ว่าว่ที่ร้อยตรีจรีตุพร ภักดี อ ง ค ต หนึ่งในทหารเอกของพระราม กายเขียวมรกต ปากหุบ มงกุฎสามกลีบ
อ ง ค ต ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า องคต เป็นตัวละครเอกตัวหนึ่งของเรื่อรื่งรามเกียรติ์ เป็นลิงมีกายสีเขียวเป็นสีประจำ กาย สวมมงกุฎยอด สามกลีบ เป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก เกิดค่อนข้างพิสดาร เนื่องจากพระฤาษีอังคตนำ องคตไปฝากไว้ในท้อง แพะ ซึ่งผู้วิจัยได้ศึกษาประวัติองคตจากวรรณกรรม รามเกียรติ์ ดังนี้ โคลงประจำ ภาพองคต มีว่า ๏ นามขุนกระบี่นี้ องคต เสนอนอ กากาศราชเอารส ฤทธิ์ล้ำ สีเขียวดุจมรกต มกุฎกลีบ สามแฮ เถลิงยศอุปราชค้ำ เขตด้าวขีดขิน องคต เป็นบุตรของพาลีซึ่งเป็นกษัตริย์ริ ย์ครองเมือง ขีดขินขณะนั้นนั้ โดยมีพระอินทร์แร์ละนางกาลอัจนา เป็นบิดาและมารดาของพาลี ส่วนนางมณโฑเป็น มารดา เกิดในลักษณะที่ประหลาด เมื่อครั้งรั้องคต เป็นทารกอยู่ในท้องนางมณโฑได้ 6 เดือน พระ ฤาษีก็แหวะเอาทารกไปฝากไว้ในท้องแพะด้วยเหตุที่ ต้องคืนนางมณโฑแก่ทศกัณฐ์ เมื่อครบกำ หนด 10 เดือน พระฤาษีก็ได้แหวะท้องแพะนำ ทารกออก มา และตั้งชื่อให้ว่า องคต ตามชื่อของพระฤาษีอัง คต พาลีให้นางดาราและนางสนมพี่เลี้ยงเลี้ยงดู อย่างดี จนอายุได้ 10 ปี ก็ทำ พิธีสรงให้แก่องคต และทศกัณฐ์คิดจะทำ ร้าร้ยองคตในพิธีสรง แต่ถูก พาลีจับได้ พาลีจึงจับตัวมาให้องคตลากเล่นตั้งแต่ เช้าถึงเย็นให้กินข้าวเหลือเดนจากนางกำ นัล จนซูบ ผอมแล้วปล่อยตัวกลับไป
บ ท บ า ท ข อ ง อ ง ค ต ใ น ว ร ร ณ ก ร ร ม เ รื่ อ ง ร า ม เ กี ย ร ติ์ บทบาทองคตในสมัยต่างๆ พบว่า ในสมัยกรุงศรีอรียุธยามีการกล่าวถึงบทบาทในเรื่อรื่งของการเป็นทหาร การเป็นนักการทูต และการ เป็นนักรบ สมัยกรุงรัตรันโกสินทร์ รัชรักาลที่ 1 กล่าวถึงบทบาทในเรื่อรื่งของการเป็นทหาร การเป็นอุปราช การเป็นนักการทูต การเป็นน้อง การเป็นนักรบ บทบาทการเป็นเกียกกาย และการเป็นยกกระบัตร รัชรักาลที่ 2 กล่าวถึงบทบาทในเรื่อรื่งของการเป็นทหาร การเป็นนักการทูต การเป็นน้อง และการเป็นนักรบ รัชรักาลที่ 6 กล่าวถึงบทบาทในเรื่อรื่งของการเป็นทหาร การเป็นนักการทูต และการเป็นนักรบ การเป็นทหาร