ฝึ กดจู ติ
หลวงพอ่ ชา สภุ ทั โท
ตอ่ ไปนีเ้ ป็นเวลาท่พี วกพทุ ธบรษิ ัท ทงั้ คฤหสั ถแ์ ละบรรพชติ
ทงั้ หลาย จะไดต้ งั้ ใจรบั โอวาทขององคส์ มเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธ
เจา้ ของเราโดยความเคารพ และวนั นีไ้ ดป้ รารภซง่ึ ศรทั ธาอนั มา
จากกรุงเทพ พระนคร ซง่ึ มคี ณุ อาคม ซง่ึ เป็นประธานนาํ คณะมา
มากพอสมควรเพ่ือจะมาทอดผา้ ป่า ณ วดั หนองป่าพงในวนั นี้
เม่ือทาํ กิจอนั ใดเสรจ็ แลว้ เป็นโอกาสท่วี า่ ตอ่ ไปเพ่ือจะไดฟ้ ังธรรม
ขององคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ซง่ึ เป็นเนือ้ หาอนั สาระแก่
พวกพทุ ธบรษิ ัททงั้ หลาย
ตอ่ ไปการฟังธรรมในครงั้ พทุ ธกาลนนั้ ก็คงจะไม่มีพธิ ีรตี อง
อะไรมากมาย นอกจากผทู้ ่ีแสดงธรรมกบั ผทู้ ่ีรบั ฟังธรรม สอง
อยา่ ง ติดตอ่ กนั เม่ือคนผจู้ ะตงั้ ใจฟังธรรม และผใู้ หธ้ รรมะ ก็มี
กาํ ลงั ใจท่ีจะใหธ้ รรมะ เปรยี บประหนง่ึ วา่ เราจะใหว้ ตั ถอุ นั ใด
ของอนั ใดอนั หนง่ึ แกบ่ คุ คลใดคนหนง่ึ เป็นตน้ ในความพอใจมี
เจตนาอนั ดี เม่ือผทู้ ่ีรบั ก็พอใจท่ีจะรบั ทงั้ สองฝ่ายก็เรยี กวา่ มี
1
อดุ มคติกลมกลืนซง่ึ กนั และกนั เหมาะสมกบั การฟังธรรมะ หรอื
เหมาะสมกบั การท่ีจะใหข้ องหรอื รบั ของเชน่ นนั้ เหมือนกนั
ฉะนนั้ อาตมาจงึ ไดเ้ ตอื นใจวา่ วนั นีเ้ ป็นวนั ท่ีสาํ คญั อย่าพา
กนั ทาํ ใจใหร้ อ้ น บางคนก็จะกระสบั กระสา่ ยในใจวา่ วนั นมี้ ี
อปุ สรรคมาก การมาสรา้ งบญุ สรา้ งกศุ ลวนั นีน้ า่ จะไม่มีอปุ สรรค
แตว่ า่ เกิดมีอปุ สรรคขนึ้ บางทา่ นอาจจะสงสยั วา่ มนั เป็นอะไรตอ่
อะไรกนั เน่ีย อนั นีข้ อใหเ้ หน็ วา่ เร่อื งอปุ สรรคนนั้ น่นั แหละ เม่ือมี
อปุ สรรคทกุ ครงั้ เราจะมีความอดทนทกุ ครงั้ เม่ือมีอปุ สรรคทกุ
ครงั้ เราทงั้ หลายจะมปี ัญญาทกุ ครงั้ พระผมู้ ีพระภาคทา่ นตรสั
วา่ เม่ือเราทาํ ประโยชน์ มนั จะยาก มนั จะลาํ บากเทา่ ไร เราก็ไม่
กลวั มนั เพราะวา่ เราสรา้ งประโยชนท์ ่ีดี เราทาํ ประโยชนท์ ่ีดี ท่ี
เป็นประโยชนแ์ กต่ นและบคุ คลท่ีท่วั ไป มีเจตนามงุ่ หมายเชน่ นี้
แลว้ ถงึ ไดม้ ีความยาก มีความลาํ บาก มนั ก็ยงั มีสว่ นดีอยู่ เพราะ
เรามีเจตนาอนั ดี มงุ่ การกระทาํ ท่ีดที ่งี ามท่ีถกู ตอ้ งเช่นนี้ ไมว่ า่
ทกุ ขท์ างกาย ใจมนั ก็ยงั เป็นสขุ เป็นเชน่ นนั้ ดีกวา่ บคุ คลท่ีทาํ ส่ิง
ท่ีไมเ่ ป็นประโยชน์ ลาํ บากมาก แตใ่ จก็ยงั เป็นทกุ ข์ นอกจากกาย
2
เป็นทกุ ขแ์ ลว้ ใจก็ยงั เป็นทกุ ขอ์ ีกตอ่ ไป ถา้ เราสรา้ งประโยชนท์ ่ีดี
ประโยชนต์ น ประโยชนค์ นอ่นื ท่วั ไปโดยเจตนาอนั ดี ถึงแมม้ นั จะ
ทกุ ขก์ าย หมดอนั ตรายไปแลว้ ใจเราก็ยงั มคี วามสขุ ก็เป็นฉนั นนั้
เหมือนกนั
ไมใ่ ช่วา่ เป็นแตต่ วั พวกเราทงั้ หลายนี้ ถงึ แมพ้ ระพทุ ธเจา้ ทา่ น
ก็ฝ่าฟันอปุ สรรคอนั นีม้ าตลอดกาล ตลอดเวลา ถา้ ไมม่ ีอปุ สรรค
นะ ไม่มีอปุ สรรค ก็ไมม่ ีกาํ ลงั ใจ ก็ไม่ไดป้ ฏบิ ตั ิธรรม เม่ือมนั ทกุ ข์
ตรงไหน ก็พยายามพิจารณาตรงนนั้ ฉะนนั้ ทกุ ขน์ ีพ้ ระพทุ ธเจา้
ทา่ นสรรเสรญิ เหลือเกิน แตค่ นผทู้ ่ีไมม่ ีปัญญา ไมส่ รรเสรญิ เลย
ทกุ ขเ์ นยี้ พระพทุ ธเจา้ ท่านจงึ ตรสั วา่ ทกุ ขสจั ทกุ นีเ้ ป็นสจั ธรรม
ถา้ เม่ือเกิดทกุ ขเ์ ม่ือใด พระพทุ ธเจา้ ของเราสบายเม่ือนนั้ มี
ปัญญาเม่ือนนั้ เชน่ กบั รบกบั พญามาร น่ีเป็นอปุ สรรค ขดั ขวาง
ไว้ ทา่ นชนะทกุ ที ทาํ ไมท่านชนะทกุ ที ก็ท่านไดป้ ฏิบตั ิทกุ ที ท่าน
ก็มีปัญญา ไดช้ นะทกุ ที อนั นีก้ ็ฉนั นนั้ เหมอื นกนั วนั นีเ้ รยี กวา่ เรา
ไปพบกนั เสยี ซง่ึ วา่ อรยิ สจั คือทกุ ขสจั คือของจรงิ เชน่ นี้ ใหพ้ วก
เราควรพากนั นกึ ถงึ คณุ พระพทุ ธเจา้ เหน็ วา่ พระพทุ ธเจา้ เนีย้
3
ทา่ นพบทกุ ขสัจ คอื ของจรงิ เชน่ นีใ้ หพ้ วกเราพากนั นกึ ถงึ
พระพทุ ธเจา้ เห็นวา่ พระพทุ ธเจา้ เนีย้ ทา่ นพบทกุ ขสจั ทา่ น
พจิ ารณาในทกุ ขอ์ นั นนั้ ท่านจงึ มีความอดทน ชนะมารทงั้ หลาย
ทงั้ ปวง เพราะการประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ
เพราะฉะนนั้ ขอพทุ ธบรษิ ทั วนั นี้ จงมีความเขา้ ใจในการ
กระทาํ ของเราทกุ ๆคน แตอ่ าตมาก็เห็นความลาํ บากลาํ บนของ
ญาติโยมทงั้ หลายซง่ึ เดินมาจากทางไกลเป็นอนั มากเหมือนกนั
แตว่ า่ ก็มีการดใี จสว่ นหนง่ึ ท่ีมากท่ีสดุ เหมือนกนั มีความอตุ สา่ ห์
พยายามมา ตงั้ แตโ่ นน้ มาถงึ น่ี เป็นระยะทางหลายรอ้ ยกโิ ล อนั นี้
เรยี กวา่ มาดว้ ยศรทั ธากนั จรงิ ๆ ไม่ใช่มาหนเดียวซะดว้ ย มาบอ่ ย
ซะดว้ ยนะ อนั นีเ้ หน็ วา่ ญาติโยมมาดว้ ยศรทั ธาท่ีประกอบดว้ ย
ปัญญาจรงิ ๆ มีชวนกนั มา พรอ้ มใจกนั มาน่ี เหน็ ประโยชน์
เพราะวา่ เหน็ ประโยชนใ์ นอรยิ ทรพั ย์ ทรพั ยท์ ่ีญาติโยมท่ที าํ ไปนี้
เรยี กวา่ มาแสวงใหม่ หาอรยิ ทรพั ย์ อรยิ ทรพั ย์ ทรพั ยอ์ นั นนั้ เป็น
ทรพั ยภ์ ายใน ไมใ่ ชท่ รพั ยภ์ ายนอก แตเ่ ดิมมนั ก็เป็นทรพั ย์
ภายนอก เปล่ยี นมาเป็นทรพั ยภ์ ายใน
4
วนั นีญ้ าตโิ ยมทงั้ หลาย เอาทรพั ยภ์ ายนอก มาเปล่ียนใหเ้ ป็น
ทรพั ยภ์ ายใน อนั นีม้ นั จะพน้ จากอทุ กภยั อบุ ตั ิภยั โจรภยั ตาม
ไปไม่ได้ เอาไมไ่ ดแ้ ลว้ เพราะวา่ มนั เป็นอรยิ ทรพั ย์ ทรพั ยอ์ นั นี้
เอาออกจากขา้ ศกึ แลว้ นา้ํ ทว่ ม ลมพดั ไฟไหม้ อนั ตรายตา่ งๆ
อนั ตรายทงั้ หลายเหลา่ นีเ้ ขา้ ไม่ถงึ แลว้ เพราะวา่ เขา้ ถงึ จดุ มนั คือ
