The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นักรบ นักหลบ หลวงพ่อสิงห์ทอง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-14 21:43:20

นักรบ นักหลบ หลวงพ่อสิงห์ทอง

นักรบ นักหลบ หลวงพ่อสิงห์ทอง

Keywords: นักรบ นักหลบ,หลวงพ่อสิงห์ทอง

นักรบ นักหลบ
ตามสบาย ถือวา่ การน่งั แบบนีม้ นั สบาย กายสบาย จิตถา้ มี
เวลาเกิดปวดเจบ็ ขนึ้ มาก็พจิ ารณา มนั ก็นกึ วา่ ทา่ เนยี้
สะดวกสบาย ทา่ อ่นื สทู้ า่ นีไ้ ม่ได้ เวทนาท่ีมนั เจ็บขนึ้ มนั ปวดขนึ้
มนั มาจากท่ีไหน ใครไปเอามนั มา ถา้ เม่ือเวลาเราน่งั เบือ้ งตน้
ทาํ ไมไม่มีเวทนาสว่ นนีม้ าเก่ียวขอ้ ง มนั เกดิ ขนึ้ จากอะไร
พจิ ารณาใหเ้ กิดสติปัญญาจากการเจ็บการป่วยของตวั แลว้
พจิ ารณาดวู า่ ความเจบ็ ปวดท่ีเกิดขนึ้ จากตวั ของเรา ไมม่ ีใครท่ี
ถือมาให้ มนั เกิดขนึ้ ได้ แลว้ ก็มีเวลาหายไป ใช่วา่ จะตงั้ อยู่
เร่อื ยไป สทู้ นพินิจพิจารณา ดเู หตเุ หน็ ผลจรงิ จงั ถงึ เวทนาจะยงั
อย่ใู นกาย จิตก็ไมเ่ ก่ียวขอ้ ง
น่ีอบุ ายท่ีสเู้ วทนา เพราะจิตแยกแยะจากเวทนาได้ อกี อยา่ ง
เม่ือจติ ลงรวม ไมย่ ดึ เก่ียวกบั เร่อื งของกาย เวทนาก็หายไป
เช่ือม่นั วา่ สิ่งใดมีการเกิดขนึ้ สิง่ นนั้ จะตอ้ งมีการแปรปรวน แลว้ ก็
แตกดบั ไปตามธรรมชาติของมนั น่เี วลามนั ปวดหนกั จติ ใจไม่ฟ้งุ
ปรุงสว่ นอ่นื จะตอ้ งยดึ หนว่ งในเวทนา มนั ปวดอยา่ งนนั้ มนั เจ็บ

1

อย่างนี้ มนั จะขาดจะแตก จติ อย่ใู นเร่อื งของความเจบ็ ความปวด
ของตวั น่ีพิจารณาอะไรมนั ปวด หนงั รึ เนอื้ รึ เอ็นหรอื กระดกู หรอื
ท่ีไหน กาํ หนดเพง่ ท่ีมนั ปวดมากเขา้ ๆ คือจติ ของเราแยกออก
จากเวทนาได้ หรอื ไมอ่ ยา่ งนนั้ ก็รวมลงไป เวทนาตวั นนั้ ก็
หายขาด เป็นอบุ ายปัญญาแลว้ ก็กลา้ หาญ

เวทนาเกิดขนึ้ มาทหี ลงั เราจะตอ้ งมีการตอ่ สเู้ อาชยั ชนะ
จิตใจท่ีตอ่ สเู้ วทนา ในการน่งั ภาวนารูส้ กึ วา่ ไดก้ าํ ลงั ดกี วา่ จิตใจ
รวมธรรมดา เพราะเราสกู้ บั ขา้ ศกึ ไดช้ นะขา้ ศกึ รูส้ กึ วา่ จิตใจสงู
เดน่ ขนึ้ ไป รวมธรรมดาท่ีไม่เวทนาอีกเป็นอยา่ งหน่งึ ถา้ สกู้ บั
เวทนาเป็นไปอกี อย่างหน่งึ เรอ่ื งของจติ แลว้ ก็ตอ้ งสทู้ กุ คนน่ะ
ความทกุ ขเ์ จ็บปวดตา่ งๆ ถา้ หากเราไม่มีปัญญา ไม่ไดพ้ จิ ารณา
ตอนเราป่วยหนกั เจ็บหนกั เราก็ไมม่ ีปัญญาพจิ ารณาแยกแยะ
เวทนาออกจากใจ ถือวา่ เวทนาเป็นเรา เราเป็นเวทนา เวทนามี
ในเรา เรามีในเวทนา ก็เลยเป็นทกุ ขก์ นั ใหญ่ ตา่ งคนท่ีตอ้ งมีการ
ตอ่ สู้ เพ่ือจะไดท้ ดสอบกาํ ลงั จิตใจของตวั ไดช้ นะหรอื แพเ้ วทนา
ก็จะรูจ้ กั สไู้ ด้ มนั จะเกิดขนึ้ มาขนาดไหนในอนาคตตอนเราจะทาํ

2

ตอ่ ไป ถา้ เราไดก้ าํ ลงั จากการตอ่ สเู้ ราก็มีจิตใจเขม้ แขง็ เคยเหน็
เคยเป็น เคยสไู้ ดช้ ยั ชนะ ก็อยากจะสไู้ ม่ทอ้ ถอย

คนท่ีภาวนาไมเ่ ป็น ไมเ่ หน็ ไม่รู้ จิตใจไม่อยู่ ปรุงฟ้งุ ตา่ งๆ
โดยมากพอไปโดนเวทนาเจบ็ ปวดนิดๆหนอ่ ยๆ เคา้ ก็ เอา้ น่งั มา
นานพอสมควรแลว้ ปวดเหลือเกิน เปล่ยี นอริ ยิ าบถใหมเ่ สยี ไป
แบบนนั้ จิตใจก็เลยเคยตวั พอน่งั ไปนิดๆหนอ่ ยๆ ไมก่ ่ีนาที ก่ี
ช่วั โมง ก็รูส้ กึ เจบ็ ปวดขนึ้ กห็ ลบ เอาละ วนั ใหมเ่ อา เอาอกี
มกั จะแกต้ วั ไปแบบนี้ ก็เลยไม่มีเวลาผา่ นเวทนา จติ ใจก็เลยไม่
กลา้

เวทนาเป็นหินลบั ของจิต ผปู้ ฏบิ ตั ทิ ่ีทา่ นเคยปฏิบตั มิ า ทา่ น
เคยไดป้ ัญญาไดค้ วามรู้ ไดค้ วามดคี วามเดน่ จากเวทนานบั ไม่
ถว้ น เราทกุ คนมี ไม่ใชไ่ มม่ ี รูป เวทนา สญั ญา สงั ขาร วิญญาณ
มนั มี ไมอ่ ยา่ งนนั้ ขนั ธท์ งั้ ๕ ก็ไม่ครบ น่ีเป็นอบุ ายตอ่ สเู้ วทนา แต่
อยา่ ไปกาํ หนดใหม้ นั เกิด อย่าไปกาํ หนดใหม้ นั ดบั มนั จะเกิดก็ให้
มนั เกิด เรอ่ื งของมนั เม่ือมนั จะดบั ก็อย่าไปขบั ไลม่ นั ถงึ เวลามนั

