โครงงานประดิษฐ์พัดจากกล่องนม

โครงงาน

เร่อื ง การประดษิ ฐ์พัดจากกลอ่ งนม
สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารีกีปัส

จัดทำโดย

นางสาวชนิตา ณรงค์ดนเุ ดช

โครงงานนี้เป็นส่วนหนง่ึ ของรายวิชา
การปฏบิ ัตงิ านวชิ าชีพในสถานศกึ ษา 2 รหสั วิชา (30021013)

หลกั สตู รศกึ ษาศาสตรบณั ฑิต (หลักสตู ร 5 ปี)
คณะศลิ ปศกึ ษา สาขาวิชานาฏศลิ ป์ไทยศึกษา

ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

คำนำ

รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอโครงงาน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในหัวข้อ
การประดิษฐ์พัดจากกล่องนม สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารีกีปัส ผู้จัดทำโครงงานได้ศึกษาจาก
หนังสือ รวบรวมข้อมูลและเก็บบันทึกข้อมูล เพื่อศึกษาการประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใชใ้ ห้เกิดประโยชน์
ดว้ ยความตงั้ ใจ ในการนำเสนอโครงงานชน้ิ น้ี เพ่ือให้ได้ประโยชนท์ ว่ั ไป

ผู้จัดทำต้องขอขอบคุณครู นิศากร เศรษฐสุข ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำโครงงาน
คณะผจู้ ดั ทำหวังเปน็ อยา่ งย่งิ วา่ ผทู้ อี่ ่านโครงงานจะได้รับความรู้จากโครงงานเรอ่ื งนี้ และหวังว่าจะเป็น
ประโยชนก์ ับทา่ นผอู้ า่ นทกุ ๆ ทา่ น โครงงานเล่มนอี้ าจมีส่ิงใดผดิ พลาดกข็ ออภยั มา ณ โอกาสนี้

ชนิตา ณรงคด์ นุเดช

สารบัญ หนา้
1
เรอื่ ง 1
บทที่ 1 บทนำ 2
2
1.1 ความเปน็ มาและความสำคัญของปญั หา
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงงาน 3
1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1.4 วธิ กี ารดำเนินงาน 3
1.5 สถานท่ีทำโครงงาน 3
1.6 ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะได้รบั 4
บทที่ 2 เอกสารทเ่ี กี่ยวข้อง 4
2.1 การประดิษฐ์ 6
2.2 วัสดุอปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการประดษิ ฐ์ 7
บทที่ 3 วธิ ดี ำเนนิ งาน 7
3.1 วธิ ีการดำเนินงาน 8
3.2 วัสดุอุปกรณ์ 12
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน 12
4.1 ผลการดำเนินงาน 12
4.2 ขน้ั ตอนการประดษิ ฐเ์ ลบ็ สำหรับใชใ้ นการแสดงฟ้อนเล็บ 23
บทท่ี 5 สรปุ และขอ้ เสนอแนะ 23
5.1 สรุปผลการดำเนินงานการจัดทำโครงการ

5.2 ขอ้ เสนอแนะ 23
บรรณานกุ รม 24
ภาคผนวก 25

1

บทท่ี 1

บทนำ

1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

นาฏศิลป์แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ แสดงถึงอารยประเทศ ความเจริญร่งุ เรือง
ของประเทศไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญาไทย
จารีต ประเพณี และ วัฒนธรรมของประเทศไทย ซง่ึ ถือว่าเปน็ สิ่งทนี่ า่ ภาคภูมิใจของคนไทยต้ังแต่อดีต
จนถึงปัจจบุ ัน และถอื วา่ เปน็ มรดกท่สี ำคญั ของชาติ จงึ ควรแก่การอนรุ กั ษ์ และสบื ทอดต่อไป

นาฏศิลป์ หมายถึง ศิลปะการฟ้อนรำ หรือความรู้แบบแผนของการฟ้อนรำ เป็นสิ่งที่มนุษย์
ประดิษฐ์ขึ้นด้วยความประณีตงดงาม ให้ความบันเทิง อันโน้มน้าวอารมณ์และความรู้สึ กของผู้ชมให้
คล้อยตาม ศิลปะประเภทนี้ต้องอาศัยการบรรเลงดนตรี และการขับร้องเข้าร่วมด้วย เพื่อส่งเสริมให้
เกิดคุณค่ายิ่งขึ้น ความงดงามของท่าร่ายรำตามจังหวะ และทำนองเพลง ตลอดจนการแสดงสื่อ
ความหมายด้วยบทเจรจา ทา่ ทาง และคำร้องเป็นลำนำ ชว่ ยใหผ้ ู้ชมได้ช่นื บานสนกุ สนานได้อิ่มเอมกับ
สุนทรียรส และเกิดอารมณ์คล้อยตามไปกับการแสดง นาฏศิลป์ไทยจึงเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของ
ชาติ การแสดงนาฏศลิ ป์ไทยแตล่ ะประเภทที่มีความงดงามนั้น จะต้องมีองคป์ ระกอบนาศิลปท์ ี่ชว่ ยให้
การแสดงมีความงดงามและสมบูรณ์ เช่น การฟ้อนรำหรือลีลาการใช้ท่ารำ จังหวะท่ีใช้ในการแสดง
ดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดง คำร้องหรือเนื้อร้อง การแต่งกาย การแต่งหน้า และอุปกรณ์ที่ใช้
ประกอบการแสดง เป็นตน้

อุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการแสดงนาฏศิลป์ไทยเป็นองค์ประกอบนาฏศิลป์ที่สำคัญอย่างหนึ่งที่
ทำให้การแสดงมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ ซึ่งการแสดงนาฏศิลป์ไทยบางชุดอาจไม่มีอุปกรณ์
ประกอบการแสดง แต่บางชุดก็มีอุปกรณ์ประกอบการแสดง ทำให้การแสดงน่าสนใจมากขึ้น เช่น
ฟ้อนเทียนมีอุปกรณ์ คือ เทียน ซึ่งจะนิยมแสดงในเวลากลางคืน ทำให้การแสดงมีความงดงามมาก
การแสดงฟ้อนเล็บมีอุปกรณ์ คือ เล็บ ผู้ฟ้อนสวมเล็บโลหะยาวทุกนิ้ว เว้นแต่นิ้วหัวแม่มือ ซึ่งจะนิยม
แสดงในเวลากลางวัน การแสดงระบำตารีกีปัส มีการใช้พัดเป็นอุปกรณ์ประกอบการแสดง ทำให้
การแสดงมีความงดงามมากข้นึ

ระบำตาลกี ปี ัส เปน็ การแสดงนาฏศลิ ปพ์ น้ื เมืองของชาวไทยมสุ ลมิ ทางภาคใต้ของประเทศไทย
คำเรียกระบำชุดนี้เป็นภาษามลายูท้องถิ่น พจนานุกรมฉบันไทย – มลายู อธิบายไว้ว่า “ตารี” หรือ
ตาเรียน หมายถึง การฟ้อนรำ ส่วนคำว่า “กีปัส” หรือ ฆีปัส ออกเสียงตามประชาชนท้องถิ่นปัตตานี
หมายถึง พัด รวมความแล้วตารีกีปัส หมายถึง การฟ้อนรำที่ใช้พัดประกอบการแสดง การแสดงชุดน้ี
ได้รับการฟื้นฟูโดยคณะครูโรงเรียนยะหริ่ง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ควบคุมการฝึกซ้อมโดย
อาจารย์สุนทร ปิยะวสันต์ ซึ่งได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เมื่อปี พ.ศ. 2518

2

ได้ชมการแสดงของรัฐต่าง ๆ หลายชุด เม่อื เดินทางกลับมาประเทศไทย ก็ไดเ้ ล่าถึงการแสดงดนตรแี ละ
นาฏศิลป์ของมาเลเซียที่ได้ไปชมให้ผู้เฒ่าผู้แก่ฟัง และได้ทราบว่าเมืองยะหริ่งเดิมก็เคยมีการแสดงที่
คลา้ ยคลงึ กนั กับของมาเลเซยี หลายชดุ ดงั นน้ั จึงไดค้ ดิ ฟนื้ ฟกู ารแสดงพ้นื เมอื งชดุ ตา่ ง ๆ ขึน้ โดยเฉพาะ
ชุดตารีกีปัส ได้นำออกแสดงครั้งแรกเนื่องในงานเลี้ยงเกษียณอายุข้าราชการครูโรงเรียนยะหร่ิง
ต่อมาได้มีการถ่ายทอดการแสดงชุดตารีกีปัสไปสู่ประชาชนครั้งแรก โดยเปิดสอนให้กับคณะลูกเสือ
ของจังหวัดปัตตานี เพื่อนำไปแสดงในงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ จังหวัดชลบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2522
และ ได้ทำชื่อเสียงให้กับจังหวัดปัตตานี เมื่อได้รับการคัดเลือกเป็นระบำชุดเปิดสนามงานกีฬาเขต
แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 14 ของจังหวัดปัตตานี เมื่อปี พ.ศ. 2524 นับว่าการแสดงชุดตารีกีปัส
ไดเ้ ผยแพร่ไปท่วั ประเทศไทยและยงั เปน็ ทรี่ ้จู กั ของคนท่วั ไปอย่างกวา้ งขวาง

การศึกษาในรายวิชานาฏศิลป์ในปัจจุบัน ได้มีการจัดการศึกษาหลายด้าน เพื่อแยก
ความสำคัญตามความมุ่งหมายในวิชานั้น เช่น ด้านประวัติการแสดงนาฏศิลป์ไทย ด้านทฤษฎี
นาฏศิลป์ไทย และด้านการปฏิบัติการแสดงนาฏศิลป์ไทย ถึงแม้จะแยกศึกษาตามความมุ่งหมายใน
การศึกษา แตค่ วามสัมพันธร์ ะหวา่ งวชิ านาฏศิลป์ดา้ นต่าง ๆ น้ันมมี าก ไม่สามารถทจี่ ะศกึ ษาเพียงด้าน
ใดด้านหนง่ึ ได้ จงึ จำเป็นจะตอ้ งศึกษาควบคกู่ นั

จากการศึกษาครั้งนี้จึงเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้คณะผู้ศึกษาจัดทำพัด ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใน
การแสดงระบำตารกี ีปสั เนื่องจากโรงเรยี นอนบุ าลสมเด็จพระวันรัต ได้จดั ทำการแสดงนาฏศลิ ป์ จึงได้
มแี นวคิดในการประดิษฐ์พัด นาํ มาเป็นอปุ กรณ์ประกอบการแสดง เพอื่ ใหเ้ กดิ ความสวยงาม และฝึกให้
เกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ สร้างผลงานใหม้ ีรูปรา่ งแปลกใหม่ นำวสั ดเุ หลอื ใช้นำมาประดิษฐใ์ หส้ ามารถใช้
ประโยชน์เพิ่มมากข้ึน และเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้มีการสืบทอดและพัฒนาต่อไป
จากภมู ิปญั ญาเดมิ สู่การเรยี นรู้ทม่ี ากข้ึน และใหน้ ักเรยี นเกดิ ความเข้าใจในการเรียนในเร่ือง การแสดง
พื้นเมอื งภาคใตม้ ากย่ิงข้ึน
1.2 วตั ถปุ ระสงค์

