The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐาน โดย หลวงพ่อพุธ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-12 20:33:59

การปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐาน โดย หลวงพ่อพุธ

การปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐาน โดย หลวงพ่อพุธ

Keywords: การปฏิบัติสมถะวิปัสสนากรรมฐาน,หลวงพ่อพุธ

การปฏบิ ตั สิ มถะวิปัสสนากรรมฐาน
หลวงพอ่ พธุ ฐานิโย

เทศนง์ านครบ ๑๐๐ วนั ท่านอาจารยเ์ ฟ่ื อง
บดั นีจ้ ะไดแ้ สดงพระธรรมเทศนาพรรณนาศาสนาธรรมแหง่
องคส์ มเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ พอเป็นเคร่อื งประดบั
สติปัญญาเพ่มิ เติมกศุ ลสมั มาปฏบิ ตั ติ อ่ คณะเจา้ ภาพและ
พทุ ธศาสนิกชน เน่ืองดว้ ยวนั นที้ า่ นทงั้ หลายไดม้ ีพระเดชพระคณุ
เป็นประธานไดพ้ รอ้ มใจกบั ประกอบกองการกศุ ลบาํ เพญ็ บญุ
ตงั้ แตเ่ ม่ือวาน คือวนั ครบ ๑๐๐ วนั นบั ตามเดมิ แตท่ า่ นอาจารย์
เฟ่ื องท่านไดถ้ งึ แก่มรณภาพไปแลว้ นนั้
เม่ือเราทา่ นทงั้ หลายมาราํ ลกึ ถงึ คณุ ปู การหรอื คณุ งามความ
ดีท่ีไดบ้ าํ เพ็ญตอ่ กนั มาตามวิสยั ของกตญั �กู ตเวทิตาชน เม่ือ
ฝ่ายใดฝ่ายหน่งึ มีอนั ลม้ หายตายจากไป ก็อดท่ีจะเป็นห่วงใน
วิญญาณของท่านผถู้ งึ แก่มรณภาพไม่ได้ แตค่ วามจรงิ ท่าน
อาจารยเ์ ฟ่ื องท่านก็เป็นพระเถระ คงแกเ่ รยี น คงแกก่ ารปฏิบตั ิ
สมถะวปิ ัสสนากรรมฐาน เขา้ ใจวา่ ทา่ นก็คงมีกศุ ลบญุ บารมี

1

พอท่ีจะช่วยตวั เองได้ แตถ่ งึ กระนนั้ ในฐานะท่ีพวกเราเป็นศิษยา
นศุ ษิ ยก์ ็อดท่ีจะนกึ ถึงคณุ ปู การของท่านไมไ่ ด้ บางทีเราอาจจะ
ไม่คิดวา่ เรามาบาํ เพญ็ บญุ กศุ ลมาถวายท่าน เพราะเราเขา้ ใจวา่
บญุ ของทา่ นมมี ากกวา่ เราแลว้ เรามาคดิ วา่ เรามาทาํ บญุ กศุ ล
เพ่ือเป็นการบชู าพระคณุ ทา่ น อนั นีจ้ ะเหมาะสมดกี วา่

ดงั นนั้ รวมความไดว้ า่ ทงั้ คณะสงฆซ์ ง่ึ มีพระเดชพระคณุ เป็น
ประธาน ตลอดทงั้ อบุ าสกอบุ าสกิ า แม่ขาวนางชี รวมทงั้ ผแู้ สดง
ธรรมดว้ ย เรามารว่ มจติ รว่ มใจกนั บาํ เพญ็ กศุ ล เพ่ืออทุ ศิ เป็น
ดอกไมบ้ ชู าพระคณุ ของพระอาจารยท์ ่ีทา่ นไดล้ ว่ งลบั จากเราไป
แลว้ สมเดจ็ พระผมู้ ีพระภาคเจา้ แมพ้ ระองคจ์ ะปรนิ ิพพานไป
นานแลว้ ก็ตาม แตท่ า่ นก็ยงั ทรงอย่โู ดยพระคณุ ฉนั ใด พระ
อาจารยข์ องเราแมท้ า่ นจะสนิ้ ชีวติ ไปแลว้ แตก่ ็ยงั ปรากฏอยโู่ ดย
พระคณุ เพราะเราศิษยานศุ ษิ ยย์ อ่ มไดร้ บั การอบรมส่งั สอนจาก
พระคณุ ท่าน คณุ งามความดไี ดฝ้ ังแน่นอย่ใู นจิตในใจของเรา
โดยวิสยั ของจติ ผมู้ ีความกตญั �กู ตเวที ดงั นนั้ ณ วนั นี้ เรา
ทงั้ หลายจงึ ไดพ้ รอ้ มใจกนั มาแสดงออกซง่ึ ความกตญั �กู ตเวที

2

มาแสดงออกซง่ึ คณุ ธรรมอนั เป็นพนื้ ฐานแหง่ คณุ งามความดี
เม่ือเรามีกตญั �กู ตเวทีซะอย่างยอ่ มเป็นพืน้ ฐานใหเ้ กิดคณุ ธรรม
อย่างอ่นื ๆได้

ท่ีเรามาปฏิบตั ิตามโอวาทคาํ ส่งั สอนของสมเด็จพระ
สมั มาสมั พทุ ธเจา้ ก็ดี ปฏิบตั ติ ามโอวาทคาํ ส่งั สอนของครูบา
อาจารยข์ องเราก็ดี เม่ือเราไดด้ ิบไดด้ ีเพราะโอวาทคาํ สอนของ
ทา่ นแลว้ เรามาราํ ลกึ ถงึ คณุ ปู การท่ที า่ นมตี อ่ เรา เราผเู้ ป็นลกู
ศิษยก์ ตญั �กู ตเวทียอ่ มอดท่ีจะราํ ลกึ ถึงคณุ ปู การของทา่ นไมไ่ ด้
ตามท่ีเราทา่ นทงั้ หลายมารว่ มใจกนั ประกอบกองการกศุ ลครงั้ นี้
จงึ เป็นสง่ิ ท่ีนา่ อนโุ มนายนิ ดีเป็นอย่างย่งิ สาํ หรบั คณุ งามความดี
อ่นื ๆซง่ึ ครูบาอาจารยม์ ีตอ่ เรา เรามีตอ่ ครูบาอาจารยก์ ็ดจี ะไม่
นาํ มากลา่ วพรรณนาใหย้ ืดยาว

จะวกไปถงึ พดู ถึงเรอ่ื งการปฏิบตั สิ มถะโดยตรง ซง่ึ หลกั และ
วิธีการตา่ งๆ ทา่ นทงั้ หลายกอ็ ยใู่ นสาํ นกั ท่ีเป็นสาํ นกั ปฏิบตั ิ
กรรมฐาน ความรูต้ ามตาํ รบั ตาํ ราหรอื หลกั พิธีการตา่ งๆยอ่ มเป็น
ท่ีเขา้ ใจกนั ดอี ยแู่ ลว้ โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ท่ีวดั นีส้ าํ นกั นีท้ า่ นพอ่ ลี

3

ไดว้ างรากฐานเอาไวอ้ ยา่ งม่นั คง เพราะฉะนนั้ เรอ่ื งหลกั และ
วิชาการตา่ งๆจงึ ไม่จาํ เป็นจะตอ้ งนาํ มากลา่ ว แตข่ อทาํ ความ
เขา้ ใจกบั บรรดาผฟู้ ังทงั้ หลายวา่ หลกั ของการปฏบิ ตั กิ รรมฐาน
ในเบือ้ งตน้ ท่ีสมมตุ บิ ญั ญตั ิในคมั ภีร์ มีอยสู่ องหลกั หลกั หนง่ึ คือ
หลกั ของสมถกรรมฐาน อกี หลกั หนง่ึ คือหลกั ของวปิ ัสสนา
กรรมฐาน ทงั้ สมถกรรมฐานและวปิ ัสสนากรรมฐานทงั้ สอง
ประการนีเ้ ป็นช่ือของวธิ ีการ

ในเม่ือพดู ถงึ เรอ่ื งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน
บางทีเราอาจจะไปยดึ วธิ ีการมากเกนิ ไปจนเป็นเหตใุ หม้ ีการ
ถกเถียงกนั ไมร่ ูจ้ กั จบจกั สิน้ แตค่ วามจรงิ คาํ วา่ สมถะก็ดี
วิปัสสนาก็ดี เป็นวธิ ีการปฏบิ ตั ิทงั้ สองอยา่ ง วธิ ีการปฏิบตั ิทงั้ สอง
อยา่ งนีเ้ ป็นวิธีการปฏิบตั ิเพ่อื ทาํ จิตใหส้ งบตงั้ ม่นั เป็นสมาธิ
เพ่ือใหม้ ีสติปัญญารูแ้ จง้ แทงตลอดในสภาวะตามความเป็นจรงิ
เพราะเหตวุ า่ กอ่ นท่ีจติ จะดาํ เนินไปสภู่ มู แิ หง่ วปิ ัสสนากรรมฐาน
ได้ ตอ้ งอาศยั ความสงบจิต

