อยากเหน็ กายทพิ ย์
หลวงป่แู บน ธนากโร
อยากเหน็ พวกเทพพวกกายทิพยก์ นั มยั้ หละ มีนะ พวกนกั
ปฏบิ ตั ิชอบ อยากเหน็ พวกกายทพิ ย์ อยากเหน็ พวกเทพ อยาก
เหน็ พวกเทวดา อยากเก่ียวขอ้ งกบั เทวดา อยากสอนเทวดา ไม่
ยากดอก เหน็ กายของเราท่มี นั หยาบๆใหม้ นั ชดั ซะกอ่ น เร่อื งกาย
ทิพยม์ นั เป็นเรอ่ื งทหี ลงั กายของเราหยาบๆ ตาบอดคลาํ ก็ยงั
คลาํ ได้ ใจของเราก็ยงั ไมเ่ หน็ ยงั จะอวดเกง่ อยากไปเหน็ กาย
ทพิ ย์ อยากไปเห็นเร่อื งเทวดา มนั เป็นเรอ่ื งท่ีนา่ ขบขนั
ผมของเรามีก่ีเสน้ มนั หยาบอยา่ งกะตาบอดเอามือคลาํ ก็ได้
เราก็ยงั ไมร่ ูว้ า่ ผมมีก่ีเสน้ ขนมนั ก็เป็นตวั เป็นตน จนกระท่งั เรยี ก
กนั วา่ ขน เอาใจดู ขนก็ไมเ่ หน็ ดว้ ยซา้ํ เลบ็ ก็เหมือนกนั ฟันก็
เหมือนกนั หนงั ก็เหมือนกนั เหน็ อยา่ งท่ีชาวโลกเคา้ เหน็ นก หนู
ปู ปลิง มนั ก็เหน็ เหน็ ผม เหน็ ขน เหน็ เลบ็ เห็นฟัน เหน็ หนงั เหน็
แลว้ เกิดความยินดี เกิดความยนิ รา้ ย หมหู มามนั ก็เห็น เห็นอยา่ ง
1
นีไ้ มเ่ รยี กวา่ เหน็ เห็นตามสมมตุ ิ เหน็ ตามภาษาของโลก ไมเ่ หน็
อยา่ งภาษาของธรรมะ
เห็นอยา่ งภาษาของธรรมะ เหน็ แลว้ จะไม่เกิดความยนิ ดใี น
สงิ่ ท่ีเหน็ นนั้ จะไม่เกิดความยินรา้ ยในสง่ิ ท่เี หน็ นนั้ ผมจะแตง่
สีสนั วรรณะทรวดทรงยงั ไงกช็ า่ ง ก็เอาของสกปรกมาแตง่ นา้ํ อบ
นา้ํ หอมนา้ํ ยอ้ มไปทา ก็ไปยอ้ มไปทาของสกปรกนนั้ นา้ํ อบมนั จะ
หอมซกั ขนาดไหน ประเด๋ยี วประดา๋ วกลน่ิ มนั ก็เปล่ยี นแปลงไป
ผมมนั กย็ งั เป็นผมเหมือนเดมิ ยอ้ มมนั เป็นสดี าํ ไปยอ้ มมนั เป็นสี
อะไรก็ชา่ ง มนั ก็ยอ้ มของปฏกิ ลู เอาของปฏกิ ลู มายอ้ ม มนั ไม่ได้
หอม และมนั ไม่ไดเ้ ป็นส่งิ ท่ียอ้ มน่นั
ดกู ายของเราใหม้ นั ชดั เหน็ ชดั ตามความเป็นจรงิ ในกายทกุ
สว่ น ในกายทกุ สว่ นไมจ่ าํ เป็นจะตอ้ งเหน็ ชดั ไปทกุ สว่ น เห็นสว่ น
ใดสว่ นหน่งึ ใหเ้ ห็นชดั ลงไป แลว้ มนั อาจชดั ทกุ สว่ นเพราะสว่ น
ไหนก็เป็นกายเหมือนกนั สว่ นไหนก็เป็นของเกิดมา แก่มา ตาย
เหมือนกนั สว่ นไหนก็เป็นของเกิดของตาย จงึ วา่ เหน็ ชดั ลงไป
แลว้ สว่ นใดสว่ นหนง่ึ ชดั หมดในกายของเรานี้ ชดั หมดกายท่วั
2
โลกธาตุ เพราะกายท่ีไหน กายท่ีไหนมนั กเ็ หมือนกบั กายอนั นีค้ อื
เกิดมาตาย
การท่ีเกิดมนั กอ็ าศยั ดิน อาศยั นา้ํ อาศยั ลม อาศยั ไฟ อาศยั
โลก อาศยั ของท่ีมีอยใู่ นโลก ทา่ นจงึ วา่ สงั ขาร การรวมตวั รวม
ดนิ รวมนา้ํ รวมลม รวมไฟ รวมกนั เขา้ รูปรา่ งเป็นอยา่ งนนั้ ๆ
รูปรา่ งเป็นอยา่ งไรๆ น่นั นะ่ กรรมมนั แตง่ กรรมมนั ปั้น กรรมปั้น
กรรมแตง่ แตง่ รูปรา่ งมาเป็นคน ก็โลกเคา้ ก็สมมตุ ิวา่ เป็นคน แตง่
รูปรา่ งมีขนมากๆ มีขาส่ขี า มีหางเคา้ ก็เรยี กวา่ เป็นหมเู ป็นหมา