3

พอตวั ในเร่อื งของจิต มนั จะเหน็ เอง จะรวมเอง แยกแยะกนั ออก
ได้

เจบ็ ก็เร่อื งของเสยี งอยา่ งกลอง เราไม่ตมี นั ไม่ดงั เราไปตีมนั
ถึงดงั ขนึ้ เสียงก็ไม่ใช่กลอง ไม่ใชค่ นผไู้ ปตี เป็นอกี อนั หนง่ึ เรอ่ื ง
ธาตขุ นั ธท์ ่ีวา่ เวทนาก็เหมือนกนั ไม่ใช่เรา ไม่ใชร่ ูป ไม่ใช่จติ เป็น
อนั หน่งึ ตา่ งหากซง่ึ แฝงอย่ใู นจติ ในรูปในกาย เหน็ ประจกั ษ์ ไม่ใช่
พดู เลน่ เคยปฏบิ ตั ิมา รูเ้ หน็ อยา่ งนนั้ จงึ กลา้ ทา้ ทายวา่ เร่อื งของ
เวทนาไมใ่ ชเ่ รา เราไม่ใช่เวทนา เป็นเร่อื งท่เี หน็ ประจกั ษช์ ดั เจน
ในจิตในใจ อบุ ายการพจิ ารณาธรรมะ ถา้ หากเราพจิ ารณา
จรงิ จงั จิตใจจะเหน็ จะรูจ้ นละจนถอนเอาความตดิ ขอ้ งยดึ ถือ
สว่ นนนั้ ถา้ หากเราทาํ เลน่ ๆ ผลจะเกิดจะเป็นก็เพียงนิดๆหน่อยๆ

ฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ ก่อนท่ีจะตรสั รูต้ อ้ งสพู้ ญามาร กิเลสมาร
ขนั ธมาร อภิสงั ขารมาร เทวบตุ รมาร มจั จมุ าร มารเหลา่ นีไ้ ม่ใช่มี
อยทู่ ่ีอ่ืน กิเลสก็คือความใครข่ องใจไปในรูป เสยี ง กลนิ่ รส
สมั ผสั ตา่ งๆ ความใครข่ องใจท่ีฟงุ้ ปรุงไปอยา่ งนนั้ ไมท่ าํ จติ ทาํ ใจ
ใหส้ งบสงดั ใครป่ รุงไปเท่าไหรก่ ็เกิดความกาํ หนดั ยนิ ดี เกิด

4

ความเพลิดเพลนิ เกิดความลมุ่ หลงมวั เมาไปเท่านนั้ เหตนุ นั้ ทาง
ธรรมะทา่ นจงึ วา่ เป็นนวิ รณ์ คอื เป็นเครอ่ื งกนั้ ไม่ใหจ้ ิตสงบลงรวม
ไมใ่ หเ้ หน็ อรรถเหน็ ธรรม ตอ้ งกาํ จดั ออกไปความคิด ความปรุง
สว่ นนนั้

เรอ่ื งกิเลสมาร อย่าใหม้ าผา่ น อยา่ มาใหเ้ ป็นเจา้ จิตเจา้ ใจ
ของเรา ขบั ไลอ่ อกไป ขนั ธมาร ก็ความยดึ ขนั ธ์ ยดึ รูป ยดึ สขุ ทกุ ข์
ตา่ งๆ เรยี กวา่ เวทนา มีความหมายวา่ กายเป็นเรา เราเป็นกาย
เรอ่ื งสญั ญาความฟงุ้ ปรุงภายในใจ เรอ่ื งสงั ขาร ความรูว้ า่ มนั
อยา่ งนนั้ อย่างนี้ เกิดขนึ้ จากตา หู จมกู ลนิ้ กาย เรอ่ื งวญิ ญาณ
น่ีขนั ธมาร ถา้ หากคดิ ยดึ ถือวา่ เป็นตวั เป็นตน เป็นคนเป็นสตั ว์
การปฏบิ ตั ิมนั ก็ไม่สะดวก เม่ือเป็นอะไรขนึ้ ก็เราเป็น เหน็ อะไรขนึ้
ก็เราเหน็ ผลท่ีสดุ ก็เลย สงิ่ ท่ีควรกลวั ก็กลวั ส่ิงท่ีควรยดึ กย็ ดึ จติ
ไม่เป็นกลาง วางเร่อื งของขนั ธไ์ มไ่ ด้ ถา้ เป็นอยา่ งนนั้ ก็เรยี กขนั
ธมาร คือมนั มารบกวนจิตใจไมใ่ หเ้ ขา้ สอู่ รรถธรรมจรงิ จงั

มจั จมุ ารก็คอื ความกลวั เร่อื งตาย เราเจบ็ เราปวด เราเหน็ด
เราเหน่ือยอยา่ งนนั้ อยา่ งนี้ กลวั จะตาย มนั มีเม่ือทาํ ไป มารทงั้ ๕

5

ท่ีวา่ มนั มาชวนจติ ชวนใจของเราใหล้ มุ่ หลง มารอะไรเกิดขนึ้ ก็
ช่างมนั จะตอ่ สดู้ ว้ ยขนั ติบารมี วริ ยิ ะบารมี ทานบารมี เราเคย
สละใหท้ านซกั ทีมยั้ รา่ งกายของเรา ไมเ่ คย วตั ถอุ นั อ่ืนเราเคยได้
บชู ามยั้ เร่อื งกาย วาจา ใจ บชู าพระรตั นตรยั บชู าสว่ นดอกไม้
ธูปเทียน เคยบชู ามา แตเ่ ราจะเสยี สละ เอา้ เป็นตายอยา่ งไรก็จะ
เอากายอนั นีต้ งั้ บชู าพระรตั นตรยั อรรถธรรมท่ีควรจะรูจ้ ะเห็น ถา้
ไม่รูไ้ ม่เหน็ ก็จะเอากายอนั เนีย้ เป็นเคร่อื งประกนั มนั จะตายไป
เม่ือไรใหม้ นั ตายไป มนั จะแตกท่ีไหนใหม้ นั แตกไป

น่ีใจของนบั รบจรงิ จงั เป็นอยา่ งนนั้ ไม่ทอ้ ถอย พนิ ิจพจิ ารณา
อย่างหนกั แนน่ เวลาจติ ใจมนั ฟงุ้ ปรุง มนั ยดึ ถือตา่ งๆ ถา้ หากเรา
เสียสละไดจ้ รงิ จงั อยา่ งนนั้ อรรถธรรมท่ีทา่ นพดู ไวจ้ ะเหน็
ประจกั ษใ์ นใจ คนท่กี ลวั ตายนีต้ ายไมไ่ ดเ้ พราะกลวั คอื ไมม่ ีการ
ตอ่ สู้ จะเอาชยั ชนะจากตาย ไม่เคยมี อะไรมนั ตาย อะไรมนั
เหลืออยู่ สกู้ นั จรงิ ๆจงั ๆ จะตอ้ งเหน็ เดน่ ขนึ้ สง่ิ ท่ีเราวา่ ตาย เราก็
พิจารณาแยบคายลงไป อะไรมนั ตาย กายนีก้ ็เป็นธาตผุ สม
ตา่ งหาก ดนิ นา้ํ ไฟ ลม มนั ก็จะไปตามธาตขุ องมนั แลว้ จิตท่ีไป

6

ยดึ ม่นั เก่ียวขอ้ งเราก็เหน็ มนั เป็นมนั ตายอย่างไร เม่ือเป็นอย่าง
นนั้ ก็เช่ือม่นั วา่ ไม่มีอะไรตาย มีแตส่ มมตุ ภิ ายนอกท่ีเขาถือกนั วา่
ตาย แตค่ วามจรงิ ไม่มีอะไรตาย ยงั คงอยตู่ ามเรอ่ื งแตม่ นั แยก
ออกไป เป็นตามธาตขุ องมนั เทา่ นนั้ เขา้ ใจชดั เจนเหน็ ประจกั ษ์

คนท่ีสจู้ นรูจ้ นเหน็ จนผา่ นพน้ ไปได้ คนนนั้ แหละเป็นลกู ศษิ ย์
ของพระพทุ ธเจา้ สจู้ รงิ ๆ ทานแบบนีเ้ รยี กวา่ ปรมตั ถบารมี คอื
ทานย่งิ ทานยอด ถา้ หากคนไมห่ ่วงตายหละ ไมม่ ีอะไรจะกลวั
โลกอนั นี้ คนกลวั ก็คือกลวั จะตาย ถา้ เสยี สละใหท้ านไดอ้ ยา่ งนี้
ตายมนั จะเกิดขนึ้ มาจากท่ีไหนก็ใหม้ นั ไป สจู้ นถงึ ขีดถงึ ขนั้ อะไร
ตายอะไรเหลอื อยู่ รูเ้ หน็ ประจกั ษช์ ดั เจนในตวั ในการกระทาํ ของ
ตวั

