หน่วยท่ี 2
อปุ สงค์ อปุ ทาน
และภาวะดลุ ยภาพของตลาด
ครูจีรศกั ด์ิ หมุนขำ
อปุ สงค์ (Demand)
2.1 ความหมายของอุปสงค์
“จานวนสินคา้ และบริการชนิดใดชนิดหนึ่งที่ผูบ้ ริโภค
ตอ้ งการซ้ ือภายในระยะเวลาที่กาหนดให้ ณ ระดับราคาต่าง ๆ
กันของสินค้าชนิดน้ัน หรือ ณ ระดับรายได้ต่าง ๆ กันของ
ผู้บริโภค หรือ ณ ระดับราคาต่าง ๆ กันของสินค้าชนิดอื่นที่
เกีย่ วขอ้ ง”
2.2 ชนิดของอุปสงค์
2.2.1 อุปสงค์ต่อราคา (price demand) หมายถึง จานวนสินค้าท่ีมีผู้
ต้องการ ณ ระดับราคาต่าง ๆ ของสินค้าชนิดน้ัน โดยกาหนดให้
ปัจจัยอน่ื ๆ อยู่คงทไี่ ม่เปลย่ี นแปลง
2.2.2 อุปสงค์ต่อรายได้ (income demand) หมายถึง จานวนสินค้า
และบริการที่ผู้บริโภคต้องการซื้อ ณ ระดับรายได้ต่าง ๆ
กันของผู้บริโภค ในระยะเวลาที่กาหนดให้ โดยกาหนดให้
ปัจจยั อนื่ ๆ อยู่คงทไี่ ม่เปลยี่ นแปลง
2.2.3 อุปสงค์ต่อราคาสินค้าชนิดอ่ืน (cross demand) หมายถึง
จานวนสินค้าและบริการท่ีมีผู้บริโภคต้องการซื้อ ณ ระดับ
ราคาต่าง ๆ ของสินค้าชนิดอื่นท่ีเกี่ยวข้องกัน ภายในระยะ
เวลาทก่ี าหนด โดยกาหนดให้ปัจจยั อนื่ อยู่คงทไ่ี ม่เปลย่ี นแปลง
2.3 ปัจจยั ทเี่ ป็ นตวั กาหนดอปุ สงคแ์ ละฟังกช์ นั อุปสงค์
(Demand Determinants and Demand Function)
2.3.1 ปัจจยั ท่เี ป็ นตวั กาหนดอปุ สงค์
1) ระดับราคาสินค้าชนิดน้ัน ๆ ในตลาด (price : Px) ด้วยเหตุท่ี
ผู้บริโภคมีรายได้จากัด การท่ีราคาสินค้าชนิดหนึ่งสูงขึ้น
จะทาให้ ผู้บริ โภคบางคนใช้ สิ นค้ าชนิดอื่นซึ่ งราคายังคงที่
ทดแทนจานวนซื้อสินค้าและบริการชนิดน้ันก็จะลดลง ใน
ทางตรงข้าม ถ้าราคาสินค้าและบริการชนิดหน่ึงลดลง
ผู้บริโภคกจ็ ะซื้อสินค้าและบริการชนิดน้ันมากขนึ้
2) ระดับรายได้เฉลยี่ ของผู้บริโภค (Income : I) โดยทัว่ ไปเม่ือ
รายได้เฉล่ียของผู้บริโภคสูงขึ้น ทาให้การซื้อสินค้าและ
บริการชนิดหน่ึง ๆ เปลี่ยนแปลงไป โดยจะเปลย่ี นแปลงไปใน
ทิศทางเดียวกัน ในกรณีท่ีเป็ นสินค้าปกติ (normal goods)
และสินค้าฟ่ ุมเฟื อย (luxury goods) แต่จะเปลยี่ นแปลงไปใน
ทิศทางตรงกันข้ามกันในกรณีท่ีเป็ นสินค้าด้อยคุณภาพ
(inferior goods)
3) การเปลยี่ นแปลงระดบั ราคาสินค้าและบริการชนิดอนื่ ทเี่ กยี่ วข้อง
(1) สินค้าท่ีใช้ทดแทนกัน (substitute) การเปลี่ยนแปลงของ
ระดับราคาสินค้าประเภทนี้จะทาให้จานวนซื้อสินค้าเดิม
(Qx) เปลย่ี นแปลงไปในทศิ ทางเดยี วกนั
(2) สินค้าทใี่ ช้ประกอบกนั (complement) การเปลย่ี นแปลงของ
ระดับราคาสินค้าประเภทนี้ย่อมทาให้จานวนซื้อสินค้าเดิม
(Qx) เปลยี่ นแปลงไปในทางตรงกนั ข้าม
4) ขนาดของประชากรท้งั หมด (population size : Pz)
