The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานเคมี เรื่องการเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจัดคราบของน้ำยาซักผ้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by silarat.nsr45, 2021-03-02 12:58:50

โครงงานเคมี เรื่องการเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจัดคราบของน้ำยาซักผ้า

โครงงานเคมี เรื่องการเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจัดคราบของน้ำยาซักผ้า

Keywords: โครงงาน

โครงงานวทิ ยาศาสตร์

การเปรียบเทียบประสิทธิภาพ

ในการขจดั คราบของนาํ ยาซักผา้

คณะผ้จู ดั ทํา

นางสาว ชนานนั ท์ ณ นคร เลขที 8

นางสาว ธติ มิ า ทองรอด เลขที 11

นางสาว รัตนาวดี ทองเหลอื เลขที 16

นางสาว ศิลารัตน์ รามคล้าย เลขที 18

นางสาว ศุภิสรา แพกุล เลขที 21

ผ้สู อน
นางสาวนพวรรณ แก้วโกสุม

รายงานโครงงานฉบับนเี ปนส่วนหนงึ
ของรายวิชา (ว 30226) วทิ ยาศาสตร์

ภาคเรยี นที 2 ปการศึกษา 2563
โรงเรยี นทปี ราษฎรพ์ ิทยา
จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี



การเปรียบเทยี บประสทิ ธภิ าพในการขจัดคราบของนา้ ยาซักผา้

คณะผจู้ ัดท้า ม.6/1
นางสาว ชนานันท์ ณ นคร เลขท่ี 8 ม.6/1
นางสาว ธิติมา ทองรอด เลขที่ 11 ม.6/1
นางสาว รัตนาวดี ทองเหลอื เลขที่ 16 ม.6/1
นางสาว ศลิ ารัตน์ รามคลา้ ย เลขที่ 18 ม.6/1
นางสาว ศุภสิ รา แพกุล เลขที่ 21

ผ้สู อน
นางสาวนพวรรณ แกว้ โกสมุ

รายงานโครงงานฉบับนีเป็นสว่ นหนงึ่ ของรายวชิ า (ว 30226) วิทยาศาสตร์
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563

โรงเรยี นทีปราษฎรพ์ ทิ ยา จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี



ชือ่ โครงงาน : การเปรียบเทยี บประสิทธิภาพในการขจัดคราบของนา้ ยาซักผ้า
ผู้จดั ทา : นางสาว ชนานนั ท์ ณ นคร

นางสาว ธิติมา ทองรอด
นางสาว รัตนาวดี ทองเหลอื
นางสาว ศิลารตั น์ รามคลา้ ย
นางสาว ศุภสิ รา แพกลุ
ครทู ีป่ รกึ ษา : นางสาว นพวรรณ แกว้ โกสมุ
ปีการศึกษา : 2563

บทคัดย่อ
โครงงานรายวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจัดคราบของ

น้ายาซักผ้า มีจุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้าเพ่ือศึกษาประสิทธิภาพของการใช้น้ายาซักผ้า โดยการใส่
ส่วนผสม Linear Alkylbenzene Sulfonate 95% (หัวเชือขจัดคราบ) ในปริมาณต่างกันและเปรียบเทียบ
ประสิทธิภาพระหว่างน้ายาซักผ้าท่ีผลิตขึนกับผงซักฟอกตามท้องตลาดในการขจัดคราบน้ายาซักผ้าที่ผลิต
ขึนมากับผงซักฟอกตามท้องตลาด ผลการทดลองพบว่าการใส่ส่วนผสม Linear Alkylbenzene Sulfonate

95% (หวั เชือขจดั คราบ) ในปรมิ าณมากจะท้าให้ขจัดคราบได้ดี และประสทิ ธิภาพระหว่างนา้ ยาซักผ้าทผ่ี ลติ ขึน
มีประสิทธิภาพดีกว่ากับผงซักฟอกตามท้องตลาดในการขจัดคราบน้ายาซักผ้าท่ีผลิตขึนมากับผงซักฟอกตาม
ท้องตลาด



กิตตกิ รรมประกาศ

ในการท้าโครงงานรายวิชา วิทยาศาสตร์ เรื่อง การเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจัดคราบของ
น้ายาซักผ้าคณะผูจ้ ัดท้าขอขอบพระคุณ คุณครูนพวรรณ แกว้ โกสุม ที่ได้ให้ความอนเุ คราะห์ คอยใหค้ ้าปรึกษา
และให้คา้ แนะน้าต่าง ๆ ในการท้าโครงงาน และขอ้ เสนอแนะเก่ียวกับแนวทางในการท้าโครงงานวิทยาศาสตร์
ในครังนไี ด้อย่างถกู ตอ้ งตามหลกั การ จงึ ทา้ ให้โครงงานวิทยาศาสตรใ์ นครงั นสี า้ เรจ็ ลลุ ่วงไปดว้ ยดี

สุดท้ายนีขออุทิศความดีที่มีในการศึกษาโครงงานนีแด่ บิดา มารดา ครอบครวั ของคณะผู้จัดท้า และ
ขอขอบคุณเพื่อนนักเรียนชันมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยาผู้ช่วยเหลือคณะผู้จัดท้าและให้
ก้าลงั ใจมาโดยตลอด

คณะผ้จู ัดทา้

สารบัญ ค

เร่ือง หนา้
บทคดั ยอ่ ก
กิตติกรรมประกาศ ข
สารบญั ค
สารบัญตาราง ง
บทที่ 1 บทนา 1
1
ทีม่ าและความสา้ คัญ 1
จดุ มุ่งหมายของโครงงาน 1
สมมตฐิ าน 2
ขอบเขตการศึกษาคน้ คว้า 2
ตวั แปรที่เกีย่ วข้อง 2
ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะได้รบั 2
นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ 3
บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 3
ความหมายของนา้ ยาซักผา้ 4
ผลกระทบการใช้น้ายาซักผา้ 5
สารเคมีทใ่ี ช้ในการท้านา้ ยาซักผา้ 7
บทที่ 3 วธิ ีการดาเนนิ การวิจยั 7
ระเบยี บวิธกี ารท่ีใช้ในการศกึ ษา 7
อปุ กรณ์และเครอ่ื งมือ 7
วัสดุและสารเคมี 7
วิธกี ารทดลอง 9
บทท่ี 4 ผลการทดลอง 9
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 12
บทที่ 5 สรปุ ผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ 12
การสรปุ ผลการทดลอง 12
อภิปรายผล 13
ข้อเสนอแนะ 14
บรรณานกุ รม 15
ภาคผนวก

