ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ
เกษตรกรรม
เกษตรกรรมเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจข้ันพื้นฐานของมนุษย์ เป็นการใช้ที่ดินเพ่ือการเพาะปลูก
การเล้ียงสัตว์ การประมง รวมทั้งการทาป่าไม้ ซ่ึงกิจกรรมดังกล่าวมีการใช้เทคโนโลยีระดับพ้ืนบ้าน
จนถึงการใช้เทคโนโลยีข้ันสูง ผลผลิตมีทั้งสนองความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ และเป็นวัตถุดิบของ
กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ในช้ันสงู ต่อไป
1. เกษตรกรรมแบบยงั ชพี
เกษตรกรรมแบบยังชีพ เป็นการปลูกพืชและเล้ียงสัตว์ไว้ใช้บริโภคในครอบครัว อาจมี
เหลอื จาหน่ายหรือแลกเปลยี่ นบา้ งไมม่ ากนัก กจิ กรรมทางเศรษฐกิจที่สาคัญ ได้แก่
1.1 การเกบ็ ของป่าและลา่ สตั ว์
กลุ่มที่มีอาชีพน้ี เช่น พวกปิกมีในทวีปแอฟริกา ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในลุ่มแม่น้าคองโก
ดารงชีวิตด้วยการจับปลา เก็บของป่า และล่าสัตว์โดยใช้ธนูอาบยาพิษ ลักษณะทั่วไปของการ
ดารงชีพด้วยวิธีน้ี คือ หาอาหารเมื่อหิวและไม่มีการเก็บไว้สาหรับวันต่อไป หรือเก็บได้เพียง
ระยะเวลาสน้ั ๆ เพราะอาหารมนี อ้ ยและขาดวิธีการเกบ็ หรือการถนอมอาหารท่ีดี ส่วนมากจะอยู่
กลุ่มเล็กๆ เปน็ ครอบครัวหรือเป็นเผา่
1.2 การเล้ยี งสัตว์แบบเรร่ อ่ น
เป็นการเลย้ี งสตั วใ์ นเขตทุง่ หญ้ากง่ึ ทะเลทรายทีม่ หี ญา้ เฉพาะฤดู ทาใหต้ อ้ งพาฝูงสัตว์ย้าย
ท่ีไปเรื่อยๆ สัตว์ท่ีเล้ียงมีหลายชนิดแล้วแต่ลักษณะทางธรรมชาติที่เหมาะสมสาหรับสัตว์ชนิด
น้ันๆ การดารงชีวิตของพวกเร่ร่อนข้ึนอยู่กับสัตว์ท่ีเลี้ยง ซึ่งใช้เป็นพาหนะ อาหาร และทา
เครื่องใช้ต่างๆ บริเวณท่ีมีการเลี้ยงสัตว์แบบเร่ร่อน เช่น เขตตอนกลางของทวีปเอเชีย เขต
ตะวนั ตกเฉียงใต้ของทวปี เอเชียกบั ทางตะวันออกของทวปี แอฟรกิ า และเขตทุนดรา
1.3 การเพาะปลกู แบบยังชพี
เป็นการเพาะปลูกที่ใช้วิธีการง่ายๆ ไม่รู้จักใช้ปุ๋ยหรือปลุกพืชหมุนเวียน มีเคร่ืองมือเฉพาะและ
วิธกี ารปลูกแบบงา่ ยๆ พวกทีม่ คี วามเจรญิ มากขนึ้ รูจ้ ักพรวนดนิ กาจัดศตั รพู ืช พืชทปี่ ลูก ได้แก่ ข้าวโพด ข้าว
ฟ่าง ข้าวเจา้ มัน อ้อย และถว่ั สว่ นใหญเ่ ปน็ การเพาะปลูกแบบทาไรเ่ ลื่อนลอย โดยทว่ั ไปการเพาะปลกู ในแต่
ละบริเวณใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ปี เมื่อดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตลดต่าลง จะละท้ิงพื้นท่ีเดิมแล้ว
