The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-03-02 10:16:13

คู่มือท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง

EE1FE609-F733-4780-BCDA-7777ACA1ADF3

คู่ มื อ ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว

PHATTHALUNG

กิน ล่อง ท่องเที่ยว

โ ด ย โ จ น า ธ า น แ พ ต เ ต อ ร์ สั น

คำนำ





คู่มือการการท่องเที่ยวเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลของสถานที่ท่อง
เที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดพัทลุงโดยคณะผู้จัดทำได้รวบรวมภาพที่เป็นจุด
เด่นของสถานที่มาใส่ลงในคู่มือเพื่อดึงดูดให้ผู้ที่สนใจในการเดินทางท่อง
เที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในสถานที่นั้นๆ
คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจใน
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในจังหวัดพัทลุง หากเกิดข้อผิดพลาด
ประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย



ณัฏฐา ลุ้งบ้าน

สารบัญ

แผนที่จังหวัดพัทลุง 1

เขาอกทะลุ 2-3

น้ำตกหนานหรูด 4-6

สวนไผ่ขวัญ 7

ล่องแก่งหนานมดแดง 8

ดอกไม้/ต้นไม้ประจำหวัด 9

อ่าวเก็บน้ำห้วยน้ำใส 10-11

สัตว์ประจำจังหวัด 12

ตลาดนัดต้นไม้ชายคลอง 13

การแฟในสวนบ้านพน 14

ทะเลน้อย 15-16

น้ำตกมโนราห์ 17

ซาโตว์เดอแอนนี้ 18-19

ตราประจำจังหวัด 20

ควายน้อย 21

คลองปากประ 22

อ่าวเก็บน้ำเขาหัวช้าง 23-24

น้ำตกปากราง 25

วัดถ้ำสุมะโนพัทลุง 26-27

สำเภาไทย 28

บ่อน้ำร้อน เขาชัยสนพัทลุง 29-30

น้ำตกไพรวัลย์ 31

ของฝากประจำจังหวัด 32-33

The cape คาเฟ่พัทลุง 34

ควนน้อยแกรนด์แคนยอน 35

โรงคั่วบ้านป่าร้านกาแฟลับ 36

บ้านต้นไม้ร้อนหวัน 37-38

การเดินทางไปยังพัทลุง39

บรรณานุกรม 40

แ ผ น ที่ จั ง ห วั ด พั ท ลุ ง

จังหวัดพัทลุง ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่ งตะวันออกของแหลมมลายู หรือ แหลมทอง (Golden Khersonese) ซึ่ง
ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยหรือฝั่ งตะวันตกของลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา (Songkhla Lake Basin)
โดยตั้งอยู่บริเวณเส้นรุ้ง (latitude) ที่ 7 องศา 5 ลิปดา ถึง 7 องศา 55 ลิปดา เหนือ และเส้นแวง
(longtitude) ที่ 99 องศา 44 ลิปดา ถึง 100 องศา 25 ลิปดา ตะวันออก อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร
ตามเส้นทางรถไฟ สายใต้ประมาณ 846 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ประมาณ 856
กิโลเมตร หรือตามทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ประมาณ 1,200 กิโลเมตร มีรูปร่าง

ลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมีส่วน กว้างที่สุดตามแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก ประมาณ 56 กิโลเมตร
และส่วนยาวที่สุดตามแนวทิศเหนือ-ใต้ ประมาณ 83 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 3,424.473

ตารางกิโลเมตร หรือ 2,140,295.60 ไร่ เป็นพื้นดิน 1,919,446 ไร่ และเป็นพื้นน้ำ 220,850 ไร่ (กรม
แผนที่ทหาร 2534 ; กรมการปกครอง, 2541) นับเป็นจังหวัด ที่มีเนื้อที่มากเป็นอันดับที่ 10 ของภาคใต้

และเป็นอันดับที่ 58 ของประเทศไทย





จังหวัดเล็ก ๆที่รายล้อมไปด้วยจังหวัด
ใหญ่ แต่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย

ทรัพยากรธรรมชาติ ศิ ลปะ วัฒนธรรม

เขาอกทะลุ

เขาอกทะลุ

เขาอกทะลุ เป็ นสั ญลั กษณ์ ของจั งหวั ดพั ทลุ ง อยู่ ทางตะวั นออกของสถานี รถไฟพั ทลุ ง ลั กษณะ
เป็ นเขาสู งโดดเด่ นเห็ นได้ ชั ด จุ ดเด่ นของเขาลู กนี้ คื อบริ เวณเกื อบตอนปลายของยอดเขามี

โพรงถ้ำทะลุ ออกไปยั งอี กด้ านหนึ่ งเมื่ อขึ้ นไปถึ งด้ านบนสามารถชมทิ วทั ศน์ เบื้ องล่ างผ่ านโพรง
ถ้ำนี้ ได้ หากเดิ นทางตามเส้ นทางไปหาดลำปำจะมองเห็ นโพรงนี้ ได้ อย่ างชั ดเจนเขาอกทะลุ มี

ทางเดิ นขึ้ นเขาเป็ นบั นไดคอนกรี ตมี ความสู งรวมประมาณ 250 เมตร

น้ำตกหน

านหรูด

น้ำตกหนานหรูด พั ทลุงเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ใส
สะอาด เย็นสดชื่น ปลอดภัย สวยงาม เดินทางสะดวก

น้ำตกหนานหรูด เป็นน้ำตกที่สวยงาม น้ำใสสะอาด
บรรยากาศร่มรื่น น่าเล่นน้ำมากๆ ปลอดภัยทั้งกับผู้ใหญ่
และ เด็กๆ สไลเดอร์ธรรมชาติ สามารถ เเวะไปเล่นน้ำได้ที่นี้

เป็นอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจ
พิ กัดของน้ำตก อยู่ที่ ม.2 บ้านคลองหรั่ง ต.คลองทราย
ขาว อ.กงหรา จ.พั ทลุง เดินทางสะดวก อยู่ห่างจากลานที่

จอดรถของควนนกเต้นประมาณ 100 เมตร



ล่องแก่งหนานมดแดง ตั้งอยู่ใน อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพั ทลุง เป็นที่
เที่ยวผจญภัยสุดฮิตของจังหวัดเลยค่ะ ที่ไม่ว่าใครไปเที่ยวพั ทลุงก็ต้องไม่
พลาดไปล่องแก่งที่หนานมดแดง แต่ที่นี่ไม่จำเป็นต้องมาเฉพาะในช่วงนี้หน้า

ฝนเท่านั้นค่ะ ความสนุกจัดเต็มนั้น มีได้ทุกฤดูกาลค่ะ เพราะที่นี่เที่ยวได้
ตลอดทั้งปีเลยค่ะ

