The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สติปัฏฐาน ๔ โดย หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-03-02 23:09:21

สติปัฏฐาน ๔ โดย หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร

สติปัฏฐาน ๔ โดย หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร

Keywords: สติปัฏฐาน ๔,หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร

สตปิ ัฏฐาน ๔
หลวงพอ่ วิรยิ งั ค์ สริ นิ ฺธโร
…หลบั ตานกึ พทุ โธในใจใหใ้ จของเราตงั้ เท่ียง ตงั้ ม่นั ธรรมะ
ท่ีอาตมาแสดงไป ธรรมะจะเขา้ ทางหู รูถ้ งึ ใจ เราเพียงกระทาํ ใจ
ของเราไว้ กาํ หนดใจของเราไวเ้ ทา่ นนั้ ไมต่ อ้ งสง่ ใจมาท่ีเสยี งของ
ธรรมะ ใหธ้ รรมะนีเ้ ขา้ ทางหแู ละจะลงไปสใู่ จเอง
ธรรมะเป็นสง่ิ ท่ีมีอยใู่ นตวั ของเรา ตวั เราเรยี กวา่ ตวั ธรรม จงึ
เรยี กวา่ รูปธรรมและนามธรรม รูปธรรมไดแ้ ก่รา่ งกาย มีธาตุ
ทงั้ ๔ ดนิ นา้ํ ไฟ ลม ผม ขน เลบ็ ฟัน หนงั มีแขง้ ขามือเทา้
ศรี ษะอยา่ งนีเ้ รยี กวา่ รูปธรรม นามธรรมนนั้ คือเวทนา สัญญา

สังขาร วิญญาณ

เวทนาไดแ้ ก่ความเสวยสขุ เสวยทกุ ข์ สญั ญาไดแ้ กค่ วามจาํ
ไดห้ มายรู้ สงั ขารไดแ้ ก่ความปรุงแตง่ วิญญาณไดแ้ ก่ความรูส้ กึ
นกึ คิด ทงั้ ๔ ประการนนั้ เรยี กวา่ นามธรรม เพราะฉะนนั้ ธรรมะ
จงึ ไมไ่ ดอ้ ย่ทู ่ีอ่นื อยทู่ ่ีตวั ของเรา

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 1

การแสวงหาธรรมะก็แสดงหาในตวั ของเราน่ีเอง พิจารณา
อย่ใู นตวั ของเรานีใ้ นรูปธรรมและนามธรรม จนเกิดความสงบ
ขนึ้ มาในใจ ความสงบนนั้ คอื สงบจากอารมณ์ อารมณน์ นั้ คือ
ความนกึ ความคดิ ความนกึ ความคดิ อิฏฐารมณ์ เรยี กวา่ ความ
นกึ คดิ ไปในทางท่ีดี อนิฏฐารมณค์ อื ความนกึ คดิ ไปในทางท่ีไม่
ดี เรยี กวา่ อารมณเ์ สีย หรอื ความนกึ คดิ ดกี ็เรยี กวา่ อารมณด์ ี
อารมณข์ องคนก็มีอยสู่ องอย่าง คอื อารมณด์ ีกบั อารมณเ์ สีย ทงั้
สองอย่างท่ีเกิดขนึ้ มานนั้ เป็นสิ่งท่ีก่อใหเ้ กิดความฟงุ้ ซา่ นทงั้ สิน้
สง่ิ ท่ีจะทาํ ใหเ้ กิดอารมณข์ นึ้ มานนั้ คอื อะไร

ส่ิงท่ที าํ ใหเ้ กิดอารมณข์ นึ้ มาก็คืออุปาทาน อปุ าทานไดแ้ ก่
ความยดึ ม่นั ความยดึ ถือท่ีเราพากนั ยดึ อยทู่ กุ วนั นีเ้ รยี กวา่
อปุ าทาน ยดึ วา่ เราเป็นหญิง ยดึ วา่ เราเป็นชาย ยดึ วา่ เป็นทรพั ย์
สมบตั ิ ยดึ วา่ เป็นเงนิ ทองขา้ วของ ยดึ วา่ เป็นป่าไมภ้ เู ขา ยดึ วา่
เป็นดินดอนตา่ งๆ ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งท่ีเราไปถือเอาเหลา่ นนั้ เรยี กวา่
อปุ าทานคือความยดึ ความยดึ ถือไวท้ ่ีใด ท่ีนนั้ ก็เรยี กวา่ ยดึ ม่นั

โดยทมี งานกรธุ รรม grudhamma.com 2

เรายดึ ม่นั สง่ิ นนั้ เป็นของเรา สง่ิ นีเ้ ป็นของเรา เรยี กวา่ ความยดึ
ม่นั

เม่ือความยดึ ม่นั มีอยทู่ ่ีใด เราก็จะตอ้ งฝังจิตของเรา คอื ฝัง
ความนกึ คิดไวท้ ่ีน่นั เม่ือถงึ บทถึงบาทถงึ เวลา มนั ก็ผดุ ออกมา
เหมือนดอกเหด็ เด๋ยี วมนั ออกมาสงิ่ นนั้ เกิดขนึ้ แลว้ ก็ปรุงแตง่ ไป
สิ่งนีเ้ กิดขนึ้ แลว้ ก็ปรุงแตง่ ไป การปรุงแตง่ นนั้ เคา้ เรยี กวา่ สังขาร
ความปรุงแตง่ ของจิตนีไ้ ม่มีท่ีสนิ้ สดุ อยดู่ ีๆก็สรา้ งวมิ านบน
อากาศ คือหมายความวา่ นกึ คิดวา่ เราควรจะเป็นอยา่ งนนั้ ควร
จะเป็นอยา่ งนี้ เรยี กวา่ สรา้ งวิมานไป อนั นเี้ รยี กวา่ ความฟงุ้ ซา่ น

สิ่งเหลา่ นีเ้ ป็นภยั และเป็นอนั ตรายกบั จิต จิตของเรานนั้ เม่ือ
ถกู ความฟงุ้ ซา่ นครอบงาํ หรอื อารมณต์ า่ งๆครอบงาํ มากเขา้ จิต
จะสญู เสียพลงั ไปตามลาํ ดบั เม่ือมีอารมณด์ อี ารมณเ์ สียมากเขา้
ความสญู เสียพลงั ของจติ นีก้ ็จะมีขนึ้ เร่อื ยไป จนกระท่งั ถงึ ต่าํ ลง
ไป จนกระท่งั ถึงต่าํ สดุ จติ ของเรานนั้ ธรรมดาๆก็พอทานไหว แต่
ถา้ มนั มากไป มนั ก็ทานไม่ไหว เม่ือทานไมไ่ หวอะไรจะเกิดขนึ้

