'ไทยอักษร' ''หลี่มี่'' นางสาวสุรีย์พร สาระวงค์ ความทรงจำ บทกวี ประพันธ์ ด้วยตัวเรา
คำ นำ สมุดทำ มือเล่มนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ รายวิชากวีนิพนธ์ไทยเป็นการรวบรวมงานบทประพันธ์ ตลอดเวลาในการเรียน ชั้นปีที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ (ทศศ.๖๕) งานประพันธดังกล่าวได้แต่งขึ้นผ่านประสบการณ์ ความทรงจำ การเรียนรู้ การเรียบเรียง เล่าความ เป็นเรื่องราวผ่านรูปแบบบทประพันธ์ประเภทต่าง ๆ อาทิ โคลงสี่สุภาพ ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย 'หลี่มี่' ๒๔ กุมภาพันธ์๒๕๖๖ นางสาวสุรีย์พร สาระวงค์
สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก กลอนแนะนำ ตัว กลอนเปล่า กลอนกลุ่ม กาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ฉบัง๑๖ กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ โคลงสี่สุภาพ ร่าย ฉันท์ เพลงตันหยง กลอนนิทานสอนน้อง เพลงสอนน้อง วิเคราะห์บทเพลง บทครูในดวงใจ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓-๒๐ ๒๑-๒๕
สุรีย์พรชื่อฉันความหมายดี คือพรที่ได้รับจากดวงอาทิตย์ นามสกุลสาระวงค์นั้นตามติด ครอบครัวและญาติมิตรก็แสนดี มีนํ้าใจช่วยเหลือและแบ่งปัน นี่แหละฉันจริงใจรักศักดิ์ศรี ชื่อเล่นนั้นก็คือชื่อไหมนี้ นิสัยดีก็มิเคยว่าร้ายใคร สุริยะ 'หลี่มี่' ๑๒ มกราคม ๒๕๖๖ กลอนแนะนำ ตัว ๑
กลอนเปล่า แตกต่าง เงินทอง หย่อมหญ้า เช้าคํ่า ทั่วหล้า 'หลี่มี่' ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ อ้างอิง:https://images.app.goo.gl/sV9m 7PN4dFkMb2cy6 ๒ คือ เงินทองก็เปรียบเหมือนกับคนรวยที่มีอยู่น้อยนิดแต่กับรวย เอา ๆ รวยโดยไม่มีอะไรมากั้น เช้าคํ่าเปรียบเหมือนคนจนที่มีอยู่เยอะ ที่หาเช้ากินคำอยู่ นี้แหละคือความแตกต่างระหว่างคนรวยกับจน
ในวันที่คิดถึง คณะหัวใจที่ไร้เธอ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๖ ฉันนั่งเหม่อมองฟ้าคราใจเหงา แสนสุดเศร้าคิดถึงคนทางนั้น อยากให้เราทั้งคู่อยู่ด้วยกัน นึกถึงฝันที่มีเธออยู่เคียงกาย วันสุขสันต์ของเรานั้นอยู่แสนไกล กับวันที่หัวใจฉันเหนื่อยหน่าย ได้แต่นึกถึงใจวุ่นวาย ก็ไม่คลายรักเราไม่เก่าเลย ๓
กาพย์ยานี ๑๑ ทานตะวัน โอ้ดอกทานตะวัน มีสีสันเหลืองอร่าม ใครว่าก็ชั่งงาม ต้นมีขนทนแล้งดี หากรู้ถึงความหมาย ก็ดูคล้ายรักศักดิ์ศรี มั่งคงและภักดี ดั่งที่หันหาแต่แสง 'หลี่มี่' ๑ กุมภาพันธ์๒๕๖๖ ๔
กาพย์ฉบัง ๑๖ รักเก่า ดวงดาวนับหมื่นบนฟ้า เหมือนเห็นใบหน้า ของเธอหัวใจฉันเฉา มองหมู่ดาวเตือนเรา คิดถึงรักเก่า เมื่อครั้งเราอยู่ด้วยกัน 'หลี่มี่' ๑ กุมภาพันธ์ ๑๕๖๖ อ้างอิง:Link copied https://images.app.goo.gl/dTKRH7P6fhBLz8Dq7 ๕
