หนังสือ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำ นาม กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยชั้นชั้ประถมศึกษาปีที่ 4 เล่มนี้ จัดทำ ขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อ ประกอบการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษไทย เรื่องชนิด และหน้าที่ของคำ นาม คำ สรรพนาม และคำ กริยาโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเอง เพื่อสร้างองค์ ความรู้ ความเข้าใจเพิ่มเติม และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสื่อการสอน ของนักเรียนได้ง่ายยิ่งขึ้น ผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำ สรรพนามเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์และช่วยเพิ่มความรู้ของนักเรียนได้ เป็นอย่างดี คำ นำ สารบัญ ความหมายคำ สรรพนาม ชนิดของคำ สรรพนาม - สรรพนามแทนผู้พูด ผู้ฟัง และผู้ที่กล่าวถึง - สรรพนามชี้เฉพาะ - สรรพนามใช้ถาม - สรรพนามบอกความไม่เจาะจง - สรรพนามบอกความชี้ซ้ำ หรือรืสรรพนาม แบ่งพวกรวมพวก - สรรพนามเชื่อมประโยค - สรรพนามใช้เน้นนามที่อยู่ข้างหน้า — แหล่งอ้างอิง ก ข 1 2 2 3 4 5 6 7 8 9
ความหมายคำ สรรพนาม คือ คำ ที่ใช้แช้ทนคำ นามที่ กล่าวถึงมาแล้ว เพื่อพื่จะได้ได้ม่ต้ม่ ต้องกล่าวคำ นามนั้นนั้ ซ้ำ อีก เช่นช่คำ ว่าว่ฉัน เรา ดิฉัดิ ฉัน กระผม คุณคุท่าน ใต้เท้า เขา มันมัสิ่งสิ่ใด ผู้ใผู้ด นี่ นั่นนั่อะไร ใคร บ้าบ้ง เป็นป็ต้น คำ สรรพนาม ๑. สรรพนามแทนผู้พูผู้ พูด ผู้ฟัผู้ งฟัและผู้ที่ผู้ ที่ กล่าวถึง (บุรุษรุ สรรพนาม) ได้แก่ สรรพนามบุรุษรุที่ 1 แทนชื่อชื่ผู้พูผู้ พูด เช่นช่ฉัน ดิฉัดิ ฉัน อิฉัน ผม กระผม ข้าข้พเจ้าจ้เรา อาตมา เกล้ากระผม เกล้า กระหม่อม่ม ฯลฯ สรรพนามบุรุษที่ 2 แทนชื่อชื่ผู้ฟัผู้ งฟัเช่นช่คุณคุเธอ ท่าน เจ้าจ้แก โยม พระคุณคุเจ้าจ้ ฝ้าพระบาท ใต้ฝ่าละออง ธุลีพระบาท ฯลฯ สรรพนามบุรุษรุที่ 3 แทนชื่อชื่ผู้กผู้ ล่าวถึง เช่นช่มันมัเขา ท่าน เธอ แก พระองค์ท่าน ฯลฯ ชนิดของคำ สรรพนาม