พระพทุ ธเจา้ สแู้ บบนนั้ ทา่ นจงึ วา่ มีนางธรณีมาชว่ ยเหลอื วา่
ทา่ นระลกึ ถงึ การน่งั ของทา่ นเบือ้ งตน้ วา่ เราน่งั เวลานี้ คราวนี้
เป็นคราวสดุ ทา้ ย ถา้ หากไมไ่ ดต้ รสั รูเ้ ม่ือไร ความดีเดน่ ปนกิเลส
ไมม่ ี จะไม่หนจี ากท่ี เลือดเนอื้ ในตวั มนั จะเห่ียวแหง้ ไปเหลือแต่
กระดกู ก็ตามที ถา้ ความดไี ม่เกิดเหน็ เป็นขนึ้ จะไมย่ อมลกุ จากท่ี

7

พอเกิดความเหนด็ เหน่ือยเจบ็ ปวดขนึ้ มา เรยี กวา่ พญามารมารบ
เอาบลั ลงั กค์ อื ท่ีน่งั ของท่าน

คนเราโดยมากท่ีไมเ่ ห็นทกุ ขป์ ระจกั ษช์ ดั เจนก็เพราะ
อิรยิ าบถทงั้ ๔ ปกปิดเอาไว้ น่งั นานๆพอเป็นทกุ ขห์ น่อยก็หนีไป
เดนิ เสยี เดินนานๆก็เหน่ือยก็มาน่งั เสยี อิรยิ าบถทงั้ ๔ ปิดเอาไว้
จงึ ไม่เหน็ ทกุ ขป์ ระจกั ษช์ ดั ใจ ถา้ หากเราน่งั นานๆหรอื ยืนนานๆ
เราจะเห็นกอ้ นทกุ ข์ กายอนั นี้ เป็นทกุ ขจ์ รงิ ๆจงั ๆ เพราะจติ ยดึ จติ
ถือ ถา้ จติ เหน็ จิตรูเ้ ร่อื งทกุ ข์ ก็เหน็ พิจารณาทกุ ขใ์ หเ้ หน็ เป็นทกุ ข์
ใหเ้ ป็นเรา ใหเ้ ป็นของเรา มนั เกิดขนึ้ มาจากอะไร ความทกุ ขเ์ กิด
ขนึ้ มาจากความอยากของใจ ไมเ่ กิดมาจากท่ีอ่ืน พจิ ารณาความ
อยากเป็นตน้ เหตใุ หเ้ กิดทกุ ข์ น่พี จิ ารณาสมทุ ยั จติ ใจเม่อื เห็น
เดน่ ชดั มนั ก็ปลอ่ ยวาง เรยี กนิโรธคือความพน้ ทกุ ข์ ทงั้ ๆท่กี ายมี
จิตมีอยู่ แตท่ กุ ขไ์ ม่มีในความรูข้ องบคุ คลผฝู้ ึกฝนรูเ้ หน็ อยา่ งนนั้
ท่านเรยี กวา่ นโิ รธ

การฝึกก็ไมใ่ ชค่ นอ่ืนจะมาฝึกให้ พิจารณาตอ่ สจู้ รงิ ๆจงั ๆจะ
เห็นไม่เหลอื วสิ ยั เรอ่ื งจิตใจท่ีดเี ดน่ เป็นสขุ แลว้ ก็ไมม่ ีการตดิ ขอ้ ง

8

เพราะเรอ่ื งของกายตวั เองก็ไม่ติดขอ้ ง เรอ่ื งสมบตั ภิ ายนอกจะไป
หว่ งใยอะไรทาํ ไม เพราะพจิ ารณาเร่อื งของกายแยบคายแลว้
ความยดึ สว่ นใหญ่ก็ยดึ เรอ่ื งของกาย พระพทุ ธเจา้ ทา่ นจงึ สอนให้
พจิ ารณาเร่อื งของกาย หลงก็หลงเรอ่ื งของกาย ความสมมตุ ิม่นั
หมายตา่ งๆทบั วิมตุ ตเิ อาไว้ เราพิจารณากายแยบคาย พจิ ารณา
ทกุ ขใ์ หเ้ หน็ ตามเป็นจรงิ ละความอยากของจิตท่ีติดยดึ ตา่ งๆ
ดว้ ยอบุ ายปัญญา มนั กห็ มดปัญหาเร่อื งของศาสนาเป็นเรอ่ื ง
สนั้ ๆ มนั มีความสขุ วิเศษประเสรฐิ ย่งิ กวา่ ความสขุ สว่ นอ่นื

แตพ่ วกเราทกุ คนเกิดมาก็ไมค่ อ่ ยไดพ้ ิจารณาธรรมะอบุ ายท่ี
จะซกั ฟอกจิตใจ ก็ไม่คอ่ ยไดย้ ินใครมาพดู จติ ใจก็เลยลมุ่ หลงไป
ตามลมปากของคนอ่ืนบา้ ง ตามกิเลสตณั หาของตวั เองบา้ ง ก็
เลยไม่มีทางจะพินจิ พจิ ารณา เหตนุ นั้ จงึ ถือวา่ การภาวนาเป็น
ของยาก ความจรงิ ถา้ หากมนั ยากก็ไม่มีใครท่ีจะผา่ นพน้ ไปได้
ถึงยากถงึ ลาํ บากก็ไมเ่ หลอื วสิ ยั ผทู้ าํ ไดย้ งั มี เราก็คนๆหน่งึ ซง่ึ
เกิดมาในโลก สมควรท่ีจะทาํ ไดอ้ ยา่ งคนอ่นื

9

สอนตวั เองใหบ้ ากบ่นั พยายามตามรกั ษาจิต กิเลสตณั หาท่ี
หมนุ หวั ใจใหเ้ ฝา้ ฝันรกั ใครย่ นิ ดชี อบใจ กพ็ จิ ารณาเร่อื งของกาย
อีก กาํ หนดดทู กุ ส่งิ ทกุ สว่ นอะไรมนั สวยสดงดงาม อะไรมนั เป็น
สง่ิ ท่นี า่ จบู นา่ ชม อะไรท่ีมนั หอมหวล มนั ไมม่ ีในเนือ้ ในกายของ
มนษุ ยท์ ่ีเคา้ สมมตุ วิ า่ เป็นหญิงเป็นชาย แตเ่ ราลมุ่ หลงกนั เพราะ
คนนนั้ เคา้ วา่ สวยอยา่ งนนั้ งามอย่างนี้ ไมไ่ ดพ้ จิ ารณาตามความ
จรงิ ของมนั ถา้ พิจารณาตามความจรงิ ของมนั มนั ก็หายไป
เหมือนมีมืดอยทู่ ่ีใด เอาไฟเขา้ ไปสอ่ ง ความมืดก็หายไป ปัญญา
ธรรมะของพระพทุ ธเจา้ ก็เหมือนไฟ ธมั โม ปทีโป สอ่ งเขา้ ไป มนั
สงสยั อะไร มนั เป็นจรงิ อยา่ งไร จะใหท้ ราบชดั ภายในใจของเรา
น่ีอบุ ายท่ีจะพจิ ารณาแกไ้ ขกิเลสตณั หา ความตดิ ขอ้ งของใจ

ถา้ หากไมต่ งั้ ใจพนิ ิจพิจารณา เอาธรรมะเขา้ ซกั ฟอกสอ่ ง
ทางแลว้ ก็นบั วนั จะลมุ่ หลงข่นุ มวั สกปรกเร่อื งของจิตใจ เป็น
อย่างนนั้ จงึ ไมม่ ีใครท่ีพระพทุ ธเจา้ จะไมต่ รสั รูจ้ ะออกจากโลกได้
จะเหน็ ภยั ในการเกิดการตาย ถงึ เหน็ ก็ไมม่ ีทางท่จี ะออกได้ โดย
คดิ ปรุงฟงุ้ ไปตา่ งๆ ลทั ธิศาสนาจงึ เกิดขนึ้ หลายอยา่ งหลายอนั

