Annual Report 2023 49 49 ภารกิจเร่งด่วนของกรมโรงงานอุตสาหกรรม การยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียว การยกระดับอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อการ ส่งเสริมการผลิต การลงทุนและการสร้างงานสีเขียว เพื่อยกระดับ ประเทศสู่เศรษฐกิจสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนากลุ่ม อุตสาหกรรมสีเขียว ส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถปรับระบบ เข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนา อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ปัจจุบันมีสถานประกอบการที่ได้รับการ รับรองอุตสาหกรรมสีเขียว จำ นวน 51,000 ใบรับรอง การปรับแก้กฎหมายโรงงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการปรับแก้ไข พระราชบัญญัติโรงงาน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการกำากับดูแลโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีประเด็น ที่พิจารณาแก้ไข 6 ประเด็นด้วยกัน ดังนี้ 1. เพิ่มบทกำ หนดโทษในความผิดเกี่ยวกับการลักลอบ ปล่อยมลพิษ 2. จัดตั้งกองทุนอุตสาหกรรม เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และสร้างหลักประกันความเสียหาย รวมถึงการเยียวยาผู้ที่ได้รับ ผลกระทบ 3. กำ หนดให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานที่ถูกสั่งปิดกิจการ ไปแล้ว ยังคงต้องรับผิดชอบในการปรับปรุงแก้ไขโรงงาน 4. กำ หนดหลักเกณฑ์วิธีการในการจัดตั้งเขตประกอบ การอุตสาหกรรมให้มีความชัดเจน การยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียว การยกระดับอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อ การส่งเสริมการผลิต การลงทุนและการสร้างงานสีเขียว เพื่อ ยกระดับประเทศสู่เศรษฐกิจสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมสีเขียว ส่งเสริมผู้ประกอบการให้ สามารถปรับระบบเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ปัจจุบันมี สถานประกอบการที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว จำนวน 51,000 ใบรับรอง การปรับแก้กฎหมายโรงงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการปรับแก้ไข พระราชบัญญัติโรงงาน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา และเพิ่ม 5.กำห6.กำหมีเครื่องจักรไมข่ายเป็นโรงงานดร.ณัฐมอบนโยบายใหมาตรการ 4 ด้ารอบโรงงาน เพืพื้นที่ กรมโรงงปฏิบัติใช้ในการดิน : ปัญหาเรื่องกากเวลานาน โดยเการจัดการกาอุตสาหกรรมจึดังนี้ 1. กากำหนดให้โรงงกากอุตสาหกผู้รับบริการบำจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ภารกิจเร่งด่วนของกรมโรงงานอุตสาหกรรม จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม 5. กำ หนดหน้าที่ของผู้ตรวจสอบเอกชน 6. กำ หนดให้สถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูง แต่ มีเครื่องจักรไม่ถึง 50 แรงม้า หรือคนงานไม่เกิน 50 คน เข้าข่ายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม มาตรการดิน น้ำ ลม ไฟ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบ นโยบายให้กับหน่วยงานภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมใช้ มาตรการ 4 ด้าน ดิน น้ำ ลม ไฟ ในการคุมเข้มด้านสิ่งแวดล้อม รอบโรงงาน เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างโรงงานกับชุมชนใน พื้นที่ กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงได้นำานโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติ ใช้ในการกำากับดูแลธุรกิจอุตสาหกรรม ดังนี้ ดิน : การดูแลเรื่องกากอุตสาหกรรม ปัญหาเรื่องกากอุตสาหกรรม เป็นปัญหาที่สั่งสมมาเป็น ระยะเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลักลอบทิ้งกาก อุตสาหกรรม การจัดการกากอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกวิธี ดังนั้น กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงมีมาตรการในการจัดการกับปัญหา ดังกล่าว ดังนี้ 1. การปรับปรุงกฎหมาย : กฎหมายที่ผ่านมากำ หนด ให้โรงงานผู้ก่อกำาเนิดกากอุตสาหกรรม รับผิดชอบต่อกาก อุตสาหกรรมของตนเองจนถึงขั้นตอนการส่งมอบให้ผู้รับบริการ บำ บัด หรือกำ จัดเท่านั้น ทำ ให้ไม่มีการควบคุมให้ผู้รับบริการ บำาบัด หรือกำาจัดให้มีการดำาเนินการอย่างถูกต้อง การยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรมสีเขียว การยกระดับอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อ การส่งเสริมการผลิต การลงทุนและการสร้างงานสีเขียว เพื่อ ยกระดับประเทศสู่เศรษฐกิจสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมสีเขียว ส่งเสริมผู้ประกอบการให้ สามารถปรับระบบเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ปัจจุบันมี สถานประกอบการที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว จำนวน 51,000 ใบรับรอง การปรับแก้กฎหมายโรงงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการปรับแก้ไข พระราชบัญญัติโรงงาน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรม โดยมี ประเด็นที่พิจารณาแก้ไข 6 ประเด็นด้วยกัน ดังนี้ 1.เพิ่มบทกำหนดโทษในความผิดเกี่ยวกับการลักลอบ ปล่อยมลพิษ 2จัดตั้งกองทนอตสาหกรรมเพื่อฟื้นฟ5.กำหนดหน้าที่ของผู้ตรวจสอบเอกชน 6.กำหนดให้สถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูง แต่ มีเครื่องจักรไม่ถึง 50 แรงม้า หรือคนงานไม่เกิน 50 คน เข้า ข่ายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม มาตรการดิน น้ำ ลม ไฟ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้ มอบนโยบายให้กับหน่วยงานภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมใช้ มาตรการ 4 ด้าน ดิน น้ำ ลม ไฟ ในการคุมเข้มด้านสิ่งแวดล้อม รอบโรงงาน เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างโรงงานกับชุมชนใน พื้นที่ กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงได้นำนโยบายดังกล่าวมา ปฏิบัติใช้ในการกำกับดูแลธุรกิจอุตสาหกรรม ดังนี้ ดิน : การดูแลเรื่องกากอุตสาหกรรม ปัญหาเรื่องกากอุตสาหกรรม เป็นปัญหาที่สั่งสมมาเป็นระยะ เวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม การจัดการกากอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกวิธี ดังนั้น กรมโรงงาน อุตสาหกรรมจึงมีมาตรการในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว ดังนี้ 1. การปรับปรุงกฎหมาย : กฎหมายที่ผ่านมา กำหนดให้โรงงานผู้ก่อกำเนิดกากอุตสาหกรรม รับผิดชอบต่อ กากอุตสาหกรรมของตนเองจนถึงขั้นตอนการส่งมอบให้ ผู้รับบริการบำบัด หรือกำจัดเท่านั้น ทำให้ไม่มีการควบคุมให้ ผู้รับบริการบำบัด หรือกำจัดให้มีการดำเนินการอย่างถูกต้อง 2. การจัดการพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนกากอุตสาหกรรม และส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่รอบข้างอย่างเร่งด่วน เช่น กรณี “ราชบุรีโมเดล” จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ภารกิจเร่งด่วนของกรมโรงงานอุตสาหกรรม Annual Report 2023 49
50 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 50 ะเพิ่ม โดยมี กลอบ ้นฟู วมถึง ั่งปิด แก้ไข งเขต ุผู้รับบริการบำบัด หรือกำจัดเท่านั้น ทำให้ไม่มีการควบคุมให้ ผู้รับบริการบำบัด หรือกำจัดให้มีการดำเนินการอย่างถูกต้อง 2. การจัดการพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนกากอุตสาหกรรม และส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่รอบข้างอย่างเร่งด่วน เช่น กรณี “ราชบุรีโมเดล” คุณภาพน้ำ ผิวดิน ตรวจติดตามและดำ เนินการเชิงรุกในการกำ กับ ดูแลโรงงาน และการจัดการน้ำ ทิ้งในพื้นที่คลองนครเนื่องเขต รวมทั้งตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกฎหมายด้านมลพิษน้ำา หากตรวจพบโรงงานที่กระทำ ความผิด พนักงานเจ้าหน้าที่จะ สั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขตาม พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 และให้คำ แนะนำ ในการปรับปรุงดูแลระบบบำ บัดน้ำ เสีย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำา และลดการปล่อยน้ำาเสียออกนอก โรงงานรวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่จำาเป็น ได้แก่ การติดตั้งระบบ ตรวจวัดคุณภาพน้ำ ทิ้งอัตโนมัติโดยจะดำ เนินการตามโครงการฯ อย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2567 เพื่อการฟื้นฟูและ พลิกฟื้นคุณภาพน้ำ ในคลองนครเนื่องเขต ซึ่งเป็นการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมตกค้างอยู่ ภายใน บริษัท แวกซ์กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์จำ กัด จังหวัด ราชบุรี เนื่องจากกากของเสียดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อ ประชาชนที่อยู่โดยรอบโรงงานเป็นระยะเวลานานหลายปี รวม ถึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เป็นวงกว้าง กรมโรงงาน อุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นถึงความสำ คัญเร่งด่วนในการนำ กาก อุตสาหกรรมไปบำาบัดและกำาจัด เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว 3. การส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมด้วยแนวคิดเศรษฐกิจ หมุนเวียน - กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมมือกับสำ นักงาน พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ลงนามความร่วม มือด้านการวิจัยและพัฒนาการผลักดันเพิ่มมูลค่ากาก อุตสาหกรรมให้เป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมีมาตรฐาน การควบคุมที่เหมาะสมทั้งในเชิงวิชาการ ความปลอดภัยต่อ สิ่งแวดล้อม เพื่อการสิ้นสุดการเป็นของเสีย (End of Waste) ต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ได้จริงและพัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนสังคมคาร์บอนต่ำ โดยมุ่งเน้นกากของเสีย อุตสาหกรรมที่มี ศักยภาพ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ชีววัตถุ และ แร่ธาตุพื้นฐาน ควบคู่กับการสร้างความเข้มแข็ง และกระจาย รายได้สู่ชุมชน น้ำ : การดูแลเรื่องลุ่มน้ำ คูคลอง กรมโรงงานอุตสาหกรรม ดำาเนินการร่วมกับสำานักงาน อุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำ เนินโครงการ “อุตสาหกรรม รักษ์น้ำ คลองนครเนื่องเขต” ซึ่งคลองนครเนื่องเขตเป็นคลองที่ เชื่อมต่อกับคลองแสนแสบ และไหลลงสู่คลองท่าไข่ก่อนไหลลง สู่แม่น้ำ บางปะกง รวมระยะทาง 22 กิโลเมตร โดยตรวจวัด ซึ่งเป็นการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมตกค้างอยู่ภายใน บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด จังหวัดราชบุรี เนื่องจากกากของเสียดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ อยู่โดยรอบโรงงานเป็นระยะเวลานานหลายปี รวมถึงส่งผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เป็นวงกว้าง