The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรื่อง ธาตุ ๔ สรีระยนต์ โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-01-29 21:36:13

เรื่อง ธาตุ ๔ สรีระยนต์ โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

เรื่อง ธาตุ ๔ สรีระยนต์ โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

Keywords: ธาตุ ๔ สรีระยนต์,หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ธาตุส่ี สรีระยนต์
หลวงป่เู ทสก์ เทสรงั สี
ตอ่ นีไ้ ปพากนั ตงั้ ใจฟังธรรมเทศนา ฟังเทศนถ์ า้ หากฟังรูเ้ ร่อื ง
เขา้ ใจในการฟังธรรมเทศนาจะทาํ ใหใ้ จของเราผอ่ งใสเบกิ บาน
หรรษารา่ เรงิ อย่ตู ลอดเวลา ถา้ หากฟังไมเ่ ขา้ ใจก็จะเป็นเร่อื งง่วง
ทาํ ใหซ้ มึ ใหเ้ มาใหง้ ว่ ง ก็จะมีความเหนด็ เหน่ือย เลยกลายเป็น
ทกุ ข์ ไม่ใชเ่ ป็นเรอ่ื งทาํ ความสขุ ใหเ้ กิดขนึ้ เพราะการฟังธรรม
เทศนา เพราะฉะนนั้ จงพากนั ฟังใหเ้ ป็น ฟังธรรมเทศนา
คาํ วา่ ฟังนนั้ ฟังเป็นทกุ คนน่นั หละ แตท่ ่ีวา่ ฟังเป็นนนั้ ไม่ใช่
ฟังตามธรรมดา พวกเราพวกปฏิบตั ิ ตงั้ ใจฝึกหดั เร่อื งจิตใจ
โดยเฉพาะ ฟังเป็นนนั้ ฟังใหถ้ กู หนทาง ทางท่ีถกู ท่ีจรงิ แลว้ การฟัง
ธรรมเทศนานนั้ อยา่ ใหฟ้ ังสง่ ออกไปนอก ถา้ สง่ ออกไปนอกแลว้
จะไม่รูข้ องจรงิ ไมเ่ หน็ ของจรงิ พระพทุ ธเจา้ ท่านเทศนาไมไ่ ด้
เทศนใ์ หอ้ อกไปนอก ไม่ไดส้ ง่ ออกไปนอก ทกุ ๆคนพากนั ฟังพระ
ธรรมเทศนาท่ีพระพทุ ธเจา้ ทา่ นตรสั คนนบั เป็นหม่ืนๆแสนๆก็ดี
พระองคช์ ีเ้ ขา้ มาในตวั ของเราทกุ คน เพราะฉะนนั้ คนท่ีฟังธรรม

1

เทศนานบั เป็นรอ้ ยๆพนั ๆ นบั เป็นหม่ืนๆแสนๆ ก็จะไม่มีการแยง่
ชงิ ซง่ึ กนั และกนั ไมเ่ หมือนกบั เราแจกของ อยา่ งเราแจกของ
โปรยของอยา่ งนีแ้ ลว้ พอเหน็ ทงิ้ ใหก้ ็เลยจะพากนั ชงิ กนั เอา บาง
คนก็จะไดม้ าก บางคนก็จะไดน้ อ้ ย หรอื บางคนก็จะไดข้ องดี
บางคนจะไม่ไ◌ด้ ข้ องดี จะเกิดอิจฉารษิ ยาซง่ึ กนั และกนั เป็น
เรอ่ื งทะเลากนั

สว่ นการฟังธรรมเทศนานนั้ ไม่ใช่เหมือนกบั แจกส่ิงของ
แทนท่ีจะเป็นการแจก เลยกลบั เป็นการชีเ้ ขา้ มาหาตวั ของตนวา่
ของทา่ นทงั้ หลายมีแลว้ ทกุ คน ไม่ใชใ่ ห้ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นตรสั
เทศนาวา่ อกขฺ าตาโร ตถาคตา ปฏปิ นฺนา ปโมกขฺ นฺติ
พระพทุ ธเจา้ เป็นแตเ่ พียงผแู้ นะนาํ ชีห้ นทางบอกให้ พวกท่าน
ทงั้ หลายพากนั ฟังแลว้ ไดค้ วามเขา้ อกเขา้ ใจปฏบิ ตั ติ าม อาจจะ
พน้ จากทกุ ขไ์ ปเอง ฟังดคู าํ ขอ้ นีก้ ็พอจะสนั นษิ ฐานไดว้ า่
พระพทุ ธเจา้ ไม่ไดแ้ บง่ ปัน ไม่ไดแ้ จก ไม่ไดแ้ จกธรรมะให้ เป็นแต่
ชีเ้ ฉยๆ คาํ วา่ ชีค้ อื ชีข้ องมีอยู่ ก็ดสู ิ เราชีอ้ ะไรก็ตามเถอะ เราชีใ้ ห้
ดนู ่ะ ชีข้ องมีอย่ทู งั้ นนั้ ของไมม่ ีจะไปชีไ้ ดไ้ ง ไม่มีใครชีไ้ ดห้ รอก

2

ของมีอยู่ มีอยทู่ ่ีไหน ก็ชีเ้ ขา้ มาในตวั ของเรา ท่ีมีอยแู่ ลว้ ในตวั ของ
เราทกุ ๆคน ถา้ หากเราเหน็ แลว้ เราปฏิบตั ติ าม เราเป็นคนพน้
จากทกุ ข์

เราฟังเผินๆก็คลา้ ยๆกบั วา่ พระพทุ ธเจา้ เป็นคนแจกธรรมะ
แบง่ ปันธรรมะให้ อยา่ งเราจะเหน็ ไดเ้ ชน่ เราสมาทานศลี
พระพทุ ธเจา้ ไม่ไดใ้ หศ้ ีล พระไม่ไดใ้ หศ้ ีล ถา้ พระเอาศลี ใหญ้ าติ
โยม พระกห็ มดศีล ใหท้ กุ วนั ๆก็หมดซะ ความเป็นจรงิ ทา่ นไมไ่ ด้
ให้ ทา่ นบอกใหเ้ รางดเวน้ เสยี จากโทษนนั้ ๆ โทษ ๕ โทษ ๘
ประการ นีจ้ ะวา่ ท่านใหศ้ ลี ไม่ได้ แตภ่ าษาเราพดู กนั วา่ พระใหศ้ ีล
คาํ สมมตุ ิบญั ญตั อิ นั นีห้ ละ มนั เลยไป เขา้ ใจผดิ เสยี แตค่ วามจรงิ
หาไดเ้ ป็นเชน่ นนั้ ไม่ คอื บอกใหเ้ รางดจากความช่วั คอื โทษนนั้ ๆ
ฉนั เดียวกนั กบั พระพทุ ธเจา้ ท่านเทศนา อนั นกี้ ็เรยี กวา่ เทศนา
เหมือนกนั คือใหศ้ ีลน่ี ธรรมะท่ีพระพทุ ธเจา้ ทา่ นสอนพวกเราก็
สอนชีเ้ ขา้ มาในตวั ของเราทกุ ๆคน ซง่ึ มีอยแู่ ลว้ ในตวั ตนของเรา
ทกุ ๆคน

