The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชีวิตของแจ่มใส-0

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ชมพูนุท เจริญสุข, 2023-02-19 02:25:38

ชีวิตของแจ่มใส

ชีวิตของแจ่มใส-0

บทนำ เรื่องราวชีวิตของแจ่มใสสาวน้อยผู้ที่ต้องอดทนต่อสู้ต่อ อุปสรรคต่าง ๆ จากการที่พ่อของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธออายุเพียง ๔ ขวบ เธอจึงต้องอยู่กับแม่และยายเพียงลำพัง ซึ่งแม่และยายของเธอ ก็มีฐานะค่อนข้างลำบาก ทำให้เธอจึงต้องช่วยแม่และยายทำงานทุก อย่างเท่าที่เด็กคนหนึ่งสามารถทำได้โดยมีเพื่อนวัยเด็กอย่างเข็มทิศ ที่คอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้เธออยู่ตลอด เรื่องราวของ แจ่มใสและเข็มทิศจะเป็นอย่างไรติดตามได้จากเรื่องสั้นเล่มนี้ ชมพูนุท เจริญสุข


สารบัญ ตอนที่ ๑ ๑ ตอนที่ ๒ ๒ ตอนที่ ๓ ๕ ตอนที่ ๔ ๙ ตอนที่ ๕ ๑๒ ตอนที่ ๖ ๑๗ ตอนที่ ๗ ๒๒ ตอนที่ ๘ ๒๕ จากใจผู้เขียน ๒๖ ประวัติผู้เขีย น ๒๗


๑ ตอนที่ ๑ “แจ่มใส” เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักวัย ๔ ปี ซึ่งที่ บ้านของเธอมีฐานะร่ำรวย เพราะพ่อของเธอเป็นนักธุรกิจที่มี ชื่อเสียงมาก แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของเธอกลับต้องพลิกผัน เนื่องจาก ธุรกิจของพ่อเธอขาดทุน ทำให้บริษัทของพ่อเธอล้มละลาย พ่อของ เธอจึงหนีปัญหาทั้งหมดด้วยการฆ่าตัวตาย ทิ้งเธอ แม่ และยาย พร้อมกับหนี้สินจำนวนมาก เธอจึงต้องอดทนต่อสู้เพื่อช่วยแม่และ ยายทำงานหาเงินมาใช้หนี้เท่าที่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งจะทำได้ “เข็มทิศ” เด็กผู้ชายที่อดทนต่อสู้ต่อความยากลำบากมา ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เพิ่งเกิดได้ไม่ นาน และทิ้งให้เขาอยู่กับป้าพรซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อและญาติสนิท เพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่ นอกจากนี้เขายังเป็นเพื่อนสนิทที่คอย อยู่เคียงข้างและช่วยเหลือแจ่มใสมาตลอด


๒ ตอนที่ ๒ เช้าวันหนึ่งแจ่มใสตื่นนอนตามปกติ แต่มีบางสิ่งที่ไม่ปกติ กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอและครอบครัว เธอลุกจากเตียงในห้องนอน ของบ้านหลังใหญ่ที่คุ้นเคยและเดินตามหาแม่กับยายทั่วบ้านแต่ก็ไม่ พบใครเลย เธอจึงตะโกนเรียกแม่และยายเสียงดัง แจ่มใส: “แม่คะ ยายคะ อยู่ไหนกันคะ” เธอตะโกนสุดเสียง เพื่อเรียกหาแม่และยาย แม่: “ว่าไงจ๊ะ แม่อยู่นี่จ่ะ” แม่ขานรับพร้อมกับรีบวิ่งมาหา แจ่มใสโดยเร็ว แจ่มใส: “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะแม่ เช้านี้ทำไมบ้านเราเงียบ ผิดปกติ ทุกคนหายไปไหนกันหมดคะ” เธอถามด้วยความสงสัย เพราะทุกครั้งหลังจากตื่นนอนเธอก็จะเห็นคนรับใช้ ๒ - ๓ คน จัด โต๊ะอาหารเช้าสำหรับครอบครัว แม่: “เอ่อ... แจ่มใส ทำใจดี ๆ ไว้นะลูก แม่มีเรื่องจะบอก” แม่พูดพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า แจ่มใส: “เรื่องอะไรเหรอคะแม่” แจ่มใสทำหน้างงตาม ประสาเด็ก


๓ แม่: “คือตอนนี้พ่อเสียชีวิตแล้วนะลูก และเราต้องย้ายออก จากบ้านหลังนี้ให้เร็วที่สุด เพราะพวกเจ้าหนี้กำลังจะมายึดบ้านของ เรา” แม่พูดจบก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แจ่มใส: “อะไรนะคะแม่ ไม่จริงใช่ไหมคะ แล้วเราจะไปที่ ไหนกันคะ” แจ่มใสถามและก็ร้องไห้ตามแม่ แม่: “ไม่เป็นไรนะลูก เราจะผ่านเรื่องเลวร้ายนี้ไปได้ แม่ เก็บกระเป๋าไว้ให้แล้ว ไปขึ้นรถกันเถอะจ่ะ” แม่พยายามปลอบเธอ พร้อมพาเธอเดินไปที่รถที่จอดรออยู่หน้าบ้าน เมื่อแม่กับแจ่มใสขึ้นรถแล้ว รถก็แล่นออกจากบ้านหลัง ใหญ่ของเธอไป แต่เมื่อแล่นออกมาได้สักพักรถก็ต้องเบรก กระทันหันเพราะมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาตัดหน้ารถ เด็กผู้ชายคนนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ เข็มทิศเพื่อนสนิทของแจ่มใสเอง แจ่มใสจึง อาสาจะลงไปคุยกับเขาและจะได้บอกลาเขาเป็นครั้งสุดท้ายด้วย แจ่มใส: “เธอมาวิ่งตัดหน้ารถแบบนี้ทำไมอันตรายนะ” เมื่อเธอลงมาเผชิญหน้ากับเข็มทิศเธอก็ได้ต่อว่าเขาก่อนที่จะเริ่มบท สนทนา เข็มทิศ: “ฉันได้ยินว่าเธอกำลังมีปัญหาและต้องย้ายออก จากบ้านใช่ไหม” เขารีบเข้าเรื่อง