10

เพราะความสงสยั ลงั เลในใจวา่ อนั นนั้ จะถกู อนั นีจ้ ะผดิ คิดเอา
ไม่เห็นจรงิ รูแ้ จง้ เหมือนพระพทุ ธเจา้ พทุ ธศาสนา คาํ สอนของผรู้ ู้
ทา่ นรูท้ ่านเหน็ ทา่ นดที า่ นเดน่ จรงิ ๆ ไม่ใชท่ า่ นโกหกพกลม พดู
อะไรลว้ นแตเ่ หน็ ดว้ ยใจจรงิ จงั ไม่ใชค่ าดคะเนหรอื สมุ่ เดา
คาํ นวณเอา พระพทุ ธเจา้ ทา่ นรูเ้ หน็ ดีเดน่ อยา่ งนนั้ จงึ นา่ กราบนา่
ไหว้ ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งท่ีทา่ นสอนมา

ท่ีเราสงสยั ลงั เลใจหรอื ไมเ่ ช่ือก็เพราะความเหน็ ความเป็น
ของเรายงั ไมถ่ งึ ขนั้ ของท่าน ถา้ หากถึงขนั้ ของทา่ น จะกราบไหว้
อย่ทู กุ วนั ทกุ เวลา หรอื วา่ คาํ สอนของทา่ น ทา่ นรูจ้ รงิ พอเรา
ประพฤติปฏิบตั เิ ห็นไปเท่าไรก็ใจก็ย่งิ เช่ือย่งิ เล่อื มใส ยง่ิ ดงึ ดดู เขา้
ไปสธู่ รรมะของทา่ นท่ีแสดงเอาไว้ พวกเราทกุ คนท่ีมงุ่ ม่นั มา
ประพฤตปิ ฏิบตั ิก็รบี กระทาํ บาํ เพ็ญ ใหร้ ูใ้ หเ้ หน็ เพราะความตาย
ไม่วา่ หญิงวา่ ชาย วา่ พระวา่ เณร วา่ เด็กวา่ หน่มุ สาวหรอื เฒา่ แก่
มีประจาํ ตวั อยู่ ก็ไม่รูอ้ กี วา่ มนั จะมาถงึ เราเม่ือไร อยดู่ ีๆตายไปก็
เคยเหน็ บางทา่ นบางคนวา่ คนนนั้ แก่แลว้ คงจะตายไปกอ่ น

11

ความนกึ คิดคาดฝันคดิ อย่างนนั้ แตค่ วามจรงิ เราผคู้ ิดตายไป
กอ่ นเขาก็นบั ไม่ได้ มนั มี

เหตนุ นั้ จงึ ไม่ควรนอนใจเร่อื งชีวติ ความเป็นอยู่ รบี ประพฤติ
ปฏิบตั ิอรรถธรรม ใหเ้ ห็นสงิ่ ท่ีดีเดน่ จรงิ จงั สง่ิ ท่ีไม่ตายคอื อะไร
ยงั ยดึ ถือตดิ ขอ้ งกบั อะไรในจิตในใจของตวั ชาํ ระซกั ฟอกออกไป
จนจิตใจบรสิ ทุ ธิ์ จนหลดุ ออกจากสมมตุ ิ เหน็ เดน่ ชดั ประจกั ษ์
ชดั เจน ไม่ใช่คาํ นงึ หรอื สมุ่ เดา ความรูท้ ่ีหลดุ ลอยออกไปอย่าง
นนั้ สมมตุ ทิ ่วั ไป หรอื อากปั กริ ยิ าทา่ ทีภายนอกเป็นอยา่ งไร มนั
เก่ียวขอ้ งกนั มยั้ จะทาํ ใหค้ วามบรสิ ทุ ธิ์สว่ นนนั้ เส่ือมเสยี ไปได้
หรอื ไม่ มนั ไมม่ ีอะไรท่ีจะสงสยั จะประพฤตปิ ฏิบตั ิไปอีกขนาด
ไหน ความบรสิ ทุ ธิ์สว่ นนนั้ จะดเี ดน่ ขนึ้ อีกหรอื ไม่ ก็ไม่มีทางสงสยั
อีก จงึ หมดปัญหาสาํ หรบั การประพฤติปฏบิ ตั ิ

แตก่ ารประพฤติปฏบิ ตั ิเพ่ือละถอนหมดปัญหา แตป่ ระพฤติ
ปฏบิ ตั ิเป็นวิหารธรรมคอื ความเป็นอยสู่ บายของกายและจิตท่ียงั
มีธาตมุ ีขนั ธอ์ ยู่ ทา่ นก็ทาํ ไป จงึ มีการเขา้ สมาธิสมาบตั ิในครงั้
พทุ ธกาล อรหตั อรหนั ต์ ไม่ใช่ทา่ นหมดสมมตุ ิ เป็นผบู้ รสิ ทุ ธิ์แลว้

12

จะทาํ อะไรทาํ ไป ท่านก็มีขอบเขตของธรรมวนิ ยั อกี เหมอื นกนั
ไมไ่ ดท้ าํ สมุ่ ส่สี มุ่ หา้ รูจ้ กั กาลรูจ้ กั เวลาสถานท่ีบคุ คล ท่านมี
ประมาณ เรอ่ื งรา่ งกายสงั ขารของพวกเราก็เหมือนเครอ่ื งใช้
ภายนอก ถา้ หากใชไ้ มม่ ีประมาณ มนั ก็เสยี ง่าย รถเกวยี น
เหมือนกนั เสอื้ ผา้ เหมือนกนั ถา้ หากใชไ้ มม่ ีประมาณ ขาดง่าย
เสียงา่ ย เงนิ ทองของเราก็เหมือนกนั ถา้ จา่ ยไม่มีประมาณก็หมด
ง่าย น่ีสงั ขารรา่ งกายของพวกเราก็เหมือนกนั ตอ้ งมีประมาณ
พอสมควร ตอ้ งรูจ้ กั รกั ษารา่ งกายจงึ จะอยไู่ ปไดต้ ามสติวสิ ยั ของ
มนั ไม่อยา่ งนนั้ ก็เสียหายไปงา่ ย

แตถ่ า้ เราจะหว่ งแตเ่ ร่อื งของกาย เราควรถนอมรกั ษา จะ
ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิจรงิ ๆจงั ๆ จะเอาอรรถเอาธรรมใหเ้ หน็ เดน่ ขนึ้ ยงั
ห่วงกาย มนั กไ็ ปไมไ่ ด้ ใหไ้ ปถึงเสียก่อนท่ีเราตอ้ งการแลว้ จะ
ปฏิบตั ติ ามเรอ่ื งของกายถกู ตอ้ งดี ถา้ หากเรายงั หว่ งเรอ่ื งของ
กายวา่ มนั จะเป็นจะตายอยา่ งนนั้ อยา่ งนี้ กลวั จะทกุ ขจ์ ะยาก จะ
ลาํ บากราํ คาญ ถา้ หากลม้ หายตายไปก็กลวั จะไมไ่ ดค้ วามดี

13

วิเศษ ถา้ คดิ ปรุงอยา่ งนีอ้ ยกู่ ็เป็นอปุ กิเลส เป็นเคร่อื งขดั ขอ้ งทาง
ประพฤติปฏิบตั ิ

