The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอน9001410 (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kitti6497kongchan, 2021-07-02 10:24:38

เอกสารประกอบการสอน9001410 (1)

เอกสารประกอบการสอน9001410 (1)

๑:

เอกสารประกอบรายวิชา ๙๐๐๑๔๑๐

เพศศึกษาและอนามัยการเจริญพนั ธ์ุ
(Sexuality Education and Reproductive Health)

หน่วยท่ี ๑ เพศวิถีกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต และแนวคดิ เพศศึกษา

สาระสาคญั
เพศศกึ ษาเป็นการเรียนรู้วิถชี ีวติ มนุษยต์ ้งั แต่เกิดจนตาย ในแงม่ ุมเกี่ยวกบั พฒั นาการดา้ นร่างกาย จิตใจ ทีม่ ี

ความเชื่อมโยงกบั ทศั นคติ ความเช่ือ วฒั นธรรม ประเพณี อนั นาไปสู่พฤตกิ รรม การแสดงออก สมั พนั ธภาพ และวิถี
ชีวติ ทางเพศของแตล่ ะบคุ คล กระบวนการเรียนรู้จึงเนน้ การทาความเขา้ ใจกบั ความคิด ทศั นคติ อารมณท์ ม่ี ีตอ่ เรื่อง
เพศ และสร้างทกั ษะการคดิ การวเิ คราะห์ และการเลอื กตดั สินใจ เพอ่ื การดาเนินชีวติ ทางเพศอยา่ งเป็นสุข ปลอดภยั มี
ความรับผดิ ชอบ ลดโอกาสเส่ียงหรือผลกระทบเชิงลบอนั เน่ืองมาจากพฤตกิ รรมทางเพศ

วตั ถปุ ระสงค์
๑. อธิบายเรื่องเพศที่เกิดข้ึนในทกุ ช่วงวยั ของมนุษยแ์ ละความเปลี่ยนแปลงทีเ่ กิดข้นึ
๒. อภปิ รายสภาพการเรียนรู้เรื่องเพศทมี่ ผี ลตอ่ การดาเนินชีวิตของมนุษยภ์ ายใตส้ ภาพสงั คมไทย
๓. บอกความจาเป็นของการจดั การเรียนรู้เพศศึกษาท่ีเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวติ
๔. ระบุแนวคดิ สาคญั และรูปแบบการสอนเพศศกึ ษารอบดา้ นท่สี ามารถนาไปออกแบบการจดั การเรียนรู้

เนือ้ หา
๑. ความหมาย จุดมุง่ หมาย และความสาคญั ของการจดั การเรียนรู้เพศศกึ ษารอบดา้ น
๒. ขอบเขตเน้ือหาการเรียนรู้เพศศกึ ษา ๖ ดา้ น: พฒั นาการของมนุษย์ สมั พนั ธภาพระหว่างบคุ คล พฤตกิ รรมทาง

เพศท่ีพฒั นาไปตามช่วงชีวติ สุขภาพทางเพศ สังคมและวฒั นธรรมทม่ี ีผลตอ่ วถิ ีชีวิตทางเพศ และทกั ษะชีวิตทจ่ี าเป็น
ในการดาเนินชีวติ

๓. การจดั กระบวนการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา: การเนน้ ผเู้ รียนเป็นศูนยก์ ลาง กระบวนการเปล่ยี นแปลงพฤตกิ รรม
และทศั นคติ การพฒั นาทกั ษะการคิด

๔. เปรียบเทยี บแนวคิดการเรียนรู้เพศศึกษารอบดา้ น (Comprehensive Sexuality Education) และแนวคดิ
เพศศกึ ษาแบบห้ามมีเพศสัมพนั ธจ์ นกวา่ จะแตง่ งาน (Abstinence – Only – Until – Marriage)

๒:

ประเด็นสาคัญ
๑. เร่ืองเพศเป็นเร่ืองธรรมชาติของมนุษยต์ ้งั แต่เกิดจนกระทงั่ ตาย เป็นเร่ืองที่ตอ้ งเรียนรู้ตลอดชีวติ เนื่องจาก

“เพศ” เก่ียวขอ้ งกบั ตนเองและการอยรู่ ่วมกบั ผอู้ น่ื ในดา้ นวถิ กี ารดารงชีวติ บทบาท การแสดงออก และการสร้าง
สัมพนั ธภาพ

๒. การจดั การเรียนรู้เพศศึกษาเป็นการทาใหม้ นุษยเ์ ท่าทนั ตนเอง ในเร่ืองการควบคุมและจดั การอารมณเ์ พศ การ
สร้างสัมพนั ธภาพ การอยรู่ ่วมกนั เป็นการพฒั นาความฉลาดทางอารมณ์ สร้างความตระหนกั รู้ถงึ คุณค่าที่มอี ยใู่ น
ตวั เองของผูเ้ รียน ทาให้เกิดความมนั่ ใจในการดาเนินชีวติ ทางเพศอยา่ งปลอดภยั และมีความรับผิดชอบ

๓. มนุษยเ์ รามกี ารเรียนรู้ตลอดชีวิต ในช่วงวยั เดก็ การเรียนรู้เร่ืองเพศเกิดข้ึนตามสัญชาตญาณ เป็นพฒั นาการที่
สอดคลอ้ งกนั ทุกดา้ น ความตอ้ งการเรียนรู้เรื่องเพศจึงเกิดข้ึน เพ่ือทาความเขา้ ใจกบั การเปล่ียนแปลงในตวั เอง วิธีการ
เรียนรู้จึงไมใ่ ช่การลอกเลียนแบบพฤตกิ รรมเพยี งประการเดียว แต่สามารถเกิดจากประสบการณ์ที่เคยไดร้ ับ การหลอ่
หลอมทางสังคม การปลกู ฝังทศั นคติ การตระหนกั รู้ในตนเอง และปัจจยั แวดลอ้ มอ่นื ๆ

๔. ความคิด ความเช่ือเร่ืองเพศถกู กาหนดจากปัจจยั ดา้ นวฒั นธรรม ประเพณี สังคม เศรษฐกิจ ท่ีมตี ่อลกั ษณะ
เพศทางกายภาพของมนุษย์ ดงั น้นั “เพศ” จึงมคี วามหมายมากกวา่ “การร่วมเพศ” ในขณะเดียวกนั ก็มที ้งั ดา้ นบวกและ
ดา้ นลบ

๕. ความเปลี่ยนแปลงดา้ นร่างกายส่งผลต่ออารมณ์ จิตใจ และพฒั นาการทางเพศ ทาใหท้ ้งั หญงิ และชายมคี วาม
ตอ้ งการทางเพศเกิดข้นึ เหมอื นกนั แต่อคตหิ รือความเช่ือทางเพศบางอยา่ งอาจส่งผลต่อโอกาสเสี่ยง หรือสุขภาพทาง
เพศ เช่น ความเชื่อท่ีว่าผหู้ ญิงมคี วามตอ้ งการทางเพศมากกว่าผชู้ าย การทาหมนั ทาให้ผชู้ ายมคี วามตอ้ งการทางเพศ
ลดลง เป็นตน้ และในความเป็นจริงของแตล่ ะวยั ต่างก็เก่ียวขอ้ งกบั เรื่องเพศไดเ้ สมอ ในทกุ มิติของชีวิต เช่น การ
เติบโตของร่างกาย การแต่งกาย การทางาน การประกอบอาชีพ การเขา้ สงั คม การดูแลสุขภาพ ฯลฯ จึงสรุปว่า “เพศ”
เป็นวถิ ีการดาเนินชีวิต

เอกสารประกอบ ๑.๑

พัฒนาการของมนุษย์
พฒั นาการของมนุษย์ เป็นสิ่งท่ีควบคูแ่ ละสมั พนั ธ์กบั การเจริญเตบิ โต (GROWTH) เพราะชีวติ มนุษยก์ าเนิด
ข้ึน แลว้ มวี งจรชีวิตเป็นวยั ต่างๆ ทเ่ี หมือนกนั แตก่ ม็ คี วามตา่ งของรายละเอียดในตวั บุคคล อยา่ งไรกต็ ามพฒั นาการ
ของมนุษยจ์ ะตอ้ งมกี ารเจริญเตบิ โตเก่ียวขอ้ งเสมอ

ความหมายของพฒั นาการและการเจริญเติบโต
HURLOCK (๑๙๖๘) การเจริญเติบโต หมายถึง การเปล่ยี นแปลงทางดา้ นปริมาณ (QUANTITY ASPECT)

ทาใหม้ จี านวนเพมิ่ ข้นึ หรือมากข้ึนโดยทลี่ กั ษณะเหล่าน้ีมิไดเ้ ป็นผลจากการเรียนรู้ แตเ่ กิดจากสภาพของสิ่งแวดลอ้ ม
ปกติ (ORDINARY ENVIRONMENTAL CONDITION) ทีละนอ้ ยตามลาดบั CROW และ CROW (๑๙๖๕) ให้

๓:

ความหมายวา่ การเปลีย่ นแปลงทีไ่ ดร้ บั อิทธิพลของสภาพแวดลอ้ ม และการเรียนรู้รวมท้งั มกั จะเป็นการเปล่ยี นแปลง
อวยั วะร่างกายท้งั หมด ไม่ไดเ้ ป็นการเปลี่ยนแปลงของอวยั วะส่วนใดส่วนหน่ึงของร่างกาย ส่วน “พฒั นาการ” ไม่
เพียงแต่จะมกี ารเปลย่ี นแปลงทางดา้ นขนาดหรือสัดส่วนของร่างกายเท่าน้นั แต่พฒั นาการยงั รวมความหมายไปถึง
การมคี วามสูงและมีความสามารถเพิม่ มากข้ึน

สรุปไดว้ ่า การเจริญเติบโต เป็นการเปลย่ี นแปลงทางดา้ นการเพ่ิมข้ึนในแง่ของจานวนและปริมาณ
พฒั นาการจึงเป็นกระบวนการทหี่ มายความถึง การเปล่ยี นแปลงดา้ นโครงสร้างและหนา้ ที่ นอกจากน้ี พฒั นาการยงั
หมายถึงลกั ษณะที่เสื่อมถอยลงอกี ดว้ ย พฒั นาการของมนุษย์ มีรูปแบบทมี่ กั จะไดร้ บั อิทธิพลมาจากองคป์ ระกอบ
สาคญั ๒ ประการ คอื

๑. ลกั ษณะทไ่ี ดร้ ับจากการถ่ายทอดทางพนั ธุกรรม
๒. อิทธิพลที่เด็กไดร้ ับในระหว่างการต้งั ครรภข์ องมารดา

ลักษณะของงานพัฒนาการในข้นั ต่างๆของชีวิต (DEVELOPMENT TASK)
งานพฒั นาการในข้นั ต่างๆ ของชีวิตน้นั จะมลี กั ษณะของการพฒั นาท่แี ตกตา่ งกนั ออกไป ตามวยั และ

ความสามารถของแต่ละบุคคล
ช่วงท่ี ๑ วยั ทารกแรกเกดิ และวยั เด็กตอนต้น

วยั น้ีจะมอี ายตุ ้งั แตแ่ รกเกิดจนถึง ๖ ปี ลกั ษณะและความสามารถทเ่ี ด่นชดั ของตวั บคุ คลวยั น้ีควรจะ
ประกอบดว้ ย
๑. มีความสามารถในการเรียนรู้ทจ่ี ะพูด
๒. มคี วามสามารถในการเรียนรู้ทจี่ ะควบคมุ การขจดั ของเสียออกจากร่างกาย
๓. มีความสามารถในการเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างเพศ
๔. สามารถใชค้ วามคิดและรับรู้สภาพสงั คม และลกั ษณะทางร่างกายของตนเองไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตาม

ความเป็ นจริ ง
๕. สามารถเรียนรู้ในส่ิงท่ีผดิ และถกู มีความสานึกและมีพฒั นาการดา้ นความคดิ อยา่ งมีเหตุผล
ช่วงที่ ๒ วยั เด็กตอนกลาง
ซ่ึงอายจุ ะอยใู่ นช่วงระหวา่ ง ๖ – ๑๒ ปี ช่วงระยะเวลาดงั กล่าวน้ี เดก็ ควรจะมคี วามสามารถในดา้ น
๑. สามารถยอมรับและเรียนรู้ในการท่จี ะเลน่ กบั เพื่อนเพศเดียวกนั
๒. สามารถยอมรบั และเรียนรู้ในบทบาททางเพศไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
๓. สามารถพฒั นาทกั ษะในการอ่าน การเขยี น และการคดิ คานวณ
๔. สามารถพฒั นาความคดิ รวบยอดในส่ิงทีจ่ าเป็นต่อการดารงชีวิต
๕. สามารถพฒั นาความคิดความสานึกท่ีดี มหี ลกั จริยธรรม และมคี ุณคา่ ตา่ งๆตามหลกั ศลี ธรรม
ช่วงท่ี ๓ วัยรุ่น
วยั รุ่น อยู่ในช่วงอายรุ ะหว่าง ๑๒-๒๑ ปี พฒั นาการของชีวติ ในวยั น้ี มีความสามารถในเร่ือง

๔:

ช่วงท่ี ๔ ๑. สามารถยอมรับลกั ษณะทางร่างกาย และยอมรับในบทบาทของตนท้งั หญงิ และชาย
ช่วงที่ ๕ ๒. สามารถปรับตวั และมีความสมั พนั ธ์ใหมๆ่ กบั เพศตรงขา้ มได้
ช่วงที่ ๖ ๓. มีอารมณท์ ี่เป็นอิสระจากบดิ ามารดา และผใู้ หญ่
๔. มกี ารเตรียมตวั แต่งงานและสนใจในชีวิตครอบครวั
๕. มีความสามารถในการสร้างจิตสานึกทดี่ ี มีความรบั ผิดชอบ มคี า่ นิยมกลมกลนื กบั ส่ิงแวดลอ้ มอยา่ ง

เหมาะสม

วัยผ้ใู หญ่ตอนต้น
มีอายรุ ะหวา่ ง ๒๑-๔๐ ปี ลกั ษณะทสี่ าคญั ตอ่ พฒั นาการควรประกอบดว้ ย
๑. สามารถเรียนรู้การมชี ีวิตอยรู่ ่วมกบั คู่แตง่ งานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๒. มกี ารเตรียมพร้อมในการมีบตุ รและสามารถเล้ียงดบู ุตรได้
๓. มีความสามารถและพร้อมในการประกอบอาชีพ
๔. มีความสามารถท่ีจะปฏบิ ตั ิตนและมคี วามรบั ผิดชอบในฐานะพลเมืองดีได้

วัยผ้ใู หญ่ตอนกลาง
อายรุ ะหวา่ ง ๔๐-๖๐ ปี ลกั ษณะของการพฒั นางานท่ีตอ้ งกระทาคอื
๑. ประสบผลสาเร็จในการเป็นพลเมอื งดี สงั คมยอมรบั
๒. สามารถสร้างและแสวงหาความมนั่ คงทางเศรษฐกิจเพ่ือมาตรฐานของชีวติ
๓. ปฏิบตั ิต่อสามีหรือภรรยาของตนไดเ้ ป็นอยา่ งดี
๔. ยอมรบั และมคี วามสามารถตอ่ การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของตนเอง

วัยชรา
อายตุ ้งั แต่ ๖๐ ปี ข้นึ ไป งานพฒั นาการมีดงั น้ี
๑. ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั สภาพร่างกายทกี่ าลงั มีการเส่ือมถอย
๒. ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั สภาพการตายจากของคู่สมรส
๓. มีความสมั พนั ธ์ท่ดี ีในกลมุ่ คนชราดว้ ยกนั
๔. ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั กิจกรรมต่าง ๆ ในฐานะพลเมอื งดี

ทฤษฎที ีเ่ ก่ียวข้องกับพัฒนาการและการเจริญเติบโตของมนุษย์

ก. ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของ Freud
แบ่งพฒั นาการตามวยั มนุษยเ์ ป็น ๕ ข้นั ตอน ด้งั น้ี

ข้นั ตอนท่ี ๑ Oral stage
มีช่วงอายตุ ้งั แต่แรกคลอดถึงอายุ ๑ ขวบ ช่วงน้ีเด็กจะมคี วามสุขที่ปาก และเป็นระยะทีเ่ ดก็ ตอ้ งการพ่งึ พาคน

อืน่ อยา่ งมาก จะแบ่งเป็น ๒ ระยะ คือ

๕:

๑. Oral dependent คอื อายตุ ้งั แตแ่ รกคลอดถงึ ๖ เดือน ช่วงระยะทีเ่ ด็กมีความรู้สึกตอ้ งการกินอยา่ งมี
ความสุข ฉะน้นั เด็กจะมคี วามสุขไดจ้ ากการดูด การกลนื เป็นตน้

๒. Oral aggression คือ อายตุ ้งั แต่ ๗ เดือน ถงึ ๑ ขวบ ช่วงน้ีเดก็ จะเริ่มหยา่ นมและมคี วามกา้ วร้าวทางปาก
เดก็ เกิดความคบั ขอ้ งทางปาก ทาให้เด็กมคี วามโกรธหรือความไมส่ บายใจ สาเหตุอีกอยา่ งคอื ฟันเด็ก
กาลงั ข้ึน จึงทาใหเ้ ด็กชอบกดั ชอบแทะส่ิงตา่ ง ๆ เพ่อื ลดความราคาญ

ข้นั ตอนที่ ๒ Anal stage

ช่วงน้ีจะมอี ายุ ๑ ขวบ ถงึ ๓ ขวบ เดก็ จะมคี วามสุขตรงบริเวณทวารหนกั คือเรื่องการขบั ถา่ ย สิ่งที่ก่อให้เกิด
ปัญหาในระยะน้ีมีหลายสาเหตุ คอื

๑. ผใู้ หญ่ฝึกการขบั ถา่ ยของเด็กทเี่ ขม้ งวดเกินไป ทาให้กลายเป็นบุคคลท่มี ีความตระหนี่ถีเ่ หนียว หรือเป็น
บคุ คลท่ชี อบทาตามบคุ คลอื่น ชอบทาร้ายตวั เอง กา้ วร้าว ตอ้ งการทาลาย โกรธงา่ ย มีอาการฉุนเฉียวงา่ ย

๒. ผใู้ หญ่ฝึกการขบั ถา่ ยของเด็กที่ปลอ่ ยปะละเลย ผลก็คอื เด็กจะมบี ุคลกิ ลกั ษณะท่ไี มเ่ รียบร้อย มคี วามมกั
งา่ ยในทุก ๆ เร่ือง หรืออาจเป็นคนทส่ี ุรุ่ยสุร่าย

๓. ผใู้ หญฝ่ ึกการขบั ถา่ ยของเด็กทีไ่ มป่ ลอ่ ยปละละเลยจนเกินไป ขบั ถา่ ยสายกลาง กล่าวคอื เดก็ สามารถ
ควบคุมการขบั ถ่ายไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ผลคอื เด็กมลี กั ษณะปรบั ตวั ไดด้ ี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

๔. ผใู้ หญไ่ ม่มีเวลาให้กบั เดก็ อยา่ งเพียงพอ อาจจะเร่งการขบั ถา่ ยออกอยา่ งรวดเร็วหรืออาจปล่อยให้เด็กมี
ความสุขใชเ้ วลานาน ก็จะทาใหเ้ ดก็ มีปัญหาเช่นกนั

ข้นั ตอนที่ ๓ Phallic stage
จะมีช่วงอายุ ๓ ขวบ ถึง ๖ ขวบ ความสุขความพงึ พอใจของเดก็ จะอยทู่ ีบ่ ริเวณอวยั วะสืบพนั ธุ์ท้งั เดก็ หญงิ

และชายต่างเห็นคุณค่าอวยั วะเพศชายมาก เดก็ ชายจะกลวั ถกู ตดั อวยั วะเพศ เรียกวา่ Castration Anxiety ส่วนเดก็ หญงิ
มีความรู้สึกอิจฉาท่ไี มม่ อี วยั วะเพศชาย เรียกว่า Penis envy ในช่วงน้ีมีปรากฏการณ์ทางจิตเกิดข้ึนในเด็ก กล่าวคือ
สภาพทางจิตใจของเดก็ จะมีความรักและหวงแหนในพ่อแม่ ซ่ึงเป็นเพศตรงขา้ มกบั ตน ส่ิงเหล่าน้ีทาใหเ้ ด็กมีการ
เรียนรู้บทบาททางเพศจากบคุ คลใกลช้ ิดอยา่ งสมบรูณ์ต่อไป และจะมีลกั ษณะทางบุคลกิ ภาพแบบน้นั ตลอดไป
ข้นั ตอนที่ ๔ Latency stage

ช่วงน้ีมอี ายุ ๖ ขวบ ถงึ ๑๒ ขวบ จะเป็นระยะทเ่ี ด็กเริ่มเขา้ สู่โรงเรียนอยา่ งแทจ้ ริง ดงั น้นั จึงเป็นช่วงท่เี ด็กมุ่ง
ความสนใจไปท่ีส่ิงรอบตวั ไม่วา่ จะเป็นโรงเรียน และทางบา้ น ซ่ึงเด็กจะพยายามปรบั ตวั ให้เขา้ กบั สิ่งแวดลอ้ มใหไ้ ด้
ถา้ เดก็ ผา่ น ๓ พฒั นาการแรกดว้ ยดี เดก็ จะมีความสงบและเตรียมตวั สาหรับกา้ วเขา้ สู่ระยะสุดทา้ ยไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
ข้นั ตอนที่ ๕ Genital stage

เป็นระยะต้งั แตว่ ยั รุ่นข้ึนไปและเป็นพฒั นาการข้นั สุดทา้ ยของฟรอยด์ ลกั ษณะสาคญั คอื เดก็ มีพฒั นาการทาง
เพศอยา่ งรวดเร็ว พลงั Libido จะเป็นแรงขบั ทางเพศให้ทางานอยา่ งเขม้ แข็ง ในลกั ษณะท่เี กิดความรกั กบั ผอู้ ่นื เห็น
ประโยชน์ส่วนรวม มีการวางแผนในอนาคต แสวงหาความสุขตามสภาพความเป็นจริง และปฏบิ ตั ิตามสงั คม

๖:

ข. ทฤษฎกี ารพฒั นาการทางด้านสังคมของ Adler
หลกั สาคญั ของทฤษฎีน้ีมี ๔ ประการทสี่ าคญั คอื
๑. การเข้าร่วมสังคม
การเขา้ ร่วมสังคมคร้งั แรกในชีวติ ของมนุษย์ เริ่มจากภายในครอบครวั เป็นหลกั ครอบครัวจึงมสี ่วนใน

การสร้างและการเขา้ ร่วมสังคมของเดก็ แบ่งเป็น ๒ ระยะ คอื ระยะท่ี ๑ อายุ ๑-๓ ขวบ เป็นช่วงเวลาทเ่ี ด็กมีความ
ยงุ่ ยากและมีความลาบากใจเก่ียวกบั ตวั เองเป็นอย่างมาก เพราะไมส่ ามารถช่วยเหลือตวั เองได้ และตอ้ งพ่งึ พาผอู้ น่ื
ระยะที่ ๒ อายุ ๔-๕ ขวบ เป็นระยะท่เี ดก็ มคี วามหวงั ต่างๆเกิดข้นึ โดยการเช่ือมโยงประสบการณ์ที่ผ่านมาเขา้ ดว้ ยกนั
และมีการแสดงออกตามความคิดน้นั ๆ

๒. ความรู้สึกมปี มด้อย
ปมดอ้ ยมี ๒ ลกั ษณะ คอื
๒.๑ ปมด้อยทางร่างกาย
เป็นปมดอ้ ยทีต่ ิดตวั มาต้งั แตเ่ กิด เป็นลกั ษณะท่ีมองเห็นไดช้ ดั เจน เดก็ จะมีการชดเชยปมดอ้ ยโดยการ

ทาปมเด่นข้นึ มา เช่น คนตาบอด แต่หูดีเป็น ๒ เท่าของคนปกติ
๒.๒ ปมด้อยทางสังคม
ลกั ษณะของสังคมมอี ทิ ธิพลต่อบุคคลมากท่ีสุด เพราะสภาพของสังคมและส่ิงแวดลอ้ มจะก่อให้เกิด

อารมณ์กงั วลใจ ความตงึ เครียด ร่าเริง ฯลฯ ไดต้ ลอดเวลา ปมดอ้ ยทางสังคมทีจ่ ะมีอทิ ธิพลตอ่ เด็กมากท่สี ุด จะเป็นผล
เน่ืองจากครอบครัวประกอบดว้ ยลกั ษณะดงั น้ี

๒.๒.๑ ลาดบั การเกิด เช่น ลูกคนโตจะเป็นทชี่ ่ืนชมของพ่อแม่ เมือ่ มนี อ้ ง พอ่ แมจ่ ะให้ความสนใจ
นอ้ งมากกวา่ เกิดปมดอ้ ย พยายามเรียกร้องความสนใจจากพอ่ แม่

๒.๒.๒ บรรยากาศในครอบครวั หมายถงึ ความสัมพนั ธ์ในครอบครัวระหว่างพอ่ แม่ พน่ี อ้ ง ลกั ษณะ
ของบรรยากาศภายในครอบครวั ควรจะมลี กั ษณะท่ีราบร่ืน

๒.๒.๓ การอบรมเล้ียงดูแบบต่างๆ การอบรมเล้ยี งดูมีหลายแบบ เช่น เขม้ งวดเกินไป ใหค้ วามรัก
มากเกินไป แบบไม่สนใจ ลกั ษณะท้งั หมดน้ีจะมผี ลตอ่ การแสดงออกหรือพฤตกิ รรมของ
เด็กท้งั สิ้น

๒.๒.๔ ความไมเ่ สมอภาคทางเพศ จะมีผลทาใหเ้ ด็กมคี วามรู้สึกมีปมดอ้ ย บางสงั คมใหค้ วามสาคญั
กบั เพศชายมากกว่าเพศหญงิ ทาให้เพศหญงิ รู้สึกมปี มดอ้ ย หรือสังคมคาดหวงั ว่าเพศชาย
ตอ้ งเป็นผนู้ า เป็นตน้

๓. วถิ ชี ีวติ
ในการดาเนินชีวิตของแต่ละบุคคลจะช่วยลดปมดอ้ ยของตนเอง และสร้างปมเดน่ ซ่ึงมีแรงผลกั ดนั มา

จาก ๒ สิ่งสาคญั คือ
๓.๑ แรงขับภายใน เป็นอิทธิพลมาจากพนั ธุกรรม

๗:

๓.๒ อทิ ธพิ ลจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ส่ิงเหลา่ น้ีจะหลอ่ หลอม หรือส่งเสริมพฒั นาการของบุคคล ให้
แสดงพฤติกรรมตามประสบการณท์ ่ไี ดร้ ับมาท้งั สิ้น

๔. เป้าหมายในชีวิต
จะเป็นลกั ษณะของการผสมผสานระหวา่ งแรงขบั ภายในและอิทธิพลของสิ่งแวดลอ้ ม จึงทาให้

จดุ มงุ่ หมายในชีวิตของแตล่ ะคนแตกตา่ งกนั แต่ทสี่ าคญั ของการต้งั เป้าหมายคอื ความพงึ พอใจของแตล่ ะบุคคล
ค. ทฤษฎพี ฒั นาการทางด้านบุคลกิ ภาพของ Erikson