ท่ีความสบายใจ หรอื ความดใี จท่ีฝังไวใ้ นวิญญาณอนั นี้ ดงั นนั้
พระพทุ ธเจา้ ของเราทา่ นจงึ เรยี กวา่ บญุ มนั ไม่อย่ภู ายนอก จบั
เอามาขา้ งในซะ ทา่ นจงึ จดั เป็นอรยิ ทรพั ย์ ทรพั ยภ์ ายใน นา้ํ ทว่ ม
ไมไ่ ด้ ไฟไม่ได้ โจรลกั ไปไมไ่ ด้ สว่ นนีโ้ ยมจะสบาย สว่ นท่ีบรจิ าค
ไปวนั เนีย้ เก็บไปท่ีมนั ดๆี แลว้ พน้ อนั ตรายแลว้ สบายใจ อนั นี้
เรยี กวา่ ไอค้ วามสบายใจน่นั นะ่ มนั ไมม่ ีโทษอะไร ฉะนนั้ การ
บรจิ าคนีท้ า่ นวา่ ปราบกิเลสสว่ นหนง่ึ ซง่ึ ท่วี า่ ตวั โลภะ ซง่ึ มนั ทาํ
ใจเราใหม้ วั หมอง เม่ือจติ มวั หมองแลว้ ทาํ ไปไดท้ กุ ประการฉนั
นนั้ การกระทาํ อนั นีข้ องญาตโิ ยมทงั้ หลายเป็นไปในทาํ นองอนั นี้
แตอ่ ย่างไรก็ตาม ธรรมะขององคส์ มเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธ
เจา้ ของเรา ทา่ นสอนวา่ การใหท้ าน การรกั ษาศลี การเจรญิ
5
เมตตาภาวนานนั้ รวมเขา้ ไปหาจดุ อนั เดยี ว จดุ อนั เดียวคืออนั
ใด…จดุ อนั เดียวอยทู่ ่ีไหน…จดุ อนั เดยี วเพ่ือจะใหถ้ งึ ความสงบ
หาความสงบ จากสงิ่ ทงั้ หลายทงั้ ปวง เรยี กวา่ หาความสงบ จดุ นี้
คือความสงบ เม่ือไดค้ วามสงบแลว้ ก็เรยี กวา่ มนั จบ กอ่ นจะสงบ
นนั้ น่ะ เราจะรูเ้ รอ่ื งวา่ เราจะทาํ อยา่ งไร ใจเราจงึ จะสงบ อยา่ งนี้
เป็นตน้ เม่ือจติ เราไมส่ งบ เราจะอยา่ งไร มนั ถึงจะสงบ ถา้ เม่ือจติ
สงบแลว้ ก็ถงึ จดุ ของผมู้ ีพระภาคของเรานนั้ นะ่ ท่ีทา่ นตอ้ งการ
ท่ีสดุ แกพ่ ทุ ธบรษิ ัททงั้ หลายนนั้
เร่อื งท่ีจติ ของเราท่ีไม่สงบนนั้ เพราะวา่ จติ ของเรานนั้ นะ่ ไม่
ถึงธรรมะอนั แทจ้ รงิ ไมถ่ งึ จดุ ธรรมะอนั แทจ้ รงิ จติ เรายงั โงอ่ ยู่ จติ
เรายงั ไม่ฉลาด ไม่มีปัญญา รูเ้ ท่าตามความเป็นจรงิ ใน
สภาวะธรรมทงั้ หลาย สภาวะธรรมทงั้ หลายนนั้ ท่ีเรยี กวา่ ปฏิบตั ิ
ธรรมะ อะไรมนั เป็นธรรมะ…ทกุ อยา่ ง สงิ่ ท่ีไม่เป็นธรรมะ ไมม่ ี
คือของทกุ สิ่งทกุ อยา่ งนนั้ แหละ ทา่ นเรยี กวา่ เป็นธรรมะ จะเป็น
รูปท่ีเรามองเหน็ ดว้ ยตาก็ตาม จะเป็นนาม สิง่ ท่ีเรามองเหน็ ดว้ ย
ตาไมไ่ ดก้ ็ตาม เป็นธรรมะกนั ทงั้ หมดเลยทีเดยี ว น่ีเรยี กวา่ ธรรมะ
6
เรยี กวา่ สภาวะ สภาวะคือความมนั เป็นอยอู่ ย่างนนั้ มนั เป็นเอง
ของมนั อยอู่ ยา่ งนนั้ แมพ้ ระพทุ ธเจา้ จะบงั เกิดขนึ้ ก็ตาม ไม่
บงั เกิดขนึ้ ก็ตาม สภาวะธรรมก็เป็นอยอู่ ยา่ งนนั้ เอง ไม่แปรเป็น
อยา่ งอ่นื
ทีนีค้ วามไมส่ งบของเราทงั้ หลายนนั้ คอื ยงั ไมไ่ ดป้ ระพฤติ
ธรรมและปฏิบตั ิธรรม เช่นองคส์ มเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ของ
เราตรสั วา่ ใหเ้ ห็นใหถ้ กู ตอ้ ง เรยี กวา่ สัมมาทฐิ ิ สัมมาสังกปั โป
สัมมากัมมนั โต สัมมาวาจา สัมมาวายาโม สัมมาสติ
สัมมาสมาธิ ส่ิงทงั้ หลายเหลา่ นีแ้ หละ แปดประการนี้ ไม่ใชม่ ี
แปด มนั องคข์ องมรรคมีแปดอยา่ ง มรรคมีองคแ์ ปด เป็นองค์
ของมนั มรรคมีอนั เดียว คือเอกายมรรค เป็นมรรคอนั เดียว
และก็เป็นของบคุ คลท่ีจะสญั จรไปคนเดียว ไปคนเดยี ว ไปแตผ่ ู้
เดียว แตม่ ีองค๘์ ประการ เม่ือเรามาเหน็ ชอบ ดาํ รมิ นั ก็ชอบ
วาจามนั ก็ชอบ การงานก็ชอบ เลยี้ งชีวติ มนั ก็ชอบ ตงั้ สตกิ ็ชอบ
ตงั้ ใจก็ชอบ พยายามก็ชอบ มนั ชอบท่ีตรงไหน มนั ชอบอย่ทู ่ีใจ
ของเราน่ีแหละ มนั ชอบ มนั จะไปตรงไหนก็ชา่ งมนั มนั ออกจาก
7
จติ ดวงนี้ เหน็ ชอบออกจากจิต ดาํ รชิ อบกอ็ อกจากจิต เม่ือจิตมา
ตงั้ ไวช้ อบแลว้ มนั ก็จะชอบกนั ไปหมดน่นั แหละ ไมม่ ีอะไรจะไม่
ชอบ
มรรคทงั้ หลายเหลา่ น่ีมนั สามคั คกี นั ขนึ้ ท่ีจติ ใจของเรา เป็น
อนั เดียว คอื ความสงบ จดุ นีเ้ ป็นทางท่ีองคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั
พทุ ธเจา้ ของเราทา่ นตรสั วา่ ใหเ้ ดินมรรค อนั นีเ้ ป็นสมั มามรรค
อนั นีเ้ ม่ือเราคดิ แลว้ จิตใจสงบ เช่นวา่ เราถกู อารมณอ์ นั ใดเกิด
ขนึ้ มา ถา้ เราเป็นสัมมาทฐิ ิ มีความเหน็ ชอบแลว้ ทกุ อย่างมนั
ชอบทงั้ นนั้ ไมม่ ีผดิ เพราะธรรมท่านสอนใหก้ ารปลอ่ ยวาง ไมม่ ี
อะไร เม่ือมีความสขุ เกิดขนึ้ มา ไอค้ วามสขุ อนั นที้ ่านก็สอนวา่ สกั
วา่ เป็นสขุ ทกุ ขเ์ กิดขนึ้ มา พระพทุ ธเจา้ ก็สอนวา่ อนั นีก้ ็สกั วา่ แต่
ทกุ ข์ ไม่มีใครสขุ ไม่มีใครทกุ ข์ เป็นแตค่ วามรูส้ กึ เกิดขนึ้ มาเฉยๆ
ทา่ นจงึ วา่ สกั วา่ แตส่ ขุ สกั วา่ แตท่ กุ ข์
ไอค้ วามสขุ ทกุ ขอ์ นั นี้ มนั กเ็ กดิ ขนึ้ มามี แตว่ า่ เม่ือเรา
ทงั้ หลายมาประพฤตปิ ฏบิ ตั ิธรรมแลว้ อาการของสขุ นีม้ นั ก็เกิด
ขนึ้ มา แตห่ ากวา่ หาเจา้ ของสขุ น่นั ไม่มี ไมม่ ีใครเป็นเจา้ ของ บาง
8
ทีทกุ ขม์ นั ก็เกดิ ขนึ้ มา มีอยู่ แตว่ า่ ทกุ ขน์ นั้ ไมม่ ีใครเป็นเจา้ ของ
ของทกุ ข์ เรยี กวา่ สขุ หรอื ทกุ ขน์ นั้ มนั เป็นมาตามเร่อื งของมนั
เกิดมาตามกิรยิ าของมนั มนั ก็เป็นอย่อู ยา่ งนนั้ ทา่ นจงึ บอกวา่ ถา้
มีความสขุ แลว้ ก็ใหร้ ูต้ ามความเป็นจรงิ เสียวา่ สขุ นีก้ ็สกั แตว่ า่ สขุ
ไมใ่ ชส่ ตั วบ์ คุ คลตวั ตนเราเขา ถา้ ทกุ ขเ์ กิดขนึ้ มาแลว้ ท่านก็ให้
รบั รูพ้ ิจารณามนั วา่ ทกุ ขน์ ีก้ ส็ กั วา่ แตท่ กุ ข์ ไม่ใช่สตั วบ์ คุ คลตวั ตน
เราเขา แนะ่ ถา้ เราคิดเช่นนีเ้ รยี กวา่ เป็นสมั มาทฐิ ิ เราก็ไม่ไดไ้ ป
เป็นเจา้ ของสขุ นนั้ เราก็ไมไ่ ดเ้ ป็นเจา้ ของทกุ ขอ์ นั นนั้ สขุ ทกุ ขอ์ นั
นนั้ เป็นของท่ีไมม่ ีเจา้ ของ นะ ไม่มีเจา้ ของ
