The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ครูผู้สอน นางสาวสุนันทพร ทาปศรี
โรงเรียนบ้านดงตาหวัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sunangook, 2021-01-13 05:33:55

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาการคำนวณ ชั้นม.3

ครูผู้สอน นางสาวสุนันทพร ทาปศรี
โรงเรียนบ้านดงตาหวัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2

1

สารบัญ 2

เร่อื ง หน้า

คำอธบิ ายรายวิชา 1
โครงสรา้ งรายวิชา 2
โครงสรา้ งหน่วยการเรียนรู้ 4
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 6
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 14
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 22
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 30
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 38
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6 46
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 7 53
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 60
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 9 67
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 10 74

1

คำอธบิ ายรายวชิ า

รหสั วชิ า ว23103 วชิ า วทิ ยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 20 คาบ จำนวน 1 หนว่ ยกติ

ศึกษาขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน Internet of Things (IoT) การเขียนโปรแกรมเพื่อพัฒนา
แอปพลิเคชัน ข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ การประมวลผลข้อมูล การสร้างทางเลือกและประเมินผล ซอฟต์แวร์
หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้ในการจัดการข้อมูล การประเมินการความน่าเชื่อถือของข้อมูล การสืบค้นหา
แหล่งต้นตอของข้อมูล เหตุผลวิวัติ ผลกระทบจากข่าวสารที่ผิดพลาด การรู้เท่าทันสื่อ กฎหมายที่เกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ การใชล้ ขิ สทิ ธิข์ องผอู้ ื่นโดยชอบธรรม

รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิหรือทุติยภูมิ ประมวล สร้างทางเลือก และนำเสนอการตัดสินใจได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ออกแบบและเขียนโปรแกรม เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการบูรณาการกับวิชาอื่นอย่าง
สรา้ งสรรค์ ใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งรู้เท่าทัน และมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม

ตัวช้ีวดั
ว 4.2 เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

ว 4.2 ม.3/1 พฒั นาแอปพลิเคชนั ทมี่ กี ารบรู ณาการกับวชิ าอน่ื อย่างสร้างสรรค์
ว 4.2 ม.3/2 รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ ตามวตั ถุประสงค์โดย
ใชซ้ อฟตแ์ วร์หรอื บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ นต็ ท่ีหลากหลาย
ว 4.2 ม.3/3 ประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมลู วิเคราะหส์ อื่ และผลกระทบจากการให้ขา่ วสารที่ผดิ เพอ่ื
การใช้งานอยา่ งร้เู ท่าทนั
ว 4.2 ม.3/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม ปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย
เกีย่ วกบั คอมพิวเตอร์ ใชล้ ิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบธรรม

รวมทงั้ หมด 4 ตวั ชวี้ ัด

2

โครงสรา้ งรายวิชา

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว23103

รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2

ลำดบั ช่ือหนว่ ยการ มฐ/ตช/ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั
ท่ี เรียนรู้ ผลการ (คาบ) คะแนน
เรยี นรู้

1 การพัฒนา ว 4.2 ม. ขน้ั ตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชัน 2

แอปพลิเคชนั 3/1

2 ภาษาไพทอน ว 4.2 ม. - ซอฟตแ์ วรท์ ใี่ ช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชนั เชน่ 8

3/1 Scratch, python, java, c,

ว 4.2 ม. AppInventor

3/2 - การประมวลผลเปน็ การกระทำกับข้อมลู เพ่ือให้ได้

ผลลัพธ์ท่มี ีความหมายและ

มีประโยชน์ต่อการนำไปใช้งาน

- การใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือบริการบนอนิ เทอร์เน็ตท่ี

หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล

สร้างทางเลอื ก ประเมินผล นำเสนอ จะช่วยให้

แกป้ ญั หาได้อยา่ งรวดเรว็ ถกู ตอ้ งและแม่นยำ

3 การประมวล ว 4.2 ม. - การรวบรวมข้อมลู จากแหล่งขอ้ มลู ปฐมภมู แิ ละ 2

ผลข้อมลู 3/2 ทุติยภูมิ ประมวลผล สร้างทางเลอื ก ประเมนิ ผล จะ

ทำให้ได้สารสนเทศเพอ่ื ใช้ในการแกป้ ญั หาหรือการ

ตัดสินใจไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ

- การประมวลผลเปน็ การกระทำกับข้อมลู เพ่ือให้ได้

ผลลัพธท์ ีม่ คี วามหมายและมปี ระโยชนต์ อ่ การ

นำไปใช้งาน

- การใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื บรกิ ารบนอินเทอร์เน็ตที่

หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล

สร้างทางเลือก ประเมนิ ผล นำเสนอ จะช่วยให้

แก้ปัญหาได้อยา่ งรวดเรว็ ถูกต้องและแมน่ ยำ

3

4 อินเทอรเ์ นต็ ว 4.2 ม. - อินเทอร์เน็ตของสรรพส่ิง หรอื ไอโอที (Internet 2
ของสรรพส่ิง 3/1 of Things : IoT) เป็นการเชอ่ื มโยงอุปกรณต์ า่ งๆ 6
เชน่ อปุ กรณไ์ ฟฟ้า ตวั ตรวจวดั เขา้ กบั โครงขา่ ย 20
อนิ เทอรเ์ นต็ ทำให้สามารถส่งข้อมลู ตรวจวัดจาก
สภาพแวดลอ้ มไปยงั เคร่อื งคอมพิวเตอร์และ
อปุ กรณๆ์ ทเ่ี ชอื่ มอยกู่ ับอนิ เทอร์เน็ตได้

