สำนกั บรหิ ำรทรพั ยำกรบคุ คล สำนกั งำนปลัดกระทรวงกำรคลัง
กระทรวงกำรคลัง
ดา้ นบริหารงานบคุ คล สำนกั บริหำรทรพั ยำกรบคุ คล สำนักงำนปลัดกระทรวงกำรคลงั กระทรวงกำรคลัง
ลูกจา้ งชว่ั คราว การขึ้นบัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างช่ัวคราวรายเดือน
จากเงนิ นอกงบประมาณมรี ะยะเวลาเทา่ ใด
ลกู จา้ งชัว่ คราวคือใคร
กำรข้ึนบญั ชีผผู้ ำ่ นกำรคดั เลอื กบคุ คลเปน็ ลูกจ้ำงชั่วครำวรำยเดอื นจำกเงนิ
ลูกจ้ำงช่ัวครำว หมำยถึง ลูกจ้ำงรำยเดือน รำยวัน และรำยช่ัวโมง ที่ นอกงบประมำณให้ขึ้นบัญชีผู้ผ่ำนกำรคัดเลือกได้ไม่เกิน 1 ปี นับแต่วัน
จ้ำงไว้ปฏิบัติงำนท่ีมีลักษณะชั่วครำว และหรือมีกำหนดเวลำจ้ำง แต่ ขึ้นบัญชี (อ้ำงอิง : ประกำศสำนักงำนปลัดกระทรวงกำรคลัง เร่ือง
ท้ังนี้ระยะเวลำกำรจ้ำงต้องไม่เกินปีงบประมำณ และในกรณีของ หลักเกณฑ์กำรจ้ำงลูกจ้ำงชั่วครำวรำยเดือนจำกเงินนอกงบประมำณ
สำนักงำนปลัด กระทรวงกำรคลัง และสำนักงำนรัฐมนตรี สังกัดสำนักงำนปลัดกระทรวงกำรคลัง และสำนักงำนรัฐมนตรี
กระทรวงกำรคลัง จะดำเนินกำรจ้ำงเฉพำะกรณีลูกจ้ำงช่ัวครำวรำย กระทรวงกำรคลงั ประกำศ ณ วนั ท่ี 17 กันยำยน พ.ศ. 2562)
เดือน (อ้ำงอิง : ระเบียบกระทรวงกำรคลังว่ำด้วยกำรจ้ำงลูกจ้ำงโดย
ใช้จ่ำยจำกเงินนอกงบประมำณ พ.ศ. 2562 ประกำศ ณ วันท่ี 26
กุมภำพันธ์ พ.ศ. 2562)
ด้านบริหารงานบคุ คล สำนกั บรหิ ำรทรพั ยำกรบุคคล สำนกั งำนปลดั กระทรวงกำรคลงั กระทรวงกำรคลงั
ลกู จ้างช่ัวคราว ลกู จ้างชัว่ คราวมีการประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานอย่างไร
ลูกจ้างช่ัวคราวรายเดือนจากเงินนอกงบประมาณมีการเล่ือนข้ัน ลูกจำ้ งช่ัวครำวรำยเดือนมีกำรประเมินผลกำรปฏิบตั ิงำนปลี ะ 2 คร้ัง ซึ่งจะต้อง
ค่าจา้ งหรอื ไม่ ผ่ำนกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำนจำกผู้บังคับบัญชำของหน่วยงำนต้นสังกัด
ไม่มี (อ้ำงอิง : ระเบียบกระทรวงกำรคลังว่ำด้วยกำรจ้ำงลูกจ้ำงโดย โดยมีผลกำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำนเฉล่ียในรอบปีงบประมำณที่ผ่ำนมำ ไม่
ใช้จ่ำยจำกเงินนอกงบประมำณ พ.ศ. 2562 ประกำศ ณ วันที่ 26 ต่ำกวำ่ ร้อยละ 60 ดังน้ี
กมุ ภำพนั ธ์ พ.ศ. 2562)
- คร้งั ท่ี 1 ตั้งแต่ 1 ตุลำคม ของปีหน่ึง ถึง 31 มนี ำคม ของอกี ปีหนึง่