กาพย์สุรางคนางค์๒๘ หญิงสาวชาวไทย โด่งดังไปไกล ต้นแบบที่ดี รูปลักษณ์น่ามอง เป็นรองไม่มี ก้าวหน้าทุกปี หมั่นฝึกฝนตน เป็นแรงผลักดัน ให้เดินตามฝัน รู้จักอดทน ติดตามผลงาน ไม่ขาดสักหน ที่รักทุกคน ไม่เคยผันแปร อ้างอิง:https://images.app.goo.gl/DtrYc4V4ZVJS5ZkJA ไอดอล 'หลี่มี่' ๑ กุมภาพันธ์ ๖๖ ๖
โคลงสี่สุภาพ ความรัก คนเคยชิดใกล้ ห่วงหา ใจเปลี่ยนตามเวลา แน่แท้ ยามมีไม่รักษา ครวญใคร่(แลนา) แยกห่างไม่หวนแก้ กลับทิ้งเดียวดาย เส้นตายจบเท่านี้ เพียงพอ ตอนที่พบอีกหนอ ห่างไซร้ ใจคอยห่วงหารอ แปรเปลี่ยน(นะเอย) จะใคร่กลับมิได้ ไขว่คว้าเพียงเธอ 'หลี่มี่' ๒๖ กุมภาพันธ์๖๖ ๗
ร่าย สตรี สองวีรสตรีของชาติไทย แต่ใดคือท้าวเทพกระษัตรี และยังมีท้าวศรีสุนทร ปกป้องนครจากพม่านั้นแล คนที่เสียสละ ท้าวเทพกษัตรี และท้าวศรีสุนทร ช่วยนครยอดดี เป็นวีรสตรี ทั่วคีรีต่างรู้ สง่ากล้าลุกสู้ แน่แท้เชิดชู 'หลี่มี่' ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ๘
ฉันท์ รักแท้ ความรักคงมั่น บ่มีหวั่นกะผู้อื่น รักเดียวจะยั่งยืน พิเคราะห์แล้วสิยาวนาน ดูแลและห่วงใย สละได้บ่มีคร้าน ช่วยภาระการงาน ปฏิญาณจะรักจริง รักที่สวยงาม คอยตามดูแล คือรักพ่อแม่ ไม่มีหายไป หนุนหลังลูกยา นำ พาก้าวไกล ช่วยเหลือห่วงใย มาตั้งแต่เยาว์ เฝ้ามองไม่ห่าง ยามว่างตามดู เป็นดั่งคุณครู คนแรกของเรา สอนสั่งชี้ทาง จัดวางขัดเกลา กำ จัดความเขลา กล่าวคือรักแท้ 'หลี่มี่' ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ๙
ตันหยงดอกอัญชัน ตันหยง ตันหยง หยงไหร่ละน้องหยงดอกอัญชัน ตัวของน้องนั้นมีความฝัน ที่อยากจะหมั้นกับพี่บ่าว รอแล้วรอหลาว ตอใดพี่บ่าวอิมาขอ ที่อยากจะหมั้นกับพี่บ่าว รอเป็นเจ้าสาวของพี่เอย 'หลี่มี่' ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ๑๐
มีตำ นานความรักของคู่หนึ่ง ที่เล่าถึงเรื่องราวแสนสุดเศร้า ถูกขัดขวางความรักจนใจเฉา ทำ ให้เขายุติรักชีพมลาย ทั้งคู่นี้ชื่ออิ๋วและนายดำ เหตุชอกช้ำ พารักไร้จุดหมาย เพราะครอบครัวทำ ให้เรื่องนั้นวอดวาย น่าเสียดายรักนี้ต้องจบลง จุดเริ่มต้นความรักของทั้งคู่ หญิงเรียนครูฐานะสูงดั่งหงส์ ส่วนฝ่ายชายฐานะไม่มั่นคง เขาขับรถรับส่งเลี้ยงชีวี อิ๋วนั่งรถรับส่งเป็นประจำ ดำ ก็ทำ ตีสนิทเป็นคนซี้ ตัวอิ๋วนั้นเป็นคนหน้าตาดี ดูท่าทีก็รู้ว่ามีใจ ส่วนดำ นั้นเป็นคนที่ยากจน เขาอดทนและขยันเป็นนิสัย เขาต้องสู้เพื่อชีวิตเขาต่อไป ปัญหาใดเข้ามามิกลัวเกรง ดำ และอิ๋วเจอหน้ากันทุกวัน ความสัมพันธ์ก็แปรเปลี่ยนเร็วเร่ง ความรักนั้นก็เริ่มจะบรรเลง ดั่งบทเพลงหวานชื่นระรื่นใจ รักทั้งสองกำ ลังไปได้ดี แต่ก็มีอุปสรรคให้หวั่นไหว จากความรักงามงดดูสดใส ตอนนี้ไม่สุขสมเหมือนอย่างเคย อันครอบครัวอิ๋วนั้นฐานะดี