๔ แจ่มใส: “ใช่แล้ว แถมพ่อของฉันยังมาเสียชีวิตและทิ้ง หนี้สินไว้มากมายอีก” เธอพูดพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า เข็มทิศ: “ฉันช่วยเธอได้นะ” เข็มทิศรีบอาสา แจ่มใส: “เธอจะช่วยฉันยังไงในเมื่อเธอเองก็ยังลำบากอยู่ เลย” แจ่มใสถามด้วยความสงสัย เข็มทิศ: “ฉันให้เธอไปพักที่ห้องเช่าของคนรู้จักฉันก่อนได้ นะ เธอมีที่พักหรือยัง” เขาเอ่ยด้วยความที่อยากจะช่วยเหลือเธอ แจ่มใส: “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ เดี๋ยวฉันไปถามแม่ก่อน” แจ่มใสตอบพร้อมรีบเดินไปถามแม่ที่อยู่บนรถ แจ่มใส: “แม่คะเราจะไปอยู่ที่ไหนกันคะ ถ้าไม่มีที่ไปเราไป ที่บ้านเช่าของคนรู้ของเข็มทิศกันไหมคะ” แจ่มใสรีบถาม แม่: “ไปสิจ๊ะเพราะแม่ก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนเหมือนกัน ที แรกก็คิดว่าจะขับไปเรื่อย ๆ แล้วหาห้องเช่ารายเดือนเอาน่ะจ่ะ” แจ่มใส: “โอเคค่ะ งั้นหนูไปบอกเข็มทิศก่อนนะคะ” พูดจบ แจ่มใสก็วิ่งไปหาเข็มทิศ แจ่มใส: “เข็มทิศเราตกลงจะตามนายไปพักที่ห้องเช่าที่นาย บอกนะ” เข็มทิศ: “โอเคงั้นให้เราขึ้นรถไปด้วยนะ เราจะได้นำทางไป”


๕ ตอนที่ ๓ หลังจากนั้นเข็มทิศก็ได้ขึ้นรถของแจ่มใสและนำทางทุกคน มาที่ห้องเช่าของคนรู้จักของเขา เมื่อมาถึงห้องเช่าเข็มทิศก็ได้ช่วย แจ่มใส แม่ และยายขนของลงจากรถ และพาแม่ไปที่บ้านพักของ เจ้าของห้องเช่า เข็มทิศ: “สวัสดีครับผมพาคนมาเช่าห้องพักครับ” เขา กล่าวทักทายพนักงานต้อนรับอย่างสุภาพ พนักงาน: “สวัสดีค่ะ คุณอยากได้ห้องแบบไหนดีคะ” พนักงานกล่าวด้วยท่าทีสุภาพเช่นกัน เข็มทิศ: “ผมโทรแจ้งทางเจ้าของหอพักมาแล้วครับ ผมชื่อ เข็มทิศนะครับ” เขารีบกล่าวทันที พนักงาน: “อ่อ คุณเข็มทิศ นี่ค่ะกุญแจห้อง” เดี๋ยวดิฉันจะ นำทางไปที่ห้องพักและให้พนักงานชายมาช่วยยกกระเป๋านะคะ พนักงานพูดกับเขาด้วยท่าทางอ่อนน้อม แม่: “ค่าเช่าเดือนละเท่าไหร่เหรอคะ” แม่รีบถามพนักงาน เข็มทิศ: “คุณน้าอยู่ฟรีได้เลยครับจนกว่าจะหางานและ เงินมาจ่ายได้ครับ” เข็มทิศรีบชิงตอบคำถามของแม่


๖ แม่: “จะดีเหรอจ๊ะ น้าเกรงใจ” แม่กล่าวพร้อมสีหน้าไม่ สบายใจ เข็มทิศ: “ไม่เป็นไรหรอกครับ จนกว่าคุณน้าจะหางานทำ และได้เงินมาจ่ายค่าห้องนะครับ ผมและป้าเจ้าของห้องเข้าใจครับ ว่าคุณน้ากำลังลำบากมาก” เข็มทิศตอบ แม่: “ขอบใจมากเลยนะจ๊ะ และน้าฝากขอบใจป้าเจ้าของ หอด้วยนะ ไว้พรุ่งนี้น้าจะออกไปหางานทำจ่ะ” แม่กล่าวด้วยความ ยินดี หลังจากนั้นพนักงานก็ได้เดินนำทุกคนไปที่ห้องพักพร้อม กับช่วยขนสัมภาระทั้งหมดไปที่ห้องพัก แจ่มใสก็เดินเข้าไปใน ห้องพักด้วยท่าทีสงสัยพร้อมบ่นตัดพ้อหลังจากเข็มทิศและพนักงาน ออกไปแล้ว แจ่มใส: “แม่คะทำไมพ่อต้องทิ้งพวกเราไปทำให้พวกเรา ต้องมาทนลำบากแบบนี้ด้วยคะ” แม่: “เอาหน่าลูกอดทนหน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่ไปหางาน หา เงินมาเลี้ยงดูพวกเราเอง” แม่พูดปลอบแจ่มใส ยาย: “ใช่ลูก ยายเองก็จะช่วยเย็บผ้า ร้อยลูกปัดส่งโรงงาน นะ” ยายกล่าว


