ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดย เทศบาลเมืองพังงา ตำบลท้ายช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพังงา
ความหมายของภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Local Wisdom) หมายถึง พื้นความรู้ความสามารถที่ผ่านกระบวนการคิดโดยใช้ สติปัญญาของคนในท้องถิ่น มีการเรียนรู้และการถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งจนเกิดผลดีงาม มีคุณค่า มี ประโยชน์ สามารถนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือใช้เป็นแนวทางในการดำรงชีวิต ให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคสมัย ประเภทของภูมิปัญญาท้องถิ่น ๑. ด้านเกษตรกรรม หมายถึง ความสามารถในการผสมผสานองค์ความรู้ ทักษะ และเทคนิคด้าน การเกษตรกับเทคโนโลยี โดยการพัฒนาบนพื้นฐาน คุณค่าดั้งเดิม ซึ่งคนสามารถพึ่งพาตนเองในสภาวการณ์ ต่างๆ ได้ เป็นภูมิปัญญาที่เกี่ยวกับการกสิกรรม การปศุสัตว์ การประมง การป่าไม้ เช่น การทำการเกษตรแบบ ผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ โคกหนองนา เป็นต้น ๒. ด้านหัตถกรรม หมายถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่นในงานฝีมือหรืองานช่างที่ทำด้วยมือ และอุปกรณ์อย่าง ง่าย โดยไม่ใช้เครื่องจักรเป็นองค์ประกอบหลักในการผลิต เช่น งานจักรสาน งานแกะสลักหนังตะลุง งานทอผ้า ด้วยมือ งานเย็บปักถักร้อย การทำหัวโขน เป็นต้น 3. ด้านอุตสาหกรรม หมายถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่นในงานที่ใช้ทุน แรงงาน และเครื่องจักรเป็น องค์ประกอบหลักในการผลิต โดยมีเป้าหมายการผลิตสิ่งของเป็นจำนวนมากเพื่อการค้า และรวมถึงงานด้าน การบริการ เช่น การทำเครื่องเรือนจากไม้แปรรูป (โต๊ะ/เตียง/ตู้) การแปรรูปสิ่งต่างๆ จากยางพารา เป็นต้น 4. ด้านการแพทย์ไทย หมายถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการดูแลและรักษาสุขภาพแบบพื้นบ้าน ความสามารถในการจัดการป้องกัน และรักษาสุขภาพของคนในชุมชน โดยเน้นให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเอง ทางด้านสุขภาพและอนามัยได้ เช่น หัตถเวชกรรมไทย (การนวดไทย/การนวดประคบสมุนไพร) การใช้ สมุนไพรในการักษาโรค การผดุงครรภ์พื้นบ้านโดยหมาตำแยของชาวไทยมุสลิม(โต๊ะบิแด) เป็นต้น 5. ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมายถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งอนุรักษ์การพัฒนา และใช้ประโยชน์จากคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล และยั่งยืน การบวชป่า การสืบชะตาแม่น้ำ การทำแนวปะการังเทียม การอนุรักษ์ ป่าชายเลน เป็นต้น 6. ด้านศิลปกรรม หมายถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะสาขาต่างๆ เช่น จิตรกรรม ประติมากรรม นาฎศิลป์ ดนตรี ทัศนศิลป์ คีตศิลป์ การละเล่นพื้นบ้านและนันทนาการ เช่น การขับ ร้องเพลงอีแซว ลำตัด ลิเด หมอลำ หนังตะลุง โนรา เป็นต้น 7. ด้านภาษาและวรรณกรรม หมายถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับการใช้ภาษาทั้งภาษาพูด ภาษาเขียน ภาษาถิ่น ภาษาโบราณ ภาษาไทย และภาษาอื่นๆ ตลอดทั้งด้านวรรณกรรมทุกประเภท 8. ด้านอื่นๆ เช่น ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านความเชื่อ ศาสนา ประเพณี พิธีกรรม อาหารไทย อาหาร พื้นบ้าน เป็นต้น