3

น่ีวา่ เฉพาะถงึ เรอ่ื งปฏบิ ตั ิธรรมท่ีจะอธิบายในวนั นนี้ ะ่ ปฏบิ ตั ิ
อย่างไร ปฏบิ ตั ธิ รรม คือดงั กลา่ วมาแลว้ วา่ ธรรมมีอย่ใู นตวั ของ
เราทกุ ๆคน ธรรมท่ีมีอยใู่ นตวั ของเรานนั้ บญั ญตั ใิ หม้ ีช่ือ สมมตุ ิ
ใหเ้ ขา้ ใจ เรยี กวา่ ธาตุขันธ์ อายตนะ ธาตขุ นั ธอ์ ายตนะนี้ เป็น
ท่ีตงั้ และท่ีเกิดของปัญญา เราตอ้ งมที ่ีตงั้ และท่ีจบั จดุ ในการท่ีเรา
พิจารณา จงึ จะเกิดปัญญาขนึ้ มา ปัญญาท่ีเราพจิ ารณาน่ี
เรยี กวา่ ปัญญาสะสม เป็นปัญญาเจรญิ ปัญญาปกตธิ รรมดา
หากเราไม่สะสม ไม่เจรญิ ไมเ่ กิด อยเู่ ฉยๆ ไม่เกิดปัญญา ดงั
ภาษาโบราณท่านเคยพดู วา่ คนท่ีมีปัญญาคอื คนช่างคดิ ชา่ ง
ตรอง คนท่ีตรองชา่ งคดิ ชา่ งนกึ อยา่ งนนั้ เคา้ เรยี กวา่ คนมีปัญญา
ภาษาพืน้ ๆบา้ นก็พากนั พดู กนั อยู่ ถา้ คนใดไม่คิดไม่นกึ ไมต่ รกึ ไม่
ตรอง เหน็ ก็ไมร่ ูจ้ กั คดิ ฟังก็ไมร่ ูจ้ กั นกึ ไม่รูจ้ กั คดิ ไมร่ ูจ้ กั นกึ อะไร
เลย้ ไมม่ ีปัญญา ฉะนนั้ การท่ีรูจ้ กั คดิ รูจ้ กั นกึ รูจ้ กั ฝึกฝนปัญญา
น่ีหละเรยี กวา่ การเจรญิ ปัญญา ปัญญาเกิดไดเ้ พราะการเจรญิ

ทีนีเ้ จรญิ ตรงไหนหละคราวนี้ ไมใ่ ช่เจรญิ ท่ีภายนอก การ
เจรญิ ภายนอก คดิ นกึ ในการท่ีจะประกอบกิจกานงานอะไรตา่ งๆ

4

ทกุ สิง่ ทกุ ประการท่ีเราทาํ ลงไปนนั้ ก็เป็นการเจรญิ ปัญญา
เหมือนกนั แตใ่ นทางพทุ ธศาสนาท่านไม่ใหเ้ จรญิ อย่างนนั้ ให้
เจรญิ เขา้ มาในตวั ของเรา ดงั ตงั้ บทไวเ้ บอื้ งตน้ ตงั้ หลกั ท่จี ะให้
เกิดบอ่ เกิดของปัญญามาเบอื้ งตน้ วา่ มาเม่ือกีว๊ า่ ธาตุ ขนั ธ์
อายตนะ อนิ ทรยี ์ ตวั ของเราทงั้ หมดน่ีเรยี กวา่ ธาตุ ๔ เอาตงั้ ตรง
นีแ้ หละ เอาตรงนีแ้ หละ พจิ ารณาตรงนีแ้ หละ

ถา้ หากเราไม่ไดย้ ินไดฟ้ ังแลว้ และเราไม่เคยคดิ เคยพิจารณา
เราก็จะเห็นเป็นตวั ตนคนเราคนหนง่ึ คอื ตวั ของเราเน่ยี วา่ เป็นตวั
คน ถา้ หากวา่ เรามาทงิ้ คาํ วา่ คนหรอื วา่ ตนวา่ ตวั ลองดซู คิ ราวนี้
มนั จะเป็นอะไรแลว้ คราวนี้ จะเป็นกอ้ นอะไรก็ไม่ทราบ คนก็อยา่
ไปพดู ซะ ตนกอ็ ยา่ ไปพดู ซะ อนั นีจ้ ะเป็นตวั อะไรก็ไมท่ ราบ อนั นี้
อนั ท่ีไมม่ ีช่ือไมม่ ีสมมตุ ิเน่ยี แตม่ นั ปรากฏอยเู่ น่ีย ถา้ เราทิง้ ช่ือ
สมมตุ นิ นั้ เสียแลว้ น่นั ตงั้ ใจมาคิดพจิ ารณา ถงึ จะเกิดปัญญา เรา
มาดตู วั น่ี อนั ตวั กอ้ นตวั นี้ เป็นตวั อะไรกนั แน่ เม่ือเราไดเ้ คยไดย้ ิน
ฟังคาํ สอนพระพทุ ธเจา้ แลว้ เราเขา้ ไปคิดคน้ พิจารณา ดงั เรา
สาธยายอย่แู ลว้ วา่ อมิ ัสมงิ กาเย เกสา โลมา นขา ทนั ตา

5

ตโจ ไลล่ งไปสิ อนั นนั้ ก็เป็นผม อนั นนั้ ก็เป็นขน อนั นนั้ ก็เป็นเลบ็
อนั นนั้ ก็เป็นฟัน อนั นนั้ ก็เป็นหนงั พอแยกออกทงั้ หมดเลย คนไม่
มี ไมท่ ราบไปไหนกนั หมด ไม่มีคน ตกลงวา่ เป็นอาการ ๓๒ ทงั้
๓๒ ประการน่แี หละ