โดยทมี งานกรธุ รรม grudhamma.com 3

คอื ความเศรา้ หมองของใจ ใจของเราก็เกิดความเศรา้ หมอง
ความเศรา้ หมองอนั นีท้ ่กี ่อใหเ้ กิดความโทมนสั

ความโทมมัสก็คอื ความเศรา้ โศกเสยี ใจ หรอื ความรูส้ กึ วา่
ในใจนีม้ นั เตม็ ไปดว้ ยความผดิ หวงั เรยี กวา่ โทมนสั อนั ท่ีเกิดขนึ้
เหลา่ นีเ้ ป็นภาวะของจิตท่เี สยี กาํ ลงั เม่ือเสยี กาํ ลงั มากเขา้ ๆ ก็
เรยี กวา่ สไู่ ปถึงขนั้ ต่าํ สดุ เม่ือไปถงึ ขนั้ ต่าํ สดุ แลว้ เพราะเหตทุ ่ีเรา
ไม่สามารถจะตา้ นทานอารมณต์ า่ งๆไหว มนั ก็เลยเกิดความ
วิปรติ ของจิต ความวปิ รติ ของจิตก็คือความเคลมิ้ หรอื ความ
หลงใหล ความเคลิม้ หรอื ความหลงใหลเกดิ ขนึ้ ก็จะมองไปเหน็
ผิดเป็นชอบไปหมด ความดีก็เหน็ เป็นความไม่ดี ความไมด่ กี ็เหน็
เป็นความดี เหลา่ นีค้ ือจิตท่ีลดระดบั ต่าํ สดุ แลว้

เม่ือลดระดบั ลงไปถึงขนั้ นนั้ เคา้ เรยี กวา่ จิตต่าํ หรอื เรยี กวา่
จติ ทราม เม่ือถงึ ขนั้ จติ ต่าํ จติ ทรามนนั้ ก็เป็นอนั วา่ ใครๆก็ฉดุ ไม่
ไหว แมแ้ ตอ่ งคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ พระองคก์ ็ทรงตดั
สะพาน คอื หมายความวา่ เป็น ปทปรมะ แมจ้ ะแนะนาํ ส่งั สอน
เพียงใด เขาก็ไม่ตอ้ งการฟัง คือพวกนี้ อะสุตงั ไมอ่ ยากฟัง

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 4

อะทสั สะนัง ไมอ่ ยากเหน็ ไมอ่ ยากเหน็ พระพทุ ธ พระธรรมและ
พระสงฆ์ ไมอ่ ยากฟังคาํ ส่งั สอนของพระพทุ ธเจา้ อยา่ งนี้ เรยี กวา่
อะสุตัง อะทสั สะนัง อย่ใู นภาวะท่ีต่าํ สดุ เม่ือเป็นเชน่ นนั้ คน
จาํ พวกนีส้ ามารถสรา้ งบาปกรรม สามารถสรา้ งความช่วั คอื บาป
นีไ้ ดม้ าก ในสง่ิ ท่ีไมน่ า่ ท่ีจะทาํ ได้ แตพ่ วกนที้ าํ ได้ เพราะเหตวุ า่
จติ นนั้ ไดล้ งสรู่ ะดบั ต่าํ แลว้

เม่ือพวกเราทงั้ หลายไดม้ าพบคาํ ส่งั สอนของพระพทุ ธเจา้
ไดม้ าพบธรรมะอนั วิเศษ ไดม้ าพบ เญยยธรรม ไดม้ าพบ
อนุตตรธรรม ท่ีเราพากนั ปฏิบตั ิอยใู่ นปัจจบุ นั ทกุ วนั นี้ ตอ้ งเขา้
กนั กบั วา่ จิตของเราไมไ่ ดล้ งอย่ใู นภาวะนนั้ มีแตท่ ่ีจะสงู ขนึ้
ตามลาํ ดบั ไมไ่ ดม้ ีการต่าํ ลง มีแตก่ ารสงู ขนึ้ เพราะฉะนนั้ ท่านจงึ
กลา่ ววา่ ผทู้ ่มี าปฏบิ ตั ติ ามธรรมะคาํ ส่งั สอนของพระพทุ ธเจา้ นนั้
ไดช้ ่ือวา่ เราไดพ้ ฒั นาจิตนีใ้ หส้ งู ขนึ้ ตามลาํ ดบั จากความเป็น
ปถุ ชุ น มาเป็นกลั ยาณชน จากกลั ยาณชนนนั้ ก็สงู ขนึ้ มาเป็น
อรยิ ชน

โดยทมี งานกรธุ รรม grudhamma.com 5

ท่ีเราพากนั ปฏบิ ตั อิ ยทู่ กุ วนั นี้ ไม่ใชเ่ ป็นเรอ่ื งธรรมดา เป็น
เร่อื งท่ีมีความสงู เป็นเร่อื งท่ีมีความดี และเป็นเรอ่ื งท่ีมีความ
ประเสรฐิ ทาํ ไมจงึ ไดก้ ลา่ วเชน่ นนั้ เพราะวา่ องคส์ มเด็จพระ
สมั มาสมั พทุ ธเจา้ ทรงตรสั เชน่ นนั้ บคุ คลผใู้ ดไดพ้ ากนั มาปฏิบตั ิ
ในทางธรรมะ บคุ คลผนู้ นั้ เรากลา่ ววา่ เป็นผปู้ ระเสรฐิ พระองค์
ทรงตรสั อยา่ งนี้ ท่ีกลา่ ววา่ เป็นผปู้ ระเสรฐิ นนั้ เพราะอะไร
เพราะวา่ เป็นผทู้ ่ีอยเู่ หนือ เป็นผทู้ ่ีมีเหตผุ ล เป็นผทู้ ่ีอยเู่ หนือ
อารมณ์ เป็นผทู้ ่ีไดร้ บั การฝึกฝนและพฒั นา ยอ่ มจะตอ้ งไปยืน
อย่ใู นเบือ้ งหนา้ มีความเจรญิ เป็นสิง่ ท่ีจะตอ้ งมีแก่บคุ คลผนู้ นั้