เลยอยากได้เศรษฐีเป็นลูกเขย รู้ความจริงไม่อยากจะคิดเลย มิกล้าเผยรักนี้ให้ใครฟัง พยายามจะครองรักให้ยั่งยืน แสนขมขื่นมิได้ดั่งใจหวัง และแล้วเรื่องทั้งหมดนี้ก็พัง หมดกำ ลังเรี่ยวแรงไร้หนทาง แม้นในใจใฝ่คิดอยากจะอยู่ อยากจะสู้กับรักที่โดนขวาง แม้นความหวังจะเห็นแค่เลือนลาง แม้นเส้นทางลำ บากจะฝ่าไป แต่ด้วยรักครั้งนี้ช่างยากนัก โดนห้ามหักจนไปต่อมิไหว แอบครุ่นคิดวางแผนอยู่ในใจ ทำ อย่างไรเพื่ออยู่เคียงข้างกัน เขาทั้งสองมีความคิดไม่อยากอยู่ เขาทั้งคู่นั้นรู้สึกไม่สุขสันต์ เขาทั้งสองจึงขอคิดลาจากพลัน เขาจึงหันหลังให้สู่ความมืดมน และเขานั้นได้ไปที่สะพาน นึกเหตุการณ์ทำ ให้ใจหมองหม่น รัดผ้าชุบตัวติดกันทั้งสองคน มองน้ำ วนครุ่นคิดสิ้นชีวี ทั้งสองนั้นตัดสินใจโดดสะพาน ถูกเล่าขานมาจนถึงวันนี้ เป็นตำ นานความรักที่ภักดี เป็นสักขีพยานจนวันตาย อันสะพานข้ามน้ำ ข้ามจังหวัด เมื่อเดินตัดนึกถึงน่าใจหาย พังงาสู่ภูเก็ตเมืองหาดทราย คือความหมาย “สะพานรักสารสิน” คณะบุญรอด ๒๕ มกราคม ๒๕๖๖ สะพานรักสารสิน ๑๑
เพลงสอนน้อง เพลงมาตราตัวสะกดภาษาไทย ทำนองเพลง ฝนเทลงมา ศิลปิน การ์เนต สะเลอปี้ จำสิ่งครูสอน มาตราตัวสะกดภาษาไทย ที่เคยอ่านและท่องจำ มามาร้องพร้อมกัน มาตราตัวสะกด ตัวสะกด ตัวสะกด มีเก้ามาตรา เก้ามาตรา เก้ามาตรา ท่องจำให้ดีจำให้ดีจำให้ดี มันมีดังนี้มีดังนี้มีดังนี้ มีแม่ ก กา มีแม่ กก มีแม่ กด และมีแม่ กบ มีแม่ กง มีแม่ กม และมีแม่ กน มีแม่เกย มีแม่เกอว จดจำให้ดีจำให้ดีจำให้ดี คณะบุญรอด ๓ กุมภาพันธ์๒๕๖๖ ๑๒
วิเคราะห์เพลง ลม เป็นเพลงชนิดหนึ่งที่สื่อความหมายได้ดี ที่สามรถถ่ายทอด อารมณ์ ความรู้สึกได้ เป็นอย่างดี ทั้งอารมณ์รักเศร้าซึ่งบทเพลง นี้ยังทำ ให้เกิดความรู้สึกคิดถึงคนรัก ความ ห่างหาคนรักและนี้คือเพลงที่ดิฉันนำ เสนอ ต่อไปนี้ ๑๓
เนื้อเพลง:ลม-หนุ่ม กะลา เพลง:ลม ศิลปิน:หนุ่ม กะลา ลมเอยลมเจ้าผ่านพัด พาเธอมาให้เจอฉัน ลมเอ๋ยลมเจ้านั้น ก็พัดเธอผ่านไป คนที่เคยอยู่เคียง แต่วันนี้เค้าอยู่ที่ไหน เจ้าลมเอ๋ย เจ้าลมพัดไปแห่งใดกันหนา ลมเอยลมเจ้าผ่านพบ เจอผู้คนนับหมื่นพัน วอนสายลมเจ้านั้น ช่วยพัดเธอกลับมา นานแล้วนานเท่าไหร่ ยังจดจำ ทุกคำ สัญญา เฝ้ารอคอยสายลมพัดพาเธอมาอีกครั้ง ลมเจ้าเอ๋ย ไฉนเลยไม่เคยจะหวนมา ลมเจ้าขา พัดพาเธอมาได้ไหม ลมเอยลมเจ้าผ่านพัด พาถ้อยคำ รักจากฉัน วอนสายลมเจ้านั้นช่วยพัดไปบอกเธอ คนที่คอยตรงนี้ ยังคิดถึงเขาคิดถึงเธอ ว่าเมื่อไหร่เขาจะได้เจอ ได้เจออีกครั้ง ลมเจ้าเอ๋ย ไฉนเลยไม่เคยจะหวนมา ลมเจ้าขา พัดพาเธอมาได้ไหม ลมเอยลมเจ้าผ่านพัด พาถ้อยคำ รักจากฉัน วอนสายลมเจ้านั้นช่วยพัดไปบอกเธอ คนที่คอยตรงนี้ ยังคิดถึงเขาคิดถึงเธอ ว่าเมื่อไหร่เขาจะได้เจอ ได้เจออีกครั้ง คนที่คอยตรงนี้ เฝ้ารอคอยทุกวันเวลา เฝ้ารอคอยสายลมพัดพาเธอมาอีกครั้ง ๑๔