1.2.1 เพ่อื นำอปุ กรณ์ วสั ดุเหลือใช้ทม่ี อี ยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์
1.2.2 เพอื่ ฝึกสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ และใชเ้ วลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์
1.2.3 เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนมคี วามรับผิดชอบและมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์

1.3 ขอบเขตของโครงงาน
ในการทำโครงงานเรื่อง การประดิษฐ์พัดจากกล่องนม ที่ใช้ในการแสดงระบำตาลีกีปัสของ

นกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษา 4 - 6 ชุมนมุ นาฏศลิ ป์ ผูจ้ ดั ทำไดก้ ำหนดขอบเขตของโครงงานไว้ ดงั น้ี
1. พดั ที่ใชใ้ นการแสดงระบำตาลกี ปี สั
การนำกลอ่ งนมที่เหลือใช้ นำมาประดิษฐเ์ ป็นพัด เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ในการประดษิ ฐ์

อปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นการแสดง และเกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์

3

2. ประชากรและกลุ่มเปา้ หมาย
2.1 ประชากรที่ใช้ในการทำโครงงาน คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 -6

ชุมนมุ นาฏศลิ ป์ จำนวน 22 คน
1.4 วธิ ีการดำเนนิ งาน

1. นำเสนอหวั ขอ้ โครงงาน เพ่อื กำหนดวัตถุประสงค์ และขอบเขตในการทำโครงงาน
2. ประชุมวางแผนการดำเนินงานตามวัตถปุ ระสงค์ และขอบเขตของโครงงาน
3. ออกแบบ และประดิษฐ์พัด สำหรบั ใช้ในการแสดงระบำตารกี ีปสั
4. ลงมอื ปฏบิ ตั ปิ ระดิษฐ์พดั สำหรบั ใช้ในการแสดงระบำตารกี ปี ัส
5. จัดทำรูปเล่ม เพื่อใช้สำหรับศึกษาตอ่ ไป โดยใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานในการหาเวลา
ว่างนอกจากในชั่วโมงเรียน วันจันทร์ - วันพุธ ในเวลา 16.00 - 17.30 น. เริ่มตั้งแต่วันท่ี
17 มกราคม 2565 - วันที่ 15 กุมภาพนั ธ์ 2564
1.5 สถานท่ที ำโครงงาน
ห้องนาฏศิลปโ์ รงเรียนอนบุ าลสมเดจ็ พระวนั รัต

1.6 ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รับ
1.6.1 สามารถนําพัดทีป่ ระดิษฐ์ขนึ้ มาใชป้ ระโยชนใ์ นการแสดง
1.6.2 เปน็ การสร้างความภาคภมู ใิ จในช้ินงานของตนเอง
1.6.3 เป็นการฝกึ ความรบั ผดิ ชอบและมีความคดิ สร้างสรรค์
16.4 เปน็ การอนุรักษศ์ ลิ ปวัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ ใหม้ กี ารสบื ทอดและพฒั นาตอ่ ไปจากภูมิปัญญา

เดิมสกู่ ารเรยี นรู้ท่ีมากขนึ้

4

บทท่ี 2

เอกสารที่เกย่ี วขอ้ ง

ในการจัดทำโครงงาน การประดิษฐ์พัดจากกล่องนม สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารีกีปัส
คณะผู้ศึกษาได้ทำการศึกษา โดยค้นคว้า และรวบรวมข้อมูล แนวคิดทฤษฎีและหลักการต่าง ๆ
จากองค์ความรู้ในเอกสารและโครงงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างโครงงานการประดิษฐ์พัดจากกล่องนม
สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารีกีปัส เพื่อเป็นส่วนประกอบสำคัญในการศึกษา โดยจำแนกหัวข้อใน
การศกึ ษาคน้ คว้า ดงั น้ี

2.1 การประดษิ ฐ์
2.2 วัสดุอปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการประดิษฐ์
2.1 การประดษิ ฐ์
การประดิษฐ์ หมายถึง งานทเ่ี กดิ จากการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของมนษุ ย์สร้างหรือประดิษฐ์
ขึ้นตามวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย หรือเพื่อความสวยงาม หรือประดับตกแต่งหรือเพ่ือประโยชน์
ใชส้ อย
2.1.1 ทีม่ าและความสำคัญของสง่ิ ประดษิ ฐ์

ความเป็นมาของงานประดิษฐ์ สิ่งประดิษฐ์เกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้สร้างผู้พัฒนา
ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงแบบ ผลงานด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในแต่ละบุคคล มีวัตถุประสงค์
ในการสร้างสิ่งประดิษฐ์เพื่อตอบสนอง ความต้องการด้านประโยชน์ใช้สอย งานประดิษฐ์มี
ความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณ เกี่ยวข้องกับ
ขนบธรรมเนียมและประเพณีทางศาสนา และการศึกษา ประดิษฐ์ชิ้นงาน เป็นการฝึกให้เกิดความคดิ
รเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ สร้างผลงานใหม้ ีรปู รา่ งแปลกใหม่และพฒั นางานประดษิ ฐ์เดิมให้สามารถใช้ประโยชน์
ขึน้ งานประดิษฐ์ท่ใี ช้วสั ดตุ า่ ง ๆ ท่ีนำมาประกอบกันเป็นชน้ิ งาน สามารถใชว้ ัสดอุ ืน่ ทดแทนกันได้ และ
สามารถนำวัสดุที่มีในท้องถิ่น มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ฝึกให้รู้จักการวางแผนทำงานอย่างเป็นระบบ
เป็นขั้นตอนการปฏิบัติเป็นการสร้างระเบียบวินยั ให้ตนเอง และมีนิสัยรกั ในงานประดิษฐ์ การใช้เวลา
ว่างให้เกิดประโยชน์ สามารถทำงานได้อย่างมีสมาธิและมีความสุข ในการสรา้ งสรรค์ชิ้นงานประดษิ ฐ์
ของตนเอง เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้มีการสืบทอดและพัฒนาต่อไปจากภูมิปัญญา
เดมิ สกู่ ารเรยี นรู้ทมี่ ากขึน้ และเป็นผลงานของคนไทย