ไปถางพื้นท่ีใหม่ การเพาะปลูกแบบน้ีพบมากในเขตที่ราบลุ่มแม่น้าแอมะซอน ลุ่มแม่น้าคองโก และใน
ภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้
2. เกษตรกรรมแบบการค้า
เป็นการทาการเกษตรเพื่อจาหน่ายผลผลิต เช่น การปลูกธัญพืช การปลูกพืชสวน การ
ปลูกพืชไร่ การเล้ียงปศุสัตว์ การทาฟาร์มโคนม การทาเกษตรกรรมแบบน้ีเกษตรกรจะ
คดั เลือกพันธ์ุพชื พนั ธ์ุสัตวใ์ หเ้ หมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มในบริเวณนั้นๆ มีการนาเทคโนโลยี
และเทคนคิ สมัยใหมม่ าใช้
2.1 การเพาะปลูกแบบเพิม่ ผลผลิต
(intensive cultivation)
เปน็ การเพาะปลูกในพนื้ ทีข่ นาดเลก็ แต่ให้ผลผลติ สงู การใช้พ้ืนที่อย่างทั่วถึง มีการเพิ่มพ้ืนท่ีโดยการ
ระบายนา้ ออกจากท่ลี ุม่ และมกี ารชลประทานในพื้นที่แห้งแล้ง เว้นท่ีทาการเพาะปลูกในท่ีสูงชันและพ้ืนที่ท่ี
ขาดความอุดมสมบูรณ์ มีการปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อใช้พื้นที่ทาการเกษตรได้ตลอดปี ส่วนใหญ่ใช้แรงงานคน
และสัตว์ แตบ่ างพน้ื ทอี่ าจใชเ้ ครื่องจักรเขา้ ช่วย การเพาะปลกู ในลักษณะน้ีพบได้ในเขตมรสุมของทวีปเอเชีย
เช่น ประเทศจีน ญ่ีปุ่น บังกลาเทศ อินเดีย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พืชที่ปลูก ได้แก่ ข้าวเจ้า ข้าว
ฟ่าง ถวั่ เหลือง อ้อย ผัก และพชื หัว
2.2 การเพาะปลกู ในพนื้ ทกี่ วา้ งขวาง
(extensive cultivation)
เป็นการเพาะปลูกในพ้ืนท่ีขนาดใหญ่ มีการใช้เคร่ืองจักรกสิกรรมในการเตรียมพื้นที่ หว่านเมล็ด
และเก็บเก่ยี วผลผลิตได้อย่างรวดเร็ว บริเวณที่มีการเกษตรแบบนี้ เช่น เขตทุ่งหญ้าสเตปป์ในทวีปยุโรปและ
เอเชีย เขตทุ่งหญา้ แพรรีในสหรฐั อเมรกิ าและแคนาดา เขตทุ่งหญ้าปัมปัสในอาร์เจนตินา และเขตท่ีราบแคน
เทอร์เบอรใี นนิวซีแลนด์ พชื ทป่ี ลูก ได้แก่ ขา้ วสาลี ขา้ วบารเ์ ลย์ ขา้ วไรย์ ข้าวโพด และถ่ัวลิสง การเพาะปลูก
แบบนี้ใชแ้ รงงานคนเปน็ จานวนนอ้ ย การเพาะปลูกต้ังแต่เร่ิมต้นจนถงึ เกบ็ เกยี่ วใช้เครอื่ งจกั รเกือบทงั้ หมด
2.3 การเพาะปลูกแบบผสม
(mixed farming)
เป็นการเพาะปลูกควบคู่ไปกับการเลี้ยงสัตว์ซ่ึงใช้เป็นอาหาร เช่น โคนม โคเน้ือ
สุกร เป็ด ไก่ และปลูกพืชท่ีใช้เล้ียงสัตว์ควบคู่กันไป เช่น ข้าวโพด รวมทั้งพืชที่
จาหน่ายเพื่อการค้า เช่น มันฝรั่ง ข้าวสาลี ผักและผลไม้ การเพาะปลูกแบบผสมให้
ผลผลติ ตอ่ เน้ือทส่ี งู พบมากในภูมิภาคยโุ รปตะวันตก และทวปี อเมรกิ าเหนอื
2.4 การเพาะปลูกแบบไรข่ นาดใหญ่
(plantation)
