1 เมอื่พบเพอื่นรว่มงานแอบเอาของราชการไปใชส้ว่นตวั ใหล้กูท าการบา้น 2 เมื่อพบเพื่อนร่วมงานเบิกเงินค่าเดินทางไปราชการเกินความเป็ นจริง 3 ไดร ้ บัการขอรอ ้ งจากผมู้ บีญุคณุใหเ ้ซ็ นตรวจรบังานทไี่มต่รงตาม Spec 4 พบเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องดูเป็ นน ้าดีแต่แอบเบียดบังเวลางานไปเล่นหุ้น 5 ผชช. จะหาทางออกอย่างไร เมื่อลูกน้องเข้ามาคุยขอย้าย เพราะทนพฤติกรรมของ ผอ. กลมุ่งานไมไ่ด้โดยกลมุ่งานนอี้ยภู่ายใตก้ารกา กบัดแูลของตน กรณีพบเพื่อนร่วมงานขาดจริยธรรม 1
เห็นเพื่อนร่วมงานที่ฐานะทางบ้านค่อนข้างขัดสนเพราะมีลูก หลายคน เพอ ื่ นคนนเ ี้ป็นคนสูง ้ านตง ั ้ ใจท างาน รบ ั ท างานพเศษ ิ เพอ ื่ หารายไดม ้ าเจอ ื จุนครอบครว ั ผมพบว ่ าเพอ ื่ นคนนแ ี้ อบเอา ของราชการไปใชส ้ ว ่ นตว ัใหล ้ กูทา การบา ้ น เชน ่ กรรไกร คต ั เตอร์ ปากกาเมจกิ ซง ึ ่ เพอ ื่ นคนอน ื่ ๆ ก็รูแ ้ ตไ่ ม ่ มใี ครวา ่ อะไรเพราะเห็น เป็นเรอ ื่ งเล็กนอ ้ ย วน ั น ี้ ผมเห็นเขาหยบิกระดาษถ ่ ายส าเนาใส ่ กระเป๋ าของเขาไป 1 รีม 2 - ขยน ั ต ั ง้ใจท ำงำน แตไ่มซ่อ ื่สต ั ย ์(#2) เห ็ นแกป่ระโยชนส์ ว่นตน>สว่นรวม (#4) ไม่ด ำรงตนเป็นแบบอย่ำงที่ดี (#7) - คิดว่ำเล็กน้อย แต่ผิด -> อำจขยำยไปถึงของที่มีรำคำเพิ่ม ควรตักเตือน วินัย : ยักยอกทรัพย์ ม. 83(3) แห่งพ.ร.บ. ระเบียบข ้ำรำชกำรพลเรือน พ.ศ. 2551 /ลักทรัพย์ ม. 85(1) ทุจริต ->อำญำ
ดฉิน ั กบ ั เพอ ื่ นชอ ื่ สมรศรม ี บ ี า ้ นพก ั อาศย ั อยูล ่ ะแวกเดย ี วกัน เมื่อ 3 วันก่อนคณะของดิฉันต้องไปเตรียมงานประชุมระดับชาติที่จังหวัด เชย ี งใหม ่ เดนิทางโดยเครอ ื่ งบนิเมอ ื่ กรอกแบบฟอรม ์ เพอ ื่ เบกค่า ิ เบย ี้ เลย ี้ งเดนิทางไปกลบ ั จากบา ้ นไปสนามบนิ โดยรถแท็กซ ี่ ดฉันิ ขอเบิกไป 290 บาท (โดยจ่ายจริงเที่ยวไป 120 บาท เที่ยวกลับ เข้าคิวรอที่สนามบินบวกเพิ่ม 50 บาท รวมเป็ น 170 บาท) แต่ เผอิญเหลือบไปเห็นสมรศรีเบิกไป 400 บาท 3 - ไมซ่อ ื่สต ั ย ์(#2) เห ็ นแกป่ระโยชนส์ ว่นตน>สว่นรวม (#4) ไม่ด ำรงตนเป็น แบบอย่ำงที่ดี (#7) - เพื่อนต ้องกล ้ำตักเตือน (#3) ท ั กทว้ง ชผ ี้ลเสย ี หำยทจ ี่ะเกดิขน ึ้ถำมีกำรตั้ง ้ ขอ้สง ั เกต/ ตรวจสอบ - เบิกเท็จ => ทุจริต ประพฤตชิว ั่อยำ่งรำ้ยแรง ม 85(4) แม ้จะไม่กี่บำท
