The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิธีทำจิตให้มีพลัง ๒ โดย หลวงปู่แบน ธนากโร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-19 21:56:32

วิธีทำจิตให้มีพลัง ๒ โดย หลวงปู่แบน ธนากโร

วิธีทำจิตให้มีพลัง ๒ โดย หลวงปู่แบน ธนากโร

Keywords: วิธีทำจิตให้มีพลัง ๒,หลวงปู่แบน ธนากโร

วธิ ที าํ จติ ใหม้ พี ลัง ๒
หลวงป่แู บน ธนากโร
ชนะตนน่นั แลเป็นดี ละความอยากก็คอื การชนะตนน่นั เอง
เวลาความอยากมนั เกิดขนึ้ ความอยากนนั้ มนั เป็นตน ความ
อยากนนั้ เป็นเรา พระพทุ ธเจา้ ทา่ นสอนใหล้ ะความอยากก็คอื
สอนใหช้ นะเราน่นั เอง ในเม่ือเราชนะเราได้ เราละความอยากได้
เราอยเู่ ป็นสขุ
อะไรมนั อยาก ดินมนั อยากมยั้ นา้ํ มนั อยากมยั้ ลมมนั อยาก
มยั้ ไฟมนั อยากมยั้ ลมหายใจเขา้ ออกมนั อยากมยั้ ถามมนั ลม
หายใจออกมนั อยากมยั้ ตงั้ ใจถามทงั้ ลมหายใจ ตงั้ ใจถามทงั้ ลม
หายใจออกวา่ มนั อยากอะไรบา้ ง อนั นีก้ ห็ มายถงึ ธาตลุ ม ธาตนุ า้ํ
ก็เหมือนกนั นา้ํ ดี นา้ํ ตา นา้ํ มกู นา้ํ เสลด นา้ํ ลาย นา้ํ เลือด
นา้ํ เหลือง นา้ํ เหลา่ นี้ นา้ํ อะไรมนั อยากบา้ ง เราไมต่ อ้ งไปถาม
หลายอยา่ งดอก ถามแตเ่ พยี งนา้ํ เหง่ืออนั เดยี วกพ็ อ หรอื จะถาม
เพียงแตน่ า้ํ ตาอยา่ งเดยี วกพ็ อ ถามเพียงแตน่ า้ํ เลือดอย่างเดียวก็
พอ

1

ในเม่ือเราถามอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ไดค้ าํ ตอบออกมาชดั นา้ํ
สว่ นอ่นื ๆ ก็เป็นอนั วา่ ตอบออกมาดว้ ยกนั เพราะนา้ํ ทงั้ หมดนนั้ ๆ
ก็เป็นนา้ํ อนั เดยี วกนั ตา่ งกนั แตร่ ูปรา่ งลกั ษณะ แลว้ ก็สมมตุ เิ รยี ก
กนั เทา่ นนั้ เอง ตา่ งๆกนั ไป หรอื ก็เรยี กวา่ ธาตนุ า้ํ อนั เดยี วกนั ใน
เม่ือลมก็ไมม่ ีความอยาก นา้ํ ก็ไม่มีความอยาก ทนี ีพ้ ดู ถึงธาตดุ ิน
นบั ตงั้ แตผ่ ม แตข่ น แตเ่ ลบ็ แตฟ่ ัน แตห่ นงั เราไมไ่ ปจะถาม
หลายอย่างก็ได้ จะถามเพยี งอย่างเดยี วก็ได้ ถามหลายอยา่ ง
อย่างไหนตอบก็เป็นอนั วา่ ตอบไปหมดทกุ อยา่ ง จะถามอยา่ ง
เดยี วก็ได้

ในเม่ืออย่างเดยี วเราไดค้ าํ ตอบชดั สิง่ ท่ีเราไมถ่ ามก็ชดั
ออกมาเหมือนกนั เพราะสว่ นไหนๆ มนั ก็ดนิ สว่ นไหนๆมนั ก็ธาตุ
ดิน ดินก็เหมือนกนั นา้ํ กเ็ หมอื นกนั ลมกเ็ หมือนกนั แมแ้ ตไ่ ฟก็
เหมือนกนั ไฟตรงไหนมนั อยากบา้ ง ไฟในตะเกียง ไฟในเทียน
หรอื วา่ ไฟในหลอด ไฟในหลอดนีออนอะไรก็ช่าง หรอื ไฟท่ีมีอยู่
ตามรา่ งกายของเราท่ที าํ ใหเ้ กิดความอบอนุ่ ไฟท่ีมีอยใู่ นโลก ท่ี