4

แตพ่ ธิ ีการทาํ ความสงบจิตมีอย่สู องอยา่ งซง่ึ เรยี กวา่ สมถะ
อย่างหนง่ึ วปิ ัสสนาอยา่ งหน่งึ การปฏิบตั อิ นั ใดซง่ึ เก่ียวเน่ืองดว้ ย
การบรกิ รรมภาวนาหรอื เพง่ กสณิ หรอื ปฏบิ ตั ิตามหลกั และ
วธิ ีการกรรมฐาน ๔๐ ประการตามท่ีปรากฏในคมั ภีร์ อนั นนั้ เป็น
วธิ ีการปฏบิ ตั ิตามหลกั ของสมถะ หรอื ปฏบิ ตั ติ ามวธิ ีสมถกรรม
ฐาน จดุ ม่งุ ก็เพ่ือใหจ้ ติ สงบเป็นสมาธิ เพ่ือระงบั นิวรณ์ ๕
ประการอนั จะบงั เกิดขนึ้ มากลมุ้ รุมจิตใจ ไม่ใหเ้ กิดความสงบ
หรอื เป็นสง่ิ ท่กี ีดกนั คณุ งามความดไี มใ่ หเ้ กดิ ขนึ้ และเพ่ือใหเ้ กิดมี
สตปิ ัญญารูแ้ จง้ แทงตลอดในธรรมตามความเป็นจรงิ

สว่ นวิปัสสนากรรมฐานหรอื วปิ ัสสนาวธิ ีนนั้ เป็นวธิ ีการ
ปฏิบตั ดิ ว้ ยการใชค้ วามคดิ ผทู้ ่ีปฏบิ ตั ติ ามวิธีวิปัสสนาไมต่ อ้ ง
คอยเวลาใหจ้ ติ มนั สงบน่ิงเป็นสมาธิก่อน เพียงแตว่ า่ เราจะยก
เอาธรรมะอนั ใด เร่อื งธาตุ เร่อื งขนั ธ์ เร่อื งอายตนะมาพิจารณา
ในแง่พระไตรลกั ษณ์ คือพิจารณานอ้ มเขา้ ไปสกู่ ฏของพระไตร
ลักษณค์ ือ อนิจจัง ไม่เท่ียง ทกุ ขัง เป็นทกุ ข์ อนัตตา ไม่ใช่ตวั
ไมใ่ ช่ตน ใชค้ วามคิดพจิ ารณาโดยความตงั้ ใจ จนการพิจารณา

5

เกิดความคลอ่ งตวั จิตสามารถปฏิวตั ิตวั ไปสกู่ ารพจิ ารณาเอง
โดยอตั โนมตั ิ แลว้ สามารถยงั จิตใหเ้ กิดมวี ติ ก วจิ าร ปี ติ สุข
เอกคั คตา ขนึ้ มาได้

บางทีเม่ือจิตสงบลงไปแลว้ ก็น่ิง บางทีสงบลงไปแลว้ ก็มี
ความคิด ถา้ จติ สงบน่ิงไมม่ ีความคิดก็เรยี กวา่ จิตสงบเป็นสมถะ
ถา้ จติ สงบลงไปแลว้ มีความคิดพจิ ารณาคน้ ควา้ อย่ไู มห่ ยดุ
เรยี กวา่ จิตดาํ เนินวปิ ัสสนา ทงั้ สองอย่าง ทงั้ สองวิธีเทา่ ท่ีได้
ทดสอบดแู ลว้ หรอื ไดศ้ กึ ษาถามจากครูบาอาจารยท์ งั้ หลาย
ทา่ นทงั้ หลายเหลา่ นนั้ ก็ไดอ้ ธิบายใหฟ้ ังวา่ ในบางครงั้ เราตงั้ ใจ
จะบรกิ รรมภาวนาพทุ โธ พทุ โธ เพียงแตจ่ ะใหจ้ ติ สงบน่ิงเป็น
สมาธิพอไดค้ วามสบาย แตบ่ างครงั้ ทาํ ไปแลว้ เม่ือจิตสงบน่ิงลง
ไป แทนท่ีมนั จะสงบน่ิงอย่เู ฉยๆ สงบลงไปแลว้ มนั กเ็ กิดความคดิ
คือการพิจารณาขนึ้ มาเองโดยอตั โนมตั ิ บางครงั้ จะตงั้ ใจจะ
พิจารณาสง่ิ โนน้ สิ่งนีใ้ หจ้ ติ มนั เกิดความคดิ ไม่หยดุ แตเ่ ม่ือ
พิจารณาลงไปแลว้ มนั เกิดความสงบน่งิ ไมม่ ีความคดิ ซง่ึ สดุ แท้
แตจ่ ิตมนั จะเป็นไปเองโดยอตั โนมตั ิ

6

เพราะฉะนนั้ ถา้ เราจะช่งั เป็นนกั สงั เกตในการภาวนา ใน
บางครงั้ บางขณะเราภาวนาพทุ โธๆ จะใหจ้ ิตมนั สงบน่ิงพอสบาย
แตเ่ ม่ือสงบลงไปแลว้ มนั ไมน่ ่ิง มนั มีแตค่ วามคิด บางครงั้
พิจารณาสง่ิ โนน้ สง่ิ นีจ้ ะใหจ้ ติ มนั ดาํ เนินไปสกู่ ารพิจารณา
เรยี กวา่ เดนิ วปิ ัสสนากรรมฐาน เสรจ็ แลว้ มนั ก็ไมน่ ่งิ พอสงบลง
ไปนิดหน่อยมีแตค่ วามคิดไมห่ ยดุ ซง่ึ มนั จะมีอยา่ งนีอ้ ย่เู สมอ
เพราะฉะนนั้ คาํ วา่ สมถะก็ดี วปิ ัสสนาก็ดี มนั เป็นแตเ่ พียงช่ือ
วิธีการเทา่ นนั้ ถา้ หากเราทา่ นทงั้ หลายจะเป็นนกั ปฏบิ ตั ิ
กรรมฐานเพ่ือใหไ้ ดผ้ ลอย่างแทจ้ รงิ ขอไดโ้ ปรดอยา่ ไปตดิ วธิ ีการ
ถา้ เราไปตดิ วธิ ีการแลว้ เราจะไมพ่ บจดุ จบ และเราจะไมย่ ตุ ิใน
การถกเถียงกนั เรอ่ื งเก่ียวกบั การปฏิบตั ิ

บดั นีจ้ ะไดพ้ ดู เฉพาะวิธีการทาํ สมถะ แลว้ มนั ก็กลายเป็น
วิปัสสนาไปเองโดยอตั โนมตั ิ มีแบบอย่างอนั หนง่ึ ซง่ึ เคยทดลอง
มา และเคยถามครูบาอาจารยม์ า มีอยคู่ รงั้ หน่งึ ตงั้ ใจจะไปถาม
ปัญหากบั ทา่ นอาจารยเ์ ทสก์ เพราะมีความสงสยั ขอ้ งใจอย่กู บั
ปัญหาท่ีวา่ สมาธิในฌาณ กบั สมาธิในอรยิ มรรคมนั ตา่ งกนั

7

อย่างไร พอไปถงึ แลว้ ก็ไปกราบทา่ น พอกราบเสรจ็ ทา่ นบอกวา่
“เออ ดีแลว้ เจา้ คณุ มาก็ดแี ลว้ จะพดู อะไรใหฟ้ ัง ผมพดู แลว้ ไมม่ ี
ใครเช่ือผม”

พอเสรจ็ แลว้ ทา่ นก็พดู วา่ สมาธิในฌาณมนั เป็นสมาธิท่ีโง่
มนั รูอ้ ยใู่ นสงิ่ ๆเดียว ความคดิ สติปัญญามนั ไมเ่ กิด เม่ือจติ เขา้
ไปสฌู่ าณมนั มีแตส่ งบน่ิง ไมม่ ีอาการแหง่ ความรูเ้ กิดขนึ้ เรยี กวา่
จิตอย่ใู นฌาณสมาบตั ิ แตส่ มาธิในอรยิ มรรคนนั้ มนั มีความสงบ
แลว้ ประกอบดว้ ยองคค์ อื มีวติ ก วิจาร ปีติ สขุ เอกคั คตา
เช่นเดียวกบั สมาธิในฌาณ แตเ่ ม่ือมนั มีสงบน่ิงลงไปแลว้ มนั มี
อาการแหง่ ความรูผ้ ดุ ขนึ้ เป็นระยะๆ หรอื ตดิ ตอ่ กนั เป็นเรอ่ื งยืด
ยาว แตจ่ ติ มนั อยใู่ นลกั ษณะแหง่ ความสงบ อนั นีเ้ รยี กวา่ สมาธิ
ในอรยิ มรรค

