การภาวนาเพอื่ ละการเวยี นว่ายตายเกดิ
หลวงป่เู ปล่ียน ปัญญาปทโี ป
ณ บดั นีพ้ ากนั ตงั้ ใจ น่งั เจรญิ เมตตาภาวนา ฟังเทศนฟ์ ัง
ธรรม จะไดน้ อ้ มนาํ ไปประพฤติปฏบิ ตั ิฝึกหดั อบรมตน เราทกุ คน
ท่ีเกิดขนึ้ มาในโลกนี้ ความประสงคต์ งั้ แตค่ ณุ งามความดี
ปรารถนาอยากมีแตค่ วามสขุ ความเจรญิ อย่ใู นความรม่ เย็นเป็น
สขุ ตลอดทกุ วนั ทกุ เวลา เหตฉุ ะนนั้ ถา้ เรามคี วามปรารถนาแลว้
จะทาํ ใหต้ นเองไดส้ มหวงั มีความสขุ ความปรารถนาจงึ เป็นการท่ี
พวกเราตอ้ งศกึ ษาหลกั พระพทุ ธศาสนาท่พี ระพทุ ธองคส์ อน
เอาไวใ้ หพ้ วกเราฝึกฝนอบรมจติ ใจ
ทาํ ไมจงึ ฝึกฝนอบรมจิตใจ เพราะจติ ใจเป็นสงิ่ ท่ีสาํ คญั
เราเกิดขนึ้ มาดว้ ยกนั ทกุ คนในโลกนี้ ก็ตอ้ งมีจิตใจคอื ความคิด
ความอา่ น ความปรุงความแตง่ ของจิตใจ ถา้ หากเราไมฝ่ ึกฝน
อบรมแลว้ จติ ใจนนั้ ก็จะคิดไปเรอ่ื ยๆ ปรุงแตง่ ไปเรอ่ื ยๆ หาความ
สนิ้ สดุ ลงไม่ได้ ก็ย่งิ มีความทกุ ขค์ วามเดือดรอ้ นเกิดขนึ้ แกต่ น
เพราะตนเองนนั้ คิดมากก็เลยมีความทกุ ขม์ าก การท่ีบคุ คลมี
1
ความคดิ นนั้ สว่ นมากแลว้ จติ ใจนีจ้ ะคดิ แตใ่ นทางท่ีไมด่ เี ป็นสว่ น
ใหญ่ สว่ นท่ที างดนี นั้ เห็นแตน่ อ้ ย
เหตฉุ ะนนั้ เม่ือเรามาพจิ ารณาเร่อื งอยา่ งนี้ คนเรามที กุ ขก์ นั
ท่วั โลก ก็เป็นเร่อื งจิตใจนีพ้ าใหท้ กุ ข์ คาํ วา่ ทกุ ขก์ ายทกุ ขใ์ จ ทกุ ข์
กายนนั้ ทกุ ขเ์ พราะเป็นโรคภยั ไขเ้ จ็บ ทกุ ขเ์ พราะการดแู ล
รกั ษาพยาบาล ประคบประหงมรา่ งกายนเี้ พ่ือไม่ใหม้ นั เจบ็ มนั
ป่วย มนั ทกุ ข์ ก็เรยี กวา่ ทกุ ขก์ าย ทกุ ขใ์ จนนั้ คอื จิตใจน่ีไปพวั พนั
ฟ่ันเฝือ ยดึ ม่นั ถือม่นั หวงั จะพากนั เอาใหส้ มหวงั รา่ งกายของ
คนเรา และทาํ อะไรทกุ อยา่ งมนั ยงั ไมไ่ ดส้ มหวงั แตเ่ ราก็มคี วาม
ตงั้ ใจเอาไว้ เพ่อื จะใหเ้ รานีไ้ ดร้ บั ซง่ึ ความสขุ จงึ เรยี กวา่ เป็น
ความหวงั ความปรารถนา
แตอ่ ย่างไรก็ดี เราพากนั ศกึ ษาเรอ่ื งจติ ใจ จติ ใจของคนเรานี้
เวยี นวา่ ยตายเกิดอย่ใู นวฏั สงสารหลายภพ หลายชาติ ท่ีเป็นไป
ทงั้ เรอ่ื งเป็นสตั วก์ ็มี เป็นมนษุ ยก์ ็มี เป็นเทวดาก็มี บางบคุ คลก็ถึง
เทพชนั้ สงู ถงึ พรหมโลกชนั้ ต่าํ แตก่ ็ยงั ไมพ่ น้ ทกุ ข์ ยงั วนเวยี นไป
มาอยู่ อนั นีเ้ ป็นเรอ่ื งพวกเราจะศกึ ษา พวกเราเกิดขนึ้ มาก็คงจะ
2
ไดเ้ วยี นวา่ ยตายเกิด ลอ่ งลอยอย่ใู นวฏั สงสารอย่างนี้ อนั ไม่มี
ทางท่ีจะสนิ้ สดุ ลงได้ จงึ จาํ เป็นตอ้ งศกึ ษาเพ่ือหาหนทางแกไ้ ข
การเวยี นวา่ ยตายเกิดไปๆมาๆของพวกเรานี้ เพ่ือจะใหม้ นั
นอ้ ยลง การศกึ ษาหลกั พระพทุ ธศาสนาเพ่ือจะกาํ จดั ภพชาติให้
นอ้ ยลง ใหล้ ดและใหน้ อ้ ยลง ก็คือความปรุงความแตง่ ของจิตใจ
น่นั เอง คือทาํ ใหม้ ีความโลภ ความโกรธ ความหลง เราก็ไปหาวธิ ี
ปลดปลงออกใหม้ นั นอ้ ยลงลดลง ทงั้ โลภ โลภะก็ดี ลดลงเกลียด
เคยี ดแคน้ พยาบาทซง่ึ กนั และกนั ก็จะมาลดนอ้ ยลงไปเร่อื ยๆ
ความหลงใหลไมเ่ ขา้ ใจในเหตใุ นผลในสจั ธรรม เราก็จะพยายาม
ท่ีจะศกึ ษาใหร้ ูก้ ฏธรรมชาติของโลกเป็นอยทู่ างธรรมชาติ และ
จะใหข้ องพวกเรานีม้ ีความเฉลยี ดฉลาดรูเ้ ร่อื งอย่างนี้ เราจงึ จะ
ไม่มีความทกุ ขด์ า้ นจิตใจ
เหตฉุ ะนนั้ การฝึกฝนอบรมจติ ใจนนั้ ตอ้ งอาศยั ซง่ึ สตสิ มั ปะ
ชญั ญะประคบั ประคองจิตใจใหด้ ี ถา้ เรามสี ตสิ ัมปะชัญญะ
สามารถประคบั ประคองจติ ใจของตนเอง ใหอ้ ยขู่ อ้ ธรรม
กรรมฐานท่ีตนเองตงั้ เอาไว้ ก็จะทาํ ใหจ้ ติ ใจของเราสงบอยไู่ ด้
3
เหมือนบคุ คลมีความสามารถท่ีจะควบคมุ บคุ คลท่ีไม่มีกาํ ลงั
ควบคมุ จบั เอาไวไ้ ม่ใหไ้ ปไหน ก็ยอ่ มไปไม่ไดก้ ็ฉนั นนั้ เหมอื นกนั
ถา้ จติ ใจของเรานนั้ ถกู สติสมั ปะชญั ญะ ควบคมุ ดแู ลเอาไว้ ใจ
ของเราก็จะอย่แู ละมีความสงบเกิดขนึ้ จงึ จาํ เป็นท่ีเราตอ้ งศกึ ษา