เมื่อประชากรเพิ่มขึ้นความต้องการสินค้าและบริการจะสูงขึ้น
ด้วย
5) การกระจายรายได้ระหว่างครัวเรือน (income distribution
between household : Di) ประเทศที่มีการกระจายได้ท่ีเลว (มี
ความเหลื่อมลา้ กนั มาก) จานวนซื้อสินค้าและบริการบางชนิด
(สินค้าสาหรับผู้ท่ีมีรายได้สูง) จะสูงขึ้น ในขณะท่ีจานวนซื้อ
สินค้าและบริการบางชนิด (สินค้าสาหรับผู้ที่มีรายได้ต่า) จะ
ลดลง
6) รสนิยมหรือความพอใจของผู้บริโภค (taste : T)
7) ดินฟ้ าอากาศหรือฤดูกาล (seasonal : S)
2.3.2 ฟังกช์ นั อุปสงค์ (Demand Function)
Qxd f Px, I, Py, Pz, Di, T, S
ฟังก์ชันอุปสงค์ข้างต้น แปลความหมายได้ว่า จานวน
ซื้อสินค้า X Qdx ขึน้ อยู่กบั ราคาของสินค้า X(Px) ระดับ
รายได้เฉลย่ี ของผู้บริโภค (I) ระดับราคาสินค้าและบริการชนิด
อน่ื ทเ่ี กยี่ วข้องกนั (Py) ขนาดของประชากรท้ังหมด (Pz) การ
กระจายรายได้ของครัวเรือน (Di) รสนิยมหรือความพอใจของ
ผู้บริโภค (T) และดนิ ฟ้ าอากาศหรือฤดูกาล (S)
อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาอุปสงค์ จะให้ความสาคัญ
เฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างจานวนซื้อสินค้าและบริการกับ
ราคาเท่าน้ัน ซึ่งสามารถแสดงความสัมพนั ธ์ ได้ดงั นี้
สูตร Qxd f(Px )
ชนิดหน่ึง หมายความว่า จานวนซื้อสินค้าและบริการชนิดใดQd
x ขึน้ อยู่กบั ราคาของสินค้าและบริการชนิด
น้ัน (Px) โดยทป่ี ัจจัยอนื่ ๆ ถูกกาหนดให้คงท่ี
2.4 กฎของอปุ สงค์ (Law of Demand)
“ ถ้าส่ิงอื่น ๆ อยู่คงที่ จานวนซื้อสินค้าและบริการ
ชนิดใดชนิดหนึ่งย่อมเปล่ียนแปลงในทิศทางตรงกันข้าม
กบั ราคาของสินค้าและบริการชนิดน้ันเสมอ ” คากล่าวนีค้ อื
“ กฎอปุ สงค์ ” (low of demand)
ถ้า Px Q d
x
และถ้า Px Q d
x
สาเหตุท่ีทาให้จานวนซื้อสินค้าและบริการกับราคา มี
ความสัมพนั ธ์ตรงกนั ข้ามกนั เสมอ ด้วยผล 2 ประการ คอื
2.4.1 ผลทางการทดแทน (substitute effect) เม่ือราคา
สินค้าชนิดหน่ึงลดลง สินค้าชนิดน้ันจะกลายเป็ นสินค้าท่ีมี
ราคาถูกลงเมอ่ื เปรียบเทยี บกบั สินค้าทใี่ ช้ทดแทนอนื่
2.4.2 ผลทางรายได้ (income effect) เมื่อราคาสินค้า
ลดลง ผู้บริโภคจะมีความรู้สึกว่าตัวเองมีรายได้เพิ่มขึน้ ท้ัง ๆ
ทร่ี ายได้ท่ีเป็ นตัวเงนิ ไม่ได้เพม่ิ ขนึ้
2.5 ตารางอปุ สงคแ์ ละเสน้ อปุ สงค์
(Demand Schedule and Demand Curve)
ตารางอปุ สงค์ มีอยู่ 2 ประเภท คอื
1) ตารางอุปสงค์เฉพาะบุคคล (individual demand schedule)
เป็ นชุดตัวเลขท่ีแสดงให้ทราบถึงจานวนซื้อสินค้าและบริการ
ชนิดใดชนิดหนึ่งของคนใดคนหนึ่ง ณ ระดับราคาต่าง ๆ กัน
ในระยะเวลาท่ีกาหนดให้
ตารางท่ี 2.1 ตารางอปุ สงค์ในการซื้อสมุดของนาย ก.