ถา้ ใครเขา้ ไปยดึ ม่นั ถือม่นั มนั ก็ไปเป็นเจา้ ของสิง่ ทงั้ หลาย
เหลา่ นนั้ เม่ือไปเป็นเจา้ ของสิง่ ทงั้ หลายเหลา่ นนั้ ของทงั้ หลาย
เหลา่ นนั้ มนั ก็ไมเ่ ท่ียง เป็นทกุ ข์ มนั ไหลไปเรอ่ื ยๆไป บางทีมนั ก็
หายไป บางทีมนั ก็ไดม้ า เราก็ดีอกและก็เสยี ใจตามวตั ถทุ งั้ หลาย
เหลา่ นนั้ เพ่ือวา่ อนั นีเ้ กิดความยงุ่ ขนึ้ มา เพราะวา่ ตวั มิจฉาทิฐิมนั
เขา้ มาแทรก มนั เขา้ มาแทรก ใหม้ ีความเหน็ ผิดเช่นนนั้ เหน็ ผดิ
อะไร เราเขา้ ไปเป็นเจา้ ของของสขุ เราเขา้ ไปเป็นเจา้ ของของ
9
ทกุ ข์ เขา้ ไปแบกสขุ อนั นนั้ ไปแบกทกุ ขอ์ นั นนั้ อยู่ มนั กห็ นกั อนั นี้
มนั เป็นมิจฉาทิฐิในทาํ นองอยา่ งนี้
ถา้ เป็นสมั มาทฐิ ิแลว้ เวทนาน่ีก็สกั วา่ เวทนา ทา่ นสอนอยา่ ง
นี้ เวทนาน่นั คือความเสวยสขุ หรอื ทกุ ข์ สองประการนนั้ แหละ ถา้
มนั เกิดขนึ้ มา เวทนาน่ี สุขเวทนาน่ีก็สกั วา่ แตส่ ขุ เวทนา ทกุ ขท์ ่ี
เกิดขนึ้ มาน่ีก็สกั วา่ แตท่ กุ ขเวทนาเทา่ นนั้ เกิดแลว้ มนั ก็ดบั ไป
เจา้ ของสขุ นนั้ ไมม่ ี เจา้ ของทกุ ขน์ นั้ มนั ก็ไมม่ ี พระพทุ ธเจา้ ทา่ นให้
พจิ ารณาอยา่ งนี้ เม่ือเราพจิ ารณาเขา้ ไปเชน่ นีบ้ อ่ ยๆ เอหปิ ัสสิโก
เรยี กจิตเขา้ มาดวู า่ ดซู วิ า่ อนั นีค้ อื อะไร อนั นีม้ นั คืออะไร สขุ นีม้ นั
คอื อะไร ทกุ ขน์ ีม้ นั คอื อะไร มนั เป็นของแนน่ อนมยั้ มนั เท่ยี งมยั้
หรอื มนั เป็นยงั ไง พจิ ารณาตามมนั เราพอมองเหน็ ท่ีวา่ สภาวะท่ี
เราเป็นอยนู่ นั้ น่ะ เราเคยสขุ มามยั้ …เคยมา แลว้ มนั หายไป
มีมยั้ …หายไปมนั ก็มี ทกุ ขเ์ คยมีมยั้ …เคยมีทกุ ขม์ าทกุ คน
เรยี กวา่ มนั ทกุ ขไ์ ปตลอดมยั้ …บางทีมนั กห็ ายไป น่ี เราจะไปเอา
เร่อื งราวอะไรกบั สิง่ ทงั้ หลายเหลา่ นี้ น่ีแหละเป็นอารมณอ์ ย่างนี้
น่ีพระพทุ ธเจา้ ท่านสอนอยา่ งนี้
10
เม่ือเรารูส้ ่งิ ทงั้ สองประการนี้ จติ เราก็สงบ สงบ…ทาํ ไมถงึ
สงบ…เพราะเราไมไ่ ดเ้ ป็นเจา้ ของอะไรทงั้ นนั้ แตว่ า่ เราใชส้ ง่ิ
ทงั้ หลายเหลา่ นีไ้ ดต้ ามสบาย ถว้ ยโถโอชามท่ีมีในบา้ นในชอ่ ง
ของเรา โตะ๊ เกา้ อี้ อะไรท่ีมนั มีอยนู่ นั้ ก็ไมใ่ ช่ของเรา เราใชไ้ ปเพ่ือ
ไมใ่ ช่ของเรา ไม่ใช่ของเรา แตเ่ ราใชอ้ นั นนั้ ตามสบายใจโดยท่ีไม่
ตอ้ งทกุ ข์ ใชโ้ ดยผมู้ ีปัญญารอบคอบ ใหอ้ ยเู่ หนือสง่ิ ทงั้ หลาย
เหลา่ นนั้ ใหร้ ูเ้ หนือสง่ิ ทงั้ หลายเหลา่ นนั้ ถา้ ไมอ่ ยเู่ หนือสงิ่
ทงั้ หลายเหลา่ นนั้ เราก็แบกมนั โดยอปุ าทานวา่ อนั นีข้ องเรา อนั
นีเ้ ราเรอ่ื ยไป อนั นีท้ า่ นวา่ เป็นมิจฉาทฐิ ิ ไอค้ วามเห็นท่ีเกิดขนึ้ มา
เพราะใหเ้ ราเป็นทกุ ข์ ทกุ ขเ์ พราะอะไร ผดิ หวงั อนั นนั้ เธอจงเป็น
อย่างนี้ อนั นี้ แกจงเป็นอย่างนี้ ไมไ่ ดต้ ามปรารถนาตวั เรา
ฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นสอน พทุ ธบรษิ ัทเราทงั้ หลายเพ่ือให้
พน้ จากวฏั สงสารทกุ ๆคน แตว่ า่ เรา สตั วผ์ ทู้ ่ีมีกิเลสหนา ปัญญา
หยาบนนั้ ก็คดิ ไปอย่างหนง่ึ ท่ฟี ังธรรมะแลว้ อะไรก็ไมใ่ ชข่ องตน
อะไรก็ไมใ่ ชข่ องตนทงั้ นนั้ กลวั จะไมไ่ ด้ ก็ไมส่ บายใจ ไอค้ วาม
เป็นจรงิ น่นั ท่เี รยี กวา่ ของตน ตนนะ่ หรอื เรยี กวา่ ของตนนนั้
11
เป็นได้ แตม่ นั เป็นของสมมตุ ิ แตว่ า่ มนั ไม่เป็นวมิ ตุ ติ เราตอ้ ง
เรยี นรูม้ นั ซะทกุ อย่างน่นั นะ่ มนั เป็นของสมมตุ ิ
เช่นตวั ของเราเนีย้ ช่ือเราเน่ีย ไมม่ ีช่ือมาแตเ่ ม่ือวนั เราเกิดนะ
เกิดมาแลว้ มาตงั้ ช่ือใหม่ ช่ือเก่านนั้ ไมม่ ี เพราะมนั ไมม่ ี ทาํ ไมมนั
ถงึ ไม่มี มนั วา่ งอยตู่ รงนนั้ แหละ ตรงท่ีไหนมนั วา่ ง ก็เอาอะไรไป
วางตรงนนั้ ก็ได้ เอาไปวางท่ีมนั วา่ งๆ เพราะสตั วเ์ กิดมามนั วา่ ง
ไมม่ ีช่ือ มาตงั้ ช่ือใหม้ นั เสยี ช่ือใหมเ่ น่ยี เอาไปใสใ่ หม่ท่ีสมมตุ ิ
ขนึ้ มา เป็นนาย ก นาย ข นาย ค นาย ง น่ชี ่ือใหม่ สมมตุ ิท่ีตรง
นนั้ ทาํ ไมจงึ สมมตุ มิ นั เพราะตรงนนั้ มนั ไมม่ ีอะไร ไม่มีอะไร จงึ
สมมตุ ิวา่ ใหม้ นั เป็นนาย ก นาย ข เสยี นาย ก นาย ข นนั้ จงึ ถกู
สมมตุ ิขนึ้ มา ไมใ่ ชน่ าย ก จรงิ นาย ข จรงิ เป็นนาย ก สมมตุ ิ
นาย ข สมมตุ ิ มนั ไม่ใชว่ ิมตุ ติ
ถา้ ไปถามถงึ แลว้ จรงิ ๆน่ีมนั จะไมม่ ีอะไร เป็นสภาวะธรรม
เท่านนั้ เกิดแลว้ มนั ก็ดบั ไป ดบั ไปแลว้ เกิดขนึ้ มา เกิดขนึ้ มาแลว้ ก็
ดบั ไป เกิดๆดบั ๆอยเู่ ชน่ นนั้ สภาวะทงั้ หลายเหลา่ นี้ เม่ือเรา
นาํ เอาอนั นีไ้ ปพจิ ารณา จะไดเ้ หน็ ตามความเป็นจรงิ ของ
12
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นสอนจรงิ ๆ ท่านสอนจรงิ ๆ ฉะนนั้ เราจงึ เอาเรอ่ื ง
อนั นีไ้ ปประพฤตปิ ฏิบตั ิ เม่ือเราเหน็ ตามความเป็นจรงิ มนั เช่นนนั้
แลว้ นะ ไมใ่ ช่วา่ เราจะทกุ ข์ ไมใ่ ช่วา่ เราจะจนลงไป เหน็ วา่ อนั นี้
ไมใ่ ช่เรา อนั นไี้ ม่ใช่ของเราเชน่ เนีย้ ย่ิงสบายกวา่ เก่า ย่ิงสบาย ใช้
ของนนั้ อย่างสบายๆ บางคนถา้ คิดเชน่ นนั้ แลว้ วา่ ไมอ่ ยากจะทาํ
การงานอะไร ทาํ แลว้ ก็ไม่ใช่ของเรา ไอค้ วามเป็นจรงิ น่นั นะ่ ไอ้
คนท่ีทาํ อะไรกว็ า่ ใช่ของเราน่นั แหละ คนนนั้ เป็นทกุ ขม์ าก มนั
เป็นทกุ ขม์ ากทีเดียวแหละ เม่ือเราทาํ ไปๆๆอยู่ ก็เห็นวา่ อนั นีท้ าํ
ไปเพ่ือการกระทาํ แตว่ า่ ไม่ใช่เรา ไมใ่ ช่ของเรา ทาํ ไปดว้ ย วางไป
ดว้ ย ละไปดว้ ย น่ีตามความเป็นจรงิ ของมนั เชน่ นนั้ อนั นีเ้ ป็น