5 การใช้เทคโนโลยี ว 4.2 ม. - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เชน่
สารสารสนเทศ 3/3ว 4.2 การทำธรุ กรรมอิเล็กทรอนกิ ส์ การซ้ือสินค้า ซ้ือ
อย่างร้เู ทา่ ทนั ม.3/4 ซอฟต์แวร์ คา่ บรกิ ารสมาชิก ซ้อื ไอเท็ม
- การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมคี วาม
รบั ผิดชอบ เช่น ไมส่ ร้างข่าวลวง ไมแ่ ชร์ขอ้ มลู โดย
ไม่ตรวจสอบขอ้ เท็จจรงิ

รวม

4

โครงสร้างแผนการจดั การเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วชิ า ว23103

รายวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การ กระบวนการ ทักษะการคิด สมรรถนะสำคัญ เวลา
เรียนรู้ จดั การเรียนรู้ (คาบ)

1.การพัฒนา 1.การพัฒนา กระบวนการ 1.การคดิ 1.ความสามารถในการ 2
4
แอปพลิเคชัน แอปพลิเคชัน สร้างเจตคติ วเิ คราะห์ คดิ
4
2.การคิด 2.ความสามารถในการ
2
สังเคราะห์ แก้ปญั หา 2

2.ภาษาไพทอน 2.การประมวลผล กระบวนการ 1.การคิด 1.ความสามารถในการ

สารสนเทศ ปฏิบัติ วิเคราะห์ แก้ปญั หา

2.การคิด 2.ความสามารถในการ

สงั เคราะห์ ใช้เทคโนโลยี

3.การคดิ

แกป้ ญั หา

3.การสรา้ งสว่ นตอ่ กระบวนการ 1.การคดิ 1.ความสามารถในการ

ประสานกราฟกิ กับ ปฏบิ ัติ วเิ คราะห์ แกป้ ัญหา

ผูใ้ ช้ 2.การคดิ 2.ความสามารถในการ

สังเคราะห์ ใช้เทคโนโลยี

3.การคดิ

แกป้ ญั หา

3.การประมวล 4.การประมวลผล กระบวนการ 1.การคิด 1.ความสามารถในการ

ผลขอ้ มูล ขอ้ มลู สร้างเจตคติ วเิ คราะห์ คิด

2.การคิด 2.ความสามารถในการ

สังเคราะห์ แกป้ ญั หา

4.อนิ เทอรเ์ น็ต 5.อนิ เทอรเ์ น็ตของ กระบวนการ 1.การคิด 1.ความสามารถในการ

ของสรรพส่ิง สรรพสงิ่ สรา้ งเจตคติ วเิ คราะห์ คิด

2.การคิด 2.ความสามารถในการ

สงั เคราะห์ แกป้ ญั หา

5

5.การใช้ 6.การประเมินความ กระบวนการ 1.การคิด 1.ความสามารถในการ 1
สรา้ งเจตคติ คิด
เทคโนโลยีสาร น่าเชือ่ ถือของข้อมูล วเิ คราะห์ 2.ความสามารถในการ 2
สารสนเทศอยา่ ง 2.การคิด แก้ปญั หา 1
3.ความสามารถในการ
รเู้ ท่าทนั สงั เคราะห์ ใช้เทคโนโลยี

7.เหตุผลวบิ ตั ิ 1

8.การทำธรุ กรรม 1
อิเล็กทรอนิกส์อย่าง
ปลอดภยั

9.การรู้เทา่ ทันสอ่ื
และขา่ วลวงและ
ผลกระทบ

10.กฎหมายเก่ียวกบั
คอมพวิ เตอรแ์ ละการ
ใชล้ ขิ สิทธิ์ทีเ่ ป็นธรรม

รวม 20

6

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง การพฒั นาแอปพลิเคชนั

เรือ่ ง การพัฒนาแอปพลเิ คชนั จำนวน 2 คาบ

วนั ................ เดอื น..................... พ.ศ. ................. เวลาเรียน..…….........……

ครผู ู้สอน นางสาวสุนนั ทพร ทาปศรี โรงเรยี นบา้ นดงตาหวัง อำเภอโพธิ์ไทร จังหวดั อุบลราชธานี

1.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน

และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ รู้เท่าทนั และมจี ริยธรรม

ตวั ชว้ี ัด ม.3/1 พัฒนาแอปพลเิ คชันท่มี ีการบูรณาการกบั วชิ าอ่ืนอยา่ งสรา้ งสรรค์

2.สาระการเรียนรู้

ข้นั ตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชนั

3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

ในการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ถ้าเรามีการวางแผนพัฒนาอย่างเป็นระบบ

โดยใช้เครื่องมือมาช่วยวางแผนและติดตามความก้าวหน้าของงานที่ทำ จะช่วยให้พัฒนาซอฟต์แวร์ได้ตรงตาม

ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างครอบถ้วนและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงช่วยลดต้นทุนในการพัฒนา

ซึ่งขั้นตอนการพัฒนาแอปพลิเคชัน ได้แก่ การศึกษาความต้องการ การออกแบบ การสร้างแอปพลิเคชัน และ
การทดสอบ