ทีนีเ้ ม่ือไปคน้ ดตู าํ รา ไปปรากฏอย่ใู นคมั ภีรพ์ ระธรรมบท
ทา่ นอธิบายถงึ เรอ่ื งของฌาณวา่ มีอย่สู องอยา่ ง อย่างหน่งึ
เรยี กวา่ อารัมมณูปนิชฌาณ อารมั มณปู นิชฌาณหมายถึงจิต
ท่ีดาํ เนินเขา้ ไปสฌู่ าณในขนั้ สมาบตั ิ โดยท่ีผปู้ ฏบิ ตั อิ าศยั อารมณ์

8

จติ อย่างใดอยา่ งหนง่ึ จะเป็นบรกิ รรมภาวนาหรอื เพง่ กสณิ เป็น
ตน้ เม่ือบรกิ รรมภาวนาหรอื เพง่ กสิณ จติ ไปตดิ อยกู่ บั บรกิ รรม
ภาวนาหรอื ดวงกสณิ ท่ีเพง่ แลว้ ก็เกิดบรกิ รรมนิมิตขนึ้ มา

เม่ือจติ ยดึ เอาบรกิ รรมนิมติ นนั้ เป็นเคร่อื งหมาย เป็นเครอ่ื งรู้
จิตบรกิ รรมภาวนาอยเู่ อง โดยท่ีผภู้ าวนาไมไ่ ดต้ งั้ ใจ เช่นจะ
ภาวนาพทุ โธๆเป็นตน้ ในตอนแรกๆเราตงั้ ใจภาวนาพทุ โธ ตงั้ ใจ
นกึ พทุ โธ ถา้ เราไมต่ งั้ ใจนกึ จติ ของเราไม่นกึ พทุ โธ แตเ่ ม่อื เรา
ตงั้ ใจนกึ จติ ของเราจงึ นกึ พทุ โธ แตห่ นกั ๆเขา้ เราไมไ่ ดต้ งั้ ใจแต่
จิตของเราจะนกึ พทุ โธอย่ไู มห่ ยดุ และเราจะมีสติรูพ้ รอ้ มอยกู่ บั
ขณะจิตท่ีกาํ ลงั นกึ พทุ โธอยนู่ นั้ ในลกั ษณะอยา่ งนีเ้ รยี กวา่ การ
ภาวนาไดว้ ติ ก วจิ าร เม่ือจติ มีวิตก วิจาร จติ ก็มีความสงบ มี
ความดดู ด่ืมในภาวนานนั้ เกิดปีติ เกิดความสขุ และสงบลงเป็น
หนง่ึ ซง่ึ เรยี กวา่ เอกัคคตา

ถา้ หากวา่ จติ มีวิตก วิจาร มีปีติ มีความสขุ และมีความเป็น
หนง่ึ อยพู่ รอ้ ม เรยี กวา่ จติ อยใู่ นฌาณท่ี ๑ ถา้ หากวติ ก วจิ าร
หายไป ยงั เหลอื แตป่ ีติและความสขุ และความเป็นหนง่ึ จติ อยู่

9

ในฌาณท่ี ๒ ปีตหิ ายไป เหลอื แตส่ ขุ กบั เอกคั คตา จิตอยใู่ น
ฌาณ ๓ เม่ือสขุ หายไป จติ ยงั เหลือแตเ่ อกคั คตากบั อเุ บกขา จติ
อยใู่ นฌาณ ๔ จติ อย่ใู นฌาณ ๔ นีจ้ ติ ไปเพง่ รูอ้ ยทู่ ่ีอารมณอ์ นั
เดียว ถา้ จติ มีดวงกสิณเป็นเครอ่ื งหมายก็เพง่ รูอ้ ยทู่ ่ีดวงกสณิ ไม่
มีความรูส้ กึ ไม่มีความนกึ คดิ อะไรเกิดขนึ้ ในขณะนนั้ จติ แน่น่ิง
อย่กู บั ดวงกสณิ นนั้ ถา้ หากวา่ จิตไมม่ ีดวงกสิณเป็นเคร่อื งหมาย
จติ รูอ้ ยทู่ ่ีจติ กร็ ูอ้ ยทู่ ่ีรูค้ ือรูอ้ ย่ใู นจติ แตห่ ากไมม่ ีความรูส้ กึ อนั อ่นื
เกิดขนึ้ แมแ้ ตค่ วามรูส้ กึ วา่ มีกายก็หายไปหมดสนิ้ แลว้ มีแตจ่ ติ ท่ี
น่ิงสงบสวา่ งอย่เู พียงอยา่ งเดียวเทา่ นนั้ ความรูใ้ ดๆไมเ่ กิดขนึ้
เอาแตแ่ นน่ ่งิ อย่ใู นจดุ เดยี ว จติ เอาจิตเป็นอารมณ์ เอาตวั รูเ้ ป็น
อารมณ์ หรอื จติ เอาดวงกสณิ ท่ีเพง่ อยนู่ นั้ เป็นอารมณ์ อนั นี้
เรยี กวา่ อารัมมณูปนิชฌาณ เป็นฌาณสมาบตั ิ เป็นฌาณท่ี
ฤาษีชีไพรทงั้ หลายเคา้ บาํ เพญ็ กนั มา

เม่ือจติ ดาํ เนินมาถงึ ขนั้ ฌาณ ๔ ตอ่ ไปก็กา้ วหนา้ ไปสู่ อา
กาส วิญญาณ อากิญจญั ญายตนะ เนวะสญั ญานาสญั ญายต
นะ เป็นลาํ ดบั ไป จะไมข่ อนาํ มากลา่ วในท่นี ีเ้ พราะวา่ วิสยั หรอื

10

ภมู ิปัญญาของผเู้ ทศนก์ ็ยงั ไม่ถึงขนั้ นนั้ ดงั ท่ีกลา่ วมานีเ้ ป็น
อารมั มณปู นิชฌาณ

ทีนีล้ กั ษณะ ลกั ขณูปนิชฌาณ หมายถงึ จิตท่ีมีความสงบ
ลงไปดว้ ยวธิ ีการอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ จะเป็นบรกิ รรมภาวนาก็ตาม
หรอื จติ ผา่ นการพิจารณาอะไรมาแลว้ ก็ตาม ถา้ หากวา่ จิตดวงนี้
ผ่านการพจิ ารณา จะพจิ ารณาเรอ่ื งอะไรก็ได้ พจิ ารณาเร่อื ง
กายคตาสติ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนือ้ เอ็น กระดกู เป็น
ตน้ ในเม่ือผภู้ าวนาตงั้ ใจพจิ ารณาไปแลว้ จิตเกิดความสงบ มี
ความสงบลงไปนิดหนอ่ ย แลว้ ความรูส้ กึ ท่จี ะคิดจะพจิ ารณานนั้
ไดห้ ายไป แตจ่ ิตยงั ทาํ หนา้ ท่ีพจิ ารณาเองโดยอตั โนมตั ิ หรอื
บางครงั้ ตงั้ ใจพิจารณาเรอ่ื งของกายคตาสตอิ ยู่ แตเ่ ม่ือจิตสงบ
ลงไปแลว้ จิตไปพจิ ารณาอารมณอ์ ่นื ซง่ึ ทอดทงิ้ อารมณเ์ ดมิ ท่ี
พิจารณาอยนู่ นั้ เสีย แลว้ ก็ไปพจิ ารณาอารมณอ์ ่นื เม่ือเป็น
เชน่ นนั้ จติ ก็พจิ ารณาอยไู่ มห่ ยดุ

ในบางครงั้ เราอาจจะนกึ วา่ จติ ของเราเดนิ ผดิ ทางไป เราจะ
ใหม้ นั หยดุ แตม่ นั ไมย่ อมหยดุ มนั พจิ ารณาของมนั อย่อู ย่างนนั้