มี ๘ ข้นั ดงั น้ีคือ
ข้นั ตอนที่ ๑ แรกเกดิ ถงึ ๑ ขวบ เรียกว่า Trust mistrust

เป็นพฒั นาการข้นั แรกสุดของมนุษย์ ในระยะน้ีเด็กจะไม่สามารถช่วยตวั เองไดต้ อ้ งพ่งึ พาอาศยั จาก
บคุ คลอืน่ ประกอบกบั ในขณะคลอด เดก็ จะไดร้ บั ประสบการณ์ทีไ่ ม่ดีในการคลอด ( Birth trauma ) ผลคอื เดก็
ตอ้ งการใหผ้ ใู้ หญ่เอาใจใส่ หากไดร้ บั ตอบสนองความตอ้ งการอยา่ งสมบรู ณ์ จะทาใหเ้ ด็กเกิดความรู้สึกเช่ือถอื ในตวั
บคุ คล มีความไวว้ างใจ ซ่ึงมีบคุ ลิกภาพที่เรียกว่า Trust ในทางตรงกนั ขา้ มเด็กไมไ่ ดร้ ับการตอบสนองจะทาใหเ้ ดก็ ขาด
ความมนั่ คงทางจิต ไมอ่ ยากอยใู่ นโลก จะมบี คุ ลิกภาพแบบ Mistrust

ข้นั ตอนท่ี ๒ อายขุ วบครึ่ง - ๓ ขวบ เรียกว่า autonomy shame and doubt
เดก็ มกั จะเกิดความขดั แยง้ ระหว่างการทางานตามความพอใจของพอ่ แมแ่ ละความตอ้ งการทาง

ร่างกายจากการเริ่มช่วยเหลอื ตนเองไดน้ ้ีเองที่ทาใหเ้ ดก็ มีความตอ้ งการท่ีอยากทาอะไรดว้ ยตนเอง ฉะน้นั ผูใ้ หญ่ควร
ส่งเสริมในขอบเขตท่ีไมเ่ ป็นอนั ตราย เด็กจะมบี คุ ลิกภาพแบบ Autonomy เป็นตวั ของตวั เอง เชื่อมน่ั ในตวั เอง
ตดั สินใจไดเ้ องแต่ในทางตรงกนั ขา้ มเด็กไม่สามารถควบคุมตนเองไดจ้ ะทาให้เด็กเกิดความรู้สึกท่พี ่งึ ตนเองไมไ่ ด้ ไม่
กลา้ ทา ไมม่ คี วามสามารถ มีบคุ ลิกภาพแบบ Shame and doubt

ข้นั ตอนที่ ๓ อายุ ๓-๕ ขวบ เรียกว่า Initiative guilt
ในช่วงน้ีเดก็ มคี วามสามารถในดา้ นต่าง ๆ เพ่มิ มากข้ึน มคี วามอยากรู้อยากเห็น ชอบเกบ็ และคิดทา

ในสิ่งใหม่ ๆ เริ่มฝึกทกั ษะทางดา้ นการใหค้ วามร่วมมือ รู้จกั ฝึกการเป็นผนู้ าและผตู้ ามที่ดี ถา้ เดก็ ไดร้ ับการส่งเสริม
อยา่ งถกู ตอ้ ง จะทาใหเ้ ดก็ เกิดความคดิ สร้างสรรค์ไดเ้ รียกว่า Initiative ถา้ เดก็ เกิดความขดั แยง้ กบั ผอู้ น่ื หรือไมไ่ ดร้ ับ
การตอบสนองทถี่ กู ตอ้ ง จะทาใหเ้ ด็กมีบุคลิกภาพท่ีไมก่ ลา้ กลายเป็นความรู้สึกผิดข้นึ มาเรียกวา่ Guilt

ข้นั ตอนท่ี ๔ อายุ ๖-๑๒ ปี เรียกว่า Industry inferiority
ในช่วงน้ีเดก็ จะเขา้ โรงเรียน มีเพ่อื นเพิ่มมากข้นึ และมปี ระสบการณเ์ พมิ่ มากข้นึ เดก็ ตอ้ งการการ

ยอมรบั จากเพื่อน จากครู และจากบคุ คลอนื่ ๆ จึงทาใหเ้ ด็กเกิดความรู้สึกอยากแขง่ ขนั เพ่ือจะเอาชนะ เม่อื ประสบ
ความสาเร็จในคร้งั หน่ึงกจ็ ะทาให้เขาเกิดความพากเพียรพยายามในงานคร้งั ตอ่ ไป เรียกวา่ Industry ในทางตรงกนั
ขา้ มถา้ เด็กไม่ประสบความสาเร็จในการทางาน หรือเดก็ ไดร้ บั งานทีน่ อกเหนือ จากความสามารถจะทาใหเ้ ดก็ ประสบ
ความลม้ เหลวถูกตาหนิหรือถกู ลงโทษ เด็กจะมบี ุคลิกภาพท่เี รียกวา่ Inferiority คือ เกิดปมดอ้ ย

ข้นั ตอนท่ี ๕ อายุ ๑๒-๑๘ ปี เรียกว่า Identity - role confusion

๘:

เป็นพฒั นาการในระยะวยั รุ่น ช่วงน้ีเป็นช่วงทีเ่ ด็กมกี ารเปล่ยี นแปลงทางร่างกายอยา่ งรวดเร็ว วยั รุ่น
มกั จะเลยี นแบบบคุ คลทตี่ นสนใจยกยอ่ ง เพอ่ื จะหล่อหลอมเป็นบคุ ลกิ ภาพของตวั เองมากทส่ี ุด ฉะน้นั ผใู้ หญค่ วรจะ
ให้การช่วยเหลอื จึงจะทาให้วยั รุ่นมีความภาคภมู ใิ จในตนเอง รู้จกั ตนเอง เรียกว่า Identity ในทางตรงกนั ขา้ ม ถา้
วยั รุ่นไมป่ ระสบความสาเร็จในข้นั น้ีจะทาให้เกิดมีพฤตกิ รรมที่ไมเ่ หมาะสม ไม่มีความสามารถ เกดิ ความสบั สน
วนุ่ วาย เรียกวา่ Role confusion

ข้นั ตอนที่ ๖ อายุ ๑๘-๒๑ ปี เรยี กว่า Intimacy isolation
เป็นช่วงของพฒั นาการในระยะผใู้ หญ่ตอนตน้ ซ่ึงจะมีการพฒั นาความสมั พนั ธก์ บั เพอ่ื นต่างเพศ

พฒั นาการในข้นั น้ีจะเป็นผลสืบเนื่องจากผ่านข้นั ที่ผา่ นมา คอื ถา้ บุคคลใดประสบความสาเร็จมาตลอด เป็นผไู้ วใ้ จ
ผอู้ นื่ มนั่ ใจในตนเองรู้บทบาทของตวั เอง เรียกวา่ Intimacy ในทางตรงกนั ขา้ ม ถา้ ผใู้ ดไมส่ ามารถควบคมุ ตนเองได้
และพฒั นาการในข้นั ที่ผ่านมาไม่ประสบความสาเร็จผลคือจะเป็นบุคคลท่มี คี วามรู้สึกอา้ งวา้ งโดดเด่ียว ไม่มีเพือ่ น
เรียกว่า Isolation

ข้นั ตอนท่ี ๗ อายุ ๒๒-๔๐ ปี เรียกว่า Parental stagnation
เป็นพฒั นาการในวยั ผใู้ หญ่ เมอื่ พิจารณาอยา่ งถ่ีถว้ นจะเห็นว่าเป็นวยั ของการเป็นพอ่ แม่ ถา้ ประสบ

ความสาเร็จในแตล่ ะข้นั ท่ีผา่ นมา จะทาให้เกิดความรู้สึกรับผิดชอบในดา้ นตา่ ง ๆ ทมี่ ีตอ่ ครอบครวั ตอ่ ชุมชน รู้จกั
บทบาทของความเป็นพอ่ แมค่ น สามารถให้ความรกั ให้ความอบอนุ่ แกล่ กู ไดอ้ ยา่ งเพียงพอ มีคุณสมบตั เิ หมาะทจ่ี ะเป็น
พอ่ และแม่ เรียกวา่ Parental sense ในทางตรงกนั ขา้ ม ถา้ ไม่ประสบความสาเร็จ จะทาให้เกิดความรู้สึกคบั ขอ้ งใจ
ขาดความรับผิดชอบ ไมใ่ ห้ความสนใจบคุ คลอ่ืน มลี กั ษณะทเี่ ฉ่ือยชา เรียกว่า Sense of stagnation

ข้นั ตอนท่ี ๘ อายุ ๔๐ ปี ขนึ้ ไป เรียกว่า Ego integrity despair
เป็นข้นั สุดทา้ ยของทฤษฎีพฒั นาการของ Erikson ในช่วงน้ี เป็นผลรวมของพฒั นาการท้งั ๗ ข้นั

ดงั ทีก่ ลา่ วมาท้งั หมดบุคคลทปี่ ระสบความสาเร็จมาตลอดชีวิต เมื่อมาถึงข้นั น้ีจะเป็นคนกลา้ ท่เี ผชิญความเป็นจริง มี
ความคดิ เกี่ยวกบั ตนเองอยา่ งถูกตอ้ งเพ่อื กา้ วสู่วยั ชราไดด้ ว้ ยอารมณม์ นั่ คง ยอมรบั การจากไปของคชู่ ีวิตได้ สามารถอยู่
คนเดียว และมจี ิตใจท่ีสมบรู ณ์ เรียกวา่ Ego integrity ในทางตรงกนั ขา้ ม ถา้ บุคคลใดก็ตามไม่ประสบความสาเร็จใน
ชีวิตมาตลอด จะทาใหเ้ กิดความรู้สึกผดิ หวงั ทอ้ ถอย อารมณไ์ มม่ น่ั คง ไมส่ ามารถยอมรบั ในส่ิงทต่ี นตอ้ งเผชิญ รู้สึก
ทนไมไ่ ดก้ บั บทบาททตี่ นเป็นอยู่ เรียกว่า Despairทฤษฎีพฒั นาการของ Erikson จึงเป็นทฤษฎีทม่ี ีความสาคญั มาก
เพราะทฤษฎีน้ีจะถือวา่ พฒั นาการทุกข้นั ตอนของชีวิตเป็นพฒั นาการทีม่ คี วามสาคญั ไมย่ ง่ิ หยอ่ นกว่ากนั โดยเฉพาะ
ในระยะแรกของพฒั นาการจะเป็นรากฐานของพฒั นาการในข้นั ตอ่ มาตามลาดบั

ทม่ี า: มหาวิทยาลยั ขอนแก่น http://vdo.kku.ac.th/mediacenter/mediacenter-uploads/libs/html/1031/lesson3.html
เรียบเรียงเนือ้ หาจากวิชา "การสุขศึกษา และพฤติกรรมสุขภาพในงานสาธารณสุข"

๙:

เอกสารประกอบ ๑.๒ แนวคิดเพศศึกษา ๖ ด้าน

แนวคิดหลกั ในการพฒั นาการเรียนรู้เรื่อง “เพศศึกษา”
(Key Concepts in Comprehensive Sexuality Education Program)
๑. พัฒนาการของมนุษย์ (Human Development)
เป็ นพัฒนาการด้านต่างๆ ของมนุษย์ ทเ่ี ตบิ โตไปอย่างสัมพนั ธ์กัน ระหว่าง สรีระ อารมณ์ สังคม และสตปิ ัญญา
๑.๑ สรีระร่างกายที่เก่ียวข้องกบั การสืบพันธ์ุ (Reproductive Anatomy and Physiology) ร่างกายมนุษย์มี
ความสามารถในการสืบพนั ธ์ุ และสามารถสร้างความพงึ พอใจและได้รับความพึงใจทางเพศด้วย
๑.๒ การสืบพันธ์ุ (Reproduction) คนมีท้งั ศักยภาพในการสืบพนั ธ์ุและความสามารถทจี่ ะเลือกว่าจะสืบพันธ์ุ

หรือไม่

๑.๓ การเปลี่ยนแปลงเมือ่ เข้าสู่วัยหนุ่มสาว (Puberty) การเปล่ียนแปลงเม่ือเข้าสู่วยั หนุ่มสาว เป็ นประสบการณ์
สากลของช่วงการเปลย่ี นแปลงจากวยั เดก็ สู่วยั หนุ่มสาว ซ่งึ แสดงออกโดยการเปลย่ี นแปลงทางร่างกาย

๑.๔ ภาพลกั ษณ์ต่อร่างกาย (Body Image)ภาพลกั ษณ์ของคนทมี่ ีต่อร่างกายตนเอง มีผลต่อความรู้สึกและ
พฤตกิ รรม

๑.๕ ความเป็ นตัวตนทางเพศ และรสนิยมทางเพศ (Sexual Identity and Orientation) เดก็ ๆ เตบิ โตและมี
พัฒนาการตามลาดับ เริ่มมคี วามรู้สึกรักใคร่ชอบพอ และพึงพอใจทางเพศต่อบคุ คลอ่ืน

๒. ความสัมพันธ์ (Relationships)
ความสัมพนั ธ์ มีบทบาทสาคัญตลอดช่วงชีวติ ของเรา
๒.๑ ครอบครัว (Families) คนเตบิ โตและถกู เลยี้ งดใู นครอบครัว และส่วนใหญ่อย่ใู นครอบครัวเมื่อเป็ นผ้ใู หญ่
๒.๒ มิตรภาพ (Friendship) มติ รภาพมีความสาคัญตลอดช่วงชีวติ คน
๒.๓ ความรัก (Love) ความสัมพันธ์แบบมีความรัก มหี ลายรูปแบบและมีความสาคัญตลอดช่วงชีวติ คน
๒.๔ การเรียนรู้ซึ่งกนั และกนั (ของคนสองคน) (Dating) การมีโอกาสเรียนรู้กันและกันของคนเป็ นการเรียนรู้
ประสบการณ์ของความเป็ นเพอ่ื น ความใกล้ชิดสนทิ สนมต่ออีกคนหนึง่
๒.๕ การแต่งงาน (Marriage and Lifetime Commitments) การแต่งงานเป็ นการตกลงความสัมพนั ธ์ร่วมกันทาง
กฎหมายว่าคนสองคนจะใช้ชีวิตร่วมกนั และร่วมกนั รับผิดชอบต่อครอบครัว
๒.๖ บทบาทการเลย้ี งดลู กู (Raising Children) การเลยี้ งดลู ูกเป็ นหนง่ึ ในความรับผดิ ชอบทสี่ ามารถถือเป็ น
รางวลั ของชีวติ

๓. ทักษะส่วนบุคคล (Personal Skills)
การมีสุขภาวะทางเพศ จาเป็ นต้องมกี ารพฒั นาทกั ษะส่วนบุคคลและทกั ษะในการปฏิสัมพนั ธ์กบั บุคคลอ่ืน

๑๐:

๓.๑ การให้คณุ ค่า (Values) การให้คุณค่าเป็ นตัวชี้นาพฤติกรรมของเรา และบอกเป้าหมายตลอดจนกาหนด
ทิศทางในการดาเนนิ ชีวติ ของเรา

๓.๒ การตัดสินใจ (Decision-making) การตดั สินใจทรี่ ับผิดชอบเกีย่ วกับเร่ืองเพศเป็ นเร่ืองสาคญั เพราะการ

ตดั สินใจในเรื่องดงั กล่าวส่งผลกระทบไม่เพยี งกบั ตวั เราเองเท่าน้ัน แต่ยงั ส่งผลต่อคนอืน่ ๆ ด้วย

๓.๓ การสื่อสาร (Communication) การสื่อสาร รวมถงึ การแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร อารมณ์ความรู้สึก และ
ทัศนะต่อกนั

๓.๔ การแสดงความคดิ ความต้องการ ความรู้สึกของตนเอง (Assertiveness) การส่ือสารถงึ ความคิด ความรู้สึก
ความต้องการของตนเอง โดยเคารพในสิทธขิ องผ้อู ่ืน

๓.๕ การต่อรอง (Negotiation) การต่อรองเปิ ดโอกาสให้คนได้แก้ปัญหา หรือ คลี่คลายความขดั แย้ง
๓.๖ การหาความช่วยเหลอื (Looking for Help) คนทีป่ ระสบปัญหา สามารถขอความช่วยเหลอื ได้จาก

ครอบครัว เพ่ือน และผ้เู ช่ียวชาญ
๔. พฤติกรรมทางเพศ (Sexual Behavior)

เพศวถิ ี (Sexuality) เป็ นเรื่องสาคัญของมนุษย์ แต่ละบคุ คลจะแสดงออกในเรื่องเพศแตกต่างกนั ออกไป
๔.๑ ชีวิตทางเพศ (Sexuality Throughout Life) ชีวติ ทางเพศเป็ นเรื่องธรรมชาติและเป็ นด้านร่ืนรมย์ของชีวิต
๔.๒ การช่วยตวั เอง (Masturbation) การช่วยตัวเองเป็ นวธิ ีหนึ่งของมนุษย์ท่แี สดงออกในเรื่องเพศ
๔.๓ การแสดงออกในเรื่องพฤติกรรมทางเพศต่อกนั (Shared Sexual Behavior) แต่ละบคุ คลแสดงออกในเรื่อง

เพศกับค่ขู องเขาในหลากหลายรูปแบบ
๔.๔ การไม่มีเพศสัมพันธ์ (Abstinence) การไม่มีเพศสัมพันธ์เป็ นวิธที ่ีมปี ระสิทธภิ าพทสี่ ุดในการป้องกันการ

ต้งั ครรภ์ และการติดเชื้อโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ และเชื้อเอชไอวี
๔.๕ การตอบสนองทางเพศของมนุษย์ (Human Sexual Response) ร่างกายของท้งั หญงิ และชายตอบสนองต่อ

ส่ิงเร้าท้งั เหมือนและต่างกนั
๔.๖ จินตนาการ (Fantasy) จินตนาการทางเพศเป็ นเรื่องปกติ
๔.๗ การเสอ่ื มสมรรถภาพทางเพศ (Sexual Dysfunction) การเส่ือมสมรรถภาพทางเพศ หมายถงึ การไร้

ความสามารถทจี่ ะแสดงออกหรือหาความพงึ พอใจในเรื่องเพศ
๕. สุขภาพทางเพศ (Sexual Health)

การส่งเสริมสุขภาพทางเพศต้องการข้อมูลและทศั นะที่จาเป็ นเพอ่ื หลีกเลยี่ งผลกระทบทไ่ี ม่พงึ ประสงค์จาก
พฤตกิ รรมทางเพศ

๕.๑ การคมุ กาเนดิ (Contraception) การคมุ กาเนิดช่วยให้คนสามารถมเี พศสัมพนั ธ์โดยไม่ต้องกลัวการต้งั ครรภ์
ทีไ่ ม่ต้งั ใจ

๑๑:

๕.๒ การทาแท้ง (Abortion) เมื่อผ้หู ญงิ คนหนึ่งต้งั ครรภ์และเลือกท่ีจะไม่มลี ูก เธอมีทางเลือกทจี่ ะทาแท้งได้อย่าง
ถูกกฎหมาย

๕.๓ การติดเช้ือโรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์และเชื้อเอชไอวี (STDs and HIV Infection) โรคทางเพศสัมพนั ธ์
รวมท้งั เชื้อเอชไอวสี ามารถหลกี เลยี่ งได้โดยการมพี ฤติกรรมทป่ี ้องกนั

๕.๔ การล่วงเกินทางเพศ (Sexual Abuse) การล่วงเกนิ ทางเพศสามารถป้องกนั ไม่ให้เกิดขนึ้ หรือหยดุ ได้
๕.๕ อนามยั เจริญพนั ธ์ุ (Reproductive Health) ท้งั ชายและหญิงควรดูแลสุขอนามยั เจรญิ พันธ์ุของตนเองเพอื่

สร้างความมนั่ ใจต่อสุขภาพและพัฒนาการของลกู ในอนาคต
๖. สังคมและวัฒนธรรม (Society and Culture)

ส่ิงแวดล้อมและบรรยากาศทางสังคมและวัฒนธรรม มสี ่วนในการกาหนดวธิ ีการเรียนรู้และการแสดงออกในเร่ือง
เพศของบุคคล

๖.๑ เพศและสังคม (Sexuality and Society) สังคมมีอทิ ธิพลต่อความเชื่อ และความรู้สึกของบุคคลต่อเร่ืองเพศ
๖.๒ บทบาททางเพศ (Gender Roles) วัฒนธรรมสอนเร่ืองการเป็ นผู้หญิง และการเป็ นผ้ชู าย
๖.๓ เพศและกฎหมาย (Sexuality and Law) กฎหมายบางข้อกาหนดเกยี่ วกบั สิทธิทางเพศ และสิทธใิ นเรื่อง

อนามัยเจริญพนั ธ์ุ
๖.๔ เพศและศาสนา (Sexuality and Religion) มุมมองของศาสนาในเรื่องเพศมีผลกระทบต่อทัศนะเร่ืองเพศ

ของคน
๖.๕ ความหลากหลาย (Diversity) สังคมของเรามที ัศนะและพฤติกรรมทางเพศหลากหลายรูปแบบ บางคนถูก

เลือกปฏิบัตอิ ย่างไม่ยุติธรรมเพยี งเพราะคนเหล่าน้ันแสดงถึงวถิ ที างเพศของเขา
๖.๖ เพศและศลิ ปะ (Sexuality and the Arts) เร่ืองเพศและกามารมณ์ เป็ นส่ิงทปี่ รากฎโดยทวั่ ไปในงานศิลปะ
๖.๗ เพศและสื่อ (Sexuality and the Media) สื่อมผี ลกระทบอย่างลกึ ซึ้งต่อข้อมูลเร่ืองเพศ การให้คุณค่า และ

การกาหนดแบบแผนพฤตกิ รรม

แปลและเรียบเรียงจาก Guidelines for Comprehensive Sexuality Education (Kindergarten – 12 Grade), 2nd
Edition, National Guidelines Task Force. SIECUS, New York

๑๒:

เอกสารประกอบ ๑.๓

เปรียบเทียบหลกั สูตรเพศศึกษาแบบเพศศึกษารอบดา้ น กบั เพศศกึ ษาแบบหา้ มมีเพศสัมพนั ธจ์ นกว่าจะแต่งงาน

เพศศึกษารอบด้าน เพศศึกษาแบบห้ามมเี พศสัมพนั ธ์จนกว่าจะแต่งงาน

(Comprehensive Sex Education) (Abstinence-Only-Until-Marriage)

สอนใหเ้ ห็นวา่ เร่ืองเพศเป็นเร่ืองธรรมชาติ ความตอ้ งการ สอนใหเ้ ห็นวา่ เพศสัมพนั ธ์ที่อยนู่ อกเหนือจากการ

ทางเพศเป็นเร่ืองปกติ และเป็นส่วนหน่ึงของชีวิตที่มีสุข ครองค่สู มรส เป็นอนั ตรายตอ่ ชีวติ จิตใจ และความ

ภาวะ ผาสุกของสังคม

สอนให้เห็นว่าการไมม่ ีเพศสัมพนั ธ์คอื วิธีที่ไดผ้ ลที่สุดต่อ สอนใหเ้ ห็นวา่ การละเวน้ ไมม่ ีเพศสมั พนั ธ์จนกว่าจะ

การป้องกนั การต้งั ครรภไ์ ม่พึงประสงค์ โรคติดต่อทาง แต่งงานคอื พฤติกรรมทางเพศอยา่ งเดียวท่ีเป็นทย่ี อมรับ

เพศสัมพนั ธ์ รวมท้งั เอดส์

สอนให้ตระหนกั ถึงการใหค้ ุณค่า และตระหนกั ถงึ ส่ิงที่ สอนให้เห็นวา่ มี ควรใหค้ ณุ คา่ แก่สิ่งที่ถูกตอ้ งดีงามทม่ี ี

ตนเองใหค้ ณุ ค่า ควบค่ไู ปกบั ความเขา้ ใจวา่ ครอบครวั ไดเ้ พยี งอยา่ งเดียวเทา่ น้นั สาหรับทุกคน

และชุมชนที่เราอยู่ ให้คณุ คา่ ตอ่ สิ่งน้นั อยา่ งไร

ให้สาระท่ีหลากหลายที่เกี่ยวกบั เร่ืองเพศ ไม่ว่าจะเป็น ตอกย้าประเด็นการรักษาพรหมจรรย์ และผลร้ายต่าง ๆ

พฒั นาการธรรมชาตใิ นเรื่องเพศของมนุษย์ สัมพนั ธภาพ ของการมีเพศสมั พนั ธ์โดยไม่แต่งงาน

ทกั ษะส่วนบุคคล การแสดงออกในเรื่องเพศ สุขภาพทาง

เพศ มติ ดิ า้ นสังคมวฒั นธรรมของเร่ืองเพศ

ให้ขอ้ เท็จจริงตรงไปตรงมาไม่ปิ ดบงั ในเร่ืองการทาแทง้ พยายามหลกี เล่ยี งทจี่ ะพดู ถงึ เร่ืองดงั กลา่ ว

การสาเร็จความใคร่ดว้ ยตนเอง ความพงึ ใจและรสนิยม

ทางเพศแบบต่างๆ

ให้ขอ้ มูลทางบวกเกี่ยวกบั เรื่องเพศ การแสดงออกทาง ใหข้ อ้ มลู เชิงตาหนิ ป้องปราม เพื่อส่งเสริมการรักษา

เพศ ควบคไู่ ปกบั ผลดีของการรักษาพรหมจรรย์ พรหมจรรย์ และไม่ส่งเสริมการแสดงออก หรือแสดง

ความรู้สึกท่เี ก่ียวกบั เร่ืองเพศ

สอนใหร้ ู้ว่าการใชถ้ งุ ยางและสารหล่อลื่นอยา่ งถกู ตอ้ ง เนน้ ประเด็นวา่ ไมส่ ามารถเชื่อมน่ั ในถงุ ยางอนามยั

จะทาให้สามารถลดความเสี่ยงต่อการต้งั ครรภไ์ มพ่ งึ เพราะไมส่ ามารถประกนั ความปลอดภยั และมกั จะ

ประสงคแ์ ละการเกิดโรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์ แมว้ า่ จะ ขยายภาพความลม้ เหลวของถงุ ยางอนามยั ใหเ้ กินจริง

ไมป่ ระกนั ความเส่ียงได้ 100%

สอนให้รู้วา่ การใชว้ ิธีการคุมกาเนิดสมยั ใหม่สามารถ ไมพ่ ยายามพดู ถงึ วิธีคุมกาเนิดใหร้ ู้ว่า จะปฏิบตั ไิ ด้

ป้องกนั การต้งั ครรภไ์ ม่พงึ ประสงคไ์ ดอ้ ยา่ งไร อยา่ งไร ยกเวน้ เรื่องถุงยางและความไมป่ ลอดภยั ของ

ถงุ ยาง

๑๓:

ให้ขอ้ มลู ท่ถี ูกตอ้ งชดั เจน เก่ียวกบั โรคติดตอ่ ทาง ใหข้ อ้ มลู ที่ไมช่ ดั เจน และมกั จะขยายความในเร่ืองการ
เพศสมั พนั ธ์ และเอดส์ รวมท้งั การหลกี เลยี่ งความเส่ียง ตดิ เช้ือดว้ ยขอ้ มูลท่ีเกินจริง และมกั พยายามทาให้
ทาไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ผเู้ รียนเช่ือวา่ ถา้ มีเพศสัมพนั ธ์โดยไมแ่ ต่งงานจะไดร้ ับ
ผลจากโรคร้ายเหลา่ น้นั อยา่ งหลีกเล่ยี งไมไ่ ด้
สอนให้ตระหนกั ว่า คาสอนและคุณคา่ ทางศาสนาที่ มกั จะนาคาสอนมาใชเ้ ป็นเคร่ืองตอกย้า จูงใจใหเ้ ช่ือถือ
บคุ คลยึดถือจะมสี ่วนกาหนดการดาเนินชีวติ และการ และปฏิบตั ิ และสร้างความรู้สึกบาป ผิด เม่ือไมป่ ฏบิ ตั ิ
แสดงออกทางเพศของบคุ คลอยา่ งไร และให้โอกาส ตามท่พี งึ เป็น
ผเู้ รียนไดส้ ารวจความคิด ความเชื่อของตน และ
ครอบครัวตอ่ เร่ืองน้ี สอนใหเ้ ห็นวา่ หากเด็ก/วยั รุ่นหญิงต้งั ครรภไ์ ม่พงึ
สอนให้เห็นวา่ เม่ือเด็ก/วยั รุ่นหญิงต้งั ครรภโ์ ดยไมต่ ้งั ใจ ประสงค์ มีเพียงหนทางเดียวคอื ตอ้ งอมุ้ ครรภจ์ นคลอด
และไม่พร้อม มีทางเลอื ก ไม่ว่าจะเป็นการอมุ้ ครรภจ์ น และตอ้ งเล้ยี งดบู ตุ ร หรือหาผูอ้ ุปถมั ภ์ ทางเลอื กของ
ครบกาหนดคลอดและเล้ียงดทู ารก หรือเมอ่ื คลอดแลว้ การทาแทง้ เป็นบาปผิดร้ายแรง และยอมรบั ไมไ่ ด้
อาจหาทางให้ทารกแก่ผูอ้ ปุ ถมั ภอ์ นื่ หรืออาจยตุ ิการ
ต้งั ครรภด์ ว้ ยการทาแทง้ หากไมพ่ ร้อมจริง ๆ

