The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิธีทำจิตให้มีพลัง๑ โดย หลวงปู่แบน ธนากโร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ทีมงานกรุธรรม, 2022-02-18 20:02:33

วิธีทำจิตให้มีพลัง๑ โดย หลวงปู่แบน ธนากโร

วิธีทำจิตให้มีพลัง๑ โดย หลวงปู่แบน ธนากโร

Keywords: วิธีทำจิตให้มีพลัง๑,หลวงปู่แบน ธนากโร

วธิ ีทาํ จติ ใหม้ พี ลัง ๑
หลวงป่แู บน ธนากโร
มีสมยั หนง่ึ บรรดากษัตรยิ ท์ ่ีเรยี กวา่ เป็นพระญาตขิ อง
พระพทุ ธเจา้ พากนั คดิ จะบวช กพ็ ากนั ไปหาพระพทุ ธเจา้ และ
ในกลมุ่ พระญาตนิ นั้ ก็มีชา่ งกลั บกประจาํ อย่ใู นหมกู่ ษัตรยิ ์ ตาม
ไปเพ่ือท่ีจะไปบวชดว้ ย เพราะวา่ ชา่ งกลั บกก็มาคิด เจา้ นายเรามี
ความพรอ้ มสมบรู ณบ์ รบิ รู ณท์ กุ อยา่ ง กย็ งั สละได้ ยงั ทงิ้ ได้ แลว้
สงิ่ ท่ีสละ สิง่ ท่ีทิง้ นนั้ เจา้ นายมอบใหเ้ รา เราจะพอใจสง่ิ ท่ี
เจา้ นายเราทงิ้ หรอื เราจะพอใจสิ่งท่ีเจา้ นายทงิ้ เป็นสง่ิ ท่ีถกู ตอ้ ง
แลว้ หรอื
ในท่ีสดุ ก็ไมเ่ อา ไปบวชดว้ ย แลว้ เวลาไปบวชก็จรงิ ๆ บรรดา
กษัตรยิ ท์ งั้ ๔ ทงั้ ๕ นนั้ ก็ใหช้ า่ งกลั บกนนั้ บวชกอ่ น รูส้ กึ วา่ จะเป็น
ผใู้ หญ่กวา่ ในทางอายุ เพราะบรรดากษัตรยิ น์ นั้ ก็ยงั อยใู่ นวยั
หนมุ่ ยกย่องใหเ้ ป็นผอู้ าวโุ สบวชกอ่ น แลว้ นายชา่ งกลั บกนนั้ ก็
เป็นพระเถระท่านหนง่ึ หลงั จากบวชแลว้ (คือพระอุบาล)ี ท่ี
พระพทุ ธเจา้ ทรงยกย่องวา่ เป็นเอตทคั คะในดา้ นพระวนิ ยั แตใ่ น

1

บรรดาพระเถระท่ีเป็นกษัตรยิ ท์ ่ีบวชเป็นบญุ ดว้ ยกนั นนั้ ไม่
ปรากฏวา่ พระพทุ ธเจา้ ยกยอ่ งเป็นเอตทคั คะไปในลกั ษณะไหน

จงึ วา่ สภาพใจจรงิ ๆ ธรรมชาตใิ จจรงิ ๆ เคา้ ไมไ่ ดม้ ีระดบั สงู
ต่าํ อย่างท่ีเราๆโลกสมมตุ กิ นั สภาพจิตใจทกุ ขเ์ ป็น สขุ เป็น ดใี จ
เป็น เสยี ใจเป็น เหมือนกนั หมด แลว้ โดยสภาพธรรมชาตขิ องใจ
รกั ความยตุ ธิ รรมทกุ ราย รกั ความยตุ ิธรรมดว้ ยกนั ทงั้ นนั้ ทกุ หวั ใจ
แตใ่ จไมม่ ีธรรมเป็นเครอ่ื งคมุ้ ครอง ใจไมม่ ธี รรมท่ีจะทาํ ใหใ้ จมี
กาํ ลงั ใจไมม่ คี วามพรอ้ มท่ีจะตอ่ สู้ อาํ นาจของความโลภ ความ
โกรธ ความหลง ใจไม่มีกาํ ลงั ท่ีจะไปตอ่ สตู้ อ่ ตา้ นอาํ นาจของ
กิเลสตณั หาเคา้ ชกั ชวน เคา้ ฉดุ เคา้ ลากไป ก็ตอ้ งไปในอาํ นาจ
ของเขา ใจท่ีมธี รรมอนั เกิดดว้ ยการฝึกอบรมในขอ้ ปฏิบตั ิ ใจมี
ธรรม ใจมีพลงั เพราะธรรมทาํ ใหใ้ จมีกาํ ลงั อาํ นาจของความ
โลภ ความโกรธ ความหลง ไม่สามารถท่ีจะมาฉดุ มาลากใหไ้ ป
ตามอาํ นาจของเขาได้ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เคา้ ไม่
สามารถท่ีจะบงั คบั ใหไ้ ปตามความตอ้ งการของเขา