ล่องแก่งหนานมดแดง นี้ เกิดขึ้นจาก คุณโยธิน เขาไข่แก้ว ที่ได้ริเริ่มให้
กับชาวบ้านในการสร้างกิจกรรมการล่องแก่งขึ้นมา เพราะด้วยพื้นที่ใน
ตำบลลานข่อยนั้นมีห้วยน้ำใส ที่ไหลมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส มีแก่งหินใน
บางจุด และมีน้ำที่ถูกปล่อยออกมาตลอดทั้งปี เลยทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่

การเล่นล่องแก่งมากๆ

ต้นไม้ประจำจังหวัดพัทลุงคือ ต้มพะยอม
ลักษณะทั่วไป ไม้ต้น สูง 15 ถึง 30 เมตร เปลือกหนาสีน้ำตาลหรือเทา
แตกเป็ นร่ องตามยาว ใบเดี่ยวเรียงสลับ ดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตาม
ปลายกิ่งหรือซอกตามปลายกิ่ง มีกลิ่นหอม ผลมีเปลือกแข็งเมล็ดเดี่ยว

ทรงรี มีกลีบเลี้ยงขยายเป็ นปี กยาว
ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด

ประโยชน์ เนื้อไม้ คล้ายไม้ตะเคียนทอง ใช้ในการก่อสร้ าง เครื่ องเรือน
เปลือกมีรสฝาดใช้เป็ นยาสมานลำไส้ ดอกผสมยาแก้ไอ และยาหอม แก้ลม

บำรุ งหัวใจ ชันใช้ผสมน้ำมันทาไม้ ยาเรือ







ดอกไม้ประจำจังหวัดพัทลุงคือ ดอกพะยอม
พะยอม เป็ นไม้ยืนต้นประเภทพืชใบเลี้ยงคู่ชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงศ์
Dipterocarpaceae พบได้ในกัมพูชา, อินเดีย, ลาว, มาเลเซีย, พม่า,
ไทย และเวียดนาม มีลักษณะใบที่เรียงสลับกัน ดอกมีสีขาว กลิ่นหอม นิยม
นำเนื้อไม้ไปใช้ในการก่อสร้ าง ลักษณะคล้ายกับต้นตะเคียน

อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส

อ่ า ง เ ก็ บ น้ำ ห้ ว ย น้ำ ใ ส
อ่ า ง เ ก็ บ น้ำ ห้ ว ย น้ำ ใ ส ห รื อ เ ขื่ อ น
ห้ ว ย น้ำ ใ ส ตั้ ง อ ยู่ ห มู่ ที่ 5 ตำ บ ล

วั ง อ่ า ง อำ เ ภ อ ช ะ อ ว ด จั ง ห วั ด
น ค ร ศ รี ธ ร ร ม ร า ช แ ล ะ ห มู่ ที่ 3

ตำ บ ล ล า น ข่ อ ย อำ เ ภ อ ป่ า พ ะ ย อ ม

จั ง ห วั ด พั ท ลุ ง เ ป็ น อ่ า ง เ ก็ บ น้ำ

ข น า ด ใ ห ญ่ ล้ อ ม ร อ บ ไ ป ด้ ว ย

ภู เ ข า ม า ก ม า ย บ ร ร ย า ก า ศ ดี

วิ ว ส ว ย น้ำ ใ ส ส ะ อ า ด

อ า ณ า เ ข ต เ ริ่ ม ก่ อ ส ร้ า ง เ ริ่ ม
ดำ เ นิ น ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง

ปี ง บ ป ร ะ ม า ณ 2 5 3 4 แ ล้ ว

เ ส ร็ จ ปี ง บ ป ร ะ ม า ณ 2 5 3 9

ร ะ ย ะ เ ว ล า ก่ อ ส ร้ า ง 5 ปี

วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ข อ ง ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง
1 . เ พื่ อ เ ป็ น แ ห ล่ ง น้ำ สำ ห รั บ

ส นั บ ส นุ น โ ค ร ง ก า ร ค ล อ ง ไ ม้
เ สี ย บ ซึ่ ง มี พื้ น ที่ โ ค ร ง ก า ร ฯ

3 5 , 5 0 0 ไ ร่ แ ล ะ ส า ม า ร ถ ข ย า ย
พื้ น ที่ โ ค ร ง ก า ร ฯ ไ ด้ อี ก

1 8 , 0 0 0 ไ ร่
2 . เ พื่ อ ป้ อ ง กั น ห รื อ บ ร ร เ ท า
ปั ญ ห า อุ ท ก ภั ย ใ น พื้ น ที่ ลุ่ ม น้ำ

ป า ก พ นั ง ใ น เ ข ต อำ เ ภ อ ช ะ อ ว ด
ซึ่ ง มั ก เ กิ ด ขึ้ น เ ป็ น ป ร ะ จำ ทุ ก ปี ใ น

ฤ ดู ร้ อ น
3 . เ พื่ อ ป้ อ ง กั น ห รื อ บ ร ร เ ท า
ปั ญ ห า น้ำ เ ค็ ม เ นื่ อ ง จ า ก น้ำ ท ะ ล ะ

ห นุ น ใ น ลุ่ ม น้ำ ป า ก พ นั ง ใ น ฤ ดู แ ล้ ง
4 . เ พื่ อ เ ป็ น แ ห ล่ ง น้ำ สำ ห รั บ

อุ ป โ ภ ค – บ ริ โ ภ ค ใ น บ ริ เ ว ณ
ใ ก ล้ เ คี ย ง อ่ า ง เ ก็ บ น้ำ ฯ พื้ น ที่ ไ ด้
รั บ ป ร ะ โ ย ช น์ เ พื่ อ ช่ ว ย เ ห ลื อ
พื้ น ที่ เ พ า ะ ป ลู ก ใ น เ ข ต โ ค ร ง

ก า ร ฯ 5 3 , 5 0 0 ไ ร่ โ ด ย
ส า ม า ร ถ ใ ห้ ป ร ะ โ ย ช น์ แ ก่ พื้ น ที่

ใ น เ ข ต 3 ตำ บ ล ไ ด้ แ ก่

1 . ตำ บ ล ล า น ข่ อ ย อำ เ ภ อ ป่ า

พ ะ ย อ ม จั ง ห วั ด พั ท ลุ ง

2 . ตำ บ ล เ ก า ะ ขั น ธ์ อำ เ ภ อ

ช ะ อ ว ด จั ง ห วั ด

น ค ร ศ รี ธ ร ร ม ร า ช

3 . ตำ บ ล ช ะ อ ว ด อำ เ ภ อ ช ะ อ ว ด

จั ง ห วั ด น ค ร ศ รี ธ ร ร ม ร า ช

ปลากระแหหรือปลาลำปำ



ปลากระแหนิยมบริโภคโดยการปรุงสด รมควัน ตากแห้ง ทำปลาร้า ปลาส้ม
นอกจากนี้ยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามด้วย ชื่อเรียกอื่ น ๆ ตามท้องถิ่น
เช่น "กระแหทอง" หรือ "ตะเพียนหางแดง", ในภาษาใต้เรียก "ลำปำ",