แปลและเรียบรียงจาก Advocates for Youth, 2000 M Street, N.W., Suite 750, Washington, D.C. 20036 USA.,
www.advocatesforyouth.orgโดย โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การแพธ (path), ๓๗/๑ ซอยเพชรบรุ ี ๑๕ ถนน
เพชรบุรี กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐ โทรศัพท์ ๐๒-๖๕๓-๗๕๖๓ ถึง ๖๕ โทรสาร ๐๒-๖๕๓-๗๕๖๘ email:
[email protected] website: www.teenpath.net

๑๔:

หน่วยท่ี ๒ อนามยั เจริญพนั ธ์ุ : พฒั นาการทางเพศ การต้งั ครรภ์ การคุมกาเนดิ

สาระสาคญั
การเจริญเติบโตของร่างกายจากเดก็ สู่วยั รุ่น ส่งผลตอ่ ความเปลย่ี นแปลงดา้ นอารมณ์ ความรู้สึก และการเกิด

อารมณ์เพศของท้งั หญงิ และชาย การมเี พศสมั พนั ธจ์ ึงเป็นธรรมชาตขิ องมนุษย์ ซ่ึงเป็นความพึงพอใจส่วนบคุ คล และ
ตอ้ งอยบู่ นพ้ืนฐานความคิดเร่ืองความรับผิดชอบ การไมใ่ ชอ้ านาจข่มขู่ บีบบงั คบั และคานึงถึงการมีสุขภาวะทางเพศ
ตระหนกั ถงึ ความรับผดิ ชอบของตนเองและผทู้ ี่เกี่ยวขอ้ ง และการจดั การผลกระทบไมพ่ ึงประสงคจ์ ากการมี
เพศสมั พนั ธ์ซ่ึงอาจเกิดข้นึ ได้ มคี วามรู้เบ้อื งตน้ ท่จี าเป็น คือการต้งั ครรภ์ การคุมกาเนิด และทางเลอื กในการยตุ กิ าร
ต้งั ครรภท์ ่ปี ลอดภยั และถุงยางอนามยั เป็นวธิ ีคมุ กาเนิดชนิดเดียวที่สามารถป้องกนั การติดเช้ือเอชไอวีเอดส์และ
โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์

วตั ถปุ ระสงค์
๑. อภปิ รายผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงดา้ นร่างกาย อารมณ์ จิตใจของวยั รุ่น
๒. อภปิ รายผลกระทบจากการมเี พศสมั พนั ธ์แบบไมป่ ้องกนั ท้งั หญิงและชาย
๓. สรุปและให้ความหมายการมเี พศสมั พนั ธแ์ บบรับผิดชอบ
๔. ระบุแนวทางการเลอื กตดั สินใจเกี่ยวกบั การมีเพศสัมพนั ธแ์ บบรับผดิ ชอบ หรือกรณีเกิดผลลบจากการมี

เพศสมั พนั ธ์
๕. บอกขอ้ ดีและขอ้ เสียของการเลอื กใชว้ ิธีการคุมกาเนิดแบบต่างๆ

เนือ้ หา
๑. พฒั นาการดา้ นร่างกายทีส่ ่งผลกระทบตอ่ ภาวะอารมณข์ องวยั รุ่น
๒. ความเปลย่ี นแปลงดา้ นอารมณ์เพศในวยั รุ่น
๓. การปฏสิ นธิ การต้งั ครรภ์ วธิ ีการคมุ กาเนิด ทางเลอื กในการยตุ ิการต้งั ครรภ์

ประเด็นสาคัญ

๑. โอกาสในการเรียนรู้เรื่องเพศในสงั คมไทยแตกตา่ งกนั ตามวยั ช่วงอายุ และเพศ ในขณะที่คนส่วนใหญ่อาจมี
ประสบการณก์ ารมเี พศสมั พนั ธ์ในช่วงใดช่วงหน่ึงของชีวิต และการมีเพศสมั พนั ธ์อาจนามาซ่ึงการต้งั ครรภ์ หากไม่มี
การป้องกนั ดงั น้นั ไม่วา่ เพศสัมพนั ธจ์ ะเกิดข้นึ ในช่วงวยั ใด บุคคลควรตระหนกั ถึงโอกาสการต้งั ครรภ์ และหาก
ประเมนิ ว่าไมพ่ ร้อมทีจ่ ะต้งั ครรภ์ ควรเลอื กมเี พศสัมพนั ธโ์ ดยใชว้ ิธีป้องกนั

๒. เป็นเรื่องสาคญั ท่ที ้งั หญงิ และชาย ควรจะไดร้ ับการเรียนรู้ เพ่ือใหส้ ามารถเลือก และเผชิญการตดั สินใจมี
เพศสัมพนั ธ์ของตนเองไดอ้ ยา่ งรู้เท่าทนั มสี ่วนในการตดั สินใจเลือก จากความยินยอมพร้อมใจ และมคี วามพร้อมใน

๑๕:

การเตรียมรบั ผลลพั ธต์ ่างๆ ที่จะตามมา รวมถงึ การต้งั ครรภ์ และเรียนรู้วธิ ีป้องกนั หากยงั ไม่พร้อมที่จะให้เกิดการ
ต้งั ครรภข์ ้นึ

๓. การศึกษาขอ้ มลู รายละเอียดใหช้ ดั เจน การเลือกใชว้ ิธีการคุมกาเนิดกบั คู่ จึงเป็นความรับผดิ ชอบของท้งั หญิง
และชายเม่ือมเี พศสมั พนั ธ์ และตอ้ งการป้องกนั ผลกระทบทไี่ มพ่ งึ ประสงคแ์ ละคานึงถึงการมสี ุขภาวะทางเพศ ไม่ให้
เกิดปัญหาตามมา เช่น ตดิ โรคจากการมีเพศสัมพนั ธ์ การต้งั ทอ้ ง การติดเช้ือเอชไอวี เป็นตน้

๔. การให้การศกึ ษาเพ่ือให้วยั รุ่นเรียนรู้เรื่องการมีเพศสมั พนั ธท์ ีป่ ลอดภยั ตอ้ งทาให้วยั รุ่นสามารถประเมินถึง
โอกาส ความเป็นไปไดท้ เ่ี พศสมั พนั ธอ์ าจจะเกิดข้ึน เห็นทางเลอื กในการทาให้ตวั เองปลอดภยั ซ่ึงหมายรวมถงึ การ
เลอื กที่จะไมม่ ีเพศสมั พนั ธ์ จนถงึ การเลอื กมีเพศสมั พนั ธท์ ่ปี ้องกนั และปลอดภยั เห็นอปุ สรรคที่อาจทาใหไ้ ม่อาจ
ป้องกนั ตนเองได้

๕. การส่ือสารเรื่องเพศอยา่ งตรงไปตรงมา เปิ ดใจคุยกนั จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ ในขณะท่ีการปกปิ ด หรือการ
เลอื กสื่อสารเพียงมุมใดมมุ หน่ึง อาจมีผลทาให้วยั รุ่นไปแสวงหาการเรียนรู้เพ่ิมเตมิ จากคนในวยั เดียวกนั หรือจากสื่อ
ทอี่ าจใหข้ อ้ มูลผดิ พลาด หรือไมร่ อบดา้ น ซ่ึงอาจนาไปสู่การเรียนรู้เรื่องเพศทีจ่ ะนาไปสู่อนั ตรายตอ่ สุขภาวะทางเพศ
ท้งั ของตนเองและคู่

เอกสารประกอบ ๒.๑

การคมุ กาเนดิ
การคมุ กาเนิดคอื การป้องกนั การต้งั ครรภเ์ ม่อื มเี พศสัมพนั ธ์ ซ่ึงแบง่ ไดเ้ ป็นการคมุ กาเนิดของฝ่ายชายและฝ่าย
หญิง
ฝ่ ายชาย ท่ใี ชก้ นั ในปัจจุบนั มี ๓ วธิ ีคือ ใชถ้ งุ ยางอนามยั หลง่ั ภายนอก และทาหมนั
ฝ่ ายหญิง ที่ใชก้ นั ในปัจจุบนั คือ กินยาเมด็ คุมกาเนิด ยาเมด็ คมุ กาเนิดแบบฉุกเฉิน ยาฉีดคมุ กาเนิด ยาฝัง
คุมกาเนิด ทาหมนั ใส่ห่วงอนามยั นบั วนั ปลอดภยั ยาฆ่าอสุจิ ฝาครอบปากมดลกู ห่วงสอดช่องคลอด แผน่ แปะ
ผิวหนงั
รายละเอียดของการคมุ กาเนิดแตล่ ะแบบมดี งั น้ี
๑. การคมุ กาเนดิ ฝ่ ายชาย
▪ ถุงยางอนามยั
ถุงยางอนามยั เป็นอุปกรณค์ มุ กาเนิดทีห่ าง่าย ราคาไม่แพง ใชง้ า่ ย ใชแ้ ลว้ ท้งิ เลยไม่ตอ้ งมภี าระในการลา้ งทา
ความสะอาด ถงุ ยางอนามยั ทาจากวสั ดุหลายชนิด แต่ทีน่ ิยมใชก้ นั มากทีส่ ุดและมจี าหน่ายในประเทศไทย
เป็นถุงยางอนามยั ที่ทาจากยางธรรมชาติ มีสองขนาดคือ ขนาด ๔๙ มลิ ลิเมตรและ ๕๒ มิลลเิ มตร ขนาดวดั
โดยการคลี่ถุงยางใหแ้ บนราบแลว้ วดั ความกวา้ ง ส่วนความยาว ๑๗๘ มิลลเิ มตรโดยประมาณ

๑๖:

มหี ลากหลายยีห่ ้อ มที ้งั แบบเรียบ แบบเป็นป่ มุ มที ้งั แบบกลนิ่ ยางธรรมชาติและกลน่ิ รสผลไมส้ าหรับใชก้ บั
โอษฐกาม (ออรลั เซ็กส์) บางยี่หอ้ กอ็ าจมสี ารเคมฆี า่ เช้ืออสุจิเคลอื บไวด้ ว้ ยเผ่อื ถงุ แตกถงุ รวั่ กย็ งั มอี ีกปราการ
ไวป้ ้องกนั โดยใชช้ ื่อว่ารุ่น N11 (Nonoxynol 11) ชอบแบบไหนกเ็ ลอื กเอา

เคล็ดลบั การใช้ถุงยางอนามยั
• เวลาซ้ือกซ็ ้ือเผอื่ ไวส้ ัก ๒ - ๓ อนั เผื่อแตกเผ่อื ร่วั จะไดม้ ียางอะไหล่ไวใ้ ช้
• การเกบ็ อยา่ ให้โดนแสงหรือโดนแดด อยา่ เก็บไวใ้ นรถที่ตากแดด
• ถา้ เกบ็ ไวใ้ นกระเป๋ าสตางค์ กม็ อี ายใุ ชง้ านไม่เกินหน่ึงเดือน
• ถา้ จะใชส้ ารหล่อล่ืนเพิ่มเตมิ ห้ามใชว้ าสลินเพราะนอกจากจะเหนียวเหนอะหนะแลว้
ยงั ทาใหถ้ ุงยางเส่ือมสภาพไดง้ า่ ย ให้ใช้ jelly ทล่ี ะลายน้าได้ (water soluble) เช่น k y
jelly, top gel เป็นตน้
• การสวมใส่กเ็ หมือนสวมถุงเทา้ ค่อยๆคลี่มว้ นข้ึนมาทโี่ คนจนสุดถงุ หรือสุดโคน
• การใส่ตอ้ งใส่ต้งั แตอ่ วยั วะแขง็ เตม็ ที่ ไม่ใช่มาใส่ตอนจะหลงั่ เมอ่ื เสร็จกิจ อยา่ แช่นาน
จน penis อ่อนตวั ให้รีบถอนตวั ออก ตอนถอนกใ็ ชท้ ชิ ชูจบั โคนไวด้ ว้ ยไม่ง้นั อาจ
หลดุ คาในช่องคลอดได้

▪ การหลงั่ ภายนอก (withdrawal)
หมายถึงการหลงั่ น้าอสุจิภายนอกช่องคลอด เม่ือมีเพศสัมพนั ธ์กนั จนฝ่ายชายจะถึงจดุ สุดยอดก็ดึง penis
ออกมาหลงั่ นอกช่องคลอดสตรี วธิ ีน้ีหนุ่มๆ ชายไทยใชก้ นั แยะ ดว้ ยความเชื่อกนั ว่าจะดึงออกทนั แต่แลว้ ก็
พลาดกนั มาแยะต้งั ครรภโ์ ดยไม่ต้งั ใจ การคุมกาเนิดวิธีน้ีไดผ้ ลแค่ ๘๐% เทา่ น้นั ดงั น้นั ถา้ ไมพ่ ร้อมจะมเี ด็ก
จึงไม่แนะนาใหใ้ ชว้ ธิ ีน้ี เพราะอาจเป็นพอ่ โดยประมาทได้

▪ การทาหมนั ชาย (vasectomy)
การทาหมนั ไม่ใช่การตอน เพราะไมไ่ ดต้ ดั เอาลูกอณั ฑะออก เพียงแต่ตดั ทอ่ ส่งตวั อสุจิเท่าน้นั กเ็ หมอื นเราตดั
ต่อท่อปะปาท่ีบา้ นนน่ั แหละครับ ตวั อสุจิผลติ โดยลกู อณั ฑะ เมอื่ ผลติ แลว้ กจ็ ะส่งออกโดยท่อส่ง แต่เมอ่ื ท่อ
ส่งถกู ตดั ขาด ก็ไมส่ ามารถออกมาดโู ลกได้ การทาหมนั กเ็ ป็นหมนั แบบถาวร ไมม่ ีหมนั ชวั่ คราว ดงั น้นั จะทา
หมนั ก็ตอ้ งแน่ใจว่ามลี ูกพอแลว้ เทา่ น้นั

๑๗:

ข้อเท็จจริงเกยี่ วกบั หมนั ชาย
• ทาหมนั แลว้ กย็ งั มกี ารหลงั่ น้ากามเหมอื นปกติ เพยี งแตม่ แี ต่น้าไมม่ ีตวั อสุจิ
• ตวั อสุจิทส่ี ร้างแลว้ ไม่สามารถออกมาได้ ร่างกายก็จะดูดซบั กลบั ไปใชใ้ หม่แบบรีไซเคิล
• เม่ือสร้างแลว้ ออกไม่ได้ ร่างกายกจ็ ะปรับตวั สร้างนอ้ ยลง
• การเป็นหมนั หมายถงึ ไมส่ ามารถให้หญิงทอ้ งได้ ก็อาจทาใหช้ ายหลายคนคกึ คกั มากข้ึน
• มีชายหลายคนไมย่ อมใชถ้ งุ ยางอนามยั เมอ่ื ฝ่ายหญิงร้องขอ โดยใชก้ ารทาหมนั เป็นขอ้ อา้ งว่าทาหมนั
แลว้ ซ่ึงความมาแตกเมื่อฝ่ายหญิงเกิดการต้งั ครรภข์ ้ึนมา
• การทาหมนั ไม่ใช่การผา่ ตดั ใหญ่ เพยี งเจาะรูเล็กๆ ขนาดหน่ึงเซนติเมตรเขา้ ไปผูกและตดั ท่ออสุจิ
แผลผา่ ตดั อาจไมจ่ าเป็นตอ้ งเยบ็ ดว้ ยซ้าไป
• ตอ่ ไปอาจมีการวิจยั โดยใชแ้ สงเลเซอร์หรือคลน่ื ความถีส่ ูงมาช่วยทาหมนั โดยไม่ตอ้ งผา่ ตดั ก็ไมต่ อ้ ง
เจบ็ ตวั

๒. การคุมกาเนิดฝ่ ายหญิง
▪ ยาเมด็ คมุ กาเนดิ
ยาเม็ดคุมกาเนิดเป็นอปุ กรณ์คมุ กาเนิดที่นิยมมากท่ีสุด โดยการรบั ประทานวนั ละคร้ัง คร้ังละเม็ด ยาเม็ด
คุมกาเนิดแบง่ ได้ ๓ ประเภท คือ
๑. ประเภททม่ี ตี วั ยาเทา่ กนั ทุกเม็ด
๒. ประเภทที่มตี วั ยาไมเ่ ท่ากนั ทกุ เม็ด
๓. ประเภททม่ี ฮี อร์โมนโปรเจสโตเจนอยา่ งเดียว
๑. ประเภททมี่ ตี วั ยาเท่ากันและเหมอื นกนั ทกุ เมด็
ยาคมุ ประเภทน้ีมีตวั ยาอยสู่ องชนิดคอื เอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน ความแตกตา่ งของแต่ละย่หี ้อ

ข้ึนอยกู่ บั ชนิดของเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน ดงั ตารางที่ ๑ และตารางที่ ๒

๑๘:

ตารางท่ี ๑ ยาเมด็ คุมกาเนิดในกลมุ่ น้ีมปี ริมาณเอสโตรเจนมาก ปัจจบุ นั ไมน่ ิยมใชเ้ ป็นยาเม็ดคมุ กาเนิดแลว้ แต่
ใชเ้ พื่อการรักษาความผดิ ปกตทิ างนรีเวช

ช่ือยาเมด็ ชนิดและขนาดของฮอร์โมนสงั เคราะห์/เมด็ ขนาดของฮอร์โมนสังเคราะห์ท้งั แผง 21
คมุ กาเนิด เมด็

Estrogen Progestogen Estrogen Progestogen
(ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม)

Ovulen M100 Ethynodiol Diacetate 2,100 21,000
1000

Lyndiol M75 Lynestrenol 2500 1,575 52,500

Anovlar EE50 Norethisterone 1,050 84,000
Acetate 4000

Gynovlar EE50 Norethisterone 1,050 63,000
Acetate 3000

Minilyn EE50 Lynestrenol 2500 1,050 52,500

Ovostat EE50 Lynestrenol 1000 1,050 21,000

Eugynon, EE50 Nogestrel 500 1,050 10,500
Ovral

Norinyl, M50 Norethisterone 1,050 21,000
Noriday Acetate 1000

Microgynon EE50 Levonorgestrel 125 1,050 2,625
ED50

คายอ่ ED= Every Day, EE= Ethinyl Estradiol, M=Mestranol

๑๙:

ตารางท่ี ๒ ยาเมด็ คุมกาเนิดฮอร์โมนรวมทมี่ ฮี อร์โมนต่า (low dose) มีปริมาณเอสโตรเจนค่อนขา้ งต่า (๓๐ -
๓๕ ไมโครกรัม ) ถงึ ต่ามาก (๒๐ ไมโครกรมั )

ชนิดและขนาดของฮอร์โมนสังเคราะห/์ เมด็ ขนาดของฮอร์โมนสงั เคราะห์ท้งั
แผง
ช่ือยาเม็ดคุมกาเนิด Estrogen
(ไมโครกรัม) Estrogen Progestogen
Progestogen (ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม)

Diane-35 EE 35 Cyproterone acetate 2000 735 42,000

Preme EE 35 Cyproterone acetate 2000 735 42,000

Yasmin (ไม่มี drospirenone เมด็ ละ 3 mg

จาหน่ายในประเทศ EE 30 (เป็นprogestogen ตวั ใหม่ 630 63 mg

ไทย) สุด)

Microgynon ED30,

Nordette, EE 30 Levonorgestrel (LNG) 150 630 3,150
Microgest,

AnNa

Marvelon , EE 30 Desogestrel (DG)150 630 3,150
Prevenon

Minulet, EE 30 Gestodene(GSD) 75 630 1,575
Gynera

ยาเม็ดคมุ กาเนิดฮอร์โมนรวมทมี่ ฮี อร์โมนต่ามาก (ultralow dose)

ชื่อยาเม็ด ชนิดและขนาดของฮอร์โมนสังเคราะห์/ ขนาดของฮอร์โมนสงั เคราะห์ท้งั แผง
คมุ กาเนิด เม็ด

Estrogen Progestogen Estrogen Progestogen
(ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม)

Mercilon EE 20 DG 150 420 3,150

Meliane EE 20 GSD 75 420 1,575

๒๐:

๒. ประเภททม่ี ีปริมาณตวั ยาไม่เท่ากนั ทุกเมด็
ยาคมุ ชนิดน้ีไดใ้ ส่ตวั ยาในแตล่ ะเมด็ เลยี นแบบปริมาณฮอร์โมนตามธรรมชาตืของร่างกาย ดงั ตารางท่ี ๓

ตารางที่ ๓ ยาเม็ดคุมกาเนิดฮอร์โมนรวมที่มฮี อร์โมนไมเ่ ทา่ กนั (multiphasic pills)

ช่ือยาเมด็ ชนิดและขนาดของฮอร์โมนสงั เคราะห/์ ขนาดของฮอร์โมนสงั เคราะห์ท้งั แผง
คุมกาเนิด เมด็

Estrogen Progestogen Estrogen Progestogen
(ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม) (ไมโครกรัม)

Triquilar EE (30x6) LNG (50x6) 680 1,952
(40x5) (75x5)
(10x30) (10x125)

Trinordiol EE (30x6) LNG (50x6) 680 1,925
(40x5) (75x5)
(10x30) (10x125)

คายอ่ LNG=Levonorgestrel

๓. ประเภทท่ีมีแต่ตัวยาโปรเจสโตเจน
มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนอยา่ งเดียว ที่เป็นทีร่ ู้จกั กนั ดีก็คอื ยาคมุ ฉุกเฉินท่ชี ่ือ โพสตนิ อร์ (postinor) และ

มาดอนน่า (madonna) ซ่ึงสามารถหาซ้ือไดต้ ามร้านขายยาทวั่ ไป รวมท้งั ร้านยาในหา้ งดว้ ย

ช่ือยาคมุ กาเนดิ ยาเม็ดคุมกาเนิดฮอร์โมนชนดิ โปรเจสโตเจน
microlut ชนดิ ของProgestogen ปริมาณโปรเจสโตเจน (มลิ ลิกรัม)
exluton
ovrette levonorgestrel 0.030

Postinor, Madonna lynestrenol 0.5

levonorgestrel 0.075

levonorgestrel 0.75

๒๑:

ข้อควรทราบเก่ียวกบั ยาคุมฉุกเฉินคือ

๑. ยาน้ีใชเ้ มอ่ื ยามฉุกเฉินเท่าน้นั หมายถงึ ยามท่ีไม่ไดต้ ้งั ใจจะมเี พศสัมพนั ธห์ รือไม่ไดเ้ ตรียม
ตวั มาก่อน หรือคุมกาเนิดแบบอ่นื แลว้ เกิดผดิ พลาดเช่นถุงยางแตกขาด

๒. ยาน้ีไมใ่ ช่ยาทาแทง้
๓. การกินยา ใหก้ ินหลงั ร่วมโดยกินเมด็ แรกโดยเร็วท่ีสุด (หรือภายใน ๗๒ ชวั่ โมง) แลว้ อีก

๑๒ ช่วั โมงกินเม็ด ที่เหลอื เร่ิมกินชา้ ประสิทธิภาพของยากจ็ ะลดลงตามชวั่ โมงทผี่ า่ นไป
๔. ถา้ กินถูกตอ้ ง ก็จะช่วยลดโอกาสต้งั ครรภล์ ง ๗๐ -๘๕ %
๕. หลงั กินยา ๔-๕ วนั อาจมีเลอื ดออกได้ แต่ไมไ่ ดเ้ ป็นกบั ทุกคน
๖. กินยาน้ีแลว้ อาจทาให้รอบเดือนแปรปรวนไม่อาจคาดเดาได้

 จะเร่ิมกินยาเมด็ คมุ กาเนดิ เม่ือไร
ยาคุมทกุ ชนิด แผงแรกเมด็ แรกใหเ้ ร่ิมกินภายใน ๕ วนั นบั จากวนั แรกทมี่ ีรอบเดือน มฉิ ะน้นั จะยบั ย้งั ไข่ตกไม่

ทนั ในรอบน้นั ยกเวน้ ยาคุมแบบ ๒๐ ไมโครกรัมควรเร่ิมต้งั แต่วนั แรกท่รี อบเดือนมา เมื่อเริ่มกินยาคุมแลว้ กส็ ามารถ
มีผลคมุ กาเนิดไดต้ ้งั แตแ่ ผงแรกทนั ที ไม่ตอ้ งใชก้ ารคมุ กาเนิดวธิ ีอ่ืนช่วย ท้งั สามารถหลง่ั ภายในช่องคลอดไดเ้ ลย และ
ไม่ตอ้ งไปนบั วนั ปลอดภยั (หนา้ ๗ หลงั ๗) อกี ตอ่ ไป

เม่ือเร่ิมกินยาคุมแลว้ ให้กินไปเรื่อยๆเรียงไปตามลกู ศร ระหว่างกาลงั กินยา ถา้ รอบเดือนมากะปริบกะปรอยกไ็ ม่
ตอ้ งหยดุ ยา เดินหนา้ กินตอ่ ไปเร่ือยๆ จนหมดแผง หมดแผงแลว้ ถา้ เป็นแบบ ๒๘ เมด็ วนั รุ่งข้นึ ให้กินแผงใหม่ต่อ
ทนั ที ไม่ตอ้ งรอรอบเดือน ไมว่ า่ รอบเดือนจะมาหรือไมม่ า รอบเดือนจะหยดุ หรือไม่หยดุ กต็ าม ถา้ เป็นแบบ ๒๑ เม็ด
หมดแผงแลว้ (ปกตหิ มดเมด็ ท่ี ๒๑ แลว้ อีก ๒-๓ วนั รอบเดือนกจ็ ะมา) เวน้ ไมก่ ิน ๗ วนั เมอื่ ครบ ๗ วนั ที่ไม่กินแลว้
วนั ท่ี ๘ ใหเ้ ริ่มแผงใหม่ทนั ที ไม่ว่ารอบเดือนจะมาหรือไม่มา รอบเดือนจะหยดุ หรือไม่หยดุ และระหวา่ งทไ่ี ม่กินยา ๗
วนั น้นั กส็ ามารถมีเพศสัมพนั ธไ์ ดอ้ ยา่ งปลอดภยั โดยไม่ตอ้ งกงั วลวา่ จะต้งั ครรภ์

 จะเร่ิมแผงแรกเมื่อไหร่
๑. กรณีปกตทิ วั่ ไป รอรอบเดือนมาก็กินไดท้ นั ที
๒. กรณีหลงั คลอดบุตร โดยปกตหิ ลงั คลอดบตุ ร ๖ สัปดาหไ์ ขก่ จ็ ะตกเป็นคร้ังแรก ดงั น้นั จึงควรเริ่ม ๔-๖
สปั ดาหห์ ลงั คลอด แต่ถา้ เล้ยี งลูกดว้ ยนมแม่กอ็ าจเริ่มกินชา้ กวา่ น้ีได้
๓. กรณีแทง้ บตุ ร
• ถา้ ทอ้ งนอ้ ยกวา่ ๑๒ สัปดาห์ (๓ เดือน) จะมไี ข่ตกทนั ทีในรอบเดือนถดั มา ดงั น้นั ตอ้ งเร่ิมกินทนั ทหี ลงั
แทง้