2.1.2 หลกั การสร้างสรรค์งานประดิษฐ์
การสร้างสรรค์งานประดิษฐ์ให้ประดิษฐ์ให้ประสบผลสำเร็จนั้น ผู้เรียนต้องมีความพึง

พอใจ ในการทำงาน โดยยึดหลักการดังนี้

5

1) หมั่นศึกษาหาความรู้ในงานที่ตนเองสนใจ โดยศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญการในชุมชน
การโรงเรยี น จากตัวอย่างสงิ่ ประดษิ ฐ์ทีส่ นใจ

2) ศึกษาหลักการ วิธีการ หรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน ในการประดิษฐ์ชิ้นงานโดยการ
วเิ คราะห์ ด้วยตนเองหรือศึกษาจากผ้รู ู้ ผู้เช่ียวชาญ หรอื จากสอ่ื ตา่ ง ๆ เชน่ วารสาร หนังสือ เปน็ ต้น

3) ทดลองการปฏิบัติการประดิษฐ์ ผู้เรียนต้องศึกษาค้นคว้าและทดลองปฏิบัติตาม
แนวคิดที่ได้สร้างสรรค์ไว้ และมีการปรับปรุงแก้ไข ข้อบกพร่องจนสำเร็จเป็นชิ้นงานประดิษฐ์ที่พึง
พอใจ

2.1.3 การออกแบบงานประดษิ ฐ์
การออกแบบ หมายถึง การทำต้นแบบ หรือการทำโครงสร้างของชิ้นงานที่ต้องการ

ประดิษฐ์ เพื่อให้ได้ผลงานสำเร็จตามที่มุ่งหวัง โดยการเลือกวัสดุ เลือกสี ที่นำมาใช้ให้เหมาะสม
สวยงามเป็นการสร้างรูปลักษณ์ของชิ้นงาน โดยอาศัยความคิดสร้างสรรค์ความรู้ความเข้าใจ ใน
หลักการออกแบบและนำมาใช้ ทำให้การออกแบบชน้ิ งานน้ันมคี ุณค่าและน่าสนในยิ่ง โดยสามารถ

(1) การศกึ ษาแบบของงานทีต่ นสนใจจากหนงั สือ นิตยสารแล้วทดลองปฏบิ ตั ิ
(2) การดัดแปลงแบบที่มีอยูเ่ ดิม หรือแบบตัวอย่างโดยทำการศึกษาแบบ จนเกิด
ความเข้าใจ จงึ ปฏบิ ตั ิการสรา้ งแบบ โดยการนำเอาแนวความคิดหรือความคิดสร้างสรรค์ของตนเองไป
ผสมผสานทำให้ได้แบบทเ่ี ปน็ เอกลกั ษณ์เฉพาะไม่เหมอื นใคร
(3)การออกแบบด้วยตนเองคือการออกแบบที่เกิดจากแนวคิดของตนเองและ
ทดลองปฏิบัติสร้างแบบจนได้แบบทส่ี วยงาม เหมาะสมตามความตอ้ งการ
2.1.4 การฝึกปฏิบัติเก่ียวกบั งานประดษิ ฐ์
การประดิษฐ์ของใช้ ของใช้เป็นสิ่งของที่นำมาช่วยในการทำงาน โดยใช้งานได้มาก
น้อยแตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถทำขึ้นใช้ได้เอง เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ตนเองและ
ครอบครวั ทำให้เกดิ ความภาคภมู ใิ จในผลงาน ในการประดิษฐ์ของใช้ ผูป้ ระดษิ ฐค์ วรยึดหลักการดังน้ี
1) สำรวจความต้องการของตนเองว่าประดิษฐ์ช้ินงานอะไร
2) ศกึ ษาหลกั การและวิธีการประดิษฐ์ของชนิ้ งานที่ตอ้ งการประดษิ ฐ์
3) สำรวจว่าชิ้นงานที่สนใจ และต้องการประดิษฐ์มีความจำเป็นและสำคัญที่จะ
นำมาใชใ้ นบ้านของนกั เรยี นไดค้ มุ้ คา่ และเปน็ ประโยชน์
4) การประดษิ ฐ์ชิน้ งานแตล่ ะช้ินควรหาแนวทาง และวิธีการทำให้ช้ินงานน้ันมีความ
คงทนในการใชง้ าน
5) ความปลอดภัยในการประดิษฐ์ชิ้นงาน นักเรียนต้องรู้จักวิธีการป้องกันตนเอง
ในขณะทำงาน