เป็ นครั้งแรกที่ผมได้รับมอบหมายให้เป็ นคณะกรรมการตรวจการจ้าง ซง ึ ่ เมอ ื่ ผมไปตรวจรบ ั งานพบว่างานไม่เป็ นไปตาม Spec ที่ระบุไว้ใน สญ ั ญา ยง ัไมท ่ น ั ทผ ี่ มจะไปรายงานหว ั หนา ้ ก็มพ ี ค ี่ นหนง ึ ่ ที่ท างานเป็ น กรรมการตรวจการจา ้ งในคณะเดย ี วกน ั พค ี่ นนผ ี้ มเคยรูจ ้ ก ั มาก ่ อน และมีบุญคุณกับครอบครัวของผมมาก ได้มาบอกว่า “นอ ้ งชว ่ ยเซ็ น ๆ ไปเถอะ พก ี่ ็ตรวจรบ ัไปแลว ้ เหมอ ื นกน ั เดย ี ๋ วมน ั จะวนุ่ วายเป็นเรื่องนะ” 4 - ไมซ่อ ื่สต ั ย ์(#2) - วินัย ม. 85(1) ทจุรติตอ้งไมก่ระท ำผดิเพอ ื่ตอบแทนบญุคณุชแ ี้ จงถึงผลที่ จะเกิดถึงขั้นออกจำกรำชกำร
นอ ้ งพเ ี คเป็นเด็กรุน ่ ใหม ่ จบการศก ึ ษาจากตา ่ งประเทศ หลายคนมอง ว่าเป็ นคนท างานดี หัวไว เรียนรู้ได้เร็ว แต่เขาจะขยันท างานเวลาอยู่ ต่อหน้าผู้ใหญ่หรือหัวหน้างาน ตัวผมเองนั่งอยู่โต๊ะท างานใกล้ ๆ เขา และสง ั เกตวา ่ เขาจะสนใจเลน ่ โทรศพ ั ทม ์ อ ื ถอ ื ดูทห ี่ นา ้ จออยูเ ่ ป็นประจ า และพูดคุยกระซิบกระซาบทางโทรศพ ั ทช์ ่ วงสบิ โมงไปแลว ้ ทุกวน ั วน ั หนง ึ ่ คนในแผนกส ่ วนใหญ ่ ออกไปประชุม ผมไม่ได้ไปเพราะปวด ศร ี ษะมาก จง ึ ทานยาแลว ้ปรบ ั เกา ้ อน ี้ อนพก ั ฉากกน ั ้ ระหวา ่ งโตะ ๊ ท างาน ค่อนข้างสูงจึงดูเหมือนไม่มีใครอยู่ในที่ท างานเลย ผมได้ยินเสย ี งนอ ้ ง พเ ี คคุยโทรศพ ั ทส์ ง ่ ั ซ ื ้ อหุ้ น ขายหุ้ น และคุยเร ื่ องหุน ้ กบ ั เพอนเป็ น ื่ เวลานานมากโดยคิดว่าไม่มีใครอยู่ และจากข้อความที่ได้ยิน พฤตกิรรมเชน ่ นท ี้ า มาตอ ่ เนอ ื่ งทกุวน ั 5 - ไมซ่อ ื่สต ั ย ์ ร ั บผดิ ชอบตอ่หนำ้ท ี่(#2) เห ็ นแกป่ระโยชนส์ ว่นตน>สว่นรวม (#4) ไมม่งุ่ผลสม ั ฤทธขิ์ องงำน (#5) ไม่ด ำรงตนเป็นแบบอย่ำงที่ดี(#7) - ไม่อุทิศเวลำให ้รำชกำร ทอดทิ้ง/ละทิ้งงำน= ม 82(5)-วินัยไม่ร้ำยแรง
ธร ี ะเป็นผเู้ชย ี่วชาญ (ผชช.) ในส านก ั งานปลด ั กระทรวงแหง่หนง ึ่ เย็นวันหนึ่งใกล้เวลาเลิก งาน มีเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานบริหารงานภูมิภาค 4 คน เข้ามาคุยว่าอยากขอย้ายออกจาก กลุ่มงาน (ธร ี ะไดร ้ บ ั มอบหมายใหก ้ า กบ ั ดแูลกลุม่งานน) ี้ เมื่อถามถึงเหตุผลเจ้าหน้าที่ก็ต่าง ตอบว่าผู้อ านวยการ (ผอ.) กลุม่งานใชอ ้ ารมณ ์ และแสดงความเกรย ี้วกราดทกุครง ั้ทลูกน้อง ี่ ท างานไม่ได้ดั่งใจ โดยไม่สนใจว่าจะอยู่ที่ไหน หรืออยู่กับใคร ท าให้พวกตนรู้สก ึ ทอ ้ แทแ ้ ละ เบื่องาน ลูกน้องคนหนึ่งถูกด่ากราดในที่ประชุมที่มีคนภายนอกมาร่วมประชุมด้วย ท าให้ รสู้ ก ึ เสย ี หนา ้ และขาดความมน่ัใจในตว ั เอง บา ้ งก็ถูกดุด่าโดยเขาไม่เข้าใจว่าท าอะไรผิด หรือ ผอ. ต้องการให้แก้ใขอย่างไร ธร ี ะไดย ้ นิกติตศิพ ั ทข ์ อง ผอ. คนนม ี้านานแลว ้ และเห็นวา่คนท างานในกลุ่มงานนม ี้ ี การโยกย้าย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนคนใหม่ ๆ เข้ามาอยู่ตลอดเวลา เขาจึงคิดว่าจะพูดคุย กับ ผอ. คนน ี้เพอ ื่ไมใ่หเ ้ รอ ื่งลุกลามใหญโ่ตตอ่ ไป เขาเขา ้ ใจดว ี า่งานของกลุ่มงานนเ ี้ป็น งานหนักที่ต้องการความรวดเร็วและถูกต้อง ประกอบกับ ผอ. คนนอ ี้ยู่ในต าแหนง่เดมมาิ เกือบ 10 ปี ยังไม่ได้เลื่อนต าแหน่งหรือย้ายไปท างานที่อื่น เนื่องจากถูกมองว่าเป็ นคน “ขวานผ่าซาก” พูดจาไม่เกรงใจใคร จนหลาย ๆ ครั้งถูกมองว่า “พูดไม่เข้าหู” และใช ้ อารมณ์ในการพูด แม้เมื่ออยู่ในที่ประชุมที่มีผู้ใหญ่หรือบุคคลภายนอกเข้าร่วมประชุมด้วย รงุ่ขน ึ้ผชช. ธีระเรียก ผอ. กลุม่งานคนนม ี้าพดูคยุ 6 ค าถาม หากท่านเป็ น ผชช. ธีระ 1. ท่านจะเลือกพูดคุยอย่างไร จาก 3 ตวัเลอืกนี้และ 2. ทา่นจะมทีางออกใหเ้รอื่งทเี่กดิขนึ้นอี้ยา่งไร
ก. บอกว่ามีลูกน้องในฝ่ ายมาขอย้ายอีกแล้ว คุณบริหารอย่างไร ไม่ได้ใจคนเลย เอาแต่ดุด่า ใชอ ้ ารมณ ์ ตลอด หาวา่เขาท างานไมไ่ดเ ้ รอ ื่ง พูดไมรู่เ ้ รอ ื่ง ผดิ ซ า้ซากอก ี ตา่งหาก ผมก็รู้ว่าฝ่ าย คุณงานหนก ั งานเรง่ตลอดแตถ่า ้ คุณไมไ่ดใ้ จลูกนอ ้ งอยา่งนใี้ครจะอยากท างานดว ้ ย ฝากคุณ พิจารณาด้วยนะ ว่าท ายังไงถึงจะมัดใจให้ลูกน้องท างานด้วยได้ ข. ชวนมาคยุกน ั วน ั นก ี้ ็อยากพดูเรอ ื่งทผ ี่มไดย ้ นิมาหนอ่ยนะ มเ ีสย ี งบน่จากพวกลูกน้องคุณ วา่คณุชอบดา่เขาตอ่หนา ้ คนอน ื่เขาเสย ี ก าลง ัใจมากก็ เลยอยากจะขอยา ้ ยงาน คณุก็ เบา ๆ ลง หนอ่ยแลว ้ กน ั ตอนนง ี้านเราก็หลายดา ้ น กลุม่งานอน ื่เขาก็ เรง่กน ั ท างานไมใ่หต ้ ว ัชวัดมีปัญหา ี้ เราก็ต้องเข้าใจว่า ถ้าลูกน้องไม่มีขวัญก าลังใจ ไม่ท างานหรือท างานไม่เต็มที่ผลงานเขาก็ ไม่ออก ค. ชวนมาคยุกน ั วน