สารบัญตาราง ง

ตารางที่ หน้า
ตารางที่ 1 ตารางการสา้ รวจความพงึ พอใจเกย่ี วกับนา้ ยาซักผ้าในการขจัดคราบ 9

ทงั 2 สูตร ในนกั เรยี นชนั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/1 จ้านวน 20 คน 10

ตารางที่ 2 ตารางการส้ารวจความพงึ พอใจเกย่ี วกับน้ายาซักผ้าที่ผลิตขนึ กับผงซกั ฟอก
ตามท้องตลาดในการขจัดคราบนา้ ยาซักผ้าท่ีผลิตขนึ มากับผงซกั ฟอกตามทอ้ งตลาด

1

บทท่ี 1
บทนำ

ท่มี ำและควำมควำมสำคัญ
ปัจจุบนั ในภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยทด่ี ง่ิ ตวั ลงอย่างน่าตกใจนนั้ สง่ ผลตอ่ ราคาสินคา้ อุปโภคและ

บรโิ ภคในตลาดไดป้ รบั ตัวสูงข้ึนอกี ท้ังยังทาใหเ้ หล่าพ่อค้าแมค่ า้ ประชาชนประสบปัญหาสนิ คา้ มีราคาสูงขน้ึ และ
สินค้าจาหน่ายไม่ไดอ้ ีกทัง้ ยังประสบกับปัญหาสินคา้ ขาดตลาดซง่ึ ส่งผลให้ราคาสนิ ค้าขยับตวั แพงขึน้ ไปอีก และ
ปัจจุบันยังมีสารเคมีอันตรายได้ถูกนามาใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับชีวิตมนุษย์มากขึ้น
โดย เฉ พ าะการน าม าใช้เป็ นส่ วน ผสม เกิน ป ริม าณ ท่ี ก าหน ด ห รือใส่ สารเคมี อัน ต ราย ใน ผลิ ตภั ณ ฑ์ ท่ี ใช้ใน
ชีวิตประจาวันโดยไม่แสดงในข้างบรรจุภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นสารอันตรายที่ชัดเจนอย่าสารเคมีในยาฆ่าแมลง
ผลติ ภณั ฑ์ดับกลิ่น ผลิตภัณฑ์ทาความสะอาดพื้นและเคร่ืองสขุ ภัณฑต์ ่าง ๆ ไปจนถึงผลติ ภณั ฑ์ท่ีไม่น่าเชื่อว่าจะ
มีผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพ เชน่ น้ายาลบคาผดิ สบู่เหลว แชมพู น้ายาล้างจาน น้ายาซกั ผ้า ซ่ึงในความเป็น
จรงิ แล้วผลิตภณั ฑเ์ หล่านล้ี ้วนมีส่วนผสมของสารเคมีอันตรายซ่ึงสามารถสะสมในรา่ งกายระยะยาวและเป็นสาร
ก่อมะเรง็ ซึ่งเป็นอนั ตรายต่อร่างกาย

คณะผู้จัดทาจึงได้เห็นถึงความสาคัญของสุขภาพของตนเองและสมาชิกในครอบครัวที่จะต้องใช้
ผลิตภัณฑซ์ ักผา้ ท่มี ีสารเคมีอนี ตรายและมรี าคาแพงตามท้องตลาดทว่ั ไป จึงได้ทาการศกึ ษาและผลิตน้ายาซกั ผ้า
โดยใช้ส่วนผสมในการทาท่ีปลอดภัยต่อร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ไม่ทาลายส่ิงแวดล้อม และลด
สารเคมีในการผลิตน้ายาซักผ้า ซ่ึงได้นามาเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการใช้งานว่าเทียบเท่ากับน้ายาซักผ้า
ตามท้องตลาดหรอื ไม่ท้งั นีเ้ ม่ือได้ผลการศึกษาแลว้ ผ้จู ัดทาจะนาองคค์ วามรมู้ าปรับปรงุ และพฒั นานา้ ยาซกั ผา้ ให้
ไดเ้ ปน็ ผลติ ภัณฑ์เพ่อื นาไปใชป้ ระโยชน์ในครัวเรือน และสามารถสรา้ งอาชพี ให้กับคนในชมุ ชนได้อกี ดว้ ย
จุดมุง่ หมำยของโครงงำน

1. เพอื่ ศึกษาประสิทธภิ าพของการใช้นา้ ยาซกั ผ้า โดยการใส่ส่วนผสม
LinearAlkylbenzeneSulfonate 95% (หัวเช้ือขจดั คราบ) ในปรมิ าณต่างกนั

2. เพ่ือเปรียบเทียบประสทิ ธภิ าพระหว่างน้ายาซกั ผ้าทผ่ี ลติ ข้ึนกบั ผงซกั ฟอกตามทอ้ งตลาดในการ
ขจัดคราบนา้ ยาซกั ผ้าท่ีผลติ ขึน้ มากบั ผงซกั ฟอกตามท้องตลาด

สมมติฐำน
1. ปรมิ าณLinear AlkylbenzeneSulfonate95%(หวั เชื้อขจัดคราบ)มผี ลตอ่ ประในสิทธภิ าพ
การขจดั คราบของน้ายาซกั ผา้
2. นา้ ยาซกั ผ้าที่มสี ่วนผสมของLinearAlkylbenzeneSulfonate 95%(หวั เชอื้ ขจดั คราบ)นน้ั มี
ประสิทธิภาพในการขจดั คราบดีกว่าผงซกั ฟอกตามท้องตลาด

2

ขอบเขตของกำรศกึ ษำค้นคว้ำ
คณะผู้จัดทาได้ศึกษาและค้นควา้ ท่ีใช้ในโครงงานครั้งนี้ คือ การทาน้ายาซักผา้ ที่มีสว่ นผสมของ Linear

AlkylbenzeneSulfonate95% (หัวเชื้อขจัดคราบ) ในปริมาณ สารท่ีแตกต่างกัน และเปรียบเทียบ
ประสิทธิภาพในการขจัดคราบของนา้ ยาซกั ผา้
ตัวแปร

ตวั แปรตน้ : ปรมิ าณLinear AlkylbenzeneSulfonate95%(หัวเชอื้ ขจัดคราบ)

ตัวแปรตำม : ประสิทธิภาพในการขจัดคราบของน้ายาซกั ผา้

ตัวแปรควบคมุ : ปรมิ าณของสว่ นผสมในการทานา้ ยาซกั ผา้ ภาชนะทีใ่ ช้ใส่ ผู้ที่ทาการทดลอง
นิยำมศัพทเ์ ฉพำะ

