The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ความรู้เกี่ยวกับงานอาชีพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นายเจษฎา คำภาพันธ์, 2021-04-02 02:35:40

ความรู้เกี่ยวกับงานอาชีพ

ความรู้เกี่ยวกับงานอาชีพ

แผนการจัดการเรียนรู้
วิชา ความรู้เกี่ยวกบั งานอาชีพ

รหสั วิชา 2001–1001

โดย
นายเจษฎา คาภาพนั ธ์

แผนกวิชาช่างกลโรงงาน
วิทยาลัยเทคนคิ สกลนคร

แผนการสอน หนว่ ยที่ 1
ชื่อวิชา ความรูเ้ กี่ยวกับงานอาชีพ สอนคร้ังท่ี 1-2
ช่ือหน่วย ความรู้เบอ้ื งต้นเก่ยี วกับงานอาชีพ ชั่วโมงรวม 4
ชื่อเร่ืองหรือช่อื หน่วย ความรเู้ บื้องตน้ เกย่ี วกับงาน จานวนช่ัวโมง 4
อาชพี

สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายและความสาคัญของงานอาชีพ
2. องค์ประกอบของการประกอบอาชพี
3. สาเหตุของการแบง่ งานและอาชพี
4. ประเภทของอาชีพ
5. การตดั สนิ ใจเลือกอาชพี
6. ขน้ั ตอนในการตัดสินใจเลือกอาชพี

จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. บอกความหมายและความสาคญั ของงานอาชีพได้
2. อธิบายองค์ประกอบของการประกอบอาชีพได้
3. บอกสาเหตุของการแบ่งอาชีพได้
4. จาแนกประเภทของอาชพี ได้
5. บอกปัจจยั ที่เกีย่ วขอ้ งกับการตัดสินใจเลอื กอาชีพได้
6. บอกข้ันตอนในการตัดสนิ ใจเลือกอาชีพได้

สาระสาคญั
การดารงชีวติ ของทกุ คนในปจั จุบันตอ้ งมีการประกอบอาชีพ เพือ่ ให้มรี ายได้เลย้ี งตนเองและ

ครอบครวั ซงึ่ จะนาพาความสุขมาสู่ตนเอง ชุมชนหรอื สงั คมโดยรวมและก่อใหเ้ กิดผลดีต่อประเทศชาตใิ นด้าน
การสรา้ งความเจริญและความมัน่ คงทางเศรษฐกจิ ซึ่งในการทางานไมว่ า่ สาขาอาชีพใดก็ตามยอ่ มต้องมีการ
ปรบั ตัว เพอื่ ใหเ้ กิดความคล่องตัวและประสบความสาเร็จในงานอาชพี นน้ั นอกจากจะคานึงถงึ ประโยชนใ์ นส่วน
ตนแล้ว ยังตอ้ งคานึงถึงความรบั ผิดชอบต่อสังคมด้วย

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ขน้ั ตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ขัน้ ตอนการเรยี นหรือกจิ กรรมของนักเรยี น

ข้ันนาเขา้ สู่บทเรียน

1. ครูนาเข้าสู่บทเรียนครยู กตัวอยา่ งอาชพี ท่ีมใี น 1. ตอบคาถามและปฏบิ ตั ิตามกิจกรรม

ชีวติ ประจาวันหรอื เพอ่ื ให้นกั เรยี นตอบคาถามเก่ียวกับการ ที่ 1.1 และกิจกรรม 1.2

ประกอบอาชพี 2. ร่วมแสดงความคิดเหน็ เพ่ือวิเคราะห์

2. ครแู นะนาเน้ือหา และแจ้งผลการเรยี นทค่ี าดหวัง ประเด็นคาถามการประกอบอาชพี

ของหนว่ ยที่ 1 เรื่อง การคดิ และกระบวนการคดิ อย่างเปน็

ระบบ

3. โดยนาประเด็นคาถามใหน้ กั เรียนร่วมแสดง

ความคดิ เหน็ ในการประกอบอาชพี ต่าง ๆ

ขนั้ ดาเนินการสอน 1. ศกึ ษาเนอื้ หาจากเอกสารประกอบ
1. บรรยายเน้ือหา หนว่ ยที่ 1 เรอ่ื ง ความรู้ การเรียน
2. สง่ งานเพ่อื ตรวจตามกาหนด
เก่ยี วกับอาชีพ 3. มพี ฒั นาการแตง่ กายเรียบร้อยถกู ต้องตาม
2. ครูสอนเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพือ่ เสริมสรา้ ง ระเบียบของสานศกึ ษา และคุณธรรมด้านอ่นื ๆ
เช่น ความมีวินัย ความรบั ผิดชอบ ความ
คุณลักษณะด้านความมีระเบยี บวนิ ยั ซอ่ื สตั ย์สจุ ริต และความตรงต่อเวลา เป็น
3. ใหท้ าแบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 1 เรือ่ ง ความร้เู บอื้ งต้น ต้น

เกยี่ วกับงานอาชพี

ขน้ั สรปุ การเรียนการสอน 1. ร่วมสรุปเนือ้ หาโดยตอบขอ้ ซกั ถามตาม
1. สรปุ สาระสาคญั โดยการซักถามนักเรยี น หัวข้อที่ครกู าหนด
2. มอบหมายงานเพ่อื จัดทากิจกรรมกลุ่มจาก
2. นาเสนอผลงานจากกจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะ
กิจกรรมเสริมทกั ษะการจัดประสบการณ์เรยี นรทู้ ่ี 1.1 ท่ี 1.1 และ 1.2 ทีค่ รูมอบหมาย
3. มอบหมายงานเพอ่ื จดั ทารายงานจากกจิ กรรม
3. ทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่
เสรมิ ทักษะการจัดประสบการณ์เรยี นรทู้ ่ี 1.2 1 เรอ่ื ง ความรูเ้ บ้อื งตน้ เกีย่ วงานอาชีพ
4. ประเมินการเรยี นร้หู ลงั เรียน หนว่ ยท่ี 1 เร่ือง

ความรเู้ บอื้ งต้นเก่ยี วงานอาชีพ

งานที่มอบหมายหรอื กจิ กรรม

กอ่ นเรียน
1. ครูนาเขา้ สบู่ ทเรยี นครูยกตวั อย่างอาชีพท่มี ใี นชีวติ ประจาวันหรือ เพอื่ ใหน้ กั เรียนตอบคาถามเกยี่ วกบั

การประกอบอาชีพ
2. ครูแนะนาเนอ้ื หา และแจง้ ผลการเรียนทีค่ าดหวังของหน่วยที่ 1 เร่อื ง ความร้เู บื้องตน้ เกยี่ วกับงาน

อาชีพ
3. โดยนาประเดน็ คาถามให้นักเรียนรว่ มแสดงความคิดเห็นในการประกอบอาชีพต่าง ๆ
ขณะเรยี น
1. บรรยายเน้ือหา หนว่ ยที่ 1 เรอ่ื ง ความรเู้ กย่ี วกับอาชพี
2. ครูสอนเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพอ่ื เสรมิ สร้างคุณลักษณะด้านความมีระเบยี บวนิ ยั
3. ให้ทาแบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 1 เรื่อง ความรเู้ บื้องตน้ เกีย่ วกบั งานอาชีพ

สอ่ื การเรียนการสอน และนวตั กรรม
1. เอกสารประกอบการสอนวชิ า ความรูเ้ กยี่ วกบั งานอาชีพ (2001-1001)
2. สอื่ นาเสนอ Power Point เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ และเคร่อื งฉายภาพโปรเจคเตอร์
3. แบบประเมินผลการเรียนรกู้ อ่ นและหลงั เรยี น
4. แบบฝกึ หัด หนว่ ยท่ี 1 เรอื่ ง ความรูเ้ บอื้ งตน้ เกี่ยวกับงานอาชพี
5. กิจกรรมเสริมทักษะการเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 เร่ือง ความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ยี วกบั งานอาชีพ

การประเมินผล
ก่อนเรยี น 1. การประเมินพฤตกิ รรมจิตพิสัยฯ รายบุคคล และการเช็คการเข้าเรียนของนกั ศึกษาลง

ในสมดุ บันทึกเวลาเรียนและประเมนิ ผลการเรยี น
2. การประเมินผลก่อนเรยี น เกณฑ์ผา่ น 50% ข้ึนไป

ขณะเรยี น 1. การสังเกตและประเมินด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคุณลกั ษณะอันพงึ
ประสงค์

2. การประเมนิ ผลจากการตรวจแบบฝกึ หัด หน่วยท่ี 1 เร่ือง ความรู้เบื้องต้นเก่ยี วกับ
งานอาชพี

หลงั เรยี น 1. ประเมินผลการเรยี นรหู้ ลงั เรยี น เกณฑผ์ ่าน 50% ข้ึนไป

บนั ทกึ หลงั การสอน

ผลการใชแ้ ผนการสอน นักเรียนมีความเขา้ ใจ เนอื้ หาหน่วยที่ 1 เรอื่ ง ความร้เู บอ้ื งต้นเกย่ี วกับงาน
อาชีพจากการนาเข้าสู่บทเรยี นของครูผสู้ อนโดยการสอบถามจากผูเ้ รียนหรือจากการประเมินผลการเรียนรู้

ผลการเรียนของนักเรียน นกั เรยี นมคี วามเขา้ ใจการจดั ประสบการณ์เรียนร้ขู องครผู สู้ อน
ผลการสอนของครู ประสทิ ธิภาพในการสอนของครไู ดผ้ ลดี โดยวัดจากการ
ซกั ถาม สาระสาคญั โดยสรปุ และนกั เรยี นส่วนใหญ่ตอบคาถามได้ และการประเมนิ ผลการเรียนรู้

แบบแบบฝกึ หดั
หน่วยท่ี 1 ความรู้เบ้อื งต้นเกยี่ วกับงานอาชีพ
คาสั่ง จงตอบคาถามต่อไปนี้ใหส้ มบูรณ์
1. คาต่อไปนี้มคี วามหมายว่าอยา่ งไร
1.1 งาน (Work) หมายถงึ สง่ิ ทีต่ ้องทา; ภาระหน้าทที่ ่ตี ้องกระทา หรอื ความหมายตามพจนานุกรม
ฉบับราชบัณฑติ ยสถาน “งาน” หมายถึง การกระทาหรือรับผิดชอบบางสง่ิ บางอย่างใหแ้ ก่ผ้อู นื่ โดยไดร้ ับคา่ จ้าง
เปน็ การตอบแทน
1.2 อาชีพ (Occupation) หมายถงึ การทากิจกรรม การทางาน การประกอบการใด ๆ ท่ี
ก่อให้ เกิดผลผลติ และรายได้ เปน็ งานทสี่ ุจรติ ไม่ผิดศลี ธรรม เปน็ ท่ียอมรบั ของสังคม โดยอาศัยแรงงาน ความรู้
ทกั ษะ อปุ กรณ์ เคร่ืองมอื วิธกี ารตา่ ง ๆ กนั ไป
1.3 วชิ าชพี (Profession) หมายถึง อาชีพท่ไี ดร้ บั ค่าตอบแทน โดยมีความรู้ ทักษะ และ
สมรรถนะในการประกอบวิชาชีพน้ัน ๆ อนั เป็นผลมาจากการทไ่ี ดร้ บั การฝึกอบรมหรือการศึกษาตรงตามสาขา
ที่ประกอบวชิ าชีพ วชิ าชีพน้นั เป็นการทางานอาชีพทต่ี อ้ งใช้ทกั ษะและการฝึกในขัน้ สงู เท่านนั้
1.4 ผปู้ ระกอบวชิ าชีพ (Professional) หมายถึง ผูท้ ่ีอุทิศเวลาใหแ้ กอ่ าชีพน้ัน ๆ ซ่งึ ผปู้ ระกอบ
วชิ าชพี อยู่ในกล่มุ ผู้ประกอบอาชีพเดยี วกัน มักมกี ารจดั ตง้ั สมาคมวิชาชีพอยา่ งเปน็ รปู ธรรม โดยผ้ปู ระกอบ
วชิ าชพี จะตอ้ งยึดม่นั อยกู่ ับกฎเกณฑข์ องการประกอบวชิ าชพี ปฏิบัติงานและใหบ้ รกิ ารดว้ ยจติ สานกึ ในวชิ าชีพ
ตลอดจนมีความเปน็ อสิ ระในการประกอบวชิ าชีพ อันเนอื่ งมาจากการท่ผี ปู้ ระกอบวิชาชีพมีความเชีย่ วชาญใน
การประกอบวชิ าชีพของตนในระดบั สูง เช่น วชิ าชีพครู วชิ าชีพแพทย์ วิชาชพี ทนายความ วิชาชีพนักบัญชี เป็น
ต้น
2. ความสาคญั ของอาชีพมีความสาคญั ต่อตนเองอยา่ งไร
ตอบ ความสาคัญของอาชพี มีความสาคญั ตอ่ ตนเอง คอื การมีอาชพี จะเปน็ การสร้างรายไดเ้ พือ่ เล้ยี งชพี ตนเอง
และครอบครัว ทาใหช้ ีวติ ดารงอยูไ่ ดแ้ ละตอบสนองความตอ้ งการของตนเอง ตลอดจนเพือ่ ให้ได้เงนิ หรือรายได้
มาจับจ่ายใช้สอยสาหรับการดาเนนิ ชวี ติ เชน่ การซื้อบา้ น การซื้อรถยนต์ การซื้อส่ิงสร้างความบนั เทงิ และการ
พักผ่อน เชน่ โทรทัศน์ เครอ่ื งเสียง ตลอดจนซื้อสนิ คา้ ฟมุ เฟอื ย เชน่ โทรศพั ท์มอื ถอื เคร่อื งประดบั ราคาแพง
น้าหอม เคร่ืองสาอาง เปน็ ตน้
3. องคป์ ระกอบของการประกอบอาชีพประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ องค์ประกอบของการประกอบอาชีพประกอบดว้ ย
1. มีกจิ กรรมที่เป็นลกั ษณะเฉพาะ