ลู ก จ้ า ง ช่ั ว ค ร า ว ร า ย เ ดื อ น ต้ อ ง จ่ า ย เ งิ น ส ม ท บ เ ข้ า ก อ ง ทุ น - ครง้ั ที่ 2 ตงั้ แต่ 1 เมษำยน ถงึ 30 กันยำยน ของปเี ดียวกนั
ประกันสังคมหรอื ไม่ อยา่ งไร (อ้างอิง : ประกาศสานักงานปลัดกระทรวงการคลัง เร่ือง หลักเกณฑ์การจ้าง
ลูกจ้ำงช่ัวครำวรำยเดือนต้องจ่ำยเงินสมทบเข้ำกองทุนประกันสังคม ลูกจ้างช่ัวคราวรายเดือนจากเงินนอกงบประมาณ สังกัดสานักงานปลัด
ในอัตรำร้อยละ 5 ของค่ำจ้ำงสูงสุดไม่เกิน 750 บำท (อ้ำงอิง : กระทรวงการคลัง และสานักงานรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง ประกาศ ณ วนั ที่
พระรำชบญั ญตั ิประกันสงั คม พ.ศ. 2533) 17 กันยายน พ.ศ. 2562)
ดา้ นบรหิ ารงานบคุ คล สำนักบริหำรทรัพยำกรบคุ คล สำนักงำนปลดั กระทรวงกำรคลงั กระทรวงกำรคลงั
ลูกจ้างชั่วคราวรายเดือนจากเงินนอกงบประมาณมสี ิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างลา ลูกจ้างช่ัวคราว
ในกรณีใดบ้าง
ลูกจำ้ งชว่ั ครำวรำยเดอื นจำกเงินนอกงบประมำณมีสิทธิไดร้ ับคำ่ จ้ำงระหว่ำงลำในกรณดี งั ตอ่ ไปนี้
1) การลาป่วย
กรณเี รม่ิ เข้ำปฏิบัติงำนในปีแรก ลกู จ้ำงชั่วครำวมีสทิ ธลิ ำปว่ ยโดยไดร้ บั คำ่ จ้ำงอัตรำปกติปหี น่งึ ไมเ่ กนิ 8 วันทำกำร เวน้ แต่ในกรณีท่ีระยะเวลำปฏบิ ัติงำนในปีแรกไม่
ครบ 6 เดือน ไม่อย่ใู นข่ำยไดร้ บั สิทธดิ งั กลำ่ ว และในปถี ดั ไปลกู จำ้ งช่ัวครำวซงึ่ จ้ำงไว้ปฏบิ ตั งิ ำนต่อเนื่องมีสิทธลิ ำปว่ ยโดยไดร้ บั คำ่ จ้ำงอตั รำปกตริ ะหว่ำงลำปีหน่ึงไม่เกิน 15
วันทำกำร
2) การลาคลอดบตุ ร
ลูกจำ้ งชวั่ ครำวรำยเดอื นที่จ้ำงไวป้ ฏบิ ตั งิ ำนต่อเนื่อง มสี ิทธิลำเนื่องจำกกำรคลอดบตุ รปหี น่ึงไม่เกิน 90 วัน โดยมีสทิ ธิไดร้ ับคำ่ จ้ำงระหว่ำงลำจำกสว่ นรำชกำรไม่เกิน
45 วนั อกี 45 วนั ใหร้ ับจำกประกนั สังคม แต่กรณีทีเ่ รมิ่ เข้ำปฏบิ ัตงิ ำนในปแี รกไม่ครบ 7 เดือน ไม่อยู่ในข่ำยได้รบั สิทธดิ งั กล่ำว
3) การลาพักผ่อน
ลกู จ้ำงชว่ั ครำวมีสิทธิได้รบั ค่ำจ้ำงระหว่ำงกำรลำพกั ผ่อนประจำปี 10 วนั ทำกำร แต่ในปแี รกต้องปฏบิ ตั ิงำนมำแล้วไมน่ ้อยกวำ่ 6 เดอื น จึงจะได้รับสิทธิดงั กล่ำว
4) การลาเข้ารับการฝึกวชิ าทหาร เขา้ รับการระดมพล หรอื เขา้ รบั การทดลองความพรัง่ พรอ้ ม และการไปรับการตรวจคัดเลอื กเพอื่ รบั ราชการทหาร
(1) กำรลำเข้ำรบั กำรฝึกวิชำทหำร ให้ไดร้ บั ค่ำจำ้ งอัตรำปกติไม่เกนิ 2 เดือน