สตคิ ือความระลกึ วา่ จติ คิด สมั ปะชญั ญะระลกึ วา่ จิตคดิ อยทู่ ่ี
ไหน อยกู่ บั เรอ่ื งอะไร จิตใจของเรานนั้ มนั ไปคิดอย่ทู ่ีไหน เวลา
เราพากนั ฟังเทศนอ์ ย่ใู หม้ นั อย่กู บั ตนกบั ตวั ใหอ้ ย่กู บั ขอ้ ธรรม
กรรมฐานของตน ท่ีตนเองตงั้ เอาไว้ ใหใ้ จของเรามาเกาะเก่ียว
ยดึ เหน่ียวอยกู่ บั ขอ้ ธรรมกรรมฐาน ไมใ่ หใ้ จของเรานนั้ ไปทาง
นอก ใหจ้ ิตใจของเราอย่กู บั ขอ้ ธรรมกรรมฐาน
แตบ่ างบคุ คลนนั้ เคยเอาลมหายใจเขา้ ออก แตก่ ็ไม่มีความ
สงบซกั ที ก็ควรท่ีจะเปล่ยี นได้ เปล่ยี นขอ้ ธรรมกรรมฐานได้
เพราะมนั ไม่ถกู จรติ นิสยั ของตนเอง ก็ฝึกฝนอบรมจิตใจของ
ตนเองไมส่ งบ เหตฉุ ะนนั้ พระพทุ ธองคจ์ งึ ทรงสอนเอาไว้ ขอ้ ธรรม
กรรมฐานมีตงั้ ๔๐ ขอ้ เพ่ือใหเ้ ลอื กปฏบิ ตั ใิ หถ้ กู จรติ นิสยั ของนกั
ปฏบิ ตั ิ เพ่ือจะไดฝ้ ึกหดั จติ ใจนนั้ ใหส้ งบเป็นสมาธิไดเ้ รว็ เหตุ
4
ฉะนนั้ พวกเราทงั้ หลาย ถา้ เราปฏิบตั ขิ อ้ ธรรมกรรมฐานขอ้ ใด
เอาจรงิ เอาจงั แลว้ แตจ่ ติ ใจของเรานนั้ ยงั ไม่สมควรจะเปล่ียนขอ้
ธรรมกรรมฐานขอ้ ใหม่
ในสมยั ครงั้ พทุ ธกาลนนั้ พระพทุ ธองคเ์ ทศนเ์ รอ่ื งทาํ บญุ ทาํ
ทานการกศุ ล การจาํ แนกแจกทาน บางบคุ คลนนั้ กม็ าระลกึ ดู
การจาํ แนกแจกทาน การทาํ บญุ ทาํ ทานการกศุ ลของตน ก็ทาํ ให้
จิตใจของตนนนั้ สงบเป็นสมาธิไดง้ า่ ย เพราะจิตใจนนั้ ระลกึ ถึง
ความดี จติ ใจก็มีความสขุ จติ ใจก็เลยสงบปลมื้ ปีตอิ ยใู่ นบญุ ใน
กศุ ลของตน ทาํ ใหไ้ ดเ้ กิดรบั มรรคผลเกิดขึน้ เป็นตวั อยา่ งก็คอื
นางวิสาขา มคิ ารมารดา พระพทุ ธองคต์ รสั เทศนาเร่อื งการ
ทาํ บญุ ทาํ ทานการกศุ ล นางวิสาขา มคิ ารมารดานนั้ ทาํ จิตใจ
ของตนใหส้ งบ ทาํ ไมจติ ใจจงึ สงบ เพราะจิตใจมีความสขุ น่นั เอง
ความทกุ ขท์ ่มี นั รบกวนจิตใจนนั้ มนั ก็หายไป ทาํ ใหจ้ ิตใจสงบ
เกิดขนึ้ มีปีตมิ ีความสขุ ปลืม้ ปิติยินดใี นบญุ กศุ ลของตนจนไดร้ บั
ผลคือบรรลพุ ระโสดาบนั บคุ คลในพระพทุ ธศาสนา อนั นเี้ รยี กวา่
มนั ถกู จรติ นิสยั ของบคุ คลผปู้ ระพฤตปิ ฏิบตั ิ
5
พวกเราก็เหมือนกนั ถา้ หากเอากรรมฐานขอ้ ใดฝึกฝนอบรม
จติ ใจไมส่ งบ ก็ควรจะเปล่ียนได้ เพราะฝึกมานาน แตเ่ ราก็ตอ้ ง
ฝึกจรงิ จงั แตบ่ างบคุ คลนนั้ ก็มาระลกึ ถงึ การรกั ษาศลี ของตน
และเรารกั ษาศลี อยู่ ตนเองมีศลี ปลมื้ ใจในตนเองและเป็นผมู้ ี
ความรกั ษาศลี ไดค้ รบบรบิ รู ณไ์ ดด้ ี จิตก็ไดม้ ีความสขุ ความสงบ
เกิดขนึ้ ก็ทาํ ใหบ้ รรลพุ ระโสดาบนั บคุ คลในพระพทุ ธศาสนาได้
เหมือนจติ ตคหบดเี ศรษฐีไดเ้ อาสลี านสุ ติกรรมฐานเป็นขอ้ ธรรม
กรรมฐานของตน กท็ าํ ใหจ้ ติ ใจนนั้ บรรลธุ รรมได้ น่ีแหละมนั เป็น
อยา่ งนี้
บางบคุ คลก็เอาลมหายใจเขา้ ออก สามารถทาํ ใหจ้ ติ ใจของ
ตนเป็นสมาธิได้ ทาํ ใหต้ นเองสามารถจิตใจสงบ ก็จะรูแ้ ละเขา้ ใจ
ศกึ ษาเรอ่ื งกิเลสตณั หาท่ีมารบกวนจติ ใจของตน ใหจ้ ิตใจเศรา้
หมอง เม่ือเขา้ ใจแลว้ ก็รูจ้ กั ลดละปลอ่ ยวางออกไป ทาํ ใหใ้ จของ
เราวา่ งจากสิง่ รบกวน จิตใจของเราก็เลยสงบ เหมือนบคุ คลท่ี
วา่ งงาน ไมม่ ีงานอะไร น่งั อยเู่ ฉยๆก็ไม่ทกุ ขย์ ากลาํ บากอะไร ฉนั
6
ใดก็ดี จติ ใจท่ีมนั วา่ ง วา่ งจากสิง่ รบกวนแลว้ จิตสงบ เม่ือจติ ใจ
สงบเรากพ็ บความสขุ เกิดขนึ้ เพราะใจสงบ
น่ีพวกเราก็พยายามท่ีจะปฏบิ ตั ิ ภกิ ษุผบู้ วชใหม่ก็ดี ญาติ
โยมผเู้ ขา้ วดั ใหมก่ ็ดี หรอื เขา้ วดั เกา่ ก็ดี ตอ้ งพยายามท่จี ะฝึกฝน
อบรมจิตใจของตนเพ่ือใหใ้ จสงบ มนั ยงั ไมส่ งบก็ตอ้ งฝึกฝน
อบรมไปเรอ่ื ยๆ เพราะการประพฤตปิ ฏบิ ตั นิ ีไ้ มใ่ ช่จะเอาป๊ บุ ป๊ับ
ใหไ้ ดท้ ีเดยี ว ตอ้ งเป็นสง่ิ ท่ีคอ่ ยเป็นคอ่ ยไป มาคอ่ ยเป็นคอ่ ยไปก็
คอ่ ยดคู อ่ ยพยายาม คอ่ ยควบคุ มดแู ลจิตใจของตนใหอ้ ยกู่ บั ขอ้