สมั มาทิฐิ ความเหน็ ชอบ มีอะไรรูส้ ่ิงทงั้ หลายตามเป็นจรงิ ของ
มนั เสยี เชน่ นนั้ อนั นีเ้ รยี กวา่ เป็นของสมมตุ ิ รูจ้ กั สมมตุ ิแลว้ เราก็
สบายใจกนั
เร่อื งสมมตุ ิ คอื สมมตุ ใิ หม้ นั เป็นขนึ้ มา เชน่ องคส์ มเดจ็ พระ
สมั มาสมั พทุ ธเจา้ ของเราทา่ นวา่ ไอท้ ่ีตรงนนั้ น่นั นะ่ มนั วา่ ง ทา่ น
สอนทา่ นโมฆราช ทา่ นสอนวา่ พระโมฆราช ทา่ นจงมองดโู ลกอนั
13
นีใ้ หเ้ ป็นของวา่ ง แนะ่ อยา่ งนีค้ นก็ตกใจนะ มองดโู ลกนใี้ หเ้ ป็น
ของวา่ ง มจั จรุ าชจะตามไมท่ นั จะมองไม่เหน็ ตวั เรา น่ที ่านสอน
พระ มองใหเ้ หน็ เป็นของวา่ ง คาํ ท่ีวา่ เรามองใหเ้ ห็นเป็นของวา่ ง
น่นั เหน็ วา่ มนั จะไมม่ ีอะไร มองดกู ระโถนน่ี มนั กระโถนมนั ก็มีอยู่
มองดถู ว้ ย ดจู านนี้ มนั ก็มีถว้ ยมีจานอยู่ ไมใ่ ช่วา่ มนั ไม่มี แตม่ นั มี
อยใู่ นท่ีวา่ งๆ มนั เป็นของวา่ ง จะถามกระโถนใบนหี้ รอื วา่ แกเป็น
อะไร มนั ก็ไมต่ อบเรา ก็มนั ก็ไม่เป็นอะไร จะเรยี กวา่ มนั เป็น
กระโถนก็ได้ กเ็ ราสมมตุ ิมนั หรอื เราจะเรยี กวา่ วา่ หมอ้ ก็ได้
เพราะเราไปสมมตุ ิมนั ขนึ้ มา ไอต้ วั จรงิ ของมนั นนั้ มนั ไมม่ อี ะไร
เราก็ไปยดึ มนั ยดึ ม่นั ถือม่นั มนั
ยกตวั อยา่ งเชน่ วา่ คนสองกลมุ่ กลมุ่ หนง่ึ เป็นคนฉลาดมาก
กลมุ่ หนง่ึ เป็นคนโง่ ไปซือ้ ของในตลาดมา ไอค้ นกลมุ่ ท่ีโง่ไม่
รูจ้ กั นะ่ ก็ไปซอื้ เอาหมอ้ มตู รมา หมอ้ มตู ร เอามากม็ าตกั ขา้ ว หงุ
ใส่ กินกนั สบายนะ แตก่ ็ไม่รูเ้ รอ่ื ง ไอท้ ่ีคนฉลาดมาเขา้ มาเห็นก็วา่
ทาํ อะไรกนั เน่ยี มนั นา่ รงั เกียจ เน่ีย มหี มอ้ มตู รเน่ีย มนั เอามา
เป็นหมอ้ ขา้ วยงั ไงกนั เน่ีย น่ารงั เกียจ อยา่ งนีเ้ ป็นตน้ น่ีกลมุ่ หนง่ึ
14
เป็นคนโง่ กลมุ่ หนง่ึ เป็นคนฉลาด ทาํ ไมถงึ จะรงั เกียจมนั เลา่
หมอ้ มตู รน่นั กใ็ หมๆ่ ไมไ่ ดไ้ ปทาํ อะไรก็เหมือนหมอ้ ธรรมดาเน่ีย
มนั ก็สะอาดอยแู่ ลว้ ทาํ ไมจะรงั เกียจมนั เสยี ก็เพราะวา่ เราไปยดึ
วา่ มนั เป็นหมอ้ มตู รน่นั เอง ไอค้ วามเป็นจรงิ มนั เป็นหมอ้ สะอาด
ธรรมดาเราน่ีแหละ น่ีเขา้ ไปยดึ ม่นั ถือม่นั มนั เลยเกิดทกุ ขข์ นึ้ เกิด
รงั เกียจขนึ้ มาแลว้ ก็ไปเหน็ คนนนั้ เอ๊ะ ไอน้ ่ีมนั โงน่ ะ อนั นีม้ นั เป็น
หมอ้ มตู รนะเน่ยี เอามาตกั ขา้ วทาํ ไมหละ ไอค้ นสองคน เรยี กวา่
คนไหนฉลาด คนไหนโง่ อนั นีเ้ รยี กวา่ วตั ถุ หมอ้ มตู รมนั ก็ไมร่ ูจ้ กั
มนั หมอ้ ธรรมดามนั ก็ไม่รูจ้ กั มนั เราไปสมมตุ วิ า่ หมอ้ มตู ร ก็เลย
รงั เกียจ เอาไปใสแ่ กงก็รงั เกียจ เอาไปใสข่ า้ วก็ไปรงั เกียจมนั ทกุ
อย่าง นี้ ใครรงั เกียจใคร น่ีเพราะเราเหน็ ผดิ ตดิ สมมตุ ิ ถา้ เป็น
หมอ้ มตู ร ไปเป็นหมอ้ มตู รจรงิ ๆ ไม่ใชอ่ ยา่ งนนั้ นะ่
เม่ือพดู ไปถึงความเป็นจรงิ แลว้ นะ่ มนั เสมอกนั นะ่ วตั ถสุ อง
อย่างนี้ แลว้ แตเ่ ราจะใชม้ นั เถอะ เม่ือมนั สะอาดอยกู่ ็ใชม้ นั ไป
เอาไปทาํ อะไรก็ได้ เร่อื งของมนั เป็นอยา่ งนนั้ ถา้ เรารูค้ วามเป็น
จรงิ มนั แลว้ มนั ก็ไมม่ ีอะไร ไม่ไดไ้ ปเป็นเจา้ ของอะไร มีหมอ้ มตู ร
15
มาก็ใชม้ นั ได้ มีหมอ้ ธรรมดาก็ใชม้ นั ได้ สบาย อนั นเี้ รยี กวา่ รู้ รู้
ตามเป็นจรงิ ของมนั แลว้ เชน่ วา่ กระโถนใบนี้ เราก็เรยี กมนั ขนึ้ วา่
เป็นกระโถน แตค่ วามเป็นจรงิ มนั ไม่รูว้ า่ มนั เป็นอะไร จะเรยี กวา่
มนั วา่ ถว้ ยก็ได้ จะเรยี กมนั วา่ หมอ้ ก็ได้ น่ีเรยี กวา่ สมมตุ ิเอา ความ
สมมตุ เิ ช่นนีน้ ะ่ คนเอามาตดิ สมมตุ ิเช่นนีเ้ อง จงึ เกิดเป็น
มจิ ฉาทฐิ ิแลว้ ก็จงึ เกิดติดสมมตุ ิ สมมตุ ิวา่ ตวั ตน สมมตุ ิวา่ ตน
สมมตุ ิวา่ ของๆตน
อนั นพี้ ระพทุ ธเจา้ ของเราทา่ นวา่ เป็นภาษาโลก สมมตุ ิ
เพ่ือใหร้ ูจ้ กั กนั เทา่ นนั้ เอง อยา่ งคนเกิดมาก็เป็นคนธรรมดากนั น่นั
แหละ แตม่ าสมมตุ วิ า่ เป็นนาย ก นาย ข นาย ค นาย ง ขนึ้ มา
เพ่ืออะไร เพ่ือใหม้ นั ใชใ้ นภาษาน่นั รูจ้ กั กนั จะเรยี กวา่ นาย ก คน
นนั้ มนั ก็มา จะเรยี กวา่ นาย ข คนนนั้ มนั ก็มา เพ่ือใหม้ นั สะดวก
แก่การเรยี ก การใชใ้ นโลกกนั เขาเท่านนั้ เอง เม่ือรวมกลมุ่ เขา้ ไป
แลว้ ก็ไม่มีอะไร เป็นอะไรหมด ทกุ สงิ่ ทกุ อย่างรวมตรงนนั้ ฉะนนั้
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นจงึ วา่ ใหพ้ ดู อย่าง ใจอยา่ ง เคา้ เรยี กวา่ กระโถน
ก็เรยี กกบั เขาได้ เคา้ เรยี กวา่ หมอ้ มตู ร ก็เรยี กวา่ ได้ น่ีจะพดู อยา่ ง
16
ใจอยา่ ง คอื พดู ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ ถึงโลกเขา เสมอกบั โลกเขา ความ
เป็นอย่ใู นโลกอนั นี้ ฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ และสาวกของทา่ น
ทงั้ หลายนนั้ ทา่ นกม็ ีความเป็นอยกู่ บั ประชาชนทงั้ หลาย กบั
อนั ธพาลทงั้ หลาย กบั โจรทงั้ หลาย กบั คนธรรมดาทงั้ หลายเน่ีย
ทา่ นก็ปรบั ตวั เขา้ อยไู่ ด้ เพราะทา่ นรูจ้ กั สมมตุ ิ เพราะทา่ นรูจ้ กั
วมิ ตุ ติ รูจ้ กั ความเป็นจรงิ มนั เช่นนนั้ เม่ือเรารูจ้ กั เชน่ นนั้ ใจเราก็
สบาย สงบ ไมเ่ กิดความยดึ ม่นั ถือม่นั เป็นธรรมดาของมนั เรา
รูจ้ กั วา่ อนั นีเ้ ป็นสมมตุ ิ อนั นีเ้ ป็นวมิ ตุ ติ รูต้ ามเป็นจรงิ แลว้ ตอนนี้
หละ ใจก็ไม่วนุ่ วาย จิตใจมนั ก็วาง
ฉะนนั้ องคส์ มเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ของเราทา่ นจงึ ให้