2

ธรรมชาตใิ จน่ีเขารกั ความยตุ ิธรรม รกั ความเป็นธรรม
ดว้ ยกนั ทงั้ นนั้ เราจะสงั เกตได้ นกั ชอบดลู ิเกละครหรอื ภาพยนตร์
อะไรก็ชา่ ง ไมม่ ีใครซกั รายท่ีชอบตวั นกั เลง ไมช่ อบมีใครซกั คน
หวั ใจของใครซกั รายท่ีชอบตวั โกง ทงั้ ๆท่ีตวั พระตวั นางนนั้ ก็ไม่ได้
คนุ้ เคยเป็นญาติพ่ีนอ้ งอะไร แตท่ กุ คนสว่ นมากพอใจและก็รกั
สงสาร อนั นีเ้ ป็นธรรมชาตธิ าตแุ ทข้ องหวั ใจ เคา้ รกั ความ
ยตุ ิธรรม รกั ความเป็นธรรมโดยธรรมชาติ แตถ่ กู กิเลสกระทาํ ให้
มีอคติ ถกู กิเลสมนั ทาํ ใหไ้ ปไดท้ กุ อย่างดว้ ยอาํ นาจของกิเลส
เพราะใจไมม่ กี าํ ลงั ท่ีจะไปตอ่ ตา้ นคดั คา้ นคาํ บญั ชา คาํ ส่งั ของ
เคา้

คาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ สอนใหบ้ าํ เพ็ญธรรม สอนใหป้ ฏิบตั ิ
ธรรม ก็คอื สอนใหใ้ จมพี ลงั ใจมีกาํ ลงั น่นั เอง ศรทั ธาพลงั ศีล
พลงั ทาํ ใหใ้ จมีกาํ ลงั ทงั้ นนั้ ความเพียรก็เป็นพลงั สตกิ ็เป็นพลงั
สมาธิก็เป็นพลงั ปัญญาก็เป็นพลงั สตวิ ริ ิยะ ศรัทธนิ วริ ิยงั วิริ
ยนิ วิริยงั สตนิ วริ ิยงั สติกท็ าํ ใหใ้ จมีกาํ ลงั ความพากความเพียร
ก็ทาํ ใหใ้ จมีกาํ ลงั สมาธิก็ทาํ ใหใ้ จมีกาํ ลงั ปัญญาก็ทาํ ใหใ้ จมี

3

กาํ ลงั การปฏบิ ตั กิ ็คือสรา้ งพลงั ใหเ้ กิดใหม้ ีขนึ้ แกใ่ จ ไมอ่ ย่ใู ต้
อาํ นาจ ไม่อยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชาของความหวิ ความกระหายของใจ
ไมอ่ ย่ใู ตอ้ าํ นาจความหิว ความกระหายของกิเลสท่ีมาบญั ชา
จิตใจ ใจมีกาํ ลงั แลว้ เคา้ ไม่สามารถท่ีจะบญั ชาไดต้ ามความ
ประสงคข์ องเขา

ธรรมะคาํ สอนของพระพทุ ธเจา้ จงึ เป็นประโยชน์ จงึ มีความ
จาํ เป็นท่ีจะตอ้ งปฏิบตั ดิ ว้ ยกนั ทกุ คน เหมือนกบั คนเกิดมามี
ความจาํ เป็นจะตอ้ งรบั ประทานอาหารทงั้ นนั้ จะเกิดในตระกลู
ใดๆสมบรู ณ์ ขา้ วปลาอาหารมากมาย ตอ้ งรบั ประทานทงั้ นนั้
รา่ งกายจงึ เป็นรา่ งกายท่ีสมบรู ณ์ มีกาํ ลงั วงั ชา ตอ้ งอาศยั อาหาร
ทงั้ นนั้ ใจก็เชน่ เดียวกนั ใจจะมีกาํ ลงั ใจท่ีมีกาํ ลงั แขง็ แรง
สามารถท่ีจะตอ่ สู้ สามารถท่จี ะชนะขา้ ศกึ คือตวั กิเลสได้ ใจตอ้ ง
สมบรู ณด์ ว้ ยพลงั สติ สมาธิ ปัญญา ลว้ นแลว้ แต่ เป็นพลงั ของ
ใจทงั้ นนั้

ถา้ หากวา่ การบาํ เพญ็ เพียรพยายามจนกระท่งั สตมิ ีความ
สมบรู ณร์ อบ สมาธิมีความแน่วแนแ่ ข็งแกรง่ ม่นั คงอย่ภู ายในจติ

4

ในใจ พดู ถึงปัญญาก็รอบคอบรอบรู้ สงั ขารท่ีเป็นสว่ นภายนอก
สงั ขารท่ีเป็นสว่ นภายในแจง่ แจง้ เขาจะมาในลกั ษณะไหน น่ี
รูท้ นั รูช้ ดั จะหลงตามกลมารยาสาไถของเขาหรอื ของสงั ขารไม่มี
น่ีในเม่ือเป็นอยา่ งนีแ้ ลว้ ไอต้ วั หิว ตวั กิเลสมนั จะทาํ ใหม้ าฉดุ มา
ลากเป็นไปไม่ได้ ไม่สามารถท่ีจะมาดงึ มาฉดุ มาลาก น่ี ใหอ้ อก
นอกลนู่ อกทางเขา้ ป่าเขา้ ดง ลงโคลนลงตมเป็นไปไมไ่ ดเ้ ดด็ ขาด
ไม่มีใครซกั รายตอ้ งการท่ีจะเขา้ ป่าเขา้ ดง ลยุ โคลน ลยุ ตม ลยุ นา้ํ
ไม่วา่ นา้ํ โคลน นา้ํ ตมไม่มีใครตอ้ งการ