2. มคี วามรทู้ ักษะทีเ่ ปน็ ลักษณะเฉพาะ
3. เคร่อื งแบบ
4. สานักงาน
5. อปุ กรณ์ เคร่ืองมือ

6. เงนิ ทุน
7. ค่าตอบแทน
4. สาเหตขุ องการแบ่งงานและอาชพี มีอะไรบา้ ง จงอธิบาย
ตอบ สาเหตขุ องการแบง่ งานและอาชีพมีดังนี้
1. ความรู้ความสามารถของแต่ละบุคคลแตกต่างกนั เช่น ความรู้ ความสนใจ บุคลิกภาพ
สตปิ ญั ญา ความถนัด ทักษะ แรงจงู ใจใฝุสมั ฤทธิ์ ความรับผิดชอบ ความอตุ สาหะ เพศ เช้ือชาติ อายุ ความ
แข็งแรง สขุ ภาพ โดยแต่ละบคุ คลย่อมมีความถนดั ความสามารถ และความสนใจในงานอาชีพแตกต่างกนั
2. ลักษณะทางภูมศิ าสตร์และภูมิประเทศของแต่ละท้องถน่ิ แตกตา่ งกัน เช่น ลักษณะภูมิ
ประเทศ ลักษณะภมู ิอากาศ ทรพั ยากรธรรมชาติ
3. การมีภาระหน้าทท่ี ่แี ตกต่างกัน ภาระหนา้ ทเี่ ป็นการกระทาหรือการแสดงพฤตกิ รรมของ
บคุ คลที่เปน็ ไปตามความคาดหวงั ตามตาแหน่งในอาชีพน้ัน เปน็ ลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคลในการแสดง
พฤติกรรมและความรับผิดชอบ รวมทง้ั การปฏบิ ัติตนตามทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
5. อาชีพอสิ ระมลี ักษณะอยา่ งไร
ตอบ การประกอบอาชพี ส่วนตวั หรืออาชพี อิสระ หมายถึง การประกอบธุรกิจเปน็ ของตนเองหรือเปน็ การ
ลงทนุ รว่ มกับบคุ คล เป็นนายจ้างตนเอง แต่จะตอ้ งมีความมงุ่ มนั่ มานะและอดทนในการทางาน และพรอ้ มทีจ่ ะ
ฟันฝาุ อุปสรรค รายไดไ้ ม่แน่นอน ขนึ้ อยู่กับความขยนั ความอดทน และความพยายาม เช่น อาชพี การผลิต
(Production Sector) อาชีพการค้าหรือพาณชิ ย์ (Trading Sector) อาชีพการให้บริการ (Service Sector)
6. ปจั จยั ภายในที่มีผลตอ่ การตัดสินใจเลือกอาชีพคอื อะไร
ตอบ 1. ปจั จยั ภายนอก คือ ข้อมลู ด้านอาชพี ประกอบด้วย แนวโน้มของตลาดแรงงาน ลักษณะงาน
สภาพแวดล้อมของงาน คณุ สมบัตขิ องผปู้ ระกอบอาชพี การเขา้ ประกอบอาชีพ รายได้ ความกา้ วหน้า อาชีพ
นั้น ๆ การกระจายของผู้ประกอบอาชีพ และข้อดีและขอ้ เสยี อาชพี แตล่ ะอยา่ งมที ั้งขอ้ ดแี ละขอ้ เสีย ขึ้นอยกู่ บั
ความพอใจและความ–ต้องการของผปู้ ระกอบอาชีพนนั้

2. ปัจจัยภายใน คือ ปัจจยั ส่วนบคุ คลท่บี ุคคลนัน้ ตอ้ งรู้จักตนเอง มีความรู้ คณุ วฒุ ทิ างการ
ศึกษา ความสนใจ มบี ุคลิกภาพ สตปิ ญั ญา ความถนัด ทักษะ ตลอดจนแรงจูงใจใฝุสัมฤทธ์ิ ความรับผิดชอบ
ความอตุ สาหะ ในอาชพี ที่ตนตัดสินใจเลอื กหรอื ไม่
7. ขั้นตอนการตัดสนิ เลือกอาชพี ประกอบด้วยอะไรบา้ ง
ตอบ ขน้ั ตอนในการตัดสินใจเลือกอาชพี มีดังนี้

1. กาหนดปญั หาหรืออปุ สรรคให้ชัดเจนว่า กาลงั ตัดสนิ ใจเรือ่ งอะไร เชน่ กาลังเลือกแผนการ
เรียนอะไร หรือเลอื กท่ีจะประกอบอาชพี อะไร

2. สารวจตัวเลือก ตอ้ งรู้จักแผนที่จะเลือกหรืออาชพี ทจ่ี ะเลือก
3. เปรยี บเทียบแต่ละตวั เลือกแตกตา่ งกนั อย่างไร
4. สารวจข้อมลู เกยี่ วกับการตดั สินใจท่จี ะเลือกแผนหรอื อาชีพทง้ั หมด
5. แปลความข้อมูล ตอ้ งกาหนดน้าหนักความสาคัญให้แต่ละตัวเลอื ก การตัดสนิ ใจเลอื กอาชีพ

มกั เกดิ ขึน้ เม่ือมอี าชีพให้ตดั สนิ ใจเลือกมากกวา่ หนึ่งอาชพี มคี วามรแู้ ละประสบการณ์เก่ยี วกับอาชพี ท่ีจะเลือก
6. จดั การกบั ขอ้ มลู โดยการใหน้ า้ หนกั ความสาคัญแต่ละตัวเลอื กในแต่ละประเดน็ เมือ่ เขา้ ใจวา่

ทาไมจึงเลือกตัวเลอื กนม้ี ากกว่า จะทาให้ตวั เลอื กลดลงจนเหลอื อาชพี ท่ีสนใจเทา่ นนั้
7. เรยี งลาดับประโยชน์ของตัวเลอื กจากมากไปหาน้อย จะช่วยใหเ้ หน็ ความสาคญั ของตวั เลอื ก

แต่ละตวั มากขนึ้
8. ตัดสินใจ การตดั สนิ ใจเลอื กอาชพี ทีด่ ีจะตอ้ งไมก่ งั วลใจว่าตวั เลือกที่เหลอื จะเหมาะสมกบั ตนเองมาก

น้อยเพียงใด เมอ่ื ได้พิจารณาตวั เลอื กหลายปัจจยั ไดค้ ดิ อย่างรอบคอบ ต้องตระหนกั ว่าได้ทาดีท่ีสดุ แล้ว

กิจกรรมเสรมิ ทักษะหนว่ ยที่ 1 ความรเู้ บ้อื งตน้ เก่ียวกับงานอาชีพ
กจิ กรรมท่ี 1.1 อาชพี ทก่ี าลงั เปน็ ทน่ี ยิ มในปจั จุบันของสงั คมไทย
วตั ถุประสงค์ เพื่อใหน้ กั เรียนทราบถึงอาชพี ทก่ี าลงั เป็นที่นิยมในปจั จุบันของสงั คมไทย
เพื่อเปน็ แนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคต
วัสดุ–อุปกรณ์
1. บอรด์ นเิ ทศหรอื ฟวิ เจอร์บอร์ด ขนาด 1.20 × 1.20 นิว้
2. วสั ดเุ ครอ่ื งเขยี นและอปุ กรณ์จัดบอร์ด
วิธีการ
1. ให้นักเรยี นจัดกลมุ่ กล่มุ ละ 3 คน
2. แตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนกลุม่ เพื่อจับสลากหัวข้ออาชพี ที่ได้รบั มอบหมาย ดงั นี้
(1) ทันตแพทย์
(2) พยาบาลเวชปฏิบตั หิ รือพยาบาลวิชาชพี
(3) นกั พฒั นาซอฟตแ์ วร์หรอื นกั วิเคราะหร์ ะบบงานคอมพิวเตอร์
(4) แพทย์
(5) นกั กายภาพบาบัด
(6) นักพฒั นาเวบ็ ไซต์
(7) ผู้จัดการฝุายการตลาดหรอื นกั วิเคราะหแ์ ละวจิ ยั ทางการตลาด
(8) วศิ วกร
(9) สถาปนกิ
(10) นกั บัญชี
3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มศึกษาค้นคว้าตามหวั ขอ้ ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ออกแบบบอร์ด จดั วางเนือ้ หาที่
เหมาะสมและลงมือจัดบอรด์ นิเทศ
4. นาบอรด์ ท่ีจดั เรียบร้อยแลว้ นาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น เพ่อื ใหค้ รูและนักเรียนร่วมพิจารณาและแสดง
ความคดิ เหน็ ร่วมกนั ก่อนนาบอรด์ ไปตดิ ตามจดุ ต่าง ๆ บรเิ วณอาคารเรียนครผู ูส้ อนกาหนด
การประเมนิ ผล ประเมนิ ผลงานกลุม่ โดยครู ใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ ดงั นี้

ลาดับ รายการประเมนิ ดมี าก เกณฑก์ ารประเมิน พอใช้ ปรับปรุง
ท่ี (9–10 (3–4 (1–2
คะแนน) ดี ปานกลาง คะแนน) คะแนน)
(7–8 (5–6
คะแนน) คะแนน)

1 ความร่วมมอื ในการ
2 ทางานกลุ่ม
3 การนาเสนอหน้าชัน้ เรยี น

4 การแสดงความคิดเห็น
5 สาระความรแู้ ละ

คุณประโยชน์
ความสวยงาม
รวมคะแนน

เกณฑ์การประเมนิ 41 – 50 คะแนน = ดีมาก
31 – 40 คะแนน = ดี
21 – 30 คะแนน = ปานกลาง
11 – 20 คะแนน = พอใช้
ตา่ กว่าและเท่ากับ 10 คะแนน = ควรปรับปรงุ

กิจกรรมเสรมิ ทักษะหน่วยที่ 1 ความรเู้ บื้องตน้ เกี่ยวกบั งานอาชพี

กจิ กรรมท่ี 1.2 การตัดสินใจเลือกอาชพี

วัตถุประสงค์ เพ่ือใหน้ กั เรยี นไดท้ ราบข้อมลู ในอาชพี ที่ตนชอบและสนใจที่จะประกอบอาชีพนน้ั

ในอนาคต

กิจกรรม/วิธีการ ให้นกั เรยี นคน้ คว้าอาชพี ท่นี กั เรยี นอยากจะประกอบอาชีพนนั้ ในอนาคต

1. อาชีพนกั เรยี นเห็นว่าเหมาะสมและชอบมากทส่ี ุด คือ

รูปตวั อยา่ ง
2. คุณสมบัติเบือ้ งต้นของผ้ปู ระกอบอาชพี ดังกล่าว ประกอบด้วย

3. เหตุผลท่นี ักเรยี นเลือกประกอบอาชพี ดงั กลา่ ว เน่ืองจาก

การประเมินผล โดยครใู ชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ ดงั น้ี

รายการประเมนิ ดีมาก ดี ปานกลาง ปรบั ปรงุ

1. เนอื้ หาถูกตอ้ งครบถว้ นสมบูรณ์

2. มีความรู้ความเข้าใจในกจิ กรรม

3. สามารถนาไปประยุกต์ใชไ้ ด้

4. การส่งงานตรงต่อเวลาทกี่ าหนด

แบบทดสอบก่อนเรียน

หนว่ ยที่ 1 ความรเู้ บ้ืองต้นเกย่ี วกบั งานอาชพี

คาส่งั ให้นกั เรยี นทาเคร่อื งหมายกากบาท ( ) ขอ้ ทถ่ี กู ตอ้ งท่สี ดุ เพียงขอ้ เดียว

1. อาชพี หมายถงึ ข้อใด

ก. อาชพี คือ งานทที่ าเป็นประจาได้ค่าตอบแทนเป็นรายได้เพือ่ ใช้จ่ายในการ

ดารงชีวิต ข. อาชีพ คือ การทาหนา้ ท่ีของมนษุ ยเ์ พื่อการดารงชวี ติ

ค. อาชีพ คอื ผู้ประกอบการไม่ไดเ้ ป็นเจา้ ของกิจการแตเ่ ป็นเพียงผรู้ บั จ้าง

ทางานเท่าน้ัน

ง. อาชพี คือ งานหรอื หนา้ ทีท่ ่ีตอ้ งทาดว้ ยตนเองแต่เพยี งผูเ้ ดียว

2. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเกีย่ วกับผู้ประกอบวชิ าชีพ

ก. การทาหน้าที่ทีไ่ ด้รบั มอบหมายให้เสรจ็ สน้ิ

ข. การอุทิศเวลาให้แกอ่ าชีพนัน้ ๆ และยดึ มัน่ ในกฎเกณฑ์วชิ าชพี

ค. มีความรู้วิชาเฉพาะที่ใชใ้ นการประกอบวชิ าชีพ

ง. มีสมรรถนะของผปู้ ระกอบวชิ าชพี น้นั ๆ

3. การเตรยี มตวั เขา้ สอู่ าชีพตอ้ งเตรยี มตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ซงึ่ ตอ้ งรจู้ กั ตนเองกอ่ นตัดสนิ ใจ

ใน การเลือกงานหรอื อาชพี ข้อใดไมใ่ ช่ปจั จัยในการตัดสินใจเลือกงาน

ก. สติปญั ญา ความสามารถ ข. ความชอบ ความสนใจ

ค. ความรา่ รวย มีฐานะทางสงั คม ง. ความถนัด ค่านยิ ม

4. พนติ พรเปดิ ร้านขายอาหารตามส่งั มรี ายไดพ้ อเลีย้ งชพี มีความสาคญั ต่อด้านใด

ก. สังคม ข. ประเทศชาติ

ค. ครอบครวั ง. ตนเอง

5. สาเหตุข้อใดทาให้เกิดการแบง่ งานและอาชีพ

ก. ความแตกต่างด้านวัยวฒุ ิ ข. ความแตกตา่ งด้านความรู้

ความสามารถ

ค. ความแตกต่างดา้ นเศรษฐกิจ ง. ความแตกต่างดา้ นครอบครัว

6. ขอ้ ใดเป็นแนวทางในการเลอื กอาชีพ

ก. มคี วามถนดั มีความมั่นคง เป็นอาชีพสุจรติ

ข. มีความถนดั ค่าตอบแทนสูง สวสั ดิการดี

ค. ค่าตอบแทนสงู ตามสมยั นิยม มีความกา้ วหนา้ เรว็

ง. คา่ ตอบแทนสงู สวสั ดกิ ารดี มีความกา้ วหน้าเรว็

7. การประกอบอาชีพในขอ้ ใดจัดอยู่ในงานบรกิ าร ข. ช่างตัดผม
ก. ขายเส้ือผ้า ง. ชา่ งเครื่องปั้นดนิ เผา
ค. ชา่ งประดษิ ฐ์