ไป เป็นพวกสมมตุ ิ แตค่ วามจรงิ ก็คือสงั ขารกองดิน กองนา้ํ กอง
ลม กองไฟมากองรวมกนั จะสมมตุ ิวา่ เป็นอะไรก็ชา่ ง มนั ไม่เป็น
อย่างสมมตุ ิ ของเกิดมาตาย จะสมมตุ วิ า่ เป็นยงั ไงเคา้ กต็ าย ของ
เกิดมาแก่มาเจ็บ จะสมมตุ วิ า่ เป็นอะไรเคา้ ก็แก่ เคา้ ก็เจบ็ จงึ วา่
รา่ งกายนีไ้ ม่เป็นอะไรซกั อยา่ ง จะสมมตุ หิ รอื ไมส่ มมตุ ิ จะสมมตุ ิ
วา่ เป็นอะไร หรอื จะสมมตุ ิวา่ ไมเ่ ป็นอะไร เคา้ ก็เป็นของเกิดมา
ตาย
3
สงั ขารทงั้ หลายมนั ไม่เท่ียง สงั ขารในเราไม่เท่ียง สงั ขารท่วั
โลกธาตกุ ็เหมอื นกนั เพราะมนั เหมือนกนั อาศยั กองดนิ กองนา้ํ
กองลม กองไฟกนั ขนึ้ เหมือนกนั จะมีใจครองหรอื ไม่มีใจครอง
เหมือนกนั หมด สงั ขารทงั้ หลายมีใจครอง ไม่มีใจครอง สงั ขาร
ทงั้ หลายรูปรา่ งหนา้ ตาอยา่ งไร จะเป็นสงั ขารจะเป็นสงั ขารสว่ น
หยาบ หมายถงึ กองดนิ กองนา้ํ กองลม กองไฟ จะเป็นสงั ขาร
สว่ นละเอยี ดคือความเกิดขนึ้ ของความคิด เกิดขนึ้ ของความคดิ
จะคดิ เรอ่ื งอะไรๆก็ช่าง อนั นนั้ ก็เรยี กวา่ สงั ขาร สง่ิ ท่ีเกิดขนึ้
ทงั้ หมดจะเป็นรูปธรรม จะเป็นนามธรรม เรยี กวา่ สงั ขารทงั้ นนั้
สงั ขารในเรา สงั ขารท่วั โลกธาตุ สงั ขารทงั้ หลายเกิดแลว้ ดบั
ไป เป็นอนตั ตา สงั ขารทงั้ หลายเกิดขนึ้ มาแลว้ ดบั ไป มนั ไมเ่ ท่ียง
สงั ขารทงั้ หลายแลว้ ดบั ไป มนั เป็นทกุ ข์ คาํ วา่ ไม่เท่ียง คาํ วา่ เป็น
ทกุ ข์ คาํ วา่ ไมใ่ ชต่ วั ไมใ่ ช่ตน ดบั ไป อนั นนั้ เป็นคาํ พดู พดู มาจาก
ไหน พดู มาจากความจรงิ เกิดขนึ้ เกิดขนึ้ มาจรงิ ๆ ไม่เท่ียงก็ไม่
เท่ียงจรงิ ๆ แกก่ ็แกจ่ รงิ ๆ เจบ็ ก็เจ็บจรงิ ๆ ตายก็ตายจรงิ ๆ แต่
4
ความจรงิ ความแก่ ความจรงิ ความเจบ็ ความจรงิ ความตายมนั
เป็นธรรมชาติ
ตน้ ไมม้ นั เกิดนานมนั ก็แก่ มนั เป็นธรรมชาติอย่างนนั้ ตน้ ไม้
มนั เกิดมามนั ตาย มนั ก็เป็นธรรมชาติ เราสมมตุ ธิ รรมชาติของสง่ิ
ท่ีเกิดขนึ้ นนั้ วา่ เป็นตน้ ไมว้ า่ เป็นคนเป็นสตั ว์ สมมตุ ธิ รรมชาติ
ของตน้ ไมท้ ่ีเกดิ ขนึ้ แลว้ เปล่ียนแปลงไปตามธรรมชาติ เรยี กวา่
การแก่ สมมตุ คิ วามไมเ่ ป็นปกติวา่ ความเจบ็ ความไข้ ความ
อาพาธ สมมตุ คิ วามสลายตวั ความตายวา่ เป็นความตาย ความ
จรงิ ความแก่ ความเจ็บ ความตาย มนั เป็นธรรมชาตขิ องสงิ่ ท่ี
เกิดขนึ้ เทา่ นนั้ เอง แกก่ ็เป็นคาํ สมมตุ ิกนั เจบ็ ก็เป็นคาํ สมมตุ ิกนั
ตายก็เป็นคาํ สมมตุ ิกนั แมค้ วามเกิดก็เป็นคาํ สมมตุ ิกนั สิ่งท่ีเกิด
จรงิ ๆเคา้ ไม่ไดร้ ูส้ กึ ไมไ่ ดร้ ูเ้ ห็นอะไร
ตน้ ไมม้ นั เกิด มนั ก็ไม่รูว้ า่ มนั เกิด ฟันของเราเกิด ฟันรูว้ า่ ฟัน
เกิดมยั้ เกิดมาทีแรกไม่มีฟันแลว้ ฟันเกิดทหี ลงั ฟันรูว้ า่ ฟันเกิดมยั้
ขนผมเราจะถอนเราจะโกน แลว้ สง่ิ ท่มี นั ยาวมานะ่ มนั รูว้ า่ มนั