บัญชีฐานข้อมูลภูมิปัญญ ลำดับ ที่ ประเภทภูมิปัญญา ท้องถิ่น ชื่อภูมิปัญญาท้องถิ่น ชื่อผู้มีภูมิปัญญา ๑ ด้านเกษตรกรรม การทำเกษตรแบบผสมสาน นายอารมณ์ อินฉ้วน ๒ ด้านหัตถกรรม งานหัตถกรรม (สิ่งประดิษฐ์จากผ้า) นางเรณู สังข์เงิน ๓ ด้านการแพทย์ไทย การใช้สมุนไพรในการรักษาโรค นางสุวรรณา ไพรสุวรรณ ๔ ด้านการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม กลุ่มรักษ์นกเงือกสวนสมเด็จฯ กลุ่มรักษ์นกเงือกสวนสมเด็จฯ ๕ ด้านศิลปกรรม ศิลปกรรมสาขานาฎศิลป์ (ระบำร่อนแร่) นางไพริน กาฬจันโท ๖ ด้านอาหารไทย และ อาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นบ้าน (ขนมถาวโก้ย และขนมเกี่ยมโก้ย) นางสาวิตรี เกษมศรี ๗ ด้านความเชื่อ ศาสนา ประเพณีพิธีกรรม พิธีกรรมศาสนาอิสลาม นายดอหล้อ จันทรส ๘ ด้านความเชื่อ ศาสนา ประเพณีพิธีกรรม พิธีกรรมไทย-พุทธ-จีน นายศุภรักษ์ พรหมอนุรักษ์
ญาท้องถิ่น เทศบาลเมืองพังงา ผู้ประสานงาน ที่อยู่ ลักษณะการดำเนินการ นายอารมณ์ อินฉ้วน 14/1 ซ.ทักษิณ ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ทำเกษตรแบบผสมผสานลดการใช้สารเคมี นำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ นางเรณู สังข์เงิน 1/1 ซ.ทุ่งเจดีย์ ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ประดิษฐ์ และออกแบบสิ่งขอใช้ในบ้านจาก ผ้าโดยใช้มือเย็บ และงานเย็บปักถักร้อยต่างๆ เช่น ถุง/กระเป๋าผ้า ซองเก็บกุญเจ เป็นต้น นางสุวรรณา ไพรสุวรรณ 8/2 ถ.บริรักษ์บำรุง ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ใช้ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สมุนไพร ในการรักษา กรณีไม่ใช่โรคร้ายแรง นายสามารถ พูลศิริ 15/32 ถ.เทศบาลบำรุง ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา จัดกิจกรรมอนุรักษ์นกเงือกที่อาศัยอยู่ในสวน สมเด็จฯเช่น จัดทำโพรงรังเทียมให้นกเงือก ปลูกต้นไม้ที่เป็นอาหารสำหรับนกเงือก นางไพริน กาฬจันโท 20 ซ.คอกหญ้า ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา สอนนาฎศิลป์ระบำร่อนแร่ และนาฎศิลป์ ด้านอื่นๆ ให้แก่เด็กและเยาวชน นางสาวิตรี เกษมศรี 102/28 ถ.มนตรี ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ทำ และสอนทำขนมพื้นบ้าน(ขนมถาวโก้ย และขนมเกี่ยมโก้ย) ให้แก่ผู้สนใจ นายดอหล้อ จันทรส 49 ซ.สามัคคี ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาอิสลาม นายศุภรักษ์ พรหมอนุรักษ์ 129 ถ.เจริญราษฎร์ ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ประกอบพิธีกรรมไทย-พุทธ-จีน เช่น การ ประกอบพิธีการในศาสนาพุทธ ทำพิธียกเสา โกเต้งในศาลเจ้า เป็นต้น