2

ทาํ ใหโ้ ลกมีความอบอนุ่ ไฟตรงไหนเคา้ มีความอยากบา้ ง ไฟตรง
ไหนก็ไมม่ ีความอยากแมแ้ ตน่ อ้ ย

ทีนพี้ ดู ถงึ ดนิ นา้ํ ลม ไฟ ไมม่ ีความอยากเคา้ จะมีความ
อยากอะไร แมแ้ ตค่ วามรูเ้ ขาก็ไม่มี ดนิ เขาก็ไม่มีความรู้ นา้ํ ลม
ไฟ ไมม่ ีความรู้ อากาศธาตตุ รงไหนก็ไม่มคี วามรูท้ งั้ นนั้ มีแตใ่ จ
ใจ มีแตจ่ ิต จติ มีแตค่ วามรูเ้ ทา่ นี้ มีความรู้ ถามใจ ถามใจ ถาม
ความรู้ ความรูม้ ีความอยากหรอื ความรูอ้ นั นีอ้ ยากอะไร ความรู้
อนั นีม้ ีความอยากหรอื เราก็ถามความรูล้ งไปจรงิ ๆ ถามความรู้
ลงไปจรงิ ๆ แลว้ ก็เอาใจอยกู่ บั ความรู้ แลว้ ก็เอาใจฟังคาํ ตอบมา
จากความรู้ เอาใจของเราฟังคาํ ตอบจากใจ วา่ ใจมนั อยากหรอื

ระหวา่ งท่ีฟังคาํ ตอบนนั้ เราอยา่ ไปคดิ เราอยา่ ไปดน้ เดา เรา
อยา่ ไปคดิ อยา่ ไปปรุงไปแตง่ อย่าไปดน้ เดาอะไรทงั้ หมด ตงั้ ใจ
แตฟ่ ังใจของเราตอบมา ใจเขาจะอย่เู ฉยๆ ใจเขาจะไม่บอกวา่
ขา้ พเจา้ เป็นใจ ขา้ พเจา้ อยาก ดินก็ไม่อยาก นา้ํ ก็ไม่อยาก ลมก็
ไม่อยาก ไฟก็ไมอ่ ยาก ใจก็ไมอ่ ยาก แลว้ อะไรมนั อยาก ความ

3

อยากก็คอื ความอยาก ความอยากเกิดมาจากไหน ความอยาก
เกิดมาจากใจของเราท่ีวา่ งจากธรรมะ

ในเม่ือใจของเราวา่ งจากธรรมะขณะใด ความอยากมนั เป็น
ตวั เป็นตนขนึ้ มาทนั ที ใจของเราวา่ งจากธรรมะคืออย่างไรเลา่
คอื วา่ งจากสติ วา่ งจากสมาธิ วา่ งจากปัญญา สติของเราก็จดจอ่
หาความอยาก ทงั้ ผม ทงั้ ขน ทงั้ เลบ็ ทงั้ ฟัน ทงั้ หนงั ทงั้ ดนิ ทงั้ นา้ํ
ทงั้ ลม ทงั้ ไฟ สตขิ องเราก็จอ้ งถามหาความอยากจากจติ จากใจ
หาความอยากจากใจ หาความอยากจากใจ ตงั้ ใจถามมนั อยู่
อย่างนีเ้ รยี กวา่ ใจของเรามีธรรมะประจาํ อยู่ สตกิ ็เป็นธรรม
สมาธิก็เป็นธรรม วิรยิ ะก็เป็นธรรม สมั ปะชญั ญะก็เป็นธรรม
ปัญญาก็เป็นธรรม ใจของเรามีแตธ่ รรมะ

ในเม่ือใจของเรามีธรรมะ ความอยากมนั กไ็ ม่กลา้ โผลห่ วั
ขนึ้ มา หรอื ความอยากมนั ก็เกิดขนึ้ มามไิ ด้ เหมือนกบั โจรผรู้ า้ ย
ถา้ หากวา่ อย่ใู นสายตาของตาํ รวจ สายตาของเจา้ หนา้ ท่ี โจร
ผรู้ า้ ยไม่กลา้ จะแสดงความเป็นโจรเป็นผรู้ า้ ย คาํ วา่ ความอยากก็
เหมือนกนั ในเม่ือเรามีสติธรรม มีสมั ปะชญั ญะธรรม มีปัญญา

4

ธรรมอย่ใู นจิตในใจของเรา ความอยากมนั ไมม่ ีโอกาสท่จี ะแสดง
ไม่มีโอกาสท่ีจะเกิดมาใหเ้ ป็นความอยากรบกวนจติ ใจของเรา
ใหก้ ระสบั กระสา่ ยวนุ่ วาย ไมม่ ีโอกาสท่ีจะเกิดจะเป็นจะมีขนึ้ มา
ได้