1.นำยำซักผ้ำ หมายถึง ผลิตภัณฑ์ทาความสะอาดเสื้อผ้าชนิดน้าแบบเหลวมีสรรพคุณทาให้เสื้อผ้า
สะอาด สะดวกในการใชง้ านละลายงา่ ยในนา้
2.Linear AlkylbenzeneSulfonate95%(หัวเชือขจัดครำบ)หมายถึง สารลดแรงตึงผิวหรือสาร
ทาความสะอาดชาระลา้ ง ซึง่ มีประจุเปน็ ลบมปี ระสทิ ธภิ าพในการขจัดคราบไขมันต่างๆไดส้ ูง
และมรี าคาถูก
3. ประสิทธิภำพของนำยำซักผ้ำ หมายถึง ประสิทธิภาพในการขจัดคราบ โดยวัดได้จาก
ปริมาณLinear AlkylbenzeneSulfonate95% (หวั เช้ือขจัดคราบ) ยิ่งใสม่ ากจะขจัดคราบได้ดี

3

บทท่ี 2
เอกสำรและงำนวิจยั ท่เี กย่ี วขอ้ ง

ในการศึกษาเรื่องการเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจัดคราบของน้ายาซักผ้าศึกษาได้ศึกษา
เอกสารและผลงานวิจัยท่ีเกยี่ วข้องตา่ ง ๆ เพือ่ ประกอบการทาโครงงานดงั ต่อไปนี้

1. ความหมายของน้ายาซักผา้
2. ผลกระทบการใช้นา้ ยาซกั ผ้า

2.1 ผลกระทบตอ่ สุขภาพ
2.2 ผลกระทบตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม
3. สารเคมีท่ใี ชใ้ นการทานา้ ยาซักผ้า
3.1 N-70% หวั เช้อื แชมพู
3.2 LinearAlkylbenzeneSulfonate 95% หัวเชือ้ ขจดั คราบ
3.3 LA-60 หัวเชื้อขจดั คราบ
3.4 ผงปรับเนื้อขน้
3.5 ผงเพิ่มฟอง
3.6 สารกันบดู
3.7 หวั เชือ้ น้าหอม
1. ควำมหมำยของนำยำซักผำ้
ผลติ ภัณฑ์ซกั ผ้าน้ันถกู ผลติ ออกมาสองรูปแบบ คือ แบบผงซกั ฟอกและน้ายาซักผ้า ซ่งึ ส่วนประกอบใน
ผงซักฟอกและน้ายาซักผ้าที่ช่วยในการทาความสะอาดต่าง ๆ อาจคล้ายกัน แล้วคุณจะเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้า
แบบไหนดี แม้ว่าผลิตภัณฑ์ซักผ้าทั้งสองรูปแบบต่างกม็ ีประสิทธิภาพในการทาความสะอาดเส้ือผ้าในทุก ๆ วัน
แต่ความแตกตา่ งของผลติ ภณั ฑ์ซักผ้าสองรูปแบบนี้ใหป้ ระสิทธิภาพในการขจัดคราบตา่ งกนั
ในปัจจุบันได้คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ซักผา้ ท้ังแบบชนิดน้าและผงเพื่อช่วยให้คุณได้ผลลพั ธ์ในการ
ลบรอยเป้ือนบนเส้ือผ้าท่ีดีที่สุด น้ายาซักผ้ามีประสิทธิภาพในการละลายในน้าได้ง่าย ดังนั้นจึงมปี ระสทิ ธิภาพ
ในการเข้าถงึ คราบฝงั ลกึ ได้ง่ายกวา่ นา้ ยาซกั ผา้ สามารถละลายในน้าเย็นได้ดซี ่ึงเหมาะสมกับผู้ที่ชอบซกั ผา้ ด้วย
อุณภูมิต่า เช่น ผู้ที่ซักเส้ือผ้าสีสดอยู่เป็นประจา การซักผ้าด้วยน้าเย็นนั้นจะยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย
น้ายาซักผ้าสามารถเป็นได้ท้ังนา้ ยาขจัดคราบและผลิตภัณฑ์ซักผา้ ในขวดเดยี วกัน น้ายาซักผา้ มีประสทิ ธิภาพใน
การขจัดคราบเหลวที่ซักออกยากอย่าง คราบน้ามันและคราบอาหาร เป็นต้น น้ายาซักผ้าจะไม่ทิ้งสารตกค้าง
ภายในเครื่องซกั ผ้าและเสื้อผ้าของคณุ การใชน้ ้ายาซักผ้า น้ายาซักผา้ เหมาะสาหรับครอบครวั ที่ต้องรับปัญหา
คราบจากอาหารหรือซอสปรุงอาหาร เพราะสามารถตรงเข้าจู่โจมคราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหาก
คุณไม่อยากกังวลว่าผงซักฟอกจะกระจายไปทั่วบริเวณผ้า น้ายาซักผ้าอาจเป็นทางเลือกท่ีดีกว่าสาหรับคุณ

4

น้ายาซักผ้าน้ันไม่ท้ิงสารตกค้างบนเน้ือผ้าและภายในเคร่ืองซักผ้า ดังนั้นจึงเหมาะสมกับการซักผ้าเด็กหรือ
สาหรับคุณแม่ทมี่ ผี วิ บอบบาง สารตกค้างจากผลติ ภณั ฑซ์ กั ผา้ บนเสือ้ ผ้าสามารถทาให้ผวิ ร้สู กึ ระคายเคอื งได้
2.ผลกระทบกำรใชน้ ำยำซกั ผำ้

2.1 ผลกระทบของนำยำซกั ผำ้ ต่อสุขภำพ
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสกับสารระคายเคืองต่อผิวหนัง เช่น สารเคมีพวกกรดด่าง