8. นักเรียนควรเลอื กอาชีพจากองคป์ ระกอบขอ้ ใด

ก. ความถนดั ของตนเอง ข. ค่านยิ มของผปู้ กครองและสงั คม

ค. ตามเพื่อนทเี่ รียน ง. รายได้

9. ส่งิ ท่บี อกว่าเปน็ การประกอบอาชีพสจุ รติ คือข้อใด

ก. เป็นอาชพี ทีล่ งทนุ สงู ข. เปน็ อาชพี อสิ ระ

ค. เปน็ อาชพี ท่ที าภายในครวั เรือน ง. เปน็ อาชพี ท่ไี มผ่ ดิ กฎหมาย

10. บุคคลในข้อใดมีเจตคตทิ ี่ดีต่อการประกอบอาชพี

ก. แดง มาทางานสายเป็นประจา

ข. ดา พฒั นาสตู รนา้ จ้ิมรสเดด็ ตามทีล่ ูกค้าแนะนาเสมอ

ค. ขาว ตาหนิเพ่ือนร่วมงานเปน็ ประจา

ง. เขยี ว บอกวา่ มีวนั หยดุ นอ้ ย

11. ข้อใดคือข้อดขี องการเตรียมพร้อมในการเลอื กอาชีพ

ก. เลอื กอาชพี ไดต้ รงกับความถนัดของตนเอง

ข. ได้เริ่มทางานเรว็ กว่าผ้อู ื่น

ค. ใช้เวลาในการตัดสินใจน้อย ประหยัดเวลา ได้งานเรว็

ง. เลอื กอาชพี ไดต้ รงกบั ความตอ้ งการของครอบครัว

12. ทุกข้อเป็นประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการมีเจตคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพ ยกเว้นข้อใด

ก. ทาใหป้ รบั ตัวกบั เพ่ือนร่วมงานได้ดี

ข. มีความเขา้ ใจในอาชพี ทท่ี า

ค. มีความเจริญกา้ วหน้าอยา่ งยั่งยืน มัน่ คงในชีวติ

ง. เกิดความทอ้ แท้ในการประกอบอาชีพ

13. “พนิตพรมกี ารแบ่งเวลาเพ่ือครอบครัว ดูแลสขุ ภาพร่างกายของตน และแบ่งเวลาสาหรบั ออกงาน

สงั คม” จากทก่ี ลา่ วมาพนติ พรมีหลกั การปฏบิ ตั ิตนในงานอาชพี ในด้านใด

ก. เก่งคน ข. เก่งตน

ค. เก่งดาเนินชีวติ ง. เกง่ งาน

14. “พนิตพรเป็นผทู้ ีม่ ีความรับผดิ ชอบสงู ละเอียดรอบคอบ ซอื่ สัตย์” จากคณุ ลักษณะดงั กล่าวพนติ พร

ควร ประกอบอาชีพใด

ก. เจ้าหนา้ ทีธ่ รุ การ ข. เจา้ หน้าท่ีการเงนิ

ค. เจา้ หน้าท่พี ัสดุ ง. เจ้าหน้าที่ทะเบียน

15. ข้อใดเป็นวธิ กี ารหาประสบการณใ์ นอาชพี ท่ีสนใจที่เหมาะสมและได้ผลดีทสี่ ุด
ก. ร่วมแสดงบทบาทสมมติในหอ้ งเรยี น
ข. เขา้ ฝึกงานในสถานประกอบการที่นกั เรยี นสนใจ
ค. สมั ภาษณ์ผู้ประกอบอาชีพทน่ี ักเรียนสนใจ
ง. สบื ค้นขอ้ มลู อาชพี ที่นักเรียนสนใจจากอินเทอร์เนต็

แบบทดสอบหลงั เรียน

หน่วยท่ี 1 ความรเู้ บอื้ งตน้ เก่ยี วกบั งานอาชพี

คาสัง่ ใหน้ ักเรียนทาเครอ่ื งหมายกากบาท ( ) ข้อทถ่ี กู ต้องท่สี ุดเพียงข้อเดยี ว

1. อาชพี หมายถึงขอ้ ใด

ก. อาชพี คือ การทาหนา้ ที่ของมนษุ ยเ์ พอื่ การดารงชีวติ

ข. อาชีพ คือ งานท่ีทาเปน็ ประจาได้ค่าตอบแทนเป็นรายไดเ้ พอื่ ใชจ้ ่ายในการ

ดารงชีวิต

ค. อาชพี คือ งานหรอื หนา้ ทท่ี ่ีตอ้ งทาดว้ ยตนเองแต่เพียงผู้เดยี ว

ง. อาชีพ คอื ผ้ปู ระกอบการไม่ไดเ้ ปน็ เจา้ ของกิจการแตเ่ ป็นเพยี งผรู้ ับจ้าง

ทางานเท่านั้น

2. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกีย่ วกับผ้ปู ระกอบวชิ าชพี

ก. การอทุ ิศเวลาใหแ้ ก่อาชพี นนั้ ๆ และยดึ มั่นในกฎเกณฑว์ ชิ าชพี

ข. การทาหนา้ ทท่ี ไี่ ดร้ ับมอบหมายให้เสร็จส้นิ

ค. มสี มรรถนะของผปู้ ระกอบวิชาชีพน้ัน ๆ

ง. มคี วามรูว้ ิชาเฉพาะท่ีใช้ในการประกอบวิชาชีพ

3. การเตรยี มตัวเขา้ สู่อาชีพต้องเตรยี มตัวใหพ้ รอ้ มท้งั รา่ งกายและจติ ใจ ซง่ึ ตอ้ งรูจ้ ักตนเองกอ่ นตัดสนิ ใจ

ใน การเลือกงานหรอื อาชพี ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ัจจัยในการตัดสินใจเลือกงาน

ก. ความชอบ ความสนใจ ข. สตปิ ญั ญา ความสามารถ

ค. ความถนดั ค่านิยม ง. ความรา่ รวย มีฐานะทางสังคม

4. พนติ พรเปดิ รา้ นขายอาหารตามสัง่ มีรายไดพ้ อเลยี้ งชพี มคี วามสาคญั ต่อด้านใด

ก. ประเทศชาติ ข. สังคม

ค. ตนเอง ง. ครอบครวั

5. สาเหตุขอ้ ใดทาให้เกิดการแบง่ งานและอาชพี

ก. ความแตกตา่ งดา้ นความรู้ ความสามารถ ข. ความแตกต่างด้าน

วยั วฒุ ิ

ค. ความแตกตา่ งดา้ นครอบครัว ง. ความแตกต่างด้านเศรษฐกิจ

6. ขอ้ ใดเปน็ แนวทางในการเลือกอาชพี

ก. มีความถนัด ค่าตอบแทนสูง สวัสดิการดี

ข. มคี วามถนดั มีความมัน่ คง เปน็ อาชีพสุจริต

ค. ค่าตอบแทนสงู สวสั ดกิ ารดี มีความกา้ วหนา้ เรว็

ง. คา่ ตอบแทนสงู ตามสมัยนิยม มคี วามก้าวหน้าเรว็

7. การประกอบอาชีพในข้อใดจัดอยู่ในงานบรกิ าร

ก. ช่างตดั ผม ข. ขายเสอ้ื ผา้

ค. ชา่ งเครือ่ งป้นั ดนิ เผา ง. ช่างประดษิ ฐ์

8. นักเรียนควรเลือกอาชีพจากองค์ประกอบข้อใด

ก. ค่านิยมของผู้ปกครองและสังคม ข. ความถนัดของตนเอง

ค. รายได้ ง. ตามเพือ่ นท่ีเรยี น

9. สิง่ ท่บี อกว่าเป็นการประกอบอาชีพสจุ รติ คือขอ้ ใด

ก. เปน็ อาชพี อสิ ระ ข. เปน็ อาชพี ที่ลงทนุ สงู

ค. เปน็ อาชพี ท่ไี มผ่ ดิ กฎหมาย ง. เปน็ อาชีพทท่ี าภายในครัวเรอื น

10. บคุ คลในข้อใดมีเจตคติที่ดีตอ่ การประกอบอาชพี

ก. ดา พฒั นาสตู รนา้ จิม้ รสเด็ดตามทลี่ กู ค้าแนะนาเสมอ

ข. แดง มาทางานสายเป็นประจา

ค. เขยี ว บอกวา่ มีวนั หยุดมีนอ้ ย

ง. ขาว ตาหนิเพื่อนร่วมงานเปน็ ประจา

11. ขอ้ ใดคือขอ้ ดขี องการเตรียมพรอ้ มในการเลอื กอาชีพ

ก. ได้เรม่ิ ทางานเรว็ กวา่ ผูอ้ น่ื

ข. เลอื กอาชพี ไดต้ รงกบั ความถนัดของตนเอง

ค. เลือกอาชพี ได้ตรงกบั ความตอ้ งการของครอบครวั

ง. ใช้เวลาในการตดั สินใจนอ้ ย ประหยัดเวลา ได้งานเรว็

12. ทกุ ข้อเปน็ ประโยชนท์ ่ีได้รับจากการมเี จตคติทด่ี ตี ่อการประกอบอาชีพ ยกเว้นขอ้ ใด

ก. มีความเข้าใจในอาชพี ทท่ี า

ข. ทาให้ปรบั ตัวกบั เพือ่ นรว่ มงานได้ดี

ค. เกดิ ความทอ้ แทใ้ นการประกอบอาชีพ

ง. มคี วามเจรญิ ก้าวหน้าอย่างยงั่ ยืน มน่ั คงในชวี ิต

13. “พนติ พรมกี ารแบง่ เวลาเพอื่ ครอบครัว ดูแลสขุ ภาพรา่ งกายของตน และแบ่งเวลาสาหรับออกงาน

สงั คม” จากท่กี ล่าวมาพนิตพรมหี ลักการปฏบิ ัติตนในงานอาชีพในดา้ นใด

ก. เกง่ ตน ข. เก่งคน

ค. เก่งงาน ง. เกง่ ดาเนินชีวิต

14. “พนติ พรเป็นผู้ทม่ี คี วามรบั ผิดชอบสงู ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สตั ย์” จากคุณลักษณะดงั กล่าวพนิตพร

ควร ประกอบอาชพี ใด

ก. เจ้าหน้าทีก่ ารเงนิ ข. เจา้ หนา้ ที่ธรุ การ

ค. เจา้ หนา้ ที่ทะเบียน ง. เจา้ หนา้ ทพี่ ัสดุ

15. ข้อใดเป็นวธิ กี ารหาประสบการณใ์ นอาชพี ท่ีสนใจท่ีเหมาะสมและได้ผลดีทสี่ ุด
ก. เขา้ ฝกึ งานในสถานประกอบการทนี่ กั เรยี นสนใจ
ข. รว่ มแสดงบทบาทสมมติในหอ้ งเรยี น
ค. สืบค้นขอ้ มลู อาชีพทน่ี กั เรียนสนใจจากอนิ เทอร์เนต็
ง. สมั ภาษณ์ผูป้ ระกอบอาชีพที่นกั เรียนสนใจ

การประเมินการใชแ้ ผนการสอน

รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม ข้อเสนอแนะ
4321

1. เวลาทีใ่ ช้สอน

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

3. สาระการเรียนรู้

4. กระบวนการเรยี นรู้

5. การใชส้ อ่ื การเรียนการสอน

6. การวดั ผลประเมนิ ผล

7. ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนรู้

8. การประเมินดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม

9. ความสนใจของนกั เรยี น

10. ความพอใจของผู้สอน

รวม

ความคดิ เหน็ ครผู ้สู อน
…………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………

ลงชือ่ .........................................................
(................................................)
………/……………/….….

ความคิดเห็นหัวหนา้ แผนกวชิ า
…………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………

ลงชื่อ.........................................................
(..............................................)
………/……………/….….

ความคิดเหน็ รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………

ลงช่ือ.........................................................
(............................................)
………/……………/….….