๒๒:

• แตถ่ า้ แทง้ เมอื่ ทอ้ งได้ ๑๒-๒๘ สัปดาห์ (๓-๗ เดือน) ไขจ่ ะตกราว ๓ สปั ดาห์หลงั แทง้ จึงควรกิน ภายใน
สัปดาหแ์ รกหลงั แทง้

 ถ้าลมื กนิ
๑. ถา้ ลมื กิน นึกไดเ้ มือ่ ไหร่ ใหไ้ ปหยบิ เมด็ ทีล่ ืมมากนิ ทนั ที (เท่ากบั กินเมด็ น้นั ชา้ ไปหน่อย) ห้ามผดั วนั อีกต่อไป
แลว้ กินเม็ดถดั มาตามเวลาท่ีเคยกิน แต่ถา้ นึกไดใ้ นเวลาท่ตี อ้ งกินอกี เมด็ กก็ ินสองเม็ดควบเลย
๒. ในกรณีท่ีลมื กิน ๒ เมด็ ให้กิน ๒ เมด็ ที่ลืม แลว้ เชา้ วนั รุ่งข้นึ กินอกี ๑ เมด็ เยน็ น้นั กิน ๑ เม็ด เชา้ วนั รุ่งข้ึนกิน
อกี เม็ด (เพ่ิมตอนเชา้ สองเชา้ เชา้ ละเมด็ ) กรณีเช่นน้ีอาจทาให้รอบเดือนมากะปริบกะปรอยได้ และถา้ ลมื
ในช่วง ๑-๗ เม็ดแรก โอกาสพลาดอาจเกิดข้ึนได้ จึงตอ้ งใชก้ ารคุมกาเนิดวิธีอน่ื ช่วย เช่น ถงุ ยางอนามยั แต่ถา้
ลมื ในช่วงทา้ ยๆหรือจะหมดแผงกไ็ มค่ ่อยมผี ลมากเท่าไหร่
๓. ถา้ ลืมกิน ๓ เม็ด ใหห้ ยดุ ยา รอให้รอบเดือนมา แลว้ เร่ิมแผงใหมภ่ ายใน ๕ วนั แรกของการมมปี ระจาเดือน

 กรณีท้องเสีย อาเจยี น
๑. ถา้ กินยาแลว้ อาเจียน ถา้ อาเจียนหลงั ๒ ชว่ั โมงไปแลว้ กไ็ มม่ ผี ลอะไร แต่ถา้ อาเจียนภายใน ๒ ช่ัวโมง ก็ตอ้ ง
กินซ้าอีกเม็ด ถา้ เป็นแบบทม่ี ฮี อร์โมนเทา่ กนั ทุกเมด็ จะกินเมด็ ไหนกไ็ ด้ แต่ถา้ เป็นแบบ triphasic คือ แต่
ละเม็ดมฮี อร์โมนไม่เท่ากนั กต็ อ้ งซ้ืออกี แผงมาเสริมเมด็ ทอี่ าเจียนออกไป (กินตรงเมด็ ทอ่ี าเจียน)
๒. กรณีทอ้ งเดินหลายวนั การดดู ซึมของยาจะไม่ดี ควรใชก้ ารป้องกนั วิธีอน่ื ช่วยดว้ ย (กรณีเช่นน้ีอาจมีเลอื ดออก
กะปริบกะปรอยได)้

▪ ยาฉีดคุมกาเนิด
เป็นยาอกี ประเภททน่ี ิยมกนั สาหรบั คนทไ่ี ม่ชอบกินยาหรือมกั ลมื กินยา ยาคุมชนิดฉีดมหี ลายแบบ แตท่ ม่ี ีใช้

ในบา้ นเราเป็นชนิด ๓ เดือน คอื ฉีดหน่ึงเข็มคุมได้ ๓ เดือน เป็นตวั ยาโปรเจสโตเจนทชี่ ื่อ medoxyprogesterol acetate
๑๕๐ มลิ ลกิ รมั ฉีดสะโพก

• ขอ้ ดีของยาน้ีกค็ อื ฉีดคร้ังเดียวสามารถคมุ กาเนิดได้ ๓ เดือน ประสิทธิภาพ ๙๘ %
• ขอ้ เสียคอื ฉีดแลว้ รอบเดือนมกั ไม่มา หรืออาจมาแบบกะปริบกะปรอย มสี ่วนนอ้ ยเทา่ น้นั ทีมีรอบ เดือน

มาตามปกติ ซ่ึงกไ็ มม่ อี นั ตรายอะไร ยกเวน้ คนทมี่ ีอุปาทาน กอ็ าจรู้สึกอึดอดั ทีเ่ คยมาแลว้ ไมม่ า

▪ ยาฝังคุมกาเนดิ
มีประสิทธิภาพและอาการขา้ งเคียงเช่นเดียวกบั ยาฉีด เหมาะสาหรบั คนทมี่ ีลูกแลว้ และตอ้ งการเวน้ ช่วงไม่มี

ลูกไปหลายๆ ปี แต่เดิมเป็นยา ๖ แท่ง ฝังเขา้ ใตผ้ ิวหนงั บริเวณขอ้ ศอก สามารถคมุ กาเนิดได้ ๕ ปี ปัจจบุ นั มียาชนิด
ใหม่ แท่งเดียว คมุ ได้ ๓ ปี การฝังก็ง่ายมากแท่งยาอยใู่ นเขม็ การฝังกค็ ลา้ ยการฉีดยา นาทเี ดียวก็เสร็จ

๒๓:

ยาฝังแบบเกา่ ๖ แท่ง จดุ ทฝ่ี ังยาใตผ้ ิวหนงั บริเวณขอ้ ศอก

Implanon แทง่ เดียว เทียบกบั ฝ่ามอื เหมือนฉีดยา เขม็ เดียว ๓ ปี

▪ ใส่ห่วงอนามยั ในโพรงมดลกู
กเ็ ป็นอกี ทางเลอื กสาหรบั คนทไ่ี ม่ตอ้ งการใชย้ า หรือมีอาการขา้ งเคยี งจากการใชย้ า หรือมขี อ้ หา้ มในการใชย้ า

เหมาะสาหรบั คนที่มีลูกแลว้ ห่วงอนามยั มีหลายชนิด ท้งั ชนิดไมม่ ีตวั ยา และชนิดท่มี ีตวั ยาฮอร์โมนร่วมดว้ ย โดยปกติ
ก็ใส่คร้ังละ ๓ ปี

ห่วงอนามยั แบบด้งั เดิม ห่วงอนามยั แบบใหม่ทมี่ ฮี อร์โมนดว้ ย

▪ ทาหมันหญงิ
กเ็ หมอื นฝ่ายชายคอื ผูกและตดั ท่อนาไข่ ทาหมนั แลว้ กเ็ ป็นหมนั ถาวรเลย ไมม่ ีหมนั ชว่ั คราวแบบผกู ๆ ไวก้ อ่ น

แบบ้นั ไม่มคี รบั การทาหมนั หญิงมสี องแบบคือหมนั เปี ยก ทาหลงั คลอด กบั หมนั แหง้ ทาตอนมรี อบเดือน ผล
คมุ กาเนิดได้ ๙๙.๙%

๒๔:

▪ การนบั วนั ปลอดภยั
ก็เป็นท่เี ขา้ ใจของคนทวั่ ไปวา่ ๗ หนา้ ๗ หลงั แต่ก็เพราะคาวา่ หนา้ ๆหลงั ๆ น่ีแหละทที่ าใหเ้ ขา้ ใจผิดกนั มา

โดยตลอด การนบั ๗ หลงั นี่เขานบั ๗ วนั นบั ต้งั แต่วนั แรกทรี่ อบเดือนมา ไมใ่ ช่นบั จากวนั หมดรอบเดือนนะครบั

หลกั การก็คือเวน้ การมเี พศสมั พนั ธ์ช่วงท่ไี ขน่ ่าจะตก
ปกติเมือ่ มไี ข่ตกแลว้ ไมม่ กี ารผสม อกี ๑๔ วนั เลือดก็จะมา (ไม่ใช่มีรอบเดือน14วนั แลว้ ไขจ่ ะตก)
การคุมกาเนิดแบบน้ีใชไ้ ดก้ บั คนทม่ี รี อบเดือนมาสม่าเสมอเท่าน้นั ประเภทมาไมแ่ น่นอนใชไ้ มไ่ ด้
การจะใชช้ ่วงกอ่ นรอบเดือนมา ก็แปลว่าคนน้นั ตอ้ งสามารถกะไดว้ า่ คราวหนา้ เลือดจะมาเมื่อไร

• กอเอย๊ี ะคมุ กาเนิด หรือแผ่นแปะคุมกาเนดิ
มีปริมาณยาเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจนเช่นเดียวกบั ยาเมด็ คมุ กาเนิด ใชแ้ ปะผิวหนงั บริเวณสะโพก หนา้

ทอ้ ง แผน่ ละ ๑ สปั ดาห์ แปะ ๓ แผน่ ๓ สปั ดาห์เวน้ ไม่แปะหน่ึงสปั ดาห์
• ถุงยางอนามยั สตรี ก็เป็นอีกทางเลือกของหญิงท่ีฝ่ายชายไม่ยอมคุมกาเนิดหรือไมย่ อมใชถ้ งุ ยางอนามยั หรือ

แม่บา้ นทมี่ ีพ่อบา้ นชอบเท่ยี ว เป็นการป้องกนั ตนเอง แตก่ ารใชก้ ็คอ่ นขา้ งยงุ่ ยากเช่นเดียวกนั

๒๕:

การคมุ กาเนดิ ชนิดอืน่ ท่ไี ม่มีใช้ในเมืองไทย
• ยาคุมใส่ในโพรงมดลกู มตี วั ยา levonorgestrel ซ่ึงค่อยๆซึมออกมา ใส่คร้ังเดียวให้ผลการคมุ กาเนิด ๙๙%

เป็นเวลาถงึ ๕ ปี (levonorgestrel-releasing intrauterine system)

• ห่วงสอดช่องคลอด (vaginal ring) เป็นวงแหวนใส่ช่องคลอด เป็นอกี ทางเลอื ก สาหรับคนท่ีไมอ่ ยากกินยา
หรือไม่อยากกินยาทุกวนั มลี กั ษณะเป็นวงแหวนขนาดเลก็ มีความยืดหยนุ่ ตวั แหวนจะปล่อยยาออกมา ๒ ตวั คือ EE
ปริมาณ ๑๕ ไมโครกรัม และ etonogestrel ๑๒๐ ไมโครกรมั ออกมาทุกวนั สอดช่องคลอด ๓ สัปดาห์ เวน้ หน่ึง
สปั ดาห์

• ตวั ยาฆ่าอสุจิ (spermicidal) เป็นสารเคมีที่มคี ณุ สมบตั ิสามารถฆา่ ตวั อสุจิได้ ใชโ้ ดยใส่เขา้ ช่องคลอด มี
หลายรูปแบบ ท้งั แบบแผ่น แบบโฟม แบบเจล แบบเมด็ ฟู ไม่มจี าหน่ายในเมืองไทย แตถ่ ึงมีก็ไม่นา่ ใชเ้ พราะถา้ ใช้
บอ่ ยๆสารเคมีเหล่าน้ีจะกดั ผนงั ช่องคลอดทาใหเ้ กิดรอยถลอก เส่ียงต่อการตดิ เอดส์มากทเี ดียว

• ฟองน้าคมุ กาเนิด (Contraceptive sponge) เป็นกอ้ นฟองน้ารูปหมอนกลมแบน มขี นาดเล็ก มีตวั ยาฆา่ อสุจิ
เคลือบดว้ ย

• ฝาครอบปากมดลูก (Cervical Cap) เหมือนหมวกครอบปากมดลกู ป้องกนั ตวั อสุจิไมใ่ ห้เลด็ ลอดเขา้ โพรง
มดลกู หรือแมเ้ ขา้ ไดก้ ็ปริมาณนอ้ ยมาก มีหลายรูปแบบหลายขนาดอาจมตี วั ยาฆ่าอสุจิร่วมดว้ ยกไ็ ด้ การใชค้ ่อนขา้ ง
ยงุ่ ยากและตอ้ งอาศยั ประสบการณค์ อ่ นขา้ งมาก

ทม่ี า: ห้องสมดุ อิเล็กทรอนกิ ส์ <http://www.elib-online.com/doctors45/lady_preg003.html>

เอกสารประกอบ ๒.๒

สิทธิอนามัยเจริญพันธ์ุ
โดย ณัฐยา บญุ ภกั ดี

ในตอนทีแ่ ลว้ ไดเ้ ขยี นถึงการยกร่างพระราชบญั ญตั คิ ุม้ ครองอนามยั เจริญพนั ธุ์ ซ่ึงเป็นความพยายามที่
ดาเนินการตอ่ เนื่องมากว่าสามปี แลว้ และหลงั การเลอื กต้งั เชื่อวา่ จะสามารถเร่ิมกระบวนการรบั ฟังความคดิ เห็นภาค
ประชาชนทมี่ ตี ่อร่างพระราชบญั ญตั ิน้ีได้ แต่คนส่วนใหญ่กย็ งั ไมม่ คี วามรู้ความเขา้ ใจมากพอทจี่ ะใหค้ วามเห็นอยา่ งมี

๒๖:

คุณภาพต่อร่างกฎหมายอนามยั เจริญพนั ธุ์ได้ เพราะที่ผา่ นมามีการให้ขอ้ มลู นอ้ ยมากไมว่ า่ จะจากภาครัฐหรือองคก์ ร
พฒั นาเอกชนที่ทางานเกี่ยวขอ้ งกบั เรื่องน้ี

ประเด็นสาคญั คอื ประชาชนตอ้ งมคี วามรู้ความเขา้ ใจวา่ คนทกุ คนน้นั มสี ิทธิโดยพ้ืนฐานของความเป็นคนที่
จะมี "อนามยั เจริญพนั ธุ์" ทด่ี ี หรือจะเรียกว่า "สิทธิอนามยั เจริญพนั ธุค์ ือสิทธิมนุษยชน" (reproductive rights are
human rights) กไ็ มผ่ ิดอะไร

หากประชาชนท้งั หญงิ และชายเกิดความเขา้ ใจวา่ อนามยั เจริญพนั ธุส์ ่งผลตอ่ สุขภาพองคร์ วมของตนเอง และ
รู้วา่ ตนมสี ิทธิอนามยั เจริญพนั ธุอ์ ะไรบา้ ง กฎหมาย นโยบาย และมาตรการต่างๆทีจ่ ะเป็นบริการสาหรบั ประชาชนก็
จะมคี วามเป็นรูปธรรมที่เขม้ แข็ง สนองตอบตอ่ สภาพปัญหาและความตอ้ งการของประชาชนไดอ้ ยา่ งแทจ้ ริง

ในระดบั นานาชาติไดพ้ ูดกนั มานานแลว้ ว่า สิทธิมนุษยชนท่เี ก่ียวขอ้ งกบั สุขภาพเร่ืองเพศและการเจริญพนั ธุ์
น้นั ประกอบไปดว้ ยสิทธิมนุษยชนรวมกนั อย่างนอ้ ย ๑๒ ขอ้ คือ

๑. สิทธิในชีวิต คือตอ้ งไมม่ กี ารทาแทง้ ทไ่ี มป่ ลอดภยั ไมม่ ีผูห้ ญิงที่ตอ้ งทอ้ งท้งั ที่อายนุ อ้ ยเกินไป มาก
เกินไป หรือต้งั ทอ้ งถ่ีจนเกินไป

๒. สิทธิในเสรีภาพและความปลอดภยั โดยท้งั หญิงและชายตอ้ งเลอื กไดว้ ่าจะมเี พศสัมพนั ธ์หรือไม่มี มีกบั
ใคร มอี ยา่ งไร เป็นการมีเพศสมั พนั ธ์แบบที่จะนาไปสู่การมลี กู หรือไมม่ ลี กู ตอ้ งไมถ่ กู บงั คบั ใหม้ ีเพศสมั พนั ธแ์ มแ้ ต่
การบงั คบั โดยคขู่ องตนเอง การไม่ถูกบงั คบั ให้ทอ้ ง การไมถ่ กู บงั คบั ให้ทาแทง้ และการไมถ่ ูกบงั คบั ให้ทาหมนั

๓. สิทธิในความเสมอภาคและไม่ถูกเลอื กปฏิบตั ทิ ุกรูปแบบ ซ่ึงกินความไปถึงโอกาสที่เทา่ เทยี มกนั ใน
การศึกษา การทางาน การไมถ่ ูกไลอ่ อกจากงานเพราะต้งั ทอ้ ง การไมต่ อ้ งขออนญุ าตสามหี รือภรรยาถา้ อยากคมุ กาเนิด
หรือทาหมนั การแบ่งงานกนั ทาไดโ้ ดยไม่ตอ้ งแยกวา่ งานของผชู้ าย งานของผหู้ ญงิ

๔. สิทธิในความเป็นส่วนตวั คอื การบริการดูแลเรื่องอนามยั เจริญพนั ธุ์ท้งั หมดน้นั ตอ้ งเคารพความเป็น
ส่วนตวั และการตดั สินใจของผรู้ ับบริการ ท้งั เรื่องการคุมกาเนิดและการทาแทง้ รวมท้งั การรักษาความลบั ของ
ผรู้ ับบริการดว้ ย ท่ีสาคญั ท่สี ุด ขอ้ มูลสุขภาพทางเพศของผรู้ ับบริการท่เี ป็นวยั รุ่น ตอ้ งถือเป็นขอ้ มูลส่วนตวั ที่ห้าม
เปิ ดเผยต่อผอู้ ื่น

๕. สิทธิในเสรีภาพแห่งการคิด มคี วามหมายวา่ ทุกคนมีเสรีภาพในการคิด และการแสดงความคดิ เก่ียวกบั
ชีวิตในดา้ นเพศและอนามยั เจริญพนั ธุ์ อยา่ งเป็นอิสระจากการถกู บบี บงั คบั ทางความคดิ ระบบความเช่ือ และศาสนา
ผใู้ ห้บริการเอง ไมว่ า่ จะเป็นแพทยห์ รือพยาบาลตา่ งกเ็ ป็นคนๆหน่ึงและดงั น้นั จึงมสี ิทธิทจ่ี ะปฏิเสธการใหบ้ ริการท่ี
ขดั แยง้ กบั ความคิดความเช่ือของตนเอง แตย่ กเวน้ ในกรณีฉุกเฉินเส่ียงตอ่ ชีวิต

๖. สิทธิในการไดร้ บั ขอ้ มลู ข่าวสารและการศึกษา สิทธิขอ้ น้ีหมายความว่าทุกคน โดยเฉพาะผชู้ ายตอ้ ง
ไดร้ บั การศึกษาเพอ่ื เตรียมความพร้อมให้มีความรบั ผดิ ชอบในพฤติกรรมทางเพศของตน เดก็ และวยั รุ่นตอ้ งไดร้ บั
ขอ้ มูลที่เหมาะสมตามวยั ที่สาคญั แม่วยั รุ่นตอ้ งไดร้ ับการดแู ลเป็นพเิ ศษจากครอบครวั ชุมชน และรัฐ

๗. สิทธิในการเลอื กว่าจะแตง่ งานหรือไม่และสิทธิการสร้างครอบครัวของตนเอง นน่ั คือ คนทกุ คนมสี ิทธิ
ที่จะไมถ่ กู บงั คบั ให้แตง่ งาน คนทุกคนมสี ิทธิท่ีจะไมถ่ ูกบงั คบั ให้ใชช้ ีวิตคกู่ บั คนทีต่ นไม่ตอ้ งการ และบุคคลทมี่ ีความ
พร้อมและความรบั ผดิ ชอบควรมอี ิสระในการตดั สินใจแตง่ งานหรืออยกู่ ินกนั

๒๗:

๘. สิทธิในการตดั สินใจวา่ จะมีบตุ รหรือไม่และจะมีเมอ่ื ใด หมายความวา่ คนทกุ คนมีสิทธิ ทีจ่ ะตดั สินใจ
อยา่ งเป็นอสิ ระว่าจะมลี ูกหรือไม่ เวน้ ระยะห่างอยา่ งไร เป็นสิทธิของตนซ่ึงไมจ่ าเป็นตอ้ งขออนุญาตจากค่สู มรสก่อน
รับบริการวางแผนครอบครวั ประเดน็ สาคญั อยตู่ รง การตดั สินใจอยา่ งเป็นอสิ ระและมีความรบั ผดิ ชอบคอื กุญแจ
สาคญั และถอื เป็นหนา้ ทข่ี องรฐั ท่ตี อ้ งดแู ลดา้ นสวสั ดิการวางแผนครอบครัว

๙. สิทธิทจ่ี ะไดร้ ับการดแู ลรกั ษาและการป้องกนั สุขภาพ นน่ั คอื คนทุกคนมีสิทธิไดร้ บั บริการสุขภาพดา้ น
เพศและอนามยั การเจริญพนั ธุท์ ไ่ี ดม้ าตรฐานสูงสุด เพื่อให้มีชีวิตดา้ นเพศและการเจริญพนั ธุท์ ปี่ ลอดภยั มคี วามพึง
พอใจ

๑๐. สิทธิในการไดร้ บั ประโยชน์จากความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ และไมถ่ กู บบี บงั คบั ให้เขา้ ร่วมการ
ทดลอง โดยบุคคลตอ้ งไดร้ ับประโยชน์จากขอ้ มลู ข่าวสารและความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ท่จี ะช่วยใหม้ ีสุขภาพดี
ไมต่ กอยใู่ นอนั ตรายหรือไดร้ ับผลกระทบเชิงลบตอ่ สุขภาพและชีวิต

๑๑. สิทธิในเสรีภาพในการชุมนุมและการมีส่วนร่วมทางการเมอื ง โดยบุคคลมสี ิทธิในการชุมนุมอยา่ งสงบ
มสี ิทธิในการรวมกลุ่ม ท่ีมจี ุดมงุ่ หมายเพือ่ รณรงคด์ า้ นสุขภาพทางเพศและอนามยั เจริญพนั ธุ์ และการหาหนทางให้
เร่ืองสิทธิและสุขภาพทางเพศและอนามยั เจริญพนั ธุ์เป็นวาระแห่งชาติ

สุดทา้ ย สิทธิขอ้ ที่
๑๒. สิทธิในการปลอดจากการถกู ทารุณกรรม และการปฏบิ ตั มิ ิชอบ ไดแ้ ก่ คนทกุ คนมีสิทธิทจี่ ะไมถ่ กู
ลว่ งละเมดิ ท้งั ทางกายและใจ ไม่วา่ จะจากคู่ของตน หรือคนอ่ืน มสี ิทธิทจี่ ะไมถ่ ูกบงั คบั ให้มีความสมั พนั ธท์ างเพศ
และความสัมพนั ธ์ในระหวา่ งคู่สมรสตอ้ งอยบู่ นฐานของความเสมอภาค เสรีภาพ และความเคารพซ่ึงกนั และกนั
ดงั ท่ีกล่าวไปแลว้ ว่า สิทธิอนามยั การเจริญพนั ธุน์ ้นั ไมไ่ ดเ้ กิดข้นึ ลอยๆ แต่เป็นสิทธิที่ไดร้ ับการประกาศไว้
แลว้ ในปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชน รฐั บาลทล่ี งนามรับรองปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชนจึงตอ้ งหาทาง
สร้างกลไกพิทกั ษป์ กป้องสิทธิอนามยั เจริญพนั ธุ์ของคนในชาติดว้ ย
เป้าหมายใหญ่ของการคุม้ ครองสิทธิอนามยั เจริญพนั ธุ์ คอื การท่คี นทุกคนสามารถมีชีวิตดา้ นเพศที่มี
ความสุขและไมอ่ ยใู่ นความเสี่ยงหรือความรุนแรง ไม่ถูกบีบบงั คบั ไม่ตอ้ งหวาดกลวั วา่ จะทอ้ งหรือตดิ เช้ือโรคตดิ ตอ่
ทางเพศสมั พนั ธ์ รวมถงึ สามารถกาหนดเรื่องการมีลูกของตนเองไดว้ ่าจะมหี รือไม่ มีเมอ่ื ไร มกี ี่คน
สิทธิอนามยั เจริญพนั ธุ์จึงเป็นเหมอื นกรอบในการทางานของรัฐเพ่อื ม่งุ สูการมีสุขภาพทางเพศและการเจริญ
พนั ธุท์ ีด่ ีของประชาชนนนั่ เอง

(บทความจากคอลัมน์เสียงสตรี นสพ. โพสต์ทูเดย์ วนั เสาร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘)

๒๘:

หน่วยที่ ๓ สุขภาพทางเพศ เอดส์และโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์

สาระสาคญั
ขอ้ มูลและการรับรู้เรื่องโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์และเอชไอว/ี เอดส์ ยงั คงมคี วามเขา้ ใจผดิ อยหู่ ลายอยา่ ง ซ่ึง

นาไปสู่โอกาสเส่ียงต่อการรับเช้ือมากข้ึน เช่น การคิดวา่ เอดส์เป็นเรื่องของคนบางกลมุ่ ทเ่ี รียกว่า “กลุ่มเส่ียง” เช่น
กลมุ่ คนขายบริการทางเพศ นกั เท่ยี ว คนทม่ี คี นู่ อนหลายคน คนใชย้ าเสพติดและคนรักเพศเดียวกนั หรือเชื่อว่าเรา
สามารถบอกไดว้ ่าใครมีเช้ือเอชไอวี เพราะความไมเ่ ขา้ ใจความแตกตา่ งระหวา่ ง “ผตู้ ิดเช้ือ” กบั “ผปู้ ่ วยเอดส์”

ท้งั น้ี ในความเป็นจริง เราไมส่ ามารถบอกไดว้ า่ ใครมีเช้ือ นอกจากการไปตรวจเลือดหาเช้ือเท่าน้นั และทุก
คนมโี อกาสเสี่ยงที่จะไดร้ บั เช้ือโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์และเอชไอวไี ด้ ถา้ หากตวั เราไปมีเพศสมั พนั ธแ์ บบไม่ไดใ้ ช้
ถุงยางป้องกนั กบั คนทมี่ ีเช้ือ ซ่ึงไมส่ ามารถดไู ดจ้ ากภายนอก และวธิ ีการทีด่ ีทส่ี ุดในการป้องกนั การตดิ เช้ือโรคติดตอ่
ทางเพศสัมพนั ธ์และเอชไอวี คอื การไมม่ ีเพศสัมพนั ธ์ หรือการใชถ้ ุงยางอนามยั ทุกคร้งั ท่มี ีเพศสัมพนั ธ์

นอกจากน้ี ความกงั วลใจต่อเรื่องเอดส์ของคนส่วนใหญ่เป็นเร่ืองเก่ียวกบั การติดตอ่ และไม่ตดิ ตอ่ ซ่ึงเป็นผล
จากการขาดขอ้ มลู ทีช่ ดั เจน หรือไดร้ ับขอ้ มลู ทไี่ มถ่ กู ตอ้ ง อนั อาจส่งผลให้เกิดทศั นะเชิงลบตอ่ ผตู้ ิดเช้ือเอชไอวี
นาไปสู่การรงั เกียจกีดกนั หลกั การวิเคราะห์โอกาสเสี่ยง (QQR) จะช่วยในการทาความเขา้ ใจเร่ืองโอกาสเส่ียงในการ
ตดิ เช้ือไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

