The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chapa_203, 2021-03-15 08:37:36

หลวิชัย คาวี

หลวิชัย คาวี

รายงานเชงิ วิชาการ
หลวชิ ัย คาวี
เสนอ

ครูณัฐรภิรมย์ วราสนิ ธ์

ผู้จัดทา

นางสาวนิชาภา ปัญญาเหมือง เลขท่ี ๑๙
นางสาวศุภมาศ บัวสมิ เลขท่ี ๓๓

นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๕/๑๐

รายงานนเ้ี ปน็ สว่ นหนึ่งของวิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน (ท๓๒๑๐๒)
ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓

โรงเรยี นศรีราชา อาเภอศรีราชา จังหวดั ชลบรุ ี



รายงานเชงิ วชิ าการ
หลวิชัย คาวี
เสนอ

ครูณัฐรภิรมย์ วราสินธ์

ผู้จัดทา

นางสาวนิชาภา ปัญญาเหมอื ง เลขที่ ๑๙
นางสาวศุภมาศ บัวสมิ เลขท่ี ๓๓

นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๕/๑๐

รายงานนเ้ี ปน็ สว่ นหนึ่งของวิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน (ท๓๒๑๐๒)
ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓

โรงเรยี นศรีราชา อาเภอศรีราชา จังหวดั ชลบรุ ี



คานา

รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหน่ึงของวิชา ท๓๒๑๐๒ รายวิชาภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โดยมี
จุดประสงค์ เพ่ือการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลจากเรื่องหลวิชัย-คาวี ซึ่งรายงานนี้มีเนื้อหาเก่ียวกับท่ีมาของเร่ือง
ประวัติผู้แตง่ ลกั ษณะคาประพันธ์ เน้ือเร่อื งย่อ ตัวละคร และคุณค่าจากวรรณคดเี รื่อง หลวิชัย-คาวี เพ่ือให้ผู้ท่ี
กาลงั หาขอ้ มลู เร่ืองนีอ้ ยู่หรือสนใจได้ศกึ ษาศึกษาเน้ือหา ความรู้ และความเป็นมาของวรรณคดีไทยเร่อื ง
หลวิชยั -คาวไี ด้อย่างถูกต้องแม่นยาและเขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ

กลุ่มผู้จัดทาได้เลือก หัวข้อน้ีในการทารายงานการศึกษาค้นคว้าในคร้ังนี้ เน่ืองมาจากเป็นเร่ืองท่ี
นา่ สนใจ รวมถึงต้องการสานต่อเกี่ยวกับความรจู้ ากวรรณคดใี ห้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงคุณค่าและความสาคัญของ
วรรณคดีไทย กลุ่มผู้จัดทาจะต้องขอขอบคุณ คุณครูณัฐรภิรมย์ วราสินธ์ ผู้ให้ข้อแนะนา แนวทาง การศึกษา
และเพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้ ความช่วยเหลือมาโดยตลอด กลุ่มผู้จัดทาหวังว่ารายงานฉบับนจี้ ะให้ความรู้ และเป็น
ประโยชนแ์ ก่ผ้อู า่ น นักเรยี น หรือผู้ทีก่ าลังสนใจข้อมลู ในเรือ่ งดงั กล่าว

คณะผู้จัดทา

สารบญั ข

คานา หน้า
สารบญั ก
ที่มาของเรื่อง หลวชิ ยั คาวี ข
ประวัตผิ ูแ้ ต่ง ๑
ลักษณะคาประพนั ธ์ ๑
เน้ือเร่ืองย่อ ๓
ตัวละคร ๔
ข้อคิด/คุณคา่ จากวรรณคดี ๕
บรรณานกุ รม ๖




ท่ีมาของเรือ่ ง หลวชิ ยั คาวี

บทละครนอกเรื่องคาวีสมัยอยุธยาน้ีเป็นต้นเค้าของบทละครนอกเรื่องคาวี พระราชนิพนธ์ของ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซ่ึงทรงเลือกเฉพาะตอนท่ีเห็นว่าเหมาะแกการเล่นละครมามา
ปรับปรุง แก้ไขสานวนกลอนให้ไพเราะข้ึน เรือ่ งคาวีท่ีเปน็ บทพระราชนิพนธ์เร่มิ เร่ืองตั้งแต่ท้าวสันนุราชไดผ้ อบ
ใส่ผมหอมมาจนถึงคาวีฆ่าไวยทัต ดาเนินความตาเร่ืองเดิมทั้งหมดสานวนกลอนในบทพระราชนิพนธ์ที่ไพเราะ
คมคายมอี ยหู่ ลายตอน