สารละลายอินทรีย์เคมี เมื่อสัมผัสบ่อย ๆ เป็นเวลานาน ไขมันท่ีเคลือบผิวหนัง และสารยึดน้าในชั้น
ของผิวหนัง ซ่ึงทาหน้าที่รักษาความช้ืนจะถูกทาลายไปทีละน้อย ๆ ทาให้เกิดการขาดความต้านทาน
เกิดการอักเสบ ผิวแห้ง และแตกเสียคุณสมบัติในการป้องกันการซึมของสารเคมีเข้าสู่ผิวเรา
เกิดการระคายเคืองเม่ือถูกสารเคมีอีกแม้เพียงสบทู่ ี่มีความร้อน ความเย็น หรือติดเช้ือกจ็ ะเกิดได้ง่าย
บริเวณใดท่ีอักเสบ ก็มักจะคันทาให้เกาหรือถูไถบ่อย ๆ หนังบริเวณน้ันจะแปรสภาพหนาขึ้น
ผงซักฟอกอาจทาให้คล่ืนไส้ อาเจียน ท้องเดิน ถ้ามีส่วนผสมของด่าง ก็อาจทาให้เกิดการระคายเคือง
ของเยื่อบุทางเดินอาหารทาให้ผิวหนังและเยื่อบุของทางเดินอาหารถูกกัดไหม้และอักเสบ เกิดอาการ
เจบ็ ในปากและลาคอ กระหายน้า คล่ืนไส้อาเจียน อาเจยี นเปน็ เลอื ด กลืนลาบาก หายใจลาบาก ช็อก
ได้และบางคนอาจมีการแตกทะลุของหลอดอาหารและกระเพาะทาให้กลายเป็นเยื่อบุชอ่ งท้องอกั เสบ
หรือหลอดอาหารเกดิ การตบี ตนั จากการอักเสบได้
2.2ผลกระทบของนำยำซักผ้ำต่อสงิ่ แวดลอ้ ม

ในน้ายาซักผ้าบางชนิดมีฟอสเฟตซ่ึงเป็นสารอาหารของสาหร่าย และพืชช้ันต่าอื่น ๆ
เมอ่ื ฟอสเฟตจากสารซักฟอก ถูกชะล้างลงไปตามท่อลงไปสะสมในแมน่ ้าลาคลอง ฟอสเฟตจะช่วยทา
ให้สาหร่าย และพืชชั้นต่าเติบโต อย่างรวดเร็ว และอาศัยออกซิเจนท่ีมีอยู่ในน้าไปจนส่ิงมีชีวิตอ่ืน ๆ
ไม่สามารถดารงอยู่ได้ และในที่สุดแหล่งน้านั้น จะตื้นเขินลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นปลักตม
ทาให้แหล่งนา้ เนา่ เหม็นเอนไซม์ในนา้ ยาซักผ้าบางชนดิ ซึ่งทางานไมต่ ่างอะไรกับเอนไซม์ยอ่ ยอาหารใน
กระเพาะของคน แม้วา่ เอนไซมท์ ่ีอยู่ในนา้ ยาซกั ผา้ จะไม่เป็นผลกระทบต่อสิง่ แวดล้อม แต่เป็นอันตราย
ต่อผิวหนังของมนุษย์ สารประกอบที่อยู่ในน้ายาซักผ้าเหล่าน้ีสามารถทาอันตรายต่ อสัตว์น้า
และยังทาให้แหล่งน้าเสื่อมโทรม จนสัตว์น้าไม่สามารถดารงชีวิตอยู่ได้ โดยเฉพาะสารลดแรงตึงผิว
เช่น LAS และ BAS จะมีอันตรายต่อสัตว์น้าในปริมาณความเข้มข้นต่า สารลดแรงตึงผิวท้ัง
ชนิด LAS และ BAS จะไปล้อมจับพื้นผิวสารอินทรีย์ต่างๆ ที่มีในแหล่งน้า เม่ือความเข้มข้นมากขึ้น
จะ ท าให้ ก ระ บ วน ก ารย่อย สลายเกิ ดก ารชะ งัก ได้มี ผู้ศึ ก ษ าพ บ ว่า LAS มี พิ ษ ต่ อ ป ล า
มากกว่า BAS ตงั้ แต่ 1.5 เท่า ถึง 4 เท่าขึ้นกับสภาพแวดล้อม เมื่อความเค็มของน้าเพิ่มขนึ้ ความเป็น
พิษของ BAS จะเพ่ิมข้ึนอีกด้วย ส่วน LAS นั้น ความเป็นพิษนั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณของออกซิเจน
ละลาย ความกระดา้ งของนา้ และอุณหภูมิ น้าซกั ล้างท่ีเกิดจากกิจกรรมภายในบ้าน รวมทั้งรา้ นรบั ซัก

5

รีดเส้ือผ้า เปน็ แหลง่ กาเนดิ ผงซักฟอกมากท่ีสุด จงึ ควรจะได้มีการบาบัดนา้ ทิ้งประเภทน้ีเสียก่อนท่ีจะ
ระบายลงสแู่ ม่น้าลาคลอง ซ่ึงเป็นสาเหตใุ หน้ ้าเนา่ เสยี
3. สำรเคมีทีใ่ ช้ในกำรทำนำยำซกั ผ้ำ
3.1 N-70% หัวเชอื แชมพู

N70 มาจาก Texapon N70 มีชื่อทางเคมีว่า Sodium Lauryl ether Sulfate เป็นสาร
ประเภท สารลดแรงตึงผิวประจุลบ มีคุณสมบัติในการทาความสะอาดได้ดีทาให้ เกิดฟองได้เร็ว
Sodium Lauryl Ether Sulfate(SLES) ถ้าเรียกตาม INCI Name คือ Sodium laureth sulfate
ซึ่งเป็นสารคนละตัวกับ Sodium Lauryl Sulfate (SLS) โดยสังเกตง่ายๆ ตรงที่มี E ซ่ึงหมายถึงผ่าน
การ Ethoxylationโดยนาสารต้ังต้น คือ SLS มาทาปฎิกิริยากับ ethylene oxideภายใต้แรงดันและ
ความร้อนสูง + catalyst ผลท่ีได้คือได้ surfactant ที่ระคายเคืองน้อยกว่า SLS จึงเอามาใช้เป็น
ผลิตภัณฑ์ทาความสะอาดร่างกายได้ดีกว่าการนาไปใช้ในชีวิตประจาวันสามารถใช้กับผลิตภัณฑ์ทา
ความสะอาดผิวได้ เช่น แชมพู ครีมอาบน้า สบู่เหลว น้ายาล้างจาน เป็นต้น โดยสารชนิดน้ีจะไม่
ละลายเมื่อใช้ความร้อน และจะเกดิ การข้นขนึ้ เมือ่ ผสมเข้ากบั เกลือแกง (Sodium Chloride)
3.2 LinearAlkylbenzeneSulfonate 95% หัวเชอื ขจัดครำบ