๗ แจ่มใส: “แล้วหนูพอจะทำอะไรช่วยแม่กับยายได้บ้างคะ” แม่: “โถ่ ลูก ไม่เป็นไรหรอกจ่ะ ลูกยังเด็กแค่ตั้งใจเรียนก็ พอแล้วนะ” ยาย: “ใช่แล้วแจ่มใส หนูแค่ตั้งใจเรียนและเป็นเด็กดีก็ พอแล้วจ่ะ ไม่ต้องช่วยแม่กับยายทำงานหรอก” แจ่มใส: “แต่แม่และยายกำลังลำบากนะคะ หนูก็อยากจะ ช่วยแม่กับยายบ้างน่ะค่ะ” แม่: “ไม่เป็นไรหรอกลูก แค่ลูกคิดจะช่วยก็ดีมากแล้วจ่ะ แม่ของใจนะ” ยาย: “เดี๋ยวยายออกไปซื้อกับข้าวมาให้ทุกคนนะ ทั้งสอง คนรออยู่ที่นี่นะ” แม่: “ไม่เป็นไรหรอกจ่ะแม่ แม่กับแจ่มใสรอที่นี่แหละ เดี๋ยว หนูออกไปซื้อเอง” แม่รีบห้ามยาย หลังจากพูดจบแม่ก็เดินไปที่ตลาดเพื่อซื้อกับข้าวและเดิน หางานแถวตลาด จนกระทั่งมาเจอกับร้านขายทองที่กำลังติดป้าย รับสมัครพนักงานขายทองอยู่ แม่จึงรีบเดินเข้าไปในร้านเพื่อถาม รายละเอียด


๘ แม่: “สวัสดีค่ะ” แม่กล่าวทักทายผู้หญิงวัยกลางคนที่ดู ท่าทางว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้าน เจ้าของร้าน: “สวัสดีจ่ะ สนใจทอง แหวน หรือเงิน ดีจ๊ะ” เธอเอ่ยทักทายแม่ แม่: “ฉันไม่ได้มาซื้อทองหรอกจ่ะ ฉันมาสมัครงาน” แม่ กล่าวกับเจ้าของร้าน เจ้าของร้าน: “อ้าวเหรอจ๊ะ ฉันคิดว่าเธอมาซื้อทองเสียอีก พอดีฉันเพิ่งรับคนมาเองจ่ะ ตอนนี้ตำแหน่งเต็มแล้ว” เจ้าของร้าน ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แม่: “ขอบคุณนะคะ” แม่ตอบยิ้ม ๆ แล้วเดินจากไป แม่พยายามเดินหาที่สมัครงานอยู่หลายร้านและหลายแห่ง แต่ก็ไม่มีที่ไหนมีตำแหน่งว่างหรือรับแม่เข้าทำงานเลย จนแม่รู้สึก เหนื่อยจึงเดินกลับห้องพักพร้อมกับกับข้าวในมือประมาณ ๒ - ๓ อย่าง เมื่อถึงห้องแม่ก็รีบจัดกับข้าวใส่จานให้แจ่มใสและยาย พร้อม กับเดินไปนอนพักที่เตียงไม้เก่า ๆ ในห้อง


๙ ตอนที่ ๔ แจ่มใส: “แม่ไปไหนมา ทำไมกลับมาช้าจังคะ” แจ่มใสเอ่ย ถามทันทีที่แม่เดินเข้ามาตรงที่เธอกับยายนั่งอยู่ แม่: “แม่ไปหาสมัครงานมาจ่ะ”แม่ตอบด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ แจ่มใส: “เป็นยังไงบ้างคะ” เธอถามด้วยท่าทีตื่นเต้น แม่: “ยังไม่ได้งานเลยจ่ะ” แม่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ แจ่มใส: “ไม่เป็นไรนะคะแม่ หนูว่าอีกไม่นานแม่ก็คงได้งาน ค่ะ” เธอให้กำลังใจแม่ แม่: “จ่ะลูก ส่วนมากเขาบอกว่าแม่อายุค่อนข้างมากและ ประสบการณ์การทำงานก็ค่อนข้างน้อยเลยไม่อยากจะรับเข้า ทำงานจ่ะ” แม่อธิบาย แจ่มใส: “ไม่เป็นไรนะคะแม่ หนูเชื่อว่าแม่ของหนูเก่งที่สุด อยู่แล้วค่ะ” เมื่อจบบทสนทนาทั้ง ๓ คน ก็รับประทานอาหารเย็นที่แม่ ซื้อมาพร้อมกับเข้านอนตามปกติ แต่เช้าวันรุ่งขึ้นป้าพรมาเคาะ ประตูห้องแต่เช้าพร้อมกับข่าวดี ป้าพร: “จันทร์ แจ่มใส อยู่ไหมจ๊ะ” ป้าพรเคาะประตูเรียก แม่กับแจ่มใสเสียงดัง