ั นก ี้ ็อยากปรก ึ ษาชว่ยกน ั หาทางออกเรอ ื่งทผ ี่มก็ เป็นหว่งอยูเ่ รื่องหนึ่ง ไม่ อยากให้ลุกลามเป็ นความเข้าใจผิด แล้วอาจจะกระทบผลงานของเราไปนะ พอดีเมื่อวานน้อง ๆ เขามาคุยด้วยเพราะเขาไม่สบายใจและที่พอสรุปได้คือ เขาไม่สบายใจที่เวลาพูดคุยเรื่องงานที่ ไมเ่ ป็นไปตามมาตรฐานหรอ ื ตามทค ีุ่ณอยากเห็น พอคุยกน ั แลว ้ ก็จะเสย ี งดง ั ฟั งดูเหมอ ืนดุด่า แลว ้ เขาก็ยง ั มองไมเ่ห็นจดุทเ ี่ขาจะปรบ ั หรอ ื ทา ให ้ ดข ี น ึ้ ได ้ พวกเขาก็ เลยเสย ี กา ลงใจ อยากย้าย ั งาน เดย ี๋วเราลองมานง่ั คยุกน ั เพอ ื่หาวธิแ ี กไ้ ขกน ั ดไี หม 7
เฉลย 1. ถ้าเลือกข้อ ก. ผอ. กลมุ่งานคนนจี้ะรสู้กึเหมอืนถกูกลา่วหา และคิดกลไกปกป้ องตัวเอง (Defense Mechanism) ตามกระบวนการทางจติทเี่กดิ โดยอตั โนมตั ิเชน่เมอื่เรมิ่ไดย้นิคา กลา่ วหาก็ จะเกิดการปฏิเสธว่าไม่จริง ไม่เคยท าอย่างนั้น หรืออาจกล่าวโทษลูกน้องว่า “ก็ท างานไม่ได้เรื่อง” “ไม่ ละเอียด ไม่รอบคอบ” “ท างานชา ้ มาก เอาแตน่ง่ัคยุกนักลางวนัก็ตอ ้ งออกไปกนิขา ้ วขา ้ งนอก กลบมาก็ ั ไม่ตั้งใจท างาน” เป็ นต้น และอาจไม่ฟังข้อมูลที่แท้จริงที่จะบอกเพื่อคิดถึงทางแก้ไขต่อไปให้ สถานการณ์ดขีนึ้ 2. ถ้าเลือกข้อ ข. และเริ่มต้นสนทนาด้วยการอา้งถงึสงิ่ทคี่นอนื่พูดใหไ้ดย้นิ ผู้รับฟังข้อมูลจะ รูส้กึว่าเรอื่งนอี้าจจะอยูใ่นลกัษณะของกรณีเรอื่ง “น า้ผงึ้หยดเดยีว” หรือ “เสยีงกระซบิ ” ซงึ่เรมิ่จาก เรื่องเล็ก ๆ เพียงเรื่องเดียว แต่เมื่อถูกขยายความต่อ ๆ กันไปก็จะกลายเป็ นเรื่องที่มากเกินกว่าความเป็ น จริง และในการพูดคุยกับท่าน ผู้รับข้อมูลก็จะพยายามแก้ความเข้าใจผิดที่ตนเองคิดว่าได้ถูกขยาย ความให้ใหญ่โตเกินไป และไม่คิดถึงการแก้ไขปัญหา และอาจมองว่าลูกนอ ้ งช่างฟ้ อง ท าไมไม่มาคุย กบัตนกอ่น ซงึ่จะเป็นการผลกั ใหเ้กดิการกลา่วหาซงึ่กนัและกนัและกลายเป็นอยูค่นละฝ่ายมากกว่าจะ เป็นการรว่มมอืรว่มใจกนัแกป้ ัญหา นอกจากนแี้ลว ้ ยงัเป็นการพูดฝ่ายเดยีว ไมไ่ดร ้ บั ฟังขอ ้ มูลอีกด้าน หนงึ่และไมม่กีารพดูคยุทจี่ะชว่ยใหเ้จา้ของปญัหาเกดิแนวคดิ ในการแกป้ญัหาไดเ้ลย 8