แผนการสอน หน่วยท่ี 2
ชือ่ วิชา ความรู้เก่ียวกับงานอาชีพ สอนครั้งที่ 3-4
ชอื่ หนว่ ย หลักการปฏิบัตติ นในงานอาชพี ชัว่ โมงรวม 4
ชอ่ื เร่อื งหรอื ชื่อหนว่ ย หลักการปฏบิ ตั ติ นในงาน จานวนชว่ั โมง 4
อาชีพ

สาระการเรียนรู้
1. แรงบันดาลใจในการประกอบอาชพี
2. คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชพี
3. ทกั ษะทจ่ี าเปน็ ต่อการประกอบอาชพี
4. การพฒั นาตนเองในงานอาชพี
5. หลักการปฏิบตั ิตนในงานอาชีพ
6. ปัจจัยที่สง่ เสริมให้เกดิ ความสาเรจ็ ในงานอาชีพ

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกแรงบันดาลใจในการประกอบอาชพี ได้
2. บอกคุณสมบตั ขิ องผูป้ ระกอบอาชีพได้
3. อธิบายทกั ษะท่จี าเป็นต่อการประกอบอาชีพ
4. บอกประโยชน์ในการพฒั นาตนเองในงานอาชีพได้
5. บอกการพัฒนาตนเองในงานอาชีพได้
6. นาหลกั การปฏิบตั ิตนในงานอาชีพประยกุ ต์ใช้ได้
7. บอกปัจจยั ท่ีสง่ เสริมใหเ้ กดิ ความสาเร็จในงานอาชีพได้

สาระสาคญั
ปัจจุบนั ยคุ สมัยได้เข้าสู่โลกแหง่ การพฒั นาท้ังทางดา้ นเทคโนโลยแี ละดา้ นทรพั ยากรมนุษย์ทีม่ ี

การแข่งขันกนั ตลอดเวลา ซงึ่ เป้าหมายของบุคคลเปน็ ส่ิงสาคญั เพราะแตล่ ะบุคคลมเี ปา้ หมายในการดาเนนิ ชวี ิต
แตกตา่ งกัน ถ้าบคุ คลมีกระบวนการคิด มคี วามม่งุ มน่ั มวี สิ ัยทัศนท์ ีก่ วา้ งไกลและแรงจูงใจเชิงบวกเกี่ยวกบั การ
ปฏิบตั ิตนในการทางานแล้ว ย่อมส่งผลใหเ้ กิดความสาเรจ็ ในการประกอบอาชีพนน้ั ๆ

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

ข้ันตอนการสอนหรือกจิ กรรมของครู ขนั้ ตอนการเรียนหรอื กิจกรรมของนักเรยี น

ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน

1. ครูยกตัวอยา่ งการสร้างแรงบนั ดาลใจในการ 1. ตอบคาถาม

ประกอบออาชพี ของบคุ คลที่มชี อ่ื เสียงและประสบ 2. ร่วมแสดงความคิดเหน็ เพื่อวิเคราะห์

ความสาเร็จในอาชีพต่าง ๆ เพ่อื เปน็ แรงจงู ใจในการ สถานการณ์ที่ครยู กตวั อยา่ ง

ประกอบอาชพี ของนักเรียน

2. ครูแนะนาเนอ้ื หา และแจ้งผลการเรยี นทีค่ าดหวงั

ของหนว่ ยท่ี 2 เร่อื งหลักการปฏิบัติตนในการประกอบ

อาชีพ

3. โดยนาประเด็นคาถามให้นกั เรยี นร่วมแสดงความ

คิดเห็นในการประกอบอาชพี ตา่ ง ๆ หรอื อาชพี ที่นักเรียน

อยากจะทาในอนาคต 1. ศึกษาเน้อื หาจากเอกสารประกอบ

ขั้นดาเนินการสอน การเรียน
1. บรรยายเน้อื หา หนว่ ยท่ี 2 เร่ืองหลกั การปฏบิ ตั ิ 2. สง่ งานเพ่ือตรวจตามกาหนด
3. มีพัฒนาการแต่งกายเรียบร้อยถูกต้องตาม
ตนในการประกอบอาชีพ ระเบียบของสานศึกษา และคณุ ธรรมดา้ นอ่ืน ๆ
2. ครสู อนเสริมคุณธรรม จรยิ ธรรม เพื่อเสริมสรา้ ง เช่น ความมีวนิ ัย ความรบั ผิดชอบ ความ
ซอ่ื สัตย์สจุ ริต และความตรงต่อเวลา เป็น
คุณลักษณะด้านความมรี ะเบยี บวนิ ัย ต้น
3. ใหท้ าแบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 2 เรือ่ งหลกั การปฏิบตั ิ

ตนในการประกอบอาชพี

ขัน้ สรปุ การเรยี นการสอน 1. ร่วมสรุปเนอ้ื หาโดยตอบขอ้ ซกั ถามตามหัวข้อ
1. สรปุ สาระสาคัญโดยการซักถามนักเรียน ทีค่ รูกาหนด
2. มอบหมายงานเพ่อื จดั ทากิจกรรมกล่มุ จาก
2. นาเสนอผลงานจากกจิ กรรมเสริมทกั ษะ
กิจกรรมเสริมทกั ษะการจัดประสบการณเ์ รยี นรทู้ ี่ 2 ท่ี 2 ทคี่ รมู อบหมาย
3. ประเมนิ การเรยี นรูห้ ลงั เรียน หนว่ ยที่ 2 เรื่อง
3. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยท่ี
หลักการปฏิบตั ติ นในการประกอบอาชีพ 2 เร่อื งหลกั การปฏิบัติตนในการประกอบอาชีพ

งานที่มอบหมายหรอื กิจกรรม
ก่อนเรยี น
1. ครูยกตวั อย่างการสร้างแรงบนั ดาลใจในการประกอบออาชีพของบุคคลท่มี ีชอ่ื เสียงและประสบ

ความสาเร็จในอาชพี ต่าง ๆ เพอ่ื เป็นแรงจูงใจในการประกอบอาชีพของนักเรยี น
2. ครูแนะนาเนือ้ หา และแจ้งผลการเรียนทค่ี าดหวังของหนว่ ยท่ี 2 เร่ืองหลักการปฏิบัติตนในการ

ประกอบอาชีพ
3. โดยนาประเดน็ คาถามใหน้ กั เรยี นร่วมแสดงความคดิ เห็นในการประกอบอาชีพต่าง ๆ หรืออาชพี ท่ี

นักเรยี นอยากจะทาในอนาคต
ขณะเรียน
1. บรรยายเน้ือหา หนว่ ยท่ี 2 เร่อื งหลกั การปฏบิ ัติตนในการประกอบอาชีพ
2. ครสู อนเสรมิ คุณธรรม จริยธรรม เพ่อื เสรมิ สรา้ งคณุ ลกั ษณะดา้ นความมีระเบยี บวินัย
3. ใหท้ าแบบฝกึ หัดหนว่ ยท่ี 2 เรอ่ื งหลกั การปฏิบัตติ นในการประกอบอาชีพ

สอื่ การเรียนการสอน และนวัตกรรม
1. เอกสารประกอบการสอนวิชา ความรู้เกย่ี วกบั งานอาชีพ (2001-1001)
2. สื่อนาเสนอ Power Point เครื่องคอมพวิ เตอร์ และเครือ่ งฉายภาพโปรเจคเตอร์
3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรูก้ ่อนและหลงั เรยี น
4. แบบฝึกหัด หนว่ ยที่ 3 เรอื่ ง ความรูเ้ กีย่ วกับการประกอบการ
5. กจิ กรรมเสริมทักษะการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2 เร่ืองหลักการปฏิบัตติ นในการประกอบอาชีพการ

ประเมินผล
ก่อนเรยี น 1. การประเมนิ พฤติกรรมจติ พสิ ยั ฯ รายบุคคล และการเช็คการเข้าเรยี นของนกั ศึกษาลง

ในสมุดบันทึกเวลาเรียนและประเมนิ ผลการเรียน
2. การประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น เกณฑผ์ า่ น 50% ข้ึนไป

ขณะเรียน 1. การสังเกตและประเมินดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคุณลกั ษณะอันพงึ
ประสงค์

2. การประเมนิ ผลจากการตรวจแบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 2 เร่อื งหลักการปฏิบัติตนในการ
ประกอบอาชพี

หลังเรยี น 1. ประเมนิ ผลการเรียนรู้หลงั เรียน เกณฑ์ผา่ น 50% ข้ึนไป
บันทึกหลงั การสอน

ผลการใช้แผนการสอน นกั เรียนมีความเขา้ ใจ เนอ้ื หาหน่วยท่ี 2 เรอื่ งหลกั การปฏิบัตติ นใน
การประกอบอาชพี จากการนาเข้าสู่บทเรียนของครผู ู้สอนโดยการสอบถามจากผ้เู รียนหรอื จากการประเมินผล
การเรยี นรู้

ผลการเรยี นของนักเรียน นกั เรยี นมคี วามเข้าใจการจดั ประสบการณเ์ รียนรู้ของครผู ูส้ อน

ผลการสอนของครู ประสิทธิภาพในการสอนของครไู ดผ้ ลดี โดยวัดจากการซักถาม สาระสาคัญโดย
สรุปและนกั เรียนสว่ นใหญต่ อบคาถามได้ และการประเมนิ ผลการเรียนรู้

แบบแบบฝึกหัด
หน่วยท่ี 2 เรอื่ งหลกั การปฏบิ ัตติ นในการประกอบอาชพี
คาส่ัง จงตอบคาถามตอ่ ไปนีใ้ หส้ มบรู ณ์
1. แรงบนั ดาลใจหมายถึงอะไร
ตอบ แรงบันดาลใจ (Inspiration) หมายถึง พลงั อานาจในตนเองชนิดหนง่ึ ท่ใี ชใ้ นการขับเคลอื่ นการคดิ และการ
กระทาใด ๆ ที่พึงประสงค์ เพอ่ื ให้บรรลผุ ลสาเร็จไดต้ ามตอ้ งการ
2. แรงบนั ดาลใจจากสถานการณ์มีลกั ษณะอย่างไร
ตอบ เป็นสถานการณท์ างครอบครวั ความขัดแยง้ ความกดดัน ในด้านตา่ ง ๆ จะสง่ ผลให้สรา้ งแรงกดดนั ให้เกดิ
การเอาตัวรอด ความมุ่งมั่นทจี่ ะปรบั เปลยี่ นวิถชี ีวิต มคี วามเชื่อมน่ั ในตนเองเพอื่ ให้เกิดความมงุ่ ม่ันความ
พยายามในการประกอบอาชพี ให้ประสบความสาเรจ็
3. คุณสมบัติที่จาเปน็ ในการประกอบอาชพี ประกอบด้วยอะไรบา้ ง
ตอบ มคี ณุ วุฒกิ ารศึกษา มีมนุษยสัมพันธ์ มคี วามเปน็ ผนู้ า มคี วามรบั ผิดชอบ มีความขยนั มีความ
ซื่อสัตย์ มีความอดทน มีสุขภาพแข็งแรง มีสติและความพรอ้ ม และมกี ารพัฒนาศกั ยภาพภายในของตนเอง
อย่างสม่าเสมอ
4. ทกั ษะของกระบวนการทางานรว่ มกบั ผู้อ่นื หมายถึงอะไร ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ ทกั ษะกระบวนการทางานรว่ มกบั ผ้อู ่นื หมายถึง ทางานเปน็ กลุ่ม สามารถทางานรว่ มกบั ผ้อู ื่นได้อย่าง
มคี วามสุข โดยปราศจากความขดั แยง้ ดังน้ี
1. รู้จกั บทบาทหน้าท่ภี ายในกลมุ่ การทางานร่วมกันน้ัน ผู้ประกอบอาชพี ควรร้จู กั บทบาท
หน้าทที่ ี่ตนเองตอ้ งรับผิดชอบ ฝกึ ความเปน็ ผนู้ า ผตู้ าม โดยหมุนเวยี นสับเปล่ียนบทบาทหนา้ ท่ีกนั ไปตามความ
เหมาะสม
2. มีทักษะในการฟัง การพูด การแสดงความคิดเห็น และการอภิปรายในกลมุ่
เมอื่ ทางาน รว่ มกับบคุ ลอนื่ ควรฝกึ ฝนท่ีจะเป็นผู้ฟงั ทดี่ ยี อมรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ ่ืน ควรฝกึ ทักษะการพูด
ใหพ้ ูดจาสภุ าพ รู้จักโน้มนา้ ว ชักจงู จิตใจ รกั ษาน้าใจเพอ่ื นร่วมงาน
3. มคี ุณธรรมในการทางานร่วมกนั เปน็ การทางานและอยรู่ ว่ มกันในสงั คมได้
อยา่ งมคี วามสุข ไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ความขัดแย้ง คณุ ธรรมท่สี าคญั ทค่ี วรฝึกฝนได้แก่ ความรบั ผดิ ชอบในการทางาน
และหน้าท่ีของตนเอง มีความเอ้ือเฟ้ือเผื่อแผ่แก่เพอ่ื นร่วมงานและการไมเ่ อาเปรยี บผ้อู ่ืน

4. สรปุ ผลโดยการจัดทารายงานเสนอตอ่ ผบู้ ังคับบญั ชา ใหเ้ ป็นรปู ธรรมเพื่อ
เป็นการนาข้อมูลไปพฒั นาหรอื แก้ไขการปฏิบัตงิ านในอนาคต

5. นาเสนอรายงาน เมื่อมกี ารจดั ทาสรปุ รายงานการปฏบิ ัติงานแล้วควรมกี าร
นาเสนอรายงานและการจดั เก็บอยา่ งเป็นระบบ เช่น การจัดทาระบบฐานขอ้ มลู ออนไลน์เพ่ือเผยแพร่ทาง
เว็บไซต์ เป็นต้น
5. ทกั ษะการจัดการในด้านการจัดระบบคนมีลักษณะอยา่ งไร
ตอบ ทักษะการจดั การ หมายถงึ ความสามารถของบคุ คลหนึ่งที่สามารถจะจดั ระบบงาน และระบบของตน
ใหท้ างานให้สาเรจ็ ตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธภิ าพ ซึง่ ครอบคลมุ ต้ังแต่ขั้นตอนการวางแผนงานการจดั
องค์กร การจดั หาคน การแบ่งหนา้ ท่ปี ฏบิ ัติงาน การควบคุมการปฏิบัตงิ านให้เป็นไปตามทกี่ าหนด ไปจนถึงการ
ตดิ ตามและประเมนิ ผล ทักษะการจดั การแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 กลุ่ม ดงั น้ี

1. การจัดการระบบงาน (การทางานเดยี่ ว) โดยสามารถจัดสรรเวลาการทางานให้เป็น
ระบบ ปฏบิ ตั งิ านตามกฎระเบียบแบบแผน และข้นั ตอนต่างๆ รวมไปถึงการเป็นผูท้ ม่ี องทางไกล ฉลาด มไี หว
พรบิ รอบรู้ ทันคน ทันเหตกุ ารณ์ มีความคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ และความกระตอื รือร้นในการแสวงหาข้อเทจ็ จริง
มีความมุมานะที่จะปฏิบัติงานใหส้ าเร็จตามเปา้ หมาย รจู้ กั ปรับตวั ให้เขา้ กบั สภาพแวดลอ้ มที่แปลกใหม่อยู่เสมอ