วตั ถุประสงค์
๑. ระบโุ อกาสเสี่ยงตอ่ การตดิ เช้ือเอชไอวีและโรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธ์
๒. ระบุปัจจยั ท่สี ่งผลตอ่ การตดิ เช้ือและการแพร่ระบาดของโรคเอดส์
๓. อธิบายหลกั การ QQR เพื่ออธิบายโอกาสเสี่ยงในการรบั เช้ือเอชไอวแี ละความเป็นไปไดท้ ่จี ะเกิดข้นึ จาก

พฤตกิ รรมตา่ งๆ ในการดาเนินชีวิตประจาวนั
๔. ระบุวิธีลดโอกาสเสี่ยงและอธิบายความสาคญั ของการใชถ้ งุ ยางอนามยั ทุกคร้ังท่ีมเี พศสมั พนั ธ์
๕. มนั่ ใจในการดาเนินชีวิตร่วมกบั ผตู้ ดิ เช้ือในสงั คมเดียวกนั

เนื้อหา
๑. ความรู้ทวั่ ไปเก่ียวกบั โรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์และโรคเอดส์: การติดต่อ อาการ วิธีการป้องกนั
๒. การวิเคราะหโ์ อกาสเส่ียงตอ่ การเกิดโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพนั ธแ์ ละโรคเอดส์: ช่องทางการรบั เช้ือ การแพร่

ระบาด
๓. ผลกระทบจากโรคเอดส์ : การอยรู่ ่วมกบั ผตู้ ดิ เช้ือ

๒๙:

ประเดน็ สาคญั
๑. เราไมส่ ามารถบอกไดว้ า่ ใครมีเช้ือเอชไอวีอยู่ โดยการดจู ากรูปลกั ษณภ์ ายนอก หรือสงั เกตอาการต่างๆ

วธิ ีการเดียวที่จะบอกไดว้ ่าใครมีเช้ือเอชไอวี คอื การตรวจเลือดหาเช้ือเอชไอวี
๒. การมีเพศสัมพนั ธ์กบั คู่เพยี งคนเดียว หรือการมีเพศสัมพนั ธค์ ร้งั แรกกอ็ าจมโี อกาสไดร้ ับเช้ือเอชไอวีไดห้ าก

เราไมป่ ้องกนั โดยใชถ้ ุงยางอนามยั ท้งั น้ี เพราะเราไม่รู้ว่าคูท่ เ่ี รามเี พศสัมพนั ธ์ดว้ ยมเี ช้ือหรือไม่ เคยมีหรือยงั มี
เพศสัมพนั ธก์ บั คนอน่ื อยอู่ ีกนอกจากเรา เป็นเพศสมั พนั ธค์ ร้ังแรกของเขาเหมอื นเราหรือไม่

๓. โอกาสเส่ียงตอ่ การรบั เช้ือเอชไอวี คือ การมีเพศสัมพนั ธโ์ ดยไม่ป้องกนั กบั คนท่มี ีเช้ือซ่ึงไมส่ ามารถดอู อกได้
จากภายนอก ดงั น้นั ทกุ คนที่มีพฤตกิ รรมดงั กลา่ วคอื การเพศสัมพนั ธโ์ ดยไมใ่ ชถ้ ุงยางอนามยั ป้องกนั จึงมโี อกาสเสี่ยง
เทา่ กนั คนท่มี โี อกาสเส่ียงจึงไมใ่ ช่ “กลมุ่ เส่ียง” แต่เป็นคนท่ีมี “พฤติกรรมเส่ียง”

๔. ผตู้ ิดเช้ือทอี่ ยใู่ นสงั คมร่วมกบั เราอาจไม่ทราบว่าตวั เองรบั เช้ือมาแลว้ เพราะไมไ่ ดไ้ ปตรวจเลือด ใน
ขณะเดียวกนั เขาก็สามารถแพร่เช้ือใหก้ บั คทู่ มี่ ีเพศสัมพนั ธ์ดว้ ยได้ การคน้ หาวา่ ใครเป็นผูแ้ พร่เช้ือจึงทาไดย้ ากและไม่
จาเป็น ดงั น้นั “การป้องกนั ตนเอง” เช่น การใชถ้ ุงยาง การไม่มีเพศสมั พนั ธ์ จึงเป็นส่ิงที่ทกุ คนควรทา เพราะเป็นการ
รับผดิ ชอบชีวติ ทางเพศของตนเองและคู่

๕. การรบั รู้จากประสบการณท์ ี่สืบทอดผา่ นกนั มาดว้ ยคาพูด ส่ือ ภาพ การรณรงค์ อาจทาให้เกิดความเขา้ ใจ
ผิดพลาดเก่ียวกบั โรคเอดส์หลายประเด็น เช่น ภาพลกั ษณข์ องผูต้ ดิ เช้ือ ผูป้ ่ วยเอดส์ตอ้ งผอมเกรียม ดา มีแผลพพุ อง
หากเป็นคนท่สี วยใสหรือร่างกายสมบูรณ์แขง็ แรงไม่น่าจะมีเช้ือเอดส์ คนทม่ี พี ฤตกิ รรมทางเพศกบั คนหลายคน
เท่าน้นั จึงจะมโี อกาสตดิ เช้ือเอชไอวี แตค่ นที่รักเดียวใจเดียวจะปลอดภยั จากเอดส์ ดงั น้นั จึงจาเป็ นตอ้ งแยกแยะ
“ขอ้ เท็จจริง” และ “ความคิดเห็นหรือความเช่ือ” ให้กระจ่างชดั

๔. “ผตู้ ิดเช้ือ” กบั “ผปู้ ่ วยเอดส์” มีความหมายแตกตา่ งกนั “ผตู้ ดิ เช้ือ” หมายถึง ผูท้ ี่มีเช้ือเอชไอวีอยใู่ นร่างกาย
แตย่ งั คงแข็งแรง และอาจไม่แสดงอาการใดๆ เป็นเวลาหลายปี ในขณะท่ี “ผปู้ ่ วยเอดส์” หมายถึงคนท่ีติดเช้ือมาระยะ
หน่ึงแลว้ และภมู ิคุม้ กนั ถูกทาลายจากเช้ือเอชไอวี ทาให้เกิดการตดิ เช้ือโรคฉวยโอกาส ซ่ึงสามารถรกั ษาให้หายได้

๕. การตรวจเลอื ดเอชไอวีเป็นวิธีเดียวเทา่ น้นั ทจี่ ะรู้ว่าใครมเี ช้ือเอชไอวี และตอ้ งตรวจหลงั จากมพี ฤตกิ รรมเสี่ยง
อยา่ งนอ้ ย ๓ เดือน การตรวจเลือดเป็นการบอกสถานะการติดเช้ือในอดีตจนถงึ ๓ เดือนก่อนตรวจ และไมเ่ กี่ยวขอ้ ง
กบั พฤตกิ รรมในอนาคต การตรวจเลือดจึงมใิ ช่วิธีป้องกนั ผลเลอื ดบวก หมายถงึ ไดร้ ับเช้ือ แตผ่ ลเลือดลบ อาจ
หมายถึง ยงั ไม่ไดร้ บั เช้ือมาจนถงึ ๓ เดือนก่อนตรวจ หรือไดร้ ับเช้ือแลว้ แต่ยงั ตรวจไม่พบ

๖. ทางเลอื กในการลดโอกาสเส่ียงทีท่ าไดจ้ ริงและสอดคลอ้ งกบั ชีวติ ของผเู้ ขา้ ร่วมอบรมแต่ละคน คอื การทีค่ น
จะปลอดภยั ตอ้ งทาให้เห็นโอกาสเส่ียงท่ีแทจ้ ริงและวธิ ีการลดโอกาสเสี่ยงท่เี ป็นจริง

๗. กิจกรรมทางเพศท่ีไม่มกี ารสอดใส่ เช่น จบู ปาก การสัมผสั ภายนอก หรือการทา oral sex เมอื่ พจิ ารณาความ
เสี่ยงโดยใชห้ ลกั การQQR แลว้ จะพบวา่ การกระทาหรือพฤติกรรมทางเพศเหลา่ น้ีอยใู่ นระดบั เสี่ยงนอ้ ยมากจนแทบ
ไมม่ เี ลย แต่กิจกรรมเหลา่ น้นั มกั เป็นส่วนหน่ึงของข้นั ตอนเริ่มตน้ ของการมเี พศสมั พนั ธ์ ซ่ึงอาจนาไปสู่การมี
เพศสัมพนั ธ์แบบสอดใส่ ประเด็นสาคญั จึงเป็นความตระหนกั รู้ถงึ โอกาสท่ีจะนาไปสู่การมีเพศสมั พนั ธ์ และการ
เตรียมตวั ป้องกนั

๓๐:

เอกสารประกอบ ๓.๑ การท่ีคนๆ หน่ึงจะได้รบั เชือ้ HIV เข้าส่รู ่างกายจะต้อง
ประกอบด้วย ๓ ปัจจยั ดงั นี้

ปริมาณของเชือ้ คณุ ภาพของเชือ้ ช่องทางการติดต่อ

(Quantity) (Quality) (Route of Transmission)

▪ เชื้อ HIV อยใู่ นคนเท่านัน้ เชื้อ HIV ต้องมี คณุ ภาพพอ ไวรสั HIV จะต้องถกู
(เกาะอยกู่ บั เมด็ เลือดขาว) ส่งผา่ นจากคนที่ติดเชื้อ
▪ เช้ือ HIV ไม่สามารถมีชีวิต
▪ เชือ้ HIV อยใู่ นสารคดั หลงั่ อย่นู อกรา่ งกายคนได้ ไปยงั อีกคนหนึ่ง โดยเชื้อ
บางอย่างในรา่ งกายของคนท่ี จะต้องตรงเข้าส่กู ระแส
มีเชือ้ HIV เช่น เลือด น้าอสุจิ ▪ สภาพในรา่ งกาย และ
น้าในช่องคลอด น้านมแม่ สภาพแวดล้อม บางอย่างมี เลือด
ซ่ึงมีปริมาณท่ีไม่เท่ากนั ผลทาให้เช้ือไม่สามารถอยู่ • เลือด
ได้ เช่น กรดในน้าลาย • เพศสมั พนั ธ์
▪ ต้องมีจานวนเชื้อ HIV ใน กระเพาะอาหาร สภาพ • แมส่ ่ลู กู
ปริมาณท่ีมากพอในสารคดั อากาศ ความรอ้ น ความ
หลงั่ ท่ีเป็นที่อยขู่ องเชือ้ แห้ง น้ายาต่างๆ

โอกาส/ความเป็นไปไดท้ ี่จะเกิดขึน้

๓๑:

หน่วย ๔ คติ อคติ ค่านยิ มเร่ืองเพศ/เพศสภาพ

สาระสาคญั
บทบาททางเพศเกิดจากการเล้ียงดู ตามพ้นื ฐานความเช่ือ ค่านิยม วฒั นธรรมประเพณี ทใ่ี หค้ ณุ คา่ ท่ีแตกต่าง

กนั ระหวา่ งเพศหญงิ และเพศชาย แต่สามารถเปลย่ี นแปลงไปตามเงือ่ นไขดา้ นสภาพแวดลอ้ ม สังคม และเศรษฐกิจ
เช่นเดียวกบั เพศสภาพท่มี ีรูปแบบหลากหลาย ไม่ไดจ้ ากดั เฉพาะเพศทถี่ ูกแบ่งโดยเง่ือนไขดา้ นสรีระเพียงอยา่ งเดียว

วตั ถปุ ระสงค์
๑. อธิบายอิทธิพลทางสงั คม วฒั นธรรม และกระบวนการเล้ยี งดทู ่ีส่งผลต่อความเป็นหญงิ ความเป็นชาย
๒. สารวจอคติ ความเช่ือ ค่านิยมท่มี ตี อ่ เพศสภาพแบบตา่ งๆ ไดแ้ ก่ เพศชาย เพศหญิง เพศทางเลอื ก
๓. แยกแยะความหมายคาวา่ “เพศสรีระ” และ “ความเป็นหญงิ ความเป็นชาย”
๔. เปิ ดใจยอมรบั ความหลากหลายทางเพศและเคารพความแตกตา่ ง

เนื้อหา
๑. คาและความหมาย: เพศสรีระ เพศสภาพ บทบาททางเพศ รสนิยมทางเพศ เพศทางเลอื ก เพศวิถี
๒. วิธีการเล้ยี งดทู ม่ี ีผลต่อการกาหนดบทบาททางเพศ
๓. กระบวนการหลอ่ หลอมทางสงั คมเกี่ยวกบั เร่ืองเพศ
๔. ผลกระทบจากการความแตกตา่ งดา้ นเพศ: การเขา้ ถงึ ทรัพยากร การประกอบอาชีพ หรือโอกาสทแี่ ตกตา่ งกนั

ประเด็นสาคญั
ทศั นคติ ความคดิ เห็น ความเช่ือทีม่ ีตอ่ เร่ืองเพศ หรือการกระทาตา่ งๆ ของคนแตล่ ะคน เกิดข้ึนจากการเล้ยี งดู การ

ใหค้ ุณคา่ ท่ไี มเ่ หมือนกนั เป็นการหล่อหลอมต้งั แตเ่ ดก็ จนเติบโตเป็นผใู้ หญ่ ซ่ึงไม่ใช่เรื่องท่จี ะตดั สินว่าถกู หรือผดิ
และตระหนกั ว่าทศั นคติหรือความคิดเห็นของเราน้นั ไม่ควรนาไปตดั สินผอู้ นื่ ดว้ ยเช่นกนั

๓๒:

หน่วย ๕ ตัวเรา รสนยิ มทางเพศ และความหลากหลายทางเพศ

สาระสาคญั
ความหลากหลายทางเพศ และรสนิยมทางเพศ ถือเป็นเร่ืองส่วนบุคคล ซ่ึงตระหนกั รู้และยอมรบั ในเพศ

สภาพของตนเอง สามารถมีความสุขกบั วิถที างเพศท่ีเป็นอยู่ โดยไมส่ ่งผลกระทบต่อสุขภาวะทางเพศของตนเองและ
ผอู้ น่ื การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมจึงตอ้ งให้ความเคารพบคุ คลท่ีมวี ถิ ีทางเพศแตกต่างกนั โดยปราศจากอคตทิ ่มี ตี ่อเรื่องเพศ

วัตถุประสงค์
๑. อธิบายความหมายและลกั ษณะของรสนิยมและความหลากหลายทางเพศ
๒. ยอมรับในตวั ตน ความหลากหลาย และรสนิยมทางเพศของตนเองและผอู้ นื่
๓. คาดการณถ์ งึ ผลกระทบท่เี กิดจากการเลือกปฏบิ ตั ิ มีอคติตอ่ เพศต่างๆ
๔. ปรับตวั และดาเนินชีวติ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุขในสังคมโดยไมล่ ะเมดิ สิทธิของผอู้ ่นื

เนื้อหา
๑. การสารวจตวั ตน ภาพลกั ษณ์ และรสนิยมทางเพศ
๒. ความหลากหลายทางเพศ รสนิยมทางเพศ: ความหมาย ลกั ษณะ
๓. สภาพปัญหาและผลกระทบ

ประเดน็ สาคัญ
๑. การใหค้ ณุ ค่าตอ่ ความเป็นเพศทแ่ี ตกต่างกนั และกาหนดกรอบว่าบทบาทเพศไหนตอ้ งเป็นอยา่ งไร มี

ผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาวะทางเพศ เช่น ขาดโอกาสเขา้ รับบริการเพ่อื ป้องกนั โรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ การไม่
สามารถส่ือสารความตอ้ งการหรือปัญหาของตนเอง การขาดอานาจการต่อรองเร่ืองเพศระหว่างคู่ ความเกบ็ กดและ
คบั ขอ้ งใจทีไ่ มไ่ ดร้ ับการยอมรับ

๒. ความเทา่ เทยี มทางเพศไม่ใช่เพียงแคก่ ารตดั สินวา่ ชายทาไดแ้ ลว้ หญงิ ทาได้ แตเ่ ป็นการปฏบิ ตั ิต่อบคุ คลทีม่ ี
ความแตกตา่ งกนั ดว้ ยมาตรฐานเดียวกนั

๓. ในสมยั กอ่ นน้นั เพศทางเลอื กถกู นิยามว่า เป็นความเบย่ี งเบนทางเพศหรือผดิ ปกติ ในปัจจุบนั นิยามน้ีถูก
เปล่ียนแปลงโดยกรมสุขภาพจิต ซ่ึงอธิบายวา่ เพศทางเลอื กเป็นความหลากหลายและรสนิยมทางเพศที่แตกต่างกนั
ของบุคคล ไม่ถอื เป็นความผิดปกติ

๔. ความเปล่ยี นแปลงเพศสรีระหรือเพศทางชีวภาพในปัจจุบนั เกิดข้นึ ไดด้ ว้ ยวิทยาการความกา้ วหนา้ ทาง
เทคโนโลยสี มยั ใหม่

๓๓:

เอกสารประกอบ ๕.๑

วิถที างเพศ กับ คาถามและคาตอบเกยี่ วกับการรักเพศเดียวกนั

วถิ ีทางเพศ (Sexual Orientation) คืออะไร
วถิ ที างเพศคือ ความรู้สึกทางอารมณ์ ความรู้สึกเสน่หา รกั ใคร่ หรือรู้สึกตดิ เน้ือตอ้ งใจต่อบุคคลหน่ึงทีด่ ารง

อยอู่ ยา่ งต่อเนื่อง วิถีทางเพศสามารถแยกออกจากองคป์ ระกอบอน่ื ๆ ไดแ้ ก่ เพศสรีระ หรือเพศท่ีถกู กาหนดโดยปัจจยั
ทางชีววทิ ยา ความเป็นตวั ตนในความเป็นผหู้ ญงิ ผชู้ าย (ความรู้สึกในใจว่าตนเองเป็นชาย เป็นหญิง) และบทบาท
ความเป็นผหู้ ญงิ ผชู้ ายทางสังคม (Social Gender Role) รวมไปถึงบรรทดั ฐานทางวฒั นธรรมของพฤตกิ รรมการ
แสดงออก ถงึ ความเป็นหญงิ ความเป็นชาย

วถิ ที างเพศดารงอยใู่ นส่ิงท่เี รียกไดว้ า่ เป็นความตอ่ เนื่อง จากปลายดา้ นของความเป็นคนรกั เพศเดียวกนั อยา่ ง
ไมเ่ ปล่ยี นแปลง ไปสู่ปลายดา้ นหน่ึงของความเป็นคนรกั ต่างเพศทไ่ี ม่เปลี่ยนแปลง โดยมรี ูปแบบความหลากหลาย
ของการมีความสมั พนั ธ์แบบรักไดท้ ้งั สองเพศอยทู่ ่ามกลางปลายสองดา้ นน้ี บุคคลที่รกั ไดท้ ้งั สองเพศสามารถจะมี
ประสบการณท์ างเพศและความรู้สึกเสน่หา และรู้สึกดึงดดู ไดจ้ ากบคุ คลท้งั สองเพศ คือท้งั เพศเดียวกนั กบั ตนเองและ
เพศตรงขา้ ม

บุคคลท่ีมวี ถิ ที างเพศเป็นคนรักเพศเดียวกนั บางคร้ังถกู เรียกว่า เกย์ (เป็นคาทใี่ ชไ้ ดก้ บั ท้งั เพศชายและเพศ
หญิง) หรือสาหรับหญิงจะเรียกว่า เลสเบ้ียน (ใชก้ บั ผูห้ ญิงเท่าน้นั ) วถิ ีทางเพศแตกตา่ งจากพฤติกรรมทางเพศ (Sexual
Behavior) เพราะวถิ ที างเพศ หมายถึงความรู้สึกนึกคดิ วา่ ตวั เองเป็นใคร ซ่ึงคนเราแตล่ ะคนอาจมีพฤติกรรมในการ
แสดงความรู้สึกน้นั ออกมาหรือไม่กไ็ ด้
วถิ ีทางเพศทร่ี ู้จกั โดยทวั่ ไปแบ่งเป็ นสามประเภท คือ

๑. รกั เพศเดียวกนั (Homosexual) คอื ความรู้สึกดึงดูดใจคนเพศเดียวกนั
๒. รกั ต่างเพศ (Heterosexual) คือ ความรู้สึกดึงดูดใจคนเพศตรงขา้ ม
๓. รักสองเพศ (Bisexual) คือ ความรู้สึกดึงดูดใจคนทมี่ เี พศเดียวกนั กบั ตน และคนทีต่ ่างเพศกบั ตน

ทาไมคนเราถึงมวี ถิ ีทางเพศทแี่ ตกต่างกัน
มที ฤษฎีหลายทฤษฎีเกี่ยวกบั สาเหตทุ ่มี าของการเกิดวิถีทางเพศ นกั วทิ ยาศาสตร์ส่วนใหญ่ในปัจจุบนั เช่ือว่า

“วิถีทางเพศ” น้นั น่าจะเป็นผลจากปฏสิ มั พนั ธ์ของสิ่งแวดลอ้ ม กระบวนการรบั รู้ และปัจจยั ดา้ นชีววิทยา วถิ ีทางเพศ
ของคนส่วนใหญ่มกั ก่อตวั ข้นึ ต้งั แตใ่ นวยั เยาว์ เม่ือเร็วๆ น้ีมหี ลกั ฐานจานวนมากที่เสนอวา่ ปัจจยั ทางชีววทิ ยา รวมท้งั
พนั ธุกรรม หรือปัจจยั ทางฮอร์โมนมบี ทบาทสาคญั มากตอ่ เร่ืองเพศของคน โดยสรุปแลว้ ส่ิงทค่ี วรพิจารณาเป็นอยา่ ง
ย่ิงก็คอื มเี หตุผลหลายอยา่ งที่เก่ียวขอ้ งกบั วถิ ที างเพศของคน ซ่ึงเหตุปัจจยั ตา่ งๆ เหล่าน้นั อาจแตกตา่ งไปสาหรับคนแต่
ละคนดว้ ย

การบาบดั รักษาสามารถเปลีย่ นแปลงวิถที างเพศ ได้หรือไม่
ไม่ได้ แมว้ า่ คนรักเพศเดียวกนั จานวนมากจะมชี ีวติ ท่ปี ระสบผลสาเร็จ มีความสุข แต่บางคน (รวมท้งั บคุ คล

รกั สองเพศบางคนดว้ ย) ก็ยงั คงแสวงหาหนทางท่จี ะเปลีย่ นแปลงวถิ ีทางเพศของตนเองดว้ ยการบาบดั รักษา บางคร้ัง

๓๔:

ความกดดนั ท่ีพวกเขาไดร้ บั กม็ าจากอิทธิพลของสมาชิกครอบครัว กลุ่มทางศาสนาทพ่ี ยายามจะเปล่ยี นแปลงพวกเขา
ความเป็นจริงกค็ อื การรักเพศเดียวกนั ไมใ่ ช่ความเจ็บป่ วย จึงไมไ่ ดต้ อ้ งการการรกั ษา และไม่สามารถที่จะเปลยี่ นแปลง
ได้

อยา่ งไรกต็ าม ไมใ่ ช่ชายรักชาย หญิงรกั หญิง และคนรกั สองเพศทุกคนทตี่ อ้ งการความช่วยเหลอื จากบุคลากร
ดา้ นสุขภาพจิต ในการท่จี ะเปล่ยี นแปลงวิถีทางเพศของพวกเขา บางคนอาจมองหาความช่วยเหลอื จากนกั วิชาชีพ
จิตวทิ ยา ในกระบวนการเปิ ดเผยความเป็นตวั ตนของตนเอง หรือเพื่อหาวิธีการทจี่ ะจดั การกบั อคติ แต่พวกเขาส่วน
ใหญไ่ ปพบกบั นกั วชิ าชีพดา้ นจิตวิทยาดว้ ยเหตุผล และปัญหาชีวติ แบบเดียวกนั กบั ที่คนรกั ต่างเพศไปพบนกั วชิ าชีพ
ดา้ นจิตวิทยา
อะไรคือสิ่งทเี่ รียกว่า “การบาบัดรักษาแบบประเพณเี ดมิ ”

นกั จิตบาบดั ผเู้ คยมีประสบการณ์ในการรักษาแบบทเี่ รียกว่า “การรักษาแบบประเพณีเดิม” รายงานวา่ พวก
เขาสามารถเปลีย่ นวถิ ีทางเพศจากการเป็นคนรักเพศเดียวกนั ไปสู่การเป็นคนรกั ต่างเพศได้ อยา่ งไรก็ตาม เม่ือ
ตรวจสอบรายงานเหล่าน้นั โดยละเอียดแลว้ พบว่ามปี ัจจยั หลายอยา่ งท่ีจดั ว่าน่าสงสัยในคากล่าวอา้ งของพวกเขา
เหลา่ น้นั ตวั อยา่ งเช่น คากล่าวอา้ งหลายอนั มาจากองคก์ รซ่ึงมมี มุ มองเชิงอุดมคติทป่ี ระณามการรกั เพศเดียวกนั ย่ิงไป
กว่าน้นั หลกั ฐานทางเอกสารทรี่ องรบั คากล่าวอา้ งของพวกเขาออ่ นมาก ตวั อยา่ งเช่น ไมไ่ ดม้ ีการตดิ ตามผลของการ
รักษา หรือไม่มรี ายงานถงึ สภาพของปัญหานอกเวลาการทางานอยา่ งซ่ึงจะเป็นมาตรฐานในการตรวจสอบยืนยนั ผล

สมาคมจิตวิทยาแห่งอเมริกาไดค้ านึงถงึ การให้การรกั ษาในลกั ษณะน้ี วา่ จะมีแนวโนม้ ทีเ่ ป็นผลร้ายต่อคนไข้
ได้ ในปี ค.ศ. ๑๙๙๗ สภากรรมการของตวั แทนสมาคมไดอ้ อกผลการพิจารณา ซ่ึงยืนยนั วา่ มีการรักษาซ่ึงมคี วาม
เกลียดกลวั คนรักเพศเดียวกนั และเป็นการละเมดิ สิทธิของคนไขท้ ่ีจะไดร้ ับการรักษาโดยปราศจากอคติ และคนไข้
สามารถกาหนดแนวทางการรกั ษาได้ บคุ คลใดกต็ ามที่เขา้ มารบั การรกั ษาและจะตอ้ งเกี่ยวขอ้ งกบั ประเดน็ เรื่องวิถที าง
เพศมสี ิทธิทจ่ี ะคาดหวงั ว่า การรกั ษาน้นั จะตอ้ งเกิดข้นึ อยา่ งเป็นกลางปราศจากซ่ึงอคติทางสังคมใดๆ
การรักเพศเดยี วกนั เป็ นอาการป่ วยทางจติ หรือเป็ นปัญหาทางอารมณ์ หรือไม่

ไม่ใช่ นกั จิตวทิ ยา นกั สุขวิทยาจิต และผเู้ ชี่ยวชาญทางดา้ นสุขภาพจิต เห็นตรงกนั วา่ การรักเพศเดียวกนั
ไมใ่ ช่ความเจบ็ ป่ วย ความผิดปกติ หรือเป็นปัญหาทางอารมณ์ เป็นเวลากว่า ๓๕ ปี มาแลว้ ทีม่ รี ายงานการวิจยั แนววตั ถุ
ภววิสัย (Objective Scientific Research) หรืองานทย่ี ดึ หลกั ฐานขอ้ เท็จจริงภายนอกซ่ึงช้ีให้เห็นวา่ การรกั เพศเดียวกนั
ไม่มสี ่วนเก่ียวขอ้ งกบั ความผิดปกตทิ างจิต ทางอารมณ์ หรือเป็นปัญหาทางสังคมแต่อยา่ งใด