ยังมีบทละครนอกเร่ืองคาวีที่จารึกไว้ในสมุดไทยอีก ๓ เล่ม เนื้อเร่ืองกล่าวถึงหลวิชัยกับนางเทพลีลา
เร่ืองมีอยู่ว่า ท้าวโสพินเป็นยักษ์ เห็นนางเทพลีลาอยู่วิมานต้นไม้กับหลวิชัยและคาวี ก็นึกรักนาง จึงร่ายมนตร์
สะกดให้หลับไป ท้าวโสพินสะเดาะเขา้ ไปถึง ๖ ชั้น เห็นคาวีหลับอยู่ ก็เขา้ ไปชั้นในสุด ได้พบนางเทพลีลา เห็น
นางตกใจก็ปลอบประโลม แลว้ อมุ้ นางไปถึงเมอื งของพระองค์ ส่งั ให้เสนาเตรียมการอภิเษก โหรคานวณหาฤกษ์
ยามแล้ว กต็ กใจเพราะทราบวา่ ท้าวโสพินมเี คราะห์ ทา้ วโสพนิ ทาพธิ ีอภเิ ษกกับนางเทพลีลา แตน่ างไมย่ อมปลง
ใจด้วย ท้าวโสพินจึงกลับไปปราสาท ฝ่ายนางโสธรมเหสีของท้าวโสพินรู้ข่าวว่าท้าวโสพนิ ไปประพาสป่าแล้วได้
นางรูปรา่ งหน้าตาสวยงาม และรักใคร่ลุ่มหลงมากถึงกับอภิเษกให้เป็นมเหสี จึงแกล้งเข้าไปหานางเทพลีลา ทา
เป็นไต่ถามเรอ่ื งราวตา่ ง ๆ นางเทพลีลาตอบว่านางมีสามแี ล้ว ท้าวโสพินไปสะกดลักเอาตัวนางมาแล้วอ้อนวอน
นางโสธรขอให้ช่วยนางให้ได้กลับคืนไปหาสามี นางเทพลีลาถูกนางโสธรท้ังด่าท้ังตี ก็ร้องไห้อ้อนวอน จนเสียง
ของนางได้ยินไปถงึ ท้าวโสพิน ท้าวโสพินเข้ามาทหี่ ้องของนางเทพลีลา เห็นมเหสขี องพระองค์กบั นางกานัลรุมตี
นางเทพลีลาอยู่ก็ต่อว่า นางโสธรจึงด่ากระทบท้าวโสพิน ท้าวโสพินโกรธไล่ทุบตี นางโสธรก็โต้ตอบตัดพ้อท้าว
โสพนิ นางโสธรหนไี ปฟ้องพระชนนีของนาง ฝ่ายท้าวโสพินก็แปลงกายเป็นมนุษย์ เข้าไปเก้ียวนางเทพลีลา ฝ่าย
หลวชิ ยั กับคาวี เมอื่ นางเทพลลี าถกู พาตัวไปแล้วก็ปรกึ ษากนั หลวิชัยให้วานรไปสบื เรื่องราว ได้ความวา่ นางเทพ
ลลี าตกเปน็ นกั โทษถกู ขังไว้ในสวน นางคบั แค้นใจมากกผ็ กู คอตาย วารณุ ซ่ึงอยบู่ นตน้ โศกกล็ งมาชว่ ยนางไวไ้ ด้

ประวัตผิ แู้ ตง่

บทละครนอกเรื่อง หลวชิ ัย คาวี
ผูแ้ ต่ง พระบาทสมเด็จพระพุทะเลศิ หล้านภาลัย

เสด็จพระราชสมภพ เม่ือ วนั ท่ี ๒๔ กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ พระนามเดิมว่า “ฉิม” เป็นพระราชโอรส
ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีพระนามเต็ม
วา่ “พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราช
รัตนากาศภาสกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศ ตรีภูวเนตรวรนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวศรัย สมุทัยดโรมนต์ สากล