ธรรมกรรมฐาน ในจติ ของเราฟงุ้ ซา่ นออกไปท่ีไหน การ
ควบคมุ ดแู ลจติ ใจจงึ เป็นสงิ่ ท่ีจาํ เป็น และเร่อื งสติสมั ปะชญั ญะก็
จะควบคมุ ดแู ลเอาไว้
สติสมั ปะชญั ญะเปรยี บเทยี บเหมือนบคุ คลท่ีมีกาํ ลงั สมควร
สามารถท่ีจะไปจบั บคุ คลท่ีไมม่ ีกาํ ลงั เอาไว้ จบั คนละแขนไม่ให้
ไปไหน ก็สามารถจะควบคมุ ไปกบั ตนเองได้ ควบคมุ ใหอ้ ย่ทู ่ีไหน
ได้ ทาํ ความปรารถนาของบคุ คลท่ีควบคมุ คนท่ีไมม่ ีกาํ ลงั ทีนีค้ น
มีกาํ ลงั ควบคมุ คนไม่มีกาํ ลงั มนั ก็ไปไหนไม่ได้ สตสิ มั ปะชญั ญะ
7
ก็เหมือนกนั ถา้ หากเราพากนั ระลกึ วา่ จิตของเราคดิ เขา้ ใจเรอ่ื ง
ความคดิ จิตของเราคิดเร่อื งอะไรอย่ทู ่ีไหน เราก็สามารถติดตาม
จติ ใจของเรา ควบคมุ ดแู ลมาไวก้ บั ขอ้ ธรรมกรรมฐานได้
การฝึกฝนอบรมจิตใจไมใ่ ชม่ นั จะสงบงา่ ยๆ เพราะอะไรมนั
จงึ ไม่สงบงา่ ย ก็เพราะเราเกดิ มาหลายปีแลว้ เราไมไ่ ดฝ้ ึกฝน
อบรมจติ ใจของเราเลย้ เราปลอ่ ยปละละเลย ใหจ้ ิตใจน่ีคดิ ไป
คดิ ไปคดิ ไดก้ ็คิด คดิ ไม่ไดก้ ็คดิ คดิ ทกุ ข์ คดิ สขุ ก็คดิ มนั คิดไป มนั
ชาํ นาญในการท่ีคดิ ไปทางอ่นื มานมนาน บดั นีเ้ ราจงึ มาฝึกฝน
อบรมจิตใจของเราทีหลงั เพ่ือจะใหจ้ ติ ใจของเราสงบ จติ ใจของ
เราจะไดพ้ กั ผอ่ น ฉะนนั้ ถา้ พดู งา่ ยๆก็คอื ฝึกฝนอบรมจติ ใจของ
เรานี้ เพ่ือจะใหจ้ ติ ใจของเราสงบเป็นสมาธิ ก็คือจะใหจ้ ิตใจของ
เราไดพ้ กั ผอ่ น ก็ตงั้ แตเ่ กิดมานีไ้ มเ่ คยฝึกฝนอบรมจิตใจใหส้ งบ
เป็นสมาธิซกั ที จิตใจของเรานีก้ ็จะคดิ ไปเรอ่ื ยๆ ทาํ งานไปเร่อื ยๆ
ทาํ งานความคิด เม่ือทาํ งานไปเรอ่ื ยๆมนั ก็มีแตค่ วามทกุ ขเ์ กิดขนึ้
ทาํ งานไมไ่ ดพ้ กั ผอ่ น แตเ่ ม่ือเราฝึกฝนอบรมจติ ใจของเราใหส้ งบ
เป็นสมาธิ ก็เหมือนพวกเรานีไ้ ดพ้ กั ผ่อน จติ ใจก็ไดพ้ กั ผ่อน จิตใจ
8
ไม่ย่งุ เหยงิ ไมว่ นุ่ วายกบั อารมณต์ า่ งๆท่ีย่วั ยวนใหจ้ ติ ใจของเรา
หลงใหลไปตามกระแสอารมณน์ นั้ จติ ใจของเราก็จะมีความสงบ
เกิดขนึ้ แลว้ ก็จะมีความสขุ เป็นท่พี ง่ึ
น่ีเป็นขอ้ ท่ีพวกเราจะพินิจพจิ ารณา วา่ เราอยากละกิเลส
ตณั หาใหห้ มดใหส้ ิน้ จากดวงใจของพวกเรา กิเลสตณั หา
เหมือนกบั โรคภยั ไขเ้ จบ็ ท่ีมนั มีอย่ใู นรูปรา่ งกายของพวกเรา เรา
มีรูปรา่ งกายหรอื จะมีโรคภยั ไขเ้ จบ็ นานาตา่ งๆเกิดขนึ้ ท่วั
สรรพางคร์ า่ งกายของคน สว่ นใดสว่ นหนง่ึ ไม่เป็นมากก็ตอ้ งเป็น
ท่ีใดท่ีหนง่ึ กเ็ รยี กวา่ เป็นโรคภยั ไขเ้ จ็บของรา่ งกาย เป็นทกุ ข์ ใน
โรคภยั ไขเ้ จบ็ ของจติ ใจก็คืออารมณ์ คือความคดิ ถา้ เราคิด
ตรงไหนจติ ใจก็มีความทกุ ข์ ถา้ เราคิดโกรธ เกลียด เคียดแคน้
พยาบาท อาฆาตจองเวรกนั จติ กม็ ีความทกุ ขอ์ กี เหมือนกนั อนั
นีเ้ ราก็จะพยายามพากนั มาหาวธิ ีแกไ้ ข
การท่ีจะแกไ้ ขกิเลสใหห้ มดใหส้ ิน้ จากดวงใจจงึ เป็นเรอ่ื งใหญ่
แตเ่ ป็นเรอ่ื งใหญ่แคไ่ หนก็ตาม แตพ่ วกเรานีก้ ็จะพยายาม
ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิเพ่ือขดั เกลากิเลสอนั เป็นเหตใุ หเ้ กิดทกุ ขอ์ อก
9
จากใจของพวกเรา เราก็ตอ้ งเป็นคนมีคนจติ ใจกลา้ หาญ ยืน
หยดั ม่นั คง ไมอ่ อ่ นแอทอ้ แท้ ตอ่ สู้ ตงั้ ใจปฏิบตั ิ การตงั้ ใจปฏิบตั ิ
นนั้ บคุ คลก็ชอบเดนิ จงกรม เดินจงกรมนจี้ ะใหป้ ระโยชนอ์ ะไร
เดนิ จงกรมนีม้ นั จะมีอานิสงสไ์ ดเ้ ดนิ จงกรม เดนิ จงกรมซกั ๓๐
นาที หรอื ช่วั โมงหรอื ช่วั โมงครง่ึ อย่างนี้ หน่งึ จะทาํ ใหบ้ คุ คลนนั้ มี
เป็นผมู้ ีโรคภยั ไขเ้ จ็บนอ้ ยหนง่ึ สองจะเป็นบคุ คลท่ีมีรา่ งกาย
สมบรู ณแ์ ขง็ แรง สามก็จะเป็นบคุ คลท่ีเดนิ ไดท้ างไกลมาก ส่ีจะ
ทาํ จิตใจสงบ ในการเดนิ จงกรมนีจ้ ะทาํ ใหจ้ ิตใจสงบแน่วแน่
ม่นั คง เพราะเราเดินสามารถควบคมุ จติ ใจใหส้ งบได้ อนั นีเ้ ป็น