ฉะนนั้ เม่ือยงั เราไม่เหน็ ไมเ่ ป็น ไม่รู้ สละตอ่ สจู้ รงิ จงั ทาํ จติ
ทาํ ใจใหแ้ นน่ หนาฝาคร่งั เหมือนนางธรณีคอื แผน่ ดนิ เคา้ จะ
ตาํ หนิติชมอยา่ งไร เคา้ จะขดุ จะเผา แผน่ ดนิ ไมเ่ คยมีการ
หว่นั ไหว ไม่เคยชมคนนนั้ วา่ เอาเราไปปั้นเป็นเจดยี ห์ รอื
พระพทุ ธรูปกราบไหว้ ไม่เคยตาํ หนิคนนนั้ วา่ ไปเผาไปขดุ เรา
แผ่นดนิ เป็นของหนกั แนน่ อย่างนนั้ จติ ใจของท่านผภู้ าวนาก็ตอ้ ง
เป็นคนหนกั แน่นอยา่ งนนั้ ตอ่ สทู้ นทานจรงิ จงั เพ่ือความมงุ่ หวงั
อรรถธรรม

เม่ือเหน็ หรอื ระลกึ ไดว้ า่ มนั เป็นอย่างนนั้ จรงิ จงั เรอ่ื งของธาตุ
ก็คือธาตุ ๔ ดนิ นา้ํ ไฟ ลมอยา่ งนี้ เพราะไม่มีอคติ เพราะไมอ่ ยู่
ในอาํ นาจของใคร เพราะเป็นไปตามหนา้ ท่ีของเคา้ แลว้ ก็ไม่เคย
รกั เคยชอบ ไมเ่ คยเกลียดชงั ใคร อย่ตู ามเรอ่ื งของเคา้ ผลู้ มุ่ หลง
คอื ใคร พิจารณาใหเ้ ห็น ใหร้ ู้ ท่ีไปตดิ ไปขอ้ งไปชอบไปชมตา่ งๆ น่ี
เป็นอบุ ายเรอ่ื งวิปัสสนา คอื พิจารณาจิตใจของตวั เองดว้ ยอบุ าย

14

ตา่ งๆ ปัญญาจะเกิดขนึ้ เห็นขนึ้ ความสวา่ งไสวของจิตของใจ
เม่ือแกไ้ ขอะไรไดก้ ็เบาสบายไป เม่ือแกไ้ ขหมดมนั กพ็ งั เทา่ นนั้
เรอ่ื งสมมตุ ิ

การแกไ้ ขก็เหมือนกนั กบั เรารอื้ บา้ นรอื้ เกวยี นของเรา
ถอนน๊อตตวั นนั้ ถอนตะปตู วั นี้ ออกจากกนั มนั ไมอ่ ยู่ ท่มี นั เกาะ
กนั อยกู่ ็เพราะมีน๊อตมีตะปผู กู มดั มนั ไว้ จิตใจของพวกเราท่านท่ี
มนั ยดึ ม่นั ถือม่นั สว่ นนนั้ สว่ นนีก้ ็คือเร่อื งของกิเลสตณั หา ของ
สมมตุ ติ า่ งๆ ฉะนนั้ การพิจารณากาย ท่านจงึ ใหพ้ ิจารณาใหแ้ ยบ
คายดว้ ยอบุ ายตา่ งๆ จะพิจารณาเร่อื งนา้ํ เรอ่ื งดินตา่ งๆท่ที า่ น
สอนเอาไว้ อาการ ๓๒ พิจารณาออกไป ใหเ้ หน็ ตามเป็นจรงิ
หรอื จะพิจารณาอสภุ ะอสภุ งั พิจารณาความตายใหม้ นั เห็น แลว้
ก็เผาดว้ ยไฟ ตงั้ ขนึ้ ใหม่ สมมตุ ขิ นึ้ กาํ หนดขนึ้ มนั เป็นมนั เหน็ มนั
รู้ ไมใ่ ช่ความสมุ่ เดาคาดฝัน จิตใจของทา่ นท่ีเหน็ ท่ีเป็นอยา่ งนนั้
มนั เป็นจรงิ ๆ ทา่ นจงึ ละจงึ ถอนความยดึ ถือตา่ งๆได้

เม่ือละเม่ือถอนออกทกุ สิ่งทกุ อย่างก็พงั ลงเทา่ นนั้ สมมตุ อิ ยู่
ไมไ่ ด้ เหมือนบา้ น ถอนน๊อต ถอนตะปทู กุ ตวั ออกแลว้ เสาท่ีฝัง

15

อยผู่ ดุ ลม้ ลงไป ไมม่ ีอะไรเป็นบา้ น มนั พงั ไปหมด สมมตุ ิวา่ หญิง
วา่ ชายวา่ สตั วบ์ คุ คล ก็คือมนั ประกอบกนั เขา้ ถา้ หากเราแยก
สว่ นออกไปอะ้ ไมม่ ีอะไรเป็นสตั วเ์ ป็นบคุ คล น่ีการพจิ ารณาเร่อื ง
ธรรมะ พิจารณาทาํ นองนีเ้ พ่ือจะถอดถอนความยดึ ม่นั สาํ คญั
หมายวา่ หญิง วา่ ชาย วา่ หนมุ่ วา่ แกต่ า่ งๆ จติ ท่ียดึ ท่ีถือก็จะคอ่ ย
ละคอ่ ยวาง ถอดถอนตวั ออกไป เพราะไมม่ ีอะไรเป็นสตั วเ์ ป็น
บคุ คล เป็นหญิงเป็นชาย ถา้ มนั เหน็ ประจกั ษช์ ดั เจนอยา่ งนนั้ ใจ
มนั จะไปกาํ หนดยนิ ดี ชอบพออะไร มนั ก็จะตอ้ งถอดถอนของมนั

น่ีมนั ไม่เหน็ อย่างนนั้ มนั สาํ คญั วา่ เป็นสตั วเ์ ป็นบคุ คลอยู่
เพราะปัญญายงั ไม่เขา้ ไปถงึ จรงิ จงั เป็นเพยี งแตส่ ญั ญาพดู จา
กนั ไปเทา่ นนั้ ถา้ หากปัญญาไปเหน็ จรงิ จงั แจง้ ประจกั ษใ์ นจิต
ละไดถ้ อนได้ วางได้ ปลอ่ ยได้ อบุ ายสอนใจมนั มีหลายนยั แตใ่ จ
ท่ีจะไปรูเ้ หน็ เป็นจรงิ อยา่ งนนั้ จะตอ้ งมีสมาธิคือความหนกั แนน่
ของใจ ความสงบของใจ ถงึ แมว้ า่ จะฟังเทศนฟ์ ังธรรมอยู่ ไมเ่ คย
อบรมมาก่อน ตอนฟังอย่นู นั้ พจิ ารณาอยนู่ นั้ สมาธิ ศีล ปัญญา

16

มนั เป็นอนั เดียวกนั ติดกนั ไป ไมใ่ ช่จะทาํ สมาธิ จะทาํ ศีล ทาํ
ปัญญา มนั ไมเ่ ป็นอยา่ งนนั้

เหมือนกนั กบั แกงท่ีเรารวมใสใ่ นหมอ้ รสชาติมนั เป็นอยา่ งไร
เราก็จะทราบ อะไรบา้ งอย่ใู นแกง มีพรกิ มีเกลือ มนี า้ํ ปลา เนือ้
ผกั ตา่ งๆ ก็รวมแลว้ เป็นแกง ถา้ แยกออก แยกยาก เม่ือมนั แกง
ไปในหมอ้ เป็นอนั เดยี วกนั แลว้ น่ีจิตใจท่ีรวมเขา้ ไป พนิ ิจ
พิจารณา ศีลของเราก็บรสิ ทุ ธิ์ เพราะการรกั ษากาย วาจา กาย
วาจาของเราไม่ไดไ้ ปทาํ อะไร บรสิ ทุ ธิ์อย่แู ลว้ จิตกน็ ่ิงแนอ่ ยแู่ ลว้
ในการพิจารณา ปัญญาท่ีพจิ ารณาก็เป็นปัญญาท่ีจะละจะถอน
อยแู่ ลว้ พรอ้ มกนั เรยี กมรรคสามคั คี มีอยใู่ นจติ ดวงเดยี ว เม่ือจิต
รวมลงไปอย่างนนั้ เป็นอยา่ งนนั้ การพิจารณาอะไรก็แจม่ ใส
ชดั เจนเห็นประจกั ษ์