2. การจดั การระบบคน (การทางานกลมุ่ ) โดยมคี วามสามารถในการคัดเลอื กคนเขา้
ทางานแบ่งปนั จดั สรรคนให้เหมาะสมกับงาน มีความสามารถในการสรา้ งบรรยากาศในการทางานสามารถชกั
จงู เพอ่ื นรว่ มงานใหม้ ีเป้าหมายเดยี วกัน ร่วมมือ รว่ มใจกันทางานจนสาเรจ็ รวมถึงการเป็นคนท่มี ีมนษุ ย-
สัมพันธ์ มีความขยนั อดทน ซื่อสัตย์และยตุ ิธรรม เพื่อใหเ้ พือ่ นรว่ มงานเกิดความพอใจ และเสมอภาค ยินดีที่จะ
ทางานด้วยความเต็มใจ
6. การพฒั นาตนเองในงานอาชีพหมายถงึ อะไร
ตอบ การพัฒนาตนเองในงานอาชพี หมายถงึ การพัฒนาความรู้ ความสามารถของตนเองใหด้ ีขนึ้ ทั้งร่างกาย
จิตใจ อารมณ์ และสังคม เพ่อื ให้เปน็ สมาชกิ ที่มปี ระสทิ ธิภาพของสงั คมและเปน็ ประโยชน์ต่อผู้อน่ื ตลอดจน
เพอ่ื การดารงชวี ิตของตนเองอยา่ งมคี วามสขุ
7. จงอธบิ ายวิธีการพฒั นาตนเองในงานอาชพี

7.1 การฝึกตนเอง หมายถึง การฝกึ ตนเองให้กระทาความดีท้ังทางกาย วาจา และใจ ซึง่ ถอื วา่
เปน็ ผพู้ ฒั นาตนเอง ไม่ก่อให้เกิดความเดอื ดร้อนต่อตนเอง

7.2 การฝึกสารวจตนเอง หมายถึง การรบั รู้สภาพการดารงชีวิตที่เปน็ อยูใ่ นปัจจุบัน ว่าอยู่ใน
สภาวะที่กาลังเผชิญปญั หาอย่หู รอื ไม่ เช่น มีความลาบากกาย ลาบากใจ มคี วามสับสนว่นุ วายใจ หรอื ภาวะ
เครยี ด หรือความจาเปน็ ดา้ นใดบา้ ง การพจิ ารณาสภาพปญั หา หรอื ความต้องการของตนมปี ระโยชน์ตอ่ การ
กาหนดลกั ษณะปญั หาหรือพฤติกรรมเป้าหมายในการพัฒนาตนต่อไป การรับรู้สภาวะแห่งตนในดา้ นต่าง ๆ
จาเป็นตอ้ งมีความถกู ต้องชัดเจน ซง่ึ ไดจ้ ากการประเมินตนเองด้านต่าง ๆ

7.3 การแสวงหาความรู้ หมายถึง ความปรารถนาทจ่ี ะพฒั นาชีวติ และความเปน็ อยู่ของตนใหด้ ี
ยิ่งขน้ึ ด้วยเหตนุ ม้ี นุษย์จึงพยายามเสาะแสวงหาความรคู้ วามจริงตา่ ง ๆ อยเู่ สมอ เมอ่ื พบเห็นสง่ิ ใดหรอื เกดิ

ความสงสัยขน้ึ มาก็พยายามศกึ ษาหาความรคู้ วามจริงในสงิ่ น้นั
8. หลกั การปฏิบตั ิตนในงานอาชพี มหี ลกั การสาคญั กป่ี ระการ อะไรบ้าง
ตอบ การปฏิบตั ติ นในงานอาชพี มหี ลกั การสาคัญอยู่ 2 ประการ ดงั นี้

1. เปน็ คนเกง่ ได้แก่ เกง่ ตน เก่งคน เก่งงงานและเก่งดาเนนิ ชีวิต
2. เปน็ คนดี หมายถงึ มีวนิ ัย มคี วามรับผิดชอบต่อตนเองและองค์กร มีทัศนคติท่ีดีในการทางาน มี

ความมงุ่ ม่ันตง้ั ใจ คดิ หาแนวทางใหม่ ๆ ในการทางาน ตลอดจนมีนา้ ใจ มคี วามซอ่ื สัตยจ์ งรักภกั ดี
และมีคณุ ธรรม

กจิ กรรมเสรมิ ทักษะหนว่ ยท่ี 2 เรือ่ งหลักการปฏิบัติตนในการประกอบอาชพี
กิจกรรมที่ 2 ข้อคดิ หรือหลกั การปฏบิ ตั ติ นในการอาชพี ของผปู้ ระสบความสาเร็จใน

แต่ละอาชีพ
วตั ถุประสงค์ เพอื่ ให้นกั เรียนทราบข้อคิดหรือหลักการปฏิบตั ิตนในการอาชพี ของผูป้ ระสบความสาเรจ็ ใน

แต่ละอาชีพ
กจิ กรรม/วิธกี าร ใหน้ กั เรียนคน้ ควา้ ขอ้ คิดหรือหลักการปฏบิ ตั ิตนในงานอาชีพของผปู้ ระสบความสาเรจ็ ใน
แตล่ ะอาชพี จานวน 10 คน ดังตัวอยา่ ง

ภาพผปู้ ระกอบอาชพี
ชอื่ ผูป้ ระกอบอาชพี
อาชพี
ข้อคดิ หรอื หลักหลกั การปฏบิ ัตติ นในงานอาชพี
ตัวอยา่ ง

ชือ่ ผู้ประกอบอาชพี อดุ ม แตพ้ าณิช
อาชพี นักพูด นักแสดง นกั เขยี น พิธกี ร
ขอ้ คดิ หรอื หลักหลกั การปฏบิ ตั ิตนในงานอาชพี
“เรียนสูงแคไ่ หนไม่ใชป่ ระเด็น ทางานใหเ้ ป็นประเดน็ สาคัญ”

การประเมนิ ผลโดยครูใชเ้ กณฑ์การประเมนิ ดังนี้

รายการประเมิน ดีมาก ดี ปานกลาง ปรับปรงุ

1. เนือ้ หาถกู ต้องครบถว้ นสมบูรณ์

2. มีความรู้ความเข้าใจในกจิ กรรม

3. สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ได้

4. การส่งงานตรงต่อเวลาทก่ี าหนด

แบบทดสอบกอ่ นเรียน
หนว่ ยท่ี 2 เรอ่ื งหลักการปฏิบตั ิตนในการประกอบอาชพี
คาสง่ั ใหน้ ักเรยี นทาเครือ่ งหมายกากบาท ( ) ข้อท่ถี กู ต้องทส่ี ุดเพียงขอ้ เดยี ว
1. แรงบนั ดาลใจหมายถึงข้อใด
ก. พลังอานาจทีม่ อี ยใู่ นตนเอง ข. ผลของความสาเรจ็
ค. ความคดิ ง. การกระทา
2. “ปตท. หรอื การปิโตรเลยี มแหง่ ประเทศไทย” เป็นแรงบนั ดาลใจในการประกอบอาชีพด้านใด
ก. ครอบครัว ข. ตนเอง
ค. สถานการณ์ ง. องคก์ ร
3. คณุ สมบตั ิท่ีสาคัญของการประกอบอาชพี คือข้อใด
ก. ประหยัด ข. ขยัน
ค. ซอ่ื สัตย์ ง. ความถนดั
4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่คุณสมบัติที่จาเปน็ ตอ่ การประกอบอาชีพ
ก. มนุษยสมั พันธ์ ข. คณุ วุฒิการศกึ ษา
ค. ความรบั ผดิ ชอบ ง. ฐานะ
5. “บอกคนได้ ใชค้ นเปน็ ” เปน็ คณุ สมบัติทจ่ี าเป็นต่อการประกอบอาชพี ขอ้ ใด
ก. สตแิ ละความพร้อม ข. ความเป็นผ้นู า
ค. ความขยัน ง. ความอดทน
6. การคน้ ควา้ หาความรู้ และสามารถสรา้ งความรู้ใหมเ่ พมิ่ เตมิ ได้อาจจะมาจากการคิด การศึกษา การ
ทดลอง การค้นคว้า หรอื ปฏิบตั ิด้วยตนเองลกั ษณะดังกล่าวเปน็ ทักษะด้านใด
ก. ทักษะกระบวนการทางานร่วมกับผู้อน่ื ข. ทกั ษะกระบวนการทางาน
ค. ทกั ษะการจดั การ ง. ทักษะการแสวงหาความรู้
7. ผทู้ ่มี องทางไกล ฉลาด มไี หวพรบิ รอบรู้ ทนั คน ทนั เหตุการณ์ มีความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์ และความ
กระตอื รอื ร้นเป็นทกั ษะในการจัดการด้านใด
ก. จัดระบบคน ข. จัดระบบองคก์ ร
ค. จดั ระบบงาน ง. จัดระบบตนเอง
8. ข้อใดข้นั ตอนสุดทา้ ยของทักษะการทางานรว่ มกับผู้อืน่
ก. นาเสนอรายงาน ข. ทกั ษะในการฟัง การพดู
ค. มีคณุ ธรรมในการทางานร่วมกัน ง. รจู้ ักบทบาทหนา้ ทภี่ ายในกลุ่ม
9. ข้อใดเป็นการมีทักษะชวี ติ ที่ดแี ละมกี ารทางานอย่างมีความสุข
ก. บีมีความเป็นผูน้ าและมคี วามรับผิดชอบในงานทท่ี าเปน็ อยา่ งดี
ข. เอมกั จะยดึ ตนเองเปน็ หลกั และไมม่ คี วามยดื หยุ่นในการทางาน
ค. ดีชอบตาหนิเพื่อนรว่ มงานและไมค่ อ่ ยใหค้ วามรว่ มมือในการทางาน

ง. ซีทางานรวดเรว็ แตข่ าดความละเอยี ดรอบคอบ
10. ขอ้ ใดคอื ความหมายของการพฒั นาตนเอง

ก. การหาวธิ พี ฒั นาการดาเนินชวี ิตใหบ้ รรลุเปา้ หมายที่กาหนดไว้
ข. การกาหนดวัตถปุ ระสงคห์ รอื เปา้ หมายของชวี ติ
ค. การพฒั นาตนเองเป็นทง้ั ศาสตรแ์ ละศิลป์
ง. การแกไ้ ขดดั แปลงเพื่อให้เกิดการพัฒนาตนเอง
11. ข้อใดไม่ใช่สาเหตสุ าคญั ที่ตอ้ งพฒั นาตนเอง
ก. เพ่ือพร้อมในการปรับตวั
ข. เพื่อที่จะรู้จกั ในจุดอ่อนและจุดแข็งของตนเอง
ค. การเปลี่ยนแปลงตาแหน่งหน้าท่กี ารงาน
ง. การเปลยี่ นผู้บริหารองคก์ ร
12. คนเรายอ่ มมคี วามผิดพลาด หรอื ข้อบกพรอ่ งที่แตกตา่ งกันออกไป การกลา้ ที่จะยอมรบั แลว้ ปรับปรงุ
ขอ้ บกพรอ่ งหรอื ความผดิ ตา่ ง ๆ เหลา่ นน้ั เป็นการพัฒนาตนเองขอ้ ใด
ก. มคี วามรับผิดชอบในการทางาน ข. รจู้ กั คดิ และพฒั นาอุปนิสัย
ค. เปน็ คนกลา้ ยอมรับความจริง ง. มีความเชอ่ื ม่นั ในตนเอง
13. ข้อใดคอื ประโยชน์ของการพฒั นาตนเองในงานอาชพี
ก. ชว่ ยให้เกิดการยอมรบั นบั ถอื ในสงั คมวิชาชพี
ข. ช่วยเพ่มิ พูนความรู้ความสามารถและเกิด
ค. ช่วยใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพในการทางานความเช่ือมั่นในตนเอง
ง. ถูกทกุ ข้อ
14. ข้อใดมีความสอดคล้องกนั มากท่ีสดุ
ก. ความมีเหตุผล–การรจู้ กั ใชส้ ติปัญญา
ข. ความรับผดิ ชอบ–ความพยายามอย่างย่งิ ยวด
ค. ความมรี ะเบยี บวินยั –การประพฤติตนอยา่ งตรงไปตรงมา
ง. ความประหยดั –การลดละความเห็นแกต่ วั
15. ขอ้ ใดเป็นคุณสมบตั ิของผปู้ ระกอบอาชีพท่ีประสบความสาเรจ็
ก. เปน็ นกั บรหิ ารนกั จัดการ ข. มคี วามเป็นผูน้ า
ค. เป็นนักแสวงหาโอกาส ง. เปน็ ผมู้ มี นุษยสัมพนั ธ์ท่ดี ี

การประเมนิ การใช้แผนการสอน

รายการประเมนิ ระดับความเหมาะสม ขอ้ เสนอแนะ
4321

1. เวลาทใ่ี ชส้ อน

2. จุดประสงค์การเรียนรู้

3. สาระการเรียนรู้

4. กระบวนการเรียนรู้

5. การใช้สอื่ การเรียนการสอน

6. การวดั ผลประเมินผล

7. ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนรู้

8. การประเมินดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม

9. ความสนใจของนกั เรยี น

10. ความพอใจของผสู้ อน

รวม

ความคิดเห็นครผู ้สู อน
…………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………

ลงชอ่ื .........................................................
(................................................)
………/……………/….….

ความคิดเห็นหวั หนา้ แผนกวชิ า
…………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………

ลงชื่อ………………………………………………..
(..............................................)
………/……………/….….

ความคิดเหน็ รองผอู้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ
………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………

ลงช่ือ ………………………………………….
(............................................)
………/……………/….….