4.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. นักเรียนอธิบายข้ันตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชันได้ (K)
2. นักเรยี นใช้เครื่องมือชว่ ยวางแผนการพฒั นาแอปพลเิ คชันได้ (P)
3. นกั เรียนมคี วามใฝ่เรยี นรู้ (A)

5. คำถามสำคญั (Big Question)

แอปพลิเคชันทด่ี ีต้องมลี ักษณะอย่างไร

7

6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลกั สูตรแกนกลาง 2551 และปรับปรุง 2560

ใฝเ่ รียนรู้

7. คุณคา่ พระวรสาร ความซื่อตรง (regularity)

8. ทกั ษะการคิด

1. การคดิ วิเคราะห์
2. การคดิ สังเคราะห์

9. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

10. ภาระงาน/ชน้ิ งาน/ร่องรอย/หลักฐานการเรยี นรู้

1. แบบฝึกหัดทา้ ยบท/ใบกิจกรรม

2. สังเกตพฤติกรรมมีสว่ นรว่ มในช้ันเรียน

11. การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน
คาบที่ 1

1) ขัน้ นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น

ครูต้ังคำถามกบั นกั เรยี น “แอปพลิเคชันทีด่ ี ควรเปน็ อย่างไร?” แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันตอบ

2) ขนั้ สอน โดยใชก้ ระบวนการสรา้ งเจตคติ

1. สงั เกต
ครยู กตวั อยา่ งแอปพลเิ คชันต่างๆใหน้ ักเรียนดู เช่น Line Facebook Youtube ฯลฯ แล้ว

ถามนกั เรียนวา่ ถา้ เราจะสร้างแอปพลิเคชันมา 1 แอปจะมีขน้ั ตอนการสร้างอย่างไร
2. วิเคราะห์

1.ครูใหน้ กั เรียนศกึ ษาหวั ข้อ 1.1 การพัฒนาแอปพลิเคชนั จากหนังสอื เรยี น ซึ่งมี 4 ขน้ั ตอน
1.การศกึ ษาความต้องการ 2.การออกแบบ 3.การสร้างแอปพลเิ คชนั และ4.การทดสอบ และครู
อธบิ ายแตล่ ะขนั้ ตอนให้นักเรยี นเพม่ิ เติม

8

2.ครูให้นกั เรียนศกึ ษาหวั ข้อ 1.2 การวางแผนการพัฒนา จากหนงั สอื เรียน ครูอธิบายเพิม่ เตมิ
การวางแผนการพัฒนาและติดตามงานโดยใช้เทคนิคกระดานคมั บัง และรายละเอียดข้อมลู บน
การด์ คมั บงั วา่ ตอ้ งประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง

3.ครูใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรมท่ี 1.1
3. สรุป

ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปขัน้ ตอนการพัฒนาแอปพลเิ คชันและขนั้ ตอนการวางแผนการ
ทำงานด้วยการใชเ้ ทคนิคคัมบงั

3) ข้นั สรปุ

ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ขั้นตอนการพฒั นาแอปพลเิ คชนั และข้นั ตอนการวางแผนการทำงานด้วยใช้
เทคนคิ คัมบงั

คาบที่ 2
1) ข้ันนำเข้าสู่บทเรียน

ครทู บทวนบทเรียนในคาบทผ่ี ่านมา เรอื่ งข้ันตอนการพฒั นาแอปพลิเคชนั และเทคนิคกระดานคมั บัง

2) ขัน้ สอน โดยใชก้ ระบวนการสรา้ งเจตคติ

1. สงั เกต
ครูต้งั คำถามกับนกั เรียน ถ้าเราไมม่ กี ระดาษโพสอิทในการทำกระดาษคัมบงั เรามวี ิธไี หนได้

บา้ งให้นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบ
2. วิเคราะห์

1.ครูให้นกั เรียนศึกษาหวั ขอ้ ที่ 1.3 เคร่อื งมือชว่ ยวางแผนและติดตามความก้าวหนา้ ซ่ึงจะ
เปน็ การใชโ้ ปรแกรมออนไลน์ ชอื่ โปรแกรมเทรลโล (Trello) เป็นแอปพลเิ คชนั แบบออนไลน์ที่
นำมาใช้บรหิ ารจดั การงานในรปู แบบกระดานคัมบัง

2.ครูให้นกั เรยี นเปิดเว็บไซต์ htttps://trello.com แลว้ ครอู ธบิ ายขั้นตอนการสมัครและการ
ใช้งาน

3.ครใู ห้นักเรียนออกแบบงานโดยใชโ้ ปรแกรมเทรลโล มา 1 เรอื่ ง
4.ครูใหน้ กั เรียนทำกจิ กรรมท้ายบทและแบบฝึกหัดทา้ ยบท
3. สรปุ
ครูและนักเรยี นร่วมกัน สรปุ การใชโ้ ปรแกรมเทรลโล