(2) กำรลำเพอ่ื เข้ำรบั กำรระดมพล หรือเข้ำรับกำรทดลองควำมพรั่งพร้อม ใหไ้ ดร้ บั คำ่ จำ้ งอตั รำปกตไิ มเ่ กนิ 30 วัน
(3) กำรลำไปรบั กำรตรวจคัดเลือกเพอ่ื รับรำชกำรทหำร ใหไ้ ดร้ ับค่ำจ้ำงอตั รำปกตใิ นระหวำ่ งน้ันเทำ่ ที่จำเปน็
(อ้างองิ : ระเบียบว่าดว้ ยการจา่ ยค่าจา้ งลกู จา้ งของสว่ นราชการ พ.ศ. 2526 และท่ีแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ประกอบกับระเบยี บสานักนายกรฐั มนตรวี ่าดว้ ยการ
ลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 โดยอนโุ ลม)
ดา้ นบรหิ ารงานบคุ คล สำนักบรหิ ำรทรัพยำกรบุคคล สำนักงำนปลดั กระทรวงกำรคลงั กระทรวงกำรคลงั
พนกั งานราชการ การลาพกั ผอ่ น และการสะสมวนั ลาของพนักงานราชการท่วั ไป
การจา้ งพนักงานราชการ มรี ูปแบบการจ้างอยา่ งไร - พนักงำนรำชกำรสำมำรถลำพักผ่อนได้ไมเ่ กนิ 10 วันทำกำร ในปงี บประมำณ
- พนกั งำนรำชกำรทเ่ี ข้ำรบั กำรจดั จ้ำงยงั ไม่ถึง 6 เดือน จะไม่สำมำรถลำพักผอ่ นได้
กำรจ้ำงพนักงำนรำชกำรเป็นระบบกำรจ้ำงที่มีสัญญำจ้ำงตำม - กรณีกำรสะสมวันลำพักผ่อนของพนักงำนรำชกำร พนักงำนรำชกำรจะต้อง
ระยะเวลำ (จ้ำงตำมกรอบอัตรำกำลังพนักงำนรำชกำร ที่ ก.พ. ทำงำนครบ 1 ปี ข้ึนไปถึงจะมีสิทธ์ิสะสมวันลำพักผ่อนได้ และในปีที่ผ่ำนมำ
กำหนด) โดยระยะเวลำกำรจัดจ้ำงในสัญญำจ้ำง ไม่เกินครำวละ 4 พนกั งำนรำชกำรไดใ้ ช้สทิ ธวิ์ ันลำพักผอ่ นประจำปไี ม่ครบ 10 วันทำกำร ให้สำมำรถ
ปี และไดร้ ับกำรประเมนิ ผลกำรปฏบิ ตั งิ ำนเพอ่ื ต่อสัญญำจำ้ ง นำวันลำพักผ่อนมำสะสมรวมกับวันลำพักผ่อนในปีปัจจุบันได้ แต่วันลำพักผ่อนท่ี
นำมำสะสมจะต้องไม่เกิน 5 วันทำกำร เมื่อรวมกับวันลำพักผ่อนในปีปัจจุบันแล้ว
(ข้อมูลเพ่ิมเติม : ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงาน จะต้องไม่เกิน 15 วันทำกำร นอกจำกนั้นพนักงำนรำชกำรยังสำมำรถท่ีจะมีสิทธ์ิ
ราชการ พ.ศ. 2547) ลำในกรณีอ่ืน ๆ ได้ เช่น ลำป่วย ลำคลอดบุตร ลำกิจส่วนตัว ลำเพื่อรับรำชกำร
ทหำร และลำเพ่อื ไปอุปสมบท หรือประกอบพิธฮี จั ญ์
พนักงานราชการมีสทิ ธิประโยชนอ์ ะไรบ้าง
(ข้อมลู เพิ่มเตมิ : ประกาศคณะกรรมการบรหิ ารพนักงานราชการ เรื่อง สิทธิ
พนักงำนรำชกำรเป็นผู้ประกันตนตำมกฎหมำยประกันสังคม ซ่ึงจะมี ประโยชน์ของพนักงานราชการ พ.ศ. 2554 และแก้ไขเพ่ิมเติมฉบับท่ี 2 พ.ศ.