ถา้ หากไปคาํ นงึ คาํ นวณถงึ อดตี อนาคต เราจะเอาศลี ของเรา
บรสิ ทุ ธิ์หรอื ไม่ หรอื เป็นอยา่ งไร คดิ ถึงเร่อื งศีล เร่อื งสมาธิอยู่ มนั
ก็รวมกนั ไม่ได้ เหมือนเรายงั ไม่แกง อนั นงึ อย่ทู ่ีหนง่ึ อนั นงึ อยทู่ ่ี
หนง่ึ ก็เรยี กวา่ แกงยงั ไมไ่ ด้ รสชาตขิ องแตล่ ะสง่ิ แตล่ ะอย่างก็ไป

17

คนละรสละชาติอีก ยงั ไมร่ วมกนั การพิจารณาธรรมท่ีรวมกนั เขา้
ถอดถอนกิเลสตณั หาก็คอื ศลี สมาธิ ปัญญารวมกนั เป็นมรรค
สามคั คี สามารถท่ีจะกาํ จดั ความลมุ่ หลงตา่ งๆ ความเพลดิ เพลิน
ตา่ งๆ ความตดิ ขอ้ งตา่ งๆ ออกจากจิตจากใจได้ ทาํ จิตของตนท่ี
เคยมืดมนเศรา้ หมองใหส้ วา่ งไสว ขบั ไลเ่ ร่อื งกิเลสตณั หาท่ีเคย
นาํ พาจติ ใจใหล้ มุ่ หลงตกออก

การพิจารณาท่ีธรรมะมารวมกนั เป็นอยา่ งนนั้ แตเ่ รายงั ไม่
เป็นอยา่ งนนั้ ยงั ไม่เห็นอยา่ งนนั้ ก็ฝึกอบรมไป ไม่เหลือวสิ ยั
เพราะอะไร ทกุ สว่ นมีครบพอบรบิ รู ณใ์ นตวั ของเรา ไมม่ อี ะไร
บกพรอ่ ง ถา้ ไม่มีเรอ่ื งกิเลสตณั หา ไม่มีขา้ ศกึ ก็จะไปเอาชยั ชนะ
มาจากท่ีไหน อะไรท่ีมนั ยดึ มนั ถือ มนั ติดมนั ขอ้ งอนั นนั้ หละเป็น
ขา้ ศกึ ของใจ เราจะตอ่ สพู้ ิจารณาแกไ้ ข จะเอาชยั ชนะจากขา้ ศกึ
สว่ นนี้ เราตอ้ งรบ นกั รบไมใ่ ชน่ กั หลบ พอไปโดนเคา้ ข่มขนู่ ิด
หน่อย เจบ็ ปวดนิดหน่อย เอาแลว้ วนั หลงั เอาใหม่ ไปทีหลงั ไป
เจอหนา้ เคา้ เขา้ อีก หลบอีก ก็ไมม่ ีเวลาท่ีจะไดร้ บ จะไดช้ ยั ชนะ
จากกิเลสตณั หา จากขา้ ศกึ ของใจ ใหพ้ ากนั พจิ ารณาตอ่ สู้

18

ถา้ เป็นลกู ศิษยข์ องพระพทุ ธเจา้ ไมต่ อ้ งถอยหลงั ตายก็
ขอใหต้ ายในสงครามจงึ จะไดช้ ่ือวา่ เป็นทหารท่ีกลา้ ตายดาบ
หนา้ ไม่ตอ้ งตายดาบหลงั บกุ เรอ่ื ยไป ไมต่ ายก็จะไดช้ ยั ชนะ
ทหารท่ีดตี อ้ งเป็นอยา่ งนนั้ นกั ภาวนาท่ีดีก็เหมือนกนั พอไปถกู
ความเจบ็ ปวดเหนด็ เหน่ือยนดิ ๆหน่อย ก็หลบเสีย ผลท่ีสดุ ก็เลย
เกิดสงสยั เป็นยงั ไง วาสนาบารมีของเราไมม่ ีม๊งั ทาํ มาหลายปี
หลายเดือนแลว้ ยงั ไมเ่ หน็ อะไรดีเดน่ อศั จรรย์ ก็ไปกลวั เรอ่ื งกิเลส
ตณั หากระซิบ นิดหนอ่ ยๆกห็ ลบเสยี มนั จะไดอ้ ะไร ก็ไมก่ ลา้ ตอ่ สู้
จรงิ จงั

เราไดย้ นิ ไดฟ้ ังพระพทุ ธเจา้ ทาํ มาอยา่ งไร ทา่ นมอบกาย
ถวายตวั ทาํ จรงิ ๆจงั ๆ ทา่ นจงึ หลดุ พน้ ไปจากกิเลสตณั หา ทงั้ ๆท่ี
ท่านสรา้ งบารมีมา ยงั พอบรบิ รู ณ์ ทา่ นก็จะตอ้ งมีความเหน็ด
เหน่ือย มมี ารมารบกวน พวกเราทา่ นไมม่ ปี ัญญาตราญาณ
อยา่ งนนั้ วา่ เราเคยมีบารมีเพียงพอบรบิ รู ณห์ รอื ไม่ก็เลยเกิด
สงสยั วา่ ทา่ นมีอะไร ตา หู จมกู ลนิ้ กาย ใจ เหมือนกนั กบั พวก
เราไม่ใช่หรอื เราจะไปสงสยั อะไร เรามีครบพอบรบิ รู ณ์

19

เหมือนกนั กบั ทา่ น กาํ หนดพจิ ารณาตอ่ สดู้ จู ิตใจท่ีจะไปม่นั หมาย
ตา่ งๆ มนั จะออกแง่ไหน มมุ ไหน เอาปัญญาแนะสอนเอาไว้
ไม่ใหใ้ จปรุงคดิ ตาํ หนิตวั พจิ ารณาธรรมะเขา้ แนะสอน ฟอก
จติ ใจใหส้ ะอาด หากเราทาํ ไม่ได้ เราไมเ่ หน็ ไมเ่ ป็น ก็จะไมเ่ ช่ือ
ใคร เพราะใจไมเ่ หน็ ไม่เป็น ถึงคนอ่นื รูเ้ หน็ เป็นมาบอกเลา่
ชกั ชวน ก็ไมย่ นิ ดีเล่อื มใส ไมม่ ีความพอใจอยากกระทาํ มนั มืด
มดิ ปิดบงั

ฉะนนั้ คนสมยั ปัจจบุ นั จงึ ไม่เช่ือวา่ มพี ระอรหตั อรหนั ต์ ผดู้ ี
วิเศษ ก็ตาเคา้ ไม่มี เคา้ จะไปมองเหน็ อะไร ก็เลยไม่เช่ือในจติ ใน
ใจ บาปบญุ คณุ โทษตา่ งๆ ไม่มี ย่งิ สมยั ปัจจบุ นั นีย้ ่งิ ไปกนั ใหญ่
เพราะเหนิ หา่ งจากการประพฤติปฏิบตั กิ ายใจทางศาสนา แลว้
จะไดร้ บั รสชาติของศาสนาอยา่ งไร เพราะการสนใจไมม่ ี ผแู้ นะ
สอนก็ไม่คอ่ ยจะมีการแนะสอน ทงั้ ไมไ่ ดฟ้ ัง ทงั้ ไมไ่ ดค้ ิดจาก
ตวั เอง ก็เลยหา่ งไกลไปใหญ่ เลยสงสยั วา่ เร่อื งศาสนาเป็นของครึ
ของลา้ สมยั คนเขา้ วดั เขา้ วาศกึ ษาศาสนาเป็นคนแก่ ความนกึ
คดิ ของเดก็ ปัจจบุ นั มกั จะเป็นไปแบบนนั้ ท่ีจะสนใจในอรรถธรรม