1. ด้านเกษตรกรรม ชื่อภูมิปัญญาท้องถิ่น การทำเกษตรแบบผสมสาน ชื่อผู้มีภูมิปัญญา นายอารมณ์ อินฉ้วน ชื่อเรียกขานทั่วไป อารมณ์ เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย อาชีพ ข้าราชการบำนาญ ที่อยู่ 14/1 ซ.ทักษิณ ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ลักษณะการดำเนินการ - ทำเกษตรแบบผสมผสานลดการใช้สารเคมี หลักเกษตรทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ - วิทยากรให้ความรู้เรื่องทำเกษตรแบบ ผสมผสาน เกษตรอินทรีย์เป็นต้น ระบบเกษตรผสมผสาน เป็นการจัดระบบของกิจกรรมการผลิตในไร่นา ได้แก่ พืช สัตว์ ประมง ให้มีการ ผสมผสานอย่างต่อเนื่องและเกื้อกูลในการผลิตซึ่งกันและกัน โดยการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่ในไร่นา เช่น ดิน น้ำ แสงแดดอย่างเหมาะสมเกิดประโยชน์สูงสุด มีความสมดุล ของภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและเกิดผลในการ เพิ่มพูนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติด้วย หลักการของเกษตรแบบผสมผสานมี 4 ประการคือ 1. ประกอบด้วยกิจกรรมการผลิตตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป อาจเป็นการผสมผสาน ระหว่างพืชกับพืช สัตว์ กับสัตว์ หรือสัตว์กับพืช 2. กิจกรรมการผลิตแต่ละชนิดจะต้องเกื้อกูลกันเป็นวงจร โดยพิจารณาจาก การหมุนเวียนการใช้ ประโยชน์เกี่ยวกับอาหาร อากาศและพลังงาน 3. ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม 4. ใช้แรงงานคนเป็นหลัก โดยเป็นแรงงานที่มีอยู่ภายในครอบครัว ครอบครัวเกษตรกรต้องมีความใจเย็น และเข้าใจ มีความอดทนมุมานะในการทำกิจกรรมอย่าง ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งต่างจากที่เคยทำในการปลูกพืช เชิงเดี่ยวที่ทำเสร็จแล้วก็เสร็จเลย แต่การทำ เกษตรแบบผสมผสานต้องให้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
2. ด้านหัตถกรรม ชื่อภูมิปัญญาท้องถิ่น งานหัตถกรรม (สิ่งประดิษฐ์จากผ้า) ชื่อผู้มีภูมิปัญญา นางเรณู สังข์เงิน ชื่อเรียกขานทั่วไป อ้อย เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย อาชีพ ข้าราชการบำนาญ ที่อยู่ 1/1 ซ.ทุ่งเจดีย์ ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ลักษณะการดำเนินการ - ประดิษฐ์ และออกแบบสิ่งขอใช้ในบ้าน จากผ้า และงานเย็บปักถักร้อยต่างๆ เช่น ถุงผ้า กระเป๋าผ้า ซองเก็บกุญเจ เป็นต้น - วิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับงานเย็บปัก ถักร้อย งานเย็บปักถักร้อย เป็นศิลปหัตถกรรมหรืองานฝีมือของไทยที่มีเป็นงานหัตถกรรม เย็บปักถักร้อย นับเป็นงานศิลปหัตถกรรมแขนงหนึ่งมาแต่โบราณกาล ซึ่งทำขึ้นเพื่อตกแต่งให้เกิดความเรียบร้อยและสวยงาม