6

2.1.5 ประโยชน์ของงานประดิษฐ์
1) งานประดิษฐ์มคี วามสัมพันธเ์ กี่ยวขอ้ งกับชวี ติ ประจำวันของไทย
2) งานประดิษฐ์มคี วามสัมพนั ธเ์ ก่ียวข้องขนบธรรมเนยี มและประเพณีทางศาสนา
3) งานประดิษฐ์ช่วยให้เกิดความรกั ความสามัคคีในหมู่คณะ
4) งานประดิษฐ์ช่วยให้การทำงานของสมองและประสาทสัมผัสประสานสมั พันธ์กนั
5) ใช้เปน็ เคร่ืองประดับตกแต่ง ของเล่น ของขวญั ที่ระลึก
6) รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์
7) เป็นการฝึกลักษณะนิสัยในการทำงานให้มีความอดทน (สุรภี สุมานนท์ ,

2530 : 3-5)
การประดิษฐ์ของใช้ ของประดับตกแต่งเป็นการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่า และมี

เอกลักษณ์เฉพาะของผู้ประดิษฐ์แต่ละคน โดยเลือกใช้วัสดุต่างๆกัน เช่น เศษวัสดุเศษวัสดุเหลือใช้
วสั ดุท่มี อี ยใู่ นทอ้ งถ่ิน สามารถนำมาประดษิ ฐ์ให้เป็นผลงาน เปน็ การใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ สร้าง
ความภาคภมู ิใจ มคี วามสนกุ สนาน อกี ทั้งเป็นการพฒั นาทักษะฝีมือ สามารถนำไปประกอบอาชีพเพื่อ
เสรมิ สรา้ งรายได้ให้กบั ครอบครวั อีกทางหน่ึง
2.2 วสั ดอุ ุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นการประดษิ ฐ์

การแสดงนาฏศิลป์ สามารถประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงเองได้ เป็นการสร้างสรรค์
ผลงานท่ีมีคุณค่า และมีเอกลักษณ์เฉพาะของผู้ประดิษฐ์แต่ละคน โดยเลือกใชว้ ัสดตุ ่างกัน เช่น วัสดุที่
สวยงามและมรี าคาถูก หรอื เศษวสั ดุ เศษวัสดเุ หลือใช้ วสั ดุทีม่ ีอยู่ในท้องถน่ิ สามารถนำมาประดิษฐ์ให้
เป็นผลงาน เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สร้างความภาคภูมิใจ มีความสนุกสนาน อีกทั้งเป็น
การพฒั นาทกั ษะฝมี อื สามารถนำไปประกอบอาชพี เพ่ือเสริมสร้างรายไดใ้ หก้ ับครอบครัวอกี ทางหนง่ึ

7

บทที่ 3

วิธกี ารดำเนินงาน

การจัดทำโครงงาน เรื่อง การประดษิ ฐ์พดั จากกล่องนม สำหรับใชใ้ นการแสดงระบำตารีกปี สั
นำเสนอโดยการประดิษฐช์ น้ิ งาน เพ่ือให้การศกึ ษาในคร้งั นบ้ี รรลุตามวัตถปุ ระสงค์ จึงดำเนินการจัดทำ
โครงงานตามขนั้ ตอน โดยมอี งค์ประกอบ ดงั ต่อไปนี้

3.1 วธิ กี ารดำเนินงาน
3.1.1 กำหนดโครงงานเพอ่ื นำเสนอท่ปี รกึ ษาโครงงาน
3.1.2 ศึกษาและคน้ คว้าขอ้ มลู ท่เี กย่ี วขอ้ ง
3.1.3 เตรียมวัสดอุ ปุ กรณ์ในการดำเนนิ งาน
3.1.4 ลงมือปฏิบตั ติ ามโครงงาน
3.1.5 เขียนรายงานพร้อมสรปุ ผลและอภิปรายผล

ตารางที่ 1 : ตารางการดำเนินงาน

คร้งั ท่ี วัน/เดือน/ปี การดำเนนิ งาน สถานที่ หมายเหตุ
ห้องนาฏศิลป์
1 17 – 19 ม.ค.65 จดั เตรยี มอุปกรณ์ หอ้ งนาฏศิลป์
หอ้ งนาฏศลิ ป์
2 24 – 26 ม.ค.65 ลงมือปฏบิ ัติ หอ้ งนาฏศลิ ป์
หอ้ งนาฏศลิ ป์
3 31 – 2 ก.พ.65 ลงมอื ปฏบิ ัติ ห้องนาฏศลิ ป์

4 7 ก.พ. 65 สง่ โครงงานบทที่ 1 - 2

5 10 ก.พ. 65 สง่ โครงงานบทท่ี 3 - 4

6 15 ก.พ. 65 สง่ โครงงาน

8

3.2 วัสดุอปุ กรณ์
3.2.1 กล่องนม ทำจากกระดาษและพลาสติกและอลูมเิ นียมฟอยล์ ถึง 6 ชนั้ โดยช้ันแรกเป็น

โพลิเอทิลีนเพื่อป้องกันความชื้นจากภายนอก ชั้นที่ 2 คือ กระดาษเพื่อสร้างความแข็งแรงของกล่อง
จากนน้ั จะเปน็ ชั้น โพลเิ อทิลิน และอลูมิเนียมฟอยล์ เพอ่ื คมุ อณุ หภมู ิและช้ันโพลิเอทลิ นี เพือ่ ผนึกกล่อง
ให้แน่นและป้องกันการรั่วซึมของของเหลว สามารถนำไปทำเป็นอุปกรณ์พลาสติกที่ต้องการความ
แข็งแรงเป็นด้ามจบั กระทะ หรอื ผลิตเป็นผลติ ภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลทวั่ ไป เป็นตน้