จงึ วา่ ตอ้ งมีสติ ตอ้ งมีสมั ปะชญั ญะ ตอ้ งมีสติ ตอ้ งมีปัญญา
สอดสอ่ งอย่เู สมอ ทา่ นจงึ วา่ พจิ ารณา ทา่ นจงึ วา่ วิจยั วจิ ารณ์
ทา่ นจงึ วา่ การพิจารณานีจ้ งึ มีความจาํ เป็นในการปฏบิ ตั ธิ รรมอยู่
ตลอดกาล การปฏิบตั ธิ รรมไม่ใช่จะมงุ่ แตใ่ หใ้ จสงบ ม่งุ แตใ่ หใ้ จ
สงบแลว้ พอใจในความสงบ พอใจในความสบายอนั เกิดจากใจ
สงบนนั้ อนั นกี้ ็ถกู ตอ้ งแตถ่ กู เพียงแตว่ า่ เป็นบางสว่ นเทา่ นนั้ จะ
ถกู อย่างสมบรู ณไ์ ม่ได้ ถกู อยา่ งสมบรู ณต์ อ้ งมีทงั้ สติ ตอ้ งมีทงั้
สมาธิและตอ้ งมีทงั้ ปัญญาดว้ ย

สตกิ ็เป็นตวั ศลี สตกิ ็เป็นตวั สมาธิ สตกิ ็ตอ้ งเป็นตวั ปัญญา
สติเป็นพนื้ ฐานของศีล สติเป็นพืน้ ฐานท่ีตงั้ ของสมาธิ สตเิ ป็น
พืน้ ฐานท่ีตงั้ ของปัญญา เราจะตอ้ งฝึกสตขิ องเราใหม้ กี าํ ลงั
ย่งิ ขนึ้ ไป มีกาํ ลงั ย่ิงขนึ้ ไป สติของเรามีกาํ ลงั มากเทา่ ไหร่ ศลี ของ

5

เราก็เป็นพลงั มีกาํ ลงั มากเทา่ นนั้ สมาธิของเราก็มพี ลงั มกี าํ ลงั
เพ่มิ ขนึ้ ปัญญาของเราก็มีพลงั มีกาํ ลงั ย่งิ ขนึ้ น่ี!

ในเม่ือจิตของเราเป็นศลี ท่ีมีกาํ ลงั เป็นสมาธิท่ีมีกาํ ลงั เป็น
ปัญญาท่ีมีกาํ ลงั อาศยั สติมกี าํ ลงั สมบรู ณ์ อยปู่ ระจาํ จติ ประจาํ
ใจของเราอยู่ กิเลสหมายถงึ ความโลภ กิเลสหมายถงึ ความ
อยาก กิเลสหมายถงึ ความโกรธ น่ี กิเลสเหลา่ นีไ้ มม่ ีโอกาสท่ีจะ
เกิดขนึ้ มาได้ เพราะธรรมคือสติ คอื สมาธิ คอื ปัญญา เป็นธรรมท่ี
จะกาํ จดั ขา้ ศกึ คือความโลภ ความโกรธ ความหลงอย่แู ลว้ หรอื
ความอยากใดๆ อยากในลกั ษณะไหน อยากอะไร อยากตอ่
อยากอะไร ไมม่ ีโอกาสท่ีจะแสดงเกิดขนึ้ มีขนึ้ ในจิตในใจของเรา
ได้

จงึ ใหพ้ ากนั มคี วามสาํ รวมในตวั ในกายในใจของเราใหด้ ี
พยายามทาํ สติใหม้ ีความแนว่ แนอ่ ย่กู บั จติ พยายามเอาจติ ท่ีมี
ความแนว่ แนน่ นั้ เอามาคน้ ควา้ ศกึ ษา ในกองดินก็ดีใหแ้ จม่ แจง้
วา่ เป็นธาตดุ ินจรงิ ๆ กองนา้ํ ก็ดใี หพ้ จิ ารณาใหแ้ จ่มแจง้ เป็นธาตุ
นา้ํ จรงิ ๆ กองลมก็ดี กองไฟก็ดพี จิ ารณาใหแ้ จม่ แจง้ ลงไป เหน็ ชดั