เรอ่ื งของการเดนิ จงกรมย่อมมีอานิสงสท์ าํ ใหร้ า่ งกายของเรา
อาหารชว่ ยยอ่ ยไดด้ ี ทาํ ใหเ้ รารา่ งกายไดเ้ บาสบายเกิดขนึ้ เหตุ
ฉะนนั้ การเดนิ จงกรมจงึ เป็นเครอ่ื งเปล่ียนอริ ยิ าบถของรูป
รา่ งกายของพวกเรา ถา้ หากเรามีแตน่ ่งั อยา่ งเดียว รา่ งกายมนั
จะทรุด มนั จะเจ็บจะป่วยไดง้ า่ ย
เหตฉุ ะนนั้ จงึ ควรเปล่ียนอริ ยิ าบถตามความเหมาะสม แตก่ ็
ตอ้ งมีความอดทนน่งั ตงั้ ใจจรงิ ๆ อย่าน่งั แป๊ บเดียวลกุ ไปเลยไมไ่ ด้
10
แตก่ ็ตอ้ งมีขนั ตคิ วามอดทนเพ่ือจะฝีกฝนอบรมจิตใจของตน ให้
ไดร้ บั ผลรบั ประโยชนค์ ือความสงบสขุ ทกุ คนก็ตอ้ งมีความตงั้ ใจ
ไม่วา่ นอกพรรษา ในพรรษา ธรรมะมนั เป็นอกาลโิ ก ไม่
ประกอบดว้ ยกาลดว้ ยเวลา บคุ คลใดเจรญิ เมตตาภาวนา เชา้
สาย บา่ ย เท่ยี ง ค่าํ คนื ดกึ ด่นื ก็ตาม แตจ่ ติ ใจของเรานนั้ ไดส้ งบ
ระงบั เป็นสมาธิ เรากจ็ ะเขา้ ใจวา่ โอ จะทาํ เวลาไหน ใจสงบได้
เวลาไหน มนั ก็มีความสขุ เวลานนั้ เหตฉุ ะนนั้ ธรรมะทงั้ หลายจงึ
เป็นเร่อื งเป็นอกาลิโก ไม่ประกอบดว้ ยกาลดว้ ยเวลา
บางคนมีความตงั้ ใจเจรญิ ภาวนา พยายามปฏบิ ตั ฝิ ึกหดั
อบรมจติ ใจของตน ถา้ เป็นอย่างนี้ ถา้ บคุ คลใดฝึกฝนอบรมจติ ใจ
ของตนใหส้ งบ เชา้ สาย บา่ ย เท่ยี ง ค่าํ คนื ดกึ ด่ืน ก็ไดพ้ บ
ความสขุ อยใู่ นความสงบแนน่ อน ใหจ้ ิตใจสงบ มีความสขุ เป็น
ของท่ีลกึ ซงึ้ เป็นของท่ีเยือกเยน็ เป็นของท่ีสงบ ใครก็อยากพบ
อยากเหน็ ความสงบ ความสงบคือความสขุ ดงั นพี้ วกเราทกุ คนก็
ตอ้ งตงั้ จติ ตงั้ ใจมีความพากความเพียรประโยคพยายาม จะได้
ใสส่ ติสมั ปะชญั ญะของตนควบคมุ ดแู ลจิตใจของเรา จติ ใจของ
11
เรายงั ไมพ่ น้ ทกุ ข์ ยงั มีทกุ ขอ์ ยู่ มีสง่ิ ตา่ งๆทาํ ใหเ้ กิดทกุ ขอ์ ยู่ บดั นี้
เม่ือเราพยายามฝึกฝนอบรมจติ ใจของเรากจ็ ะเขา้ ใจ
การฝึกฝนอบรมจติ ใจนีใ้ หป้ ระโยชนอ์ ะไร ไดป้ ระโยชนจ์ ิตใจ
ไดพ้ กั ผ่อน ใหป้ ระโยชนจ์ ติ ใจไดส้ บาย รา่ งกายของบคุ คลท่ีมี
ความสบายก็จะทาํ ใหจ้ ิตใจสบายไปดว้ ย เรยี กวา่ สบายกาย
สบายใจ น่ีทกุ คนพงึ ปรารถนาอยา่ งนีก้ ็ใหพ้ ากนั ขยนั หม่นั เพียร
ทาํ ความเพียร น่ีพระอยวู่ ดั อยวู่ าก็ดี จะเดนิ จงกรม จะน่งั สมาธิ
ตอ้ งพยายามตงั้ จิตตงั้ ใจประพฤตปิ ฏิบตั ิ ถา้ เราไม่ประพฤติ
ปฏิบตั ผิ ใู้ ดจะมาฝึกฝนอบรมใหเ้ รานีไ้ ดร้ บั ผลรบั ประโยชน์
เกิดขนึ้ อนั นีเ้ ราก็มีความตงั้ ใจของตนเอง มฉี ันทะความพอใจ
จะน่งั สมาธิ มีวริ ิยะ มีความเพียร จติ ตะเอาใจฝักใฝ่ ทงั้ เดิน
จงกรมทงั้ น่งั สมาธิ มนั เป็นอยา่ งนี้ จติ ตะเอาจิตใจฝักใฝ่ในหนา้ ท่ี
การงานของตนเองคอื การน่งั เจรญิ เมตตาภาวนา อยา่ งเวลาไหน
มนั มีชอ่ งวา่ ง เวลาไหนก็น่งั เวลานนั้ แหละ อยา่ ไปคอยเวลานนั้
เวลานี้ ถา้ มนั วา่ งเม่ือไหรก่ ็พยายาม พยายามปฏบิ ตั ดิ ว้ ยกนั ไป
12
เรอ่ื ยๆ ก็สามารถท่ีจะทาํ ใหส้ ติสมั ปะชญั ญะควบคมุ จิตใจของ
ตนเองนนั้ ใหส้ งบมากขนึ้
เม่ือจิตใจสงบมากขนึ้ มนั ก็จะพอมองเหน็ ไดว้ า่ เราจะฝึกฝน
อบรมจติ ใจในดา้ นละกิเลส กิเลสทงั้ หลายเป็นเหตทุ าํ ใหเ้ ราเกิด
ทกุ ข์ มนั มาจากอยา่ งไร มนั มาแบบไหน มนั จงึ มาครอบครองรูป
รา่ งกายของเราอย่างนี้ วา่ เราจะประคบั ประคองรา่ งกายของเรา
ประคบั ประคองจิตใจของเรานนั้ ใหต้ งั้ อย่ใู นความสงบ เราจงึ จะ
พบความสขุ เกดิ ขนึ้ หากฉะนนั้ ถา้ รา่ งกายของเราไม่สงบ จติ ใจ
ของเราไม่สงบ มนั ก็มีความสบั สนวนุ่ วาย ทาํ ใหจ้ ติ ใจของเราไม่
สงบเป็นสมาธิไดง้ า่ ย จงึ จาํ เป็นเราตอ้ งอาศยั ความ
ขยนั หม่นั เพียร ผใู้ ดมีความขยนั หม่นั เพียรเดนิ จงกรมน่งั ทาํ
สมาธิ ทาํ ทกุ วนั ๆเวลามีช่องวา่ งก็สามารถท่ีจะฝึกฝนอบรมจิตใจ
ของเรานนั้ ใหส้ งบเป็นสมาธิได้ ไมว่ นั ใดก็วนั หน่งึ