ปฏิบตั ิธรรมะ ปฏบิ ตั ิธรรมะมนั เป็นยงั ไง ธรรมะคอื ของทกุ สิ่งทกุ
อยา่ งท่ีเรยี กวา่ ธรรมะ สง่ิ ท่ีไม่เป็นธรรมะ ไม่มีในโลกอนั เนีย้ ทกุ
อยา่ งจะมองเห็นดว้ ยตากเ็ ป็นธรรมะ จะไดย้ นิ ดว้ ยหกู ็เป็นธรรมะ
จะไดก้ ล่นิ ดว้ ยจมกู ก็เป็นธรรมะ มนั เป็นธรรมะไปหมด เพราะวา่
ธรรมะแปลวา่ สภาพท่ีทรงตวั มนั อยอู่ ย่างนนั้ มนั เกิดแลว้ มนั ก็ดบั
ไปเชน่ นนั้ มนั ไม่ตอ้ งการอะไรของมนั ทงั้ นนั้ มนั เป็นของมนั อยู่
17
อย่างนนั้ เอง ทกุ ส่งิ ทกุ อยา่ งตอ่ ไปก็นอ้ มเขา้ มาถงึ กายและใจของ
เราน่ีเอง ไมไ่ ดอ้ ย่อู ่นื ไกล ไอค้ วามดที งั้ หลาย ความชอบทงั้ หลาย
การปฏิบตั ิทงั้ หลาย มนั อยทู่ ่ีกายกบั ใจของเรา ไม่ใช่มนั เป็นของ
มาก กายนีอ้ ยา่ งหนง่ึ ใจนีอ้ ย่างหน่งึ เด๋ียวนีส้ ง่ิ สองสง่ิ นีก้ อ็ ย่กู บั
พรอ้ ม ก็เรยี กวา่ เรา มีอยู่ เร่อื งกายเรอ่ื งจติ น่ีมีอย่แู ลว้ ก็คอื ขอ้
ปฏบิ ตั ิกายกบั ใจเราท่ีน่ี รูก้ นั ท่ีน่ี มีของสองอยา่ งเทา่ นีเ้ อง
ถา้ พดู ตามพระสตู รก็พสิ ดารไปหลายอยา่ งหลายประการ
เม่ือสรุปลงแลว้ เหน็ วา่ ธรรม รูปธรรม นามธรรม เป็นรูปธรรม
เป็นนามธรรม ส่ิงท่ีเรามองเห็นดว้ ยตาของเรานเี้ รยี กวา่ รูป อนั นี้
ก็มีอยู่ เราก็เหน็ มนั อย่วู า่ เกิดแลว้ แก่ เจบ็ ตาย ทกุ คนก็เป็นมา
อย่างนนั้ จิตใจของเราน่ีก็เหมือนกนั มนั ก็เกิดมาแลว้ มนั ก็ดบั ไป
กายกบั จติ ทงั้ สองอย่างนี้ เรยี กวา่ รูปกบั นามนีเ้ ป็นของไม่เท่ียง
เป็นของไมแ่ นน่ อน ของไมจ่ รงิ ไมจ่ งั พวกเราทงั้ หลายก็อยอู่ าศยั
ธรรมอนั สองประการนีค้ ือ รูปกบั นาม พระพทุ ธเจา้ ท่านสอนวา่
อย่าไปเอาจรงิ เอาจงั กบั มนั เลย ของท่ีมนั ไมจ่ รงิ ไม่จงั เราจะไป
18
เอาจรงิ เอาจงั กบั มนั เชน่ นนั้ ไม่ได้ มีแลว้ ก็หาไม่ เกิดแลว้ มนั ก็
หายไป มนั เป็นของมนั อย่อู ย่างนนั้
ถา้ หากวา่ มนั ไมจ่ รงิ น่ี ไอค้ วามจรงิ มนั อย่ทู ่ีไหน…ไอค้ วาม
จรงิ ก็คือ มนั เป็นอย่อู ยา่ งนนั้ เอง มนั เป็นของมนั อย่อู ยา่ งนนั้ อนั
นีค้ ือความจรงิ มนั แปรมนั ปรวนเป็นอย่อู ยา่ งนนั้ นะ่ ฉะนนั้ องค์
สมเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ของเราทา่ นเรยี กวา่ อนั นนั้ นะ่ เป็น
ธรรมะท่ีมีอย่ใู นกายในใจเราทกุ วนั นี้ เม่ือเราสรา้ งคณุ งามความ
ดที งั้ หลาย ทงั้ ปวงนนั้ ก็เพ่ือใหเ้ รามงุ่ เขา้ ไปเหน็ ธรรมอนั นตี้ าม
ความเป็นจรงิ เหน็ เป็นจรงิ เห็นยงั ไง เหน็ วา่ อนั นีม้ นั ไม่เท่ียง เหน็
วา่ อนั นีม้ นั เป็นทกุ ข์ เหน็ วา่ อนั นีม้ นั เป็นอนตั ตา คอื ไมใ่ ชต่ วั ไม่ใช่
ตน มนั ถงึ เป็นของมนั อยา่ งนนั้ ถา้ เราไมร่ ูเ้ รอ่ื งอนิจจงั เราก็ไปยดึ
ม่นั หมายม่นั มนั มนั ก็เปลย่ี นไป เราก็ทกุ ข์ มนั เกิดขนึ้ ตรงนี้
มิฉะนนั้ ทา่ นจงึ สอนวา่ โอปนยโิ ก ใหน้ อ้ มเขา้ มา อยา่ นอ้ ม
ออกไป นอ้ มธรรมเขา้ มาหาใจเรา นอ้ มใจเขา้ ไปหาธรรม ดธู รรม
ทงั้ หลายอย่ทู ่ีจติ ใจของเจา้ ของ เหน็ จิตใจก็เหน็ ธรรมะ เหน็
ธรรมะก็เหน็ จติ ใจ ส่งิ สองสงิ่ นีม้ นั รวมกนั อย่เู ทา่ นนั้ เอง เราหลง
19
ส่ิงสองสิง่ นีเ้ ทา่ นนั้ เองซง่ึ มีอยใู่ นตวั ของเรานี้ ไอท้ ่ีความไม่สงบ
นนั้ ก็เรยี กวา่ มนั เป็นเฉพาะความรูส้ กึ นกึ คดิ เทา่ นนั้ เอง ไมใ่ ช่มี
อะไร ไมใ่ ช่เป็นตวั เป็นตนอะไร เกิดแลว้ มนั ก็หายไปเชน่ นนั้
ฉะนนั้ องคส์ มเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ของเราใหส้ รา้ ง
ประโยชน์ ใหเ้ ราพากนั สรา้ งประโยชนป์ ัจจบุ นั อนั นี้ อยา่ ไปรอไว้
วา่ พรุง่ นี้ หรอื มะรนื นี้
อดตี ปัจจบุ นั อนาคต มนั รวมอย่ทู ่ีปัจจบุ นั ปัจจบุ นั ท่ีเราอยู่
กนั นีก้ ็คอื ผลของอดีต อดีตก็คือส่งิ นนั้ มนั เป็นเหตขุ องปัจจบุ นั
เม่ือถึงปัจจบุ นั นี้ ปัจจบุ นั นีเ้ ป็นผล เม่ือปัจจบุ นั เป็นผลนี้ ปัจจบุ นั
เป็นเหตุ อนาคตเป็นผล ทางพทุ ธศาสนาเคา้ เรยี กวา่ อนั นีแ้ หละ
เป็นวบิ าก เกิดจากการกระทาํ ดี กระทาํ ช่วั เกิดการกระทาํ ดี
กระทาํ ช่วั เรยี กวา่ วบิ าก ฉะนนั้ วบิ ากทงั้ หลาย อดตี ก็ดี อนาคตก็
มารวมอยทู่ ่ีปัจจบุ นั เราน่งั อยเู่ น่ีย ทาํ เสียเม่ือเรามีอยู่ มชี ีวติ อยู่
ในปัจจบุ นั นี้ รบี ทาํ ทา่ นก็วา่ อยา่ ไปหว่ งอนาคตเลย อยา่ ไปหว่ ง
อดีตเลย ทาํ ไมท่านถงึ พดู อยา่ งนนั้ เพราะวา่ ท่ีเราอยอู่ ยา่ งนี้
เพราะมนั เป็นผลของอดตี อย่แู ลว้ ท่ีเราอยเู่ ด๋ียวนมี้ นั ก็เป็นเหตุ
20
ของอนาคตอยแู่ ลว้ เม่ือเราอย่ใู นปัจจบุ นั นี้ มนั ก็เรยี กวา่ ไออ้ ดตี
อนาคต มารวมท่ีจดุ อนั เดยี วคือปัจจบุ นั
ฉะนนั้ มาทาํ ปัจจบุ นั นีใ้ หม้ นั เป็นปัจจบุ นั อนั นี้ ปฏิบตั ิเหน็
ธรรมในปัจจบุ นั วา่ วนั นีเ้ ราทาํ อะไร วา่ เด๋ียวนีเ้ ราคดิ อะไร เน่ีย
จติ ของเราวนั นีท้ กุ ขม์ ยั้ สขุ มยั้ เป็นอะไรมยั้ ก็เหน็ ในปัจจบุ นั นี้
ไมต่ อ้ งตามไปถึงอดีตแลว้ ไม่ตอ้ งตามไปถึงอนาคตแลว้ เพราะ
เหตมุ นั ก็อย่ตู รงนี้ ผลมนั ก็อยตู่ รงนี้ ฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ ของเรา
ท่านจงึ สอน เม่ือตรสั รูธ้ รรมใหมๆ่ แลว้ ทา่ นก็มาเทศนเ์ ป็นปฐม
โพธิกาล ท่านเทศนเ์ ร่อื งกามสุขลั ลกิ านุโยโค อตั ตกลิ มถานุ
โยโค สองประการอนั นีเ้ อง สองประการอนั นี้
กามสุขลั ลกิ านุโยโค คอื ความสขุ ติดในความรกั ตดิ ใน
ความสขุ ตดิ ในความสบาย จมลงไปลกึ มนั ลกึ ไมค่ อ่ ยจะเหน็