6

วา่ เป็นธาตลุ มและธาตไุ ฟจรงิ ๆ ในเม่ือเหน็ ชดั วา่ เป็นธาตดุ นิ
ธาตนุ า้ํ ธาตลุ ม ธาตไุ ฟ รา่ งกายของเราเป็นดิน เป็นนา้ํ เป็นลม
เป็นไฟ อนั เราเอาดิน เอานา้ํ เอาลม เอาไฟมาสมมตุ ิวา่ เป็น
รา่ งกาย น่ี จะสมมตุ ซิ กั เทา่ ไหร่ ดินก็เป็นดนิ นา้ํ ก็เป็นนา้ํ ลมก็
เป็นลม ไฟก็เป็นไฟ จะเป็นรา่ งกายของเราอยา่ งท่ีเราสมมตุ ิ
เป็นไปไมไ่ ด้ ถงึ เราจะไดแ้ งค่ ดิ วา่ เป็นของเรา ถงึ เราจะคดิ วา่ เป็น
ของเรา เป็นตวั ตนของเรา ดนิ ก็เป็นดนิ ลมก็เป็นลม นา้ํ กเ็ ป็นนา้ํ
ไฟก็เป็นไฟ ดนิ จะเป็นคนไมไ่ ด้ นา้ํ จะเป็นคนไม่ได้ ลมจะเป็นคน
ไม่ได้ ไฟจะเป็นคนไมไ่ ด้ เราจะวา่ เป็นซกั ขนาดไหน เขากเ็ ป็นดิน
เหมือนเดมิ เป็นนา้ํ เป็นลม เป็นไฟ เหมือนเดมิ น่ี อาศยั ใจของ
เรามีสติ อาศยั ใจของเรามีสมาธิ อาศยั ใจของเรามีปัญญา
สามารถศกึ ษา

น่ี ความเกิด สามารถพิจารณาชาติ ความเกิด น่ี กองเกดิ ก็
คอื กองดนิ กองนา้ํ กองลม กองไฟ ชาตคิ วามเกิดก็คือดนิ นา้ํ
ลม ไฟ มารวมกนั เขา้ เหมือนกบั ฟองนา้ํ น่นั เอง เรยี กวา่ ความเกิด
ในเม่ือความเกิดเหมือนกบั ฟองนา้ํ ความเกิดจะเป็นตวั เป็นตน

7

เป็นสงิ่ ท่ีเป็นสาระเป็นแกน่ สารไดอ้ ย่างไร น่ี เร่อื งเหลา่ นีเ้ รา
จะตอ้ งศกึ ษาพิจารณา ถา้ หากวา่ เราไม่ศกึ ษา ไมพ่ จิ ารณา
ความจรงิ อย่างนีม้ นั มีอยู่ แตเ่ ราไมแ่ จ่มแจง้ เรากห็ ลงดนิ หลงนา้ํ
หลงลม หลงไฟวา่ เป็นตวั เป็นตน เป็นเราเป็นเขา เป็นหญิงเป็น
ชาย เป็นสง่ิ ท่ีน่าใครน่ า่ ปรารถนาขนึ้ มา ทงั้ ๆท่ีความจรงิ อนั นีก้ ็
คอื ของท่ีเกิดมาตาย

อนั นีก้ ็อปุ มาเหมือนฟองนา้ํ มีเป็นฟองขนึ้ มาแลว้ ก็สลายไป
ถงึ จะเป็นฟองมากมายกา่ ยกองขนาดไหน ฟองนา้ํ เกิดขนึ้ แลว้ ไม่
สลายไมม่ ี ใบไมท้ งั้ หมดในโลก ท่เี กิดเป็นใบไมแ้ ลว้ ท่ีจะไม่รว่ ง
หลน่ ไม่มี สิ่งท่ีเกิดขนึ้ มาในโลกทงั้ หมดจะสมมตุ ิกนั วา่ เป็นสิ่ง
ใดๆ ส่งิ ท่ีเกิดขนึ้ นนั้ จะตอ้ งมกี ารสลายไปทงั้ นนั้ น่ีสัพเพ ธัมมา
อนัตตา ธรรมทงั้ หลายหาอะไรท่ีจะเป็นตวั เป็นตนไมไ่ ด้ คาํ วา่
อนิจจงั ก็หาคาํ วา่ จรงิ จงั ไมไ่ ด้ คาํ วา่ ทกุ ขัง มนั ทกุ ขจ์ นกระท่งั
มนั ทนไมไ่ ด้ คาํ วา่ อนัตตามนั ก็แตก มนั กพ็ งั อนิจจงั ก็คอื หา
ความจรงิ จงั ไม่ได้ ทกุ ขงั มนั ก็ทนอย่ไู มไ่ ด้ มนั จงึ แตก มนั จงึ พงั