ถา้ หากเราสามารถควบคมุ จติ ใจของเราใหส้ งบเป็นสมาธิได้
แบบไหน เรม่ิ ตน้ กรรมฐานขอ้ ใด ถา้ เราติดตามควบคมุ ดแู ล
จติ ใจของเราแบบไหน ทาํ ใหจ้ ติ ใจของเราสงบเป็นสมาธิไดง้ า่ ย
13
เราก็ควรจะจาํ ไวใ้ หด้ ี เราจาํ ไวใ้ หด้ แี ลว้ เวลาเราไปทาํ ความเพียร
อย่ทู ่ีไหน เรากจ็ ะสามารถจะเอาจิตใจของเราท่ีมนั สงบนี้ ใหร้ ู้
สิง่ ของตา่ งๆเกิดขนึ้ ได้ จะออกรูส้ งิ่ ของตา่ งก็รูเ้ รอ่ื งกิเลสน่นั เอง
ถา้ ใจสงบ เพราะกิเลสมนั อยทู่ ่ีใจของเรา มนั ไมอ่ ยทู่ ่ีอ่นื เราตอ้ งดู
ใหเ้ ขา้ ใจ ความโลภ ความโลภะ อะไรตา่ งๆท่ีไม่มีเพียงพอนนั้ ก็
คือเป็นหนา้ ท่ขี องจติ ใจเป็นผโู้ ลภะ โทสะ จะโกรธ จะเกลียด
เคียดแคน้ พยาบาทอาฆาต จองเวรกนั อาศยั จติ ใจมนั โกรธ มนั
เกลียด มนั เศรา้ หมอง จติ ใจมนั ไมด่ ี จติ ใจมนั มีความทกุ ข์ นนั้ ก็
เลยคดิ ไปในทางท่ีทาํ ใหท้ กุ ขห์ นกั เขา้ ไปกวา่ เดมิ น่ีเป็นอย่างนี้
ความหลงใหลอะไรทกุ ส่ิงทกุ อย่าง ไมใ่ ช่รูปกายมนั หลงใหล
เราตอ้ งฝึกฝนอบรมจิตใจดใู หเ้ ขา้ ใจ มนั เป็นเรอ่ื งของจติ ใจหลง
จติ ใจท่ีมีความทกุ ขว์ า่ มนั หลง เหตฉุ ะนนั้ เราจะฝึกฝนอบรม
จิตใจของเราใหเ้ ฉลียวฉลาด มีสติปัญญาสามารถท่ีจะเขา้ ใจวา่
อะไรมนั ทาํ ใหห้ ลง อะไรมนั ทาํ ใหเ้ กิดทกุ ข์ อะไรมนั ทาํ ใหเ้ กิดสขุ
มนั ก็สามารถจะคดั เลือกสิง่ ท่ีมนั ไมด่ ีไมง่ ามออกไป เอาแตส่ งิ่ ดี
งามไวใ้ นจติ ใจของเรา เหมอื นบคุ คลท่ีไปหยบิ เอาผลไมต้ า่ งๆ ก็
14
เลือกแตผ่ ลมนั ดี มนั ปลอดภยั เอามาไวใ้ หอ้ ย่ใู หก้ ินรบั ประทาน น่ี
หละบคุ คลมีความฉลาด เรยี กวา่ คดั เอา
บดั นีพ้ วกเรารูจ้ กั เรามาคดั เอา คอื วา่ มาคดั เอาสิง่ ไมด่ มี นั
ออกไปน่นั เอง ออกจากจิตใจของเรานนั้ ก็เราจะสรรหาเอาสิ่งอนั
ดมี าไวท้ ่ีใจของเรา เหตฉุ ะนนั้ พวกเราทงั้ หลายอยากใหจ้ ติ ใจมี
ความสขุ ก็ตอ้ งหาอารมณค์ อื ความสขุ ความสบายของจติ ใจ มา
พจิ ารณานกึ ถา้ หากเราเขา้ ใจในการพธิ ีปฏบิ ตั ิ ก็จะสามารถ
ฝึกหดั จิตใจของเราสงบเป็นสมาธิไดง้ า่ ยๆ แตม่ นั ก็ไม่ใชข่ องงา่ ย
แตม่ นั หนา้ ท่ีของเรามีความตงั้ ใจ ถา้ หากวา่ มีความตงั้ ใจปฏิบตั ิ
อยู่ มนั ก็จะฝึกหดั อบรมใหส้ งบเป็นสมาธิได้ ไมม่ ีปัญหา
การฝึกฝนอบรมจิตใจของเราสงบเป็นสมาธิแลว้ เราจะดู
อะไร เราจะดคู วามคิดของจิตใจนะ่ มนั คิดดหี รอื คิดไม่ดี หรอื คดิ
ใหม้ นั ทกุ ข์ หรอื คิดใหม้ นั สขุ คิดใหม้ ีเหตผุ ลอย่างไร ทาํ ใหเ้ กิด
ความสบายกายสบายใจ เราก็ตอ้ งจะรูจ้ ะเขา้ ใจ ถา้ ดคู วามโกรธ
ความโกรธเคยโกรธจรงิ แตก่ อ่ น ก็จะสามารถท่ีจะละใหม้ นั เบา
บางลงได้ ทาํ ใหม้ นั ไมโ่ กรธก็ได้ ความหลงใหลก็ดี มนั หลงใหล
15
อะไรก็ศกึ ษาสงิ่ นนั้ ใหเ้ ขา้ ใจวา่ มนั มาหลงทาํ ไมอยา่ งนี้ มนั มีเหตุ
มีผลมีประโยชนอ์ ะไร มนั ทาํ ใหเ้ กิดมีความสขุ อะไร
ถา้ หากเราฝึกใจของเราสงบแลว้ เราจะไม่เหน็ เรอ่ื งอยา่ งนี้
เรารูจ้ กั วธิ ีแกส้ ิ อนั นีม้ นั ทาํ ใหข้ ดั ขอ้ งอยู่ เราก็ตอ้ งแกไ้ ข เราแกไ้ ข
จติ ใจของเรากส็ บาย ทาํ ไมจงึ จิตใจจงึ สบาย เพราะจติ ใจตดิ
อะไรน่ีมนั หนกั มนั เป็นของหนกั เป็นของท่ีทาํ ใหเ้ กิดทกุ ข์
เหมือนกบั คนท่ีหาบสงิ่ ของน่ีแหละ มนั หาบสิง่ ของหนกั ๆ มนั เดนิ
ลม้ ซา้ ยลม้ ขวาไป มนั ทกุ ข์ ทีนีม้ นั รูว้ า่ มนั หนกั มนั ก็ขนสง่ิ ของนนั้
ออกจากสงิ่ ท่ีเคา้ หาบอย่เู ป็นกระบงุ ก็ดี เป็นตะกรา้ ก็ดี เคา้ ขน
ออกไปท่ีโนน่ แลว้ ก็หาบเดนิ ไปอกี มนั ยงั มีหนกั อกี ก็ขนออกไปอกี
ขนออกไปๆ เร่อื ยๆ เราก็เดนิ เขา้ ไปหาผใู้ หญ่ เดนิ ไปหาผใู้ หญ่
ท่านผมู้ ีความฉลาดท่านก็ เออ ก็จะเขา้ ใจวา่ คนมีความฉลาด
เคา้ จะขนของออกส่ิงท่ีไม่ดี ขนออกไปเร่อื ยๆ เร่อื ยๆ พอมนั หมด