11

ในเม่ือมีลกั ษณะอย่างนีเ้ กดิ ขนึ้ สาํ นกั ภาวนาทา่ นใดพงึ เขา้ ใจ
เถอะวา่ จิตของทา่ นกาํ ลงั ไดว้ ติ ก วิจาร เก่ียวกบั เรอ่ื งการ
พิจารณา เม่ือจิตมีการพิจารณาไปเองโดยอตั โนมตั ิ มีสตริ ูพ้ รอ้ ม
อย่กู บั สง่ิ ท่ีพจิ ารณาในปัจจบุ นั ปีติและความสขุ ยอ่ มบงั เกิดขนึ้
แลว้ ความสงบจิตอนั เรยี กวา่ เอกคั คตา ยอ่ มบงั เกิดขนึ้ จติ ยงั
พจิ ารณาอยแู่ ละพรอ้ มๆกนั นนั้ จติ รูอ้ ย่กู บั เรอ่ื งพจิ ารณา ปีติก็
บงั เกิดขนึ้ ความสขุ ก็บงั เกิดขนึ้ และความสงบจติ ก็บงั เกิดขนึ้

แตค่ วามสงบจติ ในขนั้ พจิ ารณานีไ้ มใ่ ชว่ า่ จติ สงบจาก
อารมณห์ รอื ตดั ขาดจากความคดิ ความคิดอา่ นยงั มีอยเู่ ป็นปกติ
แตจ่ ติ อยใู่ นลกั ษณะแหง่ การคิดเอง พจิ ารณาเอง มีสติรูพ้ รอ้ ม
อยเู่ อง แลว้ ก็มีปีติ มีความสขุ มีความสงบ คอื มีความสงบอยกู่ บั
เร่อื งท่ีกาํ ลงั ปฏบิ ตั อิ ยู่ พิจารณาอย่นู นั้ อนั นีเ้ รยี กวา่ จติ ไดว้ ติ ก
วิจาร ปีติ สขุ เอกคั คตา จติ เดนิ อย่ใู นฌาณท่ี ๑

ถา้ หากวา่ จติ หยดุ พิจารณาแลว้ บางครงั้ อาจจะถีบตวั ขนึ้ ไป
ลอยเดน่ อยเู่ หนือส่งิ ใดๆ แลว้ ก็มองลงมาดู มองเห็นรา่ งกาย
ตวั เองบา้ ง มองเหน็ ทกุ สิ่งทกุ อยา่ งบา้ ง อย่ใู นแง่แหง่ ความ

12

เปล่ียนแปลง โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ บางครงั้ อาจจะมองเหน็
รา่ งกายของตวั เองน่ีนอนตายอยแู่ ลว้ ก็ขนึ้ อืดเน่าเป่ือยผพุ งั
สลายตวั ไปโดยไมม่ ีอะไรเหลือ แตจ่ ิตดวงนีไ้ ปสงบน่งิ ลอยเดน่
สวา่ งไสวอยู่ แลว้ ก็ยงั มีอารมณส์ ง่ิ รูป้ รากฏอยตู่ ลอดกาล
อารมณส์ ง่ิ รูน้ นั้ ปรากฏขนึ้ มา จิตก็เพง่ ดอู ยโู่ ดยอตั โนมตั ิ แตร่ ูอ้ ยู่
เฉยๆ แมว้ า่ สิง่ รูน้ นั้ จะมีอนั เปล่ียนแปลงอยา่ งไร จติ ก็ไม่ไหวติง
เช่น มองเห็นความตาย ในเม่อื ตายแลว้ รา่ งกายแสดงความเนา่
เป่ือย จิตก็รูอ้ ยเู่ ฉยๆ แมม้ องเหน็ นา้ํ รา่ งกายขนึ้ อดื เน่าเป่ือยผพุ งั
ไป ก็รูเ้ ฉยอยู่ มองเหน็ ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งสลายตวั ไป แมแ้ ตโ่ ครง
กระดกู ก็ย่อยยบั ผพุ งั ไปหมด ไม่มีอะไรเหลือ จติ ก็รูเ้ ฉยอยู่ รู้
อยา่ งไม่มีสมมตุ บิ ญั ญตั ิ รูอ้ ยา่ งไมท่ กั ทว้ งอะไร คือรูว้ า่ ตาย ก็
รูอ้ ยเู่ ฉยๆ พอเหน็ รา่ งกายตาย กายตายแลว้ จติ ก็ไมว่ า่ มนั รูอ้ ยู่
เฉยๆ กายเนา่ แลว้ จติ มนั ก็ไมว่ า่ มนั รูอ้ ยเู่ ฉยๆ กายสลายตวั ไป
แลว้ มนั ก็ไม่วา่ มนั รูอ้ ยเู่ ฉยๆ เม่ือทกุ สง่ิ ทกุ อย่างหายไปหมดแลว้
มีแตค่ วามวา่ ง มนั ก็ไม่วา่ หายไปหมดแลว้ ยงั มีแตค่ วามวา่ ง

13

หรอื บางทีมนั อาจจะมองเหน็ ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง มองเห็นกลมุ่
ควนั กลมุ่ หมอกอะไรอนั ละเอียด ซง่ึ บางทถี า้ ผแู้ ก่วทิ ยาศาสตร์
หน่อยก็จะใชน้ กึ วา่ ออ้ น่ีคืออณู ปรมาณอู ะไรตา่ งๆ ตามหลกั
วิทยาศาสตรท์ ่ีทา่ นเรยี นมา ซง่ึ สดุ แทแ้ ตจ่ ติ ของทา่ นผใู้ ดจะ
ปฏิวตั ิไปในทางไหน ในเม่ือจติ เป็นสมาธิอย่างดี จิตเป็นอตั โนมตั ิ
จิตสามารถปฏิวตั ิตวั ไปเองไปสภู่ มู ริ ูน้ นั้ ๆ ผทู้ ่ีเรยี นมาทางคมั ภีร์
ธรรมะ มนั ก็วง่ิ ไปคน้ ควา้ อยใู่ นคมั ภีรธ์ รรมะ ไปรูอ้ ย่ใู นคมั ภีร์
ธรรมะ ผเู้ รยี นรูท้ างวทิ ยาศาสตรม์ นั ก็ไปรูท้ างวทิ ยาศาสตร์
เรยี นรูม้ าศาสตรไ์ หนมนั ก็เอาสง่ิ นนั้ มาเป็นอารมณจ์ ิต

ทีนีใ้ นเม่ือมนั เป๋ ออกไปรูใ้ นส่งิ อ่นื นอกจากคมั ภีรธ์ รรมะ มนั
จะไม่ผดิ ทางไปหรอื ขอยืนยนั วา่ ไมม่ ีทางผดิ เพราะสงิ่ ใดท่ีเรา
สามารถรูด้ ว้ ยจติ ส่งิ นนั้ คอื ธรรมะ ตา หู จมกู ลนิ้ กายและใจ
เป็นธรรมะเรยี กวา่ อายตนะภายใน รูป เสยี ง กลิน่ รส สมั ผสั
ธรรมารมณ์ ก็เป็นธรรมะ เป็นอายตนะภายนอก มาติดตอ่ กบั
ตา หู จมกู ลนิ้ กายกบั ใจ รูปเป็นวสิ ยั ของตา เสียงเป็นวสิ ยั ของหู
กลิ่นเป็นวสิ ยั ของจมกู รสเป็นวิสยั ของลนิ้ สมั ผสั เป็นวิสยั ของ

14

กาย ความรูส้ กึ นกึ คดิ ซง่ึ เรยี กวา่ ธรรมารมณเ์ ป็นวิสยั ของจิต สง่ิ
ใดท่ีสามารถรูด้ ว้ ยจิต ส่งิ นนั้ คอื ธรรมารมณ์

วทิ ยาศาสตรท์ ่ีทา่ นเรยี นมาก็เป็นธรรมารมณ์ หรอื ศาสตร์
อ่นื ๆท่ีทา่ นเรยี นวา่ ก็เป็นธรรมารมณ์ เม่ือจติ ของทา่ นไปเอาสิง่
นนั้ ๆมาพจิ ารณา มาเป็นอารมณส์ ง่ิ รู้ เม่ือจิตมีส่งิ รู้ สติมีสงิ่ ระลกึ
แลว้ ก็รูอ้ ยกู่ บั สิง่ นนั้ ๆ นกั ภาวนาสามารถท่จี ะรูค้ วามเปลยี น
แปลงของสิง่ นนั้ ๆ คือสิ่งท่ีเป็นอารมณจ์ ติ นนั้ เอง ในเม่ือรูค้ วาม
เปล่ยี นแปลงของสิ่งนนั้ จิตกร็ ูพ้ ระไตรลกั ษณ์ ความ
เปล่ยี นแปลงคอื อนิจจงั ความรูท้ ่ีผดุ ขนึ้ อยใู่ นจติ มนั ทนอย่ไู มไ่ ด้
คือทกุ ขงั ความรูท้ ่ีเกิดขนึ้ นนั้ มนั ไม่ดาํ รงอย่ตู ลอดกาล มนั ไม่
เป็นตวั ของตวั เกิดขนึ้ แลว้ ตงั้ อยู่ ดบั ไป เกิดขนึ้ แลว้ ตงั้ อยู่ ดบั ไป
ความเป็นจรงิ ของสภาวะธรรม มนั ก็มีกนั อย่เู พียงแคน่ ี้