8

อนตั ตาหมายความวา่ มนั กค็ ือความแตกความพงั อนิจจงั ทกุ ขงั
อนตั ตาก็คอื อนั เดียวกนั นนั้ เอง คือสง่ิ ท่ีเกดิ มาแลว้ ก็ตาย

น่ีเราจะตอ้ งพจิ ารณาใหม้ าก พจิ ารณาใหแ้ จ่มแจง้ พจิ ารณา
ของเก่า พจิ ารณาของพจิ ารณาของเกา่ ! น่ีตามธรรมดา อาหารท่ี
เรารบั ประทาน เราก็รบั ประทานอาหาร มือ้ ไหนเราก็รบั ประทาน
แตร่ บั ประทานมนั ก็อ่ิมขนึ้ ทกุ วนั รบั ประทานวนั ไหนก็อ่มิ ทงั้ ท่ี
เป็นของเกา่ น่นั หละ มนั ก็รบั ประทานมนั ก็อ่มิ รบั ประทานมนั ก็
อ่มิ เหมือนคลา้ ยๆกบั ชาวไร่ เคา้ ก็ทาํ ไร่ ชาวนาเคา้ ทาํ ก็นา ถงึ ปี
เคา้ ก็ทาํ ท่ีดนิ ถงึ ปีมาเคา้ กท็ าํ กบั ท่ีดนิ แลว้ เคา้ ก็ไดร้ บั ประโยชน์
อนั เกิดจากการทาํ ไรท่ าํ นาในท่ีดนิ นนั้ การท่ีจะชาํ ระสะสาง การ
ท่ีจะไดข้ จดั ขดั เกลาความลมุ่ หลง ความมืดท่ีมีอย่ใู นจิตในใจ เรา
ก็ตอ้ งทาํ ลงในจดุ นี้ เพราะจดุ นีเ้ ทา่ นนั้ เป็นจดุ ท่ีเราตดิ เป็นจดุ ท่ี
เราลมุ่ หลงและมวั เมา ยนิ ดยี นิ รา้ ยกนั ก็จดุ อนั นี้ เราก็ตอ้ งเอาจดุ
อนั นหี้ ละ เอามาแกค้ วามลมุ่ หลงมวั เมาของเรา

จงึ อยา่ พากนั ลบู คลาํ อยา่ พากนั ลงั เลสงสยั ธรรมท่ีจะเป็น
ธรรมเครอ่ื งขดั เกลาความลมุ่ หลงของเราก็คอื จดุ ท่ีเราลมุ่ หลงมวั

9

เมาน่นั เอง ธรรมท่ีจะเป็นธรรมเครอ่ื งขจดั กิเลสตณั หาราคะท่ีมี
อยใู่ นจติ ในใจของเรา ก็ตอ้ งเอาสง่ิ ท่ีเป็นเหตใุ หเ้ กิดกิเลสตณั หา
ราคะ อนั นนั้ หละใหเ้ อามากาํ จดั หนามยอกก็ตอ้ งหนามนนั้ นะ่
มาบง่ จงึ ใหพ้ ากนั เขา้ ใจกนั อยา่ งนี้ แลว้ กพ็ ากนั ตงั้ อกตงั้ ใจมี
ความเพียรความพยายาม มงุ่ ม่นั จรงิ จงั ในการท่ีจะพิจารณาให้
แจม่ แจง้ แจง้ ชดั อยา่ งไม่ลบู คลาํ อย่างไมล่ งั เลสงสยั น่ี แลว้ มนั
จะหลดุ ออกไป คาํ วา่ สักกายทฐิ ิจะไม่มีตกคา้ งในจติ ในใจ จะไป
ตกคา้ งไดอ้ ย่างไรเลา่ เพราะมนั ไม่มีกาย มนั จะไปยดึ กายวา่ เป็น
เราไดอ้ ยา่ งไร

จงึ ใหพ้ ากนั ขยนั ขนั แข็ง เร่อื งพดู ถึงจติ กเ็ หมือนกนั พิจารณา
ใหแ้ จ่มแจง้ พจิ ารณาใหแ้ จม่ แจง้ พจิ ารณาใหแ้ จ่มแจง้ เพราะคาํ
วา่ จิตๆน่ี คาํ ท่เี รยี กวา่ อาการของจิตก็ยงั เตม็ อยใู่ นจิตในใจ ใน
เม่ือเราแจ่มแจง้ ในสิง่ ท่ีเกิดขนึ้ ทงั้ หมด สิง่ ท่เี กิดขนึ้ ทงั้ หมดจะเป็น
สงิ่ ท่ีดี เป็นสงิ่ ท่ีไม่ดี จะเป็นสง่ิ เราพอใจ สง่ิ ท่ีเราไมพ่ อใจ อนั นนั้
คือสงิ่ ท่ีเกิดขนึ้ ทงั้ นนั้ คาํ วา่ สงั ขารทงั้ หลายท่ีเป็นสว่ นรูป สงั ขาร
ทงั้ หลายท่ีเป็นสว่ นนาม สงั ขารก็คือสง่ิ ท่ีเกิดขนึ้ จะเป็นรูป