จากตะกรา้ มนั ก็หาบเอาตะกรา้ เบาสบาย
ฉนั ใดก็ดี จติ ใจของพวกเราทงั้ หลายน่ีมนั มีความทกุ ขอ์ ยู่ ถา้
จะฝึกฝนจติ ใจใหส้ งบเราก็จะรูว้ า่ จติ นีม้ นั กาํ ลงั ทกุ ขอ์ ยกู่ บั อะไร
16
มนั ทกุ ขห์ นกั ก็เหน็ มยั้ เคา้ ทกุ ขม์ ากๆ จติ ใจทกุ ขม์ ากๆมนั รอ้ งไห้
นา้ํ ตารว่ งไหลไปถึงเคร่อื งนงุ่ ห่มปวกเปียกชืน้ ไปหมดเลย ทาํ ไม
เลา่ เคา้ จงึ รอ้ งไห้ คนใหญ่ๆก็ยงั รอ้ งไหอ้ ยู่ ไม่ใชแ่ ตเ่ ดก็ ก็รอ้ งไห้
เพราะจิตใจมนั เศรา้ หมองเพราะมีความทกุ ข์ มนั ทกุ ขเ์ พราะคิด
อะไรมนั จงึ รอ้ งไห้ เราก็จะแกไ้ ขในส่งิ ท่ีคดิ ทาํ ใหเ้ กิดทกุ ขแ์ ละ
รอ้ งไห้ วา่ มนั รอ้ งไหไ้ ปทาํ ไม เม่ือหากเราศกึ ษาพนิ ิจพิจารณา
แลว้ โอ้ รา่ งกายสงั ขาร เม่ือมนั เจบ็ มนั ป่วยก็ดี แลว้ เราก็จะเขา้ ใจ
วา่ เออ้ มนั เจบ็ มนั ป่วย จิตใจมนั รูว้ า่ ความเจ็บป่วยนนั้ เป็น
ธรรมชาตขิ องรา่ งกาย ใจก็จะสบายขนึ้ แตใ่ จจะไมเ่ ป็นหว่ งทกุ ข์
มาก น่ีกเ็ รยี กวา่ การท่ีจะพิจารณาหาวธิ ีแกไ้ ข จติ ใจของเรายดึ
ม่นั อะไรทาํ ใหเ้ กิดทกุ ข์ เรากต็ อ้ งรูจ้ กั หาวธิ ีลดละปลอ่ ยวาง
เม่ือเราปลอ่ ยวางแลว้ มนั ก็สบาย เหมือนบคุ คลเคา้ หาบ
ส่งิ ของ ขนสง่ิ ของออกจากตะกรา้ หมดแลว้ มนั เบา มนั ก็ปลง
ตะกรา้ ออกซะ วางซะ ไมต่ อ้ งเอา ทงิ้ ไป จะเดินไปแตต่ วั เปลา่ ๆ ก็
ย่งิ สบายเกิดขนึ้ ฉนั ใดก็ดี จติ ใจของเรานีก้ ็เหมือนกนั ถา้ หาก
พวกเรานนั้ ฝึกฝนอบรมจติ ใจของเราสงบเป็นสมาธิอย่ใู นความ
17
สงบ เราก็พบความสขุ เกิดขนึ้ สบายวา่ เออ้ จติ ใจไมย่ งุ่ เหยงิ ไมม่ ี
ภาระกบั สิง่ เหลา่ นี้ ไมท่ าํ ใหต้ นเองมีความทกุ ข์ แลว้ ก็จะเขา้ ใจได้
ถา้ มนั เขา้ ใจไดม้ นั ก็รูจ้ กั วาง พอมนั รูจ้ กั ปลอ่ ยวาง มนั กเ็ ลย
สบาย เรยี กวา่ คนรูธ้ รรมะ เขา้ ใจวา่ สงิ่ นีแ้ ตก่ อ่ นทาํ ใหเ้ ราเกิดทกุ ข์
แตบ่ ดั นีเ้ ม่ือเราเขา้ ใจแลว้ จะมีความสขุ เพราะเราวางจากสงิ่ ท่ี
มนั กงั วล มนั ทาํ ใหเ้ รามีความทกุ ข์ มนั วางลงไป
เหมือนบคุ คลกาํ ลงั มีความโกรธน่ี โกรธเกลียดเคียดแคน้ ถา้
เคา้ เจรญิ เมตตากรรมฐานนะ ประเลา้ ประโลมจิตใจของเคา้
เขา้ ใจแลว้ คนรูจ้ กั วางซิ อะไรทาํ ใหเ้ กิดทกุ ขก์ ็รูจ้ กั วาง เหมือน
บคุ คลมนั ยืนตากแดด มนั รอ้ น มนั กห็ าวธิ ีเขา้ รม่ ถา้ หากบคุ คล
จะรบั ประทานอาหาร สิ่งนีม้ นั ทาํ ใหเ้ จ็บทอ้ ง เจบ็ ทอ้ งบอ่ ยๆ มนั ก็
ตอ้ งรูจ้ กั โทษมนั ก็รูจ้ กั วา่ วธิ ีละปลอ่ ยวาง จะทาํ ใหม้ ีความสขุ
เกิดขนึ้ เคา้ เรยี กวา่ ฝึกฝนอบรมจติ ใจใหไ้ ดล้ ะกิเลส กิเลสเป็น
เหตทุ าํ ใหเ้ กิดทกุ ข์ ถา้ บคุ คลผใู้ ดประพฤติปฏิบตั ใิ หก้ ิเลสลดนอ้ ย
ถอยเบาบางลงไปมนั ก็สบาย มนั เป็นอยา่ งนี้ มีความสบาย
เกิดขนึ้ แลว้ จิตใจสงบ
18
การฝึกฝนอบรมจติ ใจน่ี กายวเิ วก คาํ วา่ กายวิเวกน่ีก็คอื มี
รูปรา่ งกาย คอื กายของเราสงบ จติ ตวเิ วกก็คือการฝึกฝนอบรม
จิตใจของเราใหส้ งบเป็นสมาธิ อุปธิวเิ วกก็คือการสงบระงบั ดบั
กิเลส ถอนกิเลสออกจากดวงใจ อนั นนั้ ก็เรยี กอปุ ธิวิเวก วิเวกคือ
ความสงบสงดั ความสงบสงดั ถา้ ขืนมีอะไรมารบกวนจติ ใจ ทาํ
ใหจ้ ติ ใจฟงุ้ ซา่ น ทาํ ใหจ้ ติ ใจทกุ ข์ ก็สลดั ออกได้ คือปลงวางออก
ไดน้ ่ีเอง
อนั นีจ้ งึ เป็นสงิ่ สาํ คญั ท่ีเราพากนั ศกึ ษากนั อยู่ อยากรูอ้ ยาก
เขา้ ใจ ถา้ เกิดขนึ้ มาแลว้ นนั้ อยากใหพ้ น้ ทกุ ขแ์ ตท่ าํ ไมยงั ไม่พน้
ทกุ ข์ ก็คือเรายงั ขาดสตปิ ัญญา และจะพจิ ารณาเร่อื งเหตเุ ร่อื ง
ผล เรอ่ื งอะไรท่ีทาํ ใหเ้ ราเกิดมาแลว้ มนั ทกุ ข์ มนั ยากลาํ บาก ทกุ ข์
กายก็ทกุ ข์ ทกุ ขใ์ จก็ทกุ ข์ มีรา่ งกายก็ทกุ ขก์ บั โรคภยั ไขเ้ จ็บนานา
ตา่ งๆ มที กุ ขใ์ จก็คอื รบั อารมณต์ า่ งๆทงั้ อารมณด์ ีและอารมณไ์ ม่