๑๐ แม่: “อยู่จ่ะ ใครมาหน่ะ รอแปบนึงนะจ๊ะ” แม่ขานรับ พร้อมกับลุกไปดูที่ตาแมวหลังบานประตู ป้าพร: “ฉันเองจ่ะ พรไง ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม” ป้าพรรีบ ตอบ แม่: “ได้สิจ๊ะพี่พร ฉันก็คิดว่าใครมาเรียกแต่เช้า” แม่พูด แล้วก็เปิดประตูให้ป้าพรเข้ามาในห้อง ป้าพร: “ได้ข่าวว่าพวกเธอกำลังลำบากใช่ไหม ฉันช่วยหา งานให้เธอได้แล้วนะจันทร์” ป้าพรพูดกับแม่ แม่: “จริงเหรอจ๊ะ งานที่ไหนล่ะพี่พร ฉันไม่เกี่ยงเลยจ่ะ ขอ แค่เป็นงานสุจริตก็พอ” แม่ตอบด้วยความดีใจ ป้าพร: “เป็นงานที่ร้านขายโทรศัพท์ของเพื่อนฉันเอง เธอ สนใจไหมล่ะ” ป้าพรบอกแม่ แม่: “สนใจสิจ๊ะ แล้วเขาให้เริ่มทำได้วันไหนล่ะ” แม่ถามป้า พร ป้าพร: “พรุ่งนี้ได้เลยจ่ะ เธอพร้อมไหม ส่วนรายละเอียด งานเธอลองเข้าไปคุยที่ร้านของเขาดูนะ ฉันบอกเขาไว้ให้แล้ว”


๑๑ แม่: “ได้ค่ะพี่พร ฉันต้องขอบคุณพี่กับเข็มทิศมาก ๆ เลย นะคะที่ช่วยครอบครัวของฉันขนาดนี้ ถ้าไม่ได้พี่กับเข็มทิศฉันกับลูก และแม่ต้องแย่แน่ ๆ เลยจ่ะ” แม่รีบกล่าวขอบคุณป้าพร ป้าพร: “ไม่เป็นไรหรอกจ่ะ ฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้เช้าฉันจะ มาพาเธอไปที่ร้าน” ป้าพรพูดพร้อมบอกลา แม่: “ค่ะพี่พร แล้วเจอกันนะคะ” หลังจากป้าพรเดินจากไป แจ่มใสก็ได้แสดงความยินดีกับ แม่ที่กำลังจะได้งานทำ และมีเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว แจ่มใส: “ดีใจด้วยนะคะแม่ ในที่สุดแม่ก็จะได้งานทำแล้ว” ยาย: “ใช่แล้วลูก แม่ดีใจกับลูกด้วยนะ” ยายเสริม


๑๒ ตอนที่ ๕ เช้าวันรุ่งขึ้นป้าพรก็มาเรียกแม่ที่ห้องประมาณ ๘ โมงเช้า ส่วนแม่นั้นก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ รีบลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวรอป้า พรตั้งแต่ ๖ โมงเช้า ป้าพร: “จันทร์ตื่นรึยังจ๊ะ จันทร์” ป้าพรเคาะประตูเรียกแม่ แม่: “ตื่นแล้วจ่ะพี่พร กำลังออกไปจ่ะ กำลังรอพี่อยู่พอดี เลย” แม่ตอบรับทันทีด้วยน้ำเสียงสดใส ป้าพร: “โอเคจ่ะ ฉันรออยู่หน้าห้องนะ” ป้าพรกล่าว แม่: “จ่ะพี่พร” ไม่นานแม่ก็เดินออกมาจากห้องพร้อมชุดเดรสที่ดูเรียบร้อย กว่าปกติ วันนี้แม่แต่งหน้าและแต่งตัวดูดีกว่าปกติจนป้าพรเองก็อด ชมไม่ได้ ป้าพร: “จันทร์วันนี้เธอดูดีจังเลยนะ” ป้าพรชมแม่พร้อม กับรอยยิ้มบาง ๆ แม่: “แหม..พี่พรก็ วันนี้ไปสมัครงานฉันก็ต้องแต่งให้ดูดี หน่อยสิจ๊ะ” แม่ตอบอย่างเขิน ๆ ป้าพร: “จ้า...เราไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสาย เอกสารพร้อม แล้วใช่ไหม” ป้าพรตอบรับพร้อมถามแม่อีกครั้ง