ในภาษาอีสานเรียก "เลียนไฟ", ภาษาเหนือเรียก "ปก" เป็นต้น

ตลาดนัดต้นไม้ชาย

คลอง

ต ล า ด ต้ น ไ ม้ ช า ย ค ล อ ง เ ป็ น ต ล า ด นั ด ต้ น ไ ม้ เ ส า ร์ - อ า ทิ ต ย์ ที่
ส ว ย แ ล ะ ส ะ อ า ด เ ย็ น ส บ า ย ที่ สุ ด ใ น ภ า ค ใ ต้ ซึ่ ง จ ะ เ ป็ น แ ห ล่ ง
ร ว ม ซึ่ ง ต้ น ไ ม้ ข อ ง กิ น สั ต ว์ เ ลี้ ย ง ง า น ทำ มื อ แ ล ะ อี ก ห ล า ย
อ ย่ า ง ม า ใ ห้ ค น ค อ เ ดี ย ว กั น ไ ด้ สั ม ผั ส แ ล ะ จ ะ เ ป็ น จุ ด นั ด ฝั น
สำ ห รั บ ค น ที่ ทำ อ า ชี พ เ ก ษ ต ร เ พ ร า ะ เ ร า จ ะ ใ ห้ คุ ณ นำ สิ่ ง ที่ คุ ณ มี
ที่ บ้ า น ข อ ง ดี ต่ า ง ๆ อ อ ก ม า จำ ห น่ า ย ใ น ต ล า ด แ ห่ ง นี้ ไ ม่ ว่ า ผั ก
ส ว น ค รั ว ใ น ถุ ง ชำ ไ ม่ ใ บ ส ว ย ๆ ส มุ น ไ พ ร ช นิ ด ต่ า ง ๆ ชำ ถุ ง ม า
ข า ย น ก ไ ก่ ป ล า อ า ห า ร พื้ น บ้ า น ป ร ะ เ ภ ท ต่ า ง ๆ เ สื้ อ ผ้ า ฝ้ า ย
เ ค รื่ อ ง จั ก ส า น ไ ม้ ผ ล ผ ล ไ ม้ ไ ม้ ป ร ะ ดั บ ก ร ะ ถ า ง ง า น แ ฮ น ด์
เ ม ด ห รื อ อ ะ ไ ร ก็ ต า ม ที่ คุ ณ อ ย า ก จ ะ ข า ย ด้ ว ย ต ล า ด ที่ นี่ มี
ศั ก ย ภ า พ ด้ า น ทำ เ ล ที่ ติ ด ถ น น ส า ย เ อ เ ชี ย จึ ง ส ะ ด ว ก ทั้ ง ผู้ ซื้ อ
แ ล ะ ผู้ ช า ย ใ น ก า ร เ ดิ น ท า ง ทำ ใ ห้ ไ ด้ รั บ ค ว า ม ส น ใ จ อ ย่ า ง ต่ อ
เ นื่ อ ง

ค า เ ฟ่ พั ท ลุ ง ท า ง ร้ า น จ ะ ใ ช้ เ ม ล็ ด ก า แ ฟ ข อ ง พั ท ลุ ง แ ล ะ เ ม ล็ ด ข อ ง พื้ น ที่ ต่ า ง ๆ
หลากหลาย



ก า แ ฟ ใ น ส ว น บ้ า น พ น

ท ะ เ ล น้ อ ย



ด อ ก บั ว จ ะ เ ริ่ ม บ า น ตั้ ง แ ต่ ก ล า ง เ ดื อ น กุ ม ภ า ฮ ะ นั่ ง เ รื อ ชิ ว ๆ ถ่ า ย
รู ป กั น โ ล ด ด ท ะ เ ล น้ อ ย พั ท ลุ ง

ท ะ เ ล น้ อ ย ห รื อ อุ ท ย า น น ก น้ำ ท ะ เ ล น้ อ ย เ ป็ น ท ะ เ ล ส า บ น้ำ
จื ด มี เ นื้ อ ที่ ผื น น้ำ ป ร ะ ม า ณ 1 7 , 5 0 0 ไ ร่ มี ค ว า ม ก ว้ า ง

ป ร ะ ม า ณ 5 กิ โ ล เ ม ต ร ย า ว ป ร ะ ม า ณ 6 กิ โ ล เ ม ต ร ตั้ ง

อ ยู่ ตำ บ ล น า ง ตุ ง แ ล ะ ตำ บ ล ท ะ เ ล น้ อ ย อำ เ ภ อ ค ว น ข นุ น
จั ง ห วั ด พั ท ลุ ง เ ชื่ อ ม ต่ อ กั บ ท ะ เ ล ส า บ ส ง ข ล า โ ด ย ค ล อ ง
น า ง เ รี ย ม ที่ มี ค ว า ม ย า ว 2 กิ โ ล เ ม ต ร ท า ง ฝั่ ง ต ะ วั น ต ก
ข อ ง ท ะ เ ล ส า บ เ ป็ น ที่ ตั้ ง บ้ า น เ รื อ น ข อ ง ชุ ม ช น ร า ว 2 , 0 0 0

ค รั ว เ รื อ น ท า ง ฝั่ ง ต ะ วั น อ อ ก ฝั่ ง เ ห นื อ ฝั่ ง ใ ต้ เ ป็ น ป่ า

พ รุ แ ล ะ พ ง ห ญ้ า

น้ำตกมโนราห์



เป็นน้ำตกที่มีทัศนียภาพสวยงาม บรรยากาศร่มรื่น
ด้วยแมกไม้นานาพรรณที่ขึ้นอยู่บริเวณโดยรอบ
น้ำตก

ชาโตว์เดอแอนนี่

C H A T E A U D E A N N I E P H A T T H A L U N G รี ส อ ร์ ท
พั ท ลุ ง ส ว ย สุ ด ต ก แ ต่ ง ส ไ ต ล์ ยุ โ ร ป ข อ ง ต ก แ ต่ ง ห รู ๆ



ตราประจำจังหวัด
พัทลุง

"เมืองหนังโนรา อู่นาข้าว พราวน้ำตก แหล่งนกน้ำ ทะเลสาบงาม เขา
อกทะลุ น้ำพุร้อน"

ควายน้อย

จุ ด ช ม ฝู ง ค ว า ย ฝู ง ใ ห ญ่ ที่ ล ง ไ ป เ ล่ น น้ำ ใ น ท ะ เ ล น้ อ ย แ ท บ ไ ม่
เ ค ย เ ห็ น ที่ ไ ห น ฮ ะ

โ ด ย เ จ น นิ เ ฟ อ ร์ โ จ น ส์

คลองปากประ




คลองปากประเป็นคลองที่สำคัญทางจังหวัดพัทลุง โดยเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของอำเภอ
ควบขนุนที่ไหลรวมมาจากลำน้ำสายต่างๆมาบรรจบกันเป็นคลองปากประ แล้วไหลออก
สู่ทะเลสาบสงขลา คลองปากประจึงเปรียบเสมือนเป็นประตูเชื่ อมสำคัญของสายน้ำที่ไว้
ใช้ทางการเกษตรและให้ปลาต่างๆได้ว่ายเข้าออก ทำให้บริเวณคลองปากประแห่งนี้จึง
ก ล า ย เ ป็ น แ ห ล่ ง ชุ ม นุ ม ข อ ง ป ล า แ ล ะ ก ล า ย เ ป็ น แ ห ล่ ง จั บ ป ล า ที่ สำ คั ญ โ ด ย มี ช า ว บ้ า น ไ ด้ ตั้ ง
ยอดักจับปลาเป็นจำนวนมากจนดูยุ่งเหยิง เกิดเป็นทิวทัศน์ที่แปลกตา ในช่วงฤดูน้ำจะ

ไ ด้ เ ห็ น วิ ถี ชี วิ ต ก า ร ย ก ย อ ยั ก ษ์ แ ล ะ ดั ก จั บ สั ต ว์ น้ำ ข อ ง ช า ว บ้ า น บ ริเ ว ณ นี้
นักท่องเที่ยวที่มาที่คลองปากประแห่งนี้มักนิยมมาในช่วงเช้าเพื่ อดูทิวทัศน์พระอาทิตย์
ขึ้นกับยอยักษ์ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพเพราะที่คลองปากประมีมุมให้ถ่าย
ภาพมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถพักที่บริเวณทะเลน้อยแล้วเดินทางมาที่คลองปาก

ป ร ะ ใ น ต อ น เ ช้ า ห รือ พั ก ที่ รีส อ ร์ท ต ร ง บ ริเ ว ณ ค ล อ ง ป า ก ป ร ะ นี้ ก็ ไ ด้ เ ช่ น กั น

อ่ า ง เ ก็ บ น้ำ เ ข า หั ว ช้ า ง

ที่เที่ยวพัทลุง อ่างเก็บน้ำสวยๆวิวดี นั่งชิวๆรับลมกัน

อ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง

โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง



เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2556 นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ
อ่างเก็บน้ำคลองหัวช้างอันเนื่องมาจากพระราชดำริตำบลตะโหมด อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง



ความเป็นมาของโครงการ
เมื่อปี 2505 นายเปรม อักษรสว่าง สมาชิกสภาจังหวัดพัทลุงและนายกพุทธิกสมาคมบางแก้ว ได้นำสมาชิกฯ ยุว
กสิกรและประชนประมาณ 500 คน ขุดลอกเหมืองส่งน้ำจากคลองตะโหมดหรือ คลองท่าเชียดเพื่อนำไปใช้ใน
เขตอำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง แต่ไม่ได้ผล เนื่องจากจะต้องขุดเหมืองส่งน้ำลึกประมาณ 5-6 เมตร ซึ่งเกิน
กำลังที่เกษตรกรจะทำได้ ต้องใช้เทคนิคและเครื่องจักรเครื่องมือใน การดำเนินงาน จึงร้องเรียนผ่านชลประทาน
ภาคใต้ในสมัยนั้น ขอให้พิจารณาเปิด โครงการท่าเชียดขึ้น เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกดังกล่าวชลประทานภาคใต้
ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไป พิจารณาเห็นว่าลู่ทางที่จะเปิดการก่อสร้างโครงการฯ ขึ้นได้จึงส่งเจ้าหน้าที่ออกไปทำการสำรวจ
รายละเอียดภูมิประเทศและสถิติต่าง ๆ เพื่อนำมาวางโครงการและออกแบบ และได้ก่อสร้างโครงการเสร็จสิ้นในปี
พ. ศ.2514 มีพื้นที่ทั้งหมด 121,527 ไร่ พื้นที่ชลประทาน 100,000 ไร่



วันที่ 14 กันยายน 2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณา โครการ
ชลประทานเพื่อช่วยเหลือการทำนาในเขตจังหวัดพัทลุง ต่อมาสำนักงานชลประทานที่12 (ปัจจุบันคือสำนัก
ชลประทานที่ 16) ได้รับหนังสือจากอำเภอตะโหมด ที่ พท. 0616/256 ลงวันที่ 25 มกราคม 2532 ขอให้พิจารณา
ความเป็นไปได้โครงการอ่างเก็บน้ำโละหนุน ตามพระราชดำริ เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในเขตโครงการ
ชลประทานท่าเชียด จำนวน 100,000 ไร่ และลดอันตรายจากอุทกภัยในเขตอำเภอตะโหมด อำเภอเขาชัยสน

จังหวัดพัทลุง



ประธานสภา ตำบลตะโหมด (นายบุญชอบ เพชรหนู) ประธานสภา ตำบลคลองใหญ่ (นายหวัง เสถียร) และ
ประธานตำบลแม่ขรี(นายสวัสดิ์มุสิกะสงค์) ได้มีหนังสือลงวันที่6กรกฎาคม2533เรียนราชเลขาธิการขอพระราชทาน
สร้างอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง โดยให้เหตุผลว่าท้องที่ตำบลตะโหมดตำบลคลองใหญ่ ตำบลแม่ขรี อำเภอตะโหมด
จังหวัดพัทลุง รวม 25 หมู่บ้าน ประชากร 21,443 คน มีการทำนาทำสวนเป็นอาชีพหลัก เนื้อที่การเกษตร73,158ไร่

แต่การประกอบอาชีพดังกล่าวไม่ได้ผลเต็มที่ เนื่องจากขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร และ เป็นคลังจ่ายน้ำให้กับ
โครงการชลประทานท่าเชียด ต่อมาราชเลขาธิการ ได้มีหนังสือ ที่รล 0005 / 10206ลงวันที่ 26กรกฎาคม2533
เรียนอธิบดีกรมชลประทาน และหนังสือ ที่รล 0005 / 10207 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2533 เรียนผู้ว่าราชการ
จังหวัดพัทลุง แจ้งให้ทราบถึงความประสงค์ของราษฎรที่ต้องการให้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง จึงขอให้

พิจารณาในเรื่องนี้ และ หากมีความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะประการใด แจ้งให้สำนักราชเลขาธิการทราบด้วย
จากการประสานงานระหว่างกรมชลประทาน โดยสำนักชลประทาน ที่ 12 (ปัจจุบันคือ สำนักชลประทานที่ 16) กับ
จังหวัดพัทลุงเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ และ ได้ดำเนินการพิจารณาเบื้องต้นแล้วเสร็จเมื่อ
เดือนตุลาคม2533 สำนักชลประทาน ที่12 ได้มีบันทึก ที่ กษ 0337 / 350 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2533 เรียนอธิบาย

กรมชลประทาน เห็นสมควรขอพระราชทานโครงการ เป็นโครงการพระราชดำริ
กรมชลประทาน ได้มีหนังสือ ที่ กษ 0301 / 1825 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2534 เรียนราชเลขาธิการเพื่อนำความ

กราบบังคมทูลพระกรุณารับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สำนักราชเลขาธิการ ได้มีหนังสือ ที่ รล 0005 / 5226ลงวันที่ 18 เมษายน 2534 และหนังสือ ที่ รล 0005 /
5227 ลงวันที่ 18 เมษายน 2534 แจ้งให้กรมชลประทาน และ ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ ตามลำดับ ว่าความทราบ

ฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯรับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
กองวางโครงการ ได้ดำเนินการศึกษา และ รายงานโครงการเสร็จเรียบร้อยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2540 ซึ่งต่อมา
โครงการชลประทานพัทลุง ได้มีบันทึก ที่ กษ 0337.02/686 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2540 เรียน ผสก.ผชป.12

(ปัจจุบัน ผส.ปช.16) เพื่อโปรดพิจารณาขออนุมัติกรมฯ ตั้งงบประมาณก่อสร้างในปี 2541 ต่อไป



ที่ตั้งของโครงการ : บ้านหัวช้าง (หมู่ที่ 2) และ บ้านคลองนุ้ย (หมู่ที่ 5) ตำบลตะโหมด อำเภอตะโหมดจังหวัด
พัทลุง

น้ำตกปากราง


น้ำตกท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามเป็นจุดเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่โด่งดัง
ของจังหวัดพัทลุงด้วยที่มีสไลเดอร์ เป็นทีเด็ด

วัดถ้ำสุมะโน
พัทลุง

ประวัติวัดถ้ำสุมะโน
สถานที่สร้างวัดถ้ำสุมะโน ภูเขาที่เป็นถ้ำสองลูกนี้ เดิมเป็นสถานที่ว่างเป็นป่าปกคลุม มีดินกลบอยู่ จนไม่มีใครสงสัยว่าเป็นถ้ำ แต่

เนื่องด้วยได้ถูกค้นพบโดย พระอาจารย์เดช สุมโน ท่านเป็นพระที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ทางภาคอีสาน อุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๓
พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ เมื่อบวชแล้วออกธุดงค์อยู่ ๕ พรรษา แล้วเข้ามาศึกษาปริยัติธรรมที่กรุงเทพมหานคร และหลังจากออก
พรรษาแล้วก็ไปเยี่ยมพระอาจารย์ท่านหนึ่งทางแถบภาคอีสานและเมื่อได้โอกาศกราบท่านแล้ว พระอาจารย์ท่านได้ปรารภขึ้นว่า "
ท่านเดชเอ๋ย หลวงพ่ออยู่ในถ้ำ ร้อนก็ไม่ร้อน หนาวก็ไม่หนาว " คำพูดสั้นๆประโยคนี้เป็นที่ประทับใจของอาจารย์เดชมากประมาณปี
พ.ศ. ๒๕๒๕ คิดจะออกจากการเรียนปริยัติธรรมที่กรุงเทพมหานคร แล้วกลับไปสู่ป่าตามเดิม จึงนึกคำพูดสั้นๆวันนั้น ก็ได้ไปตั้งจิตอธิ
ฐานที่อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ว่าขอให้พบถ้ำที่ถูกใจและหลังจากอธิฐานแล้วก็ได้แสวงหาถ้ำมาเรื่อยๆ จนกระ
ทั้งปี พ.ศ.๒๕๒๙ ได้ธุดงค์ไปทางภาคเหนือ จึงจำพรรษาที่วัดถ้ำเชียงดาว และในพรรษานั้นเองก็รู้จุดถ้ำที่ตัวเองต้องการว่าอยู่ทาง
ภาคใต้ ระยะทางจากจังหวัดพัทลุงไปทางจังหวัดตรัง มาตามถนนเพชรเกษม ประมาณ ๒๕ กิโลเมตร จนกระทั้งออกพรรษาก็ธุดงค์
ลงมาทางภาคใต้ มาพักที่จังหวัดภูเก็ต เพราะคุ้นเคยกับญาติธรรมชาวจังหวัดภูเก็ต เพราะเคยจำพรรษาที่นั่น แล้วก็เดินทางต่อมา
พักที่ถ้ำน้ำใต้บ่อ วันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๓o ได้มาถึงจุดหมายที่กำหนดไว้ วันรุ่งขึ้นก็ค้นหาถ้ำที่ตนเองต้องการ จนพบภูเขาลูก
เล็กๆ ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยป่า จึงแหวกป่าเข้าไปในภูเขาก็เห็นถ้ำ เปล่งวาจาตั้งสัจจะ อธิฐานในถ้ำแห่งนี้ว่า " ข้าพเจ้าจะพัฒนาถ้ำ
แห่งนี้ให้เป็นที่รวมญาติสายโลหิตแห่งธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า " วันปฐมแห่งการพัฒนาถ้ำครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่
๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓o ตรงกับวันอังคารขึ้น๒ ค่ำ เดือน๖ ปีเถาะ ข่าวนี้ได้รู้ไปถึงญาติธรรมชาวจังหวัดภูเก็ต ก็ได้เดินทางมาช่วย
พัฒนาวัดถ้ำแห่งนี้ เมื่อวันที่๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓o ถ้ำแห่งนี้ไม่มีชื่อมาก่อน คณะญาติธรรมจึงได้ตั้งชื่อว่า " ถ้ำสุมะโน " ตั้งแต่
บัดนั้นเป็นต้นมา โดยตั้งชื่อตามฉายาของผู้ค้นพบถ้ำเป็นคนแรก คณะชาวภูเก็ต ๒o คน โดยการนำของ คุณ ณรงค์ นพดารา พระ
อาจารย์เดช สุมโน ค้นพบถ้ำแห่งนี้ครั้งแรกมีอายุเพียง ๓๖ ปี พรรษา ๑๔ ต่อมาคุณบัญชา นำศรีรัตน์ ถวายที่ดินรอบภูเขา ๘ ไร่ที่มี
เอกสาร น.ส.๓ ก. ให้สร้างวัดมีนามว่า วัดถ้ำสุมะโน และมีผู้ศรัทธาซื้อที่ดินถวายเพิ่มเติมรอบภูเขาสองลูก ๗๘ ไร่ รวมทั้งภูเขาด้วย

ประมาณ ๕oo ไร่.