แตก่ ็ตอ้ งไปจนได้ ตรงไหนเป็นโคลน ตรงไหนเป็นตม
ตรงไหนสกปรกรกรุงรงั กิเลสมนั อาจดงึ ไปตรงนนั้ ในเม่ือเคา้ ดงึ
ไปตรงไหนก็จาํ เป็นตอ้ งไป บญั ชาไปทางไหน ก็ตอ้ งตามไป
บญั ชาของเขาน่นั เหมือนกบั อยใู่ นกาํ มือ สตั วโ์ ลกท่ีไมม่ ีธรรม
เป็นพลงั ในจติ ในใจเหมือนกะอยใู่ นกาํ มือของกิเลสตณั หา
ดว้ ยกนั ทงั้ หมด แลว้ เราๆทา่ นๆ ก็ไมม่ ีใครปรารถนาใหเ้ ราตกอยู่
ในสภาพ อยใู่ นกาํ มือของกิเลสตณั หา จงึ มีความจาํ เป็นอย่างย่ิง
ท่ีจะตอ้ งเรยี น ท่ีจะตอ้ งพยายาม ท่ีจะตะเกียกตะกาย น่สี รา้ ง

5

ธรรมใหส้ มบรู ณพ์ ลู สขุ ใหส้ มบรู ณแ์ น่นหนาม่นั คง อยใู่ นจติ ใน
ใจของเราน่ี

นกั รบถา้ หากวา่ แขง็ แกรง่ ดแี ลว้ น่ีจะหว่นั วติ กในการตอ่ สกู้ บั
ขา้ ศกึ ไม่มี ผทู้ ่มี ีจติ ใจแนน่ หนาม่นั คงดว้ ยอรรถดว้ ยธรรมจะหว่นั
วติ กกงั วลในเรอ่ื งของขา้ ศกึ คอื ตวั กิเลส ไม่ไดส้ ะทกสะทา้ น
หว่นั ไหว จงึ ตอ้ งตรวจดเู สมอ ตรวจดกู ายของเรา ตรวจดใู จของ
เรา การตรวจดกู ายของเรา ตรวจดใู จของเราน่ีหละ เป็นการ
สาํ รวจ ดธู รรมของเราน่ี ดขู อ้ ปฏบิ ตั ิของเราน่ีมีความบกพรอ่ งแค่
ไหนเพียงไร ถา้ หากวา่ เราไมต่ รวจดู มนั ก็เหมือนกบั เรอื นชาน
บา้ นชอ่ งของเราน่ี เราไม่เหลียวดซู กั ที แลว้ ก็จะเรยี บรอ้ ยสะอาด
สะอา้ นเป็นไปไมไ่ ด้ กายของเราก็ดี ใจของเราน่ีปลอ่ ยปละ
ละเลย จะเขา้ ถึงความเรยี บรอ้ ยสะอาดงดงาม ปราศจากสิง่ ท่ี
เป็นอกศุ ล ปราศจากสงิ่ แปลกปลอมจะเป็นไปไมไ่ ด้ ถา้ หากวา่
จะสะอาดสะอา้ น สิ่งแปลกปลอมไมม่ ี จะตอ้ งมีการตรวจตรา
อยา่ งดี ใจของเราน่หี ละตรวจดใู จ ใจของเราน่ีแหละตรวจดใู จ

6

ใจของเราน่ีหละตรวจดขู อ้ ปฏบิ ตั ทิ างกายวาจาและใจ ตรวจดู
เสมอ

ในขณะท่ีตรวจดนู ่นั หละ เรามีสติสมบรู ณ์ ในขณะท่ีตรวจ
น่นั หละ การกระทาํ ทางกาย ทางวาจา แมแ้ ตท่ างใจของเรา จะ
คิดไปในทางท่ไี ม่ถกู ตอ้ ง ไม่เป็นธรรมเป็นวนิ ยั ในขณะนนั้ ไม่คิด
อนั นีก้ เ็ ป็นขอ้ ปฏบิ ตั ิท่ีเราจะตอ้ งมีการสาํ รวจตรวจอยบู่ อ่ ยๆ
ตรวจอย่เู สมอ ในเม่ือเราสาํ รวจตรวจอยเู่ สมอ ความบกพรอ่ ง
ตรงไหนในเม่ือเราเหน็ แลว้ ทงั้ ทางกาย ทางวาจา และทางจติ ใจ
เราก็พยายามแกไ้ ข เราก็พยายามแกไ้ ข เราก็พยายามแกไ้ ข
เพราะเราเหน็ จดุ ท่ีมีความจาํ เป็นท่ีจะตอ้ งแกไ้ ข ถา้ หากวา่ เราไม่
สาํ รวจดู น่ี เราก็ยากท่ีจะเหน็ จดุ บกพรอ่ ง จดุ ท่ีควรแกไ้ ขของเรา
ได้