ราคา (บาท/เล่ม) จานวนซื้อสมุดของนาย ก. (เล่ม/เดอื น)
3 6
6 4
9 2
15 0
จากตัวเลขท้ังหมดในตาราง เราสามารถแสดงเป็ น
รูปกราฟได้ด้วยการหาจุดต่าง ๆ แต่ละจุดแทนด้วยราคาสินค้า
ระดับหนึ่งกับจานวนซื้อสิ นค้ าที่ตรงคู่กันเมื่อลากเส้ นเช่ื อมจุด
ต่าง ๆ จะได้เส้นอุปสงค์เฉพาะบุคคล (individual demand
curve) ซ่ึงเป็ นเส้นทลี่ าดลงจากซ้ายไปขวา และจากบนลงล่าง
เส้นอปุ สงค์ในการซือ้ สมดุ ของ นาย ก
เส้ นอุปสงค์เฉพาะบุคคล
2) ตารางอปุ สงค์รวมหรือตารางอปุ สงค์ของตลาด
(Total Demand Schedule or Market Demand Schedule)
เป็ นชุดของตัวเลขที่แสดงให้ทราบถึงจานวนซื้อสินค้า
และบริการของตลาด ณ ระดับราคาต่าง ๆ กนั ในระยะเวลา
ใดเวลาหน่ึง การหาจานวนซื้อของตลาดทาได้โดยรวม
จานวนซื้อของบุคคลท้ังหมดในตลาด ณ ระดับราคาต่าง ๆ
ภายในระยะเวลาท่ีกาหนดให้
ตารางที่ 2.2 ตารางอปุ สงค์ในการซื้อสมุดของตลาด
ราคา จานวนซื้อสมุด (เล่ม/เดอื น) จานวนซื้อสมุดท้งั หมด
(บาท/เล่ม) นาย ก. นาย ข. นาย ค. (เล่ม/เดอื น)
3 6 8 10 24
646 8 18
92 4 6 12
15 0 3 5 8
จากตัวเลขท้ังหมดในตาราง เราสามารถแสดงเส้ น
อุปสงค์ของแต่ละบุคคล (ก. ข. และ ค.) เส้นอุปสงค์รวมหรือ
เส้นอปุ สงค์ของตลาด หรือของท้งั 3 คนรวมกนั (total demand
curve or market demand curve)
เส้นอุปสงค์ของนาย ก. เส้นอปุ สงค์ของนาย ข. เส้นอปุ สงค์ของนาย ค. เส้นอปุ สงค์ของตลาด
2.6 ความแตกต่างระหว่างการเปลย่ี นแปลง
จานวนซ้อื และการเปลย่ี นแปลงของอปุ สงค์
2.6.1 การเปลยี่ นแปลงจานวนซื้อ (change in the quantity
demanded) หมายถึง จานวนซื้อสินค้าและบริการชนิด
ใดชนิดหน่ึงเปลย่ี นไป เน่ืองจากราคาของสินค้าชนิดน้ัน
เปลี่ยนแปลงโดยที่ปัจจัยกาหนดอุปสงค์อ่ืนท้ัง 6 ตัว
อยู่คงที่ ในกรณีเช่นนี้เส้นอุปสงค์จะไม่เปล่ียนแปลงแต่
เป็ นเพียงเคล่ือนย้ายไปตามเส้นอุปสงค์ (move along
curve) เส้นเดิม น่ันคอื
การเพิ่มขึ้นของจานวนซื้อจะหมายถึงการเคลื่อนย้ายลงมา
ตามเส้นอุปสงค์อนั เน่ืองมาจากราคาลดลง ในทางตรงกนั ข้าม
การลดลงของจานวนซื้อจะหมายถึงการเคลอ่ื นย้ายขึน้ ไปตาม
เส้นอุปสงค์อนั เน่ืองจากราคาสูงขนึ้
ราคาสูงขนึ้ ทาให้จานวนซือ้
ลดลง โดยมกี ารย้ายจุดบน
เส้น DD (จาก A ไป B)
ราคาลดลงทาให้จานวนซื้อ
เพม่ิ ขนึ้ โดยมกี ารย้ายจุด
บนเส้น DD (จาก Aไป C)
2.6.2 การเปลีย่ นแปลงอุปสงค์ (change in demand) หมายถึง
การที่ปัจจัยกาหนดอุปสงค์อ่ืนๆ เช่น ระดับรายได้เฉลี่ยของ