ในเม่ือจิตมีส่งิ รู้ สตมิ ีสงิ่ ระลกึ โดยธรรมชาติของจิตเม่ือเป็น
เชน่ นนั้ ย่อมมคี วามสงบ เม่อื จิตมีความสงบเรยี กวา่ สมาธิ สมาธิ
ท่ีไม่มีส่งิ รู้ จิตรูอ้ ยเู่ พียงส่ิงเดยี ว รูอ้ ยใู่ นจดุ เดียวเป็นสมาธิใน
ฌาณ ในฌาณสมาบตั ิ สมาธิท่ีจิตสงบลงไปแลว้ ยงั มีสงิ่ รู้ สตมิ ี

15

ส่ิงระลกึ ซง่ึ มนั จะเป็นไปเองโดยอตั โนมตั ิ อารมณส์ ิง่ รูข้ องจติ นนั้
มีอยตู่ ลอดกาล จิตก็สกั แตว่ า่ รู้ รูแ้ ลว้ ก็ปลอ่ ยวางไป อนั นีเ้ รยี กวา่
ลักขณูปนิชฌาณ เป็นฌาณในอรยิ มรรค เป็นสมาธิใน
อรยิ มรรค

ทีนนี้ ิโรธะคอื ความดบั ทกุ ข์ สมทุ ยั นิโรธ มรรค ในเม่ือจิต
ของเราสามารถกาํ หนดหมายรูค้ วามไม่เท่ียง เป็นทกุ ข์ เป็น
อนตั ตาของสภาวะท่ีเกิดดบั ภายในจติ ในเม่ือรูช้ ดั เจนแลว้ ก็รู้
พระไตรลกั ษณ์ คอื รู้ อนิจจงั ทกุ ขงั อนตั ตาน่นั เอง ถา้ จิตดวงนีร้ ู้
แจง้ เหน็ จรงิ ในพระไตรลกั ษณแ์ ละยอมรบั สภาพความเป็นจรงิ
จากท่ีรู้ ยอ่ มมีสตสิ มั ปะชญั ญะ รูพ้ รอ้ มอยทู่ ่ีจติ จิตกลายเป็นตวั
ปกติ จิตท่ีเป็นตวั ปกตปิ รากฏเดน่ ชดั อยนู่ ่นั คือ สีเล นะ สุคะตงิ
ยันติ เม่ือจิตมคี วามเป็นปกตแิ ละก็มีคตอิ นั ดี คือมีทางไปดี
เรยี กวา่ สคุ ติ สเี ล นะ โภคะสัมปะทา ถงึ พรอ้ มดว้ ยโภคสมบตั ิ
ก็เพราะศีล โภคสมบตั ิหมายถึงอรยิ ทรพั ย์ ทรพั ยภ์ ายใจ สเี ล
นะ นิพพตุ งิ ยันติ จะถงึ ความดบั สนทิ ก็ดว้ ยอาํ นาจแหง่ ศีล

16

เม่ือจิตมีความดบั มีแตค่ วามเป็นปกตปิ รากฏเดน่ ชดั อยู่ นิโรธะ
คือความดบั กป็ รากฏขนึ้

ทีนนี้ ิโรธะความดบั อยา่ พงึ เขา้ ใจวา่ จติ ไมม่ ีความคดิ มนั ดบั
ทงั้ ๆท่จี ติ มีความคิดอา่ นอยู่ ดบั ทงั้ ๆท่ีจิตยงั พจิ ารณาอยู่ คาํ วา่ นิ
โรธะคอื ความดบั น่ี ไม่ใช่ดบั อารมณ์ นกั ปฏบิ ตั ิทงั้ หลายอยา่ พงึ
เขา้ ใจผิด ดบั ความเปล่ยี นแปลงของจติ จติ มีความเปลย่ี นแปลง
อย่างไร จิตมคี วามเปล่ยี นแปลงอยตู่ รงจดุ ท่ีวา่ อะไรเกิดขนึ้ แลว้
จิตยดึ พอยดึ ป๊ับก็เกิดความยินดี เกิดความยนิ รา้ ย ในเม่ือจติ
เป็นปกติ จิตตงั้ เดน่ อยู่ จติ ยอ่ มมีศลี จิตยอ่ มมีสจั จะ คือความ
จรงิ ใจปรากฏขนึ้ เองโดยอตั โนมตั ิ เม่ือเป็นเชน่ นนั้ จติ มีสติรู้
พรอ้ มอย่ทู ่ีจติ ทกุ ขณะจิต มนั ก็เป็น สัมมาปณธิ ติ ัง จติ ตัง เป็น
จติ ท่ีตงั้ ไวช้ อบแลว้ คอื ตงั้ อยใู่ นทา่ มกลางเรยี กวา่
มชั ฌิมาปฏปิ ทา

เม่ือจติ มีมชั ฌมิ าปฏิปทา มตี วั ปกติเดน่ ชดั อยมู่ นั ก็คลา้ ยๆ
กบั วา่ หคู อยสดบั ตรบั ฟังเหตกุ ารณอ์ นั ใดอนั หน่งึ ซง่ึ จะเกิดดบั
ภายในจติ นนั้ เม่ืออะไรเกิดขนึ้ มาป๊ับ จติ ก็รู้ อะไรเกิดขนึ้ มาป๊ับ รู้

17

อะไรดบั ไปก็รู้ อะไรเกิดก็รู้ อะไรดบั ก็รู้ อะไรเลา่ เกิด อะไรเลา่ ดบั
ก็ความคดิ น่นั เอง มนั เกิดมนั ดบั แตค่ วามรูส้ กึ ยินดี ความรูส้ กึ ยนิ
รา้ ย มนั ไมม่ ีปรากฏ ความเกดิ ดบั ของอารมณอ์ นั นนั้ มนั มี
สบื เน่ืองกนั อยตู่ ลอดกาล ไมร่ ูจ้ กั จบ ไม่รูจ้ กั สิน้ แตจ่ ติ มนั ก็ดบั
ความยนิ ดี ดบั ความยนิ รา้ ย เม่ือจิตมองดคู วามเกิดดบั ของ
อารมณจ์ ิต จติ ก็รูอ้ นิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ทีนีถ้ า้ หากวา่ จติ เป็นปกติอย่ตู ลอดกาล จติ ตวั นนั้ เป็นตวั
ปกติ เป็นนิโรธะ ถา้ หากวา่ สตอิ อ่ นในชว่ งใด ถกู อวิชชาครอบงาํ
เพียงนิดหนง่ึ พอมีสงิ่ จะเกิดขนึ้ มาป๊ับ จติ ยดึ ยดึ แลว้ เกิดความ
ยนิ ดี ความยนิ ดมี ีแนวโนม้ ใหเ้ กิดกามตณั หา พอสิง่ ใดเกิดขนึ้ มา
ป๊ับ เกิดความไมพ่ อใจยินรา้ ยขนึ้ มา ความยนิ รา้ ยมีแนวโนม้ ให้
เกิดวิภวตัณหา ถา้ หากวา่ ไม่ยดึ อยกู่ บั ความยนิ ดแี ละความยนิ
รา้ ย กลายเป็นภวตณั หา นกั ภาวนาท่ีมีสตสิ มั ปะชญั ญะ จติ
เป็นตวั ศีล เป็นตวั ปกติ ย่อมสามารถมองดอู ารมณจ์ ิตในแงแ่ หง่
พระไตรลกั ษณ์ อนิจจัง ทกุ ขงั อนัตตาไดเ้ ดน่ ชดั

18

เม่ือจติ ไปเกาะเก่ียวกบั สงิ่ ใดๆ เกิดความยนิ ดีเกิดความยนิ
รา้ ย ย่อมเหน็ ตวั สมุทยั คือตวั ตณั หากาํ ลงั จะบงั เกิดขนึ้ มาเลน่
งาน เม่ือจติ เกดิ ความยนิ ดี เกิดความยนิ รา้ ยก็เกิดสขุ เกิดทกุ ข์
สลบั กนั ไป เม่อื สตสิ มั ปะชญั ญะดเี ดน่ ขนึ้ มพี ลงั งานขนึ้ เม่ือไหร่
ผภู้ าวนาสามารถจะมองเหน็ ทกุ ขอริยสัจท่ีพระพทุ ธเจา้ ตรสั รู้
มองเหน็ สขุ เหน็ ทกุ ขท์ ่ีเกิดดบั อยภู่ ายในจติ ก็จะรูไ้ ดท้ นั ทีวา่ น่ีคอื
ทกุ ขอรยิ สจั ท่ีพระผมู้ ีพระภาคเจา้ ตรสั รู้