20

มีนอ้ ย เพราะผใู้ หญ่ท่ีจะไปแนะสอนก็ไมค่ อ่ ยมี เพลดิ เพลนิ
ตงั้ แตเ่ ร่อื งของโลก เรอ่ื งของอรรถของธรรมจรงิ จงั ไมค่ อ่ ยเอาใจ
ใส่ วนั เสาร์ วนั อาทติ ย์ เป็นวนั วา่ งจากการจากงาน ก็ไปเลน่ ไป
เพลนิ สว่ นอ่นื เสยี จะมาฟังเทศนฟ์ ังธรรมอบรมจิตใจชาํ ระ
สะสางความเศรา้ หมองของใจไม่คอ่ ยมี เลยถือวา่ เร่อื งของโลก
เป็นเรอ่ื งสนกุ สขุ สบาย เห็นเร่อื งโลกเป็นเร่อื งดี เม่ือดีแลว้ ก็ละ
ไมไ่ ด้ ก็ยงั ตดิ ในความดีของตวั อยู่ ยงั หาสขุ จากโลกไดอ้ ยู่

น่ีพระพทุ ธเจา้ ไมเ่ ป็นอยา่ งนนั้ ทงั้ ท่ีเป็นกษัตรยิ ไ์ ม่ไดต้ ดิ ได้
ขอ้ งในสว่ นเหลา่ นนั้ คดิ ดพู ทุ ธประวตั ิ กอ่ นจะเสดจ็ ภิเนษกรมณ์
ทรงบรรพชา พอเปิดม่านออกมานางสนมจาํ นวนมาท่นี อนหลบั
เฝา้ อยนู่ นั้ ทา่ นเหน็ เป็นป่าชา้ ผีดิบ ไมเ่ หน็ เป็นคนธรรมดา เพราะ
จติ ของทา่ นพลกิ ขณะ ปกตจิ ติ ท่ีไมพ่ ลิก ยงั คงท่ีธรรมดาอยู่ เหน็
คนก็เป็นคน เหน็ วา่ สวยก็สวยตามเร่อื งของกิเลสตณั หา น่ีจติ
พลิกเขา้ ไปภายใน เหน็ วา่ เป็นป่าชา้ ผีดบิ กค็ นจะตายอยทู่ งั้ หมด
ท่ีนอนอยนู่ ี้ ไมม่ ีใครท่ีจะเหลอื หลอ จะไม่ใช่ป่าชา้ อยา่ งไร คาํ วา่
ผีก็คอื ของท่ีไมด่ ีไมง่ าม ก็อะไรมนั งามอยใู่ นกายของเราเป็น

21

อยา่ งไร เคา้ ก็เป็นอย่างนนั้ ทา่ นพจิ ารณาอย่างนนั้ ทา่ นจงึ เบ่ือ
เห็นปราสาทราชวงั เป็นฟืนเป็นไฟ ตอ้ งหนไี ป หาอรรถหาธรรม
เพ่ือสงบระงบั จติ ใจ จงึ ตดั พระทยั ไม่ลาใคร ขโมยหนีไปตอน
กลางดกึ น่ีจิตใจของทา่ นเหน็ เป็นอยา่ งนนั้

พวกเราทา่ นไม่เป็นอยา่ งนนั้ เหน็ เทา่ ไรก็ไมม่ ีการเบ่ือในการ
ดู ไดฟ้ ังเทา่ ไรก็ไมม่ ีการเบ่อื ในเสียงท่ีชอบจิตชอบใจ กิเลสมนั
ผกู มดั ดงึ ดดู อย่ทู กุ วนั ทกุ เวลา เพราะไมไ่ ดพ้ ิจารณาอรรถธรรม
ธรรมเป็นแกเ้ รอ่ื งแกไ้ ขกิเลส ความใครค่ ิดตดิ ขอ้ ง ถา้ เรา
พจิ ารณาธรรม วกเขา้ มาสอนใจ ความเพลิดเพลนิ พวั พนั ในเรอ่ื ง
ของโลกก็เบาไปสบายไป ไมเ่ หอ่ ไม่หลง ทงั้ ๆท่ีสิ่งท่โี ลกของเคา้
หลง แตจ่ ติ ของผคู้ ิดทาํ ไมห่ ลงอยา่ งนนั้ เคา้ เพลดิ เพลินยนิ ดี
ทา่ นสงั เวชสลดใจ

อยา่ งอคั รสาวกทงั้ สอง อปุ ตสิ สะ สารบี ตุ ร หรอื โกลติ ะ โมค
คลั ลา ไปดมู หรสพทกุ วนั เคยเพลดิ เพลนิ เหินหนั ตา่ งๆ แตข่ ณะ
จติ วนั นนั้ ไปดไู มเ่ หมือนทกุ วนั ดแู ลว้ คดิ วา่ เอ๊ะ น่ีคนมนั มาเลน่
มาเพลนิ ท่านนั้ ทา่ นี้ ไมใ่ ช่อนั อ่นื แลว้ ทงั้ คนเลน่ คนดอู ยใู่ นนี้

22

จาํ นวนมากขนาดนี้ ไมถ่ งึ รอ้ ยปีจะตอ้ งตายกนั เพยี บ ไมม่ ีใคร
เหลอื หลอ เราจะมาคดิ เพลดิ เพลนิ ทาํ ไมในเรอ่ื งเหลา่ นี้ พอจิต
คดิ ไดเ้ ร่อื งเหลา่ นี้ คดิ ขนึ้ จากตวั เอง สอนตวั เองอยา่ งนี้ ก็เลย
หมดความสนกุ เพลิดเพลิน แลว้ ก็ชวนกนั ออกทงั้ สอง คดิ
เหมือนกนั ไมม่ ีการสนกุ เหมือนทกุ วนั ท่ีเคยไปดู หาทางประพฤติ
ปฏิบตั ิจิตใจใหพ้ น้ ทกุ ข์ เพราะอยกู่ ็จะเป็นทกุ ขอ์ ย่างนี้ มนั เกิดขนึ้
เป็นขนึ้ ในจติ ในใจ ใช่วา่ มนั จะหลงเร่อื ยไปถา้ หากอาศยั ธรรม
เป็นแสงสวา่ งสอ่ งทางแลว้ จติ ใจท่ีเคยลมุ่ หลงจะวกคิดมาทาง
ใหม่ ท่ีเคยไปทางโลกก็จะกลบั ตรงกนั ขา้ ม หนั เขา้ มาทางธรรม

น่ีโดยมากมนั ไมไ่ ดค้ ดิ วกกลบั สง่ นอกออกไปย่งิ ไกลเหมอื น
ว่ิงตามเงา ธรรมะของพระพทุ ธเจา้ โอปนยโิ ก นอ้ มเขา้ มาภายใน
ของตวั ไมไ่ ดส้ ง่ ออกไปขา้ งนอก อย่างพระพทุ ธเจา้ เหน็ คนแกก่ ็
นอ้ มมาสอนตวั วา่ เราก็จะตอ้ งแก่ เห็นคนเจบ็ เราก็จะตอ้ งเจ็บ
เห็นคนตาย เราก็จะตอ้ งตาย พระพทุ ธเจา้ ทา่ นนาํ มาสอนตวั ของ
ท่านอยา่ งนนั้ เหน็ สมณะทา่ นน่งั ทาํ ทา่ เขา้ ฌาณสมาบตั ิ ทา่ นคง
จะไดค้ วามสขุ ความสบาย ทา่ นองคน์ ีไ้ มไ่ ดเ้ ก่ียวขอ้ งกบั ใคร

23

พิจารณาอรรถธรรมแจม่ ใส ดีเดน่ ไมม่ กี ารกงั วลเร่อื งอ่นื
ความสขุ คงจะมีอย่ใู นจดุ นี้ เกิดเล่ือมใส เกดิ อยากออกบวช
กอ่ นท่ีจะเสดจ็ ออกบวชเหน็ อย่างนนั้