สิทธิประโยชน์จำกกองทุนประกันสังคม ทั้งนี้เงินประกันสังคมจะถูก 2560 (การสะสมวันลา))
หกั 5 % ทกุ เดือนจำกคำ่ ตอบแทนทไ่ี ดร้ บั
ดา้ นบริหารงานบุคคล สำนักบรหิ ำรทรพั ยำกรบคุ คล สำนักงำนปลดั กระทรวงกำรคลงั กระทรวงกำรคลัง
พนกั งานราชการ
พนักงานราชการได้รบั การเลอ่ื นขน้ั เงินเดอื นประจาปหี รอื ไม่ และมหี ลักเกณฑ์การเลอ่ื นคา่ ตอบแทนอยา่ งไร
ได้ ทั้งน้ี ต้องมีระยะเวลำกำรปฏิบัติงำนในรอบปี (1 ตุลำคม ของปหี นึ่ง – 30 กันยำยน ของปถี ัดมำ)
ไม่น้อยกวำ่ 8 เดือน และตอ้ งมผี ลกำรประเมินกำรปฏิบัติงำนรวม 2 คร้ัง ไม่ตำ่ กว่ำระดับดี นอกจำกน้ีในรอบปีที่ผ่ำน
มำ ต้องไม่มำทำงำนสำยหรอื กลับกอ่ นเวลำรำชกำร เกิน 15 คร้ัง / วนั ลำป่วย หรือลำกจิ รวมกันไม่เกิน 30 วนั )
(ข้อมูลเพ่ิมเติม : ประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ เรื่อง แนวทางการประเมินผลการ
ปฏิบัติงานของพนักงานราชการ พ.ศ. 2554 และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณา
เล่ือนค่าตอบแทนประจาปีของพนักงานราชการ สังกัดสานักงานรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และสานักงานปลัด
กระทรวงการคลงั พ.ศ. 2554)
ด้านบรหิ ารงานบคุ คล สำนกั บริหำรทรัพยำกรบุคคล สำนักงำนปลัดกระทรวงกำรคลัง กระทรวงกำรคลัง
ทว่ั ไป บาเหนจ็ ตกทอด คอื อะไร
บาเหน็จดารงชพี คอื อะไร คอื เงินทีร่ ัฐจำ่ ยเพอื่ บรรเทำควำมเดอื ดร้อนใหแ้ กท่ ำยำทของผรู้ บั บำนำญ
ท่ีถงึ แก่ควำมตำย ซึ่งจ่ำยเปน็ เงนิ ก้อนครั้งเดยี ว
คือ เงินส่วนหนึ่งของบำเหน็จตกทอด ท่ีทำงรำชกำรจะให้ทำยำทของ สตู รคำนวณ
ผู้รับบำนำญหรือผู้ท่ีผู้รับบำนำญแสดงเจตนำไว้ แล้วแตก่ รณี เมื่อผู้รับ บำเหนจ็ ตกทอด = (บำนำญ + ช.ค.บ.(ถ้ำม)ี ) x 30 – บำเหน็จดำรงชีพ
บำนำญเสียชีวิตไปแล้ว แต่เนื่องจำกผู้รับบำนำญเม่ือออกจำกรำชกำร ทไี่ ด้รับไปแล้ว
ไปแล้ว อำจประสบเหตุปัญหำทำงด้ำนกำรเงิน หรือสภำวะค่ำครอง สดั ส่วนกำรจำ่ ยเงนิ บำเหน็จตกทอดใหท้ ำยำทตำมกฎหมำย ดงั น้ี
ชพี ท่ีสูงข้ึน ทำงรำชกำรจึงช่วยเหลือบรรเทำควำมเดือดร้อนโดยให้นำ 1. คสู่ มรส 1 สว่ น
เงินบำเหน็จตกทอดส่วนหน่ึงมำใช้ได้ก่อน ซึ่งผู้รับบำนำญจะขอรับ 2. บุตร 2 ส่วน (บุตร 3 คนขนึ้ ไปใหไ้ ดร้ บั 3 สว่ น)
หรือจะไม่ขอรับก็ได้หำกไม่ขอรับเงินส่วนนี้จะถูกเก็บเป็นบำเหน็จตก 3. บิดำ/มำรดำ 1 สว่ น
ทอดไว้ให้ทำยำทของผู้รับบำนำญ หรือผู้ท่ีผู้รับบำนำญแสดงเจตนำไว้ หมำยเหต:ุ
แล้วแตก่ รณี เมื่อยำมทผ่ี รู้ บั บำนำญเสยี ชวี ติ แลว้ 1. ถ้ำไม่มที ำยำทตำมลำดับ 1– 3 ให้จำ่ ยใหผ้ ูท้ ี่ผูร้ บั บำนำญไดแ้ สดง