ครัวเรือน การเปลย่ี นแปลงระดับราคาสินค้าและบริการชนิด
อ่ืนท่ีเก่ยี วข้องกนั ขนาดของประชากรท้ังหมด การกระจาย
รายได้ ความนิยมของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าและบริการน้ัน
และฤดูกาลหรือเทศกาลท่ีต้องการใช้สินค้าและบริการน้ัน ๆ
ตัวใดตัวหนึ่งหรือหลายตัวในจานวนนี้ได้เปล่ียนแปลงไป
และมีผลให้จานวนซื้อเพม่ิ ขึน้ หรือลดลง ท้ัง ๆ ที่ระดับราคา
สินค้ายงั คงเดิม
ในกรณีเช่ นนี้จะทาให้ มีการเคลื่อนย้ ายของเส้ น อุปสงค์ ท้ังเส้ น
(shift in demand curve) ซึ่งแตกต่างจากการเปล่ียนแปลง
จานวนซื้อ เพราะน่ันเป็ นเพียงการเคลื่อนย้ายไปตามเส้ น
อุปสงค์เส้นเดมิ (move along curve) หากปัจจัยอนื่ ๆ (นอกจาก
ราคาสินค้า) เปลย่ี นแปลงไป ในทางท่ีมีผลให้จานวนซื้อเพม่ิ ขึน้
เส้นอุปสงค์ก็จะเปล่ียนแปลงไปทางขวามือ ในทางตรงกันข้าม
ถ้าเปลย่ี นแปลงไปในทางทมี่ ีผลให้จานวนซื้อลดลง เส้นอุปสงค์
กจ็ ะเปลย่ี นแปลงไปทางซ้ายมือ
ตารางที่ 2.3 การเปลย่ี นแปลงอปุ สงค์สาหรับเสื้อกบั ระดบั รายได้เฉลย่ี ของนายดา
ราคา จานวนซื้อเสื้อ(ตวั /เดอื น) ของนายดาท่ีมรี ายได้เฉลยี่ ต่อเดอื น
(บาท/ตวั )
รายได้ 5,000 บาท/เดอื น รายได้ 8,000 บาท/เดอื น
100
150 (D) (D1 )
200
45
34
23
เราสามารถสรุปได้ว่า เส้ นอุปสงค์จะเปลี่ยนแปลงไป
ทางขวามือน้ันเป็ นผลมาจากการท่ีรายได้เฉล่ียของผู้บริโภค
สูงขึน้ ( I ) สินค้าทใ่ี ช้ทดแทนกนั มีราคาสูงขึน้ (Ps ) สินค้า
ท่ีใช้ประกอบกันมีราคาลดลง (Pc) ประชากรมีขนาดเพ่ิมขึน้
Pz การกระจายรายได้ของประชากรมีความเท่าเทียมกัน
มากขึน้ D1ดีข้ึน สินค้าและบริการน้ันได้รับความนิยมมาก
ขึน้ (I) และสินค้าน้ันอยู่ในฤดูกาล ( S ในฤดูกาล) ท่ีคน
ต้องการใช้ กรณใี ดกรณหี นึ่งหรือหลายกรณรี ่วมกนั
เส้นอุปสงค์ DD จะเปลย่ี นไปทางขวามอื
เป็ นเส้น D1 D1 เมอื่
„ I „ sP (Pc ) „ Pz
„ Di ดขี นึ้ „ T
„ S (ในฤดูกาล)
ในทางตรงกันข้ามเส้ นอุปสงค์จะเปลี่ยนแปลงไป
ทางซ้ายมือเป็ นผลมาจากการที่รายได้เฉล่ียของผู้บริโภคลด
ลทงใ่ี ช้ป(รIะก)อสบินกคนั ้ามทรี ใ่ี าชค้ทาดสูแงขทึน้นกนั PมcีราคาลปดรละงชาPกsรมขี นาสดินเลคก็้า
ลกนงนั ิยมมาขกPอขz งึน้ ปร กะชารDากกiรรเะลจ(วาIลยร)งาแยลไะดส้ขสิ นิอนงคคค้ ้าารแแัวลลเะะรบืบอรนริกิ กมาาีครรวนนา้ันม้ันไแอมตย่ เกปู่น็ตนอ่าทกงี่
ฤดูกาลที่มีคนต้องการใช้ ( S นอกฤดูกาล) กรณีใดกรณีหน่ึง
หรือหลายกรณรี วมกนั
P
เส้นอุปสงค์ DD จะเปลยี่ นไปทางซ้ายมอื