3) ขน้ั สรุป

ครูและนกั เรยี นรว่ มกัน สรุปการใชโ้ ปรแกรมเทรลโล

9

12. ระบเุ ทคนิคการสอนที่ใชใ้ นการจดั การเรยี นร้ไู ดม้ ากกว่า 1 รายการ

1. ใช้บรรยาย
2. ใชก้ รณีตัวอยา่ ง

13. สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้

1. หนังสือเรยี น
2. สไลดส์ อื่ ประกอบการสอน

14. การวดั ประเมนิ วธิ ีการวดั เครือ่ งมือวดั เกณฑก์ ารวัด
1.แบบฝกึ หดั
จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.การตอบคำถามใน 1.สามารถตอบคำถามใน
แบบฝึกหดั 2.แบบประเมินใบ แบบฝึกหัดได้ถูกต้องตาม
1.นกั เรียนอธบิ ายขน้ั ตอนการพฒั นา งาน หลักการ 80 % ขึ้นไป
แอปพลิเคชันได้ (K) 3.แบบประเมนิ
พฤตกิ รรม 2.สามารถตอบคำถามในใบ
2.นกั เรียนใชเ้ ครือ่ งมอื ช่วยวางแผนการ 2.ตรวจใบงาน งานได้ 80 % ข้ึนไป
พฒั นาแอปพลิเคชนั ได้ (P) 3.นกั เรยี นมีคุณลกั ษณะอัน
3.สังเกตพฤติกรรมใน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึน้ ไป
3.นกั เรียนมีความใฝเ่ รยี นรู้ (A) การทำแบบฝกึ หัด

10

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ü ลงใน

ช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น 4321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมือ่ ได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมายของ
กษตั รยิ ์ เพลงชาติ

1.2 ปฏิบัตติ นตามสทิ ธิและหนา้ ท่ขี องนักเรยี น

1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทำงานกบั สมาชิกในโรงเรียน

1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมีสว่ นรว่ มในการจัดกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี นและชุมชน

1.5 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนับถือ ปฏิบตั ิตนตามหลกั ของศาสนา

1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมที่เกี่ยวกบั สถาบนั
พระมหากษัตรยิ ต์ ามทโี่ รงเรียนและชุมชนจัดขนึ้

2. ซอ่ื สัตย์ สุจรติ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทีถ่ กู ตอ้ ง และเปน็ จริง

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวทจี่ ะทำความผิด ทำตามสัญญาที่
ตนใหไ้ วก้ ับเพอ่ื น พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผู้อืน่ ดว้ ยความซ่ือตรง ไม่หาประโยชนใ์ นทางทไ่ี ม่ถูกต้อง

3. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครัว
และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่างๆ ในชีวติ ประจำวนั และ
รับผดิ ชอบในการทำงาน

4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ

4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ

4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล

5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั ค้มุ ค่า
และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม

5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั ค้มุ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี

5.3 ปฏิบตั ิตนและตดั สินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตผุ ล

5.4 ไมเ่ อาเปรียบผ้อู น่ื และไมท่ ำให้ผอู้ น่ื เดือดร้อน พรอ้ มให้อภยั เมอื่ ผอู้ ืน่ กระทำ
ผดิ พลาด

11

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อันพงึ ประสงคด์ ้าน 4321
5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชวี ติ ประจำวนั บนพน้ื ฐานของ
6. ม่งุ มน่ั ในการ ความรู้ ข้อมลู ขา่ วสาร
ทำงาน
5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรบั ตัว
7. รักความเป็นไทย อยูร่ ่วมกบั ผู้อน่ื ได้อย่างมคี วามสุข
8. มีจิตสาธารณะ
6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออุปสรรคเพ่ือใหง้ านสำเร็จ
7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย
8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ชว่ ยทำ และแบ่งปนั ส่ิงของใหผ้ ้อู ื่น
8.3 ดแู ล รักษาทรพั ยส์ มบัตขิ องห้องเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน

ลงชอื่ .................................................... ผู้ประเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั ให้ 1 คะแนน

เกณฑก& ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ช4วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

191 - 108 ดีมาก

73 - 90 ดี

54 - 72 พอใช5

ต่ำกว:า 54 ปรบั ปรงุ

12

บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรBู
• ผลการจดั การเรยี นรู5
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
• ปJญหา /อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
• แนวทางแก5ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
• ขอ5 เสนอแนะ (ถ5ามี)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ......................................................
(นางสาวสนุ นั ทพร ทาปศร)ี
ครผู ูส5 อน

13
ขอ5 เสนอแนะ / ความคิดเห็นของหัวหน5าฝา^ ยวชิ าการ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .....................................................
(นายปรเมศวร_ มงคลเสรมิ )
หัวหน5าฝา^ ยวิชาการ

ขอ5 เสนอแนะ / ความคิดเห็นของผบู5 รหิ ารสถานศึกษา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .....................................................
(นายบุญชว: ย สายราม)

ผอ5ู ำนวยการโรงเรียนบ5านดงตาหวงั

14

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 2

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง ภาษาไพทอน

เร่อื ง การประมวลผลสารสนเทศ จำนวน 4 คาบ

วนั ................ เดอื น..................... พ.ศ. ................. เวลาเรยี น..…….........……

ครผู ูส้ อน นางสาวสุนันทพร ทาปศรี โรงเรียนบ้านดงตาหวัง อำเภอโพธไ์ิ ทร จงั หวัดอุบลราชธานี

1.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน

และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ร้เู ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม

ตัวชีว้ ัด ม.3/1 พัฒนาแอปพลิเคชันทีม่ ีการบรู ณาการกับวชิ าอน่ื อย่างสร้างสรรค์
ตัวช้วี ดั ม.3/2 รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ตาม
วตั ถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ ท่ีหลากหลาย