๑๓ แม่: “พร้อมแล้วค่ะพี่พร” แม่ตอบพร้อมยื่นแฟ้มในมือให้ ป้าพรดู พูดจบทั้งสองคนก็เดินออกจากหอพักไป ทั้งคู่เดินคุยกันไป เรื่อย ๆ จนถึงร้านขายโทรศัพท์ที่ป้าพรจะพาแม่มาสมัครงาน ป้าพร: “ถึงแล้วจ่ะ เราเข้าไปกันเถอะ” ป้าพรหยุดยืนหน้า ร้านพร้อมบอกแม่ แม่: “ค่ะพี่พร ฉันตื่นเต้นจังเลยค่ะ ไม่ได้ทำงานนอกบ้าน มานานหลายปี ตั้งแต่แต่งานก็ลาออกมาเลี้ยงลูกซะนานเลย” แม่ พูดด้วยความตื่นเต้น ป้าพร: “ไม่ต้องตื่นเต้นนะ พี่ว่าเธอทำได้อยู่แล้ว” ป้าพรพูด ปลอบแม่เพื่อให้แม่ไม่ตื่นเต้น เมื่อป้าพรและแม่ก้าวเข้ามาในร้านขายโทรศัพท์ก็พบผู้หญิง วัยกลางคนท่าทางเป็นมิตรยืนอยู่บริเวณบูทขายโทรศัพท์ เธอรีบ กล่าวทักทายป้าพรและแม่ด้วยที่ทีเป็นมิตรทันทีที่เห็นทั้งคู่ เจ้าของร้าน: “สวัสดีจ่ะพี่พร สวัสดีจ่ะ เอ่อ... เธอชื่ออะไร นะ” ป้าพร: “สวัสดีจ่ะราตรี นี่จันทร์นะ คนที่ฉันบอกเธอว่าจะ ขอให้มาช่วยงานเธอที่ร้านน่ะจ่ะ”


๑๔ เจ้าของร้าน: “อ่อจ่ะ สวัสดีจ่ะจันทร์” เธอกล่าวทักทายแม่ อีกครั้ง แม่: “สวัสดีค่ะ” แม่ยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มทักทายเจ้าของ ร้าน เจ้าของร้าน: “จ่ะ ฉันชื่อราตรีนะ เธอเคยทำงานอะไรมา ก่อนบ้างจ๊ะ” เจ้าของร้านแนะนำตัวและถามแม่ แม่: “ฉันเคยทำงานที่บริษัทขายเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ เป็น พนักงานขายและได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาด ก่อนจะ ลาออกก็ได้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดค่ะ” แม่ตอบ ป้าพร: “ถึงจะมีประสบการณ์ไม่หลากหลาย แต่จันทร์เค้า ทำงานเก่งนะ” ป้าพรเสริม แม่: “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะพี่พร ฉันก็ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด หัวหน้าเขาก็คงเห็นและช่วยผลักดันน่ะค่ะ” แม่ตอบอย่างถ่อมตัว เจ้าของร้าน: “ดีเลย แล้วเธอใช้อุปกรณ์อเล็กโทรนิคพวก โทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ เป็นไหมจ๊ะ” คุณราตรีถามแม่ แม่: “เป็นค่ะพี่ แต่อาจจะต้องศึกษาเพิ่มในบางรุ่นที่ออก ใหม่บ้างค่ะ” แม่ตอบ


๑๕ เจ้าของร้าน: “งั้นก็ดีจ่ะ เธอพร้อมเริ่มงานเลยไหม เดี๋ยวพี่ จะเอาโบว์ชัวร์สินค้าให้เธอไปอ่านดูนะ และก็สินค้าตัวอย่างที่ออก ใหม่ล่าสุดอันนี้พี่ให้เธอไปใช้นะ จะได้แนะนำลูกค้าได้”เธอพูดอย่าง ใจดี แม่: “ได้ค่ะพี่ราตรี” แม่ตอบรับด้วยท่าทางกระตือรืนร้น เจ้าของร้าน: “เธอพร้อมเริ่มงานเลยใช่ไหมจ๊ะ” คุณราตรี ถามแม่ แม่: “พร้อมค่ะ” แม่รีบตอบทันที เจ้าของร้าน: “งั้นนี่โบว์ชัวร์กับโทรศัพท์จ่ะ ส่วนเรื่อง เงินเดือนพี่ให้ ๑๕,๐๐๐ บาท ถ้ารวมค่าคอมมิชชั่นขายโทรศัพท์ก็ จะอยู่ที่ ๒๐,๐๐๐ - ๓๐,๐๐๐ บาท หรือถ้ายอดขายดีบางเดือนก็ อาจจะได้ถึง ๔๐,๐๐๐ - ๕๐,๐๐๐ บาท เลยนะ” คุณราตรีอธิบาย แม่: “แล้วเอกสารสมัครงานต้องใช้อะไรบ้างคะ” แม่ถาม คุณราตรีด้วยความสงสัย เจ้าของร้าน: “อ่อขอโทษทีจ่ะ ฉันลืมไปเสียสนิทเลย เธอ เอาสำเนาบัตรประชาชน รูปถ่ายและก็สำเนาหน้าบัญชีธนาคารมา ให้ฉันก็พอจ่ะ” คุณราตรีกล่าว