จกั รวาฬาธิเบนทร สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทรา ธาดาธบิ ดี ศรวี ิบลู ยคุณอกนิษฐ ฤทธิราเมศวรมหันต บรม

ธรรมิกราชาธิราชเดโชชัย พรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร์ ภูมิทรปรมาธิเบศ โลกเชษฐวิสุทธิ รัตนมกุฎประกาศ

คตามหาพุทธางกรู บรมบพิตร พระพทุ ธเจา้ อยู่หัว”

ปราบดาภิเษก เม่ือวันที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๒ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศร

สนุ ทร กรมพระราชวงั บวรสถานมงคล จึงได้เสด็จขึ้นทรงราชย์สบื พระราชสันตติวงศ์เป็นพระมหากษตั รยิ ์องค์ท่ี

๒ แห่งราชวงศ์จักรี ใช้พระนามเต็มว่า “พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” แต่เน่ืองจากในระยะหัว

เลี้ยวหวั ต่อท่ีเสด็จขนึ้ ทรงราชยม์ เี หตุการณไ์ ม่ปกติ มผี ูท้ งิ้ หนังสอื กล่าวหาพระเจ้าหลานเธอ เจา้ ฟา้ ธรรมธิเบศ

กรมขุนกษัตรานุชิต พระราชโอรสสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท่ีประสูติแต่พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จ

พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ร่วมกับพรรคพวกคบคิดกันจะแย่งราชสมบัติ จึงมีการจับกุม เม่ือชาระได้

ความแล้วเป็นสัตย์จริง จึงให้นากรมขุนกษัตรานุชิตไปประหารด้วยท่อนจันท์ที่วัดปทุมคงคา และบรรดาสมัคร

พรรคพวกก็ให้ประหารชีวิตส้ิน ดังน้ันจึงไม่เรียกพิธีเสด็จขึ้นทรงราชย์ตามราชประเพณีว่าพระราชพิธีบรม

ราชาภิเษก แต่เรียกว่าปราบดาภิเษกทั้งๆท่ีเน้ือหาแห่งพระราชพิธีก็คือพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณ

ราชประเพณี

พระปรชี าสามารถ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลยั ทรงพระปรชี าสามารถในศิลปกรรมด้าน
ต่างๆ หลายสาขา ดงั จะขอยกตวั อย่างต่อไปน้ี

๑. ด้านกวีนิพนธ์ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้รับการยกย่องว่า
เป็นยุคทองของวรรณคดสี มัยหนงึ่ เลยทีเดียว ดา้ นกาพย์กลอนเจริญสูงสุด จนมีคากล่าวว่า "ในรัชกาลท่ี ๒ นั้น
ใครเป็นกวีก็เป็นคนโปรด" กวีที่มีช่ือเสียงนอกจากพระองค์เองแล้ว ยังมีกรมหม่ืนเจษฎาบดินทร์ (รัชกาลท่ี ๓)
สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชโิ นรส สุนทรภู่ พระยาตรัง และนายนรินทร์ธิเบศร์ (อนิ ) เป็นตน้ พระองค์มีพระราช
นพิ นธ์ทีเ่ ปน็ บทกลอนมากมาย ทรงเป็นยอดกวีด้านการแต่งบทละครทง้ั ละครในและละครนอก มหี ลายเร่ืองที่มี
อยู่เดิมและทรงนามาแต่งใหม่เพื่อให้ใช้ในการแสดงได้ เช่น รามเกียรต์ิ อุณรุท และอิเหนา โดยเรื่องอิเหนานี้
เรื่องเดิมมีความยาวมาก ได้ทรงพระราชนิพนธ์ใหม่ต้ังแต่ต้นจนจบ เป็นเร่ืองยาวที่สุดของพระองค์ วรร ณคดี
สโมสรในรัชกาลท่ี ๖ได้ยกย่องให้เป็นยอดบทละครราท่ีแต่งดี ยอดเยี่ยมท้ังเน้ือความ ทานองกลอนและ
กระบวนการเล่นทั้งร้องและรา นอกจากน้ียังมีละครนอกอื่นๆ เช่น ไกรทอง สังข์ทอง ไชยเชษฐ์ หลวิชัยคาวี
มณีพชิ ัย สังข์ศิลป์ชัย ได้ทรงเลือกเอาของเก่ามาทรงพระราชนิพนธข์ ึ้นใหม่บางตอน และยงั ทรงพระราชนพิ นธ์
บทพากย์โขนอีกหลายชุด เช่น ชุดนางลอย ชุดนาคบาศ และชุดพรหมาสตร์ ซึ่งล้วนมคี วามไพเราะซาบซ้ึงเป็น
อมตะใช้แสดงมาจนทุกวนั นี้