๑.ลักษณะทั่วไป ๑.๑ ความเป็นมาของเพลง บทเพลงรักแสนหวานปนเศร้าที่ขับร้องโดย หนุ่มณพสิน แสงสุวรรณ หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนาม หนุ่ม กะลา อดีตนัก ร้องนำ วงกะลา หลังจากที่ วงกะลา ได้แยกย้ายกัน หนุ่ม ได้ ออกมาทำ ผลงานเดี่ยวและได้มีผลงานเพลงเดี่ยวมาแล้ว ถึง ๙ บทเพลง โดยบทเพลง ลมเป็นบทเพลงที่ ๑๐ และ เป็นผลงานเพลงในอัลบั้ม TIME TO SMILE โดยค่าย genie records ถูกปล่อยออกมาบน Youtube เมื่อต้น เดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยเสียงร้องที่นุ่มนวลและมีสเน่ห์ ของเขา ประกอบกับเนื้อหาของเพลงที่มีความหมายลึกซึ้ง และมีความสวยงามของภาษา ทำ ให้เพลง ลม ได้รับกระแส ตอบรับอย่างดีจากเหล่าแฟนคลับ ๑๕
๒.คำร้อง ๒.๑ รูปแบบการประพันธ์คำร้อง เพลงลมเป็นคำประเภทกลอน ไม่ เคร่งครัดสัมผัสมากดังนี้ สัมผัสใน เป้นสัมผัสที่ปรากฏภายใน วรรค ซึ่งส่วใหญ่มีสัมผัสเกือบทุก วรรค เช่น จำ กับคำ เป็นสัมผัสสระ เอ๋ยกับเลยและเคย เป็นสัมผัสสระ ตัวอย่าง นานแล้วนานเท่าไหร่ ยังจดจำ ทุกคำ สัญญา ลมเจ้าเอ๋ย ไฉนเลยไม่เม่คยจะหวนมา ๑๖
สัมผัสนอก สัมผัสที่ส่งจาก วรรคหนึ่งไปยังอีกวรรคหนึ่ง ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ลมเอยลมเจ้าผ่านพัด พาเธอมาให้เจอฉัน ลมเอ๋ยลมเจ้านั้น ก็พัดเธอผ่านไป คนที่เคยอยู่เคียง แต่วันนี้เค้าอยู่ที่ไหน ๑๗
๒.๒การใช้ภาษา เพลงลม ใช้ภาษากลางในการแต่งเพลงมี กลวิธีแต่งทำ ให้ผู้แต่งคล้อยตามไปด้วย จนสามารถเข้าถึงเนื้อร้องที่ว่า ลมเอยลมเจ้าผ่านพัด พาเธอมาให้เจอฉัน ลมเอ๋ยลมเจ้านั้น ก็พัดเธอผ่านไป คนที่เคยอยู่เคียง แต่วันนี้เค้าอยู่ที่ไหน เจ้าลมเอ๋ย เจ้าลมพัดไปแห่งใดกันหนา ลมเอยลมเจ้าผ่านพบ เจอผู้คนนับหมื่นพัน วอนสายลมเจ้านั้น ช่วยพัดเธอกลับมา นานแล้วนานเท่าไหร่ ยังจดจำทุกคำสัญญา เฝ้ารอคอยสายลมพัดพาเธอมาอีกครั้ง ๑๘
๒.๓ ภาพสะท้อน เมื่อพูดถึง " ความรัก " ยังคงเป็นสิ่งสวยงามที่ หัวใจใครหลายคนใฝ่ฝันหา ว่าจะได้พบกับใครสักคน ที่ทำ ให้หัวใจได้เบิกบาน หรือรู้สึกถึงความรักอีกสัก ครั้ง หลายครั้งที่ชีวิตคนเราได้พบกับใครสักคนที่ทำ ให้ เราได้สัมผัสกับความเบิกบาน ความรักในหัวใจ แต่ ด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตที่เกิดขึ้นอาจทำ ให้เรา ต้องห่างไกลกับใครคนนั้น แม้ไม่รู้ว่าจะได้พบเจอกัน อีกหรือไม่ แต่ลึก ๆ ในหัวใจก็ยังหวังว่า สักวันนึง เราอาจได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อได้บอกรักหรือใช้ ชีวิตร่วมกันอีกสักครั้ง ๑๙