LAS,Linear Alkyl Benzene Sulfonate หรือ หัวขจัดคราบ 95% ซ่ึงจะมีความเข้มข้นสูง
ถึง 95% เป็นสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) หรือสารทาความสะอาด ชาระล้าง ซ่ึงจะมีประจุลบ
(anionic Surfactant) ซง่ึ มปี ระสทิ ธภิ าพในการขจัดคราบไขมันต่างๆได้สูง และราคาถกู จึงเป็นท่ีนยิ ม
อย่างกว้างขวางและนาไปใช้ในน้ายาทาความสะอาดอเนกประสงค์ต่างๆ เช่น น้ายาล้างจาน
ผงซกั ฟอก นา้ ยซกั ผ้า น้ายาล้างหอ้ งน้า น้ายาขัดพน้ื และนา้ ยาในอตุ สาหกรรมอื่นๆ เปน็ ต้น
3.3 LA-60 หัวเชือขจัดครำบ

ชื่อทางเคมี : SODIUM DODECYL BENZENE SUONATE 60% เป็นสารลดแรงตึงผิวท่ี
นิยมใช้ในสาหรับทาผลิตภัณฑ์ น้ายาซักผ้า น้ายาล้างจาน น้ายาล้างสุขภัณฑ์ และ น้ายาทา ความ
สะอาดในอุตสาหกรรมหนักต่างๆเน่ืองจากมีการใช้สารชนิดนี้มานานกว่า 30 ปแี ลว้ และมีการทดลอง
แล้วว่ามีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมมีประสิทธิภาพในการทาความสะอาดสูงและราคาไม่แพง
มาก ลักษณะภายนอกของเหลว เนอ้ื ขนุ่ LA-60 เปน็ สารขจดั คราบ มี Active ingredient
3.4 ผงปรบั เนอื ขน้

ผงข้นหรือโซเดียมคลอไรด์ Sodium chloride คือ สารเพ่ิมความเข้มข้นในการทาสบู่เหลว
น้ายาล้างจาน นา้ ยาซกั ผา้

6

3.5 ผงเพิ่มฟอง
สารเพิ่มฟอง (Sodium Lauryl Sulfate - SLS) หรือผงฟอง เป็นสารลดแรงตึงผิวของน้า

มีคุณสมบัติทาความสะอาดได้ดี ทาให้เกิดฟองแก่ผลิตภัณฑ์ ช่วยให้ส่ิงสกปรกหรือคราบไขมันหลุด
ออกไปไดง้ า่ ยขึ้น จึงเรยี กงา่ ยๆว่าเปน็ สารทาความสะอาด
3.6 สำรกนั บดู

สารกันบูด หรือ ช่ือทางเคมี คือ Sodium Benzoate (โซเดียม เบนโซเอต) เป็นเกลือของ
กรดเบนโซอิก อยู่ในกลุ่มเบนโซเอต ใช้ในอาหารเพื่อถนอมอาหารโดยใช้เป็นวัตถุกันเสีย
มี E-number : E211 ทางานได้ดีในช่วงท่ีอาหารมีภาวะเป็นกรด คือ pH ต่ากว่า 3.6 ช่วยยับย้ังการ
เจริญเติบโตของจุลินทรยี ์ โดยจะยบั ย้งั การเจริญเตบิ โตของยีสตแ์ ละราได้ดีกว่าแบคทีเรีย
3.7 หวั เชือนำหอม

หัวเชื้อน้าหอม คือ สารละลายหอมระเหยทาจากน้ามันกับแอลกอฮอล์ มีกล่ินท่ีสกัดมาจาก
ดอกไม้ในธรรมชาติหรือกลิ่นท่ีสังเคราะห์ขึ้นมาผสมอยู่ ใช้ทาหรือพ่นตามเส้ือผ้าหรือร่างกาย
นา้ หอมจะระเหยออกมาพร้อมกับส่งกลิ่นหอมชวนดมออกมาด้วย และมีหลายกลิ่น บางกลิ่นเกิดจาก
การนากลนิ่ ดอกไม้หลายชนดิ มาผสมกัน

7

บทท่ี 3

วธิ ีดำเนินกำรศึกษำคน้ คว้ำ

ในการศึกษาคร้ังนี้ ผู้จัดทาได้ทาการศึกษาเรื่อง การเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจัดคราบของ

น้ายาซกั ผา้ ซงึ่ มีวิธีการดังนี้

1.ระเบียบวิธกี ำรที่ใช้ในกำรศึกษำ

ในการศึกษาใช้วิธีการสืบค้นหาข้อมูล จากหนังสือ อินเทอร์เน็ต และการสอบถาม จากน้ันจึงพิสูจน์

สมมตฐิ านที่ต้ังขนึ้ ดว้ ยการทดลอง และหาข้อสรปุ ผลการศึกษา

2.อปุ กรณแ์ ละเครือ่ งมอื

1. กะละมงั 2 ใบ

2. ขวดบรรจุภัณฑ์ 2 ใบ

3. เคร่อื งชั่งสารเคมี 1 อัน

4. ทีก่ วนสารเคมี 1 อนั

5. กรวยกรอง 1 อนั

3.สำรเคมี

1. N-70% หวั เชอื้ แชมพู 1.5 กิโลกรมั

2. LA-95%หัวเชอ้ื ขจัดคราบ 1.8 กโิ ลกรัม

3. ผงปรับเนือ้ ข้น 300 กรัม

4. ผงเพิม่ ฟอง 100 กรมั

5. สารกันบูดผง 100 กรมั

6. หัวเชอ้ื น้าหอม 45 มิลลิลติ ร

7. น้าสะอาด 20 ลิตร

4. วิธกี ำรทดลอง

ตอนที1่ ผลติ นา้ ยาซักผา้ สูตรที่ 1

1. นาผงเพิ่มฟอง 50 กรมั นาหัวเช้ือแชมพู 500 กรัม หัวเช้ือขจัดคราบ 500 กรมั ผงปรบั เน้ือ

ข้น 150 กรัม หัวเช้อื นา้ หอม 15 มิลลลิ ติ รและสารกนั บูดผง 50 กรมั ลงในกะละมัง

2. ใสน่ า้ ปรมิ าณ 6.5 ลิตร และกวนสว่ นผสมให้เข้ากัน

3. รอจนฟองในถงั ส่วนผสมทง้ั หมดยุบตวั ลง

4. นากรวยกรองกรอกนา้ ยาซกั ผา้ เขา้ ในขวดบรรจุภณั ฑ์

ตอนท่ี 2 ผลิตน้ายาซักผ้าสูตรท่ี 2 ใช้วิธกี ารเพ่ิมปริมาณส่วนผสม คือ ปริมาณ LA-95%หัวเช้ือขจัด
คราบ ลงในผลิตภัณฑ์น้ายาซกั ผ้า