ความเจรญิ นนั้ หมายถงึ ความเจรญิ ในทางธรรม เพราะวา่ ส่ิง
ท่ีเราพากนั ปฏบิ ตั นิ ี้ เป็นส่งิ ท่ีมีคณุ คา่ ไม่สามารถจะนบั วา่ เป็น
ราคาเทา่ ไหร่ เราจะนบั ไดไ้ หมวา่ เม่ือจิตของเรารวมไปครงั้ หนง่ึ
นนั้ จะเปรยี บเทียบกนั กบั เงนิ ท่ีเรามีอยนู่ นั้ เท่าไหร่ ลองเปรยี บดู
ถา้ เราเปรยี บเงินไดแ้ สนหนง่ึ เทา่ กนั กบั วา่ จติ รวมครงั้ หนง่ึ ก็ถือ
วา่ เราเปรยี บเทียบผิดซะแลว้ เพราะวา่ เงนิ แสนนนั้ ไมส่ ามารถท่ี
ปอ้ งกนั นรกหรอื ปอ้ งกนั อบายภมู ิได้ แตจ่ ติ ท่ีรวมไปครงั้ หนง่ึ นนั้

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 6

สามารถท่ีจะปอ้ งกนั อบายภมู ิได้ ผทู้ ่ีทาํ จติ รวมแมแ้ ตค่ รงั้ เดียว ผู้
นนั้ ยงั ถือวา่ มากกวา่ เงนิ ท่ีนบั จาํ นวนหลายลา้ น เงนิ จาํ นวน
หลายลา้ นนนั้ จะมาเปรยี บเทียบกบั จิตรวมหนง่ึ ครงั้

เปรยี บเทียบไมไ่ ด้ เพราะอะไร เพราะวา่ สง่ิ ท่ีเราทาํ จิตให้
สงบ หรอื ทาํ ใหจ้ ิตรวมแมแ้ ตค่ รงั้ เดียวนนั้ อนั นีจ้ ะเป็นนิสยั เม่ือ
เวลาเราละจากโลกอนั นีไ้ ป จิตท่ีรวมไวน้ ีจ้ ะเป็นนิสยั สง่ ผลให้
บคุ คลผนู้ นั้ มีความไปพบแสงสวา่ งและสามารถท่ีจะพฒั นาจิต
ไดโ้ ดยความรวดเรว็ เพราะฉะนนั้ ไมต่ อ้ งกลา่ วถึงวา่ พวกเราได้
ฝึกมาเป็นเวลาหลายปี และไดฝ้ ึกมาเป็นจาํ นวนเวลานบั สิบๆปี
หรอื มากกวา่ นนั้ จิตของเรายอ่ มจะตอ้ งรวมหรอื จิตของเรา
จะตอ้ งสงบมากมายหลายสบิ ครงั้ หรอื เรยี กวา่ หลายรอ้ ยครงั้ ซง่ึ
เป็นสิง่ ท่ีมีคณุ คา่ ไม่สามารถท่ีจะนบั และไม่สามารถท่ีจะ
ประมาณได้

เพราะเหตนุ นั้ การท่ีเราเสยี สละเวลามา และการท่เี ราตงั้ ใจ
ปฏิบตั ิ จงึ เป็นส่ิงท่ีคมุ้ คา่ เรยี กวา่ คมุ้ คา่ ย่งิ กวา่ สง่ิ ใดๆทงั้ สิน้ เรา
พากนั พยายามเสยี สละทาํ กิจการงานเพ่ือแสวงหาเงนิ ทองขา้ ว

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 7

ของมา เราก็เสียสละกาํ ลงั กายกาํ ลงั ใจของเรานนั้ มากมาย
เหลอื เกนิ เรยี กวา่ บางทีทาํ สายตวั แทบขาด อยา่ งนีเ้ ราก็ยงั ทาํ
สว่ นท่ีเราจะมาทาํ ในหนา้ ท่ีของเราท่ีเป็นคณุ ธรรมอนั ประเสรฐิ
นนั้ เราก็ยงั ทาํ นอ้ ยกวา่ ท่ีเราแสวงหาการเลีย้ งชพี หรอื การ
แสวงหาทรพั ยส์ นิ เงนิ ทองอีกมากมาย เพราะเหตกุ ารท่ีเราพากนั
มาแสวงหาธรรมะนนั้ เราไดเ้ จียดเวลาสว่ นเหลือท่ีไดม้ ากระทาํ
กนั แตบ่ างคนนนั้ ไมไ่ ดเ้ จียดเวลาสว่ นเหลอื ไดส้ ละเวลาทงั้ สนิ้
มาปฏบิ ตั ิ จงึ ไดช้ ่ือวา่ ผมู้ ีศรทั ธา

เพราะฉะนนั้ การท่ีพวกเราไดร้ บั ผล ไดร้ บั ประโยชนจ์ ากการ
ปฏิบตั ิศลี สมาธิ ปัญญา ท่ีเราไดก้ ระทาํ นนั้ จงึ ไดช้ ่ือวา่ เราเป็นผู้
รกั คือเป็นผรู้ กั ตวั ของเรา ตวั ของเรานีเ้ ป็นท่ีรกั เรารกั ตวั ของเรา
เรารกั อะไร เรารกั ตวั ของเรา เราก็จะตอ้ งเป็นผทู้ ่ีปฏิบตั ศิ ลี สมาธิ
ปัญญา และช่อื วา่ เราเป็นผรู้ กั ตวั ของเราโดยแท้ สว่ นท่ีไมไ่ ด้
ปฏบิ ตั ศิ ลี สมาธิ ปัญญานนั้ เขาจะกลา่ ววา่ เขารกั ตวั ของเขานนั้
แมเ้ ขาจะกลา่ วเพียงใด ก็ไมช่ ่ือวา่ เขารกั ตวั เขาไม่ไดร้ กั ตวั ซกั
หน่อย มีแตว่ า่ ไปรกั สง่ิ ท่ีเหลวไหล หรอื เรยี กวา่ โลกมารยา โลกท่ี

