Want to work
with Shangri-La?
คณะผู้จัดทำ
นางสาววิมลรัตน์ ธันวาเทียม นางสาวชิดชนก ฮวบกระโทก นายศุภกร แก้วธนะสิน
คำนำ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา AL.479
โดยจัดทำขึ้นเพื่ อให้ผู้อ่านได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมความ
พร้อมในการทำงานกับโรงแรมแชงกรีลากรุงเทพ เช่น ข้อมูลของ
องค์กร บุคลิกภาพภายนอก-ภายในของพนักงานต้อนรับ และ
การเตรียมความพร้อมด้านเอกสารเพื่ อการสมัครงาน
โดยคณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้
จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อ่านและผู้ที่สนใจ
วัตถุประสงค์
1.เพื่ อให้ผู้อ่านได้รับความรู้เกี่ยวกับข้อมูลที่สำคัญขององค์กร
2.เพื่ อให้ผู้อ่านสามารถนำข้อมูลไปใช้ศึกษาในรายวิชาที่เรียนได้
3.เพื่ อให้ผู้อ่านสามารถนำข้อมูลไปใช้เพื่ อเตรียมความพร้อม
สำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต
สารบัญ หน้า
เรื่อง 1
4
ข้อมูลองค์กร (Shangri-La Bangkok) 5
อาชีพพนักงานต้อนรับ 6
บุคลิกภาพภายนอก 7
บุคลิกภาพภายใน 8
รูปแบบการสัมภาษณ์งาน/คำถามสัมภาษณ์งานเบื้องต้น 9
เอกสารเพื่ อการสมัครงาน 11
การวางแผนเพื่ อความมั่นคงสำหรับผู้ประกอบอาชีพ
สรุป
1
“Bringing You The Finest Experience”
วิสัยทัศน์ (Vision) ประวัติความเป็นมาขององค์กร
(Company History)
มุ่งมั่นนำเสนอความสะดวกสบายและทรัพยากรที่ไม่เป็น
อันตรายต่อสิ่งแวดล้อมแก่ แขกที่มาเข้าพัก ปี 1978 กลุ่มก๊วกตั้งบริษัทดำเนินธุรกิจโรงแรม โดยใช้ชื่อว่า กลุ่มโรงแรม
ก๊วก และเริ่มดำเนินธุรกิจโรงแรมแชงกรี-ลาโดยการทำสัญญาว่าจ้างบริษัท
พันธกิจ (Mission) Westin ของชาวอเมริกันที่ชำนาญในการบริหารโรงแรม มาดำเนินการให้
จนในวันหนึ่งเมื่อเริ่มเรียนรู้ที่จะบริหารโรงแรมได้ด้วยตนเองแล้ว ก๊วกก็ก้าว
มุ่งมั่นจะเป็นองค์กรผู้นำในการพัฒนาอย่างยั่งยืน เข้ามาแทนที่ Westin อย่างเต็มตัว และตั้งเป็นโรงแรมเครือข่าย (chain) ของ
ดูแลเอาใจใส่พนักงานและลูกค้า หาหนทางเพิ่มคุณภาพ ตัวเองขึ้นมาภายใต้การดำเนินการโดย Shangri-La International Hotel
ให้กับชุมชนที่โรงแรมฯตั้งอยู่ และให้การบริการ Company
เสมือนเป็นพ่อบ้านที่ดีของสังคมและสิ่งแวดล้อม
ครั้งที่ โรเบิร์ต ก๊วกคิดจะมาตั้งแชงกรี-ลาขึ้นที่กรุงเทพฯ นั้น เขาได้ชักชวนผู้
แชงกรีลา เป็นชื่อดินแดนในนิยาย ร่วมหุ้นหลายรายซึ่งคนไทยที่นับเป็นหุ้นใหญ่ก็คือ กลุ่มไทยรุ่งเรืองของ สุรีย์
ที่แต่งขึ้นโดยผู้แต่งชาวอังกฤษ อัษฎาธร หรือ "เถ้าแก่หลิ่น"
ที่มีชื่อว่า James Hilton
โดยในหนังสือกล่าวไว้ว่า ปัจจุบันโรงแรมแชงกรี-ลา เปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการ ทั้งหมด
Shangri-La เป็นดินแดน 99 โรงแรม ใน 21 ประเทศ ภายใต้บริษัทแชงกรี-ลา อินเตอร์เนชั่นแนล
แห่งความสุข สงบ และสันติ (Shangri La International Hotel Management)
เปรียบเสมือนสวนสวรรค์
วัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture)
วัฒนธรรมทางธุรกิจของแชงกรี-ลา ตั้งอยู่บนการมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนให้กับลูกค้า
ผ่านมาตรฐานการบริการและการต้อนรับแบบเอเชีย ซึ่งวัฒนธรรมของแชงกรี-ลาสร้างขึ้นจากหลักการหลายประการ
ได้แก่ ความเคารพ ความอ่อนน้อมถ่อมตน มารยาท ความเอื้ออาทร และความจริงใจ
โครงสร้างและลักษณะองค์กร