ปัจจุบันงานเย็บปักถักร้อย จัดเป็นผลงานประเภทศิลปะประยุกต์ ที่ถูกทำขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอยใน ชีวิตประจำวัน หรือบางครั้งอาจถูกสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดงานศิลปะ ที่จะเป็นสิ่งแสดงเอกลักษณ์ของสังคม, ชน เผ่า หรือประเทศ โดยรูปแบบของผลงานขึ้นอยู่กับทักษะ, ความชำนาญ และประสบการณ์ของช่าง ซึ่งอุปกรณ์ พื้นฐานที่ใช้คือ อุปกรณ์ตัดเย็บเสื้อผ้าทั่วไป อาทิเช่น จักรเย็บผ้า, เข็ม, ด้าย, เลื่อม, ลูกปัด เป็นต้น
3. ด้านการแพทย์ไทย ชื่อภูมิปัญญาท้องถิ่น การใช้สมุนไพรในการรักษาโรค ชื่อผู้มีภูมิปัญญา นางสุวรรณา ไพรสุวรรณ ชื่อเรียกขานทั่วไป สุวรรณา เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย อาชีพ ข้าราชการบำนาญ ที่อยู่ 8/2 ถ.บริรักษ์บำรุง ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ลักษณะการดำเนินการ - ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สมุนไพร ในการรักษา - วิทยากรเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรใน การรักษา เริ่มเรียนรู้และได้รับการบ่มเพาะภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทย และด้านสมุนไพร เมื่อปี พ.ศ. 2547 จากพ่อครูหมอยาจำลอง ไพรสุวรรณ (บิดาของสามี) เป็นผู้สอนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ รวมทั้งเป็นผู้แนะนำให้ ศึกษาเพิ่มเติมจากคัมภีร์ และตำราต่างของตน ต่อมาได้ศึกษาต่อด้านแพทย์แผนไทย จากสมาคมแพทย์แผน ไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช สาขา 4 กิ่งอำเภอโคกกลอย จังหวัดพังงา และสมาคมแพทย์แผนไทย จังหวัด กระบี่ และสอบได้เภสัชไทย เมื่อ พ.ศ. 2549 , เวชกรรมไทย เมื่อ พ.ศ. 2551 ปัจจุบันดำเนินกิจกรรมด้านแพทย์แผนไทย และด้านสมุนไพร ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรใน การรักษา กรณีไม่ใช่โรคร้ายแรง การดูแลสุภาพตามหลักการใช้อาหารเป็นยา โดยจัดตำรับยาให้เหมาะสมกับ โรคและอาการของคนไข้ เช่น บำรุงหัวใจ ไข้ทับระดู ฟอกโลหิต เป็นวิทยากรเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรในการ รักษา กรณีไม่ใช่โรคร้ายแรง การดูแลสุภาพตามหลักการใช้อาหารเป็นยา
4. ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชื่อภูมิปัญญาท้องถิ่น การอนุรักษ์นกเงือกสวนสมเด็จฯ พังงา ชื่อผู้มีภูมิปัญญา กลุ่มรักษ์นกเงือกสวนสมเด็จฯ พังงา ผู้ประสานงาน นายสามารถ พูลศิริ ที่อยู่ 15/32 ถ.