โดยทมี งานกรธุ รรม grudhamma.com 8

เราอาศยั อยนู่ ี้ เคา้ เรยี กโลกมารยา เรยี กวา่ โลกมารยานนั้ ไดใ้ น
คาํ ท่ีพระพทุ ธองคท์ รงตรสั วา่

เอถะ ปัสสะถมิ งั โลกงั
จติ ตัง ราชะระถูปะมงั
อันธพาลา วสิ ที นั ติ
นัตถิ สังโค วชิ านะตัง
ซง่ึ แปลเป็นใจความวา่ สเู จา้ ทงั้ หลาย จงมาดโู ลกนีอ้ นั เตม็
ไปดว้ ยมารยา อนั คนเขลาหมกอยู่ แตผ่ รู้ ูห้ าขอ้ งอย่ไู ม่ นีเ้ ป็นคาํ
แปล นีเ้ ป็นคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ ท่พี ระองคต์ รสั แกพ่ ระอภยั
กมุ ารเพ่ือท่ีจะใหม้ องดโู ลก วา่ โลกนีม้ นั เป็นอะไร
เอถะ ปัสสะถมิ งั โลกงั ลองคดิ ดวู า่ ทาํ ไมพระพทุ ธเจา้ ถึง
ตรสั วา่ โลกนีเ้ ป็นโลกมารยา ถา้ เราจะมองไปโดยท่วั ๆไปนนั้ ก็
สมจรงิ ตามคาํ ส่งั สอนของพระพทุ ธองค์ เพราะวา่ โลกนีท้ ่ีเรามี
ชีวิตอยนู่ ่ี คือเป็นโรงละครโรงใหญ่ โรงละครท่ีเรามีฉากแสดงกนั
ประเด๋ยี วก็เป็นตวั พระ ประเด๋ียวก็เป็นตวั นาง ประเด๋ียวก็เอา
หวั โขนมาใสเ่ ป็นพระราชา ประเด๋ียวก็เอาหวั โขนมาสวมใสเ่ ป็น

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 9

เสนาบดี เด๋ียวก็เอาหวั โขนมาสวมใสเ่ ป็นทหาร เป็นประชาชน
เป็นคน เป็นพอ่ คา้ ก็สวมใสก่ นั ไป แตพ่ อเลิกจากการเลน่ ละคร
แลว้ เอาหวั โขนออก มนั กเ็ ทา่ นนั้ แตเ่ ม่ือเวลาเอาหวั โขนใส่ เราก็
พากนั หลงจนกระท่งั หลงเอาจรงิ ๆจงั ๆ การท่ีหลงโลกมารยานนั้
เรยี กวา่ หลงหวั โขนท่ีเขาสวมใส่ เม่ือสวมใสเ่ ขา้ ไปแลว้ ก็ไปออก
ท่าทางกนั ตา่ งๆนานา พวกท่เี ตน้ ก็เตน้ ตามกนั ไปสารพดั เป็นท่ี
น่าขาํ

เพราะฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ จงึ ตรสั วา่ นา่ ขาํ ท่คี นทงั้ หลายพา
กนั หลงอย่ใู นโลกนีก้ นั หนกั หนา แตแ่ ทท้ ่ีจรงิ นนั้ ก็คือเป็นสิ่งท่ี
เรยี กวา่ เป็นเพียงมารยาเทา่ นนั้ ทาํ ไมจงึ กลา่ วเชน่ นนั้ ก็เพราะวา่
คนเรามีรทึ ่ีจะไมต่ าย ในท่ีสดุ จะสวมหวั โขนแคไ่ หน มนั กล็ งจดุ
หนง่ึ คือความตาย เสรจ็ สนิ้ ลงไปเพียงแคน่ นั้ เพราะฉะนนั้
ถงึ แมว้ า่ เขาจะสวมหวั โขนใหญ่โตเพยี งแคไ่ หน เขาก็เอาไปไมไ่ ด้
ในท่ีสดุ กถ็ กู เผาไฟโดยสนิ้ เชงิ รา่ งกายของเราก็จะไมม่ ีอะไร
เหลอื อยู่ มีแตเ่ ถา้ ถา่ นเทา่ นนั้ ท่ีเหลอื อยู่ ในท่ีสดุ ถงึ ท่ีสดุ เป็น
เชน่ นนั้

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 10

เพราะฉะนนั้ องคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ พระองคจ์ งึ ได้
ทรงตรสั อธิบายถงึ หนทางท่ีเราจะเดินไปสสู่ นั ติสขุ พระองคท์ รง
ตรสั วา่ นตถฺ ิ สนฺติ ปรํ สุขํ ความสขุ ท่ีเสมอดว้ ยความสงบไม่มี
ความสขุ ท่ีเสมอดว้ ยความสงบไม่มี เป็นการตรสั ท่ีพระพทุ ธเจา้
ทรงตรสั อนั นพี้ ระองคท์ รงตรสั ไวเ้ ป็นสงิ่ ท่แี นน่ อนท่ีสดุ
เพราะฉะนนั้ หนทางท่ีทาํ ใหเ้ กิดความสงบนนั้ ก็คือการปฏบิ ตั ิ
สมาธิกรรมฐาน การปฏบิ ตั สิ มาธิกรรมฐานนนั้ คือการทาํ จิตให้
เป็นหนง่ึ ความเป็นหนง่ึ ของจติ นนั้ คือการเป็นสมาธิ จติ รวมนนั้
คอื จิตเขา้ สภู่ วงั ค์ แลว้ กห็ ายหวมั ลงไป แลว้ ก็เกิดความรูข้ นึ้ มา
อนั นงึ อยนู่ ่ิงๆในท่นี นั้ เรยี กวา่ จติ เป็นสมาธิ

ถา้ หากวา่ ความอย่นู ่ิงๆในท่ีนนั้ น่ะ มนั อยไู่ ปไดน้ านก็เป็น
สมาธิอปุ จาระ ถา้ มนั อย่ไู ดเ้ ด๋ยี วเดียวมนั กเ็ ป็นสมาธิขณิกะ หรอื
ถา้ หากวา่ มนั อยไู่ ดอ้ ย่างนานท่ีสดุ เรยี กวา่ ม่นั คงท่ีสดุ ก็เรยี กวา่
อปั ปนา ความท่ีเขา้ ไปรูอ้ ย่โู ดยท่ีไมม่ ีอารมณอ์ นั ใดเขา้ มา คอื ไม่
มีอารมณท์ ่ีจะเขา้ มากอ่ ใหเ้ กิดความฟงุ้ ซา่ น มีแตก่ ารเขา้ ไปสงบ
อยอู่ นั เดียว น่นั แหละเรยี กวา่ จติ เป็นสมาธิ การท่ีจิตไปเป็นสมาธิ