เป็นการเพาะปลูกในพ้ืนท่ีขนาดใหญ่ในเขตร้อน การเพาะปลูกแบบนี้พบได้ในส่วนต่างๆของทวีป
เอเชีย แอฟริกา และเขตเมืองร้อนในสหรัฐอเมริกา พืชท่ีปลูกในไร่ขนาดใหญ่ เช่น ยางพารา ปาล์ม
น้ามัน มะพร้าว ฝ้าย กาแฟ ชา โกโก้ และพืชเส้นใยต่างๆ ลักษณะโดยท่ัวไปของการทาไร่ขนาดใหญ่
มีการใช้พื้นท่ีตั้งแต่ 250ไร่ข้ึนไป การจัดการไร่จะดาเนินการโดยผู้เช่ียวชาญ มีการใช้ปุ๋ยและ
เครื่องจกั ร เพือ่ ใหไ้ ด้ผลผลิตจานวนมากและมคี ณุ ภาพสงู เปน็ ไปตามความต้องการของตลาด
2.5 การเล้ียงสัตวเ์ พอ่ื การคา้
มีลักษณะแตกต่างจากการเล้ียงสัตว์แบบเร่ร่อน จะเล้ียงสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งที่เหมาะสม
ท่สี ดุ เพียงชนดิ เดียวในแตล่ ะเขต เล้ยี งเปน็ จานวนมาก และเล้ียงเป็นคอกสตั ว์ขนาดใหญ่
1. การเลยี้ งสตั วใ์ นเขตอบอุ่น
ทุ่งหญ้าในเขตอบอุ่นได้รับปริมาณฝนอยูร่ ะหว่าง 254 – 762 มิลลิเมตรต่อปี ซ่ึงตกมากใน
ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อน บริเวณท่ีมีการเล้ียงมาก ได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือในเขตทุ่งหญ้าแพรรี
ทวีปอเมริกาใต้บริเวณท่ีราบปัมปัส เขตตอนใต้ของท่ีราบสูงปาตาโกเนีย และบริเวณภาคใต้ของ
ประเทศออสเตรเลีย
2. การเล้ียงสัตว์ในเขตรอ้ นหรอื สะวนั นา
ทุ่งหญ้าในเขตน้ีมีปริมาณฝนต่อปีมากกว่าทุ่งหญ้าในเขตอบอุ่นแต่ไม่สม่าเสมอ บริเวณท่ีมี
การเลย้ี งมาก ไดแ้ ก่ ทวปี แอฟริกา ทวีปอเมรกิ าใต้ในบรเิ วณทงุ่ หญา้ กมั โป ท่ีราบยาโนส
2.6 การเลีย้ งสตั วใ์ นไรแ่ บบผสม
เป็นการเลี้ยงสัตว์ร่วมกับการปลูกพืชต่างๆและมีการปลูกพืชอาหารสัตว์ เพ่ือนามาใช้เลี้ยงสัตว์ด้วย
สตั ว์เล้ียงที่สาคัญ ได้แก่ โคนม โคเน้ือ สุกร และสัตว์ปีก การเล้ียงโคนมเป็นการเกษตรแบบก้าวหน้า เพราะ
ต้องอาศัยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการเตรียมผลผลิตต่างๆในการเก็บรักษาและการขนส่งต้องอาศัย
อุปกรณ์และยานพาหนะที่ทันสมัย เพ่ือป้องกันไม่ให้ผลผลิตเสียระหว่างขนส่ง เขตเลี้ยงโคนมที่สาคัญ เช่น
เขตอบอ่นุ ทางตะวันออกกลางของทวีปอเมรกิ าเหนอื ตะวนั ตกของทวปี ยุโรป
กจิ กรรมทางการเกษตรท่สี าคญั ของโลก
1. ขา้ วเจ้า เปน็ พืชเศรษฐกจิ ของทวีปเอเชียและเปน็ พืชหลกั ท่ปี ระชากรชาวเอเชียใช้บริโภค
ภูมิอากาศที่เหมาะแกก่ ารปลูกขา้ วมากทส่ี ุด คือ ภมู อิ ากาศแบบมรสุม เพราะมีน้ามากในฤดเู พาะปลูก
และเก็บเกย่ี วได้พอดีในฤดแู ลง้ ขนึ ได้ดบี ริเวณทีร่ าบลุ่มแมน่ ้าและมีดนิ ดอนสามเหล่ียมปากแม่นา้