มีการแบ่งโครงสร้างองค์กรตามสายงานหลัก ทั้งหมด 11 สายงาน และมีสายงานสนับสนุน 2 สายงาน
โดยมีการบังคับบัญชาจากบนลงล่าง
ผู้บริหารองค์กร
ก่อตั้งขึ้นโดย Robert Kuok นักธุรกิจชาวมาเลเซีย ร่วมกับ คุณสุรีย์ อัษฎาธร
เจ้าของบริษัท น้ำตาลไทยรุ่งเรือง ปัจจุบันโรงแรมแชงกรีลา กรุงเทพ มี นายสุวัฒน์
อัษฎาธร เป็นคณะกรรมบริหารสูงสุด ดำรงตำแหน่ง รองประธานคณะกรรมการ
CSR : “Embrace Shangri-La's Care for People Project” ที่ตั้ง (Location)
ได้จัดกิจกรรมการวิ่งแนวดิ่งการกุศล “Vertical Run 2019” โดยให้ผู้ท้าชิงและผู้เข้าร่วม 89 ซอยวัดสวนพลู แขวงบางรัก
วิ่งขึ้นบันได 494 ขั้นหรือสูง 90.6 เมตร เพื่อไปถึงยอดตึกแชงกรี-ลา ที่ซึ่งสามารถเห็น เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
ทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ โดยสามารถระดมทุนได้ 135,152 บาท บริจาค
ให้กับมูลนิธิ Operation Smile Thailand เพื่อช่วยเหลือเด็กที่เป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่
ห้องพักของโรงแรมแชงกรี-ล่า กรุงเทพฯ 2
เอกลักษณ์เฉพาะ มีห้องพักสุดหรู ทั้งหมด 802 ห้อง ประกอบด้วย 2 ตึกด้วยกัน
ใช้ระบบอาคารอัตโนมัติ (Building ได้แก่ ตึกแชงกรี-ลา วิง (แมนวิง) จำนวน 673 ห้อง และ ตึกกรุงเทพ
Automation System) ซึ่งเป็นระบบควบคุม
การทำงานของระบบต่างๆภายในอาคาร วิง จำนวน 129 ห้อง
ด้วยคอมพิวเตอร์ นับเป็นระบบที่สมบูรณ์
แบบที่สุดแห่งแรกในเมืองไทย ห้องพักได้รับการตกแต่งด้วยกลิ่นอายแบบไทยๆ รวมทั้ง ผ้าไหม
ระบบแรงดันบันได (Stair pressurize)
เป็นระบบอัดอากาศเข้าไปในห้องโดยอัตโนมัติ และไม้สัก ห้องพักทุกห้องสามารถมองเห็นวิวของกรุงเทพและ
ยามเกิดไฟไหม้เพื่อป้องกันการสำลักควัน
มีการนำท่อนิวเมติก (Pneumatic tube) ทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด
หรือท่อส่งระบบสุญญากาศไว้ใช้ส่งของจาก
ที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อเป็นการประหยัด ที่ตึกกรุงเทพวิง ทุกห้องพักจะมีระเบียงที่สามารถออกมายืนรับ
เวลาและแรงงาน
มีการใช้แสงอัลตร้าไวโอเลต (Ultraviolet บรรยากาศข้างนอกได้ โดยมีหลายห้องพักด้วยกัน
light) ฆ่าเชื้อโรคในน้ำ
Deluxe
Balcony Rooms
ห้องอาหาร
Krungthep
ห้องศาลาทิพย์ (Thai Restaurant) River View
ห้องอาหารจีนแชงพาเลซ (Shang
Palace Chinese Restaurant) Rooms
ห้องอาหารและบาร์วอลติ (Volti
Ristorante & Bar) Horizon Club
ห้องอาหารนานาชาติ (NEXT2 Café) Rooms
ล็อบบี้ เลานจ์ (Lobby Lounge)
ล่องเรือ (Horizon Cruise)
Shangri-La Wing
Premier Suite)
Krungthep Wing
Presidential Suite
สุขภาพและสันทนาการ
ชี่ เดอะสปา (Chi, The Spa)
ห้องออกกาลังกาย ( Health Club)
ห้องประชุมแกรนด์ Grand Ballroom
แผนงานในอนาคต (Future Business Plan) 3
ในเดือนมกราคม 2563 บริษัท ได้ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจำนวน 1แปลง เนื้อที่ 48
ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท 57 แขวงพระโขนง (ที่ 11 พระโขนงฝั่งเหนือ)
เป็นจำนวนเงิน 150ล้านบาท ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ติดกับที่ดินอีก23แปลง ซึ่งตั้งอยู่
ที่ถนนสุขมุวิท 55 (ซอยทองหล่อ) ที่บริษัทได้ซื้อไว้เมื่อปี 2562 เพื่อวางแผนที่จะใช้ที่ดิน
ทั้ง 24 แปลงนี้เป็นที่ตั้งของโรงแรมสี่ดาวแห่งใหม่ของบริษัท ภายใต้ชื่อการค้าว่า