โดยทมี งานกรธุ รรม grudhamma.com 11

แตล่ ะครงั้ นนั้ ถือวา่ เป็นสงิ่ ท่ีมีคณุ คา่ สงู มาก เม่ือไปเป็นเชน่ นนั้
แลว้ ก็จะทาํ ใหจ้ ติ ของเรานที้ ่สี ญู เสียพลงั ไปนนั้ จะเพม่ิ พนู พลงั ขนึ้
เม่ือสงบเขา้ ไปเชน่ นหี้ ลายครงั้ เขา้ จติ นีก้ ็กลบั กลายเป็นจิตท่ีมี
พลงั

จิตท่ีมีพลงั นนั้ เคา้ เรยี กวา่ พละ อยา่ งท่ีท่านแสดงวา่
ศรัทธาพละ วิริยะพละ สตพิ ละ สมาธพิ ละ ปัญญาพละ
พละแปลวา่ พล พลแปลวา่ กาํ ลงั เม่ือจิตนีเ้ ขา้ ไปสงบเขา้ ไปเป็น
สมาธิดงั กลา่ วแลว้ หลายครงั้ เขา้ ก็กลบั กลายเป็นพลงั จติ
เรยี กวา่ สมาธิพลงั เม่ือกลบั กลายเป็นพลงั จิตเชน่ นีแ้ ลว้ ก็จะ
กลบั กลายเป็นกระแสจติ กระแสจติ นนั้ เป็นกระแสท่ีมีความ
แหลมคม และเป็นกระแสท่ีมคี วามสวา่ งไสว และมีกระแสท่ี
สามารถท่ีจะมองไปไดท้ ะลปุ รุโปรง่ ไมว่ า่ จะเป็นภเู ขาท่มี าบงั อยู่
ก่ีรอ้ ยก่ีพนั ลกู จิตนนั้ สามารถท่ีจะมองทะลไุ ปไดห้ มด อนั นี้
เรยี กวา่ กระแสจติ กระแสจติ นนั้ ถา้ หากวา่ ไดร้ บั การอบรม
จนกระท่งั ถงึ จดุ หนง่ึ จดุ นนั้ เรยี กวา่ กระแสท่ีมีความเขม้ แข็งและ

โดยทมี งานกรธุ รรม grudhamma.com 12

ม่นั คง คือกระแสท่ีจดุ ท่ีดงั กลา่ วนีเ้ ป็นกระแสท่ีมีความชาํ นิและ
ชาํ นาญ

ความชาํ นิชาํ นาญในกระแสนนั้ สามารถท่ีจะทาํ งานอะไรก็
ได้ บางคนท่ีปรากฏเหน็ แสงสวา่ งนนั้ บางทีก็เกิดแสงสวา่ งเราก็
เห็น แตว่ า่ เราจะไปทาํ อะไรในแสงสวา่ งนนั้ ก็ทาํ ไมไ่ ด้ เพราะวา่
ยงั ไมไ่ ดเ้ กิดความชาํ นาญ ถา้ เกิดความชาํ นาญแลว้ ภายในแสง
สวา่ งนนั้ เราจะทาํ อะไรก็ได้ อนั นนั้ เรยี กวา่ เกิดความชาํ นาญ เม่ือ
เกิดความชาํ นาญในแสงสวา่ งนนั้ คือเกิดทาํ อะไรก็ไดใ้ นแสง
สวา่ งนนั้ ท่านก็ใหท้ าํ ในมหาสตปิ ัฏฐาน

มหาสตปิ ัฏฐานนนั้ คอื การพิจารณากาย ท่ีทา่ นแสดงวา่ ไว้
ในมหาสตปิ ัฏฐาน ๔ วา่ กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ
พจิ ารณากายในกาย เวทะนานุปัสสี วิหะระติ พจิ ารณาเวทนา
ในเวทนา จติ ตานุปัสสนาก็เรยี กวา่ พจิ ารณาในจติ ธัมมา
นุปัสสนากเ็ รยี กวา่ พิจารณาในธรรม มหาสติปัฏฐานมี ๔
ประการ เม่ือมี ๔ ประการนนั้ กระแสจติ ท่มี ีความชาํ นาญนนั้
ท่านก็ใหเ้ ดินเขา้ สมู่ หาสตปิ ัฏฐาน การเดนิ เขา้ สมู่ หาสตปิ ัฏฐาน

โดยทมี งานกรธุ รรม grudhamma.com 13

นนั้ ก็เป็นสง่ิ ท่งี า่ ยมาก ถา้ หากวา่ จะทาํ อยา่ งอ่ืนมนั ยาก เราก็เดนิ
เขา้ สมู่ หาสตปิ ัฏฐานซะ

เม่ือเราเดินเขา้ สมู่ หาสติปัฏฐานแลว้ มนั กเ็ ป็นสงิ่ ท่ีงา่ ย แต่
วา่ เป็นส่ิงท่ีเป็นหลกั เพราะวา่ มหาสติปัฏฐานนีท้ าํ บคุ คลให้
สาํ เรจ็ ได้ ผเู้ จรญิ มหาสตปิ ัฏฐานนนั้ อย่างชา้ ๗ ปีก็ไดส้ าํ เรจ็
อยา่ งเรว็ ๗ วนั ก็ไดส้ าํ เรจ็ ท่ีท่านกลา่ วไวใ้ นมหาสติปัฏฐาน