ในเม่ือจติ มารูจ้ รงิ เหน็ แจง้ อยา่ งนี้ เม่ือรูจ้ รงิ เหน็ แจง้ ขนึ้ มา
เม่ือไหร่ ก็จะรูว้ า่ นอกจากทกุ ขไ์ ม่มีอะไรเกิด นอกจากทกุ ขไ์ ม่มี
อะไรดบั เม่ือจิตมองเหน็ สภาวะธรรมท่ีละเอยี ดสขุ มุ ย่งิ ขนึ้ ไป ก็
จะมองเห็นเพยี งแคว่ า่ ยํ ก�ิ จฺ ิ สมุทยธมฺมํ สพพฺ นฺตํ นิโรธธมฺ
มนฺติ สิ่งใดสิ่งหนง่ึ เกิดขนึ้ เป็นธรรมดา สงิ่ นนั้ มีความดบั ไปเป็น
ธรรมดา ก็เป็นอนั วา่ ไดด้ วงตาเหน็ ธรรม ตามนยั แหง่ ธัมมจัก
กปั ปวัตตนสตู รท่ีวา่ ท่านอญั ญาโกณฑญั ญะฟังพระธรรม
เทศนาเรอ่ื งธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู รจบลง ไดด้ วงตาเห็นธรรมวา่

19

สิ่งใดสง่ิ หนง่ึ มีความเกิดขนึ้ เป็นธรรมดา สง่ิ นนั้ มีความดบั ไปเป็น
ธรรมดา มนั กจ็ บกนั เพียงแคน่ นั้

การรูธ้ รรมเหน็ ธรรมสว่ นละเอียดมีแต่ ยํ กญิ ิจิ สมุทยธมมฺ ํ
เทา่ นนั้ ซง่ึ ทา่ นอาจารยม์ หาบวั ทา่ นเคยเทศนว์ า่ สภาวะธรรม
ทงั้ หลายในเม่อื พิจารณาไปถึงขนั้ ละเอียดแลว้ มนั ไมม่ ีอะไร มีแต่
ความหยมุ หยมิ ๆๆอยเู่ ทา่ นนั้ หยมุ หยมิ ๆของทา่ นอาจารยม์ หา
บวั น่นั แหละเรยี กวา่ ยํ ก�ิ จฺ ิ สมุทยธมมฺ ํ สพพฺ นฺตํ นิโรธธมฺ
มนฺติ สิง่ ใดส่ิงหนง่ึ เกิดขนึ้ เป็นธรรมดา สง่ิ นนั้ ดบั ไปเป็นธรรมดา

ฐีตภิ ตู ังของพระอาจารยใ์ หญ่ม่นั ท่ีทา่ นเทศนไ์ วใ้ นมตุ โตทยั
มนั ก็ไดแ้ กล่ กั ษณะของจิตท่ีไปตงั้ เดน่ เป็นอสิ ระอยู่ เรยี กวา่ จิต
เป็นเขา้ ในลกั ษณะท่ีเรยี กวา่ อตตฺ ทปี า มีตนเป็นเกาะ อตตฺ
สรณา มีตนเป็นท่พี ่งึ อตตฺ า หิ อตตฺ โน นาโถ มีตนเป็นท่พี ่งึ
ของตน แมจ้ ิตดวงนีจ้ ะดาํ รงอยใู่ นทา่ มกลางแหง่ สงิ่ แวดลอ้ ม
ทงั้ หลายก็ยงั ปรากฏเดน่ อยไู่ มไ่ หวติง มีแตค่ วามเป็นปกติ
ปรากฏเดน่ ชดั อยตู่ ลอดเวลา สงิ่ ท่ีวนเวยี นอยรู่ อบๆจติ ซง่ึ เป็นไป
ตามครรลองของสภาวธรรม ท่ีมนั เป็นไปในลกั ษณะแหง่ ความ

20

ไมเ่ ท่ียง เป็นทกุ ข์ เป็นอนตั ตา ปรากฏอย่ตู ลอดกาล อนั นนั้ คอื ภู
ตัง จิตตงั้ เดน่ อยเู่ ป็นอสิ ระ เป็น ฐีติ สิ่งท่ีเป็นอารมณข์ องจติ ผา่ น
เขา้ มาแลว้ ก็ผา่ นไป ผา่ นเขา้ มาแลว้ ก็ผา่ นไป ไมร่ ูจ้ กั หยดุ ยงั้ อนั
นนั้ เป็น ภตู งั ตามความหมายของ ฐีติภตู งั ของพระอาจารยม์ ่นั

เพราะฉะนนั้ การภาวนาน่ีทา่ นอาจารยเ์ สารท์ า่ นวา่ จิตของ
ขา้ มนั ไม่สงบ มีแตค่ วามคดิ ทา่ นอาจารยฝ์ ั้นบอกวา่ อยา่
ปลอ่ ยใหจ้ ิตมนั วา่ ง ใหจ้ ติ มอี ารมณส์ ่ิงรูอ้ ย่ตู ลอดเวลา แลว้ ก็ใหม้ ี
สตริ ูอ้ ย่กู บั สงิ่ รูใ้ นปัจจบุ นั การภาวนาดว้ ยบรกิ รรมพทุ โธกด็ ี การ
ภาวนาดว้ ยการพจิ ารณาธรรมะอนั ใดอนั หน่งึ เป็นอารมณก์ ็ดี
เป็นอบุ ายวธิ ีฝึกหดั จติ ใหม้ ีความคิด

แตใ่ นตอนตน้ ๆ เรามงุ่ ทาํ จิตใหม้ ีความสงบน่ิงเป็นสมาธิ
ก่อนไดเ้ ป็นดี ในขณะท่ที า่ นอาจจะน่งั บรกิ รรมภาวนาอยเู่ ช่น
ภาวนาพทุ โธๆๆเป็นตน้ ถา้ จติ ของท่านอยกู่ บั พทุ โธตลอดไป
ปลอ่ ยใหม้ นั อยไู่ ป ถา้ มนั ภาวนาพทุ โธๆๆของมนั ไมห่ ยดุ เราจะ
ใหม้ นั หยดุ มนั ไมย่ อมหยดุ ก็ปลอ่ ยใหม้ นั คดิ ไป พทุ โธของมนั ไป
เร่อื ย อยา่ ไปหา้ มมนั หนา้ ท่ีเป็นแตเ่ พียงประคองมนั ไป รูม้ นั ไป

21

เทา่ นนั้ มนั จะหยดุ ใหเ้ ป็นเรอ่ื งของจิต ไมห่ ยดุ ใหเ้ ป็นเรอ่ื งของ
จติ

แตใ่ นบางครงั้ เราภาวนาพทุ โธๆไปซกั พกั หน่งึ จิตมนั หยดุ
หยดุ น่งิ วา่ ง บางทีมนั ไมว่ า่ ง พอหยดุ สงิ่ นีป้ ๊ับ มนั ไปคิดสิ่งอ่ืน ก็
ลองปลอ่ ยใหม้ นั คดิ ไป อย่าเอาแตด่ งึ มนั กลบั มาหาพทุ โธเพียง
อย่างเดยี ว เม่ือมนั จะอยกู่ บั พทุ โธก็ใหม้ นั อย่ไู ป เม่ือมนั จะไปคิด
สงิ่ อ่นื หลงั จากท่ีเรานกึ พทุ โธแลว้ มนั ปลอ่ ยวางพทุ โธก็ใหม้ นั คดิ
ไป เพราะพทุ โธก็เป็นความคดิ สิ่งท่มี นั คดิ มาเองก็เป็นความคิด
เราขณะท่ีเราภาวนาพทุ โธอยู่ เราหาพทุ โธมาปอ้ นใหจ้ ิต แลว้ ก็มี
สตคิ วบคมุ จติ ใหม้ นั นกึ อยทู่ ่ีพทุ โธ เราทาํ งานสองอย่างพรอ้ มกนั
ไป แตถ่ า้ หากจติ นกึ อยา่ งอ่นื ขนึ้ มา ไมใ่ ชเ่ ร่อื งของพทุ โธ แตม่ นั
นกึ ของมนั ขนึ้ มาเอง เราเพียงทาํ สตติ ามรูม้ นั ไปเร่อื ยๆ แลว้ ใน
ท่ีสดุ เอาความคิดอนั นนั้ มาเป็นอารมณจ์ ิต มีสตริ ูอ้ ย่กู บั สง่ิ นนั้