8

1. นาผงเพ่ิมฟอง 50 กรัม นาหัวเช้ือแชมพู 500 กรัม หัวเช้ือขจดั คราบ 800 กรัม ผงปรบั เนื้อ
ข้น 150 กรมั หัวเช้ือน้าหอม 15 มิลลลิ ิตรและสารกนั บดู ผง 50 กรมั ลงในกะละมงั

2. ใสน่ ้าปริมาณ 6.5 ลิตร และกวนสว่ นผสมให้เขา้ กนั
3. รอจนฟองในถังส่วนผสมทัง้ หมดยบุ ตวั ลง
4. นากรวยกรองกรอกนา้ ยาซักผ้าเข้าในขวดบรรจภุ ณั ฑ์

ตอนท3ี่ เปรยี บเทยี บประสิทธภิ าพในการขจดั คราบของน้ายาซกั ผา้ สูตรที่ 1 และสูตรท่ี 2
1. เปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจัดคราบโดยเปรียบเทียบจากปริมาณของ LA-95% หัว
เช้อื ขจดั คราบท่ีใส่ในผลิตภัณฑซ์ ักผา้ ท้งั 2 สตู รในปรมิ าณท่ตี า่ งกนั
2. นาน้ายาซักผ้าทั้ง 2 สูตรน้ันไปซักกับผ้าท่ีมีคราบสกปรกของซอสมะเขือเทศปริมาณ 10
กรมั ท่ีมีความสกปรกขนาดใหญ่บนเสอื้ สีขาวท้ัง 2 ตัว
3. เปรียบเทียบน้ายาซักผ้าท้ัง 2 สูตร โดยการสารวจจากนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
จานวน 20 คน ว่าน้ายาซักผา้ สูตรไหนมปี ระสทิ ธิภาพในการขจดั คราบมากกว่ากัน

9

บทที่ 4
ผลกำรศกึ ษำค้นควำ้

จากการศึกษาเรื่องการเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจดั คราบของน้ายาซักผ้า มีจุดมุ่งหมายของ
ก าร ศึ ก ษ าค้ น ค ว้ า เพ่ื อ ศึ ก ษ าป ร ะ สิ ท ธิ ภ าพ ข อ ง ก า ร ใช้ น้ า ย า ซั ก ผ้ า โด ย ก าร ใส่ ส่ ว น ผ ส ม
LinearAlkylbenzeneSulfonate 95% (หัวเชื้อขจัดคราบ) ในปริมาณต่างกัน และเพ่ือเปรียบเทียบ
ประสิทธิภาพระหว่างน้ายาซักผ้าที่ผลิตขึ้นกับน้ายาซักผ้าตามท้องตลาดในการขจัดคราบน้ายาซักผ้าที่ผลิต
ข้ึนมากบั นา้ ยาซกั ผา้ ตามทอ้ งตลาด
สามารถนาเสนอผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลตามลาดบั ดังน้ี

4.1 ผลการวเิ คราะห์น้ายาซักผ้าโดยการใสส่ ่วนผสมLinearAlkylbenzeneSulfonate 95% (หัวเชื้อ
ขจัดคราบ) ในปริมาณต่างกัน ท้ัง 2 สูตร จากการสารวจความพึงพอใจจากกลุ่มตัวอย่างนักเรียน ชั้น
มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/1 จานวน 20 คน

4.2 ผลการวิเคราะห์การเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างน้ายาซักผ้าที่ผลิตข้ึนกับผงซักฟอกตาม
ทอ้ งตลาดในการขจัดคราบน้ายาซักผ้าทผี่ ลิตขนึ้ มากับผงซักฟอกตามทอ้ งตลาด
ผลกำรวิเครำะหข์ ้อมลู

4.1 ผลการวิเคราะห์น้ายาซักผ้าโดยการใส่ส่วนผสมLinearAlkylbenzeneSulfonate 95% (หัวเชื้อ
ขจัดคราบ) ในปริมาณต่างกัน ทั้ง 2 สูตร จากการสารวจความพึงพอใจจากกลุ่มตัวอย่างนักเรียน ช้ัน
มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6/1 จานวน 20 คน

ลำดบั รำยช่ือกลุ่มตัวอย่ำง สตู รท1ี่ สูตรท2ี่
1 นายถริ พล กาบปินะ๊ √
2 นายธนพล เขาบาท √
3 นายรณกร พนั ช่ัง √
4 น.ส.กนกพร ชูนวลศรี √
5 น.ส.จรรยพร แสงสวา่ ง √
6 น.ส.จิดาภา ขวัญเมอื ง √
7 น.ส.ณฐั ธิดา พงษพ์ านิช √
8 น.ส.นนทรีย์ คาวันสา √
9 น.ส.เนตรชนก ทองเมือง √
10 น.ส.ประภัสสร สมสนอง √
11 น.ส.พชิ ชาภา บญุ ศรี √
12 น.ส.รงุ่ นภา สิวายะวโิ รจน์ √
13 น.ส.ศศิวมิ ล สุตริ าช √

14 น.ส.ศุภนชุ ศรีสงคราม 10
15 น.ส.สคุ นธา เสทิน
16 น.ส.อรสิ รา หวนคะนงึ คิด √
17 น.ส.พรไพลิน แข่งขนั √
18 น.ส.ลกั ษมน เลศิ ศลิ า √
19 น.ส.กุลปริยา ศรีเมือง √
20 น.ส.รวสิ รา เจรญิ ชัย √




ตำรำงท่ี 1 ตารางการสารวจความพึงพอใจเกย่ี วกับน้ายาซกั ผ้าในการขจัดคราบท้ัง 2 สูตร

ในนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6/1 จานวน 20 คน

จากการสารวจความพึงพอใจจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 20 คน เม่ือได้สารวจความพึงพอใจเกี่ยวกับ

นา้ ยาซกั ผา้ ในการขจัดคราบของเสื้อทง้ั 2 ตัวในน้ายาท้ัง 2 สตู ร พบว่ามี 18 คน ท่ีเลอื กนา้ ยาสูตรที่ 1 ว่าขจัด

คราบได้ดี และมี 2 คนทเ่ี ลอื กวา่ น้ายาสูตรท่ี 2 ขจดั คราบได้ดี

4.2 ผลการวิเคราะห์การเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างน้ายาซักผ้าที่ผลิตขึ้นกับผงซักฟอกตาม