เป็ นเส้น D2 D2 เมอ่ื
„ I „ Ps (Pc ) „ Pz
„ Di เลวลง „ T „ S (ในฤดูกาล)
อุปทาน (Supply)
2.7 ความหมายของอปุ ทาน
อุปทาน (supply) หมายถึง “จานวนสินค้าและบริการ
ชนิดใดชนิดหนึ่งท่ีธุรกิจจะนาออกขายในตลาดแห่งหน่ึง ณ
ระดบั ราคาต่าง ๆ กนั ในระยะเวลาท่ีกาหนดให้”
2.8 ปัจจยั ทเ่ี ป็ นตวั กาหนดอปุ ทานและฟังก์ชนั
อปุ ทาน (Supply Determinants and Supply
Function)
2.8.1 ปัจจยั กาหนดอุปทาน (supply determinants)
1) ระดบั ราคาสินค้าในตลาด (price : Px)
2) จุดมุ่งหมายของธุรกจิ (objective : O)
3) สภาพเทคโนโลยี (technology : t)
4) ต้นทุนการผลติ (cost : C)
5) การเปลยี่ นแปลงในระดบั ราคาของสินค้าและบริการอนื่ ๆ
(changing in the price of other related goods : Py)
6) ดนิ ฟ้ าอากาศหรือฤดูกาล (season : S)
2.8.2 ฟังก์ชนั อปุ ทาน (Supply Function)
Q s f Px, O, T, C, Py, S
x
ฟังก์ชันอปุ ทานข้างต้นแปลความหมายได้ว่า จานวนขาย
สิ นค้ า X Qs ขึ้นอยู่กับราคาของสิ นค้ าชนิด X(Px)
x
จุดมุ่งหมายของธุรกจิ (O) สภาพเทคโนโลยี (T) ต้นทุนการผลิต
(C) การเปลี่ยนแปลงในระดับราคาของสินค้าและบริการอื่น ๆ
(Py) และดนิ ฟ้ าอากาศหรือฤดูกาล (S)
ในการศึกษาอุปทานก็จะเป็ นทานองเดียวกับอุปสงค์
นั่นคอื จะให้ความสาคัญเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างจานวน
ขายกับราคาเท่าน้ัน โดยกาหนดให้ปัจจัยอ่ืน ๆ อยู่คงที่ไม่
เปลยี่ นแปลง ซึ่งสามารถเขยี นเป็ นฟังก์ชันได้ใหม่ ดังนี้
Q s fPx
x
หมายความว่า จานวนขายสินค้าและบริการชนิดใดชนิด
ห(Pนx)ึ่งโดยQทsxป่ี ัจจยั อขน่ื ึ้นๆออยยู่กู่คับงรทาไี่ คม่าเปสลินย่ี คน้าแแปลละงบริการชนิดน้ัน
2.9 กฎของอปุ ทาน (Low of Supply)
“ถ้าสิ่งอนื่ ๆ อยู่คงที่ จานวนขายสินค้าและบริการชนิดใด
ชนิดหน่ึงเปลย่ี นแปลงไปในทศิ ทางเดียวกนั กบั ราคาของสินค้า
และบริการชนิดน้ันเสมอ”
ถ้า Px Q s
x
และถา้ Px Q s
x
2.10 ตารางอปุ ทานและเสน้ อปุ ทาน
(Supply Schedule and Supply Curve)
ตารางอุปทานมอี ยู่ 2 ประเภท คือ
2.10.1 ตารางอปุ ทานของหน่วยธุรกจิ หรือผ้ผู ลติ แต่ละราย
(individual supply schedule)
เป็ นตารางที่แสดงให้ทราบถึงจานวนขายสินค้าและบริการ
ของผู้ขายคนใดคนหน่ึง ณ ระดับราคาต่าง ๆ กันในระยะ
เวลาทกี่ าหนดให้
ตารางท่ี 2.4 ตารางอปุ ทานในการขายสมุดของโรงงาน A
ราคา (บาท/เล่ม) จานวนขายสมุด (เล่ม/เดอื น)
1 300
2 600
3 900
4 1,200
5 1,300
เส้นอปุ ทานในการขาย