แยกออกเป็นธาตุ ๔ คือส่งิ ท่มี นั แข็งขน้ ไปเป็นธาตดุ นิ ซะ
เช่น ผม ขน เลบ็ ฟัน หนงั เนอื้ เอน็ กระดกู เย่ือในกระดกู มา้ ม
หวั ใจ ตบั พงั ผดิ ไตใหญ่ ไตนอ้ ย อาหารใหม่ อาหารเกา่ ๑๘ นี้
เป็นดิน ดนิ มีลกั ษณะผดิ แปลกกนั ไมต่ อ้ งดไู กลอะ้ ไมใ่ หจ้ ิต
สง่ ไปท่ีอ่นื หละ ดเู ฉพาะผม ขน เลบ็ ฟัน หนงั เนือ้ เอ็น มี
ลกั ษณะท่ีแปลกกนั แตใ่ หส้ มมตุ วิ า่ ดนิ บญั ญตั วิ า่ ดินเพราะเป็น
สง่ิ ท่ีแขง็ ปรากฏแขง็ ขน้ ปรากฏ เรยี กวา่ ธาตดุ นิ สง่ิ ท่ีมนั เหลว
เรยี กวา่ ธาตนุ า้ํ คือนา้ํ ดี นา้ํ เลอื ด นา้ํ หนอง นา้ํ เหลือง นา้ํ เหง่ือ
นา้ํ ไคล นา้ํ ดี นา้ํ เสลด นา้ํ มตู ร มีอย่ใู นตวั ของเราน่ี น่ีเรยี กวา่ ธาตุ
นา้ํ

ธาตลุ มคอื ลมขนึ้ ขา้ งบนก็ดี ลมลงขา้ งลา่ งก็ดี คนเฒา่ คนแก่
คงจะเหน็ ชดั อยหู่ รอกเร่อื งลมขนึ้ ขา้ งบน มนั ทาํ ใหม้ ืดหนา้ มืดตา

6

มนั อาเจียนออกมาน่นั เรยี กวา่ ลมขนึ้ ขา้ งบน ลมลงขา้ งลา่ งคอื
มนั ขบั ใหป้ ัสสาวะอจุ จาระถา่ ยเทออกไปได้ ระบายลม อนั นนั้
เรยี กลมลงขา้ งลา่ ง ลมพดั ไปในตวั คือลมมนั ซา่ นอยตู่ ามตวั ของ
คนเรานี้ มีลมซาบซา่ นไปท่วั หมดสรรพางคก์ าย ระบายออกตาม
ขมุ ขน อนั นีล้ มในตวั ลมในไสใ้ นพงุ ทาํ ใหเ้ จ็บใหข้ ดั ใหอ้ ดื ให้
เฟอ้ ทอ้ งเฟอ้ ทอ้ งขนึ้ ดว้ ยประการตา่ งๆ อนั นนั้ มนั ลมอยใู่ น
ลาํ ไส้ ลมพดั ไปในตวั ลมหายใจออกหายใจเขา้ เป็นช่องระบาย
ชอ่ งใหญ่ มีพดั หนั ไปมาท่วั สรรพางคก์ าย อนั นีเ้ รยี กวา่ ธาตลุ ม
ธาตไุ ฟก็ไม่ปรากฏ ธาตลุ มกไ็ มป่ รากฏ

ธาตไุ ฟคอื ทาํ ใหเ้ ราอบอนุ่ ท่ีมีอยใู่ นตวั เราทงั้ หมด ถา้ หากท่ี
ไหนธาตไุ ฟไปไม่ถึง ธาตลุ มก็ตามไม่ถงึ ลมกบั ไฟมนั ตามกนั ไป
ดงั เราจดุ เทยี น ถา้ ลมไมม่ ี เทียนมนั ก็ไม่ตดิ ไม่ลกุ ไฟมนั ตอ้ ง
อาศยั เพราะไฟตดิ ก็ชใู หล้ ม ดงึ กนั ไป ดงึ ดดู กนั ไป มนั ไฟกบั ลม
มนั ตดิ กนั ไป มนั อบอนุ่ ไปท่วั สรรพางคก์ ายเพราะลมพดั ผนั ไปมา
ทาํ ใหธ้ าตไุ ฟอบอนุ่ ท่วั ถา้ ธาตไุ ฟไปไม่ถึง ก็คอื ลมไปไม่ถงึ น่นั เอง
มนั ทาํ ใหเ้ หนบ็ ใหม้ นึ หรอื ตายเยน็ ก็ได้ ดว้ ยประการตา่ งๆอนั นี้

7

เรยี กวา่ ธาตไุ ฟไมถ่ งึ ไฟใหอ้ บอนุ่ ท่วั รา่ งกายของเรา ไฟอนั หนง่ึ
เป็นเหตใุ หเ้ ผาอาหารใหย้ ่อยยบั ถา้ ไม่มีไฟ หรอื ไฟออ่ น อาหาร
ไมย่ อ่ ยบดู เนา่ อนั นีอ้ าศยั ไฟกองนนั้ หละ เผาอาหารใหบ้ ดู เนา่
เราทานอาหารลงไปบางทีจะเป็นของแข็งเช่นกระดกู ออ่ นอยา่ งนี้
เป็นตน้ หรอื เม็ดมะขาม เมด็ อะไรก็ตามเถอะท่ีแขง็ ๆ ถา้ หากไม่มี
ไฟกองนีเ้ ผาใหเ้ สียแลว้ ละก็ แลว้ เทา่ นนั้ ไม่ละลายหรอก อนั นีม้ ี
ไฟกองนีส้ าํ หรบั เผา