ดี รบั มาแลว้ ก็ตอ้ งมารบั ทกุ ขค์ ือความยดึ ม่นั ถือม่นั ในสง่ิ นนั้ ก็
เลยทกุ ข์ พอลองดเู หมือนกบั เรายดึ อะไรอย่างใดอยา่ งหนง่ึ ยดึ
ส่ิงของอย่ใู นรวั้ ในสวนก็ดี ยดึ ส่งิ ของใชใ้ นบา้ นก็ดี ถา้ ถกู โจรมา
19
ลกั เอาไป มนั ทกุ ขม์ าก คนท่ียงั ไมไ่ ดเ้ รยี นธรรมะ ถา้ หากคนท่ี
ศกึ ษาเลา่ เรยี นธรรมะวา่ เออ ครูบาอาจารยส์ อนใหเ้ ราละความ
ทกุ ข์ เราจงึ จะมีความสขุ เราก็พนิ ิจพจิ ารณามา ทา่ นใหข้ อ้ ธรรม
กรรมฐานอะไรถึงจะถกู จรติ นิสยั จิตใจของตน ทาํ ใหเ้ ราพน้ จาก
ทกุ ข์ ทกุ ขค์ ือความกงั วล กงั วลใจเลยทกุ ขใ์ จ แตน่ ่ีเราไมอ่ ยาก
ทกุ ขใ์ จ กายก็ไมอ่ ยากทกุ ข์ ใจก็ไม่อยากทกุ ข์ อยากใหใ้ จเราเป็น
อเุ บกขา ใจของเราอย่สู บา๊ ยสบาย จิตใจไมเ่ ดือดรอ้ นวนุ่ วาย
จติ ใจก็จะสงบ อนั นีเ้ ป็นเร่อื งจาํ เป็นท่ีเราทกุ คนตอ้ งศกึ ษา
ถา้ เราศกึ ษาภาวนาทาํ ใหจ้ ิตใจสงบ เราปฏบิ ตั ใิ หจ้ ิตใจสงบ
เป็นสมาธิดแี ลว้ คอื เหน็ ความสขุ แลว้ โอ๋ อนั นีเ้ ป็นหนทางพน้
ทกุ ข์ พิจารณาไปเท่าไหรก่ ย็ ่งิ ทาํ ใหต้ นเองมีความสงบ มี
ความสขุ เกิดขนึ้ อนั นที้ กุ คนพงึ ปรารถนากต็ อ้ งมีความพากความ
เพียรเจรญิ เมตตาภาวนา ฝึกฝนอบรมจิตใจของตน แลว้ จงึ จะรู้
ไดด้ ว้ ยตนเองทกุ อยา่ ง มนั จะเหมือนไม่ถามใคร วิญ�ชู นรูไ้ ด้
เฉพาะตวั เอง อยา่ งนีว้ า่ วิญ�ชู นรูไ้ ดเ้ ฉพาะตนเองนนั้ รูอ้ ยไู่ หน
จะไดเ้ ขา้ ใจ วา่ โอ เรามีสตปิ ัญญารูแ้ กไ้ ขท่ีออกจากจิตใจของเรา
20
จติ ใจก็เลยไดม้ ีความสขุ เกิดขนึ้ เป็นจิตใจสงบมีความสขุ น่นั
แหละ เราจงึ รูจ้ กั วา่ เออ ความปรารถนาของเรามนั อยตู่ รงนี้ อยู่
ตรงท่ีเราฝึกฝนอบรมจิตใจของเรา ตงั้ หลกั อยทู่ ่ีไหน เราควบคมุ
จติ ใจของเราอยา่ งไร ใจของเราจงึ สงบเป็นสมาธิ
น่ีมนั ไม่เป็นของงา่ ย เพราะมนั ยากอยู่ แตย่ ากเพียงใด ครู
บาอาจารยท์ งั้ หลายก็ปฏบิ ตั ไิ ด้ และน่ีเราก็เป็นคนเหมือนกนั
ไม่ใชพ่ ระแตเ่ ราก็เป็นคนเหมอื นกนั ก็พยายามท่ีจะฝึกฝนอบรม
จิตใจเพ่ือใหไ้ ดร้ บั ผลประโยชน์ เม่ือจิตใจไดร้ บั ผลรบั ประโยชนม์ ี
ความสงบสขุ มีความดีแลว้ เราจงึ จะมีความสขุ ความสขุ ท่ี
แทจ้ รงิ ก็คือการฝึกฝนอบรมจติ ใจใหส้ งบ หากจิตใจของเราไม่
สงบเม่ือไหร่ เราอยา่ ปลอ่ ยปละละเลยใหจ้ ิตใจของเราคิดไป ไม่
มีท่ีอยพู่ กั พาอาศยั เราจะเสยี การเสยี เวลาท่ีเราตงั้ ใจวา่ เออ้ เรา
ปรารถนามานะ จะทาํ ความดี ทาํ ความดเี พ่ือตอ้ งการพน้ ทกุ ข์
อยา่ งไรมนั ทาํ ใหเ้ กิดทกุ ข์ เราจะพยายามควบคมุ ดแู ลจติ ใจของ
เราใหร้ ูจ้ กั พอเหมาะ พอสม พอดี เพ่ือจะไมม่ ีความทกุ ขเ์ กิดขนึ้
21
อนั นีเ้ ป็นเรอ่ื งหนา้ ท่ีของเราท่ีเป็นนกั ปฏิบตั ิ จะไปอย่ใู นวดั
วาอาวาสท่ีไหน บา้ นใดเมืองประเทศไหน เชน่ ไหนก็แลว้ แต่ อยา่
ลืมในการปฏบิ ตั ฝิ ึกหดั อบรมจติ ใจของตน เม่ือจติ ใจของเราถา้
ไดฝ้ ึกหดั และอบรมดีแลว้ เรยี กวา่ จติ ท่ีฝึกดีแลว้ นาํ ความสขุ มา
ให้ มนั เป็นท่พี วกเราตอ้ งการอยากไดอ้ ย่างนนั้ ก็ขอใหท้ กุ คนมี
ความตงั้ ใจ นอกพรรษาก็ดี ในพรรษา มนั เป็นอกาลโิ ก เหตนุ นั้ ผู้
ปฏิบตั ิตงั้ ใจปฏิบตั จิ รงิ ๆ ไม่มีนอกพรรษา ไมม่ ีในพรรษา เจรญิ
ภาวนาทกุ วนั ๆ ไม่ใหจ้ ิตจากขาดกิจเจรญิ ภาวนา ถา้ หากบคุ คล
มีความตงั้ ใจอยู่ ไมว่ า่ วนั ใดก็วนั หนง่ึ ก็จะพบตวั ความสงบสขุ ท่ี
ตนเองปรารถนาอย่แู นน่ อน
เหตฉุ ะนนั้ พระพทุ ธองคจ์ งึ ทรงสอนใหค้ อ่ ยเป็นคอ่ ยไป ให้
เป็น มชฌฺ ิมา ปฏปิ าท ตถาคเตน อภสิ มพฺ ุทธฺ า เรยี กวา่ เรา
นนั้ ตงั้ ใจปรารถนา ตงั้ ใจทาํ ความเพียรอยู่ ไมป่ ลอ่ ยปละละเลย
มนั ก็สามารถจะพบได้ ถา้ เราไม่มีความตงั้ ใจ เราจะภาวนาอยู่
สิบปีมนั ก็ไม่สงบ แตบ่ คุ คลมีความตงั้ ใจยงั ไม่ถึงสบิ ปีหรอก