ท้องตลาดในการขจดั คราบน้ายาซกั ผา้ ท่ผี ลติ ข้ึนมากบั ผงซักฟอกตามทอ้ งตลาด

ลำดับ รำยชือ่ กลมุ่ ตัวอย่ำง นำยำซกั ผ้ำ ผงซกั ฟอกตำมท้องตลำด

1 นายถริ พล กาบปิน๊ะ √

2 นายธนพล เขาบาท √

3 นายรณกร พันชงั่ √

4 น.ส.กนกพร ชูนวลศรี √

5 น.ส.จรรยพร แสงสว่าง √

6 น.ส.จิดาภา ขวัญเมอื ง √

7 น.ส.ณฐั ธิดา พงษ์พานชิ √

8 น.ส.นนทรีย์ คาวนั สา √

9 น.ส.เนตรชนก ทองเมอื ง √

10 น.ส.ประภัสสร สมสนอง √

11 น.ส.พิชชาภา บุญศรี √

12 น.ส.รงุ่ นภา สวิ ายะวิโรจน์ √

13 น.ส.ศศิวมิ ล สตุ ริ าช √

14 น.ส.ศภุ นชุ ศรีสงคราม √

15 น.ส.สคุ นธา เสทนิ √

11

16 น.ส.อรสิ รา หวนคะนงึ คิด √ √
17 น.ส.พรไพลิน แข่งขนั √
18 น.ส.ลกั ษมน เลิศศิลา √
19 น.ส.กุลปรยิ า ศรีเมือง √
20 น.ส.รวิสรา เจริญชัย

ตำรำงท่ี 2 ตารางการสารวจความพึงพอใจเกี่ยวกับนา้ ยาซักผา้ ที่ผลติ ข้ึนกบั ผงซกั ฟอกตามทอ้ งตลาด
ในการขจดั คราบน้ายาซกั ผา้ ที่ผลิตขนึ้ มากับผงซักฟอกตามท้องตลาด

จากการสารวจความพึงพอใจจากกลุ่มตัวอย่างท้ังหมด 20 คน เม่ือได้สารวจความพึงพอใจเกี่ยวกับ
การเปรียบเทียบประสิทธภิ าพระหวา่ งน้ายาซักผา้ ทผ่ี ลติ ขึ้นกับผงซักฟอกตามทอ้ งตลาดในการขจัดคราบน้ายา
ซกั ผา้ ที่ผลิตข้ึนมากับผงซักฟอกตามท้องตลาดพบว่ามี 11 คน ท่ีมคี วามพึงพอใจกับน้ายาซกั ผ้าที่ได้ผลิตขึน้ มา
และมี 9 คนท่ีมีความพึงพอใจกับผงซักฟอกตามท้องตลาดท่ัวไปซึ่งน้ายาซักผ้าที่ผลิตขึ้นมาสามารถซักผ้าได้
เทียบเท่ากับผงซักฟอกตามท้องตลาดและดีกว่าอกี ด้วยซึ่งได้สารเคมีที่ใส่มีปริมาณท่ีพอดีไม่มากเกินมาตรฐาน
ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ไม่ทาลายสิ่งแวดล้อม ละลายน้าได้เร็ว และไม่เป็นคราบขาวเหมือนผงซักฟอก
ซ่ึงสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ คือ น้ายาซักผ้าที่มีส่วนผสมของ Linear AlkylbenzeneSulfonate95%
(หัวเช้ือขจัดคราบ) นัน้ มีประสิทธิภาพในการขจัดคราบดีกว่าผงซักฟอกตามทอ้ งตลาด

12

บทท่ี 5
สรปุ และอภปิ รำยผลกำรศึกษำค้นคว้ำ

5.1 สรุปผล

จากการศึกษาเรื่องการเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจัดคราบของน้ายาซักผ้า ซึ่งมีจุดมุ่งหมาย
ขอ งก าร ศึ ก ษ าค้ น ค ว้ าเพื่ อ ศึ ก ษ าป ระ สิ ท ธิ ภ าพ ขอ งก าร ใช้ น้ าย าซั ก ผ้ าโด ย ก าร ใส่ ส่ วน ผ ส ม
LinearAlkylbenzeneSulfonate 95% (หัวเช้ือขจัดคราบ) ในปริมาณต่างกัน และเพื่อเปรียบเทียบ
ประสทิ ธิภาพระหว่างนา้ ยาซกั ผ้าทผี่ ลิตขนึ้ กับนา้ ยาซกั ผ้าตามทอ้ งตลาด จากการสารวจความพงึ พอใจจากกลุ่ม
ตัวอย่างท้ังหมด 20 คน เมื่อได้สารวจความพึงพอใจเกี่ยวกับน้ายาซักผ้าในการขจัดคราบของเสื้อทั้ง 2 ตัว
ในน้ายาท้งั 2 สูตร พบวา่ มี 18 คน ท่ีเลอื กนา้ ยาสูตรที่ 1 ว่าขจัดคราบไดด้ ี และมี 2 คนที่เลอื กวา่ นา้ ยาสตู รที่ 2
วา่ ขจัดคราบได้ดี และเมอ่ื ได้สารวจความพึงพอใจเกี่ยวกบั การเปรยี บเทียบประสิทธิภาพระหว่างน้ายาซักผ้าท่ี
ผลติ ขนึ้ กบั ผงซักฟอกตามท้องตลาดในการขจัดคราบนา้ ยาซักผ้าทผ่ี ลิตขน้ึ มากับผงซกั ฟอกตามท้องตลาดพบว่า
มี 11 คน ที่มีความพึงพอใจกับน้ายาซักผ้าท่ีได้ผลิตขึ้นมา และมี 9 คนท่ีมีความพึงพอใจกับผงซักฟอกตาม
ทอ้ งตลาดทวั่ ไป
5.2 อภิปรำยผล

จากโครงงานวิทยาศาสตร์เร่ืองการเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการขจัดคราบของน้ายาซักผ้า
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการใช้น้ายาซักผ้า โดยการใส่ส่วนผสมของ
LinearAlkylbenzeneSulfonate 95% (หัวเชื้อขจัดคราบ) ในปริมาณต่างกัน คือสูตรท่ี 1 ใส่ปริมาณ
800 กรัม และสูตรท่ี 2 ใส่ปริมาณ 500 กรัม และเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่างน้ายาซักผ้าท่ีผลิต
ขึ้นกับน้ายาซักผ้าตามท้องตลาดจากการสารวจความพึงพอใจจากกลุ่มตัวอย่างท้ังหมด 20 คนพบว่าคนส่วน
ใหญ่มีความพึงพอใจในน้ายาซักผ้าสูตรที่ 1 ว่าขจัดคราบได้ดี กว่าสูตรที่ 2 เพราะได้ใส่ส่วนผสมของ
LinearAlkylbenzeneSulfonate 95% (หั ว เชื้ อ ข จั ด ค ร า ) ม าก ก ว่ าสู ต ร ท่ี 2 แ ล ะ ส าห รั บ Linear
AlkylbenzeneSulfonate 95% น้ันมีประสิทธิภาพในการขจัดคราบสกปรกบนเสื้อผ้า มีสูตรโครงสร้าง คือ
LAS