๒. ด้านปฏิมากรรม /ประติมากรรม นอกจากจะทรงส่งเสริมงานช่างด้านหล่อพระพุทธรูปแล้ว
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยยังได้ทรงพระราชอุตสาหะป้ันหุ่นพระพักตร์ของ พระพุทธธรรมมิศร
ราชโลกธาตุดิลก พระประธานในพระอุโบสถ วัดอรุณราชวราราม อันเป็นพระพุทธรูปท่ีสาคัญยิ่งองค์หน่ึงไทย
ด้วยพระองค์เอง ซ่ึงลักษณะและทรวดทรงของพระพุทธรูปองค์นี้เป็นแบบอย่างท่ีประดิษฐ์คิดค้นขึ้นใหม่ใน



รัชกาลที่ ๒ นี้เอง ส่วนด้านการช่างฝีมือและการแกะสลักลวดลายในรัชกาลของพระองค์ได้มีความ
เจริญก้าวหน้าไปอย่างมาก และพระองค์เองก็ทรงเป็นช่างท้ังการปั้นและการแกะสลักที่เชี่ยวชาญยิ่งพระองค์
หน่ึงอย่างยากท่ีจะหาผู้ใดทัดเทียมได้ นอกจากฝีพระหัตถ์ในการป้ันพระพักตร์พระพุทธธรรมศรราชโลกธาตุ
ดิลกแล้ว ยังทรงแกะสลักบานประตูพระวิหารพระศรีศากยมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม คู่หน้าด้วยพระองค์เอง
ร่วมกับกรมหม่ืนจิตรภักดี และทรงแกะหน้าหุ่นหน้าพระใหญ่และพระน้อยที่ทาจากไม้รักคู่หนึ่งท่ีเรียกว่าพระ
ยารกั ใหญ่ และพระยารักนอ้ ยไว้ด้วย

๓. ด้านดนตรี กล่าวได้ว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงมีพระปรีชาสามารถใน
ด้านนี้ไม่น้อยไปกว่าด้านละครและฟอ้ นรา เครื่องดนตรีที่ทรงถนัดและโปรดปรานคือซอสามสาย ซ่ึงซอคู่พระ
หัตถ์ท่ีสาคัญได้พระราชทานนามว่า "ซอสายฟ้าฟาด" และเพลงพระราชนิพนธ์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีคือ
"เพลงบุหลนั ลอยเล่อื น" หรอื "บุหลัน (เลอ่ื น) ลอยฟา้ " แต่ตอ่ มามกั จะเรียกว่า "เพลงทรงพระสุบิน" เพราะเพลง
มีนี้มีกาเนิดมาจากพระสุบิน (ฝัน) ของพระองค์เอง โดยเล่ากันว่าคืนหนึ่งหลังจากได้ทรงซอสามสายจนดึก ก็
เสด็จเข้าท่ีบรรทมแล้วทรงพระสุบินว่า ได้เสด็จไปยังดินแดนที่สวยงามดุจสวรรค์ ณ ท่ีนั่น มีพระจันทร์อัน
กระจ่างได้ลอยมาใกล้พระองค์ พร้อมกับมีเสียงทิพย์ดนตรีอันไพเราะย่ิง ประทับแน่นในพระราชหฤทัย ครั้น
ทรงต่ืนบรรทมก็ยงั ทรงจดจาเพลงน้ันได้ จงึ ได้เรียกพนักงานดนตรีมาต่อเพลงน้ันไว้ และทรงอนุญาตให้นาออก
เผยแพรไ่ ด้ เพลงนจ้ี ึงเป็นท่แี พร่หลายและรู้จกั กันกว้างขวางมาจนทุกวันน้ี

เสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระประชวรด้วยโรค พิษไข้ ทรงไม่รู้สึก
พระองค์เป็นเวลา ๘ วัน พระอาการประชวรก็ได้ทรุดลงตามลาดับ และเสด็จสวรรคตเม่ือวันที่ ๒๑ กรกฎาคม
พ.ศ.๒๓๖๗สริ ริ วมพระชนมพรรษาได้ ๕๗ พรรษา และครองราชยส์ มบตั ไิ ด้ ๑๕ ปี

ลกั ษณะคาประพันธ์

บทนอกละครเรอ่ื ง หลวิชัยคาวี
ลกั ษณะคาประพันธ์ กลอนบทละคร

กลอนบทละครมักขึ้นตน้ ด้วย บัดน้นั เมอื่ นนั้ มาจะกล่าวบทไป
เม่ือนั้น จะใช้ข้นึ ตน้ กับตวั เอง
บัดนั้น ใชข้ นึ้ ตน้ ตัวละครที่มีบทรองลงมา หรอื พวกทหาร
มาจะกลา่ บทไป ใชข้ ้นึ ตน้ บทใหม่



เนื้อเรอื่ งยอ่

มเี สือแม่ลูกอ่อนออกไปหากินในป่าเพลินจนลืมลูกเสือที่อยู่ในถ้า ลูกเสือหิวมากออกเดินตามหาแม่แต่
กไ็ ม่พบ ลูกเสือเจอแม่วัวจึงขอนมแม่ววั กิน แม่วัวสงสารให้กนิ นมแล้วพาไปที่อยู่ เล้ียงลูกเสือคู่กับลูกวัวของตน
ลูกเสือกับลูกวัวกร็ ักกันเหมือนพี่น้องวนั หน่ึงแม่เสือกลับมาตามหาลูก พบลกู เสืออยู่กับแม่วัว ลูกเสือชวนแม่อยู่
ด้วยกันกับแม่วัว แม่เสือแสร้งทาเป็นใจดีอยู่กับแม่วัว แต่เวลาออกไปหากินจะไปกันคนละทิศ วันหน่ึงแม่เสือ
แอบไปดักกินแม่วัว ลูกวัวไม่เห็นแม่กลับมาก็ออกตามหา ลูกเสือก็ตามลูกวัวมา แม่เสือเห็นลูกวัวก็ตรงเข้ากัด
กิน ลูกเสือโกรธมากที่แม่จะกินลูกวัว จึงโดดข้าไปกัดแม่เสือจนแม่เสือตายลูกเสือกับลูกวัวจึงออกเดินทาง
ทอ่ งเท่ียวไปในป่า วันหน่ึงไปถึงอาศรมฤษี ฤษีแปลกใจมากท่สี ัตว์ทั้งสองเป็นเพอื่ นรักกัน จึงมีจิตเมตตาชุบชีวิต
ลูกเสือลูกวัวให้เป็นคน และต้ังช่ือลูกเสือว่าหลวิชัย ลูกวัวช่ือคาวี หลวิชัยกับคาวีก็เรียนศิลปวิทยากับฤษีจน
เติบโต เมื่อมีอายุพอสมควรแล้ว หลวิชัยกับคาวีก็ขอลาพระฤษไี ปเผชิญโชค ฤษีให้พระขรรค์วิเศษท่ีบรรจหุ ัวใจ
ของหลวิชัยกับคาวีหลวิชัย คาวี เดินทางไปได้พักหนึ่งถึงทางแยก หลวิชัยจึงบอกกับคาวีว่า " เราแยกทางกัน
ตรงนี้ เจ้าไปทิศเหนือ พี่ไปทิศใต้ แล้วอีกสามเดือนเรามาพบกันท่ีน่ี "คาวีเดินทางไปถึงเมืองร้างแห่งหน่ึง ร้าน