ยาวมยั้ เลบ็ ก็เหมือนกนั เด๋ียวเราตดั เด๋ียวเราขดู ๆ ท่ีมนั ยาวมนั
5
หนาออกมา มนั รูว้ า่ มนั ยาวมยั้ หนงั ก็เหมือนกนั มนั ยืด มนั ยืด
มนั รูว้ า่ มนั โตขนึ้ มยั้ มนั เห่ียว มนั เห่ียว มนั รูว้ า่ มนั เห่ียวมยั้ ถาม
มนั ด!ู ถามมนั ดู ถามมนั มนั จะบอกวา่ ถามแลว้ ใครจะเป็นคน
ตอบ หนงั มนั ตอบไม่ได้ เราน่ีแหละเป็นผตู้ อบ เราคอื ใคร คอื ใจ
ของเราจะตอบ ใจของเราเป็นผถู้ าม ใจของเราเป็นผตู้ อบ ใจของ
เราศกึ ษาชดั แลว้ จงึ ตอบมาตามท่ีเหน็ ชดั นนั้
ในเร่อื งในลกั ษณะนีเ้ รยี กวา่ เป็นการศกึ ษา ภาวนาคือทาํ ให้
เกิด การท่ีจะเกิดความรูค้ วามแจง้ ความชดั ขนึ้ มา จะตอ้ งอาศยั
การศกึ ษาทงั้ นนั้ ภาวนานีไ้ มใ่ ช่ทาํ เหมือนกบั หวั ตอ ในเม่ือทาํ บน
หวั ตอ หวั ตอมนั จะรูเ้ รอ่ื งอะไร มนั ไมร่ ูจ้ นกระท่งั มนั เป็นหวั ตอ
ภาวนาอยากจะใหใ้ จรวม ภาวนาอยากจะใหใ้ จสงบ ถา้ หากวา่
ยงั อยากใหร้ วม อยากใหส้ งบอยู่ ความอยากยงั มีอยใู่ นใจตราบ
ใด ความอยากอนั นีห้ ละมนั จะทาํ ใหค้ วามสงบไม่มีโอกาสท่ีจะ
เกิดขนึ้ ละความอยากทกุ สงิ่ ทกุ อย่างท่มี นั มีอยใู่ นใจ ละไดแ้ ลว้
ความสงบมนั เกิดขนึ้ ในขณะท่ีละความอยากนนั้ ได้
6
จงึ วา่ อยากเหน็ เทวดาเหน็ ยกั ษ์ เทวดาเป็นกายทพิ ย์ เป็น
ของกายละเอยี ด ใหด้ กู ายหยาบๆน่ีใหเ้ หน็ ชดั ตามความเป็นจรงิ
เสยี ก่อน เหน็ กายหยาบชดั ตามความเป็นจรงิ แลว้ เรอ่ื งของกาย
ละเอียดไม่ตอ้ งปรารถนา ถา้ หากวา่ ตาของเรามีท่ีจะเหน็ ได้ เม่ือ
นนั้ เหน็ เอง แมแ้ ตอ่ ยากไดม้ รรคผล อยากถงึ พระนิพพานก็ใหต้ ดั
ความอยากนนั้ เสีย ถา้ หากวา่ มีความอยากอยู่ มนั อดท่จี ะไป
โมเมไมไ่ ด้ โมเมเป็นอยา่ งนนั้ โมเมเป็นอยา่ งนี้ โมเมเป็นอะไรตอ่
มอิ ะไร ในท่ีสดุ ก็คอื ไมไ่ ดเ้ ร่อื งอะไร
จงึ วา่ ความอยากมนั เหมือนไฟ กามตณั หา ภวตณั หา
วิภวตณั หา เรอ่ื งของความอยาก เร่อื งของตณั หาทงั้ หมด
เหมือนกบั ไฟ เผาหมด ของแหง้ ก็เผา ของสดก็เผา นา้ํ ไฟมนั ก็
ยงั เผา มนั เผายงั ไง มนั เผาจนกระท่งั เดือน เผาจนกระท่งั แหง้ จงึ
วา่ ไฟมนั เผาไม่เลอื ก ตณั หามนั ก็เผาไมเ่ ลอื กเหมือนกนั เผา
จนกระท่งั ศลี ตณั หามนั ก็เผาจนกระท่งั ศลี หมด เผาสมาธิ
ตณั หามนั ก็เผาจนกระท่งั สมาธิไมม่ ีตกคา้ ง เผาปัญญา เผา
จนกระท่งั ปัญญาเคยสวา่ ง เคยใส เคยแจง้ มองเขา้ ไปมนั มืดไป
7
หมด ความอยากมนั เผาธรรมะ เผาจิต เผาใจ เผามรรคผล
นิพพาน ความอยากอนั นนั้ เผา
ละความอยากเสียใหห้ มด ใจเป็นศีล ละความอยากเสยี ใจ
เป็นสมาธิ ละความอยากเสยี ใจเป็นปัญญา ละความอยากเสยี
ใจเป็นมรรคผล จงึ วา่ ความอยากอนั นี้ เป็นตวั อนั ตราย อยากได้
สาํ เรจ็ มรรคผล อยากไดเ้ หน็ เทพ อยากไดเ้ หน็ เทวดา อยากอะไร