๒. สรรพนามชี้เ ชี้ ฉพาะ (นิยนิมสรรพนาม) สรรพนามชนิดนินี้ในี้ ช้แ ช้ ทนนามที่อยู่ใยู่ กล้ หรือรืไกลผู้ พูด ได้แ ด้ ก่ นี่ นั่นนั่ โน่น น่ นั้ นั้นนั้ โน้น น้ เช่น ช่ " นี่บ้ นี่ า บ้ นกำ นันนั " " นี่ข นี่ องใคร " " นั่นนั่มหาวิทวิยาลัย " ๓. สรรพนามใช้ถ ช้ าม (ปฤจฉาสรรพนาม) คือ สรรพนามใช้แ ช้ ทนนามในประโยคคำ ถาม (ต้องการคำ ตอบ) ได้แก่ ใคร อะไร อย่า ย่ งไร ผู้ใผู้ด สิ่งสิ่ใด ที่ ไหน เช่น ช่ "ใครมา " " ครูต้รูต้ องการไปกับพวกเราบ้า บ้ ง " " อะไรทำ ให้เ ห้ ขาเปลี่ยนไป"
๔. สรรพนามบอกความไม่เ ม่ จาะจง (อนิยนิมสรรพนาม) คือ สรรพนามที่ใช้แ ช้ ทนคำ นามที่ไม่กำ ม่ กำหนดแน่น น่ อน มักมั ใช้ใช้ นประโยคที่มีคมีวามหมายแสดง ความไม่ แน่น น่ อน ได้แ ด้ ก่คำ ว่า ว่ ใคร อะไร ผู้ใผู้ด สิ่งสิ่ใด ที่ไหน เช่น ช่ " ครูไรูม่เ ม่ ห็น ห็ ใครเลย " " อะไร ๆ ก็อร่อ ร่ ยไปหมด " " อะไร ๆ ก็ทานได้ "ด้ ๕. สรรพนามบอกความชี้ซ้ำ ชี้ ซ้ำหรือรืสรรพนามแบ่งบ่ พวกรวมพวก (วิภวิาคสรรพนาม) คือ สรรพนามที่ใช้แช้ทนคำ นามเพื่อพื่แยกนาม ออกเป็นป็ส่วส่น ๆ หรือรืบอกให้รู้ห้ว่รู้าว่มีนมีามอยู่หยู่ลาย ส่วส่นและ แสดงกริยริาร่วร่มกันหรือรืต่างกัน ได้แด้ก่คำ ว่าว่ต่าง บ้าบ้ง กัน เช่นช่ " นักนัเรียรีนบ้าบ้งก็อ่านหนังสือสืบ้าบ้งก็นอนหลับ " " ผู้คผู้ นต่างแย่งย่ชิงชิกันเข้าข้ชมการแข่งข่ขันขัเทนนิสนิ "
๖. สรรพนามเชื่อชื่มประโยค (ประพันพัธสรรพนาม) คือ สรรพนามที่ทำ หน้า น้ ที่แทนนามข้า ข้ งหน้า น้ และ เชื่อชื่มประโยคให้มี ห้ คมีวามเกี่ยวพันพักัน ได้แ ด้ ก่คำ ว่า ว่ ที่ ซึ่งซึ่อัน เช่น ช่ " ผมชอบเสื้อสื้ที่คุณคุแม่ซื้ ม่ ซื้อซื้ ให้ "ห้ " ฉันได้รั ด้ บรัจดหมายซึ่งซึ่เธอส่ง ส่ มาให้ท ห้ างไปรษณีย์ณี ย์ ด่ว ด่ นพิเพิศษแล้ว " " ครูใรูห้ร ห้ างวัลวันักนัเรียรีนซึ่งซึ่เรียรีนดี "ดี ๗. สรรพนามใช้เช้น้นนามที่อยู่ข้ยู่าข้งหน้าน้ คือ สรรพนามที่มักมัเรียรีงไว้หว้ลังคำ นามเพื่อพื่เน้นน้นาม ที่อยู่ข้ยู่าข้งหน้าน้และยังยัช่วช่ยแสดง ความรู้สึรู้กสึของผู้ พูดด้วด้ย อาจเป็น ป็ ความรู้สึรู้กสึ ในเชิงชิยกย่อย่ง คุ้นคุ้เคย ดูหดูมิ่นมิ่ เกลียดชังชั หรือรืความรู้สึรู้กสึอื่น ๆ เช่นช่ " คุณคุยายท่านเป็น ป็ ห่วห่งหลาน ๆ มาก " (ยกย่อย่ง) " เพื่อพื่น ๆ ของลูกลูเขาจะมาสนุกนุกัน " (คุ้นคุ้เคย)
https://sites.google.com/site/ chalita226/bth-reiynthi9 https://sites.gooele.com/site/ khrucneci/chnidkhxng-kha-thiy http://www.mwit.ac.th/~sakto ng/learn6/76.pdf