อนั นที้ ่านจงึ ใหส้ าํ รวมกาย สาํ รวมใจ ในเม่ือมีการสาํ รวจ
ตรวจอยเู่ สมออยา่ งนีค้ วามชมุ่ ช่ืน ความเบกิ บาน ความปีติก็จะ
เกิดขนึ้ มองตรงไหน โทษก็ไมม่ ี มองทางกาย มองทางวาจา มอง
ทางใจมีแตร่ าบเรยี บ มีแตร่ าบรน่ื มีแตค่ วามเป็นปกติ โทษคือ

7

ความบกพรอ่ งมองไม่เหน็ เกิดความปีตขิ นึ้ มาเพราะเรามีศีล
สมบรู ณ์ ความบกพรอ่ งวปิ รติ ผิดไปขา้ งๆ ผิดไปนอกลนู่ อกทาง
อย่างนี้ ทาํ ใหเ้ กิดปีติขนึ้ ปีตอิ นั นีเ้ ป็นเหตทุ าํ ใหใ้ จของเราน่ีใส ใจ
ของเรานนั้ เยน็ ทาํ ใหใ้ จของเราพอใจในการท่ีจะมาสมั ผสั
เก่ียวขอ้ งกบั ใจ ใจของเรากพ็ อใจในการท่ีจะสมั ผสั ในการท่ีมา
เก่ียวขอ้ งกบั ใจ

ถา้ หากวา่ ใจของเรามีแตค่ วามไมส่ บาย มแี ตค่ วามหดหู่ ปีติ
เบกิ บานไม่มี ใจของเราเก่ียวขอ้ งกบั ใจในขณะนนั้ ไม่สดช่ืน ไม่
เบิกบาน เหมือนกบั รบั ประทานอาหารท่ีไม่อรอ่ ย มนั ไมด่ ดู ด่มื ใน
การรบั ประทานน่นั รบั ประทานอาหารท่ีเอรด็ อรอ่ ยมนั ดดู ด่มื
บางทีอ่มิ แลว้ มนั กย็ งั ขอเติมอกี นิดหน่อยน่นั ใจของเราท่มี ีปีตินี้
เป็นฐานท่ีตงั้ ของสมาธิธรรม หรอื องคส์ มาธิธรรมเรม่ิ ปรากฏขนึ้
แลว้ อาศยั ศลี สมบรู ณเ์ ป็นธรรมเคร่อื งอบรมสมาธิ

การปฏิบตั ธิ รรมเหมือนกบั การเดินทาง เดนิ ทางไปถงึ จดุ นนั้
จะเดนิ ทางไหน ก็สามารถท่จี ะไปถงึ จดุ นนั้ ได้ ถา้ คนนนั้ รูจ้ กั ทาง
หลายทางแลว้ ก็วิธีการเดนิ ทางไปนนั้ จะเดนิ ไปดว้ ยเทา้ หรอื วา่

8

จะข่ีจกั รยาน จกั รยานยนต์ หรอื วา่ รถยนต์ เครอ่ื งบินก็ได้
สามารถไปถงึ จดุ หมายปลายทางทงั้ นนั้ คาํ วา่ สมาธิจิต น่ี ใครจะ
เดนิ ไปทางไหน เดนิ ไปทางไหน ก็สามารถท่ีจะเดนิ ไปตาม
เสน้ ทางท่ีสะดวกในการดาํ เนินจติ ในการปฏบิ ตั ิของเจา้ ของ
สะดวกในลกั ษณะไหน ก็ปฏิบตั ติ ามท่ีสะดวกนนั้ และก็สามารถ
ท่ีจะเขา้ ถึงสมาธิจิต สมาธิธรรมได้ จงึ วา่ วธิ ีการปฏิบตั ิถกู ทงั้ นนั้
ถา้ หากวา่ มีความพยายาม มีความจรงิ ใจในการกระทาํ เพ่ือ
เขา้ ถงึ ความสงบ มีความพยายามพอแลว้ ตอ้ งสงบไดท้ งั้ นนั้ จะ
กาํ หนดพทุ โธ ธมั โม สงั โฆ คาํ วา่ ตายๆๆ กระดกู ๆ ผม ขน เลบ็
ฟัน หนงั เอามาบรกิ รรมหรอื จะอะไรก็ช่าง สามารถท่ีจะหย่งั เขา้
หาความสงบไดท้ งั้ นนั้ อยา่ ไปคิดวา่ อนั นนั้ ถกู อนั นนั้ ไมถ่ กู อนั
นนั้ คด อนั นนั้ โคง้ อนั นนั้ ตรง อยา่ ไปคิด ถา้ ไปคดิ อย่างนนั้ อนั
นนั้ หละจะเป็นการโคง้ การคด หรอื วา่ เป็นการบดิ เบอื นออก
ไมใ่ หถ้ ึงตรงเปา้ จดุ หมายเลยทีเดยี ว

ไปทางสติก็คอื มีความสาํ รวมอย่เู สมอ มีสตเิ ท่านนั้ จะเป็น
ธรรมท่ีทาํ ใหใ้ จของเรามีความสาํ รวมขนึ้ ได้ มีแตส่ ตเิ ทา่ นนั้ ท่ีจะ