สมุดของโรงงาน A
2.10.2 ตารางอุปทานรวมหรือตารางอปุ ทานของตลาด
(Total Supply Schedule or Market Supply Schedule)
เป็ นชุดของตัวเลข ท่ีแสดงให้ทราบถึงจานวนขายสินค้า
และบริการของตลาด ณ ระดับราคาต่ าง ๆ กัน ใน
ระยะเวลาใดเวลาหน่ึง ซ่ึงการหาจานวนขายของตลาดทา
ได้โดยรวมจานวนขายของ ผู้ขายท้ังหมดในตลาด ณ
ระดบั ราคาต่าง ๆ กนั ภายในระยะเวลาทีก่ าหนดให้
ตารางท่ี 2.5 ตารางอปุ ทานในการขายสมุดของตลาด (โรงงาน A และโรงงาน B)
ราคา จานวนขายสมุด (เล่ม/เดอื น) จานวนขายสมุดท้ังหมด
(บาท/เล่ม) (เล่ม/เดอื น)
โรงงาน A โรงงาน B
1 1,200
2 300 900 1,800
3 600 1,200 2,400
4 900 1,500 3,000
1,200 1,800
เส้นอุปทานของโรงงาน A เส้นอปุ ทานของโรงงาน B เส้นอปุ ทานของตลาด
2.11 ความแตกต่างระหว่างการเปลยี่ นแปลง
จานวนขายและการเปลยี่ นแปลงอุปทาน
2.11.1 การเปลยี่ นแปลงจานวนขาย (Change in the Quantity
Supplied) หมายถงึ การที่จานวนขายสินค้าและบริการ
ช นิ ด ใ ด ช นิ ด ห นึ่ ง เ ป ล่ี ย น ไ ป เ น่ื อ ง จ า ก ร า ค า สิ น ค้ า
ชนิดน้ัน ๆ เปลย่ี นแปลงโดยทป่ี ัจจยั กาหนดอุปทาน
อนื่ ๆ ท้งั 5 ตัว อยู่คงท่ี ในกรณเี ช่นนี้ เส้นอปุ ทาน
จะไม่ เปลย่ี นแปลงแต่เป็ นเพยี งการเคลอ่ื นย้ายไปตาม
เส้นอปุ ทาน (move along curve)
PS
ราคาสูงขนึ้ จะทาให้จานวนเสนอขายเพมิ่ ขนึ้
โดยมกี ารย้ายจุดบนเส้น SS (จาก Aไป B) P
ราคาลดลง จะทาให้จานวนเสนอขายลดลง
โดยมกี ารย้ายจุดบนเส้น SS (จาก A ไป C)
2.11.2 การเปลย่ี นแปลงอุปทาน (change in supply) หมายถึง การที่
ปัจจัยกาหนดอุปทานอน่ื ๆ เช่น จุดมุ่งหมายของธุรกจิ สภาพ
เทคโนโลยี ต้นทุนการผลิต การเปล่ียนแปลงในระดับราคา
ของสินค้าและบริการอนื่ และดินฟ้ าอากาศหรือฤดูกาล ตัวใด
ตัวหนึ่งหรือหลายตวั ในจานวนนีไ้ ด้เปลยี่ นแปลงไป และมผี ล
ทาให้จานวนขายเพ่มิ ขึน้ หรือลดลง ท้ัง ๆ ท่ีระดับราคาสินค้า
ยังคงเดิม ในกรณีเช่นนี้จะทาให้มีการเคลื่อนย้ายของเส้น
อุปทานท้ังเส้น (shift in supply curve) ซึ่งแตกต่างจากการ
เปลย่ี นแปลงจานวนขาย
ตารางท่ี 2.6 การเปลย่ี นแปลงอุปทานสาหรับรองเท้า กรณีท่มี กี ารใช้เทคโนโลยแี บบต่าง ๆ
จานวนขายรองเท้า (คู่/เดอื น) ในกรณที ม่ี ีการใช้เทคโนโลยแี บบต่าง ๆ
ราคา (บาท/คู่) แบบเก่า (ไม่ใช้เทคโนโลย)ี แบบปัจจุบนั ใหม่ล่าสุด
(S2 ) (S)
10 (S1)
20 50 100
30 150
40
150 200 250
200 300 350
300 400 450
เส้นอุปทาน SS จะเปลยี่ นไปทางขวามอื