ก็คือตวั อยากน่นั หละคือตวั อนั ตราย มีแตจ่ ะกดเจา้ ของใหต้ ่าํ ลง
ไป ใหม้ ืดมนลงไปอย่างเดียว ตราบใดท่ียงั ละความอยากในจิต
ในใจไมไ่ ด้ ความสวา่ งกระจา่ งแจง้ ไมต่ อ้ งไปปรารถนา เพราะ
ปรารถนามนั กไ็ ม่เหน็
ผมก็ไม่สนใจไปดู ขนก็ไมส่ นใจจะดู เลบ็ ฟันหนงั ก็ไม่สนใจ
จะดู กองเกิด กองแก่ กองตาย กองอรยิ สจั ธรรม กองอรยิ สจั
ธรรมก็ไม่สนใจจะดู น่ีอยากใหใ้ จเคลมิ้ อยากใหใ้ จเคลิม้ ๆจะได้
เห็นเทพเหน็ เทวดา กิเลสมนั แลาดขนาดนี้ มนั กลอ่ มคนโง่
จนกระท่งั อยใู่ นกาํ มือ มนั กลอ่ มคนโงจ่ นกระท่งั อย่ใู นกาํ มือของ
มนั ได้ กิเลสมนั ไมโ่ งน่ ะ บางทีมนั กลอ่ มจนพระกรรมฐานน่ี
8
กลอ่ มจนกระท่งั อย่ใู นกาํ มือ อยา่ ไปปรารถนาอะไร คณุ งาม
ความดี คณุ ธรรม มรรคผลนิพพาน ไมใ่ ช่อย่ทู ่ีอ่ืน ไมใ่ ชอ่ ยทู่ ่ีวดั
ไมใ่ ช่อยทู่ ่ีวดั ใดๆ ไมใ่ ชอ่ ยใู่ นประเทศใดๆ ไมใ่ ช่อยใู่ นประเทศ
ไทย ไมใ่ ชอ่ ยใู่ นภาคอสี าน ไมใ่ ชอ่ ยใู่ นภาคเหนือ และไม่ใชอ่ ย่ใู น
ประเทศอินเดยี ศรลี งั กาท่ีไหนดอก อย่ใู นกองเกิด กองแก่ กอง
ตาย กองนี้ อย่ใู นกองอรยิ สจั ธรรมกองนี้
ใครตอ้ งการถึงมรรคถงึ ผล ใหเ้ อาใจสมั ผสั สมั พนั ธอ์ ยกู่ บั
กองอรยิ สจั ธรรมกองนี้ กองมรรค กองผล กองพระนพิ พานมี
โอกาสท่ีจะเจอได้ น่ีเพราะอยใู่ นกองอรยิ สจั ธรรมกองนีเ้ อง จงึ วา่
กิเลสน่ีมนั ฉลาดจรงิ ๆ มนั จงู จมกู มนั จงู จมกู จงู เหมือนจงู ควาย
มนั โงม่ นั ก็โงเ่ หมือนควายอยนู่ ่นั นะ่ จงู ไปไหนก็ไป จงู ไปไหนก็ไป
จงู ไปไหนก็ไป! น่ีไปแสวงหาอนั นนั้ ดี อนั นนั้ ดี อนั นนั้ ดี อนั นนั้ ดี๊
กิเลสมนั โกหกหลองลวงขนาดนนั้ มนั ก็โกหกหลอกลวงไดเ้ ฉพาะ
คนโง่! น่ี! ควายถา้ หากยงั ไมเ่ อาเชือกมารอ้ ยจมกู จะจงู ไม่ได้
หนา ควายจะเอาเชือกรอ้ ยจมกู ก็จงู ไป พระกรรมฐานถกู กิเลส
9
จงู มนั ก็เหมือนกบั ควายท่ีไดเ้ อาเชือกรอ้ ยจมกู เทา่ นนั้ ไมใ่ ชเ่ ร่อื ง
อะไร๊ กรรมฐานทงั้ นนั้ หละ
กรรมฐานนนั้ ไม่ใชจ่ ะ…โยมก็กรรมฐาน โยมก็มีผม โยมกม็ ี
ขน โยมก็มีเลบ็ โยมก็มีฟัน โยมก็มหี นงั สรุปแลว้ พระกรรมฐาน
ทงั้ นนั้ พระกรรมฐานไมใ่ ชห่ ม่ ผา้ ดาํ ๆ ไปบณิ ฑบาตตามตลาด
พระบณิ ฑบาตห่มผา้ ดาํ ๆแบกแบกสะพายบาตรแบกกลดไป
ตามสถานีรถยนต์ สถานีรถไฟ สถานีดอนเมือง สถานีทา่ อากาศ
ยานโนน่ พระกรรมฐานไม่ใช่อยา่ งนนั้ นะ พระกรรมฐาน
เหมือนกนั หมด ใครไม่มีผมมีมยั้ ใครไม่มีฟันมมี ยั้ ใครไม่มีหนงั
มีมยั้ น่ี! กรรมฐานคอื อะไร เกสา โลมา นขา ทนั ตา ตโจ ใคร
ไมม่ ีเกสา ใครไม่มีโลมา ใครไม่มีนขา ใครไม่มีทนั ตา ใครไม่มีต
โจ ตโจหนงั หนงั ฝังเนือ้ ใครไมม่ ีเนือ้ อฐั ิ กระดกู ใครไมม่ ีกระดกู
น่ีหละ จงึ วา่ พระกรรมฐานทงั้ นนั้ หละ อยา่ ใหก้ ิเลสมนั จงู มนั จงู