รวงต่าง ๆ ยังมีข้าวของแต่ไม่มีผู้คน คาวีเข้าไปในพระราชวังก็ไม่เห็นคนสักคนเดียว จึงเข้าไปในครัวแล้วก่อไฟ
ข้นึ เพ่อื จะหุงหาอาหาร ทันใดน้ันมีกลุม่ นกอนิ ทรียกั ษ์บินมาจนท้องฟ้ามืดมิด กลุ่มนกอินทรีบินจะมาจิกกินคาวี
คาวีใช้พระขรรค์ต่อสู้และฆ่านกอินทรียักษ์ตายเกือบหมด นกท่ีเหลือก็บินหนีไปคาวีจึงเดินสารวจพระราชวัง
เห็นกลองใบใหญ่ พอเดินเข้าไปใกล้ได้ยินเสียงหญิงสาวร้องว่า " ช่วยเราด้วย ช่วยเราด้วย " คาวีใช้พระขรรค์
กรดี หนังกลองกพ็ บพระราชธดิ าช่ือพระนางจันทร์สุดา คาวีจงึ อภิเษกกบั นางจันทรส์ ดุ า ผคู้ นท่หี ลบหนีไปเพราะ
กลัวนกก็อพยพกลับมาอยู่ท่ีเมือง บ้านเมืองก็เจริญรุ่งเรืองเหมือนเดิม วันหน่ึงพระนางจันทร์สุดาไปสรงน้า ผม
ของนางซึ่งมีกลิ่นหอมร่วง พระนางจึงใส่ผอบ ลอยน้าไป ต่อมามีคนนาผอบผมหอมไปถวายท้าวสัณนุราช
ท้าวสณั นุราชก็อยากทราบว่าผมน้ีเปน็ ของผใู้ ด จึงมปี ระกาศปา่ วร้องวา่ ถา้ ใครร้จู ักจะให้รางวลั ยายเฒ่าทัดประ
สาด ซ่ึงเคยเป็นพ่ีเลี้ยงของนางจันทร์สุดาก็รีบไปเข้าเฝ้าท้าวสัณนุราช แล้วบอกว่าเป็นเส้นผมของพระนาง
จันทร์สุดา ท้าวสัณนุราชจึงบอกให้ยายเฒ่าทัดประสาดหาทางนานางมา แล้วก็ให้เงินทองแก่ยายเฒ่าเป็นอัน
มาก ยายเฒ่ารีบกลับไปท่ีเมือง แล้วทาทีเป็นขออยู่กับพระนางจันทร์สุดาแล้วก็ยุยงพระนางว่าคาวีคงมิได้ไว้ใจ
พระนางจันทร์สุดาจึงได้พกพระขรรค์ติดตัวตลอดเวลาพระนางจันทรส์ ุดาก็มจี ิตใจไหวหวน่ั หลงเชอ่ื จงึ ถามคาวี
ว่าทาไมคาวจี ึงต้องพกพระขรรค์ติดตัวตลอดเวลาคาวีจึงบอกความลับวา่ เพราะหัวใจคาวีอยู่ทพี่ ระขรรค์ ถา้ ใคร
นาพระขรรค์ไปเผาไฟ คาวีก็จะตาย ด้วยเหตุน้ีจึงต้องพกพระขรรค์ตดิ ตัวตลอดเวลา พระนางจันทร์สุดาเม่ือได้
ทราบเช่นน้ันก็หายแคลงใจ และได้นาความไปเล่าให้ยายเฒ่าฟัง ลืมไปว่าเร่ืองน้ีเปน็ ความลับย่ิง ยายเฒ่าได้ฟัง
จึงเกิดความคิด และชวนให้คาวีกับพระนางจันทร์สุดาไปสรงน้าที่ชายทะเล คาวีและพระนางจันทร์สุดาถอด