9

ทาํ ใหใ้ จของเรา หลงั จากสาํ รวมดี สาํ รวมแน่วแน่แลว้ กลายเป็น
สมาธิธรรมก็ได้ มีแตส่ ติเทา่ นนั้ ในเม่ือศีลสมบรู ณ์ สมาธิ
สมบรู ณ์ น่ี ก็ทาํ ใหเ้ กิดปัญญาความรอบรูแ้ จม่ แจง้ ในจดุ ท่ี
ตอ้ งการรู้ ตอ้ งการเหน็ จะวิจยั วจิ ารณล์ งไปจดุ ไหน จดุ นนั้ จะ
เปิดเผยสภาพความเป็นจรงิ ใหไ้ ดร้ ูไ้ ดเ้ ห็นทงั้ นนั้ จงึ วา่ สติธรรม
เป็นธรรมท่ีมีความจาํ เป็นแกผ่ ปู้ ฏบิ ตั ิธรรมทกุ ราย สัมมาสตขิ าด
ไมไ่ ด้ การงานภายนอก ทาํ ทางตา ทาํ ทางหู ทาํ ทางจมกู ทาํ ทาง
กาย ทาํ ทางคาํ พดู การงานภายนอก การงานภายในน่งั อยเู่ ฉยๆ
ไม่ตอ้ งเคล่ือนไหว น่งั อย่เู ฉยๆ ไม่ตอ้ งเคล่ือนไหว ไม่ตอ้ งพดู ไม่
ตอ้ งจาอะไร ถงึ จะเดนิ จงกรม เคล่อื นไหวในการเดนิ แตก่ ็ไม่ตอ้ ง
พดู อนั นีเ้ ป็นการงานภายใน การงานภายในก็คือการงาน
ภายในใจ

การงานภายนอกก็คอื การงานท่นี อกจากใจ แตก่ ็ตอ้ งอาศยั
ใจเขา้ ไปเก่ียวขอ้ ง จงึ เป็นการเป็นงาน ถา้ หากวา่ ไม่มีใจเขา้ ไป
เก่ียวขอ้ งการงานภายนอกจะเป็นการเป็นงานไมไ่ ด้ เหมอื นกบั
แผ่นดนิ นา้ํ ลม ไฟ ถา้ หากวา่ ไม่มีหวั ใจ แผน่ ดิน นา้ํ ลม ไฟ ก็

10

เป็นอยา่ งนนั้ จะทาํ ใหเ้ กิดประโยชน์ เกิดผลิตผลตน้ ไม้ กอ้ นหนิ
อะไรก็ช่าง ถา้ หากไมม่ ีหวั ใจแลว้ ตน้ ไมจ้ ะเป็นเรอื นชานบา้ น
ชอ่ งไม่ได้ กอ้ นหนิ จะเป็นอฐิ เป็นปนู อะไรขนึ้ มาไมไ่ ด้ ตอ้ งมีใจ
จงึ วา่ ดนิ นา้ํ ลม ไฟ เคา้ ไม่มีสว่ นรูอ้ ะไร ตอ้ งอาศยั ใจ ใจของเรา
น่ีจงึ มีความจาํ เป็นอยา่ งยง่ิ ท่ีจะตอ้ งควบคมุ ดแู ลใหด้ ี ถา้ หากวา่
ควบคมุ ดแู ลไม่ดีหรอื ไมม่ ีการควบคมุ ดแู ลน่ี ใจของเราจะเป็น
อนั ตรายแก่เรา ไมม่ ีอะไรเป็นอนั ตรายแกเ่ รา มีแตใ่ จของเราท่ีไม่
มี ไมไ่ ดร้ บั การอบรมจะเป็นอนั ตรายแก่เรา ใจของเราน่ีแหละ
เป็นประโยชน์ ใจของเราน่หี ละเป็นท่ีพง่ึ แกเ่ รา

ในเม่ือใจของเราไดร้ บั การฝึกอบรมดแี ลว้ ใจของเราไดร้ บั
การฝึกอบรมดแี ลว้ ใจของเราน่ีจะเป็นหลกั จติ หลกั ใจ จะเป็น
หลกั ท่ีเรยี กวา่ การดาํ เนินของเราจะไม่ผดิ พลาด ถา้ หากวา่ ใจ
ของเราไดร้ บั การฝึกอบรมแลว้ น่ี ยากท่ีจะดาํ เนนิ ชีวติ หรอื
ดาํ เนินไปใหถ้ กู ตอ้ งได้ อดท่จี ะไปซา้ ยไปขวา อดท่ีจะเขา้ ป่าเขา้
ดง และอดไปในทางท่ีจะเป็นภยั เป็นอนั ตรายไม่ได้ จงึ วา่ การ
ฝึกอบรมใจดว้ ยขอ้ ปฏบิ ตั ิ การอบรมใจดว้ ยศลี ธรรมจงึ มคี วาม

11

จาํ เป็นแก่ใจทกุ ราย การบาํ เพ็ญจติ ตภาวนา อยา่ มงุ่ แตใ่ หใ้ จ
สงบ อยา่ ไปพอใจ ใหใ้ จสงบอย่างเดยี ว