นอกจากนี หลายประเทศในทวีปเอเชียยงั มีการทา้ นาบนท่สี ูงหรอื การท้านาขันบนั ได เพอื่ ช่วยเพมิ่ ผลผลิต
ขา้ วและสร้างความมัน่ คงทางอาหารบนพืนที่สงู
2. ข้าวสาลี ปลูกไดท้ ั้งในฤดูใบไม้ผลิและฤดหู นาว ที่มีความแหง้ แลง้ และหนาวเย็นได้
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม คือ มีอุณหภมู ทิ อี่ บอนุ่ พอเหมาะ ปรมิ าณความชมุ่ ชน้ื ประมาณ
12 – 40 น้วิ ประเทศปลูกมาก เชน่ ประเทศยเู ครน ซง่ึ เปน็ เขตทุง่ หญ้าสเตปป์
สหรัฐอเมรกิ าปลกู ขา้ วสาลีในฤดใู บไมผ้ ลบิ ริเวณตอนเหนอื ของเขตเกรตเพลนส์ ส่วนทางใต้
ของเขตท่ีราบใหญ่ปลูกขา้ วสาลใี นฤดหู นาว
3. ออ้ ย เปน็ พชื พืน้ เมอื งของเอเชยี ใต้ ปัจจบุ ันสว่ นมากจะปลูกในไรข่ นาดใหญ่ ปลกู ไดใ้ น
เขตร้อนและเขตอบอุน่ ค่อนข้างรอ้ น แหลง่ ปลกู อ้อยทสี่ าคัญ เช่น บรเิ วณลุ่มแมน่ ้าคงคา
ฟลิ ปิ ปินส์ ไตห้ วนั ไทย คิวบา
4. ขา้ วโพด แหลง่ ปลูกท่ีสาคญั เชน่ สหรัฐอเมรกิ าในเขตพ้นื ที่ทเ่ี รยี กว่า Corn Belt
เนอื่ งจาก ดนิ ในบรเิ วณดังกลา่ วมีความอดุ มสมบรู ณ์ค่อนข้างมาก มีอากาศอนุ่ และปริมาณ
ฝนที่เหมาะสมในช่วงเพาะปลกู โดยสว่ นมากนาไปใช้เล้ียงสตั ว์
5. ยางพารา เป็นพชื เขตร้อนชื้น ปลูกไดด้ ีบรเิ วณเนินเขา หรอื ทรี่ าบทม่ี ดี นิ รว่ นและระบาย
นา้ ไดด้ ี พ้ืนทป่ี ลกู ยางพาราสว่ นใหญเ่ อเชียตะวันออกเฉยี งใต้ จนี อนิ เดยี และศรีลังกา
6. ปาล์มน้ามนั เปน็ พืชในเขตร้อนชืน้ แถบศูนย์สูตร ข้ึนไดด้ ใี นเขตทีม่ ีฝนตกชุกสม่าเสมอตลอด
ปี มีความชืน้ สูงและแสงแดดจัด ปลกู ได้ดใี นดนิ ร่วนเหนียวถึงดนิ เหนียว อุ้มน้าได้ดี มีธาตุ
อาหารสูง แหลง่ ปลูกปาล์มน้ามันสาคญั เช่น มาเลเซีย อินโดนเี ซีย ไนจเี รีย ภาคใตข้ องไทย
7. ฝ้าย ปลูกได้ในเขตร้อนชนื้ และเขตอบอุน่ ตอ้ งการอณุ หภมู สิ งู แหลง่ เพาะปลูกสาคัญ
เช่น สหรัฐอเมริกาในเขตพื้นทที่ ี่เรยี กวา่ Cotton Belt
8. ชา เป็นพชื ท่ีปลกู ตามแนวเขาในเขตรอ้ นช้นื และเขตอบอุน่ แหล่งเพาะปลูกสาคัญ เชน่
ประเทศอนิ เดยี ในประเทศจีนปลกู ไดม้ ากท่ีสุดในโลก
9. กาแฟ ปลูกไดใ้ นเขตรอ้ น ไมช่ อบน้าขัง แหลง่ เพาปลกู สาคญั เชน่ ประเทศบราซิล ดนิ ที่
เหมาะแกก่ ารปลกู กาแฟ คอื ดนิ ท่ีเกิดจากหนิ ภูเขาไฟท่มี ีรพู รนุ และมแี ร่ธาตุอุดมสมบูรณ์
10. ไมผ้ ล ผลไมป้ ลูกได้ดใี นเขตภูมอิ ากาศแบบอบอนุ่ และแบบชมุ่ ชนื้ โดยเฉพาะในเขต
ภูมิอากาศแบบเมดิเตอรเ์ นยี นซ่งึ มีอากาศคอ่ นขา้ งรอ้ นแหง้ มีแสงแดดจัดในฤดูรอ้ น ในฤดู