๑๖ เมื่อพูดคุยตกลงและยื่นเอกสารให้คุณราตรีเรียบร้อยแล้ว แม่กับป้าพรก็เดินกลับบ้าน แม่กล่าวขอบคุณป้าพรอีกครั้งที่คอย ช่วยเหลือ แม่: “ขอบคุณพี่พรอีกครั้งนะคะที่คอยช่วยเหลือฉันและ ครอบครัวตอนที่ลำบาก” ป้าพร: “ไม่เป็นไรหรอกจ่ะ ฉันเองก็รู้จักเธอมานาน มีอะไร ก็ต้องช่วยกันสิจ๊ะ” ป้าพรตอบ แม่: “งั้นเย็นนี้พี่พรกับเข็มทิศไปทานข้าวที่ห้องของฉันนะ จ๊ะ ฉันขอเลี้ยงสักมื้อ” แม่เอ่ยชวนป้าพร ป้าพร: “ไม่เป็นไรหรอกจ่ะ ตอนนี้เธอยังเพิ่งจะเริ่มทำงาน แล้วไหนจะหนี้สินที่สามีเธอมาทิ้งไว้ให้อีก” ป้าพรตอบด้วยท่าทาง เข้าใจ แม่: “แต่ฉันอยากจะเลี้ยงขอบคุณพี่จริง ๆ นี่จ๊ะ” แม่แสดง ความตั้งใจ ป้าพร: “เอาไว้เธอใช้หนี้หมดและมีเงินก่อนค่อยมาเลี้ยงฉัน กับหลานก็ได้ ฉันเข้าใจเธอและเคยผ่านจุดเดียวกับเธอมาก่อนนะ” เมื่อมาส่งแม่ที่ห้องเช่าแล้วป้าพรก็เดินกลับบ้านของตนเอง ที่อยู่ไม่ไกลจากนัก


๑๗ ตอนที่ ๖ เช้าวันรุ่งขึ้นเข็มทิศก็มาหาแจ่มใสที่ห้องแต่เช้าพร้อม กับข้าวที่ได้จากการเดินตามหลวงตาที่วัดไปบิณฑบาตแต่เช้า เข็มทิศ: “แจ่ม ฉันเอากับข้าวมาให้น่ะ มาเลือกสิว่าอยาก กินอะไร ของอร่อย ๆ เพียบเลยนะ” เขาเรียกแจ่มใส แจ่มใส: “อ้าวเข็มทิศ มาแต่เช้าเลยนะ รอแปบนะเดี๋ยวฉัน ออกไป” แจ่มใสตอบรับแล้วรีบเดินออกไปหาเข็มทิศ เข็มทิศ: “เอาข้าวเหนียวไก่ทอดไหม น้ำเต้าหู้ก็มี โจ๊กก็ดีนะ ข้าวสวย กับข้าวก็มี ลองเลือกดูสิ” เขาพูดพร้อมยื่นถุงใบใหญ่ที่ใส่ กับข้าวอยู่เต็มให้แจ่มใสเลือก แจ่มใส: “อันนี้คืออะไรน่ะ” แจ่มใสชี้ไปที่ห่อกระดาษสีขาว ในถุง เข็มทิศ: “อ๋อ ข้าวเหนียวไก่ทอดและก็ข้าวเหนียวหมู ฝอยน่ะ เธอเอาไหม อร่อยนะ” เขาตอบ แจ่มใส: “ฉันไม่เคยกินอะไรแบบนี้เลย ปกติที่บ้านฉันจะ เป็นซุป อาหารเช้าแบบฝรั่ง ข้าวต้ม ขนมปัง อะไรพวกนี้น่ะ” เธอ บอกเข็มทิศ


๑๘ เข็มทิศ: “ลองกินดูสิแล้วเธอจะติดใจนะ” เข็มทิศบอก พร้อมยื่นห่อข้าวเหนียวไก่ทอดให้แจ่มใส เมื่อแจ่มใสรับห่อกระดาษมาเธอก็รีบแกะออก แต่ขณะที่ กำลังจะทานนั้นเอง เธอก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะไม่รู้ว่าจะทานมัน อย่างไร ส่วนเข็มทิศนั้นก็อดหัวเราะในท่าทางของเธอไม่ได้พร้อมกับ สอนว่าใช้แจ่มใสใช้มือหยิบทานได้เลย แต่ต้องล้างมือให้สะอาดก่อน หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเข็มทิศก็ได้แบ่งอาหาร บางส่วนเอาไว้ให้แม่กับยายและ ป้าพร จากนั้นทั้งคู่ก็ไปอาบน้ำ แต่งตัวเพื่อไปโรงเรียน เข็มทิศ: “เป็นไงบ้างข้าวเหนียวไก่ทอดของฉันอร่อยไหม” เข็มทิศชวนคุย แจ่มใส: “อร่อยมาก ทำไมฉันไม่เคยกินอะไรแบบนี้เลย” แจ่มใสตอบแล้วก็เงียบไป เข็มทิศ: “เธอเป็นอะไรหรือเปล่า” เข็มทิศอดถามไม่ได้ด้วย ความเป็นห่วง แจ่มใส: “คือฉันกังวลน่ะ ฉันอยากจะช่วยแม่กับยายหา เงินน่ะ นายพอมีงานอะไรที่ฉันพอจะทำได้บ้างไหม” แจ่มใสถามเข็ม ทิศ