แผนการสอน หน่วยท่ี 3
ชอ่ื วชิ า ความรูเ้ กย่ี วกับงานอาชพี สอนคร้งั ที่ 5-6
ชอ่ื หน่วย ความรเู้ ก่ยี วกับการประกอบการ ชั่วโมงรวม 4
ชื่อเรอ่ื งหรือชื่อหนว่ ย ความรเู้ กี่ยวกบั การ จานวนช่ัวโมง 4
ประกอบการ

สาระการเรียนรู้
1. ความรเู้ บ้อื งต้นเกย่ี วกบั ธุรกจิ
2. การเป็นผ้ปู ระกอบการ
3. รูปแบบของการประกอบการ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. บอกความหมายและความสาคัญของธรุ กิจได้
2. บอกวตั ถปุ ระสงค์ของการประกอบธรุ กิจได้
4. จาแนกประเภทของธรุ กิจได้
5. บอกหนา้ ทขี่ องธุรกิจได้
6. บอกปัจจยั ในการดาเนินธุรกิจได้
7. จาแนกสภาพแวดลอ้ มทางธรุ กิจได้
8. บอกความหมายของผปู้ ระกอบการได้
9. บอกแนวคดิ ในการดาเนินธรุ กจิ ของผูป้ ระกอบการได้
10. บอกคณุ ลกั ษณะของผู้ประกอบการได้
11. บอกบทบาทและความรบั ผดิ ชอบของผปู้ ระกอบการได้
12. บอกโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการได้
13. อธบิ ายลักษณะของกิจการเจา้ ของคนเดียวและห้างหนุ้ สว่ นได้
14. อธิบายลักษณะและเปรียบเทยี บขอ้ แตกตา่ งของบรษิ ทั จากดั และบรษิ ทั มหาชนจากัดได้
15. อธิบายลักษณะสาคญั ของธุรกิจแฟรนไชสไ์ ด้

สาระสาคญั
การประกอบการตา่ ง ๆ ในปัจจุบนั ผปู้ ระกอบการน้นั นับเปน็ บคุ คลทมี่ ีความสาคญั ต่อผลสาเรจ็

ของธุรกิจเป็นอยา่ งมาก เน่อื งจากผ้ปู ระกอบการคอื ผู้ทกี่ อ่ ตัง้ ธรุ กิจขน้ึ มาเปน็ ของตนเอง มีการลงทนุ และ
รบั ผดิ ชอบธรุ กจิ ในการดาเนนิ ธรุ กจิ ทุกอย่าง ดังนั้นผู้ประกอบการจงึ จะตอ้ งเปน็ ผมู้ ีแนวคิดที่ดีในการประกอบ
ธรุ กิจ มีคณุ ลกั ษณะและทกั ษะความรเู้ ก่ียวกับการเปน็ ผปู้ ระกอบการ รู้บทบาทและความรับผดิ ชอบในการเป็น
ผู้ประการ มีจรรยาบรรณของการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ ขณะเดยี วกันตอ้ งศึกษาองค์ประกอบอนั เปน็ โอกาสแหง่
ความสาเรจ็ ต่าง ๆ รวมถงึ การมีปรัชญาการดาเนินธุรกิจทใี่ ช้เปน็ หลกั ยดึ ในการดาเนินธุรกจิ เพือ่ ให้
ผ้ปู ระกอบการสามารถแก้ไขปญั หาและนาพาธุรกิจใหอ้ ยรู่ อดพรอ้ มสรา้ งความเจริญเติบโตแก่ธรุ กิจน่ันเอง

กิจกรรมการเรียนการสอน

ขนั้ ตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ข้นั ตอนการเรยี นหรือกจิ กรรมของนกั เรยี น

ข้ันนาเข้าส่บู ทเรียน

1. ครยู กตวั อยา่ งการประกอบการธรุ กจิ ใน 1. ตอบคาถาม

ชีวิตประจาวนั หรือ เพือ่ ให้นักเรยี นเปรยี บเทยี บวิธีการและ 2. ร่วมแสดงความคดิ เหน็ เพื่อวเิ คราะห์

ตอบคาถามเกีย่ วกบั ความรู้เบอื้ งตน้ เกี่ยวกับการธรุ กจิ สถานการณท์ ่ีครูยกตัวอยา่ ง

2. ครแู นะนาเนอ้ื หา และแจง้ ผลการเรยี นที่

คาดหวงั ของหน่วยท่ี 3 เรอ่ื ง ความรเู้ กี่ยวกับการ

ประกอบการ

3. โดยนาประเด็นคาถามใหน้ กั เรียนร่วมแสดง

ความคดิ เห็นในการประกอบธรุ กิจตา่ ง ๆ

ขั้นดาเนินการสอน 1. ศึกษาเนือ้ หาจากเอกสารประกอบ
1. บรรยายเน้ือหา หน่วยท่ี 3 เรอื่ ง ความรู้ การเรยี น
2. สง่ งานเพ่อื ตรวจตามกาหนด
เกี่ยวกบั การประกอบการ 3. มพี ฒั นาการแตง่ กายเรียบร้อยถูกตอ้ งตาม
2. ครสู อนเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพอ่ื เสรมิ สรา้ ง ระเบยี บของสานศกึ ษา และคณุ ธรรมด้านอ่นื ๆ
เช่น ความมวี นิ ยั ความรับผิดชอบ ความ
คณุ ลกั ษณะด้านความมีระเบียบวินยั ซอ่ื สัตย์สุจริต และความตรงตอ่ เวลา เป็น
3. ใหท้ าแบบฝึกหัดหน่วยที่ 3 เร่ือง ความรู้

เบือ้ งต้นเกีย่ วกับงานอาชีพ

ตน้

ขั้นสรุปการเรียนการสอน 1. ร่วมสรุปเนอ้ื หาโดยตอบข้อซกั ถามตาม
1. สรุปสาระสาคัญโดยการซกั ถามนักเรยี น หวั ขอ้ ที่ครูกาหนด
2. มอบหมายงานเพ่ือจดั ทากิจกรรมกลมุ่ จาก
2. นาเสนอผลงานจากกจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะที่
กิจกรรมเสริมทกั ษะการจดั ประสบการณ์เรยี นรู้ที่ 3.1 3.1, 3.2 และ 3.3 ทค่ี รูมอบหมาย
3. มอบหมายงานเพ่อื จดั ทารายงานจากกจิ กรรม
3. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยท่ี
เสริมทักษะการจดั ประสบการณเ์ รยี นร้ทู ี่ 3.2 3 เรอื่ ง ความร้เู กีย่ วกับการประกอบการ
4. มอบหมายงานเพอื่ จดั ทารายงานจากกจิ กรรม

เสรมิ ทกั ษะการจดั ประสบการณ์เรียนรูท้ ี่ 3.3
5. ประเมินการเรียนรู้หลงั เรียน หนว่ ยที่ 3 เรื่อง

ความรู้เกย่ี วกับการประกอบการ

งานทีม่ อบหมายหรอื กจิ กรรม
กอ่ นเรยี น

1. ครยู กตวั อย่างการประกอบการธรุ กจิ ในชวี ติ ประจาวนั หรือ เพอ่ื ให้นกั เรยี นเปรยี บเทียบวิธกี ารและ
ตอบคาถามเก่ียวกับความรู้เบอื้ งตน้ เก่ยี วกบั การธุรกจิ

2. ครแู นะนาเนือ้ หา และแจ้งผลการเรียนทคี่ าดหวังของหน่วยท่ี 3 เร่อื ง ความร้เู กยี่ วกบั การ
ประกอบการ

3. โดยนาประเดน็ คาถามใหน้ ักเรยี นรว่ มแสดงความคิดเห็นในการประกอบธุรกจิ ตา่ ง ๆ
ขณะเรยี น

1. บรรยายเน้อื หา หนว่ ยที่ 3 เรื่อง ความร้เู กย่ี วกับการประกอบการ
2. ครสู อนเสริมคุณธรรม จรยิ ธรรม เพื่อเสรมิ สร้างคณุ ลักษณะด้านความมรี ะเบียบวนิ ยั
3. ให้ทาแบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 3 เรือ่ ง ความรูเ้ กย่ี วกับการประกอบการ
ส่อื การเรยี นการสอน และนวัตกรรม

1. เอกสารประกอบการสอนวิชา ความรเู้ กี่ยวกบั งานอาชพี (2001-1001)
2. ส่ือนาเสนอ Power Point เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ และเครือ่ งฉายภาพโปรเจคเตอร์
3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนและหลงั เรียน
4. แบบฝึกหัด หน่วยท่ี 3 เรื่อง ความรูเ้ ก่ยี วกับการประกอบการ
5. กจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะการเรียนรู้ หน่วยท่ี 3 เร่อื ง ความร้เู ก่ียวกับการประกอบการ การ
ประเมินผล
ก่อนเรยี น 1. การประเมินพฤติกรรมจติ พสิ ัยฯ รายบุคคล และการเช็คการเข้าเรยี นของนกั ศึกษาลง
ในสมดุ บันทกึ เวลาเรียนและประเมินผลการเรยี น

2. การประเมนิ ผลก่อนเรยี น เกณฑผ์ ่าน 50% ขน้ึ ไป
ขณะเรียน 1. การสังเกตและประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มและคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์

2. การประเมนิ ผลจากการตรวจแบบฝึกหัด หนว่ ยที่ 3 เรื่อง ความรูเ้ กยี่ วกับการ
ประกอบการ

หลงั เรยี น 1. ประเมนิ ผลการเรียนร้หู ลังเรียน เกณฑ์ผา่ น 50% ขนึ้ ไป
บนั ทึกหลังการสอน

ผลการใช้แผนการสอน นกั เรยี นมีความเข้าใจ เนือ้ หาหนว่ ยท่ี 3 เรื่อง ความรเู้ ก่ียวกบั การ
ประกอบการ จากการนาเข้าสู่บทเรียนของครูผูส้ อนโดยการสอบถามจากผู้เรียนหรอื จากการประเมินผลการ
เรียนรู้

ผลการเรียนของนกั เรียน นกั เรยี นมคี วามเข้าใจการจัดประสบการณเ์ รยี นร้ขู องครผู ู้สอน
ผลการสอนของครู ประสิทธิภาพในการสอนของครูได้ผลดี โดยวดั จากการ
ซักถาม สาระสาคัญโดยสรุปและนักเรียนสว่ นใหญต่ อบคาถามได้ และการประเมนิ ผลการเรยี นรู้

แบบแบบฝกึ หัด
หนว่ ยท่ี 3 เรอื่ ง ความรเู้ กีย่ วกบั การประกอบการ
คาสั่ง จงตอบคาถามต่อไปนีใ้ ห้สมบูรณ์
1. ธรุ กจิ มีความหมายว่าอย่างไร
ตอบ ธุรกจิ หมายถงึ กิจกรรมที่ดาเนินการโดยบุคคลหรอื คณะบุคคลรว่ มกนั ผลิตสนิ ค้าหรือบริการ โดยมกี าร
ซอื้ ขายแลกเปลย่ี นสินค้าหรอื บริการ เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของผ้บู ริโภคและมจี ดุ ม่งุ หมายเพอื่ หวังผล
กาไร
2. ธรุ กจิ มีความสาคญั อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ ความสาคัญของธรุ กจิ มีดงั น้ี
1) ทาใหเ้ กิดการผลิตสินค้าหรือบรกิ าร เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์
และมีความจาเป็นตอ่ การดารงชีวิต
2) กอ่ ใหเ้ กิดกจิ กรรมการกระจายสนิ ค้าหรือบริการจากผ้ผู ลิตไปสู่ผู้บริโภค ทง้ั
ภายในประเทศและตา่ งประเทศ
3) ทาให้เกิดการลงทนุ และการจา้ งงาน เน่อื งจากในการลงทุนทางธรุ กิจทุก
กจิ กรรมจะตอ้ งอาศยั แรงงานทง้ั แรงกายและความคดิ
4) ทาใหเ้ กิดการพัฒนาทางเทคโนโลยใี หม่ ๆ ท่ที นั สมัย โดยผ้ผู ลติ จะต้องไม่
หยุดนงิ่ ทีจ่ ะปรับปรุงพัฒนาสินค้าหรอื บรกิ ารตลอดเวลา
5) ทาใหร้ ัฐมีรายได้จากการเก็บภาษีอากร การประกอบธุรกจิ มีรายได้ก็ยอ่ ม
จะต้องเสยี ภาษใี หร้ ฐั เพื่อทร่ี ฐั จะไดน้ าเงินภาษที ่ีจดั เกบ็ นน้ั มาจัดสรรเปน็ งบประมาณในการพฒั นาประเทศใน
ดา้ น
ตา่ ง ๆ
6) ชว่ ยพฒั นาเศรษฐกิจของชาติให้เจรญิ กา้ วหน้าได้ เพราะการผลิตสินค้าหรือ
บรกิ ารนอกจากเพือ่ จาหน่ายภายในประเทศแล้วยังสามารถสง่ ออกตา่ งประเทศ เพือ่ นาเงนิ รายได้มาชว่ ยพัฒนา
เศรษฐกิจของประเทศใหด้ ีข้ึน
3. ธุรกิจบรกิ ารมีอะไรบ้าง ยกตวั อย่างมา 5 ชนิด
ตอบ ร้านสปา ร้านเสริมสวย โรงภาพยนตร์ ร้านอินเทอรเ์ นต็ อูซ่ ่อมรถ ฯลฯ
4. ธุรกิจอุตสาหกรรมมีอะไรบา้ ง ยกตวั อยา่ งมา 5 ชนดิ
ตอบ โรงงานผลิตปยุ๋ เคมี โรงงานทอผ้า โรงงานผลติ ชิน้ ส่วนยานยนต์ โรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟา้ โรงงานผลติ
เครื่องแกว้ ฯลฯ
5. ธุรกจิ พาณชิ ยกรรมมีอะไรบ้าง ยกตวั อย่างมา 5 ชนิด
ตอบ ร้านค้าส่ง–ค้าปลกี รา้ นค้าทว่ั ไป หา้ งสรรพสนิ คา้ ร้านสะดวกซอ้ื ร้านขายยา ฯลฯ

6. ปจั จัยที่จาเปน็ ในการประกอบธุรกิจมอี ะไรบ้าง
ตอบ 1. คน (Man) หมายถึง แรงงาน พนกั งาน ผู้บรหิ าร ตลอดจนลกู ค้า ผูใ้ ช้หรือผู้บริโภค ซ่ึงถือไดว้ า่ เปน็
ปัจจัยที่สาคัญทีส่ ดุ ในการดาเนนิ ธรุ กิจ