10

สามารถท่ีจะเหน็ ดว้ ยตา จะเป็นสงั ขารท่ีไมส่ ามารถจะเหน็ ดว้ ย
ตา แตส่ ามารถท่ีจะสมั ผสั ไดด้ ว้ ยใจอนั นนั้ ก็เป็นสงั ขาร สงั ขาร
เหลา่ นีจ้ ะตอ้ งเป็นอนตั ตา หาตวั หาตนไมไ่ ดท้ งั้ นนั้ ฟองนา้ํ เป็น
อย่างไร สงั ขารท่ีเกิดขนึ้ มาทงั้ รูปทงั้ นามท่ีเราสมั ผสั ไดท้ างใจ

อนั นนั้ ก็เหมือนกบั ฟองนา้ํ นนั้ น่ี อยา่ งพระทา่ นไปฟัง ท่าน
ไปดฝู นตก เหน็ เป็นฟองแลว้ ละลายเป็นนา้ํ เหน็ เป็นฟองแลว้ ก็
ละลายเป็นนา้ํ ทา่ นก็ยงั ปลงธรรมท่ีฟองนา้ํ อนั นนั้ นนั้ เป็นธรรม
กิเลสของทา่ นก็หมดก็สนิ้ และสามารถท่ีจะสาํ เรจ็ เป็นอรหตั
อรหนั ตเ์ พียงแตว่ า่ ดฟู องนา้ํ ท่ีเกิดขนึ้ เป็นฟองแลว้ ก็สลายไป
เทา่ นนั้

จงึ วา่ ธรรมเป็นธรรมแกเ้ คร่อื งกิเลสมีอยเู่ ต็มโลก ธรรมท่ีเป็น
ธรรมเคร่อื งแกก้ ิเลสก็คอื สิง่ ท่เี กิดแลว้ ก็ดบั น่นั เอง สงั ขารท่ีเป็น
ภายใน สงั ขารท่ีเป็นภายในคอื เกิดขนึ้ เกิดขนึ้ ๆๆ จะเกิดขนึ้
อยา่ งไรก็ชา่ งเถอะ สงิ่ ท่ีไดม้ าเกิดขนึ้ แลว้ เราจะตอ้ งวา่ อนั นนั้
เป็นเรา อนั นนั้ เป็นเรา อนั นนั้ เป็นตวั ตน อนั นนั้ เป็นจิตเป็นใจ
หรอื อนั นนั้ เป็นเรา สง่ิ ท่ีเกิดขนึ้ ทงั้ หมดเราจะวา่ เราซกั เทา่ ไหร่

11

ไม่ใช่ดอก คอื สงั ขารเกิดขนึ้ มาแลว้ ก็ดบั ไป น่ี ทา่ นพระพทุ ธเจา้
ท่านใหร้ ูช้ ดั ในกองสงั ขารทงั้ หลายแลว้ ก็ปลอ่ ยวางไปตาม
ธรรมชาตขิ องเขาเสีย น่ีจิตของเราก็ต่นื ขนึ้ มาเป็นพทุ โธในเม่ือ
ปลอ่ ยวางสงั ขารไดแ้ ลว้

ถา้ หากวา่ จิตของเรายงั ไมร่ ูส้ งั ขาร ยงั ไมช่ ดั ไม่สามารถท่จี ะ
ปลอ่ ยวางสงั ขารได้ จิตของเราก็ยงั ไมเ่ ป็น ไมเ่ บิกบานเพราะยงั
ยดึ สงั ขารเป็นตวั ตน ยดึ สงั ขารเป็นจติ เป็นใจ ในเม่ือเราเหน็
สงั ขารชดั ตามความเป็นจรงิ แลว้ น่ี เราจะไปยดึ สงั ขารเป็นจติ
เป็นใจ ยดึ สงั ขารเป็นตวั เป็นตน ไม่ไปยดึ จะไปยดึ ไม่ได้ จะไป
ยดึ ไดย้ งั ไง เพราะอนั นนั้ เคา้ เกิดขนึ้ มาแลว้ ก็ดบั เหน็ ชดั เห็นชดั น่ี
ในท่ีสดุ ก็ปลอ่ ยวางไปตามสภาพของเขา