เป็ นเส้น S1S 1 เมอื่
„ ต้องการยอดขาย
„ T „ C „ Py
„ S (ไม่เออื้ อานวย)
เส้นอุปทาน SS จะเปลย่ี นไปทางซ้ายมอื
เป็ นเส้น S2 S 2 เมอื่
„ ต้องการยอดขาย
„ T „ C „ Py
„ S (ไม่เออื้ อานวย)
ดงั น้ัน เราสรุปได้ว่า การเคลอื่ นย้ายอุปทานไปทางขวามือ
อาจเนื่องมาจากการเปล่ียนแปลงจุดมุ่งหมายการผลิต เช่ น
ต้องการยอดขายมาก มีการใช้เทคโนโลยีท่ีทันสมัยขึ้นกว่าเดิม
ต้นทุนการผลติ ลดลง การลดลงของราคาสินค้าและบริการชนิด
อื่น ๆ และสภาพดินฟ้ าอากาศหรือฤดูกาลอานวย กรณีใดกรณี
หน่ึงหรือหลายกรณีรวมกัน ในทางตรงกันข้าม เส้นอุปทานจะ
เปล่ียนแปลงไปทางซ้ ายมือเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลง
จุดมุ่งหมายการผลิต เช่น ต้องการขายจานวนน้อยลง มีการใช้
เทคโนโลยีน้อยลงหรือล้าสมัยกว่าเดิม ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
การเพิ่มขึน้ ของราคาของสินค้าและบริการอ่ืนและสภาพดินฟ้ า
อากาศหรือฤดูกาลไม่ เออื้ อานวย กรณีใดกรณีหน่ึงหรือหลาย
กรณรี วมกนั
2.12 การกาหนดดลุ ยภาพของตลาดโดย
อปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน
ต่อไปนีจ้ ะเป็ นการพจิ ารณาว่า อปุ สงค์ (demand) และอุปทาน
(supply) ร่วมกนั กาหนดภาวะดุลยภาพ (equilibrium)
ตารางที่ 2.7 อุปสงค์ตลาดและอุปทานตลาดของสมุด
ราคา จานวนซื้อสมุด จานวนขายสมุด อุปสงค์ส่ วนเกนิ
(บาท/เล่ม) (เล่ม /เดอื น) (D) (เล่ม/เดอื น) (S) (เล่ม/เดอื น) (D-S)
1 24 12 12
2 18 18 0
3 12 24 -12
4 6 30 -24
ภาวะดุลยภาพนี้จะดารงอยู่ได้นาน แต่ถ้าตัวกาหนด
ต่าง ๆ ของอุปสงค์และอุปทานเปลี่ยนแปลงไป ภาวะดุลยภาพก็
จะเปลย่ี นแปลงไป
2.13 การเปลยี่ นแปลงภาวะดุลยภาพ
โดยปกติ ภาวะดุลยภาพของตลาดจะดารงอยู่ได้นาน
ไม่เปล่ียนแปลงจากเดิม ตราบเท่าท่ีอุปสงค์และอุปทานยัง
ไม่เปล่ียนแปลง แต่ถ้าปัจจัยกาหนดอุปสงค์และอุปทาน
ตัวใดตัวหนึ่งหรือหลายตัว (ยกเว้นราคาของสินค้าและ
บริการชนิดน้ัน) เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมีผลทาให้เส้นอุปสงค์
หรือเส้ นอุปทานเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ย่อมทาให้ภาวะดุล
ภาพเปลยี่ นแปลงไปด้วย
2.13.1 อปุ สงค์เปลย่ี นแปลง แต่อุปทานคงท่ี
2.13.2 อปุ ทานเปลย่ี นแปลง แต่อุปสงค์คงท่ี
DS DS
2.13.3 อุปสงค์และอปุ ทานเปลยี่ นแปลงไปพร้อมกนั
กรณที ี่ 1 กรณที ี่ 2
กรณที ่ี 3 กรณที ่ี 4
กรณที ี่ 5 กรณที ี่ 6
กรณที ี่ 9 กรณที ่ี 8
กรณที ่ี 7 กรณที ่ี 10