เหมือนจงู ควายน่นั นะ่ เหน็ มยั้ หละ ไอค้ วายไม่มีเชือกรอ้ ยจมกู
มนั จงู ไมไ่ ดห้ นา ท่ีจงู ไดก้ ็เป็นควายท่ีเอาเชือกรอ้ ยก็จงู ไป จงู ไป
10
จงู ไปไปภาคเหนือ จงู ไปภาคกลาง จงู ไปจนกระท่งั นอก จงู ไป
จนกระท่งั ประเทศศรลี งั กา อนิ เดียโนน่
คดิ แลว้ ก็เป็นเรอ่ื งนา่ คิด คิดแลว้ ก็เป็นเร่อื งนา่ สลดสงั เวช
คิดตามประสาคนไมม่ ีบญุ ไมม่ ีวาสนา บญุ วาสนาไป
ตา่ งประเทศกบั เขาก็ไม่มี บญุ วาสนาท่ีจะไปกราบสถานท่ี
ประสตู ิ สถานท่ีตรสั รู้ สถานท่ีปรนิ พิ พานไมม่ ี มนั ก็คิดตามภาษา
เรา สถานท่ีประสตู ขิ องพระพทุ ธเจา้ สถานท่ีตรสั รูข้ อง
พระพทุ ธเจา้ สถานท่ีปรนิ พิ พานของพระพทุ ธเจา้ พระพทุ ธเจา้
เกิดก็คือพระพทุ ธเจา้ ตรสั รู้ กิเลสดบั เม่ือไร พระพทุ ธเจา้ เกิด
มาแลว้ เราๆน่กี ็เหมือนกนั อรยิ สจั ธรรมน่ีใหม้ นั แจง้ ประจกั ษล์ ง
ไป ไมม่ ีอะไรท่ีจะดบั กิเลสได้ มีแตอ่ รยิ สจั ธรรมเท่านนั้ พทุ โธเบกิ
บานขนึ้ เตม็ ท่ีในเม่ือกิเลสดบั ไป แลว้ จะไปหาท่ีไหนสถานท่ี
พระพทุ ธเจา้ ตรสั รู้ น่ีพระพทุ ธเจา้ เกิด เกิดท่ีไหน ก็เกิดท่ใี จใน
ขณะท่ีกิเลสมนั ดบั พระพทุ ธเจา้ ตรสั รู้ ตรสั รูท้ ่ีไหน ตรสั รูเ้ ม่ือ
กิเลสมนั ดบั ไปนนั้ พระพทุ ธเจา้ นิพพาน ก็หมายกิเลสดบั ไปขณะ
11
ใด ก็ขณะนนั้ หละเรยี กวา่ นิพพานแลว้ แลว้ สถานท่ีประสตู ิ ตรสั รู้
นิพพาน อยทู่ ่ีไหน อยใู่ นเมืองอินเดียนนั้ เหรอ
น่ีแหละกิเลส ถา้ หากเมืองอนิ เดยี มนั เป็นเมืองมรรคเมืองผล
แขกมนั ก็ไมเ่ ป็นแขกใชม่ ยั้ หละ แขกมนั ก็เป็นพระอรหนั ตก์ นั
หมด แขกมนั ก็เป็นเทวดากนั หมด พดู ตามภาษาเราบา้ ๆบอๆ
คิดตามภาษาของคนฟงุ้ ซา่ น ใครอยากไดย้ นิ ไดฟ้ ังก็มา คนไหน
ไม่อยากไดย้ ินไดฟ้ ัง อยา่ มาใกล้ เราไม่ปรารถนา เราไม่
ปรารถนา คนฟงุ้ ซา่ นจะปรารถนาใหค้ นมาไดย้ นิ ไดฟ้ ังไดไ้ ง โอ
ปนยิโกๆๆ สวดกนั จนกระท่งั คอจะพงั มนั แตกมนั พงั เสยี แลว้ มนั
ตายมนั ก็พงั นะ่ มนั ใกลจ้ ะตายดว้ ยกนั ทกุ คน มนั ยงั หายใจอยู่
เท่านนั้ เด๋ยี วนี้ ไมห่ ายใจมนั พาพงั ไปหมดแลว้
โอปนยโิ กใหน้ อ้ มเขา้ มา นอ้ มเขา้ มา ทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งท่ี
พระพทุ ธเจา้ ทรงตรสั ไวน้ นั้ เป็นความสจั จค์ วามจรงิ ทงั้ นนั้ มีแต่
สง่ ไป สง่ ไป สง่ ไป มนั จะไปเห็นอะไร มีแตก่ ิเลสมนั จงู ไป นอ้ ม
เขา้ มามนั ก็ไมเ่ ขา้ นอ้ มเขา้ มามนั ก็ไมเ่ ขา้ มนั จะเขา้ ยงั ไง๊ กิเลส
มนั ดงึ ไป กิเลสมนั คา้ํ เอาไว้ ขา้ งในมนั ก็คา้ํ ขา้ งนอกมนั กล็ ากไป
12
แลว้ มนั จะเขา้ มาไดย้ งั ไง ขา้ งในมนั ก็ดนั ออกไป ขา้ งนอกก็จงู
ออกไป ดนั ออกไปไหน ดนั ออกไปหาอาหารมาใหม้ นั อะไรๆๆท่ี