เร่อื งเหลา่ นีเ้ ป็นเร่อื งธรรมะท่เี ราจะตอ้ งศกึ ษาใหแ้ จ่มแจง้ กนั
ถา้ หากเราไมศ่ กึ ษาใหแ้ จ่มแจง้ แลว้ เราจะไม่เขา้ ใจในเรอ่ื ง
เหลา่ นี้ ในเม่ือเราไม่เขา้ ใจธรรมะมีอยใู่ นเราเหลา่ นีแ้ ลว้ เราก็จะ
เรยี กวา่ หลงธรรมะท่ีมีอยใู่ นเรา แลว้ เราก็จะหลงสมมตุ ิ หลง
ธรรมะท่ีมีอยเู่ ต็มโลก ในเม่ือเราหลงธรรมะท่ีมีอยเู่ ตม็ โลกคือ

12

สงั ขารท่ีเกิดมาตาย สงั ขารท่ีเกิดมาดบั กองดนิ กองนา้ํ กองลม
กองไฟท่ีเกิดมาแลว้ สลายตวั เราก็จะหลง ถา้ หากวา่ เราหลงกอง
ดนิ กองนา้ํ กองลม กองไฟ หลงสงั ขารเกิดดบั ท่ีมีอย่ใู นเราแลว้
เราก็จะตอ้ งหลงสงั ขารภายนอกน่ี

วิธีแกค้ วามหลง แกก้ เิ ลสท่มี ี คอื ความหลงท่ีมีอย่ใู นจติ ในใจ
ของเราใหม้ นั เหือดแหง้ ไป ตอ้ งแกโ้ ดยการพจิ ารณาสง่ิ ท่ีเราหลง
ใหแ้ จ่มแจง้ จะแกโ้ ดยวธิ ีใด แกโ้ ดยวธิ ีอ่นื ไมม่ ี ไม่มีทาง ไมม่ ีวธิ ี
อย่าไปคลาํ หาอนั อ่ืน คลาํ หาจดุ ท่ีเราหลง คลาํ หาจดุ ท่ีเราตดิ เรา
ขอ้ ง ในเม่ือเราคลาํ แลว้ ตรงไหนเราหลงเราก็รู้ ตรงไหนเราตดิ
เราขอ้ งเราก็รู้ ตรงไหนท่ีเราไม่ทราบชดั ตามความเป็นจรงิ เราก็รู้
แลว้ ก็พยายามทาํ ใหแ้ จม่ แจง้ ทาํ ใหแ้ จง้ ใหช้ ดั ตามความเป็นจรงิ
ในเม่ือแจง้ ชดั ตามความเป็นจรงิ เราก็สามารถท่ีจะรูช้ ดั แจง้ ชดั
ตามความเป็นจรงิ นนั้ ได้ แลว้ เราก็ไมห่ ลงอกี ตอ่ ไป

ธรรมไม่ใช่มีอยทู่ ่ีอ่ืน ธรรมมีอยใู่ นเราสมบรู ณบ์ รบิ รู ณแ์ ลว้
ดินก็มีอย่ใู นเรา นา้ํ กม็ ีอยใู่ นเรา ลมกม็ ีอย่ใู นเรา ไฟก็มีอยใู่ นเรา
ความเกิดก็มีอย่ใู นเรา ความแก่ก็มีอย่ใู นเรา ความตายก็มีอยใู่ น

13

เรา ความเกิด ความดบั ของสงั ขารท่ีเป็นสว่ นนามธรรม ความ
เกิด ความดบั ของสงั ขารท่ีเกิดท่ีดบั ภายในจิตในใจก็มีอย่ใู นเรา
จงึ วา่ ธรรมเหลา่ นี้ ถา้ หากวา่ เราศกึ ษาใหแ้ จ่มแจง้ เหน็ ชดั ตาม
ความเป็นจรงิ ของเขาแลว้ เราจะไมย่ ดึ ถือสง่ิ ท่ีเกิดขนึ้ ทงั้ หมด
เป็นเราเป็นเขา ไม่มีอะไรดอกท่ีจะเป็นธรรม ท่ีจะมาปลดเปลือ้ ง
มายก มาทาํ ลายความลมุ่ หลงท่ีมีอย่ใู นเราใหห้ มดใหส้ นิ้ ไป มีแต่
ส่งิ ท่ีเรามีอยนู่ ีห้ ละ