ภาพท่ี 1 กลอ่ งนม
3.2.2 กรรไกร เป็นเครื่องมือท่ีใช้สำหรับตัดวัสดุบาง ๆ โดยใช้แรงกดเล็กน้อย โดยใช้ตดั วัสดุ
เช่น กระดาษ กระดาษแข็ง แผ่นโลหะบาง พลาสติกบาง อาหารบางอย่าง ผ้า เชือก และสายไฟ
เปน็ ตน้

ภาพท่ี 2 กรรไกร

9

3.2.3 ไม้ไอติม ไม้ไอศรีมผลิตมาจากต้นก้ามปูมีลักษณะเรียบ ๆ ชิ้นเล็กมีหลายขนาด
ซึ่งไม้ไอศรีมนั้นเราสามารถนำมารังสรรค์ทำสิ่งประดิษฐ์ได้และสิ่งประดิษฐ์ที่ทำนั้นประยุกต์ให้เกิด
ประโยชนไ์ ด้ เช่น โคมไฟจากไม้ไอศรีม กลอ่ งใส่ดนิ สอ ที่ใสย่ างลบดนิ สอ เป็นต้น

ภาพท่ี 3 ไมไ้ อติม
3.2.4 กาวลาเท็กซ์ หรือ วัสดุที่ใช้ประสาน ในรูปแบบน้ำ เหนียวข้น คือส่วนผสมของ
ของเหลวหรือวัสดุกึ่งของเหลวที่สามารถเชื่อมติด หรือประสานวัสดุสองชิ้นหรือหลายๆผนึกเข้า
ดว้ ยกัน กาวมีอย่หู ลากหลายรูปแบบมีท้ังมาจากธรรมชาติหรือสารเคมีสังเคราะห์ ซ่ึงการใช้งานกาวลา
เทก็ ซ์ มักจะขน้ึ อยู่กับวสั ดุที่จะนำมาติดกัน

ภาพท่ี 4 กาวลาเทก็ ซ์

10

3.2.5 กาวแท่ง UHU กาวแท่งนำเข้าจากประเทศเยอรมนี เนื้อกาวสีขาว ติดง่าย ติดเรียบ
ฝาปิดสนิท ไม่เลอะเทอะ ไม่ทำให้กระดาษย่น ปราศจากสารพิษ ปลอดภัย และไม่มีกลิ่นฉุน
เหมาะสำหรบั งานตดิ กระดาษทว่ั ไป รูปภาพ และงานฝีมืออน่ื ๆ

ภาพที่ 5 กาวแทง่ UHU
3.2.6 ที่เย็บกระดาษ เป็นอุปกรณ์กลไกที่เชื่อมหน้ากระดาษหรือวัสดุที่คล้ายคลึงกันโดย
ขับลวดเย็บกระดาษโลหะบาง ๆ ผ่านแผ่นและพับปลาย Staplers มีการใช้กันอย่างแพร่หลายใน
รัฐบาลธุรกิจสำนักงาน สถานที่ทำงาน บ้าน และโรงเรียน ที่เย็บกระดาษส่วนใหญ่ใช้สำหรับเชื่อม
กระดาษหลายแผ่น หนา้ ทกี่ ารทำงานหลกั ของพวกเขาคอื การรวมแผน่ กระดาษจำนวนมากเข้าด้วยกัน
อย่างรวดเร็ว

ภาพที่ 6 ท่ีเยบ็ กระดาษ

11

3.2.7 อุปกรณ์ตกแต่ง เป็นอุปกรณ์ที่มีสีสันสวยงาม สะดวกในการตกแต่งพัด จัดทำการ
ตกแตง่ ไดง้ ่าย ประหยดั เวลา

ภาพท่ี 7 กากเพชร

ภาพท่ี 8 ดอกไมก้ ระดาษสา

12

บทท่ี 4
ผลการดำเนนิ งาน

จากการศกึ ษา การประดษิ ฐพ์ ดั จากกลอ่ งนม สำหรับใชใ้ นการแสดงระบำตารีกีปัสน้ัน ผู้จดั ทำ
ได้จัดทำโครงงานนี้ขึ้น เพื่อนํามาเป็นอุปกรณ์ประกอบการแสดง เพื่อให้เกิดความสวยงาม เป็นการ
อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเลือกใช้วัสดุต่างกัน เช่น วัสดุที่สวยงามและมีราคาถูก หรือเศษ
วสั ดุ เศษวัสดุเหลือใช้ วสั ดทุ มี่ อี ย่ใู นท้องถ่ิน สามารถนำมาประดษิ ฐ์ให้เปน็ ผลงาน เปน็ การใช้เวลาว่าง
ให้เกิดประโยชน์ ให้มีการสืบทอดและพัฒนาต่อไปจากภูมิปัญญาเดิมสู่การเรียนรู้ที่มากขึ้น โดยมี
ข้ันตอนในการดำเนนิ งาน พรอ้ มภาพประกอบ ดังหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้

4.1 ผลการดำเนนิ งาน
4.2 ขน้ั ตอนการประดษิ ฐ์พดั จากกล่องนม สำหรบั ใช้ในการแสดงระบำตารีกปี ัส

4.1 ผลการดำเนินงาน
การประดิษฐ์พัดจากกล่องนม สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารีกีปัส สามารถทำได้ง่าย

เป็นการเสริมพัฒนาการ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา มีวิธีทำที่ไม่ยุ่งยากและซับซ้อน
จนเกินไป มีความสวยงาม สามารถนำไปประกอบการแสดงนาฏศิลป์ได้ โดยที่นักเรียนได้ใช้เวลาว่าง
ทำใหเ้ กดิ ประโยชน์ และรู้จักเพมิ่ มลู คา่ ของวสั ดุ ทงั้ น้ีเปน็ การบรู ณาการวิชานาฏศิลป์กบั รายวิชาอื่น ๆ
เชน่ วชิ าการงานอาชีพ ได้อีกด้วย
4.2 ข้นั ตอนการประดษิ ฐพ์ ดั จากกลอ่ งนม สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารีกีปสั

4.2.1 ขน้ั ตอนการจดั เตรยี มอปุ กรณ์

ภาพท่ี 9 จดั เตรยี มอุปกรณ์

13

4.2.2 การประดษิ ฐพ์ ัดจากกลอ่ งนม สำหรบั ใช้ในการแสดงระบำตารกี ปี ัส
ขั้นตอนที่ 1 ล้างทำความสะอาดกล่องนมให้เรียบร้อย ตากหรือเช็ดให้แหง้ จากน้ัน

ตดั กล่องนมตรงกลาง แบ่งให้ได้ 2 สว่ น ลกั ษณะดังรปู

ภาพที่ 10 ตัดกล่องนมตรงกลาง แบ่งใหไ้ ด้ 2 สว่ น
ขนั้ ตอนที่ 2 ตดั กลอ่ งนม สว่ นทเ่ี ป็นรอยเจาะหลอดดา้ นบนออก

ภาพที่ 11 ตัดกล่องนม สว่ นท่ีเป็นรอยเจาะหลอดดา้ นบนออก

14

ขั้นตอนที่ 3 ตัดกล่องนม ให้มีลักษณะคลา้ ยใบพัด รูปร่างโค้ง เป็นวงรี ตัดกล่องนม
จำนวนท้งั หมด 16 อนั

ภาพที่ 12 ตัดกลอ่ งนม ใหม้ ีลกั ษณะคลา้ ยใบพัด

ภาพท่ี 13 ตัดกลอ่ งนม ใหม้ ลี กั ษณะคลา้ ยใบพดั

15

ขั้นตอนที่ 4 นำใบพัดที่ตัดสมบูรณ์แล้ว 2 อัน นำด้านลายกล่องนมมาประกบ
เขา้ หากัน นำด้านในของกล่องนมหนั ออกด้านนอก

ภาพที่ 14 นำดา้ นลายกลอ่ งนมมาประกบเขา้ หากัน

ภาพท่ี 15 นำด้านในของกล่องนมหนั ออกด้านนอก

16

ขั้นตอนที่ 5 ใช้แม็กเย็บกระดาษเย็บรอบใบพัดให้แน่น ตามเส้นโค้ง เว้นตรงกลาง
ดา้ นลา่ งไว้ สำหรบั ใสไ่ มไ้ อตมิ ด้านในใบพัด

ภาพท่ี 16 ใชแ้ ม็กเย็บกระดาษเยบ็ รอบใบพัดใหแ้ น่น ตามเสน้ โคง้

ภาพที่ 17 ใชแ้ มก็ เย็บกระดาษเย็บรอบใบพัดใหแ้ นน่ ตามเสน้ โคง้ เวน้ ตรงกลางด้านลา่ งไว้

17

ขั้นตอนท่ี 6 ใชก้ รรไกรตดั กลอ่ งนมในสว่ นทีไ่ ม่เท่ากันออกให้เรียบร้อย

ภาพท่ี 18 วดั ขนาดปลายเล็บดา้ นลา่ ง
ภาพท่ี 18 ตัดกล่องนมในสว่ นทไี่ ม่เท่ากันออกใหเ้ รยี บรอ้ ย
ขั้นตอนที่ 7 ทากาวลาเท็กซ์บริเวณปลายไม้ไอติมบาง ๆ เพื่อตดิ เข้าไปด้านในใบพดั
ตรงกลางท่ีเว้นไวด้ ่านลา่ ง

ภาพท่ี 19 ทากาวลาเท็กซ์บรเิ วณปลายไมไ้ อติมบาง ๆ

18

ขั้นตอนที่ 8 นำไม้ไอตมิ ทีท่ ากาวลาเท็กซ์เรียบร้อยแลว้ ใส่ไปด้านในใบพัดตรงกลาง
ด้านล่างท่ีเว้นไว้ ใชน้ ิว้ มือกดตรงไม้ไอติมให้แน่น รอจนกาวแห้งสนทิ

ภาพที่ 20 นำไม้ไอติมใส่ไปดา้ นในใบพัด ใชน้ ิว้ มือกดตรงไม้ไอติมใหแ้ น่น
ขั้นตอนที่ 9 ใช้แม็กเย็บกระดาษเย็บไม้ไอติมให้ติดกับใบพัดตรงกลางให้แน่น

เพื่อความแขง็ แรงมากขน้ึ

ภาพที่ 21 ใช้แม็กเยบ็ กระดาษเยบ็ ไมไ้ อติมใหต้ ดิ กับใบพดั ตรงกลางใหแ้ น่น

19

ข้ันตอนที่ 10 จัดทำใบพัดในลกั ษณะดงั รปู ใหค้ รบจำนวนทง้ั หมด 8 อัน

ภาพที่ 22 จดั ทำใบพัดในลักษณะดงั รปู ให้ครบจำนวนทั้งหมด 8 อัน

ภาพที่ 23 จดั ทำใบพดั ครบจำนวนทง้ั หมด 8 อัน พรอ้ มประกอบเป็นพัด

20

ขั้นตอนที่ 11 ทากาวลาเท็กซ์บริเวณปลายไม้ไอติมบาง ๆ เพื่อประกอบใบพัด
จำนวนทั้งหมด 8 อนั ให้เปน็ ลักษณะครึ่งวงกลม