เคา้ วา่ ดี มนั ก็อยากไดส้ มั ผสั น่นั หละออกไปหาใหม้ นั ออกไปหา
อาหาร
โอ!้ …คิดแลว้ ก็เป็นนา่ สลดสงั เวช จงึ วา่ พระพทุ ธเจา้ เป็นผทู้ ่ี
ประเสรฐิ ท่ีสดุ และเป็นผทู้ ่เี ป็นประโยชนแ์ กโ่ ลกอย่างยง่ิ ในเม่ือ
ผใู้ ดเขา้ ถงึ พระพทุ ธเจา้ พระธรรมเป็นประโยชนแ์ ก่โลกอยา่ งย่ิง
ในเม่ือทา่ นผใู้ ดเขา้ ถึงพระธรรม พระสงฆเ์ ป็นใคร เป็นประโยชน์
แก่โลกอย่างย่งิ ในเม่ือท่านผใู้ ดเขา้ ถึงพระสงฆ์ เขา้ ถงึ
พระพทุ ธเจา้ เขา้ ถงึ พระธรรม เขา้ ถงึ พระสงฆ์ น่นั เขา้ ถงึ พระ
ศาสนา น่นั เขา้ ถงึ พระศาสนาแลว้ กิเลสมนั เขา้ ไปใกลไ้ มไ่ ด้
พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ อานภุ าพ
ของพระพทุ ธเจา้ พระธรรม พระสงฆ์ กาํ จดั กิเลสตณั หาออกจาก
จิตจากใจไดห้ มด แลว้ กิเลสตณั หาภายนอกมนั จะเขา้ มาไดย้ งั ไง
แมแ้ ตก่ ิเลสตณั หาภายในมนั ก็ยงั ขบั ไล่ มนั ก็ยงั กาํ จดั ออก ขา้ ศกึ
13
ท่ีอย่ภู ายในกย็ งั กาํ จดั ออกใหห้ มดใหส้ ิน้ ได้ และขา้ ศกึ ภายในมนั
จะกลา้ เขา้ มาหรอื
เรยี กวา่ พทุ ธานภุ าเวนะ อาํ นาจของพระพทุ ธเจา้ ธมั มานุ
ภาเวนะ อานภุ าพของพระธรรม สงั ฆานภุ าเวนะ อานภุ าพของ
พระสงฆ์ ไม่มอี ะไรท่ีจะมาเสมอเหมือน อะไรท่ีจะมีอานภุ าพเด
ชานภุ าพลกั ษณะไหน เพยี งไรก็ช่าง จะกาํ จดั จะขบั ไลก่ ิเลส
ขา้ ศกึ ท่ีมนั ฝังลกึ ในจติ ในใจ ใหม้ นั หนีไป ไม่งนั้ มนั ไมห่ นี มีแต่
พระพทุ ธเจา้ มีแตพ่ ระธรรม พระสงฆแ์ ละมีแตอ่ รยิ สจั ธรรมเทา่ นี้
เป็นหลกั การท่จี ะเดินเขา้ ไปถงึ คาํ วา่ พระพทุ ธเจา้ คาํ วา่ ธรรมะ
คาํ วา่ พระสงฆส์ าวกของพระพทุ ธเจา้ นนั้ ใหพ้ ากนั ฟังใหม้ นั ชดั หู
มีใชม่ ยั้ หละเด๋ยี วเนีย้
หมู นั ก็หอู ะไร หกู ระทะ ตาก็มี มนั ตาบอด หกู ็มี มนั หหู นวก
เด๋ยี วนีต้ าบอดหหู นวกมีเยอะ พระกรรมฐานหม่ ผา้ ดาํ ๆ มนั เป็น
การนา่ โมโหจรงิ ๆนะ บวชเป็นพระกรรมฐานทงั้ ที โลกเคา้ ยกมือ
สาธกุ าร เป็นครูเป็นอาจารย์ ยงั โง่กวา่ กิเลสอนั นีม้ นั ใชไ้ ดท้ ่ีไหน
ตายซะยงั ดีกวา่ อยทู่ าํ ไม ตายใหม้ นั แลว้ ไปเลย มนั ไมอ่ บั อาย
14
ขายหนา้ มนั ไมเ่ ป็นเย่ียงอยา่ ง มนั ไม่เป็นเย่ียงอยา่ ง มนั ไมเ่ ป็น
ตวั อย่างท่ีเป็นในทางหายนะแกพ่ ระศาสนา
เคา้ พดู อยา่ งนใี้ ครจะวา่ ทฐิ ิ ใครจะวา่ มานะ ใครจะวา่ กเิ ลส
ก็วา่ ไปเลย เราพอแลว้ หละ พอในการท่ีจะใหค้ นมาใกล้ พอใน
การท่ีจะใหค้ นมาไดย้ ินไดฟ้ ัง เด๋ยี วนีก้ ลวั กลวั คนเขา้ มา
เก่ียวขอ้ ง กลวั ความเจรญิ มีแตค่ ิดจะหนี มีแตค่ ดิ จะหนี ใจมนั
เป็นอยา่ งนนั้ จะวา่ เป็นกิเลสก็ใช่ ทา่ นวา่ วภิ วตณั หาเหรอ ไม่
อยากใหม้ นั เป็น ใครจะวา่ ยงั ไงก็วา่ เถอะ อนั นีม้ นั เป็นเร่อื งของ
เรา ความจรงิ เอาความจรงิ มาพดู จะเสยี หายอะไร๊ เราไมไ่ ดพ้ ดู