๓.อุปมา อุปมัย ของเพลง บทเพลงรักที่แฝงไปด้วยความรู้สึกคิดถึง คนรักที่พลัดพลากจากกันไป ด้วยหวังว่า จะมีโอกาสได้พบเขาหรือเธอคนนั้นอีกสัก ครั้ง เนื้อเพลงเล่าถึง การส่งผ่านความ รู้สึกที่มีอยู่ในหัวใจนั้นไปกับลมที่พัดไปในที่ ต่าง ๆ ให้ช่วยส่งผ่านความรู้สึก รัก คิดถึง ห่วงหาในนั้นไปให้คนรักที่จากกันไป 'หลี่มี่' ๖ มีนาคม ๖๖ ๒๐
บทครูในดวงใจ เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่ สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ โคลงสี่สุภาพ ถอดความ:มีเสียงร่ำ ลืออ้างถึงอะไรกัน เสียงนั้นยกย่องเกียรติของใครทั่วทั้งพื้น หล้าแผ่นดิน พี่ทั้งสองนอนหลับใหล จนลืมตื่นหรือพี่ พี่ทั้งสองจงคิดเอาเอง เถิด อย่าได้ถามน้องเลย บทนี้เขานับเป็นบทครูที่วรรณคดียุคต่อมาต้องนำ มา เป็นแบบอย่าง (ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง แต่แต่งในเรื่องลิลาพระลอ) ๒๑
ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ บทครูในดวงใจ ไฉนเลยพระครูเรา จะพูดเปล่าประโยชน์มี เลอะเหลวนักละล้วนนี รผลเห็นบเป็นไป เถอะถึงถ้าจะจริงแม้ พูดแท้ก็ทำไม แนะชวนเข้าณข้างใน จะถามนอกบยากเย็น ถอดความ:วิจารณ์ว่าพระอาจารย์จะพูดเรื่องเหลวไหลไร้สาระเช่น นี้เป็นไปไม่ได้และหากว่าจะพูดจริงเหตุใดจะต้องเรียกเข้าไปถาม ข้างในห้อง ถามข้างนอกห้องก็ได้ (นายชิต บุรทัต ) ๒๒
บทครูในดวงใจ กาพย์ยานี๑๑ พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำ คัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา” (สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส) ถอดความ: วัวควายและช้างเมื่อตายไปแล้ว เขาทั้งสองและงาทั้งสอง จะเป็นเครื่องให้ระลึกได้ว่าครั้งหนึ่งมันเคยมีชีวิตอยู่ ส่วน มนุษย์เรานั้นเมื่อสิ้นชีวิต ร่างกายก็จะสูญสิ้นหมด คงมีแต่ ความชั่วความดีเท่านั้นที่คงอยู่ ๒๓
บทครูในดวงใจ กลอนสักวา สักวาหวานอื่นมีหมื่นแสน ไม่เหมือนแม้นพจมานที่หวานหอม กลิ่นประเทียบเปรียบดวงพวงพะยอม อาจจะน้อมจิตโน้มด้วยโลมลม แม้นล้อลามหยามหยาบไม่ปลาบปลื้ม ดังดูดดื่มบอระเพ็ดต้องเข็ดขม ผู้ดีไพร่ไม่ประกอบชอบอารมณ์ ใครฟังลมเมินหน้าระอาเอย ถอดความ:ดอกไม้มากมายเท่าใดก็ไม่เหมือนคำพูดคำเดียวที่ออกมาจากปาก คนเหมือนกับความหอมของดอกไม้ที่สามารถโน้มน้าวจิตใจคนได้" (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณ) ๒๔
บทครูในดวงใจ ร่ายสุภาพ ศรีสวัสดิเดชะ ชนะราชอรินทร์ ยินพระยศเกริกเกรียง เพียงพกแผ่นฟากฟ้า หล้าหล่มเลื่องชัยเชวง เกรงพระเกียรติระย่อ ฝ่อใจห้าวบมิหาญ ลาญใจแกล้วบมิกล้า บค้าอาตม์ออกรงค์ บคงอาตม์ออกฤทธิ์ ท้าวทั่วทิศทั่วเทศ ไท้ทุกเขตทุกด้าว น้าวมกุฎมานบ น้าวพิภพมานอบ เถลิงพระเกียรติฟุ้งฟ้า ลือตรลบแหล่งหล้า โลกล้วนสดุดี ถอดความ:กล่าวสดุดีพระบรมเดชานุภาพแห่กษัตริย์ไทยที่เอาชนะเหล่าศัตรูผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายพระเกียรติยศ เป็นที่เลื่องลือเหมือนพลิกแผ่นฟ้า ข้าศึกเกรงพระบรมเดชานุภาพไม่กล้าเสี่ยงทำสงคราม ยอมเป็นเมืองขึ้น กรุงศรีอยุธยาเจริญรุ่งเรืองมีความสุขสำราญพรั่งพร้อมด้วยโภคสมบัติพร้อมสรรพด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร อันสมบูรณ์บ้านเมืองมีแต่ความสงบปราศจากศึกสงคราม ข้าราชการ ทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายในก็พากันเฝ้า แหนอย่างพร้อมพรั่ง เหล่าทหารพล ช้าง ม้า อาวุธ ปืนไฟ ทั่วโลกล้วนสรรเสริญสดุดีเป็นบุญญานุภาพ แห่งพระมหากษัตริย์แห่งแผ่นดินสยาม เมื่อข้าศึกได้ยินพระเกียรติยศชื่อเสียง พากันเกรงกลัวพระบรม เดชานุภาพ ฤทธานุภาพของพระองค์เปรียบพระรามที่ปราบยักษ์ (ทศกัณฐ์) พระองค์เปรียบเหมือน พระพุทธเจ้าที่ปราบกำลังพลของพญามาร ข้าศึกไม่อาจต่อสู้พระองค์ได้เมื่อเสร็จศึกแล้วก็ขึ้นครองราช สมบัติพระบารมีของพระองค์ทำให้บ้านเมืองร่มเย็นดุจแสงจันทร์ที่ส่องอยู่บนท้องฟ้า ส่องความสุข ความ สบายใจแก่มนุษยโลก บ้านเมืองมีแต่ความสมบูรณ์ปราศจากความทุกข์จนเป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญทั่วไป ทุกแหล่ง หล้า (สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส) ๒๕
ผู้เรียบเรียง หลี่มี่ นางสาวสุรีย์พร สาระวงค์ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ คณะบุญรอด นางสาวภฤศนี บุรีภักดี นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวมัณฑิตา ช่างเหล็ก นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นายรนกฤต กิจสุวรรณ์ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวรัชฎาภรณ์คำนึงการ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวแวฟาดีลา สะมะแอ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวศศิภา อร่ามเรือง นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวสุรีย์พร สาระวงค์ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ คณะหัวใจที่ไร้เธอ นางสาวเจนจิรา อินทะศร นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวเปรมกมล ทอดทิ้ง นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวโสภิดา อร่าม นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวอัจฉรา กาญจนา นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวอามีเราะ มานีอาเหล็ม นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวปิยธิดา ไชยวรรณ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นายรนกฤต กิจสุวรรณ์ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕ นางสาวสุรีย์พร สาระวงค์ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ๖๕
ความทรงจำ บทกวี ประพันธ์ด้วยตัวเรา