ทงิ้ ยากเหลอื เกิน เน่ีย ไอค้ วามสบาย ไอค้ วามสขุ ความลกึ เนีย้
เป็นกิเลสว่ นหน่งึ ท่ีคนมองไมเ่ หน็ แลว้ ก็คนก็ปรารถนาดว้ ยแหละ
เร่อื งกาม เร่อื งสขุ สบายใหม้ นั จมลงไปในพืน้ ไม่คอ่ ยเหน็ เนือ้
เห็นตวั ตดิ ความสบายแลว้ เน่ีย อนั เนีย้ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นก็บอก
21
วา่ เป็นกามสขุ ลั ลกิ านโุ ยโค ถา้ ผปู้ ระพฤตปิ ฏิบตั ใิ หถ้ ึงความสงบ
เม่ือเหน็ เชน่ นีใ้ หร้ ะวงั เหมือนไปเห็นทางโคง้ จะไดเ้ หน็ ปา้ ยทนั ที
วา่ ไอน้ ่ีโคง้ โคง้ อนั ตรายนะ เหน็ มยั้ เราน่งั รถไป เหน็ ทางโคง้ ๆ
เห็นมยั้ น่นั น่ะ โคง้ อนั ตราย โชเฟอรต์ อ้ งระวงั โคง้ อนั ตรายนะ
สขุ ถา้ คนจมในความสขุ นนั้ นะ่ โอย้ มนั สบาย มนั จมลงไปลกึ
ไม่คอ่ ยเหน็ เนือ้ เห็นตวั เลย ไม่คอ่ ยเหน็ วา่ มนั ผิด ไม่คอ่ ยเห็นวา่
มนั เป็นทางโคง้ ไม่คอ่ ยเห็นวา่ มนั เป็นอนั ตราย ไอค้ วามรกั
ความสขุ น่นั แหละ อนั นีป้ ระการท่หี นง่ึ
ประการท่ีสอง ทา่ นพดู ถึงความทกุ ข์ คอื ความไมช่ อบ หรอื
พดู ถึงความโกรธซะก็วา่ แลว้ มนั ก็เป็นโคง้ เหมือนกนั โคง้
อนั ตรายเหมือนกนั อนั นีค้ นไม่ชอบ เป็นกิเลสอนั นี้ แตค่ นไม่ชอบ
ทกุ ข์ ไม่ชอบ มนั เป็นอตั ตกลิ มถานุโยโค ไม่ชอบ แตส่ ขุ น่ีชอบ
ทกุ ข์ ไมช่ อบ สขุ ฉนั จงึ ชอบ ไอค้ วามเป็นจรงิ นนั้ น่ะ สขุ หรอื ทกุ ข์
เน่ียนะ มนั มีโทษเทา่ ๆกนั มนั มีโทษเทา่ ๆกนั มีคณุ คา่ เท่าๆกนั
แตว่ า่ สขุ นนั้ นะ่ มนั เขา้ ขา้ งเรา ไอค้ วามรกั น่นั มนั เขา้ ขา้ งเรา ไอ้
ความเกลยี ดนะ่ มนั ไมเ่ ขา้ มนั อยขู่ า้ งนอก มนั หยาบเหลอื เกิน
22
มองเหน็ ไดง้ า่ ยๆ เม่ือเกิดขนึ้ มาแลว้ ก็ไม่ใจดี ดใี จไมไ่ ด้ ไอค้ วามดี
ใจนนั้ แหละ เราพากนั แสวงกนั แสวงหาความดี ดใี จ ดีใจก็เป็น
กิเลสอยา่ งยง่ิ เหมือนกนั นะ เหมือนกนั กบั ความท่ีไมด่ ี
ธรรมะน่ะ จรงิ แลว้ น่ะพระพทุ ธเจา้ ทา่ นไมใ่ หย้ ินดยี ินรา้ ย
ไมใ่ หย้ นิ ดียนิ รา้ ย เราประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ทาํ ยงั ไงมนั จะถกู ตอ้ ง กาม
สขุ ลั ลกิ านโุ ยโค อตั ตกิลมถานโุ ยโค เราเห็นสองขา้ งเสมอเลย
ทีเดยี ว สขุ เกิดมารูอ้ ยา่ งหนง่ึ ทกุ ขเ์ กิดมาเรารู้ สองอยา่ งนี้
พระพทุ ธเจา้ วา่ ปฏิบตั ใิ หเ้ ป็นสมั มาปฏปิ ทาของจติ เม่ือเห็น
ความสขุ เกิดขนึ้ มาแลว้ ก็ใหร้ ูโ้ ทษของมนั อยา่ ไปตดิ มนั เลย อยา่
ไปหมายม่นั มนั เลย อย่าไปยดึ มนั ม่นั หมายมนั เลย ใหเ้ หน็ วา่ สขุ
นีก้ ็สกั วา่ แตส่ ขุ เทา่ นนั้ มนั ก็หายไป ทกุ ขเ์ กิดขนึ้ มาก็เหมือนกนั
ใหร้ ูว้ า่ สภาวะคือทกุ ขเ์ นีย้ ก็สกั วา่ ทกุ ขเ์ ท่านนั้ ไมใ่ ชส่ ตั วบ์ คุ คล
ตวั ตนเราเขาเป็นทกุ ข์ ทางซา้ ยทา่ นก็ไม่ใหไ้ ป ทางขวาทา่ นก็
ไม่ใหไ้ ป ใหท้ า่ นตรงแนน่ อน ก็เลยทกุ ขไ์ วข้ า้ งนี้ สขุ ไวข้ า้ งนี้ น่ี
เป็นสมั มาปฏิปทาของจรงิ
23
ถา้ เราประพฤติปฏิบตั ิ เม่ือจิตมนั เป็นเช่นเนีย้ นะ จติ มนั ผดิ
จากทางเราก็รูจ้ กั เม่ือมีความรกั เกิดขนึ้ มา มนั จะไปยดึ ม่นั เราก็
บอกมนั เอย้ อนั นีก้ ็อนั ตรายเหมือนกนั แนะ่ สงิ่ ใดๆท่ีเราไม่ชอบ
เราก็เป็นทกุ ข์ เราก็เตือนจิตเราวา่ เออ้ อนั นีม้ นั ก็อนั ตราย
เหมือนกนั ท่ีไหนท่ีไม่เป็นอนั ตรายอยทู่ ่ีไหน…ท่มี นั ไม่สขุ ไม่ทกุ ข์
น่นั แหละ ไมเ่ ขา้ ขา้ งสขุ ไมเ่ ขา้ ขา้ งทกุ ขน์ ่นั เอง ตรงนนั้ เป็นสมั มา
ปฏิปทาของพระอรยิ เจา้ ทงั้ หลายท่ีเดนิ ไป น่นั เรยี กวา่ เป็น
ปฏิปทาพอดๆี น่ีเรยี กวา่ ถกู ตอ้ งแลว้ เราตอ้ งรูจ้ กั ธรรมะกอ่ น อนั
นีพ้ ระพทุ ธเจา้ ของเราทา่ นยาํ้ เหลือกนั เพราะทา่ นติดมาหลาย
ภพหลายชาตแิ ลว้ ทา่ นก็นกึ วา่ สขุ น่นั ดี ทา่ นก็เอาท่ีสขุ น่นั แหละ
ทกุ ขท์ า่ นก็ไมเ่ อาทงั้ นนั้ ทา่ นเขา้ ใจวา่ มนั ดแี ลว้ ไอค้ วามเป็นจรงิ
สขุ น่ะมนั เปล่ยี นของมนั ได้ มนั ก็ไมแ่ นเ่ หมือนกนั
ดีๆน่ีก็เหมือนกนั ประพฤติดี เม่ือไดด้ แี ลว้ ใหอ้ ย่เู หนือมนั นะ
อย่าไปยดึ ใหม้ นั รูจ้ กั ดี ถา้ ไมร่ ูจ้ กั ดี มนั ก็ไมด่ ีอีกแลว้ มนั เป็น
เชน่ นนั้ ฉะนนั้ จงึ วา่ ธรรมะเนยี้ มนั อยทู่ ่ีจติ ใจของเราผทู้ ่ีมีปัญญา
มองเหน็ ไดง้ า่ ยๆ เหน็ ท่ีกายท่ีจิตของเจา้ ของน่ีเอง มนั จะ
24
หลอกลวงเราอยทู่ งั้ วนั ทงั้ คนื น่นั แหละ ไมใ่ ช่อ่ืนหรอก อนั เดียว
อนั เกา่ น่ีแหละ ใหม้ นั เปล่ยี นไปมาอย่เู สมอเลยเชียว ฉะนนั้ พวก
เราทงั้ หลายใหพ้ ยายามมอง มองตามธรรมะคาํ ส่งั สอนขององค์
พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ของเราอนั มีอยู่ ถา้ เรามีความรูอ้ ยู่ เราก็
เหน็ อยู่ เหน็ อย่กู ็รูอ้ ยู่ ฉะนนั้ ทา่ นจงึ วา่ ภาวนาใหเ้ หน็ ยกลม
หายใจเขา้ มาสจู่ ติ แลว้ เรยี กวา่ พทุ โธๆๆ
คาํ วา่ พทุ โธเน่ยี ไมใ่ ช่รูแ้ ตล่ มอย่างเดียวเท่านนั้ นะ พทุ โธน่ี
มนั กวา้ งไปหมดทกุ อยา่ งหละ รูท้ างท่ีผดิ รูท้ างท่ีถกู ทงั้ หมด
ไม่ใช่วา่ พทุ โธๆ บางคนจะเขา้ ใจวา่ ภาวนาพทุ โธๆนะ่ จะเอาคณุ
งามความดี อารมณเ์ ชน่ นี้ คาํ ท่วี า่ พทุ โธน่ที าํ ใหเ้ ป็นอารมณอ์ นั
เดยี ว ท่ีเรยี กวา่ อารมณฟ์ งุ้ ซา่ นราํ คาญ เอาอารมณเ์ น่ยี เป็นหลกั
เอาลมนเี้ ป็นหลกั ไว้ เพ่ือจติ เราใหย้ บั ยงั้ ใหเ้ ห็นอยใู่ นพทุ โธอนั นี้
เทา่ นนั้ เอง พทุ โธน่ีรูส้ ารพดั ทกุ อยา่ ง เหมือนพระพทุ ธเจา้ ของเรา