คร้ังหน่ึงการรักเพศเดียวกนั (Homosexuality) ถูกเขา้ ใจผิดว่าเป็นอาการป่ วยทางจิต เน่ืองจากในสมยั ก่อน
การศึกษาเรื่องชายรักชาย หญิงรกั หญงิ และบุคคลรกั สองเพศมกั จะไดข้ อ้ มูลแต่เฉพาะจากคนทมี่ ารบั การรักษา
ขอ้ สรุปที่ไดม้ าจึงเป็นขอ้ สรุปท่มี ีอคติตอ่ คนกลุ่มน้ี และเม่อื นกั วจิ ยั ไดม้ โี อกาสศกึ ษาขอ้ มูลเก่ียวกบั เกยแ์ ละเลสเบ้ียน
ในกล่มุ ท่ีไม่ไดต้ อ้ งการบาบดั รกั ษา จึงพบว่า ความคิดในประเด็นเรื่องการเป็นคนรกั เพศเดียวกนั ว่าเป็นความป่ วยไข้
ทางจิตน้นั เป็นความเขา้ ใจทีไ่ ม่ถูกตอ้ ง

ในปี ค.ศ.๑๙๗๓ (หรือ พ.ศ.๒๕๑๖) สมาคมสุขจิตวิทยาแห่งอเมริกา (American Psychiatric Association)
ไดอ้ อกมายืนยนั ผลการวิจยั ใหมๆ่ และสนบั สนุนให้ถอดถอนคาว่า homosexuality ออกจากคู่มอื การรกั ษาอาการป่ วย

๓๕:

ทางจิตอยา่ งเป็นทางการ และในปี ค.ศ ๑๙๗๕ (หรือ พ.ศ.๒๕๑๘) สมาคมจิตวิทยาแห่งอเมริกา (The American
Psychological Association) ไดล้ งมติสนบั สนุนดว้ ยเช่นกนั และนบั เป็นเวลามากกวา่ ๒๕ ปี มาแลว้ ที่สองสมาคมน้ี
ไดผ้ ลกั ดนั ใหบ้ ุคลากรทางดา้ นสุขภาพจิตท้งั หลาย ช่วยกนั ลบลา้ งความเขา้ ใจผิดเกี่ยวกบั คนรักเพศเดียวกนั หรือการท่ี
บคุ คลรกั เพศเดียวกนั ถกู ตตี ราวา่ เป็นความป่ วยไขท้ างจิตออกจากความคิดของคนทวั่ ไป
ชายรักชาย และหญิงรักหญงิ สามารถเป็ นพ่อแม่ทีด่ ีได้หรือไม่

คาตอบคอื ได้ ผลการศกึ ษาวิจยั หลายชิ้นทดลองเปรียบเทียบกลุ่มเด็กท่ไี ดร้ บั การเล้ยี งดโู ดยผูป้ กครองทีเ่ ป็น
คนรกั เพศเดียวกนั กบั กลุ่มเดก็ ทไี่ ดร้ ับการเล้ียงดูโดยผูป้ กครองซ่ึงเป็นคนรักตา่ งเพศ พบวา่ เด็กสองกล่มุ ไมไ่ ดม้ ี
พฒั นาการทแี่ ตกตา่ งกนั แตอ่ ยา่ งใด ท้งั ดา้ นสตปิ ัญญา การปรับตวั ทางอารมณ์ การปรบั ตวั ทางสังคม และการปรบั ตวั
เขา้ กบั กลมุ่ เพอื่ น จึงเป็นเร่ืองสาคญั ทีค่ วรตระหนกั วา่ วถิ ที างเพศของพอ่ แม่ผูป้ กครอง ไมไ่ ดเ้ ป็นส่ิงทกี่ าหนดวถิ ีทาง
เพศของลูกๆ ของพวกเขา สาหรับความเขา้ ใจผดิ ๆ อกี ประการท่วี า่ ผชู้ ายท่เี ป็นคนรักเพศเดียวกนั หรือเกย์ มีแนวโนม้
ทจ่ี ะล่วงเกินเด็กทางเพศมากกวา่ ผชู้ ายท่รี ักต่างเพศ จริงๆ แลว้ ยงั ไมม่ หี ลกั ฐานใดท่แี สดงให้เห็นวา่ คนรกั เพศเดียวกนั
จะทาร้ายเด็กมากกวา่ คนรกั ต่างเพศ
ทาไมเกย์และเลสเบยี้ นบางคนถงึ ต้องการบอกผ้อู นื่ ว่า ตนรักชอบเพศใด

เพราะการบอกกลา่ วเร่ืองราวของตนใหผ้ ูอ้ ่ืนรบั รู้เป็นเร่ืองสาคญั ยิ่งต่อสุขภาพจิตของคนรักเพศเดียวกนั และ
คนรักสองเพศ แทจ้ ริงแลว้ กระบวนการในการพฒั นาความเป็นตวั ตนที่แทจ้ ริงของหญงิ รกั หญิง ชายรกั ชาย และคน
รกั สองเพศ ท่ีเปิ ดเผยตวั (Coming out) น้นั มีความเก่ียวขอ้ งอยา่ งมากกบั การปรบั ตวั ทางดา้ นจิตใจ ยิ่งพวกเขามอง
ความเป็นตวั ตนของคนรกั เพศเดียวกนั ของตนเองในแง่ดีมากเทา่ ไหร่ พวกเขายงิ่ จะมสี ุขภาพจิตท่ีดี และมคี วามรู้สึก
ภูมใิ จในตวั เอง (Self-esteem) มากข้นึ เท่าน้นั
เพราะเหตใุ ดข้นั ตอนการเปิ ดเผยตัวตนทีแ่ ท้จริงจึงเป็ นเร่ืองทท่ี าได้ยากลาบาก

เพราะในคร้งั แรกทไี่ ดต้ ระหนกั ถึงวถิ ีทางเพศของตนเองวา่ แตกต่างไปจากบรรทดั ฐานทางสงั คม คนรักเพศ
เดียวกนั จะมีความรู้สึกหวาดกลวั รู้สึกวา่ ตนเองแตกต่างและโดดเด่ียว การระแวงคนรกั เพศเดียวกนั ไมว่ ่าจะเป็นเดก็
หรือผูใ้ หญถ่ งึ ความเป็นชายรกั ชาย หญงิ รักหญงิ หรือความเป็นคนรกั สองเพศของพวกเขาน้นั เป็นสิ่งทไี่ ม่ปกติ
ธรรมดา และข้ึนอยกู่ บั สถานท่ีๆ เขาอาศยั อยู่ รวมท้งั สภาพครอบครัวของพวกเขา ท่ที าให้พวกเขาอาจตอ้ งตอ่ สู่กบั
อคติ และขอ้ มูลความเขา้ ใจผดิ เก่ียวกบั คนรักเพศเดียวกนั เด็กๆ และผใู้ หญท่ เ่ี ป็นคนรกั เพศเดียวกนั อาจจะรู้สึกระแวง
เป็นพิเศษตอ่ ผลอนั เกิดจากอคติ และภาพตายตวั ในดา้ นลบท่สี งั คมมตี ่อคนรกั เพศเดียวกนั พวกเขากลวั ทีจ่ ะถกู ปฏิเสธ
จากครอบครวั เพ่อื นฝูง เพอ่ื นร่วมงาน และสถาบนั ทางศาสนา คนรกั เพศเดียวกนั บางคนกงั วลวา่ พวกเขาอาจตอ้ ง
สูญเสียงาน และถูกทาร้ายท่ีโรงเรียนหากวถิ ีทางเพศของพวกเขาเป็นท่เี ปิ ดเผย ซ้าร้ายชายรักชาย หญงิ รกั หญงิ และคน
รักสองเพศยงั ตกอยู่ในความเส่ียงจากการถูกทารา้ ยร่างกาย และการถกู กระทาความรุนแรงมากกวา่ คนรักต่างเพศดว้ ย

จากงานศึกษาทท่ี าในรัฐแคลฟิ อร์เนีย ในช่วงกลางศตวรรษท่ี ๑๙๙๐ แสดงให้เห็นวา่ หน่ึงในหา้ ของกลุ่ม
หญงิ รักหญิงทเ่ี ป็นกรณีศึกษา และหน่ึงในส่ีของชายรักชายท่ีเป็นกรณีศกึ ษาเคยตกเป็นเหย่ือของอาชญากรรมอนั
เนื่องจากวถิ ที างเพศของพวกเขา ขณะท่ใี นงานศกึ ษาวิจยั อีกชิ้นหน่ึงในรัฐแคลฟิ อร์เนียพบวา่ คนในวยั ผใู้ หญ่ตอนตน้

๓๖:

ราว ๕๐๐ คน และคร่ึงหน่ึงของชายหนุ่มที่เป็นกรณีศึกษาในงานวิจยั ยอมรบั วา่ มกี ารต่อตา้ นและแสดงความรุนแรง
ตอ่ ชายรกั ชายต้งั แตก่ ารใชว้ าจาไปจนกระทง่ั ถงึ การทาร้ายร่างกาย
แล้วจะช่วยพวกเขาเหล่าน้ัน ให้สามารถเอาชนะอคติและการถกู กดี กนั ได้อย่างไร

จากงานวิจยั พบวา่ บคุ คลทีม่ ที ศั นคติที่ดีต่อชายรกั ชาย หญงิ รกั หญงิ และบคุ คลรกั ร่วมเพศ คอื บคุ คลท่ีกล่าววา่
ตนรู้จกั เกย์ เลสเบ้ยี น และบคุ คลรกั สองเพศอยา่ งนอ้ ยหน่ึงคน หรือมากกวา่ หน่ึงคนเป็นอยา่ งดี ซ่ึงโดยมากคือคนท่ี
เป็นเพอื่ นหรือเพอ่ื นร่วมงานของพวกเขา และดว้ ยเหตุน้ีเองนกั จิตวทิ ยาจึงเช่ือวา่ การท่คี นมีทศั นคติกบั กล่มุ เกยใ์ นแง่
ลบน้นั ไมไ่ ดเ้ กิดข้ึนมาจากประสบการณ์ในชีวิต แตเ่ กิดจากภาพตายตวั บางอยา่ ง และอคติ

นอกจากน้ี เกยแ์ ละเลสเบ้ียนควรไดร้ บั การปกป้องไมใ่ ห้ตอ้ งเผชิญกบั ความรุนแรงและการกีดกนั แบ่งแยก
ดงั เช่นที่ชนกล่มุ นอ้ ยทว่ั ไปไดร้ บั ในบางรฐั ถอื ว่า การใชค้ วามรุนแรงตอ่ บคุ คลใดคนหน่ึงเพราะบุคคลน้นั มีวิถที าง
เพศทแ่ี ตกตา่ งถอื เป็นอาชญากรรมท่ีทาเพราะความเกลยี ดชงั (hate crime) มลรฐั ๘ แห่งในสหรัฐอเมริกา ไดอ้ อก
กฎหมายป้องกนั ไม่ให้เกิดการกีดกนั เพราะคนๆ น้นั มีวถิ ที างเพศที่แตกต่าง
ทาไมสังคมจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการรักเพศเดยี วกันให้มากกว่านี้

การใหก้ ารศึกษาและความรู้แกท่ กุ คนมสี ่วนที่จะช่วยลดอคตใิ นการต่อตา้ นรังเกียจคนรกั เพศเดียวกนั ได้
ขอ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ งเกี่ยวกบั การรกั เพศเดียวกนั เป็นส่ิงสาคญั สาหรบั เยาวชนผซู้ ่ึงเพ่งิ คน้ พบและคน้ หาความเขา้ ใจใน
วิถที างเพศของตนเอง ไมว่ ่าจะเป็นการรักเพศเดียวกนั การรักต่างเพศ หรือการรักท้งั สองเพศ

ความกลวั วา่ การเขา้ ถงึ ขอ้ มลู เร่ืองคนรักเพศเดียวกนั จะทาใหค้ นเป็นเกยเ์ ป็นเร่ืองท่ีไมส่ มเหตุสมผล การรบั รู้
ขอ้ มูลเก่ียวกบั คนรักเพศเดียวกนั ไม่ไดส้ ามารถทาให้คนๆ น้นั เป็นคนรกั เพศเดียวกนั หรือเป็นคนรักตา่ งเพศได้

ทีม่ า บางส่วนของบทความในเวบ็ ไซตข์ องสมาคมจิตวทิ ยาแห่งอเมริกา http://www.apa.org/pubinfo/answer.html
โดยกลุ่มอญั จารี
หมายเหตุ บทความน้ีเคยมีผแู้ ปล เผยแพร่ใน www.gboard.net โดยใชน้ ามปากกาวา่ Cop_boy เม่อื วนั ท่ี ๑๔
กรกฎาคม ๒๕๔๕ และทางกลมุ่ อญั จารีนามาเรียบเรียงอกี คร้ัง

๓๗:

หน่วย ๖ สัมพนั ธภาพทางเพศและการแสดงออก

สาระสาคญั
สมั พนั ธภาพทางเพศเป็นการแสดงออกถงึ ความเอาใจใส่ ความใกลช้ ิด ความรกั ความเป็นเพ่ือน รวมท้งั

ความรู้สึกทางเพศ โดยต่างฝ่ายสามารถเรียนรู้จากกนั และกนั ดว้ ยวธิ ีการส่ือสารแลกเปลี่ยนอารมณ์ ความรู้สึก และ
ทศั นะตอ่ กนั เพอ่ื เอ้อื ให้เกิดสัมพนั ธภาพท่มี คี ณุ ภาพและป้องกนั ผลกระทบจากการมีเพศสัมพนั ธ์ท่ไี ม่พร้อม ใน
ขณะเดียวกนั ก็ตอ้ งเท่าทนั ต่อสถานการณ์ทอ่ี าจเป็นการใชป้ ระโยชน์ หรือการเอาเปรียบจากสมั พนั ธภาพทางเพศ
ระหวา่ งบุคคล

วตั ถุประสงค์
๑. อธิบายข้นั ตอนการสร้างสัมพนั ธภาพและการแสดงออกถงึ ความรู้สึกที่มีต่อกนั
๒. บอกวธิ ีการควบคมุ และจดั การอารมณค์ วามตอ้ งการทางเพศของตนเอง
๓. ระบุถงึ โอกาสเส่ียงที่จะนาไปสู่การมเี พศสัมพนั ธ์ หรือการลอ่ ลวงโดยอาศยั ความสัมพนั ธ์ หรือสมั พนั ธภาพ

ทีเ่ ป็นอยู่
๔. ระบแุ นวทางการแกไ้ ขปัญหาหรือหลีกเล่ยี งเมือ่ เผชิญกบั สถานการณท์ ไ่ี มพ่ ึงประสงคไ์ ด้

เนือ้ หา
๑. สัมพนั ธภาพ: ความหมาย รูปแบบ การสร้างสมั พนั ธภาพทางเพศและวิธีการแสดงออก
๒. สถานการณแ์ ละโอกาสทจี่ ะนาไปสู่การมีเพศสมั พนั ธ์ วธิ ีการหลีกเล่ยี งและการป้องกนั
๓. การแกไ้ ขปัญหาและการควบคุมตนเองเมอื่ เกิดอารมณ์เพศ

ประเด็นสาคญั
๑. ความคาดหวงั จากความสัมพนั ธร์ ะหว่างครู่ ักอาจมไี ม่เทา่ กนั เช่น หญงิ เม่อื มีแฟนกจ็ ะคาดหวงั อนาคตที่

มน่ั คง การมคี รอบครวั ที่อบอ่นุ จึงยึดมนั่ ในความสมั พนั ธ์น้นั ในขณะทฝ่ี ่ ายชายอาจนึกถึงการใชช้ ีวิตอยา่ งเตม็ ที่โดยท่ี
ยงั ไมต่ อ้ งการการผูกมดั ซ่ึงไม่ไดห้ มายความว่าท้งั คูไ่ ม่ไดร้ กั กนั เช่นเดียวกนั การมีเพศสัมพนั ธ์จึงไมใ่ ช่ส่ิงทีจ่ ะผกู มดั
ทุกคนได้

๒. ความเปล่ยี นแปลงในสัมพนั ธภาพระหว่างคู่รกั สามารถเกิดข้ึนไดจ้ ากปัจจยั หลายดา้ น เช่น ความตอ้ งการ
หรือความจาเป็นส่วนตวั ความรู้สึกไมพ่ ร้อมสาหรับชีวติ คู่ การพบคนใหมท่ ่ถี ูกใจมากกวา่ การทนนิสยั ของกนั และ
กนั ไมไ่ ด้ การทาใจยอมรบั เหตุการณท์ เี่ กิดข้นึ ตอ้ งเกิดจากการคานึงถึงจิตใจ และเขา้ ใจความรู้สึกของอีกฝ่ าย
ธรรมชาตขิ องความสัมพนั ธ์ เพือ่ เปลีย่ นสถานภาพหรือความสมั พนั ธใ์ หเ้ ป็นมิตรทดี่ ีตอ่ กนั

๓. การฉวยโอกาสจากการสร้างสัมพนั ธภาพเพ่ือบรรลุเป้าหมายของตนเอง มีโอกาสเกิดข้นึ กบั กลุ่มวยั รุ่นและ
คนทไ่ี ม่เท่าทนั ความคิดและความตอ้ งการของอกี ฝ่าย การรู้จกั ตนเองดา้ นอารมณเ์ พศ บรรยากาศหรือโอกาสทจี่ ะ
นาไปสู่การมเี พศสมั พนั ธ์ ความตระหนกั ในเรื่องสัมพนั ธภาพว่า เป็นการสร้างความเขา้ ใจและทาใหเ้ กิดความรู้สึกทีด่ ี
ต่อกนั โดยตา่ งฝ่ายกส็ ามารถเป็นไดท้ ้งั ผูใ้ ห้และผรู้ ับ จะช่วยใหป้ ระเมนิ สถานการณ์ทก่ี าลงั ดาเนินอยไู่ ด้

๓๘:

หน่วย ๗ ชีวิตโสด ชีวิตคู่ การแต่งงาน การยุตคิ วามสัมพันธ์

สาระสาคญั
การเลอื กสถานภาพทางเพศเป็นทางเลอื กของแตล่ ะบุคคล ซ่ึงมกี ารเปลีย่ นแปลงไปตามปัจจยั แวดลอ้ ม เช่น

เศรษฐกิจ สังคม ความตอ้ งการส่วนบคุ คล และเป็นการเลอื กตดั สินใจของแตล่ ะบุคคล จึงควรเคารพและยอมรบั ฟัง
ความคดิ เห็นและความตอ้ งการของคู่
วัตถุประสงค์

๑. อธิบายรูปแบบของสถานภาพทางเพศของบคุ คลในสงั คมท่ีแตกต่างกนั
๒. วิเคราะห์เงื่อนไขทางสงั คม ความเชื่อ คา่ นิยม ทม่ี ผี ลต่อการเลือกสถานภาพทางเพศ
๓. เชื่อมนั่ ในการตดั สินใจตอ่ การเลือกวถิ ที างเพศหรือสถานภาพทางเพศของตนเองไดอ้ ยา่ งรอบคอบ
๔. สารวจอารมณ์ ความรู้สึกของตนเองกรณีทจ่ี ะแกไ้ ขปัญหาความสัมพนั ธ์แบบไม่ใชค้ วามรุนแรง
๕. เคารพและยอมรบั การตดั สินใจเลอื กดาเนินชีวติ ทางเพศหรือสถานภาพทางเพศของตนเองและบุคคลอ่ืน
เนื้อหา
๑. สถานภาพทางเพศ : การนิยามหรือใหค้ วามหมาย
๒. รูปแบบของสถานภาพทางเพศถูกกาหนดโดยกฎหมาย และนิยามความหมายของแตล่ ะบคุ คล
๓. สถานภาพทางเพศในปัจจุบนั มหี ลากหลายรูปแบบ เช่น คหู่ ญงิ -ชาย ค่ชู าย-ชาย ค่หู ญิง-หญงิ ข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั
ท่มี ีผลต่อการเลอื กสถานภาพทางเพศ: ตวั เอง ครอบครวั /คนใกลช้ ิด สังคม เศรษฐกิจ กฎหมาย
๔. อคติ ความเชื่อ ต่อการเลอื กสถานภาพของบุคคล
๕. ความพร้อมสาหรบั การเปล่ียนแปลงของสถานภาพทางเพศ หรือความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคู่
ประเดน็ สาคัญ
๑. กรอบคดิ ของสังคมและอดุ มคติต่อการใชช้ ีวิตทางเพศทกี่ าหนดเป็นแนวทางไว้ เช่น การเป็นครอบครัวที่
สมบรู ณ์ อาจไมส่ อดคลอ้ งกบั การดาเนินชีวติ ทเี่ ป็นจริงในปัจจุบนั ที่คนตอ้ งการเลอื กใชช้ ีวิตค่หู ลากหลายรูปแบบ
เช่น เป็นพอ่ คนเดียว เป็นแมค่ นเดียว พ่อแม่ทเ่ี ป็นเพศทางเลอื ก การอยกู่ อ่ นแต่ง การมคี ่พู ร้อมกนั หลายคน เป็นตน้ ซ่ึง
แต่ละคนเลอื กตดั สินใจจากความตอ้ งการ ความจาเป็น สภาพความเป็นอยู่ สถานภาพ และปัจจยั แวดลอ้ มอน่ื ๆ ท่ีมผี ล
ต่อการดาเนินชีวติ ของตนเอง
๒. ความเชื่อหรืออคติตอ่ การเป็นโสด อยคู่ นเดียว หยา่ ร้าง ไม่มลี ูก มคี โู่ ดยไม่ตอ้ งแต่งงาน วา่ จะเป็นชีวติ ท่โี ดด
เด่ียว หรือทนทกุ ขก์ บั อดีต ไม่ใช่ขอ้ เท็จจริงเสมอไป การพ่ึงพาตนเองไดใ้ นทางเศรษฐกิจ ความมนั่ คงดา้ นจิตใจและ
การใชช้ ีวิต เกิดข้นึ ไดก้ บั ทกุ คนทม่ี กี ารเตรียมตวั และวางแผนชีวติ อยา่ งเท่าทนั กบั สภาพทเี่ ป็นอยแู่ ละความรู้สึกของ
ตนเอง กส็ ามารถทาใหค้ นมคี วามสุขได้
๓. เมือ่ เกิดความขดั แยง้ กนั ข้ึน วิธีการรกั ษาความสัมพนั ธ์ให้ดาเนินต่อไปดว้ ยดี คือ การแสดงความจริงใจ ไม่ทา
ใหฝ้ ่ายใดฝ่ายหน่ึงรู้สึกระแวงสงสัย เปิ ดใจคยุ กนั ถึงความตอ้ งการของตนเอง และมที า่ ทที ี่พร้อมรบั ฟังเพ่ือไมใ่ ห้
เหตุการณน์ าไปสู่การใชค้ วามรุนแรง

๓๙:

หน่วย ๘ ความรุนแรงทางเพศ และการล่วงละเมิดทางเพศ

สาระสาคญั
การใหค้ ณุ ค่าท่แี ตกตา่ งกนั ระหวา่ งเพศหญิง เพศชาย เพศทางเลอื ก และความนิยมใชอ้ านาจท่ีเหนือกว่าของ

ฝ่ ายใดฝ่ายหน่ึง เป็นพ้ืนฐานความคิดทท่ี าใหเ้ กิดการยอมรับและใชค้ วามรุนแรงทางเพศ ซ่ึงแสดงออกในหลาย
ลกั ษณะ เช่น การลว่ งเกินหรือกา้ วร้าวดว้ ยคาพดู การบบี บงั คบั จิตใจ การลงมือทาร้ายดว้ ยวตั ถสุ ่ิงของหรืออาวธุ ตา่ งๆ
ทาใหเ้ กิดการบาดเจบ็ ไดร้ ับความทกุ ขท์ รมาน ท่สี าคญั คอื ผลกระทบตอ่ สภาพจิตใจ แนวทางแกไ้ ขปัญหาจึงตอ้ ง
ปรบั เปลีย่ นทศั นคตทิ มี่ ีตอ่ เร่ืองเพศ และสร้างความตระหนกั ถงึ คุณคา่ และศกั ด์ิศรีความเป็นมนุษย์

วตั ถปุ ระสงค์
๑. อธิบายและสรุปนิยามความหมายของความรุนแรง การล่วงละเมดิ ทางเพศ และผลกระทบท่เี กิดข้นึ
๒. จาแนกระดบั และขอบเขตความรุนแรงและการลว่ งละเมิดทางเพศ
๓. ตระหนกั ในคุณคา่ และศกั ด์ิศรีความเป็นมนุษย์
๔. ระบุแหล่งใหค้ วามช่วยเหลอื บริการดา้ นเพศและผถู้ กู กระทารุนแรงทางเพศในพ้นื ท่ีได้

เนือ้ หา
๑. ความรุนแรง และความรุนแรงทางเพศ: ความหมาย รูปแบบ และผลกระทบ
๒. ขอบเขตและระดบั ความรุนแรง
๓. กฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ งและแหล่งใหค้ วามช่วยเหลอื

ประเดน็ สาคญั
๑. การหยอกลอ้ ลอ้ เลียน ดว้ ยวาจาหรือการกระทา กิริยา ท่าทาง ตอ้ งคานึงถึงระดบั สัมพนั ธภาพของท้งั สองฝ่ าย

และการยอมรับของผฟู้ ัง ซ่ึงอาจตีความหรือเกิดความเขา้ ใจไม่ตรงกนั ได้
๒. การลว่ งละเมดิ ทางเพศหรือความรุนแรงทางเพศ มกั เกิดข้นึ จากคนใกลช้ ิด คนในครอบครวั และคนท่อี ยรู่ อบ

ขา้ ง ซ่ึงอกี ฝ่ายไมม่ คี วามยินยอมพร้อมใจ แมว้ า่ จะเป็นคู่รักหรือสามภี รรยากต็ าม และการรู้ไมเ่ ท่าทนั ความตอ้ งการ
ของอกี ฝ่ายหน่ึงจึงมกั เสียเปรียบเพราะอ่อนวยั มีวฒุ ิภาวะดอ้ ยกวา่ หรือเป็นเด็ก

๓. การดาเนินการทางกฎหมายสามารถช่วยเหลอื ผเู้ สียหายได้ คอื การลงโทษตอ่ ผกู้ ระทาผิด แต่ความรุนแรงที่
เกิดข้ึนจะส่งผลกระทบตอ่ จิตใจยาวนานกว่า นอกจากน้ี ยงั ตอ้ งแกไ้ ขกรอบคิดของสงั คมซ่ึงอาจตตี ราหรือมีอคตติ ่อ
ผหู้ ญิงทเ่ี คยถูกข่มขืนดว้ ยว่า พาตวั เองให้ไปอยใู่ นสถานการณ์น้นั แต่งกายยวั่ ยวน เรียกร้องต่อรองผลประโยชน์

๔. การกระทารุนแรงหรือลว่ งละเมิดทางเพศต่อเพศท่สี าม ถอื เป็นการทาอนาจาร ซ่ึงมีโทษเบากว่าการข่มขนื

๔๐:

เอกสารอ่านประกอบ ๘.๑

ความหมายของความรุนแรง*
ในการศึกษาวิเคราะหเ์ ก่ียวกบั ปัญหาความรุนแรงน้ี ควรจะตอ้ งนิยามความหมายของความรุนแรงเพ่ือท่จี ะได้
กาหนดขอบเขตของประเภทความรุนแรงทีจ่ ะศกึ ษาและวิเคราะหต์ ามหลกั การวจิ ยั กอ่ น องคก์ ารอนามยั โลก (WHO,
๑๙๙๕) ไดน้ ิยามความรุนแรงไวด้ งั น้ี
ความรุนแรง หมายถงึ การจงใจใชก้ าลงั หรืออานาจทางกายเพอื่ ข่มขหู่ รือกระทาตอ่ ตนเอง ต่อ ผอู้ น่ื ต่อกลมุ่
บคุ คลหรือชุมชน ซ่ึงมีผลทาใหเ้ กิดหรือมีแนวโน้มทจ่ี ะมีผลให้เกิดการบาดเจ็บ ตาย หรือเป็นอนั ตรายต่อจิตใจ หรือ
เป็นการยบั ย้งั การเจริญงอกงามหรือการกีดก้นั หรือปิ ดก้นั ทาให้สูญเสียสิทธิบางประการ และขาดการไดร้ ับในสิ่งท่ี
สมควรจะไดร้ ับ
จากคานิยามดงั กลา่ ว จะเห็นไดว้ ่าความรุนแรงในความหมายทบ่ี ญั ญตั ิโดยองคก์ ารอนามยั โลกน้นั จะ
เก่ียวขอ้ งกบั คาวา่ ความต้งั ใจหรือจงใจของผกู้ ระทาความรุนแรง ซ่ึงผลทีเ่ กิดข้นึ อาจไม่สัมพนั ธ์กนั กบั เหตุ ดงั น้นั ความ
รุนแรงในท่นี ้ีจึงไม่ไดห้ มายรวมถึงการบาดเจ็บหรืออนั ตรายท่ีเกิดข้ึนจากอบุ ตั ิเหตุหรือความไมต่ ้งั ใจ
นอกจากน้ี คานิยามยงั เกี่ยวขอ้ งกบั คาวา่ การใช้อานาจ นอกเหนือไปจาก การใช้กาลังทางกาย เพื่อกระทาตอ่
ผอู้ ่นื ทาให้ความหมายของคาวา่ ความรุนแรงมีขอบเขตกวา้ งข้ึน และเห็นภาพการกระทาทีช่ ดั เจนข้ึน ครอบคลมุ ถงึ ผล
ของการกระทาทีเ่ กิดจากความสมั พนั ธ์เชิงอานาจ รวมท้งั การคกุ คามหรือการข่มขดู่ ว้ ย การใชอ้ านาจยงั หมายรวมถึง
การละเวน้ ไมป่ ฏบิ ตั ิหรือการปล่อยปละละเลย ไมป่ ฏบิ ตั ิ ยงั ผลทาใหเ้ กิดความรุนแรงอยา่ งเห็นไดช้ ดั จากการกระทา
น้นั ดงั น้นั การใชอ้ านาจหรือ การใชก้ าลงั ทางกาย จึงควรหมายรวมถงึ การละเวน้ ไมก่ ระทาหรือการกระทาทุก
ประเภททีก่ อ่ ให้เกิดผลเสีย ท้งั ต่อร่างกาย จิตใจ และเพศ ของผอู้ ่ืน รวมท้งั การฆา่ ตวั ตาย และการทาร้ายตนเองใน
รูปแบบต่าง ๆ สาหรับผลท่เี กิดจากความรุนแรงที่ระบุไวใ้ นคานิยามน้ี ไดค้ รอบคลมุ ท้งั อนั ตรายต่อจิตใจและทาให้
เกิดการพฒั นาไปในทางที่ไม่ดี การบาดเจ็บและการตาย สะทอ้ นให้เห็นถึงความสนใจในผลต่อสุขภาพและสวสั ดิ
ภาพของบุคคล ครอบครวั และชุมชนทเ่ี กิดจากความรุนแรงในรูปแบบท่ีกวา้ งข้ึน กลา่ วคอื ไมใ่ ช่ผลเฉพาะที่
กอ่ ให้เกิดการบาดเจบ็ หรือตายเทา่ น้นั แต่รวมท้งั ภาระทางดา้ นสุขภาพอื่น ๆ ทีอ่ าจเกิดข้ึนทนั ทหี รือเกิดข้นึ ภายหลงั
และคงอยไู่ ปเป็นเวลานานนบั ปี หลงั จากการถกู กระทาความรุนแรงคร้งั แรก
คานิยามความรุนแรงทีเ่ ก่ียวกบั คาว่าความต้งั ใจและจงใจน้นั มีลกั ษณะสาคญั ที่ใชเ้ ป็นหลกั เกณฑใ์ นการ
พจิ ารณาหรือมองความรุนแรงไดด้ งั น้ี
๑. ความรุนแรงทีเ่ กิดจากความจงใจกระทาน้นั ไม่จาเป็นตอ้ งจงใจก่อให้เกิดผลเสียหาย กล่าวคือ ผลของ
ความรุนแรงท่เี กิดข้นึ อาจไม่เทา่ เทยี มกนั กบั พฤตกิ รรมที่จงใจกระทา ผกู้ ระทาความรุนแรงอาจจงใจกระทาพฤตกิ รรม
ท่กี ่อใหเ้ กิดผลเสียหรือแนวโนม้ สูงท่ีจะกอ่ ใหเ้ กิดผลเสียดา้ นสุขภาพตอ่ ผูถ้ กู กระทา แต่ผกู้ ระทาอาจไม่รบั รู้ถงึ ผลของ
การกระทาของตน เช่น กรณีของวยั รุ่นยกพวกตีกนั เป็นความรุนแรงทเ่ี กิดจากความต้งั ใจไม่ว่าจะเป็นการยตุ ิปัญหา
โดยใชก้ าลงั ใชอ้ าวุธ กระทาตอ่ ร่างกายหรือไมก่ ต็ ามดูประหน่ึงว่าต้งั ใจกระทาพฤติกรรมทจี่ ะก่อให้เกิดการบาดเจ็บ
ลม้ ตาย ท้งั ๆ ทเี่ จตนาน้นั อาจไมไ่ ดต้ อ้ งการให้เกิดการบาดเจบ็ รุนแรงหรือตายก็ได้ หรือในกรณีท่ีพอ่ แมจ่ บั เด็กทารก

๔๑:

ที่ร้องไหโ้ ยเยเขยา่ ให้หยดุ ร้องโดยความต้งั ใจ แต่ผลทาให้เกิดการบาดเจ็บทางสมองไดโ้ ดยไมต่ ้งั ใจ และเป็นตวั อยา่ ง
ท่แี สดงให้เห็นถงึ การต้งั ใจจงใจใชค้ วามรุนแรง โดยไม่ไดต้ ้งั ใจให้ผลท่ีเกิดข้ึนจากการใชค้ วามรุนแรงน้นั ถึงกบั
บาดเจ็บหรือตาย

๒. การแยกแยะความจงใจ หรือต้งั ใจกระทาความรุนแรง สามารถพิจารณาบนพ้ืนฐานของความต้งั ใจกระทา
ให้บาดเจบ็ กบั ความต้งั ใจที่จะกระทาความรุนแรง ซ่ึงความรุนแรงในความหมายที่นิยามโดย Walters and Parke
(๑๙๖๔) น้นั เป็นความหมายทกี่ าหนดโดยวฒั นธรรม กล่าวคือ การจะตดั สินว่าจงใจกระทา การคาดการณ์วางแผนไว้
ลว่ งหนา้ หรือการบาดเจบ็ และผลของความรุนแรงอืน่ ๆ ที่ตามมา อาจถูกกาหนดโดยหรือเป็นส่วนหน่ึงของ
วฒั นธรรม ผูก้ ระทาความรุนแรงบางสงั คมอาจต้งั ใจกระทาอนั ตราย แต่โดยพ้นื ฐานวฒั นธรรมของสังคมน้นั ไมไ่ ด้
มองการกระทาดงั กลา่ วน้นั ว่าเป็นการใชค้ วามรุนแรง เช่นการตดั หรือขลิบอวยั วะเพศหญิง หรือการลงโทษโดยทุบตี
ตอ่ ร่างกายของเด็กการกระทาความรุนแรงน้ีถกู มองว่าเป็นการสงั่ สอนหรือพธิ ีกรรมให้หลุดพน้ จากบาปมากกว่าการ
รบั รู้ว่าเป็นการใชค้ วามรุนแรง การให้คานิยามขององคก์ ารอนามยั โลกเก่ียวกบั ความรุนแรง ไดค้ รอบคลมุ ถงึ ผลที่
เกิดข้นึ ต่อสุขภาพของผูถ้ กู กระทาโดยไมค่ านึงถงึ การรับรู้และความเช่ือทางวฒั นธรรมตอ่ ความรุนแรงน้นั ๆ

๓. การจงใจกระทาความรุนแรง ข้ึนอยกู่ บั ระดบั ของความต้งั ใจ ผกู้ ระทาความรุนแรงบางคนต้งั ใจทาใหเ้ กิด
การบาดเจ็บและจงใจที่จะใชค้ วามรุนแรง แตไ่ มไ่ ดต้ อ้ งการใหเ้ กิดผลขนาดเทา่ ที่ตนกระทา เช่น บคุ คลที่พยายามจะ
ฆา่ ตวั ตาย ไม่ไดต้ อ้ งการทจ่ี ะตายจริง แต่ตอ้ งการเรียกร้องความสนใจช่วยเหลือจากผอู้ น่ื ในการนิยามความรุนแรง
ขององคก์ ารอนามยั โลกน้นั มงุ่ ดูทผ่ี ลรบั ของการกระทาเกิดจากเจตนาที่จะทาร้ายโดยไม่คานึงถึงความต้งั ใจกระทา
และผลของสุขภาพท่เี กิดข้นึ จากน้นั วา่ สอดคลอ้ งกนั หรือไม่
ประเภทความรุนแรง (Typology of Violence)

องคก์ ารอนามยั โลก (WHO, ๑๙๙๗) ไดแ้ บง่ ประเภทของความรุนแรงไวใ้ นเบ้ืองตน้ เป็น 3 กลมุ่ ใหญ่ ๆ ดงั น้ี
๑. ความรุนแรงตอ่ ตนเอง (Self-directed Violence)
๒. ความรุนแรงระหว่างบคุ คล (Interpersonal Violence)
๓. ความรุนแรงระหว่างกลุม่ (Collective Violence)

ความรุนแรงต่อตนเอง (Self-directed Violence)
หมายถงึ ลกั ษณะความรุนแรงที่เกิดข้ึน จากบคุ คลกระทาต่อตนเอง ความรุนแรงกลุ่มน้ียงั สามารถแบง่ ยอ่ ย

เป็น ๒ ประเภทท่เี ฉพาะเจาะจงไดด้ งั น้ี
๑. พฤติกรรมการฆา่ ตวั ตาย ซ่ึงรวมท้งั ความคิดฆา่ ตวั ตาย ความพยายามฆา่ ตวั ตายและการฆา่ ตวั ตายโดย

สมบูรณ์
๒. พฤติกรรมการทาร้ายตนเอง หมายรวมถึงการกระทาใหต้ นเองบาดเจบ็ และพฤตกิ รรมทาร้ายตนเองอ่ืน ๆ

ท่ีมงุ่ ร้ายต่อตนเองหรือทาใหต้ นเองอยใู่ นภาวะเสี่ยงอนั ตราย แตไ่ มจ่ าเป็นตอ้ งมีผลถงึ เสียชีวิต

๔๒:

ความรุนแรงระหว่างบุคคล (Interpersonal Violence)
หมายถงึ ความรุนแรงที่กระทาโดยบุคคลอืน่ หรือกลุ่มบคุ คลอนื่ ความรุนแรงกลุ่มน้ีสามารถแบง่ ยอ่ ยเป็น ๒

ประเภททเี่ ฉพาะเจาะจงไดด้ งั น้ี
๑. ความรุนแรงในครอบครัว หมายถงึ ความรุนแรงทเ่ี กิดข้ึนระหวา่ งสมาชิกในครอบครวั คสู่ มรส ที่ไม่

จาเป็นตอ้ งเกิดข้นึ เฉพาะภายในบา้ นเท่าน้นั ไดแ้ ก่ ความรุนแรงต่อเดก็ (Child abuse) ความรุนแรงระหวา่ งสามีภรรยา
(Intimate partner violence) และความรุนแรงตอ่ ผสู้ ูงอายุ (Elder abuse)

๒. ความรุนแรงในชุมชน หมายถงึ ความรุนแรงท่ีเกิดข้ึนระหวา่ งบคุ คลภายนอกบา้ นทค่ี ุน้ เคยกนั หรือเกิด
จากบคุ คลทีร่ ู้จกั กนั โดยไมม่ คี วามสมั พนั ธ์ตอ่ กนั หรือเกี่ยวดองเป็นญาติพนี่ อ้ งกนั หรือคนแปลกหนา้ ไดแ้ ก่ ความ
รุนแรงทีเ่ กิดจากการร่วมกระทาผิดต้งั แต่ ๒ คนข้ึนไป (Gang violence) การใชค้ วามรุนแรงทางเพศ การข่มขืนโดยคน
แปลกหนา้ (Stranger rape and sexual assault) การใชค้ วามรุนแรงแบบสุ่มกระทาต่อใครก็ได้ (Random acts of
violence) การใชค้ วามรุนแรงทางกายระหวา่ งวยั รุ่น (Physical assaults between youths) ความรุนแรงทเี่ กิดข้นึ ในครู่ กั
(Dating violence) และความรุนแรงทีเ่ กิดข้ึนในสถานทีห่ รือสถาบนั ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ความรุนแรงทเี่ กิดข้นึ ในโรงเรียน
ในท่ีทางานหรือโรงงาน ไดแ้ ก่ การลวนลามทางเพศ (Sexual harassment) และความรุนแรงที่เกิดข้ึนใน
สถานพยาบาลคนชรา ไดแ้ ก่ การทอดทงิ้ ไมด่ แู ลและการทุบตี
ความรุนแรงระหว่างกล่มุ (Collective Violence)

หมายถึง ความรุนแรงที่กระทาโดยกลุ่มบุคคลกลมุ่ ใหญ่ เป็นความรุนแรงทเ่ี กิดจากรัฐหรือประเทศ ซ่ึงอาจ
เป็นการใชค้ วามรุนแรงโดยแอบแฝงอยูใ่ นรูปแบบของการใชก้ ฎเกณฑท์ างสงั คมเป็นเครื่องมือในการกอ่ ใหเ้ กิด
ผลเสียตอ่ บคุ คลและความไม่เท่าเทียมกนั หรือเลอื กปฏิบตั ิระหว่างเพศ เป็นตน้ ซ่ึงความรุนแรงกล่มุ น้ีสามารถ
แบ่งยอ่ ยออกเป็น ๓ ประเภท ดงั น้ี

๑. ความรุนแรงทางสังคม หมายถึง การใชค้ วามรุนแรงในประเด็นปัญหาทางสังคม ไดแ้ ก่ การกระทา
อาชญากรรมการใชค้ วามรุนแรงทีเ่ กิดจากความเกลยี ดชงั เหยียดผิว หรือเหยียดเช้ือชาติ กลุม่ ชน (Hate crimes) การ
กระทาของผกู้ อ่ การร้าย (Terrorist acts) หรือการใชค้ วามรุนแรงโดยกลมุ่ ประทว้ ง (Mob violence)

๒. ความรุนแรงทางการเมอื ง หมายถงึ การใชค้ วามรุนแรงที่เกิดจากสงคราม ความขดั แยง้ และการใชค้ วาม
รุนแรงของรัฐ หรือความรุนแรงท่เี กิดจากคนกลุ่มใหญ่ ไดแ้ ก่ การข่มขืนระหว่างสงคราม และการใชค้ วามรุนแรงท่มี ี
ผลตอ่ ร่างกายและจิตใจในกิจการของสงคราม เช่น การทรมานเชลยทางการเมอื ง เป็นตน้

๓. ความรุนแรงทางเศรษฐกิจ หมายถึง การใชค้ วามรุนแรงโดยกลุม่ คนกลุ่มใหญท่ หี่ วงั ผลทางเศรษฐกิจ
รวมท้งั กิจกรรมที่ก่อใหเ้ กิดการลม้ เหลวทางเศรษฐกิจ การโจมตีทางเศรษฐกิจ ก่อใหเ้ กิดผลลบดา้ นเศรษฐกิจท้งั
ทางตรงและทางออ้ ม การปฏบิ ตั ไิ ม่ใช่บริการทีจ่ าเป็น การกระทาทีก่ ่อใหเ้ กิดการแตกแยกทางเศรษฐกิจ มลู เหตจุ งู ใจ
ให้เกิดการใชค้ วามรุนแรงในกลมุ่ น้ี อาจเกิดจากแรงจงู ใจเพียงประเดน็ เดียวหรือหลาย ๆ ประเด็นร่วมกนั กไ็ ด้

โดยสรุป ความรุนแรงตามความหมายท่ีบญั ญตั โิ ดยองคก์ ารอนามยั โลกน้นั เนน้ ทเี่ จตนาความต้งั ใจหรือจงใจ
กระทาของบุคคล หรือกลุม่ บคุ คลตอ่ ท้งั ตนเอง บุคคลอน่ื หรือกลมุ่ บคุ คลอนื่ ท้งั ท่ีเกิดข้นึ ในบา้ น ในทท่ี างาน ใน
ชุมชน สถาบนั ต่าง ๆ ในสงั คม ไม่วา่ จะกระทาตอ่ เพศหรือวยั ใด ที่มผี ลตอ่ การบาดเจบ็ ท้งั ทางดา้ นร่างกาย จิตใจ และ

๔๓:

ทางเพศ รวมท้งั การกีดกนั ปิ ดก้นั สิทธิของบคุ คลในดา้ นตา่ ง ๆ ซ่ึงคาจากดั ความของความรุนแรง ตลอดจนประเภท
ของความรุนแรงทีส่ ามารถใชเ้ ป็นกรอบแนวคดิ ในการศึกษาและเขา้ ใจถงึ รูปแบบของความรุนแรงต่อบคุ คล
ครอบครัว และชุมชนท่เี กิดข้ึนในทกุ แห่งทว่ั โลกในแต่ละวนั ดงั น้นั ในการวิจยั คร้ังน้ีผูว้ ิจยั จะใชค้ วามหมายของความ
รุนแรงและประเภทของความรุนแรงน้ีเป็นกรอบแนวคิดเบ้ืองตน้ ในการจดั แบ่งประเภทงานวิจยั ท่ีจะระบุไวใ้ นระบบ
ฐานขอ้ มลู งานวจิ ยั คร้งั น้ีดว้ ย
ความรุนแรงต่อผ้หู ญงิ (Violence against women)

นอกจากคาจากดั ความของความรุนแรงท่กี าหนดโดยองคก์ ารอนามยั โลกแลว้ เมอื่ พิจารณาถึงกลมุ่
ผูถ้ ูกกระทาความรุนแรงทวั่ โลก จะเห็นไดว้ า่ ผหู้ ญิงทกุ วยั มกั ตกเป็นเป้าหมายหรือเหย่ือของความรุนแรงทุกรูปแบบ
ไมว่ า่ ความรุนแรงน้นั จะเกิดข้นึ ในครอบครวั (Family violence) หรือนอกบา้ น เป็นท่ยี อมรบั กนั ในระดบั สากลวา่
ความรุนแรงต่อผูห้ ญิงเป็นความรุนแรงที่เกิดจากพ้นื ฐานของความไม่เท่าเทียมกนั ทางเพศในสังคม (Gender– Based
Violence) ความรุนแรงประเภทน้ีมสี าเหตแุ ละมูลเหตุจูงใจท่จี ะกระทาตอ่ ผูห้ ญงิ เพียงเพราะวา่ เป็ นผูห้ ญงิ

ความหมายของความรุนแรงตอ่ ผูห้ ญงิ ทีก่ าหนดปฏิญาณสากลในการประชุมระดบั โลกเก่ียวกบั ผหู้ ญิงในกรุง
ปักก่ิง (Beijing Declaration and Platform for Action) ในปี ค.ศ. ๑๙๙๕ ไดร้ ะบวุ ่าเป็นการกระทาความรุนแรงบน
พ้ืนฐานของการกดข่ผี ูห้ ญงิ ในสงั คม (Gender – based violence) ซ่ึงมีผลทาให้ผูห้ ญิงเกิดอนั ตรายหรือบาดเจ็บทกุ ข์
ทรมานทางร่างกาย ทางจิตใจ และทางเพศ หรือการบบี บงั คบั ทางเศรษฐกิจ รวมท้งั การข่มขูด่ ว้ ยพฤตกิ รรมรุนแรง
การบงั คบั ขเู่ ขญ็ หรือการริดรอนกีดกนั ไม่ใหไ้ ดเ้ สรีภาพทพ่ี ึงมี ไมว่ ่าการกระทารุนแรงน้ีจะเกิดข้ึนในท่สี าธารณะหรือ
ในชีวติ ส่วนตวั ความรุนแรงตอ่ ผูห้ ญงิ จึงนบั เป็นประเดน็ ปัญหาท้งั ทางสิทธิมนุษยชนและสุขภาพ (Gender for Health
and Gender Equity, ๑๙๙๙; Garcia-Moreno, ๑๙๙๙) ศิริวรรณ ไกรสุรพงค์ ไดถ้ อดความจากเอกสารขององคก์ าร
สหประชาชาติ (United Nation, ๑๙๙๖) เกี่ยวกบั ความรุนแรงต่อสตรีไวว้ า่ ความรุนแรงต่อผหู้ ญิงเป็นการกระทาที่
กอ่ ใหเ้ กิดความทุกขท์ รมาน ไมว่ า่ จะเป็นการกระทาต่อร่างกาย จิตใจ หรือทาร้ายทางเพศ การข่มขู่บงั คบั โดยการ
จากดั เสรีภาพและสิทธิต่าง ๆ ท้งั ทีเ่ กิดข้ึนในบา้ นหรือในที่สาธารณะ ผกู้ ระทาอาจเป็นบคุ คลในครอบครวั สามี คนรัก
หรือคนแปลกหนา้ การใชค้ วามรุนแรงต่อหญิงยงั หมายรวมถึง การทบุ ตี การล่วงละเมดิ ทางเพศต่อเด็กและผหู้ ญิงใน
ครอบครวั การขม่ ขนื โดยสามี การขลบิ อวยั วะเพศหญิงหรือการกระทาท่ีเกิดจากประเพณี วฒั นธรรมต่าง ๆ ซ่ึง
ก่อให้เกิดอนั ตรายต่อสุขภาพ ตลอดจนการถกู ล่อลวงไปเพอื่ การคา้ ประเวณี การคา้ ผหู้ ญิงขา้ มชาติ การถูกข่มขนื โดย
คนแปลกหนา้ การถกู ลวนลามหรือละเมิดทางเพศในทชี่ ุมชน ในทีท่ างาน สถาบนั การศึกษาและสถานที่ตา่ ง ๆและ
การกระทาความรุนแรงตอ่ หญงิ โดยรฐั และกฎหมายทีเ่ อ้ืออานวยให้

นอกจากน้ีความรุนแรงตอ่ ผหู้ ญิงยงั สามารถมองจากการเกิดความรุนแรงในพฒั นาการของวงจรชีวิตในช่วง
ต่าง ๆ นบั ต้งั แตก่ ่อนคลอด เช่น ในบางสงั คมทม่ี คี วามตอ้ งการลกู เพศชายมกั จะทาแทง้ หรือฆ่าทารกเพศหญิง การ
ข่มขนื กระทาชาเราเดก็ หญงิ โดยบิดาหรือญาติผูช้ าย การถกู ขลิบอวยั วะเพศในบางสงั คม การถกู ข่มขนื โดยคนรกั
ในขณะเป็นวยั รุ่น วยั หนุ่มสาว การถา่ ยภาพลามกอนาจาร โสเภณีเด็ก การถกู ขม่ ขืนโดยสามี การถกู ทุบตใี นขณะ
ต้งั ครรภห์ รือการถูกฆาตกรรมโดยคนในครอบครัวจากปัญหาต่าง ๆ และเม่ือเขา้ สู่วยั ชรา ผหู้ ญงิ ก็อาจถกู ทารุณกรรม
บงั คบั ให้ฆา่ ตวั ตายเม่ือเป็นมา่ ย และการถกู ทอดท้งิ

๔๔:

ความรุนแรงตอ่ ผหู้ ญิงไม่เพยี งแต่เกิดข้นึ ไดใ้ นครอบครัวและในชุมชนเทา่ น้นั ผหู้ ญงิ มกั เป็นเหยือ่ ของความ
รุนแรงในภาวะสงคราม การก่อการร้าย ซ่ึงผหู้ ญิงมกั ตกเป็นเหย่ือการถกู ข่มขนื หรือในภาวะเศรษฐกิจทีไ่ มด่ ี ผหู้ ญงิ ก็
มกั ตกเป็นเหยื่อของการถูกนาไปขายหรือถูกหลอกลวงไปเพื่อคา้ ประเวณีท้งั ในทอ้ งถ่นิ หรือการถกู ส่งขายขา้ มชาติ
โดยขบวนการทรชนต่าง ๆ

ดงั น้นั การศกึ ษาเก่ียวกบั ความรุนแรงต่อผหู้ ญิงจึงมีขอบเขตกวา้ งขวางครอบคลมุ ประเภทของความรุนแรง
ในทุกดา้ น ตามท่ีระบโุ ดยองคก์ ารอนามยั โลก ซ่ึงสามารถสรุปไดด้ งั น้ี

๑. ความรุนแรงต่อร่างกาย จิตใจ และเพศท่ีเกิดข้นึ ในครอบครัว ซ่ึงหมายรวมถงึ การทุบตีภรรยา (Battering)
ความรุนแรงทางเพศต่อเดก็ หญงิ ในบา้ น ความรุนแรงต่อเดก็ และคนชราในบา้ น ความรุนแรงที่เกิดจากสินสอดของ
ฝ่ายหญงิ (Dowry – related violence) การขม่ ขนื โดยคสู่ มรส (Marital rape) การขลบิ อวยั วะเพศหญิง (Female genital
multilation) และการปฏบิ ตั ติ ามประเพณีอนื่ ๆ ทเ่ี ป็นอนั ตรายตอ่ ผหู้ ญงิ ความรุนแรงท่ีเกิดจากคนอน่ื ท่ไี มใ่ ช่ค่สู มรส
(Non – spousal violence) และความรุนแรงจากการหาประโยชนบ์ นร่างกายผหู้ ญิงโดยการอนาจาร (Violence related
to exploitation)

๒. ความรุนแรงทางร่างกาย ทางเพศ และทางจิตใจที่เกิดข้ึนในชุมชนทวั่ ไปหรือท่สี าธารณะ รวมท้งั การ
ขม่ ขืนกระทาชาเรา การถกู ลวนลามล่วงละเมดิ ทางเพศหรือทาอนาจาร (Sexual harassment) ในที่ทางาน ใน
สถานศกึ ษาและทอี่ ่ืน ๆ การคา้ ผหู้ ญิงขา้ มถิ่นหรือขา้ มชาติ (Trafficking) และการบงั คบั คา้ ประเวณี (Forced
prostitution)

๓. ความรุนแรงทางร่างกาย ทางเพศ และทางจิตใจ ท่ีเกิดจากการกระทาของรัฐ ไมว่ ่าจะเกิดข้นึ ทใ่ี ดกต็ าม
หรือเกิดจากการปลอ่ ยปละละเลยของรฐั ในการแกป้ ัญหาอยา่ งจริงจงั การกระทารุนแรงตอ่ ผหู้ ญิงยงั หมายรวมถึงการ
ทาหมนั หรือบงั คบั ใหท้ าแทง้ การขืนบงั คบั หรือใชก้ าลงั ให้ใช้วิธีการป้องกนั การต้งั ครรภโ์ ดยท่ีผหู้ ญงิ ไมเ่ ต็มใจ หรือ
การเลอื กเพศทารกโดยการฆ่าทารกเพศหญงิ เป็นตน้

* ท่มี า:
รายงานวิจัย “การพฒั นาระบบฐานข้อมลู และสังเคราะห์งานวิจัยด้านความรุนแรงในสังคมไทย” (The Development
of Violence Research Database and the Synthesis of Research on Violence Issues in Thai Society) โดย ผศ.ดร.
นนั ทพันธ์ ชินลา้ ประเสริฐ, Ph.D., R.N. คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โครงการนไี้ ด้รับทนุ อดุ หนนุ
จากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กุมภาพนั ธ์ ๒๕๔๖ ISBN ๙๗๔-๖๑๕-๐๘๗-๑