2. เงิน (Money) หมายถงึ เงินทีใ่ ชใ้ นการลงทนุ ทาธรุ กิจ ซึ่งทม่ี าของแหล่งเงนิ น้นั ไดม้ า
จาก 2 คือ แหลง่ เงินทุนภายในจากทนุ ของเจ้าของและการระดมทนุ หรอื แหลง่ เงินทนุ ภายนอกจากการก้ยู มื
เปน็ ตน้

3. เครอ่ื งจักร (Machine) หมายถึง วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครื่องจกั รต่าง ๆ หรือสง่ิ
อานวยความสะดวกท่ีใช้ในกระบวนการผลติ

4. วตั ถดุ ิบ (Material) หมายถึง สิ่งทต่ี อ้ งนามาใชแ้ ปรรปู ให้เกดิ เปน็ สนิ คา้
5. การตลาด (Marketing) หมายถึง การกระทากจิ กรรมต่าง ๆ ทจ่ี ะนาสินคา้ หรอื
บริการจากผู้ผลิตไปสู่ผบู้ ริโภคหรอื ผ้ใู ช้ เพอื่ ใหเ้ กิดความพงึ พอใจและบรรลุวัตถปุ ระสงคข์ องกิจการ
6. การจัดการ (Management) หมายถงึ กระบวนการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่มี
ภายในองค์กรใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สุด เพอ่ื ให้บรรลุวัตถปุ ระสงคต์ ามเปา้ หมายทไี่ ด้กาหนดไว้
7. หน้าท่ีของธุรกิจประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง
ตอบ หนา้ ทที่ างการผลติ หน้าท่ีการจัดซื้อ หนา้ ที่ทางการตลาด หนา้ ท่ีทางการเงนิ หน้าท่ที างการบัญชี หน้าที่
ดา้ นการวจิ ยั และพัฒนา หน้าท่ดี า้ นการบริหารทรัพยากรบคุ คล หนา้ ท่ีในการจัดหาข้อมูลทางธุรกิจ
หนา้ ที่ในการประสานงาน
8. ผู้ประกอบการมีความหมายว่าอยา่ งไร
ตอบ ผ้ปู ระกอบการ (Entrepreneur) หมายถงึ ผทู้ ี่กอ่ ตงั้ ธรุ กิจข้นึ มาเป็นของตนเอง มีการลงทุนและ
รับผดิ ชอบในการดาเนินงานธุรกจิ ทกุ อย่างดว้ ยตนเอง เพ่อื มงุ่ หวงั ผลกาไรตอบแทนและยอมรบั ความ-เสยี่ งที่
อาจเกดิ ขน้ึ จากผลการดาเนนิ ธุรกิจน้นั
9. แนวคดิ ในการเปน็ ผู้ประกอบการประกอบดว้ ยอะไรบ้าง
ตอบ 1. ยึดม่นั หลกั การ “ลูกคา้ ” เปน็ ส่ิงสาคญั (Consumer Command)

2. สรา้ งตลาดเฉพาะ (Niche Market)
3. คัดเลอื กและพัฒนาสนิ คา้
4. สร้างมาตรฐานสินค้า
5. พฒั นาและวิจยั ผลิตภัณฑอ์ ย่างต่อเน่ือง
10. บทบาทและความรบั ผดิ ชอบของผปู้ ระกอบการต่อไปนี้คอื อะไร
10.1 บทบาทและความรบั ผดิ ชอบของผ้ปู ระกอบการที่มตี อ่ พนกั งาน
ตอบ บทบาทและความรบั ผิดชอบตอ่ พนักงาน ซง่ึ พนกั งานเป็นบุคคลทีม่ ีความสาคญั ยง่ิ ตอ่ องค์กร เน่ืองจาก
พนกั งานคอื ผทู้ ชี่ ว่ ยขับเคล่ือนให้องคก์ รไดร้ บั ความสาเรจ็ ในเป้าหมายที่วางไว้ องค์กรจะต้องใหค้ วามร้ใู นงาน มี
การอบรมพัฒนางานเพือ่ ใหเ้ กดิ ทกั ษะ สร้างความไว้เนื้อเช่อื ใจ ให้ความเป็นธรรม ใหโ้ อกาสและความเสมอภาค
เคารพสทิ ธิส่วนบคุ คล การมอบหมายงานหรอื หนา้ ที่ทตี่ รงกบั ความถนัด รวมไปถงึ ค่าจ้างและสวัสดิการต่าง ๆ

แก่พนักงานตามความเหมาะสมและเป็นธรรมเช่นกัน
10.2 บทบาทและความรับผิดชอบของผู้ประกอบการท่ีมีต่อหน่วยงานภาครฐั

ตอบ บทบาทและความรับผิดชอบท่ีมตี อ่ หนว่ ยงานของภาครัฐ ผู้ประกอบการควรให้ความรว่ มมือแก่
หนว่ ยงานของรัฐโดยการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบยี บ และกฎเกณฑ์ตา่ ง ๆ อย่างถกู ต้อง เช่น การจดั ทา
บัญชีและการเสยี ภาษอี ย่างถกู ต้องตรงไปตรงมา ไม่ใหส้ นิ บนหรอื อามสิ สนิ จ้างแกข่ า้ ราชการเพ่ือประโยชนท์ าง
ธุรกิจ สนับสนุนและใหค้ วามร่วมมือแกห่ น่วยงานรฐั ตามความเหมาะสม

10.3 บทบาทและความรับผดิ ชอบของผ้ปู ระกอบการท่ีมีตอ่ สังคม
ตอบ บทบาทและความรบั ผิดชอบท่ีมีตอ่ สังคม ผู้ประกอบการสามารถช่วยสงั คมไดโ้ ดยไม่ประกอบกิจการที่ทา
ให้สงั คมเสื่อมทงั้ ทางด้านจิตใจและดา้ นศีลธรรม การดแู ลรกั ษาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม เชน่ ไมต่ ดั
ไมท้ าลายป่า ไมป่ ล่อยควันพิษ นา้ เสีย การไมร่ กุ ล้าที่สาธารณะ ไม่ทาลายสิง่ แวดลอ้ มของชุมชน ให้ความ
ร่วมมือและส่งเสริมในดา้ นประเพณี วัฒนธรรม และกจิ กรรมชมุ ชน เพ่ือเปน็ การสรา้ งสมั พันธ์อันดีตอ่ กัน

11. กจิ การเจา้ ของคนเดียวมีความหมายว่าอยา่ งไร
ตอบ กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว คือ กิจการทม่ี ีผู้ลงทนุ และดาเนนิ งานแต่เพียงผ้เู ดยี ว รับผิดชอบในกิจการ
ท้ังหมดรวมทัง้ ผลกาไรและขาดทนุ แตเ่ พียงผเู้ ดยี วเช่นกนั
12. ห้างหุ้นส่วนมคี วามหมายว่าอยา่ งไร
ตอบ หา้ งห้นุ สว่ น คอื สญั ญาซง่ึ มบี คุ คลต้ังแต่ 2 คนข้ึนไป ตกลงรว่ มลงทุน ลงแรง และทากจิ การรว่ มกนั ด้วย
ประสงคจ์ ะแบ่งกาไรจากกิจการนน้ั
13. บริษัทจากัดมคี วามหมายวา่ อย่างไร
ตอบ บรษิ ัทจากดั คือ การประกอบธุรกจิ ท่มี ีบุคคลตง้ั แต่ 3 คนขึ้นไป มาร่วมกนั จดั ตัง้ เพอ่ื วัตถปุ ระสงคจ์ ะหา
กาไรมาแบ่งปันกนั มีการแบ่งทุนออกเปน็ หุ้น แตล่ ะหุ้นมมี ูลคา่ เท่ากนั และผู้ถอื หนุ้ ทกุ คนจะรับผดิ ชอบจากัด
เพียงเงินท่ยี งั จ่ายไมค่ รบมูลคา่ ห้นุ ทซ่ี ้อื ไว้
14. บริษทั มหาชนจากัดมีความหมายว่าอย่างไร
ตอบ บรษิ ัทมหาชนจากัด คือ บริษทั ประเภทซึ่งด้วยความประสงค์เสนอขายหุ้นต่อประชาชน โดยผู้ถือหุ้นมี
ความรับผดิ จากดั ไมเ่ กนิ มลู ค่าหุน้ และมผี เู้ ร่มิ ก่อการไมน่ อ้ ยกว่า 15 คน มีผถู้ ือหุ้นเกนิ 100 คนขนึ้ ไปรวมทง้ั นติ ิ
บุคคล และมีมูลคา่ หุน้ ไมต่ ่ากวา่ 20 บาท แต่ไมเ่ กิน 100 บาท
15. ธรุ กิจแบบแฟรนไชส์มผี ้เู ก่ียวขอ้ ง 2 ฝา่ ย ได้แกฝ่ ่ายใด
ตอบ มผี เู้ ก่ยี วขอ้ งในการทาธรุ กิจ 2 ฝา่ ย คอื

(1) ผู้ให้สัมปทาน (Franchisor) คือ ผ้ทู ่มี ีสิทธิในสนิ คา้ และบรกิ าร หรือวิธกี าร
สามารถท่ีจะโอนหรือใหส้ ิทธแิ กผ่ ้อู ่นื ในการเข้าร่วมกิจการ

(2) ผูร้ บั สมั ปทาน (Franchisee) คอื ผู้ทตี่ อ้ งการขอสทิ ธิในการจาหน่ายสนิ คา้
และบรกิ าร หรอื วธิ ีการจากผใู้ ห้สัมปทาน โดยยนิ ยอมปฏิบัติตามเงอ่ื นไขของผู้ใหส้ ัมปทาน





กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะหน่วยที่ 3 เรื่อง ความรูเ้ กีย่ วกับการประกอบการ
กิจกรรมท่ี 3.1 ธุรกิจที่ฉันอยากทาในอนาคต

วตั ถุประสงค์ เพือ่ ใหน้ ักเรียนไดศ้ กึ ษาค้นควา้ ธุรกจิ ทน่ี กั เรยี นสนใจ เพอื่ เป็นแนวทางในการประกอบ
อาชีพในอนาคต

กจิ กรรม/วิธกี าร ใหน้ ักเรยี นเขยี นเรียงความเกยี่ วกบั ธุรกจิ ที่อยากทาในอนาคต

การประเมินผลโดยครใู ชเ้ กณฑ์การประเมิน ดังนี้

รายการประเมนิ ดีมาก ดี ปานกลาง ปรบั ปรงุ

1. เนือ้ หาถูกต้องครบถว้ นสมบูรณ์

2. มคี วามรคู้ วามเข้าใจในกจิ กรรม

3. สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้

4. การส่งงานตรงต่อเวลาท่กี าหนด

กจิ กรรมเสรมิ ทักษะหน่วยที่ 3 เรอ่ื ง ความรู้เก่ยี วกบั การประกอบการ
กจิ กรรมท่ี 3.2 ธรุ กิจแฟรนไชส์

วัตถปุ ระสงค์ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับธรุ กิจแฟรนไชส์
กจิ กรรม/วธิ กี าร ใหน้ กั เรยี นค้นควา้ รายชื่อธรุ กจิ แฟรนไชส์ พร้อมตดิ รูปตัวอย่างธุรกจิ จานวน 10 ธรุ กจิ ลง

ในกระดาษเอ 4 (ดงั ตัวอยา่ ง)

รปู ตวั อยา่ งธุรกจิ

ชื่อธรุ กจิ แฟรนไชส์ เซเวน่ อเี ลฟเว่น
รปู แบบ/ประเภทแฟรนไชส์ ร้านสะดวกซ้อื
การประเมินผล โดยครูใช้เกณฑก์ ารประเมนิ ดังนี้

รายการประเมิน ดมี าก ดี ปานกลาง ปรบั ปรงุ

1. เนือ้ หาถกู ตอ้ งครบถว้ นสมบรู ณ์

2. มคี วามรคู้ วามเข้าใจในกิจกรรม

3. สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ได้

4. การส่งงานตรงต่อเวลาทกี่ าหนด

แบบทดสอบก่อนเรยี น
หนว่ ยท่ี 3 เรอื่ ง ความรเู้ กย่ี วกับการประกอบการ

คาสั่ง ใหน้ กั เรียนทาเคร่อื งหมายกากบาท ( ) ขอ้ ท่ถี ูกต้องท่สี ดุ เพยี งขอ้ เดียว

1. ข้อใดคือความหมายของธุรกจิ

ก. การตอบสนองความต้องการของผูบ้ รโิ ภคเฉพาะกลมุ่

ข. หน่วยงานผลติ ทกุ ประเภทท้ังภาครัฐและเอกชน

ค. การผลิตสินค้าหรือบริการโดยมุ่งหวังผลกาไร

ง. ขบวนการผลติ ขนาดใหญเ่ พือ่ บรกิ ารสังคม

2. ขอ้ ใดเปน็ วัตถปุ ระสงค์หลกั ของธุรกจิ

ก. บรกิ ารสังคม ข. รกั ษาช่อื เสยี ง

ค. รักษาตลาด ง. หวังผลกาไร

3. รา้ นค้าส่งและร้านคา้ ปลีกเป็นธุรกจิ ประเภทใด

ก. พาณิชยกรรม ข. อุตสาหกรรม

ค. บรกิ าร ง. การผลิต

4. “อเู่ กา้ กลา้ บริการ” เป็นการทาธุรกิจประเภทใด

ก. พาณิชยกรรม ข. อตุ สาหกรรม

ค. บริการ ง. การผลิต

5. ปัจจัยในข้อใดมผี ลตอ่ ความสาเร็จของธุรกจิ มากที่สุด

ก. วตั ถุดบิ ข. เครือ่ งจกั ร

ค. คน ง. เงิน

6. ขอ้ ใดคือหนา้ ท่ีบญั ชี

ก. การจัดหาเงินทุน ข. การระดมเงินทนุ

ค. การใชเ้ งนิ ทนุ ง. การบันทึก รวบรวม

เกบ็ รักษาขอ้ มลู ทางการเงิน

7. “กระบวนการทีก่ ่อใหเ้ กิดการเคลอ่ื นยา้ ย การกระจายสนิ ค้าและบรกิ ารจากผู้ผลติ ไปยังผบู้ ริโภคหรอื