2.สาระการเรียนรู้

ซอฟตแ์ วรท์ ่ใี ช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชัน เช่น Scratch, python, java, c, AppInventor
การประมวลผลเปน็ การกระทำกับข้อมลู เพ่ือให้ไดผ้ ลลัพธ์ทม่ี ีความหมายและมปี ระโยชนต์ ่อการ
นำไปใชง้ าน

3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การประมวลผลสารสนเทศเบื้องต้นด้วยภาษาไพทอน ทำได้โดยใช้โมดูล pandas ช่วยในการอ่าน
ข้อมูลประมวลผลและทำขอ้ มลู ใหเ้ ปน็ ภาพ สำหรับนำไปใชง้ านตามจุดประสงค์ตา่ งๆ ได้

4.จุดประสงค์การเรียนรู้

1. นักเรียนอธิบายหลักการเขียนโปรแกรมประมวลผลสารสนเทศได้ (K)
2. นักเรยี นเขียนโปรแกรมประมวลผลสารสนเทศได้ (P)
3. นกั เรียนมงุ่ ม่นั ในการทำงาน (A)

5. คำถามสำคัญ (Big Question)

การประมวลผลสารสนเทศท่ดี ี ควรคำนึงถึงอะไร

15

6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลาง 2551 และปรับปรงุ 2560

มุง่ มนั่ ในการทำงาน

7. คณุ คา่ พระวรสาร การงาน (work)

8. ทักษะการคดิ

1. การคดิ วเิ คราะห์
2. การคิดสงั เคราะห์
3. การคดิ แกป้ ัญหา

9. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น

1. ความสามารถในการแก้ปัญหา
2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

10. ภาระงาน/ช้นิ งาน/รอ่ งรอย/หลกั ฐานการเรยี นรู้

1. แบบฝึกหัดทา้ ยบท/ใบกิจกรรม
2. สังเกตพฤติกรรมมีสว่ นร่วมในช้ันเรียน

11. การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน

คาบท่ี 1-2

1) ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น

ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างข้อมูลในชีวิตประจำวันที่สนใจ เช่น ข้อมูลประวัตินักเรียน ข้อมูลคะแนน
สอบ ข้อมูลสุขภาพ พร้อมบอกประโยชน์ในการนำข้อมูลไปใช้งาน และครูถามนักเรียนถึงข้อมูลที่
สนใจว่าประกอบไปดว้ ยข้อมลู ยอ่ ยอะไรบ้าง

2) ข้นั สอน โดยใชก้ ระบวนการปฏิบัติ

1.การสังเกต/รบั รู้
ครูแนะนำใหน้ กั เรียนร้จู ักโมดูล Pandas ซึ่งเป็นโมดลู ในภาษาไพทอนที่ชว่ ยอำนวยความ

สะดวกในการประมวลผลขอ้ มูล แล้วรว่ มกันทบทวนการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาไพทอนเบอ้ื งตน้ ครอู ธิบาย
ข้อมูลที่เก็บใน Pandas ท่ีเป็น Series และ DataFrame

2.การทำตามแบบ

16

1.ครสู อนนักเรยี นเขียนโปรแกรมตามตัวอยา่ งที่ 2.1 การใช้ Series ในการเก็บคะแนนสอบ
วชิ าวิทยาการคำนวณของนักเรยี นช้นั ม.3/1 จำนวน 20 คน แล้วรนั โปรแกรมเพือ่ แสดงผลลพั ธ์

2.ครสู อนนกั เรียนเขยี นโปรแกรมตามตัวอย่างท่ี 2.2 การใช้ DataFrame แล้วรนั โปรแกรม
เพอื่ แสดงผลลัพธ์

3.ครูสอนนักเรียนเขียนโปรแกรมในรปู แบบไฟลข์ อ้ มลู ในรปู แบบซเี อสวี
3.การทำโดยไม่มีแบบ

ครูใหน้ ักเรยี นเขียนโปรแกรมท่รี ะบชุ อ่ื คอลัมนห์ รือหวั ตารางในการแสดงผล โดยใช้ฟังกช์ ัน
read_csv ( )

4.การฝึกใหเ้ กิดทกั ษะ
ครใู ห้นกั เรียนเขียนโปรแกรมแสดงขอ้ มูลใน DataFrame ออกทางจอภาพ โดยใช้ฟงั ก์ชัน

print( ) แสดงผลลัพธ์ในรปู แบบต่างๆ

3) ขั้นสรปุ

ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุป การใชง้ านโมดลู pandas

คาบที่ 3-4
1) ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรยี น

ครูทบทวนบทเรียนในคาบท่แี ล้ว

2) ข้นั สอน โดยใช้กระบวนการปฏิบตั ิ

1.การสังเกต/รับรู้
ครูอธิบายขอ้ มูลใน DataFrame ท่ีรบั มาจากไฟล์ CSV น้นั สามารถนำไปประมวลผลตาม