ภาพท่ี 24 ทากาวลาเท็กซบ์ รเิ วณปลายไมไ้ อติมบาง ๆ
ขน้ั ตอนที่ 12 เรม่ิ ประกอบใบพดั ทลี ะอันใหเ้ ป็นลักษณะคร่ึงวงกลม จนครบท้งั หมด
8 อนั

ภาพท่ี 24 ทากาวลาเทก็ ซ์บรเิ วณปลายไม้ไอตมิ บาง ๆ
ภาพท่ี 25 เร่ิมประกอบใบพดั ทีละอันใหเ้ ป็นลกั ษณะครึง่ วงกลม

21

ภาพที่ 26 ประกอบใบพดั ทลี ะอนั ใหเ้ ป็นลักษณะครึ่งวงกลม ครบทง้ั หมด 8 อนั
ขั้นตอนที่ 13 ออกแบบและตกแต่งใบพัด ทั้งสองด้านให้สวยงาม ตามความคิด

สรา้ งสรรค์ ให้สมบรู ณส์ วยงาม

ภาพท่ี 27 ออกแบบและตกแตง่ ใบพัด ทง้ั สองด้านให้สวยงาม

22

ภาพท่ี 28 ออกแบบและตกแต่งใบพัด ทง้ั สองดา้ นใหส้ วยงาม
ขั้นตอนที่ 14 ตรวจสอบความเรียบร้อยของพัด และนำไปใช้เป็นอุปกรณ์
ประกอบการแสดงระบำตาลกี ีปสั ได้สมบรู ณ์

ภาพท่ี 29 ออกแบบและตกแตง่ ใบพดั ทง้ั สองดา้ นใหส้ วยงาม

23

บทที่ 5
สรปุ และข้อเสนอแนะ

จากการจัดทำโครงงานการประดิษฐ์พัดจากกล่องนม สำหรับใชใ้ นการแสดงระบำตารีกีปสั น้ี
สามารถสรปุ ผลการดำเนนิ งานและขอ้ เสนอแนะไดด้ ังนี้

5.1 สรปุ ผลการดำเนนิ งานการจัดทำโครงการ
5.1 1 การประดษิ ฐพ์ ัดจากกลอ่ งนม สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารีกีปัส
การจัดทำโครงงาน การประดษิ ฐ์พดั จากกลอ่ งนม สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารกี ปี สั

คณะผู้จัดทำโครงงานได้ปฏิบัติตามวิธีการดำเนินงาน เป็นการสร้างสรรค์ชิ้นงานอุปกรณ์ประกอบ
การแสดง ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคญั ที่ช่วยทำให้ชุดการแสดงมีความงดงามและสมบูรณ์ เป็นการบูร
ณาการวิชานาฏศลิ ป์กบั รายวชิ าอน่ื ๆ เช่น วชิ าการงานอาชพี ในการนำผลงานไปสร้างมลู คา่ เพิม่ เพ่ือ
เป็นการสร้างรายไดใ้ ห้กับตนเอง

5.1.2 ปัญหาในการดำเนนิ งาน
1) เนอ่ื งจากสถานการณ์โควดิ -19 ทำให้การประดิษฐ์ล่าชา้ กว่าเดมิ
2) นักเรียนไม่สามารถเดินทางไปซื้ออุปกรณ์ที่ประดิษฐ์ได้ เนื่องจากสถานการณ์

โควิด-19
5.1.3 วธิ ีการแก้ปญั หา
1) ครูจัดทำคลิปวิดีโอการประดิษฐ์พัดจากกล่องนม สำหรับใช้ในการแสดง

ระบำตารกี ีปัสไว้ให้นักเรียนศกึ ษาเพ่มิ เตมิ ไดด้ ว้ ยตนเอง
2) ครใู ห้นักเรยี นสง่ ชิน้ งาน โดยการถ่ายรูปคกู่ บั ชนิ้ งานของนกั เรยี น

5.2 ข้อเสนอแนะ
การแสดงนาฏศิลป์ที่ใช้อุปกรณ์ในการแสดง ยังมีอีกมาก คณะผู้จัดทำเห็นสมควรมีการ

ประดษิ ฐอ์ ปุ กรณก์ ารแสดงจากส่งิ ของเหลอื ใช้ โดยไมเ่ สยี เงินซอ้ื หรือจากวสั ดทุ รี่ าคาไมส่ งู มากนกั

24

บรรณานุกรม

จรยิ า บุรพกุศลสร.ี (2558). งานประดิษฐ์. ฉบบั แก้ไขเพม่ิ เติม พิมพ์คร้งั ท่ี 2 กรงุ เทพ : กรมศิลปากร.
ผศ. รจุ ี ศรีสมบัต.ิ (2547). สารานกุ รมนาฏศลิ ป์ไทย. กรุงเทพฯ : พ.ศ. พฒั นาศกึ ษา.
สุรีภรณ์ ศิริมหาสาคร. (2550). หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ดนตรี - นาฏศิลป์ ระดับชั้น ป.4

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ. บริษัท อักษรเจริญทัศน์ อจท. จำกัด.

25

ภาคผนวก
การประดิษฐพ์ ดั จากกล่องนม สำหรบั ใช้ในการแสดงระบำตารกี ีปัส

26

การประดษิ ฐ์พัดจากกล่องนม สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารีกปี ัส

คลิปวิดีโอการประดิษฐพ์ ัดจากกลอ่ งนม
สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารกี ปี สั

27

28

29

30

31

32

33

34

35

36

37

38

39

40

41

42

ผลงานการประดิษฐ์พัดจากกล่องนม
สำหรับใช้ในการแสดงระบำตารกี ีปัส

43

44