เทศบาลบำรุง ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ลักษณะการดำเนินการ จัดกิจกรรมอนุรักษ์นกเงือกที่อาศัยอยู่ในสวนสมเด็จฯ พังงา เช่น จัดทำโพรงรังเทียมให้นกเงือก สร้างแหล่งอาหารโดยการปลูก ต้นไม้ที่เป็นอาหารสำหรับนกเงือก หรือนำอาหารจากแหล่งอื่นมา แขวนไว้บริเวณแหล่งอาหารของนกเงือก ปัจจุบันมีนกเงือกอาศัย อยู่ในสวนสมเด็จฯ พังงา จำนวน 3 คู่ นกเงือก เป็นนกป่าขนาดใหญ่ ที่มีจุดเด่น คือ จะงอยปากหนาที่ใหญ่และมีโหนกทางด้านบนเป็นโพรง ภายในโพรงมีเนื้อเยื่อคล้ายฟองน้ำ ส่วนใหญ่ลำตัวมีสีขาวดำหางยาว ปีกกว้างใหญ่ บินได้แข็งแรง เวลาบินจะ โบกปีกช้า ๆ กินผลไม้เป็นอาหารหลัก และสัตว์เลื้อยคลานเล็ก ๆ เป็นอาหารเสริม ทำรังในโพรงไม้ ตัวเมียจะ เข้าไปกกไข่ในโพรงโดยใช้โคลนและมูลปิดปากโพรงไว้ เหลือเพียงช่องพอให้ตัวผู้ยื่นส่งอาหารเข้าไปได้ เมื่อลูก นกโตพอแล้ว จึงเจาะโพรงออกมา และจากจะงอยปากและส่วนหัวที่ใหญ่เหมือนโหนกหรือหงอนนั้น ทำให้นก เงือกถูกใช้ในเชิงสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมมาแต่โบราณ โดยใช้ทำเป็นเครื่องประดับของชนเผ่าต่าง ๆ นกเงือก มีลักษณะการทำรังที่แปลกจากนกอื่น คือ เมื่อถึงฤดูกาลทำรัง นกคู่ผัวเมียจะพากันหารัง ซึ่ง ได้แก่ โพรงไม้ตามต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นยาง ที่อยู่ในที่ลับตา เมื่อตัวเมียเข้าไปอยู่ในโพรง จะทำความสะอาดแล้ว เริ่มปิดปากโพรง ด้วยวัสดุต่าง ๆ เช่น ดิน เปลือกไม้ ตัวเมียจะขังตัวเองอยู่ภายในเพื่อออกไข่และเลี้ยงลูก
5. ด้านศิลปกรรม ชื่อภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปกรรมสาขานาฎศิลป์ (ระบำร่อนแร่) ชื่อผู้มีภูมิปัญญา นางไพริน กาฬจันโท ชื่อเรียกขานทั่วไป ครูอี๊ด เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย อาชีพ ข้าราชการบำนาญ อาชีพ ที่อยู่ 20 ซ.คอกหญ้า ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ลักษณะการดำเนินการ - แสดงระบำร่อนแร่ และนาฎศิลป์ด้านอื่นๆ - สอนนาฎศิลป์ระบำร่อนแร่ และ นาฎศิลป์ด้านอื่นๆ ให้แก่เด็ก เยาวชน และผู้สนใจ ระบำร่อนแร่ เป็นระบำที่ปรับปรุงขึ้นตามลีลาท่าทางในการประกอบอาชีพของชาวไทยภาคใต้ จัดแสดง ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนิน เยือนภาคใต้เป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ต่อมานักศึกษาระดับปริญญา วิทยาลัยนาฏศิลปสมทบในคณะนาฏ ศิลปและดุริยางค์ วิทยาลัยเทคโนโลยีอาชีวะศึกษา พ.ศ. ๒๕๒๑ ได้นำระบำร่อนแร่มาปรับปรุง และเรียบเรียงท่า ขึ้นใหม่ โดยใช้เพลง "ตลุงราษฎร์"
6. ด้านอาหารไทย และอาหารพื้นบ้าน ชื่อภูมิปัญญาท้องถิ่น ขนมพื้นบ้าน (ขนมฉ้ายถาวโก้ย และขนมเกี่ยมโก้ย) ชื่อผู้มีภูมิปัญญา นางสาวิตรี เกษมศรี ชื่อเรียกขานทั่วไป วิต เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย อาชีพ ข้าราชการบำนาญ ที่อยู่ 102/28 ถ.