ไฟอกี ชนิดหนง่ึ รา้ ยกาจท่ีสดุ ก็คือไฟยา่ งรา่ งกายของเราให้
เห่ียวแหง้ ชาํ รุดทรุดโทรม ไฟอนั นีท้ าํ ใหเ้ ราแกเ่ ฒา่ ชาํ รุดทรุด
โทรมง่อนแงน่ ไปตามลาํ ดบั อนั นีไ้ ฟรา้ ยมาก ไฟอบอนุ่ ยงั
รา่ งกายใหอ้ บอนุ่ ไฟยงั เผาอาหารใหย้ อ่ ยยบั ไป ไฟท่ีเผารา่ งกาย
ใหเ้ ห่ียวแหง้ ทรุดโทรม ไฟทงั้ หลายท่ีมีอย่ใู นตวั ของเราทงั้ หมด
เน่ีย ถา้ หากเราพจิ ารณาอยา่ งนี้ ทงั้ ดนิ ทงั้ นา้ํ ทงั้ ลม ทงั้ ไฟ มา
พิจารณาในตวั ของเราแลว้ เราจะมองเหน็ ตวั ของเราน่นั น่ะเป็น
โรคอนั หนง่ึ คอื วา่ มีดนิ นา้ํ ไฟ ลมผสมมาเป็นกอ้ นขนึ้ มาแลว้ ก็
ทาํ งานตามหนา้ ท่ีของมนั มดี นิ นา้ํ ไฟ ลม ผสมกนั แลว้ กท็ าํ งาน

8

ตามหนา้ ท่ีของมนั เชน่ เทา้ เช่นมือของเราก็ดี ท่ีเราจะคเู้ หยียดได้
ท่ีจะขงึ จะตงึ ออกไปได้ หรอื ประกอบการงานอนั ใดก็เพราะหม่นู ี้
แหละ มนั ช่วยใหม้ นั คลอ่ งแคลว่ ในท่ีสดุ อาหารท่ีอยใู่ นกระเพาะ
ของเราท่ีเราทานลงไป กระเพาะไฟทงั้ หลายนี้ กระเพาะลม
ทงั้ หลายนี้ ทาํ หนา้ ท่ีของมนั ใหย้ ่อยยบั ซมึ ซาบไปตาม
เสน้ ประสาท ทาํ สรรพางคก์ ายของเราน่ีใหช้ ่มุ ช่ืนสดใส ไม่เห่ียว
แหง้ นาํ ไปหลอ่ เลยี้ งโดยท่ีเราไม่ไดน้ กึ คดิ เลย โดยท่ีเราไมไ่ ด้
บงั คบั มนั เลย เคา้ ทาํ ตามหนา้ ท่ีของเขา สง่ิ ใดท่ีจะเป็นไปเพ่ือ
การหลอ่ เลยี้ งมนั กห็ ลอ่ เลีย้ งไปตามเร่อื ง อนั ใดเป็นกากเป็นเศษ
มนั ก็ขบั ถา่ ยออกไปตามเรอ่ื งของมนั มนั กเ็ ป็นไปตามเรอ่ื งของ
มนั

ถา้ หากเรามาพิจารณาอยา่ งนีแ้ ลว้ มนั จะเกิดความรูส้ กึ
ขนึ้ มาชนิดหนง่ึ ถา้ หากจิตของเรารวมหรอื จติ ของเราสงบไป
พรอ้ มๆกบั เราพจิ ารณานนั้ จะมีความรูส้ กึ อนั ใดขนึ้ มาในการ
พิจารณานนั้ อยา่ งนอ้ ยท่ีสดุ จะมีความรูส้ กึ วา่ แปลกประหลาด
รา่ งกายนีเ้ ป็นของแปลกประหลาดมาก หรอื มิฉะนนั้ เราจะเหน็

9

รา่ งกายของเรานีเ้ ป็นเคร่อื งจกั รยนตก์ ลไกอนั หนง่ึ ซง่ึ มนั ทาํ งาน
ตลอดวนั คืนรุง่ ๒๔ ช่วั โมงไม่มีหยดุ เลย จากอนั นีน้ ่นั ตงั้ แตเ่ กิด
จนวนั ตาย หยดุ เม่ือไหรก่ ็ตายเม่ือนนั้ น่ีจะเกิดความรูแ้ ปลก
ประหลาดขนึ้ มา เป็นของนา่ คดิ เป็นของน่าพจิ ารณา เป็นของ
แปลกประหลาดจรงิ ๆ คนเลยจะไมม่ ีหละคราวนี้ เป็นเครอ่ื งจกั ร
หมดแลว้ คนเลยหายไปเลย จะกลายเป็นโลกไปแลว้ คนก็เลย
หายไป จะเป็นเครอ่ื งยนตไ์ ปอกี หละ

เหตนุ นั้ สมยั ครงั้ พระพทุ ธกาลโวหารของพระอรยิ เจา้
ทงั้ หลาย ท่านเห็นหนา้ เห็นตากนั ทา่ นไมไ่ ดพ้ ดู วา่ ทา่ นสบายดี
อยหู่ รอื หรอื วา่ ทา่ นเป็นอะไร ทา่ นมาจากไหน ท่านไปยงั ไง ทา่ น
ไมพ่ ดู อยา่ งนนั้ สาํ นวนของพระอรยิ เจา้ น่นั คอื ทา่ นไม่มีสมมตุ ิ
บญั ญตั ิ ท่านเอาของจรงิ น่ีมาพดู ท่านบญั ญตั ขิ นึ้ ตา่ งหากของ
ทา่ น ตามเป็นจรงิ สมมตุ ิขนึ้ ตามเป็นจรงิ คาํ วา่ คนมนั ก็ไม่มี คาํ
วา่ มนษุ ยม์ นั ก็ไม่มี เลยท่านเลยเปรยี บ พอเห็นหนา้ เหน็ ตาก็
ทกั ทายกนั

สรีรยนฺตํ ยนตค์ ือสรรี ะของท่าน

10

ขมนียํ พออดกลนั้ อยหู่ รอื
สรีระยนั ตัง ยนตค์ อื สรรี ะของทา่ นน่ะ จตจุ กฺกํ มีจกั รส่ี
ขมนียํ พออดกลนั้ หรอื ทา่ นถามกนั อยา่ งนี้ สรีรยนตํ จตุจกฺกํ
นวทวารํ น่ีทวารเกา้ ขมนียํ ทา่ นอดไดห้ รอื ทาํ ไมท่านจงึ ถาม
อย่างนนั้ ท่านไปดขู องจรงิ วา่ สรรี ะนีเ้ ป็นเครอ่ื งยนต์ จตจุ กฺกํ
จกั รส่ี คอื ไดแ้ กอ่ ิรยิ าบถส่ี นวทวารํ มที วาร ๙ นบั ดสู ทิ วารของ
เรามีเกา้ หมดทงั้ ตวั้ ขมนียํ พออดทนทานอย่หู รอื ไมเ่ หมือนพวก
เราทกุ วนั เนยี้ พอเหน็ หนา้ เหน็ ตา สบายดหี รอื อนั นีผ้ ตู้ อบวา่
สบาย ถา้ ความจรงิ แลว้ โกหกกนั ทงั้ เพ อนั ถา้ ความจรงิ แลว้ โกหก
กนั ทงั้ เพ มนั จะไดค้ วามสบายมาจากไหน เพียงแตว่ า่ พออดพอ
ทนไดไ้ ปวนั หนง่ึ ๆเท่านนั้ หละ ไมม่ ีความสบายหรอกคนเรา
ดงั เคยอธิบายใหฟ้ ังมาแลว้ ทกุ ขอ์ ย่ตู ลอด ๒๔ ช่วั โมง แม้
ท่ีสดุ จะนอนหลบั ก็ยงั มที กุ ขอ์ ยู่ ต่นื ขนึ้ มา รูส้ กึ ขนึ้ มาทกุ ขข์ นึ้ มาก็
ทกุ ข์ ขณะท่ีเราหลบั อยกู่ บั ยงั ทกุ ข์ คือมนั กลบั กลิง้ ไปมา โดยท่ี
เราไมไ่ ดต้ งั้ ใจกลิง้ กลบั ไปมา แตม่ นั ทนไมไ่ หว มนั กลบั ตวั มนั เอง
น่ีแสดงวา่ ทกุ ขเ์ ตม็ ท่ีแลว้ อดกลนั้ ไปวนั หน่งึ เทา่ นนั้ นะ่ ครนั้ ถา้ จะ

11

พดู ถึงเร่อื งลอ้ เรอ่ื งเกวยี นละ มนั ก็กลิง้ ไปหมนุ ไป เราเดนิ ไปเดิน
มาก็เหมือนกบั กลิง้ ไปหมนุ ไปน่นั แหละ ปัญญาท่ีเรามาพิจารณา
อยา่ งนีใ้ หเ้ กิดความรูส้ กึ ขนึ้ มา คิดแตกจากปกติเดิม คือวา่ คิดนกึ
แตก่ ่อนเกา่ เราเขา้ ใจวา่ เป็นคน ทีหลงั ถา้ หากเราพจิ ารณาดงั
อธิบายมานี้ เกิดความรูส้ กึ ขนึ้ มาไม่ใช่คนเสยี แลว้ คราวนี้ มนั
เป็นเร่อื ง จกั รเสียแลว้ มนั เป็นเรอ่ื งยนตจ์ กั รกลไกลเสยี แลว้ หรอื
มนั เป็นโรคอนั หนง่ึ เสยี แลว้

นอกจากนนั้ อกี หากคนจะมปี ัญญาสอดแหลมเขา้ ไปอกี มนั
จะเหน็ ตวั ตนคนทงั้ หมด ตวั ของเรานีป้ ระกอบไปดว้ ยอสภุ ะ
ปฏกิ ลู ดงั ท่ีอธิบายมานนั้ ผมก็ปฏกิ ลู โสโครก ผม เลบ็ ฟัน หนงั
ย่ิงแลว้ กระดกู เนือ้ เอน็ ย่งิ เป็นของปฏิกลู มาก อาหารใหม่
อาหารเก่าภายในย่งิ แยใ่ หญ่ สาํ นวนโบราณท่านอธิบายไวว้ า่
หลมุ สว้ น คนเราคือหลมุ สว้ มดๆี น่นั เอง อคุ ฆฺ รนฺตํ ปคฺฆรนฺตํ
ไหลออกไหลเขา้ ของเกา่ ออกไหลออกไป ของใหมไ่ หลเขา้ ไป
ไหลกนั อย่อู ยา่ งนนั้ ไม่ใช่มนั ขบั ถา่ ยไหลออกไปตามทวารหนกั

12

ตามขมุ ขนตา่ งๆ มนั ก็ซมึ ซาบขบั ถา่ ยออกไป ช่ือวา่ เหง่ือวา่ ไคล
มนั ตอ้ งเป็นของปฏกิ ลู โดยสว่ นเดยี ว

ถา้ พดู ถงึ เร่อื งปฏิกลู หละเกลยี ด ไม่อยากฟัง แลว้ ไม่ไดค้ ิด
ดว้ ย คอื ไม่อยากเห็นของจรงิ น่นั เอง ถือวา่ เป็นของเลวซะ แลว้
ไม่ไดข้ องจรงิ ซกั ที หากวา่ เราสตู้ งั้ ใจพิจารณาของจรงิ แลว้ จะ
เหน็ ชดั ขนึ้ มาวา่ เป็นของปฏกิ ลู แท้ อนั นีเ้ ราเมนิ หนีซะ ไมอ่ ยาก
เหน็ ของจรงิ พดู ก็เลยไมอ่ ยากพดู คิดก็เลยไม่อยากนกึ อยากคดิ
จงึ เป็นเร่อื งปกปิดปัญญา ไม่ใหเ้ กิดความรูข้ นึ้ มา ไมเ่ หน็ ตาม
เป็นจรงิ ขนึ้ มา หรอื มิฉะนนั้ ถา้ หากวา่ เราตงั้ ใจพิจารณาจติ มนั อยู่
กบั ท่ีสงบเป็นสมาธิไปพรอ้ มๆกนั อาจจะเกิดความรูม้ าอีกหลาย
ดา้ นหลายทาง เชน่ เห็นเป็นของปฏกิ ลู แลว้ เหน็ เป็นของปฏิกลู
เหมือนกนั เป็นเหตใุ หเ้ บ่อื หนา่ ย เหน็ เป็นกอ้ นทกุ ข์ ทนทรมานเอา
จรงิ ๆจงั ๆ

ดงั สาํ นวนพระอรยิ เจา้ ทา่ นวา่ ขมนยี ํ พออดกลนั้ ไดห้ รอื คาํ
วา่ อดกลนั้ กห็ มายความวา่ ทกุ ขเ์ ต็มทหี ละ ท่ีเคา้ ตอ้ งอดตอ้ ง
กลนั้ ตอ้ งทนทกุ ขแ์ ละสกู้ บั ทกุ ขห์ ละ ถงึ เรยี กวา่ อดกลนั้ เห็นเป็น

13

กอ้ นทกุ ข์ แลว้ จะสงั เวชสลดใจในตวั ของเราเอง วา่ เราแหม จน
เราเกิดมาจนกระท่งั บดั นี้ ทนทกุ ขเ์ อาเสยี จรงิ แลว้ จะเหน็ ความ
โง่ของตนอกี เราเพลดิ เพลนิ มวั เมามาแตไ่ หนแตไ่ ร เราไม่นกึ คิด
วา่ มนั ทกุ ขอ์ ยา่ งนีเ้ สียเลย มาบดั นีเ้ ห็นชดั ขนึ้ นะ่

