ฝน (Rain)
ความหมาย
ฝน คือ หยาดน้าฟ้าที่มีขนาดใหญ่
ตงั แต่ 0.5 มลิ ลิเมตรขึนไป
การกาเนดิ ฝน
ประเภทของฝน ฝนพาความรอ้ น
มวลอากาศร้อน มวลอากาศร้อน
ฝนพาความรอ้ น (Convectional Rain)
• เกิดจากเมฆก่อตัวจากมวลอากาศร้อนลอยตัวสู่ด้านบน คิวมูลัส
รวมตัวกันเป็นคิวมโู ลนมิ บัส
• ทา้ ใหฝ้ นตกตกตอนบ่ายหรือคา้่ ตกพืนท่ไี ม่กวา้ ง เปน็ ฝนโปรย
• ในขณะฝนตกอาจมพี ายุ ลกู เหบ็ ตก ฟ้าคะนองรนุ แรง
• เกดิ ในเดอื นมนี าคม/เมษายน
ฝนปะทะภูเขา
ยกตวั g
ไอนา้ /
ลมพดั ความชืน เขตเงาฝน
ฝนปะทะภูเขา (Orographic Rain)
• ฝนท่ีเกดิ จากลมท่ีมีความชืนพัดไปปะทะภูเขาที่ขวางทิศทางลม แล้ว
มวลอากาศจะถูกยกให้สูงขึนและเย็นลง ไอน้าจะกลั่นตัวกลายเป็น
เมฆหนาทบึ
• ฝนจะตกหนักทางด้านต้นลม ปลายลมฝนน้อย เรียกว่า เขตเงาฝน
(Rain Shadow
ลมชีนุก
เทอื กเขาร็อกกี้
ลมซอนดา
เทอื กเขาแอนดีส
ลมเฟริ น์
เทอื กเขาแอลป์
ไอนา้ ฝนพายหุ มนุ
พายพุ ดั เอา
เขา้ ส่ศู นู ย์กลางของพายุ
ความชืน
ฝนพายุหมนุ (Cyclonic Rain)
• ฝนตกเนื่องจากพายุหมุนท่ีมีมวลอากาศไหลเข้าสู่ศูนย์กลางหย่อม
ความกดอากาศต้่า มวลอากาศจะถูกยกตัวให้สูงขึนอย่างรวดเร็ว
ท้าใหไ้ อนา้ กลัน่ ตวั กลายเป็นเมฆหนาทบึ
• ตกเปน็ พายฝุ น แผเ่ ปน็ วงกวา้ ง (มถิ ุนายน-ตลุ าคม)
ฝนแนวปะทะ
อากาศเย็น ลอยตัว
อากาศรอ้ น
ปะทะ ยก
ฝนแนวปะทะ (Frontal Rain)
• เป็นฝนที่เกิดจากการปะทะของมวลอากาศ เม่ือมวลอากาศร้อนกับ
อากาศเย็นมาปะทะกัน มวลอากาศเย็นจะช้อนมวลอากาศร้อน
ลอยตัวขึน ไอนา้ ในมวลอากาศรอ้ นจะกล่นั ตัวตกเป็นฝน
• จะตกไม่รุนแรง ตกสม้่าเสมอ เป็นเวลานาน (ตุลาคม-พฤศจิกายน
และ กมุ ภาพนั ธ-์ เมษายน)