ถา้ หากวา่ เรากาํ หนดทาํ สตริ ูเ้ ม่ือไหร่ ความคิดมนั หยดุ จิต
เกิดความวา่ ง ดทู ่ีความวา่ ง เม่ือคดิ ดทู ่ีความคิดวา่ ง ดทู ่ีความ
วา่ ง ไลก่ นั ไปอย่างนี้ จนกระท่งั จิตมนั คิดไม่หยดุ ก็ตามรูม้ นั อยู่

22

อย่างนนั้ ไมห่ ยดุ อย่างเชน่ เดียวกนั บางทีมนั คิดไป คดิ ไป คิดไป
ตวั คิดมนั ก็คิดเรอ่ื ยของมนั ไป ตวั ตามรูม้ นั ก็รูข้ องมนั เร่อื ยไป
และพรอ้ มๆกนั นนั้ มนั ก็จะเกิดปีติ เกิดความสขุ เกิดลกั ษณะ
แหง่ ความสงบเยือกเยน็ ในทา่ มกลางแหง่ ความคดิ อนั นีเ้ รยี กวา่
จิตเดินอย่ใู นขนั้ แหง่ ปฐมฌาณ คอื มนั คดิ ไม่หยดุ ความคดิ ไม่
หยดุ เป็นวติ ก ความรูพ้ รอ้ มอย่เู ป็นวิจาร ปีตแิ ละความสขุ ความ
สงบเกิดขนึ้ ก็เป็นปีติ สขุ เอกคั คตา ตามองคฌ์ าณท่ี ๑ บรกิ รรม
ภาวนาพทุ โธๆ ถา้ จิตบรกิ รรมภาวนาพทุ โธไม่หยดุ แลว้ กม็ ีปีติ มี
ความสขุ มีความเป็นหน่งึ กจ็ ติ อยใู่ นฌาณท่ี ๑ ดว้ ยบรกิ รรม
ภาวนา แตถ่ า้ การพจิ ารณาแลว้ จิตพจิ ารณาไม่หยดุ คดิ ไม่หยดุ
แตเ่ กิดวติ ก วจิ าร ปีติ สขุ เอกคั คตา จิตก็อยใู่ นฌาณท่ี ๑ ในขนั้
ดาํ เนินการแหง่ การพจิ ารณา เรยี กวา่ เดนิ วปิ ัสสนากรรมฐาน

และอกี อยา่ งหนง่ึ ปัญหาท่ีมผี นู้ าํ ไปถามอยบู่ อ่ ยๆ บางทา่ น
บอกวา่ พอกาํ หนดบรกิ รรมภาวนาลงไปแลว้ ในตอนตน้ ๆ จติ
สงบเยือกเย็นดี สวา่ งไสว บางทีก็ตวั หายไปหมด ยงั เหลอื แตจ่ ติ
ดวงเดยี ว ทีนีภ้ ายหลงั มาเม่อื ทาํ บอ่ ยๆเขา้ พอกาํ หนดจติ พทุ โธๆ

23

เพียงสองสามคาํ จิตก็สงบน่งิ พอสงบน่ิงนิดนงึ ก็ถอนขนึ้ มา พอ
ถอนขนึ้ มาแลว้ ทีนีม้ ีแตค่ วามคดิ ไม่หยดุ จะบงั คบั ใหม้ นั หยดุ จะ
ขม่ ใหม้ นั หยดุ มนั ไม่ยอมหยดุ ถา้ ย่งิ ขม่ ย่งิ บงั คบั มนั ก็ทาํ ใหเ้ กิด
ปวดศีรษะขนึ้ มา มนั เส่ือมหรอื มนั เป็นอย่างไร

อนั นีม้ ีผนู้ าํ ไปถามบอ่ ยๆ อนั นนั้ จติ ของท่านเม่ือผ่านความ
สงบเป็นสมาธิบอ่ ยๆเขา้ สมาธิเน่ีย ซง่ึ มนั เกิดจากศลี เป็น
หลกั ประกนั ความปลอดภยั สมาธิท่ีมีศลี เป็นเครอ่ื งอบรม เป็น
เครอ่ื งประกนั ความปลอดภยั สมาธิเกิดขนึ้ เป็นสมั มาสมาธิ เม่ือ
จิตเป็นสมั มาสมาธิ ปัญญาเกิดขนึ้ ปัญญาก็คอื ความคดิ
ความคดิ น่นั แหละคือปัญญา ทีนีเ้ ม่ือปัญญามนั เกิดขนึ้ แลว้ เรามี
สตริ ูท้ นั กเ็ ป็นปัญญา ถา้ มีสตริ ูไ้ ม่ทนั ก็เป็นความฟ้งุ ซา่ น
เพราะฉะนนั้ เราจงึ มีหลกั และวิธีการท่พี งึ จะปฏิบตั เิ ก่ียวกบั เร่อื ง
นี้ เม่ือจติ สงบน่ิงอยู่ ก็ปลอ่ ยใหน้ ่ิงไป เม่ือจติ เกิดความคดิ ปลอ่ ย
ใหค้ ิดไป แตฝ่ ึกทาํ สตติ ามรู้ อยา่ ไปเอาแตค่ วามสงบน่ิงอย่าง
เดียว

24

จติ ท่ีสงบแตย่ งั มีความคิดน่ยี งั มี ถา้ จิตสงบน่ิงไมม่ ีความคดิ
เรยี กวา่ จิตสงบในฌาณ เรยี กวา่ สมาธิในฌาณ ถา้ จิตสงบน่งิ
แลว้ ยงั มีความคดิ อยไู่ มห่ ยดุ ฟงุ้ ๆๆขนึ้ นมา ซง่ึ เรยี กวา่ ธรรมะมนั
ผดุ ขนึ้ อนั นีเ้ รยี กวา่ สมาธใิ นอริยมรรค ทีนีใ้ นเม่ือเป็นเชน่ นนั้
มนั จะสงบไดอ้ ย่างไร

จรงิ อยคู่ วามคดิ มนั คิดอยู่ มนั ไมส่ งบ แตม่ นั จะสงบจาก
ความยนิ ดี สงบความยนิ รา้ ย ความคิดท่ีคดิ ไม่หยดุ ถา้ ทา่ น
ปลอ่ ยใหม้ นั คดิ ไป ทาํ สตติ ามรู้ หน่งึ ทา่ นจะไดส้ ตสิ มั ปะชญั ญะ
เพราะจติ ทา่ นมีสงิ่ รู้ สติมีสิ่งระลกึ ประการท่ีสอง ความคดิ มนั จะ
ช่วยผอ่ นคลายความตงึ เครยี ดในจติ ประการท่ีสาม ความคดิ
เป็นเคร่อื งหมายใหร้ ูว้ า่ อนิจจงั ทกุ ขงั อนตั ตา ประการท่สี ่ี ขณะ
ใดจิตของทา่ นมีสติออ่ น ถกู อวชิ ชาครอบ มนั จะยดึ ยดึ สงิ่ ท่ีคิด
นนั้ แลว้ เกิดความยนิ ดยี ินรา้ ย ทา่ นมีสตทิ า่ นจะมองเหน็ ตวั กิเลส
ทา่ นก็จะมองเหน็ ไดว้ า่ น่ีคอื ทกุ ขท์ ่ีพระพทุ ธเจา้ ตรสั รู้ เม่ือทา่ นดู
เรอ่ื ยไป มีสตปิ ัญญาแก่กลา้ ทา่ นจะรูว้ า่ นอกจากทกุ ขไ์ มม่ ีอะไร