องคตทำ หน้าที่ของทหาร ตามที่ พระรามบัญชาใช้ได้อย่างสมบูรณ์และสำ เร็จร็ทุกครั้งรั้ ที่ได้ทำ การอาสาในฐานะทหาร การเป็นอุปราช องคตในฐานะอุปราชเมืองขีด ขิน ได้กลับมาช่วยพระพรตทำ สงครามฆ่าเพตาตาย ก่อนฆ่าได้ประกาศตนว่าตนคือ องคตอุปราชเมือง ขีดขิน การเป็นนักการทูต องคตมีบทบาทเป็นนักการ ทูต ที่ทำ หน้าที่ไปสื่อสารตามคำ สั่งสั่ขององค์พระราม ถึง 2 ครั้งรั้ครั้งรั้แรกเจรจากับทศกัณฐ์ ครั้งรั้ที่ 2 เจรจาลวงถามปริศรินาจากกุมภกรรณ ด้วยความที่ องคตนั้นนั้มีท่วงทีองอาจ ไม่เกรงกลัวยักษ์ มีสติ ปัญญา และใช้วาจาดี วิ เคร า ะห์บทบาทข อ ง อ งคตที่ศึกษา จ ากว ร รณกร รมร ามเกียรติ์ การเป็นน้อง องคตเชื่อฟังคำ หนุมานผู้เป็นพี่ และปฏิบัติตามคำ สั่งสั่ของหนุมานโดยไม่บิดเบือน ถือว่าองคตเป็นน้องที่ดี ที่ฟังคำ พี่ แสดงให้เห็น ถึงความรักรัแบบพี่น้องที่มีความสนิทสนมไว้ใจกัน การเป็นนักรบ องคตทำ การอาสาในฐานะ นักรบที่เก่งกล้าสามารถ มีสติปัญญาและฆ่ายักษ์ ตาย การเป็นเกียกกาย ในการจัดทัพออกศึกองค ตก็มีการรับรัหน้าเป็นหัวหน้าเสบียงด้วย การเป็นยกกระบัตร ในการจัดทัพออกศึกองค ตก็มีการรับรัหน้าเป็นอัยการประจำ กองทัพด้วย
ในสมัยมักรุงศรีอรียุธยามีกมีารกล่าวถึงบุคลิกในเรื่อรื่งของมีคมีวามรู้ใรู้นเวทย์มย์นต์ เป็นป็ผู้มีผู้ สมีติปัญญา เป็นป็ผู้มีผู้ มี ลักษณะเป็นป็นักนัการทูตทูและเป็นป็ผู้มีผู้ คมีวามสามารถม้วม้นหางเป็นป็บัลบัลังก์นั่งนั่ สมัยมักรุงรัตรันโกสินสิทร์ รัชรักาลที่ 1 การกล่าวถึงบุคลิกในเรื่อรื่งของด้าด้นรูปรูร่าร่ง มีคมีวามรู้ใรู้นเวทย์มย์นต์ มีลัมี ลักษณะดี การเป็นป็ผู้มีผู้ สมีติปัญญา เป็นป็ผู้มีผู้ ลัมี ลักษณะกายเป็นป็เอกลักษณ์ เป็นป็ผู้มีผู้ ลัมี ลักษณะเป็นป็นักนัการทูตทูและ เป็นป็ผู้มีผู้ คมีวามสามารถม้วม้นหางเป็นป็บัลบัลังก์นั่งนั่ รัชรักาลที่ 2 กล่าวถึงบุคลิกในเรื่อรื่งของมีคมีวามรู้ใรู้นเวทย์มย์นต์ มีลัมี ลักษณะดี เป็นป็ผู้มีผู้ ลัมี ลักษณะกายเป็นป็ เอกลักษณ์ เป็นป็ผู้มีผู้ ลัมี ลักษณะเป็นป็นักนัการทูตทูและเป็นป็ผู้มีผู้ คมีวามสามารถม้วม้นหางเป็นป็บัลบัลังก์นั่งนั่ รัชรักาลที่ 6 กล่าวถึงบุคลิกในเรื่อรื่งของมีคมีวามรู้ใรู้นเวทย์มย์นต์ เป็นป็ผู้มีผู้ ลัมี ลักษณะเป็นป็นักนัการทูตทูและเป็นป็ ผู้มีผู้ คมีวามสามารถม้วม้นหางเป็นป็บัลบัลังก์นั่งนั่ บุ ค ลิ ก ข อ ง อ ง ค ต ใ น ว ร ร ณ ก ร ร ม เ รื่ อ ง ร า ม เ กี ย ร ติ์