ความตอ้ งการได้ เช่น คา่ เฉล่ีย คา่ สงู สดุ ค่าต่ำสดุ เป็นต้น
2.การทำตามแบบ
ครสู อนการเขียนโปรแกรมการนบั จำนวนขอ้ มูล การหาคา่ เฉล่ยี การหาคา่ เฉลย่ี แยกตามกล่มุ
3.การทำโดยไม่มีแบบ
ครใู หน้ กั เรียนเขียนโปรแกรมการทำข้อมลู ให้เปน็ ภาพ ด้วยการนำเสนอด้วยฮิสโทแกรม
4.การฝกึ ใหเ้ กิดทักษะ
ครใู ห้นกั เรยี นเขียนโปรแกรมการนำเสนอผลคะแนนดว้ ยแผนภาพการกระจาย

3) ขน้ั สรุป

ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายสรุป การรวมข้อมูล การทำข้อมลู ใหเ้ ปน็ ภาพ และการนำ Pandas ไป
ใช้ประโยชน์ในด้านอ่ืนๆ

17

12. ระบเุ ทคนคิ การสอนที่ใช้ในการจดั การเรยี นรูไ้ ดม้ ากกวา่ 1 รายการ

1. ใช้บรรยาย
2. ใชก้ รณีตวั อย่าง
3. ใชก้ ารปฏิบตั ิ

13. ส่ือและแหลง่ เรียนรู้

1. หนงั สอื เรียน

2. สไลดส์ อ่ื ประกอบการสอน

14. การวัดประเมิน วธิ กี ารวัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารวดั
1.แบบฝกึ หัด
จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.การตอบคำถามใน 1.สามารถตอบคำถามใน
แบบฝกึ หดั 2.แบบประเมนิ ใบ แบบฝึกหดั ได้ถกู ต้องตาม
1.นักเรยี นอธบิ ายหลกั การเขยี น งาน หลกั การ 80 % ขึ้นไป
โปรแกรมประมวลผลสารสนเทศได้ (K) 3.แบบประเมนิ
พฤติกรรม 2.สามารถตอบคำถามในใบ
2.นักเรยี นเขยี นโปรแกรมประมวลผล 2.ตรวจใบงาน งานได้ 80 % ขึ้นไป
สารสนเทศได้ (P)
3.สังเกตพฤติกรรมใน 3.นักเรยี นมีคุณลกั ษณะอัน
3.นกั เรียนมุง่ มั่นในการทำงาน (A) การทำแบบฝกึ หัด พงึ ประสงค์ ได้ 85% ขน้ึ ไป

18

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คำชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ü ลงใน

ช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อันพงึ ประสงค์ดา้ น 4321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมือ่ ได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมายของ
กษตั รยิ ์ เพลงชาติ

1.2 ปฏิบัตติ นตามสทิ ธิและหนา้ ท่ขี องนักเรยี น

1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทำงานกบั สมาชิกในโรงเรียน

1.4 เข้าร่วมกิจกรรมและมีสว่ นรว่ มในการจัดกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามคั คี
ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี นและชุมชน

1.5 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนับถือ ปฏิบตั ิตนตามหลกั ของศาสนา

1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมที่เกี่ยวกบั สถาบนั
พระมหากษัตรยิ ต์ ามทโี่ รงเรียนและชุมชนจัดขนึ้

2. ซอ่ื สัตย์ สุจรติ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทีถ่ กู ตอ้ ง และเปน็ จริง

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวทจี่ ะทำความผิด ทำตามสัญญาที่
ตนใหไ้ วก้ ับเพอ่ื น พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผู้อืน่ ดว้ ยความซ่ือตรง ไม่หาประโยชนใ์ นทางทไ่ี ม่ถูกต้อง

3. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครัว
และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมต่างๆ ในชีวติ ประจำวนั และ
รับผดิ ชอบในการทำงาน

4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ

4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ

4.3 สรปุ ความรไู้ ดอ้ ย่างมีเหตผุ ล

5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั ค้มุ ค่า
และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม

5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั ค้มุ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี

5.3 ปฏิบตั ิตนและตดั สินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตผุ ล

5.4 ไมเ่ อาเปรียบผ้อู น่ื และไมท่ ำให้ผอู้ น่ื เดือดร้อน พรอ้ มให้อภยั เมอื่ ผอู้ ืน่ กระทำ
ผดิ พลาด

19

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อันพงึ ประสงคด์ ้าน 4321
5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชวี ติ ประจำวนั บนพน้ื ฐานของ
6. ม่งุ มน่ั ในการ ความรู้ ข้อมลู ขา่ วสาร
ทำงาน
5.6 รเู้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรบั ตัว
7. รักความเป็นไทย อยูร่ ่วมกบั ผู้อน่ื ได้อย่างมคี วามสุข
8. มีจิตสาธารณะ
6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออุปสรรคเพ่ือใหง้ านสำเร็จ
7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย
7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย
8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู ำงาน
8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ชว่ ยทำ และแบ่งปนั ส่ิงของใหผ้ ้อู ื่น
8.3 ดแู ล รักษาทรพั ยส์ มบัตขิ องห้องเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน
8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน

ลงชอื่ .................................................... ผู้ประเมิน
................ /................ /................

เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั ให้ 1 คะแนน

เกณฑก& ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ช4วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

191 - 108 ดีมาก

73 - 90 ดี

54 - 72 พอใช5

ต่ำกว:า 54 ปรบั ปรงุ

20

บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรBู
• ผลการจดั การเรยี นรู5
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
• ปJญหา /อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
• แนวทางแก5ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
• ขอ5 เสนอแนะ (ถ5ามี)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ ......................................................
(นางสาวสนุ นั ทพร ทาปศร)ี
ครผู ูส5 อน

21
ขอ5 เสนอแนะ / ความคิดเห็นของหัวหน5าฝา^ ยวชิ าการ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .....................................................
(นายปรเมศวร_ มงคลเสรมิ )
หัวหน5าฝา^ ยวิชาการ

ขอ5 เสนอแนะ / ความคิดเห็นของผบู5 รหิ ารสถานศึกษา
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .....................................................
(นายบุญชว: ย สายราม)

ผอ5ู ำนวยการโรงเรียนบ5านดงตาหวงั

22

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ าเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง ภาษาไพทอน

เรอ่ื ง การประมวลผลสารสนเทศ จำนวน 4 คาบ

วัน................ เดือน..................... พ.ศ. ................. เวลาเรยี น..…….........……

ครูผู้สอน นางสาวสนุ ันทพร ทาปศรี โรงเรยี นบา้ นดงตาหวงั อำเภอโพธ์ไิ ทร จงั หวดั อุบลราชธานี

1.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจ และใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ขนั้ ตอน

และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทัน และมจี รยิ ธรรม

ตวั ชว้ี ดั ม.3/1 พฒั นาแอปพลเิ คชนั ท่มี กี ารบูรณาการกบั วชิ าอืน่ อยา่ งสร้างสรรค์
ตวั ชีว้ ดั ม.3/2 รวบรวมข้อมลู ประมวลผล ประเมนิ ผล นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ ตาม
วตั ถุประสงค์ โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื บริการบนอนิ เทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลาย

2.สาระการเรยี นรู้

ซอฟต์แวร์ที่ใชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชัน เช่น Scratch, python, java, c, AppInventor

การประมวลผลเปน็ การกระทำกบั ขอ้ มลู เพ่ือให้ไดผ้ ลลัพธท์ ่มี ีความหมายและมปี ระโยชนต์ ่อการ

นำไปใช้งาน

3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การเขียนโปรแกรมทมี่ สี ว่ นตอ่ ประสานกราฟกิ กับผ้ใู ช้จะช่วยให้มองเหน็ ภาพรวมของโปรแกรมได้ดีขึ้น
ใชง้ านง่าย และมคี วามนา่ สนใจ ในภาษาไพทอน สามารถทำได้โดยการใช้ tkinter ซึง่ เปน็ โมดูลทช่ี ว่ ยในการ
เขียนโปรแกรมทีม่ สี ่วนตอ่ ประสานกราฟิกกบั ผู้ใช้

4.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.นกั เรียนอธิบายหลกั การเขยี นโปรแกรมสร้างสว่ นตอ่ ประสานกราฟิกกบั ผใู้ ชไ้ ด้ (K)
2.นกั เรียนเขยี นโปรแกรมสรา้ งสว่ นตอ่ ประสานกราฟิกกบั ผใู้ ชไ้ ด้ (P)
3.นักเรียนมงุ่ ม่ันในการทำงาน (A)

23

5. คำถามสำคัญ (Big Question)

การออกแบบหนา้ ตาโปรแกรมชว่ ยให้การใชง้ านโปรแกรมไดง้ า่ ยอยา่ งไร

6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ตามหลกั สตู รแกนกลาง 2551 และปรบั ปรงุ 2560

มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

7. คณุ คา่ พระวรสาร การงาน (work)

8. ทกั ษะการคิด

1. การคิดวิเคราะห์
2. การคิดสังเคราะห์
3. การคิดแกป้ ัญหา

9. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน

1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
2. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

10. ภาระงาน/ชิ้นงาน/ร่องรอย/หลกั ฐานการเรียนรู้

1. แบบฝกึ หดั ทา้ ยบท/ใบกิจกรรม
2. สงั เกตพฤตกิ รรมมสี ว่ นร่วมในช้นั เรียน

11. การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน
คาบท่ี 1-2
1) ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรียน

ครใู ห้นักเรียนยกตวั อยา่ งการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรอื แอปพลิเคชันในชวี ติ ประจำวันที่ทำ
ให้การดำเนินชวี ิตของผ้เู รยี นสะดวกมากข้นึ เชน่ แอปพลเิ คชนั พยากรณอ์ ากาศ แอปพลเิ คชนั
แสดงสภาพการจราจร

2) ขั้นสอน โดยใชก้ ระบวนการปฏิบัติ

1.การสังเกต/รบั รู้
ครูแนะนำใหน้ กั เรยี นรจู้ กั โมดลู tkinter ซงึ่ เป็นโมดลู ในภาษาไพทอนทช่ี ว่ ยอำนวยความ

สะดวกในการสร้างส่วนตอ่ ประสานกราฟกิ กับผู้ใช้ ซ่ึงมี 4 ขนั้ ตอนในการใช้งานโมดูล tkinder และเปน็ การ
นำไปสรา้ งแอปพลิเคชนั เคร่อื งคิดเลข

2.การทำตามแบบ

24

1.ครูสอนนกั เรียนเขียนโปรแกรมตามตวั อยา่ งที่ 2.1.1 การสร้างหน้าตา่ งหลักด้วย tkinter
แล้วรันโปรแกรมเพื่อแสดงผลลพั ธ์ ครูอธบิ ายเพมิ่ เตมิ