แตส่ ่งิ ท่ีเรามีอย่นู ีเ้ ราไม่คอ่ ยจะสนใจกนั สนใจแตอ่ ะไรตอ่ มิ
อะไรท่ีโลกเคา้ สมมตุ วิ า่ ดี โลกเคา้ สมมตุ วิ า่ ดี โลกเคา้ สมมตุ ิวา่ ดี
โลกเคา้ สมมตุ วิ า่ มีคา่ โลกเคา้ สมมตุ วิ า่ มีราคา ใจของเราพากนั
มงุ่ ไปในจดุ ท่โี ลกเคา้ สมมตุ กิ นั วา่ ดีมีราคา ถงึ โลกเคา้ จะสมมตุ ิ
วา่ เป็นของดี ของมีราคาก็จรงิ จรงิ อยา่ งท่ีสมมตุ ิ แตไ่ ม่จรงิ โดย
หลกั ธรรมชาติ จรงิ อยา่ งสมมตุ เิ รยี กวา่ ไม่จรงิ โดยธรรมชาติ ถงึ
สมมตุ ิถงึ สงิ่ นนั้ จะมีคา่ จรงิ ก็มีคา่ อยา่ งสมมตุ ิ มีคา่ อยา่ งสมมตุ ิ
ใครเอาไปเก่ียวขอ้ งแลว้ อนั นนั้ มนั ผกู ใครเอาไปเก่ียวขอ้ งแลว้
อนั นนั้ มนั ผกู อนั นนั้ มนั มดั ส่ิงท่ีโลกเคา้ สมมตุ ิวา่ ดี มีคา่ มีราคา

14

อนั นนั้ ใครไปเก่ียวขอ้ ง ใครไปเก่ียวขอ้ งแลว้ อนั นนั้ มนั ผกู อนั นนั้
มนั มดั

ถา้ หากวา่ เป็นของดีโดยธรรมชาติ ของดีโดยธรรมชาติกค็ อื
สจั ธรรมของจรงิ เรยี กวา่ อรยิ สจั เป็นสจั จะอนั ประเสรฐิ นีเ้ ป็น
ของดโี ดยธรรมชาติ ถา้ หากวา่ จิตดวงใดเขา้ มาสมั ผสั จติ ดวงใด
เขา้ มาเก่ียวขอ้ ง สจั ธรรมอนั นีจ้ ะไมผ่ กู ทา่ นผหู้ นง่ึ ผใู้ ด สจั ธรรม
ของจรงิ นีม้ ีแตจ่ ะปลอ่ ยจติ ใจดวงนนั้ ใหอ้ อกไปสคู่ วามเป็นอสิ ระ
ของดใี ครไปติดแลว้ มนั ผกู อนั นนั้ เป็นของดีอย่างโลกเคา้ สมมตุ ิ
ของดโี ดยธรรมชาติ ใครไปเก่ียวขอ้ งแลว้ ของดนี นั้ มีแตจ่ ะ
ปลดปลอ่ ยบคุ คลผนู้ นั้ ใหเ้ ขา้ ถึงความเป็นอสิ ระอย่างสมบรู ณ์

ใหพ้ ากนั เขา้ ใจแลว้ ก็พากนั เลอื กเก่ียวขอ้ ง เอาอะไรท่ีจะทาํ
ใหเ้ ราเขา้ ถึงความเป็นอิสระ พน้ จากเคร่อื งผกู ท่ีผกู เรามา
มากมายกา่ ยกอง มากภพมากชาติ แลว้ ก็ยงั จะผกู ตอ่ ไป ไม่ได้
อะไร กระดกู มนั ก็ยงั ไมไ่ ด้ เกดิ มาแลว้ ก็ตาย เกิดมาแลว้ ก็ตาย
เกิดมาแลว้ ก็ตาย มนั ไมม่ ีใครไดอ้ ะไร แตส่ ิ่งเหลา่ นนั้ มนั ผกู เราให้
ไม่ใหไ้ ปไหน ใหม้ าเกิดมาตายอยอู่ ย่างนนั้ เป็นเร่อื งท่ีเรานา่ สลด

15

ใจ ใหพ้ ากนั มจี ิตมีใจท่ีจะทาํ ลายความตดิ ความขอ้ ง ท่มี าติดมา
ขอ้ งมานานนนั้ นะ่ ใหม้ นั ลดนอ้ ย ใหม้ นั เบาบางหมดสนิ้ การท่ี
จะทาํ ลายความติด การติดขอ้ งท่ีตดิ มานานใหม้ นั ลดนอ้ ย ใหม้ นั
บางหมดสนิ้ นนั้ ก็อาศยั การเอาใจของเรามาเก่ียวขอ้ งกบั สจั
ธรรมของจรงิ น่ีเอง

ท่ีมา: https://youtu.be/CxwzmHhjJ_Y

16


Click to View FlipBook Version