3. ถ้าเลือกข้อ ค. เริ่มต้นด้วยการบอกจุดประสงค์ของการพูดคุย ในลักษณะการชวนกัน มาปรึกษาหารือ เพื่อให้เกิดแง่คิด /การแกป้ ญัหาเกยี่วกบัสมัพนัธภาพทดี่รีะหวา่งหวหน้าและ ั ลูกน้อง ซงึ่จะชว่ยใหก้ารปฏบิตังิานรว่มกนัเป็นไปอยา่งราบรนื่มปีระสทิธภิาพ และประสทิธผิล อยา่งรว่มมอืรว่มใจและหนัหนา้เขา้หนา้กนัเมอื่มปีญัหาและอปุสรรคเกดิขนึ้เพอื่ใหง้านเกิดผล สมัฤทธิ์เมอื่เรมิ่สนทนาดงันแี้ลว ้ ทา่นอาจตอ่เนอื่งการสนทนาดว ้ ยการชว่ยให ้ ผอ.กลุ่มงานคนนี้ เปิดใจ รับฟัง และมโีอกาสพดูถงึเรอื่งราวทเี่กดิขนึ้ ในแงม่มุของตน ซงึ่เป็นการสนทนา พูดคุยสอง ทาง มกีารใหแ้ละรบัฟงัขอ้มลูและความคดิเห็นซงึ่กนัและกนั สรา้งความไว้วางใจภายใต้ บรรยากาศของความเป็ นกันเอง ชว่ยใหเ ้ปิดเผยไดม ้ ากขนึ้ ข้อความในข้อ ค เป็ นเพียงการเริ่มต้นเปิดประเด็นคุย ในการสนทนาต่อจะเป็ นเรื่องของ การให้ Feedback ซงึ่ผบู้รหิารจ าเป็นตอ้งใชท ้ กัษะ ทก ั ษะส าคญ ั ในการสะทอ ้ นสถานการณ ์ การใชศ ้ าสตรแ ์ ละศลิป์ ของการโนม ้ นา ้ วจงูใจเพอ ื่ กระตนุ้ พฤตกิรรม ทางจริยธรรม 9
จริยธรรมของผู้สะท้อนสถานการณ์/ Feedback หลก ี เลย ี่ งการใชภ ้ าษาเสมอ ื นดดุา ่ ต าหนิกลา ่ วโทษ โจมตบ ี คุลกิ ที่เราไม่ชอบ ไมใ่ ชก ้ ารกลา ่ วหา ใหใ้ชเ ้ หตผุล ไมพ ่ ดูเกนิจรงิและปรบ ั ค าพดูใหส้ ภาพ ุ ระวง ัไมใ่ หเ ้ป็นเรอ ื่ งสว ่ นตว ั หรอ ื กลา ่ วโทษตว ั บคุคลตามขอ ้ มลูเดมิทเคยมี ี่ ตรวจสอบขอ ้ เท็จจรงิใหถ ้ กูตอ ้ งชด ั เจน กอ ่ นสะทอ ้ นสถานการณ ์ หาจังหวะพูด ที่ไม่ท าให้ผู้รับ Feedback เสย ี หนา ้ แตใ่ หค ้ ยุสว ่ นตว ั ภายใต้บรรยากาศของความปรารถนาดี เป็ นกันเอง และร่วมมือ ร่วมใจ แก้ปัญหา 10
1 พฤติกรรมของคุณกิ่ง ขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ ข้อไหน ? Q กำรรับของก ำนัล คลิป 1.52 m
12 กำรที่จนท.รับของก ำนัล 10,000 บำท - ไม่ปฏิบัติตำมมำตรฐำนทำงจริยธรรม ข ้อที่ 2 ถอ ื วำ่ ไมซ่อ ื่สต ั ยส์ จุรติ - ผิดต่อประกำศคณะกรรมกำร ป.ป.ช. แห่งชำติ พ.ศ. 2563 ข ้อ 6 (1) ที่รับของก ำนัลที่มีมูลค่ำเกิน 3,000 บำท - ผิดวินัย ตำมมำตรำ 83 (3) “ขำ้รำชกำรตอ้งไมอ่ำศ ั ยต ำแหน่งหนำ้ทร ี่ำชกำรของตนหำ ประโยชน์ให ้แก่ตน ” - ขัดต่อนโยบำย No Gift Policy กรณีเหตกุารณ์ตา่ง ๆ หรอืผลลพัธท์ ไี่ด้จะเป็นเชน่นนอยู่แล้ว ั้ แม้จะได้/ไม่ได้รับของก านัล หรือประโยชน์ใด ๆ ก็ตาม การรับมา จึงเป็ นผลพลอยได้ กินตามน ้า