มนตรี ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ลักษณะการดำเนินการ สอนทำขนมพื้นบ้าน(ขนมฉ้ายถาวโก้ย และขนมเกี่ยมโก้ย) ให้แก่ผู้สนใจ ขนมเกี่ยมโก้ย เป็นขนมถ้วยสีขาวโรยหน้าด้วยกุ้งแห้งทอดบด หอมเจียว และต้นหอมซอย ราดด้วย น้ำจิ้มพริกแห้งสามรส คือเปรี้ยวหวานแซมความเผ็ดจากพริกแห้ง นิยมทานเป็นขนมเช้า หรือของว่าง เสน่ห์และเอกลักษณ์ของขนมเกี่ยมโก้ย ความหนึบหนับของแป้งสีขาวนึ่ง และความหอมกรุ่นของหอมเจียวผสานกับความหอมของกุ้งแห้งทอด เสริฟพร้อมน้ำจิ้มสามรส ส่วนผสมตัวขนม ประกอบด้วย แป้งข้างจ้าว น้ำ กุ้งแห้งโขลกละเอียดทอด ต้นหอมหั่นฝอย หอมแดงเจียว วิธีทำ - ละลายแป้งด้วยน้ำธรรมดา ๑ ถ้วย คนให้เข้า กัน แล้วเติมน้ำร้อน ๑ ถ้วย คนให้เข้ากัน - ใส่เกลือคนให้เข้ากัน พักไว้ - นำถ้วยที่จะใส่วางลงใน ซึ่งนึ่งให้ร้อนก่อนแล้ว ตักแป้งที่ผสมแล้วลงใส่ในถ้วยแล้วนึ่งจนขนมสุก ประมาณ ๒๐ นาที (ถ้าเป็นถ้วยตะไลนึ่งได้ ประมาณ ๑๕ นาที) - เมื่อสุกแล้วยกลงโรยหน้าด้วยกุ้งแห้งทอดและ หอมเจียว ส่วนผสมของน้ำจิ้ม ประกอบด้วย กระเทียมสด พริกแห้ง น้ำตาล เกลือ น้ำส้มสายชู น้ำ วิธีทำน้ำจิ้ม โขลกพริกแห้งใหญ่กับกระเทียมสดและเกลือให้เข้ากันให้ละเอียดเติมน้ำตาล น้ำส้มสายชู และน้ำ พอประมาณชิมรสตามต้องการ
ฉ้ายถาวโก้ย คือ ขนมหัวไชเท้า หรือขนมที่ทำมากจากหัวไชเท้า ผสมกับแป้งข้าวจ้าวนึ่งจนสุก ทานได้ ทั้งแบบนึ่ง และแบบทอด โดยจะตัดแบ่งขนมเป็นสี่เหลี่ยม ถ้าทานแบบนึ่งก็โรยถั่วลิสงบดแบบหยาบๆ ตามด้วย ต้นหอม แต่ถ้าทานแบบทอดต้องรอให้แห้งก่อน แล้วจึงค่อยนำไปทอดจน เนื้อแป้งกรอบนอกนุ่มใน เวลาทาน ให้ใส่น้ำตาลเพิ่มรสชาติ ฉ้ายถาวโก้ยแบบนึ่ง ทำจากหัวไชเท้าขูดเป็นเส้นฝอยๆ ผสมกับแป้งข้าวเจ้า แป้งถั่วเขียว ใส่หมูสามชั้น ไข่ น้ำตาล หัวเปราะ หอมแดง พริกไทย ผสมเข้าด้วยกันแล้วนำไปนึ่ง สุกแล้วโรยถั่วลิสงบดแบบหยาบๆ ตาม ด้วยต้นหอมหั่นฝอย ฉ้ายถาวโก้ยแบบทอด ส่วนผสมของตัวแป้งคล้ายคลึงกับแบบนึ่ง แต่ตัวแป้งจะไม่หวาน พอนึ่งเสร็จทิ้ง ไว้ให้เย็น แล้วค่อยนำมาทอด จนเนื้อแป้งด้านนอกกรุบกรอบ รับประทานโดยจิ้มกับน้ำตาลทราย รสชาติเค็มๆ มันๆ จากเนื้อแป้งกรอบนอกนุ่มใน หวานจากน้ำตาลทราย เวลากัดแล้วหอมพริกไทยดำ ส่วนผสมตัวขนม ประกอบด้วย หัวไชเท้า แป้งข้าวเจ้า หมูสับ น้ำตาลทราย กระเทียม พริกไทย ป่นจันอับหั่น ถั่วลิสง ต้นหอม วิธีทำ - นำหัวไชเท้าที่ล้างสะอาดแล้วมาขูดเป็นเส้นฝอย ๆ หรือ หั่นเล็ก ๆ แล้วใส่ลงไปในแป้งข้าวเจ้าที่ เตรียมไว้ในหม้อ พร้อมกับน้ำและส่วนผสมตามแต่ละแบบ - นำหม้อที่มีแป้งไปวางในกระทะที่กำลังร้อน ๆ แล้วคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าเนื้อแป้งจะข้น หลังจากนั้นก็ หันไปตั้งลังถึง และเปิดไฟแรง ๆ ให้น้ำเดือดเต็มที่ วางถาดสแตนเลสลงไปในลังถึง แล้วค่อย ๆ เทแป้งที่ยังร้อน ลงไปในถาด แล้วปิดฝาเพื่อนึ่งให้สุกใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถ้าทานแบบนึ่งให้โรยถั่วลิสงที่บดแบบหยาบ ๆ และตามด้วยต้นหอมหั่นหลังจากนึ่งเสร็จร้อน ๆ ได้เลย แต่สำหรับแบบทอดต้องรอให้แห้งก่อน แล้วจึงค่อย นำไปทอดจนเนื้อแป้งกรอบนอกนุ่มใน เนื้อแป้งจะไม่มีรสหวาน เวลาทานจึงนิยมใส่น้ำตาลลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ ขนมฉ้ายถาวโก้ยแบบนึ่ง ขนมฉ้ายถาวโก้ยแบบทอด