๔๕:

เอกสารอ่านประกอบ ๘.๒

ความรุนแรงและการยุตคิ วามรุนแรง

ความหมาย ความรุนแรง
ความรุนแรงต่อสตรี หมายถึง การกระทาใดๆกต็ าม ท่เี ป็นผลหรืออาจเป็นผลให้เกิดการทาร้ายร่างกาย ทางเพศ

และทางจิตใจ เป็นผลให้เกิดความทกุ ขท์ รมานแกส่ ตรี รวมท้งั การขู่เขญ็ กีดกนั จากดั เสรีภาพ ท้งั ในทีส่ าธารณะและใน
ชีวติ ส่วนตวั

ความรุนแรงต่อร่างกาย หมายถึง การใชก้ าลงั และ/หรืออปุ กรณ์ใดๆ เป็นอาวุธ แลว้ มีผลทาให้ผถู้ ูกกระทา
บาดเจบ็ ต่อร่างกาย เช่น การตบ ผลกั ตี เตะ ต่อย ฯลฯ ระดบั ความรุนแรงแตกตา่ งกนั ออกไป

ความรุนแรงต่อจติ ใจ หมายถงึ การกระทาหรือละเวน้ ไมก่ ระทา ทอดทิง้ เพกิ เฉย ไม่ดูแลไมใ่ ส่ใจไมใ่ หเ้ กียรติ การ
ทาร้ายจิตใจมผี ลทาใหผ้ ถู้ กู กระทาไดร้ บั ความเสียใจ เสียสิทธิ และเสรีภาพ เช่น การพูดจาดูถูก ดา่ ทอ เหยยี ดหยาม
ปล่อยปละทอดทิง้ ปฏเิ สธสิทธิท่ีพึงมีพงึ ได้

ความรุนแรงทางเพศ หมายถึง การกระทาในลกั ษณะการข่มขนื ลวนลามทางเพศ ละเมดิ สิทธิทางเพศต่างๆ รวม
ต้งั แต่การอวดอวยั วะเพศ การจบั ตอ้ ง ลูบคลา ท้งั การทากบั เด็ก หรือว่าใหเ้ ด็กจบั อวยั วะเพศตน ให้เดก็ ดสู ่ือลามก
ถ่ายรูปโป๊ เดก็ กระทาการสาเร็จความใคร่กบั เด็กหรือกระทาตอ่ หนา้ เดก็ การใชป้ ากกบั อวยั วะเพศเดก็ หรือให้เด็กใช้
กบั ตน ถอื วา่ เป็นการลวนลามทางเพศท้งั น้นั
ความรุนแรงต่อสตรีและเดก็ ส่วนใหญ่ ๗๐-๘๐% เป็ นความรุนแรงในครอบครัว

สาเหตุของความรุนแรง
ความรุนแรงทเี่ กิดข้นึ กบั ผหู้ ญิงมสี าเหตุหลากหลายดว้ ยกนั เช่น ความผิดปกติทางจิตใจและอารมณ์ คา่ นิยมและ

ทศั นคตขิ องผชู้ ายท่มี องเห็นวา่ ผหู้ ญงิ หรือภรรยาและลูกเป็นสมบตั ขิ องตนเอง ปัจจยั ร่วมอ่นื ๆ เช่นการเสพของมนึ เมา
หรือตดิ ยา ทท่ี าใหก้ ารยบั ย้งั ใจนอ้ ยลง
สาเหตทุ ่ีผ้หู ญงิ ยอมให้ทบุ ตี เพราะว่า

- ผหู้ ญงิ รู้สึกว่าตนเองบกพร่องหนา้ ท่ีหรือตวั เองขดั ใจทาให้สามีโกรธ
- ผหู้ ญงิ ถอื ว่าการถกู กระทารุนแรงจากสมาชิกเป็นเร่ืองปกติ เป็นรูปแบบหน่ึงของการสงั่ สอน
- ทนเพราะลกู ไมม่ ีทีป่ รึกษา พ่งึ ตนเองไม่ได้
- ผหู้ ญงิ ถูกสอนมา ใหม้ หี นา้ ที่ปรนนิบตั ิ/บริการสามี และอดทน
- รู้สึกอายขายหนา้ ไม่กลา้ บอกใคร กลวั ถกู ตาหนิวา่ เป็นผผู้ ดิ ลม้ เหลวทไี่ ม่สามารถทาให้ครอบครวั ปกติสุข
- หวงั วา่ สามีจะเปล่ยี นพฤตกิ รรมได้

กลไกทส่ี าคัญในการแก้ไขปัญหาความรุนแรง คือ สังคมต้องช่วยดูแลครอบครัว ครอบครัวเสี่ยง คือ ครอบครัวท่มี ี

พฤติกรรม
- กินเหลา้ เสพของมนึ เมาเป็นนิจ

๔๖:

- ตดิ ยา

- นอกใจคู่

- ตดิ การพนนั

- ครอบครัวท่ียงั เป็นวยั รุ่น มวี ฒุ ิทางอารมณ์นอ้ ย และดอ้ ยฐานะ

- ครอบครัวทีท่ ะเลาะเบาะแวง้ กนั เสมอ

- ครอบครัวโดดเด่ียว/ครอบครวั เดียว (เฉพาะพอ่ แม่ลูก) ซ่ึงไมร่ ู้จกั ใครไม่รู้จกั บริการใดในสงั คม

ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว

ผลกระทบความรุนแรงเกิดต่อท้งั ร่างกายและจิตใจของผถู้ ูกกระทาและคนทอี่ ยรู่ อบขา้ ง เช่น กรณีพ่อทุบตีแม่ เด็ก

ก็อาจจะถกู ทบุ ตไี ปดว้ ย เดก็ ทีถ่ กู ทบุ ตี ทาร้าย หรือไดเ้ ห็นความรุนแรงเสมอๆจะฝังใจเร่ืองความรุนแรง เดก็ จะเขา้ ใจ

ผิดว่า ปัญหาแกไ้ ขไดด้ ว้ ยความรุนแรง ซ่ึงแทท้ ่ีจริงแลว้ ปัญหาทุกปัญหาควรแกไ้ ขดว้ ยเหตผุ ล ดว้ ยการพดู จาทาความ

เขา้ ใจ นอกจากน้ีการอยใู่ นภาวะแวดลอ้ มทมี่ คี วามรุนแรงเดก็ จะซึมซบั เลยี นแบบพฤตกิ รรมรุนแรงเดก็ จะกระทา

ความรุนแรงต่อเพ่อื น และเมื่อเติบโตเป็นผใู้ หญ่ก็จะกระทารุนแรงต่อครอบครวั ตนเอง ต่อสัตวเ์ ล้ียงของตนเอง ฉะน้นั

จะเห็นไดว้ า่ "ความรุนแรง" ถา่ ยทอดจากพ่อแม่ ลกู หลาน เหลน ตอ่ ไป ถา้ เราปลอ่ ยให้ความรุนแรงเกิดข้นึ ไม่วา่ จะ

มากหรือนอ้ ย ความรุนแรงกอ็ ยใู่ นสังคมตลอดไป จึงเป็นเหตผุ ลว่าเราตอ้ งป้องกนั มิให้ความรุนแรงแพร่ขยายถ่ายทอด

เป็นวฏั จกั รท่ีไมด่ ีไปเร่ือยๆ

การช่วยเหลือ ผูถ้ กู กระทาความรุนแรงตอ้ งไดร้ บั ความช่วยเหลอื ซ่ึงหากปลอ่ ยให้เกิดข้นึ กเ็ ป็นเรื่องของ

ความสูญเสีย ท้งั เวลาและเงนิ ทอง และตอ้ งใชเ้ จา้ หนา้ ที่ช่วยเหลอื หลายฝ่าย เพราะฉะน้นั การป้องกนั จึงเป็นวธิ ีทดี่ ี

ทีส่ ุด โดยอาสาสมคั รท่ีเป็นท่รี ู้จกั และยอมรับอาจเป็นกาลงั สาคญั ที่จะตอ้ งช่วยกนั "จบั ตามอง" ซ่ึงอาจเริ่มจาก

ครอบครัวเส่ียง เขา้ ไปพบพดู คยุ โดยจะตอ้ งสร้างสมั พนั ธภาพที่ดี เพ่ือให้ไดร้ ับความนบั ถือไวว้ างใจ กอ็ าจช่วยเหลอื

ไดอ้ ยา่ งมาก

การทาร้ายทางเพศ : ความเช่ือผิดๆและความจริง

มคี วามเชื่อผดิ ๆ มากมายเกี่ยวกบั การทาร้ายทางเพศ ความเช่ือผิดๆเหลา่ น้ีฝังรากลึกอยใู่ นวฒั นธรรม ศาสนา หรือ

การยดึ ถอื คณุ คา่ ทางสังคม เราจงมาช่วยกนั ลบลา้ งความเช่ือผิดๆเหลา่ น้ี เพอ่ื ขจดั การทาร้ายทางเพศให้หมดไป

ความเชื่อผิดๆ ความจริง

การทาร้ายทางเพศ เป็นความผดิ ทางกฎหมายทเ่ี กิด การทาร้ายทางเพศ เป็นความผิดทางกฎหมาย

จากความรู้สึกทางเพศ ในการกระทา รุนแรง โดยใชก้ ารร่วมเพศเป็น

อาวุธ

การทาร้ายทางเพศ เป็นเร่ืองที่เกิดข้ึนกบั คนอน่ื ไม่ใช่ ถา้ เราไม่ขจดั การทาร้ายทางเพศใหห้ มดไปจาก

ฉัน! สงั คมไมม่ ผี หู้ ญิงคนไหนมน่ั ใจในความ

ปลอดภยั จากการถูกทาร้ายทางเพศได้

มีแตเ่ ดก็ สาวทห่ี นา้ ตาสวยเทา่ น้นั ทจ่ี ะถกู ทาร้ายทาง ผหู้ ญิงทีถ่ กู ทาร้ายทางเพศมีทกุ วยั

เพศ

๔๗:

ผหู้ ญงิ พูดวา่ "ไม่" ขณะทเ่ี ธอหมายความวา่ "ตกลง" ผหู้ ญิงทกุ คนมีสิทธิทจ่ี ะพูดวา่ ตกลง
หรือไม่ก็ไดแ้ ละหมายความอยา่ งน้นั
ผหู้ ญิงที่ถกู ทาร้ายทางเพศคงจะ "แส่หาเรื่องเอง” ไมม่ ีผหู้ ญงิ คนไหนชอบถกู ทาร้ายทางเพศมนั
เกิดเพราะเธอถูกใชก้ าลงั บงั คบั
ผชู้ ายลงมือทาร้ายทางเพศเพราะไม่สามารถควบคุม ผลการศกึ ษาผชู้ ายทข่ี ่มขืนผหู้ ญิงพบวา่ การ
ตนเองได้ ลงมือทาร้ายทางเพศส่วนใหญเ่ ป็นการวางแผน
ล่วงหนา้ ผชู้ ายสามารถควบคุมความตอ้ งการ
ผชู้ ายที่ลงมอื ทาร้ายทางเพศเพราะมีปัญหาทาง ทางเพศของตนเองได้ และเป็นหนา้ ท่ขี องเขา
อารมณ์หรือจิตใจ มงี านวิจยั ยนื ยนั ว่าผูช้ ายที่ลงมอื ทาร้ายทางเพศ
คือ คนปกตใิ นสายตาของเพื่อนและเพอื่ น
การทาร้ายทางเพศ มกั เกิดจากคนแปลกหนา้ ร่วมงาน
อนั ท่จี ริง ผลู้ งมอื ทาร้ายส่วนใหญเ่ ป็นเพ่อื น
ผหู้ ญงิ มกั ถูกทาร้ายทางเพศตอนกลางคืนในซอย ร่วมงาน คนรู้จกั คนที่ผหู้ ญิงรู้จกั มกั จะเป็น
เปล่ยี วๆ ในสวนสาธารณะ ในรถ เพื่อนบา้ น เพ่ือนของเพ่อื น เพื่อน
ความจริงคอื การถกู ข่มขืนหรือการทาร้ายทาง
ผหู้ ญงิ ที่ไมม่ รี ่องรอยของการถกู ทบุ ตี หรือฟกช้าคง เพศส่วนใหญเ่ กิดข้นึ ทบี่ า้ น ผูห้ ญงิ ตกเป็นเหย่อื
ไมโ่ ดนขม่ ขนื แน่ อาจเปิ ด ประตใู ห้เพ่ือนบา้ น คนขายของ เพื่อน
ร่วมงาน ฯลฯ หลายคร้ังคนเหล่าน้นั บุกเขา้
บา้ นเอง
การไม่มีร่องรอยของการฟกช้าหรือกระดูกหัก
ไมไ่ ดห้ มายความวา่ ผหู้ ญิงไม่ถูกขม่ ขนื
บอ่ ยคร้งั ที่การข่มขวู่ า่ จะใชค้ วามรุนแรงทาให้
ผหู้ ญงิ นิ่งงนั และไม่ต่อสู้

ทาอย่างไรเมื่อคณุ ประสบปัญหาความรุนแรง

เมอื่ ประสบปัญหาความรุนแรง หรือถกู ละเมดิ ทางเพศ การที่จะพดู บอกใครอาจเป็นเรื่องยาก แต่การนิ่งเฉยยง่ิ จะ
ทาให้ปัญหาเลวร้ายข้นึ และปัญหาจะไมห่ มดไปดว้ ยตวั เองตามกาลเวลา คณุ ตอ้ งพูดถึงปัญหาและแกป้ ัญหาใหจ้ บลง

- อยา่ โทษตวั เองเพราะจะเป็นการซ้าเติมให้ตนเองรู้สึกดอ้ ยค่าลง จาไวว้ ่าคณุ ไม่สมควรจะถูกทาร้ายและมนั
ไมใ่ ช่ความผดิ ของคุณ

- ต้งั สติใหด้ ี ไมใ่ ช่คุณคนเดียวทเ่ี จอเรื่องน้ี ตามรายงานการแจง้ ความในประเทศไทย ทกุ ๆ ชั่วโมงมีผหู้ ญงิ
เผชิญปัญหาถูกทาร้ายร่างกายเฉลีย่ ชวั่ โมงละ ๑ คน

๔๘:

- ไม่ยอมรบั การใชค้ วามรุนแรง เพียงแคก่ ารใชก้ าลงั ข่มขูห่ รือทาร้ายคุณ แสดงว่าเขาต้งั ใจใชก้ าลงั ทเี่ หนือกว่า
เพอื่ ควบคุมคุณ

- การแยกตวั ออกจากสังคม และเก็บเร่ืองเงยี บอาจทาให้คณุ หนีปัญหาไดร้ ะยะหน่ึง แต่ไมไ่ ดต้ ลอดไปการหา
กาลงั ใจจากคนทีค่ ุณไวใ้ จและยินดีช่วยเหลือคณุ หรือ การขอคาปรึกษาจากผเู้ ชี่ยวชาญขององคก์ รท่ชี ่วยเหลอื ผหู้ ญิง
ซ่ึงเคารพการตดั สินใจของคุณ จะช่วยให้คุณมที างออกท่ดี ีข้ึน

- คุณอาจคดิ วา่ มนั จะไมเ่ กิดข้นึ อกี หรือคุณสามารถทาให้เขาหยดุ การใชค้ วามรุนแรงได้ แต่จากประสบการณ์
ขององคก์ รที่ทางานช่วยเหลือผหู้ ญงิ ทีไ่ ดร้ ับความรุนแรงได้ บอกวา่ เป็นไปไดย้ ากมาก และเขาตอ้ งไดร้ ับการบาบดั
เพื่อช่วยเหลือให้เปลีย่ นแปลงพฤติกรรมและควบคุมตวั เองซ่ึงทาไดถ้ า้ เขาตอ้ งการ แตค่ ณุ เปลีย่ นเขาหรือรอใหเ้ ขา
เปลยี่ นเองไมไ่ ด้

- รู้สิทธิของคณุ คุณมีสิทธิทีจ่ ะปฏเิ สธเขาเสมอ และเขาตอ้ งให้เกียรตคิ ุณ เคารพความคิด ความตอ้ งการของ
คณุ เช่นกนั

- ถา้ เขาใชค้ วามรุนแรง คณุ ควรคิดท่ีจะยตุ คิ วามสมั พนั ธน์ ้ี ถา้ เขาขม่ ขู่วา่ จะทาร้ายคณุ ถา้ คุณแยกกบั เขา คุณควร
ปรึกษาคนที่ไวใ้ จได้ และวางแผนการแกป้ ัญหาท่ปี ลอดภยั สาหรับคุณ
ทาอย่างไร เมื่อคุณใช้ความรุนแรงกับผ้อู นื่

ยอมรับว่า คุณกาลงั มปี ัญหา และจะเลวร้ายมากข้นึ ถา้ คุณไม่รีบแกไ้ ขเสียแตว่ นั น้ี จาไวว้ า่ ทุกปัญหาสามารถ
แกไ้ ขไดแ้ ละเราทุกคนมีสิทธิในการดารงชีวติ อยา่ งปลอดภยั เทา่ เทยี มกนั

- ไมใ่ ช่คณุ คนเดียวทเ่ี ป็นแบบน้ี มผี ูช้ ายอีกหลายคนท่มี ีปัญหาชอบใชค้ วามรุนแรง พฤตกิ รรมความรุนแรงอาจ
ดเู ป็นเรื่องธรรมดาทีเ่ กิดข้ึนทว่ั ไป จนคิดว่าเป็นเร่ืองปกติทย่ี อมรบั ได้ แต่จริงๆ แลว้ ผชู้ ายไมม่ สี ิทธิใชค้ วามรุนแรงกบั
ผหู้ ญงิ คณุ ตอ้ งเรียนรู้วิธีการควบคมุ อารมณ์และระบายความโกรธโดยไม่ทาร้ายบคุ คลอื่น ซ่ึงกม็ ผี ชู้ ายอ่นื ๆ ทาได้

- การโทษสิ่งรอบตวั เช่น เหลา้ ยาเสพตดิ หรือความเครียดวา่ เป็นสาเหตทุ ท่ี าใหค้ ุณใชค้ วามรุนแรงกบั ผหู้ ญงิ
และการขอโทษในสิ่งที่กระทารุนแรงไปไม่ช่วยแกป้ ัญหา ข้นั แรกคุณควรยอมรับในการกระทารุนแรงของคณุ คูข่ อง
คุณไมไ่ ดท้ าให้คณุ กอ่ ความรุนแรง ดงั น้นั อยา่ โทษว่าเป็นความผดิ ของอีกฝ่ าย

- อยา่ พยายามแกป้ ัญหาเพยี งลาพงั ควรขอคาปรึกษาจากคนท่ีช่วยคุณได้ เช่น สายด่วนขององคก์ รทช่ี ่วยเหลอื
ผชู้ าย ซ่ึงจะช่วยใหค้ ณุ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและยตุ ิการใชค้ วามรุนแรงได้

- จาไวว้ ่า การใชค้ วามรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทาร้ายร่างกาย การขม่ ขู่ และการบงั คบั ใหม้ ี
เพศสมั พนั ธ์ เป็นความรุนแรงท่ียอมรับไมไ่ ด้ และเป็นอาชญากรรม อยา่ คิดเอาเองวา่ เธอยินยอม ควรถามความสมคั ร
ใจของฝ่ายหญิง ถา้ เธอบอกว่าไม่ คณุ ตอ้ งหยดุ ไม่รุกเร้า อยา่ ดา่ ว่าหรือทาให้เธอรู้สึกผิด

- พฤติกรรมการใชค้ วามรุนแรง เป็นพฤติกรรมทีค่ ณุ เรียนรู้มาจากประสบการณ์ ไมใ่ ช่ส่ิงท่ีคณุ มีมาแตเ่ กิด ดว้ ย
การช่วยเหลอื บาบดั คณุ จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคณุ ได้
ทาอย่างไรเมื่อเพือ่ นคณุ ประสบกับความรุนแรง

ถา้ คณุ รู้จกั คนทไ่ี ดร้ บั ปัญหาความรุนแรง อยา่ เพกิ เฉย มีวิธีงา่ ยๆ ทคี่ ุณสามารถช่วยสร้างความแตกตา่ ง และ
ช่วยเหลือเพ่อื นคณุ ได้ การที่เธอไดค้ ุยกบั คณุ เป็นการแกป้ ัญหาข้นั แรก

๔๙:

- รบั ฟังเรื่องราวท่เี กิดข้ึนอยา่ งต้งั ใจและเช่ือใจเธอ ทาให้เธอรู้สึกวา่ ไมไ่ ดอ้ ยเู่ พียงลาพงั และจาไวว้ ่า จงเคารพ
การตดั สินใจของเธอ ไมว่ ่าคณุ จะเห็นดว้ ยหรือไม่

- หาขอ้ มูลช่วยเหลือเพอ่ื นจากองคก์ รทีท่ างานช่วยเหลือผหู้ ญิงท่ีไดร้ ับผลกระทบจากความรุนแรง
- บอกเธอว่า ไม่ใช่ความผดิ ของเธอ และเธอไมส่ มควรไดร้ บั ความรุนแรง ไม่ว่ากรณีใดๆ
- ให้กาลงั ใจไปเป็นเพอ่ื นเพอ่ื ปรึกษาผูใ้ หญ่ ผูเ้ ช่ียวชาญและ/หรือองคก์ รท่ที างานช่วยเหลอื ผหู้ ญงิ
- อยา่ ไปตอ่ ว่าค่ขู องเพ่อื นคุณ ซ่ึงเป็นผกู้ ระทาความรุนแรง เพราะอาจจะเป็นอนั ตรายและทาใหเ้ พอ่ื นคณุ
เดือดร้อนดว้ ย
- ให้เกียรตแิ ละเคารพความเป็นส่วนตวั ของเพ่ือนคุณ อยา่ เอาเรื่องของเธอไปพดู ต่อ เวน้ แตจ่ ะบอกให้คุณพดู
- เพ่อื นคุณอาจรู้สึกโดดเด่ียว พยายามหากิจกรรมให้เพ่ือนคณุ ทาและไม่คดิ ฟ้งุ ซ่าน
- บอกเพ่อื นคุณวา่ ความสัมพนั ธ์ทีม่ ีความรุนแรง ไม่ใช่อาการป่ วยแตเ่ ป็นคดีทางอาญาได้
ทาอย่างไรเมื่อเพ่อื นคุณเป็ นผ้กู ่อความรุนแรง

คนทก่ี ่อความรุนแรงสามารถเปล่ียนแปลง แกไ้ ขพฤตกิ รรมรุนแรงน้นั ได้ แต่การยอมรับว่า ตวั เองมปี ัญหาเป็น
เรื่องยากและตอ้ งการความช่วยเหลอื ถา้ คุณพบพฤตกิ รรมความรุนแรง อยา่ วางเฉย คณุ สามารถช่วยเตือนสตเิ พอ่ื นได้

- บอกเพ่อื นคณุ วา่ ความรุนแรงเป็นเรื่องผดิ บอกให้เขารู้ว่าการกระทาใดทเี่ ขา้ ข่ายความรุนแรงกบั ผูห้ ญิง แมจ้ ะ
เป็นภรรยา / คขู่ องตนเป็นความผิดทางอาญา

- เตือนใหเ้ พ่ือนยอมรับการกระทาของตน โดยช้ีให้เห็นว่าการกระทาใดเขา้ ข่ายความรุนแรงทนั ทที ่ีคณุ พบเห็น
หรือไดย้ ินว่าเขาทา บอกเขาวา่ การโทษสิ่งรอบตวั วา่ เป็นสาเหตุ เช่น การดื่มเหลา้ การใชย้ า หรือว่าเป็นความผิดของ
ผหู้ ญงิ เป็นเพียงคาแกต้ วั

- บอกกบั เพื่อนวา่ การใชค้ วามรุนแรงกบั ผหู้ ญิง เป็นพฤติกรรมทเ่ี ขาเรียนรู้และลอกเลยี นมา ดงั น้นั เป็น
พฤติกรรมทเ่ี ขาสามารถเปลย่ี นได้

- รับฟังดว้ ยความต้งั ใจและอดทน การที่เขาจะยอมรับพฤตกิ รรมของตนเองไดเ้ ป็นเร่ืองยาก
- หาขอ้ มูลเพ่ิมเตมิ หรือปรึกษาองคก์ รท่ชี ่วยเหลือผทู้ ก่ี ระทารุนแรง ว่าคณุ จะใหค้ าแนะนาเขาไดอ้ ยา่ งไร
- ใหก้ าลงั ใจและเสนอทจ่ี ะพาไปพบผเู้ ช่ียวชาญในการบาบดั ช่วยเหลือ เขาไม่สามารถแกป้ ัญหาน้ีเองได้

ท่ีมา http://203.155.220.217/office/ccwed/index.html กองสวสั ดภิ าพเด็ก สตรี ผ้สู ูงอายุ ผ้พู กิ าร และผ้ดู ้อยโอกาส
โทร. ๐๒-๒๔๕-๔๗๔๕ ต่อ ๕๓ Fax ๐๒-๒๔๕-๔๗๔๘
สถานทีต่ ้งั ศูนย์เยาวชนไทย-ญปี่ ่ นุ ถนนมติ รไมตรี แขวงดินแดง เขตดนิ แดง กรุงเทพมหานคร ๑๐๔๐๐

๕๐:

เอกสารอ่านประกอบ ๘.๒

โทษสาหรบั กรณีมเี พศสมั พนั ธ์กบั ผหู้ ญิงทีม่ ีอายตุ ่ากวา่ ๑๗ ปี ถงึ แมฝ้ ่ายหญงิ จะยินยอมกต็ าม ถอื ว่ามี
ความผดิ ฐานพรากผเู้ ยาว์ ถา้ ในกรณีผปู้ กครองไมย่ ินยอม ถือว่ามีความผดิ จาคุก ๒-๑๐ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔,๐๐๐-
๒๐,๐๐๐ บาท เจา้ ของบา้ นมีความผิดฐานสนบั สนุนโทษ ๑ ใน ๓ ของโทษอนาจาร

โทษสาหรับความผดิ ฐานหมิน่ ประมาท โดยการโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ภาพวาด ป่ าวประกาศ มีโทษ
จาคกุ ไมเ่ กิน ๒ ปี ปรบั ไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท

โทษสาหรบั ความผดิ ฐานทาร้ายผอู้ ่นื หากไม่มบี าดแผลบาดเจบ็ ไมส่ าหัส ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท บาดเจบ็
สาหัส อาจปรับ/ตดิ คกุ /ชดใชค้ า่ เสียหายหรือโทษจาคุก ๑-๓ ปี บาดเจบ็ สาหัสจนกระทง่ั ตาย ทาร้ายร่างกายผอู้ น่ื ถงึ แก่
ความตายโดยไมเ่ จตนา ศาลจะใหช้ ดใชจ้ าคกุ ๑ ปี หรือไมเ่ กิน ๓ ปี แต่โทษจาคุกให้รอลงอาญาไวก้ อ่ น

โทษสาหรบั
 กรณีผหู้ ญิงต่ากว่า ๑๗ ปี ยอมความไม่ได้ แตก่ รณีอายมุ ากกวา่ ๑๗ ปี ยอมความไดถ้ า้ พ่อไม่ยนิ ยอม
 กรณีมเี พศสมั พนั ธ์ โดยไม่สอดใส่อวยั วะเพศ โทษอนาจาร โทษติดคกุ ไมเ่ กิน ๑๐ ปี
 กรณีมเี พศสมั พนั ธ์ โดยการสอดใส่อวยั วะเพศ รับโทษขม่ ขืนกระทาชาเรา ติดคุกไม่เกิน ๑๐-๑๕ ปี


Click to View FlipBook Version