และการท่ีจะใหก้ ระแสจติ พจิ ารณากายนนั้ เราจะทาํ อยา่ งไร
ท่านใหพ้ จิ ารณากายนีม้ ีรา่ งกายของเราและรา่ งกายคนอ่ืน
มองดทู ีตงั้ แตศ่ ีรษะถงึ เทา้ เทา้ ถงึ ศรี ษะ แลว้ ก็ลอกหนงั ออกไป
ลอกเนือ้ อกไปเห็นกระดกู ทา่ นเปรยี บเทยี บเหมือนกนั กบั คนท่ี
ชาํ แหละโค เขาชาํ แหละโคแลว้ เขาก็เอามีดกรดี ใหห้ นงั โคนนั้ มนั
ลอกออกไป แลว้ ก็ปาดเนือ้ แลว้ ก็อนั ไหนเป็นเนือ้ สนั เนือ้ ขา อนั
ไหนเป็นเคร่อื งในอะไรตา่ งๆ ก็ดงึ กนั ออกมา เปรยี บเทียบกบั ผทู้ ่ี
เจรญิ สติปัฏฐานก็พจิ ารณากายของเราหรอื กายใครก็ได้ ลอก
หนงั ออกไปแลว้ ก็ลอกเนือ้ ออกไป แลว้ ก็สบั ออกไปเป็นชนิ้ ๆ
เสรจ็ แลว้ ทา่ นก็ใหเ้ หลอื แตก่ ระดกู

โดยทมี งานกรธุ รรม grudhamma.com 14

โดยคาํ บาลวี า่ อัญเญนะ ชังฆัฏฐิกัง อญั เญนะ หะนุฏฐิ
กัง อญั เญนะ พาหฏุ ฐิกัง เป็นตน้ อญั เญนะแปลวา่ ใหม้ นั
กระเด็นไปทางอ่ืน อญั เญนะ หะนุฏฐิกงั คือกระดกู คาง
อัญเญนะ พาหฏุ ฐิกงั คือกระดกู แขน อญั เญนะ ชังฆัฏฐิกงั
คอื กระดกู แขง้ กระดกู ตา่ งๆนีใ้ หม้ นั กระจดั กระจายกนั ทิง้ ออกไป
แลว้ ก็ใหล้ ะลายสญู เสยี ไปในบรรยากาศ ไมใ่ หม้ ีอะไรเหลอื แลว้
ก็กลบั คนื มากาํ หนดจติ อีกที ทาํ อยา่ งนีอ้ ยบู่ อ่ ยๆ เรยี กวา่ เจรญิ
สติปัฏฐาน

เม่ือทาํ อย่างนบี้ อ่ ยขนึ้ ไปแลว้ อะไรท่ีจะเกิดขนึ้ มนั มีสิ่งเกิด
ขนึ้ อย่อู นั หนง่ึ เรยี กวา่ ญาณะ เรยี กวา่ ญาณ ญาณนนั้ คอื นิพพทิ
ทาญาณยอ่ มจะตอ้ งเกิดขนึ้ คอื ถา้ เราพิจารณากายอนั นีไ้ ปอยู่
บอ่ ยๆ ครงั้ หนง่ึ ก็พจิ ารณา สองครงั้ ก็พจิ ารณา หลายครงั้ ก็
พิจารณา พจิ ารณามากเขา้ ๆนี้ มนั จะไปถงึ จดุ แหง่ การเพยี งพอ
แห่งความตอ้ งการ เหมือนกนั กบั ตน้ ไมท้ ่ีปลกู ลงไปในดิน ใสป่ ๋ ยุ
รดนา้ํ เม่ือเวลามนั โตขนึ้ มาแลว้ ถงึ เวลาแลว้ มนั จะผลิดอกออก
ผล ฉนั ใดก็ดี ผทู้ ่ีพจิ ารณามหาสติปัฏฐานก็เชน่ เดยี วกนั เม่ือ

โดยทมี งานกรธุ รรม grudhamma.com 15

พจิ ารณาไปแลว้ พจิ ารณาไปแลว้ ซง่ึ รา่ งกายอนั นีด้ งั กลา่ วแลว้
หลายครงั้ เขา้ ก็ไปถงึ จดุ หนง่ึ เรยี กวา่ นิพพทิ ทาญาณ คือความ
เบ่อื หนา่ ย เม่อื ไปถึงจดุ นีแ้ ลว้ ก็เรยี กวา่ เป็นจดุ ท่ีจะประสบใกล้
ตอ่ ท่ีจะประสบผลสาํ เรจ็

เม่ือใกลท้ ่ีจะประสบผลสาํ เรจ็ เช่นนี้ มนั ก็มพี วกมารทงั้ หลาย
เขา้ มาผจญ เคา้ เรยี กวา่ วปิ ัสสนูปกเิ ลส วิปัสสนปู กเิ ลสนนั้ มนั
ไมท่ าํ ใหค้ นไปตกนรก หรอื ไมท่ าํ ใหค้ นเป็นบาป แตว่ า่ มนั ทาํ ให้
เกิดความลา่ ชา้ ท่านจงึ ไม่ใหไ้ ปติด ท่ีเรยี กวา่ วิปัสสนปู กิเลสนนั้
ไดแ้ กค่ วามละเอยี ดท่ีเกิดขนึ้ ในจิต ความสวา่ งไมม่ ีประมาณ
เกิดขนึ้ ในจิต ความออ่ นละมนุ เกิดขนึ้ ไมม่ ีประมาณในจิต
เรยี กวา่ ไดเ้ ป็นสง่ิ อศั จรรยเ์ หลอื เกิน อยา่ งท่ีเราไมเ่ คยพบ อย่างท่ี
เราไมเ่ คยเหน็ แตว่ า่ เราก็ไดไ้ ปพบ เราก็ไดไ้ ปเห็นอยา่ งนี้ เราก็นกึ
วา่ น่นั คอื พระนิพพาน หรอื น่นั คอื เป็นสิง่ ท่ีจติ เราหลดุ พน้ แลว้
หรอื น่นั คอื เราไดส้ าํ เรจ็ เป็นพระอรยิ บคุ คลแลว้ อนั นีต้ า่ งหากท่ี
เป็นอตั ตานุทฏิ ฐิ ทาํ ใหบ้ คุ คลคนนนั้ ตดิ อยู่ คือทาํ ใหบ้ คุ คลผนู้ นั้
ตดิ อย่แู คน่ นั้ กเ็ ลยกา้ วตอ่ ไปไมไ่ ด้