ตรสั มา ทา่ นยอ่ เป็นคาํ พดู อนั นีว้ า่ เป็นพทุ โธๆ บางคนจะไป
ภาวนาพทุ โธ ไม่เห็นจะไดอ้ ะไร บางทีกง็ ่วงนอนดว้ ยซา้ํ ไม่เหน็
25
ผลประโยชนม์ นั พทุ โธน่นั ทา่ นแปลวา่ ผรู้ ูห้ รอื ผตู้ ่ืน ก็เรอ่ื งจติ ใจ
เราน่ีเองเป็นผรู้ ูแ้ ละก็เป็นผตู้ น่ื
เม่ือจิตเราสงบ ทาํ จิตสงบเรยี กวา่ สมถะภาวนานะ สมถะ
ภาวนา วปิ ัสสนาภาวนาในครงั้ พระพทุ ธเจา้ ของเราไมค่ อ่ ยมี มี
แตว่ า่ ทา่ นประพฤตหิ รอื ปฏิบตั ิธรรมเทา่ นนั้ บรรลซุ ง่ึ ธรรมะ
ปฏบิ ตั ิธรรมะ บดั นีเ้ รามาแยกวา่ สมถะ วปิ ัสสนา บางคนก็เขา้ ใจ
แยกกนั ออก ฉนั จะทาํ สมถะซะก่อน อกี ปีสองปีฉนั จะทาํ
วิปัสสนา ไอค้ วามเป็นจรงิ สง่ิ สองส่ิงน่ีมนั แยกกนั ไมไ่ ด้ มนั แยก
ไมไ่ ด้ กาํ ลงั ของสมถะคอื ความสงบ อยา่ งเราอย่บู า้ นมนั วนุ่ วาย
ออกมาอยปู่ ่าซะ มนั ไกลรูป ไกลเสยี ง กลน่ิ รสอยา่ งเนยี้ กิเลส
มนั ก็มีอย่แู ตม่ นั หา่ งหน่อย มาอย่ทู ่นี ่ีมนั สงบ เพราะไมเ่ คยไดย้ ิน
ไม่ไดฟ้ ัง ไม่ไดเ้ หน็ อย่ไู ปนานๆไป มนั ก็สงบ สงบช่วั คราว น่ี
เรยี กวา่ สมถะ คอื มาหลบอารมณอ์ ยู่ แตว่ า่ เม่ืออารมณม์ นั มา
กระทบ ไม่สบายอกี แลว้ เทา่ นีก้ าํ ลงั เท่าเนีย้
กอ่ นอ่ืนสมถะน่ีเป็นบทบาททางแรกมนั จะตอ้ งมาพกั ผอ่ น
จะตอ้ งมาใหม้ นั มาสงบเป็นบทบาทของมนั ครงั้ แรกเทา่ นนั้ เอง
26
ตอ่ ไปนนั้ ไอค้ วามสงบในท่ีเนีย้ มนั ไม่ใชเ่ ป็นของสงบท่ีแทจ้ รงิ
สงบท่ีแทจ้ รงิ คอื ความรู้ เกิดขนึ้ มาจากความสงบอนั นนั้ รูแ้ จง้
ตามสิ่งทงั้ หลายทงั้ ปวง รูเ้ ทา่ รูถ้ งึ ถา้ เรารูไ้ ม่ถึง มนั ก็ไมส่ บาย มนั
ก็เป็นสมถะ ถา้ มนั รูถ้ งึ มนั ก็สบาย เช่นกระโถนใบเนีย้ เราทกุ คน
ก็เรยี กวา่ กระโถนกนั ทงั้ นนั้ หละ รู้ แตว่ า่ มนั รูไ้ ม่ถึง ถา้ ไปบา้ นอ่นื
เคา้ เรยี กวา่ หมอ้ เราก็จะไปวา่ เคา้ อกี หละ แน่ะ เรยี กวา่ หมอ้ เคา้
เรยี กวา่ หมอ้ กนั เราก็จะไม่สบายใจ ไอค้ วามเป็นจรงิ น่นั คอื เรารู้
ไม่ถงึ มนั รูไ้ มถ่ ึงกระโถน ถา้ รูถ้ งึ มนั น่ะ เคา้ จะเรยี กวา่ กระโถน
แลว้ ก็จะสบาย เคา้ จะเรยี กวา่ หมอ้ เราก็สบาย เพราะวตั ถนุ ีไ้ ม่มี
กระโถนในท่ีนี้ ไมม่ ีหมอ้ ในท่นี ี้ มนั จะเกิดเป็นกระโถนขนึ้ มา เราก็
สมมตุ วิ า่ มนั เป็นกระโถน มนั จะเกิดหมอ้ ขนึ้ มา เราก็สมมตุ มิ นั วา่
หมอ้ แตแ่ ลว้ ทางในความเป็นจรงิ เราจะเรยี กวา่ หมอ้ กบั เขาก็ได้
เรยี กวา่ กระโถนกบั เขาก็ได้ ถา้ เรารูต้ ามเป็นจรงิ และรูถ้ งึ ท่ีรูแ้ ลว้
จะเรยี กอะไรกส็ บายอยู่ มนั เป็นเชน่ นนั้
อารมณท์ งั้ หลายทงั้ ปวง เม่ือเราลมื ตาขนึ้ มาแลว้ จติ เราสงบ
ทาํ ไมมนั ถงึ สงบ มนั รูต้ ามความเป็นจรงิ ของมนั เหมือนกบั
27
บคุ คลท่ีรูก้ ระโถนใบนี้ ใหถ้ งึ กระโถน ถา้ คนรูถ้ งึ กระโถนแลว้ ไมม่ ี
อะไร เคา้ จะเรยี กวา่ ถว้ ยก็ได้ เคา้ จะเรยี กวา่ หมอ้ ก็ได้ เคา้ จะ
เรยี กวา่ กระโถนก็ได้ ใจก็ยงั สบายอยู่ เพราะมนั รูถ้ ึงกระโถน
เชน่ นนั้ ฉนั ใดก็ฉนั นนั้ เหมือนกนั ถา้ เรารูธ้ รรมะในรูปอนั นี้ ใน
นามอนั นีต้ ามเป็นจรงิ แลว้ เชน่ นนั้ เราก็จะพากนั มีความสบาย
สงบอยจู่ ากอนั นี้ สักกายทฐิ ิ วจิ กิ จิ ฉา สลี พตปรามาสอนั นี้
มนั ก็จะเกิดขนึ้ ไม่ได้ ไม่ไดส้ งสยั แลว้ ในสมมตุ ิอนั นี้ ในขนั ธก์ อ้ นนี้
ในกองอนั นี้ ในรูปอนั นี้ ในนามอนั นี้ ไม่สงสยั แลว้ ไมย่ ดึ ถือเป็น
เนือ้ เป็นตวั ของเรา เหน็ ตามเป็นจรงิ แลว้ สลี พตปรามาส ลบู คลาํ
ก็ไม่ลบู คลาํ ไอค้ วามรูส้ กึ นกึ คิดอนั นี้ อนั นีเ้ ป็นกิเลสอยา่ งหนง่ึ
ถา้ มนั หายออกจากใจของบคุ คลเรานนั้ ก็เปล่ยี นทนั ทีเลยวา่ เป็น
อรยิ จิต อยเู่ หนือสงิ่ ทงั้ หลายเหลา่ นนั้ อนั นีค้ ือผลเกิดจากการ
ประพฤติปฏบิ ตั ใิ หร้ ูต้ ามเป็นจรงิ เรยี กวา่ ปัญญา
มฉิ ะนนั้ ญาตโิ ยมเราทงั้ หลายก็คอ่ ยๆทาํ ไป คอ่ ยๆทาํ ไป ทาํ
สมถะมนั เป็นอย่ใู นนีแ้ หละ วปิ ัสสนามนั กเ็ ป็นอย่ใู นนีแ้ หละ
แยกกนั ไม่ไดห้ รอก แตพ่ ดู แยกกนั ได้ แตว่ า่ ไอต้ วั มนั แยกกนั ไม่ได้
28
เชน่ วา่ มะม่วงใบหนง่ึ มนั จะแยกมนั ออกไมไ่ ด้ มนั ยงั เลก็ อยู่ มนั
ยงั เลก็ อยแู่ ลว้ มนั ก็โตขนึ้ มา แลว้ พอเม่ือมนั สกุ ก็แยกมนั ไมไ่ ด้
เม่ือมนั มเี ลก็ มนั ก็มีโต เม่ือมีโต มนั ก็มีเลก็ มะม่วงใบเดยี ว
เปล่ยี นไปเรอ่ื ยๆ เปล่ียนไปๆเป็นนนั้ นะ่ มนั เปล่ยี นไป จงึ กวา่ มนั
จะสกุ ก็มะมว่ งใบเดยี วอนั นนั้ น่ะ มนั จะแยกมนั ไม่ไดห้ รอก จะ
แยกสกุ ๆดบิ ๆ มนั ไม่ไดห้ รอกมะมว่ งใบนนั้ มนั เป็นของมนั อยู่
อย่างนนั้ เราจะไดเ้ ห็นวา่ ในระยะหนง่ึ นะ มนั จะเปรยี้ ว ในระยะ
ตอ่ มา มนั สกุ มนั จะหวาน ไอเ้ ปรยี้ วมนั ไปไหนหละ มนั ก็มาเป็น
หวานน่นั แหละ เปลือกมนั ก็เขียว เม่ือมนั สกุ แลว้ มนั ก็เหลอื ง ไอ้
เขียวมนั ไปไหนแลว้ มนั ก็มาเป็นเหลืองน่นั แหละ มนั ไม่เป็นอะไร
หรอก มนั แยกกนั ไมไ่ ด้ ฉนั ใดก็ฉนั นนั้ เหมอื นกนั
เหตธุ รรมะท่ีพระพทุ ธเจา้ ของเราใหป้ ระพฤติปฏบิ ตั ิมนั
ติดกนั มนั ชดิ กนั จนเราแยกไมอ่ อก เพราะฉะนนั้ กิเลสทงั้ หลาย
มนั ก็เกิดจากท่ีน่ีเอง จะทาํ จิตใจของเราไม่สบาย เพราะเราไม่รู้
รูปอนั นี้ ขนั ธอ์ นั นี้ กอ้ นอนั นี้ กองอนั นีต้ ามเป็นจรงิ ถา้ เรามีความ
สบายแลว้ มนั เป็นสมั มาทฐิ ิ มนั รูร้ ูปอนั นีต้ ามเป็นจรงิ รูน้ ามอนั นี้
29
ตามเป็นจรงิ รูก้ อ้ นอนั นีต้ ามเป็นจรงิ แลว้ มนั ก็วา่ ง ฉะนนั้ เม่ือ