ท่านจงึ วา่ เทวทตู คือผบู้ อกอยา่ งเทวดา บอกของจรงิ ความ
แก่ ความเจ็บ ความตายมนั ของจรงิ ไม่ใชข่ องเลน่ แตเ่ ราเหน็
เป็นใคร พระพทุ ธเจา้ เหน็ วา่ เคา้ บอกแบบเทวดา ถา้ ไมม่ สี ว่ น
เหลา่ นี้ ใครเลา่ ท่ีคิดหนีจากโลกจากสงสาร ใครก็จะตอ้ งยินดี
เพลิดเพลนิ ในภพชาตขิ องตนหนกั แนน่ เขา้ ไปเทา่ นนั้ น่ีมนั มี ถงึ
จะเพลดิ จะเพลนิ จะสนกุ ขนาดไหน ความแก่ก็ไม่เคยไวห้ นา้ ถงึ
เวลาก็แกไ่ ป ความเจบ็ ก็เหมอื นกนั จะรกั ษาขนาดไหนก็ยงั มีเจ็บ
มีไข้ ไมอ่ ย่างนนั้ ก็ไม่มีตาย มนั มี จงึ เรยี กวา่ อรยิ สจั ของจรงิ ท่ี
พระพทุ ธเจา้ ตรสั ไมม่ ีโกหกพกลมใคร

สมยั ใดก็ตาม วทิ ยาศาสตรจ์ ะกา้ วหนา้ ขนาดไหน จะแกไ้ ข
อรยิ สจั ของพระพทุ ธเจา้ แกไ้ ขไม่ได้ จรงิ อย่างไรจะคงเสน้ คงวา
อยอู่ ย่างนนั้ ใครจะฉลาดเฉียบแหลมขนาดไหนก็มาเถอะ จะทาํ
เคร่อื งบินหรอื จรวดดาวเทียมอะไร ข่ีไปเถอะ ข่ีหนีความตาย จะ

24

ไปโลกไหน โลกพระจนั ทรพ์ ระองั คารก็ไปเถอะ เพราะจะตอ้ ง
ตายอย่นู ่นั นะ่ ทกุ ขเ์ ลา่ ติดตามไปมยั้ จะตอ้ งตดิ ตามไปอกี เคา้
จะไปทิศใดทางใด ทกุ ขก์ ็จะตอ้ งตดิ ตามไป ถา้ จติ ใจไมแ่ กไ้ ข
พิจารณาเหน็ ตามเป็นจรงิ แลว้ คนนนั้ จะทกุ ขต์ ลอดไปในส่งิ ท่ี
เคา้ ไมส่ มหวงั สมปรารถนาของเขา

น่ีพระพทุ ธเจา้ ทา่ นเหน็ เป็นจรงิ ทา่ นจงึ วา่ เป็นอรยิ สจั จะหนี
ไปทิศใดทางใดก็หนีไมไ่ ด้ นอกจากจะพจิ ารณาเอาปัญญาแกไ้ ข
ใหเ้ หน็ ตามเป็นจรงิ แลว้ ปลอ่ ยวางตามสภาพของมนั มนั เป็น
อยา่ งไร เหน็ ตามเป็นจรงิ อยา่ งนนั้ ไม่ยดึ ม่นั พวั พนั ลมุ่ หลงในรูป
ในเสยี ง ในกลนิ่ ในรส ในสมั ผสั ตา่ งๆ วางได้ ปลอ่ ยได้ ทา่ นถงึ
วา่ การอย่ปู ่าอยสู่ งบวเิ วก เป็นท่ีเยือกเยน็ เป็นท่ีสบาย เป็นท่ีของ
พระโยคาวจร คอื ผตู้ งั้ หนา้ ตงั้ ตาประพฤตปิ ฏบิ ตั ิเพ่ือจะขา้ มพน้
ไปจากวฏั สงสาร

ผทู้ ่ีม่งุ ม่นั ในการปฏิบตั อิ รรถธรรมจะตอ้ งแสวงหาท่ีสงบสงดั
ปฏิบตั สิ ะดวก ไม่ใช่คนม่งุ ปฏบิ ตั อิ รรถธรรม สรา้ งอนั นนั้ ก่ออนั นี้
ว่งิ เขา้ สตู่ ลาดลาดเล วง่ิ ไปสโู่ รงหนงั โรงละคร คนนนั้ เป็นคน

25

ประพฤตอิ รรถปฏบิ ตั ิธรรม พระพทุ ธเจา้ ทรงสรรเสรญิ ท่านไม่วา่
อย่างนนั้ ท่านตาํ หนเิ ร่อื งคลกุ คลตี ีโมงตา่ งๆ ทา่ นสรรเสรญิ
ความสงบสงดั สรรเสรญิ การอย่โู ดดเด่ียว วา่ เป็นทางท่จี ะ
พจิ ารณาแกไ้ ขกายใจท่ีติดขอ้ งง่าย จนไดเ้ ป็นพระพทุ ธเจา้ แลว้ ก็
ยงั บญั ญตั ิเสนาสนะห่างไกลจากหมบู่ า้ นซกั ๒๕ เสน้ เป็นอยา่ ง
ต่าํ เพราะอะไร เพราะเหน็ วา่ มนั พอหลบหลกี จากเร่อื งตา่ งๆได้
งา่ ย ถงึ ในจติ ใจทา่ นไมเ่ ก่ียวขอ้ ง ก็ในทิฐธรรมของท่าน อยแู่ บบ
นนั้ ทา่ นสบาย เสอื ไมท่ งิ้ ลาย ถึงตายลายมนั ก็ยงั อยู่ ทา่ นเคยรู้
เคยเหน็ เคยดี เคยเดน่ ดว้ ยเหตใุ ด ทา่ นก็ตอ้ งประพฤตปิ ฏิบตั ิ
อยา่ งนนั้

ผทู้ ่ีมาพง่ึ พาอาศยั เม่ือไดอ้ ยใู่ นท่ีสงบสงดั ปฏบิ ตั สิ ะดวกมนั ก็
งา่ ย จิตใจท่ีจะคลายกาํ หนดั ยินดตี า่ งๆ ทา่ นไม่ไดส้ อนใหเ้ ขา้ ไป
คลกุ คลตี โี มงไปลมุ่ ไปหลงในเร่อื งตา่ งๆ ทา่ นสอนใหแ้ กไ้ ข เราทกุ
คนท่ีมาฝึกอบรมกายใจกห็ ม่นั พิจารณาธรรมะของพระพทุ ธเจา้
ซกั ฟอกกายใจของตวั ท่ีช่วั ท่ีเสียตา่ งๆใหต้ กออกไป ความดีเคย
สงบสงดั อยา่ งไร เคยสวา่ งไสว เคยแกไ้ ขปลดเปลือ้ งจิตใจของ

26

เรา หา่ งจากกิเลสตณั หาอยา่ งไร กห็ ม่นั รกั ษาเอาไวพ้ จิ ารณาให้
กา้ วหนา้ ขนึ้ ไป ผลท่ีสดุ จติ ใจท่ีเคยลมุ่ หลงโงเ่ งา่ เตา่ ตนุ่ ก็เป็น
จิตใจท่ีฉลาดเฉียบแหลมเขา้ ละวางปลอ่ ยเร่อื งความยดึ ถือ
ตา่ งๆจนหมดจากดวงจติ ท่ีเคยติดขอ้ ง ธรรมะของพระพทุ ธเจา้
สอนไปถงึ ท่ีสดุ จดุ หมายอยา่ งนี้

ฉะนนั้ เม่ือพวกทา่ นทงั้ หลายไดส้ ดบั รบั ฟัง แลว้ จงนาํ ไปพนิ ิจ
พิจารณาฝึกกาย วาจา ใจของตน ตอ่ แตน่ นั้ ไปก็จะมีความสขุ
ความเจรญิ ในพระบวรพทุ ธศาสนา การอธิบายธรรมะกเ็ ห็นวา่
พอสมควร เสยี เวลา ขอยตุ ธิ รรมะเพียงแคน่ ี้ เอวงั

ท่ีมา: https://youtu.be/SnNZ1fRZIGo

27


Click to View FlipBook Version