๑๙ เข็มทิศ: “โธ่...ฉันก็นึกว่าอะไร เธอทำอะไรเป็นบ้างล่ะ” เขา ถามแจ่มใส แจ่มใส: “เอ่อ....ฉันไม่เคยทำงานอะไรเลยตั้งแต่เด็ก” แจ่มใสตอบด้วยแววตาเศร้าหมอง เข็มทิศ: “ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันจะสอนเธอเอง เธอมาช่วยฉัน นะ” เข็มทิศพูดด้วยท่าทางใจดี แจ่มใส: “จริงเหรอ งานอะไรล่ะ” แจ่มใสถามด้วยความดี ใจ เข็มทิศ: “ล้างผัก เด็ดผัก เช็ดจาน เสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน ก๋วยเตี๋ยวน่ะ” เข็มทิศอธิบาย แจ่มใส: “ฉันจะทำได้ใช่ไหม” แจ๋มใสกังวล เข็มทิศ: “ได้สิ ฉันจะสอนเธอเอง” หลังจากเลิกเรียนเข็มทิศก็มารอแจ่มใสหน้าห้องเรียนของ เธอ ทั้งคู่เดินกลับบ้านพร้อมกัน เข็มทิศบอกให้แจ่มใสไปเปลี่ยนชุด ที่บ้านและเขาก็พาเธอมาเริ่มงานที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เขาก็ค่อย ๆ สอน งานเธอทีละอย่าง เข็มทิศ: “แจ่ม เธอเก่งจังเลยนะ แปบเดียวก็ทำคล่องแล้ว นี่ขนาดไม่เคยทำมาก่อนนะเนี่ย” เข็มทิศเอ่ยปากชมแจ่มใส


๒๐ แจ่มใส: “แหม...เธอก็พูดเกินไป ฉันเพิ่งจะทำงานได้วัน เดียวเองนะจะไปสู้เธอได้ไงล่ะ” แจ่มใสตอบเขิน ๆ เข็มทิศ: “สักประมาณ ๖ โมงเย็นเราก็กลับบ้านกันได้แล้ว นะ แต่ก่อนกลับเราก็ไปรับค่าจ้างที่เจ๊เจ้าของร้านได้เลย” เขาบอก แจ่มใส แจ่มใส: “จริงเหรอ เขาจ่ายให้เราเป็นรายวันเลยเหรอที่นี่” แจ่มใสถามต่อ เข็มทิศ: “ใช่ ใกล้เลิกงานแล้ว เดี๋ยวฉันไปลวกก๋วยเตี๋ยวมา ให้นะ เธออยากทานเส้นอะไรดีล่ะ” เข็มทิศตอบ แจ่มใส: “เส้นอะไรดีล่ะ ฉันไม่เคยกินก๋วยเตี๋ยวมาก่อนเลย ปกติที่บ้านก็ทานแต่พาสต้า สปาเก็ตตี้น่ะ ก๋วยเตี๋ยวมันคืออะไร เหรอ อร่อยไหม” เธอถามด้วยความที่ไม่รู้จักก๋วยเตี๋ยว เข็มทิศ: “งั้นเอางี้ฉันเอาเส้นโปรดของฉันให้เธอละกัน เอา เหมือนกันดีไหม” เข็มทิศเอ่ย แจ่มใส: “โอเค” แจ่มใสตอบ หลังจากนั้นแจ่มใสและเข็มทิศก็ได้ทานก๋วยเตี๋ยวกันอย่าง เอร็ดอร่อย นี่เป็นครั้งแรกของแจ่มใสที่ได้ทำงานและเรียนรู้อะไร


๒๑ ใหม่หลายอย่างที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน เมื่อทานเสร็จทั้งคู่ก็ไปรับเงิน ค่าจ้างจากเจ้าของร้านและเดินกลับบ้าน เข็มทิศ: “เธอได้เท่าไหร่น่ะ ไหนฉันขอดูหน่อยสิ” เข็มทิศ ถามแจ่มใส แจ่มใส: “นี่จ่ะ” แจ่มใสยื่นเงินในมือให้เข็มทิศดู เข็มทิศ: “โหวว เยอะนะเนี่ย ขนาดวันแรกเธอยังได้เยอะ กว่าฉันอีก” เข็มทิศพูดด้วยความตื่นเต้น แจ่มใส: “เท่าไหร่เหรอ” แจ่มใสถามเพราะเธอยังไม่ได้นับ เงิน เข็มทิศ: “ตั้ง ๑๕๐ บาท แหนะ” แจ่มใส: “ดีจังนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันหาเงินได้เองเลยนะเนี่ย พรุ่งนี้ฉันจะแบ่งเป็นค่าขนม ๓๐ บาท ส่วนที่เหลือก็เอาไปให้แม่ นะ” แจ่มใสพูดน้ำเสียงร่าเริง หลังจากนั้นแจ่มใสและเข็มทิศก็ทำงานรับจ้างเพิ่มอีกเมื่อ โตขึ้นและส่งเสียตัวเองจบเรียนจบชั้นปริญญาตรี


๒๒ ตอนที่ ๗ เมื่อเรียนจบแล้วทั้งคู่จึงคิดที่จะทำร้านอาหารเล็ก ๆ ของ ตนเอง โดยมีแจ่มใสเป็นแม่ครัวและเข็มทิศคอยเป็นผู้ช่วย เข็มทิศ: “ปีนี้เราก็เรียนจบกันแล้วนะ เราจะทำอะไรกันดี ล่ะ” เข็มทิศถามแจ่มใส แจ่มใส: “เราเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ของเราสักร้านดีไหม” แจ่มใสเสนอความคิด เข็มทิศ: “ดีเหมือนกันนะ พอดีเราเก็บเงินไว้ได้ก้อนหนึ่ง พอดี” เข็มทิศเห็นด้วยกับความคิดของแจ่มใส แจ่มใส: “เราก็พอมีเงินอยู่บ้างเหมือนกัน งั้นเข็มออกแบบ ร้านนะ เดี๋ยวเราจะช่วยเลือกของตกแต่ง” เข็มทิศ: “ได้เลยครับคุณผู้หญิง” เข็มทิศตอบอย่างอารมณ์ ดี หลังจากที่สร้างร้านเสร็จและเปิดร้านได้ไม่นานเข็มทิศและ แจ่มใสก็มักจะคอยช่วยกันคิดเมนูและปรับปรุงสูตรให้เป็นที่พอใจ ของลูกค้าอยู่เสมอ แจ่มใส: “ทำอะไรอยู่น่ะเข็ม” แจ่มใสเอ่ยถามขณะที่เข็มทิศ กำลังดูยุ่ง ๆ อยู่ในครัว