ผู้ใช้” คือหน้าท่ใี ดของธุรกิจ

ก. หน้าที่ทางการตลาด ข. หน้าที่ในการจดั หาขอ้ มลู ทาง

ธุรกิจ

ค. หน้าทท่ี างการผลติ ง. หนา้ ทีด่ ้านการวิจัยและพัฒนา

8. ข้อใดเปน็ สภาพแวดลอ้ มในทางธรุ กิจท่ีควบคมุ ได้

ก. สภาวะเศรษฐกจิ ข. กลยุทธ์การตลาด

ค. เทคโนโลยี ง. บคุ ลากร

9. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของผู้ประกอบการ

ก. บุคคลทีจ่ ัดตัง้ ธุรกิจข้ึนด้วยตนเอง มีการทางานและดาเนินธุรกิจด้วยตนเอง

ข. บคุ คลทผี่ ลิตสินค้าจาหนา่ ยแกล่ กู ค้าโดยไมห่ วังกาไร

ค. บคุ คลทีร่ ิเริ่มทาธรุ กิจเพื่อหวังกาไร

ง. บคุ คลทด่ี าเนินธรุ กจิ ภายใตค้ วามเสีย่ ง

10. ผู้ประกอบการคอื บคุ คลในขอ้ ใด

ก. เจ้าของอ่ซู ่อมรถ ข. ตัวแทนขายประกนั ชีวติ

ค. ผู้จดั การบรษิ ัท ง. พนกั งานบริษัท

11. ขอ้ ใดเป็นแนวคิดที่ผ้ปู ระกอบการควรมี

ก. ขยายธุรกจิ ใหม้ ากขึน้ ข. ผลติ สินคา้ จานวนมาก

ค. สร้างตลาดทั่วไป ง. ยดึ มั่นลกู คา้ เปน็ สาคญั

12. ข้อใดเปน็ ลกั ษณะของผปู้ ระกอบการท่ีดี

ก. มคี วามรสู้ งู และฐานะดี ข. มคี วามฉลาด ซอ่ื สตั ย์ และขยนั

ค. มีรปู รา่ งหน้าตาดี ง. สามารถทากาไรให้ไดม้ ากท่ีสดุ

13. ข้อใดคอื ลกั ษณะของกิจการเจา้ ของคนเดียว

ก. แบง่ เงินทุนออกเป็นหนุ้ ข. มกี ฎหมายควบคมุ มาก

ค. จัดต้งั และเลกิ กจิ การง่าย ง. มีการทาหนงั สือบรคิ ณห์สนธิ

14. ข้อใดเปน็ ข้อเสยี ของกจิ การเจ้าของคนเดยี ว

ก. ล้มเลิกกิจการไดง้ ่าย ข. เจ้าของรับภาระความเสีย่ งสูง

ค. ได้รบั กาไรแตเ่ พียงผเู้ ดียว ง. มกี ฎหมายควบคมุ นอ้ ย

15. ข้อใดเปน็ ลักษณะของธรุ กจิ แบบห้างหนุ้ ส่วน

ก. มีผลู้ งทุนตงั้ แต่ 7 คนข้ึนไป ข. มกี ารแบ่งทนุ ออกเป็นหุ้น

ค. มีอสิ ระในการดาเนินงาน ง. มีผลู้ งทุนต้งั แต่ 2 คนข้นึ ไป

16. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะของธรุ กิจแบบบรษิ ทั จากัด

ก. มีผู้ริเรม่ิ ก่อตงั้ ตง้ั แต่ 7 คนขึน้ ไป ข. มผี ู้ริเริ่มกอ่ ตั้งตั้งแต่ 15 คนขน้ึ

ไป

ค. มีผูร้ เิ รม่ิ กอ่ ตั้งตง้ั แต่ 3 คนขึ้นไป ง. มผี ู้ริเริ่มกอ่ ตงั้ ตั้งแต่ 5 คนขึ้น

ไป

17. ขอ้ แตกตา่ งระหวา่ งบรษิ ัทจากัดและบริษัทมหาชนจากัด ข้อใดกล่าวผดิ

ก. การชาระคา่ ห้นุ ข. จานวนผถู้ ือหนุ้ ไมเ่ กนิ 100 คน

ค. จานวนผูก้ ่อต้งั ง. การเสนอขายหุน้

18. ขอ้ ใดเปน็ ธรุ กิจแบบแฟรนไชส์

ก. บริษัทรบั เหมากอ่ สร้างตรเี มอื ง ข. ธนาคารทหารไทย

ค. ชายสี่บะหม่เี กีย๊ ว ง. ห้างสรรพสินคา้ โรบินสัน

19. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของธรุ กิจแฟรนไชส์

ก. ใหอ้ ิสระแกผ่ ูร้ บั สมั ปทานในการตัดสินใจ

ข. มีคา่ ดาเนนิ การจัดตัง้ ค่อนขา้ งสงู

ค. ผใู้ ห้สัมปทานช่วยเหลือทุกอย่าง

ง. ชื่อการค้าและยห่ี อ้ ท่มี ีชอื่ เสยี ง

20. ธุรกิจใดมีมากทส่ี ุดในประเทศไทย

ก. บริษทั จากดั ข. กิจการเจ้าของคน

เดียว

ค. แเฟรนไชส์ ง. หา้ งห้นุ สว่ น

แบบทดสอบหลงั เรียน
หน่วยท่ี 3 เรื่อง ความรูเ้ ก่ยี วกบั การประกอบการ

คาสง่ั ใหน้ กั เรียนทาเคร่ืองหมายกากบาท ( ) ข้อที่ถูกตอ้ งท่ีสดุ เพียงข้อเดียว

1. ขอ้ ใดคือความหมายของธรุ กิจ

ก. ขบวนการผลติ ขนาดใหญเ่ พือ่ บรกิ ารสังคม

ข. การผลิตสินคา้ หรือบริการโดยมุ่งหวงั ผลกาไร

ค. หนว่ ยงานผลิตทุกประเภททั้งภาครัฐและเอกชน

ง. การตอบสนองความต้องการของผบู้ รโิ ภคเฉพาะกลมุ่

2. ข้อใดเปน็ วตั ถุประสงคห์ ลกั ของธรุ กิจ

ก. รักษาตลาด ข. หวงั ผลกาไร

ค. บรกิ ารสงั คม ง. รกั ษาชอ่ื เสียง

3. รา้ นคา้ ส่งและร้านคา้ ปลีกเป็นธรุ กจิ ประเภทใด

ก. บริการ ข. การผลติ

ค. พาณิชยกรรม ง. อตุ สาหกรรม

4. “อเู่ ก้ากลา้ บรกิ าร” เป็นการทาธุรกจิ ประเภทใด

ก. บรกิ าร ข. การผลติ

ค. พาณิชยกรรม ง. อุตสาหกรรม

5. ปัจจัยในขอ้ ใดมผี ลตอ่ ความสาเร็จของธุรกิจมากท่ีสดุ

ก. คน ข. เงิน

ค. วตั ถดุ บิ ง. เครอื่ งจักร

6. ข้อใดคือหนา้ ที่บญั ชี

ก. การใช้เงนิ ทนุ ข. การบนั ทกึ รวบรวม

เก็บรักษาข้อมลู ทางการเงนิ

ค. การจัดหาเงินทุน ง. การระดมเงินทนุ

7. “กระบวนการท่กี อ่ ใหเ้ กิดการเคลื่อนยา้ ย การกระจายสนิ ค้าและบรกิ ารจากผ้ผู ลิตไปยงั ผู้บรโิ ภคหรอื

ผใู้ ช้” คือหน้าทใี่ ดของธุรกจิ

ก. หนา้ ที่ทางการผลิต ข. หนา้ ทีด่ า้ นการวิจยั และพัฒนา

ค. หนา้ ที่ทางการตลาด ง. หนา้ ทใ่ี นการจัดหาข้อมูลทางธุรกิจ

8. ขอ้ ใดเปน็ สภาพแวดลอ้ มในทางธรุ กิจทีค่ วบคุมได้

ก. เทคโนโลยี ข. บคุ ลากร

ค. สภาวะเศรษฐกิจ ง. กลยุทธ์การตลาด

9. ข้อใดไมใ่ ช่ความหมายของผู้ประกอบการ

ก. บุคคลทด่ี าเนนิ ธรุ กจิ ภายใต้ความเส่ียง

ข. บคุ คลทร่ี เิ ร่มิ ทาธรุ กจิ เพื่อหวงั กาไร

ค. บคุ คลท่ีผลิตสนิ คา้ จาหน่ายแกล่ ูกค้าโดยไมห่ วังกาไร

ง. บคุ คลที่จัดต้งั ธุรกิจข้นึ ดว้ ยตนเอง มีการทางานและดาเนนิ ธรุ กจิ ด้วยตนเอง

10. ผปู้ ระกอบการคือบคุ คลในข้อใด

ก. ผจู้ ัดการบรษิ ทั ข. พนักงานบริษัท

ค. เจา้ ของอู่ซอ่ มรถ ง. ตวั แทนขายประกันชวี ติ

11. ข้อใดเปน็ แนวคดิ ท่ผี ูป้ ระกอบการควรมี

ก. สร้างตลาดทว่ั ไป ข. ยดึ ม่นั ลูกคา้ เป็นสาคัญ

ค. ขยายธรุ กิจให้มากขึ้น ง. ผลติ สินคา้ จานวนมาก

12. ข้อใดเป็นลกั ษณะของผู้ประกอบการทีด่ ี

ก. มรี ูปรา่ งหน้าตาดี ข. สามารถทากาไรให้ไดม้ ากที่สุด

ค. มคี วามร้สู ูงและฐานะดี ง. มคี วามฉลาด ซอื่ สตั ย์ และขยนั

13. ข้อใดคอื ลักษณะของกิจการเจา้ ของคนเดยี ว

ก. จดั ตั้งและเลิกกิจการง่าย ข. มกี ารทาหนังสือบริคณห์สนธิ

ค. แบ่งเงินทุนออกเป็นห้นุ ง. มกี ฎหมายควบคมุ มาก

14. ขอ้ ใดเป็นขอ้ เสียของกิจการเจ้าของคนเดยี ว

ก. ได้รับกาไรแต่เพยี งผู้เดยี ว ข. มกี ฎหมายควบคมุ นอ้ ย

ค. ลม้ เลกิ กจิ การไดง้ า่ ย ง. เจ้าของรับภาระความเสย่ี งสูง

15. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะของธรุ กิจแบบห้างหนุ้ ส่วน

ก. มีอสิ ระในการดาเนินงาน ข. มผี ู้ลงทนุ ต้งั แต่ 2 คนข้ึนไป

ค. มผี ลู้ งทุนต้ังแต่ 7 คนขน้ึ ไป ง. มีการแบ่งทุนออกเป็นหุ้น

16. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะของธุรกิจแบบบรษิ ัทจากดั

ก. มผี ู้ริเรมิ่ ก่อตงั้ ตง้ั แต่ 3 คนขึน้ ไป ข. มผี ู้รเิ ริม่ ก่อตง้ั ตัง้ แต่ 5 คนข้ึน

ไป

ค. มผี ูร้ ิเริ่มก่อตั้งตั้งแต่ 7 คนขึ้นไป ง. มีผรู้ ิเรมิ่ ก่อต้ังตง้ั แต่ 15 คนขน้ึ

ไป

17. ข้อแตกตา่ งระหวา่ งบริษทั จากดั และบริษทั มหาชนจากดั ข้อใดกล่าวผดิ

ก. จานวนผู้กอ่ ตัง้ ข. การเสนอขายหุ้น

ค. การชาระคา่ หนุ้ ง. จานวนผถู้ อื หุ้นไม่เกิน 100 คน

18. ขอ้ ใดเปน็ ธุรกจิ แบบแฟรนไชส์

ก. ชายส่ีบะหมีเ่ กยี๊ ว ข. ห้างสรรพสินค้าโรบินสนั

ค. บริษทั รบั เหมากอ่ สรา้ งตรีเมอื ง ง. ธนาคารทหารไทย

19. ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะของธุรกิจแฟรนไชส์

ก. มคี ่าดาเนินการจัดตง้ั คอ่ นข้างสูง

ข. ชือ่ การคา้ และยี่หอ้ ทมี่ ีชอ่ื เสียง

ค. ให้อสิ ระแกผ่ รู้ บั สัมปทานในการตัดสนิ ใจ

ง. ผ้ใู หส้ ัมปทานชว่ ยเหลือทุกอย่าง

20. ธุรกจิ ใดมีมากทส่ี ุดในประเทศไทย

ก. เฟรน์ไชส์ ข. ห้างหนุ้ ส่วน

ค. บริษัทจากดั ง. กจิ การเจ้าของคน

เดยี ว

การประเมินการใชแ้ ผนการสอน

รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม ข้อเสนอแนะ
4321

1. เวลาทีใ่ ช้สอน

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

3. สาระการเรียนรู้

4. กระบวนการเรยี นรู้

5. การใชส้ อ่ื การเรียนการสอน

6. การวดั ผลประเมนิ ผล

7. ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนรู้

8. การประเมินดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม

9. ความสนใจของนกั เรยี น

10. ความพอใจของผู้สอน

รวม

ความคดิ เหน็ ครผู ้สู อน
…………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………

ลงชือ่ .........................................................
(................................................)
………/……………/….….

ความคิดเห็นหัวหนา้ แผนกวชิ า
…………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………

ลงชื่อ.........................................................
(..............................................)
………/……………/….….

ความคิดเหน็ รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ
………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………

ลงช่ือ.........................................................
(............................................)
………/……………/….….


Click to View FlipBook Version