อวด ไม่ไดพ้ ดู วา่ อะไร โนน่ เสยี งตงึ ๆตงั ๆ ตงึ ๆตงั ๆ น่นั ! ใจมนั มืด
ใจมนั บอด มีแตค่ ลาํ หา มีแตค่ ลาํ หา มีแตค่ ลาํ หา
จมกู มนั ยงั บอดอีกนะ ของเหม็นของหอมมนั ก็ไมร่ ู้ คลาํ กอ้ ง
ขีบ้ างทียงั ไม่รูเ้ ลยนะเด๋ยี วนี้ คนจมกู บอดมนั จะไปรูอ้ ะไร ตาก็ยงั
บอดอกี หกู ย็ งั หนวกอกี คลาํ กองอจุ จาระ มนั ก็ยงั วา่ โอ้ อนั นี้
เหมือนกบั ขนมอะไรนะ ขนมเปียกปนู สงั ขาร สงั ขารทงั้ หลายสงิ่
ท่ีสมั ผสั ทางตา ทางหู ทางจมกู ทางลิน้ ทางกาย อนั นนั้ เป็น
15
สงั ขารทงั้ หมด เรยี กวา่ สงั ขารทงั้ หลาย สงั ขารทงั้ หลายเกิดขนึ้
มาแลว้ ดบั ไป สงั ขารท่ีเป็นสว่ นนาม ความไหวตวั การไหวตวั
ของจิต น่นั คอื สงั ขารกอ่ ตวั สงั ขารท่ีกอ่ ตวั ขนึ้ ทงั้ หมดอนั นนั้ ก็
เป็นของท่ีไม่เท่ียง อนั นนั้ ก็เป็นของท่ีเกิดขนึ้ มาแลว้ ก็จะดบั ไป ให้
มนั เห็นชดั ๆ เห็นชดั ลงไป มนั จะเกิดอยา่ งไร มนั จะเกิดอย่างไร
มนั จะเกิดอยา่ งไร มนั ก็เรอ่ื งสงั ขารการเกิดทงั้ นนั้
ถา้ หากวา่ ไมร่ ูม้ นั น่ี ไม่เห็นมนั น่ี ไม่รูต้ วั มนั ไม่เหน็ ตวั มนั
สงั ขารตวั นนั้ หละ มนั เป็นตวั อนั ตราย มนั นกึ ยงั ไง ใจของเราน่ี
มนั จะรบั รูห้ รอื มนั จะสมั ผสั ในเม่ือมนั รบั รู้ มนั สมั ผสั ใจของเราน่ี
หละมนั จะเป็นไปตามท่มี นั คดิ มนั ปรุงนนั้ ธรรมทงั้ หลายเกิด
จากเหตุ คาํ วา่ จิตตวั นีค้ ือจติ ตสังขาร การกระเพ่ือมของจิต การ
ไหวตวั ของจิตตวั นนั้ คือตวั สงั ขาร ใหร้ ูช้ ดั เห็นชดั ถา้ รูช้ ดั เหน็ ชดั
ขณะใดขณะหนง่ึ ความปรุงความแตง่ นนั้ จะดบั ทนั ที ความปรุง
ความแตง่ มนั ดบั และมนั สงิ่ ท่ีจะเกิดขนึ้ ใหใ้ จของเราไดส้ มั ผสั
เกิดความยนิ ดไี ด้ มนั จะเกิดขนึ้ ไดย้ งั ไง
16
เร่อื งเหลา่ นีเ้ ป็นเร่อื งของมีอย่ทู งั้ นนั้ ใจของเราอยกู่ บั ใจ เรา
จะไมเ่ หน็ ไดย้ งั ไง ใจ ใจของเราอย่กู บั ใจ ใจเคล่อื นไหวไปยงั ไง
เราจะไมเ่ หน็ ไดเ้ หรอ เราก็ตอ้ งเหน็ ใชม่ ยั้ น่ีใจมนั ไม่อยกู่ บั ใจน่ี
ไปอย่ทู ่ีไหนก็ไม่รู้ ตา่ งประเทศน่นู สหรฐั นนู่ ไหนก็ไม่รู้ อินเดยี นนู่
ศรลี งั กานนู่ คา้ํ หวั ของเจา้ ของ กรรมฐานมนั ไม่สน มรรคผล
นิพพานอยทู่ ่ีไหน มนั ไมไ่ ดอ้ ย่ใู นกองอรยิ สจั ธรรมนีเ้ หรอ อะไร
มนั จะเป็นธรรมท่ีเรยี กวา่ ขดั เกลากิเลส มนั มีแตอ่ รยิ สจั ธรรม
เท่านนั้ ท่พี ระพทุ ธเจา้ ทรงตรสั ไว้ ไมเ่ หน็ วา่ อะไร สถานท่ีไหนจะ
เป็นสถานท่ีไหนจะเป็นสถานท่ีทาํ ใหก้ ิเลสมนั สกึ มนั หรอ มีแต่
กิเลสมนั จะเพ่มิ ขนึ้ ขอใหม้ นั ไดร้ บั ประทานอาหารท่ีโอชารสคือ
สง่ิ ท่ีมนั ตอ้ งการ
สิ่งท่พี ระพทุ ธเจา้ ทา่ นตอ้ งการ พระพทุ ธเจา้ เทศนามีแตห่ ย่งั