25

เกิด นอกจากทกุ ขไ์ ม่อะไรดบั จติ ท่ีมีสติปัญญาก็กาํ หนดรูท้ กุ ข์
ตลอดไป

ขณะใดจิตท่ีรูอ้ ย่ภู ายในจิต จิตดวงนีร้ ูภ้ ายใน มนั เป็นมรรค
แตถ่ า้ มนั สง่ ออกไปรูข้ า้ งนอก มนั ก็เป็นสมุทยั ขณะใดท่ีจติ สงบ
สวา่ งลงไปแลว้ ไปเหน็ ภาพนิมติ ตา่ งๆ น่นั มนั รูน้ อก รูน้ อกแลว้
มนั ก็เกิดสมทุ ยั ไปเกิดความยนิ ดียนิ รา้ ยกบั สิง่ ท่ีรู้ นอกจากจะ
ยนิ ดียนิ รา้ ยแลว้ ยงั ไปยดึ วา่ เป็นของดวี ิเศษ เชน่ อย่างนกั ปฏบิ ตั ิ
ไปเท่ียวอวดกนั บางทีหลวงพอ่ มีคนไปเย่ียมก็ไปน่งั กาํ หนดจิต
มาตรวจดภู มู จิ ติ ภมู ใิ จหลวงพอ่ พอลมื ตาขนึ้ "อืม วนั นหี้ ลวงพอ่
จติ ใจมวั หมอง มีอะไรมากระทบ" หลวงพอ่ ก็ทกั วา่ "เออ คณุ เอย้
คณุ จะมาเท่ียวเชค็ จติ เช็คใจฉนั ทาํ ไม๊ ทาํ ไมไม่ดจู ติ ใจตวั เองวา่
มนั ทกุ ขแ์ คไ่ หน เป็นหนีเ้ คา้ ตงั้ สองสามแสน เม่ือไหรจ่ ะหาเงนิ ใช้
ใหม้ นั พน้ ทกุ ขซ์ ะที" ก็เลยไปจีถ้ กู จดุ เขา้ เคา้ เลยยอมเป็นศษิ ย์

น่ีคือคน คอื ความรูน้ อก ถา้ รูน้ อกแลว้ มนั ไปเท่ียววิจารณค์ น
โนน้ วจิ ารณค์ นนี้ ไปตาํ หนิคนโนน้ ไปตาํ หนิคนนี้ ในท่ีสดุ ก็ไป
ตาํ หนิลทั ธิการปฏิบตั ิของคนอ่ืนเขา เม่ือเขาไมป่ ฏิบตั ิเหมือน

26

อย่างเราวา่ เขาปฏบิ ตั ผิ ดิ ถา้ ใครปฏบิ ตั เิ หมือนอย่างเราก็จงึ
เรยี กวา่ ปฏิบตั ิถกู อารมณข์ องการปฏบิ ตั ิกรรมฐานน่ีใหม้ แี ตใ่ น
เฉพาะคมั ภีรเ์ ท่านนั้

แมว้ า่ ใครจะไมน่ กึ ถงึ อะไร เป็นแตเ่ พียงพยายามทาํ จติ ทาํ ใจ
ใหม้ นั รูอ้ ยกู่ บั การยนื เดิน น่งั นอน รบั ทาน ด่มื ทาํ พดู คดิ ทกุ
ขณะจิต ทกุ ลมหายใจ เพียงแคน่ ีก้ ็เป็นการปฏบิ ตั ิกรรมฐานแลว้
หรอื ถา้ ใครไม่ทาํ อยา่ งนนั้ มาน่งั หลบั ตากาํ หนดดอู ารมณจ์ ติ ของ
ตวั เองอยู่ ไมต่ อ้ งนกึ คดิ อะไร อะไรเกิดขนึ้ มารู้ อะไรเกิดขนึ้ มารู้
แคน่ ีก้ ็เป็นการปฏบิ ตั ิกรรมฐาน ทีนีบ้ างทา่ นมานกึ วา่ การทาํ สตริ ู้
การยืน เดิน น่งั นอน รบั ทาน ด่ืม ทาํ พดู คดิ แลว้ มนั เกดิ
อารมณก์ รรมฐานขนึ้ มา แลว้ เป็นการปฏิบตั กิ รรมฐาน มนั จะไม่
ง่ายเกินไปหรอื โถ! ใครวา่ มนั งา่ ย น่งั บรกิ รรมภาวนาหลบั ตาอยู่
ยงั งา่ ยกวา่ ใครท่ีสามารถทาํ สตติ ามรูก้ ารยนื เดนิ น่งั นอน รบั
ทาน ด่ืม ทาํ พดู คดิ ไดท้ กุ ขณะจติ ทกุ ลมหายใจน่ีเป็นดวี เิ ศษ
ท่ีสดุ เก่ียวกบั การปฏิบตั ิ

27

การปฏิบตั ิประเภทนีจ้ ะไม่เลอื กกาล ไมเ่ ลอื กเวลา ไมเ่ ลอื ก
สถานท่ี และไม่เก่ียงวา่ เราไมม่ ีเวลาปฏิบตั ิ เป็นการฝึกทาํ สติ
ตามรู้ รูส้ ่ิงท่เี ป็นอย่ใู นปัจจบุ นั เก่ียวกบั เรอ่ื งกายเร่อื งจติ ของเรา
ยืน เดนิ น่งั นอน รบั ทาน ด่มื ทาํ พดู เป็นเรอ่ื งของกาย คดิ เป็น
เรอ่ื งของจิต กายจะเคล่อื นไหวไปมาอยา่ งไร จติ จะคดิ อะไร มีสติ
รูอ้ ยทู่ กุ อิรยิ าบถ ตวั สตทิ ่ีรูน้ ่นั แหละ ตวั รูน้ ่นั แหละ ตวั ตามรูน้ ่นั
แหละกาํ หนดดใู หด้ ี ตวั รูน้ ่นั แหละตวั พทุ โธ พทุ โธท่ีทา่ นนกึ ในใจ
ท่ีบรกิ รรมภาวนาพทุ โธน่นั มนั เป็นแตเ่ พียงคาํ พดู แตเ่ ม่ือจิตรู้
รูส้ กึ สาํ นกึ ผิดชอบช่วั ดีและตามรูเ้ รอ่ื งของกาย เรอ่ื งของจติ ของ
ตวั เองอยทู่ กุ ขณะจิต ทกุ ลมหายใจ น่นั แหละคอื ตวั พทุ โธอยา่ ง
แทจ้ รงิ

เม่ือเรามีสติรูอ้ ยกู่ บั ตวั ของเราเอง อย่กู บั จติ ของเราเอง เราก็
รูค้ วามจรงิ ของกาย รูค้ วามจรงิ ของจิต และก็รูค้ วามประพฤติ
ของตวั เองวา่ อะไรขาดตกบกพรอ่ ง เราจะไดเ้ พ่ิมเตมิ ใหพ้ อดี
อะไรมนั เกินก็จะไดต้ ดั ทอนลงใหพ้ อดบิ พอดี อยใู่ นลกั ษณะแหง่
ความเป็นกลาง เม่ือเราฝึกจติ กบั อิรยิ าบถดงั ท่ีกลา่ ว สติสมั ปะ

28

ชญั ญะดพี รอ้ ม จิตก็มีสตปิ ระคบั ประคองรูอ้ ยทู่ ่ีจิตอยตู่ ลอดเวลา
เป็นสตวิ นิ โย หนกั เขา้ จติ ก็กลายเป็นตวั ปกติ กลายเป็นศีล มีศลี
มสี ัจจ์ มสี ุตะ มปี ัญญา มจี าคะ (อริยวฑั ฒิ ๕) ซง่ึ มนั จะ
เกิดขนึ้ เองโดยอตั โนมตั ิ ปัญหาอย่ตู รงท่ีวา่ ตอ้ งทาํ จติ ใหม้ ีสง่ิ รู้
ทาํ สตใิ หม้ ีส่งิ ระลกึ เทา่ นนั้ น่นั เป็นหลกั ปฏบิ ตั ธิ รรมโดยตรง

อาตมาไดบ้ รรยายธรรมะเก่ียวกบั การปฏบิ ตั สิ มถวปิ ัสสนา
กรรมฐาน วา่ ถึงธรรมะสงิ่ ละอนั พนั ละนอ้ ยพอเป็นเครอ่ื งประดบั
สตปิ ัญญาของทา่ นผฟู้ ัง ก็เหน็ วา่ พอสมควรแกก่ าลเวลา ใน
ทา้ ยท่ีสดุ นีค้ ณะทา่ นเจา้ ภาพบาํ เพ็ญกองการกศุ ลเพ่ืออทุ ศิ เป็น
ดอกไมบ้ ชู าพระคณุ ของพระอาจารยเ์ ฟ่ื องผถู้ งึ แกม่ รณภาพไป
แลว้ โดยวสิ ยั ของจติ ผกู้ ตญั �กู ตเวที ดว้ ยอาํ นาจแหง่ กศุ ลเจตนา
อนั ดีนีจ้ งชว่ ยดลบนั ดาลใหท้ ่านทงั้ หลายทกุ ทา่ นจงประสบ
ความสาํ เรจ็ ในการปฏิบตั ธิ รรมในท่ีทกุ สถาน ตลอดกาลทกุ เม่ือ
โดยระยะเทศนามา เอวงั กม็ ีดว้ ยประการะฉะนี้

ท่ีมา: https://youtu.be/LcaCIW3ZFHc

29


Click to View FlipBook Version