ปฏบิ ตั ิ ปีนงึ สองปี สามปี เคา้ ก็รูธ้ รรมะไดเ้ พราะควบคมุ ดแู ลอยู่
22
ดแู ลจิตใจอยู่ ไมป่ ลอ่ ยปละละเลยใหจ้ ติ ใจเสียหาย เหมือนพอ่
แม่ทงั้ หลายควบคมุ ลกู เน่ีย ลกู ไมด่ ี แตก่ อ่ นเหมือนจิตใจไม่สงบ
บดั นีเ้ ราหากควบคมุ ลกู ท่ีไมด่ ีมาอย่กู บั ตวั แลว้ สามารถดแู ล
รกั ษามนั ใหก้ ารศกึ ษาเลา่ เรยี น อนั นีเ้ ป็นเรอ่ื งท่ีเราจะปฏบิ ตั กิ นั
เหตฉุ ะนนั้ อยา่ ย่อหยอ่ นในการปฏบิ ตั ิ ฝึกหดั ไปเรอ่ื ยๆ เร่อื ยๆ
บางบคุ คลก็จะเหน็ นิมิต บางบคุ คลก็จะเหน็ แสงสวา่ ง
เกิดขนึ้ มนั ทาํ ใหต้ ่นื เตน้ อนั นนั้ ก็พยายามอยา่ ไปหลงใหลมนั มี
แตต่ งั้ ใจจะควบคมุ ดแู ลจิตใจใหส้ งบนานๆ นานๆ ทกุ วนั ๆ เม่ือ
จติ ใจของเราสงบนน่ิงมากทกุ วนั มาก มนั จะย่ิงมีปัญญาท่ีจะรู้
อะไรถกู อะไรผดิ ก็เหมือนเราอย่ใู นท่ีมืด ถา้ เราไมม่ ีไฟฉาย มนั ก็
ตอ้ งสงสยั วา่ ในท่ีมืดมีอะไร ถา้ เราฝึกฝนอบรมจติ ใจของเราสงบ
มีแสงสวา่ งเกดิ ขนึ้ ก็จะมีปัญญาใหร้ ูส้ จั ธรรมของจรงิ วา่ สง่ิ นี้
ตงั้ อย่อู ยา่ งไร เกิดมาอยา่ งไร ตงั้ อยู่ เส่ือมคลายหายไปไหนอยู่
ในโลกนี้ มนั กจ็ ะเขา้ ใจดี จติ ใจท่ีสงบเป็นสมาธิ มนั ก็ใชค้ วาม
สงบเป็นสมาธินีเ้ องตรวจตราดจู ติ ใจได้ เรามีอะไรไมด่ กี ็จะแกไ้ ข
ตนเอง ก็เรยี กวา่ พฒั นาตนเอง พฒั นาจิตใจของตนเอง ใหม้ ี
23
ความเฉลียวฉลาด แกป้ ัญหาท่ีทาํ ใหเ้ กิดทกุ ขล์ ดนอ้ ยถอย
ออกไปจากจิตใจของพวกเรา ใจของเราจงึ จะมีอสิ ระเกิดขนึ้ จงึ
จะไดร้ บั ผลรบั ประโยชนค์ ือความสขุ
เหมือนบคุ คลหาบสง่ิ ของ วางหมด ปลงหมดเสยี ไม่หาบ
เดนิ แตต่ วั เปลา่ ก็สบ๊าย สบาย ในใจของพวกเราทงั้ หลายก็
เหมือนกนั ถา้ หากเราฝึกฝนไปเร่อื ย มนั มคี วามฉลาดเกิดขนึ้ น่งั
ขดั ไปเรอ่ื ยๆ ย่งิ มีสตปิ ัญญามากขนึ้ ย่งิ หาวิธีละกเิ ลสตณั หาออก
จากดวงใจของตนเองได้ ละออกไปแลว้ ยงั ไง เพราะจิตใจเรารูว้ า่
อนั นที้ าํ ใหต้ นเองเกิดทกุ ข์ ตนเองไม่อยากทกุ ข์ เม่ือไม่อยากทกุ ข์
ก็ตอ้ งปลอ่ ยวาง ละทงิ้ ละทงิ้ ไปแลว้ มนั ก็มีความสขุ ก็ไมม่ ีอะไร
รบกวนจติ ใจ
เหตฉุ ะนนั้ ก็ใหพ้ ากนั ตงั้ ใจประพฤตปิ ฏิบตั ิฝึกหดั อบรมทกุ
วนั ๆ ปลอ่ ยปละละเลยไม่ได้ เพราะเรามีความตงั้ ใจมงุ่ หวงั
ปรารถนาวา่ จะไปนิพพาน คาํ วา่ นิพพานก็คอื การไม่มาเวยี นวา่ ย
ตายเกิดในวฏั สงสาร เป็นท่สี ดุ ของกองทกุ ขท์ งั้ ปวง ดบั ไมห่ มด
ไม่มีทกุ ข์ ไม่มคี วามวนุ่ วายกบั อะไร ผฝู้ ึกฝนอบรมจิตใจใหพ้ น้
24
ทกุ ข์ น่ีเราอยากพน้ ทกุ ข์ ยงั ไม่ตายน่หี ละ พน้ ทกุ ขต์ งั้ แตม่ ีลม
หายใจเขา้ ออก ยนื เดนิ น่งั นอนไดส้ ิ ทาํ กิจการงานได้ ใหใ้ จของ
เรานีส้ ามารถลดละกิเลสตงั้ แตเ่ รามีลมหายใจอยู่ พระอรยิ เจา้
ทงั้ หลาย ไมว่ า่ ทา่ นจะสขุ เพยี งใด ท่านละกิเลสออกจากใจของ
ท่านไดห้ มดสนิ้ จิตใจของทา่ นขาวสะอาดบรสิ ทุ ธิ์ผดุ ผอ่ ง
พวกเราคอ่ ยฝึก คอ่ ยเป็นคอ่ ยไป คอ่ ยขดั เกลาเรอ่ื ยๆ ก็
สามารถจะมปี ัญญาขนึ้ ทกุ ภพทกุ ชาตถิ า้ หากยงั มาเกิดอยู่ จะมี
สตปิ ัญญาเฉลยี วฉลาดมากกวา่ นี้ เกิดมาอกี ชาตใิ หม่ก็ใหเ้ ฉลยี ว
ฉลาดมากขนึ้ ตามลาํ ดบั ก็สามารถจะดบั ทกุ ขไ์ ดก้ ็อาศยั
สติปัญญาท่ีเกิดขนึ้ สตปิ ัญญาก็คือจติ มนั รูท้ กุ ข์ มนั ก็จะวางทกุ ข์
มนั ก็ดบั ทกุ ขน์ ่นั มนั ก็มาคิดในส่ิงท่ีไมท่ าํ ใหม้ ีความเดือดรอ้ น
เคา้ เรยี กวา่ จิตฉลาด จติ มีปัญญาเกิดขนึ้ ไลก่ ิเลสไดเ้ ป็น
ขนั้ ๆตอนๆ อนั นีเ้ ป็นเรอ่ื งท่พี วกเราจะฝึกฝนอบรม เหตฉุ ะนนั้ ทกุ
คนใหม้ ีความตงั้ ใจ แตน่ ีต้ อ่ ไปก็ขอใหใ้ ชส้ ติสมั ปะชญั ญะ
ควบคมุ ดแู ลจิตใจของตนเองใหอ้ ยกู่ บั ตน อย่ใู นความสงบ ให้
25
มนั น่ิงสงบอยู่ ไมต่ อ้ งคดิ ไปท่ีไหน คิดแตจ่ ะใหส้ งบเทา่ นนั้ (จบ
เทป)
ท่ีมา: https://youtu.be/YSduD5pEzxY
26