แหม มนั กอ้ นทกุ ขจ์ รงิ ๆ เราเพลดิ เพลนิ ลมุ่ หลงมวั เมานนั้ เรา
ไมเ่ หน็ แลว้ จะคอ่ ยหลงมวั เมา เมาอยใู่ นกองทกุ ข์ เพลดิ เพลนิ อยู่
ในกอ้ นทกุ ขจ์ รงิ ๆ จะเหน็ ความโงข่ องตนเกิดขนึ้ มา ความฉลาด
เกิดขนึ้ แลว้ ก็เห็นความโง่ของตนหละคราวนี้ ถา้ ความโงย่ งั
ปกปิดอย่ตู ราบใดแลว้ ความฉลาดไมเ่ กิด แลว้ ไมเ่ หน็ ความ
ฉลาดซกั ที ฉลาดก็ฉลาดแกมโงน่ ่นั แหละ ฉลาดอะไรก็ฉลาดไป
เถิด เหน็ เพียงเปลอื กๆ ตืน้ ๆเผนิ ๆ เพราะวา่ ตนเหน็ แลว้ วา่ ตน
ฉลาดแลว้ ตนรูแ้ ลว้ เพียงพอแลว้ น่นั นะ่ ฉลาดแกมโง่ ถา้ ไมเ่ หน็
อย่างวา่ นีแ้ ลว้ มนั ตงั้ โงแ่ สนโง่ จะไมโ่ ง่ยงั ไง๊ นอนเฝา้ มาตงั้ แต่
เกิดจนตาย ไม่เคยพิจารณาเลยซกั ที และไม่เคยเหน็ อย่างนีซ้ กั ที
จะไม่โง่ยงั ไง

14

น่ีแหละถา้ หากวา่ เรามาตงั้ หลกั จบั จดุ อนั นีไ้ ดแ้ ลว้ มาตงั้ ใจ
พจิ ารณาธาตขุ นั ธ์ อนั นวี้ า่ เฉพาะถงึ เรอ่ื งธาตุ ขนาดพดู ถึงเร่อื ง
ธาตุ ขณะพดู ถึงธาตุ ๔ ดนิ นา้ํ ไฟ ลมแลว้ ก็ไมห่ นี ก็ตดิ จาก
ขนั ธด์ ว้ ยกนั คอื ขนั ธ์ ๕ ขนั ธ์ ๕ ก็หมายเอาตวั รูปน่ีแหละ แลว้ จะ
ใหเ้ กิดปัญญาอยา่ งอธิบายมาน่ี น่ีมนั ตอ้ งเขา้ มาในนี้ พิจารณา
ธรรมะ คอื พระพทุ ธเจา้ เทศนาเพ่ือใหช้ าํ ระตวั ตนคนเราแตล่ ะ
คนๆ ถา้ ไมเ่ หน็ อยา่ งนีแ้ ลว้ มนั จะโลภโมโทสนั ไปท่ีไหนคนเรา
มนั จะไปหลงความสวยความงามมาจากไหน หลงหนมุ่ หลงแก่
มาจากไหน มนั ไมม่ ีหรอก มนั มีแตจ่ ะสลดสงั เวชในใจของตน
ทิฐิมานะ กิเลสทงั้ ปวงหมด ความโลภ ความโกรธ ความหลง
จะตอ้ งหายหนีเลย หายเด็ดขาดเลย ก็โลภไอต้ วั ธาตุ ๔ จะโลภ
ไปทาํ ไม อสภุ ะปฏกิ ลู มนั จะหลงวา่ ตนสวย ตนงาม ตนดี ตน
วเิ ศษวิโสอะไร วา่ ตนเป็นหนมุ่ เป็นแกย่ งั ไง ถา้ กอ้ นดนิ แทๆ้

สาํ นวนโวหารทา่ น โบราณทา่ นแตง่ เป็นคาํ โครงคาํ กลอนไว้
อวดตนอวดดนิ ถา้ พดู หยาบๆ ทา่ นพดู ถึงเร่อื งของจรงิ นะ่ พดู ถงึ
ท่ีสดุ เลย อวดกิน อวดขี้ อวดดี แกต่ าย ลองดสู ิ ไม่มีปัญหา อวด

15

ตน อวดดินไมม่ ีปัญหาเลย กอ้ นดนิ ทงั้ กอ้ นแทๆ้ เอากอ้ นดินไป
อวดเขาทาํ ไม เอาตวั ไปอวดเขา ก็เรยี กวา่ เอากอ้ นดนิ ไปอวดเขา
ก็อธิบายมาแลว้ วา่ ธาตุ ๔ คอื กอ้ นดิน เหน็ ชดั จรงิ ๆคอื กอ้ นดนิ
เอากอ้ นดนิ ไปโชวบ์ า้ นโชวเ์ มือง มนั ก็โงแ่ สนโง่คนเรา อายตนเอง
ไปอวดไมไ่ ดห้ รอก อยา่ งวา่ อวดตนอวดดนิ

อวดกิน อวดขี้ ไมม่ ีปัญหาอกี เหมือนกนั อะไรก็เอาเถิด ทาน
อะไรก็เอาเถิด ไม่เป็นอะไรหรอก มนั เป็นอนั เดียวกนั น่นั แหละ
ทานดไี ม่ดีก็เป็นอนั เดียวกนั เหตนุ นั้ ถา้ หากเขา้ ใจชดั อย่างนีแ้ ลว้
ทานอะไรก็เอาเถิด ของดขี องไมด่ ีก็เอา จะเป็นของดีมีคา่ มีคณุ
หรอื ของไม่ดีก็เอา ทานเพ่ือยงั ชีวติ ใหเ้ ป็นไป ถา้ หากขาดอนั นี้
เสยี แลว้ เป็นตายคนเรา ตกลงวา่ ตอ้ งตาย ถา้ หากเรามาเขา้ ใจงี้
แลว้ คนเราทงั้ โลกแสวงหาตลอด ๒๔ ช่วั โมง หนกั เอาเบาสู้
ตลอดกาลเวลา หาเทา่ ไรก่ ็หามาบาํ รุงอนั เดียวคือกอ้ นเดยี วน่ี
แหละ ไม่ไดห้ นีจากนหี้ รอก แลว้ จะรูส้ กึ ตน ละอายตนเอง มนั
ชา่ งบาํ รุงของไม่ดีจรงิ จรงิ๊ น่ีมนั เป็นอยา่ งนีถ้ า้ พจิ ารณาธรรมมนั
เขา้ ไปแลว้ ถา้ พิจารณาถึงเรอ่ื งโลกแลว้ หากิน หาทาน ของ