เขา้ หาสจั ธรรมของจรงิ หย่งั เขา้ หาอรยิ สจั ธรรม เพราะมอี ยเู่ ทา่ นี้
แตเ่ ป็นธรรมเครอ่ื งทาํ ลายขา้ ศกึ คอื กิเลสไป นอกจากอนั นีไ้ ม่มี
เพราะสตั วโ์ ลกทงั้ หมดท่ีมนั หลงๆ มนั กห็ ลงกองอรยิ สจั ธรรมนี้
หลงอรยิ สจั ธรรม ไมใ่ ชห่ ลงอนั อ่นื หลงกองเกิด หลงกองแก่ หลง
17
กองตาย หลงกามตณั หา ภวตณั หา วภิ วตณั หาเป็นตวั เป็นตน
หลงวา่ เป็นตวั เป็นตน หลงตวั สงั ขารท่ีเกิดขนึ้ มา มีความตอ้ งการ
มีความปรารถนาวา่ เป็นตวั เป็นตน มนั หลงอะไร มนั อรยิ สจั ธรรม
ทงั้ นนั้ มีแตอ่ รยิ สจั ธรรมเทา่ นนั้ ท่ีจะทาํ ลายความหลงได้
ในเม่ือความจรงิ มนั จรงิ อย่างนีอ้ ะ้ แลว้ จะไปลบู คลาํ อะไรกนั
ธรรมะของพระพทุ ธเจา้ แทนองคพ์ ระพทุ ธเจา้ สอนใหแ้ จง้
ประจกั ษเ์ ชน่ นี้ เราอยา่ ไปฟังแตก่ ิเลสเรา มนั ก็มีแตจ่ ะมืดจะบอด
เพ่มิ ขนึ้ หนกั ขนึ้ ไปทกุ วนั เทา่ นนั้ มีบญุ อะไรขนึ้ มาน่ี คาํ วา่ บญุ ใน
วดั บญุ อะไรกช็ ่าง ตอ้ งมีหวั หมอ คือกิเลสตวั ใหญ่ ตวั หมอใหญ่
น่ี มองหาช่องทางท่ีจะไดผ้ ลประโยชน์ พอเลกิ จากการบญุ น่ะได้
เทา่ ไหร่ น่นั ไดเ้ ทา่ ไหร่ การกศุ ลกลายเป็นธรุ กิจ กลายเป็นขาย
บญุ มนั เป็นเรอ่ื งท่นี า่ สลดสงั เวช เครอ่ื งขยายน่ีไมร่ ูก้ ่ีเครอ่ื ง สน่นั
หว่นั ไหวไปหมด อนั นีก้ ็ยงั คอ่ ยยงั ช่วั ในเม่ือมีไวเ้ พ่ืออรรถเพ่ือ
ธรรม ตรงนนั้ ก็จอหนงั ตงั้ ไว้ ตรงนนั้ ก็โรงลเิ กโรงละคร ตรงนนั้ ก็
ยงั โรงมวย ตรงนนั้ ก็โรงอะไร โรงเทค เราก็เรยี กกบั เคา้ ไมค่ อ่ ยจะ
เป็น เสยี งสน่นั หว่นั ไหวไปหมด ใครก็อยากแข่งขนั ดงึ คนมา เอา
18
เสียงดงั ๆน่นั ดงึ รวมสงิ่ เหลา่ นีร้ วมอย่ใู นวดั น่ีหรอื การทาํ (เทป
ขาดตอน)
…ใหพ้ ระศาสนาเจรญิ เหมือนกนั จงึ มีความเหน็ บางสงิ่
บางอยา่ งท่ีเรยี กวา่ ไม่ถกู กบั พระพทุ ธเจา้ ทา่ นวางไวเ้ ป็นคาํ สอน
เด๋ยี วนีล้ กู ศษิ ยล์ กู หาพระเทวทตั น่ีรูส้ กึ วา่ อยากหนาในความรูส้ กึ
ของเรา บางทีประกวดนางงาม ประกวดเทพี ประกวดในวดั ก็มี
ประกวดนางงาม ประกวดเทพกี ็รูอ้ ย่นู ่ี การนงุ่ การห่มมนั เป็น
ยงั ไง เอาไปประกวดในวดั เพ่ือตอ้ งการใหค้ นเขา้ วดั คนเขา้ ไป
เท่ียวในวดั แลว้ ยงั มีการเก็บคา่ ดอู กี เอาเงนิ บาํ รุงวดั เอาเงนิ
อยา่ งนีม้ าบาํ รุงนะ ถงึ จะไดเ้ งนิ ก็จรงิ เอาเงนิ อย่างนีม้ าบาํ รุงวดั
วดั นนั้ ก็ไม่เป็นมงคลหรอก เงนิ เหลา่ นีบ้ างทเี ป็นอนั ตรายแก่ผไู้ ด้
ซะ เทวดาสาปแช่ง จดั วา่ เป็นมจิ ฉาชีพทีเดียว ไมเ่ ป็นธรรมใน
การแสวงหา ตอ้ งคิดตอ้ งอา่ นอย่เู สมอ
เร่อื งเหลา่ นีม้ นั ผา่ นมาในความรูส้ กึ เพราะตาเรามี เพราะหู
เรามี มองไปทางไหนเราก็มอง อะไรมาสมั ผสั ตาเราก็เหน็ อะไร
มาสมั ผสั หเู ราก็รู้ (เทปจบ)
19
ท่ีมา: https://youtu.be/Zxmwivj_cXE
20