๒๓ เข็มทิศ: “กำลังคิดเมนูใหม่อยู่น่ะจ่ะ” เขาตอบพร้อมกับ ท่าทางขมักเขม่นกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงหน้า แจ่มใส: “ไหน...มาแจ่มช่วยนะ” แจ่มใสเอ่ยแล้วรีบเข้าไป ช่วยเข็มทิศ เข็มทิศ: “ช่วยจัดจานแล้วก็ปรุงรสเพิ่มหน่อยสิจ๊ะ เขาว่า มันขาดอะไรไปบางอย่างนะ” เข็มทิศบอก แจ่มใส: “มา ๆ เดี๋ยวแจ่มช่วยนะ” แจ่มใสพูดพร้อมกับรีบ เข้าไปช่วยเข็มทิศอย่างกระตือรือร้น เข็มทิศ: “อื้ม....อร่อยจัง เข็มทิศชิมอีกรอบหลังจากแจ่มใส ปรุงรสเพิ่ม แถมสวยด้วย” เข็มทิศชมพร้อมมองหน้าแจ่มใสด้วย สายตาหวาน แจ่มใส: “อะไรสวยจ๊ะ อาหารใช่ไหม” แจ่มใสถามต่อ เข็มทิศ: “ทั้งอาหารทั้งคนทำเลยจ่ะ แจ่มนี่เก่งจริง ๆ เลย นะ” ผ่านไป ๓ ปี ร้านอาหารของทั้งคู่ก็เป็นที่รู้จักจนกระทั่ง ขยายสาขาออกไปในหลาย ๆ จังหวัด และมีบริการเดลิเวอรี่ ทำให้ ทั้งคู่ร่ำรวยขึ้นจนสามารถปลดหนี้ที่พ่อของแจ่มใสสร้างไว้ได้ทั้งหมด ชีวิตของครอบครัวแจ่มใสและเข็มทิศกับป้าพรก็สุขสบายขึ้น แม่ที่


๒๔ เคยทำงานที่ร้านขายโทรศัพท์ก็ต้องลาออกมาช่วยแจ่มใสและเข็ม ทิศที่ร้าน ส่วนยายก็คอยช่วยดูแลงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะยายเอง ก็อายุมากแล้ว


๒๕ ตอนที่ ๘ วันหนึ่งขณะที่แจ่มใสกำลังกลับเข้ามาในร้านสาขาใหญ่ที่ เธออยู่ประจำกับเข็มทิศนั้น เธอต้องตกใจเพราะเข็มทิศกำลังจะทำ เซอร์ไพร์สให้เธอ เข็มทิศ: “เซอร์ไพร์ส” ดวงไฟสว่างขึ้นหลังจากที่แจ่มใสเปิด ประตูร้านเข้ามาพร้อมกับเสียงที่คุ้นเคย แจ่มใส: “เกิดอะไรขึ้นคะเข็ม” แจ่มใสถามด้วยท่าทีสงสัย เข็มทิศ: “แต่งงานกับผมนะครับ” เข็มทิศตอบพร้อมคุกเข่า ลงและสวมแหวนให้แจ่มใส แจ่มใส: “ค่ะ” แจ่มใสตอบรับด้วยท่าทีเขินอาย หลังจากวันนั้นชีวิตของแจ่มใสและเข็มทิศก็อยู่กันอย่างมี ความสุข และไม่ต้องลำบากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เพราะทั้งคู่ ร่ำรวยและมีเงินใช้มากมายจากธุรกิจร้านอาหารที่ทั้งคู่สร้างขึ้นมา ด้วยกัน แจ่มใสและเข็มทิศมีลูกด้วยกัน ๓ คน และทั้ง ๓ คนก็เป็น เด็กดี ขยันขันแข็งช่วยพ่อแม่แม่ดูแลกิจการร้านอาหารเป็นอย่างดี


๒๖ จากใจผู้เขียน เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นในแนวที่ดิฉันชื่นชอบ ทำให้รู้สึก ถึงแก่นของชีวิตที่ต้องลำบาก พยายาม ขยัน อดทนผ่านอะไรหลายๆ อย่างกว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตและได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข มี ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างชีวิตของแจ่มใสเป็นต้น หวังว่าผู้อ่าน จะได้รับแนวคิดที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้หาก มีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ชมพูนุท เจริญสุข


๒๗ ประวัติผู้เขียน ชื่อ นางสาวชมพูนุท เจริญสุข ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ห้อง ๖ วันเกิด ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๗ ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์๐๙๕-๙๒๙-๕๐๔๐


๒๘


๒๙


Click to View FlipBook Version