เคร่ืองทรงรวมท้ังพระขรรค์ให้ยายเฒ่าเก็บรักษายายเฒ่าได้ทีนาพระขรรค์ไปเผาไฟ คาวีกาลังว่ายน้าเลน่ ก็รู้สึก
รอ้ นจึงรีบชวนนางจันทร์สุดาว่ายกลับเข้าฝ่ัง พอถงึ ชายหาดคาวีเห็นยายเฒ่ากาลังเผาพระขรรค์อยู่ ก็นึกโกรธท่ี
พระนางจันทร์สุดาไม่รักษาความลับ แต่ยงั ไม่ทันพูดคาวีก็ล้มลงส้ินสติ พระนางจันทร์สุดาตกพระทัยมากได้แต่
ร่าไห้กอดร่างคาวี ยายเฒ่าจึงรีบใหท้ หารของท้าวสัณนรุ าชนาพระนางจันทร์สุดาไปถวายท้าวสัณนุราชฝ่ายหล
วิชัยเมื่อครบกาหนดวันนัดกม็ าพบคาวที ี่ทางแยก คอยอยู่ทง้ั วันไม่เห็นคาวีมาจึงตัดสนิ ใจเดินทางมาที่เมืองพระ
นางจันทร์สุดา ระหว่างทางเห็นกองไฟและพระขรรค์ของคาวีอยู่ในกองไฟก็รีบนาพระขรรค์ออกมา และพบ
คาวีนอนสิ้นสติก็ช่วยแก้ไขจนฟ้ืนเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหลวิชัยก็ชวนคาวีไปตามพระนางจันทร์สุดาท่ีเมือง
ท้าวสัณนุราชท่ีเมืองท้าวสัณนุราชกาลังมีประกาศให้คนท่ีมีวิชาอาคมไปช่วยชุบท้าวสัณ นุราชให้เป็นหนุ่ม
เพราะพระนางจนั ทรส์ ุดาไม่ยอมรับรักทา้ วสัณนรุ าช หลวิชัยจึงแต่งกายปลอมเป็นฤษีเข้ารับอาสาจะชุบทา้ ว
สัณนุราชให้เป็นหนุ่ม ท้าวสัณนุราชดีใจมาก หลวิชัยจึงสั่งให้ขุดหลุมลึกแล้วก้ันม่านเจ็ดชั้น ท่ีหลุมน้ันสุมไฟไว้
หลวิชัยให้ท้าวสัณนุราชโดดลงไปท่ีกองไฟนั้น ด้วยความท่ีอยากเป็นหนุ่ม ท้าวสัณนุราชก็กระโดดลงไปในกอง
ไฟสิ้นชีวิตหลวิชัยก็นาคาวีออกมา ทุกคนก็เข้าใจว่าเป็นท้าวสัณนุราชชุบตัวกลายเป็นคนหนุ่มแล้วก็โห่ร้องดีใจ
และจัดอภิเษกท้าวสัณนุราชหรือคาวีกับพระนางจันทร์สุดา ส่วนยายเฒ่าเมื่อเห็นดังน้ันก็เกิดความกลัวรีบ
หลบหนีไป หลวิชัยเมื่อเห็นคาวีปลอดภัยแล้วก็ลาคาวีและพระนางจันทร์สุดาเดินทางต่อไป คาวีและพระนาง
จันทรส์ ดุ ากอ็ ยู่ครองเมอื งท้ังสองดว้ ยความสขุ สบื มา.

ตัวละคร

๑. หลวชิ ัย เจา้ เขย้ี วขาว(เสอื )ในรา่ งคน มีพระขรรค์เป็นอาวุธ มีสัญชาตญิ าณเสือแฝงอยู่ หลวิชัยต้อง
พยายามควบคมุ สญั ชาตญิ าณ และหา้ มฆ่าผู้อ่ืน เพราะจะทาให้มนตฤ์ าษีเสอื่ มกลับกลายเป็นเสืออีก

๒. คาวี เจ้าโทน(โค)ในร่างคน ดว้ ยความท่เี กิดมาจากวัวจึงมนี สิ ยั อ่อนโยน ใจดี ไม่กลา้ ทารา้ ยใคร คาวี
พยายามฝกึ การต่อสู้ และความกลา้ หาญ เพ่อื สามารถมชี วี ิตอยรู่ อดได้

๓. นางจันทร์สุดา เปน็ พระธดิ าของเจ้าเมอื งจนั ทรนคร ลกั ษณะพเิ ศษทมี่ ีมาแตก่ าเนิดคือเสน้ ผมมีกล่ิน
หอมดง่ั บปุ ผา เรยี บร้อย อ่อนโยน มองโลกในแง่ดี

๔. เจ้าหญิงจนิ ดารัตน์ พระธิดาองค์เดียวของเจ้าเมือง แก่นแก้ว มีความกลา้ หาญ เก่งกล้าแบบผ้ชู าย
รกั การต่อสูไ้ ม่ยอมใคร