7. ด้านความเชื่อ ศาสนา ประเพณี พิธีกรรม ชื่อภูมิปัญญาท้องถิ่น พิธีกรรมศาสนาอิสลาม ชื่อผู้มีภูมิปัญญา นายดอหล้อ จันทรส ชื่อเรียกขานทั่วไป อิหม่ามแลาะ เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย อาชีพ ข้าราชการบำนาญ ที่อยู่ 49 ซ.สามัคคี ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ลักษณะการดำเนินการ เป็นแกนนำศาสนาในการประกอบพิธีกรรม ตามหลักศาสนาอิสลาม เช่น การละหมาด พิธีฝังศพ เป็นต้น ปัจจุบันดำรงอิหม่าม ประจำมัสยิดกลางจังหวัดพังงา เป็นแกนนำศาสนาในการประกอบพิธีกรรมตาม หลักศาสนาอิสลาม เป็นผู้นำธรรมชาติในการปฏิบัติศาสนกิจของชาวมุสลิม เช่น สอนอ่านอัลกูรอาน พิธีฝังศพ การละหมาด นำพิธีขอพร (ดูอาร์) พิธีเข้าสุนัต นำละศีลอดในเดือนรอมฎอน การเข้ารับศาสนาใหม่ การนิกะห์ การอ่านคุตบะห์ เป็นต้น
8. ด้านความเชื่อ ศาสนา ประเพณี พิธีกรรม ชื่อภูมิปัญญาท้องถิ่น พิธีกรรมไทย-พุทธ-จีน ชื่อผู้มีภูมิปัญญา นายศุภรักษ์ พรหมอนุรักษ์ ชื่อเรียกขานทั่วไป โอ เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย อาชีพ ข้าราชการพลเรือน ที่อยู่ 129 ถ.เจริญราษฎร์ ต.ท้ายช้าง อ.เมือง จ.พังงา ลักษณะการดำเนินการ ประกอบพิธีกรรมไทย-พุทธ-จีน เช่น การประกอบพิธีการในศาสนาพุทธ ทำพิธียกเสาโกเต้งในศาลเจ้า เป็นต้น พิธียกเสาโกเต้ง พิธียกเสาโกเต้ง อัญเชิญตะเกียง 9 ดวง ขึ้นสู่ยอดเสา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เริ่มต้นงาน ประเพณีถือศีลกินผัก โดยมีชาวไทยเชื้อสายจีน นุ่งขาวห่มขาวเข้าร่วมพิธีเพื่อป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและ ครอบครัว ซึ่งมีความเชื่อว่าผู้ที่ได้เข้ามาร่วมในพิธีดังกล่าวจะเป็นผู้ที่ร่วมพิธีถือศีลกินผักอย่างสมบูรณ์ การยกเสาโกเต้งไว้หน้าศาลเจ้านั้น เป็นการเตรียมเสาสำหรับแขวนตะเกียงไฟ 9 ดวง ก่อนจะประกอบ พิธีอัญเชิญกิ๋วอ๋องไต่เต่ และพระผู้ใหญ่ทั้งเก้า มาเป็นประธานในพิธีกินผักในช่วงดึก ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของ การเริ่มการถือศีลกินผักอย่างเป็นทางการ โดยตลอดทั้ง 9 วันของประเพณีถือศีลกินผัก จะมีพิธีกรรมต่างๆ หลายกิจกรรมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นพิธีบูชาพระด้วยเครื่องเซ่นต่างๆ ทั้งศาลเจ้า และตามบ้านของผู้กินผัก การ สวดมนต์ตั้งแต่เมื่อกิ๊วฮ๋งไต่เต้ เข้าประทับในอ๊าม หรือศาลเจ้า หรือที่เรียกกันว่าพิธีเหลี่ยมเก้ง เมื่อถือศีลกินผัก ได้ครบ 3 วัน ถือว่าผู้นั้นสะอาด บริสุทธิ์ หรือที่เรียกว่าเช้ง ศาลเจ้าจะเริ่มทำพิธีโขกุ้น ซึ่งเป็นพิธีกรรมการเลี้ยง เหล่าทหาร พิธีอัญเชิญลำเต้า-ปักเต้า หรือเทวดาผู้กำหนดเวลาเกิดเวลาตาย พิธีอาบน้ำมัน พิธีลุยไฟ พิธีสะเดาะ เคราะห์ การทรงพระซึ่งเป็นการเชิญเจ้ามาประทับในร่างของม้าทรง และแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการทรมานร่างกาย ในรูปแบบต่างๆ เพื่อรับทุกข์แทนผู้ถือศีลกินผัก และเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนจะทำพิธีส่งพระในวันสุดท้าย ของการกินผัก ส่วนกิจกรรมที่สำคัญที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนคนทั่วไป คือ การแห่ รอบเมืองของศาลเจ้าต่างๆ การหามเกี้ยวลุยประทัดของเหล่าฉายอิ้ว การข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ และการ แสดงอิทธิฤทธิ์ของร่างทรง เสาโกเต้ง หรือเสาเต็งโก หมายถึง ราวไม้ไผ่แขวนตะกียง ซึ่งส่วนมากในประเพณีถือศีลกินผักมักจะ ตั้งอยู่หลังแท่นบูชาฟ้าดิน บางแห่งใช้คำว่า เทียนเต่เป่โบ้ ซึ่งหมายถึง บิดา มารดาแห่งผืนฟ้าและแผ่นดิน ซึ่ง ชนชาติจีนสมัยแรกเริ่มที่มีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับ ยังไม่รู้จักสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีความเชื่อว่าผืนฟ้าและแผ่นดิน เป็นสิ่งสูงส่ง เป็นสิ่งที่ให้กำเนิดสิ่งต่างๆ จึงเริ่มมีการบวงสรวงฟ้าดินขึ้น บางแห่งก็จะใช้คำว่าเทียนกวนซู่ฮก ซึ่ง หมายถึงเ ทวดาประทานพรเสาเต็งโกที่ใช้นั้นจะต้องลักษณะ ตรง ไม่คด ไม่มีรอยแตก รอยตำหนิ ลักษณะ จะต้องใหญ่ สง่างามซึ่งบางแห่งใช้เวลาหาเป็นแรมเดือน และที่สำคัญคือจำนวนข้อปล้องเพราะเสาเต็งโกจะต้อง มีจำนวนข้อปล้อง 36 ข้อปล้อง ซึ่งหมายความถึงจำนวนชั้นฟ้าทั้ง 36 (ซาจับหลักเทียนก้อง) คนจีนมีความ เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาศัยเสาเต็งโกในการลงมาโลกมนุษย์
ในการหาเสาเต็งโกที่มีจำนวนข้อปล้องครบทั้ง 36 ข้อนั้น เป็นการยาก ซึ่งส่วนมากแล้วจะหาใน ลักษณะเกินไว้ก่อนแล้วค่อยนำมาแก้เพื่อให้ได้ตามจำนวนการเริ่มนับข้อไม้ไผ่นั้นเริ่มนับตั้งแต่โคน ไปยังส่วน ปลาย แต่ละข้อมีความหมายดังต่อไปนี้ข้อที่1 เซ่ง มีความหมายคือ การเกิดข้อที่2 หล่าว มีความหมายคือ แก่ ข้อที่3 แป๋ มีความหมายคือ เจ็บป่วยข้อที่4 ซี้ มีความหมายคือ ตายข้อที่5 โค่วมีความหมายคือ ลำบากส่วน ข้อที่6 ให้เริ่มนับ เซ่ง ใหม่ และนับไปเรื่อยๆ เมื่อถึงข้อที่ 36 ก็จะลงคำว่า เซ่ง พอดี ซึ่งเป็นความหมายที่ดี ถ้า ลงในความหมายอื่นๆถือว่าไม่ดีในส่วนของเสาเต็งโกที่มีข้อปล้องเกินกว่า 36 แล้วตกอยู่ในความหมายที่ไม่ดี จึง ได้มีการนำเสื่อมาพันไว้รอบเสาเป็นการแก้เคล็ด เสื่อที่พันให้นับรวมเป็น 1 ข้อปล้อง เมื่อพันในส่วนที่เกินแล้วก็ จะนับเสื่อเป็น 1 ข้อ เพื่อให้ได้ข้อไม้ไผ่จำนวน 36 ข้อ ซึ่งจะตกในความหมายที่ดี ถ้าตกในความหมาย แก่เจ็บ ตายนั้น เป็นความหมายที่ไม่ดี จึงเอาเสื่อมาพันไว้แล้วนับรวมเป็นข้อปล้องเดียว เรื่องไม้ไผ่ลำเล็กที่ผูกเป็นรูป คันชั่งนั้น ส่วนของผ้าผืนเล็ก ที่ผูกติดกับรูปไม้เป็นรูปแมงมุมนั้น มีความเชื่อเรื่องป้องกันสิ่งอัปมงคลทั้ง 8 ทิศ (ปั้ดกั๋ว) ตามจำนวนขาของแมงมุมนั้นเอง และผ้ามักจะมีอักษรอำนวยอวยพรเช่น ฮับเก้งเป่งอ่าน ซึ่งมี ความหมายว่า ขอให้โชคดีทั้งครอบครัว