ถา้ หากวา่ พอใจ ก็ใหพ้ อใจในการกระทาํ ใหม้ าก กระทาํ ให้
มากเท่าไหร่ อนั นนั้ คือความถกู ตอ้ ง ถา้ หากไปพอใจแตค่ วาม
สงบอย่างเดียว พอใจแตค่ วามสงบอย่างเดยี วเราจะไดส้ งิ่ ท่ีไม่
ชอบใจ เพราะใจของเรานีจ้ ะสงบไปตลอดกาลไปไม่มี มนั
เหมือนกบั การเดนิ ทางอยา่ งเนีย้ จะเดินไปไมใ่ หม้ ีแดด เดนิ ไป
ไม่ใหม้ ีฝน น่ี มนั จะเป็นไปไม่ได้ มนั จะตอ้ งเจอแดดม่งั เจอฝนม่งั
เหมือนกบั การลงเรอื ไปในลาํ นา้ํ อยา่ งนนั้ นะ่ จะใหท้ ะเลมนั เรยี บ
อยา่ งท่ีเราตอ้ งการ เป็นไปไมไ่ ด้ มนั จะตอ้ งมีขนึ้ มีลงๆของเขา
อยา่ งนนั้ บางทีคล่นื ลมก็มากอย่างสงู บางทีคล่นื ลมก็นอ้ ย บาง
ทีทะเลก็เรยี บ น่ีใจของเราทาํ เหมือนเรอื คล่นื จะเรยี บ เราก็อยู่
เหนือนา้ํ น่ี คล่นื จะนอ้ ย คล่นื จะใหญ่ เราก็อย่เู หนือคล่นื เหนือ
นา้ํ นนั้ ไปอยแู่ ตพ่ อใจแตน่ า้ํ สงบ นา้ํ น่ิง เวลานา้ํ ไม่น่ิงนนั้ น่ะ เรา
จะตอ้ งโดนคล่นื เราจะตอ้ งโดนอยา่ งหลกี เล่ียงไมไ่ ด้ จงึ พอใจใน
การอยเู่ หนือนา้ํ อย่เู สมอ เหนือความสงบ และความไม่สงบมา

12

เราก็อยเู่ หนือ เราไมต่ ดิ ความสงบ ความไมส่ งบเกิดขนึ้ เราก็ไม่
ไปติด

ในเม่ือเราไมต่ ดิ แลว้ เราจะไปเดือดรอ้ น ไปเป็นทกุ ขเ์ พราะ
ความไม่สงบของใจไดอ้ ยา่ งไร คาํ วา่ สงั ขารตอ้ งเป็นสงั ขาร
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นไมแ่ ตง่ สงั ขาร ไมเ่ ป็นอย่างนนั้ ทา่ น
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นใหร้ ูส้ งั ขาร คาํ วา่ แตง่ สงั ขารก็หมายถงึ วา่ ทะเล
ไม่ใหม้ ีคล่นื เป็นไปไมไ่ ด้ แมแ้ ตพ่ ระพทุ ธเจา้ ทา่ นก็ไมส่ ามารถท่ี
จะไปแตง่ ทะเลใหเ้ รยี บได้ เพียงแตใ่ หร้ ูท้ ะเล ใหร้ ูส้ งั ขารเท่านนั้
พอใจแตค่ วามสงบก็จะเจอส่ิงท่ีไมพ่ อใจ สงบ ไมส่ งบ ไม่สน ทาํ
ใหย้ ่งิ อย่เู สมอ เราไม่ไดท้ าํ เพ่ืออะไร เราทาํ เพ่ือละ ทาํ เพ่ือปลอ่ ย
วาง เพ่ือสลดั ทิง้ ดกี ็ไมเ่ อา จะเอาทาํ ไม เอาแลว้ หนกั ทงั้ นนั้ เป็น
ภาระทงั้ นนั้ คนื นีก้ ็เงยี บกนั ดี พากนั น่งั สมาธิตอ่ ไป

(พดู หลงั เทศน)์
ครูบาเราก็ไปแลว้ นะ ไปชมแสงสกี นั หมดแลว้ วนั นีไ้ ด้
ชีปะขาวสามองค์ ชีปะขาวน่ไี มใ่ ชข่ องเลน่ นะ ชีปะขาวน่ีบางทีมี
ฤทธิ์มากนะ ชีปะขาวบางทมี ีฤทธิม์ าก ชีปะขาวท่ีใจในการอบรม

13

ดแี ลว้ น่ี มฤี ทธิใ์ นการท่ีจะกาํ จดั กิเลส ชีปะขาวน่มี ีใจ ไมม่ ีธรรม
เป็นเครอ่ื งอบรม ชีปะขาวนนั้ ก็ถกู กิเลสจดั การ

กองดนิ กองนา้ํ กองลม กองไฟ กองกนั แตศ่ ีรษะลงไปหา
เทา้ เทา้ ขนึ้ มาหาศรี ษะ อนั นีก้ องดิน กองนา้ํ กองลม กองไฟ ตดั
คาํ วา่ กองเราออก น่นั ไปเกิดขนึ้ มา ก็เปล่ียนแปลงมาตงั้ แตเ่ ป็น
กองอนั นีข้ นึ้ มา ก็เปล่ยี นของเขามาตามลาํ ดบั ๆทกุ วนั และทกุ
ขณะ เปล่ยี นแปลงชดั ๆก็เปล่ยี นแปลงในการหายใจเขา้ และก็
เปล่ยี นแปลงในการหายใจออก มีการป๊ัมเขา้ ป๊ัมออกๆ อนั นีก้ ็
เปล่ียนแปลงอยเู่ สมอ ไมใ่ ชเ่ ปล่ียนแปลงเฉพาะการหายใจเขา้
หายใจออก ทกุ อย่างเปล่ียนแปลงทกุ ขณะ ไม่มีใครไปแตง่ เขา
เขาเป็นของเขาเอง

ท่านจงึ วา่ สงั ขาร เขาแตง่ เขาเป็นเขาเอง ไมม่ ีใครไปแตง่ เคา้
แตง่ ของเคา้ เอง น่ี เลา่ ใหร้ ู้ ใหร้ ูส้ งั ขาร สงั ขารมีการเกิด สงั ขารมี
การดบั เคา้ แตง่ ขนึ้ มา แตง่ ขนึ้ มา แตง่ ขนึ้ มา และท่ีขนึ้ มานนั้ ก็มี
สว่ นดบั ไป แตง่ ขนึ้ มาเทา่ ไหรก่ ็ดบั ไปเท่านนั้ แตง่ ขนึ้ มาเทา่ ไหรก่ ็
ดบั ไปเท่านนั้ เพราะของใหมเ่ ขา้ มาแทนท่ี ของเก่ามนั ก็ตอ้ งผ่าน

14

ไป เป็นอยา่ งนีม้ าตลอด ของเรา ของเราเหรอ เราไปสรา้ ง เราไป
แตง่ เหรอ เรากินขา้ วอยทู่ กุ วนั เราหามาปอ้ นอย่ทู กุ วนั แลว้ จะวา่
ไม่ใช่วา่ เราไมส่ รา้ ง เราไม่แตง่ ยงั ไง ถา้ หากเคา้ ไม่สรา้ ง เคา้ ไม่
แตง่ ของเขา เราปอ้ นขา้ วเขา้ ไปน่นั มีประโยชนอ์ ะไรมยั้ อดั เขา้
ไปบางทมี นั ไมเ่ ขา้ ซะ หายใจก็เหมือนกนั นะ่ ถา้ เคา้ ไมห่ ายใจ
ของเขาน่ะ เราจะหายใจเขา้ หายใจออก มนั ไม่เขา้ ไมอ่ อกนะ

น่ีหละสงั ขาร เคา้ เป็นของเคา้ เอง ใหร้ ูเ้ สยี อยา่ วา่ เป็นเรา
ตรงไหนเป็นเรา อา้ ว ผมเราสรา้ งขนึ้ เหรอ ใครสรา้ งผม ใครปลกู
ผม ขน เลบ็ ฟัน หนงั เหมือนกนั ใครไปสรา้ ง มีมยั้ เราไปสรา้ ง
เหรอ พระพทุ ธเจา้ ท่านจงึ วา่ กองสงั ขาร กองของเกิดดบั
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นจงึ วา่ กองอนิจจงั กองทกุ ขัง กองอนัตตา
กองไตรลกั ษณ์ กองเกดิ กองแก่ กองตาย จงึ วา่ ภาวนา อยา่
ไปม่งุ แตใ่ หใ้ จสงบ

ภาวนาแปลวา่ ทาํ ใหเ้ กิด เกิดขนึ้ ความรู้ ความแจ่มแจง้
เกิดขนึ้ ซง่ึ สติ ซง่ึ ปัญญา แตภ่ าวนาก็ตอ้ งมีสมาธิเป็นหลกั ถา้
หากวา่ ไมม่ ีสมาธิเป็นหลกั หละ ใจจะไม่อยกู่ บั ท่ี อย่กู บั ผมก็ไม่

15

อยู่ อยกู่ บั ขนก็ไม่อยู่ อยกู่ บั เลบ็ กบั ฟันอย่กู บั รา่ งกายกองเกิด
กองตาย มนั ก็ไม่ยอมอยู่ จงึ วา่ ภาวนาตอ้ งอาศยั สมาธิเป็นหลกั
ในเม่ือสมาธิเป็นหลกั แนน่ แลว้ น่ี เราจะเก่ียวขอ้ งตรงไหน
เก่ียวขอ้ งตรงไหน เคล่ือนไปในลกั ษณะไหน ในกองเกิด กองตาย
นี้ ลว้ นท่ีจะเป็นประโยชนใ์ นการเคล่อื นยา้ ย ในการเคล่อื นไป
ทงั้ นนั้ แยบคาย คาํ วา่ แยบคายน่ี เคล่ือนไปทางไหน แยบคาย
ตามท่ีใจเคล่ือนไปนนั้ การท่ีเคล่ือนไปเก่ียวขอ้ งนนั้ สงิ่ เหลา่ นี้
ลว้ นแตเ่ ป็นอาหาร เก่ียวขอ้ งสมั ผสั เท่าไรย่งิ ทาํ ใหจ้ ติ อ่ิม ทาํ ให้
เบกิ บานช่มุ ช่นื มีกาํ ลงั