16

เอรด็ อรอ่ ย ของมีคา่ มีคณุ ประโยชนอ์ ยา่ งนนั้ อยา่ งนีอ้ ะไรตา่ งๆ
ไป ไมใ่ ชแ่ ตเ่ พียงวา่ แตจ่ ะหามาบาํ รุงใหม้ นั มีชีวิตอย่เู ท่านนั้ ยงั
จะไปอวดโอค้ นนนั้ คนนีอ้ กี กบั คยุ โมใ้ หญ่โตก็ตาม ใฝ่ใหญ่โต น่ี
มนั ออกไปนอก ธรรมมนั ไม่เป็นธรรม มนั ตอ้ งไปอย่างนนั้ คราวนี้
มนั ก็เลยเป็นเร่อื งหามากแลว้ คราวนี้ หานอ้ ยไมพ่ อ โอเ้ ทา่ ไหรก่ ็
ไมพ่ อ อวดเทา่ ไหรก่ ็ไม่พอ อวดใหญ่โอใ้ หญ่ กลายเป็นเร่อื ง
ลาํ บากยากย่งุ ไปใหญ่โตรโหฐาน ในผลท่ีสดุ ก็เมาอย่คู นเดียว

เรอ่ื งเราเมาคนเดยี วน่นั แหละ เมามนั ไมม่ ีประโยชน์ ถา้ หาก
เราพิจารณาธรรมะดงั อธิบายมาน่ีแลว้ จะเพลนิ สนกุ ในเร่อื งการ
คิดพจิ ารณา ปัญญาจะเกิดความผอ่ งใส เราพิจารณาอย่างนี้
เรยี กวา่ สะสมอบรมเจรญิ ปัญญา ปัญญาน่ีเป็นปัญญาเพ่ือพน้
ทกุ ข์ ปัญญานเี้ พ่ือจิตใจผ่องใส ไม่ไดโ้ ออ้ วดผใู้ ด ปัญญานีเ้ ป็น
ปัญญาเพ่ือความบรสิ ทุ ธิ์ ไมไ่ ดม้ ีกิเลสเขา้ ไปแฝง แลว้ ก็อย่เู ยน็
เป็นสขุ ทงั้ ตนและคนอ่ืน อย่ไู ปช่วั วนั ๆ ไดร้ บั ความสขุ เม่ือเราละ
เสียซง่ึ ความถือตน อหงั การ มมงั การ มนั ก็ไมม่ ีการกระทบคน
นนั้ คนนี้ มนั กไ็ ม่ไปเดอื ดรอ้ นคนอ่นื ตวั ของเราก็เย็น คนอ่นื ก็

17

สบาย โลกทงั้ หลายถา้ ฝึกหดั ไดอ้ ยา่ งนนั้ มนั ก็อยเู่ ยน็ เป็นสขุ ได้
ทงั้ โลก

อนั นีค้ นเรามนั หาแกเ้ ร่อื งภายนอก มนั แกไ้ มไ่ หว อยา่ งวา่ แก้
ใหอ้ ย่ดู ีกินดี รฐั บาลพากนั ประกาศโฆษณา ใหอ้ ย่ดู กี ินดี ทาํ
ยงั ไงคิดดซู ิ อยดู่ กี ินดีอยยู่ งั ไง ตามธรรมดาหาก็ตอ้ งมีการ
กระทบกระเทอื นในกนั และกนั การคน้ หาก็แสวงหาดว้ ยกนั
ทงั้ นนั้ ใครก็อยากได้ ใครก็หา หาเท่าไหรก่ ็ไมพ่ อ ไดเ้ ท่านีว้ า่ จะ
พอมนั ยงั ไมพ่ อ ไดเ้ ท่าไหรก่ ย็ งั ไม่พอเสยี ทเี ลย ก็เพราะเหตทุ ่ี
ความถือตนถือตวั อวดดอี วดเดน่ มนั จงึ คอ่ ยเป็นเหตใุ หท้ ะเยอะ
ทะยาน เยอ่ หย่ิงขนึ้ ไป เม่ือเยอ่ หย่งิ ทะนงขนึ้ ไปมนั ก็เป็นเร่อื ง
กระทบกนั เบยี ดเบยี นซง่ึ กนั และกนั แลว้ ก็เหยียดหยามคนท่ีจน
คนทกุ ข์ มนั จะไดค้ วามสขุ มาจากไหนแบบนนั้ ฉะนนั้ เร่อื งทบั ถม
ซง่ึ กนั และกนั

เหตนุ นั้ ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารี พระพทุ ธเจา้ ทา่ นตรสั
เทศนาวา่ ธมโฺ ม หเว รกฺขติ ธมมฺ จารี ผใู้ ดมีธรรมะเป็นเคร่อื งอยู่
หรอื เครอ่ื งรกั ษาธรรมะ อยา่ งท่ีอธิบายมาเนีย้ เรยี กวา่ ปฏิบตั ิ

18

ธรรม ธรรมยอ่ มตามรกั ษาคนนนั้ ใหไ้ ดร้ บั ความสขุ ทกุ คนนะ่ พา
กนั มีธรรมเป็นเคร่อื งรกั ษาแลว้ ไดค้ วามสขุ ทกุ ๆคนแลว้ มนั ก็สขุ
หมดเทา่ นนั้ สิ อนั นีค้ นอ่นื บางทีมีคนรกั ษาความสขุ มีธรรมเป็น
เครอ่ื งอยู่ คนนอกนนั้ ไมม่ ีธรรมเป็นเคร่อื งอยู่ มนั ก็
กระทบกระเทือนเบียดเบยี นกนั กบั คนอ่นื นะ่ คนท่ีมีธรรมก็เลย
พลอยอยไู่ ม่ไดอ้ ีก นานๆเขา้ เพราะอธรรมมนั มากกวา่ ธรรม มนั
ก็เลยวนุ่ ไปตามกนั ยากเหลอื ยากท่ีจะทนทานไหว มนษุ ย์
ชาวโลกจงึ เป็นเรอ่ื งทกุ ขม์ าก

