใสจรงิ ๆ
น่นั หละ แตม่ นั มีเศรา้ หมองอยู่ ตอ่ เม่ือเจียระไนซะใหม้ นั ละเอียด
ลงไป มนั จงึ คอ่ ยผ่องใสเต็มท่ี อนั นนั้ แหละฉนั ใดใจก็อยา่ งนนั้
เหมือนกนั ใจนนั้ น่ะ ผ่องใสสะอาดอยตู่ ลอดเวลา อาคนั ตกุ ะ
กิเลสนะ่ คอื จติ น่นั เอง ไปเกาะเก่ียวพวั พนั เอาสงิ่ อารมณท์ งั้ ปวง
หมด เอามามวั หมองของใจ

เหตนุ นั้ จงึ วา่ ใจคอื ของกลาง อย่างท่ีเราเรยี กวา่ กลาง ใจมอื
ก็กลาง ใจเทา้ ก็กลาง ใจอะไร ใจไม้ ใจอะไร ตรงกลางทงั้ นนั้
แหละ แมแ้ ตใ่ จคน หวั ใจตรงไหน ชีเ้ ขา้ มาท่ามกลางอกก็เรยี กวา่
ใจ คอื แสดงถึงเรอ่ื งของกลางนนั้ เอง เรยี กวา่ ใจ วา่ ใจ ใจไมใ่ ช่อยู่
ท่ีหวั ใจอยา่ งเดยี ว อยทู่ ่วั ไปหมดทงั้ รา่ งกาย ตงั้ แตป่ ลายผมถงึ
ปลายเทา้ มนั อย่ทู ่วั หมด มนั ไม่อย่ทู ่ีเกา่ หรอก มนั รูส้ กึ ตรงไหนก็
มีใจตรงนนั้ เหน็ มยั้ ใจตรงกลางตวั นีน้ ะ ไม่เป็นบญุ เป็นบาป เป็น
ของเฉยๆ ไมม่ อี ดีต อนาคต อยเู่ ป็นปัจจบุ นั ถา้ อยากจะรูจ้ กั ใจ
ตวั นีจ้ รงิ เราเอากลนั้ ลมหายใจลองดกู ็ได้ กลนั้ เด๋ยี วนีก้ ็ได้ กลนั้

15

ลมซกั พกั นงึ เทา่ นนั้ น่ะ ในขณะนนั้ ไมม่ ีอะไร มนั เฉย เพยี งแตร่ ูว้ า่
เฉย แตไ่ มค่ ิดไม่นกึ ไมป่ รุงไมแ่ ตง่ (เทปจบ)

ท่ีมา: https://youtu.be/d2MT71fYNfU

16


Click to View FlipBook Version