"Hotel Jen” อย่างไรก็ตาม แผนการของบริษัท ที่เกี่ยวกับ โรงแรมแห่งใหม่อาจมีการ
เปลี่ยนแปลง โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการ
ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19
บริษัทในเครือ (Affiliate)
China Minsheng Bank Credit Card Center
Great World Serviced Apartments
KrisFlyer
รางวัล (Awards)
“Gold List, Conde Nast Traveler (China)”
Ranked 1st in “Best Business Hotel in Bangkok”, Readers’
Poll Travel Awards 2021 by Business Traveller Asia-Pacific
Magazine (November/December 2021 issue)
พนักงานต้อนรับ (Receptionist) 4
ลักษณะการทำงาน
มีหน้าที่คอยต้อนรับแขกของโรงแรม ทำ Check-in และ
Check-out ให้ข้อมูล จำหน่ายห้อง และกุญแจให้แก่
แขกที่ Check-in รวมไปถึงตอบข้อซักถามและจัดการ
เกี่ยวกับเรื่องที่แขกพอใจ-ไม่พอใจ รวบรวมข้อมูล
เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มจากห้อง
อาหารและบาร์ และนอกจากนี้อาจจะต้องติดต่อประสาน
งานกับแผนกอื่น ๆ ในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแขก
สถานที่ในการทำงาน ความก้าวหน้าในอาชีพ
บริเวณ Lobby โรงแรม ผู้มีความสามารถจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าแผนก
และอาจได้รับมอบหมายให้ทำงานประชาสัมพันธ์ขององค์กร
ช่วงเวลาในการทำงาน ในระยะเวลา 3 - 5 ปี ถ้ามีความชำนาญ อาจได้รับการ มอบหมาย
ให้เป็นผู้จัดการสำนักงานส่วนหน้า
มีทั้งแบบเวลาประจำ จะอยู่ที่ 8 ชั่วโมง
และแบบกะ จะอยู่ที่ 10-12 ชั่วโมง การสมัครงาน
คุณสมบัติ ช่องทางในการสมัครงาน
สมัครงานด้วยตนเอง
ผ่านเว็บไซต์จัดหางาน
วุฒิการศึกษา
ขั้นตอนการสมัครงาน :
ศิลปศาสตรบัณฑิต (สาขาการจัดการโรงแรม)
หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง 1. กรอกใบสมัคร
2. เขียนจดหมายสมัครงาน
ทักษะ : 3. ส่งเอกสารสมัครงาน
4. สัมภาษณ์
1. มีทักษะการบริการลูกค้า (Customer Service Skills) 5. ติดตามผล
2. เข้าใจวัฒนธรรมต่างชาติ (Cultural Awareness)
3. มีทักษะการสื่อสาร (Communication Skills) เอกสารสมัครงาน :
4. ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (Problem-solving Skills)
5. ทักษะการจัดการและความเป็นมืออาชีพ (Professional CV
Management Skills) สำเนาบัตรประชาชน-สำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนาหลักฐานการศึกษา
จริยธรรมในวิชาชีพ รูปถ่าย
เสนอความช่วยเหลือก่อนที่แขกจะร้องขอ รายได้และสวัสดิการ
ปฏิบัติหน้าที่ต่อแขกที่มาพักและผู้มาติดต่อกิจธุรกิจด้วยความ
เต็มใจ รายได้ : เริ่มต้นที่ 10,000-15,000 บาท
พึงระลึกเสมอว่าจะปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด
ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความภาคภูมิใจ สวัสดิการ : พอพักฟรี, อาหารฟรี, Service charge, รถรับส่งฟรี,
เครื่องแบบพนักงาน (Uniforms), วันหยุด/วันหยุดพักผ่อนประจำปี
อาชีพที่เกี่ยวข้อง :
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์,เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการขาย ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้า
สัมพันธ์
บุคลิกภาพภายนอก 5
อาชีพพนักงานต้อนรับ (Receptionist)
1.รูปร่างหน้าตา
หน้าตาดีและมีรูปร่างที่สมส่วน ผู้ชายไม่ควรไว้ผมยาวและ