13

เป็นสารลดแรงตึงผิวท่ีใช้กันมากในการทาสูตรน้ายาทาความสะอาดประเภทต่าง ๆ อีกทั้งมีการ
ทดลองแล้วว่ามีความปลอดภัยต่อส่ิงแวดล้อม มีประสิทธภิ าพในการทาความสะอาดสูง และราคาไม่แพงมาก
และเน่ืองจากราคาที่ค่อนข้างประหยัด เทียบกับสารลดแรงตึงผิวตัวอ่ืน ๆ สูตรท่ีนิยมใช้ LAS เป็นสารหลัก
เช่น ผงซักฟอก น้ายาล้างจาน น้ายาทาความสะอาดเอนกประสงค์ น้ายาล้างห้องน้า น้ายาทาความสะอาด
อุตสาหกรรม สามารถขจัดคราบได้ดีหากใส่ในปริมาณท่ีมากซึ่งคณะผู้จัดทาได้ใส่ในปริมาณ 500 กรัม และ
800 กรัม ซ่ึงประสิทธิภาพในการขจัดคราบน้ันจะขจัดคราบได้ดีเม่ือใส่ส่วนผสมของ Linear Alkylbenzene
Sulfonate 95% (หัวเชือ้ ขจัดคราบ) ปริมาณ 600-800 กรัมต่อน้า 6-7 ลิตร ซึ่งทาให้น้ายาซักผ้าสูตรที่ 2 นั้น
ขจัดคราบได้ดกี วา่ สตู รที่ 1 และไมค่ วรท่ีจะใส่ส่วนผสมของ Linear Alkylbenzene Sulfonate 95% (หวั เชื้อ
ขจัดคราบ) เกินปริมาณที่กาหนดเพราะอาจจะทาให้เป็นอันตรายต่อตัวเราได้ อาจระคายเคืองต่อผิวหนังเวลา
สวมใส่เส้ือท่ีซักโดยน้ายาซักผ้าที่มีปริมาณหัวเช้ือขจัดคราบมากจนเกินไป และหัวเชื้อขจัดคราบน้ัน มี
ประสิทธภิ าพในการทาความสะอาดสูง และราคาไม่แพงมากซ่ึงจากการสาควจความพึงพอใจกับน้ายาซักผ้าที่
ได้ผลิตขึ้นมามากกว่าผงซักฟอกตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งน้ายาซักผ้าที่ผลิตขึ้นมาสามารถซักผ้าได้เทียบเท่ากับ
ผงซักฟอกตามท้องตลาด ซึ่งในสารเคมีท่ีใส่มีปริมาณที่พอดไี ม่มากเกินมาตรฐาน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
ไมท่ าลายสิ่งแวดลอ้ ม ละลายน้าได้เร็ว และไม่เปน็ คราบขาวเหมอื นผงซักฟอก ซ่ึงสอดคล้องกับสมมติฐานท่ีตั้ง
ไว้ คือ น้ายาซักผ้าท่ีมีส่วนผสมของ Linear Alkylbenzene Sulfonate 95% (หัวเชื้อขจัดคราบ) น้ันมี
ประสิทธิภาพในการขจัดคราบดีกว่าผงซกั ฟอกตามทอ้ งตลาด
5.4 ขอ้ เสนอแนะ

1. ควรเพมิ่ กลิ่น และแต่งสนี ้ายาซักผา้ ให้มีความหลากหลาย
2. ควรแยกน้ายาซักผ้าขาว และน้ายาซักผา้ สี
3. ควรเปลยี่ นขวดบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะแกก่ ารใชง้ านได้งา่ ย

14

บรรณำนุกรม

Kik Kii. (2560). โครงกำรเร่อื งนำยำซกั ผ้ำ. [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก :
https://sites.google.com/site/khorngkarreuxngnayasakpha/bth-thi-3/.
(วันท่คี น้ ข้อมูล : 8 มกราคม 2564).

นำยำซักผำ้ จำกสมนุ ไพรธรรมชำติ. (2560). [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ไดจ้ าก :
http://mvs.ac.th/PDF/project/. (วันทีค่ ้นขอ้ มูล : 10 มกราคม 2564).

K-ME แหล่งควำมรู้เคมี. (2560). [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก :
https://touchzy-sci.blogspot.com/2017/01/blog-post.html/.
(วันท่คี ้นข้อมูล : 20 มกราคม 2564).

15

ภำคผนวก

16
ภาพท่ี 1 ชง่ั ผงเพ่ิมฟอง 50 กรัม
ภาพท่ี 2 ชง่ั หวั เช้อื แชมพู 500 กรัม
ภาพท่ี 3 ชง่ั หวั เช้อื ขจัดคราบ 500 กรัม (สูตรที1่ )

17
ภาพที่ 4 ชง่ั ผงปรบั เนอื้ ข้น 150 กรมั
ภาพท่ี 5 ชั่งหัวเชื้อนา้ หอม 15 มลิ ลิลิตร
ภาพที่ 6 ชงั่ สารกันบดู ผง 50 กรมั

18
ภาพที่ 7 ชง่ั หวั เชอ้ื ขจดั คราบ 800 กรมั (สตู รท่2ี )

ภาพท่ี 8 เทส่วนผสมน้ายาซักผ้าลงในกะละมัง
ภาพท่ี 9 ใส่น้า 6.5 ลิตรลงในกะละมงั

19
ภาพท่ี 10 กวนสว่ นผสมใหเ้ ข้ากนั

ภาพท่ี 11 รอจนฟองยบุ
ภาพท่ี 12 นากรวยกรองกรอกน้ายาซกั ผา้ เขา้ ในขวดบรรจุภัณฑ์

20
ภาพท่ี 13 เสอ้ื ที่มีคราบสกปรกของซอสมะเขอื เทศปรมิ าณ 10 กรมั

ภาพที่ 14 ซกั เส้ือทมี คี ราบสกปรกกบั นา้ ยาซักผา้ ทั้ง 2 สตู ร
ภาพที่ 15 นาเส้ือทงั้ 2 ตัวไปตากให้แหง้




Click to View FlipBook Version