สำ เ ภ า ไ ท ย

เ รื อ สำ เ ภ า เ ป็ น เ รื อ ช นิ ด ห นึ่ ง ที่ ไ ด้ รั บ อิ ท ธิ พ ล จ า ก จี น คำ ว่ า “ สำ เ ภ า " มี ผู้ ใ ห้ ค ว า ม เ ห็ น ว่ า ม า จ า ก คำ ว่ า “
ต ะ เ ภ า " ซึ่ ง ห ม า ย ถึ ง ล ม ที่ พั ด ม า จ า ก ทิ ศ ใ ต้ เ รื อ ค้ า ข า ย ที่ ม า จ า ก ป ร ะ เ ท ศ จี น ซึ่ ง มี ก า ร ติ ด ต่ อ ค้ า ข า ย กั บ
ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ม า ก ที่ สุ ด เ ข้ า ม า ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ปี ล ะ ค รั้ ง ใ น ฤ ดู ร้ อ น ซึ่ ง เ ป็ น ฤ ดู ที่ มี ล ม ต ะ เ ภ า พั ด ม า จึ ง ไ ด้
เ รี ย ก เ รื อ ค้ า ข า ย ที่ ม า จ า ก ป ร ะ เ ท ศ จี น ว่ า “ เ รื อ ต ะ เ ภ า ” ห รื อ “ เ รื อ ส ะ เ ภ า ” แ ล้ ว ภ า ย ห ลั ง เ รี ย ก ว่ า “
เ รื อ สำ เ ภ า ” ซึ่ ง ห ม า ย ถึ ง เ รื อ ที่ ม า จ า ก ป ร ะ เ ท ศ จี น เ รื อ ข อ ง จี น นั้ น มี ห ล า ย แ บ บ ห ล า ย ช นิ ด เ ช่ น เ ดี ย ว กั บ
เ รื อ ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ อื่ น ๆ เ รื อ สำ เ ภ า มี ค ว า ม ห ม า ย อ ย่ า ง ก ว้ า ง ๆ ว่ า เ ป็ น เ รื อ ข น า ด ใ ห ญ่ แ บ บ จี น แ ล่ น อ อ ก
ท ะ เ ล ลึ ก ไ ด้ บ า ง ที ก็ เ รี ย ก เ รื อ ไ ห ห ลำ ข อ ง จี น ว่ า เ รื อ สำ เ ภ า เ พ ร า ะ เ ป็ น เ รื อ ที่ ม า จ า ก ป ร ะ เ ท ศ จี น เ ห มื อ น
กั น
เ รื อ สำ เ ภ า ที่ ต่ อ ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ล อ ก แ บ บ ม า จ า ก เ รื อ ข อ ง จี น แ บ บ ห นึ่ ง นั้ น มี ป ร า ก ฏ ใ ห้ เ ห็ น เ ป็ น ตั ว อ ย่ า ง
ที่ วั ด ย า น น า ว า ก รุ ง เ ท พ ฯ ซึ่ ง เ ป็ น เ รื อ ข น า ด ใ ห ญ่ ที่ สุ ด ที่ เ ค ย ต่ อ ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ส มั ย ก รุ ง รั ต น โ ก สิ น ท ร์
ต อ น ต้ น ส่ ว น เ รื อ สำ เ ภ า ข น า ด ย่ อ ม ก ว่ า นี้ ก็ มี ใ ช้ ใ น เ มื อ ง ไ ท ย เ ห มื อ น กั น รู ป ร่ า ง ลั ก ษ ณ ะ จ ะ แ ต ก ต่ า ง กั บ
เ รื อ สำ เ ภ า ที่ วั ด ย า น น า ว า ไ ป บ้ า ง เ พ ร า ะ ก า ร ต่ อ เ รื อ แ ต่ ล ะ ลำ ย่ อ ม จ ะ แ ต ก ต่ า ง กั น ไ ป ต า ม ค ว า ม ป ร ะ ส ง ค์
ข อ ง ผู้ ใ ช้ เ รื อ นั้ น ๆ
เ รื อ ใ บ ใ น ส มั ย โ บ ร า ณ นั้ น นิ ย า ม ท า สี ตั ว เ รื อ อ ย่ า ง ฉู ด ฉ า ด แ ล ะ แ ป ล ก ๆ เ พื่ อ ใ ห้ ดู เ ป็ น ส ง่ า ง า ม ต า ม ค ว า ม
นิ ย ม ข อ ง แ ต่ ล ะ ท้ อ ง ถิ่ น เ พ ร า ะ ถื อ ว่ า เ รื อ เ ป็ น ส ม บั ติ อั น มี ค่ า แ ล ะ นำ ม า ซึ่ ง โ ภ ค ท รั พ ย์ จึ ง ต้ อ ง มี ก า ร
ต ก แ ต่ ง ใ ห้ ส ว ย ง า ม ไ ม่ ใ ห้ น้ อ ย ห น้ า แ ก่ กั น ไ ด้ ดั ง นั้ น จึ ง มี ก า ร ส ลั ก ล ว ด ล า ย แ ล ะ ท า สี เ รื อ เ ป็ น รู ป ต่ า ง ๆ ทั้ ง
ที่ ต อ น หั ว เ รื อ แ ล ะ ต อ น ท้ า ย เ รื อ ต า ม ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ ค ว า ม ยิ น ย อ ม ข อ ง แ ต่ ล ะ ช า ติ
เ รื อ สำ เ ภ า ข อ ง ไ ท ย มี กำ เ นิ ด ม า จ า ก จี น อ ย่ า ง แ น่ น อ น เ พ ร า ะ ต า ม ป ร ะ วั ติ บ อ ก ว่ า มี ช่ า ง ช า ว จี น เ ป็ น หั ว ห น้ า
ช่ า ง ต่ อ เ รื อ อี ก ป ร ะ ก า ร ห นึ่ ง ก า ร เ ดิ น เ รื อ เ ข้ า ไ ป ค้ า ข า ย จ ะ ต้ อ ง เ ป็ น เ รื อ ที่ มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น เ รื อ จี น จึ ง จ ะ เ ข้ า
เ ที ย บ ท่ า เ รื อ ข อ ง จี น ไ ด้
เ รื อ สำ เ ภ า ข อ ง ไ ท ย มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น เ รื อ สำ เ ภ า แ บ บ ทั่ ว ๆ ไ ป ต ล อ ด ทั้ ง ลำ คื อ มี ด า ด ฟ้ า ย ก ท้ า ย เ รื อ ห า ง
เ สื อ เ ป็ น รู ป แ ผ่ น บ า น ป ร ะ ตู ส า ม า ร ถ ย ก ขึ้ น ล ง ไ ด้ ใ ช้ ใ บ แ ข ว น ข น า ด ใ ห ญ่ ที่ มี พ ร ว น ใ บ เ ต็ ม ( ใ บ ปี ก
ค้ า ง ค า ว ) ส่ ว น ที่ แ ต ก ต่ า ง กั น ไ ด้ แ ก่ ก า ร ป ร ะ ก อ บ ก ร ะ ดู ก งู แ ล ะ ก ง เ รื อ สำ เ ภ า ข อ ง ไ ท ย มี ด า ด ฟ้ า ย ก ท้ า ย
เ รื อ สู ง ก ว่ า หั ว เ รื อ เ ล็ ก น้ อ ย มี ส่ ว น โ ค้ ง น้ อ ย ม า ก แ ล ะ ด า ด ฟ้ า ย ก ท้ า ย เ รื อ ก็ ไ ม่ ล า ด ไ ป ท า ง หั ว ที่ ต่ำ ก ว่ า ม า ก
นั ก จึ ง มี ลั ก ษ ณ ะ ทั่ ว ไ ป ค ล้ า ย กั บ เ รื อ สำ เ ภ า ข อ ง จี น