ไม่ไว้หนวด ผู้หญิงไม่ควรให้ผมยุ่งและไม่ควรมีรังแค
ควรใส่ใจเรื่องผิวพรรณของใบหน้าให้ดูสะอาด และควรดูแล
สุขภาพช่องปากให้ดี แต่ถึงหน้าตาไม่ดีก็สามารถทำงาน
ในส่วนนี้ได้ เพราะกิริยามารยาท และการวางตัว บางครั้งก็
สำคัญกว่าหน้าตา
2.การแต่งกาย
แต่งกายเรียบร้อยตามกฎของโรงแรม รักษาความสะอาดของ
ชุดให้อยู่ในสภาพดีเสมอ ผู้ชายใส่ถุงเท้าสีดำหรือสีกรมท่า
ผู้หญิงใส่ถุงน่องให้เหมาะกับสีผิวตนเอง ผู้ชายรองเท้าคัทชู
ผู้หญิงรองเท้าส้นสูง (แขกจะรู้ว่าพนักงานของโรงแรมเป็น
อย่างไรก็ดูจากเครื่องแบบที่สวมใส่)
3.การปรากฏตัว
ยิ้มแย้มแจ่มใสหน้าตาไม่บึ้งตึง ใส่ใจในคำพูดและคำถามของลูกค้า ไม่ยืนหันหลังให้ลูกค้าและไม่ปล่อยให้
ลูกค้ายืนอยู่คนเดียว พูดด้วยความสุภาพ นอบน้อม อ่อนโยนต่อลูกค้า และใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ
น้อยๆ จะทำให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่แรกพบ และยังเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์อันดีขององค์กร
และสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่องค์กร
4.กิริยาท่าทาง
การยืน: ยืนตัวตรงอกผายไหล่ผึ่ง มีท่าทางสง่า เรียบร้อย
การเดิน: เดินเข้าไปต้อนรับลูกค้าทันทีเมื่อลูกค้าเข้ามาถึงบริเวณ Lobby
การไหว้: มีการยกมือไหว้และกล่าวทักทายหรือสอบถามลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเสมอ
5.การสบสายตา
ต้องพยายามใช้สายตาด้วยความสุภาพ ห้ามมองขวางหรือมองบน เพราะสายตาสามารถบอกถึง
ความเคารพนับถือ ความเกลียดชัง ความโกรธแค้น หรือความเหยียดหยามดูหมิ่นดูแคลนได้ ต้องระวังใน
การใช้สายตาให้ดี อย่าให้เกิดความเข้าใจผิด
6.การใช้น้ำเสียง
ใช้น้ำเสียงและท่วงทำนองที่เป็นธรรมชาติน่าฟัง มีเสียงดังฟังชัด ฉะฉาน เพื่อให้ลูกค้าที่เข้าพักหรือผู้ที่มา
ติดต่อกิจธุระรู้สึกได้ถึงความเต็มใจในการให้บริการของพนักงานและรู้สึกพึงพอใจกับการได้รับบริการ
จากพนักงานต้อนรับ
7.การใช้ถ้อยคำ
ใช้คำพูดที่มีเหตุผล สุภาพ ไพเราะ และเหมาะสมกับผู้ที่มาใช้บริการ โดยคำนึงถึงเพศ อายุ ระดับการศึกษา
อาชีพ ความสนใจพิเศษของผู้ฟัง สถานที่ เวลา และโอกาส
6
บุคลิกภาพภายใน อาชีพพนักงานต้อนรับ (Receptionist)
1. ความเชื่อมั่นในตนเอง
ผู้ให้บริการควรแสดงออกถึงความมั่นใจในตนเอง เพราะจะทำให้ผู้ที่มาเข้าพักเกิดความไว้วางใจต่อการ
ใช้บริการ และเป็นการแสดงให้เห็นว่า ผู้ให้บริการมีความรู้ ทักษะ และความสามารถในการให้บริการ
จริงๆ
2. ความกระตือรือร้น
ต้องมีความกระตือรือร้นสูงในสายงานด้านการบริการ เพราะพนักงานต้องดูแลทั้งตนเอง และแขกที่เข้าพัก
ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งต้องบริหารเวลาให้เป็น หากทำได้จะส่งผลให้ผู้ที่มาพักมีมุมมองต่อพนักงานและ
โรงแรมไปในทางที่ดียิ่งขึ้น
3. ความรอบรู้
พนักงานต้อนรับควรมีความรู้เกี่ยวกับงานที่ตนปฏิบัติ ควรรู้ข้อมูลของโรงแรม บริการของโรงแรม
รู้จักระบบงานและเป้าหมายของโรงแรม รู้จักข่าวสารข้อมูลที่ทันสมัย รู้จักความต้องการของแขก
4. ความคิดริเริ่ม
เป็นสิ่งสำคัญในงานช่วยให้การทำงานไม่น่าเบื่อ งานบริการต้องการบุคลากรที่ทำงานแล้วสนุกกับงาน
สามารถนำความคิดใหม่ๆมาสร้างสรรค์งานบริการดีๆให้ลูกค้าได้ประทับใจหรือดึงดูดความสนใจ
5. ความจริงใจ
- มีความซื่อสัตย์ในการให้บริการ เช่น การให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้องแก่แขก
- ให้บริการด้วยความเต็มใจ (Service Mind) ซึ่งเป็นความรู้สึกภายในของบุคคล
6. ปฏิภาณไหวพริบ
เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ทำงานบริการ เพราะจะต้องใช้ไหวพริบในการสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว ใส่ใจ
เข้าใจ และศึกษา อย่างชาญฉลาด รวมถึงมีวุฒิภาวะในการเผชิญหน้ากับแขกในแต่ละรูปแบบ สามารถ
แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในการทำงานได้
7. ความรับผิดชอบ
พนักงานต้อนรับควรตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบที่ตนเองได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด กล่าวคือ
- พนักงานรับผิดชอบต่อองค์กร ทุ่มเท เสียสละ รอบคอบ ซื่อสัตย์และลดข้อบกพร่องให้ได้มากที่สุด
- รับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมงาน โดยการไม่เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน
- รวมทั้งการที่รับผิดชอบต่อแขกหรือผู้มาใช้บริการ โดยคำนึงถึงสิ่งที่ลูกค้าควรได้รับจากการบริการ
ของโรงแรม
8. ความจำ
มีความจำดี สามารถจำรายละเอียดข้อมูลต่างๆของโรงแรม รวมถึงขั้นตอนในการปฏิบัติงานได้
9. วุฒิภาวะทางอารมณ์
เป็นการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม สามารถควบคุมตนเองได้ในแต่ละสถานการณ์ ได้แก่ รู้จัก
ระงับความโกรธ การสงบสติอารมณ์ และการมีอารมณ์ขัน
รูปแบบการสัมภาษณ์งาน และคำถามสัมภาษณ์เบื้องต้น 7
(Basic Interview Question)
รูปแบบการสัมภาษณ์งาน
โรงแรมแชงกรีลา กรุงเทพ ใช้รูปแบบการสัมภาษณ์งานแบบตัวต่อตัว (Individual Interview) โดยฝ่ายบุคคล
ของโรงแรมจะติดต่อนัดหมายให้ผู้สมัครไปทำการสัมภาษณ์ตามวันที่กำหนด เป็นการถาม-ตอบเพื่อพิจารณาแง่
มุม ความคิด ไหวพริบ และบุคลิกภาพ
เทคนิคการตอบคำถาม การสร้างความแตกต่างในการตอบคำถาม
1. หากเป็นคำถามเกี่ยวกับตัวเอง 1. ตอบอย่างเป็นมืออาชีพ
เช่น การแนะนำตัว ให้พูดเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น ผู้ถูกสัมภาษณ์จะต้องเรียบเรียงคำพูดให้ดีก่อนที่จะตอบไป
จริงๆเท่านั้น เพราะข้อมูลบางอย่างมีอยู่ใน และบอกเกี่ยวกับความสามารถและทัศนคติของตัวเองให้ได้
Resume อยู่แล้ว ควรเน้นพูดในเรื่อง มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าเราคือคนที่ดีที่สุด
ประสบการณ์หรือความสนใจพิเศษของตัวเอง สำหรับตำแหน่งงานนี้
2. หากเป็นคำถามเกี่ยวกับงาน 2. ใช้จุดเด่นให้เป็นประโยชน์
ให้พูดถึงจุดแข็งของเราที่เป็นประโยชน์ต่องาน ให้ความสำคัญกับจุดแข็งหรือความสามารถพิเศษ ที่ทำให้
เช่น มีคุณสมบัติหรือทักษะตรงกับตำแหน่งงานที่ เราดูโดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ
รับสมัคร มีประสบการณ์ทำงานด้านนี้มาแล้ว
หรือหากต้องพูดถึงจุดอ่อนก็ให้บอกถึงแนวทาง 3. พกความมั่นใจไปด้วย
ในการพัฒนาแก้ไขให้ดีขึ้น ความมั่นใจในตัวเองนั้นสำคัญ เพราะจะทำให้ผู้สัมภาษณ์
เชื่อมั่นได้ว่าเราสามารถทำงานในตำแหน่งที่สมัครได้ ถึงแม้
3. หากเป็นคำถามเกี่ยวกับองค์กร จะตื่นเต้นแค่ไหนก็ให้ยิ้มไว้เสมอ
ต้องศึกษาข้อมูลขององค์กรนั้นให้ดี และบอกถึง
ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจากตัวผู้สมัคร 4. ไม่ลืมที่จะสร้างความประทับใจขณะแนะนำตัวเอง
เพราะคำพูดสามารถสะท้อนถึงบุคลิกภาพและวิธีการคิดได้
คำถามสัมภาษณ์เบื้องต้น (Basic Interview Question)
Tell me about yourself?
เป็นคำถามที่ผู้ถูกสัมภาษณ์ทุกคนจะต้องพูด ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการสัมภาษณ์ เพราะจะแสดงให้เห็นถึง
ทัศนคติและความคิดของผู้พูด ไม่ควรพูดเรื่องที่รุบุไว้ใน Resume เกิน 20% ควรเน้นพูดในเรื่องประสบการณ์ หรือ
ความสำเร็จที่เคยทำได้
Why do you want to work here?
เป็นคำถามที่ทดสอบผู้สมัครว่ามีความตั้งใจที่จะเข้ามาร่วมงานกับองค์กรจริงหรือไม่ โดยให้เน้นพูดเกี่ยวกับข้อมูล
สำคัญขององค์กร วัฒนธรรมองค์กร และจุดแข็งของผู้สมัคร
What is your greatest weakness?
ให้พูดถึงสิ่งที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุดของเราและบอกถึงแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เพื่อแสดงให้ผู้สัมภาษณ์
เห็นว่าเรามีความตระหนักในตนเองมากพอที่จะแก้ไขจุดบกพร่องของตนเองเพื่อตำแหน่งงานที่เราเลือก
What are your career goals/path?
ผู้สัมภาษณ์ดูว่าเราจะอยู่กับองค์กรนานแค่ไหน มีความมุ่งมั่นกับความก้าวหน้าของงานมากแค่ไหน โดยต้องแสดงให้
ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าเรามีเป้าหมายและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าขององค์กร
Do you have any questions?
ต้องมีคำถามเสมอ ห้ามตอบ “No” เด็ดขาด เพราะจะทำให้ผู้สัมภาษณ์มองว่าเราไม่ได้ใส่ใจหรือไม่ให้ความสำคัญกับ
งานที่เราสมัคร และไม่ใช้คำถามที่ผู้สัมภาษณ์เคยถามแล้ว ควรเป็นคำถามปลายเปิด รวมถึงห้ามถามคำถามที่เกี่ยวกับ
เงินเดือน วันหยุด เวลาในการทำงาน และเรื่องส่วนตัวของผู้สัมภาษณ์
8
เอกสารที่ใช้ในการสมัครงาน โรงแรมแชงกรีลากรุงเทพ (Shang-La Hotel Bangkok) มีดังนี้
1. CV
CV ย่อมาจาก Curriculum Vitae คือ เอกสารที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ
ประวัติการศึกษา การทำงาน ประสบการณ์ คุณสมบัติ และความสำเร็จ โดย
เฉพาะอย่างยิ่งเป็นกิจกรรม งานวิจัยหรือเกียรติคุณที่ได้รับที่เกี่ยวข้องกับการ
ศึกษา การสอน งานวิชาการ
การเขียน CV จะมีรูปแบบที่ชัดเจน และไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก นอกจากจะมี
การเพิ่มรายละเอียดของความสำเร็จหรือคุณสมบัติต่าง ๆ โดยทั่วไปมีความยาว
อย่างน้อย 2 หน้ากระดาษขึ้นไป และเป็นเอกสารที่ควรระบุรายละเอียดในเชิงลึก
ของคุณสมบัติ ประวัติการศึกษา และการทำงานของเรา
2. สำเนาบัตรประชาชน-สำเนาทะเบียนบ้าน
เป็นเอกสารยืนยันตัวตนว่าเราเป็นคนไทย ถือสัญชาติไทย มีชื่อในทะเบียน
ราษฎร์ ไม่ใช่คนเถื่อนผิดกฎหมาย ซึ่งเอกสารนี้ทางองค์กรจะเก็บไว้เป็นหลัก
ฐานสำหรับทำธุรกรรมต่าง ๆ เมื่อรับเราเข้าทำงานแล้ว ในบางองค์กรนำไป
ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม รวมถึงสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ใน
กรณีที่เคยเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล
3. สำเนาหลักฐานการศึกษา
เช่น ใบรับรองการจบการศึกษา ใบแสดงผลการศึกษา เอกสารส่วนนี้
สำคัญมากสำหรับการสมัครงาน เพราะจะเป็นตัวบอกว่าผู้สมัครเรียน
จบอะไรมา ผลการเรียนเป็นอย่างไร จบจากที่ไหน วุฒิการศึกษาสูงสุด
คืออะไร ซึ่งเอกสารส่วนนี้จะช่วยคัดกรองผู้สมัครได้อีกทางหนึ่ง
4. รูปถ่าย
รูปถ่ายที่นำมาใช้ประกอบการสัมภาษณ์งานนั้น จะเป็นรูปแนวตั้ง
ขนาดประมาณ 1-2 นิ้ว แต่งกายสุภาพเป็นทางการ (เสื้อเชิ้ต/เสื้อ
สูท) พื้นหลังสีฟ้าหรือสีขาว ยืนตรงแขนแนบลำตัว อมยิ้มได้เล็ก
น้อย
การวางแผนเพื่อความมั่นคงสำหรับผู้ประกอบอาชีพ 9
การวางแผนทางการเงิน
เป็นแนวคิดที่ทำให้เราเตรียมความพร้อมและนำชีวิตไปสู่ความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งควร
เริ่มจากการปลูกฝังนิสัยการออมและการใช้เงินที่ดี มีวินัยตั้งแต่เด็กๆ เพราะเมื่อเข้าสู่วัย
ทำงานก็จะต้องรู้วิธีการวางแผนและจัดสรรเงินให้เพียงพอในการใช้จ่ายประจำวัน การใช้
จ่ายในอนาคต รวมถึงการเก็บออมเพื่อการเกษียณอายุ ดังนั้นการวางแผนทางการเงินจึง
เป็นแนวคิดสำคัญที่จะทำให้สามารถดำเนินในแต่ละช่วงของชีวิตได้อย่างดี รวมถึงมี
สุขภาพทางการเงินที่ดี
1. เริ่มจากการลงทุนในตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหาความรู้ ทักษะต่างๆ ที่จำเป็นในการทำงานและใช้ชีวิต ส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าในอาชีพ
รวมถึงความรู้ทางด้านการวางแผนการเงิน ไปจนถึงเรื่องสุขภาพร่างกาย เพราะสิ่งเหล่านี้หมายถึงโอกาสในการหา
รายได้ต่อไป
2. สร้างรายได้จากสิ่งที่ชอบ
การได้ทำอาชีพหรือหารายได้จากสิ่งที่ตัวเองชอบถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะเรามีแนวโน้มที่จะมีความสุขมากกว่า และ
อยู่กับสิ่งที่ชอบได้นานกว่า รวมทั้งมีความสนใจที่จะหาความรู้เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ได้ไม่ยากด้วย
3. กำหนดงบค่าใช้จ่ายและเงินออม
โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้านหรือค่าผ่อนบ้าน ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ค่าอาหาร และค่าผ่อนรถหรือ
ค่าเดินทาง ควรควบคุมให้ไม่เกิน 50% ของรายได้ต่อเดือน ที่สำคัญคือส่วนเงินออมเพื่ออนาคตและงบฉุกเฉิน ควรตั้งไว้
ที่ 10-20% ต่อเดือน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่เกิน 30% ต่อเดือน เป็นต้น
4. ใช้สอยอย่างประหยัด
เมื่อเราทำงานได้สักพัก โอกาสในการสร้างรายได้ก็มีมากขึ้น เมื่อรายได้มากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าเราควรสร้างหนี้กับ
ของใช้ฟุ่มเฟือยมากขึ้น หรือใช้ชีวิตที่หรูหราจนเกินพอดี กล่าวคือ ใช้ได้แต่ให้เหลือเงินที่ควรนำมาออมเพิ่มและลงทุน
เพิ่มเพื่อให้งอกเงยขึ้น เพราะจะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินได้เร็วขึ้น
5. ตั้งงบฉุกเฉิน
ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน หากเกิดความเจ็บป่วยของสุขภาพ หรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงควรมี
การแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งเป็นงบฉุกเฉิน เพราะจะช่วยให้ลดความกังวลไปได้มากและช่วยให้เรามีเวลาคิดและจัดการชีวิต
ต่อไปได้ โดยจำนวนเงินที่ควรตั้งเป็นงบฉุกเฉิน ควรมีอย่างน้อยสำหรับอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานประมาณ 6-12 เดือน
6. เคลียร์หนี้สิน
เช่น เงินกู้ยืมส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต ควรรีบชำระให้หมด และพยายามอย่าสร้างหนี้สินประเภทนี้อีก ควรใช้จ่าย
ภายในงบประมาณที่กำหนดในแต่ละเดือน โดยหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและเงินออมออกก่อนเสมอ
7. วางแผนเกษียณ
การเริ่มต้นวางแผนล่วงหน้า จะทำให้เราเป็นอิสระทางการเงินได้เร็วกว่าคนอื่น เพราะเงินที่สะสมได้จากการออมและ
ลงทุน ได้ดอกผลมาก็นำลงทุนเพิ่ม เงินก้อนเล็กก็จะค่อยๆ กลายเป็นเงินก้อนโตขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคนที่ทำงานประจำ
หลายบริษัทจะให้สิทธิพนักงานเข้าร่วมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อเอาไปใช้ในยามเกษียณ นอกจากนี้ ยังมีประกันชีวิต
แบบบำนาญที่เป็นเครื่องมือช่วยออม และวางแผนสำหรับการเกษียณที่ให้ผลประโยชน์แน่นอนเมื่อเกษียนอีกด้วย
การวางแผนเพื่อความมั่นคงสำหรับผู้ประกอบอาชีพ 10
ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (Financial Products)
เป็นสินค้าที่ซื้อและขายในตลาดการเงินซึ่งรวมถึงสกุลเงิน ทองคำ การแลกเปลี่ยนเงินตรา
ต่างประเทศ และหลักทรัพย์ เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ทางกายภาพต่างๆที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ
และสามารถซื้อขายต่อสาธารณะหรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ เช่น เงินสด ธนาณัติหุ้น ฟิวเจอส์
พันธบัตร กรมธรรม์ เป็นต้น
1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์/ฝากประจำ
เป็นการนำเงินของเราไปฝากไว้ที่ธนาคาร แล้วธนาคารก็จะนำเงินส่วนหนึ่งของเราไปลงทุน และแบ่งกำไรให้เราในรูปแบบ
ของดอกเบี้ยประจำปี
2. กรมธรรม์ประกันชีวิต
เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเรื่องการออมทรัพย์และการคุ้มครองในเวลาเดียวกัน ผลตอบแทนของกรมธรรม์ประกัน
ชีวิตมักกำหนดไว้คงที่ที่ 5-6 % ต่อปี จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบความเสี่ยง หรือผู้ที่เก็บเงินไม่ค่อยได้
3. ตลาดเงิน
ตลาดที่มีการซื้อขายตราสารทางการเงินที่มีการครบกำหนดในระยะเวลาสั้นๆ ตลาดเหล่านี้ช่วยให้ทั้งบริษัทและรัฐบาล
สามารถเอาชนะปัญหาสภาพคล่องในระยะสั้นได้
4. ตราสารหนี้/หุ้นกู้/พันธบัตร
เป็นการลงทุนโดยผู้ลงทุนจะเป็นเจ้าหนี้ และผู้ออกตราสารจะเป็นลูกหนี้ หลักการก็คือเป็นการกู้เงินจากนักลงทุนไปใช้และ
ให้ดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน
5. หุ้น/กองทุนรวมหุ้น
เป็นการระดมทุนเพื่อไปใช้ในกิจการนั้นๆ โดยผู้ถือหุ้นจะมีฐานะเป็นเจ้าของกิจการด้วย รวมทั้งมีส่วนได้เสียหรือมีสิทธิใน
ทรัพย์สินและรายได้ของกิจการ และได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผล
6. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
เป็นการรวบรวมเงินลงทุนจากนักลงทุนแล้วไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มุ่งเน้นให้ได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอในรูปแบบ
ของค่าเช่า ส่วนมากจะจ่ายให้นักลงทุนในรูปแบบของเงินปันผล
7. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
เป็นเครื่องมือในการลงทุนอัตโนมัติจากบริษัทที่ทำงาน คาดหวังผลลัพธ์เช่น
เดียวกับการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป และได้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีด้วย
11
สรุป
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเตรียม
ความพร้อมเพื่ อการสมัครงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับของ
โรงแรมแชงกรีลากรุงเทพ ทั้งในเรื่อง ข้อมูลที่สำคัญขององค์กร
กระบวนการทำงานของพนักต้อนรับ บุคลิกภาพภายนอก-ภายใน
รูปแบบการสัมภาษณ์งาน คำถามสัมภาษณ์เบื้องต้น การเตรียม
ความพร้อมด้านเอกสาร ตลอดจนการวางแผนเพื่อความมั่นคง
สำหรับผู้ประกอบอาชีพ โดยผู้อ่านสามารถนำข้อมูลเหล่าไปใช้เพื่อ
ประกอบการสมัครงานในอนาคตได้
อ้างอิง
https://www.shangri-la.com/en/bangkok/shangrila/
งานวันนี้.com/ตำแหน่ง/พนักงานต้อนรับ-
Receiptionist.html
https://www.spvc.ac.th/news/Chapter3-Service.pdf
https://1111.com.vn/สัมภาษณ์งานโรงแรม 5 ดาวgsa
-part-1/
https://thehunterb.com/interview/top-5-interview-
questions/
http://job2news.com/ดูบทความ-49855-โรงแรมแชงกรี-
ลา-กรุงเทพฯ.html