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 16

ความจรงิ แลว้ นิพพทิ ทาญาณหรอื วา่ สงิ่ ตา่ งๆอศั จรรยๆ์ ท่ี
เกิดขนึ้ นนั้ เราก็ปลอ่ ยวาง แลว้ เรากถ็ ือวา่ เป็นสิง่ ท่ีผลพลอยได้ ก็
ปลอ่ ยไปตามเรอ่ื ง ไม่ยดึ ถือวา่ สาํ เรจ็ แลว้ ความกา้ วหนา้ ของจิต
ก็จะกา้ วหนา้ ตอ่ ไป เม่ือกา้ วหนา้ ตอ่ ไปแลว้ จติ นีก้ ็จะถงึ ซง่ึ พละ
เรยี กวา่ ปัญญาพลัง ปัญญาพลงั นนั้ คือผทู้ ่ีมีปัญญา มีพลงั แหง่
ปัญญา พลงั แห่งปัญญาคือความเกิดขนึ้ ของนพิ พทิ ทาญาณนนั้
นบั ครงั้ ไมถ่ ว้ น เม่ือนบั ครงั้ ไมถ่ ว้ นก็ไปถึงจดุ หนง่ึ เคา้ เรยี กวา่
มคั คสมังคี ไปประชมุ มรรค

เม่ือจิตถงึ ซง่ึ มคั คสมงั คแี ลว้ น่นั แหละถงึ จะเรยี กวา่ เป็นขนั้ ท่ี
จะไดส้ าํ เรจ็ เรยี กวา่ พบความสาํ เรจ็ แตค่ วามสาํ เรจ็ นนั้ ไม่ใชเ่ ป็น
สิ่งท่ีเกิดขนึ้ แตเ่ ป็นส่งิ ท่ีมีอยู่ จิตนนั้ จะเขา้ ไปถงึ สงิ่ ท่ีมีอยู่ เม่ือไป
ถงึ สิง่ ท่ีมีอยปู่ รากฏอยู่ เชน่ เราทาํ ความสาํ เรจ็ ในส่ิงใดสิ่งหนง่ึ นนั้
ความสาํ เรจ็ ท่ีเรากระทาํ นนั้ เป็นสง่ิ ท่ีมีอย่แู ลว้ แตเ่ ราเดินเขา้ ไปถึง
เท่านนั้ เอง

มหาสติปัฏฐานก็เชน่ เดียวกนั แตก่ ารเจรญิ มหาสตปิ ัฏฐาน
นนั้ ท่านก็มีขอ้ กฏบงั คบั อย่ขู อ้ หนง่ึ วา่ จะตอ้ งมีพลังของสมาธิ

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 17

การพิจารณาถงึ รา่ งกายนีห้ รอื การเจรญิ มหาสติปัฏฐานนีก้ ็ให้
เจรญิ อย่ใู นช่วั ระยะ เชน่ น่งั สมาธิครงั้ หนง่ึ กเ็ จรญิ สกั ๕ นาที ๑๐
นาทีพอสมควร แลว้ เราก็ตอ้ งหวนกลบั มาทาํ จติ ใหม้ ีความสงบ
เสีย เม่ือความสงบมากพอสมควรก็พิจารณาใหม่ เม่ือพจิ ารณา
พอสมควรก็สงบ อนั นีเ้ คา้ เรยี กวา่ มัชฌมิ า ท่ีพระพทุ ธเจา้ ตรสั วา่
มชั ฌิมาปฏปิ ทา คือขอ้ ปฏิบตั อิ นั เป็นหนทางกลาง ขอ้ ปฏิบตั ิ
อนั เป็นหนทางกลางนนั้ คอื หนทางพอดี จะมีความสงบก็สงบแต่
พอดี จะมีการพิจารณามหาสตปิ ัฏฐาน ก็พจิ ารณาแตพ่ อดี คอื
พอดพี อเหมาะซง่ึ กนั และกนั ถา้ ทาํ ไมใ่ หเ้ ป็นมชั ฌมิ าปฏิปทา คอื
ไมใ่ หเ้ ป็นการปฏบิ ตั หิ นทางกลางหรอื หนทางพอดี ความสาํ เรจ็
จะไม่เกิดขนึ้

ถา้ หากวา่ ทาํ แตค่ วามสงบอย่างเดียว จติ สงบไปสบายไป
เร่อื ยๆ สบายจนกระท่งั หยกิ ไมร่ ูส้ กึ ตวั แหละ หรอื วา่ เขา้ ไปก็มดิ
หายไปเลยอยา่ งนีอ้ ยอู่ ยา่ งนนั้ ก็ตกไปสโู่ มหะ อนั นนั้ กเ็ รยี กวา่
สมาธิมากไป หรอื ถา้ พิจารณากายก็พจิ ารณาอย่นู ่นั แหละ ไม่
รูจ้ กั หยดุ จกั หยอ่ น ก็มากไป เรยี กวา่ พจิ ารณาสตปิ ัฏฐานมากไป

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 18

ก็ตกในอยใู่ นความฟงุ้ ซา่ น คอื พิจารณากายมากไปก็ตกอย่ใู น
ความฟงุ้ ซา่ น ถา้ ทาํ ความสงบมากไปก็ตกไปหาโมหะ ทา่ นจงึ ให้
ทาํ แตเ่ พยี งพอดี เม่ือพจิ ารณาพอสมควรแลว้ ละลายออก
หมดแลว้ กก็ ลบั มาอยทู่ ่ีจติ เม่ือกลบั มาอยทู่ ่ีจติ พอสมควรแลว้ ก็
พิจารณา น่ีคอื การทาํ งานของสมาธิหรอื เรยี กวา่ มหาสติปัฏฐาน

ขอ้ ท่ีสองของมหาสตปิ ัฏฐานคือเวทนา เวทนานี้ ทกุ ขเวทนา
นนั้ ไมเ่ ป็นประการสาํ คญั นกั แตส่ ขุ เวทนาน่เี ป็นประการสาํ คญั
มาก อย่างท่เี ราไปเจอวปิ ัสสนปู กิเลส มีความสขุ มีความสบาย
มีความผอ่ งใสสะอาดอะไรอนั นี้ แลว้ เราก็ไปติดยดึ ม่นั อยใู่ นท่นี ่นั
วา่ สาํ เรจ็ ตรงนีแ้ หละท่ีเรยี กวา่ เวทนา เพราะวา่ เวทนาคอื ความ
เสวยสขุ เสวยทกุ ข์ เวลาใดเราไม่ไดส้ มความตงั้ ใจ เราก็เสยี ใจวา่
ทาํ ไมวนั นีเ้ ราทาํ ไมไ่ ดส้ มความตงั้ ใจ อนั นีก้ ็เป็นทกุ ข์
เพราะฉะนนั้ ทา่ นใหพ้ จิ ารณาวา่ ความสขุ และความทกุ ขเ์ หลา่ นี้
ไมอ่ ยากไปยดึ ถือวา่ มนั เป็นส่ิงท่ีไม่ใช่ตวั ตนเสยี แลว้ เราก็ไมย่ ดึ
ดีก็ช่าง ช่วั ก็ชา่ ง เรามหี นา้ ท่เี จรญิ กายานปุ ัสสนาสตปิ ัฏฐาน เรา
ก็เจรญิ ไป