หนาวอากาศอบอุ่นและมีฝนตกคอ่ นขา้ งชกุ ดนิ แดนในแถบเมดิเตอร์เรเนียนได้ช่อื วา่ เปน็
“ดนิ แดนสวนผลไมข้ องโลก” (orchard lands of the world)
11. โคนม สว่ นมากเลี้ยงในไรน่ าผสม เขตเล้ยี งโคนมและผลติ อาหารจากนมโคท่สี าคญั เช่น
ทวปี อเมริกาเหนอื เพราะบริเวณน้เี ปน็ เขตทม่ี ีความช้นื เพยี งพอทาให้หญ้าอุดมสมบูรณ์ ในฤดู
ร้อนอากาศไมร่ ้อนมาก ทาใหโ้ คทเ่ี ล้ยี งมคี ุณภาพดมี าก ทุง่ หญ้าในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อุดมสมบรู ณ์มีคุณค่าทางอาหาร ทาให้นมโคมคี ุณภาพดที ีส่ ดุ แห่งหนึ่งในโลก
12. โคเนื้อ สว่ นมากใช้เนอื้ เปน็ อาหาร หนังใช้ฟอกทาเคร่อื งใช้ตา่ งๆ ใช้แรงงานและใชเ้ ปน็
สัตวบ์ รรทุก
13. ประมงน้าเคม็ เปน็ การประมงในเขตนา้ ตนื้ ใกลช้ ายฝง่ั หรืออาจเปน็ การประมงในเขต
ทะเลหลวง การประมงของแตล่ ะภูมิภาคขึ้นอยู่กับสภาพทางภมู ิศาสตร์และเศรษฐกจิ ทส่ี าคัญ
เขตประมงสาคญั ของโลก สว่ นใหญ่อยู่นอกเขตร้อนและอยู่ในซกี โลกทางเหนอื เพราะทะเลใน
เขตรอ้ นมีจานวนปลาน้อย เน่อื งจากแพลงกต์ อนทีเ่ ปน็ อาหารปลามหี นาแนน่ ในเขตท่ีมีน้าเยน็
เกษตรกรรมในประเทศไทย
ประเทศไทยมพี ืนทท่ี ่ีเหมาะแกก่ ารเพาะปลกู พชื เศรษฐกิจที่ปลูกมที งั พืชทใ่ี ชเ้ ปน็ อาหาร ใชเ้ ปน็
วตั ถุดิบในโรงงานอตุ สาหกรรม และสง่ เปน็ สนิ ค้าออกทส่ี า้ คัญ
ขา้ วเจ้า เป็นพชื เศรษฐกจิ ที่สาคัญของ
ไทย มีพื้นท่ีเพาะปลูกมากกว่าพืชชนิด
อ่ืนๆขึ้นได้ดีในดินเหนียวและดินร่วนปน
เหนียว ปลูกมากในที่ลุ่มภาคกลางและ
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ
ข้าวโพด ปลูกได้ดีในทุกภาค แต่
ส่ ว น ม า ก ป ลู ก ใ น ภ า ค เ ห นื อ แ ล ะ ภ า ค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ผลผลิตนาไปใช้เป็น
วัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมทา
แป้งขา้ วโพด
มันสาปะหลัง ขึ้นได้ในสภาพดินฟ้า
อากาศหลายชนิด แม้แต่สภาพอากาศแห้ง
แล้ง เน้ือดินมีต้ังแต่ดินร่วนปนทรายถึงดิน
ทราย ปลูกมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และภาคตะวนั ออก
อ้อย ปลูกทุกภาค ยกเว้นภาคใต้มีการ
ปลูกน้อย เจริญเติบโตได้ดีบริเวณท่ีดอนน้า
ไม่ขัง ดินร่วนซุย และแสงแดดจัด เป็น
วัตถุดิบสาคัญในอุตสาหกรรมผลิตน้าตาล
และพลังงานทดแทน
ยางพารา เจริญเติบโตได้ดีบริเวณท่ีมี
ความช้ืน ฝนตกชุก ปลูกได้ท่ัวไปในภาคใต้
และภาคตะวันออก ปัจจุบันสามารถพัฒนา