บ่อน้ำร้อน
เขาชัยสน พัทลุง

บ่อน้ำร้อน
เขาชัยสน พัทลุง

จังหวัดพัทลุง ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยว
สวยงามน่าค้นหามากมายหลายสถานที่ กิมหยงพาเที่ยว ขอ
แนะนำ "บ่อน้ำร้อนเขาชัยสน" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว

ในใจของใครหลายคน
บ่อน้ำร้อนเขาชัยสน ตั้งอยู่พื้ นที่หมู่ที่ 3 ตำบลเขาชัย อำเภอ
เขาชัยสน จังหวัดพัทลุง บ่อน้ำร้อนเขาชัยสน เป็นบ่อน้ำร้อนที่
มีอุ ณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะแก่การลงไป
แช่น้ำเพื่ อสุขภาพ ในทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนกันมา

ตลอด โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด
ภายในพื้ นที่บ่อนน้ำร้อนแห่งนี้มีพื้ นที่สำหรับแช่เท้า แช่มือเป็น
พื้ นที่สาธารณะ แต่หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวหรืออาบ

น้ำให้ชุ่มฉ่ำก็ต้องใช้บริการห้องอาบน้ำ ซึ่งมีทั้งแบบส่วนตัว
แบบครอบครัว หรือจะมาพักข้ามคืนที่นี่เขาก็มีบริการ
นอกจากนี้ยังมีบริการนวดฝ่าเท้า นวดผ่อนคลายใน
บ ร ร ย า ก า ศ ธ ร ร ม ช า ติ สุ ด ๆ

ภายในบ่อน้ำร้อนเขาชัยสน บริเวณติดกันยังมีวัดให้ได้ทำบุญ
สินค้าโอทอป สินค้าพื้ นบ้านให้ได้เลือกซื้อหากันด้วย รวมถึง
ยังมีฝูงลิงเจ้าบ้านมารอต้อนรับผู้มาเยือนด้วย หากมีเวลามา
เยือนพัทลุง อย่าลืมแวะมาที่บ่อน้ำร้อนเขาชัยสนกันนะครับ

น้ำตกไพรวัลย์

น้ำ ต ก แ ห่ ง ใ ห ญ่ ที่ มี น้ำ ไ ห ล ต ล อ ด ทั้ ง ปี มี ส ร ะ น้ำ เ ป็ น แ อ่ ง ๆ
เช็คอินเล่นน้ำใสๆ สบายธรรมชาติ

ของฝากจังหวัดพัทลุง

ผลิตภัณฑ์ชุมชน - กระจูด
ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการส่งเสริมให้คนในชุมชน นำวัสดุหรือวัตถุดิบที่หาได้ง่ายในพื้นที่ของตัว
เองมาแปรรูปหรือพัฒนาเป็นสินค้าเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน ชาวบ้านอำเภอควนน้อย ใน
จังหวัดพัทลุงก็เช่นเดียวกัน ที่มีการนำต้นกระจูดมาแปรรูปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนจนได้ขึ้นชื่อว่า

“สินค้ากระจูดมีคุณค่า ภูมิปัญญาแห่งทะเลน้อย ”
กระจูดหรือต้นกกกระจูด คือ วัตถุดิบในท้องถิ่นที่สามารถหาได้ทั่วไปตามธรรมชาติ จะมีความ
เหนียว นุ่มและคงทน ทั้งยังสามารถย้อมสีได้ แต่เดิมชาวบ้านในอำเภอควนน้อยมีภูมิปัญญาใน
การนำกระจูดมาถักเป็นเสื่อเอาไว้ใช้ในครัวเรือนอยู่แล้ว โดยต่อมาชาวบ้านได้พัฒนานำมาแปรรูป
เป็นผลิตภัณฑ์จักสานเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือนและชุมชน ซึ่งผลตอบรับดีมากจนสามารถส่ง
ออกต่างประเทศสร้างรายได้อย่างมหาศาล ชาวบ้านในอำเภอควนน้อย จังหวัดพัทลุงจึงหันมายึด

ก า ร จั ก ส า น ก ร ะ จู ด เ ป็ น อ า ชี พ ห ลั ก ใ น ก า ร ห า ร า ย ไ ด้ แ ท น ก า ร ป ร ะ ม ง แ ล ะ ทำ ไ ร่ ทำ น า แ ท น

ของฝากจังหวัดพัทลุง

ข้ า ว สั ง ข์ ห ย ด พั ท ลุ ง
เมืองพัทลุงเป็นเมืองเก่าแก่แดนอู่ข้าวใหญ่ภาคใต้ของไทยเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ดินฟ้าอากาศและแหล่ง
น้ำที่อุดมสมบูรณ์เหมาะสําหรับการปลูกข้าวบนที่ราบระหว่างเขาหินลูกโดน มีนิทานเล่าขานเป็นตํา
น า น เ มื อ ง ผู้ ม า เ ยื อ น เ มื อ ง พั ท ลุ ง จ ะ ม อ ง เ ห็ น น า ข้ า ว ก ว้ า ง ไ ก ล สุ ด ส า ย ต า ช่ ว ง ต้ น ฤ ดู ทํ า น า ท้ อ ง น า จ ะ เ ขี ย ว
ขจีผืนนาเดียวกันจะกลายเป็นทุ่งรวงทองเมื่อข้าวใกล้เก็บเกี่ยวในเดือนมกราคม และ กุมภาพันธ์
เมืองพัทลุงนิยมปลูกและบริโภคข้าวหนักมากกว่าข้าวเบา คนพัทลุงส่วนมากไม่รับประทานข้าวเบา
แต่จะเก็บข้าวเบานี้ไว้ในโอกาสพิเศษ ข้าวสังข์หยดเป็นข้าวเจ้าพันธุ์พื้นเมืองพันธุ์เบา ปลูกกันมา
นานมากกว่า 100 ปี ผลผลิตจะเก็บไว้เพื่อเป็นกํานัลแก่ผู้ใหญ่ที่นับถือใช้หุงต้มเป็นอาหารเพื่อเลี้ยง
แขกพิเศษในงานบุญแขกบ้านแขกเมืองหรือเจ้านายผู้ปกครองบ้านเมือง หรือใช้ในงานวันประเพณี
มีประเพณีถือปฏิบัติโดยการนับถือแม่โพสพซึ่งถือเป็นเทพีประจําข้าว ต้องทําพิธี "ขวัญแม่โพสพ"
หรือ ทําขวัญข้าว เรียกรวบข้าว การทําขวัญแม่โพสพจะมีบทสวดที่มีรายชื่อข้าวพันธ์ต่างๆ ซึ่งข้าว
พันธุ์สังข์หยดก็มีรายชื่ออยู่ในบทสวดเช่นกัน โดยพิธีการทําขวัญแม่โพสพทําอีกครั้งเมื่อเก็บเกี่ยว