โดยทมี งานกรธุ รรม grudhamma.com 19

ในขอ้ ท่ีสามคอื จติ ตานุปัสสนาสตปิ ัฏฐานนนั้ จติ นนั้ ไดแ้ ก่
ความนกึ ความคิด ความนกึ ความคดิ นนั้ เราจะเอาเป็นนยิ าย
ไมไ่ ด้ เราจะเอาเป็นจรงิ เป็นจงั หนกั หนายอ่ มไมไ่ ด้ บางทีมนั ก็นกึ
ถึงพระนิพพานก็ได้ บางทีมนั กน็ กึ ถงึ สวรรคก์ ็ได้ บางทีมนั นกึ ถึง
นรกก็ได้ บางทีมนั นกึ ไปก็ทาํ ใหค้ ลมุ้ คล่งั บางทีนกึ ไปกท็ าํ ใหเ้ กิด
ความเอบิ อ่มิ อะไรอยา่ งนี้ ส่งิ เหลา่ นีท้ งั้ สองอยา่ งนีก้ ็ใชไ้ มไ่ ดท้ งั้
สองอย่าง ตอ้ งพจิ ารณาใหเ้ ห็นวา่ ไม่ใช่ตวั ตน มนั ก็เป็นสง่ิ ท่ี
เกิดขนึ้ มาแลว้ ก็ดบั ไป ความนกึ ความคิดเหลา่ นี้ คดิ เม่ือเชา้
อยา่ งนงึ คิดตอนเยน็ อย่างนงึ คดิ เม่ือวานนีอ้ ย่างนงึ และคดิ
เม่ือก่อนน่ีก็อยา่ งนงึ อะไรอย่างนี้ เพราะฉะนนั้ ถา้ เราไปยดึ ถืออยู่
ในความนกึ คดิ แลว้ เราก็จะตอ้ งหลง ทา่ นจงึ ใหก้ าํ จดั วา่ ไม่ใช่
ตวั ตนเสยี

ธัมมานุปัสสนาสตปิ ัฏฐาน คอื ธรรมารมณ์ ธรรมารมณก์ ็
ดงั กลา่ วแลว้ วา่ เป็นอารมณ์ อารมณน์ นั้ ดบี า้ ง อารมณน์ นั้ ช่วั บา้ ง
เราก็ปลอ่ ยตามเรอ่ื งของมนั การท่ีเราจะเจรญิ สติปัฏฐาน
เก่ียวกบั ธรรมารมณน์ นั้ คอื การปลอ่ ยวาง ไมใ่ ช่เราจะไปยดึ ไป

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 20

ถือเอาอารมณม์ าเป็นเกณฑ์ ถา้ เราไปยดึ ถืออารมณม์ าเป็น
เกณฑน์ ่ี เรากจ็ ะคลมุ้ คล่งั อกี เชน่ เดยี วกนั ไม่ควรจะไปยดึ ถือ ถา้
เรายดึ ถือ ก็เรยี กวา่ เราก็ไม่ไดเ้ จรญิ สตปิ ัฏฐาน ถา้ เราไมย่ ดึ ถือ ก็
ถือวา่ เราเจรญิ สติปัฏฐาน

เพราะฉะนนั้ เรอ่ื งของสติปัฏฐานนีจ้ งึ เป็นเรอ่ื งเปรยี บประดจุ
ชยั ภมู ิอย่างท่ีขา้ ศกึ จะรบกนั น่ี ใครอย่ชู ยั ภมู ดิ กี วา่ คนนนั้ ก็ชนะ
ใครอย่ทู ่ีชยั ภมู ิท่ีเก๊กวา่ คนนนั้ ก็แพ้ มหาสติปัฏฐานก็เปรยี บ
ประดจุ ชยั ภมู ิท่ีดี เม่ือนกั ปฏบิ ตั ิทงั้ หลายไดช้ ยั ภมู อิ นั นี้ ก็
สามารถท่ีจะหา้ํ ห่นั ขา้ ศกึ คือกิเลส ขา้ ศกึ ศตั รูคือกิเลส เราทาํ
สงครามกบั กเิ ลสแลว้ เราก็ไดช้ ยั ชนะ ดว้ ยเหตคุ อื มหาสติปัฏฐาน
มหาสติปัฏฐานนีพ้ ระพทุ ธเจา้ แสดงท่ี กรุ ุรฐั พระองคท์ รงแสดงท่ี
กรุ ุรฐั นนั้ ก็ทาํ ใหบ้ คุ คลเจรญิ มหาสตปิ ัฏฐานไดผ้ ลเป็นอนั มาก
ถา้ เราจะศกึ ษาเรอ่ื งสตปิ ัฏฐานใหด้ ี เราก็ควรจะกาํ หนดดงั ท่ี
อาตมาอธิบายมานีเ้ ป็นเรอ่ื งของมหาสตปิ ัฏฐาน เรอ่ื งของมหา
สติปัฏฐานนีส้ ามารถท่ีจะทาํ จติ นีใ้ หห้ ลดุ พน้ ได้ แลว้ ก็เป็น

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 21

หนทางท่ถี กู ตอ้ งตามทาํ นองคลองธรรม หรอื ถกู ตอ้ งตามคาํ ส่งั
สอนขององคส์ มเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้

ตอ่ ไปนีก้ ็สมาธิกนั ตอ่ ไป

ท่ีมา: https://youtu.be/1IrVU5Jd5rg

โดยทมี งานกรุธรรม grudhamma.com 22


Click to View FlipBook Version