เจตนำฯ ไว้ตำมแบบแสดงเจตนำระบตุ วั ผรู้ บั บำเหน็จตกทอด
2. หำกผู้รบั บำนำญไมม่ ีทำยำท และไม่ไดแ้ สดงเจตนำฯ ตำมแบบที่
กำหนดถือวำ่ กำรจ่ำยบำเหนจ็ ตกทอดเปน็ อนั ยุติ
ด้านบริหารงานบุคคล สำนกั บริหำรทรพั ยำกรบคุ คล สำนักงำนปลัดกระทรวงกำรคลงั กระทรวงกำรคลัง
ทว่ั ไป การลาของขา้ ราชการที่ได้รับคาส่ังให้ไปช่วยราชการ มีการลาประเภทไหน
และเสนอต่อผใู้ ด
เงนิ ชว่ ยพเิ ศษ จะไดใ้ นกรณไี หน
1. กำรลำป่วย ลำคลอดบุตร ลำกิจส่วนตัว ลำพักผ่อน ลำเข้ำรับกำรตรวจ
จะได้รบั ในกรณี เมอื่ ผูร้ ับบำนำญเสียชวี ติ รัฐจะจำ่ ยเงนิ ชว่ ยเหลือให้แก่บคุ คลทีผ่ ู้รับ เลือก หรือเข้ำรับกำรเตรียมพล ให้เสนอขออนุญำตลำต่อผู้บังคับบัญชำผู้มี
บำนำญแสดงเจตนำให้เปน็ ผ้รู ับเงินช่วยพเิ ศษหรือทำยำทตำมกฎหมำยของผรู้ บั บำนำญ อำนำจพิจำรณำ หรืออนุญำตของหน่วยงำนท่ีไปช่วยรำชกำร เช่น กรณี
เพอ่ื ใช้ในกำรจัดกำรงำนศพให้แกผ่ ู้รบั บำนำญ ข้ำรำชกำรของ กรม ก. มำช่วยรำชกำรที่สำนักบริหำรกลำง ประสงค์จะลำ
สูตรคำนวณ พกั ผ่อน ให้เสนอขออนุญำตลำตอ่ ผู้อำนวยกำรสำนักบริหำรกลำง และให้สำนัก
เงนิ ช่วยพิเศษ = (บำนำญ + ช.ค.บ. (ถำ้ มี)) x 3 เทำ่ บริหำรกลำงรำยงำนจำนวนวันลำให้ กรม ก.(หน่วยงำนต้นสังกัด) ของผู้น้ัน
กำรจ่ำยเงนิ ช่วยพิเศษจะจ่ำยตำมลำดับผ้มู ีสทิ ธิ ดงั น้ี ทรำบทุกรอบกำรประเมนิ เลอ่ื นเงนิ เดอื น
1. ผู้ท่ผี รู้ ับบำนำญแสดงเจตนำระบุตัวผู้รบั เงนิ ชว่ ยพเิ ศษ
2. คู่สมรส (กรณีถำ้ ผรู้ บั บำนำญไมไ่ ด้แสดงเจตนำระบตุ วั ผรู้ ับเงินชว่ ยพิเศษ) 2. กำรลำประเภทอนื่ ไดแ้ ก่ กำรลำอปุ สมบท หรือลำไปประกอบพธิ ีฮัจย์ ลำ
3. บุตร (กรณีมีบตุ รหลำยคนบตุ รจะตอ้ งลงช่อื ยนิ ยอมให้บุตรคนใดคนหนง่ึ ขอรับและต้องไม่มี ไปศึกษำ ฝึกอบรมดูงำน หรือปฏิบัติกำรวิจัย ลำไปปฏิบัติงำนในองค์กำร
บุคคลตำมลำดับท่ี 1 และ 2 แลว้ ) ระหว่ำงประเทศ หรือลำติดตำมคู่สมรส ให้เสนอขออนุญำตต่อผู้มีอำนำจ
4. บิดำมำรดำ (กรณีไมม่ ีบคุ คลตำมลำดบั ท่ี 1– 3 แล้ว) พิจำรณำ หรืออนญุ ำตในสว่ นรำชกำรเจำ้ สังกัดของผู้น้นั
5. บุคคลใดบคุ คลหนึ่ง/หนว่ ยงำนต้นสงั กดั ทด่ี ำเนินกำรจดั งำนศพใหผ้ รู้ ับบำนำญ
(กรณีไมม่ ีบคุ คล ตำมลำดับท่ี 1– 4 แล้ว)
จะเร่มิ ขอเคร่อื งราชอิสริยาภรณ์ไดเ้ มอื่ ไหร่ ? - กำรขอพระรำชทำนเคร่ืองรำชอิสริยำภรณ์ในแต่ละช้ันตรำ จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตำม
ระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรี ว่ำด้วยกำรขอพระรำชทำนเครื่องรำชอิสริยำภรณ์อันเป็นท่ีเชิดชูยิ่ง
ช้ำงเผือกและเคร่อื งรำชอิสรยิ ำภรณอ์ ันมีเกียรติยศยงิ่ มงกฎุ ไทย พ.ศ. 2536