พนั ธแ์ุ ละปลูกไดใ้ นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ปาล์มนามัน เจริญเติบโตได้ดีในอากาศ
รอ้ นชืน้ ฝนตกชุก ปลูกได้ดีในบริเวณภาคใต้
ของไทย
อตุ สาหกรรมการผลติ
อตุ สาหกรรม หมายความถึง เทคนิคในการผลติ ที่เป็นกระบวนการเปล่ียนแปลงหรอื แปร
รปู วัตถดุ ิบเป็นผลผลติ ในรปู แบบต่างๆ เปน็ กระบวนการที่อาศยั เครื่องจกั รและวิธกี ารท่ี
ทนั สมยั เป็นกลไกส้าคญั อตุ สาหกรรมมีหลายประเภทกระจายตัวอย่ตู ามภูมภิ าคต่างๆของโลก
ปัจจยั กาหนดทตี่ งั้ ของอุตสาหกรรม
การเลือกท่ตี งั โรงงานอุตสาหกรรมท่เี หมาะสมท่ีสดุ า้ หรบั การดา้ เนนิ การมีปจั จยั ส้าคญั ดังนี
1. ที่ดิน เป็นสถานทตี่ ้งั ในการประกอบ
ธุรกิจอุตสาหกรรม ประเดน็ ที่นามา
พิจารณา คอื ราคาท่ีดนิ และขนาด
ของพนื้ ที่ โรงงานส่วนมากจะตัง้ หา่ ง
จากเมอื งออกไปอยตู่ ามชานเมืองหรอื
ชนบท
ปัจจัยกาหนดท่ตี ั้งของอุตสาหกรรม (ต่อ)
2. วตั ถดุ บิ อุตสาหกรรมบางประเภท
ตง้ั อยู่ใกล้แหลง่ วตั ถดุ บิ โดยตรง เพอื่
ประหยัดค่าขนส่งในปริมาณมาก เชน่
การถลุงเหล็ก โรงงานแปรรปู ไม้
ปัจจยั กาหนดท่ีตัง้ ของอตุ สาหกรรม (ตอ่ )
3. แรงงาน ความสาคญั ของแรงงานอยูท่ ่จี านวน
คุณภาพ และคา่ จ้างแรงงาน เชน่ การผลติ ใน
อตุ สาหกรรมทตี่ อ้ งใช้ทักษะความชานาญ ผ้ผู ลติ มักตัง้
โรงงานในเขตท่มี ีแรงงานประเภทท่ีต้องการ นอกจาก
คณุ ภาพของแรงงานแลว้ ค่าแรงยังมีผลต่อทต่ี ั้ง
อุตสาหกรรมด้วย เพราะเม่อื แรงงานมีราคาถกู ทาให้
ต้นทนุ ต่าสามารถแขง่ ขันกบั สนิ ค้าประเภทอืน่ ๆได้
ปจั จัยกาหนดทต่ี ้ังของอตุ สาหกรรม (ตอ่ )
4. การขนสง่ เสน้ ทางขนส่งท่ีมเี สน้ ทางติดต่อกนั
หลายสายและมีค่าบรกิ ารทไี่ มส่ ูงเป็นปจั จัยสาคัญ
ในการกาหนดท่ีตงั้ อตุ สาหกรรม โดยเฉพาะการ
ขนสง่ ทางนา้ ที่เหมาะสาหรับสง่ สินคา้ ทมี่ ีน้าหนัก
และปรมิ าณมาก เพราะคา่ ขนส่งถูกเมอ่ื เทยี บกบั
การขนส่งทางอ่นื
ปจั จยั กาหนดทต่ี ้งั ของอตุ สาหกรรม (ตอ่ )
5. ตลาด หมายถึง ผบู้ ริโภคสนิ คา้ ซ่ึงไดแ้ ก่
ประชาชนทว่ั ไป รวมถงึ ธุรกิจตา่ งๆท้ังในภาค
เกษตรและอุตสาหกรรม
อตุ สาหกรรมท่สี าคญั
1. อตุ สาหกรรมเหล็กและเหลก็ กลา้
เปน็ อุตสาหกรรมซ่ึงเป็นรากฐานสาคัญของสังคม
สมัยใหม่ แหล่งผลิตเหล็กและเหล็กกล้าของโลก
เช่น สหรัฐอเมริกา รัสเซีย เยอรมนี จีน ญี่ปุ่น
เป็นตน้
2. อตุ สาหกรรมผลิตรถยนต์
สหรัฐอเมริกามีการใช้รถยนต์มากท่ีสุด เพราะ
ประชากรมีมากข้ึน ทาให้มีการใช้รถยนต์ในการ