บุคลิกด้านรูปร่างขององคต ตั้งแต่กำ เนิดองคตนั้ นมีรูปร่างผิวพรรณดี กายสีเขียวมรกต สมกับเป็น ลูกของนางมณโฑและพาลีกษัตริย์เมืองขีดขิน บุคลิกที่มีความรู้ในเวทย์มนต์ องคตเป็นผู้ที่มีความ รู้ในเวทย์มนต์ ด้วยการใช้เวทย์มนต์ในการม้วนหาง ของตนเองเป็นบัลลังก์นั่งเมื่อครั้งรั้ ไปเจรจาสื่อสาร ซึ่ง ไม่มีลิงตัวใดนอกจากองคตที่จะใช้เวทย์มนต์ในการม้วน ทางเป็นบัลลังก์นั่งได้ อีกทั้งองคตยังสามารถใช้เวทย์ มนต์ในการแปลงกายเป็นอีกา และเป็นพิจิตรไพรีเพื่อ ไปขอแว่นแก้วได้อีกด้วย บุคลิกที่มีลักษณะดี องคตเป็นผู้ที่มีลักษณะดี ท่วงทีองอาจ เมื่อถวายตัวต่อพระราม พระรามเห็น ลักษณะที่มีท่วงทีองอาจสมกับเป็นลูกของกษัตริย์ พาลี และปักหลั่นเห็นลักษณะกายสีเขียว ท่วงทีองอาจ มีเครื่องประดับมงกุฎ ก็เข้าใจว่าเป็นทหารใหญ่คุมพล ลิงมา บุคลิกการเป็นผู้มีสติปัญญา องคตมีสติปัญญาคิด ไตร่ตรองกับปริศนาของกุมภกรรณ จนแก้ปริศนาของ กุมภกรรณตามคำ สั่งของพระรามได้ บุคลิกเป็นผู้มีลักษณะกายเป็นเอกลักษณ์ องคตมี ลักษณะกายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ลิงตัวอื่นนั้นไม่มี กล่าวคือ กายสีเขียว สวมมงกุฎยอดสามกลีบ ซึ่งใน บรรดาลิงไม่มีผู้ใดที่สวมมงกุฎยอดสามกลีบ บุคลิกเป็นผู้มีลักษณะเป็นนักการทูต องคตเป็นผู้มี ลักษณะเป็นนักการทูต เมื่อครั้งรั้พระรามจะส่งทูตไป เจรจา สุครีพจึงทูลว่าองคตสมควรไปเป็นทูตเจรจา ด้วยว่ามีกำ ลังฤทธิ์ไม่กลัวทศกัณฐ์ มีสติปัญญา วาจา องอาจหลักแหลม จึงเหมาะสมกับการเป็นทูต บุคลิกเป็นผู้มีความสามารถม้วนหางเป็นบัลลังก์นั่ง องคตสามารถม้วนหางเป็นบัลลังก์นั่งได้ ด้วยความที่ คิดไม่เกรงกลัวต่อศัตรูฝ่ายตรงข้ามจึงม้วนหางเป็น บัลลังก์นั่งให้สูงเทียมศัตรู ซึ่งลักษณะการม้วนหางนี้ ไม่มีลิงตัวใดม้วนหางเป็นบัลลังก์นั่งได้เลยนอกจากอง คต วิเคราะห์บุคลิกขององคตที่ศึกษา จากวรรณกรรมรามเกียรติ์ได้ว่า S EPT . 2 0 2 0 , I S SUE 7