ข้าวเข้ายุ้งฉางอีกครั้ง หรือไปทํารวมกันที่วัดเรียกว่า " ทําขวัญข้าวใหม่ "

The Cพัaทp
ลุeง คาเฟ่

วิ ว ห ลั ก ล้ า น ช ม พ ร ะ อ า ทิ ต ย์ ต ก เ ย็ น ๆ ช ม วิ ว
ธ ร ร ม ช า ติ ส ว ย ๆ ฟิ น ๆ

ช ม พ ร ะ อ า ทิ ต ย์ ต ก ฟิ น ๆ จุ ด เ ช็ ค อิ น สุ ด ส ว ย
พั ท ลุ ง ม า กั บ เ พื่ อ น กั บ ค ร อ บ ค รั ว กั บ แ ฟ น

ไ ด้ ห ม ด ฮ ะ

ควนน้อยแกรนด์
แคนยอน



ค ว น น้ อ ย แ ก ร น ด์ แ ค น ย อ น ที่
เ ที่ ย ว ใ ห ม่ ที่ ห ล า ย ค น ยั ง ไ ม่ เ ค ย
รู้ จั ก ข อ ง จั ง ห วั ด พั ท ลุ ง จ ริ ง ๆ ที่ นี่
คื อ บ่ อ ดิ น เ ก่ า ที่ ถู ก ทิ้ ง ร้ า ง แ ล ะ มี ฝ น
ต ก ล ง ม า จ น ก ล า ย เ ป็ น บ่ อ น้ำ ขั ง มี สี
เ ขี ย ว ม ร ก ต ก ล า ย เ ป็ น ส ถ า น ที่ ท่ อ ง

เ ที่ ย ว จ น ถึ ง ทุ ก วั น นี้
ไ ม่ น่ า เ ชื่ อ ว่ า ใ น เ มื อ ง พั ท ลุ ง จ ะ มี
ส ถ า น ที่ ที่ ส ว ย ง า ม แ บ บ นี้ ซ่ อ น อ ยู่
ด้ ว ย บ ร ร ย า ก า ศ ข อ ง สั น ดิ น ที่
ท อ ด ย า ว ล้ อ ม ร อ บ บ่ อ น้ำ สี ม ร ก ต


เ ป็ น ภ า พ ที่ อั น ซี น ม า ก ๆ

โรงคั่วบ้านป่า
ร้านกาแฟลับ

สไตล์ บ้ านๆสบายๆเป็นกั นเองให้ อา
รมเหมื อนมานั่ งจิ บกาแฟอยู่ บ้ าน
เพื่ อน
คาเฟ่พั ทลุ ง สไตล์ ชิ วๆ มี กาแฟคั่ ว
หอมๆให้ ทานและขนมอร่ อยๆเบเกอรี่
สดใหม่ ให้ กิ นคู่ กั นในบรรยากาศของ
ธรรมชาติ รอบๆตั ว

บ้านต้น
ไม้ร้อย
หวัน

ที่เที่ยวพัทลุง
รีสอร์ทพัทลุง
สวยๆ บ้านต้นไม้
ร้อยหวัน ไปนอนชิ
วริมลำธารฟัง
เสียงน้ำตกกันน

10/10

บ้ า น ต้ น ไ ม้ ร้ อ ย ห วั น & r s q u o
ตั้ ง อ ยู่ ที่ อ . ป่ า พ ะ ย อ ม จ . พั ท ลุ ง
ซึ่ ง เ ป็ น ที่ พั ก ส ไ ต ล์
บ้ า น ต้ น ไ ม้ มี ลำ ธ า ร ไ ห ล ผ่ า น
ห น้ า ที่ พั ก เ พิ่ ม บ ร ร ย า ก า ศ
ค ว า ม ร่ ม รื่ น แ ล ะ น่ า ม า พั ก ใ จ เ ป็ น
ที่ สุ ด ที่ นี่ จ ะ มี ทั้ ง บ้ า น พั ก
แ บ บ เ ป็ น ห ลั ง ซึ่ ง เ ป็ น บ้ า น ไ ม้
ห รื อ ถ้ า ใ ค ร ที่ ช อ บ บ ร ร ย า ก า ศ
แ บ บ น อ น เ ต็ น ท์ ก็ มี เ ต็ น ท์ ริ ม น้ำ
ใ ห้ ไ ด้ น อ น ฟั ง เ สี ย ง น้ำ ไ ห ล
กั น แ บ บ ใ ก ล้ ชิ ด
.

การเดินทางไปจังหวัดพั ทลุง

รถยนต์
จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้ 3 เส้นทาง คือ
เส้นทางที่ 1 ตามทางหลวงหมายเลข 4 ถึง
ชุมพร (สี่แยกปฐมพร) แยกเข้าระนอง พังงา
กระบี่ ตรัง จนถึงพัทลุง ระยะทางประมาณ

1,140 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 ตามทางหลวงหมายเลข 4 ถึง
ชุมพร ให้เข้าทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง

จังหวัดพัทลุง ระยะทาง 840 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 3 ตามทางหลวงหมายเลข 4
ผ่านชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
แล้วเข้าทางหลวงหมายเลข 403 จากนั้นจึง
เข้าทางหลวงหมายเลข 41 ที่ชุมทางเขาชุม

ทอง จนถึงพัทลุง
รถไฟ

การรถไฟแห่งประเทศไทย มีรถไฟผ่าน
อำเภอเมือง อำเภอควนขนุน อำเภอ

เขาชัยสน อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าบอน
อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง รายละเอียด
สอบถาม โทร. 1690, 0 2223 7010, 0

2223 7020 สถานีรถไฟพัทลุง โทร. 0
7461 3106 www.railway.co.th
รถโดยสารประจำทาง
บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการเดินรถ

กรุงเทพฯ – พัทลุง ทุกวัน มีรถออกที่สถานี
ขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี สอบถาม
รายละเอียดได้ที่ โทร. 02 894 6122 จอง

ตั๋ว บขส. โทร. 02 422 4444 หรือ
www.transport.co.th
เครื่องบิน

จังหวัดพัทลุงไม่มีสนามบิน นักท่องเที่ยว
สามารถใช้บริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ตรัง
หรือ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ จังหวัดสงขลาและ

ต่อรถ โดยสารไปพัทลุง

บรรณานุ กรม

ณั ฏ ฐ า . ( 2 5 6 5 ) คู่ มื อ ก า ร ท่ อ ง เ ที่ ย ว .
พิ ม พ์ ค รั้ ง ที่ 1 . จั ง ห วั ด พั ท ลุ ง . สำ นั ก ง า น จั ง ห วั ด พั ท ลุ ง



คู่มือท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุง


Click to View FlipBook Version