คมนาคมขนส่ง ประกอบกับรายได้ของประชากรมี
มาก แหล่งผลิตรถยนต์ที่สาคัญของสหรัฐอเมริกา
อยู่ท่ีเมอื งดิทรอยต์ รฐั มิชแิ กน
3. อุตสาหกรรมต่อเรือ
เป็นอุตสาหกรรมเคร่ืองจักรกลท่ีสาคัญ ข้ึนอยู่
กับแหล่งผลิตเหล็กกล้า เพราะต้องใช้เหล็ก
จานวนมาก การสร้างเรือมีในบริเวณปากน้า
กว้าง หรือริมฝั่งทะเลที่อยู่ใกล้แหล่งผลิต
เหล็กกล้า อุตสาหกรรมต่อเรือกระจายกันอยู่
ในประเทศท่ีมีการคมนาคมขนส่งทางน้า และ
มีประสบการณ์ในด้านเทคนิคการต่อเรือมา
เปน็ เวลานาน
4. อตุ สาหกรรมผลิตเคร่อื งบนิ
ในอตุ สาหกรรมการผลิตเคร่อื งบนิ ตอ้ งมกี ระบวนการ
ในการผลิตช้ินส่วนเฉพาะอย่าง เป็นอุตสาหกรรมท่ี
ต้องลงทุนมาก แต่การผลิตทาได้จานวนน้อย
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ผลิตเคร่ืองบินได้มาก
ท่ีสุด ที่ตั้งของโรงงานส่วนมากอยู่ทางตะวันตกของ
ประเทศ เพราะมีอากาศอบอุ่นและแห้งไม่ต้องกงั วล
เร่ืองฝนหรือสนิม และอากาศท่ีปลอดโปร่งทาให้
สามารถทดลองบนิ ไดต้ ลอดเวลา
5. อุตสาหกรรมอิเลก็ ทรอนิกส์
เป็นอุตสาหกรรมท่ีมีความต่อเน่ืองกันใน
กระบวนการผลิตและเป็นอุตสาหกรรมที่มี
ความเชื่อมโยงกับการผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ
เช่น โทรทัศน์ วิทยุ เคร่ืองปรับอากาศ
อุปกรณ์ส่อื สาร คอมพิวเตอร์
6. อุตสาหกรรมปโิ ตรเคมี
อตุ สาหกรรมปโิ ตรเคมมี ปี โิ ตเลยี มเป็นวตั ถุดิบหลัก
ในการผลิต ใช้เป็นวัตถุดิบต้ังต้นในโรงงาน
อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก ใยสังเคราะห์ ยาง
สังเคราะห์ สารเคลือบผิว และกาวต่างๆ
ผลิตภัณฑ์เหล่าน้ีเป็นวัตถุดิบพ้ืนฐานที่สาคัญใน
การผลิตเคร่ืองอุปโภคบริโภค ประเทศจีนเป็นท้ัง
ผู้ผลิตและผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีรายใหญ่
ท่สี ุดของโลก
7. อตุ สาหกรรมแปรรูปอาหาร
เป็นอุตสาหกรรมที่นาผลิตผลทางการเกษตรมา
ผ่านกระบวนการแปรรูป เพ่ือให้ง่ายต่อการนาไป
บริโภค ในสมัยก่อนเกษตรกรจะเป็นผู้แปรรูป
อาหารเอง แต่ในปัจจุบันมีการจัดการท่ีเป็นระบบ
อตุ สาหกรรมมากขึ้น
อุตสาหกรรมในประเทศไทย
ประเทศไทยมีการพฒั นาอตุ สาหกรรมมาอยา่ งต่อเนอื่ ง เรม่ิ จากอุตสาหกรรมเบาเพ่อื
ทดแทนการนา้ เข้า ต่อมาได้พฒั นาอตุ สาหกรรมหนักท่ีเน้นการผลติ เพ่อื การสง่ ออก
1. อุตสาหกรรมเครื่องจกั รกล
เป็นอีกหน่ึงในภาคอุตสาหกรรมไทย
ที่เจริญเติบโตจากความได้เปรียบ
ทางการค้าในด้านแรงงาน และ
ระบบขนส่งของประเทศ ประเภท
ของเครื่องจักรกลหลักๆ ได้แก่
เคร่ืองแม่พิมพ์ เคร่ืองผลิตกระดาษ