วางแลว้ มนั มีความรูอ้ ย่รู อบๆอยู่ มนั ระวงั มนั อยเู่ ร่อื ยๆไป
เรอ่ื ยๆไป อนั ตรายมนั รูจ้ กั ความสขุ เกิดขนึ้ มามนั ก็รู้ ไอค้ วาม
ทกุ ขเ์ กิดขนึ้ มา มนั ก็รู้ ไอค้ วามดใี จเกิดขนึ้ มา มนั ก็รู้ ความเสียใจ
เกิดขนึ้ มา มนั ก็รู้ รูอ้ ะไร รูว้ า่ อนั นีม้ นั เป็นอนั ตราย มนั ก็ไมเ่ ขา้ ไป
ใกล้
ฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ ท่านสอนวา่ เป็น กามสขุ ลั ลกิ านโุ ยโค
อตั ตกิลมถานโุ ยโค ทงั้ สองประการนี้ เป็นธรรมอนั สมณะผทู้ าํ
ความสงบ อยา่ พงึ แวะเขา้ ไปเลย เป็นธรรมของชาวบา้ น ไมใ่ ช่
เป็นธรรมของสมณะ สมณะคอื ใคร…สมณะคือจิต ผตู้ อ้ งการให้
จติ สงบนนั้ ใหร้ ูส้ ิ่งทงั้ สองนี้ ไม่ใช่วา่ สมณะเหมือนอาตมาบวชอยู่
เนีย้ นะ สมณะอนั นนั้ คือจติ ถา้ จะทาํ จติ ของเราใหส้ งบแลว้ อยา่
ไปว่งิ ตามความสขุ อนั นนั้ อย่าไปวง่ิ ตามความทกุ ขอ์ นั นนั้ อยา่
ไปว่งิ ตามความดีใจอนั นนั้ อย่าไปวง่ิ ตามความเสยี ใจอนั นนั้ ให้
เป็นผมู้ ีปัญญารอบรูอ้ ยเู่ สมอวา่ สขุ นีเ้ ป็นของไมเ่ ท่ียง ทกุ ขน์ ีก้ ็
เป็นของไมเ่ ท่ยี ง ไอค้ วามดีใจน่ีก็เป็นของไมเ่ ท่ียง ไอค้ วามเสียใจ
30
นีก้ ็เป็นของไมเ่ ท่ียง มนั เป็นทกุ ข์ ใหเ้ ราเหน็ อยเู่ ชน่ นีเ้ อง ไม่ตาม
ใครทงั้ นนั้ แหละ ไมเ่ ขา้ ขา้ งใครทงั้ นนั้ แหละ ธรรมะน่ี เดนิ ตรงไป
เชน่ นี้ บคุ คลนนั้ จะสงบ ผตู้ ามไปตามความสขุ น่นั แหละ คนนนั้
จะทกุ ข์ ผวู้ ่งิ ตามความทกุ ขน์ นั้ แหละ คนนนั้ ก็จะทกุ ข์
นีพ้ ระพทุ ธเจา้ ท่านสอนใหไ้ ปครง่ึ ๆเช่นนี้ เป็นสมั มาปฏปิ ทา
พดู เร่อื งจติ นะ ไมใ่ ช่พดู เรอ่ื งอ่ืน พระพทุ ธศาสนานี้ เป็นเร่อื งของ
จติ ไม่ใช่เร่อื งของกาย ไม่ใชเ่ รอ่ื งของเนือ้ หนงั มนั เร่อื งของจติ
มนั เร่อื งของจติ เราจะตอ้ งมาพิจารณาซง่ึ จติ เพราะจติ นีม้ นั เป็น
เหตทุ งั้ หมดเลยทีเดยี วแหละ เราจะไดเ้ หน็ สขุ มนั เกิดมากจาก
จิต มนั เป็นผรู้ ูเ้ ลยทีเดียว ทกุ ขม์ นั เกิดมา ใครรู…้ จติ มนั เป็นคนรู้
มนั เป็นคนรบั ทกุ สว่ นอยใู่ นเนีย้ ถา้ เรามาตามดจู ิตของเรา
แลว้ น่ะ มนั จะเหน็ จติ ของเรา ดกู ่อนภกิ ษุทงั้ หลาย ทา่ นทงั้ หลาย
จงตามดจู ิตของตน ผไู้ ดต้ ามดจู ิตของตน ผนู้ นั้ จะพน้ จากบว่ ง
ของมาร เพราะเราทาํ จิตของเรา ตามดจู ติ ของเรา เพราะจิตเป็น
ผรู้ บั รู้ เป็นผรู้ บั เหน็ เป็นผรู้ บั เอาความสขุ ความทกุ ข์ ถา้ เราตาม
ดจู ติ ของเราอยู่ เราก็ไมเ่ ป็นคนอนาถาเทา่ นนั้ แหละ เป็นพทุ ธ
31
บรษิ ัทโดยสมบรู ณเ์ ทา่ นนั้ แหละ มีความรูอ้ ยู่ มีความเหน็ อยู่ มี
ความเป็นอยอู่ ย่างนนั้ จะยืนก็ตาม จะเดนิ ก็ตาม จะน่งั กต็ าม จะ
นอนก็ตาม รูอ้ ยอู่ ย่างนนั้ เอง มนั เป็นอย่อู ยา่ งนนั้ เม่ือเป็นเชน่ นี้
แลว้ กิเลสทงั้ หลายจะไดม้ าอย่ใู นจติ ใจ แปลงอย่ใู นใจใหเ้ ศรา้
หมอง ไม่ผอ่ งใส อนั นนั้ ก็เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไดย้ ากเหลอื เกิน
มนั ไม่เป็นไปเพราะความรู้ เพราะผรู้ ูผ้ ตู้ ่นื เห็นอยู่ รูอ้ ยู่ ทงั้ การยืน
การเดนิ การน่งั การนอน เชน่ นนั้ เป็นตน้ อนั นีค้ อื ผลท่ีเรา
ประพฤตปิ ฏิบตั ิใหถ้ ึงความสงบระงบั
วนั นีญ้ าติโยมเราทงั้ หลาย ท่ไี ดม้ าบาํ เพญ็ การบรจิ าค
สมาทานซง่ึ ศลี ไดฟ้ ังพระธรรมเทศนาในวนั นี้ ทงั้ สามประการนี้
รวมเขา้ มาเป็นกลมุ่ อนั เดยี วกนั เพ่ือจะทาํ จติ ของญาตโิ ยมตงั้ ให้
รวมเป็นสมั มาทิฐิ เม่ือรวมเป็นสมั มาทิฐิแลว้ ไมว่ นั ใดก็ไมว่ นั
หนง่ึ มนั ถงึ ท่ีสดุ ทกุ ขจ์ รงิ ๆ ฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ ของเราท่านจงึ
สอนใหถ้ งึ ความสงบ ไอค้ วามสงบน่มี นั เลศิ จดุ หมายแลว้ มนั
เป็นเชน่ นนั้ ฉะนนั้ วนั นีเ้ วลาท่ีญาตโิ ยมทงั้ หลาย ท่ีไดม้ าน่งั ฟัง
ธรรมนี้ เวลานมี้ นั ก็ เวลาของโยมมนั จะนอ้ ย แตเ่ วลาของ
32
เวลานะ่ มนั มากหรอก จะไดเ้ หน่ือยกนั ละมงั้ ทีนกี้ ็เอาแตว่ า่
พอสมควร
การบรรยายธรรมะมาวนั นีก้ ใ็ หน้ อ้ มกลบั ไปเป็นโอปนายกิ
ธรรม ใหไ้ ปเขา้ ถึงใจของเจา้ ของ ใหอ้ ย่ใู นใจของเรา อยา่ ไปมอง
อย่างอ่นื ใหม้ องจิต อะไรมนั เกิดขนึ้ จากจติ มนั เป็นอยทู่ ่จี ิต ให้
มองท่ีจติ ความฉลาดเหน็ อย่ทู ่ีจติ ความโง่เหน็ อยทู่ ่ีจิต สขุ ทกุ ข์
ทงั้ หลายทงั้ ปวงเห็นอย่ตู รงนนั้ น่ีคอื เอโก ธัมโม ธรรมมีอนั
เดียวคือจติ อนั นี้ มิฉะนนั้ ญาตโิ ยมทงั้ หลายจงนอ้ มไปโอปนยโิ ก
นอ้ มธรรมะนีไ้ วใ้ นใจ จะยนื จะเดนิ จะน่งั จะนอน ใหม้ ีความ
รูอ้ ยู่ เหน็ อยู่ เป็นอยู่ ประพฤติอยู่ ปฏิบตั ิอย่เู รอ่ื ยๆ ปฏบิ ตั ผิ ิด
ตรงไหน ปฏิบตั วิ า่ ธรรมมนั ปรากฏขนึ้ มา ธรรมอะไรปรากฏ
ขนึ้ มา เม่ือความไม่สบายปรากฏขนึ้ มา เม่ือความโกรธปรากฏ
ขนึ้ เม่ือความโลภปรากฏขนึ้ มา อยใู่ นรถ อย่บู นรถก็ปฏบิ ตั ิมนั
ตรงนนั้ สอนมนั ตรงนนั้ แหละ ไม่ใชว่ า่ ท่ีปฏิบตั ิอยหู่ นองป่าพง
ขอจะอาํ นวยอวยพรใหญ้ าติโยมทงั้ หลายซง่ึ เป็นผทู้ ่ีตงั้ ใจดี
แลว้ ตงั้ เจตนาดแี ลว้ มาถวายผา้ ป่าในวนั นี้ ขอสว่ นคณุ งาม
33
ความดีอนั นีจ้ งปกปักษร์ กั ษาญาตโิ ยมทงั้ หลาย ท่ีมีจติ ศรทั ธามี
จิตกนั มาในวนั นี้ ผลท่ีสดุ นนั้ ขอใหท้ า่ นทงั้ หลาย จงมีสว่ นแก่
พระนพิ พานในอนาคตกาลขา้ งหนา้ โนน้
ท่ีมา: https://youtu.be/xcnOa--k4go
34