เหน็ แลว้ จงึ พากนั บาํ รุง คอื วา่ เจรญิ ปัญญาดงั ท่ีอธิบายมานี้
การเจรญิ ปัญญา ถา้ มนั มีท่ตี งั้ และมนั มที ่ีพจิ ารณา ไมม่ ี
เคร่อื งวดั การเจรญิ สมถะก็ลงนีเ้ หมือนกนั คอื มายดึ เอาตวั นี้
แหละ พจิ ารณานีแ้ หละ พอเราพิจารณาแน่วอย่ใู นอนั นีท้ ีเดยี ว
น่นั เป็นตวั สมถะ ไมห่ นีไปจากอ่นื ไมห่ นีไปจากตวั ไมห่ นีไปจาก
กาย พิจารณาธาตุ ๔ ดิน นา้ํ ไฟ ลมดงั ท่ีไดอ้ ธิบายมานนั้ ก็ดี
หรอื วา่ พจิ ารณาเหน็ อสภุ ะปฏิกลู ก็ดี หรอื จะพิจารณาเหน็ โทษ
ทกุ ขข์ องไม่เท่ียงในสงั ขารรา่ งกายก็ดี เม่ือเราพจิ ารณาแน่วอยู่

19

อารมณอ์ นั เดยี วก็เรยี กวา่ สมถะ ความรูแ้ จงั ชดั ตามเป็นจรงิ มนั
ก็เกิดปัญญาขนึ้ มา มนั ก็อนั เดียวกนั น่นั แหละ อย่แู หง่ เดยี วกนั
นนั้ แหละ

เหตนุ นั้ การปฏบิ ตั ใิ หม้ นั มีหลกั ใหม้ นั มีเกณฑ์ ถา้ ปฏิบตั ิไม่มี
หลกั มีเกณฑแ์ ลว้ งมงายสมุ่ ส่สี มุ่ หา้ หยบิ โนน่ ฉวยน่ี ใครวา่ ดี
ตรงไหนก็ว่งิ ไป ใครวา่ ดีอะไรก็เอาว่งิ ไป หยิบมาแลว้ เรามนั ไมด่ ี
มนั ก็ไมด่ ซี กั ที เราไมถ่ กู มนั ก็เลยไมถ่ กู ซกั ที ความเป็นจรงิ ธรรมะ
ตามท่พี ระพทุ ธเจา้ ทา่ นสอนดงั อธิบายมาแลว้ เป็นของถกู
แลว้ แตต่ วั เรายงั ทาํ ไม่ถงึ หรอื ทาํ ไมท่ นั ถกู คอื เรายงั
กระสบั กระสา่ ย ว่งิ โน่นว่งิ นี้ อยากไดด้ ีใหท้ นั อกทนั ใจประเด๋ียว
ประดา๋ วน่นั เม่ือมนั ไมส่ มประสงคก์ ็เลยว่งิ หาสิ่งอ่นื อีกตอ่ ไป อนั
แบบนีเ้ อาเถอะ ไม่วา่ ธรรมะธรรมโม ไม่วา่ สงิ่ ใดๆทงั้ ปวงหมด
หละ หยบิ โนน่ ฉวยน่ี ไม่มหี ลกั มีฐานหละ เรยี กวา่ คนจบั จด ไม่
สาํ เรจ็ ประโยชนห์ รอก ถงึ แมจ้ ะอาชีพทางโลกก็เอาเถอะ จบั จดก็
ไม่สาํ เรจ็ ประโยชนแ์ นน่ อน การศกึ ษาเลา่ เรยี นก็ไม่สาํ เรจ็
ประโยชนแ์ น่นอน การปฏบิ ตั ิธรรมะก็ไม่สาํ เรจ็

20

เหตนุ นั้ จงึ พากนั ตงั้ หลกั ปักใหม้ นั แน่น ตงั้ ม่นั อยใู่ นท่นี ี้
อย่างนอ้ ยท่ีสดุ ก็เรยี กวา่ เราถกู หนทางแลว้ ถงึ เรายงั ไมเ่ ป็นก็อยา่
ไปทิง้ ทางนเี้ รยี กวา่ ทางมนั ถกู แลว้ น่ีแหละธรรมะท่ีอธิบายมาใน
วนั นี้ เพ่ือใหจ้ บั หลกั นีใ้ หม้ นั ได้ เอาไปประพฤติปฏบิ ตั ิฝึกหดั หาก
ยงั ไม่ไปถึงขนั้ นนั้ แตก่ ็อยา่ ไปทิง้ หลกั นี้ ความเป็นจรงิ เป็นของ
ถกู แลว้ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นเทศนส์ อนไวอ้ ยา่ งนนั้ ใหฝ้ ึกฝนอบรม
ตรงนี้ จะเรยี กวา่ สตปิ ัฏฐาน ๔ กายา เวทนา จติ ตา ธรรมา น่ี
แหละ ไมใ่ ชท่ ่อี ่ืนท่ีไกล ใหต้ งั้ หลกั นีใ้ หม้ นั ปักลงใหม้ นั หนกั แนน่
แนว่ แน่มนั ตรงนีแ้ ลว้ ถา้ ยงั ไม่เป็นก็อยา่ ไปทอดทิง้ ตรงนี้ แลว้
อย่าไปทาํ ใจรอ้ น ขอใหย้ ดึ วา่ คอื ถกู อยแู่ ลว้ หนทาง แตเ่ รายงั ไม่
ทนั ถกู คือเรามนั ใจรอ้ น คือยงั ไมม่ นั ปลอ่ ยวางอารมณอ์ ่ืน เรายงั
มงุ่ โนน่ มงุ่ น่ี สงสยั ลงั เลอยู่ ถา้ หากเราเช่ือม่นั วา่ ไมล่ งั เลสงสยั
แลว้ อนั นีถ้ กู ตอ้ งดีแลว้ หละ มนั ก็เป็นการทอดธรุ ะปลอ่ ยวางเรอ่ื ง
อารมณอ์ ่นื ๆ มนั ก็แน่วอยใู่ นเรอ่ื งเดียว กม็ ีวนั ท่ีจะถงึ ความ
ประสงคใ์ นการท่ีเราปฏิบตั ิ อธิบายมาในวนั นกี้ ็เพียงแคน่ ีแ้ หละ

21

ท่ีมา: https://youtu.be/lnMGJao-T0o

22


Click to View FlipBook Version