2.ครูสอนนักเรียนเขียนโปรแกรมตามตัวอยา่ งท่ี 2.1.2 การเพม่ิ ปมุ่ ลงในหน้าต่างหลกั แล้วรนั
โปรแกรมเพ่อื แสดงผลลพั ธ์

3.การทำโดยไมม่ ีแบบ
ครใู ห้นกั เรียนเขยี นโปรแกรมเขยี นโปรแกรมเพ่ิมวดิ เจ็ตลาเบลลงในหนา้ ต่างหลัก

4.การฝกึ ให้เกิดทกั ษะ
ครใู หน้ ักเรยี นเขียนโปรแกรมการเพิ่มปุ่มตัวเลขบนเครื่องคิดเลข

3) ขัน้ สรุป

ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ การใชง้ านโมดลู tkinder

คาบท่ี 3-4
1) ข้นั นำเข้าส่บู ทเรยี น

ครทู บทวนบทเรยี นในคาบท่ีแลว้

2) ขน้ั สอน โดยใชก้ ระบวนการปฏิบัติ

1.การสังเกต/รบั รู้
ครูอธิบายการจดั วางวดิ เจต็ แบบกรดิ

2.การทำตามแบบ
ครูสอนนกั เรียนเขยี นโปรแกรมการจดั วางวดิ เจ็ตแบบกริด

3.การทำโดยไมม่ ีแบบ
ครูให้นกั เรียนเขยี นโปรแกรมการทำงานของแอปพลิเคชนั เครอ่ื งคดิ เลข

4.การฝกึ ให้เกดิ ทกั ษะ
ครูให้นกั เรียนทำกจิ กรรมที่ 2.2 และแบบฝึกหัดท้ายบท

3) ข้นั สรปุ

ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรุป การใช้งานโมดูล tkinder

12. ระบุเทคนิคการสอนทใี่ ชใ้ นการจัดการเรยี นรไู้ ดม้ ากกว่า 1 รายการ

1. ใช้บรรยาย
2. ใช้กรณีตัวอยา่ ง
3. ใชก้ ารปฏิบตั ิ

25

13. สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้

1. หนงั สือเรยี น
2. สไลด์สอ่ื ประกอบการสอน

14. การวัดประเมิน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารวัด

1.นกั เรียนอธบิ ายหลกั การเขียน 1.การตอบคำถามใน 1.แบบฝึกหัด 1.สามารถตอบคำถามใน
โปรแกรมสร้างสว่ นต่อประสาน แบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั ไดถ้ กู ต้องตาม
กราฟกิ กับผู้ใชไ้ ด้ (K)) หลักการ 80 % ขนึ้ ไป
2.ตรวจใบงาน 2.แบบประเมินใบ
2.นักเรยี นเขียนโปรแกรมสร้างส่วนต่อ 2.สามารถตอบคำถามใน
ประสานกราฟิกกบั ผ้ใู ช้ได้ (P) งาน ใบงานได้ 80 % ขึ้นไป

3.นกั เรยี นมุ่งมัน่ ในการทำงาน (A) 3.สังเกตพฤติกรรมใน 3.แบบประเมนิ 3.นักเรยี นมคี ณุ ลักษณะอนั
พงึ ประสงค์ ได้ 85% ข้ึน
การทำแบบฝึกหัด พฤตกิ รรม ไป

26

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

คำชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงใน
ช่องท่ีตรงกบั ระดับคะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 432 1
1.1 ยนื ตรงเมอื่ ไดย้ นิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของ
1. รักชาติ ศาสน์ เพลงชาติ
กษตั ริย์

1.2 ปฏิบตั ิตนตามสิทธแิ ละหน้าที่ของนักเรยี น

1.3 ให้ความร่วมมือ รว่ มใจ ในการทำงานกับสมาชกิ ในโรงเรยี น

1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมทสี่ ร้างความสามัคคี
ปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี นและชมุ ชน

1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏิบัตติ นตามหลักของศาสนา

1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมและมีสว่ นรว่ มในการจัดกจิ กรรมทเ่ี กีย่ วกับสถาบัน
พระมหากษตั ริยต์ ามที่โรงเรียนและชุมชนจัดขน้ึ

2. ซ่ือสัตย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเปน็ จริง

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวทีจ่ ะทำความผดิ ทำตาม
สัญญาท่ตี นให้ไวก้ บั เพ่อื น พอ่ แม่ หรอื ผูป้ กครอง และครู

2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผู้อืน่ ด้วยความซื่อตรง ไม่หาประโยชนใ์ นทางที่ไม่ถูกต้อง

3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครวั
และ
รบั ผดิ ชอบ โรงเรียน ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่างๆ ในชวี ิตประจำวัน และ

รบั ผดิ ชอบในการทำงาน

4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่างๆ

4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ

4.3 สรปุ ความรูไ้ ดอ้ ย่างมเี หตุผล

5. อยอู่ ย่าง 5.1 ใช้ทรพั ย์สนิ ของตนเอง เช่น ส่ิงของ เครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คุ้มค่า
พอเพยี ง และเก็บรักษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม

5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คุ้มคา่ และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี

5.3 ปฏบิ ัติตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล

5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผู้อื่น และไม่ทำใหผ้ ู้อืน่ เดอื ดร้อน พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผ้อู ่ืน
กระทำผิดพลาด












































Click to View FlipBook Version