และสิ่งพมิ พ์
2. อตุ สาหกรรมยานยนตแ์ ละส่วนประกอบ
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ใน
ตลาดอาเซียน โดยประเทศไทยส่งออกรถยนต์
ทางเรือไปยัง 130 ประเทศท่วั โลก การผลิตและ
ประกอบยานยนตไ์ ม่เพียงแตเ่ ปน็ สว่ นประกอบท่ี
สาคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย
เท่านั้น แต่บริษัทรถยนต์จากต่างประเทศยัง
ลงทุนด้านสิ่งอานวยความสะดวก เพื่อวิจัยและ
พัฒนารวมทง้ั ดา้ นเทคนคิ อกี ด้วย
3. อตุ สาหกรรมเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ และ
อเิ ล็กทรอนิกส์
เป็นประเทศไทยเป็นฐานการผลิตท่ีสาคัญของบริษัท
ข้ามชาติ โดยเฉพาะประเทศญ่ีปุ่นและเกาหลีใต้
ประเทศไทยมศี ักยภาพในด้านปัจจัยการผลิตท้ังด้าน
ทรัพยากรมนุษย์ ทรัพยากรความรู้ มีการพัฒนา
ผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น อีกทั้ง
ทางด้านภูมิศาสตร์ยังมีความได้เปรียบเชิงการค้าใน
ภูมิภาคอินโดจีน และมีศักยภาพในการเป็น
ศูนย์กลางของภูมภิ าค
4. อตุ สาหกรรมปโิ ตรเคมี
ประเทศไทยได้ขุดพบแกส๊ ธรรมชาติใน
อ่าวไทย อุตสาหกรรมปิโตรเคมีของ
ไทยใช้แก๊สธรรมชาติเป็นวัตถุดิบใน
การผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ผู้ผลิตปิ
โตรเคมีรายใหญ่ในไทยมี 2 กลุ่ม คือ
ก า ร ปิ โ ต ร เ ลี ย ม แ ห่ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย
(ปตท.) และกลุ่มซเี มนต์ไทย
5. อุตสาหกรรมสง่ิ ทอ
ในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
เส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์ ส่วน
ใหญ่จะเป็นการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ มี
ลักษณะเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีกาลังการ
ผลิตสูง อาศัยเทคโนโลยีในการผลิต ใช้เงิน
ลงทุนค่อนข้างมาก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่
เป็นบรรษัทขา้ มชาติหรือเป็นการลงทุนร่วมกัน
ระหว่างผ้ปู ระกอบการไทยและชาวต่างชาติ
6. อตุ สาหกรรมแปรรูปอาหาร
มีทง้ั การผลิตเพ่ือบริโภคภายในประเทศ และ
เพ่ือการส่งออก เป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้า
อาหารท่ีมีคุณภาพ เน่ืองจากมีความพร้อม
ทางด้านวัตถุดิบ รวมถึงศักยภาพของ
ผู้ประกอบการที่สามารถพัฒนาคุณภาพและ
รูปแบบของสินค้าให้ตรงตามความต้องการ
ของตลาดได้ ทาให้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออก
อาหารแปรรปู เปน็ อันดับตน้ ๆของโลก