๕. ท้าวสณั นุราช กษัตริยเ์ ฒ่าเจ้าชู้ เจ้าเมืองพทั ธพสิ ัย ร่างเล็กเต้ีย หวั ลา้ น
๖. ยายเฒ่าทัศประสาด หญิงชราผ้เู คยเปน็ พ่เี ลย้ี งของนางจันทรส์ ดุ า
๗. ท้าวมัทราช กษัตรยิ ์แหง่ รมยนคร รกั สนั ติ เกลียดการทาสงคราม
๘. พระนางแกว้ เกสร มเหสที ้าวมทั ราช เอาจริง ไมย่ อมคน



๙. เวตาล สมุนเอก เป็นอมนษุ ย์ หน้าตาน่าเกลียดนา่ กลัว เจ้าเล่หแ์ สนกล
๑๐. แม่เสือ แม่เสือใจดีที่ทาตามกฎของเสือ คอื การล่าสตั วท์ ่อี อ่ นแอกวา่ มาเป็นอาหาร

ข้อคดิ /คณุ คา่ จากวรรณคดี

๑. การมีความเมตตาต่อผู้ทก่ี าลังลาบากเป็นส่ิงที่ควรทา
๒. ผู้ทไ่ี มม่ สี จั จะ ไมม่ ใี ครอยากคบหาสมาคมด้วย
๓. มิตรแท้ต้องมคี วามเหน็ อกเห็นใจกนั และคอยชว่ ยเหลือกนั ในยามตกทกุ ข์ไดย้ าก
๔. การไม่พอใจในส่งิ ท่ีตนมีอยยู่ อ่ มทาใหต้ นมีความทุกข์
๕. ความโลภย่อมนาไปสคู่ วามวิบตั ิ
๖. ความดยี อ่ มชนะความชั่ว



บรรณานกุ รม

จิตตน์ ภิ า ศรีไสย์,ประนอม วบิ ลู ยพ์ ันธุ์ และอินทรว์ ธุ เกษตระชนม.์ หลักภาษาและการใชภ้ าษาไทย.
กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์ บริษทั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ, ๒๕๖๓.

ณฐั วิ ุฒิ ชูมะโนวัฒน์.“บทละครนอกเร่ืองหลวชิ ยั -คาว.ี ” (ออนไลน์). แหล่งที่มา :
https://www.intouchstation.com. ๑๓ มนี าคม, ๒๕๖๔.

วนดิ า ใจชุ่ม. “ที่มาของเรือ่ ง,ลักษณะคาประพนั ธแ์ ละตัวละครของเร่ืองหลวิชัย-คาว.ี ” (ออนไลน)์ . แหลง่ ที่มา

https://sites.google.com. ๑๔ มีนาคม, ๒๕๖๔.

นิกร เกษโกมล. “ประวตั ผิ แู้ ต่งหลวิชยั -คาว.ี ” (ออนไลน)์ . แหล่งท่ีมา

http://sk.nfe.go.th/chana12/index.php. ๑๔ มีนาคม, ๒๕๖๔.

เสาวลกั ษณ์ อนนั ตศานต์.“บทละครนอกเรื่องหลวชิ ยั .” (ออนไลน์). แหลง่ ที่มา : https://www.sac.or.th.
๑๔ มีนาคม, ๒๕๖๔.

สวุ รรณา เกรียงไกรเพ็ชร์. “บทละครนอกเร่ืองคาว.ี ” (ออนไลน์). แหล่งท่มี า :

https://www.sac.or.th/databases/siamrarebooksold/main/index.php.

๑๔ มีนาคม, ๒๕๖๔.

สุวรรณา เกรยี งไกรเพช็ ร์. “หนังสอื วรรณคดีไทยสามมิติเรอื่ งหลวชิ ัย-คาวี.” (ออนไลน์). แหล่งที่มา

file:///C:/Users/Administrator/Downloads/225109Article%20Text-
782564-1-10-20191226%20(2).pdf. ๑๔ มนี าคม, ๒๕๖๔.

นรู ีดา การีจิ. “คณุ ค่าจากวรรณคดี.” (ออนไลน์). แหล่งทีม่ า https://nama222.blogspot.com.

๑๔ มีนาคม, ๒๕๖๔.




Click to View FlipBook Version