ส่ิงเหลา่ นีเ้ หมือนกบั หนิ มีดมนั คมเพราะหนิ คาํ วา่
สติปัญญา สติปัญญามีความคม มีความแหลมความคมน่ีตอ้ ง
อาศยั หนิ กองเกิด กองแก่ กองตาย ดนิ นา้ํ ลม ไฟอนั นหี้ ละ คอื
หนิ ท่ีจะลบั สตลิ บั ปัญญา ลบั จิตลบั ใจของเราใหแ้ หลมใหค้ น
เป็นสตเิ ป็นปัญญาขนึ้ มา ไมอ่ ย่างนนั้ จติ ใจของเราน่ีไมเ่ ป็น
ปัญญา ไมเ่ ป็น มนั จะกลายเป็นใจท่ีไม่มีคม ใจท่ีไม่มีคม กิเลส
มนั ไมก่ ลวั หรอก แตใ่ จท่ีมีคม กิเลสมนั กลวั เพราะมนั เคยเจ็บตวั

16

มาแลว้ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นกิเลสมนั เคยเจ็บตวั มาแลว้ พระสาวก
พระพทุ ธเจา้ กเิ ลสมนั เคยเจบ็ ตวั มาแลว้ มนั กลวั ถา้ หากวา่ ใจท่ี
ไม่มีคม กิเลสมนั ก็เคยเจอมาแลว้ เหมือนกนั สบายมาก ลยุ เลย
ลยุ เลย

เราๆน่ีกิเลสมนั กลวั หรอื กเิ ลสมนั ลยุ เอา้ ! ดเู อา แลว้ ก็ไม่
ตอ้ งบอกใคร เรอ่ื งเหลา่ นีใ้ หร้ ูเ้ อง ขา้ งนอกไมม่ ีอะไร ลมก็เป็นลม
ดนิ ก็เป็นดนิ อากาศก็เป็นอากาศ ลมหายใจเขา้ ลมหายใจออก
อนั นี้ เขาก็เป็นของเขาอย่างนี้ ไม่ตอ้ งไปกงั วลกบั เขา ใจของเรา
เคา้ ก็รูอ้ ย่อู ยา่ งนี้ รูอ้ ย่อู ย่างนี้ รูอ้ ยอู่ ยา่ งนี้ รูอ้ ย่อู ยา่ งนี้ ใหเ้ คา้ รูอ้ ยู่
อย่างนี้

ผม ขน เลบ็ ไมต่ อ้ งไปกงั วลกบั เขา เราจะกงั วลไมก่ งั วล เขา
ก็เป็นผม เป็นขน เป็นเลบ็ เป็นฟัน เป็นหนงั เขาก็เส่อื มไป เส่ือม
ไป ของเขาอยอู่ ยา่ งนี้ เรานนั้ ในเม่ือ เขาเป็นของเขาเอง เราจะไป
กงั วลทาํ ไม น่ี! ทา่ นจงึ ใหป้ ลอ่ ยวาง แมแ้ ตใ่ จของเราก็ปลอ่ ยวาง
ไม่ตอ้ งไปกงั วล เขารูอ้ ย่างนเี้ ร่อื งของเขา เราไม่ไดไ้ ปแตง่ เขาใหร้ ู้
มีสติอย่กู บั รู้ มสี ติอย่กู บั จติ มีสติอยกู่ บั จิต มีสตอิ ยกู่ บั จติ อย่าไป

17

กงั วลอะไร เพราะทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งกงั วลมนั ก็ไม่ไดผ้ ล กงั วลๆ มนั
ย่งิ กงั วล กงั วลมนั ย่งิ เพ่มิ กงั วล กงั วลมนั ย่งิ เพ่ิมสบั สน เรา
ตอ้ งการกงั วล เราตอ้ งการสบั สนหรอื ไมต่ อ้ งการ ไม่ตอ้ งการ
ทงั้ นนั้

ในเม่ือไปอยา่ งนีห้ ละ ปลอ่ ยมนั เลย ดนิ นา้ํ ลม ไฟ ก็ปลอ่ ย
ไปตามดิน นา้ํ ลม ไฟ ตามธรรมชาตขิ องเขา สงั ขารก็ปลอ่ ยไป
ตามธรรมชาตขิ องเขา จิตสงั ขารก็ปลอ่ ยไปตามธรรมชาตขิ อง
เรา ใจปลอ่ ยไปตามธรรมชาตขิ องใจ มีสตอิ นั เดยี ว มีสตอิ นั เดียว
อย่ตู รงไหน อย่กู บั ใจ ไมม่ ีใจ ไมม่ ีสติ สตกิ บั จิต สติกบั ใจใหเ้ ป็น
อนั เดียวกนั ในเม่ือเราไมก่ งั วลสง่ิ อ่ืน ถา้ หากวา่ เรากงั วลสิ่งอ่ืนน่ี
มนั ชอบไปอยกู่ บั สง่ิ อ่ืนนนั้ ละใหห้ มด! ทา่ นจงึ วา่ ปลอ่ ยวาง
ปรากฏอะไร ละ ปรากฏอะไร ละ ไมเ่ อา จงึ วา่ ภาวนาละ ภาวนา
ปลอ่ ยวาง

ท่ีมา: https://youtu.be/Kzvfhwus410

18


Click to View FlipBook Version