กรมโรงงาน อุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเร่งด่วนในการนำกาก อุตสาหกรรมไปบำบัดและกำจัด เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว 3. การส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมด้วยแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน - กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมมือกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ลงนามความ ร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาการผลักดันเพิ่มมูลค่ากาก อุตสาหกรรมให้เป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมี มาตรฐานการควบคุมที่เหมาะสมทั้งในเชิงวิชาการ ความ ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการสิ้นสุดการเป็นของเสีย (End of Waste) ต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ได้จริงและ พัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนสังคมคาร์บอนต่ำ โดย มุ่งเน้นกากของเสียอุตสาหกรรมที่มี ศักยภาพ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ชีววัตถุ และ แร่ธาตุพื้นฐาน ควบคู่กับการสร้างความ เข้มแข็ง และกระจายรายได้สู่ชุมชน น้ำ : การดูแลเรื่องลุ่มน้ำ คูคลอง กรมโรงงานอุตสาหกรรม ดำเนินการร่วมกับน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินโครงการ “อุตสาหกรรมรักษ์น้ำคลองนครเนื่องเขต” ซึ่งคลองนครเนื่อง เขตเป็นคลองที่เชื่อมต่อกับคลองแสนแสบ และไหลลงสู่คลอง ท่าไข่ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง รวมระยะทาง 22 กิโลเมตร โดยตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดิน ตรวจติดตามและ ดำเนินการเชิงรุกในการกำกับดูแลโรงงาน และการจัดการน้ำ ทิ้งในพื้นที่คลองนครเนื่องเขต รวมทั้งตรวจสอบการปฏิบัติ ตามข้อกฎหมายด้านมลพิษน้ำ หากตรวจพบโรงงานที่กระทำ ความผิด พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขตาม พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 และให้คำแนะนำในการปรับปรุง ดูแลระบบบำบัดน้ำเสีย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ และลด การปล่อยน้ำเสียออกนอกโรงงาน รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่ จำเป็น ได้แก่ การติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้งอัตโนมัติ โดยจะดำเนินการตามโครงการฯ อย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือน สิงหาคม 2567 เพื่อการฟื้นฟูและพลิกฟื้นคุณภาพน้ำในคลอง นครเนื่องเขต ลม : การดูแลเรื่องอากาศ ฝุ่นละออง 1. การปรับปรุงกฎหมายมาตรฐานการระบายมลพิษ จากโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบันการกำหนดมาตรฐานการระบายมลพิษจาก โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย มีการกำหนดเฉพาะพารามิเตอร์ TSP โดยการตรวจวัดค่า TSP ได้รวมถึง PM 10 และ PM 2.5 แล้ว จึงไม่มีการกำหนด มาตรฐานแยกเฉพาะ PM 2.5 ซึ่งการกำหนดมาตรฐานฝุ่น ละอองจากปล่องระบายของโรงงานในระดับสากลจะเป็นการ ควบคุมพารามิเตอร์ TSP เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้เพื่อให้การ กำหนดแนวทางควบคุมการระบาย PM 2.5 จากปล่องระบาย ของโรงงานอุตสาหกรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึง จำเป็นต้องศึกษาสัดส่วน PM 2.5 ต่อ TSP ที่ระบายจากปล่อง ระบายอากาศของโรงงานอุตสาหกรรม โดยพิจารณาถึงปัจจัย ต่างๆ เช่น กระบวนการผลิต การใช้เชื้อเพลิง ระบบบำบัด มลพิษอากาศ ที่อาจมีผลต่อสัดส่วนของ PM 2.5 ที่ระบายออกจากปล่องของโรงงาน ซึ่งเป็นการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมตกค้างอยู่ภายใน บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด จังหวัดราชบุรี เนื่องจากกากของเสียดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ อยู่โดยรอบโรงงานเป็นระยะเวลานานหลายปี รวมถึงส่งผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เป็นวงกว้าง กรมโรงงาน อุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเร่งด่วนในการนำกาก อุตสาหกรรมไปบำบัดและกำจัด เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว 3. การส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมด้วยแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน - กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมมือกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ลงนามความ ร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาการผลักดันเพิ่มมูลค่ากาก อุตสาหกรรมให้เป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมี มาตรฐานการควบคุมที่เหมาะสมทั้งในเชิงวิชาการ ความ ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการสิ้นสุดการเป็นของเสีย (End of Waste) ต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ได้จริงและ พัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนสังคมคาร์บอนต่ำ โดย มุ่งเน้นกากของเสียอุตสาหกรรมที่มี ศักยภาพ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ชีววัตถุ และ แร่ธาตุพื้นฐาน ควบคู่กับการสร้างความ เข้มแข็ง และกระจายรายได้สู่ชุมชน น้ำ : การดูแลเรื่องลุ่มน้ำ คูคลอง กรมโรงงานอุตสาหกรรม ดำเนินการร่วมกับน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินโครงการ “อุตสาหกรรมรักษ์น้ำคลองนครเนื่องเขต” ซึ่งคลองนครเนื่อง เขตเป็นคลองที่เชื่อมต่อกับคลองแสนแสบ และไหลลงสู่คลอง ท่าไข่ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง รวมระยะทาง 22 กิโลเมตร โดยตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดิน ตรวจติดตามและ ดำเนินการเชิงรุกในการกำกับดูแลโรงงาน และการจัดการน้ำ ทิ้งในพื้นที่คลองนครเนื่องเขต รวมทั้งตรวจสอบการปฏิบัติ ตามข้อกฎหมายด้านมลพิษน้ำ หากตรวจพบโรงงานที่กระทำ ความผิด พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งการให้ปรับปรุงแก้ไขตาม พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 และให้คำแนะนำในการปรับปรุง ดูแลระบบบำบัดน้ำเสีย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ และลด การปล่อยน้ำเสียออกนอกโรงงาน รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่ จำเป็น ได้แก่ การติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้งอัตโนมัติ โดยจะดำเนินการตามโครงการฯ อย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือน สิงหาคม 2567 เพื่อการฟื้นฟูและพลิกฟื้นคุณภาพน้ำในคลอง นครเนื่องเขต ลม : การดูแลเรื่องอากาศ ฝุ่นละออง 1. การปรับปรุงกฎหมายมาตรฐานการระบายมลพิษ จากโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบันการกำหนดมาตรฐานการระบายมลพิษจาก โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย มีการกำหนดเฉพาะพารามิเตอร์ TSP โดยการตรวจวัดค่า TSP ได้รวมถึง PM 10 และ PM 2.5 แล้ว จึงไม่มีการกำหนด มาตรฐานแยกเฉพาะ PM 2.5 ซึ่งการกำหนดมาตรฐานฝุ่น ละอองจากปล่องระบายของโรงงานในระดับสากลจะเป็นการ ควบคุมพารามิเตอร์ TSP เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้เพื่อให้การ กำหนดแนวทางควบคุมการระบาย PM 2.5 จากปล่องระบาย ของโรงงานอุตสาหกรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึง จำเป็นต้องศึกษาสัดส่วน PM 2.5 ต่อ TSP ที่ระบายจากปล่อง ระบายอากาศของโรงงานอุตสาหกรรม โดยพิจารณาถึงปัจจัย ต่างๆ เช่น กระบวนการผลิต การใช้เชื้อเพลิง ระบบบำบัด มลพิษอากาศ ที่อาจมีผลต่อสัดส่วนของ PM 2.5 ที่ระบายออกจากปล่องของโรงงาน ซึ่งเป็นการจัดการกากของเสียอุตสาหกรรมตกค้างอยู่ภายใน บริษัท แวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด จังหวัดราชบุรี เนื่องจากกากของเสียดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ อยู่โดยรอบโรงงานเป็นระยะเวลานานหลายปี รวมถึงส่งผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เป็นวงกว้าง กรมโรงงาน อุตสาหกรรม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเร่งด่วนในการนำกาก อุตสาหกรรมไปบำบัดและกำจัด เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว 3. การส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมด้วยแนวคิด เศรษฐกิจหมุนเวียน - กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมมือกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ลงนามความ ร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาการผลักดันเพิ่มมูลค่ากาก อุตสาหกรรมให้เป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยมี มาตรฐานการควบคุมที่เหมาะสมทั้งในเชิงวิชาการ ความ ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อการสิ้นสุดการเป็นของเสีย (End of Waste) ต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ได้จริงและ พัฒนาสู่เชิงพาณิชย์ เพื่อสนับสนุนสังคมคาร์บอนต่ำ โดย มุ่งเน้นกากของเสียอุตสาหกรรมที่มี ศักยภาพ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ ชีววัตถุ และ แร่ธาตุพื้นฐาน ควบคู่กับการสร้างความ เข้มแข็ง และกระจายรายได้สู่ชุมชน น้ำ : การดูแลเรื่องลุ่มน้ำ คูคลอง กรมโรงงานอุตสาหกรรม ดำเนินการร่วมกับน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำเนินโครงการ “อุตสาหกรรมรักษ์น้ำคลองนครเนื่องเขต” ซึ่งคลองนครเนื่อง เขตเป็นคลองที่เชื่อมต่อกับคลองแสนแสบ และไหลลงสู่คลอง ท่าไข่ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำบางปะกง รวมระยะทาง 22 กิโลเมตร โดยตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดิน ตรวจติดตามและ ดำเนินการเชิงรุกในการกำกับดูแลโรงงาน และการจัดการน้ำ ทิ้งในพื้นที่คลองนครเนื่องเขต รวมทั้งตรวจสอบการปฏิบัติ การปล่อยน้ำเสียออกนอกโรงงาน รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่ จำเป็น ได้แก่ การติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้งอัตโนมัติ โดยจะดำเนินการตามโครงการฯ อย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือน สิงหาคม 2567 เพื่อการฟื้นฟูและพลิกฟื้นคุณภาพน้ำในคลอง นครเนื่องเขต ลม : การดูแลเรื่องอากาศ ฝุ่นละออง 1. การปรับปรุงกฎหมายมาตรฐานการระบายมลพิษ จากโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบันการกำหนดมาตรฐานการระบายมลพิษจาก โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย มีการกำหนดเฉพาะพารามิเตอร์ TSP โดยการตรวจวัดค่า TSP ได้รวมถึง PM 10 และ PM 2.5 แล้ว จึงไม่มีการกำหนด มาตรฐานแยกเฉพาะ PM 2.5 ซึ่งการกำหนดมาตรฐานฝุ่น ละอองจากปล่องระบายของโรงงานในระดับสากลจะเป็นการ ควบคุมพารามิเตอร์ TSP เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้เพื่อให้การ กำหนดแนวทางควบคุมการระบาย PM 2.5 จากปล่องระบาย ของโรงงานอุตสาหกรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึง จำเป็นต้องศึกษาสัดส่วน PM 2.5 ต่อ TSP ที่ระบายจากปล่อง ระบายอากาศของโรงงานอุตสาหกรรม โดยพิจารณาถึงปัจจัย ลม : การดูแลเรื่องอากาศ ฝุ่นละออง 1. การปรับปรุงกฎหมายมาตรฐานการระบายมลพิษ จากโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบันการกำ หนดมาตรฐานการระบายมลพิษจาก โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย มีการกำาหนดเฉพาะ พารามิเตอร์TSP โดยการตรวจวัดค่า TSP ได้รวมถึง PM 10 และ PM 2.5 แล้ว จึงไม่มีการกำ หนดมาตรฐานแยกเฉพาะ PM 2.5 ซึ่งการกำ หนดมาตรฐานฝุ่นละอองจากปล่องระบายของ โรงงานในระดับสากลจะเป็นการควบคุมพารามิเตอร์ TSP เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้เพื่อให้การกำ หนดแนวทางควบคุมการ ระบาย PM 2.5 จากปล่องระบายของโรงงานอุตสาหกรรมเป็น ไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำ เป็นต้องศึกษาสัดส่วน PM 2.5 ต่อ TSP ที่ระบายจากปล่องระบายอากาศของโรงงาน อุตสาหกรรม โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่นกระบวนการผลิต การใช้เชื้อเพลิง ระบบบำาบัดมลพิษอากาศ ที่อาจมีผลต่อสัดส่วน ของ PM 2.5 ที่ระบายออกจากปล่องของโรงงานกระทรวง อุตสาหกรรม โดย กรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้จัดทำ คำ ขอ งบประมาณ ปีพ.ศ. 2568 ภายใต้“โครงการการศึกษาสัดส่วน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ต่อฝุ่นละอองรวม (TSP) ที่ระบาย 2. การจัดการพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนกากอุตสาหกรรม และส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่รอบข้างอย่างเร่งด่วน เช่น กรณี“ราชบุรีโมเดล” 50 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter
Annual Report 2023 51 51 จากปล่องระบายอากาศของโรงงานอุตสาหกรรม” และขอความ ร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อหาแนวทางการพัฒนาความร่วมมือ ทางวิชาการและความรู้เกี่ยวกับปัญหาและมาตรการแก้ไข PM 2.5 จากภาคอุตสาหกรรม กรณีศึกษาเกี่ยวกับสัดส่วน TSP กับ PM 2.5 องค์ประกอบทางเคมีของ PM 2.5 และเทคโนโลยี ที่เหมาะสมในการบำ บัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2. การรายงานข้อมูลมลพิษอากาศจากปล่องโรงงาน แบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำาหนดให้โรงงาน ต้องติดตั้งเครื่องมือหรือเครื่องอุปกรณ์พิเศษเพื่อรายงานมลพิษ อากาศจากปล่องโรงงาน พ.ศ. 2565 กำ หนดให้โรงงานบาง ประเภทที่อาจก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะกระบวนการ ที่มีการเผาไหม้ เช่น เตาเผา หม้อน้ำา เตาอบ และเตาหลอม เป็นต้น ให้ดำ เนินการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบคุณภาพอากาศ จากปล่องแบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง (CEMS) ซึ่งข้อมูลจาก การตรวจวัดนี้จะถูกส่งมาแสดงผลผ่านระบบเฝ้าระวังและเตือน ภัยมลพิษระยะไกล (Pollution Online Monitoring System: POMS) 3. การจัดส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปให้คำ แนะนำ ด้าน ความปลอดภัยให้กับผู้ประกอบกิจการโรงงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 4. กรมโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการปรับปรุง แก้ไขประกาศกระทรวง เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยใน โรงงาน พ.ศ.2552 ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน 5. สืบเนื่องจากมีอุบัติเหตุโรงงานผลิตหรือเก็บ ดอกไม้เพลิงเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา และการเกิดอุบัติเหตุ แต่ละครั้งทำ ให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็น จำานวนมาก การศึกษาสัดส่วนฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ต่อฝุ่นละออง รวม (TSP) ที่ระบายจากปล่องระบายอากาศของโรงงาน อุตสาหกรรม” และขอความร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อหา แนวทางการพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการและความรู้ เกี่ยวกับปัญหาและมาตรการแก้ไข PM 2.5 จาก ภาคอุตสาหกรรม กรณีศึกษาเกี่ยวกับสัดส่วน TSP กับ PM 2.5 องค์ประกอบทางเคมีของ PM 2.5 และเทคโนโลยีที่เหมาะสม ในการบำบัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2. การรายงานข้อมูลมลพิษอากาศจากปล่องโรงงาน แบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดให้โรงงาน ต้องติดตั้งเครื่องมือหรือเครื่องอุปกรณ์พิเศษเพื่อรายงาน มลพิษอากาศจากปล่องโรงงาน พ.ศ. 2565 กำหนดให้โรงงาน บางประเภทที่อาจก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะ กระบวนการที่มีการเผาไหม้ เช่น เตาเผา หม้อน้ำ เตาอบ และ เตาหลอม เป็นต้น ให้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบ คุณภาพอากาศจากปล่องแบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง (CEMS) ซึ่งข้อมูลจากการตรวจวัดนี้จะถูกส่งมาแสดงผลผ่านระบบเฝ้า ระวังและเตือนภัยมลพิษระยะไกล (Pollution Online Monitoring System: POMS) 1. การสร้างความตระหนักในด้านความปลอดภัย ให้กับผู้ประกอบกิจการโรงงานผ่านการจัดฝึกอบรมด้านความ ปลอดภัยออนไลน์เป็นประจำทุกเดือน 2. การจัดทำเอกสารเผยแพร่ Safety MIND อย่าง ต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์และเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (http://reg3.diw.go.th/safety/safety-mind/) 3. การจัดส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปให้คำแนะนำด้าน ความปลอดภัยให้กับผู้ประกอบกิจการโรงงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 4. กรมโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการปรับปรุง แก้ไขประกาศกระทรวง เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยใน โรงงาน พ.ศ.2552 ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน 5. สืบเนื่องจากมีอุบัติเหตุโรงงานผลิตหรือเก็บ ดอกไม้เพลิงเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา และการเกิด อุบัติเหตุแต่ละครั้งทำให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน เป็นจำนวนมาก จึงได้ รงการ ละออง รงงาน พื่อหา วามรู้ จาก PM 2.5 มาะสม รงงาน รงงาน ายงาน ไฟ : การดูแลเรื่องความปลอดภัยโรงงานโดยเฉพาะ การลดการเกิดอุบัติเหตุ เช่น อัคคีภัย ฯลฯ 1. การสร้างความตระหนักในด้านความปลอดภัย ให้กับผู้ประกอบกิจการโรงงานผ่านการจัดฝึกอบรมด้านความ ปลอดภัยออนไลน์เป็นประจำทุกเดือน 2. การจัดทำเอกสารเผยแพร่ Safety MIND อย่าง ต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์และเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (http://reg3.diw.go.th/safety/safety-mind/) 3. การจัดส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปให้คำแนะนำด้าน ความปลอดภัยให้กับผู้ประกอบกิจการโรงงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 4. กรมโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการปรับปรุง แก้ไขประกาศกระทรวง เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยใน ่่่กาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรอง กำหนดใหโรงงาน ตั้งเครื่องมือหรือเครื่องอุปกรณ์พิเศษเพื่อรายงาน กาศจากปล่องโรงงาน พ.ศ. 2565 กำหนดให้โรงงาน เภทที่อาจก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะ การที่มีการเผาไหม้ เช่น เตาเผา หม้อน้ำ เตาอบ และ ม เป็นต้น ให้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบ อากาศจากปล่องแบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง (CEMS) จากการตรวจวัดนี้จะถูกส่งมาแสดงผลผ่านระบบเฝ้า ะเตือนภัยมลพิษระยะไกล (Pollution Online ing System: POMS) 4. กรมโรงงานอุตสาหกรรมอยูระหวางแก้ไขประกาศกระทรวง เรื่องการป้องกันและระโรงงาน พ.ศ.2552 ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยสอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน 5. สืบเนื่องจากมีอุบัติเหตุโรงงานผดอกไม้เพลิงเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา อุบัติเหตุแต่ละครั้งทำให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตแเป็นจำนวนมาก ฐบาลญี่ปุ่น เพื่อหา ชาการและความรู้ ไข PM 2.5 จาก ส่วน TSP กับ PM 2.5 คโนโลยีที่เหมาะสม าศจากปล่องโรงงาน ง กำหนดให้โรงงาน พิเศษเพื่อรายงาน 5 กำหนดให้โรงงาน อากาศ โดยเฉพาะ หม้อน้ำ เตาอบ และ อุปกรณ์ตรวจสอบ างต่อเนื่อง (CEMS) ดงผลผ่านระบบเฝ้า ollution Online ปลอดภัยออนไลน์เป็นประจำทุกเดือน 2. การจัดทำเอกสารเผยแพร่ Safety MIND อย่าง ต่อเนื่องเป็นประจำทุกสัปดาห์และเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (http://reg3.diw.go.th/safety/safety-mind/) 3. การจัดส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปให้คำแนะนำด้าน ความปลอดภัยให้กับผู้ประกอบกิจการโรงงานในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 4. กรมโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างการปรับปรุง แก้ไขประกาศกระทรวง เรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยใน โรงงาน พ.ศ.2552 ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน 5. สืบเนื่องจากมีอุบัติเหตุโรงงานผลิตหรือเก็บ ดอกไม้เพลิงเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา และการเกิด อุบัติเหตุแต่ละครั้งทำให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน เป็นจำนวนมาก ไฟ : การดูแลเรื่องความปลอดภัยโรงงาน โดยเฉพาะการลดการเกิดอุบัติเหตุ เช่น อัคคีภัย ฯลฯ 1. การสร้างความตระหนักในด้านความปลอดภัยให้กับ ผู้ประกอบกิจการโรงงานผ่านการจัดฝึกอบรมด้านความปลอดภัย ออนไลน์เป็นประจำ ทุกเดือน 2. การจัดทำ เอกสารเผยแพร่ Safety MIND อย่าง ต่อเนื่องเป็นประจำ ทุกสัปดาห์และเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของ กรมโรงงานอุตสาหกรรม (http://reg3.diw.go.th/safety/ safety-mind/) Annual Report 2023 51
52 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 52 ขนาดเครื�องจักร ตั�งแต่ 350 - 800 ตัน รับจ้างฉีดพลาสติก Plastic injection INTERNATIONAL CO.,LTD. SIAM P S INTERNATIOAL CO., LTD. บริษัท สยาม พี เอส อินเตอร์เนช่ ันแนล จํากัด ISO 9001:2015 3/1 หมู่ 4 ตําบลเกาะไร่ อําเภอบ้านโพธิ� จังหวัด ฉะเชิงเทรา 24140 3/1 Moo.4 Tumbon Khoral Amphur Banpho Chachoengsao 24140 : [email protected] : 038-595-178, 081-648-0735, 092-369-4565 มีบริการจัดส่ง
Annual Report 2023 53 53 SCAN FOR MORE INFO SCAN FOR MORE INFO
54 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 54
Annual Report 2023 55 55
56 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 56
Annual Report 2023 57 57 กัลฟ กลุมบร�ษัทพลังงานและโครงสรางพ�้นฐานระดับสากล เรามุงมั่นสรางรากฐานเพ�่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคม เพราะพลังงานที่มีประสิทธิภาพ และความเปนอยูที่ดีของคนในสังคม คือเปาหมายที่ผลักดันเรา สูอนาคตที่ยั่งยืน Gulf Energy Development Public Company Limited www.gulf.co.th C M Y CM MY CY CMY K A4_ad_gulf.pdf 1 10/1/2565 BE 13:47 57
58 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 58
Annual Report 2023 59 59
60 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 60
Annual Report 2023 61 61
62 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 62
Annual Report 2023 63 63
64 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 64
Annual Report 2023 65 65 Zero Waste & Zero Landfill ให้บริการบ าบัด/ก าจัด/รีไซเคิล กากอุตสาหกรรม(ประเภทไม่อันตราย105และประเภทอันตราย106 48/1 หมู่ที่ 2 ต าบลสาวชะโงก อ าเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 24110 www.soratjakit.com 08-1578-8484 65
66 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 66
Annual Report 2023 67 67
68 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 68
Annual Report 2023 69 69
70 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 70
Annual Report 2023 71 71
72 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 72
Annual Report 2023 73 73 เกี่ยวกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา สมาชิกสภาอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา ประกอบด้วยสมาชิก 2 ประเภท คือ 1. สมาชิกสามัญ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ได้แก่ เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และประกอบอุตสาหกรรมโดยมีโรงงานที่ได้ รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานแล้ว (ร.ง.4) หรือเป็นสมาคมการค้าที่ตั้งขึ้นตามกฎหมาย ว่าด้วยสมาคมการค้า และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการประกอบอุตสาหกรรม 2. สมาชิกสมทบ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 2.1 เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งประกอบอุตสาหกรรมหรือวิสาหกิจอื่นในราชอาณาจักร 2.2 เป็นนิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และมิใช่สมาคมการค้า 2.3 เป็นบุคคลธรรมดาซึ่งมีผลงานทางวิชาการ หรือเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุตสาหกรรม สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก 1. ร้องเรียนและรับความช่วยเหลือและสงเคราะห์เกี่ยวกับการค้าและอุตสาหกรรมจากกลุ่ม เท่าที่จะอำ นวยให้ได้ตามสมควร ภายในขอบเขตของกฎหมาย ข้อบังคับของสภา และข้อบังคับของกลุ่ม 2. เข้าร่วมประชุม อภิปราย ซักถาม และแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมใหญ่ของกลุ่มโดยผ่าน ทางตัวแทนของตน แต่สมาชิกสามัญเท่านั้นที่จะมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนโดยผ่านทาง ตัวแทนของตน 3. เสนอความคิดเห็นหรือให้คำ แนะนำ ต่อคณะกรรมการกลุ่มในเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับกิจการ และการปฏิบัติงานในหน้าที่ของกลุ่มหรือนำ มาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของกลุ่ม 4. สมาชิกสามัญมีสิทธิเสนอชื่อตัวแทนเข้าเป็นคณะกรรมการกลุ่ม และออกเสียงลงคะแนน เลือกคณะกรรมการกลุ่มโดยผ่านทางตัวแทนของตน 5. สมาชิกสามัญมีสิทธิเข้าชื่อร้องขอเรียกประชุมวิสามัญ หน้าที่ของสมาชิก 1. ปฏิบัติตามข้อบังคับของกลุ่ม ข้อบังคับของสภา กฎหมายว่าด้วยอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย และกฎหมายอื่นโดยเคร่งครัด 2. ชำ ระค่าลงทะเบียน ค่าบำ รุงหรือค่าบริการให้สภาตามข้อบังคับของสภา 3. ชำ ระค่าลงทะเบียน ค่าบำ รุงหรือค่าบริการให้กลุ่มตามข้อบังคับของกลุ่ม 4. รักษาชื่อเสียงและเกียรติของกลุ่ม และไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากกลุ่มไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม 5. รักษาความสามัคคีระหว่างสมาชิกด้วยกัน 6. ไม่กระทำ การอันเป็นปฏิปักษ์ต่อกลุ่ม 7. ส่งเสริม สนับสนุน และให้ความร่วมมือเกี่ยวกับการดำ เนินงาน การจัดกิจกรรม และการดำาเนินนโยบายของกลุ่ม
74 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 74 เอกสารประกอบการสมัคร 1. ประเภทสามัญ 1.1 สามัญโรงงาน 1. สำ เนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลกับกระทรวงพาณิชย์ 2. สำ เนาใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน 3. งบกำ ไรขาดทุนย้อนหลัง 2 ปี 2. ประเภทสมทบ 2.1 สมทบ-นิติบุคคล 1. สำ เนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลกับกระทรวงพาณิชย์ 2.2 สมทบ-บุคคลธรรมดา 1. สำ เนาหนังสือรับรองการมีผลงานทางวิชาการหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม 2. สำ เนาทะเบียนบ้าน 3. สำ เนาบัตรประชาชน อัตราค่าบำรุงสมาชิกสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ประเภทสมาชิก ค่าบำ รุง/ปี(บาท ) กรณีสมัครเป็นสมาชิกระหว่างปีในช่วง (ม.ค.-มี.ค.) (เม.ย.-มิ.ย.) (ก.ค.-ก.ย.) (ต.ค.-ธ.ค.) สามัญ - ร.ง.4 2,000 2,000 1,500 1,000 500 สมทบนิติบุคคล 2,000 2,000 1,500 1,000 500 สมทบบุคคลธรรมดา 2,000 2,000 1,500 1,000 500 หมายเหตุ: ราคานี้ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดขึ้นตาม พ.ร.บ.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2530 แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่เข้าข่ายต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและไม่อยู่ในข่ายต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% สถานที่ติดต่อ : สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา (หลังเก่า) ชั้น 2 ถนนเรืองวุฒิ ตำาบลหน้าเมือง อำาเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 โทรศัพท์ 0-3881-4419 โทรสาร 0-3881-4409
Annual Report 2023 75 75
76 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 76
Annual Report 2023 77 77 ฉบับที่ 1 ว่าด้วย สมาชิกและสมาชิกภาพและการประชุมใหญ่ของกลุ่ม ข้อบังคับของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนกิจการของสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อส่งเสริม ความสัมพันธ์อันดีในระหว่างหมู่สมาชิก คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีมติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2532 ให้จัดตั้งสภาอุตสาหกรรม จังหวัดฉะเชิงเทรา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรามีความสามารถดำ เนินกิจกรรมหรือทำ นิติกรรมใดๆ ในนามของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ภายใต้การควบคุมและรับผิดชอบของคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยไม่มีผลผูกพันสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยทางกฎหมาย แต่อย่างใดทั้งสิ้น เพื่อให้กิจการของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำ เนินไปโดยเรียบร้อย ที่ประชุมสมาชิกสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงพิจารณา เห็นสมควรให้มีข้อบังคับดังต่อไปนี้ ข้อ 1. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ฉบับที่ 1 ว่าด้วยสมาชิกและสมาชิกภาพและการประชุมใหญ่ ของกลุ่ม” ข้อ 2. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์2543 เป็นต้นไป ข้อ 3. ในข้อบังคับนี้ “สภา” หมายถึง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย “คณะกรรมการสภา” หมายถึง คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย “กลุ่ม” หมายถึง สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา The Federation of Thai Industries, Chachoengsao Chapter “คณะกรรมการกลุ่ม” หมายถึง คณะกรรมการของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา “สมาชิกกลุ่ม” หมายถึง สมาชิกของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา “ประธานกลุ่ม” หมายถึง ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา Chairman of Chachoengsao Chapter, The Federation of Thai Industries การจัดตั้งกลุ่ม ข้อ 4. สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา มีสถานที่ทำ การตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา (หลังเก่า) ชั้น 2 ถนนเรืองวุฒิ ตำ บลหน้าเมือง อำ เภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 ข้อ 5. สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา มีวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) เพื่อเป็นศูนย์รวมสมาชิกของสภาตามกลุ่มที่สภากำ หนด (2) เพื่อเป็นตัวแทนของสมาชิกกลุ่มในการประสานนโยบายและดำ เนินงานระหว่างสมาชิกกลุ่มกับรัฐ (3) เพื่อเป็นที่สำ หรับสมาชิกกลุ่มมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ อันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับอุตสาหกรรม (4) เพื่อสร้างเสริมมิตรภาพและความร่วมมือในหมู่ผู้ประกอบอุตสาหกรรม (5) เพื่อค้นคว้า เผยแพร่ ส่งเสริมและอบรมวิชาการที่ทันสมัย เพื่อให้อุตสาหกรรมภายในประเทศเจริญก้าวหน้า และสามารถ แข่งขันกับผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศได้ (6) เพื่อกระทำ การใดๆ อันจะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือและการประสานงานระหว่างกลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรมกับส่วนงาน ราชการ ผู้จำ หน่าย และผู้บริโภค (7) เพื่อความเป็นปึกแผ่นในการป้องกันรักษาและส่งเสริมเสถียรภาพและผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมภายในประเทศ (8) เพื่อส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดมีมาตรฐานเป็นที่เชื่อถือได้ (9) เพื่อส่งเสริมให้มีผู้ประกอบอุตสาหกรรมมากขึ้น และมีคุณภาพสูงขึ้น (10) ร่วมมือประสานงานกับสมาชิกของสภาและกลุ่มสมาชิกอื่น เพื่อดำ เนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาอุตสาหกรรม จังหวัดฉะเชิงเทรา (11) เพื่อส่งเสริม และหาช่องทางสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในประเทศได้ขยายตลาดจำ หน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ (12) อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการสภาจังหวัดกำ หนด ข้อ 6. กลุ่มอาจมีรายได้ดังต่อไปนี้ (1) ค่าลงทะเบียน ค่าบำ รุง และค่าบริการจากสมาชิกกลุ่มในอัตราที่กำ หนดในข้อบังคับของกลุ่ม (2) เงินอุดหนุนจากสภาตามที่สภาเห็นสมควร (3) ทรัพย์สินที่มีผู้ยกให้
78 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 78 (4) รายได้อื่นๆ สมาชิกและการรับเป็นสมาชิก ข้อ 7. กลุ่มมีสมาชิกสองประเภท คือ (1) สมาชิกสามัญ (2) สมาชิกสมทบ ข้อ 8. สมาชิกสามัญต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและประกอบอุตสาหกรรมโดยมีโรงงานที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานแล้ว หรือ (2) เป็นสมาคมการค้าที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสมาคมการค้า และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการประกอบอุตสาหกรรม ข้อ 9. สมาชิกสมทบ ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งประกอบอุตสาหกรรมหรือวิสาหกิจอื่นในราชอาณาจักร (2) เป็นนิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และมิใช่สมาคมการค้า ตามข้อ 8 (2) หรือ (3) เป็นบุคคลธรรมดาซึ่งมีผลงานทางวิชาการ หรือเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ข้อ 10. สมาชิกกลุ่มต้องเป็นสมาชิกของสภาและเป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรือ ส่งเสริมการประกอบอุตสาหกรรมชนิดเดียวกันหรือต่างกัน แต่อยู่ในเขตท้องที่จังหวัดฉะเชิงเทราหรือใกล้เคียง อย่างไรก็ดีหากคณะกรรมการสภาพิจารณาเห็นสมควร อาจกำ หนดให้สมาชิกของสภารายใดรายหนึ่งเข้า สังกัดเป็นสมาชิกกลุ่มหรือพ้นจากการเป็นสมาชิกกลุ่มก็ได้ ข้อ 11. เมื่อสมาชิกของสภารายใดได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่ม ให้คณะกรรมการกลุ่ม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงชื่อบุคคลนั้นเป็นสมาชิกในสมุด ทะเบียนสมาชิกกลุ่ม ข้อ 12. ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม นอกจากต้องมีคุณสมบัติตามข้อ 8 หรือ 9 แล้วแต่กรณีและข้อ 10 แล้ว จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ด้วย (1) บรรลุนิติภาวะ (สำ หรับบุคคลธรรมดา) (2) ไม่เป็นคนวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (สำ หรับบุคคลธรรมดา) (3) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย (4) ไม่เคยถูกลบชื่อออกจากการเป็นสมาชิกของสภาหรือกลุ่ม เว้นแต่จะพ้นกำ หนดสองปีนับแต่วันที่ถูกลบชื่อออกจากการเป็น สมาชิก ข้อ 13. ให้สมาชิกสภาที่มีความประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มยื่นใบสมัครตามแบบที่กลุ่มกำ หนดต่อคณะกรรมการกลุ่ม พร้อมหลักฐาน ตามที่ระบุไว้ในใบสมัคร เมื่อคณะกรรมการกลุ่มได้รับใบสมัครแล้วให้ตรวจสอบหลักฐานการสมัครและคุณสมบัติของผู้สมัคร หากถูกต้องให้คณะกรรมการกลุ่ม มีมติรับเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม ข้อ 14. เมื่อคณะกรรมการกลุ่มมีมติรับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มแล้ว ให้คณะกรรมการกลุ่มแจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้สมัครเพื่อนำ เงินค่า ลงทะเบียนเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มและค่าบำ รุงตามอัตราที่กำ หนดไว้ในข้อบังคับของกลุ่มว่าด้วย ค่าลงทะเบียน ค่าบำ รุงและค่าบริการมาชำ ระต่อเหรัญญิกกลุ่ม ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง ข้อ 15. กลุ่มจะไม่ถือว่าผู้สมัครใหม่เป็นสมาชิกกลุ่มจนกว่าผู้นั้นจะชำ ระเงินค่าลงทะเบียนเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม และค่าบำ รุงเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการกลุ่มหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะประกาศชื่อสมาชิกใหม่ให้สมาชิกกลุ่มทราบ ณ ที่ทำ การของกลุ่มเป็นคราว ๆ ไป ข้อ 16. ให้คณะกรรมการกลุ่มจัดให้มีสมุดทะเบียนสมาชิกกลุ่ม สมุดทะเบียนนี้สมาชิกกลุ่มจะขอดูได้ณ ที่ทำ การของกลุ่มในวันและเวลาทำ การ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก อาศัยอำ นาจตามความในข้อ 15 แห่งข้อบังคับกลุ่มอุตสาหกรรม/สภาอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา ฉบับที่ 2 ว่าด้วยการเลือกตั้งคณะกรรมการกลุ่ม การประชุมและดำ เนินกิจการของคณะกรรมการกลุ่ม พ.ศ. 2543 ที่ประชุมใหญ่กลุ่มอุตสาหกรรม/สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์2553 มีมติให้แก้ไขเพิ่มเติมแบบข้อบังคับกลุ่มอุตสาหกรรม/สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ฉบับที่ 1 ว่าด้วย สมาชิกและสมาชิกภาพ และการประชุมใหญ่ของกลุ่ม ไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับของกลุ่มอุตสาหกรรม/สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ฉบับที่ 1 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 1) ว่าด้วย สมาชิกและสมาชิกภาพและการประชุมใหญ่ของกลุ่ม พ.ศ. 2553” ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์2553 เป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกข้อความในข้อ 17 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “ข้อ 17 สมาชิกกลุ่มมีสิทธิดังต่อไปนี้ เว้นแต่กรณีที่ข้อบังคับของกลุ่มกำ หนดว่าเป็นสิทธิของสมาชิกประเภทใดโดยเฉพาะ (1) ร้องเรียนและรับความช่วยเหลือและสงเคราะห์เกี่ยวกับการค้าและอุตสาหกรรมจากกลุ่มเท่าที่จะอำ นวยให้ได้ตามสมควร ภายในขอบเขตของกฎหมาย ข้อบังคับของสภา และข้อบังคับของกลุ่ม (2) เข้าร่วมประชุม อภิปราย ซักถาม และแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมใหญ่ของกลุ่มโดยผ่านทางตัวแทนของตน แต่สมาชิกสามัญเท่านั้นที่จะมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนโดยผ่านทางตัวแทนของตน (3) เสนอความคิดเห็นหรือให้คำ แนะนำ ต่อคณะกรรมการกลุ่มในเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับกิจการและการปฏิบัติงานในหน้าที่ของกลุ่ม หรือนำ มาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของกลุ่ม (4) สมาชิกสามัญมีสิทธิเสนอชื่อตัวแทนเข้าเป็นคณะกรรมการกลุ่ม และออกเสียงลงคะแนนเลือกคณะกรรมการกลุ่มโดยผ่านทาง
Annual Report 2023 79 79 ตัวแทนของตน (5) สมาชิกสามัญมีสิทธิเข้าชื่อร้องขอเรียกประชุมวิสามัญ สมาชิกกลุ่มที่ค้างชำ ระค่าบำ รุงและไม่ชำ ระค่าบำ รุงให้แก่เหรัญญิกกลุ่มภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับใบเตือน สมาชิกรายนั้นไม่มีสิทธิ ใช้สิทธิดังกล่าวตามวรรคหนึ่ง สำ หรับในปีที่มีการเลือกตั้งคณะกรรมการกลุ่ม สมาชิกที่ไม่ได้ชำ ระค่าบำ รุงแก่กลุ่มให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มกราคม ของปีนั้น สมาชิก ผู้นั้นไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งคณะกรรมการกลุ่มตามวรรคแรก (4)” ข้อ 18. สมาชิกกลุ่มมีหน้าที่ดังต่อไปนี้ (1) ปฏิบัติตามข้อบังคับของกลุ่ม ข้อบังคับของสภา กฎหมายว่าด้วยอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกฎหมายอื่นโดยเคร่งครัด (2) ชำ ระค่าลงทะเบียน ค่าบำ รุงหรือค่าบริการให้สภาตามข้อบังคับของสภา (3) ชำ ระค่าลงทะเบียน ค่าบำ รุงหรือค่าบริการให้กลุ่มตามข้อบังคับของกลุ่ม (4) รักษาชื่อเสียงและเกียรติของกลุ่ม และไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากกลุ่ม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (5) รักษาความสามัคคีระหว่างสมาชิกด้วยกัน (6) ไม่กระทำ การอันเป็นปฏิปักษ์ต่อกลุ่ม (7) ส่งเสริม สนับสนุน และให้ความร่วมมือเกี่ยวกับการดำ เนินงาน การจัดกิจกรรม และการดำ เนินนโยบายของกลุ่ม ข้อ 19. สมาชิกกลุ่มย่อมมีสิทธิและหน้าที่ในฐานะเป็นสมาชิกได้ตามข้อบังคับนี้และหากเป็นนิติบุคคล ให้มีหนังสือแจ้งชื่อตัวแทนที่มีอำ นาจเต็ม ได้ไม่เกินสามคน ซึ่งอาจเป็นคนเดียวกันกับผู้แทนที่มีอำ นาจเต็มในสภาก็ได้ ต่อคณะกรรมการกลุ่ม แต่ตัวแทนของสมาชิกดังกล่าวจะใช้สิทธิต่างๆ ในแต่ละคราว เช่น ออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมใหญ่ของกลุ่มในฐานะสมาชิกนิติบุคคลนั้นได้เพียงคนเดียว การเปลี่ยนแปลงตัวแทนต้องแจ้งเป็นหนังสือ ต่อคณะกรรมการกลุ่ม และห้ามมิให้เปลี่ยนแปลงตัวแทนที่ได้แจ้งไว้แล้วในระหว่างสามวันก่อนการประชุม ข้อ 20. การใช้สิทธิของสมาชิกกลุ่มตามข้อ 17 (2), (4) และ (5) เป็นกิจการเฉพาะตัวของสมาชิกสามัญหรือตัวแทนที่มีอำ นาจเต็มเท่านั้น จะมอบอำ นาจหรือแต่งตั้งบุคคลอื่นมาแทนตนไม่ได้ ข้อ 21. ตัวแทนที่มีอำ นาจเต็มต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ (1) ไม่เป็นพนักงานของสภาหรือกลุ่ม (2) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย (3) ไม่เป็นข้าราชการประจำ หรือข้าราชการการเมือง (4) เป็นผู้บรรลุนิติภาวะและไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (5) เป็นผู้ที่เห็นชอบกับหลักการและการดำ เนินการของสภาและกลุ่ม (6) ไม่เคยถูกลบชื่อออกจากการเป็นสมาชิกของสภาหรือกลุ่ม เว้นแต่จะพ้นกำ หนดสองปีนับแต่วันที่ถูกลบชื่อออกจากการเป็น สมาชิก วินัยและการลงโทษ ข้อ 22. สมาชิกกลุ่มรายใดไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติฝ่าฝืนข้อบังคับของกลุ่ม ข้อบังคับของสภา กฎหมายว่าด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือกฎหมายอื่น อาจได้รับโทษโดยมติของคณะกรรมการกลุ่ม ดังต่อไปนี้ (1) ว่ากล่าวตักเตือน (2) ระงับการใช้สิทธิบางประการ หรือทั้งหมดภายในกำ หนดเวลาตามที่คณะกรรมการกลุ่มเห็นสมควร หรือ (3) ลบชื่อออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม ข้อ 23. โทษว่ากล่าวตักเตือนให้ลงแก่สมาชิกกลุ่มผู้กระทำ ผิดเล็กน้อย โทษระงับการใช้สิทธิให้ลงแก่สมาชิกกลุ่มผู้กระทำ ความผิดเกินกว่าจะ ลงโทษฐานว่ากล่าวตักเตือนแต่ไม่ถึงกับความผิดขั้นร้ายแรง โทษลบชื่อออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มให้ลงแก่สมาชิกกลุ่มที่กระทำ ความผิดอย่างร้ายแรง ข้อ 24. การลงโทษว่ากล่าวตักเตือนและโทษระงับการใช้สิทธิจะต้องได้รับคะแนนเสียงจากกรรมการกลุ่มไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการที่มา ประชุม การลงโทษลบชื่อออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม ต้องได้รับคะแนนเสียงจากกรรมการกลุ่มไม่น้อยกว่าสองในสามของกรรมการกลุ่มทั้งหมด ข้อ 25. เมื่อคณะกรรมการกลุ่มมีมติให้ลงโทษสถานใดแก่สมาชิกกลุ่มรายใด ให้เลขาธิการกลุ่มแจ้งให้สมาชิกกลุ่มรายนั้นทราบเป็นหนังสือ และรายงานสภาเป็นหนังสือทันที การพ้นจากสมาชิกภาพ ข้อ 26. สมาชิกภาพของสมาชิกกลุ่มย่อมสิ้นสุดลงเมื่อ (1) ลาออก (2) ตายหรือสิ้นสภาพนิติบุคคล (3) ขาดสมาชิกภาพจากการเป็นสมาชิกของสภา (4) ขาดคุณสมบัติตามข้อ 8, 9, 10, 12 (5) คณะกรรมการสภามีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม (6) ค้างชำ ระค่าบำ รุงประจำ ปีเป็นเวลาสองปีติดต่อกันและคณะกรรมการกลุ่มมีมติให้ลบชื่อออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม (7) ถูกลบชื่อออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม
80 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 80 ข้อ 27. การลาออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มให้แสดงความจำ นงเป็นหนังสือขอลาออกต่อคณะกรรมการกลุ่ม และต้องชำ ระค่าบำ รุงและหนี้สิน ที่มีต่อกลุ่มให้เสร็จสิ้นก่อน ในกรณีสมาชิกกลุ่มที่แสดงความจำ นงขอลาออกไม่ชำ ระค่าบำ รุงและหนี้สินหรือชำ ระไม่ครบถ้วน ให้คณะกรรมการกลุ่มลบชื่อสมาชิกกลุ่ม รายนั้นออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม ข้อ 28. สมาชิกกลุ่มรายใดซึ่งสมาชิกภาพของตนสิ้นสุดลงต้องชำ ระเงินค่าบำ รุงรวมทั้งหนี้สินที่ค้างกับกลุ่มให้เสร็จสิ้น และไม่มีสิทธิเรียกร้อง ขอเงินค่าลงทะเบียน ค่าบำ รุง หรือค่าบริการที่ได้ชำ ระไว้แล้วคืน การประชุมใหญ่ ข้อ 29. ให้คณะกรรมการกลุ่มจัดให้มีการประชุมใหญ่ของกลุ่มปีละหนึ่งครั้งภายในเดือนกุมภาพันธ์โดยคณะกรรมการกลุ่มเป็นผู้เรียกประชุม และแจ้งเป็นหนังสือให้สมาชิกกลุ่มทราบถึงเวลาและวาระการประชุมล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน การประชุมใหญ่เช่นนี้เรียกว่า ประชุมสามัญ การประชุมใหญ่ คราวอื่นนอกจากการประชุมตามวรรคหนึ่งเรียกว่าประชุมวิสามัญ ข้อ 30. กิจการอันที่จะทำ ในที่ประชุมสามัญ คือ (1) รับรองรายงานการประชุมครั้งก่อน (2) รับทราบรายงานประจำ ปีแสดงผลงานของกลุ่มในปีที่ล่วงมา (3) พิจารณาอนุมัติงบดุล และบัญชีรายได้และรายจ่าย (4) เลือกตั้งคณะกรรมการกลุ่ม ซึ่งครบกำ หนดต้องออกตามวาระ (ถ้ามี) (5) เลือกตั้งผู้สอบบัญชี (6) เรื่องอื่น ๆ (ถ้ามี) ข้อ 31. เมื่อมีเหตุจำ เป็นคณะกรรมการกลุ่มจะเรียกประชุมวิสามัญเมื่อใดก็ได้สมาชิกสามัญรวมกันมีจำ นวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำ นวน สมาชิกสามัญที่เป็นสมาชิกกลุ่มและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั้งหมด จะทำ หนังสือร้องต่อคณะกรรมการกลุ่มให้เรียกประชุมวิสามัญก็ได้ ในหนังสือ ร้องขอนั้นต้องระบุว่าประสงค์ให้เรียกประชุมเพื่อการใด ในกรณีที่สมาชิกสามัญเป็นผู้ร้องขอให้เรียกประชุมวิสามัญตามวรรคสอง ให้คณะกรรมการกลุ่มเรียกประชุมวิสามัญภายในสามสิบวันนับแต่ วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ ข้อ 32. ในการเรียกประชุมใหญ่ทุกคราว ต้องมีหนังสือบอกกล่าวให้สมาชิกกลุ่มที่มีชื่อในสมุดทะเบียนสมาชิกกลุ่มทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า เจ็ดวันก่อนวันนัดประชุม โดยระบุวัน เวลา สถานที่ประชุม และเรื่องที่จะประชุมปรึกษา ข้อ 33. ในการประชุมใหญ่ทุกคราว ตัวแทนที่มีอำ นาจเต็มของสมาชิกกลุ่มจะมอบอำ นาจให้บุคคลอื่นเข้าร่วมประชุมแทนและ/หรือออกเสียง ลงคะแนนเสียงแทนหาได้ไม่ ข้อ 34. ในการประชุมใหญ่ทุกคราว องค์ประชุมของกลุ่มต้องเป็นไปตามจำ นวนของสมาชิกกลุ่มดังต่อไปนี้ (1) ในกรณีที่กลุ่มมีสมาชิกสามัญที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั้งหมดไม่เกิน 20 ราย ต้องมีสมาชิกสามัญมาประชุมเป็นจำ นวน ตั้งแต่กึ่งหนึ่งของสมาชิกสามัญที่เป็นสมาชิกกลุ่มและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนจึงจะเป็นองค์ประชุม (2) ในกรณีที่กลุ่มมีสมาชิกสามัญที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั้งหมดเกินกว่า 20 รายขึ้นไป แต่ไม่เกิน 100 ราย ต้องมีสมาชิก สามัญที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนมาประชุมเป็นจำ นวน 20 รายขึ้นไป หรือไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกสามัญที่เป็นสมาชิกกลุ่ม และมีสิทธิออกเสียง ลงคะแนน แล้วแต่อย่างใดจะน้อยกว่ากัน (3) ในกรณีที่กลุ่มมีสมาชิกสามัญที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนทั้งหมดเกินกว่า 100 รายขึ้นไป ต้องมีสมาชิกสามัญที่มีสิทธิ ออกเสียงลงคะแนนเป็นจำ นวน 40 รายขึ้นไป หรือไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ของสมาชิกสามัญที่เป็นสมาชิกกลุ่มและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน แล้วแต่อย่างใด จะน้อยกว่ากัน การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือตามเสียงข้างมากของสมาชิกซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ข้อ 35. ในการประชุมใหญ่ทุกคราว เมื่อล่วงเวลานัดไปแล้วหนึ่งชั่วโมง ถ้าสมาชิกสามัญมาไม่ครบเป็นองค์ประชุม ให้เลื่อนการประชุมนั้นออกไป ครั้งหนึ่ง โดยให้ประธานกลุ่มแจ้งวันประชุมครั้งใหม่ให้สมาชิกทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน การประชุมครั้งใหม่นี้ถ้าเป็นการประชุมที่คณะกรรมการ กลุ่มเรียก ไม่ว่าจะมีสมาชิกสามัญมาประชุมจำ นวนเท่าใด ให้ถือเป็นองค์ประชุมได้ ข้อ 36. ในการประชุมทุกคราว ให้ประธานกลุ่มเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกลุ่มไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกลุ่มเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกลุ่มหรือรองประธานกลุ่มหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนตามข้อบังคับของกลุ่มว่าด้วยการประชุมและดำ เนินกิจการของคณะกรรมการกลุ่ม ไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้คณะกรรมการกลุ่มเลือกกรรมการกลุ่มคนหนึ่งทำ หน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ข้อ 37. การออกเสียงลงคะแนนตามปกติให้ใช้วิธีชูมือ เว้นแต่การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งคณะกรรมการกลุ่มหรือในเรื่องอื่นซึ่งที่ประชุมใหญ่ ของกลุ่มจะลงมติให้ออกเสียงโดยวิธีลงคะแนนลับ การออกเสียงลงคะแนนลับให้ใช้วิธีเขียนบัตรลงคะแนนหรือตามวิธีที่ประธานในที่ประชุมกำ หนด การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือตามเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด ข้อ 38. ให้คณะกรรมการกลุ่มหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้จัดทำ สมุดทะเบียนสมาชิกกลุ่มผู้มาประชุมและให้เลขาธิการกลุ่มหรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายจะบันทึกรายงานการประชุมไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง และเสนอให้ที่ประชุมรับรองในการประชุมครั้งต่อไป
Annual Report 2023 81 81 ข้อ 39. ตราของกลุ่มให้มีรูปลักษณะดังนี้ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา เบ็ดเตล็ด ข้อ 40. ตราของกลุ่มตามที่กำ หนดในข้อ 39. เป็นกรรมสิทธิ์ของสภา ซึ่งอนุญาตให้กลุ่มใช้ตราดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ ตราประทับ หรือเพื่อ การใดๆ อันเป็นประโยชน์ของกลุ่มได้ทั้งนี้จะต้องไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและระเบียบข้อบังคับของสภา และมติของ คณะกรรมการสภา ข้อ 41. ในกรณีที่มีปัญหาการตีความข้อบังคับนี้ให้เป็นอำ นาจหน้าที่ของคณะกรรมการสภาเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด คำ วินิจฉัยดังกล่าวถือเป็นที่สุด บทเฉพาะกาล ข้อ 42. สมาชิกกลุ่มที่เป็นสมาชิกกลุ่มอยู่ก่อนวันที่ข้อบังคับนี้ประกาศใช้บังคับให้เป็นสมาชิกกลุ่มตามข้อบังคับนี้เว้นแต่คณะกรรมการสภาจะมี มติเป็นอย่างอื่น ให้ไว้ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์2566 ลงชื่อ (นายจีรทัศน์ แจ่มไพบูลย์) ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา
82 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 82 เพื่อเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนกิจการของสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อส่งเสริม ความสัมพันธ์อันดีในระหว่างหมู่สมาชิก คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีมติเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2532 ให้จัดตั้งสภาอุตสาหกรรม จังหวัดฉะเชิงเทรา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา มีความสามารถดำ เนินกิจกรรมหรือทำ นิติกรรมใดๆ ในนามของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ภายใต้การควบคุมและรับผิดชอบของคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยไม่มีผลผูกพันสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยทางกฎหมาย แต่อย่างใดทั้งสิ้น เพื่อให้กิจการของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำ เนินไปโดยเรียบร้อย ที่ประชุมสมาชิกสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงพิจารณา เห็นสมควรให้มีข้อบังคับดังต่อไปนี้ ข้อ 1. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ฉบับที่ 2 ว่าด้วยการเลือกตั้งคณะกรรมการกลุ่ม การประชุม และดำ เนินกิจการของคณะกรรมการกลุ่ม” ข้อ 2. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์2543 เป็นต้นไป ข้อ 3. ในข้อบังคับนี้ “สภา” หมายถึง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย “คณะกรรมการสภา” หมายถึง คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย “กลุ่ม” หมายถึง สภาอุตสาหกรรม จังหวัดฉะเชิงเทรา The Federation of Thai Industries, Chachoengsao Chapter “คณะกรรมการกลุ่ม” หมายถึง คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา “สมาชิกกลุ่ม” หมายถึง สมาชิกของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา “ประธานกลุ่ม” หมายถึง ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา Chairman of Chachoengsao Chapter, The Federation of Thai Industries ข้อความทั่วไป ข้อ 4. เพื่อดำ เนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกลุ่ม ให้ที่ประชุมใหญ่ของกลุ่มเลือกคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า คณะกรรมการกลุ่ม จากผู้แทนสมาชิกสามัญ มีจำ นวนกรรมการตามที่ที่ประชุมใหญ่ของกลุ่มจะกำ หนด แต่ต้องไม่น้อยกว่าห้าคน ข้อ 5. ให้คณะกรรมการกลุ่มตามข้อ 4 เลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานกลุ่มและให้ประธานกลุ่มเลือกกรรมการคนอื่นจากคณะกรรมการกลุ่ม มีจำ นวนตามที่ประธานกลุ่มจะกำ หนดแต่ไม่น้อยกว่าห้าคน เพื่อเป็นรองประธานกลุ่ม เลขาธิการกลุ่ม และตำ แหน่งอื่นตามที่ประธานกลุ่มจะเห็น สมควร เฉพาะคณะกรรมการกลุ่มชุดแรก หากวาระของคณะกรรมการสภาจะสิ้นสุดลงภายในเวลาตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป นับแต่วันที่คณะกรรมการกลุ่ม ชุดแรกได้รับเลือกตั้ง ให้วาระของคณะกรรมการชุดแรกสิ้นสุดลงพร้อมกับวาระของคณะกรรมการสภาในคราวครบวาระที่จะถึง แต่ถ้าวาระของคณะกรรมการสภา จะสิ้นสุดลงภายในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันที่คณะกรรมการกลุ่มชุดแรกได้รับเลือกตั้ง ให้วาระของคณะกรรมการกลุ่มชุดแรกสิ้นสุดลงพร้อมกับวาระ ของคณะกรรมการสภาที่จะครบวาระถัดจากการครบวาระในคราวที่จะถึง กรรมการกลุ่มมีวาระอยู่ในตำ แหน่งคราวละสองปีกรรมการกลุ่มที่ดำ รงตำ แหน่ง ตามวรรคหนึ่งและกรรมการอื่นเมื่อครบวาระแล้วจะรับเลือกกลับเข้ามาดำ รงตำ แหน่งอีกก็ได้ ทั้งนี้เว้นแต่ตำ แหน่งประธานกลุ่มจะดำ รงตำ แหน่งประธาน กลุ่มติดต่อกันเกินสองวาระมิได้ ประธานกลุ่มซึ่งดำ รงตำ แหน่งอยู่ในวันที่ข้อบังคับนี้เริ่มมีผลบังคับใช้ ให้นับวาระซึ่งกำ ลังดำ รงตำ แหน่งอยู่นั้นเป็น วาระแรก สมาชิกสามัญรายหนึ่งมีผู้แทนเป็นกรรมการกลุ่มได้เพียงคนเดียว ข้อ 6. ให้คณะกรรมการกลุ่มเลือกกรรมการกลุ่มคนหนึ่งเป็นผู้แทนของกลุ่มเพื่อเสนอเข้ารับการพิจารณาแต่งตั้งเป็นกรรมการประเภทแต่งตั้ง ของสภาตามข้อบังคับของสภา กรรมการกลุ่มที่ได้รับเลือกเป็นผู้แทนของกลุ่มเพื่อเป็นกรรมการประเภทแต่งตั้งของสภาตามวรรคหนึ่ง ย่อมพ้นจากการเป็นผู้แทนของกลุ่มเมื่อ กรรมการคนนั้นพ้นจากตำ แหน่งกรรมการกลุ่ม ข้อ 7. ห้ามผู้แทนสมาชิกสามัญผู้มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้เป็นกรรมการกลุ่ม (1) เป็นพนักงานของสภาหรือกลุ่ม (2) เป็นบุคคลล้มละลาย (3) เป็นข้าราชการประจำ หรือข้าราชการการเมือง (4) เป็นบุคคลวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ฉบับที่ 2 ว่าด้วย การเลือกตั้งคณะกรรมการกลุ่ม การประชุมและ ดำ เนินกิจการของคณะกรรมการกลุ่ม
Annual Report 2023 83 83 (5) เคยต้องโทษจำ คุกโดยคำ พิพากษาถึงที่สุดหรือคำ สั่งที่ชอบด้วยกฎหมายให้จำ คุก เว้นแต่ในความผิดที่กระทำาโดยประมาทหรือ ความผิดลหุโทษ ข้อ 8. กรรมการกลุ่มพ้นจากตำ แหน่งเมื่อ (1) ออกตามวาระ (2) ตาย (3) ลาออก (4) ที่ประชุมใหญ่ของกลุ่มมีมติให้ออกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำ นวนสมาชิกสามัญที่มาประชุม (5) ขาดการประชุมคณะกรรมการกลุ่มสามครั้งติดต่อกันโดยมิได้ลาการประชุม เว้นแต่คณะกรรมการกลุ่มมีมติให้ดำารงตำาแหน่งต่อไปได้ (4) พ้นจากตำ แหน่งผู้แทนสมาชิกสามัญ หรือสมาชิกสามัญนั้นพ้นจากการเป็นสมาชิกกลุ่มหรือสมาชิกของสภา (5) มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 7 (6) คณะกรรมการสภามีมติให้พ้นจากตำ แหน่ง ข้อ 9. เมื่อประธานกลุ่มพ้นจากตำ แหน่งก่อนวาระ ให้รองประธานกลุ่มเป็นประธานกลุ่มแทน และให้อยู่ในตำ แหน่งได้เพียงเท่าวาระที่ยัง เหลืออยู่ของประธานกลุ่มซึ่งตนแทน ข้อ 10. เมื่อกรรมการกลุ่มพ้นจากตำาแหน่งก่อนวาระและวาระของกรรมการผู้นั้นเหลือไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวัน ให้คณะกรรมการกลุ่มเลือก ผู้แทนสมาชิกสามัญเป็นกรรมการกลุ่มแทนภายในสามสิบวัน และให้อยู่ในตำ แหน่งได้เพียงเท่าวาระที่ยังเหลืออยู่ของกรรมการกลุ่มซึ่งตนแทน ข้อ 11. เมื่อคณะกรรมการกลุ่มทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งนอกจากการพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะเพราะคณะกรรมการสภาสั่งให้พ้นจากตำแหน่งตามข้อบังคับ สภา ให้คณะกรรมการกลุ่มที่พ้นจากตำ แหน่งยังคงรักษาการในตำ แหน่ง เพื่อดำ เนินกิจการของกลุ่มต่อไปเท่าที่จำ เป็น จนกว่าคณะกรรมการกลุ่มชุดใหม่ เข้ารับหน้าที่ คณะกรรมการกลุ่มที่พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะตามวรรคหนึ่งต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่ของกลุ่มเพื่อเลือกผู้แทนสมาชิกสามัญเข้าเป็นกรรมการกลุ่ม ตามข้อ 4 ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พ้นจากตำ แหน่ง ข้อ 12. ในกรณีที่ตำ แหน่งกรรมการกลุ่มว่างลงจนเหลือจำ นวนน้อยกว่าจำ นวนที่เป็นองค์ประชุมตามหมวดว่าด้วยการประชุมและการดำ เนิน กิจการของคณะกรรมการกลุ่มและตามข้อบังคับของกลุ่มว่าด้วยการประชุมใหญ่ ให้คณะกรรมการกลุ่มที่เหลืออยู่กระทำ การในนามของคณะกรรมการกลุ่ม ต่อไปได้แต่เฉพาะการจัดให้มีการประชุมใหญ่ของกลุ่มเพื่อเลือกตั้งผู้แทนสมาชิกสามัญเป็นกรรมการกลุ่มแทนตามข้อ 10 และการจัดให้มีการประชุมใหญ่ ของกลุ่ม ข้อ 13. ให้คณะกรรมการกลุ่มมอบหมายหน้าที่ให้แก่คณะกรรมการกลุ่มชุดใหม่ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ดำ เนินการตามข้อ 4 เสร็จเรียบร้อย แล้ว และให้คณะกรรมการกลุ่มชุดใหม่แจ้งรายชื่อคณะกรรมการกลุ่มชุดใหม่ให้สภาทราบเป็นหนังสือ ข้อ 14. การประชุมและการดำ เนินกิจการของคณะกรรมการกลุ่มให้เป็นไปตามหมวดว่าด้วยการประชุมและการดำ เนินกิจการของคณะกรรมการ กลุ่ม และข้อบังคับของกลุ่มว่าด้วยการประชุมใหญ่ การประชุมและการดำ เนินกิจการของคณะกรรมการกลุ่ม ข้อ 15. คณะกรรมการกลุ่มมีอำ นาจหน้าที่วางนโยบายดำ เนินงานของกลุ่มภายใต้ขอบเขตหน้าที่และวัตถุประสงค์ของกลุ่ม รวมทั้งรับผิดชอบ ในความผิดต่างๆ ตามนิติกรรมสัญญาและกฎหมายที่กลุ่มเข้าผูกพันแยกต่างหากจากสภา รวมทั้งให้มีอำ นาจออกระเบียบในเรื่องอื่นใดที่จำ เป็นต่อการ ดำ เนินงานเกี่ยวกับกิจการของกลุ่ม แต่ทั้งนี้ระเบียบดังกล่าวจะต้องไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายว่าด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ข้อบังคับสภา ข้อบังคับของกลุ่มที่สภากำ หนดหรือที่สภาจะแก้ไขเพิ่มเติมหรือกำ หนดขึ้นใหม่ในอนาคตและมติของคณะกรรมการสภาโดยต้องได้รับอนุมัติจาก ที่ประชุมใหญ่ของกลุ่ม ข้อ 16. คณะกรรมการกลุ่มมีอำ นาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำ งานของกลุ่มเพื่อพิจารณา หรือกระทำ กิจการเฉพาะอย่าง อันอยู่ ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์ของกลุ่มและภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการกลุ่ม คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำ งานของกลุ่มตามวรรคหนึ่งจะแต่งตั้งจากสมาชิกกลุ่มหรือบุคคลภายนอกที่คณะกรรมการกลุ่มจะเห็น เหมาะสมได้และให้อยู่ในตำ แหน่งได้เพียงเท่าที่คณะกรรมการกลุ่มกำ หนด ซึ่งต้องไม่เกินกว่าวาระของคณะกรรมการกลุ่มชุดที่แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำ งานนี้ การประชุมคณะอนุกรรมการหรือคณะทำ งานให้ใช้ข้อ 17 และ 18 โดยอนุโลม เว้นแต่คณะกรรมการกลุ่มจะกำ หนดไว้เป็นอย่างอื่น ข้อ 17. การประชุมคณะกรรมการกลุ่มให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกลุ่มจะเห็นสมควร แต่ต้องไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้งทุกสามเดือน ข้อ 18. การประชุมคณะกรรมการกลุ่มต้องมีกรรมการกลุ่มมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำ นวนกรรมการกลุ่มทั้งหมด จึงจะเป็น องค์ประชุม ให้ประธานกลุ่มเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกลุ่มไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกลุ่มเป็นประธานในที่ ประชุม ถ้าประธานกลุ่มหรือรองประธานกลุ่มหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนตามข้อ 20 ไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้คณะกรรมการกลุ่ม เลือกกรรมการกลุ่มคนหนึ่งทำ หน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือตามเสียงข้างมาก กรรมการกลุ่มคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด ในการประชุมคณะกรรมการกลุ่ม ถ้ามีการพิจารณาเรื่องใดที่ตัวกรรมการกลุ่มและ/หรือสมาชิกกลุ่มที่กรรมการคนนั้นเป็นตัวแทนมีส่วนได้เสีย กรรมการกลุ่มคนนั้นมีสิทธิชี้แจงเรื่องนั้นแต่ไม่มีสิทธิออกเสียง
84 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 84 กรรมการกลุ่มอาจมอบหมายให้ผู้อื่นมาประชุมและออกเสียงแทนตนได้โดยต้องนำาหนังสือมอบอำานาจมาแสดงต่อประธานในที่ประชุมก่อนเริ่ม การประชุม ข้อ 19. ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ประธานกลุ่มเป็นผู้แทนของกลุ่ม ประธานกลุ่มจะแต่งตั้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือหลายคนและไม่ว่าจะเป็นสมาชิกของกลุ่มหรือไม่ก็ตาม ให้ไปดำ เนินการแทนในกิจการ ที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอกตามวรรคหนึ่งก็ได้ ข้อ 20. ถ้าประธานกลุ่มไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นการชั่วคราว ให้รองประธานกลุ่มเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน แต่ถ้ารองประธานกลุ่ม ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้คณะกรรมการกลุ่มเลือกกรรมการกลุ่มคนหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนไปพลางก่อน บทเฉพาะกาล ข้อ 21. กลุ่มที่ได้จัดตั้งขึ้นก่อนวันที่ที่ประชุมใหญ่ของกลุ่มมีมติให้ใช้ข้อบังคับของกลุ่มตามแบบที่สภากำ หนด ให้คณะกรรมการกลุ่มชุดดังกล่าว ยังคงเป็นคณะกรรมการกลุ่มต่อไปโดยให้นำ ความในข้อ 5 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ให้ไว้ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์2543 ลงชื่อ (นายสุรศักดิ์น้อยใจบุญ) ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา
Annual Report 2023 85 85 ฉบับที่ 3 ว่าด้วย ค่าลงทะเบียน ค่าบำรุง และค่าบริการ เพื่อให้กิจการของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทราดำ เนินไปโดยเรียบร้อย ที่ประชุมสมาชิกสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงพิจารณา เห็นสมควรให้มีข้อบังคับดังต่อไปนี้ ข้อ 1. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ฉบับที่ 3 ว่าด้วยค่าลงทะเบียน ค่าบำ รุง และค่าบริการ” ข้อ 2. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2549 เป็นต้นไป ข้อ 3. ในข้อบังคับนี้ “สภา” หมายถึง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย “คณะกรรมการกลุ่ม” หมายถึง คณะกรรมการของสภาอุตสาหกรรม จังหวัดฉะเชิงเทรา “ค่าลงทะเบียน” หมายถึง เงินที่ผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มจะต้องชำ ระให้แก่กลุ่มเมื่อ ได้รับอนุมัติให้เข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม “ค่าบำ รุง” หมายถึง เงินบำารุงประจำาปีที่สมาชิกกลุ่มจะต้องชำาระให้แก่กลุ่มเป็นประจำาทุกปี โดยต้องชำ ระภายในเดือนมกราคมของทุกปีสำ หรับปีแรกที่เข้า เป็นสมาชิกกลุ่มให้ชำาระตามส่วนของระยะเวลาที่เป็นสมาชิกกลุ่ม โดยคำ นวณเป็นรายไตรมาสและชำ ระพร้อมกับค่าลงทะเบียน ข้อ 4. คณะกรรมการกลุ่มมีอำ นาจกำ หนดอัตราค่าลงทะเบียนและค่าบำ รุงได้โดยต้องไม่เกินอัตราค่าลงทะเบียนและค่าบำ รุงตามข้อบังคับ ของสภาฯ อัตราค่าลงทะเบียนและค่าบำ รุงให้เป็นดังนี้ 4.1 สมาชิกสามัญ - ค่าบำ รุงประจำ ปีเป็นเงิน 2,000 บาท 4.1.1 เป็นนิติบุคล - ค่าบำ รุงประจำ ปีเป็นเงิน 2,000 บาท 4.1.2 เป็นสมาคมการค้า คิดตามจำ นวนสมาชิกของสมาคมนั้นๆ โดย - มีสมาชิกไม่เกิน 50 ราย ค่าบำ รุง 2,000 บาทต่อปี - มีสมาชิกตั้งแต่ 50 รายขึ้นไป ค่าบำ รุง 2,000 บาทต่อปี 4.2 สมาชิกสมทบ 4.2.1 เป็นนิติบุคคล - ค่าบำ รุงประจำ ปีเป็นเงินรายละ 2,000 บาท 4.2.2 เป็นบุคคลธรรมดา - ค่าบำ รุงประจำ ปีเป็นเงินรายละ 2,000 บาท ข้อ 5. คณะกรรมการกลุ่มอาจพิจารณาปรับปรุงค่าลงทะเบียนและค่าบำ รุงตามข้อ 4 ได้ โดยคำ นึงถึงสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ ที่เหมาะสม การปรับปรุงค่าลงทะเบียนและค่าบำ รุงดังกล่าวต้องกระทำ ห่างกันไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่การปรับปรุงครั้งหลังสุด และให้เพิ่มขึ้นได้ไม่เกิน ร้อยละหกสิบของอัตราค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่การปรับปรุงค่าลงทะเบียนและค่าบำ รุงครั้งหลังสุด โดยนำ ดัชนีราคาผู้บริโภคของกระทรวงพาณิชย์ เป็นหลักในการคำ นวณ โดยต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ของกลุ่ม ข้อ 6. อัตราค่าลงทะเบียนและค่าบำ รุงตามข้อ 4 และ/หรือ ที่ได้มีการปรับปรุงตามข้อ 5 จะต้องเป็นจำ นวนไม่เกินอัตราค่าลงทะเบียนและ ค่าบำ รุงของสภาที่มีผลใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น ให้ไว้ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์2549 ลงชื่อ (นางสาวอรพินท์เสริมประภาศิลป์) ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา
86 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 86 ฉบับที่ 4 ว่าด้วย การบัญชีและการเงิน เพื่อให้กิจการของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ดำ เนินไปโดยความเรียบร้อย ที่ประชุมสมาชิกสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงพิจารณาเห็นสมควรให้มีข้อบังคับดังต่อไปนี้ ข้อ 1. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ฉบับที่ 4 ว่าด้วยการบัญชีและการเงิน” ข้อ 2. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์2541 เป็นต้นไป ข้อ 3. ในข้อบังคับนี้ “กลุ่ม” หมายถึง สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา The Federation of Thai Industries, Chachoengsao Chapter “คณะกรรมการกลุ่ม” หมายถึง คณะกรรมการของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา “ประธานกลุ่ม” หมายถึง ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา Chairman of Chachoengsao Chapter, The Federation of Thai Industries “เหรัญญิกกลุ่ม” หมายถึง เหรัญญิกของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา “การบัญชี” หมายถึง การบันทึกรายการทางการเงิน ตลอดจนลูกหนี้ เจ้าหนี้และทรัพย์สิน ต่าง ๆ ของกลุ่ม ไว้เป็นหลักฐานว่าได้มีการรับ จ่าย โอน เพิ่ม ลดรายการทางการเงินหรือสิ่งที่มีค่าแทนตัวเงิน รวมทั้งภาระผูกพันด้านลูกหนี้ เจ้าหนี้ เป็นอย่างไร “การเงิน” หมายถึง การรับหรือจ่ายเงินหรือสิ่งที่มีค่าแทนตัวเงินของกลุ่มเพื่อให้เป็นไปตาม วัตถุประสงค์ของกลุ่มและตามข้อบังคับนี้ การบัญชีและการเงิน ข้อ 4. ให้รอบระยะเวลาบัญชีของกลุ่มเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม และสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี สำ หรับกลุ่มที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ให้รอบระยะเวลาบัญชีของปีแรกสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคมของปีที่จัดตั้งกลุ่ม ข้อ 5. คณะกรรมการกลุ่มเป็นผู้กำ หนด ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการบัญชีและการเงินให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีที่ รับรองทั่วไป และมีการควบคุมภายในที่ดี ข้อ 6. คณะกรรมการกลุ่มเป็นผู้กำ หนด (1) ให้ฝากเงินของกลุ่มในธนาคารหนึ่งธนาคารใดหรือสถาบันการเงินอื่นใดที่มีธนาคารพาณิชย์ค้ำ ประกันหรือซื้อตั๋วแลกเงินที่มี รัฐบาลให้การค้ำ ประกัน (2) การเปิดหรือปิดบัญชีของธนาคารหนึ่งธนาคารใดหรือสถาบันการเงินอื่นใด (3) ผู้มีอำ นาจลงลายมือชื่อในการเบิกจ่ายเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นใด ข้อ 7. ให้เหรัญญิกกลุ่มหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายมีอำ นาจในการตรวจสอบการเงินและการบัญชีของกลุ่มให้เป็นไปตามนโยบายที่คณะกรรมการ กลุ่มกำาหนด ข้อ 8. เหรัญญิกกลุ่มหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายมีหน้าที่เสนอรายงานแสดงฐานะการเงินต่อคณะกรรมการกลุ่มทุกเดือน ข้อ 9. เหรัญญิกกลุ่มหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายมีหน้าที่เสนอรายงานของผู้สอบบัญชีพร้อมด้วยงบการเงินประจำ ปีที่แสดงให้ทราบฐานะ การเงิน และผลการดำ เนินงานในรอบระยะเวลาบัญชีที่ผ่านมาให้คณะกรรมการกลุ่มและสมาชิกกลุ่มทราบก่อนวันประชุมสามัญประจำ ปีไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน การตรวจสอบบัญชี ข้อ 10. การตรวจสอบบัญชีให้เป็นหน้าที่ของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งที่ประชุมใหญ่ของกลุ่มเลือกตั้งทุกปี ข้อ 11. ผู้สอบบัญชีมีอำ นาจกระทำ การได้ดังนี้ (1) ตรวจสอบบัญชีเอกสาร และหลักฐานต่างๆ ตามมาตรฐานการสอบบัญชีในระหว่างเวลาอันสมควร (2) สอบถามกรรมการกลุ่ม ให้ไว้ณ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2543 ลงชื่อ (นายสุรศักดิ์น้อยใจบุญ) ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา
Annual Report 2023 87 87 §º¡ÒÃà§Ô¹ ÊÓËÃѺÃͺÃÐÂÐàÇÅÒºÑÞªÕ Êӹѡ§Ò¹ºÑÞªÕáÅС®ËÁÒÂÊØÇÔ¹·Ç§È SUWINTAWONG ACCOUNTING AND LAW ASSOCIATES สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้้�งแต่่วันที่่� 1 มกราคม 2566 ถึึงเพี ั ยงสิ้้�นวั ี นที่่� 31 ธั ั ันวาคม 2566
88 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 88
Annual Report 2023 89 89
90 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 90
Annual Report 2023 91 91
92 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 92
Annual Report 2023 93 93
94 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 94
Annual Report 2023 95 95
96 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 96
Annual Report 2023 97 97
98 The Federation of Thai Industries Chachoengsao Chapter 98 1 สน3750 บริษัท กุลธรเคอร์บี้เฟาน์ดรี่ จำกัด 1 คุณสุนทร พ่วงสีนวล - ผลิตชิ้นส่วนเหล็กหล่อ ที่อยู่ : เลขที่ 1 หมู่ 22 ถนนสุวินทวงศ์ 2 คุณสุระ ตะเพียนทอง ตำ บลศาลาแดง อำ เภอบางน้ำ เปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 3 คุณพนมพร ม่วงหุ้มทรัพย์ โทร. 0-3859-3016-9 แฟกซ์. 0-3859-3015 E-mail : [email protected] 2 สน5844 บริษัท กุลธรแมททีเรียลส์แอนด์คอนโทรลส์จำกัด 1 คุณอานนท์ สิมะกุลธร - ผลิตลวดทองแดงเคลือบน้ำยา ที่อยู่ : เลขที่ 1/2 หมู่ 22 ถนนสุวินทวงศ์ตำ บลศาลาแดง 2 คุณวันเพ็ญ บุญพรม และเทอร์โมสตาร์ท อำ เภอบางน้ำ เปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 3 คุณนงลักษณ์ ประเมติยาโน โทร. 0-3859-3030-3 แฟกซ์. 0-3859-3028 E-mail : [email protected] 3 สน14584 บริษัท กระจกลวดลายไทย จำกัด 1 คุณวีรยศ จุฬเกตุ - ผลิตกระจก ที่อยู่ : เลขที่ 83 หมู่ 5 ถนนเกษมจาติกวณิช ตำ บลท่าข้าม 2 คุณมงคล เตชะจงเจริญ อำ เภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24130 3 คุณณรงค์ฤทธิ์ พานิชชีวะ โทร. 038-573913-6 แฟกซ์. 038-573923 E-mail : [email protected] 4 สน8439 บริษัท คาร์โก้เคมีเคิล จำกัด 1 คุณสันธรัชต์ มนุญากร - ทินเนอร์น้ำ มันผสมสีแล็กเกอร์ ที่อยู่ : เลขที่ 79/2 หมู่ 4 ตำ บลเทพราช อำ เภอบ้านโพธิ์จังหวัดฉะเชิงเทรา 24140 โทร. 0-3859-5508-9 แฟกซ์. 0-3809-0741 E-mail : [email protected] 5 สน6340 บริษัท เคแอลเค อินดัสตรีจำกัด 1 คุณสมชาย กังวารจิตติ์ - ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่อยู่ : เลขที่ 20/3/1 หมู่ 3 ตำ บลคลองอุดมชลจร 2 คุณสถาพร กิจบำรุง อำ เภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 3 คุณวศิน โพธิ์ไทรงาม โทร. 0-3884-5441-44 แฟกซ์. 0-3884-5445, 0-2914-0425 E-mail : center@klk,co.th 6 สน149 บริษัท จรุงไทยไวร์แอนด์เคเบิ้ล จำกัด (มหาชน) 1 คุณฉลอง จันทวงษ์ - อลูมิเนียม ทองแดง ที่อยู่ : เลขที่ 35/1 หมู่ 22 ถนนสุวินทวงศ์ตำ บลศาลาแดง - สายโทรศัพท์ อำ เภอบางน้ำ เปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 โทร. 0-3859-3401 แฟกซ์. 0-3859-3400 E-mail : [email protected] 7 สน4690 บริษัท จิตตานิช แปดริ้ว จำกัด 1 คุณคงศักดิ์ จิตตาณิชย์ - ไอศกรีม ที่อยู่ : เลขที่ 11 ถนนสุวินทวงศ์ตำ บลหน้าเมือง 2 คุณวรเชษฐ์ จิตตาณิชย์ อำ เภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 3 คุณเรณู จิตตาณิชย์ โทร. 0-3851-1727 แฟกซ์. 0-3851-1286 E-mail : [email protected] 8 สน6467 บริษัท แจ่มไพบูลย์แก๊ส จำกัด 1 คุณจีรทัศน์ แจ่มไพบูลย์ - บรรจุและจำ หน่ายก๊าซหุงต้ม ที่อยู่ : เลขที่ 1 หมู่ 7 ถนนสถานีรถไฟ-บางน้ำ เปรี้ยว 2 คุณเจนภพ แจ่มไพบูลย์ ตำ บลบางขนาก อำ เภอบางน้ำ เปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา 24150 3 คุณจีราภรณ์ แจ่มไพบูลย์ โทร. 0-3858-1318 แฟกซ์. 0-3852-4110 E-mail : [email protected] 9 สน1809 บริษัท ชาร์พ แอพพลายแอนซ์(ประเทศไทย) จำกัด 1 คุณสยาม กาญจนเกรียงไกร - เตาไมโครเวฟ ที่อยู่ : เลขที่ 64 หมู่ 5 ถนนบางนา-ตราด กม.37 ตำ บลบางสมัคร 2 คุณอภิพงษ์ ขำ ภิบาล - เครื่องโทรสาร อำ เภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24130 3 คุณยุทธการ แพรดำ - เครื่องปรับอากาศ โทร. 0-3884-2148 แฟกซ์. 0-3853-8662-3 - ตู้เย็น E-mail : [email protected] - เครื่องฟอกอากาศ 10 สน8630 บริษัท ชาลีเอสพีซีจำกัด 1 คุณวชิรศักดิ์ อรรจนานนท์ - ปุ๋ยเคมี ที่อยู่ เลขที่ 62 หมู่ 3 ถนนศุขประยูร ตำ บลหนองตีนนก อำ เภอบ้านโพธิ์จังหวัดฉะเชิงเทรา 24140 โทร. 0-3858-8655 แฟกซ์. 0-3858-8656 กด 110 E-mail : [email protected] 11 สน8783 บริษัท ซี.บี.พลาสติก จำกัด 1 คุณบัญชา นีซัง - ร้บจ้างพ่นสีแผ่นป้ายพลาสติก ที่อยู่ : เลขที่ 45/1 หมู่ 21 ตำ บลศาลาแดง 2 คุณลลดา มิลินธนพร อำ เภอบางน้ำ เปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 3 คุณทวีศักดิ์ อุไรวงษ์ โทร. 0-3884-5304 แฟกซ์. 0-3884-5906 E-mail : [email protected],[email protected] 12 สน9094 บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 1 คุณวิมล อัจจิมากุล - แปรรูปอาหาร ที่อยู่ : เลขที่ 26/2 หมู่ 7 ถนนสุวินทวงศ์ตำ บลคลองนครเนื่องเขต 2 คุณสุพจน์ ธาดาจันทร์ อำ เภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 3 คุณอัมพร อัมพรพุทธิสกุล โทร. 0-3859-3684 แฟกซ์. 0-3859-3687 E-mail : [email protected] 13 สน103 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด (บ้านโพธิ์) 1 คุณสินชัย สกุลบริสุทธิ์สุข - รถยนต์โตโยต้า ที่อยู่ : เลขที่ 99 หมู่ 2 ตำ บลลาดขวาง 2 คุณศิริพงศ์ โพธลักษณ์ อำ เภอบ้านโพธิ์จังหวัดฉะเชิงเทรา 24140 3 คุณพิเชษฐ์ วัชรเสถียรพงศ์ โทร. 0-3812-2000 แฟกซ์. 0-3812-2202 E-mail : [email protected] 14 สน8365 บริษัท ทั้งฮั่วซิน พริ้นติ้งเน็ทเวอร์ค จำกัด 1 คุณพีระพงษ์ ทังเกษมวัฒนา - ผลิตกล่องกระดาษ ที่อยู่ : เลขที่ 128 หมู่ 5 นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ถนนบางนา-ตราด 2 คุณพิมพ์พันธุ์ ทังเกษมวัฒนา ตำ บลบางสมัคร อำ เภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24130 3 คุณมานะ อัศวางกูร โทร. 0-3884-2864-71 แฟกซ์. 0-3884-2872-3 E-mail : [email protected] ทำาเนียบสมาชิกสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ เลขที่ ชื่อสมาชิก ผู้แทนกลุ